ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มนตรา สงคราม ความรัก ตอนที่ 75: อวสาน

เริ่มโดย KaohomLM, พฤศจิกายน 18, 2024, 10:50:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   ปราการเวทมนตร์ที่ล้อมรอบเกาะสวรรค์พังทลายลง พร้อมกับที่มหาปิศาจพุ่งทะยานลงสู่พื้น เงาทะมึนติดตามร่างของเธอมาราวกับผ้าคลุมดำผืนใหญ่ที่ยืดเหยียดจากร่างขาวออกแผ่จนเต็มทั่วท้องนภากว้าง ปกปิดแสงเดือนดาวจนหมดสิ้น
   แสงสว่างเดียวที่เหลืออยู่บนโลกคือ...
   หือ....
   เปรี้ยง!!!!!!
   ร่างในชุดเกราะขาวบินทะยานขึ้นปะทะกับมหาปิศาจที่กำลังดิ่งตัวลงมา ปีกแห่งแสงกางกว้างปะทะกับเงามืดที่ถาโถมเข้าใส่
   ดาบที่เพิ่งออกจากเตาหลอมมาหมาด ๆ ประชันคมกับกรงเล็บยาว มหาปิศาจกรีดร้องเมื่อแขนข้างหนึ่งของมันหลุดกระเด็นออก
   เงามืดถอยร่นจากแสงสว่างที่เจิดจ้าราวกับดวงดาราในความมืด สาดส่องเรืองรองขับไล่พลังปิศาจที่ล้อมรอบตัวเธอออกไปจนหมดสิ้น
   นทีกางปีกสีขาวอันใหม่ที่เฉิดฉายกว่าเดิมแล้วทะยานเข้าหามหาปิศาจอีกครั้ง เธอตัวสั่นสะท้าน รู้สึกได้ถึงพลังที่ถดถอยลงเมื่อปีกขาวเคลื่อนเข้าใกล้
   แต่กระนั้นมหาปิศาจก็ยังทรงพลานุภาพ พลังแห่งราคะที่ดูดกลืนมาหลายร้อยปียังคงกล้าแกร่ง ปัญญายังคงหลักแหลมและความอดทนที่ช่วยให้เธอรอดชีวิตในโลกมนุษย์มาหลายร้อยปียังคงมีอยู่ เธอเบี่ยงตัวหลบหลีกเลี่ยงไม่เข้าปะทะกับศตรูที่เข้าหาด้วยเพลิงขาวที่ลุกโชดช่วงขึ้นใหม่แรงกล้ากว่าแต่ก่อนมา เงามืดที่แตกกระจายไปกลับมารวมตัวควบแน่นเป็นหอกดำในมือที่เหลืออยู่ข้างเดียว ก่อนที่เธอจะซัดหอกใส่ร่างศตรู เงามืดที่ล้อมรอบหอกสลายไปทีละชั้นในรัศมีอันเรืองรองของปีกสีขาวแต่หอกก็ยังคงพุ่มตรงเข้าใส่นทีด้วยความรุนแรงและพลังที่มากพอจะฉีกร่างเหยื่อให้เป็นผุยผง นทีเตะหอกจนกระเด็นหายไป แต่มหาปิศาจก็ซัดหอกมาอย่างต่อเนื่อง สามอัน สี่อัน แปดอัน ไม่ช้าหอกดำก็เปรียบเสมือนสายฝนที่ร่วงลงจากฟากฟ้า นทีได้แต่บินฉวัดเฉวียนไปมาหลบเลี่ยงหอกซัดอันแล้วอันเล่า สายฟ้าสีทองยิงตอบโต้กลับไปสองสามเส้น แต่ก็หาได้สะเทือนผิวหนังของมหาปิศาจไม่
    นทีต้องเตือนตัวเองว่ามหาปิศาจเป็นศตรูที่น่ากลัวเสมอแม้ในสมัยก่อนที่เขายังมีปีกสีขาวอันเดิมอยู่ ได้ปีกอันใหม่ไม่ได้แปลว่ามหาปิศาจจะกลายเป็นหมูรอให้เชือด
   แล้วถึงแม้จะใช้พลังได้ตามใจชอบ แต่อวัยวะภายในของเขายังบอบช้ำอยู่หลายจุด เป็นแบบนี้ คลุกวงในยืดเยื้อคงไม่เหมาะ ต้องพยายามเผด็จศึกให้เร็ว
   ชิ้งงงงง
   หอกซัดเฉียดปลายปีกไปนิดเดียว ก่อนจะตกลงไประเบิดตูมใหญ่บนชายหาดที่เคยสวยงาม
   ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เกาะของเขากับเจ๊จมทะเลแน่
   เมื่อเห็นช่องว่างระหว่างหอกสองแท่ง นทีก็รีบบินแทรกขึ้นมา ดาบเงื้อง่าหมายจะตัดหัวมหาปิศาจให้ขาดกระเด็น
   แต่เหมือนว่ามหาปิศาจจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ทันทีที่ขึ้นมาในระนาบเสมอกับเธอได้ ก็มีโซ่สีดำแปดเส้นพุ่งเข้ามาจากรอบทิศทาง รัดพันรอบตัวนที
   คาถาโซ่พันธะมาร
   คาถานี้ใช้พลังปิศาจ แต่เสกโซ่ที่มีลักษณะเป็นกายภาพจับต้องได้ และไม่ได้รับผลกระทบจากพลังของปีกสีขาว
   หอกดำพุ่งตรงเข้ามาหาร่างที่ถูกสายโซ่เหนี่ยวรั้งเอาไว้ แต่นทียกเท้าขึ้นเตะหอกจนกระเด็นไปอีกครั้ง
   "กระสุนปิศาจ...."
   มหาปิศาจเริ่มร่ายคาถาที่ทรงพลังอีกครั้ง แต่นทีสะบัดดาบฟาดจนโซ่แตกกระจายจนหมดและพุ่งเข้าหามหาปิศาจรวดเร็วเกินกว่าเธอจะหลบทัน
   เช้งงงงงง
   แขนอีกข้างหลุดออกจากตัว มหาปิศาจกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและโกรธเกรี้ยว
   เช้งงงงงงงงงงงงงงง
   มหาปิศาจหันหน้าเข้าหานที อ้าปากพยายามกัด แต่นทีทิ้งตัวลงต่ำแล้วสะบัดดาบ ตัดขาทั้งสองข้างขาดกระเด็นในดาบเดียว ร่างที่ไม่มีแขนขาหล่นร่วงจากฟากฟ้า ควันดำยาวหลั่งไหลออกเป็นสายตามทิศทางการร่วง
   
   "ปิศาจร่วงไปแล้ว" ชาคริตที่ใช้กล้องส่องทางไกลมองการต่อสู้อยู่ร้องบอกสองสาว ที่กำลังลงไปอาบน้ำล้างเนื้อตัวในน้ำตก
   "เหรอคะ" ข้าวหอมพุ่งตัวขึ้นจากน้ำ คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันตัวแล้วคว้ากล้องส่องทางไกลมาจากมือชาคริต
   เขาอดไม่ได้จริง ๆ จะเหลียวมองไหล่กลมกลึง ผิวขาวเนียนและเรือนหน้าผ่องใสของเจ๊ข้าวหอมด้วยความหลงใหล
   แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าร่องรักของเธอนั้นวิเศษขนาดไหน
   เส้นสีดำวิ่งตรงลงพื้น ขณะที่ร่างสว่างไสวในปีกขาวยังลอยอยู่
   รอยยิ้มพิมพ์ใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าแสนงาม สวยตรึงตราจนชาคริตแทบลืมหายใจ
   
   ถึงเวลาต้องทิ้งร่างนี้แล้วสินะ
   น่าเสียดาย เธอชอบร่างนี้มาก กว่าจะเรียนรู้เกี่ยวกับมนุษย์มากพอจะสร้างร่างที่เหมือนพวกมันได้ และร่างนี้ก็เป็นประโยชน์กับเธอเหลือเกิน ในช่วงเวลาหลายร้อยปีที่เธออยู่บนโลกมนุษย์
   แต่ไม่ใช่เวลามาอาลัยอาวรณ์ ถ้าเรือจะจม ต่อให้รักเรือแค่ไหน ผู้คนบนเรือย่อมต้องรักชีวิตมากกว่า
   ของเหลวสีดำจำนวนมากหลั่งไหลออกจากหูตาจมูกปากของกายมนุษย์ ก่อนจะไปรวมตัวกันเป็นร่างสูงใหญ่ ดำทะมึน แขนขายาวเก้งก้าง
   เธอสัมผัสได้ถึงสามชีวิตที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะเหลือบมองขึ้นบนฟ้าอีกครั้ง แสงสว่างจากปีกสีขาวยังคงเจิดจรัส ไอ้นทีกำลังขับไล่ความมืดและพลังปิศาจที่เธอนำมาที่เกาะนี้
   มีเวลา ถ้าเธอเร็วพอ...เธออาจจะชิงร่างพวกมันแล้วใช้หนีได้
   
   สองสาวเพิ่งใส่เสื้อผ้าเสร็จ เสียงคำรามดังลั่นทำเอาเบญ ข้าวหอม และชาคริตสะดุ้งโหยง
   "อะไรน่ะ" ชาคริตร้อง
   ข้าวหอมเรียกดาบออกมา เบญเหลียวมองรอบกาย
   "นั่นค่ะ" เบญบอกและชี้ไปทางร่างสีดำหนวดยุบยั่บที่พุ่งตัวขึ้นจากน้ำ
   "ปิศาจ มันยังไม่ตาย!!!" ข้าวหอมร้อง
   เบญเสกสายฟ้าสีทองยี่สิบเส้นเข้าใส่ปิศาจ แต่มันยังพุ่งตรงเข้ามาหาทั้งสาม
   ข้าวหอมพุ่งตรงเข้าใส่ร่างสีดำ ฟันดาบจนแขนข้างหนึ่งของมันขาดกระเด็น แต่มันก็มีแขนใหม่งอกออกมาอีกสิบข้าง ปาดป่ายฟาดไปมา
   "ชาคริต ระวังนะคะ" ข้าวหอมบอกเมื่อเธอจำต้องกระโดดถอยหลังกลับมา
   คลื่นพลังสีดำเริ่มแผ่จากตัวปิศาจอีกแล้ว แต่เบญก็สร้างบาเรียออกมาปกป้องทุกคนไว้
   ฟวับ ฟวับ ฟวับ
   แขนของปิศาจขาดไปอีกสองข้าง ดาบที่สามตัดโดนส่วนลำตัวของมัน แต่ปิศาจไม่แสดงท่าทีเจ็บปวดด้วยซ้ำ
   อีกครั้ง ที่มันทำท่าจะกระโจนใส่ชาคริต แต่เบญและบาเรียของเธอเข้ามาขวางไว้
   ลำแสงสีขาวส่องสว่างลงมาจากฟ้า นทีถลาร่อนลงมาเคียงข้างข้าวหอม
   "พร้อมกันนะ เจ๊" นทีบอก และยื่นมือมาจับมือเธอ
   "ค่ะ"
   นทีกับข้าวหอมพุ่งตัวเข้าหาปิศาจพร้อมกัน ดาบสองเล่มร่ายรำงดงามร่างปิศาจขาดหลุดกระจายหลายชิ้น แต่คราวนี้ รัศมีเรืองรองของปีกสีขาวป้องกันไม่ให้มันฟื้นตัวได้
   ก้อนเนื้อสีดำหล่นตุ๊บลงบนพื้น ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองจ้องขเม็งมาที่ชาคริต
   "ชะ!!" เบญร้องและวิ่งเข้ามาขวาง "จะถ่ายวิญญาณมาเข้าร่างชาคริตเหรอ ฝันไปเถอะ!!!!!"
   เงาดำพุ่งออกมาจากเศษร่างปิศาจ แต่กระแทกกับกำแพงเวทมนตร์ที่เบญตั้งไว้อย่างจังจนได้แต่กระเด้งกลับเข้าร่างที่เละเทะ
   มหาปิศาจคำรามราวกับจะท้าชะตากรรมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ดาบของข้าวหอมจะปักลงไปบนตัวมัน จนเศษเสี้ยวสุดท้ายสลายหายไป
   แสงจันทร์สาดส่องลงมายังคนทั้งสี่ที่ยืนหอบหายใจหนักหน่วง เป็นแสงแรกของคืนวันนี้ แสงแรกที่ทะลุผ่านเงาของปิศาจลงมาได้
   นทีดึงร่างข้าวหอมมาโอบกอด และจุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผาก "จบแล้ว เจ๊ เราชนะ"
   ข้าวหอมไม่ตอบอะไร แต่เขย่งตัวขึ้นหอมแก้มนที
   เบญสะกิด "ชาคริต เอามั่งดิ"
   แต่...สายตาที่ชาคริตมองเธอกลับมาทำเอาเบญใจหล่นวูบ ความโหยหา อิจฉา อาลัย สะท้อนชัดเจนอยู่ในดวงตาของชายหนุ่ม
   เมื่อสวีทกับข้าวหอมได้ที่ นทีก็หันมาหาชาคริต ยกมือขึ้นตั้งท่าร่ายคาถา
   "หยุดค่ะ!!!!" เบญร้อง ม่านพลังของเธอป้องกันไม่ให้พลังของนทีเคลื่อนเข้ามาได้ "หนูไม่ยอมให้พี่ลบความจำชาคริตหรอก"
   "น้องเบญ...." พี่นทีส่งเสียงเป็นการเตือน ปีกสีขาวกางกว้างแผ่รัศมีอีกครั้ง รอยร้าวหลายจุดปรากฏขึ้นบนบาเรียร์ของเบญ
   ชะ พี่นที จะเอาเหรอ ได้
   เบญหลับตา ลืมการควบคุมไปซะ ปล่อยพลังให้ไหลหลั่งออกมาเป็นมหาพายุที่ควบคุมไม่ได้ พลังไร้รูปแบบที่รบกวนเวทมนตร์อื่น ๆ ทุกอย่าง พลังที่เคยทำลายปีกสีขาวอันแรกมาแล้ว
   "น้องเบญ!!!!" ข้าวหอมร้อง ยกมือขึ้นกุมศีรษะ "หยุดดดดดดด"
   "อึกกกกกกก" มือของพี่นทีคว้าที่คอหอยของเธอ
   อะไรกันเนี่ย
   เบญตาเหลือโพลง มองพี่นที....ทำไม......
   อ๋อ
   พลังเวทมนตร์ของชายหนุ่มและปีกสีขาวบัดนี้ไม่ใช่มหาปราการหินผาแข็งแกร่งหรือหลิวใหญ่หยั่งรากแข็งแรง แต่เป็นต้นอ้อน้อยลู่ลมที่ผ่อนไหวไปตามกระแสพลังที่เธอปล่อยออกมา พลังของเธอไม่ใช่แค่ไม่รบกวน แต่ยังไหลเวียนไปประสานเร่งเร้าให้ปีกสีขาวเจิดจรัสยิ่งขึ้นไปอีก
   "เบญ.....คิดจริงเหรอว่าพี่จะไม่คิดหาวิธีป้องกันตัวไว้แล้วน่ะ" นทีถาม "หยุดเถอะ นะ"
   เบญหยุดปล่อยพลัง นทีปล่อยตัวเธอลง
   "ยังไงหนูก็ไม่ให้พี่ลบความจำชาคริต" เบญร้องด้วยน้ำเสียงดื้อดึง
    "เบญ....ให้พี่เค้าทำเถอะ.." ชาคริตบอก
   "ทำไมล่ะ คริต คริตอยากจะลืมคุณความดีของตัวเองในการช่วยโลกครั้งนี้เหรอ" เบญหันขวับไปหาหนุ่มคนรัก
   "ใช่" ชาคริตตอบด้วยเสียงหนักแน่น
   แต่เบญยังมีทีท่าไม่ยอมให้นทีเข้ามาใกล้
   "ทำไมล่ะ คริต"
   "ก็..........." ชาคริตยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง หันมองพี่นที พี่ข้าวหอม ก่อนจะหันกลับมามองเบญแล้วตอบตามความจริง "ถ้ายังจำเรื่องเมื่อกี้ได้ เราไม่มีวันอยู่กับเบญ...กับน้องญา กับน้ำฟ้า กับไผ่หลิวแล้วก็รินได้อย่างมีความสุขแน่...."
   ใครจะไปคิด ว่าเซ็กส์ที่มีความสุขในชีวิตของเขา จะไม่ใช่สิ่งที่เขาได้สัมผัสด้วยตัวเอง แต่กลับต้องสัมผัสผ่านการเชื่อมจิตกับคนอื่นอีกทีหนึ่ง
   เขาเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าทำไมพี่นทีถึงได้หวงและห่วงเจ๊ข้าวหอมขนาดนั้น
   เขารู้สึกมาตลอดว่าเจ๊ข้าวหอมเป็นคนที่สูงเกินเอื้อม แต่พอได้ลองสัมผัสเข้าหน่อย เขากลับติดใจจนไม่มีวันกลับไปหาอะไรที่ต่ำต้อยกว่านั้นได้แล้ว
   ชาคริตมองตานที "ทำให้ผมลืม นะครับ.....ลืมว่าผมได้ทำอะไรลงไป ให้ผมจำได้แค่ว่า พี่พาผมมาที่นี่ เบญฮีลให้ผม แล้วผมนอนพักฟื้น ระหว่างที่พวกพี่กับเบญหาทางสร้างชุดเกราะให้พี่ใหม่ ผมขอร้องล่ะ"
   นทีพยักหน้า
   เบญพยักหน้าแต่ก็ปาดน้ำตา เธอเข้าใจแล้วว่าชาคริตพยายามสื่ออะไร ใจหนึ่งก็ยินดีไม่น้อยที่เขายังอยากรักและอยากอยู่กับเธอและเพื่อน ๆ แต่อีกใจก็อดน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้ว่าเสน่ห์ของเธอเป็นรองพี่เจ๊ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ
   "เอาเลยครับ"  ชาคริตบอก เบญขยับตัวถอยเปิดทาง นทีเดินเข้ามา และร่ายคาถาลบความจำ ไม่ใช่คาถาปกปิดความทรงจำที่ผู้พิทักษ์ส่วนใหญ่ชอบใช้กัน แต่เป็นคาถาที่ไปลบความทรงจำออกไปจากสมองของชาคริตอย่างถาวร ตอนนี้ ไม่มีใครสามารถคืนความทรงจำนี้ให้ชาคริตได้อีกแล้ว
   ชาคริตค่อยดูสดใสขึ้นหน่อยหนึ่ง เมื่อความทรงจำที่ดีที่สุดหายไปจากใจแล้ว
   "เราชนะแล้ว ปิศาจตายแล้ว!!" ชาคริตบอก และหันมาหอมแก้มเบญฟอดใหญ่ "เบญเก่งมากเลยยยยย"
   "ขอบใจนะ ชาคริต" เบญยิ้มทั้งน้ำตา ใช่ อย่างนี้แหละ ดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ เธอแค่ต้องกลับเป็นคนเดิม อย่าเสียใจ ร่าเริง ดีใจกับชัยชนะ เธอกอดชาคริตแน่นแล้วเริ่มกระโดดโลดเต้น
   ถือโอกาสที่ชาคริตกับเบญดีใจกันอยู่ นทีหันหลังเดินกลับไปที่เตาหลอม คว้าเศษโลหะเทพชิ้นเล็ก ๆ โยนลงไปในเตาหลอม
   "พี่นทีจะสร้างอะไรอีกคะ" ข้าวหอมถาม และเดินมาเคียงข้างเขา
   นทีดึงแหวนคู่งามขึ้นมาจากในเตาหลอมและคุกเข่าลง
   ข้าวหอมตาโต
   "เจ๊.....แต่งงานกับพี่นะ"
   "ค่ะ!!!!!!!" ข้าวหอมร้อง นทีสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ
   "กรี๊ดดดดดด" เบญร้อง "เค้าขอแต่งงาน!!!! เค้าขอแต่งงานกันค่ะ!!!!!!!!"
   "ยินดีด้วยนะครับ พี่ข้าวหอม" ชาคริตบอก
   ข้าวหอมยกนิ้วขึ้นอวด
   "ยินดีด้วยนะคะ พี่เจ๊"
   "ขอบคุณค่า น้องเบญ น้องชาคริต"
   "คริคริคริคริคริ เจ๊อยากอยู่กับพี่นทีสองต่อสองใช่ไหมล่า" เบญถามด้วยท่าทางขี้เล่น ก่อนจะกระซิบดัง ๆ "เจ๊จะได้ไม่ต้องช่วยตัวเองแล้วไง คริคริคริคริ"
   "ยัยเบ๊ญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญญ!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
   "เดี๋ยวหนูกะชาคริตไปแล้วนะ...."
   "บาย น้องเบญ น้องชาคริต" นทีโบกมือ   
   "หนูขอยืมห้องพี่เจ๊ฉลองกับชาคริตและก็เพื่อน ๆ หนูด้วยนะค๊าาาาา คริคริคริคริ" เบญหัวเราะและพาชาคริตเทเลพอร์ตหนีไป
   "เอ่อ....ห้องหนูจะพังไหมอ่า" ข้าวหอมถาม
   "ดูแก๊งค์นั้นสิ จะเหลือเหรอ" นทีตอบ "แต่ แต่งงานกันแล้ว เจ๊มาอยู่เกาะกับพี่สองต่อสองก็ได้นี่ ห้องพังก็ไม่เป็นไรหรอก"
   "อยู่กับพี่สองต่อสองทุกวันหนูบานพอดี" ข้าวหอมบ่น
   "เจ๊อ่าาาา" นทีร้อง "พี่ก็ไม่ได้ขนาดนั้นซะหน่อย"
   "ฮึ....มีเรื่องอะไรทีหนูโดนเอาทุกที" ข้าวหอมบ่น
   "คราวที่แล้วโดนสิบทีต่ะหาก" นทีแก้
   "ฮึ!!!" ข้าวหอมเบือนหน้าหนี
   "โธ่...เมียอย่างอนนะ" นทีอ้อน
   "ใคร ใครเมียพี่" ข้าวหอมถามเสียงเขียว
   "ก็....เจ๊ไง"
   "แต่งงานกันตอนไหนมิทราบ"
   "ก็....ในโลกแรกที่เราไปกันตอนนั้นไง" นทีบอก "แล้วก็...เอาไง รอเจ๊เรียนจบหรือตอนนี้เลย"
   "พี่อยากแต่งกับหนูจริงเหรอคะ" เธอถาม พลางก็พิจารณาดูแหวนวงงามบนนิ้ว
   "ถ้าไม่อยากพี่ไม่ขอหรอก" นทีบอก และดึงเธอเข้าไปจูบปาก
   "จุ๊บบบบบ เฮอะ แกล้งหนูอีกแล้วนะ" ข้าวหอมบ่น "แต่....เรื่องแต่ง.....ขอหนูเรียนจบก่อนนะคะ อีกสามเทอม ไม่นานเกินรอ เนอะ ใช้ชื่อนางตั้งแต่เรียนอยู่หนูอายเค้า"
   "เดี๋ยวนี้เค้าแต่งกันก็ไม่ค่อยเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อแล้วนี่"
   "ช่างเค้าเถอะค่ะ แต่งแล้วไม่เปลี่ยน จะแต่งไปทำไม ให้ทุกคนรู้กันไปเลยว่าหนูเป็นของพี่แล้ว....เผื่อจะได้มีคนเข้ามาจีบน้อยลงด้วย"
   "จะได้ผลเหรอ"
   "ได้สิคะ ประกาศไป นางเปรมฤดี ใครจะหน้าด้านเข้ามาจีบก็ให้มันรู้กันไป ให้เปลี่ยนนามสกุลด้วยก็..."
   "นามสกุลที่พี่ใช้ในบัตรประชาชนน่ะของปลอม รู้ใช่ไหม" นทีถาม "เปลี่ยนที่เปลี่ยนทางทีพี่ก็เปลี่ยนที ไม่ได้ยึดติดอะไรหรอก...............ตอนพี่เกิดเค้ายังไม่ใช้นามสกุลกันด้วยซ้ำ"
   "งั้นพี่เปลี่ยนมาใช้นามสกุลหนูไหม"
   "ก็เอาสิ" นทีพูดอย่างไม่ลังเล
   ข้าวหอมอมยิ้ม "มองไปมองมา คู่หมั้นหนูก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย"
   "เอ้า เพิ่งรู้เหรอ ปกติพี่ก็น่ารักตลอดอยู่แล้ว" 
   "แต่หลงตัวเองไปหน่อย"
   "โธ่ เจ๊"
   "แต่ รู้ไหมคะ...."
   "หือ"
   "คู่หมั้นหนูเพิ่งเอาชนะมหาปิศาจได้ หนูว่าหนูต้องให้รางวัลซะหน่อยแล้ว"
   หัวใจนทีเต้นดังตุ๊บเบ้อเริ่ม
   ข้าวหอมเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มนที "รางวัลค่ะ"
   นทีห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด "ทำไม หนูหอมแก้มไม่ดีเหรอคะ"
   "มะ ไม่ใช่ เจ๊หอมแก้มคือวิเศษสุดแล้ว" นทีรีบบอก
   "แต่....พี่นทีรู้ไหมคะ" ข้าวหอมกระซิบ
   "หือ"
   "หนูใส่ชุดนอนตัวนี้มาทั้งวันแล้ว มัน....เริ่มเหนียวตัวแล้วหล่ะค่ะ"
   นทีกลืนน้ำลาย "เดี๋ยวพี่ถอดให้ไหม"
   "ก็ดีสิคะ"
   ที่เส้นขอบฟ้า พระอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นทักทายโลกแล้ว นทีจึงจัดการปลดปล่อยผิวขาวใสของข้าวหอมให้ได้ออกมาสัมผัสแสงแรกแห่งรุ่งอรุณ
   "เจ๊สวยที่สุดเลย" นทีบอก "มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลย"
   "แล้วจะมองอย่างเดียวเหรอคะ" ข้าวหอมหลิ่วตา และกวักมือเรียกให้นทีเข้าหา

   ขณะเดียวกัน
   "จะดีเหรอเบญญญญญ" เสียงสั่น ๆ ของรินถาม
   "เอิ้ววววว ดีสิ เอิ้วววววว พี่เจ๊ เอิ้ววววววววว อนุญาตแล้ว อ๊ายยยยยยย"
   นทีเกาะเอวสาวน้อยในชุดนางฟ้าแน่น และกระแทกเอวใส่เธอไม่หยุด
   "ห้องพี่เค้านะ..." น้ำฟ้าพูดเบา ๆ
   "อร๊ายยยยยย พี่เค้า อร๊ายยยยยย อนุญาต.....เพื่อ....อื๊อออออ ฉลองชัยชนะ อื๊ออออออ" เบญย้ำ "อ๊ายยยยย ชาคริต เราแตกแล้ว อ๊ายยยยยยย"
   เบญฟุบลงไปบนโต๊ะกินข้าวในห้องของข้าวหอม
   "พวกเธอไม่เอาก็สุดแล้วแต่ ชั้นเอาเองก็ได้" ไผ่หลิวบอก "วิชานินจา เสื้อผ้าอันตรธาน"
   ฟึ่บ!!!
   "เห้ยยยย"
   "พี่ชาคริตตตตต หนูมาแล้ววววว"
   ดูไม่ออกจริง ๆ ว่ามันเป็นคาถานินจาของจริงหรือกลเม็ดเด็ดพราย แต่พรึ่บเดียวชุดนินจาก็กองกับพื้น ร่างจิ้มลิ้มทะยานขึ้นคร่อมร่างชาคริต
   "ไม่รอเลยนะ ยัยเตี้ยยยยยย"
   ชุดแม่มดกับนักสู้ลงไปกองกับพื้นตามชุดนินจา ราชณิญาไม่ถอดเสื้อผ้า แต่ปลดผ้าคลุมที่พี่นทีให้มาออก
   ชุดนี้ ใส่ก็เหมือนไม่ใส่อยู่แล้ว
   "ชั้นก่อนสิ"
   "แกได้ไปรอบนึงที่บ้านแล้วนี่ ยัยแว่น"
   "ต้องเป็นรินสิคะ พี่คริต มาหารินก่อน"
   "พี่คริต หนูไม่เซ็กซี่เหรอ..."
   "ญาไม่ต้องเลยนะ ที่บ้านก็แตกในไปแล้ว"
   เบญเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อร่วมฮาเร็มที่แก่งแย่งกัน เธออดสงสัยไม่ได้ว่าฮาเร็มที่ปกติรักใคร่ปรองดองและรู้กาละเทศะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทุกคนโดนพลังปิศาจมาคนละนิด เกี่ยวไหม หรือเพราะความทรงจำที่พี่นทีทิ้งเอาไว้ในห้องนี้
   แล้วชาคริตล่ะ ความกระตือรือร้นของชายหนุ่มทำให้เธอสงสัยว่าเขายังหลงเหลือเศษเสี้ยวความทรงจำจากบทรักอันแสนวิเศษกับเจ๊ข้าวหอมหรือเปล่า แต่ไม่น่าหรอกนะ เธอสัมผัสได้ถึงคาถาลบความทรงจำของพี่นที มันลึกล้ำกว่าคาถาลบความทรงจำที่คนอื่น ๆ เคยโดนมาก นั่นคือมันลบความจำของชาคริตไปจริง ๆ ไม่ใช่แค่ซ่อนหรือเอาความจำอื่นแปะทับไว้ ตอนนี้ ถึงเธออยากจะคืนความทรงจำให้ชาคริตก็คืนไม่ได้
   "ใจเย็นทุกคน" ชาคริตพยายามบอก "พวกเราชนะปิศาจได้ ต้องฉลองอยู่แล้ว แต่ค่อย ๆ ฉลองก็ได้"
   "ค่อย ๆ อยู่แล้ว แต่พี่คริตจะฉลองกับใครก่อนล่ะ" ญาถาม
   "เห็นยัยเบญไปด้วยหรอกนะ ชั้นถึงยอมให้ก่อน" น้ำฟ้าบอก
   "หนูถอดเสื้อผ้าคนแรกนะ" ไผ่หลิวเถียง
   "ใจเย็น ทุกคน" เบญรีบบอก "ลองแบบนี้นะ"
   เธอร่ายคาถาเชื่อมจิตอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่สอง เธอเชื่อมความรู้สึกนึกคิดของเธอเข้ากับเพื่อนร่วมฮาเร็มทั้งสี่
   "หือออออ" ทั้งห้าร้องพร้อมกัน
   "คริต เราเชื่อมจิตกันห้าคนแล้ว" เบญปลดตัวออกมาจากจิตรวมหมู่แล้วบอก "จัดได้เลย"
   เบญปลดชุดนางฟ้าออก แล้วลงนอนหงายบนเตียงของเจ๊ข้าวหอม ชาคริตจับตัวน้ำฟ้ามานอนคว่ำทับให้เม็ดรักของทั้งคู่แนบกันพอดี ทั้งห้าสาวกัดฟันด้วยความเสียวซ่านพร้อมกัน แต่ชาคริตไม่จบแค่นั้น ลากร่างเล็กของไผ่หลิวขึ้นมาหงายทับน้ำฟ้าเป็นแซนวิชชั้นที่สาม ขณะที่ตัวน้องญากับรินขนาบอยู่สองข้างของแซนวิชสามชั้น
   "ทุกคนรู้สึกเหมือนกันหมดเหรอ" ชาคริตถาม และเริ่มแทรกตัวเข้าไปในร่างของน้ำฟ้า
   "อึ....อือออ" ทั้งห้าสาวตอบ พวกเธอรูกสึกเสียวทั้งที่ถูกเจ้าแท่งอสุรกายชำแรกเข้ามาในร่าง และทั้งที่แรงเสียบนั้นส่งต่อลงมาถึงตัวเบญที่นอนข้างล่าง
   "ขอบใจนะเบญ ถ้า...เราทำอย่างนี้"
   มือหนึ่งคว้าไปที่ร่องรักของริน อีกมือของราชณิญา ขณะที่หน้าก้มลงเลียให้ไผ่หลิว เอวเริ่มซอยใส่น้ำฟ้าที่ส่งแรงต่อให้เบญทุกครั้งที่ถูกกระแทก
   "โอ๊ววววววววววววววววววววววว" เสียงครางห้าเสียงที่สอดประสานเป็นหนึ่งลั่นระงมไปทั่วห้องเมื่อทั้งห้าต่างก็รู้สึกว่าถูกกระทำด้วยดุ้นชายใหญ่ยักษ์ ถูกล้วงคว้านสองครั้งพร้อมกัน ถูกเลีย และถูกเสียดสีที่เม็ดเสียวไปพร้อม ๆ กัน
   แม้แต่เบญที่เป็นคนร่ายคาถายังสุดจะคาดคิดว่าความเสียวมันจะรุนแรงถึงขนาดนี้
   "อะ อ๊ายยยยยยย ชั้นไม่ไหวแล๊วววววววววววววววววววววววววววว" ไผ่หลิวร้องขึ้นดังที่สุด น้ำใส ๆ ไหลออกเปรอะเต็มหน้าชาคริต แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงแรงรัดและน้ำที่เปียกที่นิ้วมือทั้งสองข้างและที่เจ้าตัวเล็กอย่างพร้อมเพรียงกัน
   นี่แตกหนึ่งก็เท่ากับแตกห้าเหรอ
   ป้าดดดดดดด
   ยิ่งคิดยิ่งได้อารมณ์ สีหน้าเสียวแทบสิ้นสติของห้าสาวก็เหมือนร่ำร้องให้ชาคริตปรนเปรอพวกเธอให้หนักขึ้น
   "อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" ห้าเสียงร้องครวญครางขึ้นด้วยความเสียวอีกครั้งเมื่อเอวของชายหนุ่มเริ่มเดินเครื่องใหม่ แม้ว่าท่อนเอ็นจะเสียบลึกเข้าไปในตัวน้ำฟ้า แต่ทุกครั้งที่มันกระแทกถูกปากมดลูกของเธอ หน้าของไผ่หลิวที่อยู่ตรงหน้าเขาก็พาลบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความกระสันสุขไปด้วย พอมือขวาบี้ติ่งเสียวให้ริน ร่างห้าร่างก็สั่นกระตุกไปพร้อมกัน พอเขาดึงตัวน้องญาขึ้นมากอดจูบสีหน้าของทุกคนก็เคลิ้มไปพร้อมความเสียวสยิว
   "ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด" อีกครั้งที่แตกหนึ่งเหมือนแตกห้า แม้มือของเขาจะอยู่รอบเอวของราชณิญา แต่น้ำรักก็พวยพุ่งจากร่องรักของเธอไม่ต่างจากรินที่โดนล้วงเลย
   โทษนะ พี่เจ๊ เตียงพี่ชุ่มแล้ว
   "อร๊ายยยยยยยยยยยยย" แรงบดเบียดจากตัวของน้ำฟ้าทำเอาเบญถึงสวรรค์ อีกครั้ง คาถาเชื่อมจิตส่งจุดสุดยอดไปให้ทั้งห้าสาวอย่างเท่าเทียมกัน
   "อึ๊บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ" อีกครั้ง ที่ตัวตนของน้ำฟ้ารัดรึงลงมาบนเจ้าตัวน้อยอย่างรุนแรงเสมือนอยากจะบดขยี้ให้แหลกเละไปในร่องรักของเธอ คราวนี้ชาคริตกัดฟันแล้วกัดฟันอีกก็เอาไม่อยู่ ปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปในตัวน้ำฟ้าจนหมดแม็ก
   "ซี๊ดดดดดดดดด อาาาาาาห์"
   ทันทีที่ชาคริตปล่อยมือที่ประคอง แซนวิชสามชั้นตรงหน้าก็ถล่มลงไปนอนกองเรียงกันห้าคนบนเตียงใหญ่ ต่างคนต่างหอบตัวโยน มือลูบไล้ที่ท้อง
   "มัน......มันเหมือนจะร้อนอยู่ในท้องเราจริง ๆ เลย" เบญลูบพุงตัวเองแล้วพูดเบา ๆ อีกสี่สาวพยักหน้าเห็นด้วย
   "ก็....มันก็อยู่ในท้องชั้นจริง ๆ นะ" น้ำฟ้าบอก
   "แต่มันไม่ได้อยู่ในท้องหนูไง แต่หนูก็รู้สึกว่าร้อน....อูยยยยย มันไหลออกมาหน่อย ๆ แล้ว" รินบอก
   "แกไม่ได้โดนดุ้นด้วยญ้ำ ยัยหน้าบาก" ไผ่หลิวคราง
   เบญปลดคาถาเชื่อมจิต ความเสียวที่เพื่อนร่วมฮาเร็มได้รับหายวูบไปจากใจทันที....ในท้องเธอรู้สึกโล่ง ๆ ยังไงไม่รู้
   "โอยยยย" ราชณิญาคราง "ใจจะขาด เหมือนโดนเอาห้าครั้งพร้อมกันอ่า"
   "จริงต่า" รินหอบ
   "อย่างนี้บ่อย ๆ....ชั้นตายพอดี...." น้ำฟ้าคราง
   "แล้วมาด่าชั้น......เวลาชั้นใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นเสียว..." ไผ่หลิวคราง
   ร่างงามห้าร่างนอนเรียงราย
   ช่างเป็นภาพที่สวยงาม เพลินตาจริง ๆ
   เพลินจนเจ้าตัวเล็กของเข้าไม่หดเลย ยังคงตั้งตระหง่านอยู่เหนือร่างห้าสาว
   เปิดฉากอย่างนี้ก็ดีนะ ไม่ต้องแย่งกัน
   แต่ยกสองล่ะ ใครจะพร้อมก่อน
   เบญค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง สองเต้าสั่นระริกเล็กน้อยตามการเคลื่อนไหว ตากลมโตจับจ้องที่เจ้าตัวน้อยที่ตั้งตระหง่าน
   "คริคริคริคริคริ คริตนี่ แรงดีไม่มีตกจริง ๆ นะ ถึงว่า ปิศาจอยากได้ไปสังเวย"
   "ก็เราเพิ่งแตกทีเดียวเอง" ชาคริตบอก "ปกติพวกเราก็ทำกันมากกว่าหนึ่งยกอยู่แล้วนี่"
   "พวกชั้นโดนไปคนละห้ายกแล้ว ไม่ใช่ห้ายกธรรมดา ห้ายกพร้อมกันด้วย" น้ำฟ้าบ่น
   เบญอ้าปากจูบที่ปลายหัวของน้องน้อย
   "อืออออ คริตต้องอยากต่อแล้วแน่เลย" เธอพูดด้วยเสียงยั่วยวน พลางก็เอามือลูบไล้บริเวณพงขนที่เหนือของลับตัวเอง
   "เบญไหวใช่ไหม"
   "เราเคยบอกแล้ว คริตอยากเอาเราตอนไหน เมื่อไหร่ ที่ไหน ท่าไหน ได้หมด เราไม่เคยขัดข้องอยู่แล้ว"
   "เหมือนกันค่ะ" ราชณิญารีบบอก และปลดเศษชุดระบำโป๊ทิ้ง เปลือยร่างจนหมดเปลือกเหมือนของเพื่อนร่วมฮาเร็ม
   "หนูด้วย" ไผ่หลิวรีบูด
   "ถะ......ถ้านายออยากจริง ๆ....ชั้น.....ชั้นก็ยอมนะ" น้ำฟ้าระล่ำระลัก
   "ขอเป็นพี่คริต หนูได้หมด"
   ชาคริตยิ้มแฉ่ง "เรารักทุกคนมากนะ"
   "เราก็รักคริต"
   "หนูรักพี่ค่ะ"
   "ถ้าไม่รักนายชั้นไม่ยอมขนาดนี้หรอก"
   "หนูรักพี่คริตนะ"
   "หนูก็รักพี่คริต"
   "เรามีของขวัญพิเศษมาให้คริตด้วยแหละ"
   "อะไรเหรอ เบญ"
   "เราร่ายคาถาเยียวยาซ่อมเยื่อพรหมจรรย์แล้ว" เบญกระซิบ "คริตชอบเปิดซิงใช่ไหม อยากลองเปิดซิงเราท่าอื่นไหม ที่คริตยังไม่เคยลองกับใคร"
   แท่งทองตรงหน้าเบญเหมือนจะขยายตัวขึ้นสิบไซส์ อีกสี่สาวมองเบญ กึ่งทึ่ง กึ่งอิจฉา
   "ตะ....แต่.....ครั้งแรกเบญเจ็บมากไม่ใช่เหรอ" จิตด้านดีของชาคริตร้องเถียงออกมา
   "เพื่อคริต ให้เราเจ็บอีกกี่รอบก็ได้" แต่เปลวเพลิงที่วาวโรจน์ขึ้นในตาของชายหนุ่มก็ทำให้เบญรีบเสริม "แต่ขอเว้น ๆ หน่อยแล้วกันนะ ทุกวันก็ไม่ไหว"
   "พี่เบ๊ญญญญญญญญ"
   "อย่างงี้โกงกันนี่นา!!!!"
   "ไม่ต้องกลัว เราซ่อมใคนอื่นได้เหมือนกันนะ!!!"

   จ๊วบบบบบบ
   สองร่างกอดรัดด้วยแรงพิศวาสใต้สายน้ำตกเย็นฉ่ำที่ไม่อาจจะดับความร้อนระอุและหวานฉ่ำของความรักใคร่ของหนุ่มสาวได้
   "อืมมมมมม....เจ๊" นทีคราง
   ข้าวหอมดันตัวจากนั่งเคียงข้างเปลี่ยนไปนั่งคร่อมหันหน้าเข้าหาพี่นที อวัยวะเพศของเขาตั้งชันแนบกับหน้าท้องแบนราบของเธอ
   "หนูรักพี่นะ"
   "พี่ก็รักเจ๊"
   ข้าวหอมยันตัวขึ้นแล้วหย่อนทับลงมาบนท่อนรัก
   "อืออออ" ข้าวหอมครางแผ่ว ๆ เมื่อเจ้าแท่งร้อน ๆ ค่อย ๆ แทรกตัวเข้าไปเต็มแน่นร้อนผ่าวอยู่ในร่างของเธอ   "ซี๊ดดดดดดดด"
   "อา เจ๊...."
   "อูยยยยย ยัง ยังใหญ่เหมือนเดิมเลยยยย ซี๊ดดดดด"
   "ทำไม เจ๊ คิดว่าจะแต่งกันแล้วมันจะเล็กลงเหรอ"
   "ปะ...ป่าวค่า อูยยยยยยยย"
   ท่อนยักษ์เข้าไปได้จนมิดตอแล้ว ทิ่มแทงจนมดลูกเธอแทบทะลุ ข้าวหอมเงยหน้าสูดปาก หน้าแดงก่ำด้วยความเสียวปนจุก
   "เป็นไงบ้าง เจ๊"
   "อูยยยยย เสียวค่ะ ไม่ได้ทำมานานแล้ว อูยยยยยย"
   "ไหวไหม"
   "ไหวค่า อูยยยย" ข้าวหอมยกเอวขึ้นหมุนเอวนิดหน่อยก่อนจะกดกระแทกกลับลงมา ท่อนรักในร่างคว้านไปตามแรงขยับของเธอ สร้างความเสียวจนข้าวหอมแทบกลั้นเสียงครางไว้ไม่อยู่
   "อิอิ" นทีหัวเราะแผ่ว ๆ และเอื้อมมือมาลูบคลำท้องน้อยของเธอ ที่เห็นนูนออกมาหน่อยหนึ่งตามขนาดท่อนรักของเขา "เจ๊น่ารักจัง"
   คำชมนี้เป็นกำลังใจให้ข้าวหอมเริ่มทำการขย่มตอต่อแบบไม่กลัวตาย ใบหน้าสวยใสบิดเบี้ยวเหยเกแต่เอวบางยังไม่หยุดบดคลึงร่อนใส่   
   "อ๊ายยยยย อูยยยยยยยยยย"
   "ซี๊ดดดด เจ๊.....พี่...พี่ขออัดไว้ได้ไหม"
   "อื๊อออออ อัดค่ะ อัดได้"
   นทียิ้ม เขาแอบเริ่มบันทึกไว้ตั้งแต่เริ่มมีอะไรกันแล้ว
   "อ๊ายยยยยย" นทีตอบแทนความมีน้ำใจของข้าวหอมด้วยการช่วยดันเอวขึ้นสวนกับที่เธอกดลงมา แรกกระแทกทำเอาเธอเสียวจนชาไปทั้งหน้าท้องเลย "อุกกกกกกกก อร๊ายยยยยยยยย"
   "อืออออ เมียพี่ตอดสุด ๆ ไปเลย แน่นดีจริง ๆ" นทีชม และเริ่มจับเอวเธอ
   "หนะ....อร๊ายยยยยย หนูยังไม่ใช่เมียพี่.....อร๊ายยยยยยยยยยย"
   "ว่าที่เมียก็ได้ ซี๊ดดดด แต่ ซี๊ดดด เจ๊ตอดจริง ๆ นะเนี่ย"
   "อืออ...ก็....พี่ชอบให้หนูตอดไม่ใช่เหรอ" ข้าวหอมถาม แล้วเร่งขย่มตอให้แรงเร็วขึ้นไปอีก ขาเธอจะไม่มีแรงแล้ว
   "ชอบสิ...อูยยยย.....ว่าที่เมียพี่ทำอะไรพี่ก็ชอบหมดนั่นแหละ อืออออ..."
   "งั้น....อืออออออออ.......ขอหนูถึงก่อนนะคะ......อร๊ายยยยยย" ข้าวหอมคราง ร่องรักตอดรัดลงมาสุดแรงบนท่อนลำใหญ่ น้ำรักไหลเยิ้มออกมาผสมกับสายน้ำตก "แฮ่ก....แฮ่ก.....แฮ่ก...."
   แม้ข้าวหอมจะเสร็จแล้ว แต่นทีไม่ยอมให้เสร็จ จับแน่นที่สะโพกของเธอยกตัวลอยขึ้นจนท่อนรักของเขาเกือบจะหลุดออกไปก่อนจะกระแทกกลับลงมาใหม่
   "อะ พี่นที อร๊ายยยยยยย"
   "ซี๊ดดดดด เจ๊ พี่ขอแตกใส่ตัวเจ๊นะ..."
   "คร่า อื๊อออออ ว่าที่ผัว แตกเลยค่ะ"
   นทียิ้มแก้มแตกเมื่อได้ยินคำว่าว่าที่ผัวจากปากของเธอ เขาดึงแก่นกายออกจากร่างเธอแล้วปล่อยน้ำกามฉีดใส่ใบหน้าและหน้าอกของเธอ
   "แฮ่ก...แฮ่ก.....เมื่อไหร่พี่นทีจะแตกในหนูบ่อย ๆ สักทีล่ะคะ" ข้าวหอมถาม ขณะที่สายน้ำจากน้ำตกค่อย ๆ ชำระคราบใคร่ออกจากเรือนร่าง
   "ก็....จนกว่าเจ๊จะแต่งงานกับพี่จริง ๆ" นทีบอก
   ข้าวหอมซบหน้าลงบนบ่าชายคนรัก "หนูจะรอนะคะ"
   "รอด้วยความรัก" นทีบอก
   "ค่ะ....รอด้วยความรัก"

   จบบริบูรณ์  
 
พูดคุยกับผู้เขียน
จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับมนตรา สงคราม ความรัก หวังว่าจะถูกใจทุกท่านนะครับ
ลองเลื่อนกลับไปดู พบว่าตอนแรกของเรื่องนี้ลงตั้งแต่ต้นปี 2022 เลย มาลงตอนสุดท้ายเกือบสิ้นปี 2024 แล้ว เป็นเส้นทางที่ยาวนานเกือบ 3 ปี กันเลยทีเดียว
ทางผู้เขียนต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ต้น และที่เข้ามาอ่านระหว่างทาง และทุกความคิดเห็น ทุกกำลังใจที่ให้กันด้วยนะครับ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านคงได้มีความสุขกับการเดินทางของเจ๊ข้าวหอมบ้างไม่มากก็น้อย ขอบคุณอีกครั้ง ที่ช่วยกันเดินทางร่วมกับเจ๊จากนักศึกษาสาวใส ๆ จนมาเป็นฝั่งฝาอย่างที่เป็นทุกวันนี้นะครับ
ขอสอบถามความเห็นของทุกท่านนิดหนึ่ง คือผมได้เขียนบทส่งท้ายไว้ดพ้วย ว่าจบเรื่องแล้ว เป็นอย่างไรต่อไป ใครไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ทั้งตัวละครจากฝั่งชาคริต และฝั่งเจ๊ ไม่ทราบว่าท่านอยากอ่านกันไหมครับ คือ ปรกติตัวผมเองไม่ค่อยชอบ ชอบคิดเองมากกว่า ว่าจบเรื่องแล้วเกิดอะไรขึ้น เวลานักเขียนเขียนมาก็ไม่ค่อยตรงใจผม แต่พอลองเขียนเองดันชอบซะงั้น 5555 ถ้าท่าน ๆ สนใจกัน ผมจะได้นำมาลงให้อ่านกันนะครับ
ปล. ถ้าผมอยากจะทำขาย จะมีใครตามไปซื้อกันบ้างไหมครับ
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

peddo

ตอนอ่านชื่อตอนว่าจบแล้ว จะบอกว่า อย่านะ เพราะยังอยากอ่านต่อ แต่จบตอนนี้ดีแล้วครับ ลงตัว และอิ่มใจ ถึงจะไม่เสียวมากเท่าที่คิด แต่จินตนาการ ที่แตกหนึ่งถึงห้าคนนี่นับถือๆ จริงๆ ขอบคุณครับ
อ้อ ถ้าจะมีตอนต่อ หรือบทสรุปก็ยินดีนะครับ ยังคิดถึง คริตและสาวๆ เสมอ

zavior

ขอบคุณท่านผู้ประพันธ์ครับที่อดทนแต่งมาเรื่อยๆ เสียใจแต่ก็ดีใจแทนครับ รอติดตามผลงานใหม่ๆ

Mosser12345


voozaa01

ติดตามมายาวนาน ก็ถึงตอนจบ ::Crying:: ขออ่านต่อฟินๆ อีกนะครับ เรื่องใหม่แบบพระเอกโดนรุมอีก

1819

ตามเพราะเรื่องมันสืบมาจากซาคร้ต และเมียทั้ง5   หลังจบแล้วคงต้องไปหาอ่านย้อนหลัง เรื่องนี้แล้ว
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

Gearzap

ผมรอซื้ออ่านเลยครับ จบแบบสมบูรณ์มากๆครับ

zaar65



dumrongsak

เป็นเรื่องที่ติดตามอ่านมานานมาก จบได้สมบูรณ์แล้ว แต่ถ้ามีบทสรุปส่งท้ายจะยิ่งดีมากเลยครับ

First10

จบเสียแล้ว จริงๆ อยากอ่านการผจญภัยของนทีกับเจ๊อยู่นะ ส่วนชาคริตกับสาวๆ คิดว่าพอแล้วก็ได้

kalampee


ones26421

นึกว่านทีกับชาคริต จะสวิงแลกคู่กันซะแล้ว

joenop