ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

รสสวาทซาบซ่าน ตอนที่ 1 (ก๊อปมาคับ)

เริ่มโดย hippo, พฤศจิกายน 01, 2009, 02:57:03 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

hippo

### ตอนที่ 1 รสสวาทซาบซ่าน###

ณ คฤหาสน์โอ่อ่า ของท่าน เจ้าคุณนิตินาถ ข้าราชการ บำนาญ ผู้ทรงเกียรติและมั่งคั่งผู้หนึ่งในย่าน บางกะปิ
ท่านเจ้าคุณผู้เป็นเจ้าของตึกหลังสง่างาม นี้เป็นที่เคารพนับถือ ของคนทั่วไปในย่านนี้ เพราะท่านตั้งแต่ครบเกษียณอายุรับบำนาญ ท่านก็ประกอบการค้า โดยท่านมีหุ้นส่วนอยู่กับบริษัท การค้าใหญ่ๆ หลายบริษัท และมีหุ้นส่วนอยู่ในโรงงาน อุตสาหกรรมอีกหลายแห่ง อุปนิสัย ใจคอของท่าน เต็มไปด้วยความกรุณาปราณีและ โอบอ้อมอารีต่อเพื่อนบ้านทุกคนไม่เลือก สภาพฐานะ ท่านให้ความสนิทสนมคุ้นเคยเป็นกันเองถ้วนหน้า ยังความชื่นชม และเคารพนับถือในตัวท่านเพิ่มพูน ทวีขึ้นในจิตใจชาวบ้านทั่วไป
ท่านเจ้าคุณอรรถฯ มีภรรยาคือคุณหญิง อรรถนิตินาถ มีบุตร ที่เกิดกับคุณหญิง 6 คน คือ ดวงใจ วาสนา บุษบา วารุณี เป็นหญิงเรียงตาม ลำดับ คนที่ 5 เป็นชาย ชื่อ นที คนสุดท้องเป็นหญิง ชื่อ เพียงใจ
"ดวงใจ" บุตรคนหัวปี มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า ใหญ่ อายุ 25 ปี คนที่ 2 วาสนา เรียกกันว่า กลาง วัย 23 ปี คนที่ 3 บุษบา วัย 21 ปี เรียกกันว่า หญิงเล็ก และคนที่ 4 วารุณี วัย 20 ปี พี่ๆเรียกกันว่าหญิงน้อย คนที่ 5 นที วัย 19 ปี และคนที่ 6 เพียงใจ วัย 18 ปี ชื่อเล่น นิด
นับว่าเป็นวาสนาของตระกูลอรรถนิตินาถ เพราะมีฐานะอัน มั่งคั่งสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สิน ท่านเจ้าคุณจึงให้การศึกษาแก่บุตร ทุกๆคนเต็มที่ ดวงใจบุตรสาวคนโต สำเร็จการวิชาพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี จากมหาวิทยาลัย และเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของท่าน เจ้าคุณผู้บิดา ส่วนวาสนา บุตรสาวคนรอง สำเร็จอักษรศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว และเป็นอาจารย์สอนอยู่ ร.ร.แห่งหนึ่ง ส่วนคนที่ 3 บุษบา เป็นนิสิตปี 4 อยู่ในคณะ วิทยาศาสตร์ ส่วนคนที่ 4 วารุณี ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยปี 1
บุตรชายคนเดียวของท่านมีใจรัก และสนใจ ฝักใฝ่วิชาทหาร เพราะพิสมัยเครื่องแบบอันสง่างาม อย่างใจจดใจจ่อจึงเข้าเรียนอยู่ใน ร.ร.ทหาร ขณะนี้เป็นนร.นายร้อยห้อยกระบี่ปี 3 แล้ว คนสุดท้อง อันเปรียบประดุจแก้วตาแก้วใจของท่านเจ้าคุณและ คุณหญิง กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 สิ่งที่จะต้องกล่าวถึงอย่างขาดมิได้ก็คือ บุตรสาวของท่านเจ้าคุณ นิตินาถแต่ละนาง ล้วนแต่เป็น หญิงสาวที่เลอโฉมทั้งสิ้นจนเป็นที่ยอมรับ และกล่าวขวัญ ถึงเป็นเสียงเดียวกันทั่วไปว่า ท่านเจ้าคุณเป็นผู้มีลูกสาวสวย อย่างที่จะหาใครในย่านนี้มาเปรียบได้
ทุกสาวมีเสน่ห์ไปคนละแบบ เก๋ จริตกริยา แพรวพราว เป็นที่พึงใจ แก่ผู้ที่พบเห็น แม้แต่เพียงใจ บุตรสาวคนสุดท้องซึ่งมีอายุเพียง 17 ปี ก็งามพริ้ง และเฉิดโฉมแบบสาวรุ่นทีนเอจ จึงไม่ต้องสงสัยว่า คฤหาสน์หลังงามนี้ จะไม่เต็มไปด้วยชายหนุ่มที่มีฐานะดีทั้งหลาย ที่ต่างก็มุ่งหมายปองหาทางเป็ดบุตรสาวของท่านเจ้าคุณกันทั้งนั้น
จนกระทั่งป่านนี้ ดวงใจ บุตรสาวคนโต ของท่านเจ้าคุณ ซึ่งมีอายุเข้าวัย เบญจเพศพอดี วัยสาวกำลังเบ่งบานเต็มที่ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลงเอย กับบุรุษหนุ่มคนใด ทั้งๆที่มีผู้มาติดพันหล่อนมากต่อมาก ในบรรดา ชายหนุ่มทั้งหลายเหล่านี้ มีตั้งแต่ นายพัน พ่อค้า คหบดีอีกหลายคนที่หมายปอง และหวังจะได้หล่อนเป็นคู่ครอง
แต่ละคนเฉิดฉายและเด่นในสังคม มีชื่อเสียง หอมฟุ้งขจรขจาย เพราะความมีฐานะดี มีเงินทองใช้อย่างฟุ่มเฟือย ย่อมเด่น และหรูหรา ในสังคมเป็นธรรมดา
วันนั้น เป็นวันอาทิตย์ในฤดูร้อน แม้ว่าเวลา ในขณะนั้นเพิ่งจะ 7.00 น.ตรง แต่แสงแดดในยามเช้าของ ฤดูนี้ส่องแสงแผดจ้ากว่าฤดูอื่นๆ ประกอบกับเป็นวัน หยุดงาน จึงไม่มีใครรีบตื่นแต่เช้า
ห้องนอนที่เฉลียงตึกด้านหน้า ซึ่งเป็นห้องนอนของวารุณี นิสิตสาว บุตรสาวคนที่ 4 ของท่านเจ้าคุณนิตินาถนั่นเอง
ประตูห้องปิดแน่นสนิท แสดงว่าเจ้าของห้อง สาวสวยยังไม่ตื่นจากที่นอน จริงอยู่ตามปกติหล่อน จะต้องนอนที่หอพัก นักเรียนแพทย์หญิงในโรงพยาบาล แต่วันนี้ เป็นวันอาทิตย์ หล่อนหยุดจึงมาค้างที่บ้านได้ และหล่อนก็อยากจะนอนตื่นสายๆ พักผ่อนให้สบาย สมกับที่นานๆ จะได้มาค้างที่บ้านสักครั้ง
ขณะนั้นดวงใจ หรือพี่ใหญ่ของน้องๆเดินตรงมา ที่ประตูห้องนอนของ วารุณี หล่อนแต่งกายแบบลำลอง อยู่กับบ้าน คือสวมกางเกงแพรสีแดง เลือดนกกับเสื้อพวงมาลัยหลวมๆ ใบหน้าของหล่อนถูกตบแต่งแต่พองาม หล่อนยกมือดึงลูกบิดประตูห้องนอนของน้องสาว รู้สึกว่าน้องสาวได้ใส่กลอน ข้างในไว้แน่น แสดงว่าเธอ ยังไม่ตื่น จึงยกมือเคาะหน้าประตูเบาๆเป็นเชิงเรียก
"น้อยจ๋า...น้อย ตื่นเถอะน้อง... สายแล้วนะ... ตื่นเถอะ...น้อย"
ดวงใจเคาะประตูพลางเรียกพลาง สักครู่มีเสียงฝีเท้าเดินมาถอดกลอน ประตูแล้วเปิดออกมา
จริงดังคาด วารุณีเพิ่งตื่นท่าทางยังงัวเงีย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดวงใจจึง ก้าวเข้าไปภายในห้องพลาง สัพยอกน้องสาวด้วยเสียงแกมหัวเราะ
"แหม...คุณหมอนอนตื่นสายจนตะวันโด่งฟ้ายังงี้ คนไข้มิรอแย่หรือ"
พูดพลาง ก็เดินตรงไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง หน้าโต๊ะเครื่อง สำอางค์ของน้องสาวคนงาม พลางมองภาพของตัวเองในกระจกเงา บานใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้านั้น และกล่าวต่อไป
"อดนอนมาจากไหนกันนะ เห็นกลับจากบ้าน คุณอาว์พระ ตั้งแต่ 2 ทุ่มเศษ"
ดวงใจหมายถึงคุณพระอรุณสวัสดิรักษ์ เพื่อนสนิทของ ท่านเจ้าคุณอรรถฯ ผู้เป็นบิดา ของหญิงสาว ที่บ้านทุ่งมหาเมฆ ซึ่งบรรดา ลูกๆของท่านเจ้าคุณเรียกว่าคุณอาว์พระ
วารุณีเดินมาที่เตียงนอนอย่างเดิมและล้มตัวลงนอน ท่าทางเหมือน อยากจะนอนต่ออีก ปากก็ตอบพี่สาวอย่างเนือยๆ
"แหม...พี่ใหญ่ละก้อ...นานๆน้อยนอนตื่นสายสักที ขอนอนให้สบาย อีกชั่วโมงนะคะ พี่ใหญ่"
"นี่โมงกว่าแล้วนะ..น้อย พี่ตั้งใจจะมาชวนน้องไป เที่ยวบ้านสวนด้วยกัน นานๆ จะได้ไปสักที พี่อยากทาน มะพร้าวอ่อนน้ำหอมที่สวน จึงมาชวนไปด้วยกัน ไปไหมล่ะ"
ดวงใจเอ่ยชวนน้องสาวไปเที่ยวสวนของ ท่านเจ้าคุณบิดา ในคลองบางกอกน้อย ซึ่งเป็นสวนผลไม้หลายชนิดท่านเจ้าคุณจ้างคน เฝ้าไว้ นานๆ จึงพากันไปเที่ยวสักครั้ง"
"น้อยไม่เห็นจะสนุกเลย นั่งเรือนานๆ เบื่อจะตาย"
"โธ่...กะแค่นั่งเรือหางยาว 15 -20 นาที บ่นเบื่อเสียแล้วไปด้วยกัน เถอะน่า ชวนกลางและน้องเล็ก ไปด้วยจะได้สนุก"
"ถ้าพี่กลางกับพี่เล็กไป บางทีน้อยจะไปด้วยค่ะ ..พี่ใหญ่"
"อ๋อ..สองคนนั่นไม่ต้องห่วง ไปแน่นอน เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมาชวน พี่ยิก ๆ พี่เห็นว่าขาดน้อย เลยบอกให้ไปพร้อมๆกัน"
"จะไปกันกี่โมงคะ..พี่ใหญ่"
"สัก 10 โมงกว่าๆดีไหม ไปทานอาหารกลางวัน ที่สวนเลยนะ" ดวงใจตอบน้องสาว
"ค่ะ...ดีเหมือนกัน แล้วพี่กลางกับพี่เล็กไปไหน คะ...พี่ใหญ่"
"คุณพ่อให้เอากล้วยไม้ที่ชำไว้ ไปให้คุณอาว์พระ ที่บ้านตั้งแต่เช้า เดี๋ยว คงกลับ"
"เอ๊ะ...ไปบ้านคุณอาว์พระ! " หญิงสาวอุทานเบาๆท่าทางผิดปกตินิด ๆ
ดวงใจสังเกตดูกริยาอันแปลกประหลาด ด้วย ความสนใจ
"ทำไมจ๊ะ...น้อย เมื่อคืนไปเจาะเลือดคุณอาว์พระ ไปตรวจดูเชื้อมาเลเรีย เป็นไงบ้าง"
"อ้า..ค่ะ" วารุณีตอบ อึกๆ อักๆ
"เอ๊ะ...ทำไมพอพูดถึงคุณอาว์พระ น้อยจึงทำหน้า ยังงั้นด้วยล่ะ.. .มีอะไรหรือ" ดวงใจซักขึ้นเมื่อเห็นวารุณีพูดจาอ้ำๆอึ้งๆ
"เปล่าค่ะ ...เปล่า อ้า...น้องเจาะแล้วส่งตรวจที่ ห้องแพทย์ของโรงพยาบาล แล้วกลับมาถึงบ้านเอา 2 ทุ่มกว่าๆ อย่างที่พี่ใหญ่เห็นนั่นแหละค่ะ" วารุณีตอบอ้อมแอ้ม
ดวงใจสังเกตอากัปกริยาน้องสาวได้ชัด จึงแกล้งถามไปเรื่อยๆ
"แล้วเป็นไงบ้างจ๊ะคุณหมอ คุณอาว์พระ มีเชื้อมาเลเรีย อย่างที่ท่าน สงสัยหรือเปล่า"
"ยังไม่ทราบผลดอกค่ะต้องวันจันทร์จึงจะทราบ อ้าพี่ใหญ่ค่ะ หนูอยากจะคุยเรื่องอะไรกับพี่ใหญ่ สักหน่อย พี่ใหญ่มาในห้องหนูก็ดีแล้ว แล้วนี่คุณพ่ออยู่หรือเปล่าคะ"
"ท่านไปดอนเมืองจ๊ะ ไปส่งเพื่อนไปเครื่องบิน คงกลับก่อนเที่ยง มีอะไรหรือน้อย"
"ค่ะ...น้อยอยากปรึกษาอะไรกับพี่ใหญ่ สักเล็กน้อย เดี๋ยวก่อนนะคะ หนูไปปิดประตูก่อน"
พูดจบวารุณีก็เดินไปลงกลอนประตู กริยาเช่นนี ้ดวงใจสังเกตไว้ โดยตลอด เมื่อปิดแล้วหล่อนก็กลับมาที่พี่สาวนั่งอยู่ พลางฉุดแขนพี่สาว มานั่งบนเตียงนอน และพูดเกือบเป็นเสียงกระซิบ
"พี่ใหญ่ค่ะ...หนูเป็นน้องสาวของพี่ หนูอยากจะ ให้พี่รู้เรื่องอะไรของหนู แต่พี่ต้องให้อภัยหนูนะคะ หนูไม่รู้จะไประบายเรื่องนี้ให้ใครฟัง หนูหวังว่าพี่ใหญ่ ต้องช่วยได้"
"ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายพี่ก็ ช่วยได้ แต่บอก พี่ก่อนได้ไหมล่ะว่าเรื่องอะไร เกี่ยวกับความรัก หรือเปล่า"
ดวงใจซักน้องสาวพลางดึงร่างวารุณี เข้ามาอีกแล้วกระซิบถาม แผ่วเบา
"เรื่องหนูเกี่ยวกับอะไร เรื่องแฟนหนูนะหรือ"
"โอ๊ย...เปล่าเลยค่ะ ไม่เกี่ยวกับแฟนเลย เกี่ยวกับ ชีวิตหนูยิ่งกว่าแฟนอีกค่ะ"
"เอ๊ะ...ถ้าอย่างนั้นอะไรล่ะที่เกี่ยวกับชีวิตของหนู พูดไปเถอะพี่จะฟัง"
"อ้า...ง่า...พี่ต้องสัญญาก่อนนะคะ ว่าพี่ต้องให้อภัย หนูถ้าไม่พอใจ และยินดีที่จะรับฟังหนูซึ่งอ่อนโลกกว่าพี่"
"จ๊ะ...พี่รับรอง หนูพูดออกมาซิว่าเรื่องอะไร รู้สึกหนู หวาดกลัวเอามาก พูดมาซิพี่พร้อมแล้ว"
"ขอบคุณพีใหญ่มาก" วารุณีน้อยกับพี่สาวพลางเขยิบ เข้ามาชิดอีกแล้วพูดว่า
"พี่ใหญ่คะ...หน...อ้า...หนู เสียทีผู้ชายเสียแล้วค่ะ..."
วารุณีพูดได้เท่านี้ก็หยุดชงัก จนดวงใจต้องซักอีกอย่างร้อนรน
"อะไรนะยายน้อย เมื่อกี้พูดว่าอะไร"
"หนู...หนู...เสียทีให้กับผู้ชายเสียแล้ว...ละค่ะ" วารุณีพูดจบก็ถอนใจใหญ่
"หมายความว่าน้องของพี่เสีย...เสีย... ความเป็นสาวเสียแล้วหรือจ๊ะนี่" ดวงใจระล่ำระลักถาม
"เสีย...กับใครที่ไหน...กับหมอสุวิทย์กระนั้นหรือ" หล่อนหมายถึง นายสุวิทย์แพทย์หนุ่มของวารุณีนั่นเอง
"เปล่าค่ะ...หนูเสียให้กับคนที่หนูเคารพ..นับถือมาก นั่นแหละค่ะ"
"อ้า...ง่า..หนูถูกคุณอาว์พระ. ฟันเสียแล้วค่ะ" วารุณีพูดประโยคหลังเกือบเป็นเสียงกระซิบ ดวงใจตาเหลือก โพลง
อุ๊ยตาย...นี่หนูถูกคุณอาว์ข่มขืนอย่าง นั้นหรือ"
"อ้า...ก็ไม่เชิงค่ะ.." วารุณีพูดแผ่วเบาพลางกอดพี่สาวแน่น และพูดต่อไปอีก
"พี่ใหญ่ขา..ไม่ทราบว่าหนูโดนอำนาจอะไร พี่ใหญ่คอยฟังนะ หนูจะเล่า ให้ฟัง"
"จ๊ะ...เล่าไปเถอะ พี่อยากรู้เรื่องของหนู" ดวงใจพูด พร้อมกับประคอง กอดน้องสาวไว้แน่น
วารุณีจึงเริ่มเล่าพฤติการณ์ของหล่อนกับ พระอรุณสวัสดิรักษ์ ให้พี่สาวฟัง
"พี่ใหญ่ขา...เมื่อวานนี้หนูไปบ้านคุณอาว์พระนั้น เกือบๆพลบค่ำแล้ว หนูก็ขึ้นไปที่ห้องชั้นบน และรีบเจาะเลือดให้ท่าน พี่ใหญ่ขา ความที่หนูเคารพ นับถือท่านมาก หนูไม่ได้ระแวงสงสัยอะไร ตรวจร่างกาย ให้ท่านตามลำพัง ขณะที่หนูกำลังฟังหัวใจอยู่นั้น คุณอาว์พระได้พูดขึ้นว่า หนูสวยน่ารัก หนูก็พาซื่อนึกว่า ท่านสรรพยอกตามประสาผู้ใหญ่ ท่านพูดว่า ท่านอยาก จะหาภรรยาสักคน สวยๆ น่ารักอย่างหนู ท่านพูดล้อเล่น เช่นนี้ หนูก็ล้อเล่นกับท่าน"
"เอาหนูไม๊ล่ะ" หนูเองก็ไม่นึกว่า ท่านจะลามกกับหลานสาว เช่นนี้
"แล้วท่านตอบว่าอย่างไรล่ะ" ดวงใจซัก
"ท่านพูดว่า ถ้าได้อย่างที่พูดก็เป็นวาสนาของท่าน ที่ได้ภรรยาเป็นหมอ อย่างหนู แล้วท่านก็หัวเราะ ท่านลุกขึ้นมา พี่ใหญ่ขาท่านรีบดึงหนูไปกอดคะ"
"แล้วหนูไม่ปัดป้องดอกหรือ"
"อ้า...หนูเข้าใจว่า ท่านยังล้อเล่นกับหนู ก็ไม่ได้นึกอะไร แต่พี่ใหญ่ขา ...พอท่านกอดหนูได้ ท่าน...ท่านจูบหนูค่ะ ท่านไม่จูบเหมือนอย่างญาติผู้ใหญ่ จูบลูกหลานค่ะ ท่านจูบ..จูบริมฝีปาก...จูบอย่างกะในหนัง...จนหนูรู้สึกว่าท่านจูบหนูจริงๆจังๆ เสียแล้ว และกอดร่างหนูไว้ในอ้อมกอดท่านแน่น อีกประการหนึ่งท่านแข็งแรงกว่าหนูประกอบกับหนูไม่ทันระวัง ท่านรัดแน่นเชียวค่ะหนูดิ้นเท่าไรก็ไม่หลุด
"หนูไม่ร้องดอกหรือ เมื่อรู้ตัวว่าท่านจูบหนู ด้วยความใคร่เช่นนั้น"
"ร้องไม่ออกค่ะ ได้แต่พูดว่าอย่าค่ะ...อย่าค่ะเท่านั้น เสียงมันแหบแห้ง หายไปหมด มิหนำซ้ำท่านยังจูบ ปากหนูอีก ไม่เท่านั้นซิพี่ใหญ่ขา ท่านทำกับหนู อย่าง บ้าระห่ำทีเดียวค่ะ"
"ทำอย่างไรล่ะ เล่าไปซิ" ดวงใจปลอบน้องสาวแล้วซักถามต่อไป
"ท่าน..อ้า...ง่า..."
วารุณีพูดค้างไว้ไม่ยอมพูดต่อ จนดวงใจต้องเร่งซักหล่อน จึงพูดต่อ
"อ้า...ท่าน...ท่าน...เอามือล้วงไปในกระโปรงหนูค่ะ หนูไม่ทันระวัง และแขนของท่านก็รัดไว้แน่น ปากก็ระดมจูบ จนร้องไม่ออก พี่ใหญ่ขาท่าน รวดเร็วและเก่งกาจอะไร อย่างนั้น ท่านขยุกมือเข้าไปตรงไอ้นั่นของหนูค่ะ
"ไอ้นั่นอะไรหรือ พูดมาตรงๆ ชัดๆเลยเถอะจ๊ะ"
"อย่าว่าหนูหยาบคายนะคะ อ้า..ท่านขยุกมือเข้าไป จับหูหนูคะ.. .โอยท่านเคล้นคลึงหูของหนูนอกกางเกงในอย่างมันมือ จนหนูจั๊กจี้ พยายามดิ้นสุดแรงเกิด พูดแต่ว่าอย่าค่ะ เท่านั้น"
"ท่านกลับประกบจูบทับปากหนูอีก ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังคลักมือ ลอดกางเกงในหน ูเข้าไปจนถึงเนินหูของหนูจริงๆเลยค่ะ แล้วเอานิ้วแหย่ เข้าไปในรูหูถูกปุ่มแตด ที่รวมประสาท พี่ใหญ่ขาหนูตัวสั่น และอ่อนเปลี้ยทันที เหมือนถูกตะคิวจับ เป็นครั้งแรกที่หนูถูกผู้ชายจับหูค่ะ"
โอย...ท่านแหย่แยงเข้าไปในแคม แล้วเคล้าคลึงจนเหงื่อหนูซึมไปหมด และอ่อนระทวยอยู่ใน วงแขนของ ท่านอย่างลืมตัว ใจหวิวๆ เหมือนเป็นลม รู้สึกตัว แต่เพียงว่า นอกจากมือท่านจะโลมเล้าแหย่แยงช่อง แคมหูแล้ว ที่หน้าอกก็ถูกจูบ ฐานนมอย่างเสียวแสยง หนูลืมตัวไปเหมือนถูกมนต์สะกดหายใจรวยริน มือท่านไม่ยอมห่าง" หล่อนเล่ามาถึงตรงนี้ก็หยุด ชะงักลง
"ท่านแค่จับหูหนูเล่นเท่านั้นเองหรือ ก็ไม่เป็นไรนี่นา" ดวงใจพูด
"โอ๊ะ...ไม่เท่านั้นดอกค่ะพี่ใหญ่ ท่านดึงมือออกจาก โคกหูค่ะพี่ใหญ่ หนูเข้าใจว่าท่านเลิกจับ ลืมตาดู เกือบช็อกแน่ค่ะ ท่านเอาไอ้...นั่น...เอ้อ กระดอ ของท่านออกมาทางซิ๊ปกางเกงค่ะ ท่านกดหนูนอนราบกับเก้าอี้ และกระซิบ ที่หนูเบาๆ ว่า"
"น้อย...ขอให้อาว์เป็ดสักครั้งเถอะ ท่านจะสมนาคุณ หนูอย่างดีที่สุด"
"หนูตอบว่าอย่างไรล่ะ" หล่อนถามน้องสาว
"ไม่ทันตอบค่ะ ท่านเลิกกระโปรงหนูขึ้นเสียสูงแล้ว ดันดุ้นกระดอ ของท่านเข้ารูหูทันที หนูรู้สึกว่าถูกท่านเป็ด เข้าแล้วแต่กว่าจะป้องกันอะไรได้ หนูก็ผวากอดท่านอย่างลืมตัว"
"ตอนท่านดันกระดอเข้าไป หนูสะดุ้งสุดตัว น้ำตาคลอด้วยความเจ็บ และเสียวสะท้านเป็นที่สุด ไม่นึกว่าของท่านทั้งใหญ่ทั้งยาว จะดันมันเข้าไปได้ เรี่ยวแรงหนูก็ไม่รู้ว่ามันหายไปไหนหมด เสียงก็แหบแห้ง รู้แต่เพียงว่าลำบ๊วย ของท่านเข้ารูไปทีละน้อยๆยิ่งกว่านั้น ยกทรงถูกปลดออกจนอกเปลือยขาวล่อนจ้อน แล้วท่าน ก็ก้มลงดูดหัวนม หนูรู้สึกว่ามีน้ำเมือกทะลักออกมาจาก ผนังแคมหูจนแฉะ และก็รู้สึกติดๆกันว่า ท่านทนไม่ไหว มีน้ำอะไรออกจากบ๊วยของท่าน พุ่งปริ๊ดๆ ราดในช่องแคม ทั้งๆที่ท่านพึ่งเอามันดันเข้าไปเพียง 5-6 ครั้งเท่านั้น ท่านกอดรัดหนูเกร็งไปหมด พี่ใหญ่ขา...เพียงเท่านี้ หนูก็รู้ว่าคุณอาว์พระ กับหนูได้เป็ดกันจนหลั่งน้ำรัก ออกมาด้วยกันเสียแล้ว หนูสูญความสาวไป เพราะไฟราคะโดยแท้ทีเดียวค่ะ ท่านค่อยๆ ชักเจ้าท่อนบ๊วยออกจากรูหูหนูอย่าง แผ่วเบา รู้สึกว่ามันยังเกร็งแข็งอยู่ ท่านกระซิบถามหนูว่า
"หนูก็ออกใช่ไหม"
หนูไม่ตอบแม้แต่คำเดียว ผลักท่านออก ทันที...
"หนูโกรธท่านหรือเปล่า"
"ทั้งโกรธทั้งเกลียดทีเดียวค่ะ" แต่ก็พูดอะไร ไม่ถูกได้แต่ร้องไห้ ท่านปลอบหนูว่า
ขอให้หนูอย่าคิดอะไรมาก ไหนๆหนูก็เสียตัว ถูกอาว์เป็ดแล้ว ขอให้อาว์เป็ดอีกสักทีเถอะนะ
ท่านไม่ยอมให้หนูใส่เสื้อในค่ะ และใช้กำลังกอด ตะหวัดรัดร่างอุ้มไปนอน บนเตียงของท่าน และปลุกปล้ำจะเป็ดหนูอีก คราวนี้ดึงกระโปรงออกหมด แม้หนูจะ พยายามอ้อนวอนท่านว่าขอให้ผ่านไป เพียงครั้งเดียวก็พอ
แต่ดูเหมือนว่า ท่านจะเมามันยิ่งกว่าครั้งแรกอีก พี่ใหญ่ขา ...ทีนี้หนูต้องประสบกับความปั่นป่วน เสียว สะท้านปานจะขาดใจ
คือท่านก้มลงจูบ..ตรงโคกหู อันเปลือยเปล่า นั้น แล้วใช้ลิ้น แลบเลียตุ่มแตดหนู จนหนูต้อง บิดตัวหลบเพราะความที่ไม่เคย ประสพมาก่อน ท่านแหวกขาหนูอ้าออก แล้วซุกหน้าลงเกลือกกลิ้ง อยู่บริเวณปากแคมหู มือท่านก็ตะปบบี้เคล้นคลึงอกอูมของหนู
"พี่ใหญ่คะ...ถ้าพี่ใหญ่ถูกเลียเช่นนี้บ้าง จะรู้สึกเหมือนหนู ไหมคะ..."
"แล้วหนูรู้สึกอย่างไร เมื่อท่านเลียแตดหนู ดวงใจกลับย้อนถาม น้องสาว
"บอกไม่ถูกค่ะ มันเสียวสะท้านในหัวใจ"
"หนูรู้สึกอยาก...อ้า...อยากให้ท่าน เป็ดอีก ใช่ไหมล่ะ" หล่อนดักคอน้องสาว
"หนูก็บอกไม่ถูกค่ะ พอจะพูดอะไรท่านก็กระซิบ อีกว่า ขอให้หนูยอมให้ท่านเป็ดอีกครั้งหนึ่ง แต่หนูยังไม่ทันพูดว่าอะไร ท่านก็พลิกคร่อมหว่างขา เสียแล้ว ลำบ๊วยของท่านซุกซอนเข้าหว่างขา มันแข็ง และบึกบึนอย่างเดิม
"หมายความว่า หนูยอมให้ท่านเป็ด อีกกระนั้นหรือ"
"ยังค่ะ...ท่านดูดเลียหน้าอก ซอกคอ จนหนูตัวสั่น และอ่อนเปียกไปหมด"
และแล้ว...หนูก็ยอมให้ท่านทำอะไรตามใจชอบ ไปเสียทุกอย่าง ท่านจับขาหนูถ่างออกแล้วตัวท่าน เข้าไปอยู่ในหว่างขา ความเสียวสุดตัว ก็บังเกิดขึ้นอีก เมื่อท่านจับท่อนกระดอของท่านจ่อตรงปากแคม และค่อยๆดันเข้าไป และกดตัวแนบลงทีละน้อย
ขณะที่ผ่านเข้าไปมันสร้างความรัญจวนใจเป็นที่สุด ท่านเริ่มกระเด้า ช้าๆเนิบๆ
พี่ใหญ่ขา อำนาจกามารมณ์มันมีอิทธิพลเหนือสิ่งใดหมด ทีเดียวค่ะ หนูลืมตัวลืมอายลืมหมดแม้ความ เป็นสาว และศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง
ท่านบอกให้หนูแอ่นเอวขึ้นรับท่าน หนูทำไม่ถูกหรอกค่ะ แต่มันก็แปลกเวลาท่านกระเด้าหน ูต้องเด้งรับ อย่างเผลอตัวและมีความกระสันต์ เวลาท่านกระเด้าลง ถ้าหนูแอ่นหรือเด้งรับ มันเสียวปราบ สนุกสนาน ไม่มีอะไรปาน
หนูลืมตัวเผลอมองดูตัวเองเปลือยเปล่า ขาอ้าออก เต็มที่อย่างไม่รู้ตัว โคกแคมแฉะไปด้วยน้ำเมือกไม่รู้มา แต่ไหน แสบก็แสบคันก็คัน แต่ความเสียว สร้านและอิ่มใจ มันระคนกันปานว่าจะขาดใจ
เป็นครั้งแรกในชีวิตสาวที่ถูกอารมณ์ร้อน และเสียวสร้านใจ อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ หนูน้ำตาคลอ ไม่ใช่ว่า เสียดาย เสียใจดอกค่ะ แต่มันเป็นน้ำตาของความสุข และอิ่มเอม ในรส...ของความกระสันต์สวาท
พีใหญ่ขา...หนูลืมหมดค่ะ ลืมแม้กระทั่งเกียรติยศ ชื่อเสียง ไม่ลืมอย่างเดียวคือรสสวาท หนูขนลุกซู่ ไปทั้งกายใจเพราะความสุข...
ดวงใจฟังน้องสาวบรรยายเหตุการณ์ ด้วยความรันทดใจ แกมตื่นเต้น ความรู้สึกบอกกับ ตนเองว่า แม้ขณะบรรยายนั้น หล่อนก็แสดงความ รู้สึกที่ยังติดใจในอารมณ์และความรู้สึกเสี้ยนไปด้วย คุณอาว์พระคงเป็ดเก่งไม่น้อย ดวงใจฟังแล้วยังอยากจะโดนเป็ดมั่ง ทั้งคู่นิ่งอึ้งไป สักครู่ วารุณีก็เอ่ยขึ้นกับพี่สาวหล่อนด้วยสำเนียง อันแผ่วเบา "พี่ใหญ่ขา...หนู...หนูเสียท่าให้กับ คุณอาว์พระเพราะความไม่เดียงสา หรือเพราะความเผลอ สติใน ห้วงดำกฤษณาแน่คะ"
"หนูก็ไม่ใช่เด็ก" ดวงใจตอบหล่อน
"อายุและการศึกษาหนูก็มีอยู่ไม่น้อย พี่เองรู้สึกเห็นใจในเหตุการณ ์ของหนูมาก และก็นึกไม่ถึงว่า คุณอาว์พระจะทำกับหนูได้ถึงเพียงนั้น ทั้งที่เรา เคารพนับถือท่านเป็นผู้ใหญ่นั่นเอง จึงคาดไม่ถึงว่าท่าน จะทำหนูได้ อย่างน่าละอาย แต่ที่พี่ทราบระแคะระคายมา คุณอาว์พระท่านชอบเรื่อง อย่างนี้มาก แม้แต่หลานสาวในไส้ของท่าน คนหนึ่งที่มา เรียนพยาบาล ก็ต้องมีท้องกับท่าน ไปอย่างลับๆ
คนที่ชื่อปราณีไงล่ะ ได้ข่าวตอนหลังว่าไปรีดลูก ออกถึงญี่ปุ่นแน่ะ
"หรือค่ะ" วารุณีย้อนถาม "แล้วอย่างหนูคงไม่ถึงกับเกิดเรื่อง อย่างนั้นหรอกนะคะ"
"หมายความว่า เรื่องมีท้องนะหรือ"
"ค่ะ..." วารุณีตอบ
"พี่ลืมถามไป หนู..อ้า..หนูยอม ให้ท่านเป็ด 2 ครั้ง เท่านั้นหรือ"
"อีกค่ะ" วารุณีตอบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง ท่านเป็ด ติดๆกันนั่นเองอีก 2 ครั้งเป็น 4 ครั้ง แต่ครั้งหลังสุด รู้สึกว่า ท่านไม่เสร็จค่ะ เพราะหนูไม่รู้สึกว่าท่านฉีดน้ำเข้าในรู..."
หนูเองล่ะป้องกันและเรียนผูกมาแล้ว.. .เรียนแก้บ้าง หรือเปล่า"
"หนูเอายาเอ็กซ์ทาสิโดไมท์ ฉีดล้างช่องคลอดแล้วค่ะ เพื่อนๆหนูเขา เคยใช้ได้ผลมาแล้วค่ะ"
"ดีแล้ว...พี่ขอบใจมากที่เผยความจริงให้ทราบ เพื่อจะได้เป็นบทเรียน และเตือนสติให้เราได้สังวรณ์ไว้ แล้วคุณอาว์พระท่านพูดกับหนูว่าอย่างไร เมื่อเสร็จกันแล้ว"
ดวงใจเปลี่ยนเรื่องมาปรารถถึงคุณพระผู้นั้นอีก
"ท่านปลอบว่าจะไม่เปิดเผยให้รู้ถึงหูที่สาม ท่านกำชับหนูว่าให้ ปกปิดเป็นความลับ ท่านยินดีให้หนูใช้ จ่ายเป็นค่า...อ้า...ค่าใช้ส่วนตัวเดือนละ 2,000 บาท แต่มีข้อแม้ค่ะ" "ข้อแม้อะไรอีก"
"มีข้อแม้ว่าหนู...หนูต้องยอมให้ท่านเป็ด เดือนละครั้ง"
วารุณีตอบเอียงอาย
"ตายละ...น้องน้อย หมายความว่าน้อง ต้องไปให้ คุณอาว์เป็ด ทุกๆเดือนๆละครั้ง.."
"ค่ะ...อย่างน้อยเดือนละครั้งหรือมากกว่า แต่หนูไม่ตอบค่ะ แต่งตัวเสร็จ ก็ลากลับ ทันทีรีบมาล้างยา เพราะรู้ตัวว่าสนุกเสียวปากมดลูก เปิดอ้ารับน้ำกาม ของท่านเต็มที่ เกรงจะผ่านเข้าไปเดี๋ยวก็ท้องป่องเท่านั้น"
"มั่นใจแน่หรือว่าจะไม่มีเรื่อง"
"ค่ะ...หนูเชื่อมั่นในผลยาล้างช่องคลอด นี้มาก"
"อรพินทร์ เด็กนักเรียนวัยรุ่นคนหนึ่ง เขานอนกับแฟนแก ทุกอาทิตย์ไม่เห็นแกมีเรื่อง"
"เอาละ...หนูไปอาบน้ำเตรียมตัวลงไปทานข้าวเถอะ เดี๋ยวจะไป เที่ยว สวนกันจะได้พักผ่อน สมอง ไปด้วย"
ดวงใจพูดพลางฉุดแขนน้องสาวให้ลุกขึ้น และปลอบโยน ด้วย ความปราณีและเห็นใจน้องสาวเป็นที่สุด ที่เสียความบริสุทธิ์ไปอย่าง น่าเสียดาย มิหนำ ซ้ำยังต้องไปให้คุณอาว์พระเป็ดอีกทุกเดือน ตามที่ น้องสาวเล่า เชื่อว่าวารุณีคงยอมไปให้คุณอาว์พระเป็ดอีกเป็นแน่ ขนาดครั้งแรกยังโดนไปตั้ง 4 ทีแล้ว ต่อไปจะโดนอีกครั้งละกี่ที นึกแล้วดวงใจอดสยอง แทนน้องสาวไม่ได้ ปล่อยให้น้องสาวลุกขึ้นอาบน้ำ แต่งตัว ส่วนเธอเองก็กลับเข้าห้องไปนอนตกเบ็ด เกี่ยวหูเช่นกัน เพราะเรื่องที่ฟังมาสร้างอารมณ์ ให้ดีแท้ๆ ในจินตนาการ เป็นตัวเธอ ถูกคุณอาว์พระอรุณฯ เล่นสวาทแทนน้องสาวจนน้ำแตกสบายรู ก่อนอาบน้ำแต่งตัวต่อไป

==========

sachawat


flask