ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

(เรื่องเสียวมินิซีรีย์) วุ่นรักหนุ่มน้อยดาวซัลโว : ตอนที่ 1 - แจ็คโด้ ปีกนรกแตก

เริ่มโดย nato87, มกราคม 31, 2022, 10:59:17 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : สุขสันต์เทศกาลตรุษจีนครับ ตอนนี้ก็เป็นตอนเปิดตัว เป็นการพบกันอย่างเป็นทางการของสองพระนางอย่าง เจ้าแจ็ค จักรภัทร พระเอกวัย 15 ปี และนางเอกสาวคนใหม่อย่างน้ำตาล จิณณพัต วัย 21 ปี นะครับ หายไปสักพักใหญ่ คือไม่มีอะไรมากครับ พักยก และหาข้อมูลนิดหน่อย ก็กลับมาอีกครั้งกับมินิซีรีย์การผจญภัยของเจ้าแจ็คนะครับ ตอนนี้จะพิเศษหน่อย คือมันจะเป็นการเขียนฉากการวางแผนและการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับผมมาก ผมเลยต้องไปศึกษาข้อมูลพอสมควร โชคดีที่ผมเองก็เป็นคอบอล ชอบดูบอล เลยช่วยผมได้มาก

ผมหวังว่าตอนนี้ จะทำให้ทุกคนรู้สึกและสัมผัสได้ว่า ไอ้แจ็ค เด็กเกรียนตัวแสบคนนั้นได้กลายเป็นนักกีฬาฟุตบอลทีมโรงเรียนไปแล้ว นิยายเสียวของผม เน้นความสมจริง เน้นความสมเหตุสมผลเป็นหลักครับ เลยต้องใช้เวลาสักหน่อย

ศัพท์เฉพาะทางฟุตบอลจะเยอะมาก เดี๋ยวผมจะลงเชิงอรรถอธิบายรายละเอียดต่าง ๆ เผื่อใครที่ไม่ได้เป็นคอบอลหรือชอบดูบอลอย่างผมไม่เข้าใจนะครับ แต่บอกไว้ก่อนว่า ผมไม่ใช่ผู้รู้ ผมไม่ใช่เป๊ป กวาดิโอล่า ดังนั้น อาจมีอะไรผิดพลาดได้เหมือนกัน 555555+

สำหรับคนที่ลุ้นว่ามินิซีรีย์เจ้าเด็กแจ็คจะมีโอกาสขึ้นบนดินไหม ผมเองก็อยากนำขึ้นบนดิน แต่ติดปัญหาเรื่องอายุตัวละคร (ไม่สามารถเขียนตัวละครอายุต่ำกว่า 18 ปี มีฉากเพศสัมพันธ์อย่างโจ่งครึ่มได้ จริง ๆ คือเขียนไม่ได้เลยดีกว่า สุ่มเสี่ยงเกินไป) เลยทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะนำนิยายชุดเรื่องนี้ขึ้นบนดิน เว้นเสียแต่จะปรับแก้อายุ ซึ่งมันจะผิดธีม Shotocon ของผม

แต่ก็มีโอกาส แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ขอให้ผมเขียนจบซีซันสองก่อน แล้วค่อยมาว่ากันอีกทีครับ ตอนนี้ยังไม่มีฉากเลิฟซีนนะครับ ใจเย็น ๆ นะทุกคน ผมรู้ว่าทุกคนอยากอ่าน แต่ผมบออกแล้วไงว่า นิยายเสียวของผม เน้นเนื้อเรื่อง เน้นความสมเหตุสมผลนะครับ



ปล.เพื่อให้เรื่องมันดูสมจริงมากขึ้น ผมเลยอาจใช้ปูมหลังจริง ๆ ของโรงเรียนบางแห่งมาเป็นแบ็คกราวน์ในการเขียน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยชื่อตรง ๆ แต่เป็นการตั้งชื่อใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่คาดคิด ถ้าใครที่ติดตามแวดวงฟุตบอลไทย น่าจะร้องอ๋อได้ไม่ยาก ว่าโรงเรียนสมมติในเรื่อง คือโรงเรียนอะไรบ้าง รวมถึงสโมสรฟุตบอลที่ถูกอ้างอิงถึง และขอชี้แจ้งก่อนว่า นี่คือนิยายที่ผมเขียนเพื่อสร้างความบันเทิงให้ ไม่ได้มีเจตนาพาดพิงหรือให้ร้าย และไม่ได้นำเรื่องราวของใครมาเขียนนะครับ ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องสมมติเท่านั้น

ปล2.อีกไม่เกินวันสองวัน ผมจะเอาเกมรักฯ ปี 2 ตอนใหม่มาลงนะครับ ยังไม่ไปไหนครับ ลุงพลยังอยู่ 5555+


#####################

ความเดิมจากตอนที่แล้ว


https://xonly8.com/index.php?topic=254946.0

สองปีผ่านไป นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่เจ้าแจ็คได้ไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณที่จังหวัดกาญจนบุรีกับพี่โจและมีมี่ จนทำให้เจ้าแจ็คในวัย 12 ปี ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมีมี่ ที่เป็นแฟนสาวของพี่โจ้ จนความลับเกือบแตก แต่โชคยังดีที่พี่โจ้ไม่ได้ถือสาหาความ และไม่ได้ต้องการรู้อะไรไปมากกว่านั้น เลยทำให้ทั้งความลับที่เมืองกาญจน์ยังคงเป็นความลับตลอดไป

หลังจากผิดหวังกับรักครั้งแรกกับดาวคณะคนสวยอย่างวลันธร หนุ่มน้อยจักรภัทรก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อหวังสอบเข้าโรงเรียนบางกอกคาทอลิก ที่มีชื่อเสียงด้านการสร้างนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ทีมชาติมานักต่อนัก และเจ้าหนุ่มน้อยก็สามารถทำตามความตั้งใจได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยการสอบเข้าโรงเรียนบางกอกคาทอลิกได้ตามที่ใจปรารถนา

เจ้าแจ็ค ได้รับการคัดเลือกเป็นนักเตะของทีมโรงเรียน โดยเล่นในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีกขวา หนุ่มน้อยจอมเกรียนโชว์ศักยภาพในการเป็นนักฟุตบอลที่ดี จนทำอาจารย์แสงสุวรรณ หรือที่เด็ก ๆ ลูกศิษย์ลูกหา สื่อมวลชน และลูกศิษย์เก่าของโรงเรียนแห่งนี้เรียกแกด้วยความรักและเคารพว่า 'จารย์แดง'

จารย์แดงเคยเป็นนักฟุตบอลทีมชาติเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ในตอนนั้นเขาเล่นให้กับทีมคลองเตยไลออนส์ เป็นศูนย์หน้าตัวหลัก ที่มีสัญชาตญาณในการจบสกอร์ที่เฉียบขาด ประหนึ่งฉลามได้กลิ่นคาวเลือด ในยุคสมัยที่เขากำลังรุ่งเรือง แสงสุวรรณติดทีมชาติไทย และกำลังถูกทีมดังในญี่ปุ่นซุ่มดูฟอร์มเพื่อหวังเซนต์สัญญาไปร่วมทีม



แน่นอนว่า เมื่อจารย์แดงในช่วงวัยหนุ่มกำลังโด่งดังสุดขีด เขาได้รับการพรีเซนต์เตอร์ถ่ายแบบและโฆษณา จนสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ และด้วยความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมตามประสาชายหนุ่มวัยกลัดมัน จารย์แดงได้ก่อความผิดพลาดครั้งใหญ่ ด้วยการหลงใหลในลาภยศ ชื่อเสียง เงินทอง เหล้ายา และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องผู้หญิง
ในยุคนั้นมีข่าวว่าแสงสุวรรณ กองหน้าอนาคตไกลของทีมคลองเตยไลออนส์และทีมชาติไทย กำลังปลูกต้นรักกับนางแบบสาววัยรุ่นรายหนึ่ง เขานำเงินที่ตัวเองหามาได้ปรนเปรอนางแบบสาวคนนี้ และใช้กิน ดื่ม เที่ยวกับเพื่อนฝูง จนทำให้เริ่มมีปัญหากับทีมต้นสังกัด

เริ่มมีข่าวว่าเขาขาดซ้อม ระเบียบวินัยเริ่มย่อนยาน ฟอร์มการเล่นที่เคยโดดเด่นก็เริ่มดรอปลงมา เขาเริ่มตกเป็นตัวสำรองของทีมคลองเตยไลออนส์ และหลุดจากโผทีมชาติชุดลุยศึกซีเกมส์ ด้วยความเสียใจ เลยทำให้แสงสุวรรณทำตัวประชดชีวิตด้วยการกิน ดื่ม เที่ยว หนักมากขึ้น จนทำให้สภาพร่างกายของเขามีปัญหา

ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องความประพฤติยังไง แต่ต้นสังกัดอย่างคลองเตยไลออนส์ยังให้โอกาสลูกหม้อคนนี้ ในการลงเล่นฟุตบอลถ้วยรายการหนึ่ง และในรายการนี้เอง ที่ทำให้แสงสุวรรณได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าขวา จากการกระโดดเทคตัวโหม่งเพื่อทำประตู สุดท้าย การบาดเจ็บครั้งนี้ ก็กลายเป็นการบาดเจ็บเรื้อรัง จนทำให้แสงสุวรรณ ที่น่าจะเฉิดฉายในวงการฟุตบอลไทย และน่าจะไปได้ไกลในลีกฟุตบอลญี่ปุ่นต้องค่อย ๆ เลือนหายไป

หลังจากนั้น แสงสุวรรณก็พยายามเรียกความฟิตกลับมา เขาพยายามเลิกเที่ยว เลิกกินเหล้า สูบบุหรี่ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสายไปเสียแล้ว อาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่าขวา ได้พรากวันเวลาที่ดีที่สุดของเขาไปตลอดกาล สุดท้าย จารย์แดงก็จำใจต้องเลิกเล่นฟุตบอลทั้ง ๆ ที่อายุยังไม่ถึง 30 ปี ภายหลังเขาได้ไปร่ำเรียนวิชาโค้ช เพื่อหวังนำความรู้และประสบการณ์ของตัวเองมาสอนเด็ก ๆ เยาวชนฟุตบอลในรุ่นหลังไม่ให้เอาตัวอย่างเขา

เมื่อเส้นทางของยอดดาวซัลโวของแสงสุวรรณจบลง แต่เส้นทางยอดโค้ชของเขากำลังเริ่มต้น จารย์แดงได้รับโอกาสครั้งใหม่ หลังจากสอบคลับไลเซนต์ผ่านตามที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ผ่าน เขาได้กลับไปเป็นโค้ชทีมเยาวชนของคลองเตยไลออนส์ ต้นสังกัดที่สร้างเขามาในช่วงยุคแรก ก่อนที่ภายหลัง จารย์แดงจะถูกเชิญตัวมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลโรงเรียนบางกอกคาทอลิก โรงเรียนที่เขาเคยเรียนสมัยยังเป็นวัยรุ่นนั่นเอง

เจ้าแจ็คถูกดึงตัวเข้ามาเล่นในทีมโรงเรียนบางกอกคาทอลิก ในชุดรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ในการแข่งขันถ้วยชิงถ้วยรางวัล โดยมีโรงเรียนทีมีชื่อเสียงในเรื่องฟุตบอลทั่วประเทศส่งทีมมาร่วมแข่งขันด้วยเช่นกัน

เจ้าแจ็ค ที่ถูกเลือกเป็นตัวหลักของโรงเรียนในชุดนักฟุตบอลกำลังยืนล้อมวงพร้อมกับเพื่อน ๆ เพื่อรับฟังการวางแผนครั้งสุดท้ายของอาจารย์แดง ก่อนลงเตะนัดสำคัญในรอบแรกกับโรงเรียนชลบุรีวิทยาลัย ที่มีชื่อเสียงด้านการสร้างนักเตะชั้นนำขึ้นสู่ทีมชาติในโซนภาคตะวันออกของประเทศ



"เอาละทุกคนฟัง!!!" จารย์แดง หนุ่มใหญ่วัย 42 ปี ในชุดเสื้อวอร์มสีขาว กางเกงพละสีกรมท่าและรองเท้าวิ่งสีดำ กำลังยืนอยู่หน้าไวท์บอร์ด ในมือของแกกำลังโยกตัวหมุดหเล็กสีดำ ที่เป็นตัวแทนของตำแหน่งผู้เล่นของทีมชลบุรีวิทยาลัย เพื่อแสดงตำแหน่งแผนผังการเล่นของอีกฝ่ายให้ลูกทีมได้ดู "เด็กชลชุดนี้เล่นแผน 3-5-2 แน่นอนว่าแดนกลางของทีมนี้อัดแน่นไปด้วยแผงมิดฟิลด์ถึง 5 ตัว"



(แผนผังระบบการเล่น 3-5-2 ของทีมชลบุรีวิทยาลัย ที่อาจารย์แดงได้กล่าวไว้)

จารย์แดงกำลังโยกหมุดเหล็กบนกระดานไวท์บอร์ด พร้อมกับใช้ปากกาเมจิกเขียนลูกศรแสดงแผนผังการวิ่งของนักเตะทีมคู่แข่งให้ลูกศิษย์ทั้งหมดของตัวเองฟัง



(ตัวอย่างไวท์บอร์ดฟุตบอล ที่อาจารย์แดงใช้อธิบายลูกทีมเรื่องการวางแผนการเล่นของทีมตัวเองและฝ่ายคู่แข่ง)


"ชลบุรีจะเน้นแผนรับลึกรอโต้กลับเร็ว พวกมึงจำไว้ให้ดีว่า เมื่อไรที่นายประตูฝ่ายนั้นได้บอล มันจะโยนบอลไปให้กองหลัง หรืออาจโยนบอลไปที่ปีกทั้งสองข้าง ที่มีความเร็ว เพื่อวิ่งหนีฟูลแบ็คของทีมเราแล้วครอสเข้าทำประตู หรือบางทีอาจคัตแบ็คตัดเข้ามาทำชิ่งกับกองกลางสองคนที่วิ่งสอดขึ้นมา หรือไม่ก็อาจจะฉวยโอกาสยิงเลย"

(คัตแบ็ค (Cutback) - การที่ผู้เล่นฟูลแบ็ควิ่งตัดเข้ากลางสนามเพื่อหาช่องจ่ายให้เพื่อนหรือหาโอกาสยิงเอง)


อาจารย์แดงใช้ปากกาเมจิกขีดเส้นการวิ่งของทีมชลบุรีวิทยาลัยให้ลูกศิษย์ของตนที่กำลังจะลงแข่งได้ดู

"เกมรุกของชลบุรีไม่ได้น่ากลัวเท่าไร แต่ที่พวกมึงต้องระวังคือเกมโต้กลับ เพราะปีกทั้งสองข้างของชลบุรีเร็วมาก ตัวจี๊ดเลย ดังนั้น ไอ้แจ็ค!!!"

"ครับจารย์!!!" เจ้าแจ็คพยักหน้าตอบ

"จำไว้ว่าหน้าที่ของมึงไม่ได้มีแค่เกมบุก มึงต้องช่วยเพื่อนมึงที่เป็นฟูลแบ็คเล่นเกมรับด้วย เข้าใจ๋?"

"เข้าใจครับจารย์" จักรภัทรตอบ

"แน่นอนว่าชลบุรีเล่นด้วยแผงหลังสามคน ซึ่งพวกมึงจะเห็นว่าพื้นที่ด้านข้างจะมีช่องว่าง" อดีตนักฟุตบอลดังใช้ปากกาเมจิกวงกลมพื้นที่ว่างตรงกระดานไวท์บอร์ด ซึ่งกูบอกได้เลยว่าปีกของทีมชลบุรี มีความเร็วจริง ทำเกมบุกได้ดีจริง แต่เกมรับยังไม่แน่น เพราะเด็กสองคนนี้เล่นเป็นปีก ไม่ใช่ฟูลแบ็ค ดังนั้น สิ่งที่เราจะทำก็คือโยนออกข้างไปที่พื้นที่ว่าง ตรงนี้ และตรงนี้ ไอ้แจ็ค!! ไอ้โม่!!! พอทีมเราลำเลียงบอลใกล้ถึงแดนสอง ให้พวกมึงทั้งสองคนวิ่งขึ้นไปทำทาง เพื่อเปิดช่องว่างทั้งสองด้านนี้ เข้าใจ๋?"

"เข้าใจครับ!!!" ไอ้แจ็คและไอ้โม่ สองหนุ่มเพื่อนซี้หันมามองหน้ากันเหมือนรู้ใจกันว่าจะต้องทำยังไง

"พอได้บอลเสร็จ จำไว้ว่า ถ้าไม่จำเป็น อย่าครอสบอลเข้าไปตรงกลาง เพราะกองหลังชลบุรีตัวสูง ไอ้ห่า!! ไอ้เบอร์ 3 ชลบุรีที่ชื่อ เบนจามิน แม็คเนลลี่ เด็กลูกครึ่งไทยอเมริกันน่ะ อายุแค่ 15 แต่ตัวสูงตั้ง 175 นี่ถ้ามันโตเป็นหนุ่ม จะสูงถึง 190 หรือเปล่าก็ไม่รู้!!!"

"แล้วจารย์จะให้พวกผมสองคนทำยังไงละครับ?" ไอ้โม่ที่เป็นเพื่อนสนิทของไอ้แจ็คเอ่ยปากถามต่อไป "ถ้าไม่ให้พวกผมครอสบอลเข้ากลาง แล้วจะให้ผมเลี้ยงบอลจี้เข้าไปเหรอครับ?"

"ใช่!!" จารย์แดงพยักหน้า "กองหลังของชลบุรี มันตัวสูงใหญ่ก็จริง แต่ก็ช้าเงอะงะ ยิ่งไอ้เบอร์ 3 น่ะ ตัวช้าเลย ไอ้แจ็ค ไอ้โม่ พวกมึงสองคนถ้าได้บอลให้เลี้ยงบอลจี้เข้าไป ถ้ามีเพื่อนจากแถวสองมาเติม หรือมีช่องส่งให้กองหน้า จ่ายได้ก็รีบจ่าย แล้วก็..."

จารย์แดงใช้ปากกาเมจิกแท่งเดิมวงไปที่หมุดเหล็กที่เป็นตัวแทนของผู้รักษาประตูของชลบุรีวิทยาลัย พร้อมกับเขียนเครื่องหมายคำถามเอาไว้

"ชลบุรีทีมนี้พยายามเล่นบอลบิ้วอัพจากนายประตู จะไม่ค่อยเห็นชลบุรีให้นายประตูสาดบอลยาวขึ้นหน้า ดังนั้น ไอ้แจ็ค ไอ้โม่ แล้วก็มึง" หนุ่มใหญ่อดีตดาวซัลโวทีมชาติไทยชี้ไปที่ศูนย์หน้าประจำทีม "ให้วิ่งเพรสปิดพื้นที่กองหลังทั้งสามตัวนี้ซะ!!! ทำไงก็ให้นายโกลเปิดบอลพลาด แล้วมึงอีกสองคน" จารย์แดงชี้ไปที่กองกลางและฟูลแบ็คประจำทีม "วิ่งไปปิดช่องปีกทั้งสองทางเอาไว้ เข้าใจตรงกันนะ?"

(บิ้ลอัพ (Build Up) - มันคือการที่ผู้รักษาประตู แทนที่จะโยนบอลเตะยาวสาดไปหน้า ไปวัดดวงว่าทีมของตนจะสามารถชิงเหลี่ยมบอลจากคู่แข่งได้หรือไม่ ก็เปลี่ยนให้ผู้รักษาประตูเป็นผู้เริ่มต้นในการทำเกมด้วยการโยนบอลให้ผู้เล่นฝ่ายตัวเอง อาจจะเป็นกองหลัง แบ็คทั้งสองข้าง เพื่อช่วยในการครอบครองบอลเหนื่อฝ่ายคู่แข่งนั่นเอง)

ลูกทีมของอาจารย์แดงทุกคนพยักหน้า เมื่อได้ยินการวางแผนแก้เกมของผู้นำทีม แน่นอนว่าในปัจจุบัน เทรนด์ฟุตบอลนั้นเน้นเรื่องความฟิตและการเพรสซิ่งบีบพื้นที่และชิงบอลจากคู่แข่งให้ได้เร็วที่สุด และเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกให้เร็วที่สุด เพื่อให้อีกฝ่ายไม่มีโอกาสได้หายใจหายคอ ซึ่งมันเป็นกลยุทธ์ที่ทีมดังหลายทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล นิยมใช้จนประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม



(แผนการเล่น 4-2-3-1 ของโรงเรียนบางกอกคาทอลิก ที่อาจารย์แดงกำหนดไว้ให้ลูกทีมได้เล่นตาม)


"แน่นอน ว่าเราคงจะเล่นเพรสซิ่งตลอดไม่ได้" อาจารย์แดงกล่าวสรุปแผนการ "เราจะเล่นแผนเดิม 4-2-3-1 แต่จำไว้ว่า เมื่อไรที่นายประตูของชลบุรีมีโอกาสจะรับบอลได้ ให้รีบไปวิ่งบีบกองหลังทั้งสามตัวซะ เพื่อป้องกันลูกสวนกลับ และบีบให้นายประตูฝังนั้นโยนบอลมั่ว พยายามอย่าให้ชลบุรีตั้งเกมหรือเซ็ตเกมได้ ตัดเกมให้เร็วที่สุด แย่งบอลให้ได้เร็วที่สุด อาศัยความผิดพลาดจากอีกฝ่ายให้เป็นประโยชน์ กูเชื่อว่าพวกมึงทั้งหมดทำได้ สู้เพื่อโรงเรียนของเรา พวกมึงคือใคร?"

(เพรสซิ่ง (Pressing - เทรนด์ฟุตบอลยุคสมัยของหลายทีมชั้นนำของโลก ที่ว่าด้วยการที่ผู้เล่นของฝ่ายเราวิ่งเข้าบีบไล่บอลและปิดพื้นที่ฝ่ายคู่แข่ง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตั้งหลักได้ เมื่อแย่งบอลได้ก็จะฉวยโอกาสนี้เปลี่ยนจังหวะจากเกมรับเป็นเกมรุกโดยทันที)

"บางกอกคาทอลิก!!!" ทีมนักเตะชุดเล็กของโรงเรียนตะโกนลั่นห้องพักนักกีฬา

"กูไม่ได้ยิน!! พวกมึงคือใคร!!!??" อดีตดาวซัลโวทีมชาติไทยถามอีกรอบ

"บางกอกคาทอลิก!!!" นักเตะชุดเล็กของโรงเรียนตะโกนเสียงดังมากขึ้น

"เยี่ยม!!! พวกมึงทั้งหมด!! ลงไปเล่นให้สนุก!!! เล่นเพื่อโรงเรียน!! จำไว้!!! สู้เพื่อศักดิ์ศรีของเรา!!" แล้วอาจารย์แดงก็กำมือกุมที่ตราโรงเรียนที่อกซ้าย "ไอ้โม่!! อย่าลืมต้องทำยังไง!!!"

แล้วไอ้โม่ หรือมนัส เพื่อนสนิทของเจ้าแจ็คที่เล่นปีกซ้ายก็เรียกเพื่อนทุกคนที่มีรายชื่อตัวจริงและตัวสำรองมาโอบกอดคล้องคอ เพื่อพูดปลุกขวัญกำลังใจก่อนลงแข่ง

"พวกเรา ได้ยินที่จารย์แดงพูดใช่ไหม? เล่นให้สนุกโว้ย เล่นเพื่อโรงเรียน สู้เพื่อศักดิศรี เพราะพวกเราคือบางกอกคาทอลิก เอาเว้ย!!! ลงไปซัดพวกแม่ง ถล่มให้ยับ!!! 1...2...3 เราจะสู้!!!"

แล้วขุนพลวัยกระเตาะของบางกอกคาทอลิก ในชุดเสื้อสีม่วงกางเกงขาว ถุงเท้าสีกรมท่าพร้อมกับทีมงานโค้ชและผู้ฝึกสอนก็เดินออกมาจากห้องพักนักกีฬา โดยกลุ่มผู้เล่นตัวจริงทั้ง 11 คน จะยืนเรียงแถวตอนเดียว เช่นเดียวกับโรงเรียนชลบุรีวิทยาลัย ในชุดลายขาวแดง กางเกงแดง ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว

"ตื้อ ดื้อ ดือ ดือ ตื่อ ดื้อ ดือ ดื่อ...." แล้วเพลงประกอบการแข่งขันก็ดังขึ้น ผู้เล่นทั้งสองทีมก็ค่อย ๆ เดินออกมาจากอุโมงค์ของสนาม แต่ระหว่างนั้น เหมือนมีอุบัติเหตุนิดหน่อย เนื่องจากสกอร์บอร์ดไม่ทำงาน ทีมช่างได้รีบเข้าไปแก้ไข เลยทำให้ผู้เล่นทั้งสองทีม ยืนรออยู่ตรงลู่วิ่งข้างสนาม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากสนามแห่งนี้กำลังเดินผ่านไป

"พี่สาวคนนั้นน่ารักว่ะ!!!" ไอ้โม่ที่เป็นกัปตันทีมหันไปดู จนทำให้ลูกทีมที่เหลือหันไปมองตาม มีหรือที่ไอ้เด็กแก่แดดอย่างเจ้าแจ็คจะพลาด พอหันไปเท่านั้นแหละ

"พี่สาว?" จักรภัทรจำหน้าพี่สาวที่ตัวเองช่วยหยิบกระเป๋าสตางค์และก้มลงเอาหัวชนกันได้เมื่อไม่กี่วันก่อน ด้วยความกะล่อนที่เป็นนิสัย เลยทำให้หนุ่มน้อยตะโกนเรียกพี่สาวคนนั้นอย่างลืมตัว "พี่สาว!!! ใช่พี่สาวคนนั้นหรือเปล่าครับ!!! ที่ผมเจอเมื่อวันก่อนน่ะ!!! นี่ผมไงครับ!! ที่ช่วยพี่หยิบกระเป๋าเมื่อวันก่อนน่ะ!!!"

แล้วกลุ่มนักเตะทั้งสองทีมก็หันไปมองพี่สาวนักศึกษาคนนั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นจิณณพัต ที่กำลังยืนงงเป็นไก่ตาแตก ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน

"น้อง? น้องเป็นนักฟุตบอลโรงเรียนเหรอเนี่ย???" จิณณพัตเอ่ยปากถามด้วยความตกใจ ส่วนเพื่อน ๆ ที่มาด้วยกันพลางอมยิ้มขำ เอาซะแล้วเพื่อนเรา จะโดนเด็กน้อยจีบข้ามรุ่นซะแล้วซิ



"วี้ดดดวิ้วววว!!!!" แล้วเด็กนักฟุตบอลทั้งสองทีมก็ส่งเสียงแซวกันใหญ่ แม้แต่ผู้เล่นของชลบุรีวิทยาลัยที่เป็นคู่แข่งก็หันมายิ้มให้ความเจ้าชู้แก่แดดของคู่แข่ง

"ไอ้แจ็ค...ไอ้เด็กเปรต..." อาจารย์แดงที่ยืนคุยกับทีมงานของสนามด้านหลัง ก็นึกหมั่นไส้ เลยต้องสั่งสอนอะไรสักอย่าง "โอเคครับตามนั้น เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ"

แล้วอาจารย์แดงก็เดินหน้าบึ้งตรงเข้าไปหาไอ้แจ็คที่ยืนหันหลัง พวกเด็กนักฟุตบอลของทีมที่นั่งอยู่ซุ้มม้านั่งสำรองก็หัวเราะร่วน เพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดหลังจากนี้

"ไอ้แจ็ค มึงซวยแล้ว 55555+"

"อย่าลืมเชียร์ผมด้วยนะครับพี่สาว!!!" ไอ้แจ็คนี่ก็หมั่นหน้าเหลือเกิน โบกมือทักทายจัณณพัตที่กำลังเสียอาการ จนต้องรีบเดินหนีไปเพราะความเขิน แล้วทันใดนั้น ก็เหมือนโลกที่กำลังเป็นสีชมพูของไอ้เด็กเกรียนคนนี้ก็หายวับไป เมื่อฝ่ามืออรหันต์ของอาจารย์แดงประทับที่ศีรษะของมัน

"เพี๊ยะ!!!!"

"โอ้ยยยย!!!"

"5555555+" แล้วเสียงหัวเราะก็ลั่นทั่วสนาม ไม่ใช่แค่กลุ่มนักฟุตบอล ทีมงานโค้ชและผู้ฝึกสอนของทั้งสองทีม แต่ยังรวมถึงเด็กนักเรียนจากทั้งสองฝ่ายที่มาเชียร์ในการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ด้วย

"ไอ้แจ็ค!!! ตั้งใจหน่อยซิ!!! เดี๋ยวจะลงแข่งอยู่แล้วนะมึง!!" อดีตดาวซัลโวทีมชาติไทยด่าลูกทีมชุดใหญ่ "มึงทำอะไรคิดถึงหน้าตาโรงเรียนด้วย!!"

"โอ้ยยย!!! เจ็บนะจารย์!!!" เจ้าแจ็ครีบเอามือถูกหนังศีรษะเกรียน ๆ ด้านหลังที่แดงช้ำเป็นรูปฝ่ามือด้วยความเจ็บ แต่ยังไม่วายหันไปโบกมือทักทายพี่สาวนักศึกษาคนนั้น "อย่าลืมเชียร์ผมนะครับ พี่สาว!!!"

"อยากโดนอีกไหม!!!??" แล้วจารย์แดงก็เงื้อมือเตรียมตบเกรียนเด็กแสบ "จะแข่งบอลอยู่แล้ว มีสมาธิหน่อย!!!"

"ครับ ๆ ขอโทษครับจารย์!!" เจ้าแจ็คหันไปยิ้มเขิน ๆ ให้อาจารย์แดง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมทีมและคู่แข่ง ก่อนที่เสียงธีมการแข่งขันฟุตบอลจะดังขึ้นอีกครั้ง

แล้วบรรยากาศชวนหัวร่อเมื่อครู่ก็หายไป ผู้เล่นทั้งสองทีมเดินเข้าไปสู่สนาม แล้วยืนเรียงแถวหน้ากระดาน พร้อมกับทีมงานผู้ตัดสินที่จะลงทำหน้าที่ในครั้งนี้

.....................

 

โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller



Manoptana

แจ็คก็ยังแสบเหมือนเดิมใกล้สาวเป็นต้องเกาะแกะไปเรื่อย งานนี้พี่สาวจิณได้หน้าแดงเขินให้ดูครึ่งสนามเลย

××Mon××






laphatsanai1992

แจ็คก็ยังแสบเหมือนเดิมใกล้สาวเป็นต้องเกาะแกะไปเรื่อย งานนี้พี่สาวจิณได้หน้าแดงเขินให้ดูครึ่งสนามเลย 😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊





biggiggog