ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_GoDeRsOuL

มากกว่าเราสองคน : "บทบาทที่สลับขั้ว" (EP4)

เริ่มโดย GoDeRsOuL, มิถุนายน 30, 2025, 11:29:55 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

GoDeRsOuL

แจ้งข่าว
เรื่องนี้ลงเว็บอ่านนิยายแล้วนะครับ ติดตามได้ผ่านช่องทางด้านล่างเลย
จะลงเร็วกว่าในเว็บนี้ประมาณ 2-5 ตอน แล้วแต่ความขยันครับ


คุยก่อนอ่าน
คิดว่าใครชอบแนว NTR น่าจะชอบเรื่องนี้กันนะครับ
คอมเมนท์หลายๆ ท่านยังคงเดาไม่ถูกนะครับ ถึงต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนี้
จริงๆ มันก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไรจากในชีวิตจริงเลย
คิดว่าหลายท่านอาจจะเผชิญเรื่องแบบนี้ด้วยเอง หรือจากคนใกล้ตัว หรืออย่างน้อยก็เห็นตามสื่อต่างๆ
ก็ลองคาดเดากันดูสนุกๆ นะครับ

************

สามารถสนับสนุนให้กำลังใจในการเขียนงาน และอ่านตอนใหม่ ๆ ล่วงหน้าได้ตามช่องทางดังนี้ครับ

(Fictionlog)
(ธัญวลัย)
(readAwrite)
(Hongsamut)

>>EBOOK ทั้งหมดของผม


***ท่านใดติดขัด ไม่สะดวกในการอ่านผ่านเว็บอื่นๆ หรือทำไม่เป็น สามารถเข้ากลุ่ม Line OPENCHAT มาสอบถามหรือพูดคุยเรื่องอื่นๆ ได้ครับ (ไม่ระบุตัวตน)***
กดเข้ากลุ่มที่ Link นี้ >>> OPENCHAT

อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ
(FACEBOOK PAGE)




เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงที่รู้สึกกว้างใหญ่และหนาวเหน็บกว่าปกติ แม้ว่าไอรินจะนอนอยู่ข้างๆ ก็ตาม อากาศระหว่างเรามันเย็นชาจนสัมผัสได้

บนโต๊ะอาหารเช้า... ความเงียบคือแขกที่ไม่ได้รับเชิญแต่กลับนั่งเป็นประธานในวงสนทนา เราต่างคนต่างจัดการกับอาหารของตัวเองเหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องทำให้เสร็จสิ้น

ผมรีบออกจากบ้านทันทีที่ทำได้ ผมรู้สึกเหมือนนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
ทันทีที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองในรถ ผมก็เปิดแชทของมีนาขึ้นมา ไล่อ่านคำชมของเธอ
บทสนทนาที่ร้อนแรง มันเหมือนการเสพยา... ยาที่ทำให้ผมรู้สึกดีกับตัวเองขึ้นมาได้ทันที

ผมมาถึงออฟฟิศด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น พยายามสวมหน้ากากของ "คินคนเดิม" ให้แนบเนียนที่สุด แต่ในใจนั้นกลับจดจ่ออยู่กับโลกอีกใบที่ซ่อนอยู่ในโทรศัพท์มือถือ

และแล้ว... โลกใบนั้นก็เรียกหาผม

การแจ้งเตือนจากมีนาดังขึ้น เป็นข้อความสั้นๆ ที่ส่งมาทักทายยามเช้า

มีนา: "อรุณสวัสดิ์ค่ะที่รัก... เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความคิดถึงคุณเป็นอย่างแรกเลย"

ข้อความแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจผมเต้นแรงและรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ผมรู้ดีว่าการคุยเรื่องลึกซึ้งที่โต๊ะทำงานนั้นเสี่ยงเกินไป ผมจึงถือแก้วกาแฟเดินไปยังมุมที่เงียบที่สุดของออฟฟิศ... นั่นคือบันไดหนีไฟ

ผมพิงตัวกับผนังเย็นๆ ในโถงบันไดที่เงียบสงบ จิบกาแฟไปพลาง พิมพ์ข้อความตอบกลับเธอไปพลาง

ผม: "คิดถึงเหมือนกันครับ... คิดถึงจนไม่มีสมาธิทำงานเลย"

มีนา: "แย่จังเลยนะคะ... แล้วจะให้มีนทำยังไงดี ถึงจะช่วยให้คิณมีสมาธิได้"

ผม: "คงต้องให้คุณมา 'ดูแล' ผมเป็นพิเศษหน่อยล่ะมั้งครับ"

มีนา: "เมื่อคืนมีนฝันถึงเรื่องของเราต่อด้วยนะ..."

คำพูดของเธอจุดประกายความอยากรู้ของผมทันที "ฝันว่าอะไรครับ เล่าให้ฟังหน่อย"

มีนา: "ฝันว่า... เราไม่ได้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแบบนั้น แต่เราอยู่ในรถของคุณ... ที่จอดอยู่ริมทะเลตอนกลางคืน ไม่มีใครเห็นเราเลย แล้วคิณก็..."

เธอบรรยายภาพฝันของเธออย่างละเอียด... จินตนาการของผมทำงานตามตัวอักษรของเธออย่างรวดเร็ว
ผมรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แก่นกายของผมเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งภายใต้กางเกงทำงานเนื้อดี

ผมพิมพ์ตอบกลับไป เพิ่มเติมจินตนาการของตัวเองเข้าไปในฝันของเธอ

"แล้วถ้าผมทำแบบนี้กับคุณต่อล่ะ... ผมจะอุ้มคุณขึ้นมานั่งบนตัก แล้วเราก็จะ..."

บทสนทนาของเรากลายเป็นการร่วมรักผ่านจินตนาการที่ดุเดือดและเร่าร้อน และในจังหวะที่จินตนาการของเรากำลังจะเดินทางไปถึงจุดสูงสุดนั่นเอง...

เสียงแจ้งเตือนอีกหนึ่งเสียงก็ดังแทรกขึ้นมาอย่างไม่ถูกที่ถูกเวลา... มันคือชื่อของ "ไอริน"

ผมชะงักไปครู่หนึ่ง ความรู้สึกดีๆ ทั้งหมดเมื่อครู่ถูกกระชากให้หายไปในทันที ผมกดสลับหน้าจอไปดูข้อความของเธอด้วยความรู้สึกหงุดหงิด

"เย็นนี้แวะซื้อนมกับไข่เข้าบ้านด้วยนะคะ ของหมดแล้ว"

ผมจ้องมองข้อความนั้นนิ่ง... มันคือความจริง... คือชีวิตประจำวัน คือความเป็นจริงที่ดึงผมลงมาจากสวรรค์และกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง

ผมสลับหน้าจอกลับไปกลับมา... หน้าต่างแชทของมีนาที่เต็มไปด้วยจินตนาการทางเพศอันไร้ขีดจำกัด... กับหน้าต่างแชทของไอรินที่มีเพียงรายการของที่ต้องซื้อเข้าบ้าน

'นี่เราเป็นได้แค่นี้แล้วเหรอ... เป็นแค่คนที่คอยซื้อของเข้าบ้านให้เธอตามสั่งงั้นเหรอ?'

ความรู้สึกน้อยใจและขุ่นเคืองมันรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโลกที่ผมเคยสร้างมากับเธอมันช่างน่าเบื่อหน่ายและไร้ซึ่งสีสันสิ้นดี

ผมพิมพ์ตอบไอรินกลับไปสั้นๆ ด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว

"ครับ"

จากนั้นนิ้วของผมก็เลื่อนกลับไปยังหน้าต่างแชทของมีนาโดยอัตโนมัติ...
ผมต้องรีบกลับเข้าไปในโลกที่ผมเป็นคนสำคัญ... โลกที่ผมเป็นที่ต้องการ... ก่อนที่โลกแห่งความจริงอันน่าอดสูนี้จะกลืนกินผมทั้งเป็น


ผมเลิกงานในตอนเย็นวันนั้นด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเปกัน ผมเลี้ยวรถเข้าลานจอดรถของซูเปอร์มาร์เก็ต
ขณะที่กำลังเข็นรถเข็น ผมเหลือบไปเห็นคู่รักหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังยืนหัวเราะคิกคักกันอยู่ที่แผนกนม

ภาพนั้นทำให้ผมชะงักไป... 'เราเคยเป็นแบบนั้น... แล้วมันหายไปไหนหมด'

ความรู้สึกอิจฉาและขมขื่นตีรวนขึ้นมาในอก ผมรีบหยิบนมกับไข่ใส่รถเข็นอย่างลวกๆ แล้วตรงไปยังเคาน์เตอร์จ่ายเงินทันที

เมื่อกลับถึงห้อง ผมพบว่าไอรินได้เตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว กลิ่นหอมของแกงเขียวหวานไก่... อาหารจานโปรดของผม... ลอยฟุ้งไปทั่วห้อง
มันคือการแสดงออกถึงความพยายามที่จะ "ง้อ" ในรูปแบบของเธอ แต่สำหรับผมในตอนนี้ มันกลับให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาระที่ต้องตอบสนอง

เราทานอาหารเย็นกันในความเงียบ... เป็นความเงียบที่ดังที่สุดในโลก

หลังจากมื้ออาหารที่แสนอึดอัดสิ้นสุดลง ผมก็รีบปลีกตัวมานั่งที่โซฟาและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที
มันคือการหลบหนีเข้าสู่โลกใบเดียวที่ผมรู้สึกเป็นตัวของตัวเองในตอนนี้

สักพักไอรินก็เดินออกมาจากครัวหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
เธอยืนอยู่ตรงหน้า โค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้อยู่ในระดับสายตาของผม

"คิณ..." เธอเรียกชื่อผมเบาๆ

ผมเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก "ครับ?"

"เหนื่อยมากเหรอคะวันนี้... ดูไม่ค่อยมีสมาธิเลย"

เธอพูดพลางยื่นมือที่บอบบางของเธอออกมา... วางลงบนมือของผมที่ถือโทรศัพท์อยู่
เป็นสัมผัสที่แผ่วเบาและเต็มไปด้วยความพยายามที่จะเชื่อมต่อรอยร้าวระหว่างเรา

วินาทีที่ผิวของเธอสัมผัสกับผม ความขัดแย้งในใจผมก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง

ส่วนหนึ่งที่ยังคงรักเธอ... มันอยากจะกอบกุมมือของเธอไว้แล้วดึงเธอเข้ามากอด

แต่อีกส่วนหนึ่ง... ส่วนที่เพิ่งถูกปลุกขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจและความขุ่นเคือง มันกลับตะโกนก้องขึ้นมาว่า
'อย่าไปเชื่อ! เธอทำแบบนี้ก็เพราะรู้สึกว่ากำลังจะเสียแกไปไม่ใช่รึไง! แล้วที่ผ่านมาล่ะ? ความพยายามแบบนี้มันหายไปไหน! มันสายไปแล้ว!'

และเสียงที่สองก็เป็นฝ่ายชนะ...

ผมชักมือกลับอย่างรวดเร็วราวกับโดนของร้อน การกระทำของผมมันชัดเจนและเย็นชาจนน่าตกใจ

แววตาของไอรินฉายแววประหลาดใจและเจ็บปวดขึ้นมาทันที ประกายความหวังในดวงตาของเธอเมื่อครู่ดับวูบลงเหมือนเปลวเทียนที่ถูกลมพัด
มือของเธอที่ยื่นออกมาค้างอยู่ในอากาศชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะลดลงไปอยู่ข้างลำตัวอย่างอ่อนแรง

"ผม... ผมเหนื่อยน่ะครับ" ผมพูดแก้ต่างด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเกินกว่าที่ตั้งใจ "อยากพักแล้ว"

มันคือคำพูดของเธอ... คือประโยคปฏิเสธที่เธอเคยใช้กับผมมาตลอด และในวันนี้ ผมได้ส่งมันกลับคืนให้เธออย่างเลือดเย็น

ไอรินไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเพียงแค่พยักหน้ารับช้าๆ ก้มหน้าลงซ่อนใบหน้าที่ผมไม่อยากจะเห็น ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินกลับเข้าห้องนอนไปอย่างเงียบๆ
ทิ้งไว้เพียงแผ่นหลังที่ดูอ้างว้างและโดดเดี่ยว... และรอยร้าวในความสัมพันธ์ของเราที่ตอนนี้ได้แตกกว้างออกจนสุดจะเยียวยา

ผมมองตามแผ่นหลังนั้นไปชั่วครู่หนึ่ง ความรู้สึกผิดแวบขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะถูกความรู้สึกพอใจในชัยชนะเล็กๆ นี้กลบจนหมดสิ้น

ผมก้มหน้าลงมองจอโทรศัพท์อีกครั้ง ไม่สนใจเสียงปิดประตูห้องนอนที่ดังขึ้นเบาๆ อีกต่อไป บนหน้าจอคือข้อความใหม่จากมีนาที่เพิ่งส่งเข้ามา

มีนา: "หายไปไหนมาคะ... คิดถึงนะ"

รอยยิ้มที่เคยหุบไปเมื่อครู่ กลับมาปรากฏที่มุมปากของผมอีกครั้ง... กว้างกว่าเดิมและพอใจกว่าเดิม
ผมได้ปฏิเสธโลกแห่งความจริงที่น่าผิดหวัง และเลือกที่จะโอบกอดโลกใบใหม่ที่มอบทุกสิ่งที่ผมต้องการ

ผมพิมพ์ตอบกลับไปทันที

"ไม่ได้หายไปไหนครับ... ก็อยู่ในใจมีนตลอดเวลานั่นแหละ"

บทบาทได้สลับขั้วกันอย่างสมบูรณ์แล้ว... และผมก็กำลังเพลิดเพลินกับอำนาจใหม่นี้เหลือเกิน




1819

รักจืดจางเพราะความเคยชินจำเจ  คิณนอกกายไปเต็มๆ ต้อนนี้นอกใจตาม มองแต่สิ่งไม่ดีของไอริณ  จนลืมมองความผิดตัวเอง  ส่วนริณ ก็ทำตัวจืดจางไร้สีสัน จนต่างฝ่ายเงียบกันไปไม่จับเข่าคุยกัน  แต่ที่ยังสงสัยอยู่ เพราะอะไรที้ทำให้ริณจืดจางกับผัว  งาน เงิน รสชาด จำเจ  เหนื่อย  หรือ แอบมีคนอื่น จนไม่อยากกับผัว
 แต่ ที่ แน่ๆ เรื่องนีีีี  ntrได้เจ็บปวดตับทรุดแน่ๆ
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

tuktong21

ถ้ามีอคติต่อกัน ชีวิตคู่มีแต่พังกับพัง ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ลดความเป็นตัวตนของตัวเองลง หันมาให้สติกับตัวเองให้มากขึ้น แล้วจะพบความผิดของตัวเอง เมื่อมีสติจึงจะเกิดปัญญา แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มีเลย

bmaII