ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

บันทึกรักทนายผึ้ง ตอนที่ 7 : เพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อ

เริ่มโดย nato87, กันยายน 12, 2019, 03:10:45 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : ไม่รู้ว่าลืมเรื่องนี้กันหรือยังกับบันทึกรักทนายผึ้ง ผมไม่ได้แตะเรื่องนี้มานานกี่เดือนแล้วนะ 55555+

เรื่องนี้จะมีเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงจากจักรวาลของเกมรักภารโรงเฒ่า และ เพื่อน...กูรักลูกสาวมึงว่ะ นะครับ โดยมีแขกรับเชิญพิเศษคือ ครูเบสท์ สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น หากจำกันได้ ผมเคยบอกว่าสมัยวัยรุ่น เธอเคยเป็นนางแบบวัยใส ที่เกือบได้เข้าวงการบันเทิง ก่อนเปลี่ยนใจไปเอาดีด้านวิชาการด้านการพยาบาลแทน และลุงจอม เจนรบ ทนายความสุภาพบุรุษขวัญใจของน้องปลานั่นเอง

แล้วก็ยังมีเรื่องราวของหมอพลอยและพี่กรณ์สมัยยังเป็นนิสิตนิดหน่อยพอเป็นน้ำจิ้ม ก็ลองติดตามดูกันในเรื่องหลักครับ

โดยเหตุการณ์ตามไทม์ไลน์ของบันทึกรักทนายผึ้ง จะเป็นเรื่องที่เกิดก่อนจักรวาลเกมรักภารโรงเฒ่าและเพื่อน...กูรักลูกสาวมึงว่ะ ราว 10 ปีนะครับ



ลิงค์ความเดิมจากตอนที่แล้ว

https://xonly8.com/index.php?topic=215242.0

########################

หลังจากเรียนจบในระดับชั้นมัธยมศึกษา สองสาวเพื่อนรักอย่างผึ้งและพลอย ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังแถวสามย่าน โดยผึ้งสอบติดคณะนิติศาสตร์ ส่วนพลอยก็สอบติดคณะแพทย์ศาสตร์อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ด้วยความสวยใสของพลอยพรรณ เลยทำให้เธอกลายเป็นดาวคณะในเวลาไม่นาน



"น้องพลอยครับ มีคนฝากมาให้" หนุ่มรุ่นพี่จากคณะวิศวกรรมศาสตร์เอาจดหมายรักมายื่นให้น้องพลอย ดาวคณะแพทย์ศาสตร์ก่อนเดินกลับไป

"โหย...สมัยนี้แล้วยังเขียนจดหมายจีบหญิงอีก เป็นโบราณแมนอย่างแท้จริง!!" สาวผึ้งออกปากแซวเพื่อนรัก "ว่าแต่แกเสน่ห์แรงจังเลยนะพลอย มีหนุ่ม ๆ มาจีบไม่เว้นแต่ละวัน"

"ก็คนมันสวย ทำไงได้ล่ะ?" พลอยพรรณแอบยิ้มที่มุมปาก กรรณิการ์สัมผัสได้ถึงความหยิ่งทระนงในรอยยิ้มของเพื่อนรัก

"จ้า คนสวยเลือกได้!!! แม่เจ้าหญิงแห่งปราสาทนาโกย่า" กรรณิการตอบ "ว่าแต่ชั้นสังเกตนะ ว่าในบรรดาผู้ชายที่เข้ามาจีบแกอ่ะ มีอยู่คนหนึ่งที่แบบดูแล้วท่าทางจะชอบแกมาก ๆ เลย ที่อยู่คณะเภสัชอ่ะ ใครแล้วว้า? ทำไมพอถึงเวลาแบบนี้ถึงคิดไม่ออกนะ?"

"พี่กรเหรอ?" พลอยพรรณตอบ "พี่กรก็ดีนะ...."

"ใช่ ๆ พี่กร!!" สาวผึ้งยิ้ม "ชั้นว่าพี่กรก็หล่อนะ แกไม่สนหน่อยเหรอ?"

"ไม่อ่ะ..." เจ้าหญิงน้ำแข็งตอบอย่างไม่ยี่หระ "ชั้นยังไม่อยากมีความรักเท่าไร"

"โห!! อะไรของแกวะพลอย!!!" สาวน้อยจากคณะนิติศาสตร์บ่น "คือชั้นชักสงสัยในรสนิยมทางเพศของแกแล้วนะ แกไม่สนใจเรื่องแบบนี้เลยเหรอ? แกอยากจะเป็นสาวแก่ทึนทึกใช่ไหม?"

"ผึ้ง ชั้นจะบอกแกอย่างนะ" นักศึกษาแพทย์คนสวยทำหน้าดุใส่ "ชั้นไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปที่จะมาร้องหาผู้ชาย ชั้นคิดว่าชั้นมีศักดิ์ศรีของตัวเอง ความรักน่ะ มันบังคับใจกันไม่ได้หรอกนะ ถ้าชั้นไม่ชอบ ทำยังไงก็ไม่ชอบอยู่ดี เก็ตยัง?"

"เออ...เก็ตแล้ว"  สาวผึ้งตอบ "พูดซะชั้นสำนึกผิดไม่ทันเลยนะ"

"อืม..." พลอยพรรณยิ้มที่มุมปาก "แล้วแกล่ะผึ้ง ยังคุยกับแทนอยู่ไหม?"

"แทนเหรอ?" สาวน้อยนักกฎหมายตอบ "ก็คุยกันอยู่ผ่านเฟสอ่ะนะ"

"ก็ดีแล้ว" นักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ยิ้ม "ยังไงก็ขอให้สมหวังนะ"

นั่นแหละพลอยพรรณ ถึงแม้ว่าเธอจะดูหยิ่งและนิ่งจนคาดเดาอารมณ์ได้ยาก แต่ความจริงแล้วเธอเองก็เป็นคนรักเพื่อน และอยากให้เพื่อนมีความสุข สาวผึ้งเป็นเพียงไม่กี่คนที่น้องพลอยยอมรับเป็นเพื่อน เพราะเธอค่อนข้างไว้ตัว คาดเดาอารมณ์ได้ยากเหลือเกิน พอถึงเวลาเรียน สาวผึ้งและสาวพลอยก็ลุกขึ้นเพื่อเตรียมแยกย้ายกันไปเข้าเรียนตามตารางของใครของมัน พลอยพรรณหยิบจดหมายรักจากรุ่นพี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ไปทิ้งถังขยะโดยไม่คิดจะเปิดอ่านก่อนเลยแม้แต่น้อย



"โห...ใจร้ายว่ะ" กรรณิการ์บ่นอุบ "ถ้าชั้นเป็นผู้ชาย ชั้นคงเสียใจแย่"

"ก็ชั้นไม่อยากมีความรักตอนนี้" พลอยพรรณตอบ "ของแบบนี้บังคับใจกันไม่ได้"

นั่นแหละ นิสัยของพลอยพรรณ หยิ่ง เข้าถึงยาก คาดเดาความรู้สึกไม่ถูก เธอคือลูกสาวนักการเมืองใหญ่แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่านวิทยา จารุสิริการกุล นักการเมืองคนสำคัญของพรรคบูรพารักษาแผ่นดิน พรรคการเมืองใหญ่แห่งภาคตะวันออกของประเทศไทย

.........................

"มนุษย์ถือว่าเป็นสัตว์สังคม แน่นอนว่ามนุษย์ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวคนเดียวได้ มนุษย์ต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มก้อน พอกลุ่มก้อนที่ว่ารวมตัวกันก็กลายเป็นสังคมขึ้นมา และพัฒนากลายเป็นรัฐ ประเทศ ซึ่งทีนี้พอมนุษย์มีจำนวนมากขึ้น เราจำเป็นต้องสร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมาเพื่อให้คนส่วนใหญ่อยู่ร่วมกันได้"

"ขออนุญาตเข้าห้องครับ!!" ชาวหนุ่มในชุดนิสิตเดินเปิดประตูเข้ามา

"ไอ้หนุ่ม เดี๋ยวก่อน" วิทยากรที่เป็นทนายความคนนั้นเรียกนิสิตหนุ่มมาคุย "นี่สูบบุหรี่มาเหรอ?"

"ขอโทษครับ" นิสิตหนุ่มคนนั้นทำหน้าจ๋อย จนเพื่อนนิสิตในห้องหัวเราะร่วน

"สูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพนะ เลิกได้ก็เลิก" วิทยากรตบที่บ่าของนิสิตหนุ่มคนนั้น "แล้วจำไว้ว่าคลาสที่ผมบรรยายเริ่มตอนเก้าโมงเช้า แล้วนี่กี่โมงแล้ว จะสิบโมงแล้ว ทีหลังถ้าลุกมาเรียนไม่ไหว ก็นอนอยู่บ้านนะพ่อหนุ่ม"

"ครับ ขอโทษครับ" หนุ่มน้อยคนนั้นทำตัวลีบด้วยความเขิน

"เมื่อคืนทำอะไรมา ถึงมาสาย?" วิทยากรคนนั้นเอ่ยปากถาม "ดูบอลเหรอ?"

"ครับ"

"เชียร์ทีมอะไร?"

"แมนยูครับ" นิสิตหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนพ้องในคลาสเรียน

"เหรอ? ชอบแมนยูเหรอ?" วิทยากรหนุ่มใหญ่ถามต่อ "แล้วรู้ไหมผมเชียร์ทีมอะไร?"

"ไม่รู้ครับ"

"ลองทายดูซิพ่อหนุ่ม เร็ว ๆ ตอบมา" วิทยากรตบที่บ่านิสิตหนุ่มเพื่อให้กำลังใจ

"ลิเวอร์พูลครับ"

"ถูกต้อง!!!" ทนายความยิ้ม "แล้วเมื่อไรแมนยูจะได้แชมป์ยุโรปสมัยที่ 4 ล่ะ?"

"เร็ว ๆ นี้ครับ" เสียงโห่แซวจากเพื่อน ๆ ดังขึ้นมา "ผมขอถามบ้างซิครับคุณเจนรบ"

"ว่ามา" ทนายความยิ้ม

"แล้วเมื่อไรลิเวอร์พูลจะได้แชมป์พรีเมียร์สักทีครับ" นิสิตหนุ่มหยอกเจนรบกลับ

"มุกแรง มุกแรง!!" เจนรบ วิทยากรวิเศษปรบมือ "เอาล่ะ พอแล้ว เดี๋ยวไม่ได้พูดต่อ ไปนั่งซะพ่อหนุ่มแมนยู แซวนิดแซวหน่อยพอขำ ๆ นี่คุณสวนกลับมาครั้งเดียวปักที่กลางอกผมเลยนะ ร้ายกาจมาก" หนุ่มใหญ่แซว จนเพื่อน ๆ ในห้องหัวเราะกันเสียงดังมากขึ้น "โอเค แค่หยอกเล่น ที่หลังก็รู้จักเวล่ำเวลาหน่อยนะพ่อหนุ่ม"

แล้วนิสิตหนุ่มคนนั้นก็พนมมือไหว้ทนายความที่มาทำหน้าที่เป็นวิทยากรพิเศษทามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนฝูงในห้อง ก่อนเดินไปหาที่นั่ง แล้วบังเอิญเหลือเกิน ที่นิสิตคนนั้นมานั่งกับสาวผึ้ง

"หน้าไหนแล้ววะผึ้ง?" นิสิตหนุ่มหน้ามึนคนนั้นเอ่ยปากถามขณะกำลังหยิบหนังสือกฎหมายขึ้นมา

"หน้าที่ 69" สาวผึ้งตอบ "มึงยังมีชีวิตอีกเหรอวะไอ้ขุน กูนึกว่ามึงไม่มาเรียนแล้ว"

"โทษที กูกินเหล้าหนักไปหน่อย" ขุนเขาตอบ

หนุ่มน้อยคนนั้นมีชื่อว่า ขุน หรือชื่อจริงก็คือขุนเขา เป็นเด็กกรุงเทพโดยกำเนิด เขาเป็นนิสิตคณะนิติศาสตร์เช่นเดียวกับสาวผึ้ง หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าขุนมักชอบทำตัวใกล้ชิดกับผึ้งผิดปกติ จนมีคนเข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยวันรับน้อง ด้วยความเกรียนและกวนตีนของขุนเขา เลยทำให้สนิทกับสาวผึ้งได้ไม่ยาก

แล้วในคลาสบรรยายของวิทยากรพิเศษที่ชื่อว่าคุณเจนรบ ที่เป็นทนายความผู้ทรงคุณวุฒิก็จบลง แล้วเหล่าบรรดานิสิตคณะนิติศาสตร์ก็เดินออกมาจากห้องเรียน

"ผึ้ง เย็นนี้ว่างป่ะ คือกูอยากให้มึงช่วยติวหนังสือให้กูหน่อยดิ" ขุนเขาอ้อนวอนสาวผึ้ง "เมื่อวานกูไม่ได้เขาเรียน ตกลงอาจารย์สอนเรื่องอะไรมั่งวะ?"

"มึงก็ตั้งใจเรียนหน่อยเหอะ!!" กรรณิการ์ดุขุนเขา "ก็ได้ ตอนเย็นเจอกันที่โรงอาหาร"

แล้วเย็นนั้น สาวผึ้งก็เลยต้องมานั่งติวหนังสือให้ขุนเขาที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งเหมือนกัน สาวผึ้งออกโรงตำหนิขุนเขาชุดใหญ่ว่าเขาควรให้ความสำคัญกับการเรียนให้มากกว่านี้



"กูขอโทษ กูจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้น" ขุนเขาพนมมือไหว้กรรณิการ์

"มึงไม่ต้องไหว้กูเลยไอ้ขุน!! แล้วไม่ต้องไหว้กูด้วย!!" กรรณิการ์ทำเสียงดุ "สงสารพ่อกับแม่มึงมั่งดิวะ ที่ส่งมึงมาเรียน แล้วนี่มึงได้เรียนมหาวิทยาลัยที่ดีแบบนี้ ตั้งใจเรียนหน่อยเหอะ"

"เออ กูขอโทษ" เด็กหนุ่มทำหน้าจ๋อย ก่อนตั้งหน้าตั้งตาฟังการติวเข้มของกรรณิการ์อย่างตั้งอกตั้งใจ

สาวผึ้งอดคิดในใจไม่ได้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงต้องมารับหน้าที่เป็นติวเตอร์จำเป็น แฟนคนแรกอย่างหนุ่มแทนก็แล้ว นี่ยังต้องมาเจอไอ้ขุนจอมมึนนี่อีก โอ้สวรรค์!! ท่านกำลังล้อเล่นกับสาวน้อยที่แสนน่ารักอย่างกรรณิการ์อยู่ใช่ไหม?

ระหว่างที่ติวหนังสือให้ไอ้ขุนจอมมึน สายตาของผึ้งก็เหลือบไปเห็นพลอยพรรณเดินมากับรุ่นพี่จากคณะเภสัชอย่างกรวิทย์ กรรณิการ์รู้สึกว่าพี่กรคนนี้พยายามทำตัวใกล้ชิดกับพลอยพรรณมาเป็นพิเศษ แต่ไม่มีวี่แววที่เพื่อนรักของเธอจะยอมใจอ่อนเลยแม้แต่น้อย

"ผึ้ง? แอบเหล่ผู้ชายอยู่เหรอ?" ขุนเขาที่แอบมองกรรณิการ์มาได้สักพักออกโรงแซว

"ไอ้บ้า!! ใช่ที่ไหน!!!" สาวผึ้งปฎิเสธ "มึงน่ะ อ่านหนังสือไปเหอะไอ้ขุน!!"

เรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ผู้ชายที่สร้างความน่ารำคาญให้กับสาวผึ้งไม่น้อย สำหรับพ่อหนุ่มขุนเขาคนนี้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสาวผึ้งถึงไม่ยอมตีตัวออกห่าง มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดอยู่เหมือนกัน ราวกับว่าผึ้งและขุนเขามีแรงดึงดูดซึ่งกันและกันอยู่

.......................

ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ผึ้งได้นัดกลุ่มเพื่อนพ้องคณะนิติศาสตร์มาเดินเล่นที่ย่านสยามเซ็นเตอร์ สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุมนุมของวัยรุ่นหนุ่มสาวทั่วไป กรรณิการ์ในชุดเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงยีนส์สีเทา และรองเท้าผ้าใบสีขาว ยืนรอเพื่อนพ้องอยู่ตรงบริเวณลานกว้างอเนกประสงค์

"ขอแนะนำผู้เข้าสมัครมิสทีนทาเลนท์ไทยแลนด์ น้องเบสท์ ภัคจิรา สาวน้อยหน้าหวานจากดินแดนเหนือสุดของประเทศไทยจังหวัดเชียงราย" เสียงพิธีกรในมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ตรงหน้าห้างดังขึ้น

"สวัสดีค่ะ หนูชื่อเบสท์นะคะ มาจากจังหวัดเชียงราย" ภาพในมอติเตอร์เปลี่ยนเป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารัก ที่แฟนเก่าของผึ้งอย่างหนุ่มแทนเคยบอกว่าเพื่อนของเขากำลังจีบทางสื่อรักออนไลน์อยู่ "สำหรับความฝันของเบสท์ ก็คือการได้ทำตามความฝันของตัวเอง ได้รับการยอมรับจากทุกคน อย่าลืมนะคะทุกคน รักเบสท์ ฮักสาวเจียงฮาย เพราะสาวเจียงฮายบ่อเคยใจฮ้ายกับไผสักเผื้อ เบสท์เป็นสาวภาคเหนือ เหนือสุดของประเทศไทย อย่าลืมโหวตเบอร์ 16 นะค๊า!!"



"ไร้สาระ กระแดะ..." กรรณิการ์บ่นในใจ เธอไม่ค่อยอินกับเวทีประกวดวัยทีนอะไรแบบนี้เท่าไร จริงอยู่ว่ามันเป็นก้าวแรกสู่วงการบันเทิง แต่สำหรับคนอย่างสาวผึ้งแล้ว เธอไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คนสวยอะไร และเป็นคนที่เฟคไม่เป็นซะด้วย

พอยืนรอได้สักพัก พรรคพวกจากคณะนิติศาสตร์ก็มาถึง รวมถึงพ่อหนุ่มขุนเขา แลวทุกคนก็ไปเดินเที่ยวกันในห้างสรรพสินค้า ก่อนพ่อหนุ่มขุนเขาช่วนพรรคพวกที่เหลือไปนั่งกินเหล้าที่ร้านแห่งหนึ่งแถวสามย่าน



"ใครอยากกินเหล้าก็ตามมานะ ถ้าใครไม่สะดวก จะกลับก่อนก็ได้ไม่ว่ากัน" พ่อหนุ่มขุนเขาเอ่ยปาก

สุดท้าย สาวผึ้งและเพื่อนอีกสองคนก็มานั่งกินเหล้ากันหลังจากเดินเที่ยวและจับจ่ายซื้อของในห้างสรรพสินค้าเสร็จแล้ว กลุ่มนิสิตคณะนิติศาสตร์นั่งกินเหล้าพูดคุยด้วยเรื่องจิปาถะไล่ตั้งแต่เรื่องเหตุบ้านการเมือง วงการบันเทิง วิชาการ และนินทาอาจารย์กันอย่างออกรส

หนุ่มสาวว่าที่นักกฎหมายนั่งกินเหล้าในร้านค้าแถวสามย่านอย่างออกรสตั้งแต่ช่วงเย็น จนเวลาผ่านเลยไปเกือบถึงสี่ทุ่ม ก็นึกขึ้นได้ว่าถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านไปนอน ทีนี้เหลือแค่สาวผึ้งกับขุนเขาคนเดียว

"เดี๋ยวผึ้งกลับบ้านยังไงอ่ะ?" พ่อหนุ่มขุนเขาเอ่ยปากถามสาวผึ้งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์

"กูอยู่หอ" กรรณิการ์ตอบ "มึงไม่ต้องไปห่วงกูหรอก เดี๋ยวกูโบกแท็กซี่กลับเอง"

"ไม่ได้นะเว้ย!!" ขุนเขาปฎิเสธ "ยังไงมึงก็ผู้หญิง กูไม่ยอมให้มึงกลับหอคนเดียวหรอก กูเป็นห่วง"

"เหรอ? มึงเป็นห่วงกูเหรอ?" สาวผึ้งที่เหมือนจะเริ่มเมาหรี่ตามองหนุ่มหน้ามึนคนนี้ "มึงคิดอะไรกับกูป่ะเนี่ยไอ้ขุน?"

"คิดดิ...." ขุนเขาตอบ "มึงเป็นเพื่อนกูอ่ะ ไอ้ผึ้ง"

"เออ ก็ได้" กรรณิการ์ตอบ "กูชักเริ่มเมาละ มึงไหวป่ะ ให้กูขับรถให้ได้นะ"

"กูไหว กูขับเองได้" ขุนเขาลุกขึ้น หยิบกุญแจรถจากกระเป๋าหลังกางเกงยีนส์ พลางสัมผัสได้ถึงหยดน้ำที่หยดลงมาตรงไหล่ขวา "กูว่ารีบกลับเถอะ เหมือนฝนจะตกแหะ"

ขุนเขาขับรถ Honda Jazz สีดำ เพื่อพาสาวผึ้งไปส่งที่หอพัก ระหว่างทางฝนก็เทลงมาอย่างหนัก จนทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นแย่ลง

"รถติดโว้ย!!! รถติด!!!" ขุนเขาบ่นอุบกลางท้องถนนย่านปทุมวัน "กูขอดูดบุหรี่หน่อยนะผึ้ง"

"มึงจะดูดอะไรตอนนี้ไอ้ขุน!!!" กรรณิการ์ดุใส่ขุนเขา "ค่อยดูดได้ป่ะ แล้วแม่งรถมึงน่ะ โคตรเหม็นอับเลย มึงทำอะไรในรถวะถามจริง"

"ถ้ามันเหม็นนัก มันมีสเปรย์ดับกลิ่นอยู่ตรงเก๊ะหน้ารถ" ขุนเขาชี้ไปตรงด้านหน้าสาวผึ้ง "เปิดดู แล้วช่วยฉีดให้กูด้วย"

"นี่มึงโคตรไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยว่ะไอ้ขุน ใช้ผู้หญิงเนี่ย เห๊อะ!!" กรรณิการ์บ่นอุบ ขณะกำลังเปิดเก๊ะหน้ารถเพื่อหยิบสเปรย์มาฉีดดับกลิ่น "ซกมกชิบหาย มึงนะมึง!!!"

"อย่าบ่นเถอะผึ้ง" ขุนเขาส่ายหน้า "โอ้ ไฟเขียวละ เดินหน้าต่อ"

แล้วขุนเขาก็ขับรถพากรรณิการ์ไปส่งที่หอพัก พอขับไปได้สักพัก ขุนเขาก็ร้องเสียงดัง จนกรรณิการ์ที่เริ่มมึน ๆ เพราะกลิ่นสเปรย์ในรถต้องตกใจ

"เชี่ยแล้วไง!!" ขุนเขาร้องอุทานเสียงดัง

"อะไรของมึงวะไอ้ขุน?" กรรณิการ์ขมวดคิ้วใส่เพื่อนชายจอมมึน

"น้ำมันรถกูจะหมดแล้วว่ะ แล้วกูไม่มีตังค์จะเติมน้ำมันด้วย" ขุนเขาหันไปยิ้มแห้งใส่สาวผึ้ง

"โอโห!!! มึงเป็นคนภาษาอะไรวะไอ้ขุน!!" สาวผึ้งด่าขุนเขาชุดใหญ่ "มึงมีตังคกินเหล้า แต่มึงไม่มีตังค์เติมน้ำมันรถเนี่ยนะ!!!"

"ก็กูอยากสนุกกับเพื่อน" ขุนเขาตอบ "ฝนก็ตกหนัก น้ำมันก็จะหมด เดี๋ยวกูขอยืมตังค์เติมน้ำมันก่อนได้ไหมผึ้ง"

"ไอ้บ้า!!" สาวผึ้งด่า "มึงนี่นิสัยเหมือนเด็กเลยว่ะไอ้ขุน ตกลงชีวิตมึงนี่รับผิดชอบอะไรไม่ได้เลยใช่ไหม?"

"ก็กูเป็นคนแบบนี้อ่ะ" ขุนเขาบ่นอุบ "ให้กูทำยังไง?"

"กูต้องขึ้นไปเอาตังค์ที่ห้องว่ะไอ้ขุน" กรรณิการ์ตอบ "มึงรอข้างล่างละกัน"

"ให้กูขึ้นไปด้วยดิผึ้ง" ขุนเขาตอบ "มึงไม่ต้องกลัว กูไม่ปล้ำมึงหรอก"

"ไอ้สัส!! มึงใช้ปากหรือตูดพูดวะ!!" กรรณิการ์ตกใจ พลางเอามือมาปิดหน้าอกด้วยความเขิน "กูผู้หญิงนะ พูดจาให้เกียรติกูบ้าง!!"

"กูรู้มึงผู้หญิงไอ้ผึ้ง" ขุนเขาตอบ "กูไม่ทำอะไรมึงหรอก มึงไม่ใช่สเป็คกู นะ กูขอล่ะ ขอหลบฝนในห้องมึงก่อน"

"เออ!!! ก็ได้"สาวผึ้งตอบตกลง ถึงแม้จะไม่ค่อยไว้ใจ แต่เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกัน กรรณิการ์เลยคิดว่าขุนเขาคงไม่คิดทำอะไรรุ่มร่ามใส่เธอแน่

ขุนเขาขับรถเข้ามาจอดในโรงจอดรถหน้าหอ ก่อนรีบวิ่งเข้ามาในหอพักของสาวผึ้ง ระหว่างขึ้นลิฟต์ ขุนเขาก็เอ่ยปากถามสาวผึ้งด้วยเรื่องทั่วไป

"มึงอยู่หอคนเดียวเหรอ? แล้วแฟนมึงล่ะ?" หนุ่มหน้ามึนจากคณะนิติศาสตร์ถาม

"กูอยู่คนเดียว ส่วนแฟนกูตอนนี้เรียนอยู่ออสเตรเลีย" กรรณิการ์ตอบอย่างไว้เชิง เพื่อให้ไอ้ขุนรู้ว่าเธอมีเจ้าของหัวใจแล้ว จะได้ไม่ต้องมาทำรุ่มร่ามอีก

พอลิฟต์เปิด ขุนเขาก็เดินตามสาวผึ้งเข้าไปในห้อง ระหว่างนี้ผึ้งก็เลยเปิดโทรทัศน์ให้ขุนเขาดูแก้เซ็งระหว่างรอฝนซาไปก่อน ขุนเขาเลยเปิดช่องฟุตบอลคู่โปรด

"เวยน์ รูนีย์ ยิงประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ แอสตันวิลล่าในนาทีที่ 30 จากลูกครอสของอันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่โยนเข้ามาให้เวยน์ รูนีย์วอลเลย์ด้วยเท้าขวาเข้าประตูไป" เสียงนักพากษ์ในโทรทัศน์ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงเฮของขุนเขา

"เฮ้ย!! ไอ้ขุน มึงเกรงใจกูบ้างเฮ้ย!!" กรรณิการ์หยิบเอาแบงค์พันออกมาจากลิ้นชัก "เอาไป แล้วมึงก็รีบกลับได้แล้ว"

"กูอยากดูบอลอ่ะผึ้ง!!!" ขุนเขารับเงินใส่กระเป๋าแล้วเริ่มออกลายงอแง จนกรรณิการ์เริ่มไม่พอใจ

"ไอ้ขุน!!! นี่มันห้องกูนะ!!!" กรรณิการ์พยายามดึงแขนขุนเขาที่นั่งอยู่บนเตียงของเธอ "ไอ้ขุน!! ลุกขึ้นดิวะ!!! เฮ้ย!!!"

แล้วขุนเขาก็ลุกขึ้น ชายหนุ่มผลักร่างของกรรณิการ์ลงไปนอนบนเตียง แล้วทำการขึ้นคร่อมร่างของเพื่อนสาวสุดห้าวคนนี้

"ไอ้ผึ้ง กูมีอะไรจะสารภาพกับมึงว่ะ" ขุนเขาจ้องหน้ากรรณิการ์ด้วยสายตาหวานเยิ้ม "ความจริงแล้ว กูแอบชอบมึงว่ะ มึงคือผู้หญิงในสเป็คกูทุกอย่างเลย"

"ไอ้ขุน!!! อะไรของมึงเนี่ย!!! มึงลุกขึ้นเลยนะ!! กูไม่สนุกด้วยนะเว้ย!!!" กรรณิการ์พยายามขัดขืน แต่กลับถูกขุนเขาต่อต้าน หนุ่มน้อยซุกไซ้ซอกคอของเพื่อนสาวที่กำลังเกร็งตัวด้วยความตื่นเต้น "อย่านะไอ้ขุน!! เราเพื่อนกันนะ"

"แล้วเพื่อนไม่มีสิทธิ์รักเพื่อนเหรอวะ?" ขุนเขาหันไปมองหน้ากรรณิการ์ "กูแอบรักมึงมาตั้งแต่วันรับน้องแล้วไอ้ผึ้ง"

"ไอ้ขุน!! อือ!!!" กรรณิการ์หลับตาปี๋ขณะกำลังถูกขุนเขาขืนใจ สาวน้อยแปลกใจว่าทำไมอยู่ดี ๆ เธอถึงไร้เรี่ยวแรงได้ถึงขนาดนี้ "ไม่เอานะไอ้ขุน!!! กูมีแฟนแล้วนะเห้ย!!"

"ให้กูเป็นกิ๊กมึงก็ได้ ถ้าแฟนมึงมา กูจะหลีกทางให้ แต่กูรู้แค่ว่ากูรักมึงไอ้ผึ้ง" ขุนเขากระซิบข้างหู "ไม่ดิ ขุนรักผึ้งนะ"

"ไอ้ขุน..." กรรณิการ์เริ่มลังเล เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออย่างขุนเขาเริ่มมีท่าทีอ่อนโยน "มึงรักกูจริงเหรอ?"

"จริงดิ" ขุนเขาที่คร่อมร่างของกรรณิการ์ด้านบนตอบ "ขุนแอบชอบผึ้งมาตั้งนานแล้ว แต่แกล้งทำตัวบ้าบอไปยังงั้นแหละ เพราะขุนแค่อยากอยู่ใกล้ผึ้ง"

พอได้ยินคำตอบแบบนี้ ก็ทำเอาสาวผึ้งอดยิ้มไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าตัวเองก็มีดีพอตัวเหมือนกัน จนถึงขนาดทำให้ผู้ชายมาสารภาพรักแบบนี้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อะไร เพราะเคยมีอะไรกับหนุ่มแทนสมัยยังเรียนมัธยม สุดท้าย กรรณิการ์ก็เลยคิดว่าอยากจะลองของพ่อหนุ่มขุนเขาซะหน่อย ว่าจะยิ่งใหญ่สมชื่อจริงไหม



"เอางี้ ผึ้งยอมก็ได้" สาวน้อยคล้องคอเพื่อนชาย "มีถุงยางเอามาป่ะ?"

"เอามาดิ" ขุนเขายิ้ม

"โอโห นี่มึงตั้งใจจะมาล่อกูโดยเฉพาะเลยใช่ไหม!?"  กรรณิการ์เบิกตาโพล่งใส่ขุนเขา

"เปล่า...กูแค่เตรียมไว้เฉย ๆ เผื่อไปตีกระหรี่" ขุนเขาตอบอย่างตรงไปตรงมา จนทำให้สาวผึ้งรู้สึกอายแทน

"ไอ้ขุน!! ที่หลังมึงอ้อม ๆ บ้างก็ได้ เชี่ย!!" กรรณิการ์สบถใส่ขุนเขา "ถ้ามึงชอบกู มึงช่วยทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับกูหน่อยจะได้ไหม?"

"ได้ซิผึ้ง" ขุนเขากระแอ้ม "เริ่มเลยนะ ขุนรักผึ้งนะ"

"ผึ้งก็รักขุนเหมือนกัน" กรรณิการ์กระแอ้มตาม สาวน้อยอมยิ้มด้วยความเขิน ถึงเธอจะเคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาจากหนุ่มแทน แต่กับขุนเขา เพื่อนสนิทในระดับมหาวิทยาลัยมันเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่สร้างความตื่นเต้นให้เธอไม่น้อย

แล้วขุนเขาก็เริ่มซุกไซ้ซอกคอของกรรณิการ์ สาวน้อยหลับตาพริ้ม เอื้อมมือลูบแผ่นหลังของเพื่อนหนุ่มจอมมึน ในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่นั้น เสียงผู้บรรยายฟุตบอลพรีเมียร์ลีกก็ดังขึ้นมาทำลายจังหวะเกมรักของหนุ่มสาวจากคณะนิติศาสตร์

"หลุยส์ นานี่ ลากเดี่ยวฝ่าแนวรับของแอสตันวิลล่า ก่อนเปิดเข้ากลางให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ โหม่งให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นนำแอสตันวิลล่าเป็น 2-0"

"หนวกหูเว้ย!!" ขุนเขาหันหลังไปหยิบรีโมตปิดโทรทัศน์ ก่อนหันมามองผึ้ง แล้วจัดแจงถอดเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ของตัวเองออกจนเหลือแค่บ็อกเซอร์สีดำ สาวผึ้งก็เมินหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเหนียมอาย

พ่อหนุ่มขุนเขากลับสู่สังเวียนรัก เขาขึ้นคร่อมร่างของสาวผึ้ง ซุกไซ้ซอกคอ มือก็บีบคลึงหน้าอกของกรรณิการ์ไปพร้อม ๆ กับฟังเสียงครางของเพื่อนสาวขี้บ่น ชายหนุ่มคิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่าเวลาสาวผึ้งครางแล้วมันจะเพราะขนาดนี้

"ขุน...อือออ" ผึ้งเริ่มครางกระเส่านักขึ้น "จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ"

"ได้ เดี๋ยวขุนจัดให้" ขุนเขาจัดแจงปลดเปลื้องกางเกงยีนส์ของกรรณิการ์ออกมา โดยสาวผึ้งช่วยยกสะโพกขึ้นเพื่อช่วยให้ขุนเขาปลดเปลื้องอาภรณ์ชิ้นล่างของเธอได้ง่าย ทีนี้พอขุนเขาหันกลับมา ก็เห็นว่าโคกสาวของกรรณิการ์มันอวบอูมดีเหลือเกิน

"อืม...หอมจัง" ขุนเขาโน้มตัวลงไปสูดดมกลิ่นกายสาวของกรรณิการ์ พลางใช้นิ้วกลางบดกับบริเวณที่เชื่อว่าเป็นคริตอริสของเพื่อนสาว กรรณิการ์ร้องครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน พอรู้สึกตัวอีกที ตรงเป้ากางเกงของสาวน้อยขี้บ่นก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำกามที่หลั่งออกมา

พ่อหนุ่มขุนเขาตัดสินใจถลกกางเกงในสีชมพูของกรรณิการ์ออกมา ภาพที่ชาวหนุ่มเห็นมันช่วยให้เกิดอารมณ์กระสันต์ยิ่งนัก

"ขนหมอยดกนะเราน่ะ" ขุนเขาเอ่ยปากแซวกรรณิการ์

"นั่นใช้ปากพูดเหรอ!!" กรรณิการรีบหุบขา เอามือทั้งสองข้างปิดน้องสาวของเธอทันที "เดี๋ยวกูไม่ให้มึงเอาหรอกไอ้ขุน"

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

Noom Noomnoom


Pm Nuttakan

แอบรักเพื่อน ระวังเสียเพื่อนนะครับ ขอบคุณมากครับ






Aillenstom

โดนเจ้าขุนจัดให้ฟ้าเหลืองแน่ๆ

spr566



shiiba


thana7



veget

ยังไม่ลืมทนายผึ้งเลยครับ มาช้ายังดีกว่าไม่มา แอบลุ้นว่าสุดท้ายจะได้กับใคร