ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

นิยาย AI : เงารักในเรือนเหงา (จบในตอน)

เริ่มโดย nato87, มีนาคม 25, 2025, 05:13:09 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : สวัสดีครับ หายไปนาน คือช่วงนี้ผมปั่นนิยายบนดินอยู่ แล้วก็ศึกษาการใช้พวก AI ทั้งการทำภาพ เขียนนิยาย บอกไว้ก่อนว่าผมยังเขียนเองเป็นส่วนใหญ่ครับ แต่จะเริ่มให้ AI มาช่วยงานบ้าง เช่นการวางโครงเรื่อง หรือให้คำแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้เรื่องมันแน่นขึ้น และช่วยลดภาระผมด้วย ผมเริ่มแก่แล้ว

นี่เป็นเรื่องสั้นที่อิงจากนิยายเต็ม ๆ ของผมอย่าง 'จากรักแท้สู่รักเดียว' เป็นฉากเลิฟซีนที่ผมเขียนไว้สนองตัณหาตัวเองล้วน ๆ คืออย่างที่รู้กันว่า 'ผมมันเป็นสายชายแก่กับหญิงสาว' แต่อยู่ดี ๆ ผมนึกอยากรู้ว่าแล้วถ้าเป็น 'หญิงแก่กับหญิงสาว' บ้างละ คือผมรู้ว่าผู้หญิงกับผู้หญิงรักกันเองน่ะได้ แต่ถ้าเป็นรุ่นแม่กันรุ่นลูกนี่ยังไง ผมก็เลยพยายามหาคำตอบ พยายามหาข้อมูลจนได้

มันก็คือแนว Age Gap Lesbian นั่นเอง และนี่คือผลงาน AI ของผมในนิยายเรื่องนี้ (เนื้อหาบางส่วนอาจปรากฎในนิยายหลัก) ซึ่งผมได้ทดลองใช้ AI เจนเรื่องสั้นที่ผมเขียนไว้ใหม่ ให้มันเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง หรือมุมมองของเอิร์น ให้มันมีความเป็นผู้หญิงมากขึ้น ซึ่งต้นฉบับของผมมันจะรักษาโทนเป็นกลาง และฉากเลิฟซีนมันชัดกว่าครับ


ปล.ติดตาม 'จากรักแท้สู่รักเดียว' เรื่องหลักได้จากลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.tunwalai.com/story/808427

https://fictionlog.co/b/6700183ba67fbe001c191c56



เมรุเผาศพวัดบ้านสวนแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี


มองร่างไร้วิญญาณของพี่โอมในหีบ ฉันยืนเคียงข้างแม่ช้อย น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่คิดเลยว่าชีวิตคู่ที่เพิ่งเริ่มต้นจะจบลงเร็วขนาดนี้ แม่ช้อยร้องไห้หนักจนตัวสั่น

"ไม่เป็นไรนะคะแม่" ฉันเอ่ยเสียงสั่นเครือ "ถึงพี่โอมจะไม่อยู่ แต่หนูจะอยู่เป็นเพื่อนแม่เองนะคะ"

คำพูดนั้นออกมาจากใจจริง ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากอยู่เคียงข้างคนที่เสียลูกชายไป เหมือนที่ฉันเสียสามี

หลังงานศพ บรรยากาศในบ้านเงียบเหงาจนน่าใจหาย บ้านที่เคยมีเสียงหัวเราะของพี่โอม ตอนนี้กลับมีแต่ความเศร้าปกคลุม ฉันมองไปยังสวนดอกไม้ที่พี่โอมเคยชอบปลูก ความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัว แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความเงียบที่บาดลึก แม่ช้อยนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะอาหาร ดวงตาเศร้าสร้อย ฉันเข้าใจความรู้สึกของแม่ดี แม่เสียทั้งสามีและลูกชาย มันเหมือนชีวิตขาดแสงสว่าง ฉันวางมือบนบ่าแม่เบาๆ

"กินอะไรหน่อยนะคะแม่" แม่ส่ายหน้า "ขอบใจนะเอิร์น แต่แม่กินอะไรไม่ลงจริงๆ จ๊ะ"

ฉันตัดสินใจอยู่ต่อกับแม่ช้อย ที่จริงฉันก็ไม่มีใครให้กลับไปหา พ่อกับแม่เสียไปหมดแล้ว เราสองคนเหมือนมีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงกัน ความสูญเสียพี่โอมเป็นเหมือนจุดร่วมที่ทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น

วันเวลาผ่านไป เราเริ่มคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ ความเจ็บปวดที่ต่างคนต่างเจอ แม่ช้อยเล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง เรื่องที่แม่เคยรู้สึกกับผู้หญิง แต่ต้องเก็บไว้เพราะสังคมไม่ยอมรับ ตอนนั้นฉันฟังด้วยความเห็นใจ ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน ความเหงาก็เริ่มกัดกินใจฉัน ความปรารถนาบางอย่างที่ไม่คุ้นเคยเริ่มก่อตัวขึ้น ฉันเริ่มสังเกตเห็นความใกล้ชิดและการดูแลที่แม่ช้อยมอบให้ และฉันเองก็รู้สึกอยากดูแลแม่เหมือนกัน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ ไม่เคยเกิดขึ้นกับฉันมาก่อน

ความใกล้ชิดนั้นค่อยๆ กลายเป็นความผูกพันที่ฉันไม่เคยคาดคิด มันเริ่มต้นจากความเศร้า แต่เราสองคนกลับพบความหวังใหม่ในชีวิตที่เหลืออยู่ มันเหมือนคนสองคนที่แตกต่างกันมาเจอกัน และเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กัน จนกระทั่งวันหนึ่ง ความสัมพันธ์ของเราก็ก้าวข้ามความเป็นแม่สามีลูกสะใภ้ไปสู่สิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น ฉันเผลอใจไปกับความเหงาและความใกล้ชิดที่เรามีให้กัน มันเริ่มจากครั้งแรก และก็มีครั้งต่อๆ ไปตามมาอย่างห้ามไม่ได้ ความรู้สึกผิดก็มีบ้าง แต่ความรู้สึกพึงพอใจมันมากกว่า

จากที่เคยนอนคนละห้อง แม่ช้อยขอให้ฉันไปนอนด้วยกัน ฉันจากที่เคยใส่ชุดนอน ก็ต้องมานุ่งผ้าถุงนอนข้างๆ แม่สามี มันเป็นภาพที่ไม่เคยอยู่ในความคิดของฉันมาก่อน บางคืนเรานอนกอดกันเบาๆ ไออุ่นจากร่างกายของแม่ช้อยทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ ในขณะที่ความอ่อนเยาว์ของฉันก็เหมือนจะเติมพลังให้แม่ ฉันเองก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความมั่นคงจากอ้อมกอดของแม่ ในช่วงแรกที่นอนกอดแม่ ฉันยอมรับว่ามันมีความสับสน ความรู้สึกที่มีต่อพี่โอมยังคงอยู่ในใจ คืนแรกที่ร่างกายของเราสัมผัสกัน ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขัดแย้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของเราค่อยๆ พัฒนาไปทีละน้อย ความเอาใจใส่ที่แม่ช้อยมอบให้ ทำให้ฉันค่อยๆ เปลี่ยนไป จากที่เคยรู้สึกขาดหาย ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกเหมือนได้รับการเติมเต็ม การสัมผัสของแม่ไม่ได้แค่ปลอบประโลมฉันจากความเศร้า แต่มันเหมือนเป็นการปลุกความรู้สึกบางอย่างที่ฉันเคยลืมไป

ความสัมพันธ์ของเราเริ่มเปลี่ยนไป จากการพึ่งพาเพื่อความอบอุ่นทางใจ ไปสู่ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งและซับซ้อน ฉันค้นพบว่าในอ้อมกอดของแม่ช้อยมีความมั่นคงและความรักที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน แม่เองก็เหมือนกลับไปเป็นสาวอีกครั้ง ร่างกายของเราอาจจะต่างกัน แต่หัวใจของเรากลับเชื่อมโยงกันอย่างน่าประหลาด

แม่ช้อยคงสังเกตเห็นความไม่แน่ใจในแววตาของฉันในช่วงแรก แต่แม่ก็ไม่เคยกดดัน ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ความละเอียดอ่อนและความเอาใจใส่ของแม่ ทำให้ฉันค่อยๆ ผ่อนคลายและไว้วางใจในความสัมพันธ์นี้มากขึ้น บางคืน อารมณ์บางอย่างก็ก่อตัวขึ้น ความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในใจของเราทั้งสองถูกปลุกขึ้นมา พร้อมกับผ้าถุงที่ถูกปลดออก แสงไฟสลัวๆ สัมผัสผิวของเรา สัมผัสที่ใกล้ชิดนั้นมันทั้งแปลกใหม่และร้อนรุ่ม ความอบอุ่นจากร่างกายของเราสร้างความรู้สึกที่หอมหวาน มันเป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เมื่อแม่ช้อยเอื้อมมือมาสัมผัสแขนฉัน มันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ทำให้ฉันรู้สึกตื่นตัว ฉันรู้สึกถึงการกระตุกเบาๆ ของกล้ามเนื้อเมื่อมือแม่ลูบไล้ไปตามกระดูกสันหลัง

"รู้สึกดีไหมเอิร์น?"

แม่ช้อยถามด้วยความเป็นห่วง ฉันยิ้มให้แม่

"ค่ะแม่"

เสียงหายใจของฉันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเราสัมผัสกัน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันอ่อนโยนและลึกซึ้ง เกินกว่าที่ฉันจะอธิบายเป็นคำพูดได้ ทุกสัมผัสมันยืนยันถึงความใกล้ชิดที่ก่อตัวขึ้นจากความรัก ความผูกพัน และความเข้าใจระหว่างเรา

"จุ๊บ...จุ๊บ...จุ๊บ"

เสียงจูบเบาๆ ของแม่ช้อยทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขอย่างประหลาด ฉันไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้ฉันจะมาถึงจุดนี้ จุดที่ฉันรักผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ฉันเคยเรียกว่าแม่

หลายวันผ่านไป


เสียงบานประตูห้องน้ำที่ถูกเปิดดังเอี๊ยด ฉันเดินนุ่งผ้าถุงเข้ามาในห้องน้ำกลางดึกคืนวันอาทิตย์ แสงไฟสีนวลสะท้อนร่างเปลือยเปล่าของตัวเองในกระจก

"นี่ตัวชั้นใช่ไหม?" ฉันถามตัวเองเบาๆ หันซ้ายหันขวาสำรวจร่างกายที่เพิ่งผ่านความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่ช้อย... แม่สามีของตัวเอง มันยังรู้สึกแปลกๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องจริง

ผมเผ้าที่เคยจัดทรงมาอย่างดีตอนนี้กลับยุ่งเหยิง มันสะท้อนถึงความร้อนแรงเมื่อคืน รอยแดงจางๆ ตรงต้นแขน และรอยช้ำบนเนินอกที่แม่ฝากไว้ มันเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคน ผิวพรรณของฉันดูสดใสขึ้น หรืออาจจะเป็นแค่ความคิดไปเองจากอารมณ์ที่ยังค้างคาอยู่

"เอิร์น...ตกลงแกเป็นอะไรกันแน่?"

ฉันสัมผัสริมฝีปากตัวเอง ยังจำรสจูบของแม่ช้อยได้ดี มันฝังลึกลงไปในความทรงจำของฉันแล้ว หน้าอกของฉันก็ไวต่อสัมผัสมากขึ้น แค่คิดถึงสาเหตุที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ร่างกายฉันก็รู้สึกปั่นป่วนไปหมด

มือของฉันเผลอไปบีบคลึงหน้าอกตัวเองเบาๆ ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปสัมผัสหน้าท้องที่แขม่วเกร็ง แล้วก็ถึง... ตรงนั้น... ที่ยังคงชื้นแฉะ แดงฉ่ำและอิ่มเอิบจากความใกล้ชิดกับแม่ช้อยเมื่อครู่ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าร่างกายตัวเองจะตอบสนองต่อผู้หญิงด้วยกันได้ขนาดนี้

รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้า ฉันนึกถึงความสัมพันธ์กับแม่ช้อย มันไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกเสียหน่อย มันเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ความรู้สึกผิดก็มีบ้าง แต่ความรู้สึกดีมันกลับมากกว่า

"ตกลงเราเป็นอะไรกันเหรอคะแม่?" คำถามนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน

"แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันเอิร์น แต่แม่มีความสุขที่มีเอิร์นอยู่กับแม่นะ" แม่ช้อยเคยบอกฉันแบบนี้

"เอิร์นก็มีความสุขค่ะแม่" ฉันตอบแม่ไปแบบนั้น แต่ในใจมันยังคงสับสน

"เอิร์นจ๊ะ" คำพูดของแม่เมื่อวันก่อนยังก้องอยู่ในหู "ก่อนหน้านี้ แม่เคยให้โอกาสเอิร์นไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เอิร์นเลือกที่จะอยู่กับแม่ เอิร์นสัญญากับแม่นะ ว่าเอิร์นจะไม่ทิ้งแม่ แม่ไม่เหลือใครอีกแล้วนะเอิร์น"

"เอิร์นไม่ทิ้งแม่ค่ะ" ฉันตอบแม่โดยไม่ลังเล มันออกมาจากใจจริงๆ "เรามีกันแค่สองคนแล้วนิเนอะ"

เฮ้อ... ฉันยืนเปลือยกายหลับตาพริ้มอยู่หน้ากระจก ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พยายามประมวลเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเริ่มจากความสูญเสียพี่โอม ผู้ชายที่ฉันและแม่ช้อยรักมากที่สุด เราสองคนไม่เหลือใครอีกแล้ว จนกระทั่งฉันตัดสินใจอยู่บ้านหลังนี้ต่อ เพื่อดูแลแม่ช้อยแทนพี่โอม

บ้านมันเงียบเหงามากหลังพี่โอมเสีย การที่ผู้หญิงสองคนสองวัยต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด มันก็เลย... เผลอใจ แต่เรื่องมันคงไม่เลยเถิดขนาดนี้ ถ้าไม่มีใครคิดกับอีกฝ่ายเกินกว่าคำว่าแม่สามีและลูกสะใภ้
และคนนั้นก็คือแม่ช้อยเอง แม่สารภาพกับฉันว่าแม่คิดกับฉันมากกว่าลูกสะใภ้ แม่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง และบอกว่าเข้าใจถ้าฉันจะโกรธ เกลียด หรือผิดหวังกับแม่

"ถ้าเอิร์นอยากจะไปจากบ้านหลังนี้ก็ไปได้เลยนะลูก" แม่เคยพูดแบบนั้น

"ถ้าเอิร์นไป แล้วแม่จะอยู่กับใครละคะ?" ฉันถามกลับไปทันที

"เอิร์น? ทำไม? ไม่โกรธแม่เหรอลูก?" แม่ถามด้วยความตกใจ

"จะโกรธแม่ทำไมละคะ?" ฉันตอบกลับไป "แม่น่ะดีกับเอิร์นมากๆ เลย เอิร์นรักแม่เหมือนแม่อีกคน และเอิร์นก็ไม่ได้เคยคิดรังเกียจแม่เลยนะคะ ที่แม่เป็นแบบนี้"

"เอิร์น...แม่...ฮือ" แม่ร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตัน

"แม่ไม่ต้องร้องไห้นะคะ เอิร์นไม่ทิ้งแม่ไปไหนแน่นอนค่ะ" ฉันกอดแม่แน่น

"ขอบใจนะเอิร์น...ฮือ...ฮือ"

ฉันเลือกที่จะตอบรับความรักที่ลึกซึ้งกว่าคำว่าแม่สามีและลูกสะใภ้จากแม่ช้อย เราสองคนเริ่มเรียนรู้และดูใจกัน โดยเก็บเรื่องราวทั้งหมดเป็นความลับ ไม่ให้ใครรู้ เมื่ออยู่นอกบ้าน เราก็วางตัวเป็นแม่สามีและลูกสะใภ้ตามปกติ แต่ภายในบ้าน... มันเป็นอีกเรื่อง

เราเริ่มใกล้ชิดกันทีละนิด ล้ำเส้นแบ่งระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ ไปสู่คู่รักหญิงรักหญิงต่างวัย ทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็มั่นคง จนกระทั่งเรามั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในที่สุด มันเป็นเส้นทางใหม่ที่เราไม่รู้ว่าจะจบลงยังไง

และเมื่อมีครั้งแรก ครั้งที่สอง สาม และสี่ก็ตามมา ในช่วงแรกๆ เราเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันเลยก็ว่าได้ เราโหยหากัน ต้องการกัน เพราะฉันและแม่ช้อยก็เป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึก มีเลือดเนื้อและหัวใจ เราได้เรียนรู้ความรักบทใหม่จากร่างกายของกันและกัน เรียนรู้ข้อจำกัดเรื่องอายุ และปรับจูนความสัมพันธ์ให้มันกลมกล่อมมากขึ้น

แม่ช้อยที่เคยผ่านความรักกับผู้หญิงมาแล้วในวัยสาว และเพิ่งสูญเสียพ่อของพี่โอมไป กลับมาสดใสอีกครั้งในช่วงบั้นปลายชีวิต ในขณะที่ฉัน... ที่ยังสาว ได้เรียนรู้ความรักอีกรูปแบบที่ไม่เคยอยู่ในกรอบความคิดของฉันมาก่อน และเมื่อได้เรียนรู้มากขึ้น ฉันก็ยิ่งถลำลึกลงไปจนหมดใจ

ต่อหน้าคนอื่นๆ ในสังคม เราคือแม่สามีและลูกสะใภ้ที่สนิทกันมาก ทุกคนชื่นชมฉันว่ากตัญญูที่ไม่ทิ้งแม่ช้อยไปมีสามีใหม่ ทั้งที่มีผู้ชายมากมายเข้ามาจีบ แต่พวกนั้นไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับแม่ช้อยมันลึกซึ้งกว่านั้นมาก

ฉันยังคงหลับตาพริ้ม ยิ้มกับตัวเองเบาๆ เหมือนยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น มือของฉันสัมผัสตรงส่วนที่อวบอิ่มและชื้นแฉะ ก่อนจะยกมือขึ้นมาดูร่องรอยแห่งความรักระหว่างฉันกับแม่ช้อยด้วยความยินดี

ตรงนั้น... ที่แม่ช้อยได้มอบความสุขให้กับฉัน ตอนนี้มันรู้สึกอิ่มเอิบและชื้นแฉะ มันเหมือนความสัมพันธ์ของเรากำลังเติบโตไปในทิศทางใหม่ ที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนกว่าเดิม

"นี่เราคงเป็นเลสเบี้ยนกับแม่จริงๆ แล้วสินะ" ฉันพูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขยับนิ้วที่เปื้อนคราบรักเล่นด้วยท่าทางซุกซน "ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา ไม่มีใครรู้สักหน่อย"

ฉันล้างมือ แล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะทำความสะอาดตัวเอง นุ่งผ้าถุงให้เรียบร้อย แล้วเปิดประตูเดินกลับไปที่ห้องนอน ที่แม่ช้อยนอนรออยู่

"เข้าห้องน้ำนานจังเลย" แม่ช้อยทักขึ้น

"ทำธุระส่วนตั๊ว ส่วนตัวอยู่ค๊าแม่!!" ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงทะเล้น

ฉันทิ้งตัวลงไปนอนกอดและหอมแม่ช้อยที่นอนเปลือยท่อนบนอยู่ใต้ผ้าถุงลายดอก

"เอิร์นจ๊ะ...คือ" แม่ช้อยเอ่ยขึ้นมาเบาๆ

"อะไรเหรอคะแม่?" ฉันถามด้วยความสงสัย

"ยังไหวอยู่ไหม?" แม่ช้อยถามด้วยท่าทางเขินอาย

"อ่าว!! ก็นึกว่าแม่เสร็จแล้ว!!" ฉันทำหน้าทะเล้น "แล้วทำไมแม่ไม่บอกเอิร์นคะ?"

"ก็แม่เห็นว่าเอิร์นจะเข้าห้องน้ำ เลยไม่กล้าน่ะจ๊ะ" แม่ช้อยตอบเสียงเบา

"ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันยิ้มให้แม่แก้มแดง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งคุกเข่า มองชายผ้าถุงที่แม่สวมอยู่ แล้วก็ก้มลงไปถลกขึ้นมากลางลำตัว "ช่วยหน่อยค่ะแม่"

แม่ช้อยยกตัวขึ้นมาเล็กน้อย แล้วใช้มือรวบผ้าถุงม้วนกองไว้ตรงกลางลำตัว เผยให้เห็นร่างกายที่อวบท้วมในวัยห้าสิบกว่าปี ที่ในสายตาของฉัน... มันยังดูดีมากๆ

"ขออนุญาตนะคะแม่..." ฉันบอกแม่เบาๆ ก่อนจะยกขาคร่อมบนหน้าตักของแม่ช้อย ปลดผ้าถุงของตัวเองลง แล้วใช้มือทั้งสองข้างรวบมัดไว้ตรงกลางลำตัว ฉันบ้วนน้ำลายลงบนฝ่ามือ แล้วแตะลงไปตรงนั้น... ตรงส่วนที่เชื่อมโยงฉันกับแม่ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่แฝงไปด้วยความซุกซน

"ช่วยแม่หน่อยนะเอิร์น" แม่ช้อยหายใจช้าๆ ก่อนจะหลับตาพริ้ม รอคอยสัมผัสที่อบอุ่นและอ่อนโยนของเรา "อืม..."

"แม่จ๋า..." เมื่อเราเชื่อมต่อกัน ฉันเอ่ยคำว่ารักให้แม่ได้รับรู้ พร้อมกับโยกเอวเบาๆ "เอิร์นรักแม่นะคะ"

"แม่รู้จ๊ะเอิร์น" ใบหน้าของแม่ช้อยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและดูผ่อนคลาย มือทั้งสองข้างของแม่วางอยู่บนหน้าตักของฉัน

เมื่อฉันเริ่มโยกตัวเบาๆ รอยย่นก็ปรากฏขึ้นตรงหว่างคิ้วของแม่ ใบหน้าของแม่เริ่มแสดงถึงความรู้สึกที่เข้มข้นขึ้น

"ช้าเร็วบอกได้นะคะแม่" ฉันกระซิบถาม

"ประมาณนี้แหละจ๊ะเอิร์น ไม่ต้องเร็วมาก" แม่ตอบกลับมา

"ค่ะแม่"

มือที่เหี่ยวแห้งของแม่ลูบไล้ขึ้นมาตรงสะโพกของฉันที่กำลังโยกตัว เสียงลมหายใจของเราประสานกับเสียงเนื้อที่แนบชิดกัน

บรรยากาศในห้องนอนอบอวลไปด้วยกลิ่นยาดมและยาหม่อง พร้อมกับอากาศเย็นสบายจากแอร์ เสียงเนื้อแนบเนื้อและเสียงครางเบาๆ ของเราดังคลอเคลียกันไป

"อ๊า...อ๊า...อ๊า"

"เอวดีจริงๆ นะแม่คุณ" ฉันแซวแม่เบาๆ

"แหม่!! แม่ก็พูดซะ!!" แม่ตอบกลับมาด้วยความเขินอาย

"แซ่บจริงๆ" แม่พูดพลางมองการเคลื่อนไหวของฉัน "สาวแซ่บของแม่"

"อยากให้แซ่บกว่านี้" ฉันโน้มตัวลงไปเล็กน้อย วางมือทั้งสองข้างตรงเอวของแม่เพื่อยึดเป็นหลัก "ก็บอกได้นะคะแม่"

"ไม่ต้องแซ่บอะไรขนาดนั้นหรอกเอิร์น" แม่ช้อยมองฉันตาหวาน พลางเอื้อมมือมาลูบสะโพกและหน้าอกของฉันเบาๆ "คราวที่แล้วแม่เกือบหัวใจจะวายเอา"

"ก็อยากมีแฟนเด็กกว่าทำไมละคะแม่!!" ฉันแกล้งแม่

"แหน๊ะ!! เรียกแม่ว่าแฟนเหรอ!?" แม่ถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความขำ

"ไม่ได้เหรอคะแม่?" ฉันถามกลับ

"ใครบอกว่าไม่ได้ละ" แม่ช้อยยิ้มแก้มแดง พร้อมกับเสียงหายใจที่หอบถี่มากขึ้น "เอิร์น...อือ...อือ"

เมื่อเห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวของแม่ ฉันก็รู้ว่าแม่ใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว ฉันจึงโยกตัวด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ

"อือ...อือ...อือ"

"เอิร์น...เอิร์นจ๊ะ" แม่เรียกชื่อฉันเบาๆ

"คะแม่?"

"เร็วอีกนิดก็ได้นะ" แม่ตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าแดงก่ำ และดวงตาหวานฉ่ำเป็นประกาย "แม่คิดว่าแม่ไหว"

"ได้ค่ะ" ฉันยิ้มให้แม่ แล้วใช้มือสางผมที่ปรกหน้าแม่ "ถ้าเร็วไปบอกเอิร์นได้นะคะแม่"

แล้วฉันก็เริ่มเร่งความเร็วในการโยกตัวมากขึ้นอีกหน่อย พร้อมกับถามแม่ซ้ำอีกรอบว่าไหวไหม

"แบบนี้แหละจ๊ะเอิร์น" แม่ช้อยเริ่มหายใจติดขัด ร่างกายเริ่มกระตุกเล็กน้อย

"อื้อ...อื้อ...อื้อ"

ฉันเองก็รู้สึกถึงความสุขที่เพิ่มมากขึ้น ฉันโยกตัวส่ายสะโพก จนหน้าอกของฉันสั่นตามจังหวะ ฉันขบฟันแน่น พยายามเก็บเสียงครางเอาไว้ แม่ช้อยคงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของฉัน แม่ดึงร่างฉันลงมาจูบเพื่อช่วยระบายความเสียวซ่าน

"จ๊วบ...จ๊วบ...จ๊วบ" เราสองคนหลับตาพริ้ม แม่เอื้อมมือมาลูบหลังฉันเบาๆ

ฉันเอื้อมมือไปประคองแก้มแม่ แล้วจูบดื่มด่ำรสชาติจากริมฝีปากของกันและกัน พร้อมกับโยกเอวให้เร็วขึ้น

"แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก"

"ใกล้เสร็จหรือยังคะแม่?" ฉันถามด้วยน้ำเสียงกระซิบ

"ใกล้แล้วจ๊ะเอิร์น" แม่ตอบกลับมา

"เอิร์นก็ใกล้แล้วเหมือนกัน" ฉันลุกขึ้นจากร่างของแม่ จัดท่าทางใหม่ เพื่อให้เราแนบชิดกันมากขึ้น "ขอเปลี่ยนท่านะคะแม่"

"อย่าเล่นท่าพิสดารมากนักนะเอิร์น สังขารแม่จะไม่ไหวเอา" แม่เตือนฉันด้วยน้ำเสียงกระเส่า

ฉันยกขาซ้ายของแม่ขึ้นมาทาบบนต้นขาขวาของตัวเอง แล้วแทรกตัวเข้าไป ให้ส่วนที่เชื่อมโยงเราได้แนบชิดกันมากขึ้น

"แจ๊ะ...แจ๊ะ...แจ๊ะ"

"อ๊า...เอิร์น...เอิร์นจ๋า"

"แม่ขา...อื้อ...อื้อ"

ฉันโยกตัวด้วยแรงที่มากกว่าเดิม เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังประสานกับเสียงครางของเรา

แม้เราจะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน และต่างวัย แต่หัวใจของเรากลับเป็นหนึ่งเดียวกัน ความรักของเรามันไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ มาขวางกั้นได้อีกต่อไป

"อุ้ย!! อุ้ย!!! อุ้ย!!" ร่างของแม่ช้อยเกร็งและแอ่นขึ้นมา ฉันรู้ว่าแม่ถึงฝั่งฝันแล้ว ฉันกอดแม่แน่น โยกตัวและกระแทกด้วยความเร็ว

"อ๊ะ!! อ๊ะ!! อื้ออ!!" ร่างของฉันก็กระตุกตาม เราสองคนส่งเสียงครางออกมาพร้อมกัน ก่อนที่ฉันจะทิ้งตัวลงไปนอนข้างๆ แม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น

"กอดเอิร์นหน่อยแม่จ๋า" ฉันกระซิบ

"เอิร์นจ๋า ที่รักของแม่" แม่ตอบกลับมาด้วยความรัก

"จุ๊บ...จุ๊บ...จุ๊บ" แม่จูบฉันเบาๆ ที่ริมฝีปาก

เราสองคนกอดกันแน่นในช่วงเวลาที่เราต่างต้องการความรักและไออุ่นจากกันและกัน แม่มอบความรักในแบบฉบับของแม่และคนรัก ส่วนฉันก็ตอบแทนด้วยร่างกายและพลังงานของวัยสาว หัวใจของเราหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน กลีบดอกบานชื่นของฉันคลี่ออกประกบชิดดอกซ่อนกลิ่นของแม่ช้อยเพื่อหลอมรวมน้ำหวานจากเกสรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ

https://web.facebook.com/Nato87.The.Storyteller



ชุ้ง


ryg123456

เล่นกันเองไม่ง้อหนุ่มเลยนะ แม่ผัว ลูกสะใภ้

natt4556

ต่างคนต่างช่วยกันเอง แม่ (ผัว) - ลูก(สะใภ้)

Don





พระพาย


Popo Ans56

เป็นความละมุนละมัย ของสองสาวต่างวัย ที่รักกัน

jamjam jam



therasak

ไม่ค่อย​มี​คน​เขียน​นิยาย​แนวนี้ในห้องนี้​แปลก​ใหม่​ น่าสนใจครับ​