หลังจากซุ่มเงียบ ใช้เวลา 2 เดือน 19 วัน แก้ไขตัวอักษรต้องห้ามกับ Meb อีกหลายวัน
ในที่สุด Loso เล่ม 4 ที่ทิ้งช่วงเกือบปีก็วางแผงเเล้ว มิตรรักแฟนประจำ แวะไปโหลดกันได้ตามลิงค์นะครับ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNTcxODQ1IjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiNjc5NjgiO30แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
Legend Of Survivors Online Volume 4
- ผู้เขียน : นีโอ
- ราคาขายสกุลเงิน Baht : 560.00
- ราคาขายสกุลเงิน Dollar : 15.99
- จำนวน : 1578 หน้า
- จำนวนคำ : 505277
- คำโปรย : การผจญภัยในโลกออนไลน์ของผู้เล่นเทพเท้าติดแสง ยังคงต่อเนื่องมาจากเมื่อครั้งที่เขารวบรวมผู้กล้าและกองทัพเผ่าพันธุ์ต่างๆเพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ ทวงคืนเมืองเริ่มต้นจากมังกรร้ายผู้เป็นหายนะของระบบเกม
เป็นการเดินทางอันยาวไกลเต็มไปด้วยอันตรายทั้งจากผู้ประสงค์ร้ายและมอนสเตอร์ตัว Top ประจำเกม ท่ามกลางความมืด ท่ามกลางดินแดนที่ถูกทิ้งร้าง หายนะและความชั่วร้ายทุกอย่างถูกรวมไว้ที่นั่น
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือเจ้าหญิงคนแคระทวงคืนอัญมณีรวมใจของเผ่าพันธุ์ ปาร์ตี้ของเสกยังคงมุ่งหน้าไปยังตะวันตกเพื่อค้นหาแนวร่วม ระหว่างทางได้พบกิลด์หญิงล้วนที่แข็งแกร่งและพวกโทรลล์ในป่าพิสดารสุดอันตราย เมื่อรอดมาได้ก็ต้องผจญกองทัพก็อปลินสุดอำมหิต และยังต้องมาเผชิญหน้ากับความโหดร้ายชนิดที่ไม่เคยเจอมาก่อนของศัตรูอย่าง ‘Dark Beast’ สุดยอด Last Boss ที่เป็นฝันร้ายของนักผจญภัย มันไม่ได้มาเพื่อทดสอบความกล้าหาญที่อยู่ในตัวพวกเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมิตรภาพและไหวพริบแห่งการผจญภัยอีกด้วยตัวอย่าง
* * * * * *
ครื่น….!
เปรี้ยง….!!! เปรี้ยง….!!! เปรี้ยง….!!!
ท้องฟ้าสีเทาดำราวกับพายุฝนกำลังจะพัดผ่านเข้ามาในไม่ช้า บนพื้นดินเต็มไปด้วยเถ้าถ่านหนา เปลวไฟยังคงลุกไหม้ ต้นไม้รอบๆถูกเผาเป็นตอตะโกและร่วงกราวลงมาเป็นเศษเถ้าถ่าน บางต้นยังคงลุกไหม้ ทุกชีวิตไม่สามารถดำรงชีพอยู่ที่นี่ได้อีกแล้ว เหลือเพียงผืนดินที่ว่างเปล่าหลังถูกเปลวไฟแผดเผาจนโล่งแจ้ง
เสียงฟ้าร้องดังท่ามกลางพิ้นที่ว่างเปล่าก่อนจะสงบลงชั่วคราว
ท่ามกลางซากวิหารใหญ่ที่พังทลายจนไม่เหลือเค้าสถาปัตยกรรมใดๆที่เคยงดงาม บุรุษร่างสูงใหญ่ในชุดเกราะสีทองที่แตกร้าวกำลังย่ำเท้าท่ามกลางเถ้าธุลีตรงไปยังแท่นบูชากลางวิหาร ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและคราบเลือด เท้าที่ค่อยๆยกจากพื้นของเขาทำให้ขี้เถ้าบางส่วนให้ลอยฟุ้งไปทั่ว เขากวาดสายตามองไปโดยรอบเห็นซากศพกลาดเกลื่อนไปทุกหนแห่ง มีทั้งซากศพมนุษย์และเหล่ามอนสเตอร์ จนกระทั่งมาถึงร่างของคนคุ้นเคย สายตาสีสนิมเหล็กมีแววโศกเศร้าต่อการจากไปของซากร่างจมกองเลือดนั้น บนร่างมีดาบเล่มใหญ่ปักตรึงหน้าอก
“ฉันจะไม่ให้ความตายของทุกคนสูญเปล่า วันนี้ฉันจะกำจัดมันให้ได้!!!...” เมื่อพูดจบเขาก็เอื้อมมือหนาไปจับด้ามดาบและดึงออกมาถือไว้ สองตาคมจ้องไปยังวิหารที่เหลือแต่ซากเห็นเงาทะมึนยืนตระหง่านรออยู่
“เจ้านักผจญภัยเดนตาย เหลือเจ้าเพียงคนเดียวแล้วสินะ…หึๆๆ”
“Dark Beast…!!!” เสียงตะโกนเรียกชื่อเงาทะมึนด้วยความคลั่งแค้นแน่นใจ “วันนี้เป็นวันตายของแก จงชดใช้ทุกชีวิตที่แกเข่นฆ่าไปในวันนี้!...”
ร่างสูงใหญ่ใบหน้าเต็มไปด้วยขนยาวพลิ้วสยายตามแรงลมแสยะยิ้มด้วยปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวคมขาว มองร่างนักรบในชุดเกราะสีทองแตกร้าวที่วิ่งเข้ามาหาอย่างดูแคลน
“เจ้านักผจญภัยชั้นต่ำเอ๋ย…เจ้าจะทำอะไรข้าได้…?” ร่างทะมึนในผ้าคลุมสีมอซอเอ่ยอย่างหยามหยัน และสะบัดกรงเล็บมือขวาออกไปเบื้องหน้า ปรากฏคลื่นพลังรุนแรงกระแทกออกไปปะทะเข้ากับร่างนั้น ด้วยแรงกระแทกมหาศาลส่งร่างนั้นปลิวไปไกลหลายสิบเมตรจนกระแทกเข้ากับผนังกำแพงพังราบไปเป็นแถบๆและถูกกำแพงถล่มทับร่างจมหายไปในกองเศษอิฐ คงเหลือเพียงแค่ดาบที่ถือไว้ปักอยู่บนพื้นราวป้ายบนหลุมศพ
“เจ้าหน้าโง่ พลังของเจ้าในเวลานี้ ไม่มีทางเอาชนะข้าได้ในการปะทะซึ่งๆหน้าหรอก!”
“โครมมมมม…..!”
ร่างของนักรบเกราะทองผุดขึ้นมาจากกองซากอิฐ แม้จะมีอาการบาดเจ็บอย่างสาหัสแต่จิตใจของเขายังไม่ยอมแพ้ต่อร่างทะมึนของราชาปีศาจที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ขาสองข้างแม้จะสั่นระริกแต่ก็ยังฝืนก้าวเดินเข้าไปหาศัตรูที่มองแล้วยิ้มอย่างกระหยิ่ม จ้องศัตรูที่บอบช้ำราวลูกไก่ในกำมือ ไม่เห็นหนทางใดที่เจ้านักผจญภัยผู้นี้จะแข็งขืนต่อต้านตนได้อีกแล้ว
“เจ้าจะเอาอะไรมาสู้ข้าได้อีก ถ้าคิดจะสังหารข้าด้วยสภาพร่างกายแบบนั้นจงลืมไปได้เลย หึๆๆ”
“ฉันฆ่าแกไม่ได้ก็จริง…อั๊ก…แต่ฉันสามารถผนึกแกได้ Dark Beast!” ชายในชุดเกราะแตกร้าวผู้นั้นพูดเสียงกร้าวล้วงมือเข้าไปใต้เกราะอกของตนเอง และดึงผนึกเป็นก้อนศิลาสีขาวขนาดเท่าหนึ่งฝ่ามือชูไปทางร่างทะมึนปรากฏแสงสีนวลส่องสว่างไปทั่วพิ้นที่ จากนั้นถอนใจเฮือกหนึ่งก่อนจะร่ายคาถาขึ้น“Amulet of Light! ข้าขออ้อนวอนท่าน จงมอบพลังแก่ข้า..บัดนี้จงมอบพลังแก่ข้า พลังอันยิ่งใหญ่แห่งสายลม พลังยิ่งใหญ่แห่งท้องนภา พลังยิ่งใหญ่แห่งสายนที พลังยิ่งใหญ่แห่งพื้นปฐพี จงมาเมื่อข้าร้องขอ จงมาเพื่อรับใช้ข้า จงมาเมื่อข้าท้อแท้ จงมาเมื่อข้าสิ้นไร้หนทาง…”
ร่างในเงาทะมึนเบิกตากว้างส่งเสียงคำรามก้อง “อัญมญีผนึกมาร บัดซบจริงๆ ข้าคาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีสิ่งนี้!”
พื้นดินรอบๆร่างชายในชุดเกราะแตกร้าวค่อยๆแยกออก แสงสีแดงฉานส่องสว่างไปทั่ว เขาท่องคาถาจบลงอย่างช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า อัญมณีบนมือแตกออกพร้อมน้ำตาที่หยดลงมากระทบ แสงสว่างจากท้องฟ้าพุ่งลงมาเป็นสายฟ้าฟาดเส้นมหึมา จากนั้นระเบิดตัวเองอย่างรุนแรงพร้อมกันนั้นยังยืดขยายตัวออกมัดพันธนาการร่างดำทะมึนใต้ผ้าคลุมไว้อย่างแน่นหนา ก่อนปะทุแล้วระเบิดออกอย่างรุนแรงอีกครั้ง เสียงดังกึกก้องจนแก้วหูดับ
หากเปลี่ยนเป็นปีศาจธรรมดามาโดนคาถานี้อย่างน้อยต้องถูกระเบิดจนร่างกายแหลกเหลว แต่ร่างทะมึนคือราชาปีศาจจึงไม่สามารถจัดการได้ง่ายดายถึงเพียงเท่านั้น แค่แรงระเบิดยังไม่อาจส่งราชาปีศาจนี้กลับลงสู่ขุมนรก ทำได้เพียงมัดพันธนาการอีกฝ่ายชั่วขณะเท่านั้น ราชาปีศาจดิ้นรนหมายจะให้ร่างของตนหลุดจากพันธนาการ ไม่ว่าจะพยายามร่ายคาถาแก้เพียงใดก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ในที่สุดก็ต้องยอมจำนน
ราชาปีศาจหัวเราะหึๆในลำคอ “เจ้าถึงกับยอมใช้ศิลาแห่งแสงเพื่อผนึกข้าไว้ ข้าพลาดครั้งนี้เพราะประมาทในความสามารถของเจ้าแท้ๆ ข้าจะยินยอมให้เจ้าผนึกข้าก็ได้ แต่อีก 10 ปี หรือ 100 ปีข้างหน้า ข้าจะกลับมาอีกครั้ง และจะไม่มีใครสามารถกักขังข้าได้อีก ในวันนั้นถ้าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าจะต้องชดใช้อย่างสาสมที่บังอาจพรากวันเวลาของข้าไป !”
ร่างของราชาปีศาจค่อยๆหายเข้าไปในก้อนศิลาสีอำพันพร้อมกับเสียงตะโกนสาปแช่งที่ค่อยๆเบาลง เป็นเวลาเนิ่นนานหลังจากนั้น เมื่อทุกอย่างสงบลงปรากฏแสงสีขาวจากท้องฟ้าส่องลงมายังที่ๆชายหนุ่มในชุดเกราะแตกร้าวยืนร่ายเวทย์ เขาค่อยๆทรุดลงนอนหงายอย่างสิ้นเรี่ยวแรงอยู่ข้างๆแท่นบูชาพลางหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย สองตาคมจ้องมองแท่นสีอำพันที่มีร่างของราชาปีศาจถูกผนึกอยู่ข้างใน
“ฉันจะผนึกแกไว้ก่อน กว่าจะถึงวันที่แกหลุดออกมา ฉันคงจะหาวิธีปราบแกได้!”
แล้วทุกสิ่งก็ดับวูบลงเข้าสู่ความมืด ก่อนจะแว่วเสียงไพเราะเพราะพริ้งดังขึ้นในโสตประสาท
.
.
.
.
.
.
‘วู้บ……!...’ อากาศบริสุทธิ์ที่อยู่เหนือควันจากการเผาไหม้นั้นเข้าทะลักท่วมปอด สายลมเย็นเยียบที่กรีดลงบนผิวกายอย่างไม่ปราณี ราชาปีศาจหลับตาลงพลางรับรู้ถึงประสาทสัมผัสต่าง ๆที่ยังทำงานเป็นอย่างดี หูทั้งสองข้างที่ยาวไปด้านหลังของมันยังคงได้ยินเสียงแผ่วเบาจากแดนไกล จมูกของมันยังคงได้กลิ่นคาวเลือดและอาหารอันโอชะ ดวงตาสีดำวาวส่อแววเจ้าเล่ห์นั้นยังมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ในความมืดมิด และผิวกายบางส่วนที่เป็นเกล็ดสีแดงเข้มปกคลุมด้วยขนดกดำยาวรุงรังก็เป็นเกราะให้มันได้ไม่ต่างจากครั้งอดีตที่ออกโลดแล่นบนพื้นพิภพ
ไอเย็นยะเยือกแห่งเหมันตฤดูได้คืบคลานเข้ามาแทนที่ฤดูใบไม้ร่วงจนหมดสิ้น การเข่นฆ่าอันหฤโหดได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตา เหล่าสมาชิกปาร์ตี้ทอดร่างนอนตายบนพื้นหญ้าสูงในสภาพเอ็ดอนาถเลือดนองท้องทุ่งชโลมใบหญ้าเป็นหย่อมๆ Dark Beast ลืมตาขึ้นก่อนที่ดวงตาสีดำวาวจะกวาดตามองไปรอบ ๆภูมิประเทศที่คุ้นเคย แม้ว่ามันจะสัญจรผ่านพื้นดินและผืนน้ำแห่งนี้เมื่อนานแสนนานมาแล้ว แต่มันยังจดจำทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
มันจดจำและกำลังดื่มด่ำกับความทรงจำทุกอย่างที่เกือบจะลบเลือน ไม่ว่าจะเป็นโขดหินสีเทาอันแข็งแกร่ง ผืนนภาสีฟ้าและดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอย่างแรงกล้า มันจำได้แม้กระทั่งใบหน้าของเหล่ามนุษย์ที่ขลาดเขลาและหวาดกลัว สีหน้าของเหล่าผู้ไร้อำนาจที่ความตายได้แวะมาเยี่ยมเยียน รวมไปถึงเสียงกรีดร้องอย่างสยดสยอง มันเป็นสุ้มเสียงแสนไพเราะที่อยากฟังแล้วอยากฟังซ้ำอีก มันทำให้รู้สึกสนุกมากขึ้น มันจำรสชาติของเหยื่อพวกนั้นได้ดี มันจำได้ว่าพลังเวทย์อันรุนแรงฟาดไปที่ปราสาทหลังมหึมากลางเมือง หินที่เรียงร้อยต่อกันเป็นอย่างดีนั้นพลันพังทลายลงมาทับผู้คนมากมายที่อาศัยหลบภัยอยู่นั้น คนที่ตายใต้ซากร่างนับว่าโชคดี เพราะคนที่รอดหนีออกมาทันกลับประสบชะตากรรมโหดร้ายกว่า
เสียงระงมด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวังเสนาะโสตราชาปีศาจยิ่งนัก
และหายนะเช่นนั้นกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง มันจะยาตรากองกำลังอสูรไปเหยียบย่ำทุกดินแดนของมนุษย์และทุกเผ่าพันธุ์บนโลกใบนี้ที่บังอาจต่อต้านและแข็งขืนต่ออำนาจของมัน
Dark Beast เชิดหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์ยามบ่ายที่ทอแสงผ่านเมฆหมอกสีดำทะมึนด้วยสายตาเรียบนิ่ง เมื่อมันหวนนึกถึงนึกถึงกาลก่อน หลายร้อยหลายพันปีนับตั้งแต่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากเถ้าธุลีและเปลวไฟ ขณะที่ผืนฟ้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งต่าง ๆบนพื้นปฐพีแห่งนี้ได้แปรเปลี่ยนไปหลายต่อหลายครั้ง ทั้งอาณาจักร ทั้งเหล่ามนุษย์ คนแคระและเอลฟ์ที่ได้สืบเชื้อสายจากรุ่นสู่รุ่น ทุกสิ่งในสมองค่อยๆเลือนหายไป ความคลั่งแค้นเริ่มทวีเมื่อนึกถึงศัตรูตัวร้ายที่หาญกล้าบุกเข้าไปจองจำมันถึงวิหาร Myitkyina ภาพใบหน้าของชายผู้นั้นผุดขึ้นมา มันไม่เคยลืมเลือน ชายผู้ที่มอบความพ่ายแพ้ครั้งแรกให้แก่มัน และพรากอิสรภาพไปจากมัน…
“ข้ากลับมาแล้ว…นักฆ่าหมายเลขแปด ข้ามาจะทวงแค้นที่เจ้าทำไว้กับข้าอย่างสาสม!”
.
.
.
.
คลื่นนนนนน…..!!!
ปะ…เปลี้ยะ…เปลี้ยะ…เปรี้ยงงงงงงงงงงง….!!!
ไม่ทันจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนถึงชื่อคนมือบอนที่ไปปล่อยตัวอันตรายทั้งสองออกมา ก็ปรากฏเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นจนแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่นขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน มันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าบัดนี้ราชาปีศาจได้จุติเต็มตัวแล้ว ท้องฟ้าส่งเสียงคำรนร้องกึ่งก้องเฉกเช่นเดียวกับวงเวทย์สีแดงฉานที่ทอแสงสว่างเจิดจ้า บรรยากาศแห่งลางร้ายที่น่าสะพรึงร้ายต้อนรับการกระมาของราชาปีศาจอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
[2…1…0….ตริ้ง!]
เมือการนับถอยหลังจากระบบสิ้นสุดลง ราชาปีศาจก็พร้อมจะย่างเท้าออกมาเหยียบพสุธาสร้างหายนะให้กับทุกชีวิตบนโลกเสมือนแห่งนี้ เสกจ้องมองปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเม็ดเหงื่อจากความร้อนและเคร่งเครียดไหลอาบใบหน้า เขาเผลอกลืนน้ำลายลงคอที่แหบแห้งเมื่อเห็นชัดถึงเจ้าสิ่งที่อยู่ในกลุ่มก้อนสีโลหิตเต็มๆตา
ร่างที่ปรากฏคืออสุรกายที่มีร่างเป็นสีแดงเพลิง ร่างของมันสูงใหญ่ หนาบึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้ามปกคลุมด้วยเส้นขนหนา ส่วนหัวเป็นใบหน้าสัตว์ประเภทสิงโต ดวงตาโตสีดำเยื่อตาสีเหลือง ปากอ้ากว้างเต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคม ร่างกายตั้งตรงคล้ายๆ คน สองแขนแม้จะกำยำล่ำสันใหญ่โต แต่ด้านปลายก็ยังเป็นกีบเท้าสัตว์เต็มไปด้วยขนและกรงเล็บยาวคมกริบ ส่วนล่างยกตัวขึ้นยืนสองขาได้คล้ายคน ร่างนั้นลอยลงสู่พื้น เมื่อเท้าสัมผัสพื้นดินก็แตกกระจายและเกิดลมหมุนพัดกรรโชกรุนแรงรอบๆกายของมัน ขนบนร่างพลิ้วไหวไปตามกระแสลม
ตริ้ง!
[การปลดผนึกเสร็จสมบูรณ์ค่ะ..!]
Dark Beast
คำอธิบายเพิ่มเติม – ราชาปีศาจร้ายผู้นำทัพรบกับเหล่าทวยเทพเมื่อครั้งบรรพกาล
Class : God Animal
Level : -
(No more information.)
คำเตือน
[ผู้ที่ถูก Dark Beast สังหารจะถูกลบข้อมูลทั้งหมดของตัวละครทิ้งถาวร]
[ ไม่สามารถ Log out ได้..ค่ะ!]
[ตัดการเชื่อต่อชั่วคราว คลื่ดดดดดดด…………!]
ราชาปีศาจผู้ชั่วร้ายที่เคยสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และพื้นพิภพมาแต่ครั้งบรรพกาล ร่างกายสูงใหญ่ราวๆห้าเมตรของมันข่มขวัญศัตรูได้ชะงัก จิตสังหารที่แผ่ออกมารุนแรงจนคณะปาร์ตี้แข้งขาสั่นขยับตัวไม่ได้ ท้องฟ้าที่เคยแผ่ขยายเป็นสีแดงดั่งฉาบด้วยเลือดสีแดงฉานแฝงด้วยกลิ่นอายแห่งความตายเข้มข้น ในเวลานี้วงเวทย์สลายไปหมดสิ้นแต่ยังคงฉาบด้วยสีแดงสดกดดันประสาทของคณะปาร์ตี้อยู่เช่นเดิม ร่างที่สงบงันค่อยๆชันคอขึ้นมาราวกับสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลง
“มันมาแล้ว…” เสกเอ่ยเสียงแผ่วๆเพราะลำคอแหบแห้ง
“นั่นนะเหรอ ราชาปีศาจ..?” สาวแว่นขยับแว่นสายตาเพื่อเพ่งมองให้ชัดๆ
“ใช่! จนกว่าศัตรูจะตาย มันจะไม่หยุดจนกว่าลมหายใจศัตรูจะหยุดลง!”
เมื่อราชาปีศาจอันน่าสะพรึงปรากฏตัว บททดสอบสำคัญของยอดนักผจญภัยเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ร่างนั้นกางแขนที่เต็มไปด้วยกรงเล็บยืดส่วนหัวขึ้นสูงเต็มที่ เงยหน้าอ้าปากกู่ก้องส่งเสียงคำรามสุดกำลัง
“โฮ๊กกกกกกกกกก……………….!!!”
เสียงกู่ร้องอย่างเต็มพละกำลัง เปลวเพลิงแลบปลาบเป็นสายอยู่ด้านหลัง หัวใจสุดแสนยินดีปรีดา ความคับแค้น ความเจ็บปวดถูกถ่ายทอดออกมาพร้อมกับเสียงคำรามและเพลิงพิษที่กระจายไปกับชั้นบรรยากาศ
ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาอุดหนุนผลงาน
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น