ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เพื่อนสัมพันธ์ Friendship ตอนที่ 1

เริ่มโดย pekopon66, สิงหาคม 20, 2020, 04:14:50 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

pekopon66

สวัสดีนักอ่านทุกท่านนะครับ สำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งนิยายที่ผมต้องการทดลองเขียนดู หลังจากที่ทุกคนติดตามนิยายแนว NTR ที่โฟกัสกับนางเอกเพียงคนเดียวมาหลายเรื่อง นิยายเรื่องนี้จึงปรับเปลี่ยนมาโฟกัสที่ตัวละครหลากหลายมากขึ้น โดยผ่านประสบการณ์การใช้ชีวิตของพระเอก และปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆที่เรียกว่า เพื่อน แน่นอนว่ายังไม่ทิ้งกลิ่นไอ NTR ที่ผมถนัด ผมจึงอยากไหว้วานให้นักอ่านทุกท่านช่วยกันคอมเม้นท์ติชม เพื่อที่ผมจะได้พัฒนาฝีมือให้ดียิ่งๆขึ้นไปและหากชื่นชอบ ก็จะเขียนให้อ่านกันเรื่อยๆยาวๆไป ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

-------------------------------------------------------

เพื่อน เป็นคำที่สั้นแต่มีความหมายที่ลึกซึ้ง และหลากหลาย วันเวลาเท่านั้นที่พอจะช่วยคัดกรองประเภทของเพื่อนได้ แต่บางความสัมพันธ์ก็ยากเกินที่เวลาจะแยกแยะได้ มันคลุมเครือไม่ชัดเจน ผมได้แต่เก็บคำถามนั้นไว้ในใจ หวังว่าสักวันผมจะได้รับคำตอบจากเธอคนนั้น คนที่ผมเรียกว่า เพื่อน ได้ไม่เต็มปาก

บอล คือชื่อของผม ปัจจุบันอายุ 27 ปี เป็นพนักงานด้านคอมพิวเตอร์ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง หน้าตาของผมธรรมดาทั่วไป สายตาสั้นจนต้องสวมแว่นหนา จุดเด่นสังเกตุง่าย อาจจะเป็นส่วนสูง 170กว่าเซนติเมตรของผม ตอนสมัยเรียนผมถือว่าสูงสุดในชั้น แต่พอผ่านมาหลายสิบปี กลายเป็นว่าเพื่อนคนอื่นก็สูงตามกันขึ้นมาซะอย่างงั้น ไม่น่าเลิกดื่มนมไปดื่มแอลกอฮอลล์เลย

ตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำ ผมกำลังขับรถญี่ปุ่นมือสองไปยังโรงเรียนเก่าสมัยมัธยมลัดเลาะไปตามถนนชานเมือง เพื่อเข้าร่วมงานคืนสู่เหย้าประจำปี โรงเรียนแห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย จนผมมีเรื่องราวเล่าให้เพื่อนในวงเหล้าฟังได้เป็นวัน และเรื่องหนึ่งที่ผมจะลืมเล่าไม่ได้คือ ผมพบรักกับภรรยาที่โรงเรียนแห่งนี้

เธอมีชื่อว่า เบียร์ สาวหมวยเชื้อสายจีน เวลายิ้มตาจะเป็นสระอิ โครงหน้าเรียวมีแก้มน่าหอม ตัวเล็กสูงเพียงแค่ไหล่ผม ภายนอกเรียบร้อยสดใสแต่แอบซ่อนสัดส่วนที่ร้อนแรงเอาไว้ หน้าอกของเบียร์ใหญ่เกินกว่ามือผู้ชายอย่างผมจะกำมิด แถมทรวดทรงของมันก็สวยกลมกลึงน่าสัมผัส

สมัยมัธยมภรรยาของผมไม่โดดเด่นนัก เธอเป็นเด็กหน้าห้องสวมแว่น พูดน้อยแถมชอบใส่เสื้อนักเรียนตัวใหญ่ แต่พอผมได้มีโอกาสปอกเปลือกออกเท่านั้น ก็ต้องพบกับเนื้อในที่เนียนแน่นจนติดใจ พวกเราเริ่มคบกันในวันสุดท้ายของชีวิตมัธยมปลายยาวจนมาถึงปัจจุบัน โดยพิธีแต่งงานจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

วันนี้เบียร์เองก็มางานคืนสู่เหย้าด้วยเช่นกัน เธอมาในชุดเสื้อแขนกุดคอวีสีขาวคลุมด้วยเสื้อผ้าบางแขนยาวสีขาวกันโป๊ และกางเกงขายาวสีเลือดหมู เบียร์เป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเวลาที่คนอื่นมาจ้องมองหุ่นของเธอ ผมเองก็แอบเห็นดีเห็นงามด้วยเพราะในใจก็หวงระดับหนึ่ง ส่วนผมใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขายาว

พอรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วโรงเรียน ความทรงจำในอดีตมันก็ไหลย้อนมา ถึงแม้ว่าอาคารต่างๆจะถูกพัฒนาและทาสีใหม่ แต่ผมยังคงมองเห็นเป็นภาพเก่าชัดเจน มุมที่เคยนั่ง สนามหน้าเสาธงที่เคยวิ่งเล่น ทำให้ผมหวนนึกถึงความสนุกสนานในสมัยเด็กได้เป็นอย่างดี

ผมไม่ได้แวะมาโรงเรียนเกือบสิบปีแล้ว ถ้าหากครูเพ็ญพักตร์ ครูประจำชั้นสมัยมัธยมปลายไม่เชื้อเชิญผมและเบียร์ รวมถึงเพื่อนบางคนก็คงไม่มา เพราะครูแกจะเกษียณอายุแล้ว ปีนี้จึงอาจจะเป็นคืนสู่เย้าคืนสุดท้ายของแก พวกผมจึงไม่อาจปฏิเสธได้

ตัวงานจัดอยู่บนสนามบอลของโรงเรียน แสงไฟระยิบระยับไม่ต่างจากงานวัด เสียงดนตรีดังสนั่นจากบนเวที สภาพงานอาจจะดูเชยไปสักหน่อยแต่ก็พอเข้าใจได้ ผมและเบียร์เดินไปยังโต๊ะจีนที่จองไว้ ด้วยความที่พวกเราห่างเหินกันเป็นเวลานาน โต๊ะประจำห้อง 6/1 รุ่นผมจึงมีเพียงโต๊ะเดียวจำนวนแปดคน

เมื่อเดินไปถึงโต๊ะ ก็มีคนนั่งรออยู่แล้วสามคน ภาพตรงหน้าผมราวกับฉากจบในภาพยตร์ชื่อดังของประเทศ เพื่อนทั้งสามยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้ความเป็นจริงอายุจะใกล้เข้าเลขสามกันทุกคนแล้วก็ตาม

"อ้าว บอล นั่งๆ"
"โทษทีนะทุกคนที่มาช้า"

คนที่ลุกขึ้นมารับผมชื่อว่า มานพ เป็นเพื่อนสนิทไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย เป็นคนชอบฟังเพลง เล่นเกมคล้ายกับผม มานพเป็นผู้ชายผอมตัวเล็กผิวขาว ยืนตัวงอดูไม่มีราศีเท่าไหร่ พูดไม่เก่งไม่สู้คน แต่ก็เป็นคนที่นิสัยดีมาก ชอบช่วยเหลือ จริงใจ

ยามที่ผมป่วยหรือต้องการความช่วยเหลือ มานพก็โผล่มาตลอดตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เราเล่นเกมออนไลน์ด้วยกันเสมอ นานๆทีก็มีนัดเจอกันบ้าง วันนี้มานพแต่งตัวแทบเหมือนผมต่างกันแค่สีเสื้อ ของมานพจะเป็นสีฟ้าอ่อน ผมจึงเลือกนั่งเก้าอี้ข้างเพื่อนสนิท ส่วนเบียร์ก็นั่งถัดต่อจากผม

"ไงไอ้บอล โทษทีนะที่ไม่ได้ไปงานแต่งเอ็ง แต่หน้าซูบมางี้ ทำการบ้านบ่อยเหรอ?"

ชายที่นั่งถัดจากมานพหันมากล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงและท่าทางนักเลง เขามีชื่อว่า ตูมตาม สมัยก่อนเป็นนักเรียนหัวแข็งประจำห้อง โดดเด่นเรื่องการกีฬา ต่อยตีและชู้สาว ด้วยความที่หน้าตาหล่อคม จมูกเป็นสันผิวคล้ำ รูปร่างดีจึงมีเหล่าสาวๆทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นน้องเป็นแฟนคลับมากมาย

บางครั้งมันก็เคยมาเล่าว่าขนาดครูสาวฝึกสอน มันก็เคยจัดมาแล้วเลยเป็นวีรกรรมชื่อดัง "ขึ้นครูครู" ผมเองก็ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน ตูมตามยังคงมาดนักเลงนั่งไขว้ขาเอามือพาดเก้าอี้มานพไม่ต่างจากสมัยเด็ก

"ทะลึ่งไม่เปลี่ยนเลยนะเอ็งเนี่ย" ผมไม่ถือสา ดูจากปริมาณเหล้าในขวดที่วางอยู่บนโต๊ะก็พอเดาได้ เพราะมานพไม่ใช่คนดื่มแอลกอฮอล์ อีกอย่างถึงไอ้ตูมตามมันจะพูดจาทะลึ่งตึงตังโอ้อวดบ้าง แต่กับเพื่อนมันก็ใจเสมอ มันเองก็เคยช่วยเหลือผมอยู่เหมือนกัน
"ไม่ได้ทะลึ่ง ก็ข้าวใหม่ปลามันแต่งงานกันก็ต้องมีลูกป่าววะ"
"เออ มีเดี๋ยวก็มีเองแหล่ะ ว่าแต่เอ็งเมื่อไหร่จะมีเป็นตัวเป็นตนกับเขา" ผมแอบส่องในโซเชียลมีเดีย ก็ไม่เคยเห็นมันคบใครเป็นตัวเป็นตน
"อยู่คนเดียวสบายกว่าเยอะ แล้วที่ไม่มีลูกเนี่ย ทำเป็นหรือเปล่า ถ้าทำไม่เป็นบอกได้นะ เดี๋ยวพาไปหาคนสอนแจ่มๆ โอ๊ยย!"

ตูมตามร้องลั่นเพราะเขาถูกคนที่นั่งด้านข้างหยิกแขน เธอคนนั้นเป็นสาวสวยชื่อ มายด์ สาวกิจกรรมประจำห้อง ดวงตาของเธอโต ริมฝีปากบางยิ้มหวาน รูปร่างดีสมส่วน ไม่ได้ใหญ่โตขนาดภรรยาผมแต่ก็มีพอสมควร ดูจากรูปชุดว่ายน้ำในโซเชียลน่ะนะ

มายด์เป็นคนร่าเริงกล้าแสดงออก เป็นตัวแทนทำกิจกรรมต่างๆนาๆไม่ว่าจะร้องเล่นเต้นแสดง จนผมนึกว่าเธอจะโตมาเป็นดารา ที่ไหนได้กลายเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์ ด้วยความที่เธอสวยและมีความสามารถจึงมีหนุ่มๆหลายคนแอบปลื้ม รวมถึงมานพ เพื่อนรักของผมด้วย

"ไปแซวบอลต่อหน้าเบียร์ได้ยังไง เดี๋ยวเขาทะเลาะกันหรอก" มายด์คิ้วขมวดไม่ชอบใจ ดูจากใบหน้าที่แดงระเรื่อ เธอเองก็คงดื่มไปพอสมควรเช่นกัน
"ไม่ทะเลาะกันหรอก พวกนั้นเข้าใจกันจะตายเนอะ" ตูมตามหันมามองผมกับเบียร์ พวกเราก็ทำได้แต่ยิ้มตอบกลับไป
"แล้วไหนบอกจะไปช่วยยกของมาให้ครูเพ็ญพักตร์ ไม่เห็นจะไปสักที" มายด์บ่นอุบ
"จ้าๆ สั่งเป็นเมียเลยนะแม่คุณ"

มายด์เบ้ปากก่อนจะขอตัวไปหยิบของแล้วลากแขนตูมตามเดินออกไป ส่วนเจ้ามานพก็ทำได้แค่มองหลังมายด์ไปโดยไม่พูดอะไร ด้วยความที่สนิทมานาน แค่มองผมก็รู้ว่ามันอยากอาสาไปยกของแทนตูมตาม

"เมื่อไหร่จะสารภาพรักไปซักที อายุจะสามสิบแล้วนะเว้ย" ผมตบบ่าเพื่อนรักไปหนึ่งที
"ไม่รู้สิ มันดูไม่มีหวังหรอก"
"ไหนบอกว่าคุยกันเกือบทุกวัน ทักไรไปไอ้มายด์มันก็ตอบไม่ใช่เหรอ?"

มานพมักจะมาเล่ากึ่งปรึกษาผมเรื่องมายด์เสมอ ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมา มานพไม่เคยย่อท้อหรือเปลี่ยนใจ เขาคอยดูแลและสนับสนุนมายด์ในฐานะเพื่อนคนนึงตลอด มานพเป็นคนเดินทางต่างประเทศบ่อย เขาจึงมักมีของฝากไปให้มายด์เสมอ ผมเองก็ได้เช่นกัน

เวลาที่มายด์โพสอะไรบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค มานพก็เป็นคนแรกๆที่เข้าไปคอมเม้นท์พูดคุย น่าเสียดายที่เพื่อนรักของผมไม่กล้าพูดความในใจออกไปตามตรง ผมเชื่อว่ามายด์เองก็น่าจะรู้สึกถึงความหวังดีที่มันมีให้ได้เหมือนกัน

"ก็ใช่ แต่คนสวยๆอย่างมายด์จะมาชอบคนอย่างเราได้ไงวะ"
"เมียเราก็สวยนะ ยังมารักเราได้เลย จริงไหม?" ผมหันไปโอบไหล่เบียร์
"พูดอะไรแบบนั้นเล่า" เบียร์ยิ้มเหนียมอาย ภรรยาผมเป็นคนที่ขี้อายอยู่แล้ว ขนาดเรื่องบนเตียงยังดูเคอะเขินเรียบร้อยเลย
"เอาหน่า มานพ ลองดูสักครั้งสิวะ ลูกผู้ชายชีวิตมันต้องสู้อยู่แล้ว"
"อื้ม จะพยายามนะ" มานพยังคงนั่งตัวงอคงตกเหมือนเดิม
"ว่าแต่อีกสามคนไปไหน?"
"ไอ้แม็ค กับโอปอล์บอกติดธุระอาจจะมาไม่ได้"

แม็คกับโอปอล์ เป็นคู่รักกันตั้งแต่สมัยมัธยมเหมือนกับผม ต่างคนต่างแต่งงานในเวลาไล่เลี่ยกันแต่ก็ไม่ได้ไปงานแต่งของอีกฝ่ายทั้งคู่ เนื่องจากเส้นทางของชีวิตและความสนิทสนมในตอนเรียนที่ไม่มาก ทำให้พวกเราห่างเหินกันนานเกือบสิบปีเห็นแค่เพียงรูปภาพและวีดีโอบนโลกโซเชียลเท่านั้น

"ส่วนเกรซบอกกำลังมา"
"อืม..."

เกรซ คือหญิงสาวที่ผมไม่อาจจะเรียกเธอว่าเพื่อนได้เต็มปาก เธอคือรักแรกของผม และเป็นหญิงสาวคนแรกที่หักอกผม โดยไม่บอกสาเหตุสักคำ ปล่อยให้ผมนอนร้องไห้และใช้ชีวิตหมดอาลัยตายอยากอยู่นานหลายเดือน ยิ่งเกรซทำตัวสนิทสนมกับผมตามปกติ มันทำให้ผมปวดใจหนัก

พอผมหันมาคบกับเบียร์ เราสองคนก็พูดคุยกันน้อยลง แผลในอดีตก็เริ่มที่จะประสาน ความรักของเบียร์ช่วยเยียวยาและพยุงชีวิตเด็กอย่างผมให้เข้ารูปเข้ารอยขึ้น ทุกวันนี้เกรซโด่งดังมีผู้ติดตามหลายแสนคน

ด้วยความที่เธอเป็นคนสูงหุ่นดี ผิวขาวราวกับหิมะ หน้าตาเรียวสวยปากเป็นกระจับ ดูเปรี้ยวทันสมัย ทรวดทรงก็เย้ายวนกำลังดี เธอจึงกลายเป็นพริตตี้ นางแบบและไอดอลเรื่องความสวยความงามตามลำดับ ล่าสุดเห็นเริ่มร้องเพลงลงเว็บไซต์ด้วย คนดูมากพอสมควรเลย

ทั้งที่ผมควรจะเลิกคิดถึงเธอ และปล่อยให้เรื่องราวรักแรกจมอยู่ในก้นบึ้งของความทรงจำ แต่เกรซกลับมาทำให้ทุกอย่างคลุมเครืออีกครั้งในวันแต่งงานของผมเมื่อปีที่แล้ว

ผมยังจำสายตาของเธอที่แอบยืนมองรูปของผมและเบียร์ในงานได้ดี ดวงตาอันงดงามของเกรซมีน้ำใสๆคลอ เหมือนว่าเธอกำลังจะร้องไห้ มันทำให้ผมนึกสงสัยอยากรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งตอนที่บอกเลิกผม และตอนที่ยืนดูรูปนั้นด้วย แต่ผมก็ไม่กล้าถามออกไป

"เดี๋ยวไปห้องน้ำแปปนะ เตงไปกับเค้ามั้ย?" ผมหันไปถามเบียร์
"หึ เค้าไม่ปวด" เบียร์ส่ายหัว
"มานพล่ะ?"
"ไม่ละ ห้องน้ำตรงห้องโสตอะเปิดอยู่ ใกล้สุดละ"

แค่พูดชื่อสถานที่ผมก็เดินไปได้ทันทีโดยไม่ต้องนึก ผมเดินออกมาจากโต๊ะแล้วเดินไปทางหลังสนามบอล ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินสวนผมเข้าไปในงาน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ผมแทบไม่รู้จักพวกเขาเลย ที่พอจะจำหน้าได้บ้างก็คือพวกครูบาอาจารย์เท่านั้นเอง รุ่นของผมคงระเห็จกันไปหมดแล้ว

"บอล จะไปไหนเหรอ?"

ในขณะที่ผมกำลังเดินออกไปนอกงาน ก็มีใครบางคนทักเสียก่อน เสียงของเธอผมจำได้ดี เกรซ นั่นเอง วันนี้เธอสวยจนผมตะลึงมองตาค้าง เกรซสวมชุดเดรสรัดรูปสีขาวเปิดไหล่ โชว์สัดส่วนที่เป๊ะราวกับดารานักแสดง ปล่อยผมยาวดัดลอนมาอย่างดี แต่งหน้าจัดจ้าน ทาปากสีแดงกุหลาบ

ความสวยของเธอดึงดูดสายตาหลายสิบคู่ให้หันมามอง หลายคนอาจจะจำเธอได้จากเรื่องราวบนอินเตอร์เน็ต ส่วนผมคงอยากจะลืมมากกว่าจำ

"อ้าว เกรซ เราจะไปห้องน้ำน่ะ"
"อ่อ ตรงห้องโสตเหรอ?"
"อื้ม" ผมไม่รู้จะชวนเธอคุยเรื่องอะไร เวลาที่ถูกเธอมองมักจะทำตัวไม่ถูกแล้วหลบสายตาเธอตลอด
"แล้วเบียร์อะ?"
"นั่งอยู่ที่โต๊ะอะ ถามทำไมเหรอ?"
"เปล่า ถามเฉยๆน่ะ เราว่าจะไปห้องน้ำพอดี งั้นเดินไปด้วยกันนะ"
"อื้ม ได้สิ"

ผมพยักหน้าก่อนที่เราทั้งสองจะเริ่มเดินฝ่าความมืดไปด้วยกัน แสงไฟจากห้องน้ำเห็นชัดเจนจากระยะไกล แต่ระหว่างทางกลับมีแสงไม่เพียงพอ แสงจากสนามบอลก็ถูกเงาต้นไม้บังสนิทจนแทบมองอะไรไม่เห็น

"ช่วงนี้เป็นไงบ้าง สบายดีไหม?" เกรซเริ่มชวนคุยทำลายความเงียบ
"ก็ดีนะ เหนื่อยตรงทำงานนิดหน่อย"
"นั่นสิเนอะ เมื่อตอนเด็กล่ะอยากโตมาทำงานหาเงิน เดี๋ยวนี้สิอยากกลับไปเป็นเด็ก แต่ละวันเหนื่อยแทบขาดใจ"
"แต่เราก็อยากเป็นคนดังแบบเกรซนะ เหนื่อยแค่ไหนก็สู้น่าจะได้เงินเยอะน่าดู"
"บอลตามผลงานเราด้วยเหรอ?" จู่ๆเกรซก็หยุดเดินแล้วหันมามองผม ความขาวของเธอทำให้มืดแค่ไหนก็มองเห็น
"อ..อื้ม ดังขนาดนี้ใครก็ตามรึเปล่า?" ผมแอบรู้สึกอุ่นๆบนใบหน้า
"เหรอ..." เกรซยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่เหมือนในรูปตอนถ่ายแบบหรือในวีดีโอ มันเป็นรอยยิ้มทีผมไม่ได้เห็นมาเกือบสิบปีแล้ว
"ยิ้มอะไรขนาดนั้นล่ะ?"
"เปล่าสักหน่อย แล้วบอลกับเบียร์เป็นยังไงบ้าง จะมีลูกกันหรือยัง?"
"เมื่อกี้เจอไอ้ตูมตามมันก็ถามเรื่องลูก นี่พวกเราแก่กันขนาดนั้นแล้วเหรอ" ผมพูดพลางหัวเราะ
"ยังไม่แก่สักหน่อย เรียกว่าวัยรุ่นตอนปลาย"
"แต่แต่งงานแล้วก็ดีนะ มีความสุขมากกว่าที่คิดอีก"

ผมนึกถึงเบียร์แล้วอดชื่นชมภรรยาคนงามไม่ได้ เธอมีความเป็นแม่ศรีเรือนสูง คอยดูแลเอาอกเอาใจจนผมยังต้องเกรงใจ เกรซเงียบไม่ตอบอะไรกลับ รอยยิ้มที่งดงามเลือนหายไป สถานการณ์น่าอึดอัดกลับมาอีกครั้ง ผมพยายามไม่คิดฟุ้งซ่านเข้าข้างตัวเองแล้วรีบเดินต่อ แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวผมกลับถูกเกรซดึงแขนเอาไว้

"ม..มีอะไรเหรอ"

เกรซไม่ตอบ เธอค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาหาผม เหตุการณ์เกิดเพียงเสี้ยววิแต่ผมยืนตัวเกร็งมองใบหน้าของเธอราวกับผ่านไปหลายนาที ผมเผลอกลั้นหายใจตอนที่เกรซเขยิบเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหูผมว่า 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Sdddss

ได้สอยดารานี่สุดเลยนะบอล  เอาละมีเรื่องราวแบบนี้มันดีจริงๆ

n_neng

มีลุ้น เกรซเผยความในใจที่แอบซ่อนหรือป่าว 

longman_44


mario


ananchai2002


chumnan sermsukmaitree

เริ้มเรื่องมาก็ทำให้ติดตามแล้วต่อไปจะเป็นอย่างไรนะ

momosis

ปูเรื่องมาน่าติดตามมากครับ น่าสนใจทุกคนเลย เบียร์เองก็น่าสนใจ

vwdt41

เอาแล้วไง หรือว่าถ่านไฟเก่าจะลุกโชนอีกครา

Prasard Komkum

ถ่านไฟเก่ามันคุแน่นอนเอาจริงหรือแค่ลองใจ

TTHAI

เริ่มเรื่องได้น่าสนใจมากครัย ตัวละครเยอะดี คงมีความลับซ่อนอยู่หลาบเรื่องเลย

kalampee

รู้สึกเหมือนเพื่อนแต่ละคนมีปมซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมานพ ตูมตามหรือมายด์ หรือพระเอกของเรื่องกับเกรซก็ตาม

piga1979


Panudet

เริ่มเรื่องมาก็น่าสนุกละ ถ่านไฟเก่าจะประทุขึ้นรึปล่าวน้าา

wittaya09

เกรซก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากบอล แต่คงมีความจำเป็นอะไรบางอย่าง ที่ต้องห่างกัน