ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มนตรา สงคราม ความรัก ตอนที่ 24: ใต้แสงดาวแห่งอดีตกาล

เริ่มโดย KaohomLM, กุมภาพันธ์ 03, 2022, 05:30:08 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   ตู๊ด ต๊ด ตู๊ด
   "ฮัลโหล เจ๊ มีอะไรเหรอครับ"
   "พี่นที คือ เมื่อกี้พวกปิศาจเพิ่งบุกสำนักงานใหญ่สภาผู้พิทักษ์"
   "แล้ว?"
   "แล้วหนูช่วยทุกคน....เอ่อ....ทุกคนที่เหลือไว้ได้ค่ะ แล้ว ทีนี้...."
   "ทีนี้?"
   "พวกเราจะจัดงานเลี้ยงใหญ่ เป็นการฉลองชัยชนะ อำลาคนที่ตายไป แล้วก็ชุบชูขวัญกำลังใจคนที่เหลืออยู่ แล้ว...แล้วหนูอยากชวนพี่มาด้วยอะค่ะ พี่ไม่ต้องบอกใครก็ได้ว่าพี่เป็นใครแล้ว...."
   ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
   ข้าวหอมมองโทรศัพท์อย่างไม่เชื่อสายตา เธอรีบกดโทรหาพี่นทีอีกครั้ง
   ตู๊ด
   "ไม่ไป!!!!!!!!"
   "แล้ว แล้วถ้า ถ้าแค่เราสองคนล่ะคะ พี่กับหนู....หนู หนูอยากฉลองกับพี่" นทีเงียบไปพักใหญ่ ข้าวหอมลุ้นจนตัวบิด
   "เอาสิ แค่เราสองคน น่าจะสนุกนะ" ข้าวหอมยิ้มแก้มแตกเมื่อได้ยินคำตอบนี้
   "งั้น ให้หนูไปเจอที่ไหนคะ"
   ทั้งสองตกลงกันเรื่องที่นัดพบ ก่อนที่ข้าวหอมจะกดวางสายด้วยความอาลัย แล้วเดินกลับไปหาคนอื่น ๆ
   "งานคืนนี้หนูอยู่ไม่ได้แล้วนะคะ"
   "อ้าว ทำไมล่ะ หนูข้าวหอม" ผู้อาวุโสมงคลถาม "งานนี้ส่วนหนึ่งคือจะให้เกียรติหนูเลยนะ ถ้าไม่ได้หนูพวกเราตายหมดแน่"
   หลังจากที่สถานการณ์สงบลง พวกผู้พิทักษ์เริ่มส่งคนออกไปตรวจดูสภาพสำนักงานใหญ่ แล้วจึงพบว่า โชคดี ที่มีผู้พิทักษ์เสียชีวิตไปจริง ๆ แค่สามคนเท่านั้น คือผู้อาวุโสไมเคิล เด็กฝึกหัดคนหนึ่ง และผู้พิทักษ์ระดับสูงอีกคนหนึ่ง พวกที่เหลือนอนระเกะระกะอยู่นั้นส่วนใหญ่แค่บาดเจ็บ มีอยู่คนหนึ่งที่หมอประจำองค์กรไม่แน่ใจว่าจะรอดหรือเปล่า แต่ที่เหลือดูจะบาดเจ็บไม่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนปิศาจที่บุกมาแล้ว ถือว่าสภาเสียหายน้อยมากทีเดียว เมื่อพบว่าเสียหายน้อยขนาดนั้น ผู้อาวุโสมงคลจึงคิดจะจัดงานฉลองเพื่อเรียกขวัญกำลังใจ
   "หนู หนูมีนัดกับคนอื่นค่ะ" ข้าวหอมบอก ก็เพิ่งนัดกันเมื่อกี้ไง
   เก่งหรี่ตามองดูข้าวหอม นัดกับคนอื่นงั้นเหรอ นัดกับใคร ไม่ใช่แตงโมกับเบลแน่ เพราะไม่งั้นแตงโมต้องบอกเขา แถมสีหน้าของน้องข้าวของเขาตอนนี้ เขารู้จักข้าวหอมดี และรู้ว่าเธอกำลังรู้สึกประหม่า เคอะเขินและตื่นเต้นแค่ไหน ข้าวหอมกำลังมีความรักเหรอ เธอนัดกับแฟนไว้วันนี้พอดีหรือไง เขาเอ่ยปากถามไปต่อหน้าผู้อาวุโสไม่ได้ แต่เก่งก็อดจะรู้สึกใจหายไม่ได้ เขารู้จักกับหญิงสาวคนสวยนี้มาตั้งแต่เธออายุได้สี่ขวบ ส่วนเขาหกขวบ และได้มาอยู่บ้านเดียวกันตั้งแต่เธออายุสิบเอ็ด ในความคิดเขานั้นเธอไม่ได้ต่างอะไรจากน้องสาว แต่จะมีใครเล่าที่ดีพอจะคู่ควรกับน้องสาวแสนสวยคนนี้
   "ถ้าอย่างนั้นก็ได้" ผู้อาวุโสมงคลถอนหายใจ "อย่างไรผมก็ต้องขอบคุณหนูในนามของสภาด้วยนะ ไปเถอะ"
   "พี่ไปด้ว..." เก่งเดินเข้ามา
   "ไม่ค่ะ" ข้าวห้อมพูดเสียงแข็ง "หนูไปคนเดียว พี่อยู่ฉลองกับคนอื่นไปเถอะ"
   ข้าวหอมรีบออกจากสำนักงานใหญ่ไป แต่เก่งก็อดสังเกตไม่ได้ ว่าท่าเดินของข้าวหอมนั้นราวกับจะข่มตนเองไม่ให้กระโดดโลดเต้นก็ไม่ปาน ใช่ เขาประเมินถูกแล้ว น้องข้าวหอมต้องกำลงัมีความรักแน่ แต่พี่ชายที่แสนดีอย่างเขาจะทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อเขาก็คบกับเพื่อนสนิทของเธออยู่ แถมยอมรับกับเธอเองว่าได้ซั่มเพื่อนสนิทของเธอไปแล้วด้วย
   .........................................................
   "โห พี่นที เกินไปป่าว" ข้าวหอมถาม เมื่อไปถึงจุดนัดพบ แล้วเจอนทีในชุดสูทเรียบกริ๊บ ผูกหูกระต่าย
   "เกินไปเหรอ..." นทีถาม
   "ก็ดูดิ หนูยังใส่แค่ชุดนักศึกษาเลย" เธอไม่มีโอกาสได้แวะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไหนด้วยซ้ำ ก็แค่เสกให้ชุดเกราะหายไปแล้วตรงดิ่งมาหาพี่นทีเลย
   นทีเหลียวมองรอบตัวให้แน่ใจว่าไม่มีใครเดินผ่านไปผ่านมา แล้วจึงโบกมือสะบัดไปมาสองสามที ชุดสูทสุดหรูสลายไปเปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับกางเกงขายาวธรรมดา ๆ "อย่างนี้พอได้ไหม"
   "ก็ โอเคค่ะ" ข้าวหอมกวาดตามองพี่นทีตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพยักหน้า
   "ทำไมทำแก้มแดงอย่างนั้นล่ะ" นทีถาม
   "อะไร แก้มแดงอะไร ป่าวซะหน่อย" ข้าวหอมปฏิเสธ "ไปกินข้าวกันเถอะ!"

   หลังจากอาหารเริ่มมาตั้งบนโต๊ะ ข้าวหอมก็หยุดไม่อยู่ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พี่นทีฟังแบบฉากต่อฉาก
   "...มันเคลื่อนไหวได้คล่องตัวมากเลย หนูไม่รู้สึกเหมือนใส่เกราะอยู่ด้วยซ้ำ..."
   "อืม"
   "...แล้วพอปิศาจตัวนั้นมันเข้ามาแบบนี้ หนูก็...."
   "อืม"
   "...แล้วหนูก็ช่วยชีวิตคนนั้น แบบนี้..."
   "อืม"
   นทีกลั้นยิ้มไม่อยู่ ช่างดีจังเลยนะ ที่ได้เห็นเธอตื่นเต้นกระตือรือร้นแบบนี้ แทนที่จะเครียด เสียใจ เศร้าหมอง บึ้งตึงอย่างที่เขาเคยเห็นมา
   "เอ่อ แล้ว พี่ไม่รำคาญหนูนะ"
   "รำคาญเหรอ ไม่เลย ตรงข้าม พี่ว่าเจ๊น่ารักมากเวลาไฮเปอร์แบบนี้"
   ข้าวหอมพยายามซ่อนหน้าที่แดงเป็นลูกตำลึงตอนได้ยินคำว่าน่ารัก
   "หนูไม่ได้ไฮเปอร์ซะหน่อย แค่...แค่ตื่นเต้นไปหน่อย"
   "พี่ไม่ได้ว่านะ" นทีบอก "แค่ไม่ได้เห็นใครกระตือรือร้นในเรื่องนี้มานานเต็มทีแล้ว"
   "ต้องขอบคุณพี่มาก ๆ นะคะ" ข้าวหอมบอก "เพราะพลังที่พี่มอบให้หนูนี่แหละ หนูถึงทำแบบนี้ได้"
   "พี่ก็ต้องขอบคุณเจ๊ด้วย" นทียิ้ม "ถ้าไม่ได้เจ๊ วันนี้สภาคงล่มไปแล้ว"
   "แล้วพี่ก็ขี้เกียจลงไปแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ใช่ พี่บอกหนูแล้ว" ข้าวหอมบอก แต่ก็อดรู้สึกใจแป้วไม่ได้ นี่เธอเป็นแค่เครื่องมือของเขาหรือเปล่านะ "แต่จริง ๆ หนูเริ่มอยากเห็นพี่สู้แล้วสิ พี่ต้องเก่งมาก ๆ แน่ ๆ"
    "สภาผู้พิทักษ์แต่โบราณมีฝ่ายเทคนิค ที่มีหน้าที่ซ่อมบำรุงและผลิตวัตถุเวทย์ พวกนี้ทำหน้าที่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่มีความรู้ด้านการต่อสู้"
   "แล้วพี่ใช่แบบนั้นหรือเปล่า"
   เขามองหน้าเธอพักหนึ่งก่อนจะตอบ "ไม่ใช่ พี่พอสู้เป็นอยู่"
   "หนูก็ว่างั้นแหละ"
   "เอาสเต็กสักหน่อยไหม" นทีถามเป็นการเปลี่ยนเรื่อง พลางก็ตัดสเต็กของเขาออกมาหน่อยหนึ่ง "อร่อยนะ"
   "อ้าาาา" ข้าวหอมอ้าปากหวอ ทำตากลมป๊อก
   "ให้ป้อนเลยเหรอ อ่ะ ป้อนก็ป้อน" นทีเอาส้อมจิ้มสเต็กแล้วแหย่เข้าไปในปากข้าวหอม
   "ง่ำ งืมมมมม งื๊อออออออออออ"
   "เจ๊หน้าแดงอีกแล้วนะ"
   "งื๊อออออ" ข้าวหอมอายจนบิด ทั้งคู่กินอาหารต่อไปอย่างเงียบ ๆ เพราะข้าวหอมอายจนไม่กล้าพูดอะไร เมื่อกินกันอิ่ม นทีก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดจะจ่ายค่าอาหาร ข้าวหอมใจหายวูบเมื่อเห็นภาพถ่ายขาวดำของผู้หญิงคนหนึ่งในกระเป๋าสตางค์ของพี่นที
   "รูปใครคะ" ข้าวหอมถามเสียงสั่น
   "หือ" นทีมองตามสายตาของเธอ "อ๋อ รูป...รูปพี่ขวัญนะ เรียกพี่ขวัญเพราะเขาแก่กว่าเจ๊แล้วกันเนอะ จริงๆ เขาเด็กกว่าพี่"
   "แล้ว เขากับพี่..."
   "เป็นแฟนกัน.... แฟนเก่าหน่ะ" นทีรีบเสริมเมื่อเห็นสีหน้าปานจะขาดใจของข้าวหอม
   "แฟนเก่า....แล้วตอนนี้..."
   "ตายแล้ว ตายไปหลายปีแล้ว"
   "หนู...หนูเสียใจด้วยนะคะ" แต่ในใจเธอก็ไม่รู้จะเสียใจหรือดีใจดี "พี่เขาตายยังไงหรือคะ"
   "สู้กับปิศาจ" นทีตอบห้วน ๆ "หลังจากวันนั้นพี่ก็ถอนตัวจากวงการ ไม่ได้กลับไปอีกเลย"
   "พี่ยังรักเขาอยู่ใช่ไหมคะ" ข้าวหอมถาม เธอเห็นความเจ็บปวดในสีหน้าของนที และอยากจะคว้ามือเขามากุมเป็นการให้กำลังใจเหลือเกิน
   "ยังรักอยู่" นทีตอบสีหน้าอ่านยาก สายตาว่างเปล่า "รักจนไม่อยากจะสู้ ไม่อยากจะทำหน้าที่ในสภาผู้พิทักษ์อีกแล้ว เพราะมันชวนให้พี่นึกถึงที่พี่เคยทำร่วมกันกับพี่ขวัญ แล้วมันก็เจ็บปวดเหลือเกิน แต่...แต่...มันก็หลายปีแล้ว...บางที...อาจจะถึงเวลาที่ปล่อยให้พี่ขวัญเป็นความรักในความทรงจำแล้ว...แล้วก้าวเดินต่อไป เจ๊คิดว่าไง"
   ข้าวหอมไม่ตอบ นทีคิดจะให้เธอตอบอย่างไรงั้นเหรอ เขาพยายามเสนอว่าก้าวเดินต่อไปคือจะมาคบกับเธอแทนหรือเปล่า
   นทีจ่ายเงิน และพาข้าวหอมออกจากร้านมาโดยไม่พูดอะไรกันอีก
   "พี่ไม่โกรธหนูนะ" ข้าวหอมถามเบา ๆ "ที่หนูถาม เรื่องนั้น"
   "ไม่หรอก เศร้า แต่ไม่โกรธ" นทีบอก "บางแผลมันก็ใหญ่เกินกว่าเวลาจะเยียวยา ว่าไหม"
   คราวนี้ข้าวหอมไม่พลาดคิว คว้ามือของนทีแล้วบีบแน่น ชายหนุ่มหันมามองหน้าเธอ ข้าวหอมรู้สึกแปลกใจที่เห็นรอยแดงอยู่บนแก้มของชายหนุ่มเหมือนกัน ส่วนหน้าเธอนั้นแดงเป็นตำลึงสุกไปตั้งนานแล้ว
   "ขอบคุณนะครับ เจ๊" เขาบีบมือเธอกลับ
   "ให้หนูอยู่ข้าง ๆ พี่นะ"ข้าวหอมดันตัวเข้าชิดตัวของนทีมากขึ้น
   "ได้สิ" นทีตอบและลูบผมเธอเบา ๆ "มีที่หนึ่งที่พี่อยากไป มาด้วยกันได้ไหม"
   "ที่ไหนคะ" ข้าวหอมถาม แม้จะรู้ตัวเต็มที่แล้วว่าเธอรักพี่นทีแค่ไหน แต่เธอก็เคยได้ยินเรื่องผู้ชายที่หลอกพาสาวไปฟันมาเยอะเกินกว่าจะไว้ใจแม้แต่พี่นที "ถ้าม่านรูดหนูไม่ไปนะ"
   "ทำไมจิตใจมันใฝ่ต่ำจังว๊ะ" นทีถาม แต่ก็ยิ้มกวนประสาทออกมาได้หน่อย ๆ
   "เป็นมุขเฉย ๆ หนูเห็นพี่เศร้าอ่ะ" ข้าวหอมรีบบอก "หนูไว้ใจพี่ค่ะ ไปกันเถอะ"
   แว่บ
   นทีพาข้าวหอมเทเลพอร์ตมาที่หน้าผาแห่งหนึ่ง เบื้องล่างเป็นผืนป่าทอดยาวสุดสายตา แต่บนฟ้านั้นส่องสว่างไปด้วยดวงดาวในแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
   "ว้าวววววววว" ข้าวหอมร้อง
   นทีก้มลงมองเธอ และเห็นดวงดาวสะท้อนเป็นกระกายอยู่ในดวงตาของเธอราวกับกระจกคู่งาม
   "สวยไหม" เขาถาม
   "หนูไม่เคยเห็นดาวแบบนี้มาก่อนเลย"
   "และจะไม่มีวันได้เห็นที่อื่น กับคนอื่นด้วย" นทีบอก "เจ๊เคยสงสัยไหม ว่าทำไมปราชญ์โบราณถึงได้เฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของดวงดาวได้ยาวนานจนเล่าเป็นเรื่องราวได้ไม่รู้จบ ดูนั่นสิ โอไรออนนักดาบแห่งฟากฟ้ากับเข็มขัดเส้นงาม เห็นแมงป่องตัวนั้นไหม ที่มันคอยเฝ้าอยู่ที่ข้อเท้าของนักรบ ส่งมาจากทวยเทพให้มาตามเล่นงานเขา แล้วดูนั่นสิ ดาวอังคาร ผู้นำมาซึ่งสงคราม ส่งแสงแดงแก่ก่ำประดุจว่าท้องฟ้าทาบทาด้วยเลือด"
   "แล้วดวงนั้นล่ะคะ" เธอชี้ไปที่ดาวที่สว่างที่สุด
   "ดาวประกายพฤกษ์ ดาวที่งามที่สุดบนฟากฟ้า ส่องแสงแข่งกับแสงแห่งดวงจันทร์" นทีบอก
   "ทำไมหนูไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลย"
   "เพราะดาวเหล่านี้ไม่มีอยู่อีกแล้ว"   
   "หือ"
   "มนุษย์รังสรรค์แสงที่ส่องสว่างได้ดั่งใจนึก เปลี่ยนกลางคืนให้เป็นกลางวัน แสงนั้นช่วยให้เราพัฒนามาได้ถึงจุดนี้ แต่แสงนั้นก็ได้กลบแสงสว่างแห่งดวงดาราไปจนสิ้น ความงามที่เคยมี รัศมีที่เคยส่องสว่างกลางเวหา บัดนี้ถูกกลบไปหมดสิ้นด้วยแสงจากพื้นดิน เหลือไว้แค่จุดกระดำกระด่างบนแผ่นดำ ๆ ด้าน ๆ ภาพที่เราได้เห็นอยู่ตอนนี้ มันเป็นแค่ความทรงจำ ความทรงจำของพี่...ความทรงจำของเรา"
   นทีละสายตาจากดวงดาวมาหาข้าวหอม
   "อดีต อาจจะสวยงาม"
   "สวยค่ะ"
   "แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องหวนกลับสู่ปัจจุบัน และปัจจุบัน คนที่ยืนอยู่หน้าพี่คือเจ๊"
   ข้าวหอมละสายตาจากดวงดาวมามองหน้านที เธอคิดว่าเธอเข้าใจแล้วว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร
   "และคนที่ยืนอยู่หน้าหนูก็คือพี่ค่ะ" ข้าวหอมบอก "และ...และหนูก็รักพี่นะ"
   "พี่ก็รักเจ๊เหมือนกัน" นทีบอก
   "เป็นแฟนกับหนูนะคะ"
   "อืม"
   ข้าวหอมเอื้อมมือขึ้นไปโอบรอบคอนที เหนี่ยวหน้าชายหนุ่มลงมาและประทับริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากของเขา สองหนุ่มสาวแลกเปลี่ยนจูบแรกกันภายใต้แสงดาวจากอดีตกาลที่สว่างไสวอยู่รอบกาย ที่ใต้เท้า ดอกไม้งามผุดขึ้นจากพื้นชูช่อบานสะพรั่งราวกับจะแสดงความยินดีกับคู่รักใหม่

ที่ซ่อนอยู่คือ Sneak Peek ของตอนต่อไปนะครับ
    

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


gigantic

ถ้านทีลงมือสู้เอง ศัตรูต้องระดับหัวหน้าแล้วแบบนี้

mrzoom



dawdom

จัดหนักสิครับ แบบนี้ประตูหลังก็อย่าปล่อยให้ลอยนวล

3hman

รวบรัดตัดตอนรวดเร็วแท้  บทสุขมีแล้ว ต่อไปคงของจริง

dwarf

ขอบคุณ​ครับ.. น้องข้าวหอมไวไฟมากเลยครับพี่นที.. อุตส่าห์ไว้ตัวมาตั้งนาน

Sawat Songprasop




biggiggog

งานนี้นทีมาแรงอยู่นะ
แต่จะหักมุมกันหรือปล่าวหล่ะ
ขอบคุณครับ


จรัญ บุญชู


Angel_p