ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

รักยม ตอนที่ 33 ทางเลือก, เลือกอะไรก็อ่านเอาเองนะครับ By Assasin008

เริ่มโดย kaithai, มกราคม 18, 2017, 03:27:48 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

kaithai

รักยม ตอนที่ 33 ทางเลือก
เลือกอะไรก็อ่านเอาเองนะครับ By Assasin008

-------------------------------------------

ในห้องพักฟื้นคนไข้ ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองหลวง

เก่งหนุ่มบ้านนาขยับร่างกายแข็งแรงกำยำ ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อขึ้นทาบทับร่างของฝ้าย ที่นอนแผ่หราอ้าสองขาออกรับการจู่โจม สีผิวดำแดงจากการกรำแดดและฝนของเขา ตัดกันกับเรือนร่างสีขาวโพลน ราวหิมะของฝ้ายพยาบาลสาวสวยอย่างไม่น่าเข้ากันได้อย่างที่สุด

หากแต่เวลานี้สองร่างเปลือยเปล่านั้นกลับประกบชิดกันแนบแน่น ราวกับแม่เหล็กขั้วตรงข้ามที่ส่งแรงดึงดูดเข้าหากันอย่างรุนแรง เก่งก้มหน้าก้มตาฟอนเฟ้นซุกไซร้ใบหน้าไปทั่วใบหน้า และซอกคอขาวเนียนของฝ้ายอย่างหลงไหลในมนต์สะกดแห่งเสน่ห์สาว เขาบดจูบลงไปขณะที่ฝ้ายหลับตาปี๋ไม่กล้ามองหน้าชายที่กำลังตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเธอ

แต่สองแขนที่กอดรัดคอของเก่งจนแน่น ก็บ่งบอกถึงความต้องการของเธอได้เป็นอย่างดี เก่งขยับเอาปากไปประกบริมฝีปากเรียวสวยนั้นจนแนบแน่น สองคนดูจะแลกสอดลิ้นพัวพันไปมาอย่างดูดดื่ม สองเต้าขาวอวบของเธอโดนกล้ามเนื้อหน้าอกของเก่งบดใส่จนบี้แบน เหมือนลูกโป่งที่กำลังจะแตกออก สองมือของเธอปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังกำยำนั้นอย่างเร่าร้อนในความเสียวที่ได้รับ

ท่อนควยร้อนผ่าวแข็งทื่อราวท่อนไม้ วางนาบไปตามร่องของโคกโหนกนูนขาวสะอาดอย่างเหมาะเจาะ ลำควยสีดำมะเมื่อมบดเบียดถูไถกับกลีบเสียวแบบเนื้อต่อเนื้ออย่างแนบแน่น ทุกครั้งที่เค้าขยับตัวติ่งแตดของเธอก็จะโดนบดบี้เสียดสีจนเธอถึงกับต้องสะดุ้งตัวร้องครวญครางทุกครั้งที่เก่งขยับตัวไปมา

"อืออออ อืออออ" ฝ้ายร้องครวญครางส่งเสียงฟืดฟาดในลำคอ เธอคงกำลังเสียวซ่านอย่างที่สุด กริยาอาการทางร่างกายที่แสดงออกมามันชัดเจนยิ่งนัก เรือนกายขาวโพลนส่ายเด้งระริกตามจังหวะเสียว เอวคอดกิ่วส่ายร่อนไหวโยกบดเนินเนื้อกับท่อนควยที่พาดเบียดกลีบเสียวอยู่เต็มร่องอย่างกระสันร่าน อาการตอบสนองต่อความเสียวของเธอทำเอาผมที่มองดูอยู่ยิ่งรู้สึกเงี่ยนรุนแรงขึ้นไปอีก

เก่งบดพรมจูบไปมาครู่ใหญ่จนเค้าพอใจ ก็ยันตัวลุกขึ้นมายืน แล้วใช้มือผลักท่อนขาเรียวของฝ้ายให้แยกออกจากกันจนสุด ท่อนควยสีดำเมื่อมผงกหัวหงึก ๆ อย่างตื่นเต้น เมื่อเจอกับร่องเสียวขาวสะอาดที่เปียกเยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยนใส ๆ กลีบเสียวของเธอแทบจะไม่มีร้อยช้ำแม้แต่น้อยถึงจะเคยผ่านเกมรักกับผมมาหลายรอบแล้วก็ตามที ฝ้ายก้มหน้าลงไปมองที่เบื้องล่างของตัวเองอย่างประหวั่นพรั่นพรึง ภาพท่อนเอ็นยาวใหญ่ที่เตรียมตัวอัดกระหน่ำเข้าไปในร่องหลืบของเธอคงทำเอาเธอสับสนไปด้วยความกลัว และความต้องการไปพร้อมกัน

"อื๊ออออ" ฝ้ายสะดุ้งตัวร้องครวญครางเบา ๆ สองมือของเธอจิกกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ เมื่อเก่งจัดวางท่อนควยที่แข็งเกร็งของเขาจิ้มเข้าไปที่ร่องรูเสียวอันเปียกเยิ้มฉ่ำของเธอ ปลายหัวบานสีดำคล้ำจิ้มจิ้ก ๆ ไปทั่วร่องหลืบที่ชุ่มฉ่ำจนฝ้ายบิดตัวไหวไปมา เธอกำลังจะโดนท่อนควยท่อนที่สองในชีวิตชำแรกเข้าไปในร่องหลืบของเธอในไม่ช้า โดยมีผมนอนมองตาปริบ ๆ ทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย อารมณ์ตอนนี้จะเรียกว่าหวงก็ใช่ แต่งอีกใจก็รู้สึกกระสันอยากเห็นพยาบาลสาวสวยคนนี้ร้องครวญครางเวลาโดนคนอื่นกระเด้าอัดท่อนเอ็นใส่อยู่เหมือนกัน ผมอยากรู้ว่าเธอจะเป็นยังไงเวลาต้องตอบสนองกับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม

..............

"อูยยย" ผมร้องครางเบา ๆ ความเสียวแปลบที่ลำควยของผมทำเอาผมต้องหันหน้ากลับมามองสาวสวยที่กำลังร่อนกระแทกเนินเสียวใส่ร่างผมอยู่
"อืออออ ผัวจ๋า เมียเสียว ใหญ่สะใจดีจัง" ปูสาวสวยร่างเล็กที่โดนผีสาวหรืออะไรซักอย่างสิงสู่อยู่นั้นช่างมีลีลารักที่เจนจัดซะเหลือเกิน ราวกับว่าเธอนั้นเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เท่านั้น เธอห่อไหล่ร้องครางอย่างกระสันเสียว สะบัดหัวไปมาจนผมสลวยสะบัดไหวราวกับสาวโคโยตี้ที่กำลังเต้นรูดเสาเธอเร่งโยกสะโพกงอน ๆ เด้งอัดเข้าใส่ผมเร็วแรงและถี่ยิบอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนเตียงนอนคนไข้สั่นกระตุกไหวดังเอี๊ยดอ๊าดราวกับจะพังลงไปเนื้อหน้าอกขนาดเต็มไม้เต็มมือเด้งสะท้อนไปมาอย่างน่าหวาดเสียวว่ามันจะเด้งหลุดออกมาซะให้ได้ ความจริงแล้วปูสาวสวยคนนี้ก็มีเสน่ห์ไม่เลวเลยทีเดียว เข้าข่ายขาวสวยเอ็กซ์เซ็กส์จัด แม้จะตัวเล็กตามแบบฉบับสาวไทยแท้ แต่เรือนกายของเธอมันช่างอวบอัดเต่งตึงเกินตัวจริง ๆ หากเป็นไปได้ผมอยากจะเล่นรักกับตัวเธอจริง ๆ โดยไม่ต้องสยองกับผีสาวตนนี้ได้คงจะดี

"ซี้ดดดดสสสส" ผมเองก็ได้แต่ร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านที่ได้รับจากการตอดรัดอันแนบแน่นของเนินเนื้อฟิตคับนี้ มันแนบแน่นราวกับเป็นเครื่องดูดแรงสูงที่ต้องการจะดูดทุกอย่างของผมออกไปให้หมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเงี่ยน ท่อนควย และไม่เว้นแม้แต่จิตวิญญาณ ผมน่ะช่างมันเหอะแต่ผมต้องช่วยฝ้ายก่อน รักยม รักยมล่ะ ช่วยพ่อด้วยผมร้องเสียงดังลั่นในใจเรียกหารักยมลูกรัก ว่าแต่รักยมหายไปไหนล่ะเนี่ย คงไม่ใช่ว่าแพ้อิทธิฤทธ์ของผีสาวซะแล้วนะ หากเป็นอย่างนี้แล้วผมจะทำอะไรได้ล่ะ คงจะไม่พ้นมีสภาพเหมือนไอ้หมอหนุ่มคนนั้นที่โดนสูบพลังไปซะจนเหือดแห้งขนาดนั้น ขณะเดียวกันผมก็กำลังลุ้นระทึกมองดูท่อนควยอวบใหญ่สีดำคล้ำของนายเก่งกำลังบดเบียดแนบแน่นอยู่กับร่องหลืบขาวสะอาดของฝ้ายพยาบาลสาวสุดสวยอย่างเชื่องช้าด้วยใจระทึก ท่อนควยลำเขื่องขยับตัวโยกไปมาเสียดสีกับติ่งแตดไปตามความยาวของมัน น้ำรักของฝ้ายหลั่งออกมาชะโลมใส่ท่อนควยนั้นจนเป็นสีดำที่มันปลาบราวกับแท่งโลหะ

"ซี้ดดดดสสสสส" ฝ้ายร้องละเมอแอ่นสะโพกรับ ความเสียวจากท่อนเอ็นที่กำลังถูไถไปมากับติ่งเสียวของเธอ ดูเธอกำลังอยากจะได้มากกว่านั้น
"อื๊ออออ" ฝ้ายละเมอครวญครางกัดเม้มปากตัวเองแน่น เมื่อท่อนเอ็นดุ้นใหญ่กำลังเริ่มกดอัดตัวฝ่าแรงป้องกันของกลีบเสียวที่ฟิตแน่นเข้าไปแล้วตามแรงกดเอวของนายเก่ง ตอนนี้ผมเห็นปลายหัวหยักของเก่งมันเริ่มมุดเข้าไปในร่องรูของฝ้ายได้แล้ว เธอตวัดแขนเกี่ยวรัดรอบคอของเก่งที่กำลังไล่พรมจูบใส่ซอกคอขาว ๆ อันน่าหลงไหลของเธอไว้จนแนบแน่น สองเต้าขาวอวบที่มีรอยจ้ำสีแดง ๆ เป็นรอยมือและรอยกัดเบา ๆ ของผมเหลืออยู่โดนมือหยาบใหญ่นั้นกำลังบีบเคล้นคลึงอย่างมันส์มือ ยิ่งมองผมก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความอิจฉา หึงหวงและเร้าใจที่แล่นพล่านอยู่ภายในใจอย่างรุนแรง

"ผัวจ๋าาาา สนใจเมียหน่อยซิจ๊ะ อูยยยย ซี้ดดสสส" ผีสาวในร่างของปูโน้มตัวลงมาจูบไซร้ไปทั่วใบหูผม ลิ้นนุ่มชื้น นั้นตวัดเลียแหย่แยงเข้าไปในรูหูจนผมเสียวซ่าน โดยที่สะโพกของเธอยังคงส่ายร่อนอัดร่องหลืบใส่ท่อนเอ็นของผมไม่หยุด ผมรู้สึกราวกับว่าโพรงเสียวของเธอยิ่งตอดรัดผมแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูท่าเธอเองคงจะใกล้ถึงจุดสุดยอดกับผมแล้ว และผมเองก็ใกล้จะแตกแล้วเหมือนกัน แต่ไม่เอานะ ผมต้องต่อต้านเธอให้ถึงที่สุด ผมจะไม่ยอมให้ผีสาวตนนี้ได้สิ่งที่เธอต้องการ ผมพยายามกัดฟันทนความเสียวซ่านจากร่องเสียวที่ตอดยิบ ๆ ไม่หยุดจนแทบคลั่งก็มันทั้งเสียว และตื่นเต้นที่ได้เห็นฝ้ายกำลังจะโดนคนอื่นยัดเยียดความเป็นผัวให้ แถมยังมีอารมณ์หึงหวงที่แล่นพล่านอยู่อีก เรียกว่าทุกอารมณ์ตีกันมั่วไปหมดจนผมอธิบายไม่ถูกแล้ว ให้ตายซิ
"อูยยย ผัวคนนี้ทนดีจริง ๆ รีบ ๆ แตกใส่เมียได้แล้ว เมียเสียว" ผีสาวร้องครวญครางอย่างร่านสวาท แต่ผมไม่ยอมเธอง่าย ๆ หรอก

"พ่อจ๋าไม่ต้องอั้นนะ ใส่ให้เต็มที่เลย" เสียงรักยมหวีดหวิวเบามากจนผมแทบไม่ได้ยิน ทำเอาผมรู้สึกงงเล็กน้อยกับสิ่งที่พวกเค้าอยากบอก แล้วทำไมเอาแต่พูดไม่ยอมออกมาช่วยผมล่ะเนี่ย ผมพยายามหาเหตผลแต่ด้วยความเสียวที่มีอยู่มันทำให้หัวไม่แล่นเอาซะเลย จะคิดอะไรให้มากมายนักยังไงผมก็เชื่อใจเด็กน้อยทั้งสองคนนี้อยู่แล้วนี่นา ตามใจเค้าล่ะกัน และอีกอย่างตอนนี้ในหัวผมมีแต่ความเงี่ยนที่จะต้องทำให้ตัวเองเสร็จให้ได้เท่านั้น จึงลืมให้ความสนใจฝ้ายที่กำลังจะโดนนายเก่งชำแรกสวาทอยู่ข้าง ๆ ไปเลย สองมือของผมเอื้อมขึ้นไปตะปบจับที่เนื้อก้นขาว ๆ ของเธอจนแน่น แล้วกดดึงเข้าหาตัว พร้อมกับออกแรงแอ่นเอวดันสวนรับแรงกระแทกของปูที่อัดลงเอาร่องหลืบลงมา การทำแบบนี้ทำให้ท่อนควยยาว ๆ ของผมยิ่งอัดเข้าไปได้ลึกมากกว่าเดิมซะอีก จนใบหน้าของสาวสวยร่างเล็กบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวซ่านสุด ๆ

"ไม่ไหวแล้ววว ผัวขาาา โอ้ยยยย ซี้ดสสสส" สาวสวยกรีดร้องลั่นหลังจากที่โหมกระหน่ำซอยเอวใส่ผมอยู่พักใหญ่ เล็บมือของเธอจิกเนื้อไหล่ของผมแน่น จนรู้สึกได้ว่ามันกดจิกลงไปในเนื้อจนเป็นแผลสีแดงเล็ก ๆ เธอหยุดร่อนส่ายเอวใส่ผมแล้ว แต่ร่องหีของเธอกลับยิ่งออกแรงตอดรัดลำควยของผมถี่กระชั้นอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนผมสุดจะทานทน ต้องแอ่นเอวกระดกอัดเอาท่อนควยใส่ร่องหลืบเธออีกสี่ห้าครั้ง ก่อนจะแอ่นสวนสุดแรงเป็นครั้งสุดท้ายเข้าไปจนมิดด้าม น้ำเงี่ยนขาวขุ่นไหลทะลักฉีดเข้าไปเต็มร่องหลืบของเธออย่างไม่มีการอั้นไว้อีกต่อไป มันเยอะมากจนไหลย้อยทะลักออกมาตามขอบรูเสียวเป็นฟองฟอด ให้ตายซิมันเสียวดีจัง เอ้าผมทำตามที่รักยมบอกแล้ว แล้วยังไงต่อล่ะ แต่ราวกับว่าผีสาวตนนี้ไม่รู้จักพอแม้แต่นิดเดียว เธอหยุดรับความสุขเพียงชั่วครู่เดียวก็เริ่มโยกสะโพกเบา ๆ ร่อนกระแทกเอวใส่ผมอีกแล้ว นี่กะจะเอาให้ฟ้าเหลืองเลยหรือไงเนี่ย

"อะ อ๊าาาา" ผมหันไปมองตามเสียงของฝ้ายที่ร้องลั่นด้วยความเสียว ตัวเธอกระตุกเบา ๆ เมื่อปลายหัวบานของนายเก่งตอนนี้แหวกทะลวงกลีบเสียวเข้าไปได้แล้ว ท่อนเนื้อสีดำคล้ำสอดแยงเข้าไปในร่องหลืบขาว ๆ ได้เกือบจะครึ่งลำแล้ว เธอหันหน้ามามองผมด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังร้องขอความช่วยเหลือ หยดน้ำตาใส ๆ เอ่อคลอสองตา แม้ร่างกายของเธอจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างร้อนแรง แต่ดูเธอไม่ยินดีนักที่จะต้องโดนอะไรแบบนี้ เธอเอื้อมมือนุ่มๆ ของเธอมาบีบกำแขนของผมจนแน่น ความร้อนผ่าวของร่างกายและอารมณ์ของเธอถ่ายทอดมาสู่ผมผ่านปลายนิ้วเรียว ๆ นั้น จนผมเริ่มรู้สึกตัวได้ขึ้นมา ผมต้องช่วยเธอเดี๋ยวนี้แล้ว ไม่ใช่มัวแต่อยากดูเธอโดนคนอื่นสมสู่ ตอนนี้เหมือนกับเมฆหมอกสีดำมืดที่ปกคลุมมโนสติของผมโดนปัดเป่าหายไปจนหมด สติของผมกลับมาแจ่มใส และรู้สึกเหมือนร่างกายกลับมาเป็นของตัวเองอีกครั้งหลังจากที่ควบคุมไม่ได้มาช่วงหนึ่ง สองแขนของผมยกขึ้นจับที่ไหล่ของร่างปูที่กำลังขย่มใส่ท่อนเอ็นผมอย่างเมามันส์ แล้วผลักออกไปเต็มแรง

"ว้ายยย" ผีสาวในร่างน้องปูหวีดร้องลั่น เมื่อโดนผมผลักไหล่อย่างแรงโดยที่ไม่ได้ทันได้ตั้งตัว ร่องหลืบของเธอที่กำลังตอดรัดท่อนเอ็นอย่างเมามันส์หลุดออกจากท่อนควยที่อัดอยู่แน่นเสียงดัง พล๊อก ร่างบอบบางเล็ก ๆ ที่กำลังเพลิดเพลินกับการขย่มตออย่างเมามันส์นั้นพลันหงายหลังล้มกลิ้งลงจากเตียงนอนไปตามแรงผลักของผม ผมรีบยันตัวลุกขึ้นนั่ง มองไปทางฝ้ายเห็นเธอกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกัดปากตัวเองแน่น เมื่อร่องหลืบขาว ๆ ของเธอโดนท่อนควยของเก่งเบียดเสียดอัดเข้าไปในด้านในจนเกินครึ่งลำแล้ว ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอื้อมมือไปทางเก่ง กะจะออกแรงผลักเค้าออกไปจากฝ้ายผู้หญิงของผม แต่ ...

"มึง หลุดจากมนต์สะกดของกูได้ยังไง" ผีสาวในร่างปูลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เธอร้องตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความเคียดแค้นเดือดดาล แววตาของเธอเป็นประกายสีเขียวเจิดจ้าเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด ตัวผมกระตุกอย่างแรงและสะดุดกึกทันทีที่หันไปมองดวงตาสีเขียวเข้มนั้น ร่างกายไร้ความรู้สึกและไม่สามารถสั่งการใด ๆ ได้อีกครั้ง ให้ตายซิ นี่ผมโดนสะกดอีกแล้วเหรอเนี่ย แล้วผมจะช่วยฝ้ายได้ยังไงกันล่ะ

"ฮิ ฮิ นึกว่าแน่ ยังไงก็แพ้เมียอยู่ดี เรามามีความสุขกันดีกว่านะผัวจ๋า มีความสุขกันจนตายเลย ฮิ ฮิ" เมื่อเธอเห็นผมโดนมนต์สะกดจนตัวแข็งทื่อ ก็ยิ้มร่าหัวเราะเสียงแหลมอย่างชอบอกชอบใจ เสียงของเธอฟังดูเยือกเย็นสยดสยองซะเหลือเกิน

"หวงอีนังนี่มากนักใช่มั้ย งั้นก็ดูมันโดนผู้ชายคนอื่นเย็ดล่ะกันนะ" เธอพูดพลางเดินเฉิดฉายเอาร่างเปลือยเปล่านั้นมากอดผมอย่างแนบแน่นแม้ว่าเนื้อตัวเธอจะร้อนผ่าวด้วยอารมณ์ร่าน แต่สำหรับผมแล้วกลับรู้สึกว่าสัมผัสนั้นช่างเย็นเยียบสยดสยองชวนให้ขนลุกซะมากกว่าอารมณ์กระสัน เธอเยิ้มเยาะพร้อมใช้มือผลักหน้าผมให้หันไปมองทางฝ้าย ราวกับต้องการจะเย้ยหยันว่าผมคงได้แต่มองและช่วยอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

"ซี้ดดสสสสส อือออออ" ฝ้ายหลับตาปี๋ มันช่างขัดแย้งกันเองซะเหลือเกิน เมื่อหยดน้ำตาใส ๆ ไหลปริ่มออกมาจากขอบตาทั้งสองข้างแสดงออกถึงความไม่สมยอม แต่ในขณะเดียวกันเธอก็แหงนหน้าเริ่ดร้องครวญครางอย่างเสียวซ่านไม่ขาดปากไปพร้อมกัน เมื่อโดนท่อนเอ็นสีดำเมื่อมของเก่งกดเสียบเข้าไปจนเกือบมิดด้าม พร้อมกันนั้นสะโพกของเธอแอ่นร่อนขึ้น สองขาขาวเรียวตวัดรัดเอวของเก่งไว้แน่น แม้ว่าหัวใจเธอจะไม่ต้องการ แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอเริ่มจะยอมแพ้ให้กับรสเสียวที่ได้รับซะแล้ว

"โอยยยยย " เก่งเองก็ร้องครางออกมาเสียงหลง เค้าคงกำลังอดกลั้นกับความเสียวจากการตอดรัดอย่างรุนแรงของร่องสวาท สองเต้าของฝ้ายโดนเค้าบีบบี้อย่างแรงจนบิดเบี้ยวไปมา ราวกับต้องการจะระบายความเสียวซ่านที่ได้รับออกไปบ้าง

"รักยม ไม่ไหวแล้วนะ ออกมาช่วยพ่อเร็วเข้า รักยม" ผมพยายามร้องตะโกนออกมาสุดเสียง แต่กลับไม่มีเสียงออกมาจากลำคอแม้แต่น้อยนิดตอนนี้ผมแอบทำใจรับสภาพไว้แล้ว ผมคงจะช่วยอะไรเธอไม่ได้อย่างแน่นอน ที่ทำได้ก็เพียงแต่มองดูเธอคนนี้โดนชายอื่นสมสู่แบบเต็ม ๆ ตาเท่านั้น .... แต่ .... เหมือนผมยังมีโชคอยู่บ้างเมื่อได้ยินเสียงรักยมดังขึ้นอีกครั้ง

"รักยมจัดให้" เสียงเด็กน้อยสองคนแว่วดังมา คราวนี้เสียงของพวกเค้าชัดเจนกว่าครั้งแรก ที่เบาเหมือนเสียงกระซิบจนแทบไม่ได้ยินมากนัก

"อึ๊กก มึง มึงทำอะไรกู ... อึก .. โอย" อยู่ดี ๆ ร่างที่ผีสาวยึดครองก็สั่นกระตุกเฮือก ๆ อย่างแรง แววตาสีเขียวจ้าจนแสบตาเมื่อครู่นี้เริ่มหรี่ดับวูบลงไปเรื่อย ๆ จนเห็นดวงตาสีดำสวยของปูสาวบ้านนาได้อย่างชัดเจน เธอเอาสองแขนกอดอก จิกแขนของตัวเองอย่างแรง ขณะที่เนื้อตัวกำลังสั่นเทิ้มอย่างหนัก สองขาของเธอสั่นระริก ๆ ราวกับจะรับน้ำหนักของตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป

"อะ ไอ้เด็กสองคนนี้ ... พวกมึงเข้ามาได้ยังไง ออกไป ... อย่านะ พวกมึงอย่ามายุ่งกับกู ... กะ กรี๊ดดดดดด" ผีสาวเบิกตาโพลงราวกับเห็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวบางอย่าง เธอกรีดร้องเสียงแหลมดังลั่นอย่างโหยหวน ก่อนที่จะหลับตาลง และหมดสติ ปล่อยให้ร่างบอบบางของปูหล่นฮวบลงไปอย่างไร้การควบคุม ผมรีบคว้าตัวเธอไว้ก่อนที่เธอจะล้มลงไปฟาดกับพื้นโดยไม่ต้องคิด

"เอ่อ ... คุณ ๆ " ผมประครองเรือนร่างนุ่มนิ่มเปลือยเปล่าไว้อย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะพยายามเขย่าร่างของเธอเบา ๆ ผมไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่นักแต่ดูเหมือนว่ารักยมจะทำอะไรซักอย่าง จนผีสาวนั้นหมดฤทธิ์ไปแล้ว และทำให้เนื้อตัวเธออ่อนปวกเปียกไร้การควบคุม เธอหลับตาพริ้ม หายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอเหมือนกำลังหลับลึก ผมเพิ่งมีโอกาสได้ชมความงามของสาวบ้านนาคนนี้อย่างเต็มตา เพราะที่ผ่านก็มัวแต่กลัวผีสาวอยู่ ใบหน้าสวยหวานของเธอก็น่าหลงไหลใช่ย่อย ริมฝีปากบางเผยออ้าออกเล็กน้อยจนเห็นไรฟันขาว เนื้อตัวนุ่มนิ่มแต่ร้อนผ่าวที่อยู่ในอ้อมกอดของผมก็เป็นสิ่งกระตุ้นเร้าอารมณ์กำหนัดได้เป็นอย่างดี จนท่อนเอ็นของผมกระดกหงึก ๆ เบา ๆ ดูเธอในตอนนี้ก็เป็นสาวสวยมากคนนึงทีเดียว ด้วยความหลงไหลผมก้มหน้าลงไปบดจูบกับริมฝีปากที่ไร้ลิปสติคแต่งแต้มนั้น อย่างรุนแรงและดูดดื่มโดยไม่รู้ตัว รสชาติหอมหวานของเรียวปากบางสวยนั้นทำเอาผมรู้สึกสะใจเล็ก ๆ จนลืมไปเลยว่าอยู่ในสถานการณ์แบบไหนอยู่

"อือออ คะ คุณเก่ง อย่าค่ะ อูยยย หยุดเถอะนะ" เสียงแหบแห้งของฝ้ายที่อยู่ด้านหลังผมดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ทำให้ผมรู้สึกตัว เธอเองก็คงจะหลุดจากอำนาจควบคุมเหมือกับผม เมื่อผมหันมามองก็เห็นฝ้ายกำลังใช้สองมือผลักหน้าอกของเก่งออก เพื่อให้หยุดการกระทำ หน้าของเธอนิ่วขมวดด้วยความเสียวซ่านจากท่อนเอ็นลำอวบใหญ่ ที่ยังคงปักคาอยู่ในร่องหลืบฟิตคับนั้นอย่างน่าเสียวไส้

"คุณฝ้าย ... อุ อูยยย " เก่งร้องครางออกมาเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ไม่รู้เหมือนกันว่าชายหนุ่มคนนี้จะรู้สึกดีใจหรือเสียใจที่หลุดพ้นจากการโดนควบคุมจากผีสาว เพราะหากเค้าโดนควบคุมต่อไปอีกซักพัก ก็คงจะได้ลิ้มรสสวาทของพยาบาลสาวสุดสวยคนนี้อย่างอิ่มเอมไปแล้ว แต่นี่ได้แค่เกือบ ๆ เท่านั้น เค้ายังทำตัวไม่ถูก เมื่อดุ้นเอ็นที่แข็งราวท่อนไม้ยังคงเสียบค้างอยู่อย่างนั้นโดยที่เค้าไม่ยอมดึงออก แต่ก็คงไม่กล้าดันเข้าไปมากกว่านี้เหมือนกัน คิดว่าเค้าคงกำลังซึมซับความเสียวที่ได้รับจากร่องหลืบฟิตแน่นของฝ้ายอยู่

"คุณเก่งคะ อะ หยุดเถอะค่ะ อะ อาาา" สองแขนเล็ก ๆ ที่ไร้เรี่ยวแรง พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะออกแรงผลักดันร่างกำยำของชายหนุ่มไม่ให้โถมตัวดันท่อนเอ็นเข้าไปในร่องเสียวมากไปกว่านี้ เธอส่งสายตาอ้อนวอนให้กับเก่ง เหมือนลูกกวางน้อยร้องขอชีวิตจากนายพราน
"ผะ ผม ขอโทษครับ อูยยย" เหมือนว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเก่งจะกลับมาแล้ว เค้าเอามือจับเอวคอดกิ่วของฝ้าย แล้วดันสะโพกออกเบา ๆ

หน้าตาของเค้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความความเสียว เมื่อท่อนเอ็นกำลังลากครืดออกมาจากร่องหลืบที่กำลังตอดรัดอย่างรุนแรงทีละเล็กละน้อยอย่างน่าลุ้น ท่อนลำสีดำคล้ำเปียกโชกด้วยน้ำรักลากครูดออกมาอย่างน่าเสียวไส้ ความเสียวทำเอาฝ้ายถึงกับเผลอแอ่นสะโพกร่อนตามท่อนเอ็นไปหน่อยนึง เวลาเพียงชั่วครู่แต่กลับเหมือนยาวนานซะเหลือเกิน ในที่สุดปลายหัวบานก็หลุดพล๊อกออกมาจากกลีบเสียวพร้อมกับน้ำรักใส ๆ ที่ไหลย้อยจากปลายหัวบานและร่องหลืบลงไปเป็นทางยาว

"อ๊ะ โอยยย คุณฝ้าย ผมไม่ไหวแล้ว" เก่งร้องโอดโอย ปลายหัวบานของเค้ากระดกหงึก ๆ ไม่หยุดเมื่อหลุดออกมาจากร่องเสียว ราวกับต้องการแสดงความไม่พอใจที่หลุดออกมาจากร่องหลืบแห่งสวรรค์ เก่งเอื้อมมือลงไปกำท่อนเอ็นแล้วรูดเข้าออกสองสามครั้ง ท่อนควยนั้นก็ฉีดพ่นเอาน้ำกามขาวข้นพุ่งปรี๊ดออกมาเป็นเส้นสีขาวยาวยืด หยดน้ำรักของเก่งพุ่งไปปะทะกับเรือนร่างขาว ๆ ของฝ้ายที่นอนแผ่หราอยู่แบบเต็ม ๆ มันเปียกเลอะไปทั่วหน้าท้องเนียนเรียบนั้นและที่ร่องหลืบขาวสะอาด เก่งร้องครางหอบหายใจอย่างพอใจ ขณะที่มือยังคงรูดสาวท่อนเอ็นตัวเองไม่หยุดอยู่ครู่ใหญ่

"ผมขอโทษครับคุณฝ้าย" เก่งเอ่ยปากขอโทษกับสิ่งที่เค้าทำลงไปราวกับจะรู้สึกผิด ผมคงคิดเช่นนั้นหากไม่เห็นดวงตาที่แดงซ่านไปด้วยความปราถนาของเค้าเข้าซะก่อน ใบหน้าของเค้าแดงก่ำ สายตาจับจ้องไปยังผิวกายขาวละเอียดของฝ้ายอย่างไม่วางตา เค้าพยายามสูดพ่นลมหายใจแรง ๆ เพื่อตั้งสติ แต่เหมือนว่าไฟราคะที่ลุกไหม้อยู่นั้นไม่มีวี่แววที่จะดับมอดลงไปแม้แต่น้อยนิด เพราะท่อนเอ็นอันเขื่องของเค้าที่เพิ่งฉีดพ่นนำเชื้อออกมาสุดแรงยังคงชี้โด่ไปทางร่างของฝ้ายอย่างหลงไหลในเสน่หาของเรือนกายสุดงาม

"มะ ไม่เป็นอะไรค่ะ" ฝ้ายตอบกลับเสียงแผ่วเบาราวกับไร้เรี่ยวแรง ร่างเปลือยขาวผ่องงดงามนั้นดูจะตอบสนองกับน้ำรักอุ่น ๆ ที่ราดรดบนร่างเป็นอย่างดี เธอนอนหงายหอบหายใจระทดระทวยแก้มขาวผ่องนั้นแดงระเรื่อด้วยแรงสูบฉีดเลือด แววตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยความต้องการที่ยังคั่งค้างอยู่ ผมยาวสลวยนั้นกระเซอะกระเซิงพัวพันกันยุ่งเหยิง หากแต่ความสวยงามของเธอก็ยังคงเปล่งประกายเฉิดฉายเจิดจ้าอยู่อย่างไม่คลาย

"คุณเก่งครับ" ผมสะกิดเรียกเก่ง พร้อมส่งมอบร่างเปลือยเปล่าของปูที่หลับไหลอย่างสงบอยู่ในอ้อมกอดของผมออกไป
"ปู !! ... ขอบคุณครับคุณเอก" เหมือนเค้าจะตื่นจากภวังค์แห่งความหลงไหลในตัวฝ้าย เมื่อหันมาเห็นร่างคนรักของตัวเอง เค้าเอื้อมมือมารับร่างของปูเข้าไปโอบกอดอย่างรักใคร่ แววตาที่แดงกล่ำเปี่ยมไปด้วยตัณหาราคะในตัวพยาบาลสาวเมื่อกี้นี้ กลับเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความรักและห่วงหาอาทรในตัวแฟนสาวอย่างรวดเร็ว

เขาโอบกอดร่างแฟนสาวอย่างแนบแน่น ราวกับไม่ได้เจอหน้ากันมานานนับสิบปี ผมปล่อยให้เค้าซึมซับความรู้สึกดื่มด่ำกับแฟนสาวของเค้าต่อไป ขณะที่ผมเดินไปทางฝ้ายที่นอนแผ่หราอย่างอ่อนระโหยโรยแรง

"ไม่เป็นอะไรแล้วนะฝ้าย ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว" ผมยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับฝ้ายที่จ้องมองผมตาแป๋ว ก่อนที่จะโน้มตัวลงไปประคองกอดเรือนกายบอบบางของฝ้ายเข้ามากอดแนบอกจนแน่น ผมสัมผัสได้ว่าร่างของเธอกำลังสั่นระริก ๆ ไม่หยุด นี่คงจะเพราะความตระหนกตกใจที่เกือบจะพลาดท่าให้กับเก่งเมื่อกี้นี้กระมัง

"พี่เอก" เธอพูดชื่อผมได้คำเดียว ก็ออกแรงกอดรัดเอวผมแน่น ใบหน้าสวยนั้นซุกอยู่ที่แผงหน้าอกของผมอย่างแนบแน่น เธอสะอื้นร้องไห้เบา ๆ
ผมรู้สึกได้ถึงน้ำตาอุ่น ๆ ที่ไหลซึมออกมาสัมผัสกับร่างกายอันแสนร้อนผ่าวของผม ผมปล่อยให้เธอสะอื้นไห้อย่างนั้นอยู่พักใหญ่ พร้อมกับลูบผมยาวสลวยของเธออย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบใจ จนไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่

"เอ่อ ขอโทษนะครับคุณเอก" เก่งสะกิดแขนผมเบา ๆ พอหันไปดูก็เห็นเค้าใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนปูแฟนสาวของเค้านั้นก็มีผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ห่อคลุมตัวไว้ แต่เธอก็ยังคงไม่ได้สติเหมือนเดิม เค้ายื่นผ้าเช็ดตัวมาให้ผมสองผืน
"เอ้อ ขอบคุณครับ" ผมเริ่มเขินขึ้นมาเหมือนกันที่ยืนเปลิอยกายอยู่แบบนี้ เลยรีบเอื้อมมือไปรับผ้าเช็ดตัว แล้วส่งต่อให้ฝ้ายทันที
"ว้าย ... คุณเก่งอย่ามองนะ" ฝ้ายละใบหน้าออกจากอกผม ตอนนี้หน้าสวยของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตาจนเปียกชุ่มเต็มไปหมด เธอรีบรับผ้าเช็ดตัวนั้น แล้วรีบเอาไปปิดคลุมร่างกายของตัวเองอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ก่อนที่จะลุกจากเตียง ก้มตัวลงไปเก็บชุดพยาบาลที่กองอยู่บนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที

................

"ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ผมคิดว่าผีสาวน่าจะหมดฤูทธิ์แล้ว ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ" เค้าอุ้มร่างไร้สติของปูประคองลงนอนบนเตียงอย่างเบามือ แล้วเอาผ้าห่มนั้นปิดทับร่างกายของเธอไว้ทันที เหมือนกับจะไม่ยอมให้ผมได้สำรวจร่างกายของเธอมากไปกว่านี้อีกแล้ว
"ผมขอขอบคุณ คุณเอกมาก แต่ผมยังสงสัยอยู่ว่าคุณทำได้ยังไง" เค้าหันหน้ามามองทางผมด้วยแววตาปิติ ภาระความทุกข์ที่แบกรับไว้มานานโดนโยนทิ้งไป

"เอ่อ ... ก็ ... ผมเพียงแต่เรียนวิชาปราบผีมาจากพ่อนิดหน่อยน่ะครับ แล้วมันก็ได้ผล" ผมยิ้มแหะ ๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นเลยมั่วไปก่อน แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของรักยมที่จัดการกำราบผีสาวนั่นได้ แล้วเด็กสองคนนั่นหายไปไหนอีกแล้วล่ะนี่
"คงไม่ใช่นิดหน่อยหรอกครับ หมอผีเก่ง ๆ แถวบ้านผมยังไม่มีใครทำได้เลย ระดับนี้ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา" เก่งมองผมด้วยแววตาชื่นชม
"คงโชคดีมากกว่าน่ะครับ เมื่อกี้ก็เกือบแย่ซะแล้ว" ผมรู้สึกผิดเล็ก ๆ เพราะผมยังไม่ได้ช่วยอะไรแฟนสาวของเก่งเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังอัดกระหน่ำซอยเอวใส่แฟนสาวคนสวยของเค้าอย่างสะใจซะอีก ไม่รู้ว่าเค้าจะโกรธผมหรือเปล่าสำหรับเรื่องนี้

"แล้วน้องปูจะฟื้นเมื่อไหร่ล่ะครับ" เก่งถามราวกับคาดหวังว่าผมจะให้คำตอบกับเค้าได้ซะงั้น เค้าล้มตัวลงไปนั่งที่ขอบเตียง มองที่ร่างไร้สติของปูพลางลูบหัวของเธอไปมาอย่างห่วงหาอาทร
"เอ่อ ... ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ" ผมก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าที่พื้นขึ้นมาสวมใส่ รู้สึกอึกอักตอบไม่ถูก ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเลย อย่ามาถามได้มั้ยวะเนี่ย ไม่รู้เหมือนกันเว้ย

"รักยมมาแล้วจ้ะ พ่อจ๋าา" เสียงเด็กหวีดหวิวไปมาเบา ๆ ให้ผมได้ยินอีกครั้ง แน่นอนว่าเสียงนี้ผมได้ยินเพียงแค่คนเดียว มาได้จังหวะพอดีเลยนะ
"เกิดอะไรขึ้นบอกพ่อมาเดี๋ยวนี้ เมื่อกี้เรียกไม่ยอมออกมานะ เดี๋ยวไม่ให้กินขนมซะเลย" ผมทำเสียงดุใส่ในความคิด รู้สึกเคือง ๆ เหมือนกัน
"พ่อจ๋า ไม่เอานะ พวกหนูอยากกินขนม พวกหนูไม่ได้หนีไปไหนนะ เมื่อกี้ก็ปราบผีให้พ่อแล้วไง แต่ฤทธิมันเยอะไปหน่อย เลยเสียเวลาน่าดู"
"แล้วปราบอีท่าไหนล่ะเนี่ย ไม่ยอมบอกพ่อบ้าง แกล้งพ่อหรือเปล่าเนี่ย"
"เปล่านะพ่อจ๋า ก็ถ้าพวกเราพูดกับพ่อ ผีสาวตนนั้นก็จะรู้ว่ามีพวกเราอยู่ทันที เพราะผีเห็นผีด้วยกัน เมื่อกี้ก็เลยต้องแอบกระซิบเบา ๆ"
"แล้วยังไงล่ะ ปราบเลยก็ได้ไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องรอเวลาขนาดนี้" ผมเอ่ยทักท้วง

"ไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะฤทธิ์ของผีสาวตนนี้แรงมาก แถมยังสิงแน่นอยู่กับร่างของผู้หญิงคนนั้น หากใช้วิธีการรุนแรง ผู้หญิงคนนั้นอาจจะบ้าได้"
"อืม ก็มีเหตผล ถ้าฤทธิ์แรงมาก แล้วพวกลูกปราบมันได้ยังไง" ผมยังไม่รู้สึกไม่สมเหตสมผลอยู่
"ก็เราใช้วิธีแอบเข้าไปภายใน ไปคุ้มครองร่างจิตของผู้หญิงคนนี้ก่อน แล้วค่อยจัดการกับผีตนนี้ยังไงล่ะจ้ะ พวกหนูฉลาดมั้ยล่ะ" รักยมเอ่ยตอบเสียงเจื้อยแจ้วด้วยความภูมิใจ ท่าทางพวกเค้าฉลาดเกินเด็ก ชักจะสงสัยแล้วซิว่าพวกเค้าอายุเท่าไหร่กันแน่

"... ก็ฉลาดดีนะ แล้วแอบเข้าไปได้ยังไงกันล่ะ ไม่ให้มันรู้ตัวน่ะ" ผมถามต่อ
"ง่ายนิดเดียว เราแอบเข้าไปในร่างของผู้หญิงคนนี้ผ่านทางน้ำเชื้อของพ่อน่ะแหละจ้ะ ผีสาวไม่รู้ตัวหรอก" รักยมตอบ
"เฮ้ย มุดเข้าไปทางนั้นเนี่ยนะ ... แล้วรู้ได้ไงว่าพ่อกับผีสาวจะมีอะไรกัน" ผมแปลกใจในความคิดทะเล้นของเด็กสองคนนี้ซะเหลือเกิน

"แหม ระดับพ่อแล้ว เจอสาวคนไหน ก็จัดการทั่วไปหมด แล้วพี่สาวคนนี้จะเหลือเหรอจ๊ะ" รักยมตอบพร้อมกับเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ลอยมา
"เฮ้ย เดี๋ยวโดน ๆ ลามปาม ๆ" ผมอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะส่งเสียงดุเด็กน้อยทั้งสองคน แต่ก็ใช่ว่าเรื่องที่เด็กสองคนนี่พูดจะไม่จริง นี่ผมคงจะหื่นมากไปหน่อยแล้วล่ะมั้งเนี่ย แต่เอาเถอะยังไงผีก็โดนปราบไปแล้ว คงจะหมดเรื่องแล้วล่ะมั้ง

"แต่เรื่องยังไม่จบนะพ่อจ๋า พี่สาวคนนี้เธอไม่ยอมฟื้น เอาแต่นั่งร้องไห้ ไม่ยอมฟังพวกหนูเลย" รักยมพูดขัดเมื่อรับรู้ความคิดของผม
"อ้าว ... แล้วจะทำยังไงล่ะ ทำให้ฟื้นไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้หรอกจ้ะ ไม่มีใครบังคับวิญญาณของใครได้ หากเจ้าของดวงวิญญาณนั้นไม่ยินยอม" รักยมพูดเสียงอ่อย ๆ ในความที่ไร้ความสามารถ
"อย่างงี้เค้าก็ไม่ฟื้นน่ะซิ จะทำยังไงได้บ้างล่ะ"
"ก็ได้แต่รอจนกว่าพี่สาวคนนี้จะอยากฟื้นเอง ....... หรือไม่ก็เข้าไปคุยกับดวงจิตของพี่สาวคนนี้เอง ..."
"งั้นส่งพ่อเข้าไปคุยกับเค้าหน่อย" ผมตื่นเต้นดีใจที่ปัญหานี้มีทางออก

"แต่ ... มันอันตรายมากเลยนะจ๊ะ การเข้าไปในจิตใจคนอื่นเนี่ย"
"โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ที่จิตไม่นิ่ง หากจิตคนที่เข้าไปไม่เข้มแข็งมั่นคงพอ จิตจะแตกและจะเป็นบ้าได้ง่าย ๆ" รักยมตอบ ทำเอาผมรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที จากคำบอกเล่าของเก่งที่บอกว่ามีหมอผีหลายคนที่เป็นบ้าไปเลย เพราะพยายามช่วยน้องปู พวกเค้าคงจะใช้วิธีการเดียวกันนี่เอง
"..." ผมเองก็ตอบไม่ถูก ถามว่าอยากช่วยเธอมั้ย ผมก็อยากช่วยเธออยู่หรอก แต่ถ้าต้องถึงขนาดเอาตัวเองไปเสี่ยงล่ะก็ ผมไม่แน่ใจนักก็ผมไม่ใช่ซูปเปอร์ฮีโร่แบบในการ์ตูนซักหน่อย ที่จะต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยคนอื่นซะขนาดนั้น

"งั้นเรารอไว้ก่อน จนกว่าจะหาคนที่จิตใจเข้มแข็งพอ แล้วมาช่วยเธอล่ะกัน" ผมบอกรักยมน้ำเสียงแหบเบาเพราะความอ่อนด้อยในตัวเอง
"ก็ดีจ้ะ พวกหนูไม่อยากให้พ่อไปเสี่ยง แต่ ... เราก็รอนานไม่ได้ เพราะว่าร่างกายที่ไร้วิญญาณ จะโดนวิญญาณอื่นเข้าสิงได้ง่าย"
"หากมีวิญญาณที่มีฤทธิ์แรงพอ จะสามารถเข้าสิงร่างได้ทันทีที่ผ่านมาพบเจอ และเราก็ต้องไล่มันออกไปอีกครั้ง" รักยมพูดทำเอาผมขนลุกปล่อยไปเฉย ๆ ก็ไม่ได้ จะให้จัดการซะตรงนี้ก็ไม่กล้าพอ แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย

"พี่เอกคะ พี่เอก เป็นอะไร" ฝ้ายเขย่าตัวเรียกผมเบา ๆ นี่เธอมายืนอยู่หน้าผมเมื่อไหร่กันเนี่ย ไม่ทันรู้ตัวเลย ตอนนี้ฝ้ายอยู่ในชุดพยาบาลสีขาวสะอาดอันแสนน่าหลงไหลชุดเดิม ต่างกันก็แต่ผมเผ้าของเธอที่ยังดูยุ่งเหยิงเล็กน้อยจากเกมรักเมื่อกี้นี้ คงเพราะเธอคงจะไม่มีเวลาพอที่จะจัดผมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในตอนนี้

"เอ่อ ไม่เป็นอะไรครับ" ผมตอบเบา ๆ ในหัวยังคงใช้ความคิดอยู่
"เห็นพี่เอกนิ่งไป อย่าทำให้ฝ้ายกลัวซิ" เธอบีบกำมือผมแน่น สีหน้าเธอดูเป็นห่วงผมไม่น้อยเลยทีเดียว แหมน่ารักและน่ารัดจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้
"พอดีคิดอะไรอยู่นิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอก" ผมยิ้มแห้ง ๆ ตอบเธอ บีบมือนุ่ม ๆ ของเธอแน่น ตอนนี้ผมรู้สึกอยากจะกอดเธอแน่น ๆ จังแต่ก็รู้สึกเขินนิดหน่อย ที่จะทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น

"พี่เอกคะ ... ว่าแต่เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ฝ้ายยังงง ๆ อยู่เลย ทำไมปูมีตาสีเขียว แล้วทำไมพวกเราถึง ..." ฝ้ายเอ่ยถามทำหน้าสงสัย แต่มาสะดุดเอาตรงวรรคสุดท้าย ดูเธออายเกินกว่าที่จะพูดถึงเรื่องที่เธอเกือบจะเสร็จนายเก่งอยู่รอมร่อ
"อืม ถ้าจะให้พูดสั้น ๆ ได้ใจความ ก็คือ น้องปูเค้าโดนผีสิงน่ะครับ และพวกเราก็โดนฤทธิ์สะกดใจจากผีตนนั้น" ผมตอบ

"ผีเหรอ ... แต่ว่า ... ผีไม่มีจริง ..." ฝ้ายตอบแบบอึกอัก ถึงแม้ว่าสาววิทยาศาสตร์สมัยใหม่อย่างเธอจะไม่เชื่อสิ่งลี้ลับที่ไร้การพิสูจน์แบบนี้ แต่เมื่อมาเจอเข้ากับตัวเองก็ทำเอาเธอเหวอไปเหมือนกัน เธอหน้านิ่วคิ้วขมวดราวกับกำลังพยายามหาปรากฎการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นไปได้มาพูดอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็นั่นล่ะปรากฎการณ์อะไรที่ทำให้ผู้หญิงมีตาสีเขียวจ้า และปรากฎการณ์อะไรที่ทำให้ตัวเธอเองยอมเปลือยกาย ให้นายเก่งฟอนเฟ้นตักตวงความสุขเอาดื้อ ๆ ราวกับคนเมาไร้สติแบบนั้น
"ฝ้าย ... สิ่งที่เราไม่รู้ สิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีนะ และที่สำคัญเรื่องภูติผีนี่ ผมขอยืนยันว่ามีจริง" ผมเอ่ยบอกฝ้ายหน้าตาขึงขังจริงจัง สีหน้าของเธอตอนนี้ดูเหมือนเธอกำลังครุ่นคิดตรึกตรองใช้สมองอย่างหนัก

"ผมเองก็ขอยืนยันว่าผีมีจริงด้วยครับคุณฝ้าย ผมพอจะรู้วิชาพวกนี้อยู่บ้าง" เก่งยืนขึ้นแล้วเดินมาทางผมและฝ้าย
"อะ เอ่อ ..." ฝ้ายหันไปสบตากับเก่ง แล้วก็รีบเบือนหน้าหนีหันกลับมาทางผม หน้าเธอแดงขึ้นมาน้อย ๆ คงจะเพราะเหตการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
"และผมก็ต้องขอโทษเรื่องเมื่อกี้อีกครั้ง ที่ล่วงเกินคุณฝ้ายไป" เก่งพูดขอโทษกันแบบตรง ๆ ทำเอาฝ้ายทำตัวไม่ถูกไปเลย

"ส่วนคุณเอก ที่ทำอะไรกับแฟนผมไป ผมถือซะว่าเราเจ๊ากันนะครับ เพราะผมก็ล่วงเกินแฟนคุณเอกเหมือนกัน" เก่งพูดต่อสีหน้าจริงจัง
"อะ เอ่อ ครับ งั้นก็ถือว่าเจ๊ากันไปล่ะกันนะ" ผมยิ้มแหะ ๆ ตอบเก่งไป ก็ดีแล้วที่เราเคลียร์กันตรงนี้ซะก่อน ไม่งั้นคงจะมีปัญหาคาใจซะเปล่า ๆ
"...." ฝ้ายกอดแขนผมแน่น เธอซุกหน้าเข้าที่ลำแขนของผม แอบเผยรอยยิ้มสดใส ดูเธอจะทั้งเขินอาย และดีใจที่มีคนเรียกสถานะของเราสองคนว่าเป็นแฟนกัน ซึ่งก็ไม่ผิดหรอก เพียงแต่ว่าสำหรับผมแล้ว ฝ้ายยังคงเป็นแค่เบอร์ 2 รองจากน้องหญิงเท่านั้น

"แล้วผีที่สิงในร่างของปูหายไปไหนแล้วล่ะคะ" ฝ้ายเงยหน้าขึ้นมาถามผม ขณะยังคงกอดแขนผมแน่น
"ก็โดนพี่เอกของคุณฝ้ายจัดการไล่ไปเรียบร้อยแล้วน่ะซิครับ เรื่องนี้ผมต้องขอขอบคุณมากจริง ๆ" เก่งเดินเข้ามาจับมือผมแน่น ราวกับจะกล่าวเอ่ยคำขอบคุณออกมาจากหัวใจอย่างสุดซึ้ง แต่น้ำเสียงจริงจังนี้ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีนัก มันกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้น ที่ไม่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยแฟนสาวของเค้าให้เรียบร้อย

"เอ๋ พี่เอกนี่เหรอคะ ไล่ผี !!" ฝ้ายทำท่าทางแปลกใจอย่างหนัก ดูเธอไม่ค่อยจะเชื่อนัก
"ใช่ซิครับ ขนาดผีที่หมอผีเก่ง ๆ ยังไล่ไม่ได้เลยนะ คุณเอกคงจะมีวิชาติดตัวไม่น้อย" เค้ามองผมด้วยสีหน้าและแววตาชื่นชม ทำเอาผมถึงกับต้องเบือนสายตาหนีด้วยความรู้สึกผิดอีกครั้ง

"ตอนนี้พวกเราควรจะห่วงคุณปูมากกว่านะครับ" ผมเฉไฉเปลี่ยนเรื่องพูดมองไปทางปูที่สลบไสลอยู่อย่างสงบเงียบแทน ผมรู้สึกแย่เหลือเกินกับสถานการณ์ที่ตัวเองควบคุมไม่ได้แบบนี้
"เดี๋ยวฝ้ายไปตรวจคุณปูก่อนนะคะ" ฝ้ายเดินอ้อมตัวเก่งเว้นระยะซะห่างเลย ดูท่าทางเธอยังรู้สึกหวาด ๆ กับชายหนุ่มคนนี้อยู่หน่อย ๆ

"อุ๊ย คุณหมอ" ฝ้ายอุทานเบา ๆ เมื่อเดินไปเห็นร่างของคุณหมอนอนอยู่ใต้เตียง พวกเราลืมหมอคนนี้ไปซะสนิทเลยนะเนี่ย พอผมเดินไปดูก็พบว่าสีหน้าของหมอคนนี้ดูดีกว่าตอนแรกที่ผมเข้ามาเห็น สภาพราวกับซากศพไร้ชีวิตในตอนแรกนั้น เปลี่ยนเป็นดูมีชีวิตชีวามากขึ้น แม้ว่าจะยังดูซีดเซียวอยู่บ้างก็ตาม ถึงพวกเราจะยังงง ๆ กันอยู่ แต่ผมก็ช่วยลากตัวหมอหนุ่มคนนั้นมานอนที่โซฟาแทน ดูเค้าเหมือนกับแค่หลับไปเท่านั้นไม่มีอันตรายอะไรถึงชีวิต แถมยังนอนกรนคร่อก ๆ เสียงดังอย่างสบายอารมณ์ซะอีกแน่ะ

"พวกหนูช่วยหมอคนนี้จนพ้นอันตรายแล้วนะจ๊ะ เหลือแค่ให้เค้าพักเยอะ ๆ" เสียงรักยมดังมาแผ่ว ๆ ทำเอาผมเข้าใจเหตการณ์ได้มากขึ้นหน่อย

"หมอคนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะครับ แค่โดนดูดพลังชีวิตไปมากหน่อย ยังดีที่พวกเราเข้ามาทันพอดี" ผมบอกฝ้ายที่แสดงท่าทางเป็นห่วงชายหนุ่มเพื่อนร่วมอาชีพคนนี้ซะเหลือเกิน
"ดีจังเลย ฝ้ายนึกว่าเค้าจะแย่ซะแล้ว" ฝ้ายยิ้มน้อย ๆ ดูเธอจะสบายใจขึ้นมาหน่อยนึง ผมเริ่มจะหึงแล้วนะเนี่ย
"... แค่เพื่อนร่วมงานนะคะพี่เอก หึงเหรอ ..." เธอแอบอมยิ้ม พูดพร้อมกับบีบมือผมแน่น ยังกับว่าเธอจับความคิดของผมได้งั้นแหละ
"ปะ เปล่าซะหน่อย" ผมยักไหล่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ความจริงก็รู้สึกไม่พอใจหน่อย ๆ อยู่เหมือนกัน
"พี่เอกบ้า ฝ้ายรักพี่เอกคนเดียวนี่ล่ะค่ะ พี่เอกอย่างอนนะ นะ" เธอเอามือมาโอบเอวกอดผมไว้แน่นโดยไม่อายสายตาของนายเก่งที่มองอยู่ ร่างอุ่น ๆ นุ่มนิ่มที่บดเบียดเข้ามาพร้อมกับกลิ่นกายหอมอบอวล ทำเอาผมเองต้องอ้าแขนโอบกอดเธอตอบโดยไม่ต้องคิด ท่อนเนื้อเบื้องล่างแข็งเกร็งบดเบียดกับร่างสาวสวยอย่างเสียวซ่าน สาวสวยที่เต็มไปด้วยอารมณ์รัก ก็เหมือนอาหารจานหรูรสเลิศที่เพิ่งออกมาจากเตานี่แหละตอนนี้ฝ้ายคนนี้ก็น่าลิ้มลองรสซะเหลือเกิน ผมคิดจะปล่อยเรื่องที่นี่ไปแบบนี้ดีกว่า แล้วไปดื่มด่ำกับรสสวาทของสาวสวยคนนี้ให้เต็มคราบ

แต่เมื่อผมกวาดสายตาไปเห็นร่างของน้องปูที่นอนอย่างเฉยเมย ไม่รับรู้สิ่งใด ๆ โดยที่มีเก่งคอยนั่งบีบมือให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง ก็ทำเอาผมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในอก ผมคิดไปว่าหากคนที่นอนบนเตียงนั่นคือน้องหญิงแล้วผมจะทำยังไงนะ หากผมเป็นเก่งและรู้ว่ามีคนที่ช่วยน้องหญิงได้แต่เค้าไม่ยอมช่วยผมจะคิดยังไงนะ ... โธ่เว้ย แล้วทำไมผมต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะ เพราะผมต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงนะ หากพลาดขึ้นมาผมก็แย่น่ะซิ สองความคิดโต้แย้งกันเองในหัวราวกับจะทำให้สมองเล็ก ๆ ของผมระเบิดออกเสียให้ได้

"พี่เอก ... คิดอะไรอยู่น่ะ เครียดเชียว" ฝ้ายเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาเป็นห่วง ดูเธอจะจับความรู้สึกของผมได้ตลอดเลย
"กำลังเป็นห่วงปูอยู่น่ะครับ ถ้าเค้าไม่ฟื้นขึ้นมาล่ะ ..." ผมลูบแก้มนวลเนียนของฝ้ายเบา ๆ ขณะที่สายตายังคงมองไปทางปูและเก่ง
"... ก็พูดยากเหมือนกันค่ะ รู้แต่คุณเก่งคงจะน่าสงสารแย่ นี่ถ้าฝ้ายช่วยได้ ฝ้ายคงจะช่วยจนสุดความสามารถ" ฝ้ายมองไปทางปูและเก่ง แววตาและคำพูดของเธอดูเปี่ยมไปด้วยเมตตาอย่างที่สุด แต่นั่นราวกับเป็นเหล็กแหลมที่ทิ่มแทงทำให้ผมรู้สึกเจ็บใจยิ่งขึ้นไปอีก
"แล้วถ้า ฝ้ายช่วยได้ ... แต่ฝ้ายต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองล่ะ และมันอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ ฝ้ายจะช่วยมั้ย" ผมถามต่อและรอคำตอบของเธอเพื่อมาช่วยตัดสินใจปัญหาที่เหมือนจะไร้ทางออก

"พ่อของฝ้ายที่เป็นทหารพูดอยู่เสมอว่า จงทำสิ่งที่ทำให้เราสามารถยืดอกภูมิใจและไม่เสียใจในภายหลัง แค่นั้นก็พอแล้ว" ฝ้ายมองหน้าผมแววตาเธอดูหนักแน่นเด็ดเดี่ยวจริงจัง เธอคงภูมิใจในตัวพ่อของเธอไม่น้อยเลยทีเดียว
"หากมีโอกาสที่ฝ้ายสามารถช่วยเค้าได้ ฝ้ายก็จะลองคะ เพราะหากไม่ทำ ตัวฝ้ายเองจะเสียใจไปตลอดชีวิต" ฝ้ายพูดต่อ
"................." ผมอึ้งไปชั่วครู่ใหญ่ นั่นซินะ มันอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไรล่ะ คือการมีอายุยาวนานนับร้อยปีเสวยสุขไปเรื่อย ๆ แต่ต้องรู้สึกทุกข์ใจไปตลอดชีวิตงั้นหรือ หรือว่ายอมทำเรื่องที่ดูโง่ ๆ เพื่อให้ตัวเองสามารถยืดอกภูมิใจได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแล้วหากผมเป็นอะไรไป น้องหญิงจะเป็นยังไง ผมต้องการจะทำอะไร และผมต้องทำอะไรกันแน่

"หญิงรักพี่เอก เพราะพี่เอกเป็นพี่เอกไงคะ แค่พี่เอกเป็นตัวเองก็พอแล้ว" ในห้วงแห่งความสับสนนั้น ใบหน้าของน้องหญิงลอยเด่นขึ้นมาในความคิดพร้อมกับคำพูดของเธอที่ให้ไว้กับผมในค่ำคืนแห่งความสุขสมของผมและเธอ มันช่างชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง ความคิดที่สับสนอลหม่านในหัวสมองหายไปหมดสิ้น ความคิดผมกระจ่างชัดนัก คำตอบที่ต้องการนั้นออกมาแล้วว่าผมควรจะทำอะไร
............................ 

kaithai

"คิดที่สับสนอลหม่านในหัวสมองหายไปหมดสิ้น
ความคิดผมกระจ่างชัดนัก
คำตอบที่ต้องการนั้นออกมาแล้วว่าผมควรจะทำอะไร "


รู้ใช่ไหม นายเอกของเราจะทำอะไร

birddybdy

ขอบคุณครับท่าน

นายเอกก้อต้องช่วยคุณปูแน่นอนน่ะสิครับ

devilzoa


Sompong Hongsirikarn


Kan Kulwong

เรื่องสนกมันมาก สดเสียวจริ่งๆ ยังอ่านไม่จบ เดี๋ยวมาอ่านต่อ

series120

เกือบได้สวิงกิ้งกันแล้วเชียว  ::GiveMe::