ดูจากโครงเรื่องแล้ว น่าจะเป็นเรื่อง พาพี่สาวไปเที่ยวทะเล
ผลงานของคุณ Wait_For_Nothing
"อาววซี๊ดส์! อูยยย โอยยย พลมัวรออะไรอยู่ล่ะเข้ามาเลยพี่ตั้งท่ารอพลให้พลมาควบพี่อยู่แล้ว"
เสียงพูดที่แฝงไปด้วยอารมณ์กระสันต์อย่างเต็มที่ของพี่เมย์พี่สาวคนสวยของผมให้ผมต้องรีบไปขึ้นคร่อมโถมกระแทกใส่เข้าไปในร่องของเธอที่รออยู่ในท่าโก้งโค้งอย่างเต็มที่...จนกระทั่งเราไปถึงสวรรค์กันทั้งสองคน
และแล้วผมก็มานอนกอดก่ายกับพี่เมย์ในสภาพที่เปลือยเปล่าทั้งคู่พร้อมกับอดคิดฉงนสงสัยในใจไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไงกันหนอ?มันจะว่าเป็นความบังเอิญหรือเป็นโชคชะตาเล่นตลกหรือเป็นความโชคดีอะไรซักอย่างที่ทำให้
ผมได้มีโอกาสแบบนี้...กับพี่สาวแท้ๆของผมเองถ้าจะให้เรียกก็คงต้องเรียกว่าสถานการณ์มันพาไปซะมากกว่าเกินกว่าที่ผมหรือพี่เมย์หรือใครจะไปคิดคาดคะเนได้
เรื่องมันก็เริ่มมาจากปิดเทอมหน้าร้อนนี้แหละครับ....
ผมกับพี่เมย์เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดีมากครอบครัวหนึ่งและเนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ของพวกเราต่างต้องยุ่งกับการงานและภาระหน้าที่เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่
พี่เมย์จึงต้องรับหน้าที่ดูแลผมด้วยตนเองในฐานะพี่สาวคนโตพี่เมย์ค่อนข้างอายุห่างจากผมพอสมควรพี่เมย์อายุ20ย่าง21กำลังจะขึ้นมหาลัยปีสามแล้วในขณะที่ผมยังเป็นเด็กอายุแค่11ขวบมาหมาดๆเพิ่งจะขึ้นป.6เท่านั้นเองผมเพิ่งจะรู้จักเรื่องเพศกับการช่วยตัวเองเมื่อประมาณ1ปีที่ผ่านมานี่เองครับจากเพื่อนมันสอน
พอจะถึงปิดเทอมหน้าร้อนพี่เมย์ก็บอกกับผมว่าเราจะไปเที่ยวทะเลกันไปตั้งแต่ต้นปิดเทอมเลยโดยจะไปพักกันบนเรือยอร์ชของที่บ้านแล้วจะขับเรือออกไปแล่นในทะเลเล่นกัน
เมื่อเวลาที่เราตกลงใจไว้ว่าจะไปเที่ยวกันมาถึงพี่เมย์กับผมก็ขับรถไปที่ท่าที่ให้เช่าที่จอดเรือโดยให้ทางเค้าเตรียมเสบียงที่จำเป็นบางอย่างไว้แล้วเราก็ซื้อพวกอาหารกับของใช้เข้าไปเพิ่มเติม
ในขณะที่ขับรถอยู่พี่เมย์ก็บอกกับผมว่า
"นี่พลเดี๋ยวจะมีคนไปด้วยกับเราเพิ่มอีกนะ"
"ใครเหรอครับพี่เมย์?"ผมถามกลับไปอย่างงงๆเพราะใครหว่าจะมาไปกับเราเอาป่านนี้
"เอาเถอะน่าถ้าพลได้เห็นล่ะก็จะต้องดีใจแน่ๆเชื่อพี่เถอะ"แล้วแกก็ยิ้มแบบมีเลศนัยแบบว่าให้ผมไปดูแล้วจะรู้เอง
พอไปท่าเรือในขณะที่เราเอารถไปจอดเพื่อจะเอาของลงนั้นก็มีคนสองคนเดินดิ่งเข้ามาหาเราพร้อมกับโบกไม้โบกมือตะโกนเรียก
"ยายเมย์ สวัสดีจ๊ะเพื่อนรักนึกว่าจะมาสายต้องปล่อยให้เธอรอเก้อซะแล้ว ว่าไงจ๊ะนายพลปิดเทอมแล้วสบายตัวละสิใช่มั๊ยเราวันๆเอาแต่เล่นเกมไม่ต่างอะไรกับนายนี่เลย"
พี่ปลาเพื่อนสนิทของพี่เมย์พูดแซวทักทายขึ้นมาพร้อมกับเอามือตบปั้ปๆไปที่ไหล่ของคนที่ยืนอยู่ข้างๆพี่เค้าซึ่งก็ไม่ใช่ใครไอ้ดุ่ยเพื่อนผมนั่นเอง
คือว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญว่าพี่เมย์กับพี่ปลาอายุเท่ากันแล้วก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยโรงเรียนจนถึงอยู่มหาลัยส่วนผมกับไอ้ดุ่ยน้องชายของพี่ปลาก็ดันอายุพอๆกันเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันแถมสนิทกันอีกเพราะงั้นเรากเลยไปไหนมาไหนด้วยกันสี่คนบ่อยๆจนผมพลอยสนิทกับพี่ปลาไปด้วย
"ดีใจจังที่ได้เจอกันอีกนึกว่าจะต้องไปนั่งเหงาอยู่กลางทะเลซะสองอาทิตย์แล้ว"
"เราก็ด้วย ยังนึกๆอยู่เลยว่าพี่เราจะพาเรามาเที่ยวกับใครหว่าถามก็ไม่ยอมตอบบอกแต่ว่าถึงก็รู้เองๆ"
เราก็เก็บของขึ้นเรือไปพลางคุยกันไปพลางพี่เมย์กับพี่ปลาสามารถจะขับเรือได้เองทั้งคู่เพราะว่าบ้านพี่ปลาเองก็มีเรือของตัวเองลำหนึ่งเหมือนกันแต่อยู่คนละท่ากัน
เจ้าเรือ"วินดี้"สีขาวของเรานั้นกว้างขวางพอสมควรตัวเรือจะมีห้องนอนเล็กอยู่ชั้นล่างเรือ1ห้องแล้วก็ส่วนชั้นกลางเรือจะมีห้องนั่งเล่น1ห้องกับห้องนอนเล็กข้างหลังอีก1ห้องส่วนข้างบนเรือคือส่วนของคนบังคับเรือกับดาดฟ้าเรือตรงด้านหน้าเรือก็มีพื้นที่ไว้ให้ใช้ทำกิจกรรมต่างๆที่ต้องการได้ส่วนด้านหลังก็จะมีระเบียงเล็กๆให้ใช้นั่งชมวิวเพราะฉะนั้นจึงถือว่าค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวสำหรับคนสี่คน
ผมกับพี่เมย์นอนห้องข้างบนส่วนพี่ปลากับนายดุ่ยนอนห้องข้างล่างจริงๆก็แค่ที่เก็บของแหละพอเอาเข้าจริงๆผมก็มานั่งเล่นเกมกับไอ้ดุ่ยข้างล่างส่วนพี่ปลาก็นั่งคุยกับพี่เมย์กันอยู่ข้างบน
เรือของเราก็แล่นออกจากฝั่งห่างมาจนเห็นฝั่งอยู่ไกลลิบๆจนในสุดเมื่อแล่นมาได้ซักพักก็มีแต่พวกเราสี่คนกับท้องทะเลอันเวิ้งว้างในบรรยากาศสลัวๆของเวลาโพล้เพล้