ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สางแค้นภาค 2(12/พบเจอ)

เริ่มโดย twintower, พฤศจิกายน 19, 2021, 11:47:55 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

สางแค้นตอนนี้ไม่มีบทเสียวนะครับ

twintower
----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ที่สนามยิงปืน แคนที่กำลังใช้ ปืนกล็อก17เล็งไปที่เป้าวงกลมที่ห่างออกไป 25 เมตร และยิงไปทีละนัด จนครบ 5 นัด ทุกนัดนั้นเข้าตรงกลางเป้าอย่างแม่นยำ แล้วหันไปมองคนที่ยืนอยู่ช่องยิงปืนข้างๆ อีกฝ่ายหันมามองแล้วยิ้มให้ก่อนจะยก ซิกซาวเออร์พี320 ขึ้นมายิงบ้างจนครบ 5นัด ซึ่งทุกนัดนั้นเกาะกลุ่มตรงกลางเป้าเช่นเดียวกัน

"ผมว่ายังไงก็เสมอกันครับหมอ"

แคนบอกไปยังหญิงสาวขณะถอดที่ป้องกันหูที่ครอบอยู่ออก เหมือนกับอีกฝ่ายที่ทำแบบเดียวกัน

"อ้อมก็ว่าแบบนั้นละคะ ระยะ 25เมตร สำหรับพวกที่เล่นปืนถ้าได้ฝึกยิงบ่อยๆแบบอ้อม มันก็ไม่ยากเท่าไหร่คะ แต่อ้อมรู้ดีว่ายังไงก็สู้ผู้การไม่ได้อยู่ดีคะ"

หมออ้อมนั้นพูดไม่หมด ใจจริงเธอหมายถึงพวกเป้าเคลื่อนที่และยิ่งถ้ามีความกดดันเรื่องความเป็นความตายมาด้วยแล้วมืออาชีพอย่างแคนต้องทำได้ดีกว่าเธออย่างแน่นอน ทั้งคู่มาเจอกันที่สนามยิงปืนโดยไม่บังเอิญ เพราะฝ่ายหญิงนั้นพยายามมาดักรอแคนอยู่หลายครั้งแล้วที่สนามยิงปืนแห่งนี้ เพราะเธอไปถามเจ้าหน้าที่ของสนามยิงปืนที่บอกว่าแคนมายิงปืนที่นี่เป็นประจำ หลังจากวันนั้นที่เจอกันที่ร้านเพชร ที่ทำให้เธอพอจะรู้เรื่องของแคนมากขึ้นจากตูนรวมถึงฐาที่มาใช้บริการที่คลีนิคเธอ หมออ้อมยอมรับว่าเธอนั้นสนใจในตัวของแคนมาก เธอถึงกับลงทุนชวนเพื่อนมาที่สนามยิงปืนนี้บ่อยครั้งเพื่อหวังจะได้เจอแคนแต่ที่ผ่านๆมา เธอผิดหวังตลอดเพราะไม่เจอกับแคน จนมาวันนี้เธอกับเพื่อนๆมากันนานแล้วจนจะพากันกลับ หมออ้อมพยายามซ่อนความผิดหวัง แต่ขณะที่เธอกำลังเตรียมจะเก็บปืน แคนนั้นโผล่มาดี หมออ้อมจึงรีบเดินไปทัก

"สวัสดีคะผู้การ"

"สวัสดีครับหมอ"

อีกฝ่ายตอบรับด้วยสีหน้าปกติแต่คนที่เข้าไปทักแทบจะระงับความดีใจไว้ไม่อยู่ พอแคนทำท่าจะขอตัวไปซ้อมยิงปืน หมออ้อมจึงฉวยโอกาส ขอดูการยิงปืนของแคนเพื่อเทียบกับตนเองเหมือนเป็นการขอประลองกลายๆ โดยเพื่อนๆเธอนั้นยืนเชียร์อยู่ไม่ห่างออกไปนัก แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาไม่นานเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้หมออ้อมนั้นอิ่มเอมใจอย่างมากและก่อนที่เธอจะกลับ หมออ้อมได้ขอเบอร์ของแคนโดยอ้างว่าเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องยิงปืน ซึ่งแคนไม่ปฏิเสธ พอได้เบอร์จากแคนเธอรีบยิงเบอร์ของเธอไปให้แคนทันที และมันเป็นเบอร์ส่วนตัวที่มีคนรู้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น  ก่อนที่หมออ้อมกับเพื่อนจะกลับ ระหว่างเดินไปที่รถ เธอถามไปที่เพื่อนๆของเธอ

"เมื่อกี้เชียร์ใคร"

"ไม่มีใครเชียร์แกหรอกย่ะ พวกฉันเชียร์ผู้การรูปหล่อคนนั้น"

"ไอ้พวกนี้ ทำไมเป็นคนแบบนี้"

"แต่แกก็ยิงแม่นสูสีกับเขานะ"

"ไม่หรอก ถ้ายิงต่อไปฉันแพ้แน่ ประสบการณ์ ความนิ่งมันต่างกันเยอะ"

เธอบอกเพื่อนๆไปด้วยรอยยิ้ม รอคอยมาหลายครั้งแม้วันนี้จะได้คุยกันไม่มากเท่าไหร่แต่อย่างน้อยก็ได้เบอร์โทรศัพท์ของชายหนุ่มที่สนใจมาแล้ว ส่วนแคนนั้นซ้อมยิงปืนอยู่โดยไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่มองมา แต่มีสายตาของหญิงสาว 2คู่ที่มองมาอย่างสนใจและจ้องมองมาตั้งแต่ที่แคนเดินเข้ามาแล้ว พอช่วงจังหวะที่แคนเลื่อนเป้ากระสุนเพื่อมาเปลี่ยน หญิงสาวคนหนึ่งได้พูดขึ้น

"ไปมุก"

นุ่มนิ่มบอกมาที่บอดี้การ์ด มุกดาเดินนำเจ้านายสาวสวยไปที่แคน

"สวัดดีคะผู้การแคน ไม่แน่ใจว่าผู้การการจะจำได้ไหม"

มุกดาเริ่มทักทายแคนก่อน แคนหันมามองเหมือนจะทบทวนความจำก่อนจะตอบ

"จำได้ครับ หมวดมุกดานี่เองสบายดีนะครับ แล้วนี่มาซ้อมเหมือนกันหรือครับ"

"ใช่คะ แล้วพอดีเจ้านายของมุกอยากจะหัดยิงปืนด้วยคะ ตอนนี้มุกออกมาทำงานเอกชนแล้วคะผู้การ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เชียงราย"

"อ้อครับ"

แคนมองไปที่ผู้หญิงสาวหน้าตาสวย ที่ยืนข้างๆมุกดาดีที่แว่นกันสะเก็ดที่แคนสวมนั้นใช้กันแดดได้ด้วย ทำให้ไม่เห็นแววตาของแคน

"คุณประภัสสรหรือคุณนุ่มนิ่มคะ เป็นเจ้านายของมุกเอง"

นุ่มนิ่มเป็นฝ่ายทักแคนก่อน แคนตอบกลับด้วยมารยาท ทั้งคู่ทักทายกันชั่วครู่ก่อนที่นนุ่มนิ่มจะบอกกับแคนก่อนที่เธอจะกลับว่า

"ถ้าผู้การขึ้นไปเชียงรายแล้วมีเวลาว่างนิ่มอยากจะเชิญไปทานข้าวที่บ้านนะคะ มีเรื่องที่อยากคุยด้วยหลายเรื่องคะ"

แคนยิ้มรับแทนคำตอบ พร้อมนึกในใจว่าลูกสาวกำนันน้อมคนเล็กตัวจริงสวยกว่าในรูป เหมือนกับอีกฝ่ายที่มาเจอตัวผู้ชายที่ตนเองแอบหลงรูปมานานแบบใกล้ๆก็แทบจะเก็บอาการไม่อยู่เพราะเห็นใกล้ๆทำให้เห็นความหล่อของแคน ที่เธอยอมรับว่าเธอชอบผู้ชายที่หล่อแบบนี้ ระหว่างเดินไปที่รถ หญิงสาวได้หันมาถามบอดี้การ์ดสาว

"คิดว่าเขาพอจะเดาออกไหมว่าทำไมนิ่มถึงมาเจอกับเขาได้"

อีกฝ่ายส่ายหน้าพร้อมตอบ

"ไม่หรอกคะ"

นุ่มนิ่มยิ้มๆ เธอมั่นใจว่าแคนต้องรู้ว่าเธอคือใคร เธอนั้นตัดสินใจเองที่จะมาพบกับแคนหลังจากที่เธอกลับจากอเมริกา ตอนนี้ฝ่ายเธอดูจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปแล้ว ตอนที่เธออยู่อเมริกา ขบวนขนยาเสพติด 2 ขบวน ที่เป็นขบวนหลอกและขบวนขนจริง ถูกฆ่าทิ้งทั้ง 2 ขบวน เรื่องคนที่ตายเธอไม่สนใจ แต่มูลค่าความเสียหายของตัวสินค้าและเงินนั้นมันสูงพอสมควร ตอนนี้ประพาสกับทีมงานกำลังวางแผนใหม่อีกครั้งและพยายามหารอยรั่วให้ได้ แต่ยังหาจุดไม่เจอ และเธอสั่งให้ประพาสวางแผนตอบโต้อย่างรุนแรงอีกครั้งด้วย จากที่เธอเคยสั่งให้บัญชาไปสืบดูว่าแคนนั้นอยู่ที่ทำงานหรือไม่ แต่ข้อมูลที่ได้มาคือ แคนเข้าออกที่ทำงานตามปกติ มีไม่เข้าอยู่บ้าง แต่ช่วงเวลานั้นบัญชายืนยันไม่ได้ ทำให้เธอยังค้างคาใจเรื่องความสังหรณ์ใจว่าแคนอาจจะมีส่วนในเรื่องนี้

พอเธอกลับมาถึงเมืองไทยเธอตัดสินใจมาพบแคน จากตอนแรกเธอเองก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าเพราะอะไร ประพาสกับลิซ่าห้ามเธอแล้วพอรู้ว่าเธอจะมาพบกับแคน แต่เธอยืนยัน โดยอ้างว่าจะลองดูทีท่าของแคนเท่านั้น เพื่อแผนที่เธอวางไว้ ทั้งๆที่เธอเองก็ยังนึกไม่ออกว่าจะใช้เรื่องอะไร แต่นุ่มนิ่มรู้ดีว่าลึกๆในใจของเธอต้องการอะไร ในเมื่อความต้องการอยู่เหนือเหตุผลทั้งหมด เธอจึงตัดสินใจมาพบผู้ชายที่เธอหลงรูป ตามข้อมูลที่ได้มาแคนมักจะมาซ้อมยิงปืนที่นี่ ทำให้วันนี้เธอจึงลองเสี่ยงโดยชวนมุกดามาเพื่อดักรอและแคนมาจริงๆ ในสายตาของผู้หญิงด้วยกันเธอรู้ว่าผู้หญิงคนที่ยิงปืนแข่งกับแคนนั้นให้ความสนใจในตัวแคนอย่างมาก ทำให้เธอเกิดความหึงขึ้นมาโดยทีเธอไม่รู้ตัว แต่ระว่างที่นั่งรถมาสนามยิงปืนเธอนั้นพอจะคิดหนทางอะไรบางอย่างออกที่มาพบแคน เธอจึงเอ่ยปากชวนแคนไปพบเธอที่บ้านในเชียงราย

ส่วนแคนนั้นยังเดาไม่ออกว่าทำไมจู่ๆลูกสาวคนเล็กกำนันน้อมถึงมาพบตน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่และที่สะดุดใจคือทำไมต้องมีบอดี้การ์ดด้วย จะว่าเป็นแฟชั่นของพวกมีเงินก็มีทางเป็นไปได้แต่แคนไม่ปล่อยผ่านไปอย่างแน่นอนหลังจากวันที่ทีม B จัดการกับขบวนขนยาเสพติดที่เป็นขบวนหลอกผ่านมา 2อาทิตย์เศษๆ ซึ่งเป็นเวลาก่อนหน้าวันนี้5วัน แคนได้รับข่าวจากลุงพุดว่าจะมีการขนเฮโรอีนมาทางเรือขึ้นที่ภูเก็ตอีกครั้งแกได้ข่าวมาจากคนในพื้นที่ ซึ่งแคนได้วางแผนทันที และแคนพร้อมหน่วยพิเศษที่เลือกมาเฉพาะพวกทหารเรือกับนาวิกโยธินเดินทางที่ภูเก็ต ในช่วงดึกคืนนั้นสภาพอากาศเป็นใจคลื่นลมไม่แรงมากนักและฟ้าเปิดตามคำพยากรณ์อากาศ แคนได้นำเรือประมงลำหนึ่งที่ทางกองทัพเรือจัดหาให้ไปลอยลำรอคอยอยู่ไม่ห่างจากน่านน้ำพม่าเท่าไหร่ จนเรือประมงที่เป็นเป้าหมายวิ่งมาจากทางน่านน้ำพม่าโดยมี UAV ที่คอยบินวนเวียนอยู่ได้ส่งภาพมายังเรือลำที่แคนกับพวกคอยอยู่ทำเป็นวิ่งลากอวนตามปกติ จนเรือประมงลำน้ำวิ่งเข้าเขตน่านน้ำไทย  ภาพที่แคนเห็นจากจอคอมพิวเตอร์บนเรือประมงลำนั้นมีการติดอาวุธเป็นปืนกลหนักอยู่ทางหัวเรือพร้อมคนบนเรือที่มีอาวุธปืนกลมือกันแทบทุกคน แคนจึงตัดสินใจทันทีว่าจะไม่เข้าปะทะ

"นางนวลจากพิราบ1 ทางผมเห็นภาพแล้ว  ทางผมจะไม่เข้าปะทะคุณจัดการได้เลย"

"รับทราบ"

อีกฝ่ายตอบมาสั้นๆ และไม่นานนักภาพที่แคนเห็นเรือประมงลำนั้นมีแสงวาบขึ้นมาที่หน้าจอ พร้อมกับเสียงระเบิดและประกายไฟสีส้มจากสายตาของอีกหลายคนที่มองผ่านกล้องส่องทางไกล

"พิราบ 1 ออนทาเก็ต ที่เหลือคุณเข้าไปตรวจสอบอีกที ทางผมยังไม่เห็นอะไรมากนัก"

"รับทราบ"

แคนตอบรับก่อนจะสั่งให้คนขับนำเรือเข้าไปที่เป้าหมายทันที คืนนี้แคนได้ของเล่นใหม่โจเซฟส่งมาให้ทางทีมพิเศษ ปกติจะใช้โดรนแบบไม่ติดอาวุธแต่ครั้งนี้เป็น UAV แบบ MQ-9 ที่ติดอาวุธได้และจรวดนำวิถีแบบ  Hellfire  ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ ประมาณ 10 นาทีแคนได้เข้าถึงเป้าหมายที่ตอนนี้มีประกายไฟกระจายเป็นหย่อมๆ เรือลำนั้นแหลกละเอียด เศษซากเรือกระจายไปทั่วพร้อมกับซากศพ

"พิราบ 1 มีคนรอดตาย"

เสียงจากพันจ่าโทสมคิดตะโกนบอกแคน

"เอามันขึ้นมา ตรวจดูให้ทั่วว่ามีอีกหรือเปล่า"

แคนสั่งการไป ส่วนทีมงานใช้สปอต์ไลท์และไฟฉายขนาดใหญ่ในมือส่องหา จนเจอคนที่ยังไม่ตายอีก 2 คน มีคนหนึ่งอาการสาหัส ทันทีที่ขึ้นมาบนเรือ ท้องแขนด้านซ้ายของทั้ง 3 คนถูกตรวจสอบทันที แต่ทุกคนไม่มีรอยสัก เรือวิ่งวนอยู่ครู่หนึ่งและเก็บเฮโรอีนที่ลอยอยู่ในน้ำมาบางส่วน พอไม่เห็นคนที่รอดตายอีกแคนสั่งให้เรือวิ่งกลับเข้าฝั่งและแคนเดินไปตรงหน้าของ 2คน ที่ตัวเปียกโชกมีบาดแผลตามตัวพอสมควรและถูกจับนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นเรือ

"มีใครพูดไทยได้บ้าง"

"ผมครับ"

เสียงสั่นๆมาจากคนที่นั่งด้านขวา แคนยื่นห่อที่เก็บมาได้ในมือให้มันดู

"ที่พวกมึงขนนี่สูตรพิเศษ หรือธรรมดา"

ในมือของแคนคือห่อพลาสติกที่ภายในมีผงสีขาวเต็มถุงหน้าถุงคือตราพระจันทร์ครึ่งดวง จากสภาพของห่อที่เก็บได้จากน้ำทะเลนั้นมีการซีลมาอย่างดี น้ำไม่สามารถซึมเข้าไปได้

"พี่พูดเรื่องอะไรครับ"

ห่อเฮโรอีนในมือแคนฟาดไปที่หน้ามันทันที

"กูถามดีๆ อย่ามากวนตีนกู ตอบกูมา ครั้งนี้กูยังปราณีถ้ามึงไม่พูดเหมือนพวกมึงหลายตัวที่ถูกจับก่อนหน้านี้ กูจะให้มึงแดกน้ำทะเล ตรงนี้กฎหมายทำอะไรพวกกูไม่ได้ ตัวกูเป็นกฎหมาย"

คำขู่ของแคนมันได้ผล ไอ้คนที่ถูกตบรีบตอบทันที

"สูตรพิเศษทั้งหมดครับ"

"จะขนไปที่ไหน"

"ขนไปขึ้นที่ภูเก็ตครับ จะมีคนมารับปลายทางจะขนไปสหรัฐครับ"

"กี่กิโล"

"70ครับพี่"

"คำสั่งให้พวกมึงขนไปที่ท่าเรือหรือเปล่า"

"ไม่ใช่ครับพี่ จะมีเรือเร็วมารับก่อนจะถึงฝั่งครับ"

"แล้วมึงรู้หรือเปล่าว่าจะขนไปอเมริกาด้วยวิธีไหน"

"รายละเอียดผมไม่ทราบครับ แค่รู้ว่าจะไปขนพักกับพวกมาเฟียที่ภูเก็ตก่อนแล้วทางนั้นจะขนไปเองครับ ผมมีหน้าที่มาส่งเท่านั้นครับ"

"แล้วมึงผ่านพวกพม่ามาได้ยังไง"

"เราจ่ายเงินให้ทหารพม่าครับ และพวกนั้นช่วยก็คุ้มกันให้พวกเราจนมาถึงท่าเรือครับ"

"ใครเป็นคนติดต่อพวกพม่า"

คราวนี้มันเงียบ แคนไม่รอและไม่ถามซ้ำ แคนพยักหน้าไปยังทีมงาน ร่างของมันถูกจับกดให้นอนหงายบนพื้นเรือพร้อมเอาผ้ามาคลุมหน้า น้ำทะเลถูกตักมาราดหน้าทันที มันสำลักไม่หยุดหลังจากน้ำทะเลหมดถัง แคนหันไปมองอีกคนที่มองมาด้วยความหวาดกลัวแล้วจิกหัวไอ้คนที่นอนให้ลุกขึ้น

"บอกกูมาถ้าไม่บอกกูเอาหนักกว่าเดิม"

คราวนี้มันตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวก่อนจะรีบตอบเสียงสั่นๆพร้อมกับการสำลัก

"นายใหญ่ครับ ชื่อประพาส"

"นายมึงคือไอ้ประพาส งั้นแปลว่ามึงรู้จักกูสิ และพวกมึง3 ตัวไม่มีรอยสักแปลว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มล่าง"

"ครับพวกผมรู้จักผู้การดี"

มันตอบทั้งๆที่มันแปลกใจว่าแคนรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แคนสอบถามมันอีกร่วม 10 นาทีพร้อมอีกคนที่รอดที่เป็นคนพม่าที่ดูหวาดกลัวมากและยอมพูดอย่างง่ายดายหลังจากโดนขู่จากพันจ่าโทสมคิดที่พูดพม่าได้คล่องแคล่วบอกกับมันว่าจะถูกทำแบบเดียวกับเพื่อน  ข้อมูลนั้นตรงกันจนแคนได้ข้อมูลที่พอใจ คราวนี้พวกที่ขนยาไม่มีใครเสพยาแองเจิลมา  พอสอบสวนเรียบร้อยแคนพยักหน้าอีกครั้ง คนที่ยืนคุมตัวอยู่ด้านหลังมันทั้ง 2 คนใช้ปืนพกจ่อยิงที่หัวมันทั้งคู่ทันที ส่วนไอ้คนที่บาดเจ็บสาหัสนั้นตายไปก่อนหน้านี้แล้ว ศพมันทั้ง 3 ศพโดนทิ้งลงทะเล ข้อมูลเรื่องเฮโรอีนที่แคนได้มาก่อนหน้านี้มันตรงกันเพราะถ้าสังเกตดีๆ แบบธรรมดาตรงปลายเสี้ยวพระจันทร์ด้านบนจะมีจุดสีน้ำเงินเล็กๆ ที่ต้องดูดีๆ ส่วนถ้าเป็นแบบสูตรพิเศษจะเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งดวงตามปกติ นี่เป็นข้อมูลที่ได้จากจ่าจันทลา

การขนยาครั้งนี้เพราะเป็นคำสั่งของนุ่มนิ่มตั้งแต่อยู่ที่สหรัฐ ประพาสได้พยามยามขอเลื่อนไปก่อนเพราะแผนที่วางไว้ไม่รัดกุม แต่ทางลูกค้าไม่ยอมรอ นุ่มนิ่มจึงเร่งให้ประพาสหาวิธีซึ่งครั้งนี้ประพาสได้วางแผนอย่างรัดกุมที่สุดและหาคนที่มีฝีมือในกลุ่ม Aและ B รวมถึงจ้างพวกว้าแดงมาช่วยคุ้มครองด้วย ซึ่งการขนเฮโรอีนครั้งนี้มีคนรู้ไม่กี่คน แต่มาพลาดตรงที่ลูกน้องมาเฟียที่จะคอยรับเฮโรอีนมาพักที่ภูเก็ต เกิดเมาและไปพูดมากในผับแห่งหนึ่ง ทำให้พรรคพวกของลุงพุดที่เป็นเจ้าของผับแห่งนั้นรีบแจ้งมาที่ลุงพุด เพราะก่อนหน้านี้แกขอให้ช่วยดูว่าถ้ามีข่าวเรื่องขนยาเสพติดช่วยแจ้งแกด้วย พอเรื่องไปถึงแคนกับธงรบทำให้ธงกับทีมงานได้วางแผนขึ้นมา ในคืนที่มีการขนยามีตำรวจ ปส.และตำรวจในจังหวัดปูพรมตรวจค้นแหล่งทำกินของพวกมาเฟียทั่วภูเก็ตเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย

เพราะก่อนหน้านั้น 2 วัน ลูกน้องของมาเฟียที่เผลอหลุดปากถูกตำรวจอุ้มไปสอบที่เซฟเฮ้าส์ก่อนทำให้ทุกคนเข้าใจว่าที่มีการปูพรมตรวจค้นหาสิ่งที่ผิดกฎหมายเพราะลูกน้องของมาเฟียถูกตำรวจจับไปรีดข้อมูล แต่จริงๆมันเป็นการอำพรางเป้าหมายที่แท้จริงที่อยู่กลางทะเล และมันทำให้ประพาสนั้นเข้าใจไปว่าพวกขนยาที่ถูกฆ่ากลางทะเลเพราะตำรวจอาจจะได้ข่าวจากบรรดาพวกลูกน้องของมาเฟียที่ถูกจับ มันเป็นเรื่องบังเอิญและเป็นผลพลอยได้ของทางตำรวจ เพราะหลังจากนั้นทางธงรบให้มีการปล่อยข่าวให้เป็นข่าวลือว่า มีทหารเรือปะทะกับพวกค้ายากลางทะเลและพวกค้ายาต่อสู้ทำให้เรือขนยาถูกจมและคนที่มากับเรือนั้นตายหมด เรื่องนี้ทำให้ประพาสเชื่อว่าเป็นความจริง มันเป็นเหตุให้นุ่มนิ่มโมโหมากและให้วางแผนเพื่อตอบโต้ทางการให้หนักกว่าเก่า

หลังจากที่นุ่มนิ่มมาเจอกับแคนอีก 1 อาทิตย์ต่อมาในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนในฝั่งพม่า ห่างจากอำเภอแม่สายประมาณ 3 กิโล แคนกับทีม A กำลังดักซุ่มรอขบวนขนยาเสพติด และฟังรายงานจากโดรน

"พิราบ 1ข้างหลังห่างจากพวกมันประมาณ 20 เมตร มีกลุ่มใหญ่ตามมาอีกประมาณ 50 คน"

แคนมองไปยังภาพที่ปรากฏบนจอไอแพด และเห็นแบบเดียวกับที่ได้รับรายงาน กลุ่มที่ขนยานั้นมีประมาณ 15 คน แต่ด้านหลังมีกองกำลังติดอาวุธตามมาอีกประมาณ 50 คน ภาพจากโดรนนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน แคนบอกไปที่หมวดสิทธิชัย

"บอกให้พิราบ 4กับ 7ให้ถอนตัวไปที่จุดนัดพบ กำชับไปด้วยนะว่าให้ระวังด้วย"

พิราบ 2รับคำสั่งก่อนจะสั่งการไปยังทีมอีก 2คนที่เฝ้าดักรอดูพวกขบวนขนยา ส่วนแคนสั่งไปยังทีมงานที่ซุ่มอยู่ไม่ห่างออกไป

"จากพิราบ 1 ถึงทีม A ให้ทุกคนถอยไปที่จุดรวมพล ให้ระวังอย่าให้เกิดเสียง"
ทุกคนค่อยๆถอนตัวจากจุดที่ซุ่มอยู่ แคนนั้นเคลื่อนที่เป็นคนสุดท้าย พร้อมกับดูไอแพดตลอดซึ่งโครนนั้นบินวนตามกลุ่มใหญ่นั้นตลอดตามคำสั่งของแคนเพื่อดูว่าพวกมันจะไปที่ไหน จนถึงจุดรวมพลที่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 1 กิโล พันจ่าโทสมคิดที่ไปซุ่มดักรอดูขบวนขนยาได้รายงานกับแคนว่า ดูแล้วน่าจะเป็นขบวนหลอกเพราะมีหีบห่อใหญ่มาแค่ห่อเดียวเท่านั้นและดูจะไม่มีน้ำหนักมากอย่างที่ได้รับข่าวมาว่ามีการขนเฮโรอีนประมาณ 50 กิโล

"แล้วเห็นไอ้พวกที่ตามมาหรือเปล่า"

"จากจุดที่ผมซุ่มดูอยู่ไม่เห็นครับผู้การ"

แคนเม้มปากและพยักหน้าส่วนหมวดสิทธิชัยได้เสริมขึ้น

"เท่ากับว่าครั้งนี้มันกะเล่นงานเราอย่างหนักเลยนะครับผู้การ มีขบวนใหญ่แอบตามมา ดีที่เรายังมีโดรนบินคอยดูให้ไม่อย่างนั้นเราเละแน่ มันคงรอให้พวกเราโจมตีแล้วตลบหลังเรา"

"ใช่มันคงกะเอาคืนแน่นอน เราก็เผลอไปฮุบข่าวนี้ แต่ก็ดีอย่างที่หมวดบอกที่เราเห็นการเคลื่อนไหวของพวกมัน"

"จะเอายังไงต่อไปดีครับผู้การ"

"ผมให้โดรนบินตามดูว่ามันไปที่ไหน"

แคนบอกปิดท้ายก่อนจะสั่งถอนกำลังเข้าเขตไทย หลังจากนั้นขบวนขนยากลุ่มนั้นมีเพียง 3คนเท่านั้นที่ลักลอบเข้าฝั่งไทยส่วนที่เหลือพร้อมทีมคุ้มกันที่ติดตามมานั้นวกกลับเข้าพม่าเหมือนเดิม ทางตำรวจได้ติดตามพวกที่ลอบเข้าไทย ซึ่งทั้ง 3คนได้เดินทางมาพักที่เชียงใหม่ 1 คืนก่อนจะนั่งรถไฟเที่ยวเช้าเข้ากรุงเทพ และจากรายชื่อที่ซื้อตั๋วมีอยู่ 1คนที่มีหมายจับเรื่องค้ายาบ้าอยู่ ตำรวจรถไฟได้เข้าจับกุมหลังจากที่รถไฟออกจากสถานีลำปางแต่ทั้ง 3 คน รู้ตัวก่อนและชักปืนขึ้นมาพร้อมขู่ว่าขนระเบิดมาด้วย ถ้าตำรวจเข้ามาจะกดระเบิดที่อยู่ในกระเป๋า ก่อนจะสั่งให้ขบวนรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานี จนไปถึงพื้นที่ห่างไกลชุมชน มันทั้ง 3 คน สั่งให้ขบวนรถหยุดและจับตัวผู้โดยสาร 2 คน ไปที่ตู้โดยสารแรกและจับคนในตู้โดยสารนั้นเป็นตัวประกันทั้งหมด

ต่อมาทางตำรวจได้ตัดสินใจตัดตู้โดยสารที่เหลือและใช้หัวจักรรถไฟลากกลับไปที่ลำปางโดยปล่อยให้เหลือแต่หัวรถจักรกับตู้โดยสารอีก 1ตู้ พร้อมกับการเจรจาให้ปล่อยตัวประกันประมาณ 20 คน แต่คนร้ายไม่ยอมตอบ มีการเตรียมหน่วย นปพ.ของจังหวัด เผื่อใช้ในการชิงตัวประกัน มีการรายงานสถานการณ์จับตัวประกันไปถึง ผบ.ตร. ก่อนที่จะรายงานไปยังรองนายก ผบ.ตร.ได้ต่อสายไปถึงแคน พอรู้ว่าแคนกับทีมตอนนี้อยู่ที่เชียงใหม่กำลังเดินทางกลับกรุงเทพ จึงขอให้ทีมของแคนเข้ามาช่วยสังเกตุการณ์อยู่ห่างๆ ก่อนที่ผบ.ตร.จะรายงานไปยังท่านรองนายก

"ทำไมให้ทีมพิเศษไปด้วยละ"

"ทีมของแคนตามพวกนี้ตั้งแต่อยู่ที่ฝั่งพม่าแล้วครับและตอนนี้อยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุเท่าไหร่ ผมเลยอยากให้ช่วยเสริม นปพ. ก่อนอรินทราชจะขึ้นไปถึงครับ และดูมันแปลกๆด้วยครับ มันต้องมีอะไรมากกว่าจับตัวประกันพร้อมยึดตู้รถไฟ"

ผบ.ตร.บอกกับรองนายกด้วยความมั่นใจ   ส่วนแคนกับทีมต่างเปลี่ยนเส้นทางมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งบริเวณนั้นอยู่ห่างจากชุมชนพอสมควร และมีการประสานงานกับทางตำรวจท้องที่แล้วโดยแจ้งว่ามีหน่วยปฏิบัติการพิเศษของหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากลมาฝึกซ้อมที่เชียงใหม่ ทางผู้ใหญ่เลยขอให้มาเป็นกำลังเสริม แคนกับพวกตรวจดูพื้นที่ก่อนและได้ภาพจากโดรนของตำรวจ แคนกับพันจ่าโทสมคิดเลือกเนินแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจุดที่รถไฟจอดประมาณ700 เมตรเป็นจุดซุ่มดู แต่ต้องเดินเท้าฝ่าดงหญ้าไปร่วม 2 กิโล มีแคนกับพันจ่าโทสมคิดและสิบเอกปรีชาทหารจากหน่วยสงครามพิเศษรวม 3 คนที่จะเข้าไปยังจุดที่ซุ่มส่วนที่เหลือคอยเป็นกำลังเสริมทั้ง 3 คนต่างสวมชุดพรางตัวสำหรับซุ่มยิงที่ดูรุงรังพอสมควรก่อนจะพากันเคลื่อนตัว โดยหมวดสิทธิชัยคุมกำลังเสริมอยู่

แคนกับพวกใช้เวลาเดินเข้าไปเกือบ 1ชั่วโมง เพราะสภาพพื้นที่นั้นต้องไต่ขึ้นสูงและไต่ลงมาทำให้ลำบอกพอสมควร ก่อนแคนจะไปจุดหมายถึงได้รับรายงานว่ามีการปล่อยตัวประกันออกมาบางส่วนแล้ว ตอนนั้นเป็นเวลาช่วงบ่าย พอแคนไปถึงจุดหมายที่กำหนดไว้ ทั้ง 3 คนต่างใช้กล้องส่องทางไกลมองไปที่รถไฟ รอบข้างที่เว้นระยะออกมาพอสมควรมีกำลังของเจ้าหน้าที่ล้อมรอบไปหมดแล้ว แคนจึงวิทยุไปสอบถามที่หมวดสิทธิชัย

"พิราบ 2 จาก พิราบ 1 มีอะไรคืบหน้าบ้าง"

"ไม่มีครับ ทางตำรวจกำลังเจรจาอยู่แต่ตอนนี้มันไม่ตอบอะไรเลย"

"มีอะไรคืบหน้าแจ้งมาที่ผมทันที"

"รับทราบ"

แคนประทับปืน M-24 ขึ้นมาพร้อมส่องไปยังรอบๆ เช่นเดียวกับพันจาโทสมคิด ส่วนสิบเอกปรีชาใช้กล้องส่องทางไกลคอยดูเหตุการณ์เช่นกัน จนผ่านไปเกือบชั่วโมง พันจาโทสมคิดได้บอกแคน

"ผู้การมีการเคลื่อนไหว ทางขวามือด้านล่างของเราห่างไปประมาณ 400 เมตร"

แคนนั้นอยู่ตรงจุดเนินที่สูงกว่ามองลงไปด้านล่างตามที่จ่าสมคิดบอก จากกล้องที่ส่องนั้นเห็นคน 3 คนที่แต่งตัวด้วยชุดซุ่มยิงคล้ายๆกับพวกแคนแต่ที่ต่างคือทุกคนนั้นสวมหมวกปีกสายพราง ทั้ง 3คนต่างค่อยๆเดินย่องเข้ามาในมือจะเห็นปืนแบบ M-16 A2 และที่สำคัญมีคนหนึ่งถือเครื่องยิงจรวดแบบ M-72 มาด้วย

"ผู้การพวกนั้นมี M-72 มาด้วย"

สิบเอกปรีชาทหารจากศูนย์สงครามพิเศษบอกแคนทันที แคนจึงวิทยุสอบถามไปที่หมวดสิทธิชัย

"พิราบ 2 คุณช่วยตรวจสอบด้วยว่ามีคนของหน่วยไหนเข้ามาใกล้ที่ผมอยู่"

อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมาที่แคน

"พิราบ 1 รอบรัศมีคุณระยะ 500 เมตรไม่มีหน่วยไหนอยู่เลยตามคำขอที่เราแจ้งไว้ครับ"

เสียงจากร้อยโทสิทธิชัยดังผ่านหูฟังวิทยุของทั้ง 3 คน แคนตอบรับไปสั้นๆ และหันปากกระบอกปืนพร้อมปรับศูนย์เล็งไปยัง 3 คนนั้นทันที ที่ตอนนี้กำลังหมอบและจ้องมองไปยังรถไฟโดยหารู้ไม่ว่าเหนือพวกมันขึ้นไปมีคน 3 คน จ้องมองมันอยู่และแคนบอกไปว่า

"ตรวจดูรอบๆด้วย จุดที่ตำรวจซุ่มอยู่เรารู้แล้วถ้าใครเห็นมีจุดไหนผิดสังเกตุแจ้งผมด้วยรอดูท่าทีพวกมันก่อน"

จากการตรวจสอบของแคนและทีมงานนั้นตรวจไม่พบอะไรที่ผิดปกติ แคนจึงได้แบ่งเป้าหมายกับจ่าสมคิดแล้วว่าใครจะยิงคนไหนและไม่นานนักหลังจากที่ 1 ใน 3ที่ดูเป็นเหมือนเป็นหัวหน้าขยับตัวถอยมาพร้อมถอดหมวกที่สวมออกขณะกำลังใช้โทรศัพท์อยู่ พันจ่าโทสมคิดที่มองผ่านกล้องเล็งได้อุทานขึ้นว่า

"ไอ้สมโภชน์ ผู้การครับคนที่โทรศัพท์อยู่เป็นอดีตรีคอนครับชื่อพันจ่าโทสมโภชน์ มันเป็นพลซุ่มยิงแต่ถูกไล่ออกเพราะไปขนยาเสพติด ผมรู้จักมันดี มันเป็นรุ่นพี่ผมตอนเป็นนักเรียนจ่า"

พอได้ยินสิ่งที่พันจ่าโทสมคิดรายงานแคนตัดสินใจทันที

"ลมเป็นยังไงบ้าง"

แคนถามไปที่สิบเอกปรีชาที่คอยดูเครื่องวัดลมในมืออยู่ก่อนจะได้รับคำตอบ

"ลมสงบครับ"

แคนนั้นรอจนมันคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วสั่งยิงทันที

"ยิง"

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ผู้เฒ่าเซราะกราว

นี่แสดงว่าประพาสมีสองแผนพอแผนแรกจนท.ไม่กินเหยื่อ เลยใช้แผนสอง ให้นกต่อขึ้นรถไฟแล้วจับตัวประกัน ยึดขบวนรถไฟไว้ แล้วส่งทีมมือสังหารมาถล่มรถไฟอีกที และคราวนี้ก็คงจะทำให้นุ่มนิ่มยิ่งโกรธแค้นมากขึ้นแน่ๆ เพราะแผนล้มเหลว

sammyadong

ผู้การแคนจะมีโอกาสได้กับนุ่มนิ่มซักทีใหมนะ

po3026

ในที่สุดการพบเจอกันระหว่าง 2 หญิง กับ 1 ชาย ดูไม่ออกว่าใครจะเอาหัวใจของผู้การแคนได้

namluang1978

 แผนซ้อนแผน จนไม่มีแผนแล้วเลย งานนี้ ::DayDream::


ones26421

ชิงเหลี่ยมชิงไหวพริบกันน่าดูเลยครับ  เยี่ยมๆ

Youtube11


solid17

เก็บมันให้หมดไม่ให้เหลือหนักแผ่นดิน

1819

#9
 กำลัง ไล่อ่านซีรีย์ คุณนพ ฐา เสร๋จ และคิดอยู่ว่าเมื่อไหร่ไรท์ จะลงสางแค้น ต้อนใหม่ซะที่  มาทันใจเลย    ต้อนนี้   แคนคือ อาญาเถื่อนจริงๆยิงทิ้งหลังจากจับมารีดได้แล้ว     
นิ่มนี่ เพราะความหลงแคน จะทำให้ประมาท แล้วซิ ดูแล้ว คู่นี้ยากมากที่จะมานอนด้วยกัน จริงๆ ต่างคนต่างรู้ไส้ มีแต่แคน ยังไม่รู้ว่า ลาสบอสคือนิ่ม

Editต้อนนี้ แคนโชว์เหนืออีกแล้ว ขวัญกำลังใจ ศรัทธา  จากทีม มาเต็มๆ  อนาคต อาจเป็น เลขาธิการปปส หรือ   นายพล แน่ๆ
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

นัทโตะ

จากผลงานแคนรอบนี้แล้ว น่าจะได้ยศใหญ่ แต่จากสไตล์แคนแล้ว น่าจะชอบบู๊มากกว่า อาจจะไม่ชอบแนวเสธๆ

Sakoda

พวกมันเตรียมM79เลยโหดเอาการ แต่ผู้การก็โหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ทั้งสองฝ่ายถือว่าสมน้ำสมเนื้อ

wjoe44

สไนเปอร์ดวลสไนเปอร์ ฝ่ายไหนจะยิงได้ก่อน

Manoptana

งานหนักแล้วต่อไปนี้มีสไนเปอร์เข้ามาด้วยแล้วจะระวังตัวกันอย่างไร เผลอเมื่ไรก็โดนส่อง ความสูญเสียจะสูงขึ้นอีกมาก

n_neng

มีดักซุ่มโจมตี ด้วยสไนเปอร์ด้วย ใครพลาดตาย  เล่นอาวุธหนักๆๆทั้งนั้นเลย งานนี้ห้ามพลาด ใครพลาดตาย