ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 19 : ครูเบสท์เสียสาว Pt1

เริ่มโดย nato87, มกราคม 31, 2021, 06:02:17 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาอย่างเร็วครับช่วงนี้ และแล้วในที่สุดวันที่ใครหลายคนรอคอยก็มาถึง นั่นคือวันที่ครูเบสท์จะต้องเสียสาวสักที 555555+

เพราะเธอคือบอสใหญ่ของภาคสอง ดังนั้นเราจะต้องจัดหนักจัดเต็มครูเบสท์ด้วยการมี 3 Part นะครับ และตามมาด้วยฉากเลิฟซีนหญิงรักหญิงระหว่างพิมมี่และแนนนี่ มาลุ้นกันว่าสองสาวมาได้กันเองยังไงต้องลองดู ตอนหน้าจะมีพูดถึงไอ้ลอย ว่ามันไปทำอะไรอยู่ที่ไหนยังไง? จะมีโอกาสได้ลงเอยกับไอ้นันทอมร้านเซเว่นหรือไม่ แล้วก็เรื่องราวของพิมมี่และแนนนี่ ที่จะมาปรับทุกข์ปรับความเข้าใจกันมากขึ้น

สำหรับตอนนี้ ยังเป็นแค่การอินโทรก่อนนะครับ มีแค่ฉากเรียกน้ำย่อยเฉย ๆ ของจริงคือตอนหน้าครับ ขอเวลาชาร์ตพลังแป๊ป เพราะฉากครูเบสท์เสียสาวเนี่ย บอกเลยว่าเหนื่อยแน่ 55555+


################

ความเดิมตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=239331.0

หลังจากได้รับอนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ในช่วงเย็น ลุงพลก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเตรียมตัวนั่งรถเมล์กลับบ้าน โดยระหว่างที่กำลังเดินกลับ ตาเฒ่าหื่นได้เหลือบไปเห็นหมอพลอยกำลังขับรถ Toyota Prius สีขาวเพื่อกลับบ้านเช่นเดียวกัน

"หมอพลอย?" ในทีแรกลุงพลยิ้ม เพราะนึกว่าหมอพลอยจะชะลอรถจอดรับหรือทักทายแกบ้างอะไรบ้าง แต่เปล่าเลย หมอพลอยเมินเฉยใส่เหมือนมองไม่เห็นลุงพลแล้วขับรถตรงออกไปยังทางออกหน้าวิทยาลัยพยาบาล ทำเอาอดีตภารโรงเฒ่าถึงกับหน้าเหวอด้วยความผิดหวัง "อ่าว..."

ดูท่าทางหมอพลอยคนนี้จะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ เจ้าหญิงน้ำแข็งบทจะหวานก็หวานหยาดเยิ้ม แต่บทจะเข้มแข็งก็เข้มงวดเด็ดขาด ตาเฒ่ารู้สึกแล้วว่าถ้าหากไม่ยอมทำตามในสิ่งที่หมอพลอยต้องการ ก็อย่าหวังเลยว่าจะได้กลับไปคุย ไปหยอกล้อกับหมอพลอยอีกต่อไป สุดท้ายลุงพลก็เดินเหงา ๆ กลับไปเอารถมอเตอร์ไซค์แล้วขับกลับบ้านทันที

พอกลับมาถึงบ้าน ลุงพลก็จัดแจงอาบน้ำแต่งตัว เปิดโทรทัศน์ดูอะไรไปตามเรื่องจนถึงช่วงหัวค่ำ ก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน อดีตภารโรงเฒ่าเลยปิดโทรทัศน์แล้วเดินกลับไปนอนพักผ่อนที่ห้องทันที โชคดีพรุ่งนี้เป็นวันหยุด ก็เลยมีเวลานอนพักผ่อนเอาแรงเต็มที

.............................

ในวันรุ่งขึ้น ลุงพลตื่นขึ้นมาในช่วงสาย ก่อนลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินไปซื้อข้าวกินที่ร้านป้าแต๋วตามเคย

"แต๋ว แกงส้มมะละกอ บวบผัดไข่ ราดข้าว" ลุงพลเดินไปนั่งบนโต๊ะกินข้าวภายในร้านของตวงพร

"อืม..." ตวงพรที่ปกติมักพูดจาอ่อนหวานกับลุงพล แต่วันนี้ดูแปลกหูแปลกตาผิดปกติ อดีตภารโรงเฒ่านึกถึงคำพูดของนังทรายลูกสาวของนังแต๋วที่ได้บอกว่าแม่ของเธอไปติดพันผู้ชายในไซต์ก่อสร้าง เพราะผิดหวังในความรักที่มีต่อตัวลุงพลนั่นเอง

"จ๊ะเอ๋!!!! มาแต่เช้าเลยนะลุง!!! จะกินน้ำอะไรดี!!??" ระหว่างที่ลุงพลกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย นังทราย สก๊อยสาวสุดแซ่บก็โผล่มาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง ทำเอาลุงพลถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ

"นังทราย!!! เล่นอะไรของมึงเนี่ย!!!"

"หนูถามว่า จะกินน้ำอะไรคะลุงพล?" นังทรายยิ้ม วันนี้สก๊อยสาวดูอารมณ์ผิดปกติ "เดี๋ยวทรายไปตักมาให้"

"เอาโค้กกับน้ำแข็งเปล่า..." ลุงพลตอบ "ที่หลังมึงช่วยโผลมาดี ๆ หน่อยนะเว้ย ข้าเป็นผู้ใหญ่ เอ็งเป็นเด็ก หัดรู้จักสัมมาคารวะด้วย!!!"

"หยอกเล่นแค่นี้ทำเป็นโกรธ ชิ๊!!!" พอเห็นลุงพลไม่เล่นด้วย เลยทำให้สก๊อยสาวดึงหน้าด้วยความเซ็ง ก่อนเดินกลับไปตักน้ำแข็ง หยิบน้ำโค้กในตู้เย็นมาให้ลุงพล

"อ่ะพี่..." ขณะเดียวกัน ตวงพรก็หยิบเอาข้าวราดแกงมาเสิร์ฟให้ลุงพลถึงที่ ดูอารมณ์สองแม่ลูกคู่นี้ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว

"ขอบใจมากนะแต๋ว" อดีตภารโรงเฒ่ายิ้มด้วยไมตรี แต่ตวงพรกับโนสนโนแคร์ หันหลังกลับไปยืนประจำหน้าร้าน

คงจะจริงอย่างที่นังทรายพูด ว่านังแต๋วแม่มันปันใจไปมีชายอื่นหลังจากผิดหวังในความรักกับลุงพล แต่ก็ไม่คิดว่านังแต๋วจะแสดงกิริยาท่าทางแบบนี้เลย

"มาแล้ว ๆ ลุงโพลนนน!!!" นังทรายเดินเอาแก้วน้ำแข็งเปล่าและขวดน้ำโค้กมาวางบนโต๊ะ ก่อนเดินกลับไป สก๊อยสาวแอบเล่นหูเล่นตาใส่ลุงพล



อดีตภารโรงเฒ่าที่หันไปเอาดีในอาชีพคนขายน้ำเต้าหู้ยิ้มที่มุมปาก สงสัยนังทรายจะติดใจในรสรักที่ปรนเปรอให้เมื่อวันก่อน สก๊อยสาวเดินหันหลังส่ายตูดกลับเข้าไปในบ้าน ลุงพลก็แอบชำเลืองมองบั้นท้ายงอน ๆ ของอาชีวะสาวสุดแซ่บจนรู้สึกคอแห้งผาก เลยรีบรินน้ำโค้กใส่แก้วแล้วดื่มแก้กระหาย ระวังเถอะนังทราย สักวันกูจะสอยตูดมึง ไอ้หลานขี้เงี่ยน

"แต๋ว เดี๋ยวขอสั่งเพิ่ม เมนูเดิม ห่อกลับบ้านนะ พี่จะเอาไปกินมื้อเที่ยง!!!" เพราะมัวแต่คิดเรื่องสอยตูดหลานสาวคนสวย ลุงพลเหมือนนึกขึ้นได้ เลยสั่งเมนูเพิ่มห่อใส่กล่องไปกินที่บ้านด้วย

"อือ..." เหมือนเดิม ตวงพรตอบแบบไม่มีหางเสียง "เดี๋ยวทำให้พี่พล"

ดูทรงแล้วนังแต๋วไม่ได้แค่เพียงตัดใจจากลุงพลได้หรอก แต่ดูเหมือนจะแอบเคืองด้วย โทษฐานที่รักและภักดีมานานหลังยุภาใต้ แต่ลุงพลไม่เล่นด้วย ก็เลยงอนใส่และหันไปมีคนใหม่แทนซะงั้น

...แล้วไง คนอย่างลุงพลไม่สนอยู่แล้ว ในเมื่อแกมีเมียเด็กดีกรีระดับนางฟ้านางสวรรค์ตั้งหลายคนเลยทีเดียว

................................

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว ลุงพลก็เดินกลับไปพักผ่อนที่บ้าน เปิดดูโทรทัศน์แก้เซ็งไปตามเรื่อง ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะโทรหาพิมมี่ แต่มาคิดดูอีกที ช่วงนี้แกอยากพักผ่อน เพราะเชื่อคำเตือนขององค์ตุลาการสวรรค์ว่าสมควรพักฟื้นร่างกายบ้าง ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องมีอันเป็นไปเสียก่อน ถึงแม้จะมีพลังวิเศษและเคล็ดลับวิชาเพิ่มพลัง

พอถึงช่วงเที่ยงก็หยิบห่อข้าวที่สั่งมากิน แล้วก็นั่งดูทีวีสักพัก ก่อนเดินไปนอนงีบหลับในห้องจนถึงช่วงเย็น พอตื่นมาก็เปลี่ยนชุดเสื้อบอลลิเวอร์พูลทีมรักของแก ข้างหลังสกรีนชื่อเคนนี่ ดัลกลิช ตำนานของทีมดังแห่งย่านเมอร์ซีย์ไซด์ ประเทศอังกฤษ

"ทำไมวันนี้อยากไปวิ่งแถว ๆ วิทยาลัยพยาบาลวะ?" พอเดินออกมานอกบ้าน ลุงพลก็รู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง ที่อยากให้แกไปวิ่งเล่นแถว วิทยาลัยพยาบาล ความรู้สึกมันบอกว่าต้องไปวันนี้ให้ได้ ถ้าไม่ไปวันนี้ อาจจะต้องเสียใจที่สุดในชีวิตก็ได้ สุดท้าย ลุงพลก็เลยตัดสินใจเดินออกไปหน้าปากซอย โดยไม่ได้เอารถมอเตอร์ไซค์ไปด้วย

ลุงพลเดินผ่านหน้าร้านข้าวแกงป้าแต๋ว ก็เหลือบไปเห็นนังแต๋วกำลังตักข้าวใส่จานให้ลูกค้า ส่วนนังทรายก็ช่วยแม่คิดเงินและเก็บจานไป แม่ลูกคู่นี้ถึงจะชอบทะเลาะโวยวายใส่กัน แต่จริง ๆ ทั้งคู่ก็รักกันดี นี่ถ้าเกิดนังแต๋วรู้ว่าตัวเองกับนังทรายได้เสียกันแล้ว จะรู้สึกยังไงนะ ฮ่า...

ลุงพลเดินผ่านหน้าร้านขายข้าวแกงของป้าแต๋ว โดยที่ป้าแต๋วไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร ถ้าเป็นสมัยก่อนละก็ ถ้าเห็นลุงพลเดินผ่านหน้าบ้านเมื่อไร ป้าแต๋วจะตะโกนเรียกชื่อทักทายทันที

มันก็ดีเหมือนกัน รู้สึกว่าชีวิตมันสงบสุขขึ้น ลุงพลคิด แต่พอมาคิดอีกทีทำไมมันรู้สึกอึมครึม ๆ อย่างบอกไม่ถูกนะ ความจริงแล้วลุงพลแกก็ไม่ได้เกลียดอะไรนังแต๋วหรอก แต่จะให้แกรับนังแต๋วมาเป็นเมียใหม่ มันทำไม่ได้จริง ๆ

"ช่างเถอะ เรื่องของมัน..." ลุงพลคิดในใจ ก่อนเดินต่อไปจนถึงหน้าปากซอย ระหว่างยืนรอรถเมล์ ก็เห็นไอ้เจ๋งกำลังเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ดูเหมือนว่ามันกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่

"เฮีย!!! แล้วตอนนี้เฮียอยู่ไหนวะ!!! บ้านช่องไม่กลับ!!?" ไอ้เจ๋งในชุดเด็กแกรบเดินออกมาจากหน้าร้านสะดวกซื้อพร้อมถุงพลาสติกห่อน้ำสไปร์ท ก่อนล้วงมือหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาจุดสูบ "อ้อเหรอ!!! แล้วเฮียไปก่อเรื่องกับใครวะ??"

ลุงพลเหลือบมองไอ้เจ๋งด้วยความสงสัย ความจริงแกก็ไม่ได้อยากไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวหรอก

"โอเค ๆ โชคดีนะเฮีย!!" ไอ้เจ๋งยิ้ม ก่อนพ่นควันออกมาจากปาก "แล้วเจอกัน"

พอกดวางสาย ไอ้เจ๋งก็เหลือบมาเห็นลุงพล อดีตเด็กเดินยาที่หันมาทำอาชีพสุจริตเลยพนมมือไหว้ทั้ง ๆ ที่นิ้วยังคาบบุหรี่อยู่

"อ่าวลุง!!! จะไปไหนเหรอ?" ไอ้เจ๋งถาม "ใส่เสื้อลิเวอร์พูลแบบนี้จะไปเตะบอลเหรอ?"

"กูจะไปวิ่ง..." ลุงพลตอบ

"ใส่เสื้อบอลไปวิ่งเนี่ยนะ?" ไอ้เจ๋งแกล้งแซวเล่น "แล้ววิ่งที่ไหนละลุง?"

"ที่ทำงานกูเนี่ยแหละ" อดีตภารโรงเฒ่าตอบ "รถเมล์มาแล้ว กูไปก่อนนะ"

"โชคดีลุง!!" ไอ้เจ๋งโบกมือลาลุงพลที่เดินขึ้นรถเมล์ ส่วนตัวไอ้เจ๋งเองก็คาบบุหรี่ แล้วล้วงเอาขวดเครื่องดื่มขึ้นมาบิดฝาแล้วซดดื่มเพิ่มพลัง "อ่าห์!!! สดชื่น!!!!"

................................

หลังจากลงมาจากรถเมล์ ลุงพลก็เดินเข้าไปวิ่งออกกำลังกายภายในวิทยาลัย หนุ่มใหญ่เดินสลับวิ่งแกว่งแขน จนยามหนุ่ม ๆ ที่เดินตรวจความเรียบร้อยถึงกับออกปากแซว

"ฟิตจริง ๆ นะลุง!!!"

"นิดหน่อย แก่แล้วต้องดูแลสุขภาพว่ะ" ลุงพลที่กำลังวิดแขนหันไปยิ้มให้ยามหนุ่มคนนั้น

พอดีว่ามีฟิตเนสเปิดใหม่ระแวกวิทยาลัยพยาบาล ลุงพลเลยนึกอยากลองไปใช้บริการ แกเลยข้ามสะพานลอยไปสมัครเป็นเมมเบอร์ ทดลองยกดัมเบล วิ่งบนลู่วิ่ง ออกกำลังกายจนเหงื่อแตกผลั่ก พอเหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าใกล้จะสองทุ่มแล้ว ลุงพลก็เลยเตรียมตัวเดินทางกลับด้วยการข้ามสะพานลอยไปขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งวิทยาลัยพยาบาล พอไปถึงป้ายรถเมล์ ทีนี้ประเด็นก็บังเกิด

"นั่นไง!!! ไอ้นั่นไง!!! ไอ้แก่ที่ใส่เสื้อเป็ดแดงน่ะ!!!" ทันใดนั้นก็มีกลุ่มเด็กหนุ่มไอ้โม่งสามคน คนแรกสวมชุดแมนยู คนที่สองสวมชุดเอฟเวอร์ตัน ส่วนอีกคนสวมชุดเชลซี โผล่ออกมาจากซอยด้านข้างวิทยาลัยพยาบาล ทั้งสามคนวิ่งมาหาลุงพลที่ยังไม่ทันตั้งตัว

"เฮ้ย!!! อะไรวะ!!! โอ้ย!!!" ลุงพลโดนเด็กหนุ่มกลุ่มนั้นรุมต่อยจนเสียหลักลงไปนอนกองกับพื้น

"มึง!!! ไอ้สัส!!!! ไอ้เย็ดแม่ง!!! ควย!!!" ไอ้โม่งที่สวมชุดแมนยูดูเกรี้ยวกราดกว่าใครเพื่อน มันเตะลุงพลจนกลิ้งเหมือนลูกบอลกันเลยทีเดียว "กูรอเวลานี้มานานแล้ว!!!!"

"มึง!! โอ้ย!!! มึงเป็นใครวะ!!!" ลุงพลที่ล้มลงไปนอนกลิ้งกับพื้น พยายามเอามือปัดป้องฝ่าตีนวัยรุ่นทั้งสามคน "กูไปทำอะไรให้!!"

"มึงจะรู้ไปทำไม ห๊า!!!!" ไอ้โม่งชุดแมนยูเตะไปที่ชายโครงของลุงพลแบบไม่ยั้ง "เชี่ย!!!"

"พอได้แล้วเพื่อน!!! เดี๋ยวมันตายห่าซะก่อน!!!" ไอ้โม่งที่สวมชุดเอฟเวอร์ตันเข้าไปห้าม

"พวกมึงเป็นใครวะ...โอ้ยยย...กูไปทำอะไรให้!!!" ลุงพลที่นอนกองกับพื้นร้องโอดโอยเลือดกลบปาก "กูไปทำอะไรให้!!!"

"ไปทำอะไรให้เหรอไอ้สัสลุง!!! กูจะบอกให้ก็ได้...." ในขณะที่ไอ้โม่งชุดแมนยูกำลังจะเผลอหลุดปาก ไอ้โม่งชุดเชลซีก็ปิดปากเพื่อนทันที เพราะกลัวความลับจะแตก

"มึงหยุดเลย!!!" ไอ้โม่งชุดเชลซีเอ่ยปากขึ้นมา ก่อนแนบหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเพื่อเตือนสติ "มึงอยากกลับไปนอนคุกอีกรอบเหรอวะ!!"

"สั่งสอนมันแค่นี้ก็พอแล้วมั้ง?" ไอ้โม่งชุดเอฟเวอร์ตันหันไปมองเพื่อนอีกสองคน "รีบหนีกันเถอะ เร็ว!!"

แล้วไอ้โม่งทั้งสามคนก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในซอย ปล่อยให้ลุงพลนอนร้องส่งเสียงร้องโอดโอยอย่างน่าเวทนาตรงป้ายรถเมล์หน้าวิทยาลัยพยาบาลเพียงคนเดียว

...นี่มันอะไรกันวะเนี่ย? อุตส่าห์ได้ออกมาจากโรงพยาบาล เพื่อมาโดนไอ้โม่งชุดบอลสามคนรุมกระทืบเนี่ยนะ!!!!

แล้วทันใดนั้น เหมือนสวรรค์เบื้องบน หรือบางทีอาจเป็นองค์ตุลาการสวรรค์ก็ไม่ทราบได้ เมื่ออยู่ดี ๆ รถยนต์ Honda Civic สีบลอนด์ ก็ชะลอความเร็วจอดเทียบท่าหน้าป้ายรถเมล์ ก่อนที่นางฟ้าคนสวยประจำวิทยาลัยพยาบาลผู้เป็นเจ้าของรถอย่างครูเบสท์ ในสภาพหน้าแดงก่ำจะเปิดประตูรถลงมา

"ลุงพล? เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย?" ภัคจิราเอ่ยปากถามด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ดี ๆ ก็เห็นลุงพลลงไปนอนกองกับพื้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำเหมือนถูกทำร้ายร่างกายมา

"ช่วยผมด้วยครับครู...โอ้ยยยย" ลุงพลร้องขอความช่วยเหลือจากครูเบสท์

"ค่ะ ๆ" ด้วยสามัญสำนึกที่ดีของภัคจิรา ที่เป็นเด็กพยาบาลเก่า เลยรีบเข้าไปพยุงร่างของอดีตภารโรงเฒ่า สิ่งแรกที่ลุงพลสัมผัสได้คือกลิ่นแอลกอฮอลล์จากตัวของอาจารย์สาว นี่อย่าบอกนะว่าครูเบสท์กินเหล้ามา "อืมมม...."

เพราะเหม็นกลิ่นสาปกลิ่นตัวลุงพลที่พึ่งออกกำลังกายมาหรือยังไงไม่ทราบ เลยทำให้ภัคจิราเหมือนกำลังจะสำรอกออกมา ลุงพลถึงกับมองหน้าเหวอ แต่โชคยังดีที่อาจารย์สาวยังกลั้นของเหลวที่กำลังจะล้นออกมาจากกระเพาะได้ทัน



"โอยยย...ครูดื่มเหล้ามาเหรอครับเนี่ย?" ลุงพลที่กำลังยืนพยุงตัวเอามือกุมท้องเอ่ยปากถามภัคจิรา ที่ดูพะอืดพะอมเหมือนคนพยายามกลั้นอ้วก

"อืม...โอ้ยยย...โอ้ยยย" พอตั้งหลักได้ อาจารย์สาวเลยเอ่ยปากถามลุงพล "เกิดอะไรขึ้นกับลุงคะเนี่ย? ไปโดนใครทำร้ายมา?"

"ผมไม่รู้ ผมมาออกกำลังกาย แล้วมีใครไม่รู้ มันมากันสามคนสวมหน้ากากแล้ววิ่งมาทำร้ายร่างกายผม"

"งั้นลุงต้องไปโรงพยาบาลแล้วละคะ" ภัคจิราเสนอความเห็น "แล้วนี่ลุงมายังไงละคะเนี่ย?"

"ผมนั่งรถเมล์มาครับครู..." ลุงพลตอบ ในขณะกำลังเอามือลูบปลายคิ้ว "อุ้ย!!!"

"ลุง!!! อย่าเอามือสกปรกไปแตะแผลซิคะ!!" อาจารย์สาวเอ่ยปากห้ามอดีตภารโรงเฒ่า แต่ว่า "อุ้บ!!!!"

"ครูเบสท์? เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?" ลุงพลเอ่ยปากถามความเพราะเป็นห่วง เพราะดูทรงแล้วครูเบสท์คงเมาได้ที่ แล้วที่สำคัญเธอยังขับรถเองด้วย

"โอ้ยยย...ไม่เป็นไรค่ะ...ลุงพล" ถึงแม้จะเมาเหล้า แต่ภัคจิรายังมีความเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น

"ครูครับ ผมว่าครูเมาหนักเลยนะ" ลุงพลแสดงความเห็น "ครูขับรถไหวหรือเปล่าครับเนี่ย?"

"ไหวค่ะ...ไหว..." ภัคจิราตอบว่าไหว แต่ลุงพลดูทรงไหนก็เห็น ๆ กันอยู่ว่า ถ้าขืนปล่อยให้อาจารย์สาวยังขับรถในสภาพแบบนี้ มีหวังต้องเกิดอุบัติเหตุแน่

"ให้ผมขับรถพาครูไปส่งไหมครับ?" ลุงพลเสนอความช่วยเหลือ ทั้ง ๆ ที่ยังเจ็บอยู่

"ไม่เป็นไรค่ะลุง...เบสท์ขับไหว...อุ๊บบ!!!" เพราะยิ่งพูดมาก แถมยาดมยังอยู่ในกระเป๋าที่เธอเก็บไว้ภายในรถอีกต่างหาก

"เมาแบบนี้ขับรถไม่ไหวแน่ครับครู" ลุงพลตอบ "บ้านครูอยู่ไหนครับ? เดี๋ยวผมขับไปส่งให้ ไม่ต้องส่งถึงหน้าบ้านก็ได้ แค่ส่งใกล้ ๆ บ้านแล้วเดี๋ยวผมจะลงไปโบกรถแท็กซี่กลับเอง"

"แต่ลุงยังเจ็บอยู่นะคะ?" ภัคจิราเริ่มลังเล "เบสท์ว่าลุงไปโรงพยาบาลเถอะ เดี๋ยวเบสท์ขับรถกลับเอง"

"เมาไม่ขับนะครับครู..." ลุงพลพอเห็นความดื้อของภัคจิรา เลยต้องออกโรงเตือนสติ "ครูเมาแบบนี้ ผมปล่อยให้ครูขับรถกลับบ้านคนเดียวไม่ได้หรอก นะครับ ให้ผมขับรถให้เถอะ"

มันก็จริงอย่างที่ลุงพลพูด เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะขับรถไหว ก่อนหน้านี้ระหว่างที่เธอกำลังขับรถกลับบ้าน เธอก็คิดว่าเธอขับรถเป็นปกติ แต่ทำไมถึงถูกรถยนต์ส่วนตัวและรถเมล์ประจำทางบีบแตรไล่หลังก็ไม่ทราบ

"ผมโอเค ไม่เป็นอะไร แค่ฟกช้ำนิดหน่อย..." อดีตภารโรงเฒ่ายิ้ม ทั้ง ๆ ที่ยังเอามือกุมท้อง "แต่ผมเป็นห่วงครูนะครับ ครูขับรถกลับบ้านสภาพแบบนี้ไม่ไหวแน่"

"เบสท์ขับไหวค่ะลุง..." อาจารย์สาวปฏิเสธอย่างสุภาพ



"ผมว่าครูขับไม่ไหวหรอก" ลุงพลยืนยันคำเดิม "บ้านครูอยู่แถวไหนครับ? เดี๋ยวผมขับรถไปส่ง พอเสร็จแล้วผมจะได้แวะโรงพยาบาลใกล้ ๆ ผมว่าเอาแบบนี้ดีกว่า"

"พัฒนาการค่ะ..." ถือว่าเป็นข้อเสนอที่สมเหตุสมผลดี ภัคจิราลังเลอยู่สักพัก ก่อนพยักหน้าตอบตกลง "แถวนั้นมีโรงพยาบาลอยู่พอดี เอาแบบนี้ก็ได้ แต่ให้เบสท์ขับนะ ถ้าเบสท์ขับไม่ไหวจริง ๆ ลุงค่อยขับ ตกลงไหม?"

"ก็ได้ครับ..." ความจริงลุงพลอยากขับรถเอง แต่ในเมื่อมันออกมารูปแบบนี้ก็ต้องยอมรับ เพราะสภาพของครูเบสท์ดูทรงแล้วไม่ไหวจริง ๆ นั่นแหละ

พอตกลงกันได้ ครูเบสท์ก็ขับรถออกจากป้ายรถเมล์หน้าวิทยาลัยพยาบาล โดยมีลุงพลนั่งติดตามมาด้วย

"ลุงหยิบทิชชู่เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนนะคะ" ครูเบสท์เอ่ยปากขณะกำลังขับรถ  แต่พอขับไปได้เพียงไม่กี่ร้อยเมตร ลุงพลก็รู้สึกได้ว่าครูเบสท์ขับรถส่ายไปมา จนถูกรถโดยสารประจำทางข้างหลังบีบแตรไล่

"ครูเบสท์? ผมว่าครูขับรถสภาพแบบนี้ไม่ไหวแน่ ๆ ครับ ให้ผมขับเองเถอะ"

สุดท้ายพอเห็นว่าครูเบสท์ไม่สามารถขับรถได้ ลุงพลในสภาพได้รับบาดเจ็บจากการถูกรุมกระทืบก็เลยเสนอตัวขอขับพาครูเบสท์ไปส่งหน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้านของอาจารย์สาวให้

"ไม่ต้องก็ได้ค่ะลุง!!!" ภัคจิราปฏิเสธ แต่ว่า "อุ้บ!!!!!"

ขับออกไปได้เพียงไม่กี่เมตร ภัคจิรารีบชะลอรถจอดข้างทาง ก่อนเปิดประตูออกมาอ้วกใส่ตะแกรงท่อระบายน้ำ ลุงพลก็รีบเปิดประตูลงมาช่วยดูอาการ ตอนแรกมนุษย์ลุงเอื้อมมือจะลูบหลังให้ครูเบสท์ แต่มานึกขึ้นได้ถึงสถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน ลุงพลเลยทำได้แค่คิด

"อ๊วก!!!!! โอ้ยยยย" ภัคจิราสำรอกออกมาแบบหมดสภาพอาจารย์พยาบาลผู้สูงศักดิ์ "ลุงพล...ลุงอย่าเอาเรื่องที่เบสท์เมาแบบนี้ไปบอกใครนะ...โอ้ยยยย...รู้ถึงไหนอายถึงนั่น!!!"

"ไม่บอกหรอกครับครู" ลุงพลยิ้ม "แต่ผมว่า ครูให้ผมขับรถเถอะครับ ผมปล่อยให้ครูขับรถกลับในสภาพแบบนี้ไม่ได้จริง ๆ ผมเป็นห่วง"

"เป็นห่วงเหรอ...." ภัคจิราถึงกับนิ่งเงียบเมื่อได้ยินคำนั้นจากคนอย่างลุงพลถึงสองครั้งสองครา ทำไมอยู่ดี ๆ คนขายน้ำเต้าหู้อายุ 61 อย่างลุงพลถึงมาเป็นห่วงเป็นใยอาจารย์สาววัย 27 ปีอย่างภัคจิราด้วย?

"นะครับครู..." ลุงพลยืนยันคำเดิม "ผมปล่อยให้ครูขับรถกลับบ้านในสภาพแบบนี้ไม่ได้แน่ ๆ"

'แต่ลุงเจ็บอยู่นะคะ?" ภัคจิราที่ยังพอมีสติเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นลุงพลในสภาพบาดเจ็บจากการถูกซ้อม ตาซ้ายเกือบปิด ปากบวมฉึ่ง มีหยดเลือดเลอะตรงปกเสื้อยืดสีขาว "ลุงขับไหวเหรอ?"

"ผมบอกครูหลายรอบแล้วนะครับ ว่าผมขับไหว" ลุงพลตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"อือ...อึ๊ก!!!" ภัคจิราสะอึกเหมือนกำลังจะสำรอกออกมาอีกรอบ "ก็ได้...แต่ขอเบสท์...อ้วก...ก่อนนะคะ...อ๊วกกกกก!!!!"

ลุงพลได้แต่ปิดหน้า ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเจอครูเบสท์ในสภาพเมาแอ๋แบบนี้ นี่ถ้าเกิดพวกครูบาอาจารย์หรือลูกศิษย์ทั้งชายและหญิงที่วิทยาลัยพยาบาลรู้เรื่อง มีหวังครูเบสท์ได้เอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีแน่



คนหนึ่งก็ตาเฒ่า โดนไอ้โม่งที่ไหนไม่รู้มารุมทำร้ายหน้าที่ทำงานตัวเอง ส่วนอีกคนก็อาจารย์สาวสวย โดนน้องสาวแฟนเก่าตัวเองด่าจนเก็บมาคิดมาก เลยไปกินเหล้าแก้กลุ้ม แต่ดันลืมไปว่าตัวเองเมาง่าย

สุดท้ายก็เป็นลุงพลเนี่ยแหละ ที่ได้ขับรถแทน ส่วนภัคจิราก็ไปนั่งเบาะหน้า อาจารย์สาวหยิบยาดมขึ้นมาดมแก้วิงเวียนศีรษะ

"ถึงเมื่อไรบอกเบสท์ด้วยนะคะลุง..." ภัคจิราที่ปวดหัวอย่างหนัก นึกอยากหลับตาสักพักเลยบอกลุงพลไปเช่นนั้น

"ได้ครับ..." ลุงพลตอบ ขณะกำลังขับรถของครูเบสท์บนถนนใจกลางกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน ลุงพลขับรถได้นิ่มนวลกว่าภัคจิรามาก

พอขับไปได้สักพัก ระหว่างรถติดไฟแดง ลุงพลก็เหลือบไปมองครูเบสท์ ก็เห็นว่าครูเบสท์กำลังหลับ

"อ่าว? หลับซะงั้น?" ลุงพลยิ้ม ถึงแม้ว่าคืนนี้ภัคจิราจะเมาแอ๋หมดรูป แต่ความสวยของเธอไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยจริง ๆ "ขนาดเมายังน่ารักนะครับครู"

แล้วทันใดนั้น สายตาของลุงพลก็เหลือบไปเห็นขาอ่อนของภัคจิรา อารมณ์เป็นห่วงของลุงพลเมื่อครู่ก็เริ่มกลายเป็นความหื่นแทน ลุงพลกลืนน้ำลายดังเอื้อกให้กับความขาวเนียนของต้นขาครูเบสท์ พลางนึกถึงคำทำนายถึงโชคชะตาที่โหดร้ายของอาจารย์สาว

"จะเอาแบบนี้จริง ๆ เหรอวะ?" ลุงพลถามกับตัวเอง "จะลักหลับครูเบสท์เนี่ยนะ? แต่ถ้าไม่ทำ ครูเบสท์จะต้องตาย? ก็สัญญากับหมอพลอยไวแล้ว? แต่ว่าจะปล่อยให้ครูเบสท์ตายเหรอ?"

ลุงพลเหลือบมองภัคจิราที่เหมือนกำลังละเมอถึงใครบางคนอยู่

"พี่วิน...เบสท์...เบสท์...เบสท์ขอโทษ...อืออออ" ภัคจิราครางออกมาในลำคอ ลุงพลคิดว่าคนที่ชื่อพี่วินอาจเป็นคนรักของครูเบสท์ก็เป็นได้ แต่แล้วยังไงละ? จะปล่อยให้ครูเบสท์ต้องตายโดยไม่ทำอะไรแบบนี้เหรอ?

แล้วไฟจราจรก็กลายเป็นไฟสีเขียว ลุงพลเหยียบคันเร่งขับรถไปตามเส้นทาง ในหัวของแกตอนนีกำลังชั่งน้ำหนักว่าจะทำยังไงต่อไปดี

"ถ้าครูเบสท์มีแฟนแล้วละ?" ลุงพลคิด "แต่ใช่เหรอ? เห็นมีแต่คนบอกว่าครูเบสท์ยังโสด?"

พอคิดมาก ๆ เข้า หัวใจของลุงพลก็เต้นดังตุ๊บ ๆ ด้วยความตื่นเต้น แอร์ภายในรถครูเบสท์ก็ไม่ได้ร้อน แต่เนื้อตัวของลุงพลกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ

"เอาวะ!!! เป็นไงเป็นกัน!!! แล้วเดี๋ยวค่อยอธิบายให้ครูเบสท์ฟังทีหลัง!!!" สุดท้ายลุงพลก็ตัดสินใจขั้นเด็ดขาด ด้วยการเลี้ยวรถออกมาจากเส้นพัฒนาการ มุ่งไปยังเส้นคลองตัน เพื่อหาโรงแรมมาดรูดละแวกนั้นทันที

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller



จรัญ บุญชู

ไม่น่าจะรอด...สภาพแบบนี้ด้วย...เจอลีลาลุงพลติดใจแน่นอน...ลุ้นว่าประตูหลังจะรอดหรือเปล่างานนี้

แมวหง่าว


Naratt



natt omaga

ตอนที่รอคอยของใครหลายๆคนรวมทั้งผมด้วย เเต่ครูเบสจะเสียสาวแบบไหนน่ะ

ronin21_xonly

#8
แหม!! ชอบฉากลุงพลใส่เสื้อเป็ดแดงโดนรุมยำสะเละเลย 5555

ป.ล. สิ้นสุดการรอคอยเบสท์จะได้เป็นเมียลุงพลซะที

ruby31797


Keropon Man

ถึงเวลาที่รอคอยมาแสนนาน ทำให้ครูเบส ติดใจให้ได้นะครับ

gundam2000


Pm Nuttakan

เรียบร้อยโรงเรียนลุงพลไปอีกหนึ่ง หมอพลอยรู้มีหัวขาดแน่ๆ

waddafux