ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 12

เริ่มโดย twintower, ตุลาคม 18, 2022, 03:42:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

เจ้าของเสียงที่เรียกเธอนั้นอยู่ในชุดนุ่งขาวห่มขาว แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจอย่างมากคือเป็นใบหน้าที่เธอคุ้นชิน เธอเห็นใบหน้าแบบนี้ในกรอบรูปที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ตั้งแต่ห้องรับแขกจนถึงในห้องนอนของหมออินทรายุทธ  คนที่เรียกเธอคือ    ลินดาแม่ของหมออินทรายุทธ ลินดากวักมือเรียกให้เธอเข้ามาหาซึ่งกิ่งกาญจน์ทำตาม ก่อนที่เธอจะถามอะไรลินดาได้บอกกับเธอ

"ป้าขอบคุณหนูมากที่มาคอยช่วยเหลือตายุทธ"

เธอยกมือขึ้นไหว้ลินดาแล้วถามไปทั้งๆที่ยังไม่มีสติเท่าที่ควร

"คุณป้ารู้ด้วยหรือคะ"

อีกฝ่ายพยักหน้า แต่แล้วกิ่งกาญจน์นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้กับเสียงนี้ เสียงที่เรียกเธอให้เข้ามาหลบในคอนโดตอนที่วิญญาณร้ายของทรงเดชพุ่งเข้ามาหาเธอ เป็นเสียงของลินดานี่เอง

"หนูจำเสียงคุณป้าได้แล้ว วันนั้นที่ไอ้ผีร้ายมันจะมาทำร้ายหนูแต่คุณป้าเรียกให้หนูเข้ามาหลบในคอนโด แสดงว่าคุณป้าเป็นคนขอร้องท่านพระภูมิ"

"ใช่จ๊ะ ความจำหนูนั้นดีมาก"

"ขอบพระคุณคุณป้ามากคะที่ช่วยหนู แต่ถ้าเป็นแบบนี้เท่ากับว่าที่ผ่านมาคุณป้านั้นตามดูแลคุณหมอตลอดละสิคะ"

อีกฝ่ายยิ้มเศร้าๆก่อนจะตอบเธอ

"มันเป็นบางเวลาเท่านั้นละจ๊ะ ถ้ามันไม่เป็นการละเมิดเส้นของจักรวาลป้าช่วยได้ป้าก็จะช่วย"

"แล้วทำไมคุณป้าถึงยังไม่........"

เธอถามยังไม่ทันขาดคำลินดานั้นดูจะรู้ว่าเธอจะถามอะไรจึงตอบเธอ

"ป้ายังมีเวรกรรมที่ต้องชดใช้อยู่จะ สมัยเป็นคนป้าเองก็ทำบาปกรรมไว้พอสมควร ป้าถึงยังไปไหนไม่ได้"

"แต่คุณหมอไม่รู้ว่าคุณป้ายังคอยดูอยู่"

"ใช่หนูกิ่ง ตายุทธไม่ควรรู้ว่าป้ายังอยู่ไม่ห่างเขา ถ้าเขารู้มันจะยุ่งยากมา ถึงเขาจะมีพลังวิเศษที่ได้รับมา แต่เขาก็ไม่มีวันที่จะเห็นป้าถ้าป้าไม่อยากให้เขาเห็น แล้วที่ป้ามาดักเจอหนูป้าอยากจะมาขอบคุณหนูที่คอยช่วยเหลือตายุทธ และป้ามีเรื่องที่อยากจะเตือนว่า ในช่วงนี้หนูกิ่งควรจะอยู่ในบ้านนี้อย่าไปไหนให้อยู่ใกล้คุณตาจะปลอดภัยที่สุด ถึงตายุทธจะไปเยี่ยมคุณอสนีหนูก็ไม่ควรจะไปด้วย เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มันจะได้ไม่ไปกระทบกับทางคุณอสนี ที่นี่คุณตาท่านพิทักษ์ปกป้องหนูได้อยู่แล้ว"

คำพูดของลินดานั้นทำให้ตกใจเป็นอย่างมาก กิ่งกาญจน์รีบถามกลับไปทันที

"หมายถึงอะไรคะคุณป้า"

"ป้าเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างมาก ถ้าไม่ระวังตัววิญญาณของหนูก็อาจมีอันตรายได้ ป้าเตือนหนูได้เพียงเท่านี้ เอาละป้าไปก่อนนะ"

"แล้วเราจะได้เจอกันอีกหรือเปล่าคะคุณป้า"

อีกฝ่ายยิ้มเศร้าๆพร้อมส่ายหน้า

"เราไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้วในชาติภพนี้หนูกิ่ง "

คำตอบที่ได้รับทำเอาเธอนั้นเศร้าใจอย่างมากถึงจะได้เจอเพียงช่วงสั้นๆแต่เธอก็รู้สึกผูกพันกับลินดาอย่างมาก ทั้งเคยแอบช่วยเหลือเธอให้พ้นจากวิญญาณร้าย

"หนูขอบพระคุณคุณป้ามากคะที่มาเตือนหนู"

เธอพูดพร้อมทรุดตัวลงกราบ ก่อนที่ร่างของลินดาจะค่อยๆสลายไป กิ่งกาญจน์ลุกขึ้นยืนพร้อมความรู้สึกที่เศร้าใจอย่างมาก และปริศนาที่ลินดาบอกไว้ทำให้เธอสงสัยอย่างมาก พอเธอเข้าไปในศาลพระภูมิ เธอเห็นคุณตาทวดนั่งอยู่บนตั่งตัวเดิมเหมือนจะรอคอยเธออยู่ พอเธอขึ้นไปนั่งบนตั่งอีกตัว ท่านกาษนติได้พูดกับเธอก่อนที่เธอจะถามเหมือนทุกครั้ง

"นังหนูกิ่งเจ้าไม่ต้องแปลกใจ เขาเป็นเจ้าของบ้านสามารถเข้าออกบ้านหลังนี้ได้ตามสะดวก บางครั้งถ้าตามีภารกิจไปที่อื่น เขาก็มาคอยช่วยดูแลบ้านนี้ให้"

"แต่คุณหมอไม่เคยรับรู้ว่าแม่อยู่ไม่ห่าง"

"ไม่ อย่างที่เขาบอกเจ้า ถ้าเจ้ายุทธรู้แล้วมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่"

"ถ้าอย่างนั้นคุณตาพอจะบอกหนูได้ไหมคะว่าทำไมคุณป้าถึงยังไม่ไปไหน"

"เจ้าคงรู้สินะว่านังหนูลินดา สมัยเป็นคนนะมีวิชาอาคม ถึงจะไม่เคยใช้วิชาไปทำในทางที่ไม่ดี แต่ตัวนังหนูลินดาเองก็คะนองในวิชา เลี้ยงดูพวกดวงวิญญาณไว้มาก ถึงจะเลี้ยงดูอย่างดีแต่มันก็เป็นการกักขังแทนที่ดวงวิญญาณเหล่านี้จะได้ไปตามทางของพวกเขา แต่ไปไม่ได้เพราะถูกผูกไว้ จนตาเองกับหลวงตาท่านหนึ่งที่ลินดานับถือได้เตือนสติเธอจึงคิดได้ก่อนจะปล่อยดวงวิญญาณเหล่าให้เป็นอิสระ แต่มันก็เป็นกรรมของเธอ ที่เธอเป็นโรคร้ายนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของกรรมที่เธอต้องได้รับ พอนังหนูลินดาตาย วิญญาณนั้นถูกลงโทษให้นั่งบำเพ็ญภาวนาเพื่อสำนึกผิด บางครั้งเธอก็มานั่งบำเพ็ญภาวนาในห้องพระของบ้านนี้ หรือไม่ก็ที่อื่นๆตามที่เธอถูกกำหนด แล้วอีกอย่างที่เป็นโทษที่เธอเองยังไม่สามารถที่จะปลดให้หมดกรรมไปได้ นั่นคือมีห่วง ความเป็นห่วงที่นังหนูลินดามีต่อเจ้ายุทธนั้นมีมาก ยิ่งรู้ว่าเจ้ายุทธมีพลังพิเศษ เธอยิ่งเป็นห่วง คอยแอบตามเพื่อปกป้องลูกชายของเธอจากผีร้ายที่มาราวี เจ้าเองก็เหมือนกันนอกจากวันที่เธอขอร้องให้ท่านเจ้าที่ของคอนโดเปิดทางให้หนีเข้าไป วันที่เจ้าเจอเจ้าทรงเดชที่ปากซอยเข้าบ้าน นังหนูลินดาเองก็ปรากฏกายให้ทรงเดชเห็น มันเลยหนีไป"

"น่าสงสารเธอนะคะ แล้วที่ไอ้ส่งเดชมันกลัวคุณป้า หมายถึงคุณป้าเองก็มีวิชาที่ทำให้ทรงเดชมันกลัวหรือคะ"

"ใช่มันเป็นวิชาอาคมที่เธอศึกษามาจากปู่ของเธอ ถึงมันจะมีช่วงหนึ่งตอนที่เธอเป็นคน อาคมของเธอได้เสื่อมสลายลงไปเพราะความตั้งใจของเธอ แต่ภายหลังที่ได้บำเพ็ญเพียรแล้วด้วยบารมีที่เธอมีทำให้วิชาอาคมเหล่านั้นมันได้กลับมาหาเธอ จากที่เธอจำไม่ได้เธอกลับมาจำได้ทุกบท ทุกตัวอักษรที่เธอศึกษามา ทำให้ตัวเธอเป็นวิญญาณที่มีวิชาอาคมสูงอย่างมาก แต่เธอเองก็ไม่เคยใช้ทำร้ายใครเหมือนตอนที่เธอเป็นคน ถึงตัวนังหนูลินดาถึงจะทำบุญมาเยอะแต่ก็มีกรรมที่ต้องชดใช้เช่นกัน ตัวเธอเองต้องใช้กรรมที่ก่อขึ้นมาเสียก่อน บุญนะมันทดแทนกับบาปที่ทำขึ้นมาไม่ได้หรอก"

ท่านกาษนติกล่าวเหมือนจะสั่งสอนกิ่งกาญจน์ไปด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ท่านกาษนติไม่ได้บอกกิ่งกาญจน์ ว่าเพราะอะไรลินดาถึงเพียงถูกลงโทษให้บำเพ็ญเพียร เพราะบารมีของอสนีที่เคยอุทิศส่วนกุศลให้กับพวกแม้นและบรรดาวิญญาณที่ลินดาเลี้ยงไว้เพื่อเสพสุข มันได้แผ่มาถึงตัวลินดารวมถึงตอนก่อนที่เธอจะสิ้นใจอสนีได้อุทิศส่วนกุศลให้เธออีกด้วย และตั้งแต่ที่เธอจากโลกนี้ไปอสนีได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลอยู่ตลอด ทำให้ตัวของลินดาได้รับบุญบารมีจาการอุทฺศส่วนกุศลของอสนี เธอจึงถูกลงโทษเพียงเท่านี้ 

การที่ห้ามกิ่งกาญจน์เข้าไปในห้องพระเพราะอาจจะทำให้เธอเจอกับลินดาที่บางครั้งต้องมานั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ในห้องพระ หรือบางครั้งลินดาจะมานั่งบำเพ็ญเพียรที่ศาลพระภูมิโดยที่ท่านกาษนติที่เมตาลินดามาตลอดนั้นได้คอยช่วยสั่งสอนกับดูแลดวงวิญญาณของลินดามาตลอด ส่วนอสนีนั้นรับรู้ได้ว่าลินดายังวนเวียนอยู่ไม่ห่างอินทรายุทธ แต่อสนีทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่าการอุทิศส่วนกุศลให้ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการละเมิดเส้นของจักรวาลได้ถ้าเกิดไปติดต่อกับลินดา

ส่วนลินดาเองหลังจากที่ตายไป และต้องมารับโทษตอนแรกวิญญาณเธอรับรู้ได้ถึงรัศมีจากตัวอสนีตามที่พวกแม้นกับดวงวิญญาณอื่นๆที่เธอเลี้ยงไว้เคยบอกไว้ ว่าอสนีคงจะเป็นพวกคนที่มีบุญมาเกิดแต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าอสนีนั้นรับรู้ได้ถึงดวงวิญญาณของเธอ จนเมื่อไม่นานม่นี้หลังจากที่ดวงวิญญาณเธอนั้นได้สั่งสมบารมีจากการบำเพ็ญเพียรนั้นสูงขึ้นมาก ทำให้เธอสามารถรับรู้ได้ว่าอสนีนั้นเป็นใคร มาจุติบนโลกเพื่ออะไร มันทำให้เธอทั้งรู้สึกดีใจและวิตกกังวล ดีใจเพราะคนที่คอยดูแลลูกชายแทนเธอนั้นเป็นคนดีกว่าที่เธอคิด กังวลเพราะมันจะเหมาะสมหรือไม่กับคนที่มีบุญบารมีเป็นถึงพระโอรสของมหาเทพแห่งสวงสวรรค์ต้องมาดูแลลูกของเธอทั้งๆที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข แต่ท่านกาษนติบอกกับเธอไว้ว่า ตอนนี้อสนีคือคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นไม่ต้องไปกังวลอะไรและอสนีเองก็เต็มใจที่จะทำตามสิ่งที่เธอขอร้องไว้ก่อนจะตาย ส่วนเรื่องพลังหรือรัศมีที่เธอสัมผัสได้ ท่านกาษนติไม่ได้บอกกับเธอว่าเป็นเพราะอะไร

ถึงตอนนี้โทษทัณฑ์ที่เธอได้รับนั้นหมดสิ้นลงไปนานแล้ว แต่ตัวเธอนั้นรู้ตัวดีว่าทำไมเธอถึงไปในภพที่สูงขึ้นกว่าเดิมไม่ได้ นั่นความเป็นห่วงที่เธอมีต่อลูกชายคนเดียว เธอคอยแอบสอดส่องดูแลอินทรายุทธมาตลอด ยิ่งพอรู้ว่าตัวอินทรายุทธมีพลังวิเศษที่สามารติดต่อกับพวกวิญญาณได้ซึ่งเธอรู้ดีว่าเกิดจากอะไร ทำให้เธอยิ่งเพิ่มความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าลูกชายนั้นจะเอาไปใช้ในทางที่ผิดและจะมีผลเสียตามมาอย่างมาก จนเกิดเรื่องของทรงเดชขึ้นมา ทำให้วิญญาณเธอยิ่งวิตกถึงอินทรายุทธจะได้รับมอบจี้ที่เธอเองก็สัมผัสได้ว่ามีพลังป้องกันอย่างมหาศาล บรรดาพวกผีหรือมารที่ประสงค์ร้ายนั้นจะไม่สามารถทำอะไรแต่ความเป็นห่วงของเธอนั้นไม่ลดน้อยลง เธอคอยติดตามอินทรายุทธตลอดเพื่อจะได้ช่วยเหลือลูกชายเธอ เพราะเธอรู้ดีว่าพลังของเธอนั้นสามารถกำจัดวิญญาณของทรงเดชได้อย่างง่ายดาย แต่เธอเองก็พยายามที่จะไม่ใช้มันถ้าไม่ใช่เหตุสุดวิสัยจริงๆ เพราะถ้าเธอใช้มัน ตัวเธอคงต้องได้รับโทษเพิ่มอย่างแน่นอน ตัวท่านกาษนติเองก็ได้เตือนเธอมาตลอดว่าอย่าใช้พลังในทางที่ไม่ถูกต้อง

จนถึงตอนนี้ลินดารับรู้ได้ว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับทั้งอินทรายุทธและกิ่งกาญจน์ ตัวอินทรายุทธนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องอยู่แล้ว แต่กับตัวกิ่งกาญจน์เอง ภัยครั้งนี้มันร้ายกว่าภัยจากทรงเดชอย่างมาก เธอจึงออกมาเตือน ลำพังหมอผีกริชนั้นลินดาไม่หวั่นเกรงเลย แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังหมอกริชนั้นมันน่ากลัวยิ่งนัก เธอสัมผัสได้ถึงพลังอันชั่วร้ายนี้ และเกรงว่าเธอเองก็ไม่อาจจะปกป้องกิ่งกาญจน์ได้ ที่ผ่านมาตั้งแต่กิ่งกาญจน์ได้มาช่วยงานอินทรายุทธทำให้ลินดาเองก็รู้สึกเอ็นดูกิ่งกาญจน์เหมือนลูกสาวคนหนึ่ง จึงได้แอบช่วยเหลือมาตลอด จนครั้งนี้เธอจึงเลือกจะเผยตัวเพื่อมาเตือนกิ่งกาญจน์ เพราะรู้ดีว่าบารมีและอิทธิฤทธิ์ของท่านกาษนตินั้นสามารถปกป้องคุ้มครองดวงวิญญาณของกิ่งกาญจน์ได้ เพราะตัวท่านกาษนตินั้นมีหน้าที่คอยปกป้องบ้านหลังนี้และคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน แต่ภายนอกบ้านนั้นไม่ใช่หน้าที่หรือกิจของท่าน เพราะถ้าทำอะไรนอกเหนือหน้าที่ มันจะทำให้ท่านเสื่อมบารมีลงไปได้  ท่านพระภูมิจึงกล่าวกับกิ่งกาญจน์

"ตอนนี้เจ้าก็ทำตามที่ นังหนูลินดาบอกไว้ ช่วงนี้เจ้าอย่าออกไปไหนเลย นั่งบำเพ็ญเพียรอยู่แต่ในศาลหลังนี้ ไม่ต้องไปห่วงเจ้ายุทธมัน เรื่องนี้เจ้าก็ไม่ต้องไปบอกเจ้ายุทธมันจะยุ่งยากไปใหญ่ ข้าจะบอกเจ้ายุทธเองว่าเจ้าต้องบำเพ็ญเพียรเหมือนครั้งที่ผ่านๆมา"

"คะคุณตาทวด"

กิ่งกาญจน์รับคำทั้งๆที่ยังสงสัยอยู่ว่าเรื่องที่ลินดามาเตือนนั้นคืออะไร ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องใหญ่และเธอเองก็สงสารลินดาในเรื่องที่ยังหมดห่วงลูกชายคนเดียวไม่ได้ มันต่างจากเธอที่หมดห่วงกับครอบครัวไปแล้ว

"เจ้ายุทธช่วงนี้นังหนูกิ่งต้องนั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ในศาลกับตา ไปช่วยงานเจ้าไม่ได้"

เป็นเสียงของคุณตาทวดบอกผมในตอนเช้าขณะที่ยกมือไหว้ศาลพระภูมิก่อนจะออกไปทำงาน  ซึ่งผมเองก็รับรู้และไม่สงสัยอะไรในเรื่องนี้  จนช่วงบ่ายมีตำรวจที่เป็นคนทำคดีของเพียงขวัญได้มาพบผม

"มีอะไรให้ผมช่วยครับสารวัตร"

ผมถามหลังจากที่เชิญอีกฝ่ายให้นั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานผม

"ผมมีเรื่องจะรบกวนคุณหมอครับ มันเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร เป็นคดีของเพียงขวัญตอนนี้ทางเราได้ข้อมูลสำคัญมาแล้วครับ แต่ต้องรบกวนขอความร่วมมือจากคุณหมอด้วยครับ"

ข้อมูลที่ทางตำรวจได้มานั้น มาจาก 1 ในหญิงสาวที่ไปรับงานในวันที่เกิดเหตุ เธอได้แอบติดต่อกับทางตำรวจและได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ตำรวจฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพียงขวัญ และเงินที่ปรเมศให้พวกเธอเพื่อปิดปากพร้อมกับคำขู่ ทำให้พวกเธอหวาดกลัวกันอย่างมากจนไม่กล้าที่จะพูดความจริงๆในตอนนั้น จนอนงนาฏมาถูกฆ่าตายเธอกับเพื่อนอีกคนรู้ว่าอนงนาฏถูกฆ่าปิดปาก แต่พวกเธอไม่รู้สาเหตุทำให้เธอตัดสินใจที่จะมาบอกความจริงกับตำรวจ ถึงทางตำรวจจะได้ข้อมูลหลักฐานมาเพิ่มเติม แต่เป็นคำให้การปากเปล่าจากพยานเพียงแค่คนเดียวหลักฐานต่างๆก็ไม่มี เงินที่พวกปรเทศจ่ายให้นั้นเป็นเงินสด และที่สำคัญพยานคนนี้อาจจะกลับคำให้การในชั้นศาลได้ เพราะปรเมศกับพวกคงทำทุกวิถีทางเพื่อให้พวกตนเองไม่มีความผิด  ทางตำรวจต้องการที่จะหาหลักฐานที่แน่นหนาเพื่อมัดตัวเอาผิดปรเมศกับพวกให้ได้ ยิ่งมีการตายของอนงนาฏเข้ามาอีกคน

และตอนนี้หลังจากปรเมศเป็นข่าวว่ามีเอี่ยวกับการฆาตกรรมเพียงขวัญ แต่ทางตำรวจยังเอาผิดไม่ได้ ทำให้เริ่มมีการวมตัวของคนที่เคยถูกปรเมศหลอก มาร้องเรียนทางสื่อต่างๆ ซึ่งทางปรเมศเองยังเงียบอยู่กับเรื่องนี้ ทำให้ทางตำรวจนั้นอยากจะให้ปรเมศร้อนตัวมากกว่านี้ จึงมาขอความร่วมมือจากผม ทางตำรวจเองจะปล่อยข่าวออกมาว่าทางผมตรวจเจอหลักฐานบางอย่าจากศพของอนงนาฏ แต่ขอให้ผมนั้นไม่ตอบรับหรือปฏิเสธว่าเป็นความจริงหรือไม่เมื่อมีนักข่าวมาสอบถาม  ทางตำรวจจะดูว่าปรเมศมีปฏิกิริยาอะไรออกมาบ้าง ยิ่งถ้าปรเมศร้อนตัวอาจจะทำให้ตัวเองหลุดอะไรออกมาให้ทางตำรวจได้หลักฐานสำคัญมาดำเนินคดี ทำให้ผมตอบตกลงทันที

หลังจากนั้นเริ่มมีข่าวออกมา มันเป็นไปตามที่ทางฝ่ายตำรวจคาดหวังไว้ มีนักข่าวหลายคนได้สอบถามมาที่ผม ซึ่งผมเองก็ทำตามที่ตกลงกับตำรวจไว้ว่าผมไม่สามารถที่จะบอกอะไรได้เพราะมันอาจเป็นผลต่อรูปคดี แต่ผมเองก็ไม่มีทางรู้ว่าปรเมศนั้นคิดอะไรอยู่เพราะดูจะไม่ปฏิกิริยาอะไรออกมา มันดูเงียบผิดปกติ ซึ่งตัวปรเมศนั้นเองก็อยู่ไม่สุข เพราะเรื่องที่ตัวเองเคยทำไว้นั้นเริ่มถูกแฉออกมาสู่สังคมและพอมีข่าวซ้ำว่าหมออินทรายุทธนั้นตรวจเจอหลักฐานที่สำคัญจากศพของอนงนาฏ ทำให้ปรเมศวิตกกังวลอย่างมากจึงคิดที่จะจ้างให้หมอกริชกำจัดอินทรายุทธ

ส่วนที่บ้านของหมอผีกริชในห้องชั้นบนที่เป็นห้องลับที่ใช้เป็นห้องทำพิธี ร่างเปลือยอันอวบอิ่มของผู้หญิงวัยกลางกำลังนอนหงายบนพรมกลางห้องโดยมีร่างเปลือยของหมอกริชทาบอยู่ด้านบน ทั้งคู่กำลังแลกจูบกันอย่างร้อนแรง จนหน้าของหมอกริชเลื่อนลงมาที่ทรวงอก หัวนมสีดีบนหน้าอกที่หย่อนคล้อยนั้นถูกหมอกริชดูดสลับไปทั้งสองเต้าพร้อมบีบเคล้นไปอย่างแรงๆ ทำให้ฝ่ายหญิงร้องออกมา

"อูยยย อาจารย์เบาๆหน่อยสิ "

แต่หมอกริชนั้นไม่สนใจที่ฝ่ายหญิงร้องออกมายังคงเคล้นคลึงอยู่ที่เต้านมทั้งสองเต้านั้นอย่างแรงๆจนฝ่ายหญิงกดหัวหมอกริชให้ลงมาที่โคกหีที่ชุ่มชื้นไปด้วยน้ำเงี่ยน หมอกริชนั้นลงลิ้นไปที่โคกหีนั้นทันที พอเจอลิ้นเข้าไปทำให้อีกฝ่ายนั้นแอ่นก้นขึ้นรับลิ้นทันที

"ซี๊ดดดดด แบบนั้นละคะอาจารย์  อูยยยย โอ้วๆๆๆๆ"

หมอกริชเกร็งลิ้นแล้วเลียหีของฝ่ายหญิงอย่างต่อเนื่อง ทำให้อีกฝ่ายนั้นส่ายตัวไปมาพร้อมร้องครวญครางไม่หยุด จนหมอกริชหยุดเลีย แล้วเลื่อนตัวมาด้านบนเอาควยมาจ่อตรงปากฝ่ายหญิงซึ่งผงกหัวขึ้นมาเอาปากอมควยหมอกริชทันที โดยไม่ต้องบอก ด้วยลีลาการใช้ปากที่ชำนาญทำเอาหมอกริชเป็นฝ่ายครางออกมาบ้าง

"อูยยย แบบนั้นละครับคุณหญิง โอ้ววววๆ เลียกระโปกผมด้วย นั่นละครับอูยย"

ฝ่ายหญิงทำตามที่หมอกริชบอกทันที มันยิ่งเพิ่มความเสียวให้หมอกริชอย่างมาก กับลีลาการใช้ปากของลูกศิษย์คนนี้ จนฝ่ายหญิงนั้นเลิกใช้ปากเพราะตัวเองมีความเงี่ยนอยู่มาก

"ทนไม่ไหวแล้ว เอาเถอะคะหมอ"

ฝ่ายหญิงพูดออกมาพร้อมอ้าขาออกและส่งสายตาที่เชิญชวน หมอกริชค่อยๆเลื่อนตัวลงมาแล้วเอาควยไปจ่อที่ปากรูหีของฝ่ายหญิงพร้อมกับบอกไปที่ฝ่ายหญิงว่า

"บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้พูดยังไง"

ฝ่ายหญิงค้อนเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยเสียงอันกระเส่า

"เย็ดเมียเถอะผัวขาเมียทนเงี่ยนไม่ไหวแล้ว"

หมอกริชยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วดันควยเข้าไปในรูหีทันที และกระเด้าอย่างไม่ยั้งเหมือนกับฝ่ายหญิงที่เด้งรับตลอดเวลาถึงรูหีนั้นจะหลวมโพลกแต่หมอกริชไม่ใส่ใจ เสียงครางที่กระเส่าผสมกับเสียงเนื้อที่กระทบกันดังไม่หยุด

"ผัว เย็ดแบบนี้ดีไหมเมียจ๊า"

"ดีคะ ผัวขา แบบนี้ละเอาแรงๆกว่านี้อีก อูยยยยย "

มือของฝ่ายหญิงป่ายไปทั่วแผ่นหลังของหมอกริช บทรักของหมอกริชกับบผู้หญิงวัยกลางคนเป็นไปอย่างร้อนแรงเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านๆมาจนทั้งคู่ไปถึงจุดหมายไล่ๆกัน หมอกริชนอนทาบไปบนตัวของฝ่ายหญิงหลังจากที่หลั่งน้ำกามออกมาเต็มรูหีและปล่อยให้ควยที่อ่อนตัวนั้นยังคาอยู่ในรูหีของอีกฝ่ายพร้อมพรมจูบไปทั่วหน้าอีกฝ่ายที่นอนหอบอย่างหมดแรงก่อนจะเอาปากไปประกบพร้อมจูบอย่างแรงๆ

"ครั้งนี้ผัวของเมียเลิกกับเมียน้อยแน่ใช้ไหมคะอาจารย์"

"เรียกผัวสิ อย่าเรียกอาจารย์มันห่างเหิน"

หมอกริชตอบอีกฝ่ายพร้อมใช้จมูกซุกไซร้ไปที่แก้มและซอกคอ

"ก็ได้คะผัวขา"

"ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย ครั้งนี้ผัวของเมียกลับมาแน่นอนแต่ถ้าจะให้แน่ใจต้องให้ผัวคนนี้เย็ดอีกยก"

"กี่ยกก็ได้ผัวขา เมียยอมให้เย็ดตลอด ถึงผัวของเมียกลับมาแล้ว เมียก็จะกลับมาให้ผัวคนนี้เย็ดอีก เย็ดมันแบบนี้เมียชอบ"

ฝ่ายหญิงตอบพร้อมเอามือขึ้นมาโอบรอบตัว ทั้งคู่แลกจูบกันอย่างร้อนแรงอีกครั้ง จนหมอกริชเลื่อนหน้าลงมาที่เต้านมของฝ่ายหญิงอีกครั้ง หมอกริชกัดไปแรงๆที่หัวนมสีดำก่อนจะพลิกให้ฝ่ายหญิงนอนคว่ำ และจูบไปทั่งแผ่นหลังไล่ลงมาถึงก้นที่ขาวอวบพร้อมกัดไปแรงๆ ทำเอาฝ่ายหญิงร้องออกมา ก่อนที่หมอกริชจะจับตัวฝ่ายหญิงให้พลิกมานอนหงายแล้วประคองให้ลุกขึ้นมานั่ง ทั้งคู่แลกจูบกันอย่างดูดดื่มอีกครั้ง จนฝ่ายหญิงเลื่อนหน้าลงมาที่หน้าอกพร้อมดูดหัวนมทั้งสองข้างสลับไปมาแล้วก้มหน้าไปที่ควยที่ยังอ่อนตัว

หมอกริชขยับตัวเอาควยไปจ่อที่ปากฝ่ายหญิง ซึ่งอีกฝ่ายนั้นสนองตอบทันที เธอก้มหน้าเอาปากอมควยของหมอกริชที่ยังเต็มไปด้วยคราบน้ำกาม เพื่อปลุกให้ควยแข็งตัวอีกครั้ง ด้วยลีลาการใช้ปากของคนที่มีประสบการณ์สูง จนหนุ่มๆที่บาร์โฮสนั้นหลงใหลมาแล้ว ควยของหมอกริชนั้นแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง   หมอกริชเอาควยออกจากปากฝ่ายหญิงแล้วจับฝ่ายหญิงนอนคว่ำอีกครั้งก่อนจะบอกให้ฝ่ายหญิงยกก้นขึ้น พอหมอกริชเลือนตัวมาด้านหลัง ฝ่ายหญิงนั้นบอกกับหมอกริชด้วยเสียงอันกระเส่าเพราะรู้ว่ากำลังจะโดนอะไร

"เบาๆหน่อยนะผัวขา ครั้งที่แล้วเอาเมียแสบไปหลายวัน"

หมอกริชนั้นยิ้มออกมาอย่างพอใจแต่ไม่ตอบฝ่ายหญิง มือทั้งสองนั้นจับไปที่เอวที่อวบหนาแล้วดันควยเข้าไปในรูก้นของฝ่ายหญิงทันที

"โอ้วว"

เสียงครางดังออกมาจากฝ่ายหญิง พร้อมกับส่ายก้นไปมา พอหมอกริชเริ่มกระเด้าตัวเธอเองนั้นเด้งรับตลอด

"ผัวเย็ดตูดแบบเมียชอบหรือเปล่า"

หมอกริงถามด้วยเสียงอันกระเส่าซึ่งอีกฝ่ายนั้นตอบด้วยน้ำเสียงที่คล้ายๆกัน

"ชอบสิคะผัวขา แบบนั้นละคะ แรงกว่านี้ก็ได้เมียเสียวอูยย"

ฝ่ายหญิงตอบพร้อมเด้งรับ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งเธอถุกเย็ดตูดตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอถูกหมอกริชจับเย็ด มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเธอเพราะเธอเองก็เคยถูกผู้ชายจากบาร์โอสนั้นเย็ดมาหลายครั้งแล้ว และความเสียวของเธอนั้นทวียิ่งขึ้นเมื่อหมอกริชเอื้อมมือเอาปลักขิกดุ้นโต ที่วางอยู่ข้างๆพรมมายัดใส่รูหีเธอพร้อมชักเข้าออกสลับกับการกระเด้าตูด

"อูยย ผัวขา 2 รูที่เมียชอบ อู้วๆๆๆแบบนั้นละอูยยซี๊ดดด"

เจอแบบนี้ทำเอาเธอทั้งส่ายทั้งเด้งรับกับการที่ถูกสร้างความเสียวทั้ง 2 รูพร้อมๆกัน ส่วนหมอกริชนั้นกระเด้าตูดฝ่ายหญิงไม่ยั้ง พร้อมกับการใช้มือกับปลัดขิกชักเข้าออกที่รูหีไม่หยุดจนทั้งคู่ไปถึงจุดหมายอีกครั้ง เสียงร้องครางอันสุดเสียงของฝ่ายหญิงดังขึ้นมาพร้อมกับการเกร็งตัว

"โอววว ผัวขาเมียถึงแล้ว"

หมอกริชดึงปลัดขิกออกจากรูหีพร้อมดึงควยออกจากรูตูด ปล่อยให้ฝ่ายหญิงนั้นลงไปนอนราบบนพรมก่อนจะพลิกตัว หมอกริชเอาปลัดขิกไปจ่อที่ปากของฝ่ายหญิง ซึ่งเธอนั้นเอาลิ้นเลียปลัดขิกที่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำเงี่ยนของเธอ  จนหมอกริชก้มลงไปหอมแก้มเธอแรงๆ

"ครั้งนี้ผัวไม่กลับบ้านไม่รู้จะว่ายังไงแล้วละ"

ฝ่ายหญิงนั้นหอมแก้มแทนคำตอบ หลังจากที่จัดการกับร่างกายขำระล้างคราบรักและแต่งตัวกันเรียบร้อย ฝ่ายหญิงที่เป็นคุณหญิงได้ส่งซองให้หมอกริชที่ตอนนี้นั่งอยู่หน้าโต๊ะหมู่

"นี่คะอาจารย์ค่าทำพิธีห้าหมื่นบาท"

หมอกริชยื่นมือมารับพร้อมส่งตลับผึ้งให้ฝ่ายหญิงพร้อมกำชับ

"อย่าลืมเอาขี้ผึ้งปลุกเสกนี้ไปทาปากก่อนจะอมควยให้ผัวคุณหญิงนะ รับรองหลงคุณหญิงเหมือนเดิมแน่ เขาจะลืมเมียน้อยอย่างแน่นอน และเอาปลักขิกไปบูชาด้วย จำคาถาตอนบูชาได้ใช่ไหม สวดบูชาก่อน5 จบแล้วค่อยทำ อย่าลืมนะให้ทำทุกวัน วันละ 2 ครั้งต่อกันอ้อแล้วเอาขี้ผึ้งนี้ทาที่ปลัดขิกด้วย ทาให้ทั่วนะแล้วใช้ติดต่อกัน 3 วัน มันจะได้ช่วยอาคมที่ทำกับอาจารย์ไว้ขลังขึ้น รับรองหลังจากที่ทำครบแล้ว ไม่เกิน3 วัน ท่านต้องเลิกกับเมียน้อยกลับมาหาคุณหญิงทันที"

หมอกริชส่งปลัดขิกอันที่ใช้เสพสมกับเธอ ซึ่งเธอรู้ดีว่าหมอกริชให้เธอเอาไปทำอะไร เธอเอื้อมมือไปรับพร้อมตอบกลับไป

"ขอบคุณอาจารย์มากนะคะ ถ้าได้ผลจริงๆรับรองดิชั้นกลับมาสมนาคุณอาจารย์อย่างหนักแน่คะ"

"ได้ผลสิปลุกเสกขนาดนี้แล้ว"

ฝ่ายหญิงก้มกราบหมอกริช ก่อนจะกลับได้หันมาบอกกับหมอกริชทิ้งท้ายว่า

"อาทิตย์หน้าจะแวะมาให้ผัวเจิมอีกนะคะ แต่วันไหนจะโทรมาบอกอีกครั้ง"

หมอกริชยิ้มรับแทนคำตอบเพราะรู้ว่าเป็นอีกคนที่ติดใจในลีลารักของตนเอง คุณหญิงรายนี้เป็นอีก 1 รายที่มาให้หมอกริชทำอาคมเพื่อให้ผัวเลิกกับเมียน้อยซึ่งเวลามาทำพิธีทุกครั้งนั้นถูกหมอกริชจับเย็ดทุกครั้งเพราะหมอกริชบอกว่าเป็นการทำพิธีให้ขลังขึ้น และอีกฝ่ายนั้นเต็มใจให้หมอกริชเย็ดจนหลงใหลในลีลารักที่เด็ดกว่าผัวตนเองหรือเด็กบาร์โฮสที่เคยใช้บริการมาหลายครั้ง คุณหญิงคนนี้นั้นเป็นเมียที่จัดอยู่ในพวก"เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร" ถึงตัวเองจะไปมั่วกับผู้ชายคนอื่นแต่ไม่ยอมให้ผัวมีเมียน้อย และมีเพื่อนในวงการได้แนะนำให้มาหาหมอกริช จนโดนจับสังเวยกามอีก 1คน เพราะผู้หญิงคนไหนไม่ว่าจะเป็นสาวแก่แม่หม้ายที่มาให้หมอกริชมาทำพิธีให้ ไม่มีใครรอดพ้นที่จะโดนหมอกริชจับเย็ดทุกคน

ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่มาให้ทำพิธีมักจะเป็นพวกสาวใหญ่ คุณหญิงคุณนายหรือนักธุรกิจเจ้าของกิจการที่ผัวไปมีเมียน้อย แต่หมอกริชไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง และส่วนมากหลังจากทำพิธีให้เรียบร้อยแล้ว มักจะแอบกลับมาหาหมอกริชกันเป็นประจำเพราะติดในในลีลากาม จนบางครั้งบังเอิญมาหาพร้อมกัน2-3คน แต่หมอกริชใช้อาคมครอบงำจนกลายเป็นเซ็กหมู่ที่ดุเดือดกันหลายครั้งมาแล้ว และทุกคนที่แอบผัวมาหานั้นต่างนำเงินมาให้หมอกริชอีกโดยเป็นเงินจำนวนที่ไม่น้อย  เหมือนอย่างคุณหญิงคนนี้ที่ตกเป็นทาสกามของหมอกริชไปอีกคน หลังจากที่ผู้หญิงคนดังกล่าวกลับไปไม่นาน ปรเมศได้โทรศัพท์หาหมอกริช และเล่าเรื่องให้หมอกริชฟังจนย้ำถามหมอกริชอีกครั้งเรื่องที่หมอกริชให้ลูกน้องไปฆ่าอนงนาฏ

   "อาจารย์แน่ใจนะว่า ลูกน้องอาจารย์ไม่ทิ้งหลักฐานไว้"

"แน่ใจสิครับคุณปรเมศ ผมวางแผนเอง และลูกน้องผมก็ทำอย่างรอบคอบไม่มีหลักฐานหลงเหลือไว้แน่นอน"

"แล้วที่เป็นข่าวนี่ละครับ"

"ใจเย็นๆครับ ผมว่ามันอาจเป็นแผนของตำรวจก็ได้ เราเฉยๆไว้ก่อนดีกว่า"

"ผมเย็นไม่ไหวครับ หมออินทรายุทธคนนี้ขึ้นชื่ออยู่แล้วอาจจะเจออะไรที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ แต่ไม่เปิดเผยออกมา ไม่งั้นไม่เป็นข่าวออกมาแน่ครับอาจารย์ ผมตอนนี้ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับอีกแล้ว"

"คุณปรเมศจะให้ผมทำยังไงละครับ"

หมอกริชที่มากไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมถามกลับไปยังอีกฝ่าย

"อาจารย์ทำยังไงก็ได้ให้มันตายเหมือนเป็นอุบัติเหตุ หรือป่วยตาย ผมให้อาจารย์ 5แสน พรุ่งนี้ผมให้คนเอาเงินไปให้อาจารย์ก่อน 2 แสน"

"แต่มันอาจต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ เรื่องนี้ผมต้องหาวิธีที่แนบเนียนที่สุด"

"แล้วแต่อาจารย์ครับ"

ปรเมศพูดทิ้งท้ายก่อนจะวางสายโทรศัพท์ ส่วนหมอกริชเองมันก็หนักใจอยู่พอสมควรเพราะอีกฝ่ายนั้นมีสิ่งที่ตัวมันเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรที่คอยปกป้องอยู่  วันรุ่งขึ้นปรเมศให้คนขับรถนำเงินสดมาให้หมอกริชตามที่บอกไว้ หลังจากนั้นตัวหมอกริชได้ไปที่สวนของตนเองและเข้าไปถึงตรงท้ายสวนที่มีต้นตะเคียนอายุร่วม 200ปีตั้งอยู่ตะหง่านโดดเดี่ยว ที่ผ่านมาจะมีชาวบ้านหรือคนงานในสวนอยากจะมากราบไหว้ แต่หมอกริชจะบอกกับคนเหล่านั้นว่าต้นตะเคียนเป็นเพียงต้นไม้เท่านั้นอย่ามางมงาย ที่บอกแบบนี้เพื่อจะไม่ให้คนมาสนใจมาวุ่นวายในที่ดินของตนเองและไม่อยากให้ชาวบ้านมารับรู้เรื่องของตนด้วย หมอกริชเดินเข้าไปใกล้ต้นตะเคียนแล้วเอามือคลำไปมาที่ต้น

"งานนี้คงต้องพึ่งเจ้าแล้วละ เมียรักของพี่"

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ชายชรา

เริ่มเป็นห่วงหมออินทรายุทธกับกิ่งแล้วหมอกริชจะทำอะไรได้ป่าวติดตามครับ

kodzilla

อืมมม...หมอกฤชจะโดนหมอยุทธปราบยังไงนะ อยากรู้จัง

ผู้เฒ่าเซราะกราว

โอ้หมอกริชมีนางตะเคียนเป็นเมียด้วย แบบนี้กิ่งกาญจน์จะโดนลูกหลงไปด้วยไหมนะ....????

Anfas617

มีเมียเป็นคนไม่ ยังได้ผีเป็นเมียอีก สุดยอด!!

1234non

ดีใจจังที่คุณแม่หมอออกมาเตือนหนูกิ่ง

winnythepooh

คุณหมอกับน้องกิ่งเจอศึกหนักเสียแล้ว จะมีใครมาช่วยมั้ย

au2000

หมอกริชคงจะเก่งมาก แต่เจอกับหมอเรา
จะไหวมั้ย

Taizen


biggiggog

งานนี้ได้ออกแรงกันบ้างแล้ว
ขอบคุณครับ

Midnight


633sqd

งานนี้แม่หมออาจต้องออกแรงเอง หมอกริชอาคมมันเยอะจัง

dwarf

ขอบคุณ​ครับ.. หมอยุทธจะใช้วิธีไหนในการกำหราบนางตะเคียน.. เมียรักของหมอกริชได้

bangsan

งานนี้หมอผีอาจจะไม่ได้ตายดีแน่ๆอาจจะตายเพราะน้ำหมด

chatjane4234

ถึงจะรู้ว่าหมอมีของดีคุ้มกายอยู่ แต่คราวนี้เจ้าหมอผีก็มีของดีเหมือนกัน แถมมีเมียเป็นนางตะเคียนด้วย งานนี้หมอคงลำบากหน่อยหล่ะ