รวมรูปตุ๊กตายาง
https://xonly8.com/index.php?topic=180069.0 
ตุ๊กยางตัวละ 5 แสน + ภาษีนำเข้าอีก 40% อายุการใช้งาน 5 ปี โดยประมาณ
เท่ากับเฉลี่ยปีละ 140000 เอาทุกวัน ก็ 383.50 บาท ตกเดือนละ 11500 เท่ากับลงอ่าง 4-8 รอบรอบละ 1-2 ชม.

สังคมญี่ปุ่นกำลังป่วย? ไปฟังเหตุผล ชายซามูไรขอหย่าเมีย ไปมีรักกับตุ๊กตายาง โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2560 18:29 สำนักข่าวต่างประเทศ
อ่านข่าวต่อได้ที่:
https://www.thairath.co.th/content/991298สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน ความรักชวนพิลึกพิลั่น ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ระหว่าง มนุษย์และตุ๊กตายาง โดยพ่อหนุ่มคนแรกที่ไปพบรักกับสิ่งไม่มีชีวิตนี้ มีชื่อว่า มาซายูกิ โอซากิ หนุ่มนักกายภาพบำบัดชาวญี่ปุ่น วัย 45 ปี ที่ปัจจุบันได้ร่วมหอลงโรงกับ ภรรยาซิลิโคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย โอซากิ เปิดปากถึงสาเหตุที่ทำให้เขาเร้นกายออกจากสัมพันธภาพกับมนุษย์ที่แท้จริง ไปอยู่กับความรักที่เกิดขึ้นกับตุ๊กตายาง ว่า ภายหลังจากภรรยา (มนุษย์) ของเขาให้กำเนิดลูก เขาและภรรยาก็ยุติการมีเพศสัมพันธ์กัน จนกระทั่งทำให้ตนเองรู้สึกเปลี่ยวเหงาเป็นอย่างยิ่ง แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้ไปพบภรรยาหุ่นตุ๊กตายาง ที่ในเวลาต่อมาตั้งชื่อให้ว่า มายู ที่ร้านเซ็กซ์ทอยแห่งหนึ่ง
โดยเขายอมรับว่า รู้สึกตกหลุมรัก มายู ตั้งแต่แรกเห็น จึงตัดสินใจซื้อกลับบ้านทันที แม้ว่ามันจะมีราคาสูงถึงกว่า 6,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2 แสนบาทก็ตาม และเมื่อนำกลับบ้าน ทั้งภรรยาและลูกในชีวิตจริงของเขา ต่างโกรธกริ้วกับการกระทำของเขามาก แต่ที่สุดทั้งคู่ก็ต้องจำทน แม้จะไม่เต็มใจนักก็ตาม
ผู้หญิงญี่ปุ่นเย็นชาเกินไป แถมส่วนใหญ่ยังเห็นแก่ตัว ทั้งๆ ที่ผู้ชายต้องการเพียงใครสักคนที่คอยรับฟัง ไม่ใช่ต้องไปเจอคนที่เอาแต่บ่นพร่ำไม่หยุด เวลากลับถึงบ้าน หลังเสร็จการทำงานที่แสนเหน็ดเหนื่อย แต่กับ มายู จะไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เพราะ มายู รอคอยผมอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่ผมนั้นจะรักเธอและจะอยู่กับเธอตลอดไป และจนถึง ณ เวลานี้ ผมยังจินตนาการไม่ออกจริงๆ ว่า จะกลับไปอยู่กับ มนุษย์ (จริงๆ) ได้อย่างไร
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เช่นเดียวกับ เซนจิ นาคาจิม่า หนุ่มใหญ่นักธุรกิจ พ่อของลูก 2 คน วัย 62 ปี ที่ซื้อแฟนสาวตุ๊กตายาง นามว่า ซาโอริ ไปเลี้ยงดูเป็นคู่ตุนาหงัน ทั้งร่วมกันลงอ่างอาบน้ำ และถ่ายรูปคู่กันติดฝาผนังบ้าน หลังจากแยกทางกับ ภรรยา (มนุษย์) ไปแล้ว ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบันมนุษย์มีความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด ทุกๆ คนล้วนแล้วแต่เพียงหวังว่า อยากจะได้อะไรบางอย่างจากผู้อื่น เช่น เงิน หรือ หน้าที่การงาน แต่กับ ซาโอริ จะไม่มีเรื่องแบบนั้น เพราะเธอไม่เคยทรยศผม แถมมีแต่จะช่วยทำให้ความเครียดต่างๆ หายไป
จนถึง ณ เวลานี้ ผมไม่เคยออกเดตกับผู้หญิงจริงๆ อีกเลย เพราะคนพวกนั้นไม่มีหัวจิตหัวใจ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ทั้งนี้ โอซากิ และ นาคาจิม่า ถือเป็นหนึ่งในจำนวนของผู้ชายญี่ปุ่นที่เริ่มหันไปนิยมมีความรักกับตุ๊กตาไร้ชีวิต ไม่ต่างจากการติดยาเสพติด และตัดสัมพันธ์กับมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจไป ซึ่งกำลังมีตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
อ่านข่าวต่อได้ที่:
https://www.thairath.co.th/content/991298
10 ข้อสรุป 'ตุ๊กตายาง' สมัยนี้ร้ายกาจ! โดย ไทยรัฐออนไลน์ 4 ก.ค. 2560 06:09
อ่านข่าวต่อได้ที่:
https://www.thairath.co.th/content/992810"ตุ๊กตา" ใครๆ ก็รู้จัก แต่ "ตุ๊กตายาง" นี่สิ ต้องรู้จักมันแค่ไหน ถึงจะเข้าจิตเข้าใจคนที่ใช้งานเจ้าซิลิโคนนี้ เรื่องนี้ถามคนไม่เคยคลุกคลีวงใน หรือเป็นผู้คร่ำหวอดใช้งาน ก็คงไม่รู้อย่างแน่นอน
ส่วนเราๆ ก็อยากรู้จริงๆ ว่า ตุ๊กตายางมีดีอะไร ทำไมคนถึงพูดถึงกันนัก ยิ่งล่าสุดกับข่าวดัง ชายชาวญี่ปุ่นหันไปมีความรักกับตุ๊กตายางแทนภรรยา เรียกว่า ตัดความสัมพันธ์ดีๆ กับมนุษย์ผู้หญิงที่เรียกว่า "เมีย" ไปเลย เรื่องราวเหล่านี้เริ่มจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว
วันนี้เราจะพาคุณๆ ไปไขคำตอบ เพื่อความกระจ่างแบบไร้คำถามคาใจ โดย ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาชื่อดัง เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ โดยเปรียบเปรยและสรุปเรื่อง "ตุ๊กตายาง" ได้อย่างชัดเจนและเห็นภาพ ไปฟังพร้อมๆ กัน
1. สังคมเริ่มเพี้ยน เพราะเมียขี้บ่น
ผมว่า สังคมเริ่มเพี้ยน เริ่มไม่เหมือนมนุษย์ทุกทีละ ทั้งๆ ที่มนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคม ที่ปกติผู้ชายทำงาน จะพึ่งพาผู้หญิงที่ดูแลงานบ้าน และผู้หญิงก็จะพึ่งพาผู้ชายในเรื่องการเลี้ยงดู จึงจำเป็นต้องดูแลกันและกัน แต่ปัจจุบันเทคโนโลยี เริ่มเข้ามามีอิทธิพลกับมนุษย์มากขึ้น ผู้หญิงพึ่งพาผู้ชายลดลง ทำให้สังคมต่างคิดต่างทำ คือ ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เมื่อภรรยาไม่ตอบสนองความสุขได้ ประกอบกับจู้จี้ขี้บ่น จนไม่สามารถให้ความสุขทางใจและทางเซ็กซ์ได้ จึงหันไปพึ่งพา "ตุ๊กตายาง" แทน
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
2. เกอิชา -> เซ็กซ์ทอย -> ตุ๊กตายาง
เหตุผลที่ตุ๊กตายางแทนภรรยาหรือแทนเมียได้ หมายความว่า ผู้ชายต้องการผู้หญิงที่ดูแลเอาใจใส่ รับฟังความคิดเห็น แต่ผู้หญิงเองก็ทำงานเหนื่อยแล้ว ไม่พร้อมจะดูแลปรนนิบัติสามี จึงไม่แปลกทำไมญี่ปุ่นถึงมีเกอิชา มีร้านเซ็กซ์ทอย มีตุ๊กตายาง แถมมีโรงงานผลิตที่โด่งดังไปทั่วโลก
3. ตุ๊กตายางสมัยนี้...มันร้ายกาจ
สมัยนี้เค้าทำมันได้อย่างประณีต ตุ๊กตายางสมัยนี้ มันร้ายกาจนัก แต่งหน้า แต่งตา ทำผม ทั้งๆ ที่มันก็แค่ตุ๊กตายาง แต่เค้ากลับผลิตให้มันสะสวย แถมมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มีเสียงร้อง จะร้องแบบไหน...ก็ได้อีก แต่ภรรยาเมื่ออยู่กันมานาน มันเริ่มไม่ดี เพราะทำงานเหนื่อยแล้ว จนกลายเป็นปัญหาเซ็กซ์ตามมา แต่ตุ๊กตายางมันไม่เหนื่อย ไม่บ่น มีหน้าที่นอนรออย่างเดียว แถมยังเปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่ชุดนักเรียนได้ ซึ่งถ้าให้ภรรยามาใส่ มันก็คงไม่ได้...
4. สั่งตรงโรงงาน สั่น-ไซส์-ดาราฮอลลีวูด มีหมด!
ถ้าไปญี่ปุ่น ไปถึงโรงงาน นี่เราเลือกได้หมด รูปร่างแบบไหน? หน้าตาแบบไหน? จะฝรั่ง ลูกครึ่ง เอเชีย ยุโรป ยิ่งตุ๊กตายางผู้ชายยิ่งแน่นอนใหญ่เลย จะเอาแบบสั่น ไม่สั่น สั่นมาก สั่นน้อย ไซส์ ขนาด เลือกได้หมด รวมไปถึงสีผิวหน้าตา เอาแบบดาราฮอลลีวูด ยุโรป ก็มีหมด!
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
5. จิตใจเปลี่ยน ตามเทคโนโลยี
จิตใจเรามันเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี ซึ่งเราสร้างเทคโนโลยีเพื่อความสุข แต่มันก็เปลี่ยนจิตใจเราเช่นกัน เหมือนกับการสร้างภาพยนตร์ หรือหนังสือหวือหวา แต่ก่อนจะได้รับความนิยมมาก แต่ยุคนี้คนไม่รอดูหนังสือกันแล้ว เพราะเค้าดูคลิป ที่มันมาเร็วและไวกว่า นี่คือข้อดีของเทคโนโลยี ตุ๊กตายางก็ใช่
6. มีเซ็กซ์ได้หลายทาง
ตุ๊กตายางเหมือนผู้หญิงมากๆ เนื้อหนามังสา ก็เหมือนคนจริงๆ แถมเทคโนโลยียังให้มันร้องได้หลายแบบเสียงดัง เสียงเบา เสียงคราง และตุ๊กตายางมันเป็นได้มากกว่าผู้หญิงด้วย คือมันมีเซ็กซ์ในแบบที่ผู้ชายต้องการ เพราะถ้าเป็นผู้หญิง บางทีอาจไม่ยอม คำตอบก็เลยอยู่ที่ตุ๊กตายาง
7. เซ็กซ์ตื่นเต้น...ไก่ 3 อย่าง
ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบความแปลกใหม่ ตื่นเต้น ถ้าภรรยาไม่ตอบสนอง และไม่มีตุ๊กตายาง ผู้ชายก็ไปหาผู้หญิงทำงานกลางคืน แต่ราคาก็แพง แถมเร่งเวลา แล้วเดี๋ยวนี้ก็ไม่ยอมหรอก ที่จะให้มีเซ็กซ์ได้ถึง 3 ทาง หรือที่เรียกว่า "ไก่สามอย่าง" (อวัยวะเพศ, ปาก, ทวาร) คำตอบก็คือตุ๊กตายาง ที่ไม่เร่งเวลา ถ้ามีความต้องการเมื่อไหร่ ก็สามารถจัดการได้ทันที
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
8. ผู้หญิง...ฟังด่วนๆ (เตือนแล้วนะ)
ตุ๊กตายางมันแพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว ผู้หญิงทุกวันนี้ อาจต้องพยายามนิดนึง ในการกลับไปเป็นผู้หญิงแบบผู้หญิง ไม่ใช่เป็นผู้หญิงแบบผู้ชาย ถ้าไม่ยอม ผู้ชายก็ไปหาตุ๊กตายาง ขณะที่ผู้หญิงก็ไปซื้อตุ๊กตายางผู้ชายเช่นกัน
9. ผัวเมียทั้ง 4 แต่เป็นตุ๊กตายาง
มันไม่ใช่แค่ผู้ชายกับผู้หญิงเท่านั้น ที่จะมีตุ๊กตายางอยู่ในบ้าน อย่างเพศทางเลือก ตุ๊ด เกย์ ทอม ดี้ ทุกคนก็สามารถครอบครองเจ้าตุ๊กตายางนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องผู้ชายและผู้หญิงเท่านั้น ไม่ใช่แต่ผัวและเมียที่จะต้องมีตุ๊กตายางคนละตัว
10. อย่าลืมความเป็นมนุษย์
ยุคนี้คนสามารถอยู่คนเดียวได้ ไม่ต้องพบเจอสังคม ซื้อขายของกันผ่านออนไลน์ พูดคุยกันแบบเห็นหน้า แต่ไม่ต้องเจอกัน เราทุกคนเริ่มเป็นแบบนั้น แต่จริงๆ อยากเตือนว่า อยากให้ทุกคนออกไปข้างนอกบ้าง ไปหาสังคม หาเพื่อนพูดคุยบ้าง ไม่ใช่อยู่แต่กับมือถือ เราต้องมีสติของตัวเอง และสติสังคม เพราะยังไงเราก็เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์สังคม
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
สุดท้าย ดร.วัลลภ ทิ้งท้ายว่า เราผู้หญิงผู้ชาย ควรพึ่งพากัน จะดีกว่าพึ่งพาตุ๊กตายาง แถมยังกล่าวติดตลกอีกว่า ยังไงของสดย่อมดีกว่าของปลอม!
ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น ยกมือขึ้น...
ที่มา
https://www.thairath.co.th/content/992810
สรุปมีแฟนดีกว่ามีเมียม้าง
