“ชาคริต อย่าเพิ่งไป เดี๋ยวอยู่คุยกับครูก่อนนะ”
“ครับ อาจารย์ธิดา” ชาคริตพยักหน้างง ๆ เขาไปทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า หรือมีเด็กในห้องครูเขาไปบอกว่าเขาเคยทำอะไรพวกเธอเอาไว้ ขณะที่เพื่อน ๆ ทยอยอออกจากห้อง เขาก็หอบกระเป๋าเดินไปที่โต๊ะครูด้วยความสงสัย
อาจารย์ธิดาเป็นครูภาษาอังกฤษที่เพิ่งเรียนจบใหม่ ๆ ยังสาว ใส หน้าตาก็ไม่ถึงกับแย่ “ชาคริต ปีนี้มีครูคนไหนจองตัวเธอไปแข่งขันอะไรหรือยัง”
อ๋อ เรื่องนี้เอง “ครูภาษาไทยถามเรื่องประกวดเรียงความแล้วครับ แต่ผมปฏิเสธไป ผม เอ่ออ ไม่ค่อยชอบเนื้อหาที่เขาชอบให้เขียนประกวดเท่าไหร่”
“อืม แล้ววิทยาศาสตร์ล่ะ เมื่อปีที่แล้วเธอไปแข่งตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ได้รางวัลมาไม่ใช่เหรอ”
“ครับ แต่อาจารย์วีระคงไม่เลือกผมไปแข่งแล้วล่ะครับ ปีนี้”
“ทำไมล่ะ” อาจารย์ธิดาเลิกคิ้ว “เธอได้รางวัลนะ”
“เอ่อ ครับ....แต่ว่า....มีเหตุผลส่วนตัวนิดหน่อยครับ”
 
“คือ โรงเรียนมอบหมายให้ครูคุมการแข่งขันละครภาษาอังกฤษ แทนครูสมจิตรที่เขาเกษียณไปนะ” อาจารย์ธิดาบอก “แล้วครูลองไปคุยกับพวกที่เขาแสดงเมื่อปีที่แล้วมา เห็นเขาบอกว่าเธอเป็นคนเขียนบทให้ใช่ไหม”
“ช่วยเขียนเฉย ๆ ครับ” ชาคริตรีบบอก “พี่นุ่นเขาเป็นคนเขียนบทหลัก ผมแค่ช่วยเขียนเฉย ๆ” ช่วยเขียนบนเตียงด้วย พี่นุ่นเนื้อนุ่มมาก ตามประสาผู้หญิงที่ค่อนข้างอวบ
“แต่พี่นุ่นเขาก็เรียนจบไปแล้ว” ครูธิดาบอก “แล้วในบรรดานักเรียนที่เขียนเรียงความมาส่งครู เรียงความของเธอก็ดีที่สุดแล้ว ถ้าครูจะขอให้เธอมาเขียนบทละครภาษาอังกฤษให้ไปใช้แข่งปีนี้จะได้ไหม”
“ขอผมคิดดูก่อนนะครับ” เรื่องแสดงฝีมือชาคริตไม่ขัดอยู่แล้ว แต่เขาเกรงว่าถ้าไปช่วยเขียนและฝึกบทให้คณะแสดง เขาอาจได้ใกล้ชิดผู้หญิงหลายคนเกินไป
“อืม ไปคิดดูนะ” ครูธิดาบอก
ขณะเดียวกัน ในห้องนาฏศิลป์
ราชณิญาชำเลืองมองโทรศัพท์อย่างเคือง ๆ แค่ดูว่าว่างตอนไหนนี่ต้องใช้เวลาถึงสามวันเลยเหรอ ทำไมพี่ชาคริตไม่โทรหาเธอซักที รู้งี้ขอเบอร์เขามาดีกว่า ขอเบอร์ไปแล้วไม่โทรแล้วจะขอไปเพื่อ
“ญา นั่งดูโทรศัพท์มาสองวันแล้วนะ รออะไรหรือเปล่า”
“พี่มิ๊งค์ คือ...” ราชณิญาลังเล พี่มิ๊งค์จะคิดว่าเธอแรดไหม ถ้าเธอบอกว่ารอให้ผู้ชายโทรหา
“บอกมาเถอะ นางรำด้วยกัน รับฟังกันได้ทุกอย่างแหละ” มิ๊งค์บอก “เหมือนที่ญาเล่าให้พี่ฟังเรื่องคนที่มันพยายามปล้ำญาจนญาต้องย้ายโรงเรียนหนีไง พี่เก็บความลับให้ญาได้น่า” ก็จริงครึ่งหนึ่ง เธอไม่ได้เล่ารายละเอียดไป แต่เมื่อไอ้ชัยมาคะยั้นคะยอ เธอก็ยอมบอกไปว่าน้องญายังซิง เพราะเธอยืนยันว่าไอ้นั่นไม่เคยปล้ำเธอได้สำเร็จ และไม่เคยยุ่งกับผู้ชายหน้าไหน
“ก็ คือ...” ราชณิญายังลังเล “ก็ได้ค่ะ คือ หนู ให้เบอร์ผู้ชาย ไป ผู้ชายในโรงเรียนนี้แหละค่ะ”
มิ๊งค์หยิกแก้มราชณิญาเบา ๆ “แหม แค่นี้ก็หน้าแดงแล้วนะ หายกลัวผู้ชายแล้วเหรอ”
“พี่เขาดู...อบอุ่นมาก น่าไว้ใจอ่ะคะ” ราชณิญาส่ายด้วยความเขิน “หนูเจอเขาเดินลงบันไดผ่านหน้าห้องนี้แหละ แล้ว เอ่อ หนูก็ให้เบอร์เขาไป แต่เขาไม่โทรกลับหนูเลย”
“พี่ม. 6 เหรอ ใคร เดี๋ยวพี่ถามให้” มิ๊งค์บอก “ว่าแม่งกล้าดียังไงปฏิเสธน้องคนสวยคนนี้ได้”
ราชณิญาหัวเราะแห้ง ๆ แต่ยังเขินจนไม่กล้าบอก
“เอาน่า ไม่ต้องอาย” มิ๊งค์คะยั้นคะยอ
“บอกหนูก่อน ทำไมพี่เลิกกับชัยเฉย ๆ”
“อ๋อ ก็.....” มิ๊งค์ผงะ
“ความลับแลกความลับค่ะ” ราชณิญายืนยัน
“งั้น.....อย่าไปบอกใครนะ......มัน...” มิ๊งค์ยื่นหน้ามาจนชิดหูราชณิญา “มันขอมีอะไรกับพี่ในห้องนี้แหละ”
“ว๊ายยยยยยยยยยย” ราชณิญาร้อง จนมิ๊งค์ต้องรีบเอามือปิดปากน้อง ที่หน้าแดงก่ำร้อนฉ่า “แล้วพี่ก็ไม่ยอม เลยทะเลาะกันเหรอ”
“ก็....ไม่เชิง” มิ๊งค์ส่ายหน้า “พี่ยอม แล้ว เอ่อ....ญารู้เรื่องอย่างว่าดีแค่ไหน เคยดูหนังโป๊ไหม”
ราชณิญาส่ายหน้า ตาเหลือกหน้าแดงเหลียวมองรอบตัว นี่เธอมาอยู่ในสังเวียนรักของพี่มิ๊งค์มาตลอดเหรอเนี่ย
“คือ เวลาผู้ชายถึงจุดสุดยอด จะมีน้ำอสุจิออกมา”
“อันนี้รู้ค่ะ” ราชณิญาหน้าแดงตัวสั่นแล้ว
“ไอ้เวรนั่นมันทำน้ำแตกเต็มชุดรำพวกเราเลย!” มิ๊งค์กระซิบเสียงหนัก จริง ๆ ก็ไม่จริงซะทีเดียว เพราะจริง ๆ มันแตกใส่ชุดของราชณิญาคนเดียวต่างหาก แต่มิ๊งค์คิดว่าไม่บอกความจริงจะดีกว่า แต่เธอก็ฉลาดพอจะรู้ว่าคนอย่างไอ้ชัยไม่ได้ทำอย่างนั้นโดยบังเอิญแน่นอน ยิ่งท่าที่มันเข้าหาราชณิญาก่อนหน้าก็เห็นชัดอยู่ว่ามันคิดอกุศลกับรุ่นน้องแสนสวยคนนี้
“น่ารังเกียจอ่า รู้งี้หนูเตะมันให้ฝ่อตั้งแต่เดินตามเราวันนั้นแล้ว”
“ก็น่าจะดีนะ” มิ๊งค์บอก “พี่เอาชุดไปส่งซักแล้ว ไม่รู้เหมือนกันเค้าจะคิดเท่าไหร่ แต่ยังไงเดี๋ยวพี่ออกให้เอง”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ แต่ได้กลับมาหนูคงไม่กล้าใส่แล้ว”
“เอาหล่ะ ตาญาบ้าง ลองบอกพี่ได้ยัง ไปปิ๊งผู้ชายคนไหนเข้า? ดูอบอุ่นเหรอ สมชาติ ม.6/2 หรือเปล่า อยู่ห้องชั้นบนเราพอดี แต่คนนี้มีแฟนแล้วนะ” มิ๊งค์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปเพื่อนหลายคนชี้มาให้ราชณิญาดู
“ไม่ใช่ค่ะ เอ่อ พี่...พี่ชาคริต ม.6/1 ค่ะ”
ตึง!!!
เสียงไอโฟนรุ่นล่าสุดหล่นกระแทกพื้นดังไปทั่วห้องนาฎศิลป์ แต่มิ๊งค์ไม่สนโทรศัพท์แสนแพง กลับตรงเข้ามาคว้าไหล่ราชณิญา
“ญา ฟังพี่นะ ฟังดี ๆ” มิ๊งค์พูดด้วยเสียงที่แข็งกร้าว “อย่า ยุ่ง กับ ชาคริต”
“เอ่อ อะไรคะพี่ มิ๊งค์ ทำไม”
เล็บมิ๊งค์จิกเข้าไปในไหล่ของราชณิญาจนเจ็บแปล๊บขึ้นมา “ชาคริต ไม่ใช่คนดีอย่างที่ญาเห็น” เสียงพี่มิ๊งค์แหบต่ำจนแทบเป็นเสียงกระซิบ
“ทำไมล่ะคะ โอ๊ย พี่มิ๊งค์ ปล่อยหนูก่อน”
มิ๊งค์ปล่อยมือจากไหล่ของราชณิญา แต่ก็ยังจ้องหน้าเธอด้วยสายตาที่ผสมไปด้วยความโกรธ เกลียด และความรัก
“พี่ชาคริตเคยหักอกพี่เหรอคะ” ราชณิญากระซิบถามเบา ๆ
“เปล่า ไม่ใช่หักอก” เสียงของมิ๊งค์เย็นชาจนราชณิญาใจหาย เธอฟังรู้อยู่ว่าใต้ความเย็นชานั้นคือความเจ็บปวดหัวใจแทบขาด “เขาไม่เคยรักพี่หรอก....เขา...เขา...”
มิ๊งค์สูดหายใจลึก “เขาเคยรักแต่ความสาวของพี่”
“หือ!”
“พวกน้อง ๆ อาจจะไม่รู้กันหรอก แต่....ม.6 ทุกคนรู้กันหมดแหละ ว่า....ว่า...ว่าชาคริตเป็นนักเปิดซิง”
“พี่มิ๊งค์....”
“เขาชอบเข้าหาสาวที่ยังซิง หึ แล้วใครจะทนทานเสน่ห์ระดับนั้นได้ล่ะ จริงไหม หล่อ เก่ง สุภาพ นุ่มนวล อ่อนโยน เหมือนจะใส่ใจให้คุณค่ากับเราที่สุด”
ราชณิญาไม่อยากฟังแล้ว แต่ถ้อยคำยังคงพรั่งพรูออกมาจากปากมิ๊งค์ด้วยความอัดอั้น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลงมาเป็นสาย
“แล้วพอได้เปิดซิงเมื่อไหร่ เขาก็ทิ้งไป ไม่ไยดี”
เสียงมิ๊งค์ท่อนนี้มีความโหยหามากกว่าความโกรธ น่าสงสารจนราชณิญาเองก็น้ำตารื้น
“พี่มิ๊งค์....”
“พี่เริ่มคบกับไอ้ชัยหลังถูกชาคริตเจาะไข่แดงได้ไม่นานหรอก มันเข้ามาปลอบตอนพี่นั่งร้องไห้อยู่ในโรงอาหารหลังถูกชาคริตทั้ง...”
“เพราะฉะนั้น ระวังตัวให้ดี!!” เสียงมิ๊งค์กลับมากร้าวอีก “อย่าไปยุ่งกับชาคริต ถ้าเขาโทรมา ตัดสายทิ้งซะ มันไม่คุ้มที่จะต้องเสียความบริสุทธิ์แลกกับความภูมิใจที่ได้ควงผู้ชายหล่ออยู่วันสองวันหรอก”
ราชณิญาก้มหน้าลงมองโทรศัพท์ พี่ชาคริตที่ดูเพอร์เฟ็กต์คนนั้นแท้ที่จริงเป็นคนอย่างนั้นหรอกเหรอ เธอไม่อยากจะเชื่อ แม้แต่ตอนนี้ หัวใจของเธอยังร่ำร้องหาเค้าอยู่เลย สายตาคมของเธอบอกเธอว่าพี่ชาคริตไม่ใช่อย่างแฟนเก่าที่พยายามข่มขืนเธอ ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดี เก่ง หล่อ สุภาพ อยู่ร่วมกับคนอื่นได้
“ไม่เชื่อพี่ใช่ไหม” มิ๊งค์ถาม
“พี่มิ๊งค์อ่านใจหนูได้เหรอ”
“เปล่า แต่พี่ก็ไม่เชื่อเหมือนกันตอนมีคนเตือน” มิ๊งค์ส่ายหัว “เดี๋ยวพี่ให้ลองไปคุยกับเหยื่อของชาคริตคนอื่นก็ได้... แก้ม 6/1 นารี 6/3 โอเล่ ห้องเดียวกับพี่ คุ้กกี้ 6/8”
ราชณิญากระพริบตาปริบ ๆ
“เชื่อพี่นะ”
“ชะ เชื่อก็ได้ค่ะ”
“ดี แล้วถ้าชาคริตมาหาเราอีก อย่าไปคุยด้วย นึกถึงที่พี่บอกไว้เสมอนะ”
ทั้งคู่เงียบพักใหญ่ มิ๊งค์ก้มหน้าส่ายหัว “รู้ไหม ในใจหนึ่งของพี่ยังรักเขาอยู่เลยนะ รักกว่าที่เคยรักไอ้ชัยเสียอีก ส่วนหนึ่งพี่อาจจะกลัวญามาแย่งพี่ก็ได้ แต่อีกส่วนคือพี่ไม่อยากให้ญาเจ็บอย่างที่พี่เจ็บน่ะ”
“เห็นเค้าบอกเจ็บจี๊ดเดียว เดี๋ยวก็เสียวไม่ใช่เหรอคะ...โอ๊ยยยยยยยยยยยย”
“มันใช่เวลาไหมมมมมมมมม นี่แน่ะ หยิกแก้มซะเลยยยยยย”
เสียงกริ่งบอกหมดเวลาพักดังขึ้นพอดี นางรำทั้งสองจึงแยกย้ายกันออกจากห้องนาฎศิลป์กลับไปห้องเรียนของตนเอง
“เห้ ญา” แป้งฝุ่นร้องเรียก
“ยัยแป้งฝุ่น!” ราชณิญาโบกมือให้เพื่อน “ว่าไง มีอะไรหรือเปล่า”
“เมื่อกี้ครูธิดามาหาชั้นแหละ เห็นบอกว่าเราสองคนมีแวว อยากให้เราไปแข่งแสดงละครสั้นภาษาอังกฤษอ่ะ เค้าบอกว่าพอญากลับมาแล้วให้ฝากบอกด้วย”
ราชณิญาเก่งภาษาอังกฤษอยู่ อาจจะเก่งที่สุดในห้องด้วยซ้ำ และเธอก็เคยเล่นละครเวทีเป็นภาษาไทยมาหลายเรื่องแล้ว คำชวนนี้จึงน่าสนใจกับเธอมากอยู่
“ครูธิดาบอกว่าถ้าสนใจให้ไปลงชื่อที่ครูเค้าเลย” แป้งฝุ่นบอก “เราก็รอถามญาอยู่ ว่าไง ญาจะไปลองดูไหม”
“ก็เอาสิ”
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน