ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_cyborg0011

หนูโตมาในบ้านชอบธรรมชาตินู้ด copy

เริ่มโดย cyborg0011, สิงหาคม 06, 2021, 01:11:01 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cyborg0011

หนูโตมาในบ้านชอบธรรมชาตินู้ด



เป็นความอับอายอย่างสุดๆเหนือเกินกว่าจะบรรยายได้หมด มันเป็นความทรงจำที่ติดตัวหนูมาตลอด เกิดขึ้นเมื่อครั้งหนูยังเด็กๆพ่อทิ้งพวกเราไปนานแล้วตั้งแต่หนูยังเด็กๆอยู่ ในฐานะพี่สาวคนโตและมีน้องชายวัยห่างกัน 5 ปีที่เกิดกับพ่อคนใหม่และย้ายเข้ามาอยู่กินกับแม่ในบ้านหลังเดียวกันนี้ แม้จะดูอบอุ่นดีที่อยู่กันครบหน้า4คน แต่ความสัมพันธ์ของแต่ละคนในเบื้องลึก แม้หนูจะยังเด็กอยู่ก็พอรู้สึกได้บ้างว่านี่ไม่ใช่พ่อแท้ๆของหนู นี่ไม่ใช่น้องชายหนูแท้ๆเต็มตัว แค่เกิดจากแม่คนเดียวกัน

แต่บรรยากาศโดยรวม พวกเราทั้งหมดก็สนิทกันดี ส่วนนึงก็มาจากฐานะของพ่อเลี้ยงคนใหม่ที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เรื่องเงินๆทองๆในครอบครัว เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องข้าวของเครื่องใช้ จึงไม่เป็นปัญหา ทุกวันเวลาจึงผ่านไปด้วยความเป็นปกติดี แต่ที่ไม่ค่อยปกติ คือเมื่อหนูรู้สึกตัวเองกำลังจะผ่านวัยเด็กซุกซน ก้าวล่วงสู่วัยก่อนแตกเนื้อสาว ความคิดความอ่าน ความผิดปกติในร่างกาย และความรู้สึกเป็นตัวบอกได้ดี การเรียนรู้และซึมซับจากภายนอก จึงเกิดขึ้นมากกว่าเดิมที่ผ่านมา

แต่เดิมก็ไม่ได้คิดอะไร..อาจเพราะยังเด็กอยู่มาก แม่รักหนูมากเพราะเป็นลูกสาวคนแรกและคนเดียว แม่ดูแลหนูมาเป็นอย่างดีตั้งแต่พ่อหนูยังไม่ทิ้งพวกเราไป หลังจากพ่อแท้ๆจากหนูไปแล้ว แม่ก็ยังดูแลและรักหนูเหมือนเดิม ซ้ำดูจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป หนูอาบน้ำกับแม่มาตั้งแต่หนูยังเด็กๆแล้ว เวลาผ่านไปทำให้หนูมีความรู้สึกเป็นปกติ เป็นส่วนนึงของชีวิต เรือนร่างเปลือยเปล่าของสองแม่ลูก ที่อาบน้ำด้วยกันมาเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อพ่อเลี้ยงและน้องชายที่กำลังตั้งท้องขึ้นมา ได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกัน หนูเองแม้ยังเด็กมากเกินกว่า จะรับรู้อะไรๆนอกจากภาพที่เห็น จึงยังไม่ได้คิดอะไร

เห็นแม่มีความสุขดี ทุกอย่างก็ดีไปด้วย รวมถึงหนูเองด้วยเช่นกัน ตอนที่แม่ยังท้องอ่อนๆไม่ใหญ่มากนัก หนูก็ยังได้อาบน้ำกับแม่เหมือนเดิม หนูตื่นเต้นมากที่จะได้เลี้ยงน้องที่อยู่ในท้องแม่ ทุกวันหนูเฝ้ารอดูน้องที่นับวันท้องจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนแม่คลอดได้เดือนสองเดือน หนูก็ไม่ค่อยได้อาบน้ำกับแม่แล้ว หลายครั้งก็จะอาบน้ำเอง หรือบางทีแม่ก็จะอาบน้ำให้ แต่แม่ก็ไม่ค่อยได้อาบน้ำพร้อมหนู จวบจนแม่คลอดน้องชายคนนี้ออกมา  หนูตื่นเต้นมาก รวมทั้งพ่อเลี้ยงของหนู ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของน้องเค้า และแน่นอนแม่ของหนูก็ดีใจ และตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกัน ที่ได้น้องชายคนนี้ตามที่คาดหวัง

ทุกอย่างดำเนินต่อไป ด้วยขั้นตอนการใช้ชีวิตครอบครัวแบบปกติสุข หลังจากน้องชายพอคลานได้ พอโตขึ้นมาหน่อย แม่พาน้องชายอาบน้ำรวมทั้งหนูที่เข้าอาบน้ำด้วยเหมือนเดิม แต่มีเพิ่มเข้ามาอีก คือพ่อเลี้ยงที่เข้ามาอาบน้ำด้วยกันทั้งหมด 4 คน แรกเริ่มเลยนั้นหนูเองตอนนั้นอายุได้เพียงประมาณ 6-7 ปี ก็ยังไร้เดียงสาในเรื่องต่างๆอยู่ ด้วยความสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกันมา จึงทำให้ค่อนข้างปกติ จะแปลกตาบ้าง ก็ตอนแรกๆที่ได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็น แต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไรเพราะยังเด็กอยู่

แม้จะไม่ใช่บ่อยหรือทุกครั้งไปที่อาบน้ำด้วยกันสี่คน แต่พอหนูโตมาสิบปีเศษแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมเข้าอาบน้ำด้วยกันอยู่ อีช่วงนี้หนูเองเริ่มมีความคิดเห็นที่แปลกหูแปลกตาออกไปแล้ว แม้จะรู้สึกขัดๆอยู่บ้าง แต่เมื่อแม่ของหนูเองก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดข้องแต่อย่างใด หนูด้วยความคุ้นเคยและในฐานะลูก จึงไม่ได้ขัดข้องด้วยเหมือนกัน หนูเห็นในความแตกต่างของทั้งอวัยวะที่ต่างกันของแต่ละเพศ และในขนาดที่ต่างระหว่างวัย แม่หนูมีทั้งหน้าอกและเรือนร่างที่สมส่วนเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แต่ด้วยวัยที่ไม่มากนัก รวมถึงหน้าตาและรูปร่างที่ยังสาวสะพรั่งอยู่ จึงเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆหลายๆคน แม้จะมีหนูแล้วน้องชายคนนึงก็ตามที จนมาเจอพ่อเลี้ยงคนนี้ แม่มีพ่อหนูตั้งแต่ยังวัยรุ่นอยู่ แต่ด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาด จึงต้องลงเอยด้วยแบบนี้

ต่างกับของหนูที่ทุกอย่างยังเด็กอยู่ หน้าอกก็มีแค่ตุ่มเม็ดหัวนมปูดบวมแค่นั้น ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเหมือนวัยแตกเนื้อสาวหรือวัยรุ่นกัน ตรงเนินจิ๋มยังเนียนโล่งปราศจากขนขึ้นเหมือนของแม่ แม้จะยังดูเด็กอยู่ก็ตาม แต่ความรู้สึกส่วนตัวก็รู้สึกอาย รู้สึกหวง ไม่อยากให้ใครได้เห็นเรือนร่างของตัวเอง ที่ล่อนจ้อนอย่างนี้ ส่วนของพ่อเลี้ยงที่หนูเองก็โตมาด้วยกันแบบปกติ จึงไม่ได้มีความรู้สึกห่างเหินแบบพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยง ความผูกพันร่วมกันมาพร้อมหน้าพร้อมตา จึงผูกกันมาเหมือนเป็นผู้ให้กำเนิดหนูมาด้วยเช่นกัน ด้วยหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วัยเด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จวบจนโตมาพอรู้เรื่องรู้ราวมากขึ้น เรือนร่างอันเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของพ่อเลี้ยง จึงเป็นที่คุ้นตาพอสมควร

หุ่นพ่อตัวเล็กๆขาวๆสุภาพเรียบร้อย ใจดีและมีน้ำใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส ขยัน ทำงานสารพัดทั้งงานนอกบ้านและงานในบ้าน เป็นหัวแรงหลักของที่บ้าน โดยที่แม่และลูกๆทั้งสองไม่ต้องเดือดร้อน หรือออกแรงทำอะไรให้ต้องเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด ยามที่พ่อแก้ผ้าออก จนเหลือแต่ตัวเปล่าๆ ที่อยู่ในห้องน้ำพร้อมหน้าพร้อมตากัน สิ่งที่เห็นแตกต่างที่พอรู้ คือผู้ชายไม่มีหน้าอกที่ออกล้นเป็นลูกๆออกมา เหมือนของผู้หญิง แต่สิ่งที่ทดแทนคือเบื้องล่างที่เป็นดุ้นห้อยออกมาเหมือนงวงช้าง โดยมีขนขึ้นปกคลุมพื้นที่ตรงเนิน และมีไข่ห้อยเป็นพวง บางครั้งหดบางครั้งเหี่ยว ได้แต่เห็น ส่วนคำถามหรือข้อสงสัย ก็ได้แต่เก็บไว้ภายใน ไม่กล้าถามใคร แม้กระทั่งแม่แท้ๆของตัวเอง

ส่วนของน้องชายที่แม้จะโต พูดคุยรู้เรื่องถึงวัยเข้าเรียนแล้วก็ตาม อย่างว่าแหละ..เด็กก็คือเด็ก เนื้อตัวล่อนจ้อน ไอ้จู๋เล็กกระจิ๊ดเดียว เห็นแล้วก็น่ารักดี พวกเราทั้งสี่คนอาบน้ำพร้อมๆกัน โดยแม่จะเป็นตัวหลักที่เป็นคนคอยถูสบู่ล้างตัวให้กับทั้งหนูและน้อง ซึ่งพ่อเลี้ยงก็เป็นคนอาบน้ำ ให้ทั้งกับหนูและน้องด้วยเหมือนกัน เวลาผันผ่านมา ทำให้หนูเองไม่รู้สึกปฏิเสธน้ำมือ รสสัมผัสที่พ่อลูบไล้สบู่ตามเนื้อตัวให้หนู กลับกันหนูต่างรู้สึกดีด้วยซ้ำไป ที่ทั้งพ่อและแม่อาบน้ำให้หนู กิจกรรมในห้องน้ำที่อาบน้ำพร้อมหน้ากันทั้ง 4 คน เป็นช่วงเวลาที่หนูเองรู้สึกสนุก และเพลิดเพลินไปด้วยทุกครั้ง จนเหมือนรู้สึกว่าถ้าช่วงเวลาไหน มันผ่านไปโดยที่พวกเราทั้ง 4 คนไม่ได้อาบน้ำด้วยกั นเกินวันสองวัน หนูจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างในชีวิต

พอหนูอายุได้ 13 ปีแล้ว แต่ก็ห่างเหินกิจกรรมอาบน้ำร่วมกันมาปีกว่าแล้ว ห่างเหินกิจกรรมที่หนูจะต้องเปิดเผยเรือนร่าง ให้พ่อแม่รวมทั้งน้องชายให้ได้เห็น เนื่องจากหนูมีความรู้สึกที่ผิดแผกออกไป สังเกตจากเพื่อนๆของหนูที่โรงเรียน หลังจากพูดคุยกันประมาณเรื่องพวกนี้ ก็ไม่เห็นมีใครเค้าลึกซึ้ง แก้ผ้าโทงๆอะไรขนาดนั้น แต่เพื่อนๆก็ไม่รู้เรื่องของหนูหรอกนะ หนูไม่ได้เล่าให้ใครฟังเรื่องพวกนี้ อีกอย่างร่างกายหนูก็รู้สึกเปลี่ยนแปลงไป ทั้งเต้านมที่ออกจะบวมเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แม้จะยังไม่เป็นเต้านมให้เห็นเต็มที่ สะโพกหนูเริ่มผายออก เอวเริ่มเว้าได้สัดส่วน ผิวพรรณเริ่มเปล่งปลั่ง ดูกำลังแตกเนื้อสาว

ส่วนจิ๋ม..ดูโหนกนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด จนบางครั้งหนูยังรู้สึกเป็นปมด้อยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเวลาใส่กางเกงขาสั้น หรือใส่กางเกงยีนที่ออกจะรัดรูปเล็กน้อย มันโหนกออกมาเป็นรูปเป็นร่างเลยแหละ แล้วยิ่งตอนใส่กระโปรงนะ เวลาเดินสวนกับลมที่พัดเข้าทางด้านหน้า หนูรู้สึกว่ามันเป็นสัดส่วนอย่างเห็นได้ชัดเลย และที่สำคัญหนูเริ่มมีขนขึ้นตรงนั้นบ้างแล้ว ก็มีขึ้นมานิดหน่อยไม่มากนัก ซึ่งมองดูก็ยังเห็นเป็นร่องเป็นรูปเป็นร่างได้ชัดเจนอยู่ หนูมีความรู้สึกอาย รู้สึกหวง ไม่อยากให้ใครได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของหนู อีกอย่างเวลาหลังเลิกเรียน หนูก็กลับบ้านช้ากว่าเดิมบ้าง ทั้งอยู่เล่นที่โรงเรียนทั้งอยู่เล่นบ้านเพื่อน ระหว่างทางอะไรหลายอย่าง ตอนเช้าก็อาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน เรียกว่าจันทร์ถึงศุกร์ก็ไม่ค่อยมีเวลา ยิ่งเสาร์อาทิตย์ก็มักออกเล่นบ้านเพื่อนบ้าง เพื่อนมาบ้านบ้าง ตามประสาเด็กสาวที่กำลังรักสวยรักงาม

ส่วนที่บ้านนั้นก็คล้ายๆเดิม หนูยังเห็นอยู่เรื่อยๆ เริ่มโตมาก็พอนึกคิดได้บ้าง รู้สึกว่าพ่อกับแม่จะชอบแนวนี้เป็นพิเศษ หนูไม่ได้เห็นพ่อกับแม่แค่อาบน้ำพร้อมๆกัน แค่กับหนูกับน้องชายแค่นั้น แม้ตอนนี้หนูจะไม่ได้อาบน้ำพร้อมๆกัน แต่น้องชายที่ดูโตแล้วก็ยังอาบน้ำพร้อมๆกันอยู่ เท่านั้นไม่พอ..หนูยังเห็นแต่ละคนเดินโทงๆกันออกมาจากห้องน้ำ ออกมายืนเช็ดตัวแต่งตัวแบบล่อนจ้อนอยู่นอกห้องน้ำ ซึ่งถามว่าแปลกมั้ย? ก็คงตอบว่าไม่แปลกหรอก เพราะแต่ก่อนสมัยหนูอาบน้ำด้วยกันก็แบบนี้แหละ แต่หนูว่าตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นแล้วนะ หนูเองก็โตแล้ว น้องชายก็เริ่มโตแล้ว ไม่รู้สิบอกไม่ถูก

เท่านั้นยังไม่พอ หลายครั้งที่เห็นพ่อหรือแม่เดินออกมาจากห้องแบบที่แก้ผ้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกมาเข้าห้องน้ำก่อนเข้านอน ไม่ว่าจะเป็นการตื่นกลางดึก มาเข้าห้องน้ำหรือกินน้ำ หรือตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมา หลายครั้งหรือแทบจะเรียกว่าเป็นประจำ ก็ยังได้ที่ทั้งพ่อและแม่เดินเปลือยกาย ล่อนจ้อนออกมาจากห้อง ทั้งออกมายืนชงกาแฟ ทั้งนั่งจิบกาแฟที่โซฟา ทั้งเดินไปเดินมา หนูเห็นแทบจนชินสายตาทั้งพ่อและแม่ แต่ก็อดนึกไม่ได้ เพราะมันรู้สึกแปลก ถ้าต้องเทียบกับครอบครัวอื่น จริงๆหนูไม่รู้หรอกว่าของคนอื่นเป็นยังไงบ้าง แต่เท่าที่เคยคุยกันกับเพื่อนๆ หรือจากสื่อต่างๆก็ไม่เห็นเค้าทำกันอย่างนี้

แล้วก็เคยเห็นนะไม่ใช่ไม่เคยเห็น ไอ้จู๋ของพ่อเลี้ยงน่ะ บางครั้งมันก็แข็งตัว ใหญ่กว่าเดิมตั้งหลายเท่า บางครั้งก็เหี่ยวหดหัวห้อยเดินโตงเตงๆไปมา แม่เองก็ชอบซะเหลือเกินที่จะหยอกล้อกันกับพ่อ จับโน่นจับนี่ หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ บางครั้งเหมือนหนูกับน้องชายไม่ได้อยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้เลย ก็เรียกว่าทำเอาหนูเขินไปบ้างก็มีเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่า เห็นแม่มีความสุขดีก็ดีไปด้วย แล้วน้องชายหนูก็ชักติดนะ แม้จะยังไม่โตเท่าไหร่นัก เห็นเสาร์อาทิตย์นั่งดูการ์ตูนดูหนังอยู่หน้าทีวี ก็แก้ผ้านั่งดูอยู่อย่างนั้นแทบทั้งวันไม่รู้สึก หนูเห็นแต่ละคนแก้ผ้าอยู่ในบ้านซะชินตาแล้ว บางครั้งก็ต้องเรียกว่าเอียนก็มีเหมือนกัน

หนูเองก็ถูกชักชวนทั้งจากแม่และพ่อ รวมถึงน้องชายด้วยเหมือนกัน แต่หนูเองก็ปฏิเสธอยู่เรื่อยไป โดยทำตัวเป็นเร่งรีบที่จะออกไปข้างนอก ตามนัดกับเพื่อนๆที่นัดกันไว้แล้ว อะไรประมาณนั้น หรือเสาร์อาทิตย์ก็จะรีบตื่นมาเข้าห้องน้ำก่อน รีบอาบน้ำก่อน ซึ่งก็มีเหมือนกันในจังหวะที่หนูกำลังนั่งส้วมอยู่ แล้วแต่ว่าใครเร่งรีบ ก็จะมายืนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งเป็นประตูเดียวกัน แม้น้ำที่อาบจะไม่กระเด็นก็ตามที แต่หนูก็รู้สึกมันขัดๆกัน อึไม่ออก ไม่เหมือนคนอื่นๆ..หนูกำลังอาบน้ำอยู่คนเดียว ด้วยความปวดจนทนไม่ไหว โดยเฉพาะน้องชาย เค้ารีบแจ้นมานั่งส้วมเลย หลายครั้งที่หนูเองก็ยังไม่เรียบร้อย แต่ก็ต้องถอนตัวจากการอาบน้ำออกไป เนื่องจากอายน่ะนะ

แล้วอีกอย่างที่เห็นออกบ่อย คือทั้งพ่อและแม่เค้าชอบแต่งขนตรงนั้นกัน บางครั้งก็เล็มขนซะบางติดเนื้อเลย บางครั้งก็โกนออกเลยก็มีให้เห็น หนูล่ะอ๊ายอาย อายแทนเลย ก็เวลาที่เค้าโกนออกแบบเกลี้ยงเกลาเลยน่ะนะ มันเหมือนของเด็กเลย เห็นของแม่หนูก็นึกถึงตัวหนู เห็นของพ่อก็นึกถึงของน้องชาย แรกๆที่เห็น..หนูก็รู้สึกขัดๆสายตา รู้สึกไม่กล้ามอง ทำเป็นไม่เห็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่หลังๆมานี่ เห็นจนบ่อย เห็นอยู่เรื่อย จนค่อยข้างเป็นเรื่องปกติ บางครั้งก็เห็นเวลาอาบน้ำพร้อมกันทั้งสามคน ซึ่งประตูห้องน้ำก็ไม่ค่อยปิดกัน แต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว  เดินผ่านก็ต้องเห็น นั่นเลยทั้งสามคนช่วยกันโกนช่วยกันเล็มกันยกใหญ่ ก็ชินตาแล้วล่ะ นี่ยังดีนะที่เวลาเพื่อนหนูมาเที่ยวเล่นที่บ้าน พ่อกับแม่ยังสวมใส่เสื้อผ้ากันบ้าง ไม่มีแก้ผ้าล่อนจ้อนโฉบไปโฉบมาให้หนูต้องอายเพื่อนๆ จะมีบ้างก็น้องชายของหนูที่ไม่สนไม่อายสายตาใคร ซึ่งเพื่อนๆก็มองว่าน้องชายหนูก็ยังเป็นเด็กอยู่ ก็ไม่ได้คิดอะไร

แต่สิ่งที่ทะลึ่งสุดๆคือ ไม่ว่าหนูกับน้องชายจะอยู่หรือไม่อยู่ คือถ้าอยู่พ่อกับแม่ก็เล่นหยอกกัน เหมือนกับว่าหนูกับน้องไม่ได้อยู่ด้วยตรงนั้น ไม่แคร์สายตาไม่แคร์ความรู้สึกที่หนูกับน้องจะได้เห็น คือเรือนร่างอันเปลือยเปล่านั้นน่ะ เห็นกันมานักต่อนักแล้ว แต่ลึกซึ้งกว่านั้น..คือการหยอกล้อเล่นกันระหว่างพ่อกับแม่ เล่นกันไปเล่นมา ไอ้จู๋ของพ่อมันแข็งตัวขึ้นมา แม่ก็ยังจับเล่นต่อ บางครั้งก็บอกให้พ่อจับไอ้จู๋ให้แม่เค้าดู อะไรประมาณเนี้ย ซึ่งหนูกับน้องก็อยู่แถวๆนั้น โดยเฉพาะน้องชายหนูที่เห็นเวลาเล่นอะไรกันอย่างนั้น ก็มักที่จะเข้าไปนั่งดูใกล้ เข้าไปถามไปซักตามประสาเด็กวัยกำลังเรียนรู้ หนูเองที่ไม่ได้แค่เห็น แต่กลับได้ยินได้ฟังคำอธิบายที่พ่อและแม่พูด บอกให้น้องชายได้ฟังด้วยความเป็นธรรมชาติ สอนให้รู้จักตัวเอง ให้รู้จักความเป็นธรรมชาติ

ซึ่งเจตนานี้ไม่ใช่แค่สอนกับน้องชายเพียงอย่างเดียว กับหนูด้วยเหมือนกัน ที่หนูรู้จักอะไรๆเกี่ยวกับอวัยวะ ความรู้สึก ความต้องการ การจัดการ ก็มาจากปากพ่อกับแม่เนี่ยแหละ แรกๆที่หนูได้ยินได้ฟังนะ หนูอายหน้าแดงเลย แต่ก็ดีเป็นความรู้ดี แต่หนูรู้สึกว่าหนูจะแก่แดดกว่าเพื่อน แต่หนูก็ไม่ได้แสดงออกอะไรนะ หนูรู้อยู่แก่ใจตัวหนูดี แค่กวาดสายตาไปทางไหน ก็พอรู้ไปหมด มองไปทางเพื่อนสาวก็รู้ว่าข้างในเป็นยังไง? มองไปทางเพื่อนชายทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ ก็รู้ดีว่าสิ่งที่อยู่ข้างในมันเป็นยังไง? รู้ว่าเค้าจะเป็นยังไงถ้ามีความต้องการอะไรอย่างนั้นขึ้นมา? อะไรประมาณเนี้ย


ที่บ้านพักบังกะโลริมชายหาด ที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติอย่างสุดๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน แต่ก็ไม่ใช่ว่าโดดเดี่ยวเดียวดาย พวกเราทั้ง 4 คนมาเที่ยวเล่นต่างจังหวัด ก็นานๆมาครั้ง เนื่องจากเวลาทั้งของพ่อและของแม่ไม่ค่อยมีวันหยุดตรงกันหลายวันมากนัก หนูสนุกกับการเล่นน้ำทะเลเป็นยิ่งนัก เคยคุยกับเพื่อนๆว่าอยากมาเที่ยวเล่นน้ำทะเลกัน แต่ไม่มีโอกาสจะมา คราวนี้หนูได้มากับครอบครัวก่อนแล้ว กลับไปจะไปเล่าให้เพื่อนๆฟัง จะไปเล่าให้เพื่อนๆอิจฉากับเลยแหละ ซึ่งคราวนี้พวกเรามีโปรแกรมอยู่กันอย่างน้อยก็ 2-3 คืน เรียกว่าทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในเมือง คงไว้กับความสุขสนุกอย่างสุดๆเต็มที่

วันแรกที่มาถึงก็บ่ายเย็นแล้ว หลังจากเล่นน้ำแล้ว พวกเราก็กลับมาอาบน้ำอาบท่ากัน ที่บังกะโลนี้ห้องน้ำค่อนข้างแคบ แค่สองคนก็อึดอัดแล้ว ไม่เหมือนที่บ้านเข้าไป 4 คนแล้วยังเหลือได้อีกสบายๆ ยังดีที่นี่มีห้องน้ำรวมอยู่ใกล้ๆห้องพัก แต่ละคนจึงแยกย้ายไปอาบกันคนละห้อง เนื่องจากแต่ละคนล้วนหิวอย่างเต็มที่ตาแทบลาย พ่อกับแม่เสียสละเข้าอาบที่ห้องน้ำรวม หนูกับน้องได้ใช้ห้องน้ำในบังกะโล ในนี้ไม่มีอะไรมาก เป็นหลังแบบหลังเดียว เปิดประตูจากส่วนที่นั่งเล่นด้านหน้า เข้าไปก็เป็นเตียงนอนขนาดใหญ่สองเตียง แล้วก็ห้องน้ำอยู่อีกมุมนึงของห้อง หนูกับน้องชายแย่งกันเข้าห้องน้ำเป็นที่สนุกสนาน แต่ยังไงน้องชายก็ไม่ยอม จะต้องอาบก่อนหรืออาบพร้อมกันอยู่ดี

สรุปหนูอาบน้ำพร้อมกันกับน้องชาย ซึ่งเค้าก็โตแล้วนะ โตกว่าเดิมมาก หนูก็เกือบ14 น้องก็9ปีแล้ว แต่ด้วยความคุ้นเคย น้องเค้าแก้ผ้าล่อนจ้อนอย่างไม่อายกัน หนูน่ะเหรอตอนแรกก็ตักอาบมันทั้งชุดเลย แล้วค่อยถอดเสื้อยืดออก ถอดกางเกงขาสั้นออก จนเหลือเสื้อซับในกับกางเกงใน หนูไม่กล้าถอดหมดหรอก..อายน้อง อาบน้ำไป..ความรู้สึกเหมือนครั้งแต่ก่อนก็กลับมา หนูรู้สึกอบอุ่น รู้สึกกลมกลืน รู้สึกเป็นกันเอง นี่หนูก็ไม่ได้อาบน้ำด้วยกันแบบนี้มานานแล้ว อาบไปอาบมาก็รู้สึกดีเหมือนกัน ว่าแล้วก็รีบๆอาบ เพราะหิวมากแล้ว

ความรู้สึกตัวเองเวลาอาบน้ำ ที่ต้องมีเสื้อผ้ามาสวมใส่แบบนี้ มันรู้สึกขัดๆยังไงพิกล เวลาถูสบู่ก็ลำบาก ช่วงบนก็ต้องสอดมือเข้าไปฟอกสบู่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วงล่างก็ต้องล้วงมือเข้าไปในกางเกงใน มือตัวเองที่ต้องลูบไล้เข้าด้านหน้า กางเกงในที่ต้องอ้าออกด้วยมือที่ต้องสอดใส่ ก้มมองลงไปก็เห็นลึกตามเข้าไปด้วยเหมือนกัน เวลาฟอกสบู่ที่บั้นท้ายก็คล้ายๆกัน เอวกางเกงในถูกอ้าออกด้วยมือที่สอดใส่เหมือนกัน ก็ต้องหันอีกด้านไม่ให้น้องชายเห็น มันน่าอาย เวลาล้างสบู่ออกก็ลำบาก มันเหมือนยังออกไม่หมด รู้สึกสบู่ยังติดอยู่กับเสื้อซับในติดอยู่กับกางเกงใน มันยังลื่นๆอยู่ ซึ่งก็ต้องคอยแย่งน้ำจากฝักบัวกัน กับน้องชายที่สนุกสนานมากที่ได้แกล้งหยอกล้อกัน ตามประสาพี่น้องแม่เดียวกัน

สังเกตดูไอ้จู๋ของน้องมันแข็งตัวเล็กน้อย ทั้งๆที่มันมีขนาดเล็กนิดเดียวตามวัย ดูแล้วก็น่ารักดีเหมือนกัน ก้มมองดูของตัวเอง กางเกงในที่บางอยู่แล้วเวลาโดนน้ำเข้าไปอีก มันก็แนบเนื้อเลย นอกจากที่มันจะแสดงออกมาถึงความโหนกนูนของจิ๋มหนูแล้ว เส้นขนไม่กี่เส้นที่เพิ่งขึ้นได้ไม่ยาวและไม่เยอะนัก ก็มองเห็นได้แม้จะไม่สังเกต เช่นเดียวกันร่องจิ๋มที่กางเกงในแนบเนื้อชิดสนิทผิว ก็เปรียบเหมือนไม่ได้สวมใส่กางเกงในไว้เลย สามารถมองเห็นได้อย่างสบายๆเช่นเดียวกัน ว่าแล้วหนูก็รีบอาบน้ำให้เสร็จ ด้วยเวลาอันรวดเร็ว หนูคว้าผ้าขนหนูมาห่อตัวแบบหลวมๆ พร้อมกับถอดเสื้อซับในและกางเกงในออก แล้วจึงผูกผ้าขนหนูให้แน่นกว่าเดิม ก่อนออกจากห้องน้ำ หนูซักเสื้อซับในกับกางเกงในด้วยน้ำเปล่า แล้วปล่อยให้น้องชายอาบน้ำต่อตามลำพัง

คิดดูเร็วหรือเปล่า? ยังไม่มีใครอาบน้ำเสร็จเลย หนูเช็ดตัวทาแป้งแล้วหาเสื้อผ้าสวมใส่ไว้ รอคนอื่นๆแม้จะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก เพราะถ้าเป็นที่บ้าน หนูเองจะมีห้องส่วนตัว อาบน้ำเสร็จ..นอกจากจะเช็ดตัวให้แห้งแล้ว ยังมีเวลาที่จะแก้ผ้าผึ่งพัดลมให้เนื้อตัวแห้งสบาย แล้วค่อยบรรเลงแป้งและเครื่องประทินผิวชนิดต่างๆแบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบอะไร มาที่นี่ก็ต้องรีบ เนื้อตัวยังแห้งไม่ค่อยดีนัก ก็ต้องทาแป้งหาเสื้อผ้าสวมใส่ เสร็จแล้วก็จะออกไปนั่งรอ ที่เก้าอี้ริมระเบียงด้านหน้าบังกะโล กำลังเปิดประตูออกไป เหลือบเห็นน้องชายอาบน้ำเสร็จพอดี กำลังเดินออกมา แหม..เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เดินออกมาล่อนจ้อนเลย "ทำยังกับอยู่ที่บ้าน" หนูแซวเค้า บอกว่า "ดูซิ คนข้างนอกเยอะแยะเลย ไม่อายเค้าเรอะงัย?" ว่าแล้วหนูก็ทำทีอ้าประตูให้กว้างขึ้น น้องชายท้าทายวิ่งมาที่ประตู พร้อมบอก "เอ้า..ใครอยากดูก็ดูเลย" แหม..ทะเล้นจริงๆเจ้าน้องคนนี้

ระหว่างที่หนูกำลังจะออกจากห้องไปรอด้านนอก น้องชายตัวดีก็บอกกับหนูทำนองว่าให้หนูเข้ามาข้างในก่อน จะทำอะไรให้ดู หลังจากคะยั้นคะยอครั้งสองครั้ง หนูเลยเปลี่ยนใจที่จะออกไป ในห้องน้องชายที่แก้ผ้าล่อนจ้อนต่อหน้าหนู ซึ่งก็ค่อนข้างปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเค้าจับไอ้จู๋ของเค้าเล่น แล้วชักว่าวให้หนูดู เค้าบอกว่าเค้าทำตามพ่อ เคยเห็นพ่อเค้าทำ ถ้าถามถึงหนูเองนั้นก็เคยเหมือนกันนะ ตอนที่แม่กับพ่อเค้าหยอกเล่นกันน่ะ เค้าก็ทำอะไรประมาณเนี้ย โดยเฉพาะอีตอนของพ่อแข็งตัว แม่ก็จะจับของพ่อแล้วก็ทำอย่างนี้แหละ แต่นี่มันอะไรกัน นอกจากเป็นเด็กเป็นเล็กอยู่ แล้วขนาดได้จู๋ของน้องชายก็ยังเล็กอยู่ด้วย มันก็แข็งตัวบ้างเหมือนกันนะ เพราะเห็นตอนปล่อยมือ ไอ้จู๋ของน้องชายก็ยังชี้โด่ชี้เด่อยู่ ทันทีที่รู้ว่าน้องชายจะให้ดูสิ่งๆนี้เพียงเท่านั้น หนูก็ดุ แล้วเร่งให้น้องชายรีบเช็ดตัว แล้วหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ พร้อมกับหนูที่เดินออกไปรออยู่ด้านนอก

เสร็จจากอาหารมื้อเย็น ตอนหัวค่ำที่พวกเราทั้ง 4 คนลุยกันซะเต็มที่ ด้วยความหิวอย่างสุดชีวิต หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนเป็นธรรมดา แม้หนูเองกับน้องจะง่วงและเพลียก็ตาม ก็ยังถูกคะยั้นคะยอให้นั่งกินบรรยากาศอยู่ริมทะเลต่อ ใช่ แม่กับพ่อน่ะมีความสุขดีอยู่หรอก แต่หนูน่ะสิง่วงจะตายอยู่แล้ว หลังจากรบเร้าอยู่นานสองนาน แม่กับพ่อก็พาหนูและน้องเข้านอนก่อน ส่วนแม่กับพ่อนั้นนั่งคุยกันอยู่ที่ระเบียงหน้าบังกะโล ส่วนหนูหลับไปตั้งแต่หัวถึงหมอนแล้ว เสื้อผ้าก็ไม่ได้เปลี่ยน ฟันเฟินก็ไม่ปรงไม่แปรงมันแล้ว เวลาง่วงเต็มที่แล้วมันก็อย่างนี้แหละ อะไรมาแลกก็ไม่ยอม

มาเคลิ้มๆอีกที รู้สึกตัวตื่นตอนกี่โมงกี่ยามก็ไม่รู้ เหลือบไปที่เตียงแม่ ก็เห็นกำลังนัวเนียกับพ่ออยู่ บรรยากาศในห้องพอมีแสงให้เห็นได้ค่อนข้างชัด ทั้งคู่เปลือยกายล่อนจ้อน ก็ถือว่าปกติสายตา แต่ไม่ปกติก็คือเตียงหนูที่นอนอยู่กับน้องชายนั้น อยู่ไม่ห่างกันนักกับเตียงของแม่ ซึ่งหนูเห็นกิริยาท่าทางได้อย่างถนัดสายตาที่สุด ภาพแรกที่ได้เห็นคือแม่เป็นฝ่ายกำลังบรรจงหอมแก้มพ่อ และเลื่อนใบหน้าลงต่ำมาเรื่อยๆ จากคางลงสู่หน้าอก และลงต่ำไปเรื่อยๆ สิ่งที่คิดว่าคงไม่กลับกลายเป็นจริง แม่กำลังอมไอ้จู๋ของพ่อ พร้อมกับขยับปากขึ้นลงๆอย่างเป็นจังหวะ หนูนอนนิ่งไม่กล้าขยับตัว ตาที่หรี่ดูเพียงเล็กน้อย คล้ายๆกับว่าจะหลับตาซะเลยก็ยังไม่ทำ จะลืมตาให้เต็มที่ก็กลัว ก็เลยต้องนิ่งเอาไว้อย่างนั้น

หลังจากนั้นสักพัก พ่อก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายอยู่ด้านบน พลิกตัวให้แม่นอนหงายบ้าง หนูหลับตาตั้งแต่เค้าเริ่มขยับตัวแล้ว จนมั่นใจก็ค่อยๆลืมตาขึ้นดูอย่างช้าๆ ไม่รู้สิ..แทนที่จะนอนนิ่งๆแล้วหลับไปซะ กลับทะลึ่งอยากรู้อยากดูอยากเห็นอยู่ได้ แล้วนี่ก็แม่ตัวเองแท้ๆ ทำไมถึงต้องอยากดูด้วย? หนูไม่รู้ใจตัวเองเลย ตอบคำถามตัวเองก็ไม่ได้ด้วย แต่ที่แน่ๆคือคืนนั้น ทำเอาหนูนอนแทบไม่หลับ บรรยากาศทุกบรรยากาศ ท่าทางทุกท่าทาง การกระทำแต่ละอย่าง ล้วนอยู่ในความทรงจำของหนูอย่างช่วยไม่ได้ นอกจากนั้น..หนูเองยังคิดไปถึงความรู้สึกที่ได้รับจากการกระทำเช่นนั้นเหมือนกัน คืนนั้นทั้งคืนแทบจะไม่ได้นอน แม้สิ่งที่เห็นจะเพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมงแล้วก็จบสิ้นไป พร้อมกับการนอนหลับไปทั้งๆที่ยังเปลือยอยู่ แต่หนูเองก็ยังไม่กล้าที่จะขยับตัวไปไหน ยังนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น แม้สายตาจะหลับลงแล้วก็ตามที แต่ในหัวนั้นกลับเต็มไปด้วยเรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อสักครู่นี้

แทนที่จะตื่นเช้าเหมือนที่เคยมา กลับเป็นฝ่ายถูกปลุก ลืมตาขึ้นมาก็เห็นตะวันขึ้นมาทอแสงให้เห็นแทบแสบตาแล้ว แม่เป็นคนปลุกให้ตื่น แต่หนูกลับไม่กล้ามองหน้าแม่ ไม่กล้าสบสายตา ความรู้สึกเมื่อคืนมันยังคอยตามมาติดๆ ว่าแล้วก็ลุกเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ในเมื่อในห้องเห็นแค่แม่อยู่คนเดียว ไม่ได้นึกว่าที่เหลืออยู่ที่ไหน? แต่ก็ต้องค้างอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ตะลึงกับความรู้สึก ทั้งๆที่แต่ละอย่างของแต่ละคนก็เคยเห็นมานักต่อนักแล้ว สงสัยเหตุการณ์เมื่อคืนมันคงตามหลอนอยู่ ก้าวขาไม่ออก ทั้งๆที่เบื้องหน้าก็คือพ่อเลี้ยงกับน้องชายกำลังยืนอาบน้ำกันอยู่ แล้วมือที่แม่เอื้อมจับมายังไหล่ของหนู ก็ปลุกสติกลับคืนมา

แม่ชวนหนูเข้าไปอาบน้ำพร้อมๆกัน โดยที่เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ที่แม่มาปลุกคือแม่เจตนาจะมาชวนให้หนูเข้าไปอาบน้ำพร้อมๆกัน ทันทีที่รู้ว่าแม่กำลังชวนเข้าไปอาบน้ำ ความสับสนและวกวนก็กลับเข้ามาหาหนูอีกครั้ง ความรู้สึกและสั่งการของหนูเหมือนขาดหายไปชั่วขณะ ในขณะที่กำลังพยายามทบทวนตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่เนี่ย กำลังทำอะไรลงไป หนูเองก็ถูกจับถอดเสื้อผ้าทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ออกจนเปลือยกายล่อนจ้อน แม่เป็นคนถอดเสื้อผ้าให้หนูอยู่หน้าห้องน้ำ หนูเองก็ยกแขนยกขาให้แม่ถอดเสื้อผ้าออกแต่โดยดี ไม่ได้ขัดข้องอะไรแต่ประการใด หนูรู้สึกเคลิ้มและทำตามที่แม่บอกให้ทำทุกอย่าง ชั่วโมงนั้นที่หนูแก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่ต่อหน้าทุกๆคน หนูไม่รู้ว่าใครมีปฏิกิริยายังไงบ้าง และที่แน่ๆหนูเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหนูกำลังทำอะไรลงไป

มารู้สึกตัวอีกที ที่พอมีสติกลับคืนมา ก็อีกตอนน้ำจากฝักบัวถูกรดลงบนตัวที่เปลือยเปล่า หนูก้าวเดินออกจากจุดนั้นได้ก้าวนึง แม่ก็คว้าแขนไว้ พร้อมกำชับให้อาบพร้อมกันเนี่ยแหละจะไปไหน หนูเองก็ไม่รู้อะไรดลใจหรือยังไงไม่รู้ มันสับสนในความรู้สึก จึงก้าวถอยกลับมาในจุดเดิม ในขณะที่พ่อเลี้ยงและน้องชายต่างอาบน้ำเสร็จ แล้วกำลังใช้ผ้าขนหนูซับตัว พร้อมกับเดินออกจากห้องน้ำไป ภายในที่ดูคับแคบอย่างอึดอัด ทำให้ค่อนข้างโล่งกว่าเดิมมาก ตอนนี้มีแค่แม่กับหนูเท่านั้นที่ยืนอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ โดยแม่ทำหน้าที่ฟอกสบู่ชำระล้างให้กับหนู หนูแทบแค่จะยืนเฉยๆเท่านั้นพอ ในขณะที่พ่อกับน้องชายต่างเช็ดตัวอยู่หน้าห้องน้ำ ที่ไม่ได้ปิดประตูไว้เหมือนเดิม ชั่วโมงนี้มันมึนไปหมด แม่สั่งให้ทำอะไร..หนูก็ทำตามทุกอย่าง

เสร็จจากการอาบน้ำ แม่ยังคงอาบต่อ ส่วนหนูคว้าผ้าเช็ดตัวที่แม่เตรียมไว้ให้แล้ว เอามานุ่งยืนรอแม่อยู่หน้าห้องน้ำ เหลือบเห็นพ่อกับน้องชายเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว ปะแป้งแล้ว หวีเผ้าหวีผมแล้ว ทำอะไรเรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งคู่กลับยังไม่สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนเป็นปกติ หนูเองที่ทำอะไรไม่ถูกด้วยความสับสน จึงยืนอยู่หน้าห้องน้ำ จนแม่อาบน้ำเสร็จ จึงจูงมือหนูไป แม่ชวนหนูเช็ดตัวไปพร้อมๆกัน ซึ่งแม่ก็เข้ามาช่วยเช็ดหัวเช็ดตัวให้หนูด้วย  เราสองคนกึ่งล่อนจ้อนกึ่งเปลือย พ่อกับน้องชายช่วยกันเตรียมอาหารเช้า แม่เร่งเร้าให้หนูรีบเช็ดตัว ปะแป้ง พอเสร็จเรียบร้อย แม่จูงมือให้หนูไปช่วยจัดเตรียมอาหาร

พวกเราสี่คนเปลือยกายล่อนจ้อนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเหมือนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ทุกคนก็เหมือนเดิม ไม่ได้ทะลึ่งตึงตัง ไม่ได้มานั่งจ้องมองอะไรกันอย่างออกหน้าออกตา ทุกคนทำตัวปกติอย่างที่เคย แต่ตัวหนูเองกลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น ความรู้สึกนึกคิดมันเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องหรือขัดข้องอะไร เหมือนอยากพูดแต่พูดไม่ออก พวกเราช่วยกันคนละไม่ละมือ หลังจากจัดเตรียมเสร็จ พวกเราก็ลุยอาหารเช้ากัน แม่พูดติดตลกจะให้ออกไปกินที่ระเบียงด้านหน้า

แต่ความเป็นจริงไม่กล้าออกไปอย่างนี้กันหรอก พวกเรานั่งล้อมวงกินกันอยู่ข้างใน แม่หนูน่ะเหรอนั่งขัดสมาธิเหมือนคนอื่นๆเลย เรียกว่าเห็นเข้าไปถึงเนื้อในเลย แต่นั่นก็เรียกว่าคุ้นเคยกันตลอดมาแล้ว มันก็เลยดูไม่ค่อยขัดกันเท่าไหร่ แต่สำหรับหนูนั่งอย่างนั้นคงไม่ได้แน่ จึงต้องเรียบร้อยหน่อยด้วยการนั่งพับเพียบ แต่ก็นั่นแหละ มันก็ไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่าง มันดีขึ้นเท่าไหร่หรอก เพราะรู้ทั้งรู้ว่าหนูเองก็ล่อนจ้อนเหมือนคนอื่น ๆ

แม้จะกินด้วยความรวดเร็วปานใด แต่เหมือนเวลาจะผ่านไปแต่ละวินาที ค่อนข้างช้ามากๆเลย หลังจากหนูกินอิ่มเรียบร้อย หนูเก็บจานชามของหนูก่อน แล้วขอตัวเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ปวดท้องหรือมีธุระอะไรหรอก แต่ความรู้สึกมันเหมือนรับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้ หนูยืนทำใจอยู่สักพักนึง ในนี้ไม่มีเสื้อผ้าหรือผ้าขนหนูที่จะให้ห่อหุ้มตัวให้เดินออกไปเลย นี่หนูจะต้องเดินล่อนจ้อนออกไปอย่างนี้อีกเหรอเนี่ย หลังจากทำใจได้ระดับนึง จึงเปิดประตูก้าวออกไป และนี่คือเซอร์ไพร้สที่ทุกคนเตรียมไว้สำหรับหนูโดยเฉพาะ

ใช่แล้ว วันนี้วันคล้ายวันเกิดหนู หนูครบรอบ14ปีพอดี นี่มันช่างประจวบเหมาะซะเหลือเกิน ทุกคนยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ ฉากแรกที่หนูเปิดประตูออกมา ก็ทำให้หนูตกใจกับร่างอันเปลือยเปล่าของแต่ละคนแล้ว สัญชาติญาณทำให้อุทานออกมาด้วยความตกใจเบาๆ พร้อมกับกุมเป้ากุมหน้าอกตัวเองเอาไว้ หลังจากนั้นแต่ละคนยื่นของขวัญให้หนูกันคนละชิ้น ก่อนมอบให้ก็มีขั้นตอนการอวยพร แล้วยังมีการถ่ายรูปตอนส่งมอบ รวมถึงถ่ายรูปในช่วงจังหวะต่างๆเอาไว้ด้วย หนูเองล่ะไม่อยากมีรูปตัวเองอยู่ในกล้องเลย มันอาจสร้างความอับอายได้ ถ้าตกอยู่ในมือของคนอื่น

กิจกรรมที่เหลือ ระหว่างที่อยู่เที่ยวกันก่อนกลับบ้าน แต่ละช่วงเวลาที่ไม่ประเจิดประเจ้อ ทั้งแม่และพ่อก็มักชวนหนูและน้องให้ล่อนจ้อน โดยที่แม่กับพ่อเป็นคนถอดเสื้อผ้าตัวเองออก ให้เห็นเป็นตัวอย่าง 2-3วันที่ไปเที่ยวด้วยกันมา เรียกว่าหนูเองก็เห็นของคนอื่นๆ ที่แบบว่าเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว มางานนี้ก็ได้เห็นแบบจะจะอีก และที่สำคัญเรือนร่างหนูเองกลับต้องให้คนอื่นได้เห็นอีก ยังดีนะ..ที่ทุกอย่างเกิดขึ้นแค่กับคนในครอบครัว ยังคิดเหมือนกันว่าถ้าแม่กับพ่อของหนูชอบเปิดเผยเรือนร่างให้คนอื่นๆ นอกจากคนในครอบครัวเราได้เห็นกันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หนูว่าหนูเองก็คงต้องทำตามที่แม่กับพ่อบอกอย่างเป็นแน่

หนูเหมือนไม่มีอะไรจะต้องอายแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็เหมือนกับเปิดเผยซะหมดเปลือกเลย ยังดีที่ไม่ถึงขนาดกับที่ต้องแหกให้ดูกัน ยังไม่ถึงขนาดที่จะมาจับมาล้วงอะไรกัน นี่ก็แค่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแค่นั้นเอง แต่ภาพที่ฝังตาฝังใจหนู ก็คือได้เห็นแม่กับพ่อเค้านัวเนียกัน มันเป็นอะไรที่เหนือคำบรรยายจริงๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียวตรงนั้นของตัวเอง และรู้สึกกลัวไปด้วยพร้อมๆกัน ไอ้จู๋ของผู้ชายจากที่รู้ ที่แม่กับพ่อเล่าให้ฟัง ก็บอกว่ามีขนาดประมาณเนี้ยแหละ โอ้โห..แล้วมันกว่าจะเข้าไปได้ในจิ๋มของหนู ยิ่งคิดยิ่งน่ากลัว...

และสิ่งที่ทำให้หนูรู้สึกน่ากลัว และหวาดระแวง คือในวันที่จะกลับ แม่กับพ่อก็มีกิจกรรมที่ทำให้แต่ละคนเปลือยกายล่อนจ้อนให้เป็นปกติ แต่แวบนึงของสายตาที่หนูไว้ใจมาตลอด คือพ่อเลี้ยงหนู ห้องน้ำที่แคบอยู่แล้ว จึงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าอาบน้ำ แต่นั่นก็ทำให้คนที่อยู่ด้านนอกก็ยังล่อนจ้อนอยู่ หนูเข้าอาบน้ำพร้อมๆกับแม่ แล้วแม่เกิดปวดท้อง จึงผละไปนั่งส้วมที่อยู่ใกล้ๆกัน ประตูห้องน้ำที่ไม่ได้ปิดไว้อยู่แล้ว ทำให้ตำแหน่งที่หนูยืนอาบน้ำถูกเปิดกว้าง สำหรับการผ่านไปผ่านมาที่หน้าประตู ฉับพลันหนูก็เห็นพ่อยืนอยู่ด้านหน้าประตูห้องน้ำ จุดนั้นแม่จะมองไม่เห็นพ่อ เพราะมีกำแพงบังอยู่ แรกที่หนูเหลือบเห็นหนูก็ไม่ได้คิดอะไร แต่หันไปอีกทีพ่อก็ยังยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับจ้องมองมาทางหนู ในมือของพ่อจับไอ้จู๋ของตัวเองจนแข็งตัว ตาก็จ้องมองมาทางเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของหนูที่หนูเพียงหันข้างให้

สายตาที่หนูรู้สึกน่ากลัวของพ่อ ที่จ้องมองเหมือนจะกลืนกินหนูให้ได้ มันรวดเร็วมาก สายตาพ่อก็จ้องมองมาทางหนู มือข้างนึงของพ่อจับไอ้จู๋แล้วชักว่าวให้ตัวเอง แล้วมืออีกข้างนึงก็แบมือรองรับน้ำที่ออกมาจากไอ้จู๋พ่อ  แล้วพ่อก็หลบฉากจากหน้าประตูห้องน้ำไป หนูได้แต่ตาค้างที่ได้เห็นสิ่งๆนั้น ตะลึงกับความรู้สึกที่ได้เห็นพฤติกรรมอย่างนั้น มันรวดเร็วจนทำอะไรไม่ถูก เรื่องนี้หนูไม่ได้บอกใคร และคาดว่าทั้งแม่และน้องชายก็คงไม่รู้เหมือนกันสำหรับเรื่องนี้ เห็นแม่ออกจะรักและเทิดทูนพ่อเลี้ยงมาก ครั้นจะเอ่ยปากออกไป แม่คงไม่เชื่อตามที่หนูบอกเป็นแน่

ตลอดระยะเวลาการเดินทางกลับบ้าน หนูภาวนาให้เดินทางกลับถึงบ้านเร็วๆ ภาวนาอย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวหนูเลย ขอให้ทุกอย่างปกติสุขดี ตอนนี้หนูไม่ไว้ใจพ่อเลี้ยงคนนี้แล้ว สายตาคู่นั้นที่จ้องมองมาทางหนู มันน่ากลัวและติดตราอยู่ในความทรงจำตลอด ภาพที่เห็นแม่กำลังนัวเนียกับพ่ออยู่นั้น ถูกลบข้อมูลและแทนที่โดยอัตโนมัติ ซึ่งพ่อเองก็แสดงออกกับทุกๆคน ด้วยอาการและท่าทางปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สำหรับหนูเองนั้นไม่กล้า แม้กระทั่งจะสบสายตาหรือเดินเฉียดไปใกล้ๆเลย


ระยะเวลาจากช่วงจังหวะที่เห็นสายตาอันน่ากลัว ของพ่อเลี้ยงตั้งแต่วันนั้นแล้ว ทุกอย่างปลอดภัยดี เพราะไม่นานหลังกลับจากการไปเที่ยวครั้งนั้น หลังจากจบเทอมสุดท้ายของชั้น ม.3 หนูก็แยกตัวออกไปพักอยู่กับเพื่อนสาวที่หอพัก โดยให้เหตุผลกับแม่และคนอื่นๆว่าใกล้กว่า สะดวกกว่า ประหยัดกว่า ทุกอย่างดีกว่า ในขณะที่เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนพาณิชย์ ที่ออกจะไกลกว่าที่เรียนที่เดิมเยอะ ทันทีที่ได้รับอนุญาต หนูรู้สึกปลอดโปร่งและปลอดภัยอย่างที่สุด แม้แม่จะคอยกำชับและคอยเตือนเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เมื่อต้องออกไปดูแลรักษาตัวเอง

และทุกอย่างก็ปกติดี ทุกวันนี้เรื่องเรียน หนูก็ไม่เป็นรองใคร เพื่อนฝูงก็ปกติไม่ได้คบใครที่เกเร สังคมที่อยู่ก็ปลอดภัยดี ทุกอย่างดำเนินชีวิตไปตามปกติวัยรุ่น แต่เรื่องลับๆนั้นอย่าบอกใครเชียว เห็นติ๋มๆอย่างนี้นะ หนูหุ่นดีนะ หนูภูมิใจกับสรีระของหนู หน้าอกหน้าใจของหนูสวยได้รูปมากเลย เอวที่กระชับ หน้าท้องที่ค่อนข้างแบนเรียบ สะโพกผายกำลังดี จิ๋มโหนกนูนเหมือนเดิม แต่ไม่คิดเป็นปมด้อยแล้ว ภาคภูมิใจซะมากกว่า ขนขึ้นพองาม ไม่ถึงกับดกมากซะน่ากลัว ทุกอย่างสวยสมบูรณ์แบบ ตามแบบฉบับวัยรุ่นผู้โชคดี

หนูแต่งตัวค่อนข้างเชย ไม่ค่อยตามกระแส เพราะรู้ดีว่านี่คือช่องทางที่จะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างได้ หนูเลือกเพื่อนที่จะคบหา คบเพื่อนดีก็ดีไป คบเพื่อนแย่อาจนำเราลงนรกได้ ทุกวันนี้หนูยังปกติดี แม้แต่นิ้วของตัวเองก็ยังไม่ได้กล้ำกลายเข้าไปเลย แต่อย่างว่าแหละ มนุษย์นะไม่ใช่ก้อนอิฐ ถ้าจะเรียกว่าใจแตกก็พอได้ เพราะทุกอย่างที่ต้องการ อยากรู้อยากเห็น หนูได้จากในเน็ตทั้งนั้นเลย หนำซ้ำยังต้องตอบคำถามเพื่อนสาวที่อยู่ห้องเดียวกันอีก หนูรู้อะไรดีๆเยอะ แต่ก็อย่างว่าแหละ หนูเก่งนะ แต่เก่งแค่ทฤษฎีแต่เรื่อง"ปฏิบัติ" นั้นไม่รู้เรื่องเลย





ppherbalife