ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

มะลิ 2

เริ่มโดย twintower, พฤษภาคม 21, 2025, 06:31:38 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

มะลิใช้มือลูบไล้อย่างเบาๆไปตามใบหน้าและแขนของแม่บ้าน ลีลารักของประภานั้นทำให้เด็กสาวนั้นติดใจหลงใหลอย่างมาก เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นเกิดมาได้ปีเศษๆจากช่วงที่ปิดเทอมมะลิได้กลับมาพักอยู่ที่บ้าน หลังจากที่เธอไม่ได้กลับมาอยู่บ้านเลยตั้งแต่เธอเข้าไปเรียนในโรงเรียนประจำเป็นการตัดสินใจของคุณพระและคุณหญิงที่จะให้หลานสาวได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนเพื่อฝึกภาษาไทยให้คล่อง เพราะมะลินั้นพูดหรืออ่านไทยไม่ได้เลย เธอนั้นเกิดที่เมืองไทย แต่หลังจากที่เกิดได้ไม่นานเท่าไหร่พ่อของเธอที่เป็นลูกชายคนรองของคุณพระกับคุณหญิงได้ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขานุการโทที่สถานทูตไทยในสหรัฐ เธอกับแม่จึงย้ายตามไปอยู่กับพ่อตั้งแต่ยังแบเบาะ จึงทำให้เธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมของคนอเมริกัน แต่เธอนั้นโชคร้ายที่ต้องกำพร้า พ่อกับแม่เธอนั้นประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำขณะที่เดินทางกลับมาพักผ่อนที่เมืองไทย ซึ่งมะลิวันนั้นเธอไม่ได้ไปกับพ่อและแม่  ทำให้คุณพระกับคุณหญิงนั้นเสียใจอย่างมากที่สูญเสียลูกชายกับลูกสะใภ้ ทั้งสองเลยตัดสินใจที่จะรับดูแลเลี้ยงดูมะลิแทนพ่อกับแม่ที่จากไป

และคุณพระกับคุณหญิงนั้นรู้ดีว่า ตอนนั้นถ้าให้มะลิมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้าน ถึงทั้งคู่จะดูแลปกป้องเด็กสาวได้อย่างดี มันต้องมีลอดหูลอดตาไปบ้าง ด้วยความเป็นครอบครัวที่ใหญ่มีผู้คนมากมายจึงต้องมีคนที่เห็นต่างและแตกแยกความคิด ผู้ใหญ่ทั้งสองต่างรู้ดีว่า คนในบ้านนั้นต่างแบ่งแยกเป็นก๊กเป็นเหล่ากันตั้งแต่เจ้านายจนถึงคนใช้  บรรดาเมียๆของคุณพระและลูกที่เกิดจากเมียต่างๆ นั้นไม่ค่อยลงรอยกันทำให้คนใช้ที่คอยรับใช้บรรดาเจ้านายต่างๆนั้นต่างไม่ลงรอยไปด้วยตามเจ้านายที่ตัวเองรับใช้ไปด้วย คุณพระกับคุณหญิงกลัวมะลิจะได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ เพราะตัวมะลิไม่มีพ่อแม่คอยปกป้องเหมือนกับหลานคนอื่นๆ ทุกวันนี้เรื่องนี้เหมือนภูเขาไฟที่คอยจะปะทุขึ้นมา แต่ยังไม่มีใครกล้าที่จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่เพราะทุกคนนั้นกลัวคุณพระอยู่ แต่ถ้าสิ้นคุณพระกับคุณหญิงเมื่อไหร่คงจะมีปัญหาใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน

เรื่องนี้คุณพระกับคุณหญิงต่างรู้ดี แต่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากนัก เพราะต่อหน้าทุกคนจะแสดงให้เห็นถึงความกลมเกลียวกันแต่ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง จึงตัดสินใจที่จะส่งมะลิที่อยู่ในวัยเยาว์ไปอยู่ที่โรงเรียนประจำหญิงล้วนจะได้ห่างจากปัญหาพวกนี้และเป็นการฝึกภาษาไทยไปด้วย จนกว่าจะเริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเพราะตอนนั้นมะลิจะโตขึ้นพร้อมจะเผชิญกับเรื่องพวกนี้ ตลอดเวลาที่มะลิอยู่ที่โรงเรียน ทั้งคุณพระและคุณหญิงรวมไปถึงน้อย ต่างผลัดไปเยี่ยมมะลิตลอดเพื่อให้หลานไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แต่ผู้ใหญ่นั้นลืมไปว่าหลานสาวที่เคยอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นแต่จู่ๆต้องมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวกับคนแปลกหน้า ทำให้รู้สึกเหมือนถูกตัดหางปล่อยวัด ถึงปู่กับย่าและอาจะมาเยี่ยมเป็นประจำแต่มะลินั้นไม่คุ้นเคยกับญาติผู้ใหญ่มาก่อนยกเว้นไกรเพราะอยู่ต่างประเทศมาตั้งแต่โต

ด้วยความรู้สึกอ้างว้าง และเริ่มข้าสู่วัยสาวทำให้เธอต้องหาที่พึ่งพิงนอกเหนือจากบรรดาอาจารย์ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแม่ชี ก็จะเป็นนักเรียนรุ่นพี่ จนมะลินั้นสนิทกับรุ่นพี่คนหนึ่งเพราะสามารถที่จะสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ รุ่นพี่คนนั้นใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้มะลิติดรุ่นพี่คนนั้นอย่างมากจนกลายเป็นความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งของทั้งคู่เพราะความเหงาบวกกับความอยากลองของเด็กวัยเริ่มสาว และเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาของโรงเรียนผู้หญิงล้วนที่จะมีการจับคู่กันเป็นแฟนของบรรดานักเรียนหญิงด้วยกัน มะลิได้เรียนรู้บทสวาทจากรุ่นพี่สาวที่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยกันมาก่อนแล้ว มันทำให้เธอกลายเป็นเด็กสาวที่ร้อนแรงในเรื่องเพศ จนรุ่นพี่เรียนจบมะลิได้หาคู่ขาคนใหม่มีทั้งเพื่อนรุ่นเดียวกันและเด็กรุ่นน้อง ทำให้ตัวเธอไม่แคยขาดในเรื่องนี้และพอได้กลับมาอยู่บ้านครั้งแรกในช่วงปิดเทอม มะลิได้รู้จักกับประภาที่เข้ามาเป็นแม่บ้านหลังจากที่เธอเข้าโรงเรียนประจำได้ปีเศษๆ พอเจอประภามะลิรู้สึกประทับใจในตัวแม่บ้านคนนี้ทันที ความรู้สึกของมะลินั้นชอบผู้หญิงแท้ๆด้วยกันมากกว่าพวกที่เป็นทอมบอย พวกทอมบอยในโรงเรียนนั้นมาจีบเธอหลายคนแต่ไม่มีใครจีบติด ทำให้เธอหาโอกาสที่จะอยู่ใกล้ชิดและมักหาโอกาสไปคุยกับประภาที่ห้องพักเป็นประจำ

ตอนแรกประภาไม่คิดอะไร แต่พอผ่านไปสักพักด้วยประสบการณ์ของไก่แก่แม่ปลาช่อนทำให้เธอพอจะรู้ว่า เด็กสาวคนนี้ต้องการอะไร ตัวประภานั้นเป็นญาติห่างๆของเมียเก่าคนหนึ่งของคุณพระที่เลิกรากันไปแล้ว และพอดีกับแม่บ้านที่เคยดูแลตึกที่อยู่ของพวกหลานสาวได้ลาออกไป เมียเก่าของคุณพระนั้นรู้เรื่องเลยพาประภามาฝาก ประภานั้นเป็นแม่ม่ายเคยมีผัวอย่างมาแล้ว 3 คน แต่อยู่กันไม่ยืด โดยเฉพาะคนล่าสุดที่เลิกกันไปเพราะประภานั้นเบื่อที่ผัวคนนี้ไม่เอาไหนในเรื่องบนเตียง ปล่อยให้เธอต้องค้างคา ด้วยความที่เธอนั้นเป็นผู้หญิงไฟแรงสูง ทำให้เธอแอบไปนอนกับคนอื่นมีทั้งผู้หญิงกับผู้ชายประภาเองก็ไม่เกี่ยงในเรื่องนี้ขอให้เธอมีความสุขทางเพศก็พอแล้ว จนผัวเธอจับได้และเลิกรากันไปในที่สุด พอมาเจอกับมะลิ มันก็ทำให้เธอรู้สึกแบบเดียวกับเด็กสาวคนนี้เช่นเดียวกัน จนคืนหนึ่งในห้องพักเธอหลังจากที่มะลิเข้าไปคุยกับประภาเหมือนทุกคืน มะลิที่อดใจไม่ไหวได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนซึ่งประภาเองก็ตอบสนองเด็กสาวเป็นอย่างดี ทำให้ช่วงเวลาที่ปิดเทอมนั้นมะลินั้นแอบมาระเริงสวาทกับแม่บ้านสาวใหญ่ตลอด ซึ่งมะลิเองก็ติดในใจลีลารักของประภาที่สร้างความประทับใจให้กับเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆที่เคยมีสัมพันธ์สวาทกับเธอ ถึงช่วงเปิดเทอมเธอจะมีเพื่อนใจคนอื่นมาเล่นดนตรีไทยเริงสวาทด้วยกันแต่ทุกคนนั้นไม่มีใครเทียบประภาได้ ทุกครั้งที่เธอมีโอกาสกลับมาที่บ้านมะลิจะแอบมาเริงสวาทกับประภาทุกครั้ง จนเธอเรียนจบกลับมาอยู่บ้าน ทำให้เธอหาโอกาสแอบมาระเริงรักกับแม่บ้านสาวใหญ่คนนี้เป็นประจำ ยิ่งเธอนั้นเรียนเก่งมีผลการเรียนที่ดีมาตลอดและสอบติดอักษรศาสตร์ด้วย ทำให้คุณพระกับคุณหญิงนั้นไม่เคยรู้ในพฤติของหลานสาว และในคืนนี้หลังจากประภาตื่นขึ้นมา มะลิได้เป็นฝ่ายปลุกเร้าแม่บ้านขึ้นมาอีกครั้งจนทั้งคู่ได้สุขสมในอารมณ์อีกครั้งก่อนที่จะมะลิจะออกจากห้องของประภาไปในช่วงเช้ามืด

ฝ่ายไกรหลังจากขับรถออกจากบ้านคุณพระนั้น ไกรขับรถไปเรื่อยๆอย่างไม่จุดหมาย ความจริงไกรไม่ได้มีนัดกับใครไว้ แต่ไม่อยากเจอหน้าสุชาดา และรู้ว่าบรรยากาศระหว่างกินข้าวเย็นจะอึดอัดขนาดไหนถ้าตนเองอยู่ด้วย ไกรเลยไม่อยากอยู่ต่อยิ่งเรื่องที่ได้คุยกับคุณพระก่อนหน้ามันยิ่งทำให้ไกรนั้นอึดอัดมากขึ้น ที่จริงไกรนั้นถูกสั่งให้มาบรรยายสรุปเกี่ยวกับยุทธวิธีและอาวุธที่ใช้ในการรบให้กับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และเป็นการให้พักผ่อนไปด้วยหลังจากเครื่องบินที่ไกรขับถูกยิงที่หางจนต้องร่อนลงฉุกเฉินที่สนามบินล่องแจ้ง แต่คุณพระนั้นรู้ว่าไกรมากรุงเทพเพราะเส้นสายที่ท่านมีจึงไม่ยากที่ท่านจะให้คนไปเชิญไกรมาพบ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆไกรไม่อยากมาที่คฤหาสน์หลังนี้ เพราะบรรยากาศมันอึดอัดไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่สมัยที่ตนเองมาอยู่ตั้งแต่เด็กๆ ถึงภายนอกจะดูอบอุ่นเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ที่จริงมันคือแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าตั้งแต่เจ้านายถึงคนใช้ ถ้าไม่มีป้าพิศคอยดูแลในตอนนั้นไกรคงลำบากพอสมควร

ถึงจะมีบารมีของลุงกับป้าคอยคุ้มอยู่  แต่ลับหลังมันเป็นอีกแบบหนึ่งโดยเฉพาะบรรดาเมียคุณพระหลายคนที่แสดงออกว่าไม่ชอบโดยเฉพาะแม่ของสุชาดาที่ได้ลามมาถึงลูกสาว ถึงจะมีส่วนหนึ่งในบรรดาเมียของคุณพระที่ให้ความเอ็นดูและช่วยเหลือไกรแต่มันช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ตอนนั้นไกรร่ำร้องที่อยากจะไปอยู่ข้างนอก หรืออยู่โรงเรียนประจำก็ได้เพราะอยู่ที่บ้านนี้แล้วไม่มีความสุขไกรเขียนจดจดหมายไปปรับทุกข์กับพ่อและแม่หลายฉบับเพื่อขอให้ตนเองไม่ต้องอยู่บ้านหลังนี้ แต่คุณพระกับคุณหญิงไม่ยอม จนไกรได้ไปต่างประเทศทำให้รู้สึกหลุดพ้นจากความอีดอัด  จนกลับจากต่างประเทศการกลับเข้าบ้านหลังนี้ถึงจะมีความอีดอัดอยู่บ้าง แต่หลายๆอย่างมันเปลี่ยนไปด้วยความที่ไกรโตขึ้น ทำให้หลายๆคนที่ไม่ชอบหน้านั้นไม่กล้าแสดงออกเหมือนเมื่อก่อน  บางคนได้จากโลกไปบางคนออกไปอยู่ที่อื่น แต่ด้วยจิตใต้สำนึกที่ไกรมีต่อบ้านนี้ทำให้ไกรรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่มา ถึงสถานะตัวเองจะเปลี่ยนไปไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อน วันนี้ช่วงบ่ายตอนที่ไกรมาถึงบ้าน พอรู้ว่าส่วนใหญ่นั้นประชุมกันอยู่ไกรรู้สึกโล่งใจพอสมควร ไกรไปพบคุณพระทันที ท่านนั้นรออยู่ในห้องทำงาน ไกรเห็นท่านนั่งอ่านเอกสารในแฟ้มขนาดใหญ่ หลังจากกราบเท้าพร้อมอวยพรท่านในวันเกิดที่จะมาถึง คุณพระประกอบได้ดึงหลายชายสุดที่รักเข้ามากอด ท่านน้ำตาซึมออกมาด้วยความดีใจที่เห็นหลานชาย คุณพระรู้ว่าหลานชายนั้นพึ่งเจอกับอะไรมา หลังจากที่พูดคุยกันไม่นานนักคุณหญิงได้เดินเข้ามาในห้องซึ่งไกรได้ก้มลงไปกราบคุณหญิงเหมือนที่กราบคุณพระ

"ขวัญเอ๋ยขวัญมานะลูก ป้านะสวดมนต์ภาวนาให้ทุกคืน รู้เรื่องแล้วมันก็อดใจหายไม่ได้"

คุณหญิงดึงหลานชายเข้ามากอดพร้อมร้องไห้ออกมา ทำเอาไกรนั้นตื้นตันจนไม่รู้จะพูดอะไร เพราะรู้ดีว่าทั้งคู่นั้นต่างรักตนเองเหมือนลูก หลังจากที่คุณหญิงได้ถามเรื่องต่างๆจนพอสมควร ทุกคนไปนั่งกันที่โต๊ะรับแขกที่มีอยู่ในห้องทำงานที่ใหญ่โต

"เอ้านี่ไกรลุงอยากให้ไกรอ่านแฟ้มนี้ มันเป็นเหตุผลที่ลุงเรียกไกรให้มาหา"

น้ำเสียงของคุณพระนั้นเรียบๆ ขณะที่ยื่นแฟ้มที่ท่านอ่านอยู่ตอนที่ไกรเข้าให้ ส่วนอีกแฟ้มหนึ่งนั้นท่านวางไว้บนโต๊ะ

"เอกสารอะไรหรือครับ"

ไกรถามด้วยความสงสัยพร้อมยื่นมือไปรับ

"อ่านก่อน"

ท่านสั่งหลานชายด้วยน้ำเสียงนิ่งและสีหน้าที่เรียบเฉย ไกรเปิดแฟ้มอ่านและพบว่ามันเป็นเอกสารเกี่ยวกับพินัยกรรมที่คุณพระจะมอบให้กับลูกหลาน ไกรอ่านด้วยสีหน้าเรียบเฉยและไม่รู้สึกอะไร จนมาถึงหน้าที่ 3 ที่ในพินัยกรรมระบุว่าตนเองจะได้รับเงินสดจำนวน 30 ล้านบาทรวมถึงที่ดินจำนวนมากที่มีนบุรี,ปทุมธานีและฉะเชิงเทรา ไกรอ่านซ้ำอีกรอบแล้ว เงยหน้าถามคุณพระ

"อะไรกันครับนี่ ทำไมจู่ๆผมถึงได้ ทั้งๆที่ผมเป็นแค่หลานและเงินมันก็จำนวนไม่ใช่น้อย"

คุณพระที่ดูจะเตรียมการไว้แล้วไม่ได้ตอบคำถามหลานชายแต่หยิบแฟ้มอีกเล่นที่วางอยู่บนโต๊ะยื่นให้ไกร

"อ่านนี่ก่อนแล้วค่อยถาม"

ท่านพูดด้วยน้ำเสียงปกติเช่นเดิม ไกรรับมาและเปิดอ่านพบว่ามันเป็นพินัยกรรมที่คุณปู่ของตนทำไว้ ไกรอ่านจนจบแล้วเงยหน้าไปที่คุณพระซึ่งท่านยิ้มๆก่อนจะพูด

"ไอ้ส่วนที่ยกให้แกนะมันเป็นของพ่อแกที่ลุงคอยดูแลมาให้ตลอด เพราะปู่แกมอบให้พ่อของแกตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม แต่พ่อของแกนะไม่ยอมละทิฐิไม่ยอมรับ เพราะพูดไว้ก่อนที่จะออกจากบ้านหลังนี้ว่าจะไม่รับสมบัติทุกอย่างจากปู่ของแก เรื่องมันก็คล้ายๆนิยายน้ำเน่า แต่มันต่างกันตรงที่ตอนที่พ่อแกออกจากบ้าน พ่อแกนั้นมีฐานะแล้ว ส่วนบ้านทางแม่แกก็ร่ำรวยอยู่แล้ว ไกรก็คงพอจะรู้เรื่องที่พ่อกับปู่ไม่ลงรอยกันใช่ไหม ยิ่งจะไปแต่งงานกับแม่ทำให้ปู่ยิ่งไม่พอใจเพราะไม่ชอบแม่ของไกรเพราะปู่เห็นเป็นคนบ้านนอก"

เรื่องนี้ไกรพอจะรู้จากคำบอกเล่าอยู่บ้างเพราะตนเองนั้นเกิดมาหลังจากที่ปู่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ว่าพ่อไม่ลงรอยกับปู่ตอนที่จะแต่งงานกับแม่จนมีปัญหาทะเลาะกันทำให้พ่อนั้นออกจากบ้านหลังนี้และไม่กลับมาอีกเลยตอนช่วงที่ปู่ยังมีชีวิตอยู่ พ่อกับปู่นั้นมีปัญหาสะสมกันมานาน ปู่นั้นเป็นถึงเจ้าพระยาเคยเป็นเสนาบดีมาก่อน อยากให้ลูกชายทั้ง 2 คนเข้ารับราชการ แต่พ่อนั้นไม่ชอบรับราชการ จึงหันมาเปิดร้านค้าขายของเองหลังจากเรียนจบ ซึ่งปู่นั้นไม่ชอบใจ แต่กิจการของพ่อนั้นก้าวหน้าไปด้วยดี จนกลายเป็นร้านขายส่งเลยทำให้รู้จักกับแม่เพราะแม่กับตาได้ติดต่อขอซื้อสินค้าจากร้านไปขายที่สงขลาจนทั้งคู่จะแต่งงานกันมันยิ่งทำให้ปู่ไม่พอใจเพราะเห็นว่าแม่เป็นคนบ้านนอกไม่มีความรู้ เลยทำให้ความที่ไม่ลงรอยที่มีอยู่นั้นบานปลาย ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างหนักก่อนที่พ่อจะย้ายตนเองลงไปใช้ชีวิตอยู่ที่สงขลา และไม่ติดต่อมาหาปู่อีกเลย  จนปู่เสียชีวิตพ่อถึงขึ้นมาร่วมงานศพ

"ก่อนที่ปู่แกจะตาย ได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นมา ที่ผ่านมาปู่เองก็รู้สึกผิดแต่ก็นั่นละเพราะความมีทิฐิทั้งคู่ พ่อแกเองก็ถอดนิสัยมาจากปู่ทั้งคู่ไม่ยอมพูดกันมีแต่ลุงที่คอยช่วยพูดให้ จนปู่ตายและเปิดพินัยกรรม พ่อแกไม่ยอมรับเพราะลั่นวาจาไว้แล้วว่าไม่ขอรับเงินจากปู่สักแดงเดียว ลุงเลยต้องมารับภาระดูแลให้ และมันถึงเวลาที่ลุงจะส่งต่อให้แล้วในเมื่อพ่อไม่รับก็ต้องส่งต่อให้ลูก ซึ่งตัวไกรเองก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะรับมรดกจากปู่"

"เรื่องนี้พ่อรู้หรือยังครับ ผมหมายถึงในพินัยกรรมของลุง"

คุณพระพยักหน้าให้กับหลานชาย

"รู้แล้ว ลุงบอกกับพ่อแกไปนานแล้วตัวพ่อกับแม่แกก็ไม่มีปัญหาอะไร พ่อแกยังบอกเลย ยกให้มันไปเถอะสิทธิของมัน"

"แต่"

ไกรนั้นอึกอักเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อแต่คุณพระพูดกับหลานชายด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น

"แต่อะไรอีกวะ เจ้าไกรก็บอกแล้วรับไปเถอะมันเป็นสิทธิของแกที่ผ่านมา ลุงเองก็ต้องรับคำติฉินนินทามานานแล้วตั้งแต่ปู่แกตายว่ารวบมรดกไว้หมดไม่แบ่งให้น้อง พ่อแกก็ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น เรื่องมากจริงๆไอ้เด็กคนนี้ อย่าทำนิสัยแบบปู่กับพ่อแกอีกคนเลย"

ถึงเสียงท่านจะเข้มแต่ไกรนั้นรู้ว่าท่านพูดด้วยอารมณ์ที่ดี คุณหญิงนั้นได้เสริมต่อจากสามี

"มันเป็นของลูกไกรรับไปเถอะ ที่ผ่านมาคุณพระท่านก็ดูแลมาให้อย่างดี ทั้งดอกเบี้ยในธนาคารที่ฝากเงินไว้ ทั้งค่าเช่าที่มีคนมาเช่าทำนาที่มีนบุรีกับฉะเชิงเทรา รายได้จากสวนที่ปทุมธานี คุณพระกับป้าทำบัญชีให้พ่อของไกรตลอด"

ไกรพยักหน้าแล้วถามต่อ

"ถ้าเป็นแบบนี้แล้วทำไมคุณลุงถึงมาบอกให้ผมรู้ก่อนคนอื่น"

"พินัยกรรมนี้ ตอนนี้มีคนรู้เพียง 4คน คือ ลุงกับป้าและคุณหลวงนิติฯที่เป็นคนเขียน อีกคนคือแก ที่ลุงให้แกดูก่อนใครเพราะอยากให้ได้รู้ว่าแกจะได้อะไรบ้าง เพราะหลังจากงานวันเกิดลุง 1 วัน ลุงจะถือโอกาสเรียกลูกหลานที่ลุงเข้าใจว่าคงจะมาเกือบทั้งหมด ลุงจะเปิดพินัยกรรมว่าถ้าลุงตายไปแล้วใครจะได้อะไรบ้างยกเว้นในส่วนของแกที่ลุงจะยกให้เลย จะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระอีก"

ท่านพูดพร้อมกับหัวเราะแล้วหยิบซิการ์ขึ้นมาจุดสูบ ไกรนั้นจำได้ว่า หลวงนิติราษฏร์คือทนายประจำตระกูลที่ไกรรู้จักมาตั้งแต่ยังเด็กๆ คุณพระนั้นพูดต่อไป

"ที่ลุงจะเปิดพินัยกรรมก่อนตายจุดประสงค์คือ ให้ทุกคนได้รู้ว่าจะได้รับอะไรบ้าง ใครมีปัญหาอะไรให้มาถามลุงตอนยังมีชีวิตอยู่ ดีกว่าไปถามหน้าโลงตอนที่ลุงตายไปแล้ว เพราะไม่มีใครไปตอบพวกมันได้ มันจะได้จบๆปัญหาไป จะให้ไอ้เจ้าดำรงค์มันจัดการ มันก็ไม่สนใจนิสัยมัยก็ถอดแบบมาจากอาคือพ่อของแก ยิ่งมันเป็นผู้ว่ามันก็แทบไม่มาสนใจกิจการหรือเรื่องของพ่อมันเลย ลุงรู้ดีว่าทุกวันนี้ที่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะลุงกับป้ายังอยู่  แต่ถ้าวันใดสิ้นลุงกับป้า ลุงเชื่อว่าทุกอย่างในบ้านนี้มันจะปั่นป่วนไปหมด เพราะไม่มีใครกลัวใคร สงสารแต่พวกเด็กตัวเล็กๆที่จะต้องมารับปัญหาของพวกผู้ใหญ่ ลุงเลยตัดสินใจที่จะประกาศพินัยกรรมให้รู้กันตั้งแต่ลุงยังอยู่ มันคงช่วยไปได้ระดับหนึ่ง และอีกอย่างหลังจากนี้ไม่นานนักป้าแกก็จะไม่อยู่ที่นี่แล้ว"

ประโยคสุดท้ายที่ท่านพูดทำเอาไกรนั้นรู้สึกใจหายขึ้นมาทันพร้อมมองไปที่คุณหญิง ซึ่งนั่งฟังด้วยใบหน้ายิ้มๆ

"ไม่ต้องตกใจลูก ป้าจะไปถือศีลอยู่ที่วัดแล้ว ป้าไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานเท่าไหร่อายุก็มากแล้ว อยากไปหาความสงบทางธรรมในช่วงบั้นปลาย ป้าตั้งใจไว้นานแล้ว แต่จะขอให้มันเป็นที่เป็นทางก่อนจะได้หมดห่วงป้าพูดตรงๆตอนนี้ป้าห่วง อยู่ 2 คน คือ น้อยกับมะลิ  น้อยเองก็ยังเด็กอยู่ถึงจะเรียนจบเช้ามาดูแลกิจการแล้วก็ตามทีแต่ประสบการณ์ยังไม่มาก ที่สำคัญคือมะลิที่ป้าห่วงที่สุด เด็กคนนี้ไม่เหลือใครแล้ว ถ้าลุงกับป้าไม่อยู่ใครจะดูแล"

ไกรนั้นนั่งเงียบและซึมลงไป แต่คุณพระบอกให้ไกรอ่านพินัยกรรมที่ท่านทำไว้จนจบ ดำรงค์ที่ท่านพูดถึงคือลูกชายคนโตที่เป็นผู้ว่าในตอนนี้และเป็นพี่ชายแท้ๆของพ่อมะลิ  ไกรนั้นเงยหน้าขึ้นไปมองคุณพระ

"แกคิดว่ายังไงบ้างละไกร"

"ผมไม่มีความคิดเห็นครับ แต่ทุกอย่างลุงกับป้าคงพิจารณากันถี่ถ้วนแล้วว่าใครจะได้อะไรบ้าง"

คุณพระนั้นถอนหายใจเบาๆแล้วพูดกับหลานชายต่อ

"เรื่องนั้นมันคงไม่มีอะไรมาก มันต้องมีทั้งคนที่พอใจกับไม่พอใจแต่ลุงไม่กังวล แต่เรื่องที่ลุงกังวลมันเรื่องเดียวกับที่คุณหญิงเขาห่วงโดยเฉพาะ มะลิมันไม่เหลือใครแล้ว ญาติทางแม่มันก็ไม่สนใจใยดีพอตากับยายมันเสียก็ได้สมบัติจากตากับยายของมันไปแล้วก็ไม่เคยติดต่อมา มันเหลือตัวคนเดียวจริงๆถ้าลุงกับป้าไม่อยู่ถึงน้อยจะรักมันมากแต่สักวันน้อยก็ต้องออกเรือน ถ้ามันเรียนจบไปทำงานลุงจะไม่กังวลแต่ลุงกังวลในช่วงเวลาที่มันเรียนอยู่ ถึงลุงจะเตรียมตั้งกองทุนให้มันไว้ก็ตาม แต่มันจะไม่ใครเป็นที่ยึดเหนี่ยว ยังไงลุงก็ฝากหลานไว้ด้วยละกันนะไกร เพราะมะลิมันสนิทกับไกรมากกว่าใคร และพ่อกับแม่แกก็รับปากว่าจะช่วยดูแล เรื่องนี้ลุงพูดเผื่อไว้ แต่ถ้าลุงกับป้าอยู่จนถึงมันเรียนจบมันเข้ามาดูแลกิจการเองลุงก็หมดห่วง"

ไกรพยักหน้าเพราะจำได้ว่าในพินัยกรรมที่พึ่งอ่านนอกเหนือจากเงินก้อนหนึ่งแล้วยังมีที่ดินที่ปลูกไร่สัปปะรดที่หัวหินทั้งหมด รวมถึงบ้านหลังใหญ่ที่ปลูกในไร่ยกให้กับมะลิ และนึกชมคุณพระที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง มันจริงอย่างที่คุณพระบอก มะลิไม่เหลือใครอีกแล้ว ถ้าเกิดทั้งคุณพระกับคุณหญิงสิ้นบุญไปในช่วงนี้คนที่ลำบากอีกคนคือมะลิ ไกรจะเข้ามาดูแลก็ไม่สะดวกด้วยหน้าที่การงาน ไกรเจอมะลิตั้งแต่มะลิเริ่มโตและมะลิในตอนนั้นจะรู้ว่าเธอมีญาติอยู่คนเดียวคืออาไกร ในช่วงวันหยุดยาวหรือปิดเทอมไกรจะไปพักกับพ่อของมะลิที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายของตนเอง เลยทำให้สนิทและคุ้นเคยกับมะลิเป็นต้นมา จนพี่ชายกับพี่สะใภ้นั้นได้จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถ ตอนนั้นพ่อกับแม่ของตนเองอยากจะรับมะลิไปดูแลด้วยแต่ทางคุณพระกับคุณหญิงได้ขอไว้ว่าจะดูแลเอง ไกรนั้นเอ็นดูพร้อมกับสงสารหลานสาวอย่างมากที่ต้องมากำพร้า และรู้สึกดีใจที่พอรู้ข่าวว่าคุณพระตัดสินใจส่งมะลิไปเรียนโรงเรียนประจำ หลานสาวจะได้ไม่ต้องเจอแบบเดียวกับที่ตัวเองเจอมาก่อน และยิ่งมะลิตัวคนเดียวด้วยใครจะปกป้องดูแลได้ตลอด ยิ่งสุชาดากับแม่น่าจะเป็นตัวปัญหาใหญ่ เพราะจะต้องอิจฉาเด็กอย่างแน่นอนและดีไม่ดีทั้งคู่ต้องคิดไปถึงการเข้ามามีส่วนแบ่งในสมบัติของมะลิอีกด้วย

มันเป็นอย่างที่ไกรคิดเพราะน้อยนั้นเคยเขียนจดหมายไปปรับทุกข์กับไกรเรื่องสุชาดาอยู่หลายครั้ง ว่าทั้งสุชาดากับแม่ต่างตั้งป้อมไม่ขอบหน้ามะลิตั้งแต่ที่คุณพระรับเธอมาอุปการะ เพราะกลัวเรื่องการแบ่งสมบัติทั้งๆที่มะลิมีสิทธิอย่างชอบธรรมในเรื่องนี้ แต่สุชาดากับแม่ไม่คิดอย่างนั้น แต่ทั้งคู่ไม่กล้าแสดงออกมากเพราะกลัวคุณพระกับคุณหญิง ไกรวางแฟ้มลงบนโต๊ะพร้อมกับนึกถึงปัญหาที่ตามมาในอนาคตที่คาดว่าจะเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน ครอบครัวใหญ่ทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาล ดีแล้วที่พ่อของตนเองนั้นแยกตัวออกมาก่อนไม่อย่างนั้นคงจะมานั่งปวดหัวกับเรื่องพวกนี้

"และอีกเรื่องหนึ่งที่ ลุงจะขอร้องแกเจ้าไกร เรื่องของสุชาดาแกอย่าไปอะไรกับมันมากกนัก ทุกวันนี้แกก็เหนือกว่ามันทุกเรื่อง เรื่องที่ผ่านๆมาก็ให้มันแล้วไป ลุงรู้ว่าแกกับมันไม่ลงรอยกันมาจากเรื่องอะไร สุชาดามันก็ถอดแบบแม่มันมาทุกเรื่องโดยเฉพาะนิสัยที่ขี้อิจฉาเห็นใครดีกว่าไม่ได้ ทุกวันนี้ที่มันกับแม่ไม่กล้าที่ทำอะไรไปมากกว่านี้เพราะยังมีลุงกับป้าอยู่ แต่ลุงขอละไกร มันไม่มีประโยชน์ต่อให้แกแหย่มันจนมันเสียหน้ามันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับแกนอกจากความสะใจ คนมันมีปมด้อยนะไกรอย่าลืมสิ เรียนอะไรก็ไม่จบ ความรู้สู้พี่ๆน้องๆคนอื่นก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ลุงเลยให้ช่วยดูแลเรื่องในบ้าน ถือว่าลุงขอร้อง"

คุณพระพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เพราะรู้ดีว่าเวลาคู่นี่เจอหน้ากันทีไรไกรนั้นชอบแหย่สุชาดาให้เสียหน้าเพราะความสะใจ มันเป็นจิตใต้สำนึกจากเรื่องในอดีตที่ฝังใจมาและไกรเองก็ไม่รู้ตัว ไกรเองก็รับปากไปอย่างแกนๆ เพราะรู้ดีว่าอย่างความสึกสึกที่เกลียดขี้หน้ากันของตนเองกับสุชาดานั้นไม่วันหาย หลังจากนั้นคุณพระได้คุยกับไกรหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องที่เครื่องบินที่ไกรถูกยิง ท่านอาศัยช่วงที่คุณหญิงออกไปจากห้อง

"ได้ข่าวเครื่องบินที่แกขับถูกยิงจนหางทะลุเลยหรือ"

ท่านถามด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างกังวล ไกรเองก็พอจะเดาออกว่าท่านรู้มาได้อย่างไร เพราะระดับนายทหารระดับสูงหลายคนนั้นเคยเป็นคนของท่านมาก่อน

"ครับ"

ไกรตอบสั้นๆ แต่ท่านยังถามต่อไปอีก

"มันเกิดขึ้นได้ยังไง"

ไกรถอนหายใจเบาๆก่อนจะบอกท่านไปว่าวันนั้นตนเองทำภารกิจเหมือนปกติคือขึ้นบินจากสนามบินอุดรไปลงจอดที่สนามบินล่องแจ้งในลาวเพื่อรอรับคำสั่งว่าต้องปฏิบัติภารกิจอะไรและวันนั้นภารกิจที่ได้รับคือโจมตีฐานที่ตั้งของฝ่ายเวียดนามเหนือ ไกรที่เป็นผู้บังคับฝูงพร้อมหมู่บิน T-28 4ลำ จะเข้าทำการโจมตีต่อจากเครื่อง F-4 ของสหรัฐเพื่อเก็บกวาด หลังจากที่เครื่องลาดตระเวนแบบ O-1 ได้ใช้จรวดควันยิงเพื่อชี้เป้าให้ เครื่อง F-4 ของสหรัฐได้เริ่มทำการโจมตีทันที ส่วนไกรรับหน้าที่เข้าทิ้งระเบิดเป็นลำแรกของฝูง หลังจาก F-4 ลำสุดท้ายทิ้งระเบิดไปเรียบร้อย พอปลดระเบิดใต้ปีกไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่เชิดหัวขึ้น  เครื่องบินลำที่ไกรขับถูกระดมยิงด้วยปืน ปตอ. ไกรพยามขับหลบพร้อมเร่งเครื่องตามยุทธวิธี แต่หลบไม่พ้นกระสุนชุดหนึ่งยิงถูกแพนหางของเครื่องจนทะลุ แต่ด้วยความสามารถของไกรจึงบังคับเครื่องไปลงจอดฉุกเฉินได้ที่สนามบินล่องแจ้ง

"แกเป็นคนมีฝีมือไกรไม่ใช่โชคดี ผู้ใหญ่ในกองทัพอากาศหลายต่างชมแกเป็นเสียงเดียว ลุงนะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการบินแต่ลุงขอให้ระวังตัว เพราะนิสัยแกมันออกจะกล้าจนเกินไปบางครั้งจะกลายเป็นมันบ้าบิ่น พ่อกับแม่แกมีลูกคนเดียวและแกเป็นหลานที่ลุงรักที่สุด"

คุณพระพูดกับหลานชายหลังจากที่นั่งฟังไกรเล่าเรื่องให้ฟัง และก่อนที่ไกรจะขอตัวกลับท่านได้กำชับ

"ยังไง วันเกิดลุงแกต้องมาให้ได้และต้องอยู่ฟังตอนเปิดพินัยกรรมด้วยลุงต้องการให้แกรับรู้ต่อหน้าคนอื่น ไม่ต้องหาข้ออ้างใดๆ วันลาแกยังเหลืออยู่อีกเยอะลามาให้ได้ และพวกนั้นกำลังประชุมกันที่ห้องสมุดแกไปร่วมสักหน่อยก็แล้วกันจะได้เจอมะลิหลานรักแกด้วย แกไม่ได้เจอมันมานานแล้ว"

ท่านพูดทิ้งท้าย ไกรรู้ดีว่าต้องทำตามคำสั่งของท่านไม่อย่างนั้นท่านจะต้องหาวิธีให้ไกรมาให้ได้ ด้วยบารมีของท่านที่บรรดาผู้ใหญ่หลายๆคนไม่กล้าขัด ไกรขับรถมาเรื่อยๆจนมาจอดที่หน้าบาร์ที่ชื่อลูน่า บาร์นี้กำลังโด่งดังในหมู่นักเที่ยวยามราตรีแถมมีทหารอเมริกันมาใช้บริการกันเยอะพอสมควร ไกรที่ไม่รู้จะไปที่ไหนจะกลับบ้านพักที่ดอนเมืองก็เห็นว่าหัวค่ำอยู่เลยตัดสินใแวะที่บาร์นี้ เผื่อจะเจอเพื่อนนายทหารสักคน ซึ่งที่จริงนิสัยของไกรนั้นไม่ชอบสถานบันเทิงพวกนี้ บุหรี่ไกรก็เลิกสูบมาตั้งแต่เข้ารับราชการ เหล้านั้นแทบจะไม่ดื่มเลย ไกรรู้สึกเบื่อกับสิ่งเหล่านี้ มันคงมาจากช่วงที่อยู่เมืองนอกทั้งในอเมริกาและยุโรปที่ไปตระเวนเที่ยวมา ไกรในตอนนั้นทั้งดื่มเหล้าสูบบุหรี่ แต่จู่ๆรู้สึกเบื่อเลยตัดสินใจเลิกบุหรี่ตามดัวยเหล้าเพราะเห็นว่าตนเองเป็นนักบิน เหล้ามันจะไปทำลายสุขภาพ ถึงเพื่อนๆจะยังสูบบหรี่และดื่มเหล้ากันอย่างนัก แต่ไกรจะปฏิเสธตลอดรวมถึงเรื่องเที่ยวกลางคืน  แต่วันนี้ด้วยความเบื่อไกรเลยลองมาแวะที่บาร์แห่งนี้ ด้วยเวลาที่ยังหัวค่ำอยู่ผู้คนยังไม่เยอะมาก ไกรเลือกโต๊ะที่มุมหนึ่งของบาร์ก่อนจะสั่งเบียร์และกับแกล้ม ขณะที่ไกรนั่งดื่มเบียร์อย่างทอดอารมณ์และไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จนไกรได้ยินเสียงเรียกมาจากด้านข้าง
"ไกร กลับมาจากอุดรแล้วหรือ"

ไกรหันไปมองจากเจ้าของเสียง เจอหญิงสาวที่หน้าตาดีและรูปร่างที่งดงามยืนมองมา

"อ้าวโฉม"

ไกรทักตอบไปที่หญิงสาวโดยที่ความรู้สึกที่สับสนเพราะไม่นึกว่าจะมาเจอกับโฉมฉาย และในเวลาใกล้ๆกันนั้นในห้องทำงานของคุณพระ หลังจากที่คุณพระออกจากห้องอาหารท่านได้กลับมาที่ห้องทำงาน ขณะที่ท่านกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะทำงานเสียงเคาะประตูได้ดังขึ้น
"เข้ามา"

ท่านพูดแต่ไม่เงยหน้าขึ้นมามอง จนคนที่เคาะประตูนั้นเดินเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะท่านจึงเงยหน้าขึ้น เป็นอนงค์แม่บ้านประจำตึกของบรรดาหลานผู้ชาย

"เข้าไปตรวจดูในห้องทีสิ ฉันยังไม่ได้เปิดแอร์"

"เจ้าคะ"

แม่บ้านรับคำสั้นๆก่อนจะเดินไปยังห้องข้างๆ ที่อยู่ติดกับห้องทำงานของคุณพระซึ่งเป็นห้องที่ท่านใช้พักผ่อนเอนหลังในเวลากลางวันโดยมีประตูเข้าออกที่ติดอยู่กับห้องทำงานท่านเท่านั้น ไม่นานนักหลังจากที่อนงค์ได้เข้าไปในห้องพัก เสียงประตูนั้นถูกเคาะขึ้นอีกครั้งและคราวนี้เป็นประภาที่เดินเข้ามาคุณพระบอกกับประภาสั้นๆ

"อย่าลืมล็อคประตูแล้วเข้าไปสิ แม่อนงค์อยู่ในห้องแล้วเดี๋ยวฉันจะตามเข้าไป"

"คะคุณท่าน"

ประภารับคำแล้วเดินเข้าไปในห้องตามที่คุณพระสั่ง  คุณพระมองตามเพื่อรูปร่างของประภาแล้วหันไปดูเอกสารต่อ คุณพระปล่อยเวลาให้ผ่านไปสมควร ท่านจึงลุกขึ้นจากโต๊ะไปยังประตูห้องทำงานเพื่อตรวจดูว่าล็อคเรียบร้อยแล้ว ท่านจึงเดินไปยังห้องพัก พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง คุณพระยิ้มออกมาอย่างพอใจพร้อมตาที่ลุกวาว เพราะภาพที่เห็นนั้น อนงค์นั้นนอนทาบอยู่บนตัวประภา ทั้งคู่นั้นเปลือยท่อนบนและกำลังแลกจูบกันอย่างดุเดือด ถึงคุณพระจะเห็นภาพแบบนี้บ่อยแต่มันปลุกอารมณ์ได้ดีทุกครั้ง รูปร่างของทั้งสองสาวนั้นดึงดูดใจเสือป่าอย่างคุณพระอย่างมาก ประภานั้นสูงโปร่งหน้าอกพอดีตัว ส่วนอนงค์นั้นเตี้ยกว่าประภาเล็กน้อยแต่หุ่นอวบอัดนมใหญ่กว่าประภา รวมถึงโคกหีที่โหนกนูนและใหญ่กว่า แต่หมอยนั้นดกสูสีกัน ประภานั้นดันหัวอนงค์ให้ลงไปที่เต้า  หัวนมสีคล้ำทั้ง 2 เต้าถูกริมฝีปากอนงค์ดูดสลับไปมา ทำเอาประภานั้นครางออกมาไม่หยุด ส่วนคุณพระเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวเพื่อดูบทรักของแม่บ้านทั้ง 2คนเป็นการปลุกอารมณ์

จนผ้าถุงของทั้งคู่นั้นหลุดออกจากตัว พร้อมกับที่ประภานั้นพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบน เต้านมที่อวบใหญ่ของอนงค์นั้นถูกประภา จู่โจมทันที หัวนมสีน้ำตาลเข้มที่ชูชันถูกริมฝีปากของประภาดูดสลับไปพร้อมอีกข้างหนึ่งนั้นเคล้นคลึงไปบนเต้าที่อวบอิ่ม ส่วนมือของอีกข้างนั้นประภาเลื่อนลงไปที่โคกหีพร้อมเอานิ้วเขี่ยไปมาที่ร่องหี ทำเอาอนงค์ครางออกมาไม่หยุดจนประภาจับตัวเธอพลิกให้นอนคว่ำพร้อมไล่จูบไปตามแผ่นหลัง  ลงมาถึงสะโพกที่อวบขาวประภากัดไปเบาๆบนก้นทำเอาอนงค์ครางออกมาสุดเสียง จนประภาเลื่อนตัวมาด้านหลังพร้อมยกก้นของอนงค์ขึ้น อนงค์ขยับตัวทันทีพร้อมเอามือดันไปบนที่นอน ก้นของเธอนั้นยกสูงขึ้น ประภาไม่รอช้าซบหน้าลงไปทันทีพร้อมเอาลิ้นกวาดเข้าไปในรูหีที่ชื้นแฉะ อนงค์ส่ายก้นไปมาเพราะทนความเสียวที่ได้รับจากประภาไม่ไหว คุณพระที่นั่งดูอยู่นั้นทนไม่ไหวจัดการถอดเสื้อกุยเฮงและกางเกงแพรออกให้พ้นตัว จนร่างของคุณพระนั้นเปลือยก่อนจะเดินขึ้นไปทางด้านหัวตียงและคุกเข่านั่งลงตรงหน้าอนงค์

"อมให้ข้าที"

ท่านบอกมาด้วยเสียงอันกระเส่า อนงค์จับควยของคุณพระที่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่ขึ้นมาพร้อมใช้ลิ้นเลียไปมาจนทั่วก่อนจะจับเข้าปาก คุณพระครางออกมาเบาๆ อนงค์ตั้งใจใช้ปากปรนเปรอให้กับคุณพระอย่างเต็มที่ทั้งๆที่หีของตนเองกำลังถูกประภาสร้างความเสียวให้อยู่ ควยของคุณพระนั้นขนาดไม่แข็งตัวยังถือว่ามีขนาดยาวและใหญ่ อนงค์ที่เคยผ่านผู้ชายมาสมควรยังไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่ควยใหญ่ขนาดนี้ จนควยนั้นผงาดขึ้นมาด้วยฝีปากของอนงค์  ท่านจึงสั่งให้ทั้งคู่นั้นหยุดแล้วขยับตัวลงมานอนหงาย ทั้งสองสาวนั้นรู้ดีว่าต้องทำอะไรต่อโดยที่เจ้านายไม่ต้องสั่ง ทั้งคู่นั้นต่างขยับตัวไปอยู่คนละด้าน ประภาก้มหน้ามาหาคุณพระก่อนพร้อมเอาปากทาบ ส่วนอนงค์เอาหน้าลงไปที่หัวนมพร้อมเอามือไปรูดควยที่แข็งตัวเต็มที่ ส่วนมือคุณพระนั้นข้างหนึ่งยกมาโอบรอบตัวประภาอีกข้างเลื่อนลงไปเคล้นคลึงนมของอนงค์ จนประภาเลื่อนหน้าลงไปที่อก ทั้งสองสาวต่างช่วยกันดูดหัวนมของคุณพระ ก่อนจะพากันเลื่อนตัวไปยังควยที่ผงาดเต็มที่ ประภามองยังท่อนเอ็นสีดำที่ผงาดตรงหน้าเธอแล้วเลียปากไปมาแล้วหันไปสบตากับอนงค์ ทั้งคู่ต่างยื่นหน้ามาแลกจูบกันอย่างดูดดื่มแล้วขยับหน้าไปยังควยที่ผงาดอยู่ตรงหน้า ต่างช่วยกันเลียและผลัดกันอม ส่วนมือทั้งสองของคุณพระนั้นลูบหัวทั้งคู่ไปมา

จนคุณพระเรียกประภาขึ้นมาหา แม่บ้านสาวใหญ่นั้นรู้ทันทีว่าต้องทำอะไร เธอเลื่อนตัวขึ้นไปหาและเอาริมฝีปากทาบกับคุณพระอีกครั้ง ก่อนจะขยับขึ้นไปนั่งเหนือปากส่วนอนงค์นั้นหลังจากประภาเลื่อนตัวขึ้นไปเธอได้ขยับตัวตามไปที่กลางลำตัวของคุณพระพร้อมเอามือไปประคองควยขณะที่เอาหีไปจ่อที่ควยพร้อมค่อยหย่อนตัวลงมา ถึงจะโดนเย็ดมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่มันยังคับรูหีของเธออยู่ดี จนหีของเธออมควยคุณพระมิดด้าม มือทั้งสองของเธอขึงเปลี่ยนมายันบนที่นอนพร้อมค่อยๆขยับไปมา ส่วนประภานั้นกำลังเจอลิ้นของคุณพระสร้างความเสียวให้อย่างต่อเนื่อง เธอหลับตาพริ้มพร้อมส่ายตัวไปมา

"อูยยย ดีคะ ท่าน  อู้ววววววว ซี๊ดดดดดด อู้วววววว"

ประภานั้นส่งเสียงออกมาไม่หยุดเหมือนกับอนงค์ที่ขย่มคุณพระอย่างต่อเนื่อง ยิ่งคุณพระเด้งตัวขึ้นรับมันทวีความเสียวกับกับเธอมากยิ่งขึ้น จนประภานั้นทนความเสียวที่ได้รับจากลิ้นคุณพระไม่ไหว เธอเกร็งไปทั้งตัวพร้อมครางออกมาสุดเสียง แล้วพลิกตัวลงมานอนข้างคุณพระ

"วันนี้ยายภาถึงเร็วจังวะ"

คุณพระพึมพำขึ้นมาแล้วลุกขึ้นมานั่งพร้อมเอามือโอบไปตัวอนงค์เอาหน้าซุกไซร้ไปตรงเต้าที่อวบใหญ่  อนงค์นั้นแอ่นกายให้คุณพระทันทีพร้อมขย่มไม่หยุด ทั้งคู่นั้นส่งเสียงครางออกมาไม่หยุด โดยที่ประภานั้นนอนมองดูบทรักอันดุเดือดอย่างหมดแรง จนคุณพระกับอนงค์ไปถึงจุดหมาย พอคุณพระเอนตัวลงไปนอนบนเตียงโดยที่ประภานั้นขยับหมอนไปรองรับคุณพระ ส่วนอนงค์นั้นลงจากตัวคุณพระลงไปนอนข้างอีกด้านหนึ่ง ทั้ง 3 ไม่มีใครพูดอะไร นอกจากการหายใจแรงๆแต่มีความสุขจากบทรักที่เกิดขึ้น จนคุณพระลุกขึ้นจากเตียงไปจิบเครื่องดื่มที่อนงค์ได้เตรียมไว้ให้  คุณพระดื่มจนหมดแก้วท่านเดินกลับมาขึ้นบนเตียงคุณพระนั้นนิ่งพิงไปที่หัวเตียง โดยที่แม่บ้านทั้งคู่นั้นขยับตัวขึ้นมานั่งข้างๆ คุณพระจับหน้าอนงค์ให้เข้ามาใกล้พร้อมยื่นหน้าไปหา ริมฝีปากของคุณทาบแนบสนิทกับริมฝีปากของอนงค์ที่ตอบรับการจูบอย่างเต็มใจ ทั้งสองต่างแลกจูบกันพอสมควร จนคุณพระก้มหน้าลงมาที่เต้านมอันอวบใหญ่ ระหว่างที่ท่านกำลังดูดดื่มบนเต้าอันอวบใหญ่ทั้งสองเต้าสลับไปมา ประภานั้นได้ใช้มือไปจับควยที่อ่อนตัวของคุณพระ ถึงมันจะอ่อนตัวแต่มันยังใหญ่กว่าควยของผู้ชายทุกคนที่เธอเคยเจอ มือของเธอรูดควยไปมาปล่อยให้คุณพระซุกไซร้ไปมาบนเต้านมของอนงค์ จนประภาเลื่อนตัวลงมาพร้อมเอาลิ้นเลียไปยังควยที่ยังมีคราบน้ำกามติดอยู่ เธอใช้ริมฝีปากเม้มไปเบาบนลูกกระโปก ก่อนจะเอาปากครอบ

คุณพระนั้นดูดดื่มเต้านมของอนงค์สลับไปมาทั้งสองเต้าพร้อมกัดไปเบาๆบนยอดเต้าทั้งสอง จนท่านดันตัวให้อนงค์ลงไปนอนราบพร้อมบอกให้ประภาหยุดอมควยของท่านที่แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง พออนงค์ลงไปนอนราบคุณพระขึ้นไปนอนทาบบนตัวทันที ริมฝีปากของทั้งคู่นั้นทาบกันสนิทอีกครั้ง ส่วนประภานั้นขยับตัวลงมานอนข้างๆอนงค์ คุณพระเลยขยับตัวมานอนคร่อมตัวของทั้งสอง ท่านดูดนมของทั้งคู่สสลับไปมาพร้อมกัดฝากรอยรักไว้บนเต้าของทั้งคู่ เช่นเดียวกับมือที่เคล้นคลึงนมของทั้งคู่  ทำเอาทั้งประภากับอนงค์นั้นครางออกมาไม่หยุด จนคุณพระขยับตัวลงมาบนเตียง ประภานั้นพลิกตัวลงไปนอนทาบบนตัวอนงค์ทันที พร้อมเอาปากไปประกบกับอนงค์ ซึ่งอนงค์ตอบรับอย่างเต็มที่  ส่วนคุณพระนั้นก้มลงไปจูบตามแผ่นหลังของประภา พร้อมใช้มือเคล้นคลึงไปบนสะโพกของประภา จนประภาเลื่อนหน้าลงมาที่เต้านมของอนงค์ซึ่งอนงค์นั้นแอ่นตัวรองรับทันที ประภานั้นดูดดื่มบนเต้าอันอวบใหญ่สลับไปมาโดยไม่สนคราบน้ำลายของคุณพระที่ติดอยู่ พร้อมเอานิ้วเลื่อนลงไปกรีดที่ร่องหี ทำเอาอนงค์นั้นครวญครางออกมาไม่หยุด

จนอนงค์นั้นทนไม่ไหว เธอดันหัวประภาลงไปด้านล่างซึ่งคุณพระนั้นเลื่อนตัวตาม โคกหีของอนงค์นั้นชุ่มไปด้วยน้ำกามของคุณพระและน้ำเงี่ยนของตัวเองแต่ประภาไม่สนใจเธอเอาลิ้นเลียทันที อนงค์นั้นผวาตัวขึ้นตามด้วยความเสียวถึงจะรู้พิษสงค์ลิ้นของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ส่วนคุณพระนั้นขยับตัวมาด้านหลังประภาพร้อมจับเอวให้ก้นให้สูงขึ้น ซึ่งประภานั้นรีบยกก้นขึ้นทันที คุณพระมองไปยังหีที่ชุ่มฉ่ำตรงหน้าพร้อมเลียก่อนจะเอาหน้าก้มลงไปยังสะโพกท่าน พรมจูบไปทั่งสะโพกของประภา ก่อนจะเอาหน้าฝังไปที่โคกหี พร้อมลิ้นกวาดเข้าไป ประภาเงยหน้าขึ้นมาครางประสานเสียงกับอนงค์แล้วก้มหน้าลงไปลงลิ้นกับโคกหีของอีกฝ่ายมือ พร้อมเอามือทั้งสองไปคลึงไปมายังหัวนมของอนงค์ พร้อมส่ายก้นไปมารับลิ้นของคุณพระ

เสียงครางของอนงค์นั้นดังออกมาไม่หยุด ขณะที่คุณพระยังลงลิ้นกับหีของประภาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเธอนั้นทั้งๆที่เสียวแต่ยังลงลิ้นให้อนงค์ไม่หยุดเช่นกัน จนคุณพระนั้นหยุดเลียหีประภาพร้อมขับตัวให้สูงขึ้น มือทั้งสองของท่านจับไปที่เอวขณะที่ควยนั้นไปจ่อที่รูหี คุณพร้อมนั้นดันควยเข้าไปทันที ทำเอาประภานั้นสะดุ้งถึงจะเจอเย็ดมาไม่รู้กี่ครั้งแต่เธอรู้สึกอย่างเดียวกับอนงค์คือมันคับรูหีของเธอ คุณพระนั้นกระเด้าอย่างไม่ยั้ง มือทั้งสองนั้นเลื่อนไปที่เต้านมของประภาและบีบขยำเคล้นคลึงไปมาพร้อมกับการกระเด้า ซึ่งประภานั้นเด้งรับเป็นจังหวะแต่ยังลงลิ้นไปที่โคกหีขององนค์อย่างต่อเนื่อง ทำให้นอกจากเสียงครางของอนงค์กับคุณพระแล้วยังมีเสียงเนื้อที่กระทบกันนั้นดังประสานกันตลอด  จนอนงค์ส่งเสียงครางออกมายาวๆพร้อมการเกร็งตัวเป็นสัญญาณว่าลิ้นของประภานั้นพาเธอไปถึงจุดหมายแล้ว ประภาจึ้งเงยหน้าขึ้นมาจากโคกหี พร้อมส่งเสียงครางบ้าง

"โอ้ววว แบบนั้นละคะ อู้วเสียยวววว แรงกว่านี้ก็ได้ ภารับไหว ซี๊ดดดดดด โอ้วๆๆๆ"

เสียงครางอันรัญจวนใจของประภานั้นไปกระตุ้นอารมณ์ของคุณพระยิ่งขึ้น ทำให้ท่านกระเด้าแรงและถี่ขึ้นแต่ประภาที่คุ้นชินนั้นสนองตอบตัณหาของคุณพระได้อย่างดี จนคุณพระกระเด้าส่งท้ายพร้อมปล่อยน้ำกามเข้าในรูหีของเธอ เช่นเดียวกับเธอที่ครางออกมาสุดเสียงและเกร็งไปทั้งตัว ก่อนจะซบหน้าไปที่หน้าท้องของอนงค์ ส่วนคุณนั้นใช้มือเคล้นคลึงนมประภาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขยับตัวออกมาและลงนอนข้างๆอนงค์

"เป็นยังไงบ้างคืนนี้"

ท่านถามไปที่อนงค์พร้อมเอามือลูบไปมาบนเต้านม ส่วนประภานั้นเงยหน้าขึ้นและเลื่อนตัวไปนอนด้านข้างของคุณพระ

"ดีเหมือนทุกครั้งคะท่าน"

อนงค์ตอบพร้อมเอามือลูบไปยังควยที่อ่อนตัว ทำเอาคุณพระยิ้มออกมาอย่างพอใจ  ทั้ง 3 ต่างนอนกอดก่ายกันบนเตียงอยู่พักใหญ่ ก่อนที่คุณพระจะไปอาบน้ำในห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนนี้ หลังจากท่านได้แต่งตัวและกลับขึ้นไปยังห้องนอนของท่านด้วยความสบายใจ ปล่อยให้อนงค์กับประช่วยกันจัดการห้องนอนจนเรียบร้อยและสองสาวต่างพากันไปอาบน้ำด้วยกันในห้องน้ำ ต่างช่วยกันทำความสะอาดเนื้อตัวให้อีกฝ่ายจนเกิดอารมณ์กันขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ทั้งคู่ต่างใช้นิ้วของตัวเองสร้างความสุขให้กับอีกฝ่ายจนไปถึงจุดหมายกันอีกครั้งก่อนจะแยกย้ายกลับไปยังตึกที่ตัวเองนั้นดูแลอยู่

อนงค์นั้นเข้ามาทำงานก่อนประภาประมาณครึ่งปี ประวัติของเธอนั้นไม่ธรรมดาเพราะในช่วงวัยสาวเธอเคยทำงานที่บาร์มาก่อน ถึงจะไม่เคยมีผัวเป็นตัวเป็นตนแต่เธอผ่านผู้ชายมาพอสมควร จนอายุเธอเริ่มเยอะขึ้นเธอจึงเปลี่ยนไปทำงานด้านอื่นอีกหลายอาชีพ จนมาเป็นแม่บ้านในบ้านเจ้าสัวคนหนึ่ง ด้วยความที่หน้าตานั้นดีและหุ่นที่อวบอัดทำให้เธอมีความสัมพันธ์ลับๆกับลูกชายคนโตของเจ้าสัว จนภรรยาของเจ้าสัวจับได้และไล่เธอออก แต่ลูกชายของเจ้าสัวนั้นเป็นเพื่อนกับพิไล จึงฝากให้อนงค์มาเป็นแม่บ้านที่บ้านหลังนี้ซึ่งตอนนั้นมีตำแหน่งแม่บ้านว่างอยู่พอดี ซึ่งเธอนั้นทำหน้าที่ได้อย่างดี อนงค์นั้นถึงภายนอกจะดูเรียบร้อย แต่เธอเป็นคนที่ไฟแรงสูงอย่างมาก จนไปสะดุดตากับคุณพระเข้าให้ คุณพระประกอบนั้นถึงจะเข้าสู่วัยชราแต่ยังมีความแข็งแรงอยู่ แถมยังมียาจีนบำรุงสุขภาพชั้นดีคอยบำรุงร่างกาย ทำให้เป็นเสือป่าที่ยังมีเขี้ยวเล็บอยู่ คุณพระนั้นไม่เคยขาดเรื่องผู้หญิง ยิ่งรูปร่างหน้าตาของอนงค์มันสะดุดตาท่านอย่างมาก แถมท่านดูนิสัยคนออก จึงไม่ยากที่จะให้อนงค์มาเป็นนางบำเรอของท่านอีกคนหนึ่ง ตอนแรกอนงค์จำใจยอมเพราะเห็นว่าท่านเป็นเจ้านายใหญ่ในบ้าน แต่พอเจอเข้าไปครั้งแรกลีลาของคุณพระนั้นทำให้เธอหลงใหลอย่างมาก หลังจากวันนั้นเธอเฝ้ารอว่าวันไหนคุณพระจะสั่งให้เธอไปรับใช้

พอประภาเข้ามาทำงาน ประภานั้นเหมือนลูกไก่ในกำมือ ตอนแรกเธอเหมือนกับอนงค์ที่จำใจต้องยอมเป็นนางบำเรอ ซึ่งเธอเองยังแอบด่าคุณพระว่าเป็นตาแก่ตัณหากลับ แต่พอเจอลีลาของคุณพระเข้าไปในครั้งแรก ทำเอาเธอนั้นถึงกับติดใจ ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำให้เธอได้เสียวกับมีความสุขได้ถึงขนาดนี้ แถมควยที่ขนาดใหญ่ยาวที่เธอไม่เคยเจอขนาดนี้มาก่อนยิ่งลีลาการเย็ดที่เธอไม่เคยเจอ และคุณพระเป็นพวกเย็ดอึดเย็ดทน ไม่มีครั้งไหนที่เธอไม่เคยถูกเย็ดแค่ครั้งเดียว อย่างน้อยต้อง 2 ครั้งขึ้นไป ทำให้เธอนั้นหลงใหลคุณพระเป็นอย่างมาก แต่พอคุณพระเกิดอยากให้ทั้งอนงค์กับประภามาร่วมเสียวพร้อมกัน ตอนแรกอนงค์นั้นรู้สึกขยะแขยงไม่เหมือนกับประภาที่เต็มใจ ยิ่งรูปร่างของอนงค์มันดึงดูดใจเธออยู่แล้ว  แต่พอได้ร่วมเสียวกับประภาครั้งแรกมันทำให้อนงค์นั้นติดใจทันที เพราะประภากระตุ้นจุดที่เธอต้องการได้ และสนองความต้องการได้อย่างดี หลังจากวันนั้นอนงค์จึงเต็มใจอย่างมากเวลาที่คุณพระเรียกเธอกับประภาไปร่วมเตียง

ส่วนลึกของอนงค์นั้นถวิลหาประภาตลอด แต่ถ้าไม่ได้มานอนพร้อมกับคุณพระโอกาสนั้นยาก เพราะถ้าจะไปหาถึงตึกที่ดูแลกันอยู่นั้นมันจะผิดสังเกตุ หรือมีคนมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีกับทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างใช้โอกาสที่มานอนกับคุณพระนั้นตักตวงความสุขกันอย่างเต็มที่ แต่ถ้าคุณพระให้ตามไปรับใช้ที่หัวหินด้วยมันจะเป็นโอกาสที่ดีของทั้งคู่ เพราะต้องนอนพักในห้องเดียวกัน ไม่ว่าคืนไหนที่ต้องรับใช้คุณพระหรือไม่ต้องทั้งคู่ต่างระเริงสวาทกันอย่างเต็มที่ ด้วยเรื่องแบบนี้ทำให้ทั้งคู่ต่างเต็มใจที่จะอยู่รับใช้คุณพระอย่างเต็มที่ ซึ่งมะลินั้นพอจะเดาออกว่าคู่ขาสาวใหญ่ของเธอนั้นเป็นนางบำเรอของคุณปู่เธอด้วย แต่เธอไม่สนใจเรื่องนี้ ขอเพียงแค่ประภานั้นสร้างความสุขให้กับเธอก็พอแล้ว

ฝ่ายอนงค์นั้นกลับมาถึงห้องด้วยความอ่อนระโหย แต่พอเธอล้มตัวลงนอนบนเตียงได้ไม่นานเท่าไหร่ประตูห้องนั้นถูกเคาะ อนงค์ถอนหายใจแรงๆ เพราะรู้ว่าใครมาเคาะ  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

kodzilla


Eldy CR

คุณปู่มีไฟติดขนาดนี้ได้ยาดีอะไรน้อ

Nobita Nobituta

คุณพระนี่ไม่ธรรมดาเลย

ryg123456


xonly-1786

ขอบคุณมากครับ ขนาดคุณปู่ยังสู้ไหว แล้วหนุ่มๆจะไม่สู้ได้งัยครับ

Don

ปู่คงยังไม่ตายง่ายๆแน่

แมว69

เนื้อเรื่องดี น่าติดตาม

Fa


Pap Nuttawut


phon14


dick1050

ครบ 1 เดือนพอดีที่หายไป รักษาสุขภาพด้วยนะครับ Twintower // คุณพระนี่ ต่อไปต้องได้เลื่อนเป็น พระยา..เทครัว แน่นอน ไม่ก็หลานไกร มารับเหมาหมดเรือน เพราะสาวๆเยอะเหลือเกิน
Make love Not War

natt4556


xmanza


pinp25513

คุณพระควบสองทุกคืนป่าวแบบนี้