ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ตำนานเทพวายุ [ season2 ] ตอนที่ 32 : กลับบ้านเรา... รออยู่

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, เมษายน 08, 2020, 12:53:48 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

whitehorse


sirihim


บอสส์ซ่าส์

สงสัยต้องฝึกธาตุน้ำเพิ่มซะมั้งพ่อมังกรไฟเอ๊ยไม่งั้นน้ำไม่พอแน่ๆล่ะ


Anfas617



mapigclub

ระหว่างรอร้านเกะเปิด ขอกลับมาอ่านตอนเก่าๆๆไปพลางๆๆก่อนนะขอรับ อิอิอิ

aey3699

ถ้าเป็นเรื่องจริงนี่ตาร้อนแล้วนะ โดนรุมรีดพิษจะไหวมั้ยนะ โทษฐานความผิดแปลกๆ อยู่นะ ริวอาจฟ้าเหลืองได้นะ ถ้ามิไรมาอีกคนสงสัยจะซีดแน่


ttasster


Pong Sak


Skyioi


Kdstory

เอาล่ะความน่ากลัวของสมาคมแม่บ้านเริ่มแล้วแทคทีมกันแบบนี้ตัวแห้งครับตัวแห้งสงสัยต้องฟิตกว่าเดิมแล้วริวกะ

Thanongsak

 ::YehYeh::
อ้างจาก: ΜoNoTΩИ∑ ★★★ เมื่อ เมษายน 08, 2020, 12:53:48 ก่อนเที่ยง
สวัสดีครับ ขออภัยที่ล่าช้ามานานอยู่ แต่หวังว่าทุกท่าจะให้อภัย
ตอนนี้ถือว่าคืนกำไรให้นักอ่านทุกท่านเลยคร๊าบบบ


ตอนนี้มีซ่อนข้อความครับ ต้องแสดงความคิดเห็นก่อนนะครับ ถึงอ่านส่วนที่เหลือได้


1. แสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้เพื่อขออ่านช่วงแรก

2. หลังอ่านจบแล้ว ชอบลีลาของน้องคนไหนบ้างครับ

3. รู้สึกเช่นไรกับเนื้อหาตอนนี้


ปล. นี่เป็นการหัดเขียน บทรัก 3 ลุม 1 ครั้งแรกในชีวิต ติดขัดตรงไหนก็ขออภัยด้วยครับ



ปล.2  ตอนต่อไปจะลงเมื่อตอนนี้ มีคอมเมนต์ ครบ 10 หน้าครับ


ปล.3 อย่าลืมครับ ล้างมือบ่อยๆ กักตัวอยู่บ้าน ถ้ามีเหตุต้องออกไปข้างนอก ก็ให้ใส่ mask และพกเจลแอลกอฮอล์ ไว้ด้วยครับ

ความเดิมตอนที่แล้ว


ดูเหมือนว่าปางอุ๋งจะลุกเป็นไฟจริงๆ เพราะอั้มกับริวนั้นจัดกันไม่หยุดจริงๆ
ซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่ได้กินตับกันจนหนำใจแล้ว ทั้งคู่ก็ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันจริงๆ


อั้มนั้นสงสัยว่าคุณเสือเป็นใคร ทำให้ริวกะไม่มีทางเลือกต้องบอกความจริงว่า
คุณเสือก็คือสมิง และ คุณเวโรจน์ก็คือเวตาล
นั่นจึงทำให้อั้มรู้ว่าพลอยนั้นมีพลังของคนทรงที่กล้าแกร่งมากๆ

แต่อั้มก็ไม่ได้กลัวแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังอยากให้พลอยมาที่บ้านบ่อยๆ
เพื่อที่จะได้ให้นายริว สอนการควบคุมพลังนั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้นดูเหมือนว่า
ตอนนี้นายริวเองก็ได้ไปปลุกพลังบางอย่างในตัวอั้มให้ตื่นขึ้นมาอีกด้วย

ดูเหมือนว่าครั้งนี้นายมังกรคงจะโดยสยบแล้วจริงๆ เพราะถ้ายังดื้อยังซนอีกล่ะก็
อาจจะไม่จบแค่ถูกดุแน่ๆละทีนี้ และในขณะที่ริวกะวางแผนจะกลับบ้านนั้น

เขาก็นึกอะไรได้บางอย่าง นั่นคือการสำรวจบริเวณป่ารอบๆรีสอร์ท
เพราะเขาเองก็เป็นหุ้นส่วนทีนี้ และเขาเองก็อยากจะทำให้ธรรมชาติรอบรีสอร์ทนี้ยังคงอยู่แบบนี้เช่นเดิม
และแล้วการสำรวจก็เริ่มขึ้น


ตอนที่ 32 : กลับบ้านเรา... รออยู่



[ ริวกะ ]  : สมิง ชั้นอยากสำรวจรอบๆนี้หน่อยนะ พื้นที่นี้มีอะไรที่สำคัญบ้างมั้ย ที่ชั้นพอจะช่วยทำให้มันดีขึ้นได้



[ สมิง ]  : ครับ บริเวณรีสอร์ทของเรา อยู่ใกล้กับโครงการพระราชดำริปางอุ๋งครับ ทำให้พื้นที่เกือบ 50% เป็นป่าครับ อีก 20% จะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในพื้นที่ 15% เป็นแกล่งเพราะปลูกพืชท้องถิ่นครับ แต่ก็จะมี 15% ที่บุคคลทั่วไปจะไม่สามารถเข้าไปได้ครับ



[ ริวกะ ]  : เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่างั้นเหรอ



[ สมิง ]  : ใช่ครับ ส่วนมากกระผมจะเข้าไปสำรวจเพียงผู้เดียวครับ



[ ริวกะ ]  : อื้ม งั้นไปสำรวจกันสักหน่อย เผื่อจะมีจุดไหนที่ต้องปรับปรุง นี่ก็ใกล้ฤดูฝนแล้ว ควรป้องกันไว้ดีกว่า เวตาลฝากดูจากด้านบนด้วยนะ สมิงนายวิ่งนำชั้นไปเลย



[ สมิง + เวตาล ]  : ครับ



ทันใดนั้นสมิงและเวตาลก็คืนสภาพที่แท้จริงทันที สมิงกลับกลายเป็นเสือลายพาดกลอนตัวสูงใหญ่ วัดจากสันหลังถึงเท้าเกือบ 2 เมตร ขนาดลำตัวหัวจรดหางมองด้วยสายคงราวๆ 4 เมตร รูปร่างกำยำสมกับเป็นพยัคฆ์มายา 



ส่วนเวตาลก็ลอยตัวขึ้นไปและกลายร่างเป็นค้างคาวทันที แต่ว่าสมิงนั้นก็ได้ย่อขนาดตัวลงให้เล็กมากึ่งนึงของร่างกายที่แท้จริง เพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ และไม่ทำให้ชาวบ้านต้องตกใจ เพราะถ้าเห็นรอยเท้าเสือที่ใหญ่ขนาดนั้น พวกชาวบ้านคงจะผวาแน่ๆ




และทันใดนั้นริวกะก็เร่งพลังสายฟ้าทันที เปรี๊ยะ !!!  เสียงสายฟ้าดังสนั่นป่าทันที ตอนนี้ริวกะอยู่ในสภาวะอาภรณ์สายฟ้าเรียบร้อย ซึ่งถ้าเขาไม่ใช้ฮิไรชินล่ะก็คงตามสมิงไม่ทันแน่ๆ และหลังจากนั้นเขาก็หลับตาเพ่งสมาธิ และ วิ๊ง !!!







ริวกะเบิกเนตรยมฑูตอีกครั้งเพราะตอนนี้บรรยากาศมันก็เริ่มมืดแล้ว จริงอยู่ว่าเขาก็สามารถมองในที่มืดได้ แต่ว่าถ้าใช้เนตรยมฑูตมันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าหลายเท่า และภาพที่ริวกะเห็นตอนนี้ก็คือ แสงสว่างสีเขียว นี่คือวิญญาณแห่งพงไพรที่สถิตย์อยู่ ณ.ป่าแห่งนี้ มันช่างบริสุทธิ์และมหาศาลเกินคณานับจริงๆ


ริวกะได้กล่าวอธิฐานต่อวิญญาณพงไพรแห่งนี้ ว่าถ้าตัวผมนั้นได้ก้าวเหยียบย่ำไปบนชีวิตเล็กๆน้อยๆ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ก็ขอให้ผู้ปกป้องผืนป่าโปรดเมตตาให้อภัยด้วย หลังจากริวกะได้พนมมืออธิฐานบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางแล้ว เขาก็เริ่มออกเดินทางทันที




[ ริวกะ ]  : ไปกันเถอะ



เปรี๊ยะ !!! ฟู่ววว ทันทีที่สมิงออกวิ่งไปริวกะก็ทะยานตามออกไปทันที ตอนนี้ริวกะรับรู้ได้เลย ว่าสมิงนั้นไวจริงๆขนาดเขาที่อยู่ในสภาวะฮิไรชินยังตามแทบไม่ทัน สมแล้วที่เป็นจ้าวแห่งผืนดิน ทั้งสามออกสำรวจป่ารอบๆบริเวณรีสอร์ท อย่างละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว ตรงไหนควรปรับปรุง ตรงไหนควรอนุรักษ์ริวกะชี้ไว้หมด ทั้งหมดนี้ก็เผื่อขอบคุณผืนป่านั่นเอง



[ ริวกะ ]  : สมิง ทำไมตรงนั้นมีเหมือนเพิงที่พักคนงานล่ะ



[ สมิง ]  : ตรงนั้นเป็นเพิงของเจ้า 4 คนนั้นแหละครับ



[ ริวกะ ]  : เข้ามาลึกขนาดนี้เชียว



[ สมิง ]  : เจ้า 4 คนนั้นเกิดและเติบโตที่นี่ครับ ทำให้คุ้นเคยที่นี่เป็นอย่างดี  ช่วงฤดูร้อนเจ้าพวก 4คนนั้นจะเข้ามาในป่าเพื่อเฝ้าระวังไฟป่าครับ



[ เวตาล ]  : ท่านริวกะครับ ป่าตรงนี้อุดมสมบูรณ์มากครับ จากข้างบนนี้แทบจะมองไม่เห็นพื้นเลยครับ



[ ริวกะ ]   : หืม ? 




ริวกะได้ยืนดังนั้นก็กระโดดชิ่งซ้ายขวากับต้นไม้ตรงหน้าและกระโดดขึ้นข้างบนทันที แค่พริบตาริวกะก็อยู่บนท้องฟ้าที่ความสูงเท่าตึก 10 ชั้นแล้วสิ่งที่มองเห็นผ่านเนตรยมทูตนั้นคือ ต้นไม่ที่มีออร่าและวิญญาณป่ามากมายจริงๆ ปุ้ง !!!  ริวกะอัดฝ่ามือเพื่อควบคุมมวลอากาศอีกครั้ง เพื่อพยุงตัวไว้ แว่บ !!! ริวกะยกเลิกสถานะเนตรยมฑูตและใช้ดวงตาของเขามองอีกครั้ง




ซึ่งก็เป็นอย่างที่เวตาลบอกจริงๆ ป่าแถบนี้อุดมสมบูรณ์มากๆ ตอนนี้ประเมินด้วยสายตาแล้ว พวกเขาทั้งสามวิ่งออกมาไกลจากรีสอร์ท ประมาณ 5 กิโลเมตรได้ ยิ่งไกลเท่าไรป่าก็ยิ่งหนาทึบและดูสมบูรณ์ขึ้น นั่นจึงทำให้ริวกะคิดขึ้นมาว่า อยากจะให้ที่ตรงนี้ยังคงดำรงความสมบูรณ์แบบนี้ไว้ กลับไปกรุงเทพฯครั้งนี้ คงต้องหารือกับพ่อและน้ากุลแล้วล่ะ



วี๊ดดดดด วิ๊วววว เสียงลมพัดผ่านมาดังไปทั่วป่า ริวกะได้ปลดสถานะสายลมออกแล้ว ทำให้ตัวของเขาร่วงลงพื้นอย่างรวดเร็ว แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัวแต่อย่างใด ป๊อก !!!  ริวกะดีดตัวกลางอากาศและกระโดดเหยียบที่ต้นไม้ซ้ายจวาและลงพื้นอย่างรวดเร็ว


ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น ริวกะที่เวตาลและสมิงเห็นตอนนี้มีเส้นผมสีเงิน สว่างว่าบ ว่าบ ว่าบ พวกเขาตกตะลึงเป็นอย่างมากและไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยความที่เขาทั้งสองตอนนี้มีฐานะเป็นเพียงบริวารเท่านั้น พวกเขาจึงไม่คิดที่จะถามอะไร ถ้าเจ้านายไม่บอก



ริวกะกางแขนออกทั้งสองข้าง และทำการร่ายรำเล็กน้อย และ ปั้ป !!! เขาประกบมือเข้าหากันทันทีทำให้สายลมนั้นพัดออกจากตัวเขาราวกับว่าตอนนี้เขายืนอยู่กลางพายุเลยทีเดียว



[ ริวกะ ]  :  พวกเราไปสำรวจกันต่อเถอะ เวตาล นายพกพวกกล้องถ่ายรูปมาด้วยหรือเปล่า


[ เวตาล ]  :  ครับ กระผมเตรียมไว้แล้วขอรับ


[ สมิง ]  :  สมกับเป็นเจ้าจริงๆ ท่านประธานนนน


[ ริวกะ ]  :  ฮ่าาา  ฮ่าาา เอาล่ะไปกันเถอะ


เปรี๊ยะ !!!  ริวกะห่มคลุมร่างกายด้วยอาภรณ์เทพสายฟ้าอีกครั้งและพุ่งไปทันที สมิงเองก็เร่งฝีเท้าและวิ่งตามไปเช่นกัน แต่ว่าครั้งนี้เขาวิ่งไม่ทัน


[ สมิง ]  :  บะ บ้าเหรอ นี่ข้าผู้นี้วิ่งไม่ทันเหรอเนี่ย


ตอนนี้ริวกะบอกได้เลยว่าเร็วโคตรๆ แม้แต่สมิงก็วิ่งไม่ทัน เวตาลนั้นเข้าใจทันทีที่บอกว่าไปรวดเดียวนั้นหมายความว่าอย่างนี้นี่เอง งั้นตลอดเวลานั้นริวกะก็ออมๆแรงไว้เพื่ออยากจะทำความคุ้นชินกับภูมิประเทศสิ่นะ และพอคราวนี้เมื่อเขามีข้อมูลทุกอย่าง มีความคุ้นชินเกี่ยวกับพื้นที่นี้ เขาจึงออกวิ่งด้วยแรงที่มีทันที 


แว่บ แว่บ แว่บ แว่บ ดวงไฟวิญญาณป่าปรากฎขึ้นเป็นจุดๆ ทำให้เวตาลรู้ได้ทันทีว่านั้นคือ สัญลักษณ์ที่ริวกะบอก แชะ แชะ แชะ เขาถ่ายรูปทันทีตามคำสั่งของริวกะ เพราะยังไงซะสิ่งที่ริวกะทำนั้นก็เพื่อพัฒนาพื้นที่แห่งนี้นั่นเอง ส่วนตัวริวกะเองก็วิ่งผ่านสัตว์ป่ามากมาย ทั้งเสือ ทั้งช้าง ทั้งกระทิง และสารพัดงู




ตลอดเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่เขาไม่เคยเห็น แต่มันกลับรู้สึกคุ้นและผูกพันธ์มากๆ ริวกะได้พบจุดที่น่าสนใจมากมาย ทั้งฝายกันน้ำธรรมชาติ แหล่งน้ำขนาดใหญ่และพืชพันธุ์ที่น่าจะไม่มีในไทยก็ยังเติบโตในที่นี่ สมแล้วที่ไม่มีมนุษย์คนใดเข้ามาที่นี่เพราะถ้าให้พูดตรงๆ มนุษย์นั่นแหละที่ทำลายธรรมชาติ 




ในเมื่อเทวารีสอร์ทแห่งนี้ได้มีส่วนที่ลุกล้ำธรรมชาติเข้ามา ตัวริวกะเองก็อยากจะทำอะไรบางอย่างเพื่อคืนสมดุลสู่ธรรมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นเอง  แต่ในระหว่างนั้น ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ริวกะก็เปลี่ยนท่าทีการวิ่งทันที ป๊อก !!! ริวกะดีดนิ้วขึ้นมาทำให้สายลมตรงหน้าพัดรวบต้นไผ่รวมกันเป็นกอเดียว 




ตึ้กก ครึ่กกกกก แอ๊ดดดดด  เสียงต้นไผ่นั้นลั่นพร้อมกันแทบทุกกอ ราวกับว่าจะหีกหักเสียให้ได้ ริวกะกระโดดเข้าใส่ต้นไผ่ทันที ที่ทำแบบนี้เพราะเขาต้องการที่จะใ้ช้ความยืดหยุ่นและแข็งแรงของต้นไผ่หยุดการเคลื่อนไหวที่กระทันหันของเขานั่นเอง ผึง !!! ต้นไม้ที่ซับแรงกระแทกของริวกะไว้ ดีดตัวของเขากลับมาทันทีที่หมดแรงต้าน



ร่างของเขาถูกดีดกลับมายังที่เดิม แต่นั่นก็คือความตั้งใจของเขา ริวกะกระโดดหมุนตัวเกรียวกลางอากาศและลงพื้นด้วยความชำนาญ แหม่ สมแล้วที่ฝึกวิชานินจามาจากเทนงู เปรี๊ยะ !!! สายฟ้าของริวกะได้สลายหายไปทันทีที่เขาหยุดเคลื่อนไหว การกระทำดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกระทันหันมาก นั่นจึงทำให้เวตาลที่บินอยู่ต้องหยุด และสมิงที่กำลังวิ่งตามมาต้องหยุดทันที



[ ริวกะ ]  : ใครน่ะ !!!



[ เวตาล ]  : เกิดอะไรขึ้นครับ ท่านริวกะ



[ ริวกะ ]  : เอ่อ เหมือนชั้นจะมองเห็นคน แต่ในป่าลึกไม่น่ามีคนนะ



[ เวตาล + สมิง ]  : เฮือก !!!



ดูเหมือนว่าสมิงและเวตาลจะรู้ว่านั้นเป็นใคร พวกเขาพยายามพูดบ่ายเบี่ยงต่างๆนาๆ ว่าอาจจะเป็นวิญญาณนางไม้ หรือว่าเป็นชาวบ้านที่เข้ามาหาของป่า ซึ่งริวกะเองก็ทำท่าทีเหมือนจะตามไปดูให้แน่ใจ


แต่ว่านาฬิกาข้อมือ มันก็ดังติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เตือนว่าตอนนี้ผ่านไป 1ชั่วโมงครึ่งแล้ว ได้เวลากลับแล้ว  เขาจึงเลิกคิดที่จะตามไป และมุ่งกลับไปยังรีสอร์ททันที เวตาลกับสมิงนี่ถอนหายใจดังเฮือกเลยทีเดียว 




เปรี๊ยะ !!! ริวกะห่มคลุมร่างกายด้วยอาภรณ์สายฟ้าอีกครั้งและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานนักเขาก็กลับมาถึงตัวรีสอร์ทและเมื่อเข้าไปก็พบว่าพี่อั้มกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่



[ อั้ม ]  : กลับมาแล้วเหรอนายริวเหนื่อยมั้ย



[ ริวกะ ]  : นิดหน่อยครับ ว่าแต่พี่อั้มอ่านอะไรครับ



[ อั้ม ]  : นิยายแนวต่างโลกน่ะ



[ ริวกะ ]  :  หืม ปกติพี่อั้มไม่ค่อยอ่านนิยายแนวต่างโลกนี่ครับ ชื่อเรื่องอะไรเหรอครับ



[ อั้ม ]   :  ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยคนเขียนยังไม่ได้ตั้งชื่อเรื่อง แต่สนุกดีนะ พระเอกเป็นคนไทยแต่หลุดไปต่างโลก แถมทำอาหารเก่งสุดๆ ไม่เหมือนนายเลย ทอดไข่เจียวก็ไหม้



[ ริวกะ ]  : โห !!! ว่ากันตรงๆเลยเหรอครับ แบบนี้ต้องปล้ำให้เข็ด



[ อั้ม ]  : อ๊ะ ๆ ๆ  หยุดเลยนะ ตัวเหม็นเหงื่อแบบนี้ห้ามมากอดเลยนะ ไปอาบน้ำเลย จะสองทุ่มแล้วเนี่ย



[ ริวกะ ]  : คร๊าบ คร๊าบบ



ริวกะนั้นกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆไปเสียแล้ว เขายอมไปอาบน้ำแต่โดยดี โดยที่ไม่มีท่าทีที่จะดื้อเลย ส่วนด้านล่างนั้น เวตาลกับสมิงก็ยืนปวดหัวอยู่ เพราะว่าเมื่อกี้ที่ริวกะเห็นคือเจ้านางการะเกดนั่นเอง


และทันใดนั้นเจ้านางการะเกดก็เดินมาด้วยสีหน้าที่ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้อะไร ทั้งๆที่พวกเขาหัวใจแทบจะวายตายให้ได้เลย เอ๊ะ ก็พวกเขาตายไม่ได้นี่หว่า



[ สมิง ]  : เจ้านางครับ ทำไมถึงไปแบบนั้นล่ะครับ



[ เวตาล ]  : ถ้าท่านริวกะจับได้จะทำยังไงครับเจ้านาง



[มการะเกด ]  : ก็ข้าคิดถึงลูก แค่นั้นเอง อีกอย่างริวกะก็จับไม่ได้แน่นอน ข้าเป็นแม่ ข้าต้องเก่งกว่าลูกชายสิ่



[ สมิง ]  : แล้วถ้าเมื่อกี้ไม่โชคดีล่ะครับเจ้านาง



[ เวตาล ]  : ถ้าเมื่อกี้นาฬิกาไม่ดังท่านริวก~ ( คงตามไปแน่ )




เปรี้ยง !!! หมัดแห่งมารดรพุ่งใส่ทันที ภูติอารักกษ์ทั้งสองนั้นถึงกับหัวทิ่มเลยทีเดียว เมื่อเจอเจ้านางหวดเข้าเต็มหัว จะเรียกว่า ดับเบิ้ลคิลก็ว่าได้ นี่ขนาดยั้งแรงไว้มากโขแล้วนะเนี่ย ยังร่วงได้ง่ายๆขนาดนี้ แม่ของริวกะมันโหดขนาดไหนกันเนี่ย



[ การะเกด ]  : บ่นจริงเจ้าพวกนี้ ฮึ้ย !!! ไปเตรียมตัวส่งริวกับอั้มกลับบ้านได้แล้ว 



[ เวตาล ]  : คะ คะ ครับ  อูยยยย มือเจ้านางหนักกว่า การงฟาดงวงของนางวารีกุญชรอีก



[ สมิง ]  : โอย หัวข้า ไม่แปลกใจแล้วทำไมท่านริวกะถึงพละกำลังมหาศาล ขนาดนั้น โอยยยยยยยยยย



หลังจากเจ้านางตบภูติอารักษ์ทั้งสองจนหัวทิ่มแล้ว ก็ได้หายไปทันที ทิ้งไว้ให้ทั้งสองนอนเล่นกับพื้นไปแบบนั้น และหลังจากนั้น อีก 40 นาที หลังจากที่ริวกะอาบน้ำและเตรียมตัวอะไรๆจนเรียบร้อย เขาก็ได้เรียกเวตาลกับสมิงมาที่ระเบียงห้องพักทันที



[ ริวกะ ]  : ชั้นกลับก่อนนะสมิง 



[ อั้ม ]  : ขอบคุณนะคะคุณเสือ ห้องพักสวยมาก วิวสวยมาก เดี๋ยวจะรีวิวลงแฟนเพจให้อย่างดีเลย



[ สมิง ]  : ขอบคุณครับท่านอั้ม กระผมจะปรับปรุงที่ดีให้ดีขึ้น ให้สวยขึ้น แต่ก็จะไม่ทิ้งความเป็นธรรมชาติที่สวยงามแบบนี้ไปแน่นอนครับ



[ ริวกะ ]  : อื้ม พยายามให้เต็มที่ล่ะ คราวหน้าชั้นจะพารุ้งพลอยมาด้วย รู้สึกว่าพลอยจะชอบอยู่ใกล้น้ำด้วยนะ ปรับปรุงและอนุรักษ์ให้ดีล่ะ



[ สมิง ]  : โอ้ แบบนั้นกระผมจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้เลยครับ



[ ริวกะ ]  : อื้ม ชั้นเชื่อมือนาย ..ไปเถอะเวตาล



[ เวตาล ]  : ครับ



เวตาลในร่างมนุษย์ค่อยๆขยายร่างและทะยานขึ้นท้องฟ้าทันที มั่บ !!! ริวได้อุ้มพี่อั้มราวกับอุ้มเจ้าสาว และกระโดดเหยียบระเบียงและพุ่งลงเหวไปทันที โดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว




[ สมิง ]  : เหวอออออ ท่านอั้ม !!!



[ อั้ม ]  : กรี๊ดดดดดดดดด



โคตรแสบบอกเลยว่าริงกะแม่งโคตรเกรียน เล่นอุ้มกระโดดลงเหวแบบนี้ใครจะไม่เหวอ แต่ว่าระหว่างที่กำลังร่วงหล่น เวตาลในร่างพญาค้างคาวก็ได้บินลงมารับทั้งคู่ได้อย่างนุ่มนวล



[ ริวกะ ]  : ฮ่า ฮ่า ฮ่า สนุกจัง โอ๊ยย



[ อั้ม ]  : นายริวบ้า บ้า บ้า บอกกันก่อนสิ่ ถ้าจะกระโดลงมา นี่แน่ะ นี่แนะ อื๊อออ



ในระหว่างที่อั้มได้ทุบทีสามีของเธอด้วยความโมโห เธอก็ถูกเขาประกบปากและจูบอย่างนุ่มนวลมแน่นอนว่าอั้มก็ตกใจ แต่ไม่นานนักเธอก็คล้อยตามและปล่อยให้ลิ้นทำงานของมันไป ดูเหมือนว่าอั้มจะไม่โกรธแล้วล่ะ



[ ริวกะ ]  : ผมขอโทษครับ แต่ว่าพี่อั้มลองดูข้างล่างสิ่


ริวกะนั้นให้อั้มมองอะไรบางอย่าง ตอนนี้ข้างล่างนั้นคือป่าที่มืดและเงียบสงบ แต่ทันใดนั้นริวกะก็ยืนขึ้นและเปล่งเสียงที่ทรงพลังอำนาจออกไปว่า



[ ริวกะ ]   :   แล้วชั้นจะกลับมาใหม่นะ ชั้นสัญญาว่าจะไม่ให้ใครบุกรุกเข้าไปในถิ่นอาศัยของพวกเจ้า ส่วนพวกเจ้าจงช่วยสมิงอีกแรงเพื่อดำรงและอนุรักษ์ให้ผืนป่าแห่งนี้สงบสุขต่อไป


คลืน !!!  วี๊ววววว !!!  แกว๊กกกก !!!  สารพัดเสียงจากป่าด้านล่างดังขึ้นมาจนสนั่นป่าไปหมด ราวกับว่ารับทราบถึงคำพูดของริวกะ อั้มเองนั้นก็รู้อยู่แล้วว่าป่าแห่งนี้ไม่ธรรมดาแต่ไม่คิดว่าจะมีอยู่มากมายเพียงนี้


เมื่อริวกะได้พูดในสิ่งที่คิด และได้คำตอบที่ต้องการเขาจึงยิ้มอย่างพอใจ และออกคำสั่งให้เวตาลออกบินเพื่อกลับบ้านทันที


...................


3 ช.ม. ผ่านไป เวตาลก็พาอั้มและนายริวกลับมาถึงเขตกรุงเทพฯจนได้ ซึ่งตลอดเที่ยวบินนั้น อั้มไม่หลับเลย เธอเฝ้ามองทุกภาพ ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาด้วยตาของตัวเอง มันเป็นอะไรที่วิเศษมาก มากๆ มากที่สุดในชีวิตที่เคยได้เห็นเลยก็ได้



พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ กี๊ซซซซซ !!! เวตาลปล่อยคลื่นอัลตร้าโซนิคอีกครั้งเพื่อสร้างแผนที่เสียงสะท้อน หรือ แอคโคโลเคชั่น เพราะในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้นมีพวกเสาสัญญาณนั้นมากจริงๆ ทำให้อาจจะจับคลื่นของเขาได้ แว่บ แว่บ พรึ่บ พรึ่บ เวตาลบินโฉบไปเพื่อหลบคลื่นสัญญาณต่างๆ มาจนอั้มที่พึ่งเคยเดินทางด้วยวิธีนี้ถึงกับตาลาย



[ อั้ม ]   :  อ๋อย ตาลายหมดแล้ว งือออ


[ ริวกะ ]  :  เวตาล งั้นพอแค่นี้แหละ นายหาที่ปลอยภัยที่ใกล้ที่สุดและลงตรงนั้นซะ


[ อั้ม ]  :  ครับ ท่านริวกะ


พรึ่บ !!!  เวตาลค้นหาที่ปลอดภัยอย่างรวดเร็ว ด้วยการปล่อยคลื่นเสียงออกไปและหาจุดที่คนน้อยที่สุดและไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่นานนักเขาก็พบมัน ซึ่งนั่นคือบริเวณใกล้ๆสวนสาธารณะนั่นเอง


[ เวตาล ]   :  ต้องขอโทษด้วยนะครับท่านอั้ม ในพื้นที่กรุงเทพฯ กระผมต้องหลบคลื่นต่างๆนาๆมากมาย จนทำให้ท่านรู้สึกวิงเวียน



[ อั้ม ]  :  ไม่เป็นไรค่ะคุณเวโรจน์ แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ วิวสวยมากๆเลยค่ะ


[ เวตาล ]  :  ได้ยินแบบนั้นกระผมก็ดีใจครับ ท่านริวกะครับ กระผมขอตัวกลับไปที่บ้านพิทักษ์เทวาเลย ได้หรือไม่ขอรับ ถ้ากลับไปที่บ้านนั้นจะทำให้กระผมสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นครับ


[ ริวกะ ]  :   อื้ม ไปเถอะ ขอบใจมากนะ



พรึ่บ !!!  เวตาลแว๊บตัวหายไปทันที จุดหมายคือบ้านของผู้เป็นนายนั่นเอง ส่วนริวกับอั้มนั้นหลังจากที่จัดเสื้อผ้า อะไรเรียบร้อยแล้ว เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ริวกะและอั้มต่างก็หยิบมือถือออกมาเพื่อเปิดแอพพลิเคชั่นบางอย่าง



ซึ่งนั้นคือแอพที่ใช้สั่งการเปิดปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องของพวกเขานั่นเองวันหยุดนี้แทบไม่มีใครอยู่บ้านเลย แน่นอนว่านอกจากระบบหมุนเวียนน้ำในห้ององเมียวจิของริวที่ทำงาน นอกนั้นแทบไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอันไหนได้เปิดทำงานเลย ห้องอาจจะอับก็ได้



ดังนั้นริวและอั้มจึงต้องเปิดระบบเพื่อให้อากาศหมุนเวียน ถ่ายเทดังเช่นปกติ เพราะเมื่อกลับไปจะได้ทิ้งตัวลงพักผ่อนโดยที่ไม่ต้องรอเวลาหลังจากทั้งคู่ไล่เปิดระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเรียบร้อยแล้ว



ริวกะก็ตั้งใจจะพาพี่สาวสุดที่รักเดินออกมาทันที แต่ว่าทันทีที่ทราบว่าผู้เป็นนายได้กลับมาถึงแล้ว เงาปริศนาทั้ง 2 ก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขาทันที



[ ริวกะ ]  :  ขอบใจนะที่ช่วยดูแลบ้านให้ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า


[ เงาปริศนา ]  :  @#@$!%#$!%#!#%^!#%!23


[ ริวกะ ]  :  อื้ม ขอบใจพวกเจ้าสองตนมาก


ริวกะเอ่ยขอบใจขึ้นมา พลันร่างเงานั้นก็ก้มหัวให้ราวกับว่าคำชมนั้นคือรางวัลชั้นดี พรึ่บ !!! ทันใดนั้นเหล่าเงาปริศนาก็ได้สลายหายไปเป็นตุ๊กตากระดาษยันต์ทันที ริวกะยกมือขึ้นกลางอากาศ ทำให้กระดาษหุ่นพยนต์นั้นลอยกลับมาหาเขาทันที


[ อั้ม ]  :  หือ ชิกิงามิเหรอ


[ ริวกะ ]  :  ครับพี่อั้ม


[ อั้ม ]  :  แล้วที่พูดเมื่อกี้ภาษาอะไรล่ะนะ ภาษาญี่ปุ่นเหรอ ทำไมพี่ฟังไม่ค่อยออก


[ ริวกะ ]  :   ภาษาญี่ปุ่นโบราณน่ะครับ เจ้าพวกนี้เป็นวิญญาณนักรบตั้งแต่ 300 กว่าปีก่อน ยุคเซ็นโงคุ นู่นนนน ท่านโนบุนากะ เรียกเจ้าพวกนั้นมารับใช้ผมน่ะครับ


[ อั้ม ]  :  หือ ท่านโอดะน่ะเหรอ ไหนบอกว่าท่านไม่ค่อยชอบหน้านายไง นายริว


[ ริวกะ ]  :  ก็นั่นแหละก๊าบบ เฮ้อออ อัญเชิญมาแต่ละที ผมแทบจะยกมือไหว้ ก็ท่านอ้างว่ารู้จักกับปู่มาโมรุนี่นา ท่านเลยดุผมยั๊งกะหลานตัวเอง  ฮืออออ นี่ผมโดนชิกิงามิของตัวเองบ่นเหรอเนี่ย ฮือออออออ


อั้มนั้นสายหัวไปพลางยิ้มไปพลางด้วยความเอ็นดูในตัวน้องชายที่กลายเป็นสามีไปเสียแล้ว แม้จะดูไร้เดียงสา แต่ตอนนี้ตัวริวกะเองก็ถือว่ากล้าแกร่งไม่แพ้ใคร แค่ไม่ค่อยโชว์เท่านั้นเอง จากนั้นทั้งสองก็พากันเดินออกไปตามทางเดิม แต่ว่าเมื่อใกล้จะถึงทางออก ริวกะก็ต้องอุ้มอั้มกระโดดออกไปอีกทาง



เพราะว่าสวนสาธารณะแห่งนี้ก็ถือว่าเป็นสถานที่ราชการ และการที่นายริวเข้ามาตอนที่สวนสาธารณะในยามค่ำคืนแบบนี้ ถ้ามีเจ้าหน้าที่พบเจอเข้าก็อาจจะมีปัญหาได้ เขาจึงเลือกที่จะออกมาทางที่ไม่มีกล้องและไม่มีเจ้าหน้าที่คอยเดินตรวจตรานั่นเอง จากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินออกมาเพื่อโบก Taxi กลับบ้าน


30 นาทีผ่านไปตอนนี้ทั้งสองก็มาอยู่ที่หน้า Luxury Condo บ้านของทั้งสอง แล้วทันทีที่เห็นว่าอั้มและริวเดินมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ออกมาต้อนรับอย่างเช่นทุกวันอย่างแข็งขัน ริวกะและอั้มยิ้มทักทายพวกเขาด้วยความเป็นกันเอง และพากันเดินขึ้นห้องไป ติ๊ง !!! 



เสียงลิฟต์ดังขึ้นเพื่อเตือนทั้งคู่ว่าตอนนี้อยู่ชั้น 10 แล้ว ทันทีที่ก้าวออกมาจากลิฟต์ ปั้ป ปั้ป ริวกะปรบมือสองครั้ง ทำให้เซ็นเซอร์ทุกอย่างเริ่มรันระบบอีกครั้งไฟทางเดินก็ติดขึ้นทันที และทันทีที่ประตูเปิดริวกะก็พุ่งเข้าไปกอดอั้มและระดมจุ๊ป  ๆ ๆ ๆ ๆ  หลายครั้ง จนอั้มนี่หน้าแดงไปหมดแล้ว เพราะเธอก็อยากทำแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่าต้องไว้เชิงนิดนึง



[ อั้ม ]  :  พอเลย ๆ ๆ มาถึงก็ลวนลามพี่เลยนะนายริว


[ ริวกะ ]  :  แอ่ะ  จุ๊ปแฟนตัวเองไม่ถือว่า ลวนลามนะ


[ อั้ม ]  :   ก็ด๊าย จะผิดสัญญาสิ่นะ


ทันทีที่อั้มเอ่ยถึงเรื่องสัญญาที่จะให้หัด.อดกลั้น ริวกะก็สะดุ้งโหยงเลยทีเดียว แต่ว่าแม้จะมีท่าทีกลัวเพียงใดเขาก็ยังลักหอมแก้มไป 1 ทีก่อนที่จะถอยกรูดไปหลายเมตร


[ ริวกะ ]  :  ยอมแล้วก๊าบบบบบ  ไหนบอกว่ายอมให้หอมให้จุ๊ปไง อ่ะเฮื้ออออ


[ อั้ม ]  :   ไปอาบน้ำนอนเลย นายริวพรุ่งนี้ต้องตื่นมาช่วยกันกวาดบ้าน ถูบ้านด้วยนะ


[ ริวกะ ]  :  ขับพ้ม !!!  รักนะจุ๊บุ จุ๊บุ


[ อั้ม ]  :  เอ้ !!!  นายริวนี่


[ ริวกะ ]  :  จ๊าก ไปแล้วคร๊าบบบบ



ทันทีที่อั้มทำท่าว่าจะกดจุด ริวกะก็ทำเป็นลิงหลอกเจ้าและวิ่งหนีกลับห้องไป และทันทีที่นายริววิ่งลับสายตาไป อั้มก็แอบจะเก็บอาการไม่อยู่ เธอหัวใจเต้นรัวๆๆมากๆๆๆ  มันเต้นตึ้กตั้ก ตึ้กตั้ก จนเธอแทบจะยืนไม่ไหว


[ อั้ม ]  :   ตาย ๆ ๆ ๆ   ถ้าทำตัวน่ารักแบบนี้ทุกวัน สงสัยอดใจไม่ไหวแน่เรา


อั้มพูดแล้วก็เผลอเลื่อนมือมาคลึงหน้าอกตัวเอง ซึ่งเธอเองก็พยายามอดกลั้นจริงๆนั่นแหละ แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะอดกลั้นได้นานแค่ไหนกันนะ จากนั้นสาวอั้มก็ได้เดินไปที่ห้องยาของเธอ เพื่อเช็คและสำรวจ วัตถุดิบที่จะทำยาในวันพรุ่งนี้ให้นายริว


ดูเหมือนว่าชิกิงามิสองตนนั้นจะทำงานได้ดีมากๆ เพราะว่าแม้จะไม่ได้อยู่ดูด้วยตัวเอง แต่ว่าสมุนไพรและตัวยาอื่นๆก็ถูกดูแลเป็นอย่างดีจริงๆ อั้มเดินไปที่ห้องตัวเองอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้อุณหภูมิในห้องก็ประมาณ 26-27 องศาถือว่ากำลังสบาย


เธอทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับคิดถึงเรื่องราวต่างๆ 48 ช.ม. ที่ผ่านมามันเกิดอะไรต่างๆขึ้นมาจริงๆเธอเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่า เธอจะได้สารภาพรักกับนายริว ได้บอกรักกันและกัน และได้เป็นของกันและกัน


อั้มนอนคว่ำหน้าใส่หมอนและแอบกรี๊ดทันที เธอดีใจจนไม่รู้จะอธิบายยังไงจริงๆ  10 นาทีผ่านไปเธอก็ไปที่ห้องอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย จริงอยู่ว่าการที่บินมากับเวตาลเธอจะไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก แต่ว่าชั้นบรรยากาศมันก็มีฝุ่นมีละอองต่างๆ เธอเลยเลือกที่สั่งให้นายริวไปอาบน้ำ และตัวเธอเองก็ต้องอาบเช่นกัน


30 นาทีผ่านไป ก๊อก ก๊อก ก๊อก อั้มที่อาบน้ำเสร็จแล้วและกำลังเช็ดผมอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ซึ่งก็รู้แหละว่าเป็นใคร เธอจึงเดินไปที่ประตูเพื่อเปิดให้ทันที


[ ริวกะ ]  :  พี่อั้มคร๊าบ นอนยัง เฮือก !!!


ทันทีที่เปิดประตู ริวเองก็แทบช็อค เพราะตอนนี้อั้มในชุดคลุมอาบน้ำ โนบรากำลังยกมือหวีผมอยู่ ซึ่งมันทำให้เขาเห็นนมของเธอเต็มสองตา ส่วนอั้มเองน่ะเหรอ เธอมาเหนือมากเพราะเธอจงใจจะยั่วนายริวนั่นเอง


[ อั้ม ]  :  มองอะไรนายริว ทำยังกับไม่เคยเห็น


[ ริวกะ ]  :  ผะ ผะ ผะ ผะ ผมจะมาบอกว่า ฝะ ฝะ ฝันดีนะครับ


[ อั้ม ]  :  อื้ม ฝันดีนะนายริว


ปั้ง !!!  อั้มปิดประตูใส่ทันที ทิ้งให้นายริวนั้นยืนหน้าแห้งเลย อะไรจะเด็ดขาดปานนั้น ปิดประตูใส่เฉยเลย ในขณะที่นายมังกือของเรากำลังจะเดินคอตกกลับห้อง


อั้มก็ได้เปิดประตูออกมาอีกครั้ง พร้อมกับพุ่งไปจุ๊ฟปากของริวกะทันที เธอคล้องคอของเขาและทำแบบนี้เกือบ 2 นาทีเลยล่ะ


[ อั้ม ]   :   โอ๋ ๆ ๆ ดูซิ๊นายริวคนเก่ง งอนตุ๊ปป่องเลย


[ ริวกะ ]  :  ใคร ใครงอนครับ ไม่มี๊ ไม่มี


[ อั้ม ]   :  อ๋อเหรองั้นพอแล้วนะ


ริวกะนั้นตีเนียนไม่เก่งจริงๆ เพราะทันทีที่อั้มบอกว่าจะพอเขากลับเป็นฝ่ายที่จูบเธอเสียเอง แต่ครั้งนี้อั้มไม่อนุญาตให้แลกลิ้นกัน เพราะว่าด้วยสภาพกึ่งเปลือยของเธอตอนนี้ ถ้านายริวได้แลกลิ้นล่ะก็ เธอคงได้แตกสักน้ำก่อนนอนแน่ๆ


[ อั้ม ]  :   พอแล้วนายริว พี่แปรงฟันแล้วนะ พอเลย


[ ริวกะ ]  :  คร๊าบบบบบ   ฝันดีนะครับพี่อั้ม


[ อั้ม ]  :   อื้ม ฝันดีนะ จุ๊ปปป

อั้มเขย่งขาจุ๊ปแก้มของนายริวอีกครั้ง จนพี่มังกรนี่ยิ้มแป้นเลย ได้ของดีก่อนนอนแบบนี้ฝันดีแน่พี่มังกร หลังจากที่นายมังกรเดินยิ้มแฉ่งกลับไปนอนที่ห้องนั้น อั้มก็ได้ปิดประตูทันที และมีสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ


[ อั้ม ]   :   ซื๊ดดด อดทนไว้อั้ม อดทนไว้


อั้มได้แต่บอกตัวเองให้อดทน อดทน นั่นก็เพราะตอนนี้ที่หว่างขานั้น มันเริ่มเปียกแฉะอีกแล้ว ดูเหมือนว่าสาวน้อยอ่อนประสบการณ์ Sex แบบเธอ พอโดนนายริวจูบแบบนั้นก็ทำให้อารมณ์ขึ้นได้เหมือนกัน


[ อั้ม ]  :   เฮ้อ ยัยอั้มเอ๋ย จะทนได้ถึงอาทิตย์ไหมเนี่ย ถ้าต้องโดนจูบแบบนี้ทุกวัน คงได้ยอมขึ้นเตียงกับนายริวแน่ๆ


อั้มบ่นกับตัวเอง งุ้งงิ้งงุ้งงิ้ง และเดินไปห้องน้ำเพื่อล้างคราบน้ำกามทันที สตรีสาวสวยร่างงามได้พาตัวเองไปยังที่นอน เธอจะต้องข่มตาหลับให้ได้ เพราะว่าเธอตั้งใจไว้แล้วว่าระหว่างที่พี่มิไรไม่อยู่


เธอจะต้องทำให้นายริวหัดรู้จักให้เกียรติคนรักมากกว่านี้ จริงอยู่ว่าตอนนี้นายริวก็ทำได้ดีมาก แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าเขาหัดหักห้ามใจใจอารมณ์ทางเพศด้วย



...............


เช้าวันรุ่งขึ้น นาฬิกาบอกเวลา 09.00 แล้ว


[ ริวกะ ]  :  ฮึ๊ อื๊อออออ ไม่มีที่ไหนสบายเท่ากับบ้านจริงแหละนะ


ริวกะตื่นมาพร้อมกับบิดตัวไปมา ไปมา เฉกเช่นทุกวัน เขามองนาฬิกาซึ่งตอนนี้บอกเวลา เก้านาฬิกาหน่อยๆ เขายังคงงัวเงีย งัวเงีย เดินขึ้นไปแปรงฟันตามปกติด้วยหน้าตาที่ง่วงซึม



จ๊อก !!!  ร่างกายไม่เคยโกหกคนเรา เมื่อหิวมันก็ต้องกิน รู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายของนายริวกำลังประท้วงว่าให้หาอะไรเข้ามาให้พวกตูย่อยได้แล้ว นายริวจึงเดินไปที่ห้องครัวตามปกติ และตรงหน้าก็มีอาหารแบบ American breakfast ตั้งอยู่ ไข่ดาว แฮมทอด ขนมปังอบ ใส้กรอก


ด้วยความที่ว่าหิวนายริวจึงเดินไปนั่งและตักกินทันที เพราะเท่าที่ดูแล้วพี่อั้มคงจะตักไปกินแล้วล่ะนะ หลังจากที่ตักนู่นนี่นั่นกินจนรู้สึกว่าท้องตึงๆแล้ว นายริวจึงเก็บจานไปล้างทันที


[ ริวกะ ]  :  อืมม พี่อั้มไปไหนหว่า


หลังจากที่ริวกะล้างจานก๊องแก๊งก๊องแก๊งแล้ว เขาก็มองหาพี่อั้มทันที ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเดินตามหาสาวคนรักทันที ห้องนั่งเล่นก็แล้ว ห้องยาก็แล้ว ไม่เจอสักที หรือว่าจะไปซื้อของข้างนอกหว่า


และทันใดนั้นเองริวกะก็ได้ยินเสียงเครื่องซักผ้าดังขึ้นมา เขาจึงรีบเดินไปโซนซักผ้าทันที และภาพตรงหน้าคือสาวชุดเมดที่กำลังจัดการแยกเสื้อผ้าและกำลังจับมันลงเครื่องอย่างพิถีพิถัน



พลันริวกะก็คิดว่าคิราระกลับมาแล้วเหรอ แล้วทำไมต้องใส่ชุดเมดล่ะ แต่ก็นะความคิดถึงมันมีมากกว่าความงง ริวกะจึงรีบเดินไปหาและสวมกอดเมดสุดที่รักจากด้านหลังทันที


[ ริวกะ ]   :   อื๊มมมมม  คิดถึงจังเลยยัยบ๊อง กลับมาเมื่อไรเนี่ย แล้วทำไมต้องใส่ชุดเมดด้วยล่ะวันนี้


สาวในชุดเมดยังคงไม่ตอบได้แต่เอียงหน้าหลบเขา ราวกับว่ากำลังอายอยู่อย่างนั้นแหละ


[ ริวกะ ]  :  นี่ยัยเมดบ๊องถ้าเธอไม่ตอบชั้นล่ะก็


[ สาวเมด ]  :  อื๊อออ


ริวกะนั้นสมกับเป็นตัวพ่อเรื่องล่อหญิงจริงๆ เขากอดเอวของสาวเมดเอาไว้และเอื้อมมือลงไปสัมผัสเนินโหนกทันที มิหนำซ้ำเขายังค่อยๆเลื่อนนิ้วไปเรื่อยจนตอนนี้ได้สัมผัสเขากับผิวของโยนีสีชมพูเสียแล้ว งั่ม !!!  ไม่เพียงเท่านั้นเขายังงับเข้าที่ใบหูซึ่งเป็นจุดอ่อนของสาวเมดอีกด้วย


[ สาวเมด ]   :   ซื๊ดดด อ๊า !!!


[ ริวกะ ]  :  ขอชื่นใจหน่อยนะคิราระ ชั้นคิดถึงเธอจังเลย งืมมม ชั้นสัญญากับพี่อั้มไว้ว่าจะพยายามห้ามใจถ้าเธอไม่ยอม แต่ว่าขอชื่นใจหน่อยนะ  ถ้าทำมากกว่านี้กลัวชะตาจะขาด


[ สาวเมด ]  :  ชะตาขาดแน่ๆ นายริว


[ ริวกะ ]  :  เฮือก !!!  พะ พะ พะ พี่อ๊ามมมมมม


ซวยแล้วมึงไอ้ริว สาวในชุดเมดนั้นไม่ใช่คิราระแต่เป็นพี่อั้มนั่นเอง เอาแล้วซวยแล้ว จะบอกว่าไม่ได้ทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะมือของชายหนุ่มยังคงแนบชิดอยู่กับเนินโนกอยู่โต้งๆ อีกนิดเดียวก็จะแซะเข้าไปแล้ว


แต่อั้มนั้นก็ไม่ได้โกรธแต่อย่างใด มิหนำซ้ำเธอยังพอใจอีกด้วย ที่นายริวพูดว่าสัญญากับเธอไว้และจะขอเพียงได้ชื่นใจคิราระ แต่ว่าไอ้นิ้วเจ้าปัญหานี่สิ่ตัวการเลย เพราะมันกำลังทำให้อั้มเริ่มมีอารมณ์เสียแล้ว


[ ริวกะ ]  :  ผมขอโทษก๊าบบบบ



[ อั้ม ]  :  ขอโทษเหรอ ขอโทษแล้วมือยังไม่เอาออกจากตรงนั้นของพี่อีก แล้วไหนจะนี่อีกล่ะที่มันโด่จนเบียดก้นพี่เนี่ย



[ ริวกะ ]  :  ตะ ตะ ตอนเช้ามันก็เคารพธงชาติแบบนี้ทุกวันแหละคร๊าบ มันเป็นปกติของผู้ชายก๊าบพี่อั้ม



อั้มนั้นแอบยิ้มอย่างมีเลสนัยก่อนที่จะคว้ามั่บเข้าที่ดุ้นลำเขื่องที่มันกำลังบดบี้ที่ร่องก้นของเธอ ไม่ไหวแล้ว เธออดกลั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ยังไงซะในตอนนี้ที่คิราระยังไม่กลับ เธอก็ขอทำมันอีกทีเถอะ


[ อั้ม ]  :  ขอสักน้ำละกัน  ค่อยเริ่มนับพรุ่งนี้






อั้มคิดในใจก่อนที่จะเริ่มชักว่าวให้น้องชายสุดที่รักช้าๆ ช้าๆ ช้าๆ สาวสวยในชุดเมดค่อยๆหันหน้ามาหานายริว และพูดออกไปว่า


[ อั้ม ]   :   อย่าคิดว่าทำเป็นคนเดียวนะนายริว พี่นี่แหละจะปลุกอารมณ์นายเอง



โอย นี่แหละหนาเขาว่าอย่าไปเล่นกับไฟ อั้มตอนนี้กลายเป็นหญิงสาวที่ดูเร่าร้อนเหลือเกิน เธอนั่งลงช้าๆและรูดขอบกางเกงของนายริวออก





ผึง !!!  ทันใดนั้นมังกรตาเดียวที่กำลังตื่นเต็มตาก็ได้ผงาดออกมาทันที พอมองดูใกล้ๆขนาดของมันก็ใหญ่ไม่ใช่น้อยเลย





อั้มมองและได้แต่กลืนน้ำลาย ไอ้นี่น่ะเหรอที่ทำให้เธอเสียวจนลืมไปทุกอย่าง แผล่บบ ซรู๊ปป อึ้ก !!!  สาวอั้มแลบลิ้นเพื่อละเลงลิ้นใส่ปลายหัวโคยที่มีเส้นประสาทอยู่มากมาย แน่นอนว่าความเสียวนี้ทำให้นายริวถึงกับสะดุ้งเลย ง่วบบบ





เรียวปากงามๆของเธออมงับเข้าไปที่หยักของนายริวด้วยความสเน่หา ดูหมือนว่าประสบการณ์ SEX ที่ผ่านมา จะทำให้เธอรู้ว่าจุดอ่อนของนายริวอยู่ตรงนี้นี่เอง อั้มทั้งเม้ม ทั้งขม ทั้งเลีย จนต้อนนี้พี่มังกรของเราได้แต่ยืนจิกปลายเท้าเลยทีเดียว



[ ริวกะ ]  :  ซื๊ดดดด อูยยย พี่อั้มคร๊าบบบ


เสียงโม๊คดัง อ้อก อ้อก อ้อก ดังไม่หยุด ดูเหมือนว่าน้ำของนายริวก็เริ่มจะปริ่มๆเหมือนกัน และพอยิ่งผสมปนเปกับน้ำลายของอั้มด้วย ทำให้ตอนนี้มันเริ่มไหลย้อยลงมาตามปากและลำขอขาวๆของเธอแล้วว





แผล่บบ แผล่บบ ลิ้นเรียวของเธอโลมเลียทั่วลำควยของนายริว ราวกับว่ามันคือไอติมโคนแท่งโปรด ยิ่งอั้มเลียนายริวก็ยิ่งเสียว ตอนนี้หน้าตาเขาเหมือนเด็กน้อยที่พึ่งเคยโดนโม๊กครั้งแรกไม่มีผิด มั่บ !!!  มือของชายหนุ่มเอื้อมมาจับที่ท้ายทอยของหญิงสาว ดูเหมือนว่าเขาอยากจะ " ซอย " ปากของเธอ แต่ก็ดูเหมือนว่าพยายามฝืนๆอยู่ ตอนนี้อารมณ์ของนายริวคงจะติดแล้วสิ่นะ






อั้มนั้นโม๊กลำควยไป พร้อมกับเงยหน้ามองชายหนุ่มที่ตอนนี้หน้าตาของเขาช่างดูมีความสุขเสียจริงๆ แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ อั้มถอนปากและมาชักว่าวให้เขาอีกครั้ง น้ำลื่นๆที่เสียดสีกับมือที่ให้สาวลำควยมันเกิดเสียงที่น่าฟังจริงๆ


[ อั้ม ]  :  ทำอย่างนายอยากทำเถอะ ก่อนที่คิราระจะกลับมา


อ้าววววว ได้รับอนุญาตแบบนี้พี่มังกรก็ไม่รอช้าสิ อื๊อออ อื๊ออออ เสียงหญิงสาวร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะนายริวนั้นรั้งท้ายทอยและกดเอวส่งควยเข้าไปในปากของเธอทันที นี่แค่ครึ่งลำนะยังแน่นปากขนาดนี้เลย อ้า อ้า อ้า เสียงนายริวร้องครวญครางทุกครั้งทีเย็ดปากสวยๆของพี่สาว





ส่วนอั้มก็ยอมให้ทุกอย่างแล้ว เธออ้าปากกว้างๆพร้อมกับจับที่เอวของเขาไว้ ถ้าจังหวะไหนเร็วไปเธอก็จะฝืนๆ ถ้ากดควยลึกเกินไปเธอจะจะดันๆ ตอนนี้นั้นมันช่างเป็นภาพที่ชวนมองจริงๆควยลำเขื่องกำลังเคลื่อนเข้าออกเรียวปากงามๆ ส่วนลูกกระโปกก็ถูกบีบขยำราวกับว่ากำลังรีดน้ำกามออกมาเลย


[ ริวกะ ]  :   อ้า อ้า อ้า เมียจ๋าขอแตกปากนะ ซื๊ดดด


[ อั้ม ] :   !!!   อื๊อออออ


อั้มนั้นได้แต่ยอมจำนนจริงๆ พรวดดด !!!  น้ำแรกของวันถูกเกร็งรีดออกมาจากพวงไข่ผ่านท่อและยิงเข้าปากของอั้มทันที สาวสวยคนงามไม่มีทางเลือกนอกจากรับไว้ด้วยความจำนน


จริงอยู่ว่ามันคาวแต่เธอก็ไม่ได้โกรธอะไร อื๊อออ บ๊วบบ บ๊วบบ ดูเหมือนว่าไฟราคะของหญิงสาวก็เริ่มติดแล้วเช่นกัน ชายหนุ่มก้มมองผลงานตัวเองด้วยแววตาที่ชวนน้ำเดินมากๆ ปากสวยๆของอั้มกำลังอมที่ลำควยของเขา ซึ่งตอนนี้รอบๆก็มีแต่น้ำสีขาวข้นคลั่กเต็มไปหมด


ริวกะซอยเอวเนิบๆช้าๆอีกครั้ง ส่วนอั้มก็ชักลำควยและดูดหัวไปด้วยราวกับว่ากำลังรีดน้ำที่ค้างท่ออกมาให้หมด แต่ว่าในขณะที่นายริวกำลังชักควยออก ในขณะที่น้ำกามกำลังยืดติดปากของอั้ม ประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้น


[ พลอย ]  :  พะ พะ พี่อั้ม ริว !!!

[ คิราระ ]  :  สะ สะ สะ สองคนทำอะไรกัน !!!


ริวและอั้มหันมองด้วยความตกใจ มันเกิดอะไรขึ้นทำไม ทั้งสองคนกลับมาแต่เช้าล่ะ ไอ้ครั้นจะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำมันก็คงไม่ได้ เพราหลักฐานยังคาปากอยู่เลย


[ ริว ]  :  พลอย  คิราระ !!!


[ อั้ม ]   :   ทะ ทำไมกลับมาเร็วแบบนี้ล่ะ




...ย้อนกลับไปเมื่อวาน....



หลังจากที่คิราระขอตัววางสายไปแล้วนั้น เมื่อหันกลับมามองก็พบว่าตอนนี้พลอยหน้าบูดเป็นตูดลิงเลยทีเดียว พอได้ยินว่าแฟนเก่าริวชื่อว่า นัสสึเมะ คิราระเห็นนั้นก็แอบหัวเราะเบาๆ ทำให้พลอยนั้นงอนตุ๊บป่องมากกว่าเดิมอีก


[ คิราระ ]  :   โอ๋ ๆ ๆ ๆ  พี่ไม่หัวเราะแล้ว


[ พลอย ]  :  ชิร์  งืมมมม พี่คิราระคะ แฟนเก่าริวที่ชื่อนัสสึเมะเป็นใครคะ


ในระหว่างนั้นคิราระก็ได้หยิบโทรศัพท์ของตัวเองและเปิด ไอจีของคนๆหนุ่งขึ้นมา นั่นก็คือ นานะ ซุปตาร์ชาวญี่ปุ่นนั่นเอง



[ คิราระ ]  :  นี่ไงแฟนเก่าริวกะ นัสสึเมะเป็นชื่อก่อนที่จะเข้าวงการ แต่ว่าตอนนี้ใช้ชื่อว่า นานะ


[ พลอย ]  :  ห๊ะ !!! นานะ   คุซาคาเบะ นานะ เหรอคะ


[ คิราระ ]   :   ใช่ หืม รู้จักด้วยเหรอพลอย


[ พลอย ]  :  รู้จักสิ่คะ ตอนปีก่อนที่พลอยเริ่มติดตาม IG ของพี่มิไร พลอยก็เห็น IG ของคุณนานะ อยู่ข้างๆ เห็นว่าเธอเก่ง เธอสวย แถมยังอายุเท่าๆพลอยเลย พลอยเลยอดชื่นชมไม่ได้ค่ะ


พลอยพูดด้วยดวงตาที่เป็นกระกาย แต่แค่แปปเดียวแววตานั้นก็เศร้าหมองลงทันที อีกแล้ว อีกแล้วเหรอ ทำไมรอบๆตัวของชายคนที่เธอรักมีแต่คนเก่งๆ สวยๆ และมีดีกว่าเธอทุกอย่างแบบนี้ล่ะ


เธอคู่ควรกับริวกะจริงๆนั้นเหรอ คิราระเองก็ดูเหมือนว่าจะรู้ว่าพลอยนั้นคิดอะไรอยู่ นั่นก็เพราะว่าเธอเองก็เคยอยู่ในจุดๆเดียวกับพลอย จุดที่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย ด้อยค่าเหลือเกิน


[ พลอย ]  :  แหะๆ  พลอยนี่สู้ใครไม่ได้เลยนะคะ ฮึกก ฮึกก ทำไมพลอยถึงดูต่ำต้อยแบบนี้ แบบนี้ริวจะอายคนอื่นมั้ย ฮึกกก


พลอยนั้นร้องไห้สะอึกออกมาเลย ไม่ใช่ว่าพลอยรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าแต่อย่าง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาพลอยมักจะมองทุกอย่างในแง่บวกเสมอ แต่ตอนนี้ที่พลอยร้องไห้ออกมาเพราะมันกดดันมากๆ


ลำพังแค่ตัวเธอใครจะดูถูกดูแคลนยังไง พลอยก็ไม่สนใจ แต่ว่าต่อจากนี้ไปคนที่จะโดนดูถูกไปด้วยก็คือริว ชายคนที่เธอรักมาก  คนอื่นจะคิดยังไงที่ลูกชายเศรษฐีมีแฟนเป็นแค่ลูกผู้ดีตกยาก แถมยังไม่มีอะไรดีเด่นเลยสักอย่าง


แต่ว่าก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ลง คิราระก็ได้จับมือของพลอย จนอาการที่สะอื้นในตอนแรกเริ่มดีขึ้น คิราระจึงได้เริ่มบอกเริ่มสอนพลอย ในสิ่งที่เธอควรรู้เอาไว้


[ คิราระ ]  :  พี่เข้าใจพลอยนะ เพราะพี่เคยอยู่ในจุดนี้มาก่อน


[ พลอย ]   :   ฮึกกก ฮึกกก


[ คิราระ ]  :   ในตอนที่พี่เข้าไปในบ้านอิซานางิ ครั้งแรก แค่ได้เห็นประตูบ้านพี่ก็สำเหนียกตัวเองทันทีว่าพี่กับริวกะนั้นต่างกันราวฟ้ากับก้นเหว  เพราะได้เจอพี่มิไรครั้งแรก เธอทั้งสวย ทั้งเพียบพร้อม นั่นทำให้พี่รู้สึกว่าตัวเองนั้นเหมือนมดปลวกเลย แต่ว่าพลอย พลอยรู้มั้ยว่าคำแรกที่พี่มิไรพูดกับพี่คืออะไร " เอ้า แขกของนายริวงั้นเหรอ งั้นก็เป็นแขกของบ้านเราน่ะสิ่ มามา มากินข้าวกันเถอะ "



คิราระได้บอกเล่าเรื่องราวในวันแรกที่เธอได้เข้าไปในบ้านอิซานางิ  มิไรสาวงามผู้เพียบพร้อมและใจดี เธอไม่ได้มีท่าทีที่ดูถูกและเหยียดหยามเธอแม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวของแม่บ้านที่กำลังจะจักข้าวให้พวกเจ้านายกิน


มิหนำซ้ำเพียงบอกว่า เป็นแขกของริวกะ มิไรก็ต้อนรับเธอโดยที่ไม่ถือยศฐา บรรดาศักดิ์ นาย บ่าว แม้แต่นิดเดียว คิราระเล่าไปด้วยความภูมิใจ


ซึ่งความรู้สึกเหล่านั้นถูกถ่ายทอด ออกมาผ่านรอยยิ้มและสีหน้าของเธอ พลอยรับรู้ได้ทันทีว่าคิรานะมีความสุขมากๆที่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง


[ คิราระ ]  :   แล้วพลอยรู้มั้ย บ้านหลังแรกของพี่กับแม่ บ้านหลังแรกที่มันเป็นสมบัติของครอบครัวพี่ มันมาจากริวกะนะ


[ พลอย ]  :  ( สีหน้าตื่นเต้น )  ยังไง ยังไง ยังไงเหรอคะพี่คิราระ


[ คิราระ ]  :  ตอนแรกพี่กับแม่เช่าบ้าน ห้องขนาด 6 เสื่ออยู่กันสองคน แต่ว่าพอคุณแม่เข้ามาทำงานกับบ้านของริวกะมีกี่เดือน  ริวกะก็ซื้อบ้านเช่าหลังใหม่ให้แม่พี่เลยนะ


[ พลอย ]  :  ริวใจดีจังเลยค่ะ งืออออ


[ คิราระ ]   :  ริวกะน่ะรู้ดีว่าพูดว่าจะให้ตรงๆ แม่พี่คงไม่รับแน่ๆ ตาคนเจ้าเล่ห์นั่นเลยแกล้งถามแม่พี่ว่ามีความฝันอะไรมั้ย แม่พี่เลยบอกว่าถ้าเป็นไปได้ ก็อยากหาบ้านเช่าที่ห้องใหญ่กว่าเดิม เพราะอยากมีห้องส่วนตัวให้พี่  เท่านั้นแหละริวกะวิ่งหาห้องเช่าทั่วโตเกียวเลย



[ พลอย ]  :  เง้อออ อีตาคนบ้าพลัง


[ คิราระ ]  :  สุดท้ายพี่กับแม่ก็ได้บ้านเช่าหลังใหม่ที่มันใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าเลย ที่สำคัญมันอยู่ใกล้ๆบ้านริวกะและโรงเรียนพี่พอดี ทำให้พี่ไม่ต้องนั่งรถไฟไปโรงเรียนเหมือนเดิมแล้ว พอกลับจากโรงเรียนพี่ก็ไปหาคุณแม่ที่บ้านใหญ่ ได้ทานข้าวเย็นพร้อมกัน ได้กลับบ้านพร้อมกัน พลอยรู้มั้ยว่ามันเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดเลยนะ


คิราระเล่ามันออกมาด้วยน้ำตาและรอยยิ้ม ไม่ว่าจะพูดจะเล่าเรื่องนี้กี่ครั้งเธอก็ยิ้มไม่หุบทุกที พลอยเองพอได้ฟังแล้ว จากที่หน้าซึมๆ ก็ยิ้มไม่หุบ คิราระเองพอได้เห็นน้องสาวยิ้มแบบนั้นเธอก็ยิ่งยิ้มมากกว่าเดิมอีก



[ คิราระ ]  :  ไม่ใช่แค่ริวกะหรอกนะที่ไม่เคยมองคนอื่นต่ำต้อย แต่คนรอบตัวริวกะเองก็เหมือนกัน ทั้งคุณท่านชิน คุณท่านริน พี่มิไร น้าฮายาเตะ และทุกๆคนในอิซนางิ กรุ๊ป ทุกคนล้วนมองคนที่ภายใน ถ้าริวกะรักใครพวกเขาก็มั่นใจว่าคนนั้นจิตใจดีงามจริงๆ พลอยไม่ต้องไปสนสายตาคนอื่นหรอกว่าจะมองพลอยยังไง เพราะยังไงซะคนที่รักพลอยก็ยังรักพลอยอยู่ ความรักจากคนที่เรารักน่ะ มันมีค่ามากกว่าเสียงนกเสียงกามากมายเลยนะ



พลอยได้ยินแบบนั้นก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก แต่ว่าการร้องไห้ครั้งนี้มันเป็นการปลดปล่อยความกดดันออกมา คิราระก็ลูบหัวปลอบโยนไปเรื่อยๆ ตอนนี้เธอรู้สึกได้แล้วว่าพลอยนั้นดีขึ้นมากแล้ว ถึงแม้ความคิดด้านลบเกี่ยวกับฐานะของตัวเองจะยังไม่หายไป แต่ยังไงเวลาก็จะพิสูจน์คุณค่าในตัวของพลอยเอง ว่าเธอคู่ควรกับชื่ออิซานางิ



[ คิราระ ]  :  แล้วอีกอย่าง นัสสึเมะเป็นคนทิ้งริวกะไปนะ


[ พลอย ]  :  ริว โดนทิ้งเหรอคะ



[ คิราระ ]  :  พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดมากหรอกนะ พี่ฮิคาริบอกมาว่า นัสสึเมะเลือกที่จะไปคบกับคนที่ช่วยให้เธอได้เข้าวงการบันเทิงได้ นัสสึเมะเลยเลือกที่จะทิ้งริวกะไปและยอมมีอะไรกับโปรดิวเซอร์คนนั้นเพื่อเข้าวงการ ( เยสเข้ นี่มัน NTR ชัดๆ )


พลอยได้ฟังแบบนั้นก็เงียบกริบทันที ตกลงว่าสามีของเธอนั้นต้องผ่านต้องเจออะไรมาบ้างกันเนี่ย ทำไมชีวิตมันดูดาร์กดีแท้ๆ แต่ว่านั่นก็ทำให้พลอยพอจะหาเหตุผลมาตอบหัวใจของตัวเองได้แล้วว่าทำไมริวไม่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง คงเพราะเขาอยากลืมๆมันนั่นเอง ซึ่งมันก็คงเป็นเหตุผลเดียวกับที่เธอไม่บอกเข้าเรื่องเอ็ม นั่นเพราะเธอก็อยากลืมฝันร้ายนั่นเหมือนกัน


[ พลอย ]  :  ค่ะพี่คิราระ พลอยเข้าใจแล้วค่ะ ฮี่ๆ


[ คิราระ ]  :  อื้มมม ดีมากน้องสาวของพี่  เอ้อ !!! พลอย พรุ่งนี้พี่คงต้องขอกลับไปบ้านนู้นแต่เช้าหน่อยนะ พี่ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้ทำความสะอาดบ้านเลย ปกติแล้วพี่อั้มกับริวกะจะจัดการของส่วนตัวกันหมด แต่ว่าตอนนี้ทั้งคู่อยู่ปางอุ๋งน่ะสิ่ พี่คงต้องไปจัดการแทนแล้วล่ะ


[ พลอย ]  :   พรุ่งนี้แม่กุลบอกว่า ต้องไปธุระแต่เช้า งั้นพวกเราขอติดรถแม่กุลไปกันเลยก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพลอยจะได้ช่วยพี่คิราระเก็บบ้านด้วย เย็นๆค่อยให้แม่กุลมารับพลอย


[ คิราระ ]   :  อื้มๆ


และนั่นก็คือเหตุการณ์ทั้งหมดของเมื่อก่อน และเมื่อถึงตอนเช้า ทั้งพลอยและคิราระก็ขอติดรถพิกุลเพื่อมาลงที่คอนโด โดยที่ทั้งสองตั้งใจว่าจะมาช่วยกันทำความสะอาดบ้าน


แต่ว่าเมื่อเข้ามาคิราระก็ได้ยินเสียงเครื่องซักผ้า เธอจึงรีบเดิมมาทันที และก็ได้จ๊ะเอ๋กับภาพที่พี่สาวสุดที่รักกำลังบ๊วบควยให้ริวกะอยู่นั่นเอง



••• ปัจจุบัน ณ.ห้องซักผ้า •••


ภาพตรงหน้าของคิราระและพลอยคือ ริวกะที่กำลังยืนควยเปียกอยู่ และพี่อั้มที่อยู่ในชุดเมดและตอนนี้ก็มีน้ำเงี่ยนเปรอะเปื้อนเต็มปากไปหมดเลย





[ คิราระ ]  :  ทะ ทะ ทำไมพี่อั้มใส่ชุดเมดนั่นล่ะคะ


เอาแล้วไงจะทำยังไงดีล่ะ ทำไมทุกอย่างมันผิดแปลกไปหมดสำหรับริวกะ อย่างแรกคืออั้มที่ใส่ชุดเมด อย่างที่สองคืออั้มเป็นคนเริ่มโม๊คด้วยตัวเอง



อย่างที่สามทำไมเมียทั้งสองอย่างพลอยและคิราระถึงกลับมาเวลานี้ล่ะ ทันใดนั้นอั้มที่ทั้งตกใจทั้งเขินอายไปหมด ก็ได้รีบลุกขึ้นทันที และเธอก็ได้อธิบายไปว่า



[ อั้ม ]  :  ชะ ชะ ชุดของพี่ยังไม่ได้ซักเลย พี่ไม่มีชุดใส่ พี่ยืมมาใส่แล้วจะซักให้ ไม่รู้ว่าคิราระจะกลับมาไวขนาดนี้



[ คิราระ ]  :  อ๋อ ถ้าหนูไม่กลับมาป่านนี้คงทำกันมากกว่านี้เหรอคะ


[ อั้ม ]  :  ไม่ ไม่ ไม่ใช่ เอ่อ.....


[ พลอย ]  :   งืออออ พี่อั้มค่ะ ปากพี่เลอะไปหมดแล้วค่ะ


[ อั้ม ]  :   อ๊า !!!


ทันที่พลอยทักมาแบบนั้น มันทำให้อั้มทั้งเขินทั้งตกใจ เพราะว่าเธอพึ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้พึ่งจะบรรเลงเพลงโม๊กให้น้องชายสุดที่รักไป และก็ได้กรึ๊บน้ำว่าวของเขาลงไปด้วย


ซึ่งเรื่องทั้งหมดที่อั้มพูดมานั้นเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น เสื้อผ้าของเธอนั้นใส่หมดแล้วทำให้ไม่มีชุดใส่ แต่ว่าก็เป็นเพราะความซุกซนของเธอด้วยแหละ เพราะแทนที่จะไปหยิบเสื้อผ้าปกติธรรมดาของคิราระมาใส่


เธอก็เกิดนึกครึ้มใจหยิบชุดเมดมาใส่ซะเลย ตอนนี้อั้มทั้งเขินทั้งทำตัวไม่ถูกแล้ว เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ยังไงล่ะ จะอธิบายยังไงให้สองสาวนั้นเข้าใจดี แต่ว่าอั้มนั้นลืมไปหรือเปล่าว่า ทั้งสองคนนี้เชียร์ให้เธอสารภาพรักริวกะ จนสุดตัวเลยก็ว่าได้


[ คิราระ ]  : ขี้โกงงงงงงงงงงงงง



[ พลอย ]  :  ใช่ๆ ๆ ๆ  ขี้โกงงงง พลอยกับพี่คิราระรีบกลับมาเพราะจะรีบมาเก็บห้องรอพี่อั้มกับริวกลับมา แล้วนี่ทำอะไรกัน แง้ แง้ แง้



จะว่าไม่ก็ไม่ จะว่าใช่ก็ใช่นั่นแหละ เพราะถ้าคิราระและพลอยไม่เข้ามาล่ะก็ป่านนี้มังกรตาเดียวของนายริว อาจจะได้เข้าไปทักทายร่องเสียวของอั้มแล้วก็ได้ ส่วนนายริวน่ะเหรอยืนเอ๋อเลยไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี แต่ว่าในเมื่อเขาเป็นฝ่ายเริ่มเขาต้องรับผิดชอบ



[ ริวกะ ]   :   อย่าว่าพี่อั้มเลยนะ พลอย คิราระ ริวเป็นฝ่ายเริ่มบิ๊วพี่อั้มก่อนเองแหละ


[ พลอย ]  :  งั้นเหรอคะ แบบนี้ริวก็เป็นผู้ร้ายน่ะสิ่เนอะพี่คิราระ


[ คิราระ ]  :   ใช่ !!!  แบบนี้ผู้ร้ายต้องถูกลงโทษนะ



พลอยกับคิราระมองหน้ากันและยิ้มอย่างรู้ใจ แทบไม่ต้องพูดก็รู้ว่าตอนนี้เธอทั้งสองคนอยากทำอะไรกับนายมังกรหื่นกามตัวนี้ ในขณะที่ริวนั้นก้มหน้ารับชะตากรรมและด่าทอในความหื่นกามของตัวเองนั้น



คิราระก็ได้เดินมาหาพี่อั้มทันที พวกเธอสองคนจูงมือพี่อั้มให้ยืนขึ้นและซุบซิบอะไรกันสักอย่าง และพี่อั้มนั้นหน้าแดงแจ๋ทันทีเลยก็ว่าได้หลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่คิราระกระซิบ แต่ว่าไม่ถึงนาทีอั้มก็เริ่มถอดชุดออก พลอยและคิราระก็ถอดชุดออกเช่นกัน






ภาพตรงหน้าของริวกะคือเรือนร่างที่ชวนมอง ชวนลูบ ชวนไล้ ชวนไซ๊ ชวนสัมผัส และตอนนี้ทั้งร่างงดงามของสามดรุณี ก็กำลังเดินมาหาเขาด้วยสีหน้าที่กรุ้มกริ่ม ซึ่งมันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ชะตาควยขาดแน่ๆพี่มังกรจ๋า ตัวแห่งแน่ๆ



[ ริวกะ ]  :  เฮือก !!! ทำไมภาพมันเดจาวูแบบนี้ !!!  จะ จะ จะทำอะไรหรา รางไม่ดีอีกแล้ว  ใจบ่าดีเลย


[ อั้ม  คิราระ พลอย ]  :   รีดพิษมังกรยังไงล่ะ