ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_GoDeRsOuL

กามาพลิกชะตา : บทนำ

เริ่มโดย GoDeRsOuL, มิถุนายน 16, 2025, 01:25:07 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

GoDeRsOuL

ซุ่มเขียนเรื่องใหม่นี้มาอยู่พักนึงครับ ถ้าเขียนได้ยาวพอก็จะลงเว็บและทำ Ebook ด้วย
สาเหตุจากอยากเขียน Series 7Sins ต่อ แต่ด้วยความที่โตขึ้น ก็อยากจะ Rewrite โครงเรื่องใหม่อีกแล้ว
ไปๆ มาๆ ก็เลยเขียนใหม่ไปเลยดีกว่า จะเรียกว่าเป็นเรื่อง Remake จาก 7Sins:Lust ก็ว่าได้
ผมพยายามปรับปรุงตามที่หลายๆ ท่านแนะนำ หลักๆ ก็คือเรื่องความยาวต่อตอน ยังไงก็อยากให้ลองอ่านและคอมเม้นท์กันดูครับ

ลงให้อ่านที่นี่ที่แรก ซึ่งจะไม่เหมือนกับที่ลงตามเว็บแบบเก็บเงินตรงการใช้ภาษาที่หยาบคายดิบเถื่อนกว่านิดหน่อยครับ


**ซ่อนตรงSex Scence นะครับ ไม่มีผลต่อเนื้อหาตอน คอมเม้นได้ตามสะดวก**


อ่านตอนก่อนหน้า หรือผลงานเรื่องอื่นๆ ได้ที่ (ห้องสมุด) ของผมครับ
และสามารถสนับสนุนให้กำลังใจในการเขียนงาน และอ่านตอนใหม่ ๆ ล่วงหน้าได้ตามช่องทางดังนี้ครับ

(Fictionlog)
(ธัญวลัย)
(readAwrite)
(Hongsamut)


EBOOK ผู้คุมจิต
เล่ม1
เล่ม2
เล่ม3
เล่ม4
เล่ม5

***ท่านใดติดขัด ไม่สะดวกในการอ่านผ่านเว็บอื่นๆ หรือทำไม่เป็น สามารถเข้ากลุ่ม Line OPENCHAT มาสอบถามหรือพูดคุยเรื่องอื่นๆ ได้ครับ (ไม่ระบุตัวตน)***
กดเข้ากลุ่มที่ Link นี้ >>> OPENCHAT


อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ
(FACEBOOK PAGE)



ปัจจุบัน...

ในความเงียบงันอันเป็นเอกสิทธิ์ของผู้มีอำนาจ... มีเพียงเสียงครวญของแซกโซโฟนจากเพลง "Kind of Blue" ที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในม่านอากาศเย็นฉ่ำ...
เจือด้วยกลิ่นอายของหนังอิตาลี, ไม้จันทน์, และควันซิการ์ที่บอกเล่าเรื่องราวแห่งความสำเร็จ

"เฮียเอก" ในวัยสี่สิบปลาย ยืนพิงผนังกระจกนิรภัยสูงจากพื้นจรดเพดานของเพนท์เฮาส์ส่วนตัว
ในมือของเขาคือแก้วคริสตัลที่บรรจุวิสกี้ The Macallan Sherry Oak อายุ 30 ปี สีอำพันของมันส่องประกายวับวามภายใต้แสงไฟสลัว

เขามองลงไปยังพรมแห่งดวงดาวของกรุงเทพมหานครที่ทอดตัวอยู่เบื้องล่าง...
เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเหมือนอสูรกายที่พร้อมจะขย้ำเขาให้แหลกสลาย...
บัดนี้มันกลับนอนหมอบราบคาบแก้วอยู่แทบเท้าของเขา

เขาคือเจ้าของมัน...
ทุกตารางนิ้ว...
ทุกตรอกซอกซอย...
ทุกความปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ในเมืองนี้ ล้วนไหลมารวมกันเป็นสายธารแห่งความมั่งคั่งเพื่อหล่อเลี้ยงอาณาจักรของเขาทั้งสิ้น

เขาจิบวิสกี้...รสชาติที่นุ่มลึกและซับซ้อนของมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรเป็นพิเศษอีกต่อไปแล้ว
มันเป็นเพียงความเคยชิน...เหมือนกับการหายใจ

ทันใดนั้น...รสสัมผัสของแอลกอฮอล์ราคาแพงกลับไปกระตุ้นความทรงจำที่เขาพยายามฝังกลบ...
ภาพของเหล้าขาวราคาถูกที่บาดคอในวงเหล้าหลังร้านข้าวต้ม...
กลิ่นเหม็นเปรี้ยวของขยะในตรอกมืดๆ...
ความรู้สึกอัปยศอดสูเมื่อถูกเจ้าของร้านตบหน้าเพราะทำจานแตก...

เอกขมวดคิ้วเล็กน้อย...ก่อนจะสลัดความทรงจำอันน่ารังเกียจนั้นทิ้งไป
เขากระดกวิสกี้ที่เหลือในแก้วลงคอในอึกเดียว...ความร้อนของมันแผ่ซ่านลบล้างความขมขื่นในอดีตจนหมดสิ้น

อดีต...มันตายไปแล้ว...เด็กหนุ่มผอมโซคนนั้นได้ตายไปแล้ว
เหลือเพียง "เฮียเอก" ในปัจจุบัน...ราชันย์ผู้ว่างเปล่า

ก๊อก... ก๊อก...

เสียงเคาะประตูที่คำนวณจังหวะมาอย่างดีดังขึ้นสองครั้ง
'ตี๋' มือขวาคนสนิทในชุดสูท Brioni ไร้รอยยับ ก้าวเข้ามา...เหมือนเครื่องจักรที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้
เขายืนสงบนิ่งอยู่ห่างๆ เป็นระยะที่แสดงความเคารพสูงสุด ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาจนกว่าจะได้รับอนุญาต

เอกหันกลับมาจากผนังกระจก เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ Eames Lounge Chair ตัวโปรด ก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณ

"รายงานสรุปประจำเดือนครับเฮีย" ตี๋ก้าวเข้ามาอย่างนอบน้อม วางไอแพดรุ่นล่าสุดลงบนโต๊ะไม้สักขัดเงา

"ยอดรวมทุกสาขาของ 'บุหลัน บาซาร์' เดือนนี้อยู่ที่ 87.4 ล้านบาทครับ ทะลุเป้าไป 15% โดยเฉพาะสาขาทองหล่อที่เพิ่งเปิด ทำกำไรสุทธิไปเกือบ 12 ล้าน... มีเคสลูกค้า VVIP ก่อเรื่องเล็กน้อย แต่ทีมของเฮียตงเข้าไป 'จัดการ' เรียบร้อยแล้วครับ ลูกค้าพึงพอใจมากและเปิดเมมเบอร์ระดับสูงสุดเพิ่ม"

"ส่วน 'ทิพยาลัย โมเดลลิ่ง' ก็เพิ่งเซ็นสัญญากับน้อง 'คะนิ้ง' เน็ตไอดอลยอดติดตามสิบล้านคนเข้าสังกัดเรียบร้อย ตามคำสั่งของเฮีย...คุณแพรได้เริ่ม 'ฝึกสอน' หลักสูตรพิเศษให้แล้ว คาดว่าอีกไม่เกินสองสัปดาห์จะพร้อมให้บริการแขกระดับ VVIP ของเราได้ ตอนนี้คิวจองที่ต้องการ 'ทานมื้อค่ำส่วนตัว' กับน้องยาวไปถึงสิ้นปีแล้วครับ ยอดจองมัดจำล่วงหน้าเข้ามาแล้วกว่าสามสิบล้าน"

เอกเหลือบมองตัวเลขบนจอ...มันเป็นเพียงตัวเลข...ไร้ความรู้สึก
"แล้วเรื่องที่ดินผืนข้างๆ 'คริสตัล บาธ' ล่ะ?"

"เรียบร้อยครับเฮีย ทีมของเฮียตงเข้าไป 'เจรจา' พร้อมกับ 'ของขวัญ' เล็กๆ น้อยๆ รอบล่าสุด เจ้าของเดิมก็ยอมเซ็นขายให้เราแต่โดยดี ตอนนี้เอกสารพร้อมโอนแล้วครับ รอแค่เฮียเซ็นอนุมัติโปรเจกต์ 'The Empress' ก็สามารถเริ่มก่อสร้างได้ทันที"

"ดี" เอกตอบสั้นๆ "เรื่องไอ้เฮียหม่าด้วย"

ตี๋ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา
"อดีตไปแล้วครับเฮีย...หลังจากสารวัตรดาวใช้ช่องโหว่ของกฎหมายฟอกเงินเข้า 'ตรวจสอบพิเศษ' อายัดบัญชีทั้งหมดของมันไปสองรอบติด แถมกรมสรรพากรก็ 'บังเอิญ' ไปเจอหลักฐานการเลี่ยงภาษีย้อนหลังไปเจ็ดปี ตอนนี้กิจการของมันทั้งหมดล้มละลาย ทรัพย์สินถูกยึด ข่าววงในบอกว่ามันกลายเป็นบุคคลล้มละลายที่สิ้นเนื้อประดาตัว กำลังหลบๆ ซ่อนๆ อยู่แถวสลัมคลองเตยครับ"

"ปล่อยมันไป...อย่าให้มันตาย" เอกพูดเสียงเรียบ...เย็นชา "ทำให้มันรู้ว่านรกที่ไม่มีเงินมันเป็นยังไง...ไปได้แล้ว"

"รับทราบครับเฮีย" ตี๋โค้งรับคำสั่ง แต่ยังไม่ทันจะหมุนตัวกลับ เอกก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

"เดี๋ยวก่อน...มีอีกเรื่อง"

ตี๋หยุดนิ่งรอรับคำสั่ง

"ท่าน ส.ส. สมเกียรติ โทรมาหาฉันหรือยัง?"

"ยังเลยครับเฮีย แต่เมื่อตอนบ่าย เลขาของท่านโทรมาถามไถ่เรื่อง 'งบประมาณสนับสนุน' สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าครับ"

เอกหัวเราะในลำคอเบาๆ
"บอกมันไปว่าฉันจะเพิ่มให้สามเท่า แล้วก็ส่งเด็กระดับ S-Class ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไปดูแลท่านที่เซฟเฮาส์ทุกคืนวันศุกร์จนกว่าจะเลือกตั้งเสร็จ...และเตือนความจำท่านด้วยว่าถ้าไม่มี 'งบ' ของฉันในครั้งที่แล้ว ป้ายหาเสียงของท่านคงได้ติดอยู่แค่ตามเสาไฟฟ้า...แล้วก็อย่าลืมเตือนเรื่องค่าเทอมลูกสาวที่เรียนอยู่สวิตเซอร์แลนด์ด้วยล่ะ"

"สุดยอดเลยครับเฮีย"
ตี๋กล่าวอย่างชื่นชม ก่อนจะถอยออกจากห้องไปอย่างเงียบกริบ ปล่อยให้ห้องทั้งห้องกลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

เอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้...ความรู้สึกของการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้ในปลายนิ้วมันช่างน่าเบื่อ...และน่าเสพติดในเวลาเดียวกัน
เขารินวิสกี้แก้วใหม่...แต่ความว่างเปล่าในใจกลับไม่ได้ถูกเติมเต็ม

เขาต้องการ...บางสิ่งบางอย่าง...
บางสิ่งที่พอจะทำให้หัวใจของเขากลับมาเต้นแรงได้อีกครั้ง...

ถึงเวลา...สำหรับความบันเทิงแล้ว

เอกวางแก้ววิสกี้ลงบนโต๊ะข้างกาย...
เสียงคริสตัลกระทบกับผิวไม้เนื้อแข็งดัง "กริ๊ก" เป็นเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบงัน
เขาโบกมือเล็กน้อย...เป็นสัญญาณที่พวกเธอรอคอย

ประตูห้องนอนบานใหญ่เลื่อนเปิดออกอย่างเงียบกริบ...
กลิ่นน้ำหอมของ Jo Malone กลิ่น Peony & Blush Suede อันเป็นเอกลักษณ์ของ "ทิพยาลัย" ลอยฟุ้งออกมาก่อนที่ร่างอรชรของหญิงสาวสองคนจะปรากฏตัวขึ้น
พวกเธออยู่ในชุดคลุมผ้าไหมสีดำสนิทที่ยาวระพื้น...ไม่ได้ปกปิด...แต่เพื่อรอการเปิดเปลื้อง

พวกเธอคือ "เอมมี่" นางแบบสาวลูกครึ่งผมบลอนด์เจ้าของเรือนร่างทรงนาฬิกาทราย
อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกดินระเบิด ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอฉายแววยั่วยวนอย่างเปิดเผย
และ "ลีน่า" สาวหมวยหน้าตาน่ารัก แต่มีสรีระที่ขัดกับใบหน้าอย่างสิ้นเชิง
ผิวขาวราวหยวกกล้วย หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัว และบั้นท้ายที่กลมกลึงงอนงาม

ทั้งสองคือเพชรเม็ดงามระดับท็อปที่ถูก "แพร" คัดเลือกและฝึกฝนมาเพื่อปรนนิบัติเขาโดยเฉพาะในค่ำคืนนี้
พวกเธอไม่ได้เดิน แต่เป็นการเคลื่อนกายที่สง่างามราวกับกำลังร่ายรำ
ทุกย่างก้าวถูกคำนวณมาอย่างดีเพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนพระราชากำลังพักผ่อน
จนกระทั่งมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเขา แล้วคุกเข่าลงบนพรมขนสัตว์อย่างพร้อมเพรียง
ท่วงท่าสง่างามราวภาพวาด ศีรษะก้มต่ำลงเล็กน้อยแสดงความเคารพ

"พวกเราพร้อมแล้วค่ะ...เฮียเอก"
เอมมี่กระซิบเสียงหวาน ดวงตาของเธอช้อนมองเขาอย่างบูชา

เอกไม่ตอบ...เขาเพียงแค่จ้องมองพวกเธอด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
เหมือนจิตรกรที่กำลังพิจารณาผืนผ้าใบว่างๆ หรือเหมือนพยัคฆ์ที่กำลังมองเหยื่อสองตัวที่เดินเข้ามาในกรงของมันเอง

เขากระดิกนิ้วเป็นสัญญาณ...

สองสาวเข้าใจในทันที พวกเธอค่อยๆ ปลดสายคาดเอวของชุดคลุมออกอย่างช้าๆ...พร้อมกัน...
ผ้าไหมสีดำลื่นไหลลงจากบ่าขาวเนียนของพวกเธอ กองลงไปบนพื้นราวกับกลีบดอกไม้สีนิลที่ร่วงโรย
เผยให้เห็นเรือนกายอันงดงามที่สวรรค์สรรค์สร้าง และถูกมนุษย์ที่ชื่อ "แพร" ขัดเกลาจนสมบูรณ์แบบ

เอกลุกขึ้นจากเก้าอี้ ความสูงสง่าและมัดกล้ามที่คมชัดของเขาทำให้สองสาวถึงกับลอบกลืนน้ำลาย
เขาก้าวเข้ามาหาพวกเธอช้าๆ เหมือนราชสีห์ที่กำลังเดินสำรวจอาณาเขต
เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอมมี่ ใช้นิ้วชี้ไล้ไปตามแนวไหปลาร้าของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนลงมาหยุดที่ยอดถันสีชมพูที่แข็งขืนขึ้นมารอรับสัมผัส

"คุณแพรสอนพวกเธอมาดี..." เอกเอ่ยขึ้นครั้งแรก เสียงของเขาทุ้มและกังวาน "ผิวพรรณดี...ไม่มีที่ติ"

เขาบีบเคล้นทรวงอกที่นุ่มหยุ่นของเธอเบาๆ...แล้วตวัดสายตาไปมองลีน่า
"หันหลัง"

ลีน่าสะดุ้งเล็กน้อย...แต่ก็ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
เธอหมุนตัวหันหลังให้เขา เผยให้เห็นแผ่นหลังที่ขาวเนียนและบั้นท้ายกลมกลึงที่สั่นระริกน้อยๆ ด้วยความตื่นเต้น

เอกเดินไปด้านหลังเธอ...วางฝ่ามือใหญ่ลงบนสะโพกทั้งสองข้าง สัมผัสได้ถึงความแน่นกระชับของกล้ามเนื้อ
เขาก้มลงไปกระซิบข้างหูเธอ...ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาทำให้ขนทั่วร่างของลีน่าลุกชัน

"แต่ของเธอ...ดูเหมือนจะแน่นกว่า...ฉันชอบแบบนี้"

"ลีน่า...ลีน่าจะทำให้เฮียพอใจที่สุดค่ะ" เธอตอบเสียงสั่น

"ดี..." เอกพูดก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โซฟาหนังตัวยาว "ถ้าอย่างนั้น...ก็ถึงเวลาทดสอบ"

เขานั่งลงในท่าที่สบายที่สุด ขาข้างหนึ่งพาดอยู่บนที่วางแขน
เผยให้เห็นความเป็นชายของเขาที่ยังคงหลับใหลอยู่ภายใต้ผ้าไหมเนื้อดี แต่ก็พร้อมที่จะตื่นขึ้นมาทุกเมื่อ

"เข้ามาหาฉัน...ทั้งสองคน"

เอมมี่และลีน่าคลานเข่าเข้ามาหาเขาเหมือนลูกแมวเชื่องๆ
พวกเธอหยุดอยู่ตรงหว่างขาของเขา...รอคอยคำสั่งต่อไป

"ฉันเบื่อแล้ว..." เอกพูดเสียงเรียบ "ทำให้ฉันสนุกหน่อยสิ...แข่งกัน...ว่าใครจะทำให้ควยของฉัน ตื่นขึ้นมาได้ก่อนกัน... และใคร...ที่จะทำให้ฉันพอใจได้มากกว่า"

สิ้นคำประกาศิต...
การแข่งขันอันเร่าร้อนก็เริ่มต้นขึ้น

เริ่มซ่อนตรงนี้ครับ

 

...

ความเงียบกลับเข้ามาเยือนอีกครั้ง...

มันเป็นความเงียบที่หนักอึ้ง แตกต่างจากความเงียบสงบในตอนแรก
ตอนนี้มันอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวของเซ็กส์และเหงื่อ ผสมกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพง เป็นกลิ่นของความเสื่อมโทรมที่หรูหราที่สุด

เอกถอนแก่นกายที่เริ่มอ่อนตัวลงเล็กน้อยออกจากร่างของลีน่า
ของเหลวสีขาวขุ่นไหลทะลักย้อนออกมา เปรอะเปื้อนไปทั่วโซฟาหนังราคาหลายล้านบาท

เขามองดู "ผลงาน" ของตัวเอง สองนางแบบระดับท็อปนอนกองสลบไสลอยู่บนพื้นพรมและโซฟาในสภาพที่น่าสมเพชและน่าเย้ายวนใจในเวลาเดียวกัน
ร่างกายเปลือยเปล่าของพวกเธอเต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบจากการบีบเคล้นและขบเม้มของเขา
ใบหน้าที่เคยสวยงามไร้ที่ติตอนนี้กลับเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาและน้ำลาย
พวกเธอไม่ได้แค่หลับ แต่เหมือนคนที่ถูก "ทำลาย" จนไม่เหลือซาก ถูกดูดกลืนพลังชีวิตไปจนหมดสิ้น

เอกลุกขึ้นยืน ร่างกายของเขาไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย
เขากลับรู้สึก "เต็ม" ยิ่งกว่าเดิม...

เขาเดินผ่านร่างของพวกเธอไปอย่างไม่ไยดี
เหมือนเดินผ่านเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง ก่อนจะไปรินวิสกี้แก้วใหม่ให้ตัวเอง...

เขากลับไปยืนที่เดิม ริมผนังกระจกบานใหญ่
จิบของเหลวสีอำพัน แล้วทอดสายตามองอาณาจักรของเขาที่อยู่เบื้องล่าง

ชัยชนะในค่ำคืนนี้ ก็เหมือนชัยชนะในทุกๆ คืน
มันให้ความพึงพอใจ...
แต่เป็นความพึงพอใจที่จืดชืด... ว่างเปล่า...

เขายกมือข้างที่ถือแก้วขึ้นมา มองดูฝ่ามือของตัวเอง
มือที่ตอนนี้สามารถเซ็นเช็คเพียงใบเดียวเพื่อซื้อชีวิตคนได้...
มือที่สามารถลูบไล้ร่างกายของผู้หญิงที่สวยที่สุดได้ตามใจชอบ...

แล้วภาพในอดีตก็ซ้อนทับขึ้นมา...
...ภาพของมือเดียวกันนี้...แต่เล็กกว่า...หยาบกร้านกว่า...
กำลังถูกเจ้าของร้านข้าวต้มอ้วนฉุตบเข้าอย่างแรงจนหน้าสะบัด โทษฐานที่ทำจานบะหมี่ตกแตก...

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของลูกค้าในร้านยังคงก้องอยู่ในหู...
ความร้อนผ่าวที่ใบหน้า...และความอัปยศที่กัดกินหัวใจ...

เอกสบัดศีรษะไล่ภาพนั้นทิ้ง เขาหันกลับมามองเงาสะท้อนของตัวเองบนกระจกอีกครั้ง

ภาพของ "เฮียเอก" ราชันย์แห่งนครราตรีผู้ยิ่งใหญ่
กับภาพของ "ไอ้เอก" เด็กหนุ่มล้างจานผู้ไร้ค่า
กำลังยืนจ้องหน้ากันผ่านแผ่นกระจกที่กั้นระหว่างปัจจุบันกับอดีต

เขาคือราชาบนบัลลังก์ที่ยิ่งใหญ่ หรือเป็นแค่นักโทษในกรงทองที่เขาสร้างขึ้นเอง?

คำถามนี้ไม่มีคำตอบ... และเขาอาจจะไม่อยากรู้มันอีกต่อไปแล้ว

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้...

เรื่องราวทั้งหมดของ "เฮียเอก"...

มันเริ่มต้นจากศูนย์...

ไม่สิ...

...จากติดลบต่างหาก




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ryg123456

น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า คนอย่างเสี่ยรอบต้องจัดเป็นธรรมดา




ชาเลิศ สถิตบุญเลิศ


Una




jamjam jam

อดีตอันขมขื่น เมื่อผ่านมาได้ ก็จะแข็งแกร่งขึ้น เฮียเอกผ่านอะไรมาบ้างนะ

romajoe

เริ่มเรื่องมาก็ปูมาได้อย่างน่าติดตามน่าสนใจมากครับ

jarbmong

เปิดเรื่องมาก็ตื่นเต้นน่าติดตาม

komratouy