ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 27

เริ่มโดย เจตภูติ, พฤษภาคม 01, 2021, 11:34:43 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

เจตภูติ

คุยกันก่อนอ่าน สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้เ็นเป็นสมาชิกเว็บอยากอ่านส่วนที่ซ่อนไว้ ในนั้นจะลงช้ากว่าที่เว็บนี้นะครับ https://www.tunwalai.com/v2/story/499798

Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 27

รถเก๋งญี่ปุ่นจอดลึกเข้าไปในถนนทางเข้าพื้นที่เปล่าใกล้กับหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ชายสามคนอาศัยความมืดและความเปลี่ยวพรางตัว ชายหน้าเข้มร่างผอมสูงเดินลงมาจากรถแล้วตรงไปเปิดกระโปรงท้ายเพื่อหยิบเอากระเป๋าและอุปกรณ์ ตามด้วยชายร่างสันทัดที่ลงรถตามมาพร้อมกับมองไปรอบๆ อย่างลุกลี้ลุกลน และชายร่างผอมสูงที่ลงมาจากที่นั่งคนขับมาสบทบเป็นคนสุดท้าย

"เตรียมของพร้อมแล้วนะพี่" อ๊อดถามขึ้นมาขณะที่เขาเดินเข้ามาจัดการอุปกรณ์ของเขาเองอยู่ด้านข้าง

"อืม" เจษฎาหยิบกระเป๋าใส่อุปกรณ์ขึ้นมาคาดเอวแล้วดึงชายเสื้อเชิ้ตลงมาปิด ก่อนจะพยักหน้าให้อ๊อดเป็นสัญญาณ

"อาจารย์จะไปจริงๆ เหรอ บุกรุกยามวิกาลเลยนะ" ปิยะพงษ์เสี่ยงสั่นออกอาการประหม่าเล็กน้อยด้วยวิถีชีวิตของเขาที่ค่อนข้างจะห่างไกลเรื่องผิดกฏหมาย อีกทั้งยังประหลาดใจในท่าทีของอาจารย์เจษและอ๊อดที่ดูไม่ค่อยยี่หระกับการกระทำที่กำลังจะทำต่อจากนี้เลยแม้แต่น้อย เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะคนทั้งคู่มีวิชาสามาธิที่ดีหรือว่ามีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้มาก่อนจนชินชากันแน่

"ฉันรู้น่า ก็บอกแล้วไงเรามาช่วยคนไม่ต้องคิดมากหรอก ตั้งใจตามมาก็พอ" เจษฎาปลอบลูกศิษย์หนุ่มที่แสดงความรู้สึกกลัวออกมาท่างสีหน้าชัดเจน ให้มั่นใจและเชื่อใจในตัวเขา เพราะเขารู้ดัว่าพวกที่เขากำลังจะเผชิญหน้าเป็นพวกมีชนักติดหลังกันทั้งนั้น เรื่องเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะเข้ามายุ่งนั้นให้ตัดทิ้งไปได้เลย

ปิยะพงษ์นิ่งไปแลัวพยักหน้ายอมรับเพราะเขาเชื่อมั่นในญาณวิเศษของอาจารย์เขาเป็นอย่างมาก แล้วก็ไม่คิดว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี ถึงจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายก็ตาม

"ระวังตัวด้วยทั้งสองคน" อ๊อดเอ่ยขึ้นมาอย่างเป็นห่วงก่อนจะหยิบชุดหูฟังวิทยุสื่อสารบลูทูธไร้สายขนาดเล็กแอบส่งให้กับเจษฎาพื่อใช้ติดต่อสื่อสารกับเขาที่จะทำหน้าที่ดูต้นทางและเตรียมพร้อมคอยช่วยเหลือเผื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันอยู่ที่ด้านนอก

"อืม/ครับ" เจษฎาและปิยะพงษ์ตอบออกมาพร้อมกัน
หนุ่มใหญ่หน้าเข้มจะเดินนำหน้าชายหน่มแฝงตัวในความมืด แล้วลัดเลาะไปตามริมกำแพงของหมู่บ้านจัดสรร หลังจากที่ทั้งคู่เดินหายไปอ๊อดก็บินโดรนถ่ายภาพขนาดเล็กขึ้นไปคอยดูเส้นทางให้ หลังจากเดินมาได้ระยะหนึ่งทั้งสองคนก็ลอบปีนข้ามกำแพงในจุดที่อ๊อดบอกแล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านของอริสา ก่อนจะแอบซุ่มดูท่าทีอยู่ที่ข้างรั้วอยู่ครู่หนึ่ง

"ทางสะดวกเข้าไปได้เลยพี่" อ๊อดรายงานผ่านวิทยุ หลังจากที่ใช้โดรนบินสำรวจจนทั่วบริเวณ

"รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ พอไฟในบ้านดับค่อยเข้าไปทางประตูหน้า แล้วเวลาเข้าไปก็ห้ามส่งเสียงแล้วก็ห้ามเรียกชื่อกันเด็ดขาด เข้าใจไหม" เจษฎากำชับเสียงเข้ม พร้อมกับจ้องตาลูกศิษย์หนุ่มด้วยใบหน้าจริงจัง ปิยะพงษ์พยักหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อให้อารจารย์ของเขารับรู้ว่าเข้าใจในคำสั่ง

เมื่อนัดแนะแผนการเรียบร้อย เจษฎาก็มองไปรอบๆ บริเวณแล้วหยิบผ้าขึ้นมาปิดปากก่อนจะกระโดดปีนหายเข้าไปในรั้วบ้านของอริสาอย่างคุ้นเคย ทิ้งให้ชายร่างสันทัดที่กำลังใช้ผ้าปิดอำพรางใบหน้าตามอาจารย์ของเขา ยืนหัวใจเต้นแรงราวกับก้อนเนื้อนั้นจะทะลุออกมาจากหน้าอก

เจษฎาก้มต่ำเดินเลาะรั้วแอบเข้าไปทางประตูหลังของบ้านซึ่งสามารถเข้าไปในครัวได้ เจษฎาใช้มือบิดลูกบินอย่างใจเย็นระวังไม่ให้เกิดเสียงเมื่อรู้แล้วว่าประตูล็อคอยู่ เขาก็ทำการใช้กุญแจผีในการสะเดาะกลอนลูกบิดอกด้วยวิชาที่เขาใช้เวลาว่างตอนอยู่ในคุกศึกษามาโดยจ่ายค่าเล่าเรียนไปหลายซอง ชายหน้าเข้มแง้มประตูเพื่อสังเกตุการณ์ด้านใน ก่อนจะย่องเข้าไปด้วยฝีเท้าแผ่วเบา

เจษฎาชะโงกหน้ามองออกไปจากเค้าเตอร์ของครัวเห็นชายฉกรรจ์สองคน คนหนึ่งตัวสูงกำยำ อีกคนเตี้ยกว่าเล็กน้อยแต่ตัวหนากว่า กำลังนั่งกินเหล้าดูทีวีกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะสำสวจจนมั่นใจแล้วว่าชั้นหนึ่งของบ้านมีคนอยู่แค่สองคน เขาก็หยิบส้อมที่อยู่ในครัวมามาดัดให้ซี่ของส้อมกลายเป็นสองง้ามแล้วเอาผ้าเช็ดมือมาพันด้ามจับก่อนจะแทงเข้าไปในปลั๊กไฟติดผนัง

ประกายไฟแลบออกจากรูปลั๊กจากการที่ไฟฟ้าลัดวงจร ส่งผลให้อุปกรณ์ตัดไฟฟ้าแบบอัตโนมัติทำการตัดไฟฟ้าภายในบ้านจนมืดลงทันที เมื่อทุกอย่างอยู่ในความมืดตามแผนเจษฎาก็ล้วงเอาดิ้วเหล็กออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับสะบัดออกเบาๆ ให้ดิ้วเหล็กยืดออกมาเป็นแท่งเหล็กยาวราวยี่สิบเซนติเมตรพร้อมใช้งาน

เมื่อไฟในบ้านมืดดับลงไอ้สองคนที่เหมือนจะเมาอยู่ก็ลุกขึ้นมามองหน้ากันเลิ่กลักขึ้นมา จากนั้นเพียงไม่นานปิยะพงษ์ก็เปิดประตูหน้าเข้ามาด้วยท่าทางตื่นๆ เป็นการดึงความสนใจของชายฉกรรจ์ทั้งสองคนให้หันไปมอง ทั้งสามคนได้แต่ยืนอึ้งมองร่างของกันและกันผ่านแสงไฟที่สาดมาจากนอกบ้านเหมือนกำลังทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"เฮัย..." ชายร่างสูงกำยำอุทานขึ้นมา หลังจากที่เจษฎาย่องออกมาจากครัวแล้วใช้ดิ้วเหล็กฟาดใส่ไปที่ก้านคอของชายคนที่เตี้ยกว่าจนร่วงลงไปนอนหมดสภาพไร้สติ

ปิยะพงษ์เมื่อเห็นชายฉกรรจ์คนหนึ่งล้มลงไปก็ตั้งสติได้ เข้าใจทันทีว่าอาจารย์ของเขาต้องการอะไร เขาจึงที่อาศัยความสว่างที่มีพอให้เห็นสภาพพื้นที่คร่าวๆ พาร่างของตัวเองเข้าไปประชิดตัวชายฉกรรจ์คนที่เหลือแล้วประเคนหมัดเข้าใส่ทั้งใบหน้าและลำตัวจนลงไปนอนกองสิ้นสติอยู่บนพื้นเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วจนอีกฝ่ายไม่มีเวลาได้ตั้งตัวทำให้ไม่ทันได้ร้องเตือนคนที่เหลือภายในบ้าน

เจษฎาใช้มือส่งสัญญาณให้ปิยะพงษ์ไปยืนแอบตรงข้างบันไดฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมก่อนจะบุกขึ้นไป แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าไปต่อก็มีเสียงคนเดินบ่นดังมาจากชั้นสอง เจษฎาทำท่าทางบอกให้ปิยะพงษ์ทำตัวเงียบ ก่อนที่เขาจะเงี่ยหูฟังเพื่อกะระยะห่างของเขากับคนที่กำลังเดินลงมา

"โอ้ยยยย..." ทศพลถูกดิ้วเหล็กฟาดเข้าใส่ท้องร้องออกมาเสียงดังทันทีที่เดินพ้นบันไดขั้นสุดท้าย ก่อนที่ความจุกจะเข้ามาเล่นงานจนหายใจได้ลำบาก

ปิยะพงษ์อาศัยจังหวะที่ชายร่างกำยำกำลังประหลาดใจ เข้าล็อคตัวรวบแขนทั้งสองข้างไปไว้ด้านหลัง แล้วรั้งร่างกำยำให้หันไปทางเจษฎา

"เสียงอะไรวะไอ้ทศ" ชายร่างยักษ์ตะโกนถามลงมาหลังจากได้ยินเสียงผิดปกติ

"อย่าพูดมากนะมึง ไม่งั้นครั้งต่อไปกูฟาดให้มึงหัวแบะแน่" เจษฎาที่อยู่ภายใต้ผ้าปิดปากขู่เสียงเหี้ยมจ้องมองหน้าด้วยสายตาดุดัน พร้อมกับดันดิ้วเหล็กใส่หน้าของทศพลแทนคำยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงแค่ไหน

"......"ทศพลเงียบไปทั้งจุกทั้งกลัวก่อนจะตะโกนตอบกลับเสียงเรียกจากห้องนอน "มะ...ไม่...ไม่มีอะไรแค่ก้าวพลาด"

"ดีมาก ข้างบนมีอีกกี่คน" เจษฎาพูดเสียงเบาพร้อมกับบดปลายถู่ของอาวุธเข้าใส่ท้องที่เพิ่งถูกตีไปหมาดๆ จนทศพลแสดงสีหน้าเจ็บปวดแต่ก็ไม่กล้าร้องออกมา

"คะ...คน...เดียว..." ทศพลตอบเสียงสั่น

"มัดมันไว้ก่อน" เจษฎาสั่งการแล้วโยนสายรัดเคเบิ้ลไทร์ไนล่อนสำหรับรัดข้อมือไปให้ปิยะพงษ์หนึ่งเส้น ชายหนุ่มรับไว้แล้วจัดการดันร่างของทศพลกดลงกับพื้น ก่อนจะจัดการรัดข้อมือของทศพลเลียนแบบหนังที่เขาเคยดู จากนั้นเจษฎาก็ล้วงเอาเทปเอาเทปกาวออกมาปิดปากชายร่างกำยำกันไม่ให้ส่งเสียง แล้วจึงย้อนกลับมาจัดการทำแบบเดียวกันนี้กับชายฉกรรจ์ทั้งสองคนที่สลบไปก่อนหน้า หลังจากเขาจัดการคนด้านล่างเรียบร้อยก็เดินย่องขึ้นไปที่ชั้นสองอย่างระวังไม่ให้เกิดเสียงจนคนที่อยู่ข้างบนรู้ตัว

ปิยะพงษ์ก็ทำตามแบบเดียวกับเจษฎา แต่ระหว่างที่เดินตามมาเกิดก้าวพลาดจนสะดุดขั้นบันไดล้มฟาดพื้นเกิดเสียงดังไปทั่วบริเวณเขาหน้าซีดลงทันทีเมื่อหันไปเ็นเจษฎาที่กำลังมองมาที่เขาตาขวาง

..................................................

ภายในห้องนอนใหญ่มืดสลัวมีเพียงแสงจากไฟทางหน้าบ้านที่สาดผ่านผ้าม่านมาเข้ามาให้พอเห็นสภาพในห้องได้ลางๆ ไอ้ยักษ์ที่กำลังเล่นสนุกกับเรือนร่างของอริสาเพื่อเตรียมความพร้อมจะต่อยกถัดไป ก็ต้องสะดุ้งกายหันไปมองที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงกุกกักดังขึ้นมา

"เฮ้ยไอ้ทศ นั้นมึงเหรอวะ" ไอ้ยักษ์ร้องถามหยี่ตาพยายามเพ่งมองไปที่ปีะตู ในขณะที่ก็ประตูค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ

"ไอ้ทศมึงเป็นเหี้ยอะไร ทำไมไม่ตอบ" ไอ้ยักษ์ถามย้ำพร้อมกับลุกขึ้นยืนอวดเปลือยเปล่าทั้งหนากำยำร่างสูงใหญ่ที่บังแสงไฟจนดูดำทะมึนเหมือนเปตรก็ไม่ปาน ระหว่างที่มันสังเกตุเห็นความไม่ชอบมาพากลก็ใช้เท้าควานหากองเสื้อผ้าของมันไปด้วย

ทันใดนั้นเองร่างของชายผอมสูงก็ถีบประตูแล้วพุ่งพรวดออกมาจากอย่างรวดเร็วพร้อมกับฟาดแท่งของแข็งเข้าใส่ศรีษะของไอ้ยักษ์อย่างแรง แม้จะอยู่ในความมืดแต่ประสบการณ์ในเส้นทางสายนักเลงของไอ้ยักษ์ที่มันฟันฝ่ามานานหลายปีจนได้กลายเป็นผู้ที่ทำหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยให้เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพล ก็ช่วยให้มันตอบสนองกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงที แต่ถึงมันเบี่ยงตัวหลบการโจมตีแล้วก็หลบได้ไม่พ้นทั้งหมด ของแข็งที่ฟาดมาโดนเข้าไปแบบถากๆ จนได้เลือดไหลซิบๆ ออกมาจาหางคิ้ว

"มึงเป็นใครวะไอ้เหี้ย" ชายร่างยักษ์คำรามลั่นเอื้อมมือไปแตะที่แผลแตกสัมผัสเข้ากับของเหลวอุ่นที่ไหลออกมา มันทั้งเจ็บทั้งโมโหก่อนจะวาดขาเตะกวาดออกไปแบบไม่ได้ปราณีตเท่าไหร่นัก แต่แข้งของมันก็กระแทกเข้าใส่ลำตัวของผู้บุกรุกที่กำลังเงื้อมือจะเข้ามาโจมตีซ้ำ

"อักกก..." ร่างของเจษฎาปลิวไปตามแรงเตะจนร่างเซไปฟาดเข้ากับผนังห้องอย่างจัง จนร่างทรุดเข่าเตี้ยเอามือกุมท้องด้วยความจุกเสียด อาวุธที่อยู่ในมือก็พลอยหล่นลงกับพื้นแล้วกลิ้งหายไปในความมืด

ไอ้ยักษ์อาศัยจังหวะฝ่ายตรงข้ามกำลังเสียเปรียบตามเข้าไปโจมตี แต่ก็มีชายร่างสันทัดพุ่งมาจากประตูตามมาสบทบ ชายที่เข้ามาใหม่คนนั้นจะสาวหมัดซัดไอ้ร่างยักษ์อย่างเป็นมวยไปชุดใหญ่

ไอ้ยักษ์ก็ไม่ได้ยักษ์แต่ชื่อ ร่างกายที่ใหญ่โตของมันก็ทนทานเหลือเชื่อ แม้หมัดของชายที่เข้ามาใหม่จะทั้งหนักและแม่นยำ แต่ไอ้ยักษ์ที่โดนชกเข้าไปก็ตั้งรับปัดป้องป้องกันจุดสำคัญไว้ได้จึงทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก ก่อนที่มันจะหาจังหวะสวนกลับไปได้บ้าง

ปิยะพงษ์หลบได้หวุดหวิดก่อนผละออกแล้วถอยฉากมาทางอาจารย์อาคมที่ยืนพิงผนังเอามือกุมท้องอยู่เป็นการดูเชิงและดูอาการบาดเจ็บไปด้วยในตัว ชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่มีเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อต้องเจอกับคู่ชกที่เหมือนว่าเขาจะต้องแบกน้ำหนักที่มากกว่านับสิบกิโลกรัม และช่วงชกที่น่าจะยาวกว่าพอสมควรทำเอาเขาเริ่มหวั่นใจ ยังไม่นับความอึดที่มันรับหมัดของของเขาเข้าไปชุดใหญ่แล้วยังยืนอยู่ได้ กับสัญชาติญาณที่หลบการโจมตีแบบฉับพลันของเจษฎาได้อีก

ไอ้ยักษ์สบช่องใช้จังหวะที่อีกฝ่ายเว้นช่องให้มันได้พักหายใจ แล้วพุ่งเข้าไปเป็นฝ่ายบุกบ้าง แต่ปิยะพงษ์ก็ใช้ความว่องไวโยกตัวหลบได้หลายหมัด ก่อนจะสวนกลับไปด้วยหมัดแย็บเข้าที่ใบหน้าของไอ้ยักษ์ แต่ด้วยความที่ต้องชกขึ้นบนเพราะความต่างของส่วนสูงที่ห่างกันเป็นสิบเช็นติเมตรพลังหมัดจึงเบาลงไปมาก ทำให้ไอ้ยักษ์แค่หน้าสบัดเซถอยไปข้างหลังเล็กน้อยเท่านั้น

เจษฎาฉวยโอกาสที่ชายร่างยักษ์กำลังจะเสียหลักไปก็ฝืนข่มความจุกแล้วพุ่งตัวเข้าไปช่วยปิยะพงษ์อีกแรง ด้วยการชกหมัดฮุกขวาไปที่สีข้างด้านซ้ายของชายร่างยักษ์ในจังหวะที่มันไม่ทันเห็นจึงหลบไม่ทันโดนกำปั้นยัดเข้าไปจนตัวสั่น แต่มันก็กัดฟันรับแล้วชกหมัดซ้ายสวนไปโดนเข้าบริเวณลิ้นปี่ของเจษฎาจนหายใจติดขัดเสียหลักเซถลาไปด้านหลังด้วยความแรงของหมัดเกือบจะล้มมิล้มแหล่

ปิยะพงษ์เห็นอาจารย์เพลี้ยงพล้ำกำลังจะโดนไอ้ร่างยักษ์เข้าไปซ้ำก็เข้าไปขวางจนพลาดโดนหมัดขวาเข้าเต็มขมับร่างร่วงลงไปนอนที่พื้นตรงหน้าอาจารย์ของเขา

"ถุย..ไอ้พวกกระจอก" ไอ้ยักษ์เยาะเย้ยใส่อีกผ่ายที่มากันสองคนและมีอาวุธก็ยังทำอะไรมันไม่ได้ ก่อนจะเตะใส่ชายโครงชายร่างสันทันสองครั้งจนตัวงอ

"อ๊าก..." ปิยะพงษ์ร้องอย่างเจ็บปวดจุกจนลุกไม่ไหวแต่ก็ยังมีสติพยายามขดตัวป้องกันเท้าไอ้ร่างยักษ์ไม่ให้โดนเข้าไปที่เดิมอีก

เพื่อไม่ให้ลูกศิยษ์หนุ่มเจ็บหนักไปกว่านี้ เจษฎาปรี่เข้าไปช่วยทั้งที่ยังมีอาการแน่นหน้าอก เขาพุ่งตัวเข้าไปล็อคเอวชายร่างยักษ์แล้วออกแรงดันมันออกห่างจากปิยะพงษ์ แต่กลับถูกชายร่างยักษ์ตีเข่าใส่หน้าท้องเน้นๆ ก่อนจะถูกจับร่างให้ขึ้นมายืนตรง แล้วชกเข้าใส่อีกหลายหมัด กำปั้นใหญ่พุงเข้าใส่ร่างของเขาทั้งใบหน้าและลำตัวจนเกิดอาการจุกเสียดและมึนงง ร่างสูงผอมโงนเงนเหมือนไม้ผุใกล้ล้ม

ไอ้ร่างยักษ์ไม่ยอมปล่อยคู่ต่อสู้ล้มลงไปตามธรรมชาติ มือซ้ายของมันคว้าไปที่คอเสื้อ แล้วรั้งร่างผอมสูงให้ทรงตัวไว้ก่อนจะออกแรงดันร่างอัดกระแทกเข้าไปกับผนังห้องอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น

"มึงเป็นใคร ต้องการอะไร ใครใช้มึงมา" ไอ้ยักษ์ยิงคำถามใส่เป็นชุด

เจษฎากำลังมึนถึงอยากจะตอบก็ตอบไม่ได้ ทำได้แค่ประคองสติพยายามลืมตามองหน้าไอ้ร่างยักษ์พร้อมกับใช้มือที่สั่นเทาแกะมือใหญ่ที่กุมคอเสื้อของเขาอยู่ออก

"อ้าวไอ้สัตว์นี่ ไม่ตอบงั้นเหรอ" ไอ้ยักษ์ใช้หมัดขวาชกเข้าใส่ที่ใบหน้าของเจษฎาเต็มแรงจนหัวโยกหัวคลอน
เจษฎาเมาหมัดจนเกือบจะหมดสติอยู่แล้วเมื่อโดนหมัดเข้าไปอีกครั้งก็เกือบจะสิ้นสภาพ ขณะที่เขากำลังจะวูบหมดสติ ภาพบางอย่างก็ฉายขึ้นมาในหัวของเขา

..................................................

"โอ้ย เบาหน่อยสิลุง ใช้มือหรือเท้าสักให้ผมกันแน่เนี้ย" เจษฎาโอดครวญบ่นกระปอดกระแปด ระหว่างที่เข้มทิ่มแทงผ่านผิวหนังบนแผ่นหลังครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะโดนมาหลายครั้งแล้วเขาก็ยังไม่ชินอยู่ดี

"มึงก็เบาๆ เสียงมั้งเถอะ เดี๋ยนายมาเห็นก็บรรลัยกันหมด" นักโทษชราก็บ่นสวนกลับไปเบาๆ แน่นอนว่าการสักภายในคุกนั้นย่อมไม่ได้สะดวกสบายมากนัก โดยเฉพาะเข้มที่ใช้สักนั้นมันสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายต่างจากร้านสักที่ใช้เครื่องสักไฟฟ้าที่น้ำหนักการแทงเข็มนั้นสม่ำเสมอ และเข็มสักที่ใช้กันตามสำนักสักทั่วไป และนั้นก็ยังรวมไม่ถึงบทลงโทษที่จะตามมา เพราะตามระเบียบของเรือนจำห้ามไม่ให้นักโทษสักลายบนเรือนร่างถือว่ามีความผิด ผู้ที่ฝ่าฝืนหากถูกผู้คุมจับได้จะต้องถูกลงโทษโดยลดชั้น ตัดวันลดโทษ และห้ามไม่ให้เยี่ยมญาติอย่างน้อยสามเดือน

"ก็มันเจ็บ" เจษฎายังไม่หยุดบ่น

"เอ็งก็ทนหน่อยสิวะ ไอ้ที่เจ็บมันก็แค่ผิวๆ ลึกๆ ลงไปข้างในเอ็งก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" นักโทษชราหยุดมือจากการสักมาต่อปากต่อคำอย่างไม่มีใครยอมกัน

"ให้ฉันเอาเข้มจิ้มลุงบ้างไหมละ" เจษฎาย้อนแบบขำๆ

"จำคำข้าไว้ แล้วสักวันเอ็งจะขอบใจข้า" นักโทษชราอมยิ้มเล็กๆ ก่อนจะหันกลับตั้งใจสักต่อ

..................................................
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


kidzero

มาแล้วๆ มีย้อนอดีตแบบนี้แสดงว่าต้องมีทีเด็ดแน่ๆ (แต่ตอนคนใกล้ตายเค้าบอกว่ามันจะนึกถึงอดีตนะ) 5555555

Fazz


Paragraph<BB>

โชว์คาถาอาคมหน่อยครับ นายเจษ จัดให้ตัวใหญ่หน่อย หมั่นไส้

ผู้เฒ่าเซราะกราว

รอยสักที่ชายชราสักให้ น่าจะมีอะไรที่จะช่วยเหลือเจษฎาในยามคับขันได้แน่ๆเลย....หึหึ

saranchai

เจษปล่อย​พลัง​ออกมา​เลยเอาให้ยักษ์​ล้มให้​ได้​


KengNaJa

เปี๊ยกก็เป็นมวยเหมือนกันนะเนี่ยย
มีภาพฉายในหัวแบบนี้ท่าทางจะมีอะไรน่าสนุกๆแน่ๆเลย

Nong5670


mario

นาทีนี้วิชาอาคมของจริงต้องมาแล้ว
ไม่งั้นโดนไอ้ยักษ์สอยร่วงแน่ๆ

ttxluck

อาจารย์เจษกับปิยะพงษ์จะล้มไอ้ยักษ์แล้วช่วยคุณดิวได้ไหมเนี่ยลุ้นระทึกดีจัง


pp1659

พูดย้อนไปถึงชายชราที่ติดคุกด้วย แบบนีต้องมีของดีแน่ครับ

dwarf

ขอบคุณ​ครับ.. ของฝากที่ได้มาจากเรือนจำ......กำลังค่อยๆปล่อยของออกมาทีละเล็กทีละน้อย​