ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

จากนักศึกษา เปลี่ยนไปเป็นนักศึกเสียว ตอนที่25

เริ่มโดย A Space, กรกฎาคม 06, 2024, 03:45:52 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

A Space

ฝากติดตามทางช่องทางด้านล่างหน่อยครับ
อัพเดตตอนใหม่ได้ก่อนใคร^^


ReadAwrite : https://www.readawrite.com/?action=user_page&user_id_publisher=1906656

Tunwalai : https://www.tunwalai.com/profile/4981722

Fictionlog : https://fictionlog.co/u/A_Space

มีซ่อนข้อความนะครับ
อย่าลืม comment แล้วกลับมาอ่านเพิ่มนะครับ




"ช่วยด้วย!" มิ้มตะโกนออกมาหลายครั้ง ก่อนจะมีคนเปิดประตูเข้ามา เป็นไอ้กิตนั้นเอง มันเดินเข้าไปหามิ้มด้วยหน้าตาเกรี้ยวกราด

 

ไอ้กิต : มึงร้องทำไม ร้องไปก็เท่านั้น ไม่มีใครมาช่วยมึงทั้งนั้น ไอ้ทรีมันก็มาช่วยมึงไม่ได้ ฮ่าๆๆ
มิ้มร้องไห้ : ปล่อยกูไปเหอะนะขอร้อง
ไอ้กิตตบไปที่หน้ามิ้มอย่างแรง : มึงจะไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นอีร่าน!
มิ้มร้องไห้ : ปล่อยกูไปเหอะ กูจะหายไปเลยกูสัญญา นะ อย่าทำแบบนี้เลย
ไอ้กิตกัดฟันโดยความโมโห : มึงบอกกับกูว่า อย่าทำแบบนี้เลย! มึงทำไมไม่บอกตัวเองวะอีสัส!

ไอ้กิตพูดแล้วก็วิ่งเข้าไปเตะๆกระทืบใส่มิ้มอยู่หลายรอบ พร้อมๆกับตะโกนด่าท้อเธอด้วยคำหยาบคายไม่หยุด "อีเหี้ย อีสัส อีร่าน อีระยำ" มันยกทุกคำที่มันคิดได้มาด่าเธอหมด ด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดอย่างมาก

มิ้มร้องด้วยความเจ็บปวด : ฮือ~ ขอโทษ พอเถอะนะ โอ๊ย! หยุดเถอะนะ ขอร้องอย่าทำร้ายกูเลย
ไอ้กิตยิ่งดูโมโหขึ้นไปอีก : มึงบอกว่าอย่าทำร้ายมึง แต่มึงกลับทำร้ายจิตใจกูเนี่ยหรอ ห๊ะ!
มิ้มร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด : กูเคยบอกมึงตั้งแต่แรกแล้วว่ากูชอบไอ้ทรี มึงก็บอกว่าไม่เป็นไรมึงรับได้ ก็เคยบอกไปแล้วนะว่าเราเป็นแค่เซ็กซ์เฟรนด์กัน มึงมาทำกับกูแบบนี้ทำไม ฮือ~
ไอ้กิตกัดฟัน : กูรักมึง แต่มึงเห็นว่ากูเป็นแค่เซ็กซ์ทอยสินะ อีร่านแบบมึงลงนรกไปซะเถอะ

ไอ้กิตมันพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว มันล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบมีดพกออกมา แล้วก็พุ่งเข้ามาจะแทงมิ้ม

ผมสะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมา เหงื่อผมชุ่มไปทั้งตัว ทั้งๆที่แอร์ในห้องเย็นเฉียบ ผมคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในความฝัน อะไรวะเนี่ยทำไมผมถึงฝันแบบนั้น หรือเป็นเพราะว่าผมติดต่อสองคนนั้นไม่ได้นานแล้วผมเลยเก็บเอามาฝัน ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยที่ฝันแบบนี้ สงสัยต้องหาวิธีติดต่อพวกสองคนนั้นอย่างจริงๆจังๆแล้ว

หันกลับไปมองที่ไอริน พบว่าเธอก็ยังหลับสบายอยู่ข้างๆ มองไอรินเพลินๆมันก็ช่วยให้ใจเย็นขึ้นมาบ้าง คนอะไรนอนหลับก็ยังสวยอยู่เลย ใจก็อยากจะล้มตัวลงไปนอนกอดไอรินเพื่อหลับอีกสักตื่น แต่ความรู้สึกผมตอนนี้คือหลับไม่ลงและ ก็เลยเอื้อมไปหยิบมือถือมาเล่นหน่อยดีกว่า

ดูเวลาตอนนี้ก็จะเจ็ดโมงเช้าแล้ว ผมก็ไล่ดูแจ้งเตือนในมือถือไปเรื่อยพึ่งมีเยอะพอสมควรเลย ก็เล่นไม่ได้จับมือถือมาดูอะไรตั้งแต่เมื่อวาน ผมเลือกเปิดดูในไลน์ก่อนเลย ก็มีแจ้งเตือนเป็นกลุ่มเพื่อนสนิท แต่มีแค่ไอ้แอลกับไอ้ปาล์มคุยกันไปเรื่อยเปื่อยโดยที่ยังไม่มีข้อความจากไอ้กิตกับมิ้มส่งมาเช่นเคย ดูจำนวนคนอ่านจากข้อความของผมพิมพ์ไว้ก็เห็นได้เลยว่าสองคนนั้นไม่แม้แต่จะเขามาอ่าน เกิดอะไรขึ้นกับพวกมันกันแน่วะเนี่ย ถ้าเป็นแบบในความฝันจริงผมจะรู้สึกผิดมากๆเลย

เปิดดูเฟซบุ๊กที่แจ้งเตือนไม่ได้มีอะไรสำคัญ แต่พอเลื่อนมาดูตรงแจ้งเตือนของ IG นี่สิ ชื่อ IG นี้มันของคุณหมอกิ๊ฟนิ ผมด้วยความระแวงรีบหันไปดูที่ไอรินอีกครั้งก่อนเลย เธอยังหลับสนิทดูอยู่ แต่เป็นผมนี่ที่เริ่มตื่นกลัวโดนจับได้ไปเอง ผมเอียงตัวเล็กน้อยเพื่อถ้าไอรินตื่นขึ้นจะได้มองเห็นจอมือถือผมไม่ชัด ก่อนจะเปิดเมสเสจจาก IG ขึ้นมาดู

 

หมอกิ๊ฟ : ใช่ค่าา กิ๊ฟเดียวกับที่ตรวจคุณทรีนั่นแหละค่าา
หมอกิ๊ฟ : กิ๊ฟเป็นคนใส่โน๊ตนั้นไว้ในถุงยาคุณทรีเองค่า พอดีกิ๊ฟมีเรื่องอยากจะปรึกษาคุณทรีนิดหน่อยยย

อ้าวว้าวุ่นเลยผมทีนี้ เธอจะปรึกษาอะไรน้า คนแบบผมมีอะไรที่คนอย่างเธอจะต้องมาปรึกษา หรือเธอจะแอบชอบเรานะ แหม่! หลงตัวเองไปใหญ่แล้วเรา ทีนี้จะตอบกลับไปว่ายังไงดีนะ ผมนั่งคิดคำตอบกลับดีๆไม่ได้เลย แบบไหนดีนะที่จะทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่กระโตกกระตากจนเกินไป

ผม : หูยยย ดีใจจัง ผมนึกว่ามีคนแกล้งผมซะอีก
ผม : คุณหมอกิ๊ฟมีอะไรอยากจะปรึกษาคนอย่างผมหรอครับ ผมยินดีเสมอถ้าผมช่วยเหลือคุณหมอกิ๊ฟได้ครับ

ผมพิมพ์ไปเหมือนว่าจะเป็นทางการนิดมีการเต๊าะหน่อยๆ คิดว่าน่าจะพอไปวัดไปวาได้ พิมพ์เสร็จก็หันไปมองไอรินอีกที นี่สินะคืออาการของคนทำความผิดคิดไม่ซื่อ แต่ก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับจากหมอกิ๊ฟเช่นเคย สงสัยเธอจะเล่นมือถือเป็นเวลามั้ง

แล้วผมก็ใช้ชีวิตช่วงเช้าไปแบบปกติกับไอริน อาบน้ำ ทานข้าวก่อนจะส่งเธอขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านไป แล้วผมก็ขึ้นมานั่งๆนอนๆอยู่ที่ห้อง พอมันว่างก็เลยมานั่งคิดถึงเรื่องของไอ้กิตกับมิ้ม ก็เลยตัดสินใจลองโทรไปหาพวกนั้นทั้งคู่ โดนเริ่มจากที่โทรหาไอ้กิตก่อนก็พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ ก็เลยลองโทรไปที่เบอร์มิ้มบ้างก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน ผมว่ามันแปลกๆแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับพวกมันกันแน่ ทำไมถึงติดต่อไม่ได้ทั้งคู่แบบนี้

ผมลองไลน์ส่วนตัวไปถามไอ้แอลกับไอ้ปาล์ม พวกมันก็บอกว่าติดต่อสองคนนั้นไม่ได้ทั้งคู่ ผมเริ่มกังวลใจมากขึ้นเรื่อยๆ เลยลองไล่ถามเพื่อนที่พอจะสนิทกับไอ้กิตหรือมิ้มดู พบว่าไม่มีใครติดต่อมันได้เลย เอาไงล่ะทีนี้ ผมก็ไม่รู้จักทางบ้านของพวกมันด้วยสิ รู้แค่ไอ้กิตบ้านมันอยู่แถวสัตหีบชลบุรี แต่สัตหีบมันก็ไม่ได้เล็กถึงขนาดจะเดินหากันได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดเพราะกลัวว่าความฝันจะเป็นจริง

แต่ผมก็ปลอบใจตัวเองไปก่อนว่าความฝันมันก็คือความฝัน ผมเลยจะขอรอดูตอนเปิดเทอมก่อนแล้วกันว่าสองคนนั้นจะมาเรียนตามปกติไหม ผมได้แต่ถอนหายใจ หาหนังดูแก้เซงดีกว่า

ในระหว่างที่ผมกำลังเลือกหาหนังที่จะดูด้วยความที่ไม่รู้จะดูเรื่องไหนดี ผมก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์แจ้งเตือนขึ้นมา ผมก็เลยเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์อย่างเซงๆ ใครส่งไรมาวะผมคิด แต่ผมก็กลับตาโตด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง หมอกิ๊ฟเมสเสจตอบมาแล้ว

หมอกิ๊ฟ : กิ๊ฟขอโทษนะคะที่ตอบช้า พอดีช่วงเช้ากิ๊ฟตรวจคนไข้อยู่พึ่งจะได้พักทานข้าวนี่เอง
ผมพิมตอบกลับไปอย่างไว : ไม่เป็นไรเลยครับคุณหมอ ทุ่มเทให้คนไข้ขนาดนี้ ใครได้เป็นคนไข้คนหมอก็ต้องหายวันหายคืนแบบผมแน่ๆ
หมอกิ๊ฟ : ขอบคุณคะ เพราะแบบนี้แหละกิ๊ฟเลยไม่ค่อยมีเวลา วันที่กิ๊ฟเข้าเวรกิ๊ฟจะมีเวลาแค่ช่วงพักเที่ยงกับหลังเลิกงานนิดหน่อย เพราะกิ๊ฟนอนค่อนข้างไว ถ้ากิ๊ฟไม่ตอบก็อย่าต่อว่ากิ๊ฟนะคะ แหะๆ
ผม : ไม่เป็นไรเลยครับ แค่คุณหมอกิ๊ฟสละเวลามาตอบผม ผมก็ดีใจแล้วครับ ว่าแต่คุณกิ๊ฟมีอะไรให้ผมช่วยเหลือหรอครับ ที่บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาผมอะครับ
หมอกิ๊ฟ : ค่ะ กิ๊ฟมีเรื่องอะไรอยากจะรบกวนคุณทรีสักหน่อย แต่กิ๊ฟไม่ค่อยสะดวกใจที่จะคุยในแชท กิ๊ฟเลยอยากจะนัดคุณทรีออกมาทานข้าวกันสักมื้อแล้วคุยกันระหว่างทานข้าวพอจะได้ไหมคะ

ผมก็คิด เรื่องอะไรวะเนี่ย คุยในแชทก็ไม่ได้ แต่ถ้าคุณคิดว่าผมจะระแวงแล้วไม่ไป มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ผู้หญิงสวยๆนัดผมออกไปทานข้าวแบบนี้ มีหรอที่คนอย่างผมจะพลาดโอกาสแบบนี้

ผม : ได้เลยครับคุณหมอกิ๊ฟ คุณหมอกิ๊ฟสะดวกวันไหนและร้านไหนครับ ช่วงนี้ผมปิดเทอมอยู่สะดวกทุกวันครับ
หมอกิ๊ฟ : เดี๋ยวกิ๊ฟขอดูตารางเข้าเวรสักครู่นะคะ
ผม : ครับผม

ผมนี่นั่งเคาะนิ้วรอเลย พูดกันตรงๆในตอนแรกที่ผมอยู่โรงพยาบาลผมไม่ได้รู้สึกสนใจคุณหมอเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าเธอไม่สวยนะ เธอสวยมากด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะผมคิดว่าผมกับคนที่เป็นหมอมันแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย ผมก็เลยไม่ได้สนใจหมอกิ๊ฟในตอนนั้น แต่ตอนนี้โอกาสมันมา ไอ้จืดอย่างผมก็ของแอบๆหวังบ้างเหมือนกัน

หมอกิ๊ฟ : ถ้าเป็นวันศุกร์นี้พอจะได้ไหมคะ พอดีกิ๊ฟไม่มีคิวเข้าโรงพยาบาลไหนวันศุกร์นี้พอดี คุณทรีพอจะว่างไหมครับ

ศุกร์นี้หรอ ก็อีกสองวันสินะ ก็โอเคผมก็จะได้มีเวลาเคลียร์คิวของผมกับสี่สาวเหมือนกัน

ผม : ได้เลยครับคุณหมอกิ๊ฟ แล้วเราจะนัดเจอกันที่ไหนดีครับ
หมอกิ๊ฟ : สักประมาณเที่ยงเราไปเจอกันที่ห้าง... ก่อนไหมคะ แล้วเดี๋ยวค่อยคุยกันอีกทีดีมั้ยคะ
ผม : ได้เลยครับ คุณหมอสะดวกผมก็สะดวกครับ 😊
หมอกิ๊ฟ : โอเคค่ะ ไว้เจอกันนะคะ

เอาเว้ย นัดเจอกันแบบนี้ก็เหมือนผมได้ไปเดทกับหมอกิ๊ฟแหละวะ หวังว่ามันจะไปได้สวย ผมคิดอย่างเริงร่า วันศุกร์สินะ วันศุกร์นี้เราต้องทำตัวให้ว่างๆ ถ้าใครมานัดหรืออยากมาหาเราต้องหาทางปฏิเสธไปให้หมด จะต้องไม่มีอะไรมาขัดขวางเราจะการเดทกับหมอกิ๊ฟ!

ผมก็ไม่ค่อยจะตื่นเต้นเท่าไหร่หรอกนะ แต่ผมรีบไลน์ไปบอกสาวๆทั้งสี่คนว่าวันศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้ ผมจะไม่อยู่นะ ว่าจะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่สักหน่อย คิดถึงพ่อแม่คิดถึงบ้าน(ว่าไปนั้น) ทางสาวๆก็ดูจะไม่ได้สงสัยอะไร ก็เข้าทางผมเลยสิครับแบบนี้

แล้วในที่สุดก็มาถึงวันศุกร์ที่ผมนัดกับหมอกิ๊ฟเอาไว้ ผมตื่นขึ้นมาทานข้าวรองท้องสักนิด ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวแล้วใส่เสื้อผ้าที่คิดว่าตัวเองจะดูดีที่สุด แล้วผมก็ออกจากห้องไปถึงก่อนเวลานัดเหมือนเคยๆ ผมยืนชะเง้อคอแอบมองดูว่าหมอกิ๊ฟมาหรือยัง โดยสองวันก่อนที่เราจะมาเจอกันผมก็ทักทายถามเรื่องทั่วไปของหมอกิ๊ฟในทุกๆวัน เพื่อจะได้ลดความเกร็งตอนที่เรามาเจอหน้ากันครั้งนี้

แต่เมื่อผมมองไปเห็นว่าหมอกิ๊ฟกำลังเดินมา มันก็ยังทำให้ผมรู้สึกประหม่าอยู่ดี ผมก้มลงมองดูตัวเองซ้ำๆว่าแต่งตัวมาไม่ได้แปลกประหลาดอะไรใช่ไหม ผมรู้สึกได้ว่าผมตื่นเต้นกว่าตอนเจอทั้งสี่สาวด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นประสบการณ์ใหม่เลยที่ผมนัดเจอกับผู้หญิงที่อายุเยอะกว่าตัวเอง และกลิ่นใหม่มักจะทำให้เราตื่นเต้นกว่าเสมอ แต่ผมก็กลัวว่าผมจะไปทำตัวเหมือนเด็กต่อหน้าเธอ ความคิดวิ่งไปมาในหัวผมเยอะแยะมากมาย จนกดดันตัวเองไปหมด

หมอกิ๊ฟเดินมาถึง : สวัสดีค่ะคุณทรี มารอกิ๊ฟนานหรือยังคะเนี่ย
ผมออกอาการเกร็ง : พะพะพะพึ่งมาถึงไม่นานนี้เองครับ สวัสดีครับคุณหมอ
หมอกิ๊ฟ : เอ่อ คุณทรีทานข้าวมาหรือยังคะ พอดีกิ๊ฟยังไม่ทานข้าวมาเลย
ผมที่ยังยืนแข็งไม่สบตาหมอกิ๊ฟ : ทะทานมานิดหน่อยแล้วครับ
หมอกิ๊ฟคงเห็นอาการผมไม่ดี : เป็นอะไรหรือเปล่าคะ คุณทรีดูหน้าซีดๆ ถ้าไม่สบายเลื่อนเป็นวันอื่นก็ได้นะคะ

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

nar007


nar007



Eberm


zavior


jaja

กลัวหมอกิ๊ฟจะหิวต้องให้กินข้าวก่อน เผื่อหมอชวนไปคุยนาน ::HoHo::


grabungza

เจอสาวสวยแถมเป็นหมอ ถึงกับทำอะไรไม่ถูก น่าสงสัยจังว่าหมอมีอะไรจะปรึกษา

therasak

เอ้า  ทำไมเสือกลายเป็นแมวไปซะงั้น  ว่าแต่มิ้นจะเป็นอย่างไรบ้าง น่ากังวลนะ


คนริมทาง


onzoul



Mongmong99