ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

จิตบำบัด Seasons 2 EP8

เริ่มโดย Khawnkaow, มีนาคม 03, 2021, 08:28:37 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Khawnkaow

"ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะค่ะ ความรักความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ ใครที่กำลังทุกข์ หรือหาทางออกไม่ได้ เรื่องของเรา คงมีส่วนช่วยดึงสติ และหามุมมองใหม่ๆ ให้กับชีวิตนะคะ"
ตลอดเวลาเราสลบที่สติเราหลุด เราฝันว่าโดนทำร้าย ภาพจำมันอยู่ในหัวเราตลอด จึงไม่แปลกว่า เราจะมีอาการผวา ตัวสั่น ร้องไห้ตลอดเวลา ที่เราหลับ
เราตื่นขึ้นมาในอีกสองวัน ลืมตา และเห็นภาพเบลอว่าเป็นพี่น้ำนอนฟุบอยู่ที่เตียงคนไข้ มือจับมือเรา>>>> พี่แก้ม ยิ้มให้เรา แล้วจูบหน้าผากเรา>>>พูดว่าขอต้อนรับการกลับมานะตัวเล็ก>>>>น้ำตาพี่แก้มหยดลงที่หน้าเรา  นี่คือครั้งแรกที่เราเห็นหมอจิต น้ำตาไหล..... และอ้อมกอดอันอบอุ่นที่เราโหยหาก็มา พ่อกับแม่เดินเข้ามาหาแล้วยิ้มให้>>>>พ่อบอกว่า หมดทุกข์หมดโศกนะลูก>>>>เราทำหน้างง แล้วพูดว่า เมื่อกี้พ่อบอกอะไร>>>>พ่อบอกเราซ้ำ เราพูดด้วยน้ำเสียงประชดว่า  พูดดีๆ กับลูกคนนี้เป็นด้วยหรือ>>>>ไม่มีคำตอบจากพ่อ มีแต่น้ำตาหยดลงมาแทน>>>>เราขอโทษพ่อตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันที่เราทำกิริยาไม่ดีใส่>>>>ส่วนแม่เรากอดและลูบหัวเราเบาๆ แล้วพูดว่า เจ็บไหม>>>>เราสัมผัสน้ำตาจากแก้มได้
เราเจอพี่โอม เป็นหมอด้านประสาทวิทยา พี่ตั้ม เป็นหมอสูติ และพี่หนุ่มเป็นหมอด้านกระดูก มาพร้อมหน้า  ทั้งหมดยิ้มให้แล้วบอกว่า ตื่นมาแล้วปากดีเลยนะตัวเล็ก แล้วพี่มาได้อย่างไรละ ก็ไอ้แก้มไง มันกลัวหมอที่นี่จะรักษาไม่ดี เอามาครบเลย จะได้ช่วยดูแล ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องนี้ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน พี่ทั้ง 3 จับหัวเราเบาๆ 
ตอนที่เราหลับไป>>>>>พ่อเรารับไม่ได้กับสภาพแบบนี้ จึงจัดการทั้งทางกฎหมาย และทางวินัย  อย่างเต็มที่ พร้อมขอย้ายพี่เราเข้าไปอยู่ กทม. ระหว่างการเดินเรื่องให้ย้ายน่าจะเสร็จประมาณ 2 อาทิตย์ พ่อกับแม่ขอตัวกลับก่อน เพราะแม่จะไปลาออกจากที่ทำงานอีกรอบ เพื่อมาดูแลเราจริงๆ จัง แต่พี่แก้มบอกว่า จะลาแบบไม่รับเงินเดือน มาดูแลเราก่อน>>>แม่น่าจะได้ทำงานเสียทีนะคะลูกศิษย์รอ อาจารย์อยู่นะคะ>>>>พี่แก้มยิ้ม แล้วจับมือแม่ แล้วพูดต่อว่า ก็แม่ให้แก้มดูแลน้องมิใช่หรือค่ะ >>> ตลอดเวลาพี่แก้ม ไม่เคยได้พัก ดูแลเราตลอด>>จนแม่ต้องออกคำสั่ง ให้พี่แก้ม ไปนอนพัก แล้วแม่มาดูแลเอง
ที่สำคัญนังตัวดี คือพี่สาวเรา ไม่เป็นอันทำงานงานเข่นกัน เดินเรื่องกับพ่อเราในเรื่องคดีความเต็มที่ ที่สำคัญ  4 ชั่วโมงแห่งสวรรค์และนรกของเรา นางถ่ายคลิปไว้อย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นหลักฐานที่ชัดเจน
เรานอนโรงพยาบาลได้ประมาณสองสัปดาห์ จนอาการค่อนข้างที่จะดี จนสามารถที่จะเคลื่อนย้ายได้  เราจึงได้ย้ายเข้ามากรุงเทพ พร้อมกับพี่เราที่ย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้>>>>> อาการสมองบวมของเราดีขึ้น ตาที่พร่ามัวทั้งสองข้าง มองอะไรได้ชัดขึ้น จากการรักษาของพี่โอม ด้านกระดูกพี่หนุ่ม ดูแลในส่วนที่มันร้าว แตก ด้วยใช้โภชนการ พออาการเริ่มดีขึ้น ถอดเฝือกออก ทำกายภาพบำบัด พร้อมกันเร่งฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
ที่หนักกว่าคือ ช่องคลอดกับทวารหนัก ที่เป็นแผลฉีกยาว มดลูกอักเสบ  พี่ตั้ม นี่ละเป็นคนทำศัลยกรรมตกแต่งให้ใหม่เนื่องจากของเดิม ทำไว้ไม่ดี เราเริ่มถ่ายของเสียเองได้โดยไม่ต้องผ่านทางสายยาง  ที่สำคัญ ไม่ติดเชื้ออะไรที่ร้ายแรง เราต้องขอบคุณพวกเขาด้วยเช่นกันที่ไม่ได้สำส่อนจนทำให้เราติดโรคภัย และที่สำคัญอีกอย่างคือเราไม่ท้อง 
นอนโรงพยาบาลเกือบสามเดือน ตอนนี้อาการทางร่างกายดีขึ้นเดินคล่องขึ้น แต่อาการทางจิตใจแย่ลง>>>>เรากลับมาซึมเศร้าอีกครั้ง อาการอยากทำร้ายตัวเองกลับมาอีก  เรากรีดข้อมีอเป็นรอบที่สอง รอบนี้เราเปิดน้ำอุ่นเพื่อกระดุ้นร่างกายให้เลือดอุ่นแล้วเรากรีดข้อมือเพื่อให้เลือดมันออกจากตัวให้หมด พี่แก้ม เข้ามาหลังจากที่ลงไปเอาของ เรากลับไปนอนโรงพยบาลอีกรอบ  หลังจากเราตื่นขึ้นมา พี่โอม ลูบหัวเราแล้วพูดว่า  "น้องทำแบบนี้ไม่ดีนะ แม้ว่าเราจะทำสำเร็จ เรามีความสุขอยู่คนเดียวที่เราหนีปัญหาไป ส่วนคนท่ี่ังอยู่เขาจะพบกับความทุกข์ระทม ไปอีกจนกว่าเขาจะตาย เหมือนกับตายทั้งเป็น  ตัวเล็ก  ต้องคิดให้ได้ในจุดนี้ คิดดีๆ ว่าคนข้างหลังเราจะเป็นอย่างไร"
พี่แก้ม ตอนนี้ไม่ได้ทำงานจริงๆ แล้ว เพราะด้วยอาการของเราที่มีความเสี่ยงตลอด  เราไม่ได้คุยอะไรมาก แค่นอนกอดกัน เราพูดน้อยลง แต่แสดงออกด้วยการกอดแทน เราเริ่มหลับมากขึ้น นั่งเป็นเพราะยานอนหลับที่พี่แก้มกับแม่เราจัดให้เรากินเพื่อให้ไม่คิดอะไรมาก  พี่แก้มผนึกกำลังกับแม่เรา เพื่อรักษาอาการทางจิตเราอีกครั้ง  พอผ่านไปแต่ละรอบของการรักษา น้ำตาทั้งบ้านไหลตลอดเวลา
คนที่เปลี่ยนมากที่สุดคือพี่เรานี่ละ พูดดีกับเราทุกเรื่องไม่เคยวีนเหมือนก่อน และพี่เรายอมรับพี่แก้ม  ซีนสำคัญที่สุด ตอนที่เรากลับบ้าน แล้วมีการกินข้าวกันกับครอบครัว พร้อมกับพี่กร  พี่น้ำเป็นคนจัดการเรื่องอาหารการกิน เมื่อเรามาถึงบ้านพี่แก้ม กูลีกูจอ ดูแลจัดที่ให้นั่ง เรายิ้ม ด้วยความปลื้มใจ แล้วพูดเบาๆ ว่าขอบคุณคะพี่สาว  พี่น้ำหอมแก้มเรา มีความสุขนะน้องสาวพี่ เรากอดกันแบบสิ่งที่มันห่างหาย  พักนึก พี่น้ำผละจากเรา เดินไปหาพี่แก้ม จับมือพี่แก้มแล้วพูดว่า พี่หมอค่ะ หนูขอโทษในสิ่งที่หนูทำไม่ดีกับพี่ หนูขอโทษค่ะพี่หมอ  พี่น้ำยกมือไหว้พี่แก้มที่อก น้ำตาซึมออกมา ">>>>  พี่แก้มรับไหว้แล้วกอดพี่น้ำ พูดว่าพี่เข้าใจค่ะ งานนี้เปิดตัวเป็นแฟนเราอย่างเต็มตัว พี่น้ำ เคารพและรักพี่แก้ม เหมือนพี่สาวคนโตในบ้าน และอารมณ์เอาแต่ใจของนางหายไปในที่สุด จริงๆ แล้วมันคือปมในในนางที่ทำให้คนคนหนึ่งต้องมีปมที่เหมือนการตกนรกทั้งเป็น.....และติดอยู่ในวังวนส่วนนั้น.......
นี่มันก็เกือบจะหกเดือนแล้วนะ>>>>>พี่แก้มสบายดีไหม.... ต้องการไหมคะ เราถาม>>>>ไม่นะ  พี่ไม่เลย เป็นห่วงตัวเล็ก>>>>เราบอกพี่แก้ม ว่า ถ้าพี่ต้องการเรื่องนี้พี่กะปลอดปล่อยได้นะ กับพี่ๆ ข้าวไม่หวงนะ แต่ตอนนี้ กอดข้าวหน่อย เราอ้อนตามประสา พี่แก้มลูบหัวเราเบาๆ แล้วบอกว่า ให้เราผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันก่อนนะ เราจะสุขด้วยกันอีกครั้ง 
พอเราเดินได้คล่องๆ เราไปมหาวิทยาลัย เพื่อทำเรื่องดร็อปเรียน>>>เพื่อรักษาจิตใจ และ>>>เราไม่ได้กลับไปเรียนอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น>>>>เรากอดกับสามสาว  น้ำตาเรากับสามสาวไหลริน แต่เรายังคงคบกันต่อมาถึงทุกวันนี้ค่ะ
ปัจจุบันพี่ก้าวได้แต่งงานกับเหมย  ส่วนต่ายกับกาน ตอนนี้ยังเป็นโสดค่ะ ทั้งสี่คนยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราก็ยังไปเจอเพื่อนๆ บ่อย แต่กิจกรรมอื่นๆ ไม่ได้มีนะค่ะ  ตอนนี้เหมยเป็นแม่ลูกสาม พี่ก้าวยังเป็นพี่ก้าวคนเดิม แต่เราก็กลับมารู้สึกดีๆ ต่อกัน..เป็นรุ่นพี่ที่เรารักคนหนึ่ง
กะบวนการต่อมาคือการเรียกร้องความยุติธรรม กระบวนการยุติธรรมก็เกิดขึ้นตามสิ่งที่มันควรเป็นไป  ไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการสืบสวนสอบสวน หรือการซักพยาน ซักค้านต่างๆ เราเข้มแข็งพอที่จะแบกรับมันไว้ เพราะประสบการณ์ที่เคยเกิดกับเราและมินตราเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ทำให้เราสามารถที่จะให้การ หรือการซักถามในกระบวนการต่างๆ ได้อย่างเด็ดเดี่ยว  พี่ทนายอุ้ม และพี่ทนายพิม ดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่เราต้องให้พี่แก้มกับแม่ มาเป็นนักจิตวิทยา ระหว่างการซักถาม สอบสวน เนื่องจากสภาะวะด้านจิตใจยังแปรปรวนอยู่ 
ยังจำมินตราได้ไหมคะ มิน ที่เราเคยต้องคดีทำร้าย อดีตครูคนหนึ่ง  ที่เราสองคนต้องไปรายงานตัว  มินหายไปหลังจากรายงานตัวได้สองรอบ เราไม่เจอมินอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นการรายงานตัวรอบไหน เวลาผ่านมาปีครึ่ง ที่เราจะต้องไปรายงานตัว ในสภาพที่นั่งรถเข็น เพราะที่ขายังคาเผือกอยู่  เราเจอมิน โดยบังเอิญ เพราะไปรายตัววันเดียวกัน เราเลยนั่งคุยกันในสิ่งต่างๆ มิน ไม่ได้เรียนต่อ>>>> ทนกับแรงเสียดสีของ เพื่อน คนในโรงเรียนได้ รวมถึงครอบครัว  มิน หนีออกจากบ้านไปช่วงหนึ่งจะได้พบรักกับเจ้าของกิจการแห่งหนึ่ง เขายอมรับในสิ่งที่ผ่านมาได้ ชีวิตมินมีความสุขดี >>>> เราแลกเบอร์โทรกันและกัน  ปัจจุบันในวัยเกือบ 30 มิน เป็นคุณแม่ลูกสามที่มีความสุขกับสามี ที่ดีค่ะ

1819

 ต่้อนนี้ มันหน่วงๆ สำหรับข้าวและคนรอบข้างจัง   แล้วตัดสรุปในชีวิตของเพื่ิอนจนมาอายุ30  เลย  สงสัยมีแววจบ ssนี้  และ อาจมีssต่อไป หรือจบเลยไหมเนี้ย
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

Khawnkaow

Seasons2   เป็นseasoms ที่จบเรื่องของชีวิตข้าวกับพี่แก้ม  แต่ม้นยังมีหลายตอน ดราม่าบ้าง  สุขเศร้าปนบ้าง ต้องข อภัยที่ไม่สามารถเขียนบทอีโรติคได้ทุกตอนคะ...

NaNNz

ในตัวอักษรมีความเศร้า  ความทุกข์ทรมาน ความสิ้นหวัง มันดาวน์มากเลยครับ ผมรับรู้ได้จากสิง่ที่เขียนมา ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ก้าวต่อไปนะครับ ตอนนี้อาจจะ ผ่านมานานเท่าไหร่แล้วไม่ทราบได้ แต่ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยังอยู๋ข้างๆกันนะครับ
" "

Khawnkaow

@nannz.เรื่องที่เกิดมันคือเรื่องจริง​ เอาจริงๆ​ ก่อนเขียนเรื่องนี้ได้ตุยกับหลายๆ​ คน​ คนเรกที่่สนับสนุนคือพ่อข้าว.
.พ่อบอกสั้นๆ​ ว่า​ เมื่อเราผ่านเรื่องเลยร้ายในชีวิตมาได้ได้​ วิธีการผ่านเรื่องเป็นประสบการณ์ทีาดีให้กับคนที่เค้าล้มอยู่ให้เห็นว่าคนทีาแย่กว่าเค้า​ ยังลุกขึ้นมาเดินได้อีกครั้ง..
รายละเอียดที่ละเอียดอ่อนข้าวไม่ได้เขียนลงไป... จริงๆ​ แล้วตอนเขียนถึงบมนี้​ น้ำตาไหลเนืองนอง