ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หัวใจรักที่ปิดตาย(8)

เริ่มโดย twintower, พฤษภาคม 25, 2017, 07:57:49 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

**** ที่บอกไปในตอนที่แล้วว่าจะมีอีก 2 ตอน  แต่ในที่สุดต้องขอเป็น 3 ตอนรวมตอนนี้ด้วยครับ  เพราะถ้าเป็นไปตามที่บอกไว้  เนื้อเรื่องมันจะยาวมาก เลยต้องให้เป็น 3 ตอนครับ****

ขอบคุณครับ

****Twin Tower****
**********************************************************************
ยูขับรถพาเธอเข้าไปในตัวเมืองก่อนที่จะมาหยุดที่หน้าอาคารหลังใหญ่ที่ทาสีฟ้า  แล้วบอกหญิงสาวว่า

"นี่ไงสำนักงานใหญ่ของเมนเตซกรุ๊ป  แต่พวกเราเรียกกันว่าตึกเก่า  ส่วนตึกใหม่อยู่ข้างๆนี่ไงคุณ"

ยูพูดพร้อมชี้ให้ดูอาคารที่มีสีสันและรูปทรงสวยงามพร้อมอธิบายว่า

"บริษัทที่สำคัญๆของเราจะอยู่ที่ตึกเก่าหมายพวกถึงบริษัทพวกนี้แด้ดผมจะบริหารดูแลเอง ปกติแด้ดจะนั่งทำงานอยู่ที่นี่ ส่วนตึกใหม่นั้นบ็อบจะเป็นคนดูแลรับผิดชอบ"

"ทำไมดูเหมือนบ้านจัง"

ยูพยักหน้าแล้วตอบไปว่า

"ใช่แล้วคุณเมื่อก่อนแด้ดกับมัมอยู่ที่นี่แหละ  เป็นบ้านของแกรนด์ฟา  เอ่อผมหมายถึงพ่อกับแม่ของแด้ดนะก่อนที่จะย้ายไปที่บ้านหลังปัจจุบัน  พอย้ายไปแด้ดเลยปรับปรุงให้เป็นออฟฟิต ก่อนจะสร้างตึกใหม่"

"แล้วตึกนี้มีกี่ชั้นละ"

"22 นะ มีดาดฟ้าด้วย   เมื่อก่อนที่จะสร้างตึก  บริษัทในเครือกระจายไปทั่วเมือง เช่าตึกคนอื่นทั้งนั้น  พอย้ายไปบ้านหลังใหม่แด้ดเลยตัดสินใจระดมทุนพร้อมกู้แบ็งค์เพื่อสร้างตึกของตัวเองบริษัททุกบริษัทในเครือจะได้มาอยู่ที่เดียวกัน"

"งั้นแปลว่าบริษัทในตึกนี้เป็นของเมนเตซกรุ๊ปทั้งหมด"

หญิงสาวทำเสียงสูง ซึ่งยูพยักหน้าพร้อมตอบว่า

"ใช่แล้ว  ไม่รวมบริษัทอื่นที่อยู่ในเมืองต่างๆกับประเทศอื่นๆนะ แต่ศูนย์กลางอยู่ที่นี่ ชั้น 2เป็น เนอสเซอรี่ ชั้น 4 เป็นศูนย์อาหารราคาถูก  ชั้น 14 เป็นฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังกายพร้อม ทุกอย่างคือสวัสดิการให้พนักงาน  มื้อกลางวันแด้ดผมกับผู้บริหารก็จะไปทานกันที่ชั้น 4 เหมือนพนักงานทุกคน เราใช้เชฟมือดีจากโรงแรมในเครือสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำอาหารให้นะ"

"โห ทำไมดีอย่างนี้ละ"

"แด้ดกับมัมบอกว่าในเมื่อเค้ามาทำงานให้เรา  เราก็ควรหาอะไรเพื่อมาตอบแทนให้เป็นขวัญกำลังใจ อย่างพวกลาคลอดเราให้ลาถึง 5เดือนเลยนะ  แถมเบิกค่าคลอดได้อีกไม่รวมของเยี่ยม  มัมเน้นตรงนี้มากถึงมีเนอสเซอรี่ในบริษัทให้พนักงานเอาลูกเล็กๆมาดูแลด้วยไงและก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะ  เราดูแลอย่างดี"

"งี้ใครๆก็อยากมาทำละสิ"

ยูไม่ตอบอะไรแล้วมองไปที่ตึกเก่าก่อนจะบอกว่า

"คุณเชื่อไหม ว่าบ้านหลังนั้นนะสร้างเสร็จก่อนผมเกิด 4 เดือน และ 4เดือนนั้นคือการตกแต่งการทดสอบระบบต่างๆ  เท่ากับว่าทุกอย่างสมบูรณ์อยู่ในเดือนเดียวกับที่ผมเกิดเลย"

"หา เท่ากับบ้านหลังนั้นอายุเท่าคุณ"

"ใช่แล้ว  ใครๆก็บอกนะว่าสร้างมาเพื่อรอผม ทั้งๆที่แด้ดกับมัมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาเลี้ยงผม  ไปกันต่อเหอะไว้คราวหน้าถ้ามาวันทำงานผมจะพาคุณขึ้นไปข้างบน  วันนี้ขึ้นไปก็ไม่มีอะไรลำบาก รปภ.อีก"

ยูพูดจบแล้วขับรถออกไป  และเธอยอมรับว่ายูนั้นมีความชำนาญในเส้นทางเป็นอย่างมากยูพาเธอไปรอบๆเมืองและแหล่งท่องเที่ยว ถึงบางที่คนจะเยอะและใช้เวลาไม่นานนัก  แต่ก็ให้ความสุขกับเธอได้เป็นอย่างดีจนลืมความวิตกที่อยู่ในใจและเธอใช้ผ้าพันคอกับหมวกไหมพรมที่ชายหนุ่มให้ยืมเพื่อป้องกันความหนาว  ยูใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพเธอไว้หลายภาพก่อนจะส่งให้เธอทางไลน์  จนช่วงบ่ายเศษๆ ยูบอกเธอว่าจริงๆอยากพาเธอไปสนามฟุตบอล แต่วันนี้มีแข่งฟุตบอลคนจะเยอะเลยจะขอพาไปวันหลังและบอกด้วยว่าตนเองเป็นแฟนทีมบาร์เซโลน่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ก่อนจะถามเธอว่า

"คุณหิวหรือยัง"

หญิงสาวพองแก้มพร้อมพยักหน้า ยูจึงถามต่อไปว่า

"คุณอยากกินอะไร"

"ก็แล้วแต่คุณสิ  คุณเป็นเจ้าถิ่นนี่"

"ผมให้คุณเลือก  ผมกลัวพาไปแล้วไม่ถูกปากคุณ  คุณก็จะว่าผม"

"เฮ้ยเห็นชั้นเป็นคนยังไง"

"ชอบโวยไง"

"เดี๋ยวจะโดน กินอะไรก็ให้คุณพาไป  แต่ถ้าไม่อร่อยชั้นโวยแน่นอน"

ยูย่นจมูกก่อนจะขับรถไปจอดใกล้ๆร้านอาหารแล้วบอกว่า

"งั้นผมให้คุณเลือกแล้วกัน  มี อยู่ 2-3 ร้านแถวนี้ แต่น่าจะถูกปากคุณนะ"

แพงมองไปทางร้านอาหารและสะดุดตาอยู่ร้านหนึ่งที่ทาสีขาวดูเรียบๆ  เธอจึงตัดสินใจเลือกร้านนั้นพร้อมพยักหน้าและบอกไปที่ยูว่า

"ไปที่ร้านสีขาวๆนั่นแล้วกัน"

"แน่ใจนะคุณ"

"ทำไมมีอะไรหรือไง"

"ผมถามเพื่อความมั่นใจ"

"ก็นั่นแหละชั้นเลือกแล้วไปเหอะหิวไส้จะขาดแล้ว"

ยูอมยิ้มก่อนจะพาเธอเดินลงจากรถไปที่ร้านอาหาร  พอเข้าไปหญิงสาวพบว่าภายในตกแต่งร้านได้อย่างเรียบง่าย  และมีลูกค้าอยู่พอสมควร  แต่เธอสังเกตเห็นคนที่ท่าทางจะเป็นผู้จัดการร้านรีบวิ่งมารับก่อนจะพาไปโต๊ะที่ว่างทั้งคู่ต่างถอดแจ็กเก็ตกันหนาวพาดไปบนเก้าอี้แต่ผู้จัดการรีบให้พนักงานที่ตามมาติดๆรับไปแขวน พอนั่งลง เมนูมาถึงทันที แพงก้มรายการดูในเมนูซึ่งพบว่าทั้งภาษาสเปน,อังกฤษ.ฝรั่งเศสและอีกภาษาที่เธอเดาว่าเป็นอิตาลีแต่ยูก็พูดมาว่า

"คุณร้านนี้จะเน้นอาหารเพื่อสุขภาพนะ  เมนูส่วนใหญ่จะเป็นปลา  แต่ก็มีเนื้ออยู่บ้างคุณลองดูแล้วกัน  แต่น้ำสลัดที่นี่ผมให้ 5 ดาวเลย"

เธอหยุดอ่านแล้วแยกเขี้ยวออกมาก่อนบอกว่า

"งั้นคุณสั่งให้ชั้น"

"งั้นห้ามบ่นผมนะ"

"ไม่รู้"

ยูอมยิ้มก่อนหันไปสั่งอาหารโดยไม่ดูเมนูเลยซึ่งทั้งคนที่เธอคาดว่าเป็นผู้จัดการกับพนักงานอีกคนรับออเดอร์อย่างรวดเร็วก่อนจะเดินจากไป แล้วยูหันมาบอกเธอว่า

"คุณร้านนี้ไม่มีน้ำอัดลมนะ  ผมสั่งน้ำแอปเปิ้ลคั้นให้คุณ รับรองคุณต้องชอบ"

เธอพยักหน้าแต่ถามด้วยความสงสัยว่า

"คุณมาบ่อยหรือไง ดูท่าชำนาญและคนนั้นผู้จัดการหรือเปล่า"

"ใช่แล้วเค้าเป็นผู้จัดการ จะไม่ชำนาญยังละก็ร้านนี้เป็นของมัมผม  เปิดมาตั้งแต่รุ่นพ่อกับแม่ของมัมแล้ว แล้วมัมก็มาบริหารต่อ เลยเน้นอาหารแนวเพื่อสุขภาพ  เพราะมัมชอบทานอาหารแนวนี้"

เธอกระพริบตาถี่ๆ ก่อนบอกว่า

"งั้นเท่ากับตอนนี้มันเป็นร้านของคุณนะสิ  มิน่าพนักงานถึงนอบน้อมเป็นพิเศษ "

"ยังไม่ถึงขนาดนั้น ตอนนี้แด้ดโอนให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมให้ทาง MD. ของโรงแรมดูให้"

"แล้วนี่เมนเตซกรุ๊ปนี่ทำอะไรมั่งนี่"

"กลับไปแล้วเล่าให้ฟังเรื่องมันยาว"

"เชอะ"

เธอเน้นเสียงพร้อมแลบลิ้นให้  ทำเอายูหัวเราะออกมา  และพออาหารมา แพงไม่ผิดหวังเลยอร่อยจริงๆโดยเฉพาะสลัดซึ่งยูบอกว่า น้ำสลัดเป็นสูตรของมัม ที่ตนเองทานตั้งแต่เด็กๆแล้ว  และเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านนี้ รวมถึงปลาแซลม่อนย่างที่ถูกปากเธอมาก ยูก็บอกว่าเป็นสูตรที่หมักกับน้ำซอลที่ทาตอนย่างแม่ของมัมเป็นคนคิด  และเป็นอาหารหลักที่มัมทำให้ยูทานมาตลอดเหมือนกับน้ำแอปเปิ้ลคั้นที่รสกลมกล่อมไม่เปรี้ยวหรือหวานจนเกินไปนัก   ยูอธิบายเพิ่มว่าบางครั้งอาหารจากที่นี่ก็จะไปส่งที่บ้านเพื่อให้แด้ดทานหรือไม่ก็เชฟจะไปทำให้ที่บ้านโดยมิเชลจะเป็นคนคอยดูแลในเรื่องนี้   

พอทานเสร็จหลังจากยูจัดการเซ็นต์ชื่อในบิลเรียบร้อยเสื้อแจ็คเก็ตของทั้งคู่ก็ถูกนำมาให้ ยูขอบคุณผู้จัดการร้านก่อนพาหญิงสาวออกไปจากร้านซึ่งเธอชมไม่หยุดว่าอร่อยจริงๆ  และยูบอกว่าร้านนี้ราคาอาหารไม่แพงด้วย  และพาเธอไปขึ้นรถ จากนั้นชายหนุ่มขับรถพาเธอไปอีกหลายที่

จนไปถึงตลาดแห่งหนึ่ง  ซึ่งเธอเคยมาแล้ว แต่เธอก็ชื่นชอบกับบรรยากาศที่นี่ เธอชวนยูที่เดินข้างๆคุยตลอดแต่แล้วสักพักเธอก็รู้สึกว่าเธอพูดอยู่คนเดียว  พอหันไปเห็นชายหนุ่มยืนอยู่ซื้อขนมอยู่ เธอถึงกับเม้มปากแน่นเอามือท้าสะเอว ที่จู่ๆยูก็แวะซื้อขนมโดยไม่บอกเธอปล่อยให้เธอเดินพูดคนเดียว พอยูเดินมาพร้อมถุงใส่เยลลี่และหยิบเยลลี่ใส่ปากพอเดินมาถึงยูยื่นถุงขนมให้แต่เธอบอกมาทันทีว่า

"นี่คราวหน้าคราวหลังจะหยุดซื้ออะไรก็บอกกันมั่งสิ"

"ทำไมหรือ"

"ไม่รู้"

ยูหัวเราะออกมาก่อนบอกว่า

"งั้นคุณเดินพูดคนเดียวละสิ"

หญิงสาวนั้นหน้าแดงขึ้นมาทันแต่ไม่ตอบได้แต่ค้อนอย่างเดียวยูจึงยื่นเยลลี่ให้อีกครั้ง แล้วบอกว่า

"เอานี่ร้านนี้ผมกินตั้งแต่เด็กๆ  อร่อยดีหวานไม่มากด้วย"

แพงแก้เขินด้วยการเอาหยิบเยลลี่มากินก่อนจะเดินไปและเธอก็หยิบมากินไม่หยุดเพราะมันอร่อยจริงๆทำให้ยูทักว่า

"คุณนี่กินเก่งเนอะ ผมสังเกตมาหลายครั้งแล้ว"

เธอหยุดกินทันทีพร้อมทำตาขวางใส่แต่ยูไม่สนใจ หยิบเอาเยลลี่มากินแต่ก่อนที่จะเข้าปากแพงฉวยจากมือแล้วมาใส่ปากตนเองพร้อมบอกว่า

"นี่ว่าชั้นดีนักอย่ากินเลย"

ก่อนเดินไปยูยิ้มออกมาแล้วเดินตามเธอไปจนมาถึงจุดชมวิว  ถึงลมค่อนข้างแรงแต่ยังดีที่มีแดดทำให้มีคนมายืนกันพอสมควร ทั้งคู่ต่างมองไปที่คฤหาสน์เมนเตซหญิงสาวหันมาที่ยูที่ตอนนี้ใส่แว่นกันแดด เธอจึงพูดลอยๆว่า

"มุมนี้ก็สวยนะ แด้ดกับมัมคุณเข้าใจเลือกที่ตั้งมากเลย และเป็นจุดเด่นอีกด้วย"

"เท่าที่ผมรู้ แด้ดไม่ได้ตั้งใจให้เด่นหรอกคุณ  แต่มันมีเหตุผลหลายๆอย่างด้วยละ"

แพงไม่ได้ถามต่อว่าเพราะอะไร  แต่เดาว่ายูคงเล่าให้เธอฟังเมื่อถึงเวลาแล้วเธอก็เอาโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาก่อนสะกิดไปที่ยูว่า

"คุณมาเรามาเซลฟี่กันเถอะ  เอาให้ติดบ้านคุณด้วย  ถอดแว่นออกก่อนสิ"

ยูทำตามที่เธอบอกและทั้งคู่ต่างหันหลังให้คฤหาสน์ ก่อนที่หญิงสาวจะถ่ายรูปคู่ซึ่งเป็นรูปคู่รูปแรกของทั้งคู่โดยมีคฤหาสน์เมนเตซเป็นแบ็คกราวน์อยู่ด้านหลังลิบๆก่อนที่ยูจะชวนเธอเดินกลับไปที่รถหลังจากขับรถออกและขับผ่านเนินยูแกล้งเร่งเครื่องทำให้รถทำท่าเหมือนจะเหิน หญิงสาวร้องออกมาว่า

"เฮ้ยคุณ จะบ้าหรือไงไม่ใช่เครื่องบินนะ"

"ก็คุณบอกให้ผมขับแบบในหนังไง"

"ชั้นพูดแหย่คุณเล่น"

"อ่อ  แต่จริงๆผมก็เรียนขับเครื่องบินอยู่นะ  แต่ยังไม่จบครอส"

"หาอะไรนะ  คุณนี่มันจะเอาทุกอย่างเลยหรือไง"

ยูอธิบายให้แพงฟังว่า เหตุผลที่เรียนคืออยากเรียนรู้  เพราะไหนๆแด้ดมีเครื่องบินส่วนตัวแล้วตนเองก็จะอยากจะขับเป็น หญิงสาวพยักหน้ารับรู้และเป็นจังหวะที่ผ่านท่าเรือที่สำหรับจอดเรือยอร์ช  เธอเลยแกล้งพูดว่า

"อย่าบอกนะว่าแด้ดคุณก็มีเรือยอร์ชด้วย"

แต่ยูพยักหน้าแล้วบอกว่า

"มีสิ  แต่มันจะเย็นแล้วกลับบ้านก่อนเหอะ และอีกอย่างผมไม่ได้บอกคาร์รอสด้วยว่าจะแวะที่นี่  ไปดูก็ไม่มีอะไร  นอกจากเรือจอดเฉยๆ"

เธอพยักหน้าแต่ยังพูดต่อว่า

"งั้นคุณก็ขับเรือเป็นสิ"

ยูส่ายหน้าแล้วตอบว่า

"ผมไม่ใช่เจมส์บอนด์นี่คุณจะได้เป็นทุกอย่าง  ผมขับไม่เป็นและไม่สนใจจะเรียนด้วย"

"อ้าวทำไมละ เพราะมันก็เหมือนที่คุณเรียนขับเครื่องบินไงเพราะคุณบอกว่าคุณจะได้เรียนรู้ไง"

"ผมเมาเรือนะคุณ เคยออกเรือไปเที่ยวทะเล2-3 ครั้ง  ผมเมาเรือจนไม่สบาย  มัมซะอีกไม่เป็นอะไรตอนเรือวิ่งไม่เท่าไหร่แต่พอจอดลอยลำเท่านั้นแหละผมมีอาการทันทีกลับมาถึงบ้านผมก็นอนซมไป2-3วันเลย ผมเลยเข็ด"

ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงอ่อยๆ  แต่หญิงสาวนั้นหัวเราะไม่หยุด ยูเลยหันมาย่นหน้าให้เธอ จนขับรถมาถึงบ้าน  ยูนำรถข้าไปจอดที่ลานจอดใต้ดินแล้วพาหญิงสาวเดินขึ้นไปที่ห้องโถง  ซึ่งปาสกาลยืนรอรับอยู่แล้วซึ่งพ่อบ้านได้ถามว่าจะรับเครื่องดื่มอะไร แพงยิ้มกร่อยๆก่อนตอบว่า

"ขอบคุณคะ  แต่ยังอิ่มอยู่เลยคะปาสกาล"

ยูมองแล้วยิ้มก่อนบอกมาเป็นภาษาฝรั่งเศสกับเธอว่า

"เอาแบบนี้ละกันคุณ ผมว่าคุณไปพักก่อนก็ได้แล้วค่อยลงมาทานมื้อเย็น ไป  ผมพาคุณไปที่ห้องเอง  ห้องมิเชลน่าจะจัดการเรียบร้อยแล้ว"

ซึ่งพ่อบ้านได้แจ้งมาว่าจัดห้องให้หญิงสาวเรียบร้อย  ยูจึงพาเธอขึ้นบันไดไปที่ชั้น 3 และเลี้ยวไปทางห้องตนเองแต่เดินเลยไปห้องถัดไปก่อนจะบอกกับแพงว่า

"นี่ไงห้องพักคุณ"

เธอมองไปทั้งชั้นก่อนถามว่า

"บ้านนี้มีห้องนอนกี่ห้องละ"

ยูนิ่งคิดก่อนตอบว่า

"จำไม่ได้ เฉพาะชั้นนี้ถ้าหันหน้าไปทางหน้าบ้านคือแบบที่เรายืนอยู่ตรงนี้  ห้องมุมสุดฝั่งขวาเป็นของแด้ดกับมัม ส่วนมุมสุดฝั่งซ้ายเป็นของพ่อกับแม่ผม  2 แล้วนะ  ส่วนห้องนี้ "

ยูพูดพร้อมชี้ไปที่ห้องตนเอง

"ห้องผม  และห้องนี้เป็นห้องสำหรับแขกมาพักและถัดไปทางอีกก็มีอีกห้อง  ซึ่งตรงนี้จะเห็นหน้าบ้าน  ส่วนด้านนี้ทางฝั่งหลังบ้านก็มี อีก 4 ทั้งหมดกี่ห้องละ"

"9 ห้องเลยหรือ"

"ใช่แล้ว มาผมพาคุณเข้าไปเอง"

"เฮ้ยห้องนอนชั้น"

ยูทำหน้าแปลกๆก่อนจะตอบเธอไปว่า


"อะไรอีกละคุณ  ผมจะเข้าไปบอกว่าอุปกรณ์มันมีอะไรบ้าง  ถ้าไม่บอกคุณก็โวยวายอีก"

ยูพูดพร้อมเปิดประตูเข้าไปซึ่งแพงพบว่าเป็นห้องที่กว้างและตกแต่งอย่างสวยงามเตียงขนาดใหญ่ปรากฏให้เธอเห็นส่วนเป้ของเธอนั้นถูกนำมาวางบนเก้าอี้ข้างๆโต๊ะตัวขนาดย่อม  ยูเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วเรียกเธอให้มาดูของที่วางอยู่บนโต๊ะ

"คุณนี่รีโมทฮีทเตอร์นะ  อันนี้รีโมทแอร์ ส่วนนี่รีโมททีวี  แล้วนี่โทรศัพท์ภายใน"

ยูชี้ไปที่โต๊ะข้างๆหัวเตียงแล้วสอนวิธีใช้รีโมทกับกับเธอจนเธอเข้าใจก่อนจะบอกว่า

"ส่วนโทรศัพท์ใช้โทรติดต่อภายในบ้าน  ถ้าคุณจะโทรหาผมก็กด 1สามตัว"

เธอพยักหน้ารับรู้  ก่อนที่ยูจะบอกว่า

"เอาละคุณพักก่อนก็ได้  สักทุ่มหนึ่งค่อยลงไปทานมื้อเย็นกัน  ผมจะไปรอที่ห้องโถงนะ ถ้าหิวน้ำก็ดูในตู้เย็น"

เธอมองตามที่อีกมุมของห้องมีตู้เย็นขนาดย่อมๆอยู่ 1 ตู้ แล้วยูพูดต่อมาว่า

"งั้นผมขอตัวไปโทรศัพท์หาแม่ผมก่อนนะ  ที่เมืองไทยตอนนี้ก็จวนจะเที่ยงแล้ว"

พูดจบยูเดินออกจากห้องแต่หญิงสาวบอกมาทันทีว่า

"ยูขอบคุณ คุณมากเลยนะวันนี้ที่พาชั้นเที่ยว"

"ไม่เป็นไรหรอกคุณ  ผมก็ได้เที่ยวเหมือนกัน  ผมไม่ได้เที่ยวแบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน พักให้ตามสบายเลยนะคุณ"

ยูพูดจบเดินออกจากห้องทันที  หญิงสาวมองตามและเธอเดินกลับไปที่หน้าต่างพร้อมมองไปที่สนามอันกว้างใหญ่ ซึ่งเธอเห็นทั้งลานจอดคอปเตอร์และอีกด้านเธอเดาว่าคงเป็นสนามขี่ม้าและศาลาทรงไทยแพงพึมพัมออกมาว่า

"สงสัยมีม้าให้ขี่ด้วยแฮะ"

ถึงแม้จะเข้าสู่ยามเย็นแต่ภาพที่เห็นก็สร้างความประทับใจให้กับเธอยิ่งนักโดยเฉพาะเมื่อมองไปที่ตัวเมืองและทะเล  แต่แล้วบางอย่างก็เข้ามาครอบงำสร้างความวิตกให้กับเธอหญิงสาวเดินไปนั่งบนเตียงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วดูรูปที่ถ่ายไว้ในวันนี้เธอตัดสินใจที่จะนำรูปที่เธอถ่ายคู่กับยูมาเป็นหน้าจอแล้วบอกกับตัวเองว่า

"เท่านี้ก็พอแล้วนะแพง"

เธอพูดพร้อมเอนกายนอนลงบนเตียงที่อ่อนนุ่มพร้อมดูภาพที่หน้าจอโทรศัพท์ด้วยความสุขใจแม้จะมีความวิตกเรื่องอื่นเข้ามารบกวนแต่เธอก็พยายามสลัดทิ้งไป


จนไว้เวลาจวน 1 ทุ่มหญิงสาวที่หลังจากได้เข้าห้องไปล้างหน้าตาให้เรียบร้อย  แต่ในห้องน้ำเธอก็ไม่วายบ่นออกมาว่า

"ห้องน้ำใหญ่กว่าห้องที่เราอยู่อีก  จะรวยไปถึงไหนกันนะห้องนอนก็หรูยิ่งกว่าโรงแรม 5ดาวอีก"

เธอเดินลงบันไดและพบว่ายูนั้นยืนรอเธออยู่ที่ห้องโถงแล้วพอเธอเดินลงไปถึงยูบอกว่า

"ไปกินข้าวกัน"

แล้วเดินนำเธอไปอีก จนผ่านห้องอาหารขนาดใหญ่ที่มีโต๊ะยาวตั้งอยู่  เธอจึงถามไปว่า

"คุณเราไม่ได้กินกันที่นี่หรือไง"

"กินทำไม ที่ห้องนี้น่าเบื่อจะตาย  ไปกินในครัวดีกว่าสบายกว่าเยอะ"

ยูตอบมาด้วยน้ำเสียงที่พูดไปหัวเราะไป ก่อนจะพาเธอไปห้องครัวที่เธอเห็นโต๊ะกลมอยู่กลางห้องบนโต๊ะมีอาหารจัดวางอยู่เรียบร้อย พร้อมกับมิเชลที่กำลังก้มหน้าปรุงอาหารอยู่บนเตาที่อยู่มุมห้อง ยูพยักหน้าชวนเธอไปนั่งที่โต๊ะซึ่งมีอาหารอยู่หลากหลายแต่เธอเห็นสิ่งหนึ่งที่อยู่ในชามขนาดใหญ่ เธอถึงกับอุทานว่า

"เฮ้ยคุณ  อย่าบอกนะว่านี่คือต้มยำกุ้ง"

"ใช่แล้วฝีมือมิเชล  อย่างอื่นก็มาจากร้านที่เราไปกินวันนี้ไง  ผมสั่งไว้แล้ว ผมเห็นคุณชอบแซลม่อนย่างเลยบอกให้ทางร้านทำมาส่ง"

มิเชลที่เดินมาพร้อมโถใส่ข้าวได้ตอบความสงสัยของเธอก่อนที่เธอจะถามว่า

"ต้มยำกุ้งแม่จูเนียร์เป็นคนสอนให้คะ สอนให้ทั้งดิฉันทั้งมาดามคะ ตั้งแต่จูเนียร์มาอยู่ที่นี่ เราจะมีอาหารไทยทุกวันคะ"

ยูพยักหน้าและบอกเสริมว่า

"ที่บ้านนี้จะมี อาหารไทยอย่างน้อยวันละมื้อครับ  และแด้ดก็ชอบ  มิเชลจะเป็นคนทำให้  เพราะแม่ผมสอนไว้ ตักข้าวเลยครับมิเชล"

ประโยคหลังยูหันไปบอกแม่บ้าน  ข้าวสวยร้อนๆถูกตักใส่จาน แพงมองหน้ายูเหมือนจะให้อธิบาย

"คืออย่างที่บอกไงคุณเราจะมีอาหารไทยทาน  ก็ต้องมีข้าวพวกนี้นะเป็นข้าวหอมมะลิ  ผมเอามาเองแหละใส่เครื่องบินมา 10 กิโล20กิโลแล้วแต่บางครั้งถ้าหมดจริงๆก็เอาจากโรงแรมมาก่อน ส่วนพวกวัตถุดิบนะ  บางอย่างแม่ผมก็ส่งมาให้ หรือไม่ก็ฝากมากับผม   บางอย่างเราก็ปลูกเองได้  พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปดูเรือนเพาะชำที่อยู่หลังบ้าน อย่างมะกรูดนี่แม่ผมก็ชำมาปลูกที่นี่ เอาทานสิคุณกำลังร้อนๆ"

หญิงสาวทานข้าวสวยร้อนๆพร้อมตักต้มยำกุ้งมาทานอย่างเอร็ดอร่อย  และเธอยอมรับรสชาติไม่แพ้กับที่แม่เธอทำเลยพร้อมกับชมมิเชลไม่ขาดปากก่อนจะบอกว่าเธอนั้นก็พอทำกับข้าวได้ไม่กี่อย่างแต่ทำอร่อยสู้แม่ไม่ได้ส่วนน้องสาวเธอนั้นทำไม่เป็นเลย ยูบอกว่าแม่ของตนเองนั้นทำอาหารเก่งเพราะได้มาจากยายเหมือนกับมัมที่ทำอาหารเก่งเหมือนกัน  พอทานไปได้สักพักเธอเงยหน้าบอกกับชายหนุ่มว่า

"ยูมีโค้กหรือเปล่า ชั้นอยากกินนะ"

"ตู้เย็นข้างหลังคุณนั่นไง  เปิดเลย"

เธอหันไปมอง  แล้วพบแต่ผนังห้อง  พร้อมนึกว่า อีตาจูเนียร์กวนประสาทเธออีกแล้ว แพงหันมาทันทีก่อนจะบอกว่า

"ไหนละ  มีแต่ผนังอย่ากวนสิ"

"ก็นั่นไงคุณ  ประตูตู้เย็นเราทำแบบบิ้วท์อิน คุณหันไปก็เจอ ดูดีๆจะเห็นด้ามจับประตู"

เธอหันไปมองและจริงๆอย่างที่ยูบอก  เธอลุกขึ้นและเอื้อมมือไปจับและดึงออกเป็นตู้เย็นจริงๆ  และมีเครื่องดื่มนานาชนิดเรียงรายอยู่ข้างใน แต่เธอสังเกตเห็นเหยือกขนาดใหญ่2-3เหยือกที่คาดว่าน่าจะเป็นน้ำผลไม้วางอยู่ติดๆกัน  หญิงสาวหยิบโค้กกระป๋องออกมาด้วยใบหน้าที่เขินอายก่อนจะพึมพัมว่า

"ใครจะไปรู้ละ  ที่บ้านไม่เคยมีแบบนี้"

ดีที่ยูไม่หัวเราะอะไรออกมาชายหนุ่มก้มหน้าทานข้าวโดยไม่สนใจแต่มิเชลรีบนำแก้วกับหลอดดูดมาให้เธอทันที  ทำเอาแพงพูดขอบคุณแทบไม่ทัน  และยูก็บอกมาว่า

"คุณชอบดื่มน้ำพวกนี้หรือ"

"ใช่ทำไมหรือ"

"ผมนึกถึงตอนผมเด็กๆ นะ  มัมไม่ค่อยให้ผมดื่มน้ำพวกนี้เพราะมัมบอกว่ามันทำลายสุขภาพ  แต่ก็ยอมให้ผมดื่มนะ  แต่มีโควต้าถ้าหน้าร้อน อาทิตย์ละ 3 กระป๋อง หน้าหนาวอาทิตย์ละ 2 กระป๋อง และห้ามดื่มติดต่อกันนะ มัมจะให้ผมดื่มพวกน้ำผลไม้คั้นสดๆมากกว่า  ผมเลยชอบดื่มน้ำแอปเปิ้ลคันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ผมโตมากับน้ำผลไม้  มัมจะทำให้ผมทานเองหรือไม่ก็มิเชลจะทำไว้ให้"

แม่บ้านที่ยืนอยู่ไม่ห่างก็พูดเสริมมาทันที

"จริงคะคุณแพง  มาดามไม่ชอบของพวกนี้ อาหารฟาสฟู้ดก็เหมือนกัน  มาดามสั่งห้ามนำมากินในบ้านแต่นานๆทีก็อนุโลมให้แต่สองคนพ่อลูกชอบแอบไปกินกันนอกบ้าน  ตอนนี้ก็เหมือนกัน  ชอบแอบสั่งแต่ไม่บอกดิฉัน  น่าตีทั้งพ่อทั้งลูกเลย  รู้ว่าของพวกนี้ไขมันเยอะ ก็ยังชอบทานกัน"

เธอได้แต่ยิ้มๆเพราะอาหารพวกนี้เธอก็ชอบอยู่แล้วก่อนจะถามยูต่อไปว่าส่วนใหญ่มิเชลจะเป็นคนทำอาหารหรือ ยูส่ายหน้าแล้วตอบเธอไปว่า

"ไม่หรอกอย่างที่ผมบอกคุณเมื่อตอนกลางวันไง  เรื่องอาหารมิเชลจะคอยดูแล ส่วนใหญ่จะสั่งให้โรงแรมหรือร้านอาหารมาส่งไม่ก็ให้เชฟมาทำ แต่มิเชลจะคอยทำอาหารไทยให้แด้ด   อย่างแซนวิสไก่งวงที่คุณทานตอนเช้าก็มาจากโรงแรมนะ"

เธอพยักหน้าแล้วบอกต่อไปว่า 

"สงสัยพวกคุณมาทานข้าวกันนี่กันบ่อยละสิ  แล้วห้องข้างนอกละ ทำซะใหญ่เชียว"

ครั้งนี้แม่บ้านเป็นคนตอบมาว่า

"ปกติจะทานกันที่นี่คะ  ส่วนห้องข้างนอกไว้เวลามีงานหรือมีแขกคะ ส่วนห้องนี้ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวหรือคนที่สนิทจริงๆก็จะไม่ได้มาทานคะ  เพราะที่นี่ทั้งคุณท่านทั้งมาดามถือว่าเป็นที่ส่วนตัวเฉพาะคะ"

ยูหัวเราะออกมาก่อนจะบอกว่า

"เมื่อปีที่แล้วเพื่อนสนิทผม มาเที่ยวที่นี่แล้วพาลูกมาด้วย"

พอหญิงสาวทำหน้าสงสัย  ยูจึงอธิบายให้ฟังถึงครอบครัวของอ็อดกับรินและความสัมพันธ์ตั้งแต่สมัยเยาว์วัยก่อนจะบอกต่อไปว่า

"วันแรกที่มาถึง  พีนัสเห็นโต๊ะเลยแอบไปกระซิบกับไอ้รินว่าอยากกินข้าวที่โต๊ะตัวยาวเพราะอยากเหมือนในหนัง  ผมรู้ก็เลยจัดให้หลานทันที  ให้นั่งหัวโต๊ะด้วยนะ ที่ประจำของแด้ดเลย แด้ดมานั่งข้างๆแทน พอกินไปกินมา พีนัสทำหน้าจ๋อยแล้วบอกไอ้รินว่า คุณแม่ครับ  เปลี่ยนไปกินที่อื่นได้ไหม  พีนัสเมื่อย แด้ดได้ยินเลยจัดการย้ายมาที่นี่ให้ตามความประสงค์ของหลานทันที  ก็น่าเห็นใจหัวโผล่มานิดเดียวจะกินต้องเขย่งตัว แม่มันนะหน้าหงิกเลยเกรงใจแด้ดแต่ผมกับไอ้อ็อดหัวเราะกันไม่หยุด"

"อ้าวแล้วไม่จัดเก้าอี้เด็กให้ละ"

"เตรียมให้แล้วเค้าไม่เอาอยากทำแบบในหนังที่เคยดู"

ยูพูดไปหัวเราะไปเมื่อนึกถึงหลานชายตัวน้อยในวันนั้น ทำเอามิเชลหัวเราะไปด้วยเพราะอยู่ในเหตุการณ์และความน่ารักของเด็กน้อย   แพงได้แต่ยิ้มเพราะตนเองไปสะดุดใจกับคำว่า"คนในครอบครัว"และ"คนสนิท"ที่มิเชลเป็นคนพูด  แต่เธอก็ไม่ตอบอะไรก้มหน้าทานอาหารต่อไป จนเธอทานอิ่มซึ่งยูเห็นว่าเธอชอบต้มยำกุ้งมากเลยถามไปว่า

"เอาอีกไหมคุณ"

หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมตอบไปว่า

"ตัวชั้นจะแตกอยู่แล้ว

"งั้นนั่งพักแป็บนึงแล้วผมจะพาเดินย่อย"

เธอไม่ตอบยูแต่หันไปชวนแม่บ้านคุยถึงเรื่องการทำอาหารโดยที่ยูนั่งฟังอย่างเงียบๆ จนผ่านไปครู่ใหญ่จึงเอ่ยปากชวนแพงไปเดินดูภายในบ้าน  หญิงสาวส่งยิ้มให้มิเชลแล้วเดินตามจูเนียร์ของบ้าน ออกไป  ยูพาเธอเดินเข้าไปที่ห้องอาหารก่อนจะชี้ให้ดูแล้วบอกว่า

"เมื่อก่อนส่วนใหญ่เราจะใช้ห้องนี้สำหรับจัดเลี้ยงพวกแขกสำคัญๆนะคุณ พวกนักธุรกิจนักการเมืองระดับสูง หรือพวกเชื้อพระวงศ์ ถ้าปกติเราก็จะกินกันในห้องครัวนั่นแหละ"

เธอถามมาว่า

"แล้วตอนนี้ไม่มีแล้วหรือไง"

"มีสิคุณ  แต่แด้ดเปลี่ยนไปเป็นที่โรงแรมแทน  เพราะถ้าจัดที่นี่แล้วเราเหนื่อยกันนะ  แด้ดสงสารมัมกับมิเชล  แต่ถ้าเป็นเรื่องหารือลับๆอะไรพวกนี้ ก็มานั่งคุยกันที่นี่ ที่ห้องทำงานของแด้ดถ้ามาหลายๆคนก็ไปที่ห้องสมุด จะได้รอดพ้นสายตาพวกสื่อ  ลานจอดคอปเตอร์นะ  คอปเตอร์ลำใหญ่ๆก็จอดได้บางครั้งพวกแขก VIP ก็จะมากันหลายคนก็เอาคอปเตอร์ลำใหญ่มา  แต่ที่โต๊ะตัวยาวนะตอนเด็กผมใช้เป็นที่เล่น  ตอนที่ไอ้อ็อดมันมาพัก  ผมกับมันก็เอารางรถไฟมาต่อเป็นทางตรงแล้วเอารถไฟมาแข่งกันว่าใครเร็วกว่ากัน"

"แล้วไม่มีใครดุหรือไง"

"โอ๊ยไม่มีหรอกคุณ  เวลาผมเล่นมัมจะปล่อยให้เล่นอย่างเต็มที่นะคุณ ขุดหลุมในสนามไปทั่ว  มัมยังไม่ว่าเลยต้นไม้กี่ต้นปีนได้ก็ปีน ยิ่งตอนไอ้อ็อดมาบ้านแทบพัง"

หญิงสาวพยักหน้าแต่ไม่ถามอะไรต่อ  แล้วยูพาเธอเดินไปที่ห้องโถง เธอเห็นแกรนด์เปียโนตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่  ยูอธิบายก่อนเธอจะถามว่า

"มัมผมชอบเล่นเปียโน  ตอนเด็กๆผมก็ชอบดูมัมเล่นนะเพลินดี"

"แล้วคุณเล่นเป็นหรือเปล่า"

"เป็นสิ  ผมสนใจตั้งแต่เล็กๆแล้ว มัมเลยสอนให้หาครูมาสอนให้ด้วย จากที่ไปดูมัมเล่นใกล้ๆ มัมก็จับผมนั่งตักแล้วเริ่มสอนเมื่อเห็นผมสนใจจริงๆ จนบางทีเราก็เล่นพร้อมๆกัน"

"เล่นให้ชั้นฟังหน่อยสิ"

"ผมเล่นได้แต่เพลงเก่าพวกเพลงคลาสสิคนะ"

"นั่นแหละเล่นให้ฟังหน่อยสิ"

ยูทำตามที่เธอขอก่อนเดินไปที่เปียโนและเริ่มเล่นเพลงที่ตนเองพอจะเล่นได้ให้หญิงสาวฟังซึ่งเป็นพวกเพลงคลาสสิค  ตามที่ตนเองได้เรียนและเล่นได้จนจำขึ้นใจ พอเล่นจบหญิงสาวแกล้งบอกว่า

"เล่นเพลงอื่นได้หรือเปล่าละ  และทำไมเวลาคุณเล่นคุณไม่โยกหัวไปมาด้วยละ  ชั้นเห็นตามคลิปเค้ามีโยกหัวด้วยนะ"

ยูกลืนน้ำลายพร้อมทำหน้าเซ็งๆก่อนจะตอบไปว่า

"เท่านี้ก็พอแล้วคุณ"

เธอยังแหย่ต่อ  และทั้งคู่หารู้ไม่ว่าระหว่างที่กำลังล้งเล้งกันอยู่นั้น  ทั้งปาสกาลและมิเชลมาแอบยืนดูอยู่ตรงประตู และมิเชลได้กระซิบกับสามีว่า

"คุณแพงน่าจะใช่คนที่ใช่ของจูเนียร์แล้วนะคะที่รัก  เธอไม่เป็นแบบนี้มานานแล้วตั้งแต่มาดามเสีย คาร์รอสบอกว่าเธอหัวเราะแบบเต็มเสียงเมื่อเช้าบนรถ  คุณว่าไงคะ"

"ผมก็ว่าแบบนั้นเหมือนกัน   จูเนียร์คนเดิมกลับมาแล้ว เราไม่ได้เห็นจูเนียร์ที่อารมณ์ดีแบบนี้มาหลายปีแล้ว"

"ใช่คะ โซเฟียร์ยังแอบโทรมาถามเลยพอชั้นบอกไปโซเฟียร์หัวเราะชอบใจใหญ่ คงดีใจที่เห็นเพื่อนกลับมาเป็นเหมือนเดิมขนาดคุณท่านก็โทรมาถาม  พอรู้ว่าคุณแพงค้างก็กำชับให้ดูแลอย่างดีที่สุด คุณแพงเธอเป็นคนช่างคุยช่างซักถามในสิ่งที่ควรถามชั้นฟังเพลินไม่เบื่อเลยคะ"

"นั่นสินะจูเนียร์คนเดิมจากที่เราเห็นแต่เด็กๆกลับมาแล้ว "

ปาสกาลพูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มด้วยความดีใจ  ที่เห็นขวัญใจของครอบครัวคนเดิมกลับคืนมาแล้ว  เพราะผู้หญิงชาวไทยคนนี้  ซึ่งทุกคนที่เห็นต่างลงความเห็นว่าทั้งสวยทั้งน่ารัก  แพงเธอไม่รู้หรอกว่าวันนี้เธอถูกคนในบ้านแอบมองด้วยความชื่นชมขนาดไหน  ส่วนยูนั้นหลังจากเล่นเปียโนแล้วก็พาหญิงสาวเดินไปอีกด้าน และสายตาเธอไปเห็นประตูบานหนึ่งที่อยู่ริมบันไดเธอสะกิดชายหนุ่มแล้วชี้ไปเหมือนคำถาม  ยูบอกมาว่า

"ทางลงไปห้องเก็บไวน์นะ  ไปสิผมพาไป"

เธอเดินตามยูลงไปและพบกับห้องใต้ดินที่เก็บไวน์ จำนวนมาก จนเธอถามว่า

"แด้ดคุณดื่มหรือ"

ยูส่ายหน้าแล้วตอบมาว่า

"เปล่า นานๆดื่มที ปาสกาลจะจัดการให้  แต่ส่วนใหญ่ก็ได้มามีคนมาให้ก็เก็บไว้  พอมีงานเลี้ยงก็เอาไปเปิด ไม่ก็ให้เป็นของขวัญนะคุณ พอได้มาเยอะก็ต้องมาเก็บแบบนี้แหละเรื่องแบบนี้ผมไม่ค่อยรู้เท่าไหร่  แต่แด้ดทำตามคำแนะของพวกเซียนไวน์นะว่าต้องเก็บในห้องใต้ดิน ตอนแรกแด้ดกะจะใช้เป็นห้องนี้เป็นห้องเก็บของนะ"

ยูพูดจบก่อนพาเธอเดินขึ้นไป จนไปสุดทางเดินของตึก และยูอธิบายว่า ทางออกด้านข้างด้านนี้จะเป็นทางไปสนามยิงปืน โรงยิมสระว่ายน้ำกับคอกม้า ส่วนทางออกด้านครัวจะเป็นทางไปคอกเลี้ยงสุนัข

"อ้าวคุณเลี้ยงหมาด้วยหรือ ชั้นไม่ได้ยินเสียงเลย"

"ใช่  ไว้พรุ่งนี้ผมพาไปดู  เราเลี้ยงทั้งตัวเล็กกับตัวใหญ่ เกือบๆ20ตัว   ที่ไม่ได้ยินเพราะยังไม่ได้ปล่อยเราปล่อยเป็นเวลาคุณ  พรุ่งนี้ค่อยพาไปดู"

ก่อนจะชี้ไปที่ห้องใหญ่ห้องหนึ่งที่พึ่งเดินผ่านมาพร้อมอธิบายว่าห้องนี้เป็นห้องนอนของปาสกาลกับมิเชล  ยูอธิบายเพิ่มไปว่าตอนย้ายมาใหม่ๆแด้ดกับมัมจะให้ไปพักบนชั้น 3 แต่ทั้งคู่ไม่ยอมบอกว่าอยู่ข้างล่างแล้วดูแลบ้านได้ง่ายกว่าเลยต้องยอม  แต่ห้องนั้นตกแต่งอย่างดี ส่วนห้องถัดไปจะเป็นห้องทำงานของเลขานุการและตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโซเฟียร์จะเป็นคนใช้ห้องนี้ทำงาน  แพงจึงทวนชื่อของโซเฟียร์  ยูเลยอธิบายถึงความเป็นมาของโซเฟียร์และแม่ให้เธอฟังโดยละเอียดและพยายามซ่อนพิรุธไม่ให้เธอเห็นซึ่งโชคดีที่แพงไม่ทันสังเกต ว่ายูมีพิรุธอยู่เล็กน้อยเมื่อพูดถึงโซเฟียร์   ก่อนจะเดินย้อนไปที่ห้องรับแขก และยูได้อธิบายถึงความเป็นมาของรูปต่างๆที่แขวนและตั้งอยู่บนหลังตู้อยู่ให้เธอฟัง  จนมาหยุดที่รูปหนึ่ง  ในภาพจะเห็นแม่ของยูนั่งอยู่บนเตียงและมีแด้ดกับมัมที่อุ้มเด็กวัยแบเบาะคนหนึ่งอยู่ ยูบอกว่า

"ภาพนี้ ผมพึ่งเกิดได้ไม่กี่ชั่วโมงและพ่อผมเป็นคนถ่ายไว้"

"งั้นแสดงว่า  แด้ดกับมัมคุณอยู่ตั้งแต่วันที่คุณเกิด"

"ใช่แล้ว ทั้งคู่รับผมเป็นพ่อกับแม่ทูนหัวตั้งแต่แม่ผมท้องเลยนะ"

หญิงสาวพยักหน้าแล้วเธอมาสะดุดกับอีกภาพหนึ่ง เป็นภาพของยูในวัยเด็กที่กำลังอยู่บนหลังสุนัขพันธ์เซนเบอร์นาร์ดตัวใหญ่และมีสุนัขพันธ์เดียวกันยืนข้างๆ ยูอธิบายว่า

"ภาพนี้ตอนผม เกือบจะ 5ขวบได้ ตัวที่ผมขี่ชื่อทิกเกอร์ ส่วนตัวข้างๆชื่ออาเธน่า แด้ดเป็นคนถ่ายให้  ผมเห็นแด้ดขี่ม้าไงผมเลยอยากขี่มั่งแต่ตอนนั้นแด้ดไม่ยอมให้ผมขี่ม้ายกเว้นขี่ไปกับแด้ด  ผมเลยเอาหมามาขี่แทน  ผมชอบแอบหลบไปที่คอกสุนัขและปล่อยเอา 2 ตัวนี้มาขี่  เพราะตัวเค้าใหญ่ไง"

เธอหัวเราะออกมาก่อนถามว่าแล้วไม่มีใครว่าหรือไง  ยูก็บอกว่าห้ามเป็นพิธี เพราะสองตัวนี้เชื่องมากและรักยูมาก มัมก็ปล่อยให้ยูเล่นก่อนจะบอกว่า

"ตอนเค้าตายนี่ผมร้องไห้ไม่หยุดเลยนะ แต่ยังดีที่เค้ามีทายาทไว้ ผมเลี้ยงไว้ตัวหนึ่งชื่อบลู  พรุ่งนี้คุณก็จะได้เจอ  บลูหน้าตาเหมือนพ่อเค้ามากเลย นิสัยก็เหมือนกัน"

แล้วชี้ไปที่อีกรูปเป็นรูปยูนอนหลับบนเก้าอี้และมีสุนัขทั้งคู่นอนเฝ้าไม่ห่างพร้อมบอกว่า

"บางครั้งที่ผมแอบมาเล่นกับพวกเค้า  ผมก็เล่นจนหลับไปเลยนะ  เค้าก็นอนเฝ้าใครมาใกล้ๆก็ขู่ขนาดคนเลี้ยงยังไม่ให้เข้าใกล้เลย  ต้องให้แด้ดไม่ก็มัมมาอุ้มผมเค้าถึงยอม  แด้ดก็เลยถือโอกาสถ่ายรูปไว้  แต่พ่อกับแม่ผมบ่นว่าผมซนเกิดเหตุ กลัวผมจะปล่อยพวกตัวที่ดุๆแล้วมันจะขย้ำผม  แต่พ่อกับแม่ไมรู้ว่าผมเล่นได้ทุกตัวเพราะพวกนี้จะถูกฝึกให้เชื่อฟังผมตั้งแต่เด็กๆแล้วคือ ตั้งแต่พวกเค้าเริ่มจะโตจะเห็นผมตลอด ผมจะคอยเอาขนมเอาของกินไปป้อนไง ทุกรุ่นจะเป็นแบบนี้ตลอด"

"แล้วที่เมืองไทยคุณเลี้ยงหรือเปล่าละ"

"เลี้ยงสิ3 ตัว อัลเซเชี่ยน 1ตัว โกลเด้น 2ตัว อัลเซเชี่ยนเอาไปจากที่นี่เป็นคอกเดียวกับซีซ่าร์ผมเลยให้ชื่อว่าจูเลียส  มันฉลาดพอๆกัน  แต่จูเลียสมันฉลาดแกมโกงกว่าซีซ่าร์"

เธอพยักหน้าฟังชายหนุ่มเล่าให้ฟังถึงความฉลาดของสุนัขที่ซื่อซีซ่าร์และความฉลาดแกมโกงของตัวที่จูเลียสที่ว่าเป็นตัวนำในการขุดดินแต่พอโดนจับได้มันก็ทำท่าโทษโกลเด้นว่าเป็นคนขุดมันไม่เกี่ยว  แล้วชี้ไปที่อีกรูป ซึ่งมีแม่ทูนหัวของยูอุ้มยูและผู้หญิงอีกคนอุ้มเด็กอีกคนอยู่ ยูบอกว่า

"นี่ไงโซเฟียร์  เราโตมาพร้อมๆกัน  และนี่แม่ของโซเฟียร์ เล็กๆเราก็นอนกินนมบนเปลเดียวกัน ผมไม่เคยมองโซเฟียร์เป็นลูกน้องเลยนะ  เธอเป็นเพื่อนสนิทของผมอีกคนหนึ่ง"

แต่เธอไปเห็นอีกรูปหนึ่งที่เป็นผู้ชายที่ใบหน้าดูดุ ผมสีทอง รูปร่างล่ำสันและสวมหูฟังอยู่ในชุดสูทและกำลังอุ้มเด็กที่น่าจะเป็นยูที่กำลังหลับอยู่บนบ่าท่ามกลางผู้คนอีกหลายคน แพงชี้ไปเหมือนจะถาม  ยูยิ้มด้วยใบหน้าที่เศร้าแล้วบอกว่า

"นี่คือมุลเล่อร์เป็นอดีตหัวหน้าทีมบอดี้การ์ดนะ  เป็นคนเยอรมัน  ภาพนี้เกิดหลังจากงานเลี้ยงเลิก  ผมตอนนั้น 5ขวบได้ร้องงอแงจะตามมัมกับแด้ดไปงานเลี้ยงให้ได้   ไม่ยอมอยู่กับพี่เลี้ยงกับมิเชล ร้องไม่หยุด  แด้ดเลยยอม  ที่ไม่อยากพาไปเพราะเห็นผมยังเด็กอยู่  แต่มีชุดตัดเตรียมไว้แล้วนะเลยได้ใส่ชุดนี้หนแรกผูกหูกระต่ายด้วย  มัมกำชับว่าถ้าผมไปห้ามร้องขอกลับบ้าน ห้ามงอแง  และมุลเล่อร์ก็เห็นด้วยที่จะพาผมไปด้วย แต่ผมก็ไม่งอแงนะ  สนุกจะตายเจอคนเยอะดีใครๆก็มาขออุ้ม พองานเลิกแด้ดบอกว่าผมแบตหมดคือหลับสนิท  มัมกับแด้ดต้องลาคนที่มาร่วมงาน  จะอุ้มผมก็ไม่สะดวก  มุลเล่อร์เลยเป็นคนอุ้ม  พอดีนักข่าวถ่ายภาพไว้เลยเอามาให้  มัมก็เอามาติดโชว์ด้วย  ภาพนี้มุลเล่อร์ก็มีที่โต๊ะทำงาน  ที่บ้านที่เยอรมันก็เอาไปติดด้วย"

"แล้วตอนนี้เค้าลาออกไปแล้วหรือ"

ใบหน้าของยูสลดลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนบอกว่า

"มุลเล่อร์เกษียณตัวเองไปหลายปีแล้วครับ5-6 ปีได้เพราะบอกว่าอายุเยอะแล้วอยากไปใช้ชีวิตสงบๆที่เยอรมันบ้านเกิดตอนแรกเราก็ทัดทานนะ ว่าอยากให้อยู่ที่นี่จะได้ดูแลกันได้ เพราะมุลเล่อร์มีแต่หลานที่เป็นลูกของน้องชายดูแล แต่เค้าไม่ยอมก็เราเลยต้องยอม และเสียไปเมื่อปีที่แล้วครับ  จากไปด้วยโรคชราครับ"

หญิงสาวพลอยเศร้าไปด้วยและยิ่งเห็นยูนั้นแสดงออกมาว่าเสียใจอย่างมาก  พร้อมพูดมาว่า

"เสียใจด้วยนะ  แล้วเค้าไม่มีลูกหรือไงถึงต้องไปอยู่กับหลาน"

ยูเอามือไปจับที่รูปก่อนตอบมาว่า

"มุลเล่อร์มีลูกครับ  ลูกชายด้วย เกิดปีเดียวกับผมห่างกันไม่กี่เดือนเหมือนโซเฟียร์  แต่ตอนผม 3 ขวบ ภรรยามุลเล่อร์กับลูกชายรถคว่ำครับ  เสียชีวิตในรถทั้งคู่ เพราะฝนตกหนักถนนลื่นรถแหกโค้ง ที่บาร์เซโลน่านี่แหละครับ  มุลเล่อร์เสียใจมาก ไม่ยอมแต่งงานใหม่ และมาทุ่มเทความรักให้กับผมคนเดียวจนผมเหมือนลูกชาย พอเค้าเสีย มรดกส่วนหนึ่งเค้ายกให้ผมนะ  แต่ผมแบ่งเป็นสองส่วน  ส่วนหนึ่งเอาไปบริจาคให้เป็นทุนการศึกษาของลูกตำรวจกับกรมตำรวจเยอรมัน  เพราะมุลเล่อร์เป็นตำรวจปฏิบัติการพิเศษของเยอรมันมาก่อน  อีกส่วนผมเอาไปบริจาคให้มูลนิธิเด็กกำพร้าที่เยอรมัน  ตอนที่มุลเล่อร์ทำงานอยู่  เค้าดูแลผมยิ่งกว่าไข่ในหินรักผมเหมือนลูก  พอตอนเค้าจากไปผมก็เสียใจพอๆกับตอนที่มัมกับพ่อผมเสียครับ  เวลาผมบินมาที่นี่ถ้ามีเวลาผมจะแวะไปที่เยอรมันก่อน  ไปเยี่ยมเค้าที่สุสานครับ"


น้ำเสียงที่เศร้าสร้อยของยูทำเอาหญิงสาวนั้นตาแดงออกมาด้วย  แล้วบอกว่า


"เท่ากับ 3 ปีที่ผ่านมานี้คุณสูญเสียคนที่คุณรักปีละคนเลย"

ยูพยักหน้าแล้วพูดเหมือนคนที่ปลงตกว่า

"มันเป็นสัจธรรมไงครับ  ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า  เกิดแก่เจ็บตายมันต้องเกิดกับคนทุกคนในโลกนี้ครับ  เพียงแต่ตอนที่เค้าอยู่อยู่เราก็ทำกับเค้าให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ครับ"

ก่อนจะชวนเธอเดินออกจากห้องรับแขกและจะพาเธอเดินไปที่ชั้นสอง แต่พออกจากห้องสายตาเธอนั้นไปสะดุดกับตู้ปลาขนาดใหญ่ที่อยู่อีกมุมเธอพึมพัมมาว่า

"พึ่งเห็นว่ามีตู้ปลา"

ยูจึงพาเธอไปดูใกล้ๆแล้วบอกว่า

"ตอนผมเด็กๆผมนะรู้สึกสงสารปลาในตู้นี้ที่ต้องว่ายอยู่ในแต่ตู้เลยจะไปปล่อยให้ว่ายที่สระว่ายน้ำในโรงยิม  จัดการเองทุกอย่างลากเก้าอี้มายืนใช้กระชอนตักใส่ถังน้ำที่เตรียมไว้  พอกำลังจะตักมิเชลมาเห็นพอดี ร้องลั่นถามผมว่าจะทำอะไร  พอผมบอกมิเชลห้ามทันทีก่อนจะอธิบายให้ฟังว่าถ้าเอาไปปล่อยปลาจะตายเพราะน้ำในสระคลอรีนมันแรง  แด้ดกับมัมรู้เข้าหัวเราะใหญ่  ก่อนจะมาสอนผมเรื่องคลอรีน"

ยูเล่าไปหัวเราะไปหญิงสาวเลยบอกว่า

"คุณนี่ตอนเด็กก็ซนเหมือนกันนะ"

ยูไม่ตอบอะไรแต่พาเธอขึ้นไปชั้นบนก่อนพาไปดูห้องสมุดอันกว้างใหญ่ทำเอาหญิงสาวอุทานออกมา  ก่อนจะพามาหยุดที่ชั้นหนังสือตรงกลางห้องแล้วบอกว่า

"ผมพูดไทยได้อ่านไทยคล่องก็หนังสือพวกนี้แหละ"

เธอมองตามก่อนเอื้อมมือไปหยิบบางเล่มจากชั้นมาดู  ซึ่งเป็นนิยายภาษาไทยหลายๆเรื่อง รวมถึงตำราเรียนภาษาไทยพร้อมกับคำอธิบายของยูที่ว่า  หนังสือพวกนี้ทั้งพ่อกับแม่และแด้ดกับมัมต่างหามาให้ยูอ่าน  เพื่อให้เชี่ยวชาญภาษาไทย จนยูรู้จักวรรณคดีของไทยพอๆกับเด็กไทยที่สนใจทางด้านนี้ แล้วบอกเพิ่มไปว่าทั้งแด้ดทั้งพ่อของตนเองนั้นรักการอ่านทั้งคู่ ทำให้มีห้องสมุดขนาดใหญ่ในบ้านนี้ก่อนจะพาแพงไปที่ห้องของเล่น  ทำเอาตื่นตากับของเล่นนานาชนิดโดยเฉพาะรถไฟที่อยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่ ยูบอกมาว่า

"ห้องนี้มัมปล่อยให้ผมเป็นคนจัดการทุกอย่างตามที่ผมต้องการครับ  จะทำอะไรก็ได้ตามสบาย  "

สายตาของเธอมองไปที่เครื่องบินที่ถูกแขวนอยู่หลายลำ และที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบแบ่งประเภทเป็นพวกๆ  สนามบินจำลองที่อยู่อีกมุมห้องยูพาเธอเข้ามาใกล้โต๊ะรถไฟก่อนจะบอกว่า


"พวกตึกจำลองป่าจำลอง แม่น้ำจำลองนี่ฝีมือผมทั้งนั้นเลยนะแต่แด้ดกับมันก็คอยช่วยทำ  แต่ค่อยๆทำมันขยายตามอายุนะ  ตอนเด็กๆบางครั้งผมนั่งเล่นเพลินๆก็เผลอหลับไปตั้งหลายครั้ง  แด้ดก็จะมาอุ้มไปนอนแต่คุณรู้ไหม  ถ้าผมยังเล่นอะไรอยู่แล้วหลับไปและของเล่นยังอยูในมือนะ  มัมจะไม่เอาออกจะให้ไปนอนกับผมด้วย  เพราะมัมจะบอกทุกครั้งว่าเป็นจินตนาการของผม  ถ้าไม่เอาไปด้วยอาจจะเป็นการทำลายจินตนาการของผมและจะช่วยพัฒนาสมองผมด้วย  พอผมตื่นขึ้นมาก็จะเห็นของเล่นที่ติดมาด้วยตลอดบางชิ้นก็จะเอากลับมาเก็บที่นี่  บางชิ้นก็จะกลายเป็นของแต่งห้องผมเลย ตอนเช้ามัมก็จะถามว่าผมฝันอะไรบ้าง  แต่มันก็จริงๆนะบางทีก่อนจะเผลอหลับผมเล่นเครื่องบินอยู่  พอมันติดมือไปที่ห้อง  ผมก็ฝันว่าได้ขับเครื่องบิน   หรือบางทีมันติดพันกำลังต่อตึกหรือต่อสถานีรถไฟแต่ไม่เสร็จ มันได้เวลานอนแล้วผมก็จะกลับไปนอนนะ  ทำท่าหลับสนิท  พอสักพักก็ย่องลงมาทำต่อ"

"อ้าวแล้วแด้ดกับมัมไม่รู้หรือไง"

"รู้สิถึงทำเป็นประตูกระจกไง  จะได้มาแอบดูผมได้  มัมจะปล่อยนะในเรื่องนี้เพราะถือเป็นการฝึกสมองของผม  เค้า 2คนก็จะมาแอบดู  ส่วนใหญ่ลำบากแด้ด  เพราะผมก็ทนง่วงไม่ไหวหลับคาโต๊ะตลอด แด้ดก็จะอุ้มไปส่งที่เตียงตลอด มีบางครั้งที่ดึกมากแล้วยังไม่หลับมัมก็จะโผล่มาทำหน้าดุๆ แล้วอุ้มผมกลับไปนอน แต่จะบอกนะว่าพรุ่งนี้จะมาช่วยผมทำให้เสร็จ คราวนี้ผมก็หลับจริงๆ  เพราะทนง่วงไม่ไหว"

หญิงสาวถึงกับหัวเราะออกมา  ยูเล่าต่อไปว่า  พอเข้ามาห้องนี้จะช่วยผ่อนคลายได้อย่างมากก่อนพาหญิงสาวไปชมที่ห้องทำงานของพ่อทูนหัว  และเปิดประตูห้องเก็บปืนให้ดูพร้อมอธิบายว่าใครที่มีสิทธิเข้ามาในห้องนี้ได้  พอเอ่ยชื่อมิเกล  ยูก็อธิบายอย่างคร่าวๆ  หญิงสาวดูเฉยๆกับปืนยูจึงบอกมาว่า

"คุณนี่เหมือนกับมัมนะ  ดูเฉยๆกับปืน  มัมนะไม่ชอบเลยขนาดแด้ดสร้างสนามยิงปืนยังไม่ค่อยชอบใจ  พอแด้ดจะให้มุลเล่อร์สอนผม  มัมก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่แต่ต้องยอมเพราะแด้ดบอกว่าผมต้องเรียนรู้แต่มัมมองว่าผมมีบอดี้การ์ดอยู่แล้วไม่ต้องเรียนก็ได้ สนามยิงปืนนะพวกการ์ดจะไปใช้ซ้อมยิงปืนกันบ่อยๆ  แต่ผมจะไปเองโดยพละการไม่ได้นะมัมห้ามเด็ดขาด  ถึงจะไม่ยิงแค่ไปดูเฉยๆต้องให้มุลเล่อร์พาไปไม่ก็แด้ด แต่กว่าจะได้เรียนจริงๆก็ 10 ขวบแล้ว  มุลเล่อร์เป็นคนสอนให้"

"คุณชอบยิงปืนหรือ"

"เปล่าผมเฉยๆนะ  แต่เด็กผู้ชายไงคุณปืนรถถังเครื่องบินหุ่นยนต์ มันเป็นสิ่งดึงดูดอยู่แล้ว เห็นเค้ายิงปืนก็อยากดูอยากยิงไง"

ก่อนที่เธอจะมองไปที่ภาพยูที่ถ่ายกับพ่อและแม่ทูนหัวบนผนังแล้วนึกว่า

"มีภาพเกือบทุกห้องเลยแฮะ  มิน่าถึงรักมาก"

ยูจัดการปิดล็อคประตูห้องเก็บปืนแล้วพาหญิงสาวไปที่ห้องทำงานของพ่อตนเอง  หญิงสาวเงยไปเห็นภาพพ่อของยูในกรอบสีทอง ที่แขวนบนผนังหลังโต๊ะทำงาน เธอได้ยกมือไหว้ ยูหันมามองก่อนบอกว่า

"ห้องทำงานพ่อผม  แต่ตอนนี้กลายเป็นห้องทำงานของผมแล้ว  นั่งสิคุณ"

ยูชี้ไปที่เก้าอี้หรูตัวใหญ่หลังโต๊ะหญิงสาวส่ายหน้าก่อนจะบอกมาว่า

"ไม่เอาอะ  เก้าอี้คุณ คุณก็นั่งสิ"

"นั่งเหอะผมนั่งมาตลอดแล้ว อีกอย่างผมอยากให้พ่อมองเห็นหน้าผมด้วย"

หญิงสาวทำตามที่ยูบอกยูนั่งตรงข้ามพอเห็นเธอมองภาพในกรอบบนโต๊ะ ยูบอกว่า

"ในภาพผมขวบเศษๆ กลับไปเยี่ยมเมืองไทยครั้งแรกนะ"

ก่อนที่เธอจะเงยหน้าแล้วบอกว่า

"แม่คุณนี่สวยนะ  เคยทำงานอะไรหรือ"

ยูยิ้มออกมาก่อนจะตอบว่า

"แอร์โฮสเตสครับ"

"อ้อมิน่าถึงสวยเหลือเกิน"

ยูนั่งพิงเก้าอี้แล้วนึกย้อนไปตอนช่วงสายตอนที่พาหญิงสาวมาถึงบ้าน ตอนที่ยูขึ้นมาเอาผ้าพันคอไปให้เธอ ยูได้โทรหาโซเฟียร์เพื่อให้ทำเรื่องยกเลิกเที่ยวบินไปแมดริดในเย็นนี้เปลี่ยนไปเป็นช่วงบ่ายพรุ่งนี้แทนเพราะยูจะแวะไปส่งแพงก่อนกลับเมืองไทยและโทรไปหาแด้ดว่าวันนี้ที่บ้านจะมีแขกมาพัก  ทำให้โรแบร์โต้กำชับให้ดูแลแพงอย่างดีที่สุดเพราะที่บ้านไม่มีแขกมาพักนานมากแล้ว  ก่อนจะบอกไปยังหญิงสาวว่า

"แพงคุณคงจำได้สินะว่าตอนที่ผมไปส่งคุณที่บ้านครั้งแรกผมบอกคุณว่า เรื่องมันยาวว่าทำไมผมถึงพูดได้ หลายภาษา ทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกับความเป็นมาของผมจนมากลายเป็นทายาทของตระกูลอภิหาเศรษฐีของสเปนได้"

เธอพยักหน้าแล้วบอกว่า

"ใช่ชั้นอยากรู้จริงๆ  ว่าจู่ๆทำไมคุณถึงมาโตที่นี่จนมาถึงทุกวันนี้"

"งั้นผมจะเล่าให้ฟังครับ  มันไม่ลึกลับอะไรหรอก ทุกอย่างมันเริ่มจาก....."

sniperteam

ผมเริ่มประติดประต่อเรื่องของยูได้ทีละน้อยทีละน้อย และแพงก็เป็นผู่หญิงที่เหมาะกับยูดีครับ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆ เนื้อเรื่องชวนติดตาม จนใกล้จะจบละ ขอบคุณมากครับ

naitoom

เปิดมาเจอรีบเปิดอ่าน เพียงอ่านหมายเหตุผู้ประพันธ์ตอนต้นเรื่อง ยังไม่ทันได้อ่านเนื้อเรื่อง
ก็รีบจองที่มาเม้นท์ก่อน ที่ผู้ประพันธ์ว่าตอนที่เหลือยาวมากจนต้องเป็น 3 ตอน
คงจะมิใช่เพราะยังมีอุปสรรคในความรักของ ยูกับแพง อีกนะครับ ลุ้นๆ เชียร์ ให้ Happy Ending

elviswhat

เป็นการเปิดตัวแพงกลาย ๆ เลยก็ว่าได้ พาว่าที่คุณนายมาพบเจอคนในบ้าน

tanavong

ปรกติ ผมจะเข้ามาในบอร์ดนี้หลังจากเลิกงานแล้ว
เพราะว่าเป็นช่วงผ่อนคลายหลังจากทำงาน โดยที่ในระหว่างวันก็จะไม่เข้ามาดู และเข้าใช้งานด้วยเครื่องพิเศษอีกเครื่อง
พอเปิดมาเจอเรื่องนี้ก็จะอ่านไป ทำแพล๊งไปจนเมื่อยพุง แล้วก็นอนอ่านบนพื้นในห้องนอนอย่างสบายใจ
มันช่างเป็นโลกส่วนตัวที่ลี้ลับ และไม่อาจบอกใครได้ว่าชอบอ่านเรื่องแนวนี้
มันก็เป็นหน้ากากอีกหน้าหนึ่งของปุถุชน คนธรรมดาเนอะ
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีดีให้ได้อ่านครับ

tacklove

เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมตั้งใจอ่านทุกตัวอักษร เป็นเรื่องวิถีชีวิตที่น่าติดตาม ไม่เวอร์จนเกินไป ยังแอบคิดเลยว่า ตัวละครในเรื่องน่าจะมีอยู่จริงด้วยซ้ำไป ดีครับชอบ

micky


633sqd

ฝึกไว้เตรียมรับงานแต่เด็กเลย อ่านแล้วมีความสุขตามไปด้วยแต่อย่าหักมุมตอนจบนะ

Pongsathorn Weerahong

อ่านแล้วเพลิดเพลิน ขอบคุณบทประพันธ์ดี ใส่ใจในรายละเอียด มีที่มาที่ไป ขอปรบมือให้ครับ

devilzoa

แพงก็ชอบยูนะแต่เหมือนกับว่า มองว่าตนเองไม่มีอะไรคู่ควรกับยูเลย
ส่วนยูไม่มีคำอธิบาย

wattana2015

 ::Reader::  อืมม์  อ่านไปน้องแพงนี่มีนิสัยเปิดเผยดี  ไม่เสแสร้งรักชอบอะไรชัดเจนดี  เป็นคนที่หายากในสมัยที่ทุกคนสวมหน้ากากเข้าหากัน   ::Shy::

swss2511

ความจริงต่างๆที่ว่าที่ภรรยาต้องรับรู้กำลังจะได้รับการบอกเล่าแล้ว ช่วงนี้หวานๆค่อยๆทำคะแนน

tetete

จบแบบอารมณ์ค้าง ตั้งหน้าตั้งตารอตอนใหม่เลยครับ

durocman

รีบมาเร็วๆนะครับ ขออย่าให้รอนาน

azerothx

ปูเนื้อเรื่องมาดีมาก สนุกและหน้าติดตามมากครัว  ::Thankyou::