ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

รวมเรื่องสั้นโคตรอีโรติกของนาย Nato87 : เพื่อน...กูรักลูกสาวมึงว่ะ ตอนที่ 3

เริ่มโดย nato87, สิงหาคม 28, 2019, 08:30:56 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

คุณอยากให้รักต้องห้ามระหว่างลุงจอมกับหนูปลา จบแบบไหนครับ?

Happy Ending จบทุกคนหาทางออกร่วมกันได้ และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
144 (76.2%)
Bitter Sweet จบแบบหวานอมขมกลืน จะสุขก็ไม่เต็มร้อย จะทุกข์ก็ไม่เชิง
11 (5.8%)
Bad Ending จบแบบโศกนาฏกรรม เพื่อให้มันเป็นตำนาน
8 (4.2%)
จบแบบปวดตับ แบบอยู่ดี ๆ ลุงพลมาจากไหนไม่รู้ มาคาบลูกชิ้นปลาไปจากเจนรบ (อันนี้เอาฮานะ 5555+)
26 (13.8%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 189

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาเร็วทันใจดีไหมทุกคน 5555+

ตอนนี้ยาวมาก บอกเลยว่ายาวจริง ๆ เพราะต้องการสรุปทุกอย่างให้จบภายในตอนนี้เพื่อส่งต่อไปยังตอนต่อไปได้ตามที่ตั้งใจไว้ ก็เลยยาวผิดปกติ ตอนนี้ไม่มีฉากสวิงสวายอะไรมากมายนะครับ จะมีก็แค่ฉากดราม่าระหว่างลุงจอมกับสาวปลา ตัดกับฉากในอดีตเป็นช่วง ๆ ผมอยากให้มันออกมาเหมือนคุณกำลังดูซีรีส์สักเรื่อง อยากให้คุณเห็นแง่มุมต่าง ๆ ของตัวละครอย่างเจนรบและปวีณา รวมถึงคนอื่น ๆ ที่เป็นตัวละครชั้นรองอย่างภาคภูมิและปิยะวรรณ

ในบรรดาเรื่องเสียวธีมชายแก่กับหญิงสาวเนี่ย ผมคิดว่าเจนรบ คือพระเอกที่เป็นพระเอกจริง ๆ เป็นสุภาพบุรุษมากกว่าพระเอกรุ่นเดอะของผมคนไหนในเรื่อง ยกตัวอย่างเช่นลุงพล 5555+ ส่วนหนึ่งที่ตอนนี้ยาวมาก เพราะผมต้องการหาทางลงให้ลุงจอมแกสวย ๆ หน่อย

ช่วงนี้จะสังเกตว่าผมปั่นเรื่องนี้ถี่มาก เหตุผลคือไอเดียมันแล่นก็เลยต้องรีบปั่น ผมจะปั่นเรื่องนี้ให้เสร็จให้เร็วที่สุดก่อนวางจำหน่าย ซึ่งคาดว่าเร็ว ๆ นี้แหละ และถ้าวางจำหน่ายเมื่อไรจะมาประกาศอีกที


สำหรับตอนที่ 4 จะเป็นฉากเลิฟซีนหวาน ๆ ของลุงจอมและน้องปลานะครับ ผมจะตัดฉากเลิฟซีนส่วนใหญ่ออกไปในตอนนี้เพื่อสงวนสิทธิ์ให้คนที่ซื้อนิยายของผมเท่านั้น รวมไปถึงตอนที่เหลือและบทสรุปของเรื่องราวครับ

ขอให้สนุกกับการอ่าน ครั้งต่อไปที่เราจะพบกันในเรื่องสั้นเรื่องนี้ ตอนนั้นจะเป็นตอนที่ผมรวมเล่มและวางจำหน่ายเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ

ปล.แล้วก็ทิ้งท้ายด้วยทีเซอร์ฉากเลิฟซีนในตอนที่ 4 นะครับ เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ผมขอซ่อนบางส่วนนะ 5555


######################

"ไอ้หนุ่ม ใจเย็น ๆ นะเฮ้ย!!" เจนรบพยายามเกลี้ยกล่อมเจ้าหนุ่มคนนั้น "พกปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร มันผิดกฎหมายนะ"

"อย่าเข้ามา!!!" หนุ่มอั๋นเล็งปืนใส่ทนายเจนรบ "ผมบอกว่าอย่าเข้ามา!!!"

"ช่วยด้วย ฮือ!!! ลุงจอม!!! ช่วยปลาด้วยคะ!!"

"ไอ้อั๋น ใจเย็น ๆ ก่อนซิวะ วางปืนลง มึงอย่าทำแบบนี้ดิ!!!" เพื่อนฝูงของอนุวัฒน์ที่ยืนมุงอยู่ออกโรงเตือนสติเพื่อน

"ไอ้หนุ่ม!!! วางปืนลงก่อน" ทนายเจนรบพยายามเกลี้ยกล่อม "มีอะไรค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันก็ได้นะ โอ้ย!!!"

"ไอ้อั๋น!!!!"

ความจริงแล้วปืนที่หนุ่มอั๋นพกเอามา ไม่ใช่ปืนจริง แต่เป็นปืนบีบีกัน เท่านั้น ทีนี้พอเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มบานปลาย อนุวัฒน์ก็เลยยิงใส่ทนายเจนรบก่อนรีบวิ่งเดินหนีออกทางบันไดหนีไฟ

"อูยยย!!!! ไอ้เด็กบ้า!!!" เจนรบกุมมือตรงแผงหน้าอกที่โดนเด็กหนุ่มเอาปืนบีบีกันยิงใส่จนเป็นรอยช้ำ

"ลุงจอม!!! ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ?" ปวีณารีบเดินเข้าไปถามไถ่อาการของหนุ่มใหญ่ด้วยความเป็นห่วง

"ลุงไม่เป็นไรจ๊ะ โชคดีแรงอัดปืนไม่แรงมาก" เจนรบยิ้ม "ไอ้เด็กคนนั้นมันใครเหรอ?"

"ดูซิ...สองคนนี้มันยังไงอยู่นะ"

"แกคิดเหมือนที่ชั้นคิดหรือเปล่า?"

"ทนายเจนรบกับปลา ตกลงเป็นอะไรกันเนี่ย?"

"นี่!! คิดอะไรกันอยู่!!!" ปวีณาเหมือนรู้ว่าเพื่อน ๆ กำลังจับกลุ่มนินทาตัวเธอกับลุงเจนรบ "เราไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเธอคิดสักหน่อย นี่ลุงเจนรบ เพื่อนของพ่อเรา จำไว้ด้วย!!"

"โอเค ไม่เป็นไรแล้วทุกคน แยกย้ายเถอะ" เจนรบรีบตัดบทเพื่อไม่ให้มันวุ่นวายไปมากกว่านี้ มือก็ยังกุมตรงแผงหน้าอกเพราะยังรู้สึกปวดอยู่ไม่น้อย "ลุงไม่เป็นไรแล้วจ๊ะปลา ปลากลับไปเรียนต่อเถอะ"

"วันนี้หนูหมดคาบเรียนแล้วค่ะลุงจอม" สาวน้อยยิ้มหวาน

"งั้นเหรอ? อืม...." เจนรบกุมมือตรงแผงหน้าอก "ถ้างั้นก็รีบกลับหอเถอะ"

"แต่หนูว่าลุงน่ะ ไปห้องพยาบาลก่อนดีไหม?" ปวีณาออกความเห็น "นะคะลุงจอม ไปดูอาการสักหน่อยดีกว่า จะได้อุ่นใจ นะคะ"

สุดท้ายเจนรบก็ทนคำรบเร้าของปวีณาไม่ไหว ก็เลยปล่อยเลยตามเลย เดินตามเด็กสาวไปห้องพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการเสียหน่อย โชคดีที่ปืนบีบีกันของอนุวัฒน์มีแรงอัดไม่มาก ก็เลยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนอกเสียจากแผลฟกช้ำ

...............

พอเสร็จธุระจากห้องพยาบาล แล้วพอดีทั้งคู่มีเวลาว่างตรงกัน เจนรบก็เลยชวนเด็กสาวไปหาอะไรกินที่ห้างมาบุญครอง เพื่อพูดคุยสอบถามเรื่องราวสัพเพเหระทั่วไป เจนรบพาเด็กสาวไปนั่งกินบาร์บีคิวบุฟเฟต์ชั้นบน



"ลุงจอม กินมื้อธรรมดาก็ได้นะคะ" ปวีณารู้สึกเกรงใจหนุ่มใหญ่

"ไม่เป็นไร!! ไม่ต้องคิดมากหรอกจ๊ะน้องปลา" เจนรบยิ้ม "พอดีลุงหิว บรรยายตั้งแต่เช้า ลากยาวถึงบ่ายไม่ได้กินอะไรเลย มาเถอะ มากินกันให้อร่อย"

สาวน้อยรู้สึกเกรงใจหนุ่มใหญ่ แต่ก็ไม่อาจทัดทานอะไรได้ ก็เลยปล่อยเลยตามเลย แล้วทีนี้ลุงกับหลานก็สั่งเมนูมานั่งปิ้งหน้าเตากินอย่างเอร็ดอร่อย

เจนรบมองปวีณาที่กินหมูย่างบาร์บีคิวด้วยความเอร็ดอร่อย มือก็คีบตะเกียบหมุนเล่นไปมา น้องปลาสาวร่างเล็กแบบนี้แต่กลับกินจุกว่าที่คิด

"มีอะไรเหรอคะลุงจอม?" นิสิตสาวคณะนิเทศศาสตร์เอามือป้องปากขณะกำลังเคี้ยวอาหาร

"หนูกินเก่งเหมือนแม่เลยนะ" เจนรบแซว "สมัยก่อน รู้ไหมว่าแม่หนูน่ะกินเก่งมาก จนผู้ชายอย่างลุงกับพ่อของหนูต้องอึ้ง"

"ลุงก็!!! แซวซะหนูเขินเลย!!!" เหมือนโดนจี้จุด ก็เลยทำให้น้องปลาค้อนใส่ลุงจอม

"ใจเย็น!! ลุงแค่แซวเล่น กินไปเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ" เจนรบผายมือไปมากลางอากาศ "ถ้าไม่อิ่มจะสั่งอะไรมากินเพิ่มก็ได้นะ"

"ไม่ไหวแล้วค่ะลุงจอม" ปวีณาตอบ "แค่นี้ก็เต็มโต๊ะ หนูกินไม่ไหวแล้ว"

เจนรบยิ้มหวานให้ปวีณา พลางนึกถึงเหตุการณ์สมัยที่ตัวเองยังเป็นนิสิตนักศึกษา ตอนนั้นเขาพึ่งคบหากับปิยะวรรณใหม่ ๆ และพาเธอมาแนะนำกับกลุ่มเพื่อนที่เรียนคณะนิติศาสตร์ด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือภาคภูมิ ที่ภายหลังได้แย่งชิงปิยะวรรณจากเขาไป

"ทุกคน นี่เปิ้ล แฟนเราเอง" หนุ่มจอมยืนแนะนำแฟนสาวดาวคณะอักษรศาสตร์อย่าง เปิ้ล ปิยะวรรณ กลางโต๊ะจีนเลี้ยงส่งรุ่นพี่นิติศาสตร์ที่กำลังเรียนจบ ท่ามกลางเสียงโห่หาจากเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่นักศึกษาทั้งหลายทั้งปวง

"สวัสดีค่ะทุกคน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" เปิ้ลยิ้มหวาน พนมมือไหว้รุ่นพี่คณะนิติศาสตร์ตามมารยาทของรุ่นน้องที่ดี

"เชิญนั่งเลยครับน้องเปิ้ล อย่าถือสาพวกเราเลยนะ พวกเราก็เฮฮาบ้าบอตามภาษาผู้ชายนี่แหละ"

"แฟนสวยนะมึง ไอ้จอม"

"ขอบคุณครับพี่" หนุ่มจอมยิ้มเขินมองหน้าแฟนสาวด้วยความภูมิใจ ก่อนเอื้อมมือเสิร์ฟเครื่องดื่มน้ำอัดลมให้คนรักที่นั่งอยู่เคียงข้าง ส่วนคนอื่นก็ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไป

"ไอ้ภาค มึงเล่นกีต้าร์เป็น เล่นสักเพลงให้พวกพี่ฟังหน่อยเด๊ะ!!! เร็ว!!"

"เอาจริงเหรอพี่?" ภาคภูมิ หนุ่มนักกีฬาจากคณะนิติศาสตร์ เพื่อนสนิทของเจนรบที่นั่งร่วมโต๊ะหันมาถามเพื่อความแน่ใจ

"เออดิครับ รุ่นพี่มึงสั่งต้องทำตามดิวะ!!!" รุ่นพี่คนนั้นหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์เหล้า "ขอโดน ๆ ขอเพลงโดน ๆ ด่วน!!"

ภาคภูมิ หนุ่มหล่อของคณะนิติศาสตร์ลุกขึ้นไปหยิบกีต้าร์บนโต๊ะขึ้นมาเตรียมเล่นและร้อง ท่ามกลางเสียงโหฮาของเพื่อนพ้องน้องพี่คณะนิติศาสตร์

"เร็ว ๆ โว้ยมึง!! ขอเพลงโดน ๆ โจ๊ะ ๆ หน่อยโว้ย!!!"

"ไปตามทางที่เธอย่อมรู้ดี ใครคนที่ถูกใจเธอหลายอย่าง ใครจะเหมาะสมควรคู่พอ รวมเป็นชีวิตใหม่ ก็ขอให้เป็นตัวจริง เธอรู้ดี ใครคนที่ถูกใจเธอหลายอย่าง ใครจะเหมาะสมควรคู่พอ รวมเป็นชีวิตใหม่ ก็ขอให้เป็นตัวจริง" หนุ่มภาคโชว์เสียงร้องและการเล่นกีต้าร์กลางวงเหล้างานเลี้ยง ท่ามกลางเสียงเคาะโต๊ะของรุ่นพี่ขี้เมาทั้งหลาย




"ไอ้ภาค มึงมันเจ๋งว่ะ!!!"

"กูชอบเพลงนี้!!!"

"ถามจริง ๆ เหอะไอ้ภาค มึงอกหักมาเหรอวะ?"

"ฮ่า ๆ กูก็คิดเหมือนกัน"

"ร้องเพลงเพราะดีดกีต้าร์เก่งว่ะมึงไอ้ภาค!!!" เจนรบยกแก้วเหล้าขึ้นเหนือโต๊ะ "กูขอดื่มคารวะให้มึงหนึ่งจอก!!"

ปิยะวรรณยิ้มให้กับมิตรภาพของภาคภูมิและเจนรบ แต่สายตาของหญิงสาวกลับมองไปที่ภาคภูมิด้วยความรู้สึกบางอย่าง ที่เจนรบคนรักไม่เคยรับรู้มาก่อน

ภาคภูมิยิ้มที่มุมปาก ในตอนนั้นเขาเป็นหนุ่มน้อยมาดสุขุม เจนรบคิดว่านั่นคือรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ แต่เปล่าเลย รอยยิ้มและสายตาคู่นั้นของภาคภูมิ กำลังมองมาที่ปิยะวรรณแฟนสาวของเขาต่างหาก

ตัดมาที่ปัจจุบัน หลังจากกินบุฟเฟต์บาร์บีคิวเสร็จแล้ว ลุงจอมก็ชำระเงินค่าอาหาร แล้วเดินเล่นรอบห้างกับน้องปลาเพื่อย่อยอาหาร

"ขอบคุณลุงจอมอีกครั้งนะคะ ที่ช่วยปลาไว้เมื่อตอนบ่าย" ปวีณาเอ่ยปาก

"ไม่เป็นไรหรอก" เจนรบยิ้ม "ไอ้หนุ่มคนนั้นใครเหรอ? แฟน?"

"ไม่ใช่ค่ะ" น้องปลาตอบ "เขาชื่ออั๋น เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เขาพยายามจีบปลา แต่ปลาไม่เล่นด้วย ก็เลยพาล"

"หนูต้องระมัดระวังตัวหน่อยแล้วล่ะนะ" เจนรบเอ่ยปากเตือนหลานสาวคนสวย "แต่จะว่าไปน้องปลานี่เสน่ห์แรงเหมือนกันนะเราเนี่ย ได้เลือดแม่มาเต็ม ๆ เลย"

"ไม่เลยค่ะลุงจอม!!" ปวีณาปฏิเสธลั่น "หนูไม่ได้คิดว่าตัวเองสวยเพอร์เฟ็คอะไรเลย!!! หนูแค่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับหนูเท่าไร คือหนู ยังไม่คิดเรื่องแฟนน่ะคะลุงจอม"

"อืม ดีแล้ว" เจนรบยิ้ม "ตั้งใจเรียนไปก่อนดีกว่า เรื่องพวกนี้เดี๋ยวถึงเวลาก็มาเอง ลุงว่าเดี๋ยวเรากลับกันได้แล้วล่ะ"

เจนรบขับรถพาหนูปลาไปส่งหน้าบีทีเอสสยาม เช่นเดียวกับที่เคย เด็กสาวพนมมือไหว้คุณลุงเจนรบก่อนเดินขึ้นบันไดสถานีรถไฟฟ้า

"อืม...นั่นลูกสาวเพื่อนนะมึงไอ้จอม" ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าเจนรบเริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับเด็กสาวคนนี้ มันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น จนบางครั้งทนายความอย่างเขาก็เริ่มตั้งคำถามความเหมาะสมด้านศีลธรรม ก็จริงอยู่ ที่เขาเป็นชายโสด ไม่มีพันธะใด ๆ เพียงแต่ว่าฝ่ายหญิงคือลูกสาวของเพื่อนรัก



ทุกครั้งที่เจนรบได้อยู่ใกล้กับปวีณา เขารู้สึกหวั่นไหวคล้ายกับความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนกับปิยะวรรณ หัวใจสูบฉีดเต้นแรง รู้สึกประหม่า ในตอนนั้นเจนรบยังละอ่อนในเรื่องความรัก เขาต้องรวบรวมความกล้าเบอร์สุดเพื่อเดินเข้าหาปิยะวรรณทั้งที่ขาสั่นเพราะความอาย

มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่เกิดขึ้นกับปวีณา เพียงแต่ในตอนนี้ เจนรบไม่ใช่หนุ่มน้อยอีกต่อไป เขาเป็นหนุ่มใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เขามีภูมิคุ้มกันชีวิตสูงจากประสบการณ์ทั้งดีและร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต จนสามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนคือเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน เพียงแต่กับน้องปลา เจนรบพบว่าเขากำลังแหกกฎเกณฑ์บางอย่าง เพื่อให้ตัวเองได้ใกล้ชิดกับเด็กสาวมากขึ้น

"ไม่ได้นะมึง ไม่ได้นะมึง..." เจนรบถอนหายใจยาว เขารู้ว่าการพาปวีณามาเดินเที่ยวห้างหาอะไรกินแบบนี้ มันสุ่มเสี่ยงต่อการตกเป็นจำเลยสังคมว่าโคแก่อย่างเขากำลังคิดจะเคี้ยวหญ้าอ่อน แต่ทั้งที่รู้แบบนั้น เจนรบกลับไม่สามารถหักห้ามใจได้ "กลับบ้านโว้ย กลับบ้าน!!"

รถยนต์ Toyota Camry สีดำปี 2017 ที่เจ้าตัวออกเงินสดซื้อมาเมื่อไม่ปีแล่นออกจากสถานีรถไฟฟ้าสยาม โดยที่เจนรบไม่รู้เลยว่า ปวีณาแอบยืนมองอยู่ด้านบนสถานี

"แกควรปฏิเสธนะยัยปลา ทำไมถึงทำแบบนี้!!" จิตใต้สำนึกของปวีณาเองกำลังย้ำเตือนว่าเธอกำลังสุ่มเสี่ยงที่ก้าวผ่านเข้าไปในเขตแดนต้องห้าม ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก แต่เด็กสาวกลับห้ามใจไม่ไหว

นั่นคือคุณลุงเจนรบ เพื่อนของคุณพ่อภาคภูมิและคุณแม่ปิยะวรรณ นี่คือข้อเท็จจริง ถึงแม้ว่าคุณลุงจะครองตนเป็นโสด แต่มันไม่ใช่เรื่องที่เด็กสาวอย่างปวีณาจะไปทำตัวใกล้ชิดกับคุณลุงเจนรบถึงขนาดนั้น เธอควรปฏิเสธคำชวนของคุณลุงไป แต่เธอกลับเมินเฉย เหตุผลเพียงเพราะเธออยากใกล้ชิดกับลุงจอมให้มากขึ้นกว่าเดิม

ปวีณาไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน จนได้มาพบกับลุงจอม ความจริงแล้วเธอรู้จักกับลุงจอมมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กน้อย สิ่งที่เธอจำได้ก็คือลุงจอมเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นและใจดี ด้วยคำบอกเล่าของภาคภูมิและปิยะวรรณ ทำให้เด็กสาวรู้สึกประทับใจในตัวลุงจอมโดยไม่รู้ตัว

"แม่คะ หนูถามอะไรหน่อยได้ไหม?" ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นปวีณายังเป็นนักเรียนมัธยมปลาย เธอเดินเข้ามาทักทายปิยะวรรณที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำกับข้าวมื้อเย็น เพื่อรอภาคภูมิกลับจากการประชุมที่รีสอร์ต

"มีอะไรจะถามแม่จ๊ะปลา?" ปิยะวรรณยิ้มให้ลูกสาว ขณะกำลังเคี่ยวซุปแกงจืดเต้าหู้หมูสับที่กำลังเดือดได้ที่

"ระหว่างพ่อกับลุงจอม แม่รักใครมากกว่ากันคะ?" ด้วยความไร้เดียงสาของปวีณา เด็กสาวเลยถามไปโดยไตร่ตรอง จนทำให้ปิยะวรรณตกใจกับคำถาม

"ปลา!!! ทำไมมาถามแม่แบบนี้เนี่ย!!?" ปิยะวรรณดูตกใจไม่น้องกับคำถามของลูกสาว แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่กว่า ปิยะวรรณเลยพยายามไม่โกรธลูกสาวที่ถามแบบนั้น "ก็ต้องรักพ่อของหนูมากกว่าซิ ทำไมเหรอ?"

"หนูแค่สงสัยค่ะแม่ เห็นคุณพ่อเคยบอกว่าแม่กับลุงจอมเคยเป็นแฟนกัน หนูแค่อยากรู้ว่าตกลงแล้วแม่รักใครมากกว่ากันน่ะคะ?" ปวีณามองหน้าปิยะวรรณตาแป๋ว

"โถ..เด็กโง่เอ้ย!!" ปิยะวรรณปิดฝาหม้อแกงจืด "ฟังนะลูกปลา แม่ก็ต้องรักคุณพ่อของลูกมากกว่านั่นแหละ ถ้าพ่อกับแม่ไม่รักกัน หนูคงไม่ได้เกิดมา จริงไหม?"

"จริงค่ะ..." ลูกปลาพยักหน้า

"แล้วก็ แม่มีเรื่องอยากจะสอนลูกสักหน่อย" ปิยะวรรณกุมมือที่บ่าของลูกสาว ใบหน้าสวยหวานเริ่มฉายแววจริงจังมากขึ้น "เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเรา อย่าเอาไปพูดกับคนอื่นเด็ดขาด จำไว้นะลูก"

"ค่ะ..."

ตัดมาที่ปัจจุบัน ปวีณาในชุดนักศึกษาเหลือบมองรถยนต์ของลุงเจนรบแล่นผ่านจนลับตาไป เด็กสาวเลยหันหลังกลับไปเพื่อเตรียมรูดบัตรรอรถไฟตรงชานชาราด้านบน

ผู้คนมากมายจากหลากหลายสาขาหลากหลายอาชีพ ทั้งนักศึกษา พนักงานบริษัท คนทั่วไป และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ กำลังยืนออตรงหน้าชานชาลาสถานีรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของใครของมัน เช่นเดียวกับน้องปลาที่กำลังยืนเล่นสมาร์ทโฟนรอรถไฟรอบใหม่ที่จะแล่นเข้ามา

"ปรี๊ด!!!!" พนักงานประจำชานชาลาเป่านกหวีดเป็นสัญญาณให้ผู้โดยสารยืนห่างจากเส้นแบ่งเขตขณะรถไฟฟ้ากำลังจอดเทียบท่าสถานี ปวีณาเก็บสมาร์ทโฟนใส่กระเป๋าก่อนรีบเดินเข้าไปในรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางกลับหอพัก

...............

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน อั๋น อนุวัฒน์ ก็ถูกเชิญตัวมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อสอบสวนถึงเหตุการณ์ที่เจ้าหนุ่มเลือดร้อนคนนี้ไปทำพฤติกรรมไม่สุภาพและมีเจตนาทำร้ายร่างกายทนายเจนรบ โดยเจนรบและปวีณาเองก็ถูกเชิญตัวไปคุยกับคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยเพื่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมด



อนุวัฒน์สารภาพผิดทุกอย่าง เพราะอับอายและไม่อยากให้ใครเดือดร้อน สุดท้ายทนายเจนรบไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เว้นเสียแต่ตักเตือนสั่งสอนในฐานะผู้อาวุโสด้วยความหวังดี

"ไอ้หนุ่ม คุณยังมีอนาคตอีกไกลนะ ตอนนี้หน้าที่ของเราคือต้องตั้งใจเรียนไปก่อน ความรักถ้าจะมีก็มีได้ แต่ถ้ามีแล้วชีวิตไม่ดีขึ้นก็อย่าไปมี เหมือนที่คุณกำลังเป็นอยู่เนี่ย" ทนายเจนรบอบรมสั่งสอนหนุ่มอั๋นเป็นการใหญ่

"ขอโทษครับคุณทนาย ผมจะปรับปรุงตัวครับ" อนุวัฒน์พนมมือไหว้ขอขมาเจนรบ ที่เอาปืนบีบีกันไปยิงใส่เพราะความอารมณ์ชั่ววูบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์

"ครั้งนี้ผมจะเห็นแก่อนาคตของคุณ จะไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีอะไร เก็บเอาไปคิดนะ คุณโตแล้ว คุณเป็นนิสิตนักศึกษา คุณได้ชื่อว่าเป็นปัญญาชน เป็นอนาคตของชาติ คุณต้องคิดอะไรให้มากขึ้นกว่านี้"

เรียกได้ว่าเจนรบโชว์เดี่ยวอบรมสั่งสอนอนุวัฒน์เป็นการใหญ่ จนพ่อของอนุวัฒน์รู้สึกอับอายที่ลูกชายมีพฤติกรรมเช่นนี้ ส่วนน้องปลาก็นั่งเงียบในห้องประชุมฟังลุงจอมอบอมหนุ่มอั๋นไป

ตอนแรกหนุ่มอั๋นถูกทำทัณฑ์บนไว้ก่อน แต่สุดท้ายผู้ปกครองคงรู้สึกว่าอยู่ไปก็มีแต่จะสร้างความอับอาย ก็เลยพาลูกชายมาลาออกแล้วเตรียมส่งไปเรียนต่อเมืองนอกแทนจะดีกว่า เป็นอันว่าจากนี้ไป น้องปลาจะได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขสักที จนจบชั้นปีที่หนึ่ง

ทนายเจนรบ ยังคงรับจ๊อบเสริมมาบรรยายที่มหาวิทยาลัยของปวีณา เพียงแต่ทั้งคู่ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะภายหลังปวีณาได้เลื่อนชั้นสู่ปีที่สองของคณะนิเทศศาสตร์ ตอนแรกเจนรบก็คิดว่าด้วยความห่างไกลแบบนี้ คงจะช่วยให้เขาเฉดตัวออกห่างจากเด็กสาวมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

แต่ว่าเหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตเอาไว้ คลาสบรรยายของลุงจอมดันอยู่ติดกับคลาสเรียนวิชาการเขียนเพื่อสื่อโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ ก็เลยทำให้ทั้งคู่ได้เจอกันหลังเลิกคลาสอีกจนได้

"สวัสดีค่ะลุงจอม"

"สวัสดีจ๊ะหนูปลา เรียนเสร็จแล้วเหรอ?"

"ค่ะ..."

ยังอุตส่าห์มาเจอกันได้อีก ตอนแรกทั้งคู่เพียงแค่ทักทายไปตามมารยาท ครั้งแรกผ่านไป ครั้งที่สองและสามผ่านไป เจนรบพยายามรักษาระยะห่างของตัวเองกับเด็กสาวเอาไว้ เพียงแต่มันคงเป็นไปตามที่เบื้องบนได้ลิขิตเอาไว้แล้ว จากเหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องมาใกล้ชิดกันโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้

วันนั้นเป็นวันที่ปวีณามีพรีเซนต์งานกลุ่มเพื่อส่งเข้าประกวด กว่าจะเลิกก็เกือบค่ำ ส่วนเจนรบก็มีคลาสบรรยาย ทีนี้ฝนเกิดตกหนัก แล้ววันนั้นเจนรบไม่ได้เอารถมา เพราะขี้เกียจขับเนื่องจากปัญหารถติด ก็เลยเปลี่ยนแนวทางด้วยการนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีรถไฟฟ้าชิดลมแล้วเดินต่อไปที่ท่าเรือประตูน้ำเพื่อนั่งเรือกลับที่พักแถวลาดพร้าวแทน ซึ่งมันช่วยให้ชีวิตทนายย่างเจนรบง่ายขึ้น

"อ่าว...วันนี้เลิกเรียนเย็นจังเลยหนูปลา?" เจนรบที่เดินออกมาจากห้องเรียน ก็พบกับปวีณาที่พี่งพรีเซนต์งานเสร็จเดินออกมาเหมือนกัน ก็เลยเอ่ยปากทักทายเด็กสาวไปตามมารยาท

"พอดีวันนี้มีพรีเซนต์งานค่ะลุงจอม" ปวีณายิ้มหวาน "วันนี้ลุงก็เลิกช้าเหมือนกันนะคะ"

"ก็นิดหน่อยน่ะ วันนี้มีเรื่องให้คุยเยอะ" เจนรบยิ้มตอบ "ว่าแต่จะกลับหอเลยใช่ไหม?"

"ใช่ค่ะลุง เหมือนเดิม ที่เดิม" ปวีณาตอบ "นั่งรถไฟฟ้ากลับหอ"

"วันนี้สงสัยเราคงต้องเป็นเพื่อนร่วมทางกันละ"

"ทำไมเหรอคะ?" ปวีณาร่นคิ้วถาม

"ลุงไม่ได้เอารถมา พอดีขี้เกียจขับ เบื่อปัญหารถติด" หนุ่มใหญ่ตอบ

"อ่อค่ะ...งั้น..." สาวน้อยทิ้งระยะเวลาก่อนเอ่ยคำพูดบางอย่างออกมา "ถ้าไม่รังเกียจ...ลุงจะไปกับหนูด้วยก็ได้"

"เอาจริงเหรอ? ไม่กลัวใครเข้าใจผิดเหรอ? ว่าตาแก่ที่เดินมากับสาวสวยคนนี้เป็นใคร" เจนรบเริ่มเผลอใจแยบถามแบบทีเล่นทีจริงออกไปโดยไม่รู้ตัว

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะลุงจอม" ปวีณายิ้ม "นะคะลุง ไหน ๆ ก็กลับทางเดียวกันแล้ว ก็เดินกลับไปด้วยกันนี่แหละค่ะ"

สุดท้ายทนายความเจนรบก็ทนลูกอ้อนของสาวน้อยปวีณาไม่ไหว ก็เลยเดินกลับเป็นเพื่อนด้วยกัน ตอนนั้นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว พอดีว่าฝนเริ่มเทเม็ดลงมาระหว่างทาง หนุ่มใหญ่และสาวน้อยเลยรีบเดินหาที่หลบฝนที่ใกล้ที่สุดทันที

"ฝนตกแบบนี้แย่จัง..." เจนรบและปวีณายืนหลบฝนหน้าร้านขายแว่นแห่งหนึ่งตรงสี่แยกมาบุญครอง "นี่แหละชีวิตของคนกรุงเทพ มันไม่ได้สุขสบายแบบที่ใครหลายคนคิดเลยนะ ทั้งปัญหารถติด คนแออัด แล้วก็ปัญหาจิปาถะมากมาย เฮ้อ...."

"แล้วทำไมลุงจอมถึงยังอยู่ที่กรุงเทพละคะ?" สาวน้อยถามระหว่างยืนหลบฝน

"ก็ลุงเกิดที่นี่ ทำงานที่นี่ ชินกับชีวิตแบบนี้ไปแล้ว จะให้ลุงไปไหนได้ล่ะ" เจนรบตอบ

ปวีณายิ้มหวานไม่พูดอะไร รอยยิ้มคู่นั้นทำให้หัวใจของเจนรบพองโตด้วยความสุขล้น เหมือนกับว่าเขาได้กลับไปเป็นหนุ่มน้อยฮอร์โมนพลุ่งพล่านเมื่อในอดีต ตอนที่เขาได้พบรักกับปิยะวรรณ

เหมือนทั้งคู่จะเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป มันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นอ่อนโยน ที่ก่อตัวขึ้นมาในจิตใจ

พอฝนเริ่มซาลง เจนรบก็ชวนปวีณาเดินต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าสยาม จนถึงตอนแลกบัตร ก็ถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องแยกย้ายกันเดินทางไปคนละเส้นทาง

"สวัสดีค่ะลุงจอม" ปวีณาพนมมือไหว้เจนรบก่อนเดินทางกลับบ้าน

"กลับบ้านดี ๆ นะจ๊ะ" เจนรบโบกมือลาเด็กสาวที่พนมมือไหว้ก่อนเดินขึ้นไปรอรถที่ชานชาลา

แม้จะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน บนรถไฟฟ้าอัดแน่นไปด้วยผู้คนที่ยืนเบียดในตู้โบกี้รถไฟ แต่ปวีณากลับอมยิ้มด้วยความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเจนรบ ขณะเดียวกัน เจนรบก็รู้สึกไม่ต่างกัน เขารู้สึกใจหวิวทุกครั้ง ที่ได้อยู่ใกล้กับเด็กสาว

รู้อยู่เต็มอก ว่าหนทางต่อไปคงไม่ง่ายดาย มันอาจนำพาคนทั้งสองสู่บทสรุปของความเจ็บปวด เพียงแต่ อีกใจหนึ่ง มันก็รู้สึกท้าทายที่จะได้ลิ้มรสความหอมหวานตลอดเส้นทางสายนั้น ที่อาจนำพาคนทั้งสองมุ่งตรงไปสู่ขุมนรกเบื้องล่าง

ความรักกำลังอบอวลในหัวใจของเจนรบและปวีณาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว ความรักย่อมสวยงามเสมอ เพียงแต่มันเกิดขึ้นผิดคนและผิดเวลาเหลือเกิน

...............

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เจนรบและปวีณาก็เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น ต่างฝ่ายต่างรอพบอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว วันไหนเจนรบพารถมา ก็มักขออาสาพาเด็กสาวไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า พอทำบ่อย ๆ เข้า ในช่วงหลัง เจนรบเลยกล้าขับรถพาน้องปลาไปส่งถึงหอพัก หรือไม่ก็แวะไปนั่งหาอะไรกินที่ห้างในย่านอื่นที่ไกลออกไป เพื่อไม่ให้ตกเป็นที่ครหาของนักศึกษาและครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยได้

แต่สุดท้ายความลับก็ไม่มีในโลก มีกลุ่มอาจารย์สังเกตพฤติกรรมของทนายความเจนรบและนิสิตนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์สาขาการประชาสัมพันธ์ชั้นปีที่สองอย่าปวีณามีความใกล้ชิดกันเกินไป จึงทำให้เจนรบถูกเรียกตัวไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวที่ห้องพักครูของอาจารย์ที่ปรึกษา

"สวัสดีครับคุณเจนรบ เชิญนั่งก่อนครับ"

"ครับ ที่เรียกผมมา มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?"

"คือ...ผมไม่รู้จะเริ่มยังไงดีแหะ" อาจารย์ที่ปรึกษาของปวีณาเปิดประเด็น "เอาล่ะ เพื่อความชัดเจน ผมคงต้องถามคุณอย่างตรงไปตรงมา คือมีคนแจ้งว่าเห็นคุณเจนรบที่เป็นทนายความและปวีณา ที่มีสถานะเป็นนักศึกษาไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็เลยอยากถามว่าตกลงแล้ว คุณทั้งสองรู้จักกันเป็นการส่วนตัวใช่หรือไม่ เป็นญาติกันหรือเปล่า ถ้าไม่ ผมอยากถามว่าสถานะของคุณเจนรบกับปวีณา อยู่ในระดับไหนครับ?"

"เรารู้จักกันครับ ปวีณาเป็นลูกสาวของเพื่อนผม"

"อาห๊ะ..." อาจารย์ที่ปรึกษาประสานมือวางบนโต๊ะ "สรุปคือคุณและปวีณารู้จักกันเป็นการส่วนตัว ถูกต้องไหมครับ?"

"ใช่ครับ" ด้วยประสบการณ์ชีวิต เจนรบรู้ว่าเรื่องที่เขาสนิทชิดเชื้อกับปวีณามากเกินไปเริ่มระแคะระคายไปทั่วมหาวิทยาลัยเสียแล้ว แต่เขายังคงสงบนิ่งเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของทนายความต่อไป

"คุณเองก็เป็นทนายความที่มีความสามารถ เป็นที่ยอมรับของผู้คนในสังคม" อาจารย์ที่ปรึกษาเริ่มออกโรงเตือนทนายความเจนรบ "พูดกันแบบตรงไปตรงมานะครับอย่าถือโทษโกรธกัน เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ผมไม่อยากให้คุณใกล้ชิดกับปวีณามากเกินไป เพราะมันจะดูไม่งามในสายตาคนอื่น เพราะมีคนรายงานว่าเห็นคุณและปวีณาไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง ในหลายสถานที่ และมันก็เกิดขึ้นมาได้สักพักแล้ว ผมอยากจะเตือนคุณ คุณเจนรบ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ ผมอยากให้คุณหยุดพฤติกรรมพวกนี้ซะ"

"ครับ ผมเข้าใจดี" เจนรบพยักหน้า "ผมจะนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัดครับ"

"ขอบคุณที่เข้าใจนะครับ ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาของปวีณาและเป็นหนึ่งในตัวแทนบุคลากรของมหาวิทยาลัย ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียขึ้นมาในสถาบันการศึกษาของเรา ขอโทษที่ผมอาจจะพูดแรงไป แต่ผมต้องพูด เพื่อความชัดเจนนับจากนี้ไป หวังว่าคุณเจนรบคงจะเข้าใจนะครับ"

เจนรบน้อมรับทุกคำเตือนของอาจารย์ที่ปรึกษาโดยไม่มีการอุทรณ์ใด ๆ ในฐานะทนายความรุ่นเก๋ามากประสบการณ์ เขามักมีชั้นเชิงลูกล่อลูกชนในการพลิกสถานการณ์เสียเปรียบให้กลับมาได้เปรียบหรืออย่างแย่ที่สุดก็คือ ไม่เลวร้ายไปมากกว่านั้นได้เสมอ เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้มันต่างออกไป มันเป็นเรื่องของความรู้สึก เรื่องของหัวใจ ไม่ใช่เรื่องการเอาตรรกะและเหตุผลมาหักล้างกับข้อกล่าวหาและความคิดเห็นของอีกฝ่ายอย่างที่เขาเคยทำมาในชั้นศาลเกือบ 30 กว่าปีที่ผ่านมา

หลังจากนั้นไม่นาน เจนรบก็ขอยกเลิกการเป็นวิทยากรพิเศษโดยให้เหตุผลเรื่องปัญหาสุขภาพ เพื่อเปิดทางให้ทนายความคนอื่นมาทำหน้าที่แทน เจนรบตัดสินใจแล้วว่ามันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เขาและลูกปลาต้องถลำลึกในความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้

แต่ปวีณาไม่คิดแบบนั้น คาบแรกที่สาวน้อยไม่เห็นลุงจอมใจดี เธอยังพอเข้าใจได้ว่าหนุ่มใหญ่คงติดธุระ แต่เมื่อมีครั้งที่สอง สาม และสี่ ตามมา ในใจของปวีณาเริ่มร้อนรน จนต้องเดินไปถามรุ่นน้องในคลาสบรรยายเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง

"น้องคะ? ไม่ทราบว่าทนายเจนรบไปไหนคะ?"

"อ๋อ?" รุ่นน้องปีหนึ่งเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อนึกคำตอบ "ทนายเจนรบไม่มาแล้วค่ะพี่ เห็นว่ามีปัญหาสุขภาพ"

"งั้นเหรอ?" ในใจของปวีณาไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไร เพราะก่อนหน้านั้นไม่นาน เพื่อนของเธอได้เดินเข้ามาเตือนเธอถึงพฤติกรรมบางอย่าง ที่สุ่มเสี่ยงต่ออนาคตทางการศึกษาของปวีณาในอนาคต

"ปลา...พวกเราถามหน่อยดิ"

"อือ...มีอะไรอ่ะ"

"ถามจริงเหอะ แกกับทนายเจนรบ ตกลงเป็นแค่ลุงกับหลานจริงหรือเปล่าวะ?"

"ก็ใช่น่ะซิ..." ปวีณาที่นั่งทบทนหนังสือบนม้านั่งหินใต้ต้นไม้เงยหน้ามองกลุ่มเพื่อน "ทำไมเหรอ?"

"ปลา มีคนบอกว่าเห็นแกกับคุณเจนรบสนิทกันมาก แล้วก็ไปไหนด้วยกันสองต่อสอง"

"มีอะไรก็ว่ามาเถอะ อย่ามาอ้อมค้อมจะได้ไหม?" ปวีณาเริ่มฉุนเฉียว ในใจของเธอเริ่มร้อนรนเมื่อรู้ว่าความลับที่เธอและลุงเจนรบปิดบังอยู่ปิดไม่มิดเสียแล้ว

"เราสงสัยว่าแกกับคุณเจนรบ...เอ่อ...จะพูดว่าไงดีวะ?"

"เราสงสัยว่าแกกับทนายเจนรบกำลังคบหากันอยู่..."

คำพูดนั้น ทำให้สาวน้องถึงกับอึ้ง มันเป็นคำถามที่แทงเข้าไปกลางใจของเด็กสาว

"พวกเราอยากจะเตือนแกในฐานะเพื่อนนะเว้ยปลา แกจะทำอะไรต้องคิดถึงอนาคต คิดถึงพ่อกับแม่ให้มาก ๆ เข้าไว้นะเว้ย"

"ชั้นรู้แล้ว มันไม่ได้มีอะไรแบบที่พวกแกคิดซะหน่อย!!!" ปวีณาบ่ายเบี่ยง เพื่อปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงภายในใจ "ตายแล้ว ทุกคนรู้แล้ว เราจะทำยังไงดีล่ะ"

...............

ตัดมาที่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เจนรบในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนกำลังยืนคุยโทรศัพท์กับลูกความอยากออกรส เป็นเวลาเกือบเดือนเศษแล้ว ที่สุภาพบุรุษเจนรบตัดขาดการติดต่อจากปวีณาเพื่อตัดปัญหาที่อาจตามมาในอนาคต ถึงแม้ว่าในใจลึก ๆ ของเขาจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่ในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ มันคงจะดีกว่า ที่จะรักษาสถานภาพและระยะห่างระหว่างเขากับลูกปลาเอาไว้แบบนี้

ไม่ใช่ว่าเจนรบไม่รู้สึกดีกับปวีณา ไม่เลย เจนรบรู้สึกดีกับปวีณามากเกินกว่าคำว่าลุงกับหลาน แน่นอน ทั้งสองคนไม่ได้เกียวข้องทางสายเลือดย่อมมีสิทธิคบหากันได้ไม่ผิดกฎหมาย เพียงแต่ปัญหาข้อเดียวและปัญหาใหญ่ก็คือ ปวีณาเป็นลูกของเพื่อนรักอย่างภาคภูมิและปิยะวรรณ

"โอ้ย!!! งานเข้าอีกแล้ว!!" เจนรบกดวางสมาร์ทโฟนแล้ววางมันโต๊ะรับแขก ก่อนหย่อนตัวนั่งบนโซฟากดรีโมตโทรทัศน์ชมรายการบันเทิงไปตามเรื่องแก้เซ็ง "ใครอีกเนี่ย?"

มีสายเรียกเข้าสมาร์ทโฟนของเจนรบ มันเป็นเบอร์แปลก ๆ ที่เขาไม่รู้จักมาก่อน พอกดรับสาย สิ่งแรกที่ทำให้เจนรบถึงกับตกใจก็คือ นั่นเป็นเสียงของลูกปลา

"ลุงจอมใช่ไหมคะ?" ปวีณาเอ่ยปากถาม "นี่ปลานะคะลุงจอม"

"น้องปลา..." เจนรบร่นคิ้วด้วยความประหลาดใจ "นี่เอาเบอร์ลุงมาได้ยังไงเนี่ย?"

"ก็เอามาจากเพจกฎหมายของลุงไง" ปวีณาตอบ "ลุงจอม หนูมีอะไรจะคุยด้วยสักหน่อยค่ะ"

"เรื่องอะไรเหรอ?" เจนรบกลืนน้ำลายดังเอื้อก หนุ่มใหญ่ทำใจดีสู้เสือ ภาวนาว่าเด็กสาวคงไม่เปิดประเด็นเรื่องนั้นขึ้นมา

"ลุงไม่สบายเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงไม่มาบรรยายที่มหาวิทยาลัยของหนูอีก" ปวีณาเอ่ยปากถามอย่างตรงไปตรงมา

"ลุง...เอ่อ...ลุงป่วยเป็นโรคคนแก่น่ะจ๊ะ" เจนรบตอบด้วยความรู้สึกลำบากใจ "ไหนจะเรื่องงานด้านกฎหมายทางนี้ ลุงเลยไม่สามารถจัดสรรเวลาได้ลงล็อคเหมือนก่อน"

"ค่ะ..." ปวีณาตอบ "หนู...เอ่อ...นี่หนูไม่รบกวนลุงใช่ไหมคะ?"

"ไม่เลยจ๊ะปลา" เจนรบตอบ

"ถ้าหนูมีอะไรจะพูดกับลุงสักหน่อย ลุงจะโกรธหนูไหมคะ?"

"มีอะไรเหรอจ๊ะปลา?"

"คือหนู...เอ่อ...หนู...."

"......................"

บรรยากาศความเงียบเข้ามาปกคลุม แม้จะอยู่ห่างกันคนละมุมเมือง แต่ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในยุคปัจจุบัน ที่ช่วยส่งเสริมด้านการสื่อสาร ก็เลยทำให้คนที่อยู่ห่างไกลสามารถพูดคุยกันได้ผ่านสมาร์ทโฟน

เพียงแต่ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ในใจของทั้งคู่ เจนรบรับรู้ ปวีณาเองก็รู้ ว่าถ้าพูดมันขึ้นมา สถานะภาพระหว่างทั้งสองคนจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป



"หนูปลา..." เป็นฝ่ายเจนรบที่เอ่ยปากพูดก่อน "ลุงว่านี่ก็ค่ำแล้วนะ ลุงว่าถ้ามีอะไรค่อยคุยกันวันหลังดีกว่า"

"ไม่ค่ะลุง!!!" ปวีณาปฏิเสธ "ลุงจอมคะ!!! อย่าทำแบบนี้ได้ไหม? หนูทนไม่ไหวกับความรู้สึกแบบนี้อีกแล้ว!!!"

"หนูปลาใจเย็น ๆ ก่อนนะ" หนุ่มใหญ่รู้สึกจุกแน่นในอก เขาเองก็ลำบากใจไม่น้อยกว่าเด็กสาว "ตั้งสติก่อนนะ ลุงจอมอยากให้หนูปลาใจเย็น ๆ และตั้งสติ ก่อนจะพูดอะไรออกมา"

"ลุงจอมคะ หนูคิดว่าหนูกำลังตกหลุมรักลุงคะ..." ปวีณารวบรวมความกล้าพูดความจริงในใจออกมา

"อย่าพูดแบบนั้น หยุดนะปลา!!!" เจนรบเอ่ยปากห้ามเด็กสาว "หนูปลาต้องตั้งสติก่อนนะ หนูแค่กำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง"

"ไม่ค่ะ!!! หนูมั่นใจจริง ๆ ว่าหนูรักลุงจอม!!" น้ำเสียงของปวีณาเริ่มสั่นเครือและมีเสียงสะอื้นดังแทรกเข้ามา "ฮือ...ฮือ"

"หนูปลา..." เจนรบเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยกับความรู้สึกแบบนี้ มันเป็นความรักต้องห้ามที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แม้จะรู้ว่านั่นคือลูกสาวเพื่อน แต่ด้วยอานุภาพของความรัก เลยทำให้หนุ่มใหญ่มากประสบการณ์อย่างเจนรบไม่อาจต้านทานมันได้อีกต่อไป

"ถ้าลุงไม่ได้คิดอะไรกับหนู ลุงคงไม่ชวนหนูไปไหนมาไหนด้วยกันแบบนั้นหรอก" ปวีณาตัดพ้อ "หนูไม่อยากคิดไปเองคนเดียวอีกแล้วนะคะลุง ฮือ....มันเจ็บนะคะลุง มันเจ็บในอกของหนู หนูไม่อยากมานั่งคิดว่าตกลงแล้วเรื่องระหว่างเรามันเป็นยังไงกันแน่ ลุงเข้าใจหนูไหมคะ ลุงจอม!!!"

"หนูปลา...." เจนรบกุมขมับตัวเอง "ลุงขอโทษ...ทุกอย่างลุงผิดเอง ลุงไม่น่าปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิดมาไกลถึงขนาดนี้เลย"

"หนูคิดถึงลุงค่ะ ลุงจอม" ปวีณาโอดครวญ "หนูคิดถึงลุงจอม...."

"หนูปลา..." สุภาพบุรุษทนายความถอนหายใจยาว "ลุงดีใจนะ ที่หนูรู้สึกดีกับลุง แต่หนูเป็นลูกของเพื่อนลุง ลุงทรยศความไว้ใจของไอ้ภาคกับเปิ้ลไม่ได้ หนูยังเด็ก ยังมีอนาคตอีกไกล หนูยังจะได้เจอกับผู้ชายที่ดีกว่าลุงอีกมาก..."

"พ่อกับแม่หนูบอกความจริงหนูหมดแล้วค่ะลุง...." น้องปลาแทรกบทขึ้นมา "ความจริงแล้ว พ่อของหนูไปแย่งแม่มาจากลุงใช่ไหมละ?"

"ปลา...ไม่พูดแบบนั้นซิ!!" เจนรบเริ่มทำเสียงดุใส่เด็กสาว "ไม่พูดถึงเรื่องนั้น ลุงขอล่ะปลา ลุงขอ!!"

"แล้วจะให้หนูทำยังไงคะลุงจอม?" ปวีณาตัดพ้อ "อยู่ดี ๆ ลุงก็เข้ามาในชีวิตของหนู แล้ววันหนึ่ง พอหนูรู้สึกดีกับลุง ลุงจะไม่แคร์ความรู้สึกของหนูเลยเหรอคะลุงจอม?"

"ไม่ใช่แบบนั้น..." ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี เจนรบเลยลุกขึ้นกุมขมับ จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นยังไงดีเนี่ย? "ปลา...หนูตั้งสติแล้วฟังลุงก่อนนะ ฟังลุงพูดก่อน"

"ว่ามาซิคะลุง..."ปวีณาตอบ

"เราจะพูดกับแบบคนโต ๆ กันแล้วนะจ๊ะปลา คุยแบบคนมีเหตุผลไม่ใช่อารมณ์" เจนรบถอนหายใจเพื่อตั้งสติและเรียบเรียงคำพูดในหัว "ลุงขอบคุณสำหรับความรู้สึกดี ๆ ที่ปลามีให้ลุงนะ แต่ลุงคงรับไว้ไม่ได้จริง ๆ เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้"

"ลุงไม่ได้รักหนูเลยเหรอคะ?" ปวีณาตัดพ้อ "ที่ผ่านมา ที่ลุงเข้ามาในชีวิตของหนู ทำดีทุกอย่างตั้งแต่หนูยังเด็กจนถึงตอนนี้ ลุงจะบอกว่าลุงไม่ได้คิดอะไรกับหนูเลยเหรอ?"

"รักซิ..." เจนรบสารภาพตามตรง "ลุงก็รักหนูปลา แต่รักในฐานะลุงกับหลาน และจะไม่ขอรักหนูเกินไปกว่านั้น"

ประโยคหลัง เจนรบจำใจพูดทั้งน้ำตา ทั้งที่ก่อนหน้านั้น เขาเองก็เคยคิดเรื่องทำนองเชิงชู้สาวกับปวีณา ตามภาษาผู้ชายที่ชอบผู้หญิงหน้าตาน่ารัก เพียงแต่คนอย่างเจนรบยังมีศีลธรรมและคุณธรรมอยู่บ้าง ยิ่งใกล้ชิดลูกปลามาเท่าไร เจนรบก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาไม่ได้รักเด็กสาวคนนี้เพียงแค่ลุงกับหลาน แต่มันมากกว่านั้น

มันไม่เหมือนกับเวลาที่เขามีความต้องการทางเพศแบบผู้ชายทั่วไป ที่จะไปเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืนเพื่อปลดปล่อย ผู้หญิงเหล่านั้น เจนรบรู้ดีว่าไม่ควรไปมีความรู้สึกหรือผูกพันอะไรมากเกินไป คนหนึ่งจ่ายเงินอีกคนก็ทำงานไป พอหมดเวลาก็แยกย้ายทางใครทางมัน ถ้าสมมุติว่างานดี ก็อาจมีทิปเสริมให้บ้าง แต่ถ้าเกิดไปเจอกันข้างนอกก็ให้ทำตัวเหมือนคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

แต่น้องปลา คือเด็กสาวที่ไร้เดียงสาเกินกว่าสุภาพบุรุษอย่างเจนรบเอาสิ่งไม่ดีไปแปดเปื้อน เขาจำเป็นต้องชัดเจนกับความรู้สึกว่าอะไรคือความใคร่ อะไรคือความรัก สำหรับผู้หญิงกลางคืนพวกนั้น เจนรบมีให้เพียงแค่ความใคร แต่นางฟ้าอย่างน้องปลา สิ่งที่คนอย่างเจนรบจะมอบให้ก็คือความรักที่บริสุทธิ์

"ฮือ....." คำตอบของลุงจอม เหมือนกับทำให้โลกทั้งใบของปวีณามันพังครืนลงมา อาจเรียกได้ว่านี่คือรักครั้งแรกของเด็กสาวที่เกิดขึ้น มันเป็นป๊อปปี้เลิฟของสาวน้อย ที่เกิดขึ้นกับผู้ชายที่เธอเคารพและนับถืออย่างลุงจอม

"อย่าเสียใจเลยนะน้องปลา" ลุงจอมพยายามปลอบโยนเด็กสาว "ที่ลุงทำแบบนี้ เพราะลุงเองก็รักหนูเหมือนกัน แต่ลุงไมอยากให้เราถลำไปไกลกว่านี้อีกแล้ว ลุงไม่อยากให้สิ่งแย่ ๆ เกิดขึ้นกับหนูนะปลา"

"แต่ความรักเป็นสิ่งสวยงามไม่ใช่เหรอคะลุงจอม?" ปวีณายังตัดพ้อไม่เลิกรา "แล้วทำไมละคะ? ทำไมเราสองคนถึง..."

"อย่าพูดนะปลา ลุงขอล่ะ" เจนรบรีบตัดบท เพราะไม่อยากจะได้ยินคำนั้นจากเด็กสาว เพราะกลัวว่าตัวเองจะห้ามใจไม่ไหว "ลุงคิดว่าเราพอแค่นี้ก่อนดีไหม หนูปลาก็ทำใจให้สบายนะ ลุงเป็นห่วงหนู ไม่อยากเห็นหนูเป็นแบบนี้อีก"

"อย่างน้อย ให้หนูได้เจอลุงสักครั้งได้ไหมคะ?" ปวีณาถาม

"ได้ซิ แต่ช่วงนี้ลุงยุ่งงานนะ" เจนรบจำเป็นต้องรีบตัดบท "ลุงว่าเราพอเถอะ พรุ่งนี้ลุงต้องไปทำงานแต่เช้า หนูเองก็มีเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอ?"

"ค่ะ..." เด็กสาวตอบ น้ำเสียงของเธอดูสงบนิ่งมากขึ้น "หนูขอโทษนะคะลุงจอม ถ้าหนูพูดอะไรออกไปแบบนั้น"

"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ แค่นี้นะ พักผ่อนให้เยอะ ๆ แล้วก็อย่าคิดมาล่ะ บายจ๊ะ..."



พอกดวางสาย เจนรบก็ทิ้งตัวนั่งบนโซฟา เอามือกุบขมับแล้วหลับตา จะเอายังไงดีนะไอ้จอม ปฏิเสธไม่ได้นะ ว่าลึก ๆ แล้วเจนรบเองก็รู้สึกเสียดายโอกาสดี ๆ ที่เด็กสาวหยิบยื่นให้มา เพียงแต่ว่านั่นคือลูกสาวของเพื่อน นั่นคือลูกสาวของเพื่อน

"หรือว่าเวรกรรมจะมีจริง...." เจนรบนึกถึงภาพในอดีต เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว สมัยที่เขายังเป็นหนุ่ม เจนรบซื้อดอกกุหลาบเพื่อหวังเอาไปให้แฟนสาวอย่างเปิ้ลที่หน้าตึกอักษรศาสตร์

"ไม่เห็นต้องลำบากขนาดนี้เลยภาค" ปิยะวรรณในชุดนักศึกษายืนคุยกับภาคภูมิที่ซื้อดอกกุหลาบช่อใหญ่จากร้านดอกไม้ชื่อดังมาให้ ภาพทุกอย่างมันชัดเจนต่อหน้าเจนรบ ที่แอบมองตรงมุมตึก

"ไอ้ภาค...." เจนรบกัดขบกรามแน่น ในมือกำช่อดอกกุหลาบแน่นจนแทบแหลกคามือ เมื่อไอ้เพื่อนรักคิดหักเหลี่ยมโหดด้วยการแย่งคนรัก เห็นทีมึงกับกูคงอยู่ร่วมโลกไม่ได้อีกแล้ว ไอ้ภาค

สุดท้าย เมื่อสติขาดผึ่ง เจนรบตัดสินใจเขวี้ยงช่อดอกกุหลาบลงพื้น แล้วเดินหน้าทำตาขวางออกจากมุมตึกไปเผชิญหน้ากับความจริงที่แสนเจ็บปวด ปิยะวรรณเป็นคนแรกที่เห็นเจนรบ ภาพแรกที่เจนรบจดจำได้ก็คือ ภาพที่ปิยะวรรณหน้าซีดด้วยความตกใจ

"จอม!!!! หนีไปเร็วภาค!!!"

"อะไรนะเปิ้ล?"

"ไอ้เพื่อนชั่ว!!" เจนรบฮุคเข้าไปที่กรามของเพื่อนรักจนล้มไปนอนกองหน้าตึกอักษรศาสตร์ ทำเอานิสิตนักศึกษาที่เดินผ่านไปมาตกอกตกใจ "มึงทำกับกูแบบนี้เหรอ? ไอ้เลว!!!"

...............

หลายวันผ่านไป เจนรบมาใช้บริการที่สถานบันเทิงชื่อดังยามค่ำคืนกับลิซ่า สาวสวยเบอร์ตองเจ้าประจำ ลิซ่าเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ไว้ผมยาวสีดำ ทรวดทรงของเธอก็แสนเย้ายวน นมเป็นนม ก้นเป็นก้น ผิวของเธอขาวเนียน เจนรบเชื่อว่าบางทีลิซาอาจเป็นสาวมาจากเมืองเหนือ

ลิซาเคยบอกว่าเธอมาจากเชียงใหม่ แต่เจนรบไม่ได้เชื่ออะไรขนาดนั้น เขามาที่นี่เพื่อเสพความสุขจากเรือนร่างของหญิงสาวที่เขาจ่ายเงินเพียงเท่านั้น เพียงแต่วันนี้มันแตกต่างจากวันอื่น

"วันนี้เฮียดูเหนื่อย ๆ นะคะ..." ลิซ่าโอบกอดเจนรบที่นอนเปลือยเปล่าบนเตียงโดยมีผ้าห่มผืนน้อยปกปิดเบื้องล่าง

"เครียดจากงานนิดหน่อยจ๊ะ" เจนรบตอบ

"ถามจริงเถอะเฮีย เฮียเบื่อลิซ่าหรือยัง?"

"ถามอะไรแปลก ๆ เฮียไม่ได้เบื่อหนูเลย" หนุ่มใหญ่ยิ้มหวาน พอได้ยินคำตอบที่น่าพอใจ ลิซ่าเลยหอมแก้มหนุ่มใหญ่เจนรบ สปอร์ต ใจดี กทม เป็นรางวัล สำหรับลิซ่าแล้ว เจนรบเป็นลูกค้าเกรดเอที่มีความเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอทำงานที่สังคมรังเกียจ

"เฮียคะ..." ลิซ่าเริ่มเปิดประเด็น "จะเป็นไปได้ไหม? ถ้าเราจะเจอกันข้างนอก"

"เจอกันในนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?" เจนรบตอบ

"ลิซ่าแค่รู้สึกว่าเราเจอกันที่นี่มันน่าอึดอัดไป" สาวสวยหุ่นดีตอบ "ลิซ่าอยากเจอเฮียด้านนอก"

"เจอกันแค่ที่นี่ก็ดีแล้วลิซ่า" หนุ่มใหญ่อธิบาย "เฮียต้องทำงานออกหน้าออกตาในวงสังคม ความจริงเฮียก็ไม่ได้รังเกียจหนูหรอกนะลิซ่า แต่เฮียไม่สะดวกจริง ๆ"

"งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะเฮีย" ลิซ่ายิ้มหวาน หลับตาพริ้มนมซบแผงหน้าอกของเจนรบ "ลิซ่าแค่อยากบอกความจริงบางอย่างให้เฮียรู้ เฮียจะไม่เชื่อก็ได้นะ ในชีวิตของลิซ่า ลิซ่าไม่เคยเจอสุภาพบุรุษที่แสนดีแบบเฮียมาก่อน"

เจนรบยิ้ม กับคำหวานของสาวอ่างอย่างลิซ่า เขาไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับมันมาก สุดท้าย เพราะกลัวว่าลิซ่าที่เป็นคนโปรดของตัวเองจะรู้สึกน้อยใจ หนุ่มใหญ่ก็เลยจัดเต็มลิซ่าเป็นของสมนาคุณ

พอแต่งตัวเสร็จ ลิซ่าก็เดินควงเจนรบ หนุ่มใหญ่ในชุดเชื้อเชิ้ตสีเทา กางเกงสแล็คสีดำและรองเท้าคัตชูหนังสีดำออกมาจากห้องนอนเพื่อไปส่งลูกค้าเกรดพรีเมี่ยมคนนี้ที่โรงจอดรถ

"ขับรถดี ๆ นะคะ" ลิซ่าโบกมือลาลูกค้าชั้นเยี่ยมของตัวด้วยรอยยิ้ม พอแสงไฟท้ายรถของเจนรบหายไปในความมืดยามค่ำคืนบนท้องถนน รอยยิ้มของลิซ่าก็เหือดหายไป "ไอ้แก่นี่ไม่โง่ว่ะ เซ็ง!!!"

...............

ตัดมาที่ปวีณา เธอพยายามตั้งสติและทบทวนตัวเองใหม่อีกครั้งว่าตอนนี้หน้าที่ของเธอคืออะไร ครั้งสุดท้ายที่เธอได้คุยกับลุงจอม ตอนนั้นเธอกำลังใกล้สอบกลางภาค เพราะกลัวว่าผลการเรียนของตัวเองจะแย่ ลูกปลาก็เลยตั้งหน้าตั้งตาทบทวนตำราเรียนเพื่อเตรียมสอบกลางภาคให้เสร็จ

ตอนแรกเธอคิดว่าลุงจอมจะติดต่อกลับมาบ้าง แต่เปล่าเลย ลุงจอมไม่คิดที่จะโทรกลับมาหาเธอเลยสักครั้ง จนทำให้เด็กสาวรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง เธอตั้งใจว่าถ้าสอบเสร็จ จะไปหาลุงจอมถึงสำนักงานทนายความของลุงจอมที่ตั้งอยู่แถวเขตลาดพร้าวบางกะปิ ที่เธอได้ข้อมูลมาจากเพจเฟสบุ๊คสำนักงานทนายความเจนรบนั่นเอง

ปวีณาไม่อยากให้ความรู้สึกแบบนี้จบลงทั้งที่มันยังค้างคา หลังสอบคาบสุดท้ายเสร็จ ในวันรุ่งขึ้น สาวน้อยนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีห้าแยกลาดพร้าว แล้วนั่งรถเมล์ร้อนไปตามเส้นทางลาดพร้าวที่มุ่งตรงไปยังเขตบางกะปิ จนในที่สุดก็ถึงจุดหมาย เด็กสาวหน้าตาน่ารักในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนส์สีกรมท่า สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวเดินลงมาจากรถเมล์ แล้วเดินลึกเข้าไปในซอย จนพบกับสำนักงานทนายความของลุงจอม

"สวัสดีค่ะ มาหาใครเหรอจ๊ะหนู?" เจ้าหน้าที่ต้อนรับของสำนักงานทนายความทักทายสาวน้อยหน้าตาน่ารักที่เดินสะพายกระเป๋าเข้ามาในตึก

"เอ่อ...ลุงจอม" ปวีณาส่ายหน้า "ไม่ซิ ทนายเจนรบอยู่ไหมคะ?"

"อ้อ!!! คุณจอมเหรอ?" เจ้าหน้าที่ต้อนรับสาวยิ้ม "คุณจอมยังไม่เข้ามาเลยค่ะน้อง เดี๋ยวสักพักคงเข้าออฟฟิศมาแหละ น้องนั่งรอก่อนก็ได้นะคะ"

"ค่ะ ขอบคุณค่ะ" ปวีณายิ้ม ก่อนเดินไปนั่งรอลุงจอม เธอเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนบนฝาพนัง ตอนที่เธอมาถึงที่นี่ก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้า ลูกปลาตัวน้อยนั่งรอคอยคุณลุงใจดีจนถึงช่วงส่ายอย่างไม่ย่อท้อ

"สงสัยวันนี้คุณจอมจะมีธุระข้างนอกแหะ จะเอาเบอร์ติดต่อคุณจอมหรือฝากข้อความอะไรไว้ก็ได้นะคะน้อง เดี๋ยวถ้าคุณจอมเข้าออฟฟิศ พี่จะเอาไปให้คุณจอมเอง"

"ไม่เป็นไรค่ะ หนูรอได้" ปวีณายิ้ม ก่อนหันกลับไปเล่นเกมปลูกผักบนสมาร์ทโฟนฆ่าเวลาแก้เซ็งระหว่างรอลุงจอม

...............

เด็กสาวนั่งรอคุณลุงจนถึงบ่ายสอง เธอเริ่มรู้สึกท้อและหิวข้าว พอเหลือบมองนาฬิกาบนเพดาน พี่สาวที่เป็นพนักงานต้อนรับก็หันมายิ้มให้ ในใจก็คิดว่าเด็กคนนี้เป็นอะไรกับคุณเจนรบกันแน่

และในที่สุด การรอคอยของปวีณาก็สิ้นสุด เมื่อเจนรบเปิดประตูเข้ามาในสำนักงานของตัวเอง

"คุณแม่งไม่มืออาชีพเลยว่ะ!!! ทุเรศที่สุด!!" เจนรบบ่นอย่างหัวเสียใส่ทนายความอีกฝ่ายอย่างออกรส "คุณคิดว่าเราเล่นขายของกันอยู่หรือไง? คุณเป็นทนายนะเฮ้ย!! ไม่ใช่เด็กน้อยไม่รู้ภาษา หัดทำตัวให้เป็นมืออาชีพหน่อย!!! บ้าเอ้ย!!! อารมณ์เสียทั้งวันเลย!!!"

"เอ่อ...คุณจอมคะ" รีเซปชั่นสาวเรียกชื่อเจ้านาย "น้องคนนี้มาขอพบค่ะ น้องเขามารอตั้งแต่เช้าแล้ว"

"หนูปลา..." ใบหน้าที่เคร่งเครียดของเจนรบเริ่มผ่อนคลายลง เพราะไม่คิดว่าจะเจอนางฟ้าตัวน้อยอย่างปวีณา ส่วนเด็กสาวก็ยิ้มตอบ เพราะในที่สุดการรอคอยของเธอก็สิ้นสุดเสียที

...............

เจนรบโกหกคนที่ออฟฟิศไปว่าปวีณาคือญาติจากต่างจังหวัด แล้วขอตัวพาเด็กสาวไปส่งที่บ้าน แต่ความจริงแล้วมันมีรายละเอียดอะไรที่มากกว่านั้น

เด็กสาวนั่งเบาะหน้ารถยนต์ Toyota Camry สีดำปี 2017 โดยมีทนายความหนุ่มใหญ่เป็นคนขับรถให้ โดยเป้าหมายของทั้งคู่ก็คือห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางกะปิ

"ทำไมถึงทำแบบนี้ปลา?" เจนรบเอ่ยปากถามเด็กสาวอย่างตรงไปตรงมา "อย่างน้อยถ้าคิดจะมา ก็น่าจะโทรหาลุงก่อน"

"ก็ลุงไม่เคยติดต่อกลับมาเลย" ลูกปลาตัดพ้อ "หนูก็เลยตัดสินใจมาหาลุงที่นี่"

"ที่หลังไม่เอานะ ถ้าจะมาก็โทรมาก่อน" ลุงจอมบ่น "เผื่อบางทีลุงมีธุระข้างนอก"

คำตอบของลุงจอม ทำเอาเด็กสาวอมยิ้ม เพราะคิดว่าความจริงแล้วลุงจอมก็ไม่ได้คิดตัดรอนเธอเสียทีเดียว

"เดี๋ยวลุงจะพาหนูไปหาอะไรอร่อย ๆ กิน แล้วลุงจะแวะพาหนูไปส่งที่หอนะ" เจนรบหมุนพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางกะปิ ก่อนทั้งคู่จะเดินออกมาจากโรงจอดรถ เจนรบพาเด็กสาวไปกินสเต็กชั้นบน แล้วพาเดินเที่ยวรอบห้างเพื่อย่อยอาหาร

ปวีณาดูมีความสุขมาก เวลาที่ได้อยู่ใกล้เจนรบ คนภายนอกทั่วไปคงคิดว่าทั้งคู่น่าจะเป็นพ่อลูกกันเสียมากกว่า แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ทั้งคู่เป็นอะไรที่มากกว่านั้น

"คุณลุงคะ รีบมาซิคะ เร็วเข้า!!" ปวีณาหันไปบอกสุภาพบุรุษคุณลงด้วยรอยยิ้ม ที่เด็กสาวไม่มีวันรู้เลยว่า ตอนนี้ภายในหัวใจของเจนรบนั้นกำลังเต้นรัวยิ่งกว่ากระเดื่องวงร็อคเฮฟวี่เมทัล

เจนรบไม่อยากทำลายบรรยากาศ ก็เลยทำหน้านิ่งฉีกยิ้มหวานเวลาอยู่กับลูกปลา จนกระทั่งถึงเวลาเหมาะสม เจนรบตั้งใจจะจับรถพาหลานสาวคนสวยไปส่งที่หอพักแถวอารีย์

"พรุ่งนี้หนูมีธุระอะไรไหม?' เจนรบชำเลืองมองเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

"ไม่ค่ะ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ หนูไม่มีเรียน" ปวีณาตอบ

"งั้นเหรอ?" เจนรบพยักหน้า ในใจของเขาตอนนี้เรียกได้ว่าเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ และคิดว่าหนูปลาคงจะรู้สึกไม่ต่างกัน

ระหว่างที่ขับพาเด็กสาวไปส่งที่หอพักผ่านถนนสายหลักในช่วงหัวค่ำของคืนวันเสาร์ เจนรบรู้สึกอึดอัดใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กสาวสองต่อสองในรถแบบนี้ หากคนภายนอกมองเห็น จะพบว่าตอนนี้เจนรบกำลังเหงื่อแตกด้วยความตื่นเต้นทั้งที่แอร์ในรถก็เย็น ในขณะที่ลูกปลาตัวน้อยอย่างปวีณาเองก็พยายามทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เบื้องล่างของเธอกำลังเกร็งด้วยความตื่นเต้นไม่ต่างกัน

"ลุงจอมร้อนเหรอคะ?" เพราะเห็นคุณลุงเจนรบเหงื่อแตก ก็เลยทำให้ปวีณาอดสงสัยไม่ได้ ก็เลยถามไปตามตรง

"นิดหน่อยจ๊ะ" เจนรบตอบ

"แอร์รถคุณลุงก็เย็นอยู่นะ" ปวีณายิ้ม

ให้ตายเถอะ อย่ายิ้มแบบนั้นได้ไหมหนูปลา ลุงขอร้อง!!! จะทำยังไงดีนะ จะทำยังไงดี

"ลุงจอม ลุงจอมจะรังเกียจไหมคะ ถ้าวันหลังหนูมาหาลุงจอมอีก" ลูกปลาถาม

"ถ้ามีธุระก็มาได้จ๊ะ" เจนรบตอบ

"ไม่ หนูหมายถึงเป็นการส่วนตัว...."

"ลูกปลา ลุงขอร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้!!!" เจนรบร่นคิ้วใส่เด็กสาวที่เหมือนผิดหวังกับการตอบสนองของลุงจอม

"หนูแค่อยากมาเจอลุง..." ปวีณาตัดพ้อ "หนูมานั่งรอลุงตั้งแต่เช้า ไม่อยากจะโทรไปรบกวนเพราะกลัวว่าลุงจะทำธุระ หนูผิดมากเลยใช่ไหมคะ!!! ที่อยากเจอหน้าลุง!!!"

"ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ลูกปลา?" เจนรบหันไปพูดกับเด็กสาว "หนูรู้ไหมว่าลุงเองก็รู้สึกไม่ต่างจากหนูเหมือนกัน มันรู้สึกจุกแน่นในอกของลุงเหมือนกัน หนูไม่รู้เลยใช่ไหมว่าลุงต้องพยายามข่มความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้หนู เพราะหนูเป็นลูกของเพื่อนลุง!!!"

"แล้วมันยังไงละคะ? เราไม่ได้เป็นลุงหลานกันจริง ๆ สักหน่อย ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลยแม้แต่น้อย หนูก็แค่ลูกของเพื่อนลุงเท่านั้น เพราะเรื่องนี้ หนูเลยไม่มีสิทธิรักลุงงั้นเหรอ!??" เด็กสาวตัดพ้อ "ก็ได้ หนูจะไม่มาเจอลุงแล้ว ให้หนูลงตรงนี้ก็ได้"

"ไม่เอานะปลา!!! หยุด!!!" เจนรบต้องรีบคว้าแขนลูกปลาที่กำลังปลดเข็มขัดนิรภัยเพื่อเตรียมเปิดประตูลงจากรถ สุดท้ายเป็นสุภาพบุรุษทนายความเสียเอง ที่ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อความความรัก เจนรบเป็นคนปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยของตัวเอง เพื่อให้ง่ายในการโอบตัวไปกอดเด็กสาว

"ฮือ......." ลูกปลาตัวน้อยร้องไห้โฮด้วยความรู้สึกที่ปนเปกันไป ทั้งเสียใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และดีใจที่ในที่สุดลุงจอมก็ยอมรับกับความรู้สึกของตัวเองเสียที

"ลุงขอโทษ...." เจนรบโอบกอดสาวน้อยเพื่อปลอบโยน "ลุงขอโทษ...."

สุดท้าย เจนรบก็ไม่ได้ขับรถพาปวีณาไปส่งที่หอพักแถวอารีย์ หนุ่มใหญ่เลี้ยวรถเข้าซอยหมู่บ้านจัดสรรของตนเอง ซึ่งปวีณาก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เพราะเธอตั้งใจจะมาหาลุงจอมตั้งแรก

...............

สุดท้าย เจนรบก็พาปวีณามาที่บ้านของตัวเอง เมื่อก่อนเขาอาศัยอยู่กับพ่อกับแม่ แต่ตอนนี้พ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ตัวเขาคนเดียว ก่อนที่แม่ของเจนรบจะเสียชีวิต เธอได้ขอร้องไห้เจนรบหาเมียเป็นตัวเป็นตนสักที ด้วยความเป็นห่วงว่าลูกชายคนเดียวของบ้านจะไม่มีดูแลยามแก่เฒ่า

ในตอนนั้นเจนรบพึ่งจะ 40 เขาตอบตกลงไปเช่นนั้นเพื่อให้แม่สบายใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คิดจริงจังในการหาคู่ เพราะมัวแต่ทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป จนกระทั่งเขาได้มาพบกับลูกปลา ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปจากเดิม

สาวน้อยทิ้งตัวนั่งบนโซฟารับแขกบ้านของเจนรบ มันเป็นบ้านที่ดูสวย แต่มันกลับดูทรุดโทรมและสกปรกเล็กน้อย เพราะขาดคนดูแล เจนรบใช้มันเป็นเพียงสถานที่เพื่อซุกหัวนอนแล้วตื่นขึ้นไปทำงานเท่านั้น

"บ้านลุงรกหน่อยนะ ลุงไม่ค่อยได้ดูแลเท่าไร น่าอายจริง ๆ" เจนรบยิ้มหวาน ขณะหยิบขวดน้ำเปล่าจากตู้เย็นให้เด็กสาวที่นั่งอยู่บนโซฟารับแขก

"ลุงอยู่บ้านคนเดียวเหรอคะ?"

"ใช่..." เจนรบทิงตัวนั่งบนโซฟารับแขกอีกฝั่ง ความจริงเขาจะนั่งข้างสาวน้อยปวีณาก็ได้ แต่ก็ไม่ยอมทำ

"ลุงใช้ชีวิตยังไงของลุงคะเนี่ย!!" ปวีณาร่ายยาว "นี่ขอโทษนะคะ ลุงอายุ 50 กว่าแล้ว ไม่มีลูกเมีย แถมยังอยู่บ้านตัวคนเดียว แล้วนี่ถ้าลุงเกิดล้มป่วยขึ้นมา ใครจะดูแลลุงละค่ะ"

"ก็ไม่รู้ซิ..." เจนรบสารภาพตามตรง "ทุกวันนี้ลุงก็ภาวนาไม่ให้เป็นแบบนั้นอยู่"

"ลุงจอม..." สาวน้อยหน้าหวานมองหน้าคุณลุงใจดีของเธอ "หนูรู้นะ ว่าลุงน่ะยังเจ็บปวดกับเรื่องของพ่อกับแม่หนู แต่หนูอยากให้ลุงปล่อยวางมันลงนะคะ เพื่อที่ตัวลุงจะได้มีความสุขบ้าง"

"ลุงก็มีความสุขอยู่นี่ไง...."

"ไม่!!! ลุงจอมโกหก!!" ปวีณาส่ายหน้า "ลุงแค่แกล้งทำต่างหาก"

"ฉลาดเหมือนแม่เลย..." เจนรบยิ้ม "โชคดีที่หนูได้ความฉลาดจากแม่มา เพราะไอ้ภาคมันเป็นคนงี่เง่าที่ทำอะไรไม่รู้จักคิด" เจนรบแกะฝาขวดน้ำขึ้นมาดื่มแก้กระหาย

"ลุงจอมคะ?"

"จ๊ะ?"

"ลุงจอม...ถ้าลุงต้องการเรื่องแบบ...เรื่องอย่างว่า" ปวีณาเอ่ยปากด้วยท่าทางเนียมอาย "ปลายอมก็ได้นะคะ..."

"หนูปลา..." สุภาพบุรุษหนุ่มใหญ่อยากเจนรบถึงกับนิ่งเงียบ เด็กสาวนั่งเกร็งตัวด้วยความตื่นเต้น เจนรบสังเกตว่าใบหน้าของสาวน้อยแดงก่ำจนถึงใบหู อาจเป็นไปได้ว่าเธอกำลังเหนียมอาย

มันเป็นเรื่องยากเหลือเกิน ที่จะต่อสู้กับความรู้สึกที่ขัดแย้งอยู่ภายในใจ ไม่ใช่เจนรบไม่รู้สึกกับหนูปลาหรอกนะ ความรู้สึกนักแน่นอยู่ในอก เพียงแต่เจนรบจำเป็นต้องแยกแยะให้ได้ว่าอะไรคือความรักและความหลง

"ลุงจอม..." ปวีณามองหน้าหนุ่มใหญ่ด้วยท่าทีเหนียมอาย "รักปลาไหมคะ?"

"รักซิจ๊ะ..." เจนรบสารภาพ "ลุงจะบอกความจริงให้หนูรู้นะ ว่าหลังจากที่ลุงผิดหวังจากเปิ้ล แม่ของน้องปลา ลุงเสียใจมาก ก็เลยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่รักผู้หญิงคนไหนอีก ทุกทำแต่งาน ทำทุกอย่างเพื่อให้ลืมความผิดหวังครั้งนั้น จนกระทั่งลุงได้เจอกับหนูปลา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป"

"หนูไม่อยากให้ลุงคิดว่าหนูเป็นตัวแทนของแม่..." สาวน้อยสารภาพ "หนูอยากให้ลุงรักหนูในฐานะที่หนูคือปลา ปวีณา ไม่ใช่แม่ของหนู เปิ้ล ปิยะวรรณ จะได้ไหมคะ?"

หนุ่มใหญ่รู้สึกจุกแน่นในอกเหลือเกิน มันช่างเป็นช่วงโมงที่แสนหวานแต่กลับแฝงไปด้วยความเจ็บปวด หากหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนอื่นคนไกล คนอย่างเจนรบคงไม่ลังเล เพียงแต่หญิงสาวตรงหน้าก็คือปวีณา ลูกสาวของภาคภูมิและปิยะวรรณที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนของตน

"ลุงจอม...ปีนี้หนูอายุ 20 แล้วนะ" ปวีณาเอ่ยปากขึ้นมา "ลุงไม่ต้องกลัวหรอกว่าลุงจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์"

"ฮึ....." เจนรบถึงกับหลุดขำออกมา เพราะไม่คิดว่าสาวน้อยจะพูดแบบนั้น "เรื่องนั้นลุงรู้ เพียงแต่ว่า..."

เด็กสาวไม่อยากรั้งรอให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์อีกแล้ว เพราะการรอคอยมันทรมานเหลือเกิน ปวีณาเดินเข้ามานั่งตักทนายความหนุ่มใหญ่แล้วเอื้อมมือคล้องคอเจนรบ

"ในสายตาลุง หนูอาจจะยังเด็กไป" ปวีณาจ้องหน้าเจนรบ "แต่สำหรับหนู หนูคิดว่าหนูโตพอที่จะรักใครสักคนแล้ว ลุงจอมรู้ไหมคะ ว่าหนูน่ะแอบรักลุงมาตั้งนานตั้งแต่ยังเด็ก เป็นความรักที่บริสุทธิ์ของเด็กสาวที่มีให้ผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ แต่ตอนนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว หนูไม่ใช่เด็กอีกแล้วนะคะลุง หนูเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตกหลุมรักลุงหมดหัวใจ"

"หนูพูดแบบนี้ ลุงเขินแย่เลย" ริ้วรอยบนใบหน้าของเจนรบยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อเจนรบยิ้มหวาน โลกสีเทาที่เขาเผชิญมาตลอดสามสิบกว่าปีเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้งเพราะลูกปลาตัวน้อยอย่างปวีณา

"หนูจะบอกอะไรให้นะ ลุงน่ะแอบมาส่องเฟสหนูแล้วมืดลั่นกดไลค์ใช่ไหมล่ะ?" ปวีณาที่กำลังนั่งบนตักของเจนรบยิ้มหวาน "แล้วลุงคงไม่ได้ส่องเฟสหนูด้วยหรอกใช่ม๊า?"

"ตายแล้ว...ความลับของลุงแตกซะแล้วซิ" ลุงจอมยิ้มเขินด้วยความอาย ที่สาวน้อยรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น

"นะคะลุง..." ปวีณาออดอ้อนหนุ่มใหญ่ สาวน้อยโน้มศีรษะซบลงที่ซอกคอของทนายเจนรบ "หนูรักลุง หนูมั่นใจแล้วว่าหนูคิดกับลุงแบบนี้จริง ๆ ลุงคงไม่รังเกียจหนูใช้ไหมคะ?"

"ไม่เลยจ๊ะ...." เจนรบตอบ

กลิ่นกายสาวน้อยช่างหอมหวาน บรรยากาศในช่วงหัวค่ำก็แสนเป็นใจ แถมบ้างหลังนี้ก็ไม่มีใครอยู่นอกจากเจนรบ เส้นด้ายศีลธรรมที่ค้ำคอทนายความผู้รักความยุติธรรมใกล้จะขาดผึ่งลงทุกที

สุดท้าย เจนรบนึกไอเดียบางอย่างออก ในเมื่อเขาและสาวน้อยไม่อาจต่อสู้กับไฟเสน่หาที่ลุกโชนครั้งนี้ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด สุภาพบุรุษลูกผู้ชายอย่างเจนรบ จะพยายามทำทุกอย่างให้เจ้าหญิงตัวน้อยอย่างน้องปลาแปดเปื้อนมลทินน้อยที่สุด

"ลุงรักหนูนะน้องปลา..." เจนรบสารภาพความจริงออกมา "ลุงจะมอบความรักที่แสนหวานและงดงามที่สุด ที่คนอย่างลุงจะมอบให้ผู้หญิงที่สวยที่สุดในชีวิตของลุงอย่างหนูปลาเป็นสิ่งตอบแทนนะ"

"ค่ะ...." ลูกปลาตัวน้อยยิ้มหวานแก้มแดงระเรือ ขณะกำลังถูกเจนรบอุ้มเธอขึ้นมาจากโซฟา หนุ่มใหญ่อุ้มเด็กสาวขึ้นชั้นสอง ปวีณาหลับตาพริ้ม หัวใจของเธอเต้นแรง ใบหน้าของเธอแดงก่ำ เมื่อรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจ

จะไม่มีการสอดใส่ใด ๆ เกิดขึ้น เจนรบคิด เขาตั้งใจว่าจะสวมถุงยางแล้วทำแค่เพียงถูไถกับเกล็ดปลาตัวน้อยตัวนี้จากภายนอกเท่านั้น จะไม่ล่วงเกินเข้าไปภายในโดยเด็ดขาด จนกว่าจะถึงเวลาอันเหมาะสม หรือไม่ก็ เพื่อให้คนที่คู่ควรที่จะได้พรากสมบัติที่แสนหวงของน้องปลาในอนาคต


โปรดติดตามตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้

ตัวอย่างบางส่วนของฉากเลิฟซีนของ : เพื่อน...กูรักลูกสาวมึงว่ะ ตอนที่ 4 ครับ


"ลุงจอม...อืออออ....." ลูกปลาตัวน้อยดิ้นบนเตียงนอนสีครีม หญิงสาวอ้าขากว้างอล่างฉ่างเปิดเปลือยกลีบสาวที่ชุ่มฉ่ำให้สุภาพบุรุษอย่างเจนรบได้เชยชมเป็นขวัญตา

"ชอบไหมจ๊ะน้องปลา?" เจนรบเงยหน้ามองหญิงสาวที่กำลังยิ้มหวานตาปรือด้วยความสุขสม เพราะไม่คิดว่าบนโลกใบนี้จะมีความสุขอะไรที่แสนหอมหวานและซาบซ่านเช่นนี้มาก่อน จนกระทั่งเธอได้เจอกับลุงจอม สุภาพบุรุษหนุ่มใหญ่ผู้น่าเคารพนับถือ บุรุษผู้ยอมหลีกทางให้พ่อกับแม่ของเธอได้ครองรักกันเพื่อให้กำเนิดเธอ

และตอนนี้ ในฐานะทายาทของภาคภูมิและปิยะวรรณ เธอต้องกลับมาชดใช้หนี้กรรมสมัยรุ่นพ่อกับแม่ของเธอที่เคยทำไว้กับเจนรบ ด้วยการมอบตัวและหัวใจให้กับหนุ่มใหญ่ที่ยอมเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อให้ครอบครัวของเธอได้อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

"ลุงจอม...อืออ....ปลาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะดีแบบนี้...อืออออ" ลูกปลาตัวน้อยเผยอปาก ลมหายใจร้อนผ่าวของเธอถูกปลดปล่อยออกมาจากริมฝีปาก "ลุงจอมขา...นี่คือเซ็กส์ใช่ไหมคะ?"

"ใช่จ๊ะ...นี่คือเซ็กส์" เจนรบตอบ "นี่คือสิ่งที่ผู้ชายและผู้หญิงที่รักกันจะทำเพื่อพิสูจน์ถึงความรัก"

"ถ้าแบบนั้น...ลุงจอมก็รักปลาใช่ไหมคะ?" สาวน้อยเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขณะกำลังถูกสุภาพบุรุษหนุ่มใหญ่เล้าโลมชิมครีมจากถ้ำสวรรค์ของลูกปลาตัวน้อย ที่หลงฝูงมาเจอกับฉลามนักล่าอย่างเจนรบ

 
"สาวน้อยคนนี้ช่างแสนหวานและอ่อนต่อโลกเสียเหลือเกิน เจนรบยิ้มหวาน เขายินดีที่จะกลืนกินน้ำหวานของลูกปลาตัวน้อยตัวนี้ด้วยความเต็มใจ

"อึ๊ก!!! อือออออออ!!!!" ร่างของลูกปลากระตุกเกร็งอย่างรุนแรง สาวน้อยยกสะโพกสูงท้าทายสายตาของเจนรบ หนุ่มใหญ่ใช้มือรองก้นเปลือยเปล่าของปวีณาที่แสนอ่อนนุ่ม แน่นอน เขาจะไม่สอดใส่เข้าไปในกายสาวของลูกปลาตัวน้อยที่แสนน่ารักตัวนี้ จะใช้เพียงแค่การเล้าโลมด้วยปาก และใช้แก่นแท้ความเป็นชายถูไถไปตามร่องกลีบสาวโดยสวมถุงยางอนามัย หรือไม่ก็พาดร่องก้นของสาวน้อยแทน
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

neimuchan

เข้ ลุงจอมถ้าจะเอา เฮียเหลียง เป็น avatar แบบนี้ไม่น่ารอดมาถึงหนูปลานะ น่าจะเจอคนอื่นเอาไปกินแล้วหละ

เฮียเหลียงนี่ เท่ รองจากเฮียหลิว เลยนะ

Nato87: ท่าทาง คาแร็คเตอร์ของเจนรบ ผมได้มาจากหนังที่เหลียงเฉาเหว่ยเล่นจากหนังแอ็คชั่นฮ่องกงเรื่องนึงครับ แต่ว่าในเรื่องนี้จะดูเป็นคนมีความรู้มากกว่าในเรื่องนั้นที่แกเป็นตำรวจลับ แกเป็นคนรักใครรักจริงครับ พอผิดหวังกับรักแรกที่แกคาดหวังไว้สูงก็เลยปิดกั้นตัวเอง บวกกับอาชีพการงานด้วยล่ะ แกไม่อยากเจ็บปวดอีก ก็เลยไม่อยากผูกพันธ์กับใคร เว้นเสียแต่จะมีความสัมพันธ์ไม่ผูกมัด จะเห็นได้ว่าถ้าแกทนไม่ไหว ก็ไปลงกับสาวอาบอบนวดแทน
จริงๆแล้วมี ID เก่า แต่ดันจำ password mail เก่าไม่ได้เลยต้องสมัครใหม่ -*-

Phoowadol

ม๊ายยยยยยย....... ลุงๆๆๆ ลุงเป็นพระเอกนะ ต้องเสียบให้มิด สิ ลุง อย่าวางฟอร์มให้มันเยอะเลย  ดูอย่างลุงพลเป็นตัวอย่างสิ   ::Confident::   เด็กเขาทอดสะพานมาแล้วขนาดนี้  อย่าให้เหลือกลับสอคร้าบ....ลุยโลด ::YarKK::

Nato87: ไม่ต้องกลัว ลุงจอมเสียบแน่นอนครับ เพียงแต่ต้องเข้าใจว่าแกเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เช่นนั้นตอนนี้คงไม่ลากยาวมาถึงขนาดนี้ กว่าจะหาทางลงให้ได้ โคตรเหนื่อย 5555+

โอ๊ย กลับมาอ่านอีกที มี ตัวอย่าง ตอนหน้า ด้วย.....แต่ว่า เห็นลุงทำแบบนี้ มัน ขัดใจ อะ....ตกลง จะไม่สุดจริงไปเหรอเนี่ย...........ว๊า.........
  อ๊าย...ไรท์ มาคอนเฟิร์ม แบบนี้ ค่อย ใจชื้นหน่อย   นี่สิันต้องอย่างนี้   อิอิ
ขอบคุณครับ
   





baibon

 ::Beggar::รอแยู่เลยครับ มาเร็วดีครับ มาคอมเม่นท์ก่อนอ่านครับ รู้ว่าต้องสนุกแน่นอน

กฎ กติกา ของบอร์ดเรา  ห้าม เมนท์ก่อนอ่าน นะครับ  หลังงอ่านจบแล้ว ให้กลับ มา แก้ไข เพิ่มเติมด้วย  มิเช่นนั้น จะถูกแบนนะครับ
  ผมเตือนแล้วนะ ฮึ่มๆ ::Shout::



niceanglev

ลุงจอมไม่ทำให้ลูกปลาหน่อยเหรอ โอเมก้าทรีรออยู่ข้างหน้า อดใจได้ยังไง


ผู้เฒ่าเซราะกราว

และแล้วลุงจอมกับหลานปลาก็ได้เปิดหัวใจให้กัน น้องปลาเป็นคนรุ่นใหม่จึงกล้าเปิดเผยความต้องการของตัวเองส่วนลุงจอมก็อยากตอบสนองความต้องการทั้งของตัวเองและของน้องปลา แต่ก็ยังมีสติคิดถึงอนาคตของน้องปลา จึงคิดว่าจะทำแค่ภายนอก....หึหึ แต่ก็ไม่คิดว่าลุงจอมจะรอดมือน้องปลาไปได้

Thunyawit sriradon


tetete

ความรักมันไม่มีเรื่องถูกหรือผิดหรอกครับลุงจอม รักกันก็ต้องสู้ไปด้วยกันนะ