ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนพิเศษ : Deleted Scene #1 ชู้รักของเจ๊เปรียว

เริ่มโดย nato87, ธันวาคม 06, 2021, 11:22:55 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : เอ่อ พอดีว่าผมเกิดไอเดียดี ๆ อยากนำเสนอฉากที่ไม่มีในเกมรักฯ ให้ทุกคนได้อ่านกัน โดยมันจะเป็นฉากสั้น ๆ จบในตอนเดียว โดยอาจจะเป็นฉาก Flashback ย้อนอดีต หรือพวกฉากที่ไม่มีในเนื้อเรื่องหลัก จะบอกว่าเป็น Deleted Scene ก็ว่าได้

ก็อาจจะได้เห็นฉาก Deleted Scene อย่างพวกพี่กรกับหมอเค้ก, ไอ้ลอยกับไอ้นัน แล้วก็อาจจะมีฉากเก็บตกรายละเอียดตัวละครต่าง ๆ ก็ว่ากันไปครับ

โดยตอนแรก ผมขอเปิดตัวด้วยฉากย้อนอดีต สมัยลุงพลยังเป็นหนุ่ม และเป็นทหารยศนายสิบ โดยเขาเป็นลูกน้องของจ่าอมร และได้มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเจ๊เปรียวนะครับ การใช้ภาษาจะดิบ ๆ เถื่อน ๆ หน่อยนะครับ

อาจจะเล่าแบบรวบรัดไปบ้าง โดยเฉพาะฉาก Love Scene ไม่ได้เล่าละเอียดนะครับ เพราะต้องทำตามคอนเซปต์เดิม 'จบในตอนเดียว' ไม่งั้นยาว


################

ย้อนกลับไปสมัยที่ลุงพลยังเป็นทหารยศนายสิบ แกเคยเป็นลูกน้องของจ่าอมร โดยหน่วยของแกเป็นหน่วยขนส่งยานเกราะ และวันหนึ่ง หมู่ชุมพลและจ่าอมรก็ได้รับภารกิจขนส่งเสบียงอาหารไปยังค่ายทหารไทยในแนวหน้า ณ ภาคเหนือของเวียดนามใต้

ระหว่างการเดินทาง หน่วยขนส่งของแกถูกซุ่มโจมตีจากพวกทหารเวียดกง รถเกราะลำเลียงพล APC รุ่น M113 ถูกจรวดอาพีจีของเวียดกงยิงจนตีนตะขาบพัง เลยทำให้ลูกน้องในหน่วยและตัวของจ่าอมรติดอยู่ในวงล้อมของพวกเวียดกง

"เหี้ยแล้ว!! เหงียนดักซุ่มโจมตีพวกเรา!!! ออกไปเร็วพวกมึง!!! ออกไปจากรถยานเกราะ!!" จ่าอมรตะโกนสั่งให้ทหารที่นั่งอยู่ข้างในรีบเปิดประตูไปยิงสกัดพวกเวียดกงที่บุกเข้ามา "ชุมพล!!! ชุมพลโว้ย!!! แจ้ง บก.ด่วน!!! ว่าพวกเราถูกซุ่มโจมตี!!!"

"ครับจ่า!!!" สิบตรีชุมพลที่รับหน้าที่เป็นรองผู้บังคับหมู่พยักหน้า ก่อนวิทยุแจ้ง บก.เพื่อขอความช่วยเหลือ "รหัสแดง!!! รหัสแดง!!!! เสือโคร่งเรียกพ่อหมี ย้ำอีกครั้ง เสือโคร่งเรียกพ่อหมี ขณะนี้มีข้าศึกดักซุมโจมตีที่พิกัด CBC1006969!!!"



"Giết tất cả!! Giết tất cả!! con rối mỹ!!!" (ฆ่ามันให้หมด!!! ฆ่ามันให้หมด!!! พวกขี้ข้าอเมริกัน!!) พวกทหารเวียดกงตะโกนข่มขวัญทหารไทยพร้อมกับกราดยิงด้วยอาวุธปืนยาวนานาชนิด ทหารไทยบางส่วนที่วิ่งออกมาจากรถยานเกราะ M113 ถูกพวกเวียดนามยิงตาย

"อ๊าก!!!!" ทหารไทยที่ประจำอยู่บนป้อมยืนปืนกล .50 Calibur บนหลังคายานเกราะ M113 ถูกยิงสอยร่วงลงมาต่อหน้าจ่าอมรและผู้หมู่ชุมพล ในตอนนั้นผู้หมู่ชุมพลถึงกับผงะด้วยความตกใจ

"ได้!!! ไอ้เหงียน!!! อยากเจอลูกปืนทหารไทยใช่ไหม!!! กูจัดให้!!!" ว่าแล้วจ่าอมรก็ลุกขึ้นมาจากที่นั่งคนขับ แล้วย่องตัวขึ้นไปประจำป้อมปืนกลแทนทหารที่ถูกยิงจนตาย "ไอ้พล!!! มึงคอยวิทยุรายงานศูนย์อยู่ตรงนี้!!! เดี๋ยวกูจัดการพวกเหงียนเอง!!!"

"ครับจ่า!!!" ผู้หมู่ชุมพลพยักหน้า ก่อนหันกลับไปคุยกับศูนย์บัญชาการทหารไทยในเวียดนาม

"มา!!! พวกมึงเข้ามา!!!" จ่าอมรที่กำลังบ้าเลือดโผล่ตัวประจำแท่นปืนกล .50 Calibur ก่อนช่วยทหารไทยที่อยู่ข้างนอกรถยานเกราะยิงสกัดพวกทหารเวียดกงที่ดาหน้าเข้ามา "พวกมึงตาย!!! พวกมึงตาย!!!!"

"ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!"

"ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!"

"ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!"

"พวกมึงตาย!!! พวกมึงตาย!!! มาแดกส์ลูกปืนทหารไทยมา Made in USA โว้ยยย!!!" จ่าอมรกราดยิงพวกทหารเวียดกงตายเป็นใบไม้ร่วง จนกระทั่งเฮลิคอปเตอร์จูโจ่มแบบ AH1 ของพวกไอ้กันสามลำถูกส่งเข้ามาช่วยยิงสกัด จนทำให้พวกเวียดกงที่ล้อมรถยานเกราะของทหารไทยถอยหนีไป

"จบ...จบกันสักที!!!" จ่าอมรเอามือจับที่หมวกเหล็ก พลางเหลือบมองซ้ายขวา ก็เห็นถึงสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจากฝั่งทหารไทยและทหารเวียดนาม ก่อนจะก้มตัวลงไปข้างในรถ เพื่อพูดคุยกับนายสิบชุมพล ที่กำลังนั่งตัวสั่นด้วยความกลัว "อ่าว? ไอ้เหี้ย!! นั่งสั่นเป็นเจ้าเข้าซะงั้นลูกน้องกู ไอ้พล!!! ไอ้พล!!! เห้ย!!!"

"เฮ้ยย!!! มีอะไรจ่า!!!" ชุมพลถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนที่จะโดนจ่าอมรเบิ้ดกระโหลกไปทีนึงเพื่อตั้งสติ "โอ้ยยย!!!"

"มึงจะร้องโอ้ยหาพระแสงอะไรไอ้พล!!!" นายทหารชั้นประทวนกระชากเสื้อลูกน้อง "ตั้งสติหน่อย!!! มึงเป็นทหารนะ!!! อย่าแสดงความกลัวออกมา!!!"

"ขอโทษครับจ่า...." ตอนนั้นชุมพลพึ่งได้รับการบรรจุยศเป็นนายสิบ แต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการรบจริง แล้วพอดีเกิดสงครามเวียดนาม ไทยเลยต้องเข้าไปช่วยเวียดนามใต้รบกับเวียดนามเหนือ และหน่วยของชุมพลและจ่าอมรก็ถูกเลือกให้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ด้วย

"เออ...ดี" จ่าอมรตบบ่าทหารรุ่นน้อง "รู้ว่ามึงกลัว กูก็กลัว แต่นี่คือสงคราม ยิ่งกลัว ยิ่งมีโอกาสตายสูง ตั้งสติไว้ เดี๋ยวกูจะออกไปดูข้างนอก"

จ่าอมรค่อย ๆ ย่องก้มต่ำไปเปิดประตูยานเกราะ M113 พร้อมกับหยิบซองบุหรี่จากกระเป๋าเสื้อขึ้นมาจุดสูบ ก็เห็นทหารไทยกำลังช่วยแบกเพื่อนที่โดนยิงมาหลบในมุมปลอดภัย

"โชคดี ฮ.ไอ้กัน มาช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นพวกเราแย่แน่จ่า..." ทหารรายหนึ่งที่รอดชีวิตจากการซุ่มโจมตีเอ่ยปากกับจ่าอมรที่ยืนสูบบุหรี่อยู่

"มีใครเจ็บและตายบ้างวะ?" จ่าอมรถามต่อ

"ตายสาม เจ็บสี่..." ทหารคนนั้นตอบ "เดี๋ยวกำลังเสริมจะเข้ามาช่วยพวกเราใช่ไหมจ่า?"

"จ่า!!! บก.แจ้งมาว่าส่งกำลังมาช่วยพวกเราแล้ว อีก 5 นาทีจะมาหาพวกเรา" ชุมพลตะโกนตอบจากด้านในรถยานเกราะ

"เออดี!!" จ่าอมรพยักหน้า ก่อนหยิบบุหรี่ออกจากปากแล้วทิ้งลงพื้น ก่อนใช้คอมแบตขยี้ดับไฟ "ตรึงกำลังเอาไว้พวกเรา รอจนกว่ากำลังเสริมจะมาช่วย"



สำหรับชุมพลแล้ว จ่าอมรเป็นทั้งเจ้านาย เพื่อน และพี่ชาย ที่คอยแนะนำสั่งสอนชีวิตความเป็นทหาร และยังคอยดูแลให้คำแนะนำกับชายหนุ่มเหมือนน้องชายคนนึง

ในสนามรบ จ่าอมรเหมือนผู้นำที่ลูกน้องทุกคนพร้อมเดินตาม ในชีวิตส่วนตัวหลังรั้วทหาร จ่าอมรก็เป็นหัวโจก เป็นลูกพี่ของน้อง ๆ

หลังจากที่สงครามเวียดนามยุติลงเมื่อสหรัฐฯ ประกาศถอนตัว หน่วยของจ่าอมรและหมู่พลก็ถอนตัวกลับประเทศไทย และทั้งคู่ได้แวะมากินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี โดยชุมพลตอนนี้ได้ติดยศเลื่อนขั้นเป็นสิบโทแล้ว

"เฮ้ยย!! ไอ้พลน้องรัก!! มา ๆ ๆ อยากกินอะไรสั่ง!!! ต้องฉลองหน่อยแล้ว ไอ้น้องรักเลื่อนขั้นเป็นสิบโท!!" จ่าอมรในชุดทหารเดินนำหน้าหมู่พลเข้ามาในโรงอาหาร ที่นังเปรียวเปิดร้านอาหารข้าวแกงอยู่ "นังเปรียว!!! นังเปรียวโว้ยยย!! มีลูกค้า!!!"

"สวัสดีครับเจ๊!!" นายสิบชุมพลพนมมือไหว้เจ๊เปรียว เมียของจ่าอมรที่มาเปิดร้านข้าวแกงในค่ายทหาร

"อ่าว? นึกว่าใคร? ชุมพลเหรอ?" เจ๊เปรียวเป็นหญิงสาวผิวขาว สวย หุ่นอวบอัด อายุประมาณ 30 ต้น ๆ เรียกได้ว่าสวยเช้งที่สุดในกองพัน "อยากกินอะไรจ๊ะพล?"



"ผมขอผัดเผ็ดปลาดุก บวบผัดไข่ครับเจ๊" ชุมพลยืนสั่งอาหาร โดยที่จ่าอมรกำลังเดินไปหลังร้านเพื่อหยิบแก้วสแตนเลสตักน้ำแข็งใส่น้ำเปล่าสองใบอยู่

"พี่มอน พี่จะกินอะไร?" เจ๊เปรียวหันไปถามสามีของตัวเองที่กำลังถือแก้วน้ำมาวางบนโต๊ะให้ตัวเองและชุมพล

"เอากระเพราหมู ไข่ดาว" จ่าอมรตอบ "เปรียว มื้อนี้ในส่วนของไอ้พล เดี๋ยวพี่จ่ายให้มันเอง ฉลองให้ไอ้พลมัน ได้เลื่อนขั้นเป็นสิบโทแล้ว"

"เอ๋!!!!" หญิงสาวทำหน้าดีใจ "จริงเหรอพล!? พี่ต้องเรียกพลว่า ผู้หมู่ชุมพลแล้วใช่ไหมเนี่ย!!"

"เฮ้ย!!! พี่จ่า!!! ผมจ่ายเองได้!!!! เกรงใจ!!!" ทหารรุ่นน้องรีบออกตัว "ส่วนเจ๊ เรียกผมพลเหมือนเดิมก็ได้ครับ"

"เฮ้ยย!!! ไม่เป็นไรไอ้พล!!! เราเหมือนพี่น้องกัน!! ทหารเรานะเว้ย นับถือกันเหมือนพี่เหมือนน้อง น้องดูแลพี่ พี่ดูแลน้อง อีกหน่อยถ้ากูได้เลื่อนขั้นเป็นผู้หมวด กูจะช่วยสนับสนุนมึงให้เป็นจ่าเหมือนกูบ้าง มันเป็นธรรมเนียมทหาร เราอยู่แบบพี่น้อง มีอะไรต้องช่วยเหลือกัน พี่ช่วยน้อง น้องช่วยพี่ เข้าใจ๋?" จ่ารุ่นพี่ตบบ่ารุ่นน้อง "มา ๆ มานั่งรอเถอะ เดี๋ยวนังเปรียวเอาข้าวมาเสิร์ฟให้"

ชุมพลยิ้ม พลางแอบเหลือบมองนังเปรียวที่กำลังตักข้าว หลังจากที่มาเป็นทหารเกณฑ์เพราะจับฉลาก ก็ดูเหมือนว่าชีวิตของชายหนุ่มจะไปได้ดีในสายงานทหาร เพราะความเอาการเอางาน ขยันขันแข็ง มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ แถมยังมีสกิลพิเศษคือช่วยนวดบรรเทาความเมื่อยล้าให้เจ้านาย เลยทำให้เจ้านายเบื้องบนเอ็นดู เลยสนับสนุนให้ชุมพลรับราชการทหารต่อ สร้างความปลื้มอกปลื้มใจให้กับพ่อแม่ที่บ้านเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ได้มาประจำการณ์ที่กองพันแห่งนี้ เขาก็ได้พบกับจ่าอมรที่เปรียบเสมือนรุ่นพี่คอยอบรมสั่งสอนวินัยทหาร และคอยดูแลความเป็นอยู่ โดยในตอนแรกที่มา ชุมพลเกิดปิ๊งรักกับเจ๊เปรียว ที่แก่กว่าตัวเองเกือบสิบปี

ย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนที่ชุมพลมาประจำการที่กองพันแห่งนี้ ในฐานะนายสิบบรรจุใหม่ ชายหนุ่มได้แวะเข้าไปหาข้าวกินที่โรงอาหาร และได้พบกับเจ๊เปรียว แม่ค้าคนสวยประจำกองพัน เมื่อได้เจอครั้งแรก ชุมพลก็ถึงกับสะดุดในความน่ารักของเจ๊เปรียว ที่ใครต่อใครในกองพันต่างล่ำลือกันว่า โคตรเด็ดสะระตี่



"ใครว่าสามสิบแก่แล้ว ไปดูเจ๊เปรียวได้เลย อย่างแจ่ม!!!"

"อยากดมหอยเจ๊แกว่ะ ไม่รู้ว่าจะหอมหรือเปล่า?"

"เฮ้ย!!! เฮ้ย!!! นั่นเมียจ่านะโว้ย ถ้าจ่ารู้ จ่าเอามึงตายแน่!!!"

พวกทหารในค่ายกำลังจับกลุ่มนินทาเมียจ่าอมรอย่างสนุกปาก ส่วนชุมพลก็นั่งฟังอยู่ด้วย ในใจก็แอบผิดหวัง ที่เจ๊เปรียวมีผัวแล้ว

ทุกครั้ง ๆ ที่เจ๊เปรียวมองผัว คือจ่าอมร สายตาของเจ๊แกมีแต่ความทุกข์ แต่เมื่อไรที่เจ๊แกหันมามองผู้หมู่ชุมพล นัยน์ตาของเจ๊แกก็เป็นประกาย รอยยิ้มที่อ่อนหวานนั่น ทำให้หัวใจนายสิบหนุ่มคนนี้ต้องหวั่นไหวแทบทุกครั้งที่ได้พบ

"ข้าวสวยสุกพอดีเลย กินเยอะ ๆ นะ ทั้งสองคน จะได้มีแรงทำงาน" เจ๊เปรียวที่ตักข้าวอยู่เงยหน้าหันมายิ้มตอบให้ชุมพล ทำเอาผู้หมู่หน้าใหม่ถึงกับเก็บไปเพ้อ คนอะไรทำไมสวยขนาดนี้ เสียดายที่เป็นเมียจ่า ไม่งั้นคงจีบไปแล้ว "พลจ๊ะ กินเยอะ ๆ นะ นี่เป็นคำสั่ง"

"โห เจ๊ตักข้าวให้ผมซะเยอะเลย!!!" หมู่พลยิ้มให้กับเจ้าของร้านขายขาวแกงคนสวย

ด้วยความที่สนิทกับสองคนนี้เป็นพิเศษ เลยทำให้ชุมพลรู้ว่าจ่าอมรเวลาเมา ๆ ก็มักอาละวาดทุบตีเจ๊เปรียวด้วยความหึง เพราะความสวยของเจ๊เปรียวเนี่ยแหละ เจ๊เปรียวก็พยายามอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเธอไม่ได้มีใคร แต่จ่าอมรก็ไม่ฟัง

"ไอ้เหี้ย!!! กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้มีชู้!!! ไม่ได้มีชู้!!!!" เสียงเอะอะโวยวายจากบ้านพักทหารของทั้งคู่ดังแทบทุกคืน ชุมพลที่พักอยู่บ้านติด ๆ กันก็แอบส่องผ่านความเป็นไปของสองผัวเมียคู่นี้ด้วยความสนใจ

"กูไม่เชื่อ!!!! มึงมันร่าน!!! มึงมันกระหรี่อีเปรี้ยว!!! ฮึ้ยยย!!!" จ่าอมรยืนโอนเอนถือขวดเหล้าชี้หน้าด่าเมีย!!"

"ไอ้ห่า!!! เมาเหมือนหมาจนเรียกชื่อกูผิดนะไอ้มอน!!! มึงมันหน้าตัวเมีย!!! รังแกผู้หญิง!!!" เจ๊เปรียวผู้น่าสงสารกุมมือตรงแก้มที่แดงเป็นรอยฝ่ามือด้วยความโกรธ "กูไม่อยู่กับมึงแล้วไอ้ผัวเหี้ย!!!"

"อีดอกทอง!!!! มึงจะหนีไปอยู่กับชู้เหรอวะ!!!" จ่าอมรที่กำลังเมาก็ไม่ฟังอะไรแล้ว แกรีบวิ่งตามเข้าไปในบ้านเพื่อขัดขวางนังเปรียวไม่ให้ออกไปไหน "มึงจะหนีกูเหรอ!!! อีเปรี้ยว!!"

"กูชื่อเปรียวไม่ใช่เปรี้ยว!!! ไอ้สัตว์!!!" เสียงเจ๊เปรียวดังลั่นออกมานอกบ้าน แล้วทันใดนั้นเสียงข้าวของหม้อไหตกลงพื้นก็ดังขึ้น "มึงหยุดนะ!!! กูไม่อยู่กับมึงแล้ว!!! ไอ้ผัวส้นตีน!! เป็นเมียทหารกระจอก ๆ อย่างมึงคือความผิดพลาดที่สุดในชีวิตกู!!! จำใส่หัวมึงไว้ด้วย!!!"

"เป็นเมียกูแล้วยังไงวะ!!! อีเปรี้ยว!!!" จ่าอมรเองก็ใช่ย่อย พอเหล้าเข้าปากก็แปลงร่างเป็นหมาบ้าทันที "กูไม่ให้มึงไป!!!! มึงจะไปไหนไม่ได้!!! อีเปรี้ยว!!!"

"ไอ้สัตว์มอน!!! มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอวะ!!!" เจ้าของร้านขาวข้าวแกงในกองพันไม่ยอมแพ้ ก่อนที่เสียงเพี๊ยะจะดังขึ้น "มึงตบหน้ากูอีกแล้วเหรอวะไอ้หน้าหี!!!"

ด้วยความที่เจ๊เปรียวแกเป็นคนสวย เลยทำให้มีทหารหนุ่ม ๆ หรือแม้กระทั่งชาวบ้านมาพัวพัน แต่เจ๊แกก็ไม่เล่นด้วย ไม่ใช่ว่าเจ๊แกรักเดียวใจเดียวหรอก แต่เจ๊แกรู้ว่านิสัยของผัวแกอย่างจ่าอมรเป็นยังไง เวลาเมานี่หึงโหด อาละวาดทุบตีเธอเหมือนหมูเหมือนหมา

"เฮ้อ...." สุดท้ายชุมพลก็ขี้เกียจฟัง เลยปิดประตูหน้าต่างลง ก่อนทิ้งตัวลงนอนเอามือก่ายหน้าผาก ในใจก็แอบสงสารเจ๊เปรียว ที่ต้องมาถูกกระทำย่ำยีจากสามีอย่างจ่าอมร แต่จะยื่นมือเข้าไปช่วยก็กระไรอยู่ เพราะจ่าอมรได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายของตัวเอง

แล้วกูจะทำยังไงดีเนี่ย? สงสารเจ๊แกว่ะ แต่ไม่รู้จะช่วยยังไงดี เห้อ!!!!

จนกระทั่งวันหนึ่ง ชุมพลขับรถไปส่งเจ้านายที่โคราชเพื่อประชุมเกี่ยวกับการส่งทหารไปรบในเวียดนาม ระหว่างที่กำลังขับรถกลับก่อนจะถึงค่าย นายสิบหนุ่มก็เจอเจ๊เปรียวยืนรอรถพร้อมกระเป๋าสัมพาระหน้าป้ายรถสองแถว

"เจ๊เปรียว..."

"พล...ช่วยพี่ด้วย พี่อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว พลต้องช่วยพี่นะ แล้วพลอยากได้อะไร พี่จะให้ทุกอย่าง"



ชุมพลค่อย ๆ ชะลอความเร็วรถจิ๊บ เพื่อเอ่ยปากถามเจ๊เปรียวว่าจะไปไหน ใบหน้าของเจ๊เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ แน่นอน มันเกิดจากฝีมือของจ่าอมรที่เวลาเมาก็มักหาเหตุทุบตีเจ๊แกเหมือนกระสอบทราย

"ได้ครับเจ๊ รีบขึ้นรถเร็ว เดี๋ยวใครมาเห็น..."

เอารถจิ๊บทหารของหลวงพาเมียจ่าไปส่งที่ท่ารถ นี่ถ้าเจ้านายรู้ว่าขับรถหลวงไปทำหน้าที่อื่น มีหวังโดนแดกแน่ ส่วนจ่าอมรน่ะเหรอ ถ้าแกรู้มีหวังไอ้พลตายแน่ ระหว่างที่ขับรถไป เจ๊เปรียวบออกว่าเธอจะหนีเข้ากรุงเทพไปอยู่บ้านเพื่อนแถว ๆ บางบอน เพื่อไม่ให้ให้ไอ้จ่าตามตัวเจอ

"ดีแล้วครับเจ๊..." ชุมพลที่ขับรถอยู่เห็นด้วยกับความคิดของเจ๊เปรียว "ฟัง ๆ ดู ขืนเจ๊ยังอยู่ที่นี่ ผมว่าเจ๊ไม่รอดแน่!!!"

เมื่อมาถึงสถานีรถประจำทาง เจ๊เปรียวก็ลงมาจากรถจิ๊บทหาร ก่อนรีบใส่หมวก โพกผ้าพันคอปิดหน้า และใส่แว่น เพื่อปกปิดร่องรอยบอบช้ำจากการถูกกระทำจากจ่าอมร

"ขอบใจที่ช่วยพี่นะ...พล" เจ๊เปรียว โน้มตัวลงมาจูบแก้มหมู่พลเพื่อเป็นรางวัล "เอาไว้เจอกันครั้งหน้า เราค่อยมาทำต่อจากวันนั้นนะ"

สิบโทชุมพลเอามือกุมแก้มที่ถูกเจ๊เปรียวจูบ พลางนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อวันนั้นที่เจ๊เปรียวได้พูดถึง

"เอี๊ยด!! อ๊าด!!! เอี๊ยด!!! อ๊าดดด!!"

"โอ้ยยย!!! สุดยอดมากเลยพล!!!! อืออออ!!!" ที่แท้ ภาพเหตุการณ์ที่ว่าก็คือ ภาพที่เจ๊เปรียวแอบเล่นชู้กับชุมพล หลังจากที่ทั้งคู่ได้รู้ว่ามีใจตรงกัน

ชุมพลที่คร่อมอยู่ด้านบนเจ๊เปรียวกระเด้าซอยหีแฉะ ๆ เยิ้ม ๆ ของหญิงสาวอย่างเมามัน ทั้งคู่แลกปากดูดลิ้นกันจนหน้ามืดตามัวไปหมด นี่ถ้าจ่าอมรรู้เรื่องนี้ มีหวังเจ๊เปรียวและหมู่พลตายแน่

"โอยยย...สุดยอด...พลสุดยอดมาก" เจ๊เปรียวนอนเปลือยเปล่าแผ่หลาบนเตียงไม้ โดยมีชุมพลที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างกันนั่งอยู่ริมเตียง "พล...เราเจอกันช้าไป!!! ทำไมไม่เจอกันเร็วกว่านี้ พี่อยากเป็นเมียพล!!! ไม่ได้อยากเป็นเมียไอ้เหี้ยมอนนั่น อ๊า!!! พลเย็ดเก่งมากเลย ไม่เหมือนไอ้มอน เย็ดน้ำแตกก็หันหลังนอนละ!!!"

"ครับเจ๊..." หมู่ชุมพลพยักหน้า ก่อนหันไปยิ้มให้เจ๊เปรียวชู้รัก แล้วบทรักครั้งใหม่ของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น ภายในบ้านพักทหารของจ่าอมรนั่นแหละ

"อ่าห์!!! อ่าห์!!!! เสียว!!! เสียวหี!!! สุดยอดมากเลยพล!!!! เข้าไปลึก ๆ แรง ๆ แบบนั้น!!! อูยยย!!!"

"เจ๊!!! หีเจ๊ตอดมากเลยครับ!!!! มันส์ควยจริง ๆ ครับเจ๊!!!"

"ขอพี่ดูดควยพลหน่อยเถอะ!!! หิวควย!!!! ควยพลหวาน!!!! พี่ชอบ!!!"

ทั้งคู่เมคเลิฟกันอย่างเมามันส์จนเตียงไม้ในบ้านพักดัง แต่คงไม่มีใครได้ยิน เพราะจ่าอมรขับรถพานายไปส่งที่กรุงเทพ เลยทำให้ชู้รักทั้งสองมีเวลาเมคเลิฟกันอย่างดุเดือด

"อ๊า!!!! พล!!!!พี่เสร็จแล้ว!!! อ๊า!!!!" หญิงสาวเกร็งตัวถึงจุดสุดยอด ในขณะที่ชุมพลยังไม่เสร็จ "พล!!!! จะเสร็จหรือยัง!!!"

"ผมยังไม่เสร็จเลยเจ๊?" ชู้รักเจ๊เปรียวตอบ

"แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...พล...เอ่อ?" เจ๊เปรียวยิ้มหวาน แก้มแดงระเรือ ก่อนเอ่ยปากถามชุมพลที่คร่อมอยู่ด้านบน "อยากลองเย็ดตูดพี่ไหม?"



"เย็ดตูดเหรอเจ๊?" นายสิบชู้รักร่นคิ้วด้วยความแปลกใจกับข้อเสนอสุดสัปดนของเจ๊เปรียว "ผมไม่เคยลองเข้าทางตูดนะเจ๊!!"

"พี่อยากให้พลลองดูน่ะ..." แม่ค้าร้านข้าวแกงดันร่างของชายหนุ่มออกไป "ลองดูนะพล..."

 

จบ...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller

number6

แอบแซ่บ สเน่ห์แรงตั้งแต่สมัยหนุ่มๆเลยลุงพล แต่ดันไม่เท่าช่วงพีคชีวิตหลังเกษียณเฉยเลย มีมาไม่ขาดช่วงขาดตอน เป็นตอนสั้นที่น่าสนุกและน่าติดตามครับ


นัทโตะ



Leed naja


jtr69

สุดยอด เลยท่าน
รายละเอียด เด็ดมาก เหมือนอ่านงานของ ก้องหล้า สุรไกร แจ่มๆๆ
กลางวัน12ชั่วโมง-งมโวชั่21นคืงาลก

Manoptana

สิบโทชุมพลเริ่มตั้งเป็นชู้กับเมียลูกพี่ ไม่กลัวโดนกระทืบซี่โครงบานเลยนะ หัดขุดทองตั้งแต่ยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนเลย

freedom-more


1819

 แฮ่ม พลก็นะ กินบนเรือนขี้บนหลังซะได้ แต้ ทำไงได้ เจ้าของบ้านดันยืนบันไดให้ไปเอง
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

sultant

เจ้เปรียวอุตสาห์เสนอประตูหลังให้มีเหรอนายหมู่ชุมพลจะปฏิเสธ ลุยซิคร้าบบบ

wic




Topp458