ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_cyborg0011

ความอัดอั้น ตอนที่ ๓ ผลงานของท่าน miki

เริ่มโดย cyborg0011, ตุลาคม 02, 2023, 09:52:53 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cyborg0011

ความอัดอั้น ผลงานของท่าน miki



ความอัดอั้น 3


เสียงระฆังดังกังวานบอกเวลาสิบหกนาฬิกาตรง ผมเดินเอื่อยๆไปห้องพักครู เพื่อกลับบ้านพร้อมแม่ เพราะใกล้จะเปิดเทอมแล้ว แม่ต้องมาโรงเรียนเพื่อเตรียมบันทึกการเรียนการสอน สำหรับปีการศึกษาใหม่ ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ จึงต้องลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยเปิด ซึ่งยังไม่เปิดเรียน ดังนั้นช่วงเวลาที่ว่างอย่างนี้ ผมมักจะมานั่งเล่นอยู่ในโรงเรียน และรอกลับบ้านพร้อมแม่เกือบทุกวัน
"อ้าว... มาแล้วเหรอเอก..." แม่เงยหน้ายิ้มทักทาย เมื่อเห็นผมเดินเข้าห้องทำงาน "...รอแป๊บนะ แม่เขียนนี่อีกนิดเดียว ก็เสร็จแล้ว"
ผมสบตาแม่วูบหนึ่งแล้วก็ต้องก้มหน้า เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้รับแขก ในใจเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ถ้ามีใครสักคนรู้เรื่องระหว่างผมกับแม่... เฮ้อ! ลำพังผมน่ะ ไม่เป็นไรหรอก แต่แม่สิ จะมองหน้าคนอื่นได้ยังไง และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้แม่กำลังคิดอะไรอยู่? เพราะเราไม่เคยพูดเรื่องนี้กันเลย

ดูเอาเถอะ เมื่อสองเดือนที่แล้ว ผมแทบจะถูกแม่ฆ่าตาย เพราะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่มาวันนี้ แม่ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย มองดูเผินๆแล้ว เราเป็นแม่ลูกที่รักกันมาก แต่จะมีใครรู้บ้างหรือเปล่าเนี่ย? ว่าเรารักกันมากกว่าที่คนอื่นคิดไว้ซะอีก
ตั้งแต่กลับจากพัทยาครั้งที่ผ่านมา โลกของผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง บรรยากาศในบ้านไม่มีความเคร่งเครียดหลงเหลืออยู่อีก ได้ยินแต่เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย และรอยยิ้มของแม่ที่ล่องลอยอยู่ทุกอณูของบ้าน
อ้อ! ไม่ใช่สิ นอกจากเสียงหัวเราะเสียงพูดคุยแล้ว บางครั้งก็ยังมีเสียงครวญครางของแม่ดังเป็นระยะๆจากภายในห้องนอน บอกให้รู้ถึงอารมณ์ของแม่ที่ถูกปลดปล่อยเป็นอิสระ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"คิดอะไรอยู่?..." เสียงแม่ดังขึ้นเมื่อเห็นผมนั่งเงียบอยู่ "...มีอะไรหรือเปล่า?"
"เปล่าครับ..." ผมตอบ พลางยิ้มรับเมื่อเห็นแม่จ้องมองมา "...ก็นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปน่ะครับ"
"อืมม..." แม่พยักหน้าช้าๆ ริมฝีปากมีรอยยิ้ม "...รออีกแป๊บเดียว อ้อ! เอกมานั่งข้างๆแม่ก็ได้ จะได้ช่วยแม่ตรวจงานด้วย จะได้เสร็จเร็วๆ มาสิ"
ผมขยับตัวไปหาแม่ มองซ้ายมองขวาหาเก้าอี้ แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อแม่ดึงตัวผมลงไปนั่งอยู่บนพนักเก้าอี้ตัวที่แม่นั่งอยู่
"นั่งนี่ก็ได้..." แม่ทำเสียงดุ แต่แววตาเป็นตรงกันข้าม "...ทำไม? นั่งใกล้ๆแม่ แล้วมันเป็นยังไงเหรอ?"
ผมอึกอักสักพัก เพราะกลัวจะมีคนเดินเข้ามา แต่ก็ลงนั่งตามที่แม่บอก แต่ที่จริงแล้วผมคงกลัวไปเอง เพราะถ้ามีใครมาเห็นก็ไม่เห็นผิดปกติอะไร กับการที่แม่ลูกจะใกล้ชิดกัน คงเป็นเพราะความระแวงของผมเองต่างหากล่ะ

สายตามองไปรอบๆห้องอย่างไร้จุดหมาย แล้วก็มาสิ้นสุดอยู่บนร่างของแม่ ที่กำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่ ผมพึ่งสังเกตว่าแม่เปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตา จากคุณครูจอมเฮี้ยบหน้าดุ กลายเป็นครูที่อิ่มเอิบด้วยเลือดฝาด ราวกับสาวรุ่น ดูมีน้ำมีนวลราวกับเป็นคนละคน
สองเดือนที่ผ่านมา ในสายตาของคนอื่นเป็นยังไง..ผมไม่รู้ แต่ในโลกของผมกับแม่ ยามที่เราอยู่กันเองภายในบ้าน เราเปลี่ยนบทบาทที่เคยเล่นกันมา ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก ผมไม่เคยได้กลับไปนอนในห้องของตัวเองอีกเลย พอทานข้าวมื้อเย็นเสร็จ เราก็เข้าไปนั่งดูโทรทัศน์กันในห้องของแม่ ซึ่งก็คล้ายกับจะดูแค่พอเป็นพิธีเท่านั้น เพราะเพียงชั่วครู่ เราก็กลายเป็นตัวละครที่แสดงหนังกันเอง เพียงแต่หนังที่เราแสดง เป็นเรื่องที่บอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้เท่านั้น

ความคิดที่ย้อนไปถึงยามเมื่ออยู่ในห้องนอนตามลำพังกับแม่ ภาพที่ยังจดจำ ทำให้อารมณ์ของวัยรุ่นที่เพิ่งรู้รสสัมผัสแห่งธรรมชาติคุกรุ่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว แต่สักพักผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อแม่หยิกต้นขาผมเบาๆ
"เดี๋ยวเถอะ..." แม่ปั้นปากทำเสียงดุ มองหน้าผมสลับกับเป้ากางเกงที่ขยับนูนขึ้นมาจนเห็นได้ชัด ตามอารมณ์ที่ถูกเร่งเร้าจากภาพในห้วงความคิด "...ให้มานั่งข้างๆเพื่อช่วยทำงาน ดันมาคิดเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย?"
"แหะ แหะ.... ป่าวครับ" ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ ไม่อยากให้แม่รู้สึกว่าผมคิดเรื่องเหลวไหลอย่างนั้น แต่จากการที่ผมนั่งอยู่บนพนักเก้าอี้ ยามเมื่อก้มลงมองหน้าแม่ สายตาดันเหลือบมองผ่านสาบเสื้อเข้าไป จนมองเห็นร่องอกที่เบียดแน่นอยู่ภายในบราสีครีม ทำให้อารมณ์ที่อยากให้สงบนิ่งกลับลุกโชนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะยังจำภาพยามที่สองเต้านั้น ปราศจากอาภรณ์ใดๆห่อหุ้มได้อย่างไม่มีวันลืม

"เอกกกกก..." แม่ลากเสียงยาว ชำเลืองมองเห็นว่าสายตาผมกำลังจับจ้องอะไรอยู่ ก่อนจะพูดเสียงกระซิบ "...จ้องอาราย? เดี๋ยวก็เปิดให้ดูซะหรอก"
ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในห้องทำงานแม่ สงสัยจะได้แสดงหนังกันอีกรอบแน่ๆ
ผมหายใจลึกๆ กำลังนั่งทำจิตใจให้สงบ ก็ต้องสะดุ้งเพราะแม่นั่งเขียนงานอยู่ก็จริง แต่กลับยกแขนอีกข้างที่วางอยู่บนโต๊ะ เอามาวางพาดบนต้นขาผม คล้ายกับเอาข้อศอกวางบนพนักเก้าอี้ แต่ให้ตายเถอะ ข้อศอกข้างนั้นของแม่ แทนที่จะวางเฉยๆกลับขยับขึ้นมาพาดอยู่บนเป้ากางเกงของผม และถูไถเบาๆอยู่บนนั้น ทำให้ท่อนเนื้อที่พยายามข่มใจสุดชีวิต ให้มันสงบนิ่งกลับดีดตัวแข็งชันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รับสัมผัสที่ไม่รู้ว่าแม่ตั้งใจหรือเปล่าให้มันเป็นอย่างนั้น

"แม่...แม่ครับ..." ผมอุทานเสียงสั่นเบาๆ ท่อนแขนที่คลึงอยู่บนเป้ากางเกงแรงสลับเบา ทำให้ผมต้องบิดตัวด้วยความอึดอัด "...ผะ...ผม...ผม..."
แม่เงยหน้าขึ้นมองผม ริมฝีปากบางเจือด้วยรอยยิ้ม แก้มบุ๋มด้วยลักยิ้มที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูจางๆ
"ไปปิดประตู..." เสียงแม่กระซิบสั่ง ทำให้ผมชะงัก นี่มันที่ทำงาน แต่แม่ไม่สนใจ ดันตัวผมให้ลุกขึ้นยืน "...เร็วสิ"
"แต่...แม่..." ผมพยายามอุทธรณ์ แต่ก็ต้องยอมแพ้เมื่อแม่ทำหน้าดุใส่ จึงค่อยๆเดินย่องไปที่ประตูห้องพักครู ผมชะโงกออกไปมองข้างนอกอีกครั้งอย่างระแวง แต่ก็ไม่มีใคร เพราะนี่อยู่ในช่วงปิดเทอม นักการภารโรงก็อยู่ในที่พักของตัวเอง บนตึกเรียนชั้นนั้น มีเพียงผมกับแม่อยู่กันสองคนเท่านั้น

ผมค่อยๆปิดประตูห้องพักครูอย่างแผ่วเบา แต่ลงกลอนทั้งบนและล่างอย่างแน่นหนา ก่อนจะเดินกลับมาหาแม่ที่เก้าอี้
"นั่งสิ..." เสียงแม่เบาราวกระซิบ พลางดึงร่างผมลงไปนั่งบนพนักเก้าอี้ตามเดิม "...เมื่อกี้แอบดูอะไร? แม่เห็นนะ...."
ผมยิ้มแหยๆ แต่ก็ต้องตาค้าง เมื่อแม่นิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด จนถึงเม็ดสุดท้าย เผยให้เห็นบราสีครีมที่ห่อหุ้มเต่งเต้างามนั้นอย่างชัดเจน
"ไม่ต้องแอบดูหรอก..." แม่พูดเบา ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม "...ทำอย่างกับว่าเอกไม่เคยเห็นอย่างนั้นแหล่ะ"
"แต่...แต่ นี่...นี่มันที่ทำงานแม่" ผมพูดตะกุกตะกัก แม่ทำหน้าดุแต่แววตายิ้ม
"แล้วยังไงล่ะ?" แม่กระซิบถามเบาๆ สองมือไขว้ไปด้านหลัง ผมตาค้างอีกครั้ง เมื่อแม่ค่อยๆปลดบราชิ้นงามออก เผยให้เห็นสองเต้าที่ยังคงความงามตามอายุไว้ ปลายยอดสีน้ำตาลอ่อนชูชันขึ้นมาราวเม็ดบัว แม่ขยับตัวอีกครั้ง ดึงมือทั้งสองข้างของผมลงไปเกาะกุมอยู่บนทรวงอก พลางแอ่นร่างขึ้นรับแรงสัมผัส ที่ผมบีบเคล้นอย่างแผ่วเบาอยู่บนเต้างาม ฝ่ามือบดคลึงเม็ดทับทิมที่ดีดตัวแข็งขึ้นมาจนสัมผัสได้

ผมบีบเคล้นเต่งเต้างามหยุ่นมือ ด้วยอารมณ์ที่โหยหาความสุข ยามนี้ผมไม่สนใจแล้วว่าเราสองคนอยู่กันที่ไหน? ขอเพียงแค่เรามีความสุขที่มอบให้กันและกัน จะเป็นที่ไหนก็ไม่แตกต่างหรอก สองมือของผมเพิ่มแรงบีบเคล้นหนักมือขึ้น จนสองเต้าบนทรวงอกของแม่สั่นกระเพื่อม ตามจังหวะที่ผมขยำเคล้นคลึง
แม่นั่งหลับตานิ่ง แอ่นร่างรับแรงบีบเคล้นที่ผมบรรจงมอบให้ ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบไล้บนเป้ากางเกงที่โป่งนูนขึ้นมา และค่อยๆปลดกระดุมกางเกงของผม ก่อนจะรูดซิปลงไปจนสุด ผมรีบขยับตัวให้เพราะรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อ แม่จับขอบกางเกงของผมรูดออกจากร่าง พร้อมกับกางเกงในจนลงไปกองอยู่กับพื้น ก่อนจะหันมาลูบไล้ท่อนเนื้อที่แข็งชันด้วยความพลุ่งพล่าน มืออ่อนนุ่มที่เคยจับไม้เรียวตีเด็กนักเรียนนับไม่ถ้วน ซึ่งรวมถึงผมด้วย บัดนี้ได้เกาะกุมอยู่บนท่อนเอ็นที่สั่นระริกด้วยความเสียวซ่าน และค่อยๆรูดท่อนเนื้อขึ้นลงอย่างแผ่วเบาก่อนจะก้มหน้าลงบนดุ้นเอ็น

"อูยยย..." ผมครางเสียงสั่น "...แม่ ...ผม ...ผมเสียว"
ผมกลั้นเสียงไว้ไม่ได้จริงๆ เพราะยังไม่ทันที่ริมฝีปากบางจะสัมผัสกับความเป็นชายของผม แม่ตวัดลิ้นออกมาไล้เลียท่อนเอ็น ตั้งแต่โคนจนถึงส่วนปลาย และเกลี่ยลิ้นเรียวเล็กจากปลายลงมาถึงส่วนโคน สลับไปมาจนผมแทบดิ้นตกเก้าอี้ สองมือที่บีบเคล้นอยู่บนเต้าทั้งสองเพิ่มความหนักหน่วงอย่างลืมตัว จนมองเห็นรอยแดงช้ำบนเต้าขาวเนียนนั้น แต่ก็ไม่เห็นแม่ห้ามปรามอะไร กลับยิ่งแอ่นทรวงอกขึ้นรับแรงนั้นยิ่งขึ้นไปอีก
"โอยย..." ผมกระตุกร่างเบาๆ เมื่อแม่ค่อยๆบรรจงขยอกกลืนท่อนเนื้อของผมเข้าไปในปาก ก่อนจะรูดดุ้นเอ็นด้วยริมฝีปากบางนั้น ปลายลิ้นตวัดไล้เลียไปมา ยามที่ท่อนเอ็นของผมรูดผ่านช่องปากอุ่นชื้น จนผมเสียวปลาบไปหมดทั้งร่าง

"แม่... แม่...แม่ครับ..." ผมครางเสียงตะกุกตะกัก เสียวซ่านตั้งแต่เส้นผมถึงปลายเท้า "...ผม ...ผม"
"วันนี้เราเร็วหน่อย ก็แล้วกันนะ..." แม่เงยหน้าพูดเสียงกระซิบ ใบหน้างามแดงก่ำ "...แล้วค่อยกลับไปต่อที่บ้าน ก็แล้วกัน"
ยังไม่ทันที่ผมจะเข้าใจ แม่ก็ขยับตัวลุกขึ้นยืน และดึงผมลงไปนั่งบนเก้าอี้แทน แล้วผมก็ต้องเสียววาบเมื่อแม่สอดมือเข้าไปในกระโปรง ก่อนจะรูดซับในสีครีมออกจากปลายเท้า และยกกระโปรงขึ้นมาอยู่เหนือเอว จนมองเห็นเนินเนื้องามที่ประดับด้วยไหมดำขลับ แผ่ปิดโหนกเนื้อนั้นจนทั่ว
ผมขยับตัวจะก้มลงไปหาโหนกเนื้อนั้นตามสัญชาติญาณ แต่แม่ดึงตัวไว้
"ไม่ต้องเอก..." แม่กระซิบบอก พลางหอมแก้มผมเบาๆ "...เดี๋ยวแม่จัดการให้เสร็จๆไปก่อนเลย ไว้คืนนี้ค่อยทำอย่างที่เอกอยากทำ ก็แล้วกันนะ"

ผมกำลังงงว่าแม่หมายถึงอะไร? ก็ต้องสะดุ้งเมื่อแม่ขยับตัวมานั่งคร่อมอยู่บนร่างของผม โดยหันหน้าไปทางเดียวกัน เนินเนื้ออ่อนนุ่มทับอยู่บนดุ้นเอ็น ที่แข็งราวกับหินของผม และบดเบียดเบาๆ ทำให้ผมแทบคลั่งด้วยความเสียว แล้วก็ต้องใจหายวาบ เมื่อแม่ขยับตัวโหย่งขึ้น พลางจับท่อนเอ็นของผมตั้งไว้ และค่อยๆสวมร่องรักลงมาช้าๆ จนดุ้นเอ็นของผมจมหายเข้าไปในเนินรักของแม่จนหมด
"อาาาาาห์..." เราสองคนแม่ลูกถอนใจออกมาพร้อมๆกัน เมื่อความเป็นชายของผมเข้าไปอยู่ในร่องรักของแม่ทั้งหมดแล้ว แม่นั่งนิ่งเพื่อให้ร่องรักปรับตัวกับท่อนเอ็นที่เข้าไปอยู่ภายในสักพัก ก่อนจะค่อยๆขยับเอวโยกร่าง ดุ้นเนื้อของผมขยับเข้าออกในร่องรักเนิบๆ บางครั้งก็บดเบียดกับติ่งเนื้อที่ไวต่อสัมผัสของแม่ ได้ยินเพียงเสียงแม่ครางเบาๆด้วยความเสียว

"แม่.. .แม่ครับ..." ผมครางเรียกแม่เบาๆ เสียวซ่านไปหมดทั้งตัว สองมือเอื้อมมาเกาะกุมบีบเคล้นบนเต้านมที่แกว่งไกวตามแรงบดกระแทกของแม่ "...ผมเสียววววววววววววว"
"ปล่อย... ปล่อยออกมาเลย เอก..." แม่หันมายิ้มให้ ใบหน้างามแดงก่ำด้วยความเสียวซ่าน ที่ไม่แพ้กัน เอวที่บดอยู่บนร่างผมเริ่มขยับเร่งความเร็วขึ้น "...แม่ ...แม่จะ ไม่ไหวอยู่แล้ว"
ทั้งห้องได้ยินเพียงเสียงครวญครางของเราทั้งสองแผ่วเบา ผสานกับเสียงเก้าอี้ที่โยกไปมาตามแรงบดกระแทกของแม่ ที่เร่งเร้าจังหวะเพื่อให้ผมไปถึงจุดหมายปลายทาง เหงื่อที่ผุดซึมทั่วร่างงามด้วยว่าใช้แรงทั้งหมดโยกเอวจนทั้งท่อนเอ็นและร่องรักร้อนจี๋ราวกับไฟ
"ผม...ผมออก...ออกแล้ว" ผมครางกระท่อนกระแท่น ร่องเนื้อที่ขยับตัวรูดดุ้นเอ็นผมขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผมไม่สามารถอดกลั้นอีกต่อไปได้ "...เอาะ ....ออกแล้วววว"

สิ้นเสียงครางของผม แม่โยกเอวกระแทกร่องรักเข้าใส่ท่อนเอ็นผมอีกสองสามครั้ง ก่อนจะบดเบียดร่องรักไว้กับดุ้นเอ็นของผมแนบแน่น
"อาาาาาาห์..." เราทั้งสองครางออกมาพร้อมๆกันอีกครั้ง เมื่อผมกระตุกร่างฉีดน้ำรักเข้าใส่โพรงเนื้ออย่างรุนแรง พร้อมๆกับที่เนินรักของแม่เกร็งบีบตัวเคล้นหยาดน้ำรักจากภายในออกม าผสานกับของผมจนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ผมซบลงกับแผ่นหลังที่มีหยาดเหงื่อเกาะพราวของแม่ ได้ยินเสียงแม่หอบหายใจเบาๆ
"เหนื่อยมั๊ยครับ?" ผมกระซิบถามข้างหู แม่เอียงหน้ามาหอมแก้มผมเบาๆ
"ไม่...ไม่หรอก..." เสียงแม่สั่นระริก เพราะเพิ่งผ่านพ้นความเสียวมาหมาดๆ ใบหน้างามมีเหงื่อซึมทั่ว "...เรากลับกันเถอะ"

เสียงแม่สูดปากเบาๆ เมื่อยกตัวออกจากร่างผม น้ำรักของทั้งผมและแม่ไหลออกจากร่องรักลงไปตามเรียวขางาม
"เลอะเทอะหมดเลย..." แม่หยิกแขนผมเบาๆแก้เก้อ เมื่อเห็นผมจ้องมองเนินรักนั้นตาไม่กระพริบ "...ดูอะไรยะ?"
"ดูว่าไม่น่าเชื่อ ว่าแม่จะเก่งขนาดนี้น่ะครับ..." ผมชมตรงๆ แม่หน้าแดง "...ไม่เคยรู้มาก่อนเลย"
"ไม่ต้องชมแล้วย่ะ..." แม่เอียงหน้ามากระซิบ จูบเบาๆที่หน้าผาก "...ไปแต่งตัวกลับบ้านได้แล้ว"
"ครับ" ผมพยักหน้ารับคำ ก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัว พลางมองดูแม่ที่แต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย กลับมาเป็นคุณครูจอมเฮี้ยบเหมือนเดิม
เราสองคนยิ้มให้กันก่อน จะออกจากห้องทำงานเพื่อกลับบ้าน และแน่นอนว่าคืนนี้ผมคงต้องเหนื่อยอีกครั้งหนึ่งแน่ ก็แม่ออกแรงเพื่อผมแล้ว ทำไมผมจะออกแรงเพื่อแม่บ้างไม่ได้ล่ะ...

..................................................................

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมลืมตาขึ้นด้วยความอ่อนเพลีย บทรักที่ผมกับแม่มอบให้กันเมื่อคืนค่อนข้างหนักหน่วง และวนเวียนอยู่หลายรอบ จนเราเผลอหลับกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ห้องนี้ไม่เคยว่างเว้นจากกิจกรรมที่ให้ความสุข แก่เราสองคนแม่ลูกแม้แต่วันเดียวเลย บางครั้งผมยังรู้สึกขำที่แม่บ่นบ่อยๆ ว่าต้องซักผ้าปูที่นอนวันเว้นวัน ไหนยังจะต้องเอาที่นอนไปผึ่งแดด เพราะหยาดน้ำแห่งความสุขของเราทั้งสอง ซึมเข้าไปในที่นอนจนเลอะเทอะไปหมด
ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง ได้ยินเสียงแม่อยู่ในห้องน้ำ คงจะอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานเหมือนเช่นเคย ผมก็เลยขยับตัวใส่กางเกงขาสั้น ก้าวลงจากเตียงจะกลับไปห้องของตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแม่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทางแปลกๆ

"แม่..." ผมเดินเข้าไปจนชิดร่างที่ยืนนิ่งหน้าซีดเผือดอยู่ "...เป็นอะไรไปครับ?"
แม่หันมามองหน้าผม ใบหน้าซีดจนขาว ยืนนิ่งซักครู่ก่อนจะฝืนยิ้มให้
"ไม่เป็นไรหรอก..." แม่ตอบเสียงเบา แต่ใครจะไปเชื่อ
"บอกสิครับ แม่ไม่สบายเหรอ? ผมพาไปหาหมอนะครับ" ผมรีบพูด เพราะแม่ทำท่าเหมือนจะเป็นลม
"เปล่าหรอก เอก..." แม่โบกมือ ยืนจ้องหน้าผม เหมือนจะช่างใจอยู่นาน เหมือนจะตั้งหลักได้ ใบหน้าเริ่มมีเลือดฝาด "...แม่ลืมอะไรไปบางอย่างน่ะ?"
"อะไรครับ?" ผมถามงงๆ คราวนี้แม่จ้องหน้าผมนานเลย ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
"ลืมไปว่า..." แม่พูดกระซิบเสียงสั่นเบาๆ ใบหน้าซีดเผือดอีกครั้ง ก่อนจะตัดใจบอกผม "..ลืมไปว่าเอกก็เป็นผู้ชาย และเมื่อเอกเป็นผู้ชาย เอกก็สามารถมีลูกได้..." เสียงแม่จางหายไป

ผมยืนงงอยู่สักพัก ก่อนจะเริ่มเข้าใจ อ้าปากค้าง หน้าซีดเผือดเช่นเดียวกับแม่ หมายความว่า...หมายความว่า...
"แม่ไม่ได้กินยาคุมกำเนิดเลย..." แม่พูดเสียงกระซิบ ถอนหายใจเบาๆเหมือนจะยอมรับ "...ไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย"
"แล้ว..." ผมยังช็อคอยู่ เข้าใจถึงปัญหาเช่นเดียวกันกับแม่ "...แล้วแม่รู้ได้ไงครับ?"
"เด็กโง่..." แม่ดุเบาๆ หยิกที่ต้นแขน "แม่เคยมีลูกมาแล้ว ทำไมจะไม่รู้ว่าเวลาจะมีลูกเป็นยังไง?"
"แล้ว...แล้ว..." ผมตะกุกตะกักถาม "...แล้วเราจะทำยังไงล่ะครับ?"
แม่ถอนหายใจอีกครั้ง
"ให้แม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ก็แล้วกัน..." เสียงแม่เหมือนพูดกับตัวเอง "...เผื่อแม่จะเข้าใจผิดไปเอง"

"ผมไปด้วยครับ..." ผมพูดเสียงสั่น ปัญหาไม่ใช่เล็กๆ แม่จะมีลูกได้ยังไง? ในเมื่อใครๆก็รู้ว่าแม่อยู่คนเดียวมาตลอด "...ให้ผมไปเป็นเพื่อนนะครับ"
แม่จ้องหน้าผมอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มให้
"อือ..." แม่พยักหน้านิดๆ "...เราไปแต่เช้ากันนี่แหล่ะ เอกไปอาบน้ำแต่งตัว แม่จะรอที่รถนะ"
"ตกลงครับ"
ผมรีบกลับห้องตัวเองไปอาบน้ำ แต่งตัวและตามแม่ไปที่รถเพื่อไปโรงพยาบาล และภาวนาให้สิ่งที่แม่กังวล เป็นเพียงแค่อุปทานของแม่เท่านั้น...



--------------------------------------------------------------------------------------


swss2511