สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บอยากอ่านส่วนที่ซ่อนไว้ ในนั้นจะลงช้ากว่าที่เว็บนี้หนึ่งตอนนะครับ
https://www.tunwalai.com/v2/story/499798Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 47
ตกดึกณัฐฐากลับมาที่บ้านในสภาพที่อิดโรย ทันทีที่เธอเข้ามาในบ้านก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างไปจากปกตินิดหน่อย เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้เห็นผู้เป็นสามีนั่งรอการกับมาของภรรยา เพราะถึงจะมีบ้างครั้งที่กำนันประเสริฐจะกลับมาก่อนก็มักจะนั่งดื่มเหล้า หรือไม่ก็เข้านอนไปก่อนโดยไม่ได้รอเธอ
สาวใหญ่ยืนมองผู้เป็นสามีที่จ้องมาที่เขม็งราวกับว่าจะบีบให้เธอพูดอะไรออกมาก่อน ณัฐฐามองเขากลับด้วยสีหน้าปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วมองกลับด้วยสายตาแบบเดียวกัน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าสายตาของเธอจะทรงพลังกว่า
“ไปไหนมาโทรศัพท์ก็ไม่รับ รู้ไหมว่าพวกชาวบ้านมันมาวุ่นวายกันแค่ไหน ทำไมไม่มาช่วยกัน” กำนันประเสริฐหมดความอดทนก่อนว่าออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่น
“ฉันมีธุระด่วนต้องรีบไปจัดการ” ณัฐฐาตอบเรียบๆ แต่หัวใจเต้นแรงเหมือนจะระเบิด แตกต่างจากทุกครั้งที่แอบมีอะไรกับพวกลูกน้อง
“จัดการเรื่องอะไร ทำไมไม่บอกกันก่อน” กำนันยังคงมีน้ำโห เพราะเขาต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมชาวบ้านอยู่นานกว่าที่ชาวบ้านเหล่านั้นมีอารมณ์เย็นลงและยอมกลับไปก่อนที่จะเป็นข่าวดัง
“ก็เรื่องเดิมๆ เหมือนทุกทีนั้นแหละ แต่มันสำคัญสำหรับเราแน่นอน” ณัฐฐาว่าไปส่งๆ ยังไงซะมันก็มีเรื่องยุ่งๆ ให้จัดการได้ตลอดอยู่แล้วในสายงานแบบนี้ พร้อมกับทำน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจกลบเกลื่อน
“ให้มันจริงละกัน” กำนันประเสริฐยอมถอยให้ภรรยาคนสวยเหมือนทุกที เพียงแต่ครั้งนี้เขารู้สึกสะกิดใจนิดหน่อยที่ ณัฐฐาไม่ได้พูดว่าไปทำอะไรออกมาตรงๆ เหมือนกับที่ผ่านมา เขาเลือกที่จะเก็บมันไว้ในใจ ส่วนจะหาความจริงหรือไม่เอาไว้เขาจะตัดสินใจอีกที
“อย่าโกรธเลยนะคะ” ณัฐฐาขยับเข้าหาแล้วทำหน้าอ้อน แม้เธอจะไม่ใช่สาวรุ่นๆ ถึงอย่างนั้นใบหน้าที่อ่อนกว่าวัยเป็นสิบปีก็ยังทำให้เธอดูน่ารักน่าเอ็นดูได้ไม่ยาก
“...ช่างเถอะ ไปนอนกันดีกว่า” กำนันประเสริฐใจอ่อนและก็เหนื่อยมาทั้งวัน ก็โอบกอดร่างภรรยาแล้วพากันเข้าไปในห้องนอน
……….……….……….……….………
แสงแดดอบอุ่นในเวลาเช้าตรู่ กันธิช่าลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงหนานุ่มอย่างสบาย หลังจากได้รับการช่วยเหลือมาจากบ้านเช่าของเจษฎา เธอก็ถูกพามาพักรักษาตัวที่คอนโดของผู้จัดการ ความจริงเธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย เพียงแค่ที่หน้าท้องมีอาการช้ำจากการถูกเจษฎาต่อย ซึ่งก็ทุเลาลงไปมากแล้ว เพียงแต่เมื่อได้มาพักที่ห้องของผู้จัดการก็เลยถือโอกาสอยู่นานหน่อยเพราะอยากใกล้ชิดกับหัวหน้างานที่เคารพหลังจากไม่ได้พบกันมาพักใหญ่
กันธิชาในชุดนอนสบายๆ แบบเสื้อกับกางเกงขาสั้นลุกขึ้นมาทำธุระส่วนตัวอย่างสบายใจ ก่อนจะออกมาจากห้องนอนแล้วพบกับชายผิวขาวซีดในชุดผ้ากันเปื้อนกำลัทำอาหารเช้าอยู่ที่ครัว
“ตื่นแล้วเหรอ ทานอะไรก่อนไหม หรือรับเป็นกาแฟดี” ชายผิวขาวซีดร้องทักทันทีที่เห็นหญิงสาวเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร ก่อนที่เธอจะนั่งลงมองเขาทำครัวด้วยรอยยิ้ม
“กำลังทำอะไรอยู่คะผู้จักการ” หญิงสาวถามด้วยเสียงแหบที่มีเสน่ห์ชวนฟัง ในใจก็คิดไปว่าถ้าได้ตื่นมาเจอภาพแบบนี้ทุกเช้า ชีวิตของเธอคงจะมีความสุขอยู่ไม่น้อย
“อาหารเช้าง่ายๆนะ” เขาตอบด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
ชายผิวขาวซีดทำครัวต่อโดยมีหญิงสาวนั่งดุไม่ละสายตา จนเขาทำการเสริฟอากรเช้าเป็นไส้กรอก ขนมปัง และไข่ดาว พร้อมกับเครื่องดื่มที่เป็ฯน้ำผักผลไม้ ทั้งคู่ร่วมโต๊ะทานอหารอาหารเช้าด้วยกัน ขณะที่ทานอาหารกันอยู่หนุ่มใหญ่ก้ได้รับสายโทรศัพท์แล้วพูดคุยธุระอยู่ครู่หนึ่งแล้ววางสายไป
“มีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“เหมือนคนของเสี่ยวีรชัยจะยึดกิจการเอาไปบริหารเอง บริษัทอยากจะให้ผมจัดหาคนไปจัดการเรื่องนี่อยู่นะครับ” ชายผิวขาวซีดพูดเรียบๆ ก่อนจะหยิบจานชามแก้วน้ำที่ทานหมดแล้วไปไว้ที่อ่างล้างจาน
“ให้หนูทำได้ไหมคะ” หญิงสาวเสนอตัว อยากจะทำงานชดใช้ความผิดพลาด
“จะไหวเหรอดพิ่งจะหายเองนะ”
“สบายมากค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยใบหน้าขึงขังจริงจังอย่างมั่นใจ
ผู้การหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจดูข้อมูล พร้อมกับใช้ความคิดพิจารณา การที่กันธิชาเคยทำงานแฝงตัวอยู่ในเครื่อข่ายของเสี่ยวีรชัยมานานหลายปี มีข้อมูลและความคุ้นเคยเหมาะกับงาน ถึงลึกๆ จะเป็นห่วงอยู่บ้างเพราะ สถานการภายในเปลี่ยนไปมากหลังจากที่เสี่ยวีรชียถูกจับ สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจให้เธอรับงานนี้ไปทำ
……….……….……….……….………
เจษฎาออกมาจากห้องน้ำหลังจากได้นอนพักอย่างเต็มที่ตั้งแต่ที่ณัฐฐาออกจากเซฟเฮ้าส์ไป ซึ่งก่อนที่เธอจะไปเจษฎาก็ได้กำชับให้อดีตคนรักจัดการใช้อิทธิพลปิดข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านเช้าให้เรื่องเงียบที่สุด เพราะตอนเกิดเรื่องค่อนข้างเสียงดังพอสมควรผู้คนในระแวกนั้นคงจะสงสัยอยู่ไม่น้อย
หลังจากได้ถูกน้ำเย็นๆ ชำระร่างกายเขารู้สึกสดชื่นขึ้นมานิดหน่อย ถึงอย่างนั้นน้ำเย็นก็ไม่ได้ทำให้เขาหายจากอาการปวดเนื้อปวดตัว และอารมณ์ที่คุกรุ่น หลังจากที่ได้ของที่ต้องการมาครอบครองแต่ก็เก็บกับตัวไว้ไม่ได้นานก็ต้องเสียมันไปอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธที่ตัวเองประมาทเลินเล่อ นึกลำพองว่าจะไม่มีใครมาทำอะไรเขาได้แล้ว
ชายหน้าเข้มแต่งตัวด้วยชุดคลุมอาบน้ำเพราะณัฐฐาไม่ได้มีเสื้อผ้าผู้ฃายอยู่ที่เซฟเฮ้าส์ ก่อนจะมานั่งสูบบุหรี่ตากลมที่ระเบียงให้ใจเย็นลงจะได้ใช้ความคิดหาทางรับมือและหาทางแก้ไขเรื่องราวต่างๆ จนนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องจัดการ ก็รีบต่อสายติดต่อหาอ๊อดก่อนเป็นคนแรก
“พี่เจษ พี่หายไปอยู่ที่ไหนเนี้ยผมติดต่อไม่ได้ทั้งคืนเลย” อ๊อดยิงคำถามเปิดประเด็นด้วยความเป็นห่วง
“มีเรื่องนิดหน่อย ตอนนี้พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่อยู่ที่ไหน” เจษฎาว่าพร้อมกับมองไปรอบๆ ตัวก็มีแต่ต้นไม้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่พอจะเป็นจุดสังเกตุอะไรที่พอจะอ้างอิงให้อ๊อดรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนได้
“เกิดเรื่องอะไรเหรอพี่” อ๊อดมีน้ำเสียงร้อนใจขณะที่ถามตต่อ
“...พี่ได้ของมาแล้ว” เจษฎาตอบเรียบๆ แต่น้ำเสียงมีความเหนื่อยใจ พร้อมกับมองออกไปที่ต้นไม้อย่างเบื่อๆ ที่อะไรๆ ไม่เป็นไปอย่างที่เขาหวัง
“แล้วทำไมไม่กลับมาละ หรือพี่หนีออกไปแล้ว” อ๊อดซักต่อด้วยน้ำเสียงแบบเดิม
“เปล่ายังไม่ได้หนีไปไหน แต่ของโดนแย่งไปแล้ว”เจษฎาว่าเสียงอ่อย
“ว่ายังไงนะ ได้ยังไง” น้ำเสียงของอ๊อดยิ่งร้อนใจขึ้นไปอีก
เจษฎาเหล่าเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะหมดสติให้อ๊อดฟังอย่างละเอียด แต่ยิ่งเล่าออกมามากเท่าไหร่ก็เหมือนยิ่งจะตอกย้ำความล้มเหลวของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น ทว่าเขาไม่ใช่คนที่จะจมปลักอยู่กับความล้มเหลว หลังจากเล่าจบก็เริ่มเตรียมการเดินหน้าต่อทันที “อ๊อดช่วยพี่ตามหาไอ้ทศหน่อยนะ พี่คิดว่าเดี๋ยวมันก็คงจะหาทางเล่นงานพี่แน่ๆ น่าจะตามตัวไม่อยาก”
“ได้พี่” อ๊อดรับคำทันที
“อ้อ ที่สำคัญที่สุดตอนนี้ อ๊อดอย่าให้คนอื่นรู้ว่ากำลังทำงานอยู่กับพี่นะ แล้วอ๊อดก็ห้ามเข้าใกล้ไอ้ทศเด็ดขาด เข้าใจนะ” เจษฎากำชับทิ้งท้ายด้วยเสียงหนักแน่นจริงจังก่อนที่อ๊อดจะรับปาก เขาไม่อยากจะให้คนที่มีความสำคัญกับเขาในหลายๆ ด้านอย่างอ๊อดตกไปอยู่ในมือของทศพล เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันจะทำให้เขาเหมือนกับเสียข้างที่ถนัดไปเลยทีเดียว ต่อไปจะคิดอ่านทำการอะไรคงจะยากขึ้นเป็นสองเท่า หรืออาจจะมากกว่านั้น
เจษฎาวางสายจากอ๊อดแล้วทิ้งตัวลงนั่งมองทอดสายตาออกไปยังวิวด้านนอก ปัญหามากมายที่รุมเร้าจนไม่อยากจะขยับตัวทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โดนเล็กตามล่า บริษัทอะไรก็ไม่รู้ที่ต้องการตัวเขา อีกทั้งยังมีทศพลที่ได้ของน่ากลัวไปไว้ในมือและถ้ามันรู้ว่าของใช้ทำอะไรได้คงไม่พ้นที่ทศพลจะเอาของนั้นมาจัดการเขาแน่นอน สุดท้ายก็คือคนลึกลับที่คอยชักใยชีวิตเขา ที่ตอนนี้ภาพเงานั้นชัดเจนมากขึ้นแต่เมื่อมองเข้าไปในเงามืดนั้นก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามีอะไรซ่อนอยู่
……….……….……….……….………
กันธิชาใช้เวลาเพียงไม่นานก็เรียกตัวลูกน้องระดับสั่งการของเสี่ยวีรชัยที่ยังไม่ได้ทำการทรยศไปเข้ากับอีกพวกมาได้ แล้วทั้งหมดก็ออกเดินทางมายังบ้านพักที่ฤทธิใช้เก็บยาเสพติด เพื่อที่จะทำการเจรจา ซึ่งฤทธิก็ได้ข่าวมาล้วงหน้า และได้เรียกตัวทศพลมาช่วยกันรับมือเป็นที่เรียบร้อย
ภายในบ้านพักหลังใหญ่ ที่ห้องรับแขกมีกลุ่มคนซึ่งเป็ฯระดับบริหารเครื่อข่ายยาเสพติดอยู่ในห้องหลายคน ซึ่งครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้นเป็นพสกของกันธิชา อีกครึ่งหนึ่งก็มาตามคำสั่งของฤทธิและทศพล บรรยากาศการเจรจาตกลงเรื่องอำนาจสั่งการเป็นไปอย่างตึงเครียด ผู้ชายหลายคนทุ่มเถียงใส่กันเสียงดังแบบไม่มีใครยอมลงให้ใคร ยิ่งเจรจากันมากเท่าไหร่ ก็เหมือนจะลากดึงให้พวกเขาเข้าไปในทิศทางการใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกัน
“เสี่ยโดนจับไปแค่ไม่กี่วันพวกมึงก็ทำตัวระยำทรยศเสี่ยกันแล้วเหรอ” ไอ้หน้าโหดคนหนึ่งที่มากับกันธิชาขึ้นเสียงออกมากลางวงสนทนาด้วยความไม่พอใจ ที่ฝ่ายของฤทธิพยายามจะโน้มน้าวให้พวกมันเข้าด้วย
“พวกมึงนะหุบปากไปเลย ถ้ากตัญญูนัก ซาบซึ้งบุญคุณคุณนัก ไม่เข้าคุกตามเสี่ยไปเลยละ มาเสนอหน้าแถวนี้ทำไม” ไอ้คนหน้าดุฝั่งฤทธิว่าสวนด้วยเสียงดังไม่สบอารมณ์
“ไอ้เลวเอ้ย...” คนฝังธิชาโกรธจนเส้นเลือดที่ขมับปูดขึ้นจนเห็นได้ชัด ก่อนมันจะยกมือชี้หน้าฤทธิที่เป็นหัวโจก
“เดี๋ยวก่อน ถ้าแกคืนทุกอย่างมา พวกฉันจะไม่เอาเรื่องอะไร นี่ฉันให้โอกาสแกแล้วนะ” กันธิชาแทรกขึ้นมาพร้อมกับยกมือขวางไว้ไม่ให้คนของเธอเข้าไปเอาเรื่อง
ฤทธิเองเห็นแบบนั้นก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้าเหมือนกัน ทำท่าจะลุกขึ้นเอาเรื่องแต่ถูกทศพลกระตุกแขนไว้ เพราะว่าบรรยากาศในห้องจะร้อนจนใกล้จะถึงจุดเดือน อารมณ์ของทั้งสองฝ่ายใกล้จะปะทุเต็มที
“เห้ยพวกมึงนะ จะตามก้นผู้หญิงไปถึงไหน กูว่าพวกมึงย้ายข้างมาอยู่กับพวกกูไม่ดีกว่าเหรอ” ทศพลออกหน้าไปห้ามทัพพร้อมกับเกลี่ยกล้อมไอ้พวกที่มากับกันธิชา เพราะคนในห้องทำท่าจะนองเลือดกันแล้ว ในใจก็นึกกลัวว่าตัวเองเป็นคนที่มาใหม่พวกมันคงจะไม่อยากรับฟัง ก็ได้แต่หวังให้พวกมันโกรธจนไล่เขาออกไป เขาจะได้ไม่ต้องมาโดนลูกหลงไปด้วย
“ได้…” พวกที่มากับกันธิชาทั้งสี่คนตอบด้วยดวงตาเหม่อลอย ยอมรับข้อเสนอของทศพลง่ายๆ จนน่าตกใจ และคนที่ตกใจที่สุดก็คงจะเป็นกันธิชา
“งั้นจับนังนี้ไว้” ทศพลลองออกคำสั่งดู ไม่คาดคิดว่าพวกมันจะเข้าไปรุมจับร่างของสาวสวยจนเธอไม่สามรถขยับได้อย่างว่าง่าย
เหตุการณ์ที่เกินขึ้นทำเอาทศพลงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ทำไมพวกมันถึงยอมทำตามง่ายเหลือเกิน ก่อนจะมองไปที่กำไลที่ข้อมือของตัวเอง ซึ่งกำไลอันนี้ก็เป็นของที่เสี่ยวีรชัยกำลังตามหาและเขาก็ขโมยมันมาจากเจษฎา เขารู้สึกว่าของสิ่งนี้กำลังส่งกลิ่นหอมออกมาอ่อนๆ ซึ่งเขาสวมมันติดตัวไว้ตลอดตั้งแต่ได้เพราะกลัวว่าจะทำมันหายหรือไปลืมเอาไว้ที่อื่น
“เฮ้ยพวกแกจะทำอะไร จะทรยศเหรอ” กันธิชาตะโกนว่าเสียงดัง แล้วออกดิ้นสุดแรงพยายามหาทางออก แต่ก็ไม่เป็นผล พวกมันจับร่างของเธอแน่น
“ทศมึงทำได้ไงวะ” ฤทธิเห็นไอ้พวกนั้นทำตามคำสั่งทศพลก็อดแปลกใจไม่ได้จนต้องเอ่ยปากถาม
“ผมก็ไม่รู้...อูยยยย…” ทศพลส่ายหน้า ก่อนรู้สึกปวดศรีษะบริเวณหน้าผากอย่างรุนแรงขึ้นมากระทันหัน ความปวดรุนแรงจนต้องเอามือมากุมที่ขมับก่อนจะเข่าทรุดแล้วเซไปเกาะกับเก้าอี้โซฟาไว้เพื่อไม่ให้ล้มลงไป
“เป็นไรไหม” ฤทธิรีบเข้าไปดูอาการ
“ปวดหัวนิดหน่อยพี่...” ทศพลว่าออกมาสีหน้าไม่สู้ดี ดูจากไกลๆ ก็ยังรู้ได้ว่าเขาเจ็บปวดมาก
“แล้วจะเอายังไงกับอีนี่ดี” ฤทธิขอความเห็นจากทศพล
“...คืนนี่พวกมึงอยากทำอะไรกับอีนี่ก็เอาเลย ถือว่าเป็นรางวัลที่มาทำงานให้พวกกู” ทศพลว่าเสียงเหี้ยมด้วยใบหน้าเหยเก
“ครับ…” พวกมันรับคำเหมือนกับหุ่นยนต์
“ไอ้ทศ นี่กูเคยช่วยชีวิตมึงนะ” กันธิชาตะวาดลั่น
“ขอบคุณ งั้นคืนนี้ก็ช่วยเล่นสนุกกับไอ้พวกนี้ให้หน่อยละกัน ร่านๆ อย่างเธอน่าจะชอบ” ทศพลฝืนยิ้มเยาะทั้งที่ปวดหัว ถึงกันธิชาจะเคยช่วยเขาไว้แต่นั้นก็เพราะเขายังมีประโยชน์ ทำให้เขาไม่ได้ถือว่านั้นเป็นบุญคุณอะไร และส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามาลงเอยในเส้นทางสายนี้ก็เพราะว่ากันธิชาเป็นนกต่อล่อลวงเขามาให้มาเจอกับเสี่ยวีรชัย ที่สำคัญที่สุดคือเธอทำให้เขาไปเจอกับไอ้ยักษ์ที่เป็นตัวทำลายชีวิตเขา เขาเลยถือโอกาสนี้จัดการล้างแค้นเสียเลย
“ไอ้…ก็ได้เรื่องแค่นี้” กันธิชาอ้าปากจะด่า ทว่ากลิ่นหมอ่อนๆ ทีลอยอยู่ทั่วทำให้เธอรู้เคลิ้มๆ ไปกับกลิ่นนั้น แล้วก็ไม่รู้อะไรดลใจเธอให้ยอมตบปากรับคำทำตามที่ทศพลบอก
“พวกมึงลุยเลย” หลังจากออกคำสั่งเสร็จทศพลก้รู้สึกปวดหัวขึ้นมากกว่าเดิมจนตอนนี้เขาแถบจะทนไม่ไหว จึงของตัวไปพักที่โรงแรมในเมือง ก่อนจะออกไปเขายังหยิบยาห่อใหญ่ติดมือไปด้วย เพราะหวังจะใช้มันบรรเทาอาการปวด แล้วทิ้งให้กันธิช่ารับมือกับพวกที่มากับเธอเอง
ฤทธิเองเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็เลยออกไปพร้อมทศพล โดยที่พาไอ้พวกที่ทรยศไปก่อนแล้วออกไปด้วย ทั้งที่พวกมันก็ทำท่าอยากจะอยู่เล่นสนุกกันธิชาเหมือนกัน แต่เพราะพวกมันเพิ่งจะรวมตัวกันใหม่ๆ จึงไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง แล้วเดินตามหัวหน้าพวกมันด้วยสายตาที่มีความเสียดาย
……….……….……….……….………
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน