ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

อสูรพลิกฟ้า NTR ตอนที่ 7 วาสนาเทพอัคคี

เริ่มโดย Oumale, มีนาคม 09, 2024, 03:10:55 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Oumale


--------------------------------------------------------------
ตอนก่อนหน้า
บทที่ 6 ปิงหยุนผู้ร่วงหล่น
https://xonly8.com/index.php?topic=282999.0


--------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------------


บทที่ 7 วาสนาเทพอัคคี

    วันต่อมา

    มู่ปิงหยุนกำลังนั่งอยู่ในวิหาร นางรู้สึกกังวล เนื่องจาก 'คน' ที่ฉืออู๋เหยาเอ่ยถึงกำลังจะมาในไม่ช้านี้
   
    "ปิงหยุนสบายดีรึไม่?"

    ทันใดนั้นฉืออู๋เหยาก็ปรากฏตัวจากด้านหลังมู่ปิงหยุน ครั้นเห็นสีหน้ากระวนกระวายของมู่ปิงหยุน นางก็อดไม่ได้ที่จะขบขันเล็กน้อย

     "...ไม่ดีไม่แย่ ถึงอย่างไรก็ทำได้แค่รอ...ว่าแต่หยุนเช่อเล่า? มันรู้เรื่องนี้รึไม่?"
   
     "เจ้ากำลังพูดถึงสามีไม่ได้ความคนนั้น? แน่นอนว่าย่อมรู้ บัดนี้มันคงซ่อนร่างและกลิ่นอายของตนขณะแอบมองอยู่ที่ไหนสักแห่ง"
   
     ฉืออู๋เหยาเหลือบมองรอบข้างที่ว่างเปล่า นางแน่ใจว่าหยุนเช่อต้องอยู่ใกล้ ๆ นี้
   
     (เงามายาสะบั้นจันทร์...เคล็ดวิชาเร้นกายระดับสูงที่น้อยคนจะเรียนรู้ได้ในประวัติศาสตร์หมื่นปีของพรรคเทพหงส์น้ำแข็ง กลับถูกใช้ในเวลาแบบนี้...เฮ้ออออ)

     มู่ปิงหยุนถอดถอนใจอย่างเวทนาไม่ได้
   
     "...ใยเราไม่เปลี่ยนสถานที่ไปที่อื่น? พี่สาวข้ากำลังกักตนอยู่ในห้องด้านหลัง หากนางได้ยินเสียงนางคงรู้ตัว"
   
     "อะไรกัน? เจ้ากลัวนางจะเห็นเจ้าตอนสมสู่กับบุรุษที่นี่รึ? ไม่ต้องห่วง ข้าได้กางอาณาเขตปิดกั้นเสียงเรียบร้อย นางจะไม่มีทางรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เว้นเสียแต่..."

     "?"

     จู่ ๆ ฉืออู๋เหยาก็เงียบงันในตอนท้าย มู่ปิงหยุนพลันจับจ้องนางด้วยสีหน้าสับสน ฉืออู๋เหยาเหมือนจะนึกถึงบางอย่างได้กระทันหันก็อมยิ้มและเปลี่ยนประเด็น
   
     "โอ้...ความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของสามีข้าเป็นดั่งความฝันของชายวิปริตทุกคนโดยแท้ มันมีเหล่าภรรยาที่งดงามที่สุดในโลก ขณะเดียวกันก็ยังมีหนอนน้อยที่สั้นและหลั่งเร็วที่สุดในโลก ประกอบกับตอนนี้มันยังมีทักษะอำพรางตัวที่ยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบ สามารถใช้ออกเพื่อถ้ำมองสตรีของตนร่วมเพศกับชายชู้ได้ตามใจปรารถนา ช่างเข้าคู่กับรสนิยมของมันได้อย่างเหมาะเจาะเสียนี่กระไร"
     
     "....."

     เอ่ยจบฉืออู๋เหยาก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่สั่นไหว นางเดินเข้าไปด้านหลังมู่ปิงหยุนก่อนจะยื่นมือสอดเข้าไปในช่องว่างของอาภรณ์ที่ขาวนวลดุจเหมันต์ คว้าจับลงบนอกอวบอิ่มโดยตรง 
   
     "อือออ!?"
   
     "ดูเหมือนคนผู้นั้นจะมาถึงแล้ว อีกไม่นานทรวงอกคู่นี้คงถูกมืออันหยาบกระด้างของบุุรุษสร้างมลทินใส่ เรามาจดจำสัมผัสสุดท้ายในขณะที่พวกมันยังสะอาดผุดผ่องอยู่ดีกว่า"

     "อย่า...ไม่เอา...อืออ..."
   
     ระหว่างที่มู่ปิงหยุนกำลังดิ้นรน ทันใดนั้นก็มีข้อความเสียงส่งจากภายนอก ยังผลให้ร่างงามของมู่ปิงหยุนแข็งทื่อ ตอนนั้นเองฉืออู๋เหยาก็ปล่อยมือที่จับกุมก้อนหยกของนางออก เปลี่ยนมาลูบอย่างอ่อนโยนบนศีรษะดุจเดียวกับพี่สาวที่กำลังปลอบใจผู้เป็นน้อง
   
     "พยายามเข้า ไม่ต้องกลัวเกินเหตุ เพียงแค่ปล่อยตัวปล่อยใจตามอารมณ์ คล้อยตามบุรุษอย่างว่าง่าย ผลจะดีจะร้ายก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว"
   
     ฝ่ามืออันอ่อนโยนนี้ทำเอามู่ปิงหยุนเผลอนึกถึงพี่สาวของนางที่มักจะปลอบนางเช่นนี้ตอนที่ยังเป็นเด็ก ส่งผลให้ร่างกายที่เครียดเกร็งของนางผ่อนคลายลง ทว่าสิ่งที่นางไม่รู้คือฝ่ามือที่กำลังลูบหัวนางนั้น กำลังปล่อยพลังแห่งความมืดอันลึกล้ำทะลวงเข้าไปในจิตใจมู่ปิงหยุน ลวดลายที่ปลูกฝังเอาไว้ก่อนหน้านี้ตอบสนองจนเปล่งแสงออกมา
   
     ครั้นมู่ปิงหยุนรับรู้ว่ามีคนอยู่นอกประตู ฉืออู๋เหยาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเรียบร้อย

     "ท่านเจ้าพิภพปิงหยุน ข้าสงสัยว่าเหตุใดท่านถึงเรียกข้ามาพบ"
   
     เสียงของบุรุษเพศดังขึ้นด้านนอก มู่ปิงหยุนโบกมือและเปิดประตูวิหารอย่างแช่มช้า ชายที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าพิภพแดนเทพอัคคี ผู้ที่เป็น 'อดีต' พี่น้องร่วมสาบานของหยุนเช่อ
   
     หั่วพั่วหยุน!!
   
     "เจ้าพิภพแดนเทพอัคคี เชิญเข้ามาสนทนากันก่อน"
   
     ด้วยพลังของฉืออู๋เหยาและอุปนิสัยดั้งเดิมของนาง มู่ปิงหยุนพลันกลับมามีรูปลักษณ์ที่เย็นชาดุจเดิม
   
     หลังจากได้ยินคำนั้น หั่วพั่วหยุนก็เดินเข้ามา ประตูด้านหลังค่อย ๆ ปิดลงและมีอาณาเขตปิดกั้นเสียงกางออก
   
     "...ข้าสงสัยนักว่าเจ้าพิภพปิงหยุนมีจุดประสงค์ใด?"
   
     เมื่อตรวจพบอาณาเขตปิดกั้นเสียงที่กางอยู่รอบตัว หั่วพั่วหยุนก็ถามอย่างฉงน
   
     หั่วพั่วหยุนในฐานะเจ้าพิภพ แน่นอนว่ามีสถานะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับมู่ปิงหยุนซึ่งเป็นเจ้าพิภพเหมือนกัน ตอนที่มันรับทราบว่ามู่ปิงหยุนเรียกหามาก่อนหน้า หั่วพั่วหยุนสามารถเพิกเฉยได้ในยามปกติ แต่ปัจจุบันพรรคเทพหงส์น้ำแข็งแตกต่างจากกาลก่อนอย่างใหญ่หลวง แม้ว่ามู่ปิงหยุนจะยังรับตำแหน่งเจ้าพิภพอย่างชอบธรรม แต่ทุกคนล้วนทราบดีว่าใครกันแน่คือผู้ปกครองพรรคเทพหงส์น้ำแข็งตัวจริง
   
     พอได้ยินคำถามแกมสงสังจากหั่วพั่วหยุน มู่ปิงหยุนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินนวยนาดไปหามัน
   
     "ครั้งนี้ข้าเชิญเจ้าพิภพแดนเทพอัคคีมาไม่ได้มีเรื่องอื่น แค่เพียงอยากจะขอบคุณเป็นการส่วนตัวที่ช่วยจัดการอสูรคลั่งเมื่อตอนนั้น"
   
     "...ข้าเคยลั่นวาจาไปแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องขอบคุณกับอีเรื่องแค่นั้น"
   
     หั่วพั่วหยุนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังวูบหนึ่งเมื่อได้ยินว่ามู่ปิงหยินเรียกมันมาเพียงเพื่อพูดเรื่องนี้โดยเฉพาะ
   
     "อย่าได้กล่าวเช่นนั้น เมื่อใดที่พรรคเทพหงส์น้ำแข็งของพวกเราได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น เราย่อมตอบแทนกลับคืนอย่างน้อยสองเท่า แต่ก่อนเราไม่มีความสามารถ ทว่าบัดนี้มันต่างออกไปแล้ว"

     "?"

     หั่วพั่วหยุนไม่เข้าใจว่ามู่ปิงหยุนกำลังสื่อถึงอะไร ขณะที่หั่วพั่วหยุนกำลังสับสน มู่ปิงหยุนก็มาถึงตรงหน้ามันแล้ว ทั้งสองอยู่ห่างกันเพียง 10 ก้าว...5 ก้าว...3 ก้าว...นี่ควรเป็นระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับการพูดคุย แต่มู่ปิงหยุนก็หาได้หยุด นางย่นระยะห่างเหลืออีก 2 ก้าว...1 ก้าว...ครึ่งก้าว
   
     หั่วพั่วหยุนได้กลิ่นลมหายใจอันหอมหวนของมู่ปิงหยุนอย่างชัดเจน มันตกใจจนกระโดดถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
   
     "ท่านเจ้าพิภพปิงหยุน บุรุษและสตรีไม่สมควรเข้าใกล้กันถึงเพียงนั้น"

     กลายเป็นมู่ปิงหยุนที่ประหลาดใจ ถึงนางจะมีรูปลักษณ์ที่เย็นชาห่างเหิน แต่ก็ตระหนักว่าใบหน้าตลอดจนรูปร่างทรวดทรงของนางยอดเยี่ยมมาก ในเวลานี้มีสาวงามจงใจเข้าใกล้จนเกือบจะโดนตัว แต่ปฏิกิริยาของหั่วพั่วหยุนกลับถอยห่างออกไป เห็นได้ชัดว่ามันมีความเป็นสุภาพบุรุษสูง

     กระนั้นมู่ปิงหยุนก็เพิกเฉยความปราถนาดดีของหั่วพั่วหยุนอย่างสมบูรณ์ นางเดินหน้าไปอีกก้าวหนึ่ง หนนี้มันแตกต่างจากก่อนหน้า หน้าอกคู่โตของมู่ปิงหยุนถูกกดลงบนแผ่นอกของหั่วพั่วหยุนโดยตรง มันกดทับอย่างแนบแน่นจนผิดรูป อัตราการเต้นของหัวใจหั่วพั่วหยุนส่งผ่านมาถึงมู่ปิงหยุนชัดเจน
   
     หั่วพั่วหยุนตื่นตระหนกและต้องการถอยไปอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ไม่รู้จักขวางอยู่เบื้องหลัง ยังผลให้ไม่อายขยับไปไหน

     "ไฉนเจ้าพิภพแดนเทพอัคคีผู้ยิ่งใหญ่กลับทำตัวเหมือนหนุ่มไม่รู้ประสาต่อหน้าสตรีแสนอ่อนแอเล่า?"

     ด้วยฐานะเจ้าพิภพแดนลำนำเหมันต์ มู่ปิงหยุนไม่ใกล้เคียงคำว่า 'สตรีแสนอ่อนแอ' แม้แต่น้อย แต่เทียบกับจ้าวเทวะอย่างหั่วพั่วหยุนแน่นอนว่าเป็นความจริง
   
     "ข้า...คือว่า...เอ่อ..."
   
      ไม่ต้องสงสัยว่าหั่วพั่วหยุนกำลังตื่นตกใจยิ่งยวดเมื่อพบเจอเหตุการณ์ประดานี้เป็นครั้งแรก มันพร่ำฝึกฝนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเพื่อตอบสนองความคาดหวังของอาจารย์ ไม่มีประสบการณ์ระหว่างชายหญิงแต่อย่างใด อย่างมากสุด มันเรียนรู้แค่เล็กน้อยจากการพูดคุยกับสหายในสำนัก
   
     "ท่านดูแตกตื่นมาก แล้วแบบนี้ข้าจะยกเฟยเสวี่ยให้ท่านอย่างมั่นใจได้ยังไง?"
   
     หั่วพั่วพยุนที่กำลังตกใจ พอได้ยินคำว่า 'เฟยเสวี่ย' มันก็ฟื้นตัวกลับมาเยือกเย็นทันควัน
   
     "ท่านเจ้าพิภพปิงหยุนหมายความตามที่พูดจริง ๆ?"
   
     "ถูกต้อง คิดว่าข้าเรียกหาท่านมาล้อเล่นหรือไร?"
   
     "แต่..แต่ว่าเฟยเสวี่ย...เฟยเสวี่ยนาง..นางชอบ...ชอบ...มันมิใช่รึ?"
   
     หั่วพั่วหยุนไม่ต้องการเอ่ยชื่อชายคนนั้น มันจึงใช้คำว่า 'มัน' อันห่างเหินแทนสรรพนาม
   
     "ข้ารู้ว่าเฟยเสวี่ยรักใคร่หยุนเช่อ และยังทราบอีกด้วยว่าถึงจะรู้เรื่องนี้ แทนที่จะยอมถอดใจ ท่านก็ยังปรารถนาในตัวนางต่อไป"

     "..."

     หั่วพั่วหยุนไม่ตอบสนอง เพราะนอกจากความจริงที่มันตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกเห็น ยังมีอีกเหตุผลที่ทำให้มันไล่ตามเฟยเสวี่ย
   
     "ข้ารู้อีกด้วยว่าท่านยึดมั่นต่อเฟยเสวี่ยเพราะต้องการสนองความปรารถนาอันต่ำช้าของตนที่จะเอาชนะหยุนเช่อ"

     "!!!"

     แท้จริงแล้ว มู่ปิงหยุนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นางพูดออกไปถูกต้องหรือไม่ เป็นฉืออู๋เหยาที่บอกต่อมา แต่ครั้นเห็นรัศมีพลังที่ปั่นป่วนของหั่วพั่วหยุน ดูท่าจะเป็นจริงดังว่า

     "เด็กคนนั้น เฟยเสวี่ยมีความรักอย่างลึกซึ้งต่อหยุนเช่อ และมีความเป็นไปได้ที่นางจะไม่รักใคร่ใครอีกในอนาคต ทว่าตอนนี้หยุนเช่อเหมือนไม่มีทีท่าจะยอมรับเฟยเสวี่ยเป็นคนรักหรือนางสนม แม้ข้าจะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร แต่เฟยเสวี่ยอาจต้องอยู่ตามลำพังไปอีกนานนับ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับผู้หญิงที่กำลังมีความรัก ในฐานะอาจารย์ของนาง ข้าไม่อาจปล่อยให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นได้"

     ระหว่างที่มู่ปิงหยุนกำลังพูด นางก็ยังกดหน้าอกหั่วพั่วหยุนด้วยทรวงอกของนาง ยิ่งมายิ่งใกล้ชิด ทำให้มันตื่นตระหนกอีกครั้งหลังรู้ตัวว่ากำลังถูกบีบด้วยเนื้อนุ่มสองข้างหลังจากสงบใจไปหมาด ๆ
   
     "เช่นนั้น ความหมายของท่านเจ้าพิภพปิงหยุนคือ..."

     "ถ้าเจ้าพิภพเทพอัคคีสัญญากับข้าว่าจะดูแลเฟยเสวี่ยเป็นอย่างดี ข้าจะส่งนางไปถวายตัวถึงเตียงท่านในสักวันหนึ่ง จริงอยู่ว่าหัวใจของนางจะไม่ได้เป็นของท่านแน่นอน แต่ยังสามารถทำให้ร่างกายนางเป็นของท่านได้...ขึ้นอยู่กับท่านว่าอยากได้รึไม่"

     "นั้น...แบบนั้น...มันไม่ดี...มันเป็นการบังคับไม่ใช่รึ?"
   
     ตอนที่หั่วพั่วหยุนกำลังปฏิเสธ นิ้วของมู่ปิงหยุนก็อุดปากมันไว้

     "อย่าได้กังวล เจ้าพิภพเทพอัคคี ยามใดที่เฟยเสวี่ยได้รู้ 'ความลับ' บางประการ นางจะเป็นฝ่ายคลานไปหาท่านบนเตียงอย่างว่าง่ายโดยที่ข้าไม่จำเป็นต้องออกปากด้วยซ้ำ"

     ถึงหั่วพั่วหยุนจะยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่เพราะมู่ปิงหยุนให้คำมั่นแกมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันก็ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธอีก
   
     "มีเพียงเรื่องเดียวที่ข้าต้องขออภัยต่อเจ้าพิภพเทพอัคคี ถึงแม้เฟยเสวี่ยจะยินยอมนอนร่วมเตียงกับท่าน หรือแม้แต่ให้กำเนิดบุตรกับท่าน ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะแต่งงานกับท่านในอนาคต นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะตัดสินใจแทนได้"
   
     "...ไม่...หามิได้ท่านเจ้าพิภพปิงหยุน ข้าพอใจมากแล้วที่จะได้ครอบครองร่างเฟยเสวี่ย ไม่ได้คาดหวังมากไปกว่านั้น อีกทั้ง...ให้เฟยเสวี่ยคำนึงถึงหยุนเช่อระหว่างนอนกับข้า นั้นต่างหากที่ข้าต้องการ ท่านเจ้าพิภพปิงหยุนเอ่ยถูกต้อง การยิดตึดต่อเฟยเสวี่ยของข้าเป็นเพราะต้องการเอาชนะความปรารถนาด้านลบในใจ"
   
     (เห็นทีวาจาของฉืออู๋เหยาจะถูกต้อง บุรุษทุกคนมักอยากได้คนรักของผู้อื่น...แต่ทำไมหยุนเช่อกลับกลายเป็นตรงข้าม?)
   
     "ในเมื่อเจ้าพิภพเทพอัคคีตระหนักได้แบบนั้นก็ดียิ่ง แต่ว่า..."
   
     จู่ ๆ มู่ปิงหยุนก็แสดงสีหน้าลำบากใจ
   
     "มีเรื่องใดให้ลำบากท่านเจ้าพิภพปิงหยุน ข้ารับปากว่าจะช่วยแก้ไขทันที"

     เห็นท่าทางยุ่งยากของมู่ปิงหยุน หั่วพั่วหยุนก็เข้าใจว่าสิ่งที่มู่ปินหยุนพูดเกี่ยวกับเฟยเสวี่ย เป็นเพียง 'อนาคต' ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ปัจจุบันพรรคเทพหงส์น้ำแข็งมีมู่เซวียนหยินประทับอยู่ นางสนมของจักรพรรดิหยุนผู้นี้อาจจะขัดขวางได้

     หารู้ไม่ว่าหั่วพั่วหยุนเพียงคิดมากไปเอง
   
     "มิใช่ปัญหายุ่งยาก...อย่างที่ข้าพูดไป เนื่องเพราะความรู้สึกทางใจของเฟยเสวี่ยไม่ได้รับการตอบสนองจากหยุนเช่อ อย่างน้อยข้าจึงอยากหาคนที่ตอบรับความต้องการทางกายของนางได้ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อในความสามารถของเจ้าพิภพเทพอัคคี แต่เพื่อเฟยเสวี่ย...ข้าต้องขอยืนยัน 'ความสามารถ' ของท่านด้วยตัวเองก่อน"
   
     มู่ปิงหยุนแสร้งกลัดกลุ้ม มือข้างหนึ่งของนางค่อย ๆ เลื่อนไปจับเป้ากางเกงหั่วพั่วหยุน
   
     หั่วพั่วหยุนรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ความสามารถของมัน ความสามารถอันใด? เป็นไปได้อย่างไรที่จ้าวเทวะขั้นสี่อย่างมันจะไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ

     "!?"

     หั่วพั่วหยุนกำลังครุ่นคิด ฉับพลันมันก็รู้สึกถึงมือเย็น ๆ ที่บรรจงลูบไล้แกนกายส่วนล่างของตนผ่านเป้ากางเกง
   
     "อ๊ะ...ช้าก่อน...รอประเดี๋ยว...ท่านเจ้าพิภพปิงหยุน...ท่านกำลังทำอะไร...เอ่อ..."

     





เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

minky way

บุญหล่นทับจริงๆ นี่ถ้าเป็นเฟยเสวี่ยล่ะก้อ พั่วหยุนไม่เล่นตัวแบบนี้หรอก


อดิศร


อดิศร


kodzilla

มู่ปิงหยุนจะเปิดซิงตัวเอง ท่านเจ้าพิภพแดนอัคคีก็เปิดซิงด้วยกระมัง

librarian

ขอบคุณครับ ต้องแสดงความยินดีกับพั่วหยุนล่วงหน้าแล้ว รวบสองแน่ๆ

MaskedMan






Darkreader



alasangel