ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_GoDeRsOuL

มาลองเขียนบรรยายกัน

เริ่มโดย GoDeRsOuL, มกราคม 17, 2018, 11:28:21 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cd13579

#15
แต่ละท่านมาซะอลังเลย รอแปปขอคิดก่อน.......

ทันใดเมื่อเขาย่างก้าวลงบนพื้น สำเนียงเสียงสัตว์ค่อยๆเงียบงันลง บุคคลผู้มาเยือนป่าข่มก้อนความกลัวที่ก่อตัวขึ้นเขาทราบถึงตำนานของป่าดี ความเงียบค่อยๆปกคลุมป่าช้าทุกครั้งก้าวขาเข้าไป พอย่างเก้าครบสิบเก้าครั้งท้องฟ้าพลันเปลี่ยนเป็นมืดมน ลมพัดกรรโชกหอบใบไม้และฝุ่นธุลีหอบใส่มาปะทะกาย ไม้ไม่กิ่งไม้เอนลู่ไปตามลมราวกับมีคนกำลังเขย่า เขาเห็นเงาร่างสีดำวิ่งวูบวาบไปตามกิ่งไม้ เขากลืนน้ำลายลงคอฝืนความกลัวที่จับจิตและออกเดินต่อ ทุกครั้งที่เขาออกเดินเขารู้สึกเหมือนผู้ที่แอบดูทวีคูณขึ้น แต่เขาหยุดตรงนี่ไม่ได้ เขาต้องเข้าไป!!

เปรี้ยงงงง!! พอถึงก้าวที่เก้าสิบเก้า สายฟ้าฟาดลงมาที่ตอไม้ตรงหน้าเขา แรงอัดทำให้เขาล้มหงายลงไปแสงสว่างพรากการมองเห็นไปชั่วครู่ เสียงกัมปนาทเอาเอาแก้วหูเอาอื้อมึนงงจนทรงตัวไม่ได้ ลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรง พร้อมกับหยาดพิรุธที่ซัดสาดลงมาราวท้องนภากำลังโกธา ชายหนุ่มยันกายอย่างทุลักทุเล มือเย็นเฉียบปาดหยาดน้ำออกจากหน้าพยายามเปิดเปลือกตาสู้กับลมและหยาดฝน และเมื่อสายตาเขาปกติ เขาก็พบว่ารอบกายเขามีเงาร่างสีดำรอบไว้ทั้งหมด เงารา่งนับร้อยตนจ้องเขาด้วยดวงจาแสงฉาน พวกมันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งก่อนจะกระโจนใส่เขา... และจากนั้นความรู้สึกของเขาก็ดับลง
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

joker socool

#16
อ้างจาก: areja เมื่อ มกราคม 17, 2018, 11:30:37 หลังเที่ยง
ความมืดในยามฟ้าฝนตั้งเค้า เสียงแมลงกลางคืนหรือไก่ป่าแทบไม่สำเหนียกให้ได้ยินยลสู่โสตประสาท
เขาก้าวไปบนดาลฝุ่นหนาแทบจมพื้นรองเท้า ที่ยามนี้ตีตลบพุ้งกระจาย จนเปลือกตาแทบลืมไม่ขึ้น หญ้าต้นสูงชะลูด
รอบกายสะบัดใบโบกคมใบกรีดผิวบาดเฉือนไปมาเพราะกระแสลมก่อนฟ้าจะทะลุช่างรุนแรง แม้เขาจะสวมเสื้อ
ฟิส์มกันอยู่มีถูงมือหนังแต่ร่างกายส่วนที่ไม่มีอาภรณ์ใดปิดก็ถูกคมใบเฉือนเชือด

เปรี้ยงงง เปรี้งงงงงงงง เปรี้งง เสียงประจุไฟฟ้าขั้วบวกลบวิ่งชนกันในระยะไม่ไกลแต่สายประจุที่ไร้การควบคุม
ดิ่งตรงไปต้นไม้ใหญ่ที่เหล่าคณะกำลังจะพยายามก้าวไปให้ถึง ทุกลมหายใจของทุกคนสะกดกลั่นในวินาที่นั้น
เหมือนนัดกันทุกคนเหมือนระบบออโต้ ระยะไม่ถึง 50 เมตรกลางทุ่งหญ้า สายตาที่มองไปยังต้นไม้ใหญ่

จุดพักหลบฝน แสงฟ้ากระพริบจากธรรมชาติยามฝนจะลง ตีแนวประกายสว่างแวบวาบทั่วเหนือเงาไพรครืม
ด้านหลังต้นไม้ใหญ่นั้น ก่อนเหงื่อที่หน้าจอมพรานนำทางจะผ่านไรขนคิ้วหนาลงมา หยาดพระพิรุณก็กระหน่ำโครม
ลงมาดั่งฟ้าแกล้ง
  " วิ่งงงงงงงงงงง " ใช่นั้นคือเสียงบอกที่ตะโกนแข่งเม็ดฝนและลมที่ขู่กรรโชกมา ทุกคนใน คณะไม่จำเป็นต้องฟังซ้ำ..


มาจองที่ครับ  แล้วก็เรื่องการบรรยายเนี่ยผมชอบแบบนี้เหมือนกันนะ  ใช้ความหนาบางตัวอักษรเน้นความรู้สึกเวลาอ่านให้ดูหนักขึ้นมันทำให้เสีงฟ้าผ่ามันดูสมจริงขึ้นมาหรือบตัวเอนเวลาพูดถึงเรื่องลมพัดกรรโชก...กำพูดซะยาว  เอาเป็นว่าแบบนี้ผมก็ชอบหรือใช้คำพรรณนาผมก็ชอบนะครับแต่ยังไม่เคยลองรวบคำให้กระชับเวลาเขียนเลยหรือ...เอ่อผมยังไม่ได้ลองแปลของพี่อี๊ดแต่ขอไปลองอ่านก่อนครับ  ผมว่าเวิคแน่นอน

อ้อ  แล้วก็ไปอ่านคอมเม้นมา  ผมไม่ได้ลืมท่านนะครับท่านGoDersoUL แต่ลืมพิมพ์โฆษณาให้(ฮา)  เอาเป็นว่าท่านก็เป็นหนึ่งในนักเขียนที่ต้องติดตามอ่านผลงานเหมือนกัน  ขอคารวะหนึ่งจอกเลยครับ

ที่พอจะเขียนออกมาได้ก็ประมาณนี้
                     เสียงใบไม้ดังกรอบแกรบใต้รองเท้าจังเกิ้ลสีดำสนิทเช่นเดียวกับท้องฟ้าในขนะนั้น  สายลมหวีดหวิวกรรโชกพัดพาเอาเศษฝุ่นเศษดินรอบข้างให้ปลิวฟุ้งตลบอบอวลในอากาศ  เสียงดังแสกสากจากกิ่งไม่ที่ไหวเอนกระทบกันรอบด้านอย่างบ้าคลั่งเร่งเร้าให้ต้องมองหาที่หลบซ่อนอย่างช่วยไม่ได้  ยิ่งลมพายุพัดแรงยิ่งพัดพาเอาก้อนเมฆดำทะมึนให้เข้ามาบดบังแสงสุดท้ายจากดวงจันทร์ให้ป่าทั้งป่ายิ่งดูมืดมิดอย่างน่ากลัวราวกับเงาแห่งมัจจุราชที่ทอดคลุมทั่วทั้งผืนป่า  พลันเสียงฟ้าแลบฟ้าร้องก็กู่กำปนาทดังสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าจะโถมถล่มลงมาทับร่างทั้งร่างให้จมสู่ความหวาดผวาพร้อมกับส่งหยาดฝนเม็ดใหญ่ลงมากระทบผิวหนังอันอ่อนนุ่มให้ต้องรู้สึกเจ็บแปลบราบกับถูกขว้างปาด้วยหินก้อนเล็กๆนับไม่ถ้วน  ต้นไม้ใหญ่ตรงหน้าเป็นความหวังเดียวที่จะได้พึ่งพิงหลบความหนาวเหน็บจากลมฝนและพายุร้ายแต่ราวกับความหวังสุดท้ายต้องสลายไปพร้อมกับสัมปชัญญะทั้งหมดเมื่อเสียงก้องกำปนาทกู่ดังสะเทือนเลือนลั่นไปทั้งแผ่นดินพร้อมกับแสงขาวสว่างจ้าในนาทีสุดท้ายของชีวิต

joker socool

อ้างจาก: cd13579 เมื่อ มกราคม 18, 2018, 04:56:13 หลังเที่ยง
แต่ละท่านมาซะอลังเลย รอแปปขอคิดก่อน.......

ทันใดเมื่อเขาย่างก้าวลงบนพื้น สำเนียงเสียงสัตว์ค่อยๆเงียบงันลง บุคคลผู้มาเยือนป่าข่มก้อนความกลัวที่ก่อตัวขึ้นเขาทราบถึงตำนานของป่าดี ความเงียบค่อยๆปกคลุมป่าช้าทุกครั้งก้าวขาเข้าไป พอย่างเก้าครบสิบเก้าครั้งท้องฟ้าพลันเปลี่ยนเป็นมืดมน ลมพัดกรรโชกหอบใบไม้และฝุ่นธุลีหอบใส่มาปะทะกาย ไม้ไม่กิ่งไม้เอนลู่ไปตามลมราวกับมีคนกำลังเขย่า เขาเห็นเงาร่างสีดำวิ่งวูบวาบไปตามกิ่งไม้ เขากลืนน้ำลายลงคอฝืนความกลัวที่จับจิตและออกเดินต่อ ทุกครั้งที่เขาออกเดินเขารู้สึกเหมือนผู้ที่แอบดูทวีคูณขึ้น แต่เขาหยุดตรงนี่ไม่ได้ เขาต้องเข้าไป!!

เปรี้ยงงงง!! พอถึงก้าวที่เก้าสิบเก้า สายฟ้าฟาดลงมาที่ตอไม้ตรงหน้าเขา แรงอัดทำให้เขาล้มหงายลงไปแสงสว่างพรากการมองเห็นไปชั่วครู่ เสียงกัมปนาทเอาเอาแก้วหูเอาอื้อมึนงงจนทรงตัวไม่ได้ ลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรง พร้อมกับหยาดพิรุธที่ซัดสาดลงมาราวท้องนภากำลังโกธา ชายหนุ่มยันกายอย่างทุลักทุเล มือเย็นเฉียบปาดหยาดน้ำออกจากหน้าพยายามเปิดเปลือกตาสู้กับลมและหยาดฝน และเมื่อสายตาเขาปกติ เขาก็พบว่ารอบกายเขามีเงาร่างสีดำรอบไว้ทั้งหมด เงารา่งนับร้อยตนจ้องเขาด้วยดวงจาแสงฉาน พวกมันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งก่อนจะกระโจนใส่เขา... และจากนั้นความรู้สึกของเขาก็ดับลง

กำ  สาบานเลยว่ายังไม่ได้อ่านตอนเขียน  ทำไมกลายเป็นว่าอ่านแล้วมันไปทางเดียวกันเลยหว่า  แถมจบที่ตายเหมือนกันอีก...นี่เราแนวเดียวกันเหรอเนี่ย

joker socool

อ้างจาก: P Eet เมื่อ มกราคม 17, 2018, 01:35:21 หลังเที่ยง
This scene sounds soooo professional, I bet this is an excerpt from some famous writer...
And it sounds really familiar too!! It is from one of my favorite authors...?? Who is this writer..??  ::Dizzy::

E..E..E... I am not much of a talker... don't know if I can do any good at all..... Let me try...

We ran to the nearby cave just right before the first drop of rain hit our faces...
Just before we were completely inside, a loud boom crackle the air behind us...
The loud noise and the force of the pressure sent us flying into the cave and landed face down.
We looked over to where we were to see what was happening and a chilling sensation course through my body. The big tree that we were crouch under as a protection now went up in flames, lightning had hit it just moments before we took off. Thank God that we decided to take off running to this cave.
Within moments... the rain & wind had picked up the scale as such that we can't even open our eyes... thank goodness that we found this cave which should protect us from the force of nature.


E..E..E... as I am NOT a writer... this is all I can do ...    ::Grimace::

เหมือนผมได้กลับไปอ่านโรบินสังครูโซอีกครั้งเลยครับ  สุดยอดมาก