ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มหายุทธสยบรัก ตอนที่ 2 เซียวเฟยซิงปะทะหวังฟันเจ้า

เริ่มโดย KaohomLM, มีนาคม 23, 2025, 06:51:15 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   "แม่นางเซียว ท่านคิดให้ดีก่อนเถอะ" หวังอี้พยายามเกลี้ยกล่อม
   "หากท่านพี่หวังไม่ประสงค์จะช่วยข้า ได้โปรดหลีกให้พ้นทาง" เซียวเฟยซิงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ข้าจะหาตัวหวังฟันเจ้า"
   หวังอี้ลังเล "หากแม่นางบอกธุระแก่ข้า ข้าอาจ...."
   เซียวเฟยเซียงออกเดินต่อ มุ่งหน้าสู่ใจกลางเมือง โดยหาได้ฟังคำพูดของหวังอี้
   "เดี๋ยวก่อน แม่นางเซียว!!!!" มันรีบร้องเรียก "หวังฟันเจ้ามิได้อยู่ในเมืองดอก มันมีคฤหาสน์อยู่ชานเมือง ติดกับป่า ข้าสามารถพาแม่นางไปได้"
   เซียวเฟยซิงหันกลับมามองหวังอี้ รอยยิ้มน้อย ๆ คลี่บานบนใบหน้างดงามผุดผาดดั่งเทพธิดา
   "ขอบคุณท่านพี่หวังมาก หากเสร็จธุระแล้วเซียวเฟยซิงตอบแทนท่านได้ ข้าจะทำให้ถึงพร้อม"

   แม้ว่าสมาคมหวังจะมีฐานตั้งเอิกเกริกอยู่ทั่วทุกหัวมุมเมือง แต่ที่อยู่ของเจ้าลัทธิอย่างหวังฟันเจ้ากลับเป็นเพียงคฤหาสน์เรียบ ๆ ที่ชายป่า หากแม้นให้นางตามหาเองแล้วไซร้ คงเสียเวลาไม่น้อยกว่าจะรีดเค้นเอาความจริงจากคนของมันได้
   "คฤหาสน์ของหวังฟันเจ้าไม่มีเวรยามเฝ้ากระนั้นหรือ" นางถามหวังอี้
   "หวังฟันเจ้าเชื่อมั่นในฝีมือตัวเอง ทั้งยังละโมบ ไม่แบ่งสตรีแก่ใคร" หวังอี้กัดฟันตอบ "ในคฤหาสน์นี้มีเพียงมันและเหยื่อที่มันฉุดคร่ามาเท่านั้น"
   เซียวเฟยซิงพยักหน้า และชักกระบี่อ่อนออกมา "ขอบคุณท่านพี่หวัง ที่นำข้ามาถึงที่นี่ ต่อจากนี้ ให้เซียวเฟยซิงจัดการเองเถิด"
   
 
   
   ที่ห้องโถงกลาง  
   "นึกว่าใครมาท้าทาย ที่แท้ก็ศิษย์น้องเซียวนี่เอง" มันร้อง เซียวเฟยซิงสะดุ้งโหยง "เข้ามาสิ บ้านข้ายินดีต้อนรับเจ้าเสมอ"

   เซียวฟานซิงสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงนุ่มของหวังฟันเจ้าที่อยู่ ๆ ก็ดังขึ้นจากโถงทางเดินด้านซ้ายมือ
   นี่มันรู้แล้วเหรอว่านางอยู่ที่นี่
   แล้วมันมาอยู่ในห้องเดียวกันได้โดยที่นางไม่รู้ตัวเลยเหรอ
   ไม่ หวังฟันเจ้าไม่ได้มีฝีมือเหนือกว่านาง มันเพียงแค่รู้ที่รู้ทางในที่อยู่ของตัวมันเอง ดรุณีน้อยบอกตัวเอง หากต้องสู้กันแล้ว นางเอาชนะมันได้แน่
   "เจ้าโจรชั่วหวัง...." นางร้อง
   "เรียกว่าศิษย์พี่หวังเถอะ ศิษย์น้องเซียว" หวังฟันเจ้ายิ้ม "ออกจากสำนักมา ข้าสุดจะคาดคิดจริง ๆ ว่าศิษย์น้องสุดที่รักของข้าจะตามมาหาถึงที่"
   "คนถ่อย เจ้าอย่าบังอาจมานับตัวเป็นศิษย์พี่ของข้า" เซียวฟานซิงตวาด
   หวังฟันเจ้าหัวเราะเสียงเย็น "เหตุใดเจ้าหยาบคายกับข้าเยี่ยงนี้เล่า เจอหน้ากันคราวก่อน เจ้ายังเสียงอ่อนเสียงหวาน บอกว่าอยากเก่งให้ได้เหมือนศิษย์พี่หวังอยู่เลย"
   "เจ้าคนบัดซบ!! ตอนนั้นข้ายังไม่รู้ว่าเจ้าเป็นบุรุษเพศนี่ เจ้าช่างไร้ยางอายนัก!!!!"
   "หากข้ามียางอาย ข้าจะกล้าปลอมตัวเป็นหญิงเข้าสำนักหมื่นบุปผาได้อย่างไรกันเล่า จะกล้าลักลอบเสพสมกับธิดาบุปผาศิษย์พี่ของเจ้าถึงหกคนในหอตำราศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นหรือ" ในยิ้มหน้าระรื่นเมื่อเห็นใบหน้าของเซียวเฟยซิงแดงซ่าน
   "ตอนนั้นเจ้าอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น" หวังฟันเจ้าร่ายต่อ "ยังไม่สาวสะพรั่งงดงามเช่นตอนนี้ แต่ข้าก็ไม่เคยลืมเจ้า....ข้าดีใจเหลือเกินที่เจ้าอุตส่าห์รำลึกถึงข้าแล้วติดตามมา"
   กระบี่อ่อนฟาดไปด้วยแรงโทสะ หวังฟันเจ้าขยับตัวทีเดียวก็ถอยหลังออกห่างระยะฟาดไปไกล
   "เจ้าคนบัดซบ ส่งคัมภีร์บุปผาสวรรค์มาให้ข้าเดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะไว้ชีวิตชั่ว ๆ ของเจ้า"
   "โถ ข้าอุตส่าห์ดีใจ นึกว่าเจ้ามาหาข้าด้วยจิตปฏิพัทธ์ ที่แท้เจ้าหวังเพียงหนังสือเก่า ๆ ขึ้นราเช่นนั้นหรือ"
   "คัมภีร์บุปผาสวรรค์เป็นสุดยอดเคล็ดวิชาของสำนักหมื่นบุปผาที่ถ่ายทอดกันมาสิบสองชั่วรุ่น คนเลวอย่างเจ้าบังอาจแตะต้องก็ไม่ควรให้อภัยแล้ว เจ้ายังบังอาจกล่าววาจาสามหาวแทะโลมธิดาบุปผา สร้างความแปดเปื้อนแก่สำนัก ความผิดของเจ้านั้นเกินอภัย ข้าธิดาบุปผาเซียวเฟยซิง ถึงตายก็จะสังหารเจ้ากอบกู้ชื่อเสียงของสำนักให้ได้"
   ร่างงามถลาเข้าหาหวังฟันเจ้า แม้ว่าเจ้าโจรชั่วจะมีมาดหนุ่มสำอางร่างเพรียวบาง แต่ก็ยังล่ำสันกว่านางนัก แต่นางก็หาได้หวั่นเกรงไม่ มือบอบบางกวัดไกว่กระบี่อ่อนเป็นท่วงท่าอ่อนช้อยงดงาม ทว่าทุกกระบวนท่าร้ายแรงถึงชีวิต ตั้งแต่วันแห่งความอัปยศของสำนักหมื่นบุปผานางก็ทุ่มเททั้งชีวิต ฝึกทุกเคล็ดวิชาในสำนักจนแตกฉาน จนเมื่ออาจารย์หญิงทั้งสามยอมรับว่าไม่มีวิชาเหลือจะสอนนางแล้วนางจึงมุ่งหน้าออกตามหาหวังฟันเจ้าเพื่อล้างแค้นและทวงคืนชื่อเสียงของสำนัก
   ทว่าหวังฟันเจ้าหาใช่โจรกระจอกข้างถนนไม่ กระบี่ยาวพุ่งออกจากฝักรวดเร็วปานฟ้าแลบออกปะทะความอ่อนช้อยของกระบี่อ่อน ปะทะกันได้เพียงสามกระบวนท่าเซียวเฟยซิงก็มั่นใจว่าความรู้ของหวังฟันเจ้าในด้านเพลงกระบี่บุปผาร่วงเหลือกว่านางสองขั้นเป็นอย่างน้อย เพียงนางเริ่มขยับเพียงปลายเท้ามันก็รู้แล้วว่ากระบี่ของนางจะจู่โจมจากทิศทางใดและปัดป้องได้ก่อนที่นางจะทันได้เริ่มจู่โจมเสียด้วยซ้ำ ผ่านไปห้ากระบวนท่านางก็ไม่อาจจะเป็นฝ่ายรุกไล่ต่อได้ กลับต้องปัดป้องเป็นพัลวัน หวังฟันเจ้าก็คล้ายจะหยอกเล่นกับอดีตศิษย์น้อง มีหลายครั้งที่นางรู้สึกว่าหากมันเร็วกว่านี้สักหน่อย ว่องไวกว่าอีกสักนิด ตั้งใจมากขึ้น จะทิ่มแทงร่างของนางก็ไม่ยากเกินความสามารถ ทว่ามันก็ไม่ทำ กระบี่สองเล่มฟาดฟันปะทะกันต่อเนื่องอีกสิบกระบวนท่า
   แคว่กกกกกกกกก
   อาภรณ์แพรขาวขาวเป็นริ้วกระเด็นไปตามสายลมจากเพลงกระบี่
   แคว่ก
   แคว่ก
   แคว่ก
   แคว่ก
   หวังฟันเจ้าหัวเราะอย่างพึงพอใจขณะที่แพรขาวขาดเป็นริ้วปลิวกระจายไปทั่ว
   เซียวเฟยซิงกัดฟันสู้ความอับอายที่ร่างถูกเผยจนเปลือยเปล่าต่อหน้าศตรูคู่อาฆาต แต่นางรู้ดีว่าต่อหน้ามือกระบี่ชั้นเซียนเช่นหวังฟันเจ้าหากวอกแวกแม้เพียงนิดหรือพยายามปกปิดร่างกายมีแต่จะตายกับตาย นางจึงได้แต่ละเลยความอับอายเสีย จดจ่อจิตใจกับเพลงกระบี่

   "โออออออออออ" หวังอี้ครางเมื่อได้เห็นภาพเบื้องหน้า
   มันแอบย่องตามเชียวเฟยซิงมาด้วยความเป็นห่าง กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนาง
   และแม่นางเซียวเฟยซิงก็ตีค่าหวังฟันเจ้าต่ำไปจริง ๆ เห็นได้ชัดเจนแม้ในสายตาที่ไม่คุ้นชินเพลงยุทธ์ของมันว่านางเป็นมือรองจากหวังฟันเจ้าหลายขั้นอยู่ สู้กันได้ครู่เดียวอาภรณ์แพรขาวของนางก็ถูกหวังฟันเจ้าฟันจนขาดเละเทะ ร่างของนางเปลือยเปล่าขาวโพลนไปทั้งเรือนร่าง
   และช่างเป็นร่างที่สวยงามอะไรเช่นนี้
   เต้าอิ่มที่ไหวกระเพื่อมทุกครั้งที่ร่างเพรียวขยับไหว เรือนผมดำยาวที่ปาดก้นงอน แม้ในยามที่นางสะบัดตัวให้พ้นคมกระบี่ของหวังฟันเจ้า มันก็ยังเห็นพงขนดำที่เหนือขาขาวปานหยก
   หวังอี้ปาดน้ำลายที่ไหลออกท่วมสองมุมปาก มันเคยเห็นเรือนร่างของหญิงสาวมาไม่น้อยเมื่อพวกนางถูกสมาชิกของสมาคมหวังล่วงล้ำในที่สาธารณะ แต่ไม่เคยมีร่างของสาวไหนก่ออารมณ์รุนแรงให้มันได้มากมายเช่นนี้
   แต่ ถ้ามันไม่ทำอะไร นางต้องถูกสังหาร หรือ แย่กว่านั้น ถูกล่วงเกินโดยหวังฟันเจ้าแน่
   เคล้ง
   กระบี่อ่อนกระเด็นหวือจากมือบาง เซียวเฟยซิงไม่ยอมแพ้ ฟาดฝ่ามือเป็นกระบวนท่าอ่อนช้อยซัดใส่หวังฟันเจ้าหลายครั้ง กำแพงด้านหลังแตกร้าวลงด้วยแรงลมปราณจากฝ่ามือนั้น ทว่าโจรชั่วรับฝ่ามือไว้ได้โดยง่ายดาย

   วิชาฝ่ามือทลายเมฆาเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาสูงสุดของสำนักหมื่นบุปผา ทว่าแม้แต่สุดยอดเคล็ดวิชานี้ก็ไม่อาจทลายพลังลมปราณอันกล้าแข็งของหวังฟันเจ้าลงได้
   ตรงข้าม พลังที่สวนกลับมากลับทำให้แขนทั้งสองของนางอ่อนแรง ลมปราณที่หมุนเวียนแหลกสลายไม่อาจรวมให้เกิดเป็นพลังปราณใด ๆ ได้
   "ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีใครบรรลุฝ่ามือทลายเมฆาขั้นเจ็ดตั้งแต่อายุน้อยอย่างเจ้า ศิษย์น้องเซียว" หวังฟันเจ้ากล่าวด้วยวาจาแทะโลม มือเรียวของมันลูบไล้ท่อนแขนที่แข็งทื่ออ่อนแรงของนางก่อนจะจับยึดตรึงแน่น "แต่โชคร้ายที่ข้าบรรลุขั้นแปดจากในคัมภีร์บุปผาสวรรค์แล้ว"
   "เจ้า...ช่าง.....โฉดชั่วนัก" นางกัดฟันด่า
   "และเจ้าช่างงามนัก ศิษย์น้องข้า" มันกล่าว และก้มหน้าลงจะโลมเลียปทุมถันคู่งาม
   แจกันลอยตรงเข้ามาหาหวังฟันเจ้า มันหันขวับว่องไวปานลมกรดซัดฝ่ามือใส่แจกันจนลอยกลับไปกระแทกหน้าหวังอี้สลบเหมือดคาที่
   ทว่าในเสี้ยววินาทีที่มันปล่อยมือจากเซียวเฟยซิง นางก็ทะยานด้วยวิชาตัวเบา คว้าร่างหวังอี้มากอดไว้ในอ้อมอกเปลือยก่อนจะพุ่งตัวออกจากคฤหาสน์หวังฟันเจ้าไปด้วยความว่องไวดุจเช่นเงา
   หวังฟันเจ้าตั้งท่าจะติดตาม แต่ก็ชะงักเมื่อเห็นสายฝนเริ่มโปรยหล่นลงมาจากท้องฟ้า ก่อนจะกระหน่ำเป็นห่าพายุใหญ่
   "ในพายุเช่นนี้ สายฝนคงซะร่องรอยของนางหมด ตามไปก็หาไม่เจอแล้ว" มันพึมพำกับตนเอง "ข้ากลับไปหาความสุขกับแม่นางแซ่หลี่จะดีเสียกว่า อย่างไรเสียนังเซียวเฟยซินคงไม่มีทางเทียบชั้นข้าได้หรอกเมื่อไม่มีสุดยอดเคล็ดวิชาในคัมภีร์บุปผาสวรรค์"

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน




navy868

โชคดีที่รอดออกมาได้ ไม่งั้นคงยับแน่นอน ไอ้หวังมันเก่งจริง ::Horror::

Matsudaira777


chanky2007

ช่วยหวังอี้ เดี๋ยวจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นหรือเปล่า
ขอบคุณครับ
คิดว่าดี ก็ทำไป

Kraken5

ดูว่าระหว่าง หวังอี้ กับหวังฟัน ใครจะได้ก่อนกัน.... ::Oops::
(แหมชื่อมันน่าเล่นมุกนี่นา..... ::Sobad:: )

ryg123456




zavior



bridgeexpress

อ่านแนวยุทธภพ​ก็มันเหมือนกันครับ::Hunger:: หวังฟันเจ้า555