ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

bride lust  สะใภ้สายหื่น 2. นวัตกรรมแห่งความร่ำรวย

เริ่มโดย apinyaporn, กรกฎาคม 13, 2017, 12:44:16 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

apinyaporn

bride lust  สะใภ้สายหื่น
อภิญพร

บทที่สอง นวัตกรรมแห่งความร่ำรวย

ถึงแม้จะเคยผ่านอารมณ์นี้เรื่องราวทำนองนี้มาไม่รู้ต่อกี่ครั้งทั้งที่มันควรจะเป็นความชาชินไปแล้ว แต่ผ่านจำนวนนับนิ้วมือนิ้วท้าวมารวมกันไปไม่เท่าไหร่ครองภพก็มั่นใจว่ามันจะไม่เลือนหาย เขายังจำทุกใบหน้าของร่างที่นอนรอให้ศัลยแพทย์ระดับแนวหน้าของโลกลงมีดได้ รอยกรีดเปิดบาดแผลผ่านชั้นผิวหนังบ่งบอกความมั่นใจของผู้ลงมีด เขากดมีดลงไปบนร่างไร้วิญญาณอย่างรวดเร็วแม่นยำทำอย่างคุ้นชินเหมือนกำลังลงมีดไปบนหัวใจตัวเอง  ศัลยแพทย์หนุ่มใหญ่วัยต้นสี่สิบถอดแว่นตาวางลงบนโต้ะทำงานพยายามทำใจให้สงบคุมน้ำเสียงตัวเองให้ราบเรียบ

   "ตอนนี้ศพของเด็กอยู่ที่โรงพยาบาลไหน.. แล้วพ่อแม่เด็กล่ะ อืม ตามนั้น พอดีเดี๋ยวผมติดเคส อืม.." ครองภพกดวางโทรศัพท์พอดีจังหวะที่ลูกค้าวีไอพีระดับที่ตั้งใจมาต้อนรับด้วยตัวเองเปิดประตูห้องเข้ามา "สวัสดีครับท่านรัฐมณตรี" ครองภพยืนขึ้นยกมือไหว้
   "เอ้า ไหว้พระครับ สวัสดีครับคุณหมอเด็กๆสวัสดีคุณหมอด้วย"
   "แล้วคนไข้คนเก่งของผมคนไหนครับผมแยกไม่ออก"
   "คนนี้ครับ" หนึ่งในสองเด็กฝาแฝดหน้าตาน่ารักยกมือขึ้นดูร่าเริงสดใสดีทั้งที่เพิ่งผ่าเปลี่ยนหัวใจไป พักฟื้นเพียงไม่ถึงปีเสียงดังฟังชัดสามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขได้
   "ผมดูสรุปชาร์ตการรักษาแล้วคุณอาหมอท่านให้ยืดระยะการตรวจครั้งต่อไปเป็นช่วงละสามปีเราเจอกันครั้งนึงครับท่านรัฐมณตรี"
   "คุณหมอเชื่อมั้ยผมนี่ไปมาทั่วโลกที่ไหนเค้าว่าศักดิ์สิทธิ์ก็ไปบนบานซะจนแทบจะจำไม่ได้เลยว่าไปที่ไหนมาบ้าง ขอแค่ให้หาหัวใจเปลี่ยนให้เจ้าตัวเล็กนี่ได้ไวๆ ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวเองไม่รู้นะ"
   "หึๆ ..ครับ"
   "อ้าว ฟังแล้วเหมือนผมพูดเพ้อเจ้อนะแต่ผมรอหัวใจมาเปลี่ยนให้หลานผมเนี่ยเป็นปีๆแล้วนาคุณหมอ จนมีคนแนะนำให้ผมไปไหว้ที่ฮ่องกง คืนนั้นน่ะมีคนหาเบอร์โทรคุณหมอมาให้ผมจนได้ อีกไม่ถึงเดือนคุณหมอก็หาหัวใจดวงใหม่ให้หลานผมได้อีก ไม่ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วครับคุณหมอ"
   "ระดับท่านถ้าอยากจะได้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของผมก็คงไม่ได้ยากอะไร"
   "ถ้าย้อนเวลาไปได้นะ วันนั้นในที่ประชุมคณะรัฐมณตรีผมจะเชียร์คุณเต็มที่เลยไอ้ชิ้ปติดตามตัวอะไรของคุณน่ะ"
   "อ๋อ.. ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็น้อมรับข้อติติงของท่านมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น"
   "โอ้ย!! ไม่ต้องๆ ไม่ต้องเลย เอาอันเดิมนั่นแหละ เดี๋ยวผมให้ลูกน้องชงเรื่องมาให้เราคนกันเองคุณหมอ
   "ขอบพระคุณท่านมากครับ ผมว่าเจ้าของหัวใจดวงเล็กๆดวงนี้ก็คงจะมีความสุขที่ได้ไปอยู่กับเจ้าของคนใหม่ครับ"
   "ว่าแต่ คุณหามาได้ยังไงอ่ะ ผมกับหลานเรารอคอยกันมาเป็นปีๆแล้วจริงๆนะ"
   "ท่านเซ็นต์สัญญากับสถาบันของเราแล้วนะครับว่าจะไม่มีคำถามใดๆ" ครองภพสบตาย้ำข้อความในสัญญากับท่านรัฐมณตรี
   "ถ้าวันไหนผมวางหัวโขนไอ้รัฐมณตรีสาธารณสุขนี่ลงกลายเป็นตาแก่ธรรมดา ในวันนั้นคุณหมอจะบอกผมได้ไหม"
   "ถ้าผมบอกก็คงไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้วน่ะสิครับท่าน"
   "คงเพราะมันเป็นความลับน่ะสินะคุณถึงได้เรียกราคาได้ขนาดนี้" ท่านรัฐมณตรีไล่จับเด็กที่เริ่มจะซนจับโน่นหยิบนี่
   "ไม่ใช่หรอกครับ ถ้าท่านจะโฟกัสที่ราคาผมว่าการที่เรายอมจ่ายแพงๆก็เพราะเรายอมจ่ายเพื่อคนที่เรารักมากกว่า บางทีถ้าเป็นตัวเราเองเดินไปซื้อยากินเองร้อยเดียวก็หายแล้ว จริงมั้ยครับท่าน"
   "เอาเถอะ อีกสามปีแล้วเราค่อยมาเจอกันอีกที"
   "แต่ยังไงก็ขอโอกาสให้ผมได้เสนอนวัตกรรมตัวนี้ให้ทางรัฐบาลลองตัดสินใจดูอีกสักทีนะครับ"
   "เห้ย!! ได้เลย อะไรนะที่มันติดตามตัวได้ ใช่มั้ย"
   "ครับ มันจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเด็กหายเรื่องการลักพาตัวและเรื่องค้ามนุษย์ ถ้าเราให้เด็กๆในประเทศนี้ทุกคนได้มีโอกาสกินแคปซูลนี้ก็จะไม่มีลูกใครหายไร้ร่องรอยไปเฉยๆอย่างเด็ดขาดร้อยเปอร์เซนต์ครับ"
   "แถมคุณหมอก็จะทำเงินได้มหาศาลโดยใช้ประเทศเราเป็นงานแสดงสินค้าของคุณ แต่คุณก็รู้ว่ามันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลใช่มั้ยมีคนจ้องจะถล่มผมเยอะแยะมากมายขนาดไหนคราวที่แล้วน่ะ ผมคนเดียวก็ใช่ว่าจะทำให้ผ่านไปได้ง่ายๆ แต่ถึงยังไงก็จะช่วยนะ ว่าแต่..มันยังไงนะ"
   "ก็เหมือนพวกชิ้ปคลื่นวิทยุติดตามตัวสัตว์ป่าน่ะครับ แต่อันนี้ประสิทธิภาพสูงกว่ามากมายทั้งสืบค้นสถานที่ได้ส่งข้อมูลความดันเลือดได้ส่ง.."
   "พอๆ ผมเคยอ่านในรายงานแล้ว ถ้าหลานผมโดนลักพาหรือหายตัวไปอย่างเด็กๆที่มูลนิธิ.. มูลนิธิอะไรนะที่เค้าช่วยกันตามหาน่ะ"
   "กระจกเงาครับ"
   "ใช่.. ถ้าผมเป็นพ่อเป็นแม่ผมเองก็คงตรอมใจตายแน่ๆ นี่ตบปากตัวเองนะเนี่ย ไม่น่าพูดเลย" ท่านรัฐมณตรีลูบหัวหลานรักวัยห้าขวบตบปากตัวเองเบาๆไปด้วย
   
   "เป็นคำพูดของท่านเองไม่ใช่เหรอครับที่ว่าไม่คุ้มค่าถ้ารัฐจะลงทุนฝังชิ้ปรับส่งคลื่นวิทยุในเด็กที่เกิดใหม่"
   "คุณจะประชดจะด่าว่าผมยังไงก็ได้ขอเพียงให้สินค้าของคุณมันทำงานได้จริงสมราคาของมันก็แล้วกัน นั่นมันเด็กในชาติแต่เจ้าสองคนนี่มันหลานผม"
   "อืม.. ครับท่าน ก็มีแบบเป็นแคปซูลทานเข้าไปแล้วไปฝังเกาะอยู่กับผนังกระเพาะกับอีกแบบเป็นนาโนบอลฉีดเข้าไปวนเวียนในกระแสเลือดครับ"
   "แบบไหนดีล่ะ"
   "แบบไหนก็ดีครับ เทคโนโลยีนี้กำลังใช้ควบคุมการโยกย้ายถิ่นฐานและจำกัดวงพื้นที่ของค่ายผู้อพยพในสงครามชนกลุ่มน้อยแถบอเมริกาใต้ที่ยูเอ็นซื้อเราไปใช้ เท่าที่ติดตามผลก็ไม่มีปัญหาเรื่องความคุ้มค่าหรือละเมิดสิทธิอะไรแต่อย่างใดนะครับ"
   "นี่คุณหมอกำลังด่าผมอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย"

...


   "ทำไมมึงไม่มานี่ก่อนแล้วค่อยไปบอสตันวะไอ้ติ ไอ้ห่า!! กูจะได้ไปด้วย"
   "ขืนกูมาเจอมึงก่อนแล้วมึงคิดว่ากูจะได้ทำธุระของกูมั้ย" มีไม่กี่คนในโลกที่ปิติจะขึ้นมึงขึ้นกูด้วยอย่างสนิทใจ อย่างน้อยก็พี่วินนักศึกษาแพทย์รุ่นพี่ที่อยู่ดีๆก็จบเส้นทางอาชีพย้ายตัวเองมาอยู่ไกลบ้านถึงอเมริกา
   "แล้วมึงไปทำอะไรที่บอสตันวะ"
   "กูไปคุยกับที่ปรึกษาคนเขียนบทเรื่องไอรอนแมน" ปิติยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ
   "นี่กูว่ากูเลิกบ้าแล้วมึงเสือกมาบ้าแทนกูอีกทำเชี่ยอะไรเนี่ย"
   "บ้าเหี้ยอะไร นี่กูมาคุยกับมันจริงจังเลยนะ เรื่องไอ้แหล่งพลังงานของไอ้ตัวไอรอนแมนอ่ะมันให้คำปรึกษาไอ้คนเขียนบทยังไงคิดยังไงฝันไว้แบบไหน"
   "แล้วมันบอกมึงว่าไง ได้เรื่องมั้ย"
   "มันบอกให้กูไปถามคนที่ออกแบบอุลตร้าแมนอีกที"
   "ห้าๆๆควาย เย็ดแม่กูขำไอ้สัส เออ.. เหี้ย แม่งมีไฟตรงหน้าอกเหมือนกันเลยนี่หว่า"
   "นี่ถ้ากูทำให้มันมีจริงได้นะก็จะได้ไม่ต้องมีใครตายห่ากันอีก"
   "ใครต้องตายวะ" พี่วินสงสัย
   "ชั่งแม่งเหอะว่าแต่พี่วินเถอะ เห็นลือกันไปว่าอยู่ในป่าเป็นฤาษีไม่ออกมาเลยนี่หว่า"
   "ไอ้เชี่ยพูดแล้วแม่งขำ ตอนก่อนมานะดูในเน็ตแม่งก็ดีอ่ะนะมึงคิดดูขนาดพระแม่งยังสึกแล้วมานี่กับพวกกูอ่ะ"
   "ทำไมวะ ลัทธิเค้าห้ามพระด้วยเหรอวะพี่วิน"
   "ห้ามดิ.. มึงอย่าเรียกแม่งลัทธิเลยไอ้สัสมึงเรียกแม่งศาสนาเลยก็ได้นะในอเมริกานี่คนนับถือแม่งเป็นแสนๆนะมึง"
   "แล้วมันสอนอะไรวะถึงขนาดพี่วินเลิกเป็นหมอขนาดพระยังต้องสึก"
   "มันสอนให้มึงเคารพกฏของธรรมชาติ แม่งบอกว่าที่มนุษย์เราต้องเจ็บป่วยสังคมวุ่นวายเพราะเราไม่เข้าใจไม่บำบัดรักษาตามกฏของธรรมชาติฟังไปฟังมาแม่งบอกตัวเหี้ยของโลกใบนี้ก็คือหมออย่างมึงกับกูนี่ล่ะ
   "จะว่าจริงมั้ย ก็มีส่วนถูกนะ"
   "เออ.. สรุปว่าแม่งให้แดกแตงกวาซูกินี่เหี้ยอะไรเนี่ยแทะแดกกันเป็นกระต่ายเลยสัส กูกับไอ้แอ๋มแดกกันไปสบตากันไปไม่มีใครกล้าพูดเหี้ยซักคำ" พี่วินยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม
   "เออใช่ พี่แอ๋มมากับพี่วินด้วยนี่หว่า"
   "แอ๋มอ่ะนะ หนีกลับเมืองไทยไปตั้งแต่ยังไม่เดือนแรกเลยมั้ง"
   "อะไรวะเจ๊แม่งใจไม่ถึงเลย แค่กินแตงกวาก็ถอดใจแล้วเหรอวะ"
   "ใจถึงเหรอใจถึงก็กูนี่ไงควย สี่ปี ป่า ล้วนๆ" พี่วินเพยิดหน้าอวดตัวนิดๆ "ลัทธินี้แม่งบูชาหมี.. หมีกริซลี่อ่ะที่ตัวแม่งใหญ่ๆอ่ะ แม่งบอกมีหมีมาใกล้ๆแค้มป์ให้พวกกูออกไปสังเกตุการณ์ตามดูหมีแม่งบอกหมีเป็นสัตว์ที่น่านับถือทำตัวกลมกลืนกับธรรมชาติ กูไม่ไปอ่ะกูก็เดินดูเหี้ยอะไรไปเรื่อยส่วนนังแอ๋มมันก็ออกไปตามดูหมีแม่ลูกอ่อนคู่นึงอยู่สองสามวันแม่งบอกอย่างกับดิสคัฟเวอรี่ชาแนล หมีมันคงจำกลิ่นนังแอ๋มได้ตอนกลางคืนแม่งบุกเข้ามาในแคมป์จะพังห้องนังแอ๋มให้ได้ นั่นล่ะ อีกวันมันกลับเมืองไทยไปเลย"
   "สรุปว่าลัทธินี้ก็ยังไม่โดนใจพี่วิน ว่างั้น"
   "หลักการมันได้นะ แต่เอาเข้าจริงๆ.. เออชั่งแม่งเหอะกูชินกับพวกเหี้ยนี่แล้ว"
   "แล้วมึงไม่กลับเมืองไทยวะ"
   "กลับไปก็ต่อไม่ติดแล้วว่ะนี่เดือนหน้าพ่อแม่น้องกูก็จะบินมาเยี่ยม"
   "แล้วอยู่นี่พี่วินทำมาหากินอะไรอ่ะ"
   "กูก็ทำอะไรไปเรื่อย อยู่ที่นี่มันต้องเก็บเล็กผสมน้อยว่ะเข้าไปดูพวกในป่ามั่งเดือนนึงสองครั้งไปดูหมู่บ้านพวกคนลาวทำไร่กัญชาส่งบริษัทผลิตยาที่เฟรสโนอีกสองครั้งมึงน่าจะเห็นนะแม่งปลูกกันเป็นพันๆเอเคอร์เขียวปี๋เลยสัส กับพวกคนไทยที่นี่เจ็บป่วยนิดๆหน่อยๆมีก็ให้บ้างไม่ให้บ้างกูก็พออยู่ได้ แบบหมอชุมชนอ่ะแต่หมอเถื่อนนะ" พี่วินที่เคยเป็นคนอ้วนเกือบร้อยกิโลตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนผอมเกร็งหล่อจนแทบจำไม่ได้   
   "เอาเรื่องมึงดีกว่าไปไงมาไงวะมึงถึงกับจะสร้างไอรอนแมนเหี้ยอะไรเนี่ย"
   "ไม่ได้จะสร้าง.. แค่ไปคุยกับเค้าเอาไอเดียแปลกๆใหม่ๆมุมมองในแบบที่บางทีเรานึกไม่ถึง"
   "มึงเข้าไปอยู่ในป่าแบบกูมั้ยล่ะสัสจะได้เปิดโลกทัศน์แบบที่มึงนึกไม่ถึง"
   "อะไรวะ"
   "อ้าว.. เดี๋ยวนี้มึงไปดูพวกแม่ครัวแม่งผัดไปตดกันปู้ดป้าดยาลดกรดไม่ต้องแดกแดกแค่ใบชากู เมกาแม่งก็มีสมุนไพรแบบเรานะเว่ยกูอยู่ในโน้นวันๆดูแต่ต้นเหี้ยอะไรมั่งก็ไม่รู้ คนพื้นเมืองแม่งสอนกูพากูเดินดูปีนเขาเป็นลูกๆเลยนะมึง เออไอ้สัสมุมนี้ตอนอยู่ที่ไทยกูก็ไม่ได้นึกถึงใช่ป่ะ ใครเป็นเหี้ยอะไรมาถึงก็เจอหมอตี๋สั่งยาแม่งอย่างเดียว มึงลองเข้าไปดิช่วงตอนหน้าหนาวนะหนาวอย่างเหี้ย โถ..ชีวิตเลยสัส แต่แม่งก็ทำให้คิดอะไรได้หลายอย่าง"
   
   "ตอนนี้กูติดว่ะ ติดอยู่ตรงนี้มาหลายเดือนแล้วด้วย"
   "ติดเหี้ยอะไรวะนี่กำลังจะเข้าเรื่องเครียดแล้วใช่มั้ยเนี่ยเหี้ยเอ๊ย.." พี่วินนั่งยืดหลังตรงทำมือประสานกันกิริยาท่าทางแปลกๆ
   "อะไรขอมึงเนี่ยพี่"
   "แอลกอฮอล์กับความเครียดเจอกันแม่งไม่เวิร์ค แม่งเป็นสารตั้งต้นของมะเร็งและกูก็แดกเข้าไปแล้วตอนนี้มึงกำลังจะทำให้กูเครียด"
   "พี่วินมึงเชื่อแบบนั้นจริงๆเหรอวะ"
   "มึงอย่าลืมสิ กฎธรรมชาติ ชาวอินเดียนพื้นเมืองสอนกู"
   "หึๆ ควย.. คำเดียวเลยพี่" ปิติเข้าใจแล้วว่าทำไมคุณหมอหนุ่มรุ่นพี่ที่เคยเป็นข่าวฮือฮาเรื่องขับเฟอรารี่ไปใช้ทุนประจำอยู่โรงพยาบาลศูนย์ทางภาคอีสานถึงได้ละวางทรัพย์สมบัติระเห็ดข้ามฟ้ามาอาศัยอยู่ในอาศรมชายป่าอุทยานแห่งชาติโยเซมิตีได้นานถึงสี่ปีอย่างที่ใครๆในวงการแพทย์พยาบาลเค้าเอาไปเล่ากันสนุกปาก

   "เน็กซ์เจนเมดิคอลรับงานคิดค้นสูตรยาตัวนึงให้กับกองทัพโบลิเวีย.. "   
   "นี่มึงยังทำงานกับไอ้เหี้ยภพอยู่อีกเหรอ บาปกรรมคำนี้พวกมึงเคยรู้จักกันบ้างมั้ย" พี่วินบ่นแทรกขัดจังหวะไม่มองหน้าปิติ
   "มึงเคยเห็นหน้ามันเหรอบาปกรรมน่ะ"
   "เคยดิ บาปกรรมแม่งก็หน้าตาเหมือนหน้าไอ้เหี้ยภพนั่นไง ไอ้ติ กูว่าหน้ามึงแม่งก็เริ่มๆแล้วนะ"
   "มึงจะฟังมั้ยเนี่ย"
   "เออ ว่ามา"
   "จริงๆในแคปซูลนั่นไม่ใช่ยา"
   "กูว่าแล้ว.. ซื้อล๊อตโต้แม่งไม่ถูกแบบนี้วะ ให้กูเดาต่อมึงต้องเอาเครื่องเหี้ยอะไรยัดใส่ลงไปให้เค้าแดกใช่มั้ย"
   "มึงจำเรื่องกระแสไฟฟ้าสมองได้ใช่มั้ย"
   "เออ ทำไม"
   "เน็กซ์เจนซื้อเทคโนโลยีนาโนมาจากบริษัทเล็กๆของนักศึกษาจบใหม่สุดเพี้ยนคนนึงแต่แม่งเวิร์ค กูลองจับคู่แผงกระตุ้นเซลล์ของกูกับตัวอินเวิร์ทเตอร์นาโนของมัน ไฟฟ้าอ่อนๆที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเรามากพอที่จะทำให้มันทำงานได้ตลอดชีวิตของคนคนนั้น"
   "แล้วปัญหาของมึงคือ.."
   "บริษัทคู่แข่งกูไปยุรัฐสภาโบลิเวียกดดันกองทัพให้ยอมเปิดเผยข้อมูลประกอบ"
   "เกมส์ จบข่าว"
   "เออ กูก็ถอนตัวเลยแต่กูยังเก็บข้อมูลที่สำคัญได้ไม่มากพอ ตอนนี้กูโดนห้ามเข้าประเทศแม่งแล้วจนกว่ากูจะยอมเปิดเผยข้อมูล แต่ถ้ากูถอนตัวหยุดทุกอย่างไว้ตรงนี้เน็กซ์เจนจะเสียเงินไปเป็นพันล้านฟรีๆ"
   "แล้วไอ้แคปซูลเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยแดกเข้าไปแล้วมันจะดียังไงวะ เท่าที่กูฟังมึงน่าจะได้พลังงานมาแค่พอจุดไม้ขีดว่ะ วันนึงมันจะพอกระตุ้นสร้างเซลล์ใหเหี้ยอะไรได้นักหนา"
   "จากเวลาเท่าที่กูมีถึงจะยังไม่ได้เก็บข้อมูลในช่วงสุดท้ายแต่กูมั่นใจว่าเครื่องกระตุ้นสร้างเซลล์ใหม่สามารถเอาไปใช้เฉพาะจุดเพื่อรักษามะเร็งกระเพาะอาหารมะเร็งลำใส้ได้โดยไม่ต้องผ่านการทำเคมีบำบัดแน่นอน แค่แดกเข้าไป"
   "ถ้าเป็นงั้นได้จริงก็ดีสิวะ"
   "เป็นได้จริง แต่ถึงยังไงเน็กซ์เจนก็คงไม่ยอมให้ขายราคาถูกกว่าเคมีบำบัดหรอกทั้งที่ต้นทุนถูกกว่ามาก"
   "อ้าว.. เออ กูก็ไม่แปลกใจ"
   "ข้อมูลที่กูมีไม่พอคือกลุ่มตัวอย่างใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ระดับเหนือน้ำทะเลมากๆ ซึ่งถ้ากูยังยืนยันข้อมูลตรงนี้ไม่ได้กูก็ไม่มั่นใจพอถ้าจะผลิตแคปซูลนี้เป็นจำนวนมากๆลงตลาดใหญ่อย่างเม็กซิโกหรืออเมริกาที่ระดับความสูงจากน้ำทะเลต่ำกว่ามาก หรือแม้กับประเทศเรา"
   "ที่นี่เมกาไม่ใช่โบลิเวียนะเว่ย ต่อให้ไอ้ภพมันมีแบ็คระดับโลกแต่ถ้ามึงทดลองกับคนที่นี่พวกมึงก็มีสิทธิ์จบ"
   "กูว่าพวกมะเร็งปากมดลูกที่ผู้หญิงเป็นกันเยอะถ้าฝังชิ้ปตัวนี้ไว้จะลดเปอร์เซนต์เสี่ยงลงได้แทบจะศูนย์"
   "จากกระเพาะอาหารเนี่ยนะ"
   "กินไม่ได้ ในกรณีมะเร็งปากมดลูกต้องให้ชิ้ปเกาะตัวอยู่ใกล้กับมดลูกให้ได้มากที่สุด"
   "มึงได้หนูทดลองเมื่อไหร่บอกกูนะเดี๋ยวกูส่งให้ใกล้ๆมดลูกเลย"
   "กูทดลองกับผู้หญิงคนนึงไปแล้ว"
   "หืมมม.." พี่วินมองด้วยความประหลาดใจ
   "กูใส่ไปแล้ว"
   "ตามสไตล์มึงเลย.. ทำเหี้ยอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง แล้วหนูทดลองผู้โชคดีของมึงเป็นใครวะ แล้วไหนมึงบอกว่ามึงยังขบไม่แตกปัญหาเรื่องระดับความสูงจากน้ำทะเลเหี้ยอะไรของมึงอยู่"
   "เธอเป็นแอร์ว่ะ เรื่องการใช้ชีวิตบนระดับความสูงผิดมนุษย์มนาเค้ามึงไม่ต้องห่วงเลย และเธอก็น่าจะอยู่ให้กูเก็บข้อมูลแถมยังได้ทดลองอะไรเล่นๆอีกสักพักใหญ่ๆเลยล่ะ"
   "มึงกำลังพูดถึงคนใช่ป่ะ.. นี่เค้าลือกันว่ามึงมีเมียเป็นตุ๊กตายางนะ" พี่วินชูแก้วเปล่าให้บริกรเห็น
   
...

   "อ้ะ.. อื้มมม ซื้ดดด พี่นาโอโตะ.. " ในหลืบมุมอับระหว่างทางเดินห้องจัดเลี้ยง ชายหนุ่มวัยทำงานกำลังย่อตัวกอดรัดซ้อนด้านหลังของสาววัยรุ่นสองมือปัดป่ายจนชุดกิโมโนสวยหลุดรุ่ยเคล้นคลึงขยำขยี้ล้วงเข้าไปในชุดชั้นในทั้งบนทั้งล่างไม่บันยะบันยังอย่างกับคนหลงทางเจอบ่อน้ำกลางทะเลทราย
   "พี่เพิ่งเคยเห็นเธอแต่งตัวแบบนี้ มันอดใจไม่ได้จริงๆ"
   "แต่นี่มัน.. ซื้ดดด..อ่าา"
   "ก็งานฉลองแต่งงานของพี่กับพี่สาวเธอไง" หนุ่มใหญ่ในชุดพื้นเมืองแบบเป็นทางการโชว์ปลายสองนิ้วที่มีน้ำรักกลั่นข้นจากห้วงอารมณ์หนืดยืดเป็นสายให้เด็กสาวดู
   "แต่ถ้าพวกเราไม่รีบออกไปพวกญาติๆจะสงสัยนะและพี่สาวหนูก็จะสงสัยด้วย ระหว่างเราหนูขอร้องให้พี่เขยช่วยหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่ตรงนี้เถอะค่ะผู้หญิงของพี่ขอให้มีแค่พี่สาวหนูคนเดียวได้มั้ย"
   "งั้นเอางี้ได้ไหม เอ่อ.. พี่ขอกางเกงในของเธอเก็บไว้ที่พี่ได้ไหม"
   "อะไรนะคะ"
   "กางเกงชั้นในของเธอน่ะ"
   "ถ้าพี่อยากจะได้เดี๋ยวกลับไปถึงบ้านแล้วหนูจะเอาให้นะคะ"
   "เธอถอดให้พี่ตอนนี้เลยได้ไหมล่ะ เดือนหน้าเธอก็จะแต่งงานเหมือนแล้วกันไม่ใช่เหรอ พี่อยากมีของอะไรซักอย่างของเธอเก็บไว้น่ะ"

หญิงสาวโยกตัวออกมามองไปตามทางเดินซ้ายขวาเห็นไม่มีใครหันกลับไปมองสบตาพี่เขยรู้สึกคล้อยตามที่พี่เขยย้ำว่าเดือนหน้าเธอก็จะต้องเข้าสู่พิธีวิวาห์กับคู่มั่นคู่หมายของเธอเช่นกัน ถ้าความสัมพันธ์อันน่าอึดอัดจะจบลงอย่างน่าประทับใจด้วยกางเกงชั้นในของเธอก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง

   "นี่ค่ะ.." ชิอากิค่อยๆบรรจงถอดกางเกงชั้นในสีขาวแบบเด็กๆยื่นให้
   "มานี่เลย!! นังตัวดี!! แกคิดว่าแกมายั่วยวนชั้นทุกวันๆสนองอารมณ์แกแล้วจะเก็บพรหมจรรย์ของแกไปถวายไอ้หนุ่มคู่หมั้นคู่หมายของเธอนั่นน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ!! คนที่ได้จะเป็นเจ้าของแกตลอดไปก็คือชั้นคนนี้นี่เองงงงง" พี่เขยชั่วหลอกให้น้องเมียสาวถอดกางเกงชั้นในออกแล้วใช้กำลังดันตัวเธอเบียดติดกับกำแพงจัดการกับกางเกงของตัวเองลงไปกองกับพื้นยัดท่อนเนื้อขนาดเขื่องพรวดเดียวมิดเข้าไปในรอยแยกแล้วซอยเข้าออกเร็วแรงแบบไม่มีปราณีปราศรัย

   "ไอ้หนุ่มนั่นมันจะได้แค่ของพังๆไปใช้ ดีมั้ยล่ะชิอากิ ห้าๆๆ

หญิงสาวหลับตาปี๋ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แต่ไม่นานนักเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดก็เริ่มเป็นจังหวะจะโคนคล้ายจะมีสำเนียงแห่งความสุขเจือปนค่อยๆแทรกขยายตัวจนเปี่ยมล้นแก้ว เดาจากโทนเสียงที่เปลี่ยนไปของชิอากิ

   "แล้วใครเล่นเป็นพี่เขยล่ะคะพ่อ"
   "เห็นว่าเจ้าเท็ตสึมันจะมาเล่นให้นะ" ชายญี่ปุ่นวัยเกษียณผมสีขาวตรงยาวเลยต้นคอเงยหน้าจากกองเอกสาร
   "โอ้.. นี่คุณอาเท็ตสึดาราดังก็จะมาเล่นให้พวกเรา ฟรีใช่มั้ยคะพ่อ ฟรีเนอะ..ก็เค้ามาช่วยเรานี่นา"
   "เริ่มมีเสียงบ่นแล้วนะว่าธุรกิจกองถ่ายของเราทำไมงกเหลือเกิน" คุณพ่อสุดแนวแซวลูกสาววัยเพียงสิบเจ็ดที่นอกจากจะเล่นเป็นนางเอกแล้วยังคอยควบคุมธุรกิจการเงินด้วย
   "ดีจังเลยนะคะพอทุกคนรู้ว่าคุณพ่อจะทำหนังก็มาช่วยแสดงให้ฟรีๆกันเต็มเลย แสดงว่าพ่อเราก็มีคนรักเยอะเหมือนกันนะเนี่ย"
   "ชั้นว่าพวกหื่นนี่มาเพราะเธอมากกว่านะเฟิร์สจัง" ซาโตะอยู่ดีๆก็โพล่งขึ้นมา
   "แกพูดอะไรให้มันระวังปากหน่อยได้มั้ย" พ่อหันไปปรามลูกชาย
   "แล้วบทที่เฟิร์สจังอ่านเมื่อกี๊นี่มันหนังคนบ้าชัดๆไม่เห็นมันจะใกล้เคียงกับคำว่าหนังอาร์ตตรงไหนเลย"
   "แล้วแกมายุ่งอะไรกับบทของหนังชั้นล่ะ ของแกน่ะท่องได้รึยังเพลงประกอบได้รึยัง!! ก่อนแกจะวิจารณ์งานของคนอื่นชั้นว่าแกทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จก่อนดีกว่านะ!!"
   "ไอ้พ่อบ้า!!" ซาโตชิหยิบกีตาร์ไฟฟ้าและกระดาษพิมพ์บทพูดที่เฟิร์สทำไฮไลท์ข้อความไว้ให้แล้วเดินออกนอกห้องไป

...

บ้านหลังใหญ่ท้ายซอยตึกสามชั้นตกแต่งสไตล์วิกตอเรียนกลิ่นไอของระเบียบเรียบร้อยส่งแผ่ผ่านเฟอร์นิเจอร์ข้าวของเครื่องใช้ที่จัดวางเป็นระเบียบ แสงไฟสีส้มหลายดวงค่อยๆทะยอยกันเปิดทำหน้าที่ของมันในยามพลบค่ำมองจากนอกรั้วคล้ายบ้านเจ้าหญิงเจ้าชายในเทพนิยายอังกฤษ

   "แล้วอย่างถ้าพี่จะดูจากโทรศัพท์แต่ให้มันออกจอทีวีทำไงอ่ะ" สมาชิกวัยกลางคนสองคนซุบซิบกันระหว่างมื้ออาหารเย็น
   "เดี๋ยวพี่อ้ายมาที่บ้านผมดีกว่า มาดูสองร้อยนิ้วสะใจดี"
   "อย่าคิดว่าไม่ใช่ลูกชั้นแล้วชั้นจะไม่กล้าด่านะนายอ้าย จะเขยจะสะใภ้ชั้นก็ด่าได้ทั้งนั้นถ้ากฏระเบียบของชั้นมีคนอยากจะท้าทาย ป้าเคยบอกว่าไงตานนท์" คุณหญิงป้าหันไปทางเด็กชายวัยประถม
   "คุณยายไม่ให้เล่นโทรศัพท์ระหว่างกินข้าวคับ" เจ้านนท์หลานคนโปรดตอบตาใส
   "ร เรือ!!"
   "ครับ.. ครับ"
   "อื้ม.. ดีมากลูก แล้วนี่เจ้าเปิ้ลเจ้าป๊อปไปไหน"
   "ไปรับตาติกับลูกสะใภ้คนใหม่ของคุณแม่น่ะค่ะ" สะใภ้ใหญ่ของคุณหญิงป้าตอบ
   "แล้วใครขับรถไปล่ะเมื่อกี๊ชั้นยังเห็นนายแหวนคนขับรถมันยังเดินเล็มต้นไม้อยู่เลย"
   "แม่แอร์สาวสะใภ้ล่าสุดของคุณแม่เค้าขับไปเองค่ะ"
   "ไม่เข้าเรื่องจริงๆแม่คนนี้ แล้วนี่ดันเอาหลานชั้นไปเสี่ยงด้วยทำไม กลับมาจากโรงเรียนได้กินข้าวกินปลากันรึยังก็ไม่รู้"
   "แหม คงไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ไปสุวรรณภูมิแค่นี้เอง"
   "แค่ไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้นแหละเธออย่ามาพูดคำว่าไม่เป็นไรหรอกกับชั้นเด็ดขาดดูซิยัยเกษแม่เจ้านนท์ยังนอนไม่ฟื้นเลย"

...

   "เหรอ.. โหย เศร้าอ่ะ" เฟิร์สหันไปคุยกับเปิ้ลหลานสาวคนโตของคุณหญิงป้า
   "ก็คือใครที่ไปยุโรปทริปนั้นอ่ะ หมดเลย เหลืออาเกษคนเดียวแต่ก็ยังไม่ฟื้น" เปิ้ลเล่าโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่พรากชีวิตของสมาชิกส่วนใหญ่ในครอบครัวซึ่งรวมถึงพ่อของพวกเธอทั้งสองคนด้วยให้เฟิร์สฟัง
   "จริงๆคุณยายก็ต้องไปด้วยแต่พาสปอร์ตหายทำใหม่ไม่ทันก็เลยไม่ไป รอดทำไมก็ไม่รู้" ประโยคหลังเหมือนเปิ้ลรำพึงกับตัวเอง
   "พ่อของนนท์ก็ไม่เป็นไร" เสียงป๊อปน้องสาวที่วันๆไม่พูดจากับใครเอาแต่เขียนรูปการ์ตูนในไอแพด
   "อ้าวทำไมล่ะ" เฟิร์สสงสัย
   "อึแตก เลยเลี้ยงน้องนนท์อยู่ที่โรงแรม" เปิ้ลช่วยเฉลย
   "อ่าว แต่คุณพ่อน้องเปิ้ลเสีย" เฟิร์สเลียบๆเคียงๆไม่กล้าถามตรงๆ
   "หนูสองคนกับแม่อยู่อังกฤษอยู่แล้ว พวกคุณยายคุณพ่อกับอาๆจะขับจากสวิสมาหาแล้วเกิดอุบัติเหตุ"
   "ก็เลยต้องย้ายกลับมาเรียนเมืองไทย" ป๊อปน้องสาวเสริมจากเบาะหลัง

   "พี่เฟิร์สอยู่ญี่ปุ่นเป็นดาราเหรอ"
   "อุ๊ย ใครบอก พี่จะไปเป็นดารงดาราอะไรที่ไหน"
   "ก็แม่บอก ถามแค่นี้ก็ก็ต้องโกหกกันด้วย" เปิ้ลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
   "ก็ไม่ได้โกหกอะไรหรอกพี่เล่นหนังเล็กๆสามเรื่องเอง ไม่ได้ดังด้วยถ้าเป็นดาราก็ต้องดังสิ"
   "ไม่รู้สิ เห็นพวกคนใช้ก็ดูกัน"
   "เดี๋ยวอาปิติต้องดีใจแน่ๆเลยที่พวกเราไปรับ เนอะ" เฟิร์สเปลี่ยนเรื่องพูดชวนให้หลานๆรู้สึกสนุกกับการขับรถไปรับปิติที่สนามบิน

   "อาติเหรอ แทบไม่รู้จัก ตอนอยู่บ้านอาเค้าก็อยู่แต่ในบ้าน หน้าตาดีก็จริงอ่ะนะแต่ท่าทางแปลกๆพี่เฟิร์สชอบได้ไงอ่ะเปิ้ลยังไม่เห็นอาติเค้าเคยมีแฟนซักคน ที่เปิ้ลมารับด้วยก็แค่ขี้เกียจกินข้าวกับคุณยายแค่นั้นหรอก" 

suriyamahajit

#1
ตัวละครออกมาเยอะมากเลยขอตั้งหลักนิดหน่อยขอบคุณครับ

shinosuke

ตอนนี้ผมยังงงกับเนื้อเรื่องอยู่ครับแต่เป็นกำลังใจให้นะครับ

swss2511

แต่ละคนช่างมีความลับของตัวเองเหมือนซ่อนมีดไว้พร้อมทิ่มแทงได้ทุกเมื่อ

may_290607908


peddo

นี่น้องเฟิร์สกลายเป็นหนูทดลองหรือนี่ อยากรู้จังว่าหมอปิติเอาชิพไปฝังอย่างไร จะมีแฟลชแบ็กมั้ยนะ ท่านผู้เขียนน่าจะอยู่ในวงการแพทย์นะครับนี่ เขียนได้รายละเอียดจัง แต่ก็แฝงเงาดาร์กของวงการนี้ น่าสนใจดี ขอบคุณครับ

psm_mach

อ่านตอน2 แล้วกลายเป็นแนววิทยาศาสตร์หรือจะเป็นแฟนตาซี หรือจะเป็นแนวอนาคต เดาไม่ถูก แต่แฟ็รชแบค ทำให้งงเหมือนกันนะครับ ตัวละครเยอะคงต้องมีหลายตอนติดๆกัน ถ้าเว้นช่วงนานคนอ่านจำไม่ได้ครับ

biggiggog

บอกตามตรง ยังงงๆอยู่
คงตัองใช้เวลาอีกซักตอนสองตอน
น่าจะOKครับ ::Hmmm::
ขอบคุณมากๆครับ

whizper

เนื้อเรื่องมีตัดไปตัดมาเยอะ ทำให้ยังงงอยู่บ้าง แต่จะพยายามทำความเข้าใจ ขอบคุณครับ

johnywalker

เนื้อเรื่องแปลกใหม่ น่าสนใจ คนแต่งคงทำการบ้านมาเยอะ
ชอบที่นางเอกไม่ได้ บริสุทธิ์แต่แรก หรือเป็นหญิงร่าน
ก็เป็น ญ. ปกตินี่แหละ เคยมีแฟนมาบ้าง เคยมีเซ็กส์มาบ้าง
อ่านแล้วให้อารมณ์เหมือนเป็นเรื่องจริง
ขอบคุณ


tetete

ตัดไปอีกฉากทีไรงงตลอดเลยครับ มีตัวละครใหม่ๆโผล่มาเรื่อย แต่อ่านรวมๆก็พอจะเข้าใจแล้วครับ

hanabombam