ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 13

เริ่มโดย ifamily03, กรกฎาคม 22, 2018, 07:57:52 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ifamily03

คุยก่อนอ่าน : ตอนนี้เขียนเอาใจผู้อ่านตามที่เรียกร้องคุณหญิงนิ่มกันมา ส่วนคนไม่ชอบคุณหญิงนิ่ม ข้ามไปอ่านตอนจบได้เลย เพราะซ่อนข้อความช่วงโล้สำเภากับคุณหญิงนิ่มไว้

ปล.ตอนนี้เหลืออีกแค่2ตอน คือตอนรองอวสานกับตอนอวสานที่มีพล็อตเรื่องวางไว้แต่แรกแล้ว ถ้าผู้อ่านท่านใดอยากให้เขียนเพิ่มอีก ช่วยเม้นสิ่งที่อยากจะอ่านมาให้หน่อยครับ จะพยายามแต่งให้ได้ยาวที่สุดครับ



บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 13

นับตั้งแต่วันที่แม่การะเกดเป็นธุระจัดการให้ขุนเรืองกับแม่จันทร์วาดได้เสียกัน ทั้งคู่ก็เริ่มคบหาดูใจกันมาตลอด และยังแอบใช้เวลาบางส่วนในการไปพลอดรักกันในที่ลับหูลับตาคนอีกด้วย ซึ่งสถานที่นั้นก็มิใช่ที่ใด หากแต่เป็นกระท่อมน้อยปลายสวนที่แม่จันทร์วาดเคยใช้เป็นเวทีโล้สำเภากับพ่อเดช คู่ขาคนเก่าอยู่เป็นประจำนั่นเอง สถานที่เหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือคู่ขาคนใหม่อย่างพ่อเรือง ซึ่งรสสวาทที่ทั้งคู่มอบให้แก่กันนั้นก็ร้อนแรงไม่แพ้ตอนที่มีอะไรกับพ่อเดชเลยทีเดียว

และวันนี้กิจวัตรของทั้งคู่ก็ยังดำเนินไปเช่นปกติ แม่จันทร์วาดแอบหลบสายตาคุณหญิงนิ่มลงมาท้ายเรือนเพื่อไปพบคู่รักตามที่ได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้า เมื่อมาถึงก็พบขุนเรืองนั่งรอในกระท่อมอยู่ก่อนแล้ว แม่จันทร์วาดพอได้เห็นหน้าขุนเรืองปุ๊บก็โผเข้าสวมกอดด้วยความโหยหาทันใด
"ขุนเรือง..ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน ท่านคิดถึงข้าเช่นกันหรือไม่เจ้าคะ"
แม่จันทร์วาดเอ่ยวาจาออดอ้อนออเซาะเสียจนขุนเรืองอ่อนระทวยเมื่อได้ฟังดังนั้น
"ข้าก็คิดถึงออเจ้าเช่นกัน มาเถิดแม่จันทร์วาด ให้ข้าได้หอมแก้มออเจ้าให้ชื่นใจสักครา"

พูดจบขุนเรืองก็ก้มลงไปจุมพิตที่แก้มของแม่หญิงจันทร์วาดอย่างแผ่วเบา รสสัมผัสจากริมฝีปากของเขาช่างอ่อนละมุนพาให้เคลิบเคลิ้มยิ่งนัก แต่ดูเหมือนแม่จันทร์วาดจะไม่พึงพอใจเพียงแค่นั้น นางหันหน้าไปให้ปากสัมผัสกับริมฝีปากของขุนเรือง พลางโอบรอบศีรษะของเขาแล้วโน้มเข้าหาจนริมฝีปากของคนทั้งสองบดเบียดกันไปมาอย่างแนบแน่น แม่จันทร์วาดบดปากจูบกับพ่อเรืองอย่างเร่าร้อนรุนแรงจนแทบไม่ทันได้หายใจ พอสุดกลั้นแล้วทั้งสองคนถึงได้ละปากออกจากกันแต่ยังให้แก้มแนบแก้มซึ่งกันและกันอยู่พลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ พอได้เติมอากาศเข้าไปแล้วคนทั้งสองก็กลับมาบดปากจูบกันอีกครั้งอย่างไม่รู้หน่าย

ขุนเรืองนั้นรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงของแม่จันทร์วาดที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งยามที่ได้โล้สำเภากัน เขาเข้าใจว่าแรกเริ่มเดิมทีแม่จันทร์วาดคงยังเขินอายจึงสงวนท่าทีไว้ไม่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งมากนัก แต่ยิ่งได้มีโอกาสเสพสังวาสกันบ่อยขึ้นเท่าไหร่ แม่จันทร์วาดก็ยิ่งปลดปล่อยอารมณ์ออกมามากขึ้นเท่านั้นดูราวกับเป็นคนละคน จนเขาคิดไปเองว่าแม่จันทร์วาดคงจะตกหลุมเสน่ห์ของเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วแน่นอนถึงได้เปิดเผยความรู้สึกและตัวตนของนางออกมาจนหมดสิ้นเช่นนี้

ขุนเรืองเผลอคิดเรื่อยเปื่อยไปเพียงครู่เดียว พอรู้สึกตัวอีกทีแม่จันทร์วาดก็เปลื้องผ้าท่อนบนออกจนหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ และกำลังแกะกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างรีบร้อน ขุนเรืองก้มมองต่ำลงไปจนถึงหน้าอกทรงกระเปาะคู่ขนาดจุ๋มจิ๋มน่ารักของแม่จันทร์วาด ถึงแม้มันจะไม่ได้มีรูปทรงสวยงามแลใหญ่โตกับเท่าของแม่การะเกด แต่เนินอกน้อยๆของนางก็ชวนมองอย่างมิรู้เบื่อเช่นกัน

"ขุนเรืองเจ้าขา ใจคอจะไม่ช่วยข้าเลยหรือเจ้าคะ ปล่อยให้ข้าทำอยู่ผู้เดียวจนดูราวกับหญิงไร้ยางอายก็มิปาน"
แม่จันทร์วาดบ่นกระเง้ากระงอดอย่างน้อยใจ ที่ขุนเรืองเอาแต่นิ่งเฉยปล่อยให้นางเป็นฝ่ายถอดผ้าถอดผ่อนให้จนผิดวิสัยหญิงผู้ดีเป็นที่สุด

"หามิได้แม่หญิง กิริยาของออเจ้านั้นน่าเอ็นดูยิ่งนัก จนข้าเผลอมองเพลินไปหน่อย เอาเถิด เดี๋ยวข้าจะชดเชยให้ออเจ้าก็แล้วกัน"

พูดได้แค่นั้นขุนเรืองก็ผลักแม่จันทร์วาดให้นอนลง ส่วนเขาก็ก้มตัวลงไปเลียหัวนมทั้งสองข้าง บ้างก็ดูดเข้ามาในปากจนแก้มตอบ บ้างก็ใช้ปลายลิ้นดุนหัวนมจนมันเด้งไปมาในอุ้งปากของเขา แม่จันทร์วาดถึงกับเสียวสะท้านจนบิดกายไปมา หน้าอกก็แอ่นขึ้นลงตามจังหวะดูดเลียของขุนเรือง
ส่วนมือไม้ของขุนเรืองก็อยู่ไม่สุข มือนึงเอื้อมไปบีบบี้เม็ดหัวนมที่ว่างอยู่อีกข้าง อีกมือนึงก็เลื่อนลงไปปลดปมผ้าถุงแล้วรูดออกจนพ้นปลายขาของแม่จันทร์วาด จนร่างของนางเปลือยเปล่าทั้งตัวไร้อาภรณ์ใดๆติดกาย ขุนเรืองจึงเลื่อนตัวลงต่ำไปเชยชมเนินสวาทกลางหว่างขาของนาง ซึ่งแม้จะบุบสลายไปบ้างจากการผ่านควยมาแล้วถึงสองลำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มันน่าพิศวาสน้อยลงแต่อย่างใด เส้นไหมที่ปกคลุมเนินโคกนั้นเรียบลื่นเป็นเส้นตรงมิได้รกรุงรังเลยแม้แต่น้อย แสดงถึงความดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากผู้เป็นเจ้าของ กลีบแคมทั้งสองข้างยังคงขาวผ่องนวลเนียน มิได้ดำคล้ำเพราะถูกเสียดสีมานับครั้งไม่ถ้วน ปากร่องรูสังวาสอ้าแง้มออกเป็นช่องเล็กๆเท่าปลายนิ้วก้อย มองเห็นเนื้อในสีชมพูดูเนียนตา น้ำใสๆเอ่อมาท่วมท้นร่องรูนั้นจนเขาอดใจไม่ได้ต้องก้มลงไปลิ้มชิมรสของมัน จังหวะที่ลิ้นของเขาปาดลงไปกลางร่องแล้วตวัดขึ้นไปสะกิดติ่งแตดที่ซ่อนตัวอยู่ด้านบนสุดของแคมเนื้อ ก็ทำเอาแม่หญิงจันทร์วาดถึงกับสะดุ้งแอ่นเอวลอยตามลิ้นของเขาขึ้นมาสูงลิ่ว

ขุนเรืองนึกขอบคุณแม่การะเกดอยู่ในใจ หากไม่เป็นเพราะนาง คงไม่มีผู้ใดสอนวิธีการจูบปาก และวิธีการใช้ลิ้นกับของสงวนของผู้หญิงเป็นแน่ แม้ตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น เขากับพ่อเดชเคยพากันเที่ยวเตร่เข้าโรงชำเราบุรุษมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็มิเคยร่วมรักกับหญิงใดด้วยท่าทางพิสดารเช่นนี้มาก่อน หากไม่เป็นเพราะในวันนั้นที่นางได้เอาร่องหีมาทาบทับบนใบหน้าเขาและให้เขาได้เลียชิมน้ำรักสดๆจากร่องรูหอยของนาง เขาคงไม่มีทางรู้ว่าการได้ดูดเลียน้ำจากช่องสังวาสนั้นสร้างความสุขให้แก่ทั้งเขาและผู้ที่โดนเลียยิ่งนัก มีเพียงเรื่องเดียวที่เขานึกเสียดายคือวันนั้นเขาไม่ยอมฉวยโอกาสโล้สำเภากับแม่การะเกดในตอนที่นางกำลังเงี่ยนอย่างถึงที่สุด เพราะมัวแต่ตื่นเต้นที่ได้เย็ดแม่หญิงจันทร์วาดนั่นเอง

ในระหว่างที่ใจครุ่นคิดถึงแต่รสชาติจากร่องเสียวของแม่การะเกด ขุนเรืองก็ไม่ลืมที่จะละเลงลิ้นชิมรสชาติของแม่จันทร์วาดไปพร้อมกัน แม้จะไม่ได้มาจากคนๆเดียวกัน แต่น้ำรักของแม่หญิงจันทร์วาดก็มีรสชาติคล้ายคลึงกับของแม่การะเกดยิ่งนัก มันทั้งหอมหวานทั้งชวนให้กระสันซ่านไปทั้งร่างกาย ไม่ว่าจะดูดเลียเท่าไหร่ก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายเลยแม้แต่น้อย เขาเฝ้ามองเรือนร่างของแม่หญิงจันทร์วาดที่ส่ายเอวร่อนสะโพกไปมาอย่างรุนแรงด้วยความเสียวสยิว แว่วเสียงร้องครวญครางฟังไม่ได้ศัพท์จากปากนางอย่างภูมิใจที่ได้สร้างความสุขให้นางจนเหลือจะกล่าว จนกระทั่งแม่หญิงจันทร์วาดทนต่อไปไม่ไหว เสร็จสมไปก่อนด้วยรสลิ้นของขุนเรืองเป็นคราแรก โพรงหีของนางมีอาการเกร็งและตอดลิ้นที่สอดเข้าไปด้านในจนรู้สึกได้ น้ำรักถูกขับออกมาอย่างมากมายจนเปียกเปื้อนทั่วปากและจมูกของขุนเรือง

แม่หญิงจันทร์วาดพักหายใจอยู่ไม่กี่เพลาก็พลิกกลับมาเป็นฝ่ายรุกใส่ขุนเรืองบ้าง นางแก้ผ้านุ่งของเขาออกพลางคว้าท่อนควยปลายโค้งดูคล้ายรูปทรงของกล้วยหอมมากระทอกเล่นอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะอ้าอมดุ้นควยของเขาเข้าปากไปอย่างยากลำบาก ด้วยความที่ควยของขุนเรืองไม่ได้เป็นแท่งตรงยาวเหมือนอย่างของพ่อเดช ทำให้เวลามันเข้าไปอยู่ในปากของนางแล้วจึงไม่อาจควบคุมทิศทางของมันได้ง่ายนัก บางครั้งมันก็เสียบเข้าไปยันกระพุ้งแก้มของนางจนแก้มตุงป่องออกมาเป็นรูปปลายหัวควย บางครั้งมันก็เสียบเข้าไปยันคอหอยจนนางแทบจะสำลัก แต่กระนั้นนางก็ยังไม่ละความพยายามในการใช้ปากและลิ้นกับท่อนควยของขุนเรืองอย่างสุดฝีมือ บางจังหวะนางก็ถอนปากออกมาใช้แต่เพียงลิ้นเลียตั้งแต่พวงไข่สองข้างไล่ไปตามความยาวของท่อนลำจนสุดปลายถอก ก่อนจะครอบปากอมส่วนหัวเข้าไปแล้วใช้ลิ้นแหย่แยงไปที่รูฉี่ตรงส่วนหัวนั้น ทำเอาขุนเรืองถึงกับเสียวซ่านจนแอ่นเอวเกร็งสะโพกเกือบจะกลั้นน้ำกามเอาไว้ไม่อยู่

"ขุนเรืองเจ้าขา มาเล่นโล้สำเภากันเถอะเจ้าค่ะ ข้าเงี่ยนจนน้ำหีแฉะไปหมดแล้ว"
แม่หญิงจันทร์วาดถอนปากออกมานั่งเอนหลังพิงหมอนสามเหลี่ยมเอาไว้ พลางถ่างขาชันเข่าแยกออกจากกันจนกลีบแคมอ้าออกเห็นเนื้อในชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นนางยังใช้มือทั้งสองข้างแหวกร่องหีของตัวเองให้อ้าออกยิ่งกว่าเดิมเหมือนจะอวดของดีภายในจนเขากลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก กิริยาเช่นนี้หากใครมาบอกว่านางเป็นถึงลูกสาวขุนนางชั้นอัครมหาเสนาบดี เขาคงไม่มีทางเชื่อเป็นแน่ เพราะว่าแม่จันทร์วาดในตอนนี้ช่างร้อนร่านเสียจนหญิงงามเมืองทั้งอยุธยาก็ทาบไม่ติด

แต่ขุนเรืองก็ไม่เสียเวลาคิดนานนัก เขาพุ่งเข้าไปทาบทับร่างของนางโดยเบียดแทรกท่อนลำเข้าไปจดจ่ออยู่ที่ปากอ่าวสวาท แม่จันทร์วาดก็อำนวยความสะดวกเต็มที่โดยอ้าขากางออกแล้วโอบรัดรอบเอวของขุนเรืองเอาไว้ พลางแอ่นสะโพกของตนหงายขึ้นให้ร่องรูหอยของนางยกตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ง่ายต่อการสอดใส่ ขุนเรืองแทบไม่ต้องใช้มือประคองท่อนควยของตัวเองเลยก็สามารถสอดใส่เข้าไปในโพรงสังวาสของแม่หญิงจันทร์วาดโดยไม่ยากเย็นนัก ด้วยความที่โล้สำเภาด้วยกันมาหลายครั้งจนร่องเสียวของนางปรับขนาดให้เข้ากับท่อนควยของเขาได้อย่างเหมาะสม แต่กระนั้นความแน่นกระชับภายในก็มิได้ลดน้อยถอยลงจนถึงกับหลวมโพรกแต่อย่างใด
เขาเสียบท่อนควยอวบโค้งเข้าไปจนสุด ส่วนปลายลำที่เชิดงอขึ้นก็ครูดผนังโพรงหีของแม่หญิงจันทร์วาดตั้งแต่ปากรูไปจนสุดทาง สร้างความเสียวกระสันให้แก่นางยิ่งนัก ยิ่งเมื่อเขาเดินเครื่องชักเข้าชักออกกระแทกกระทั้นใส่รูหอยของนาง ก็ยิ่งทำให้นางเสียวซ่านมากขึ้นจนแทบควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้
"ขุนเรือง..เย็ดข้าแรงๆเลย ข้าเสียวหีเหลือเกิน...ซี้ด...ควยของท่านถูกใจข้ายิ่งนัก...อา..."
ขุนเรืองกระเด้าเย็ดไปพลางก้มลงไปจูบปากนางเป็นระยะๆ ยิ่งนานวันเข้าแม่หญิงจันทร์วาดยิ่งลืมสิ้นซึ่งจริตของกุลสตรี เมื่ออยู่ต่อหน้าท่อนควยของเขานางยิ่งเปิดเผยความร่านในตัวออกมามากขึ้นๆจนไม่เหลือภาพแม่หญิงผู้เรียบร้อยอีกต่อไป หากแต่เขาก็มิได้รังเกียจนางในข้อนั้น กลับทำให้เขารู้สึกพึงพอใจในตัวนางมากขึ้นไปอีกที่เปิดเผยความรู้สึกกันแบบตรงไปตรงมาเยี่ยงนี้ เขาจึงตอบสนองนางด้วยการบดสะโพกส่ายเป็นวงกลมให้ท่อนควยในโพรงหีกวาดครูดไปทั่วทุกซอกทุกมุมในร่องหลืบของนาง สร้างความพึงพอใจให้แก่แม่หญิงจันทร์วาดเป็นอย่างมาก

ทั้งสองคนกระดกสะโพกกระเด้าใส่กันอยู่ซักพักแม่หญิงจันทร์วาดก็เป็นฝ่ายขยับเปลี่ยนท่าก่อน นางโน้มคอขุนเรืองแล้วดึงตัวเองขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตักของเขา จากท่านี้ทั้งสองจึงประจันหน้ากันตรงๆโดยใบหน้าของขุนเรืองอยู่ในระดับหน้าอกของแม่หญิงจันทร์วาดพอดี เขาจึงทั้งดูดทั้งเลียสองเต้าน้อยๆของนางไปพร้อมๆกันในขณะที่แม่หญิงจันทร์วาดเป็นฝ่ายโขยกเอวขย่มสะโพกใส่ท่อนควยของเขาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ในท่านี้นางสามารถควบคุมน้ำหนักและทิศทางได้ตามใจชอบ จะทแยงซ้ายขวา จะส่ายเอวร่อนแค่ไหนก็แล้วแต่อารมณ์ของนางจะพาไป ท่านี้คุณพี่เดชเคยสอนนางไว้เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งนางก็ติดใจและจำมาใช้กับขุนเรืองอยู่หลายครั้ง และทุกครั้งก็ทำให้นางเสียวซ่านถึงใจเป็นที่สุด

"โอว...ขุนเรือง ขุนเรืองเจ้าขา...ซี้ด...เสียวอะไรอย่างนี้...อูย...ท่านรักข้าหรือไม่ขุนเรือง"
แม่หญิงจันทร์วาดร้องครวญครางด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่กลัวใครจะมาได้ยิน
"รักสิแม่หญิง...ซี้ด...ข้ารักออเจ้าเป็นหนักหนา ถึงได้มาร่วมโล้สำเภากับเจ้าเช่นนี้อยู่บ่อยๆไงเล่า...ซี้ด"
"หากท่านรักข้า ก็จงเรียกข้าว่าเมียเถิด..ขุนเรือง...ซี้ด ผัวขา...ผัวชอบมั้ยคะ ที่ได้เย็ดเมียเยี่ยงนี้"
"ชอบสิจ๊ะเมียจ๋า...อูย...เมียขย่มผัวแรงดีเหลือเกิน มิกลัวควยของข้าจะหักคาอยู่ในหีของออเจ้าดอกหรือ"
"ซี้ด...ถ้าจะหัก ก็ปล่อยให้มันหักคาอยู่ในหีของข้านี่แหละ ผัวจะได้ไปเย็ดคนอื่นมิได้ไงเจ้าคะ...อูย...ซี้ด...เสียวเหลือเกิน"

บทสนทนาของทั้งคู่ยิ่งถึงพริกถึงขิงมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดแม่หญิงจันทร์วาดก็ทนไม่ไม่ไหว ขย่มสะโพกกดลงมาจนสุดแรงแล้วค้างไว้ในท่านั้น พลันความเสียวสุดยอดก็ทำให้นางถึงกับลืมตัว ทั้งจิกเล็บลงไปบนหลังของขุนเรืองแล้วข่วนจนเป็นรอยแผล อีกทั้งปากก็ขบฟันลงไปบนหัวไหล่ของขุนเรืองจนเขาร้องโอ๊ย
"โอ๊ย...แม่หญิง..ข้าเจ็บ อย่ากัดข้า...โอ๊ย"

แม่หญิงจันทร์วาดเหมือนจะได้สติ นางรีบปล่อยหัวไหล่ของขุนเรืองที่เผลองับเข้าไปเต็มแรงจนเป็นรอยกัดจมเขี้ยว พลางร้องถามเขาด้วยความตกใจ
"ขุนเรือง ข้าขอโทษ ท่านเจ็บหรือไม่ ข้า..ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าลืมตัว"
ใบหน้าของแม่หญิงจันทร์วาดมีความตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดที่เผลอทำให้ขุนเรืองถึงกับเลือดตกยางออก ขุนเรืองเห็นแล้วก็ทำใจโกรธนางไม่ลง
"ไม่เป็นไรหรอกแม่หญิง ไกลหัวใจนัก แต่ข้าคงต้องขอลงโทษแม่หญิงให้สาสมเสียบ้างกระมัง"

พูดจบขุนเรืองก็อุ้มแม่หญิงจันทร์วาดขึ้นมาทั้งที่ควยยังคาอยู่ในรูหีเช่นนั้น จากนั้นก็อุ้มพานางเดินวนไปรอบกระท่อม ด้วยร่างบอบบางของแม่หญิงจึงมิได้ทำให้เขารู้สึกหนักเท่าใดนัก กลับกันทุกย่างก้าวที่เขาเดินยิ่งส่งแรงกระแทกท่อนควยใส่รูหีของนางจนความเสียวที่เพิ่งคลายตัวลงไปเมื่อครู่ถูกปลุกกลับขึ้นมาอีกครั้ง
"ขุนเรือง..ข้าเสียวเหลือเกิน เมื่อครู่ข้าขอโทษ...ซี้ด...ข้าเป็นอะไรไม่รู้ พอข้าเสียวมากๆเมื่อไหร่ ข้ามักจะลืมตัวทุกครั้ง จนเผลอแสดงกิริยาไม่งามออกไป...ซี้ด...ขุนเรืองอย่าถือโทษโกรธข้าเลยนะเจ้าคะ...อูย..."
จากนั้นขุนเรืองก็จับนางหันหลังพิงฝากระท่อมไว้ แต่มิได้ปล่อยขานางลง แล้วกระเด้าเย็ดใส่นางทั้งๆอย่างนั้น ท่านี้จึงเหมือนแม่หญิงจันทร์วาดถูกอัดติดกับกำแพงจนขยับไปไหนไม่ได้ แม้ปลายเท้าก็ไม่อาจสัมผัสถึงพื้น นางถูกขุนเรืองกระเด้าอย่างหนักหน่วงจนกระท่อมสะเทือนไปทั้งหลังน่ากลัวจะพังลงมา ซึ่งเพียงไม่นานขุนเรืองก็สุดที่จะกลั้นเอาไว้อีกต่อไป เขาจึงฉีดน้ำกามจำนวนมากเข้าใส่โพรงหีของแม่หญิงจันทร์วาดอย่างต่อเนื่อง น้ำกามขุ่นข้นล้นทะลักเนืองนองไหลย้อนลงมาหยดบนพื้นกระท่อมเป็นหย่อมๆ แม่หญิงจันทร์วาดเองก็เสร็จสมตามขุนเรืองไปเป็นคำรบที่สาม นางลืมตัวจิกผมของขุนเรืองอย่างแรงจนมีเส้นผมบางเส้นหลุดติดมือนางออกมาด้วย

...

หลังจากเสร็จสมกันแล้วทั้งสองฝ่าย ทั้งขุนเรืองและแม่หญิงจันทร์วาดต่างก็นั่งประคองกอดกันอยู่โดยยังมิได้เริ่มใส่เสื้อผ้ากลับคืนดังเก่า แม่หญิงจันทร์วาดเพียงนำผ้าสไบมาห่มปกปิดสองเต้าคู่น้อยของนางไว้หลวมๆ พลางซบศีรษะลงบนไหล่บึกบึนของขุนเรือง

"ขุนเรืองเจ้าขา นี่มันก็นานมากแล้วตั้งแต่ที่ท่านได้ข้าเป็นเมียของท่าน แล้วเมื่อใดท่านถึงจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอข้าให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียทีเจ้าคะ"
แม่หญิงจันทร์วาดเอ่ยถามทำลายความเงียบขึ้นมา
"ข้าขอเวลาอีกสักพักเถิดหนาแม่หญิง ตอนนี้ข้ายังติดขัดปัญหาอยู่บางประการ"
สิ้นคำของขุนเรือง แม่หญิงจันทร์วาดก็รู้สึกเหมือนถูกตบจนชาไปทั้งใบหน้า นางผละออกจากอ้อมอกของเขาแล้วหันกลับมาพูดด้วยเสียงอันดัง
"ขุนเรือง!! ไยท่านจึงกล่าวเช่นนี้ ท่านไม่รู้หรือว่าบัดนี้ท่านได้ทุกอย่างของข้าไปครอบครองจนหมดแล้ว ร่างกายของข้าก็ตกเป็นของท่าน แม้แต่หัวใจของข้า ท่านก็ช่วงชิงมันไป หากท่านไม่คิดจริงใจที่จะออกเรือนกับข้า แลไปมีใจให้กับผู้อื่น ข้าก็คงต้องกลายเป็นคนโง่อีกครั้ง เหมือนคราวที่คุณพี่เดชทอดทิ้งข้าไปหาแม่การะเกดนั่นไงเล่า"
แม่หญิงจันทร์วาดตีโพยตีพายแล้วก็ปล่อยโฮร้องไห้ออกมาจนน้ำตาไหลเป็นสาย นางหลงรักขุนเรืองไปหมดแล้วทั้งใจจริงๆจึงยอมมอบทุกอย่างที่มีให้แก่เขา แม้ของสงวนส่วนใดก็ยอมให้เขาเชยชมจนหมดสิ้น แต่ขุนเรืองกลับลังเลมิยอมมาสู่ขอนางเช่นนี้ ทำให้นางเจ็บช้ำน้ำใจยิ่งนัก

"หาเป็นเช่นนั้นไม่แม่หญิง ข้าคิดจะออกเรือนกับเจ้าเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว หากแต่ติดปัญหาก็ตรงที่..."
ขุนเรืองไม่ทันพูดจบ แม่หญิงจันทร์วาดก็สวนขึ้นมาทันควันด้วยอารมณ์ที่ร้อนราวกับไฟ
"ตรงที่ใดกันเจ้าคะ ตรงที่ข้ามิใช่หญิงบริสุทธิ์ใช่หรือไม่ ท่านจึงได้รังเกียจข้า หากเป็นเช่นนั้นท่านก็ควรจะโทษคุณพี่เดชเพื่อนสนิทของท่าน ที่ใจคอโลเลยิ่งนัก มาพรากเอาความบริสุทธิ์ของข้าไปยังมิพอ ยังทอดทิ้งข้าไปหาแม่หญิงการะเกดคู่หมายของเขา หาใช่มาโทษข้าที่เป็นหญิงสำส่อน มิยอมรักนวลสงวนตัวไม่"
แม่หญิงจันทร์วาดพูดไปก็น้ำตาคลอเบ้าไป นางทั้งโกรธและเสียใจในเวลาเดียวกัน

"มิใช่เช่นนั้นแม่หญิง หากแต่คุณหญิงนิ่ม แม่ของออเจ้า มิพึงใจในตัวข้า นางมิอยากให้ข้าไปเป็นลูกเขยของนาง เจ้าก็เห็นอยู่"
"คุณแม่ของข้า ทำเหมือนคุณแม่ของทุกผู้ ท่านเพียงต้องการแน่ใจ และท่านจะแน่ใจได้เพียงใด...เป็นหน้าที่ของท่าน"
แม่หญิงจันทร์วาดกล่าวไว้เพียงแค่นั้นก็แต่งเนื้อแต่งตัวแล้วกลับเรือนไปทันที ทิ้งให้ขุนเรืองนั่งขมวดคิ้วครุ่นคิดหาวิธีแก้ปัญหาต่อไปเพียงลำพัง

...

ณ ท่าน้ำหน้าเรือนออกญาโหราธิบดี ขุนเรืองนำความมาปรึกษาแม่หญิงการะเกดดังเช่นทุกครั้ง นางเปรียบเสมือนที่ปรึกษาส่วนตัวด้านความรักของเขาไปเสียแล้ว แม่การะเกดรับฟังปัญหาของขุนเรืองจบ ก็ตักขนมเข้าปากเคี้ยวจนหมดก่อนจะบอกวิธีแก้ไขให้เขาได้ฟัง
"ขุนเรืองก็ต้องแสดงให้คุณหญิงนิ่มเห็นว่าขุนเรืองมีดีเพียงใดถึงคู่ควรจะได้เป็นลูกเขยของนาง เชื่อข้าเถอะ ท่านต้องทำได้อยู่แล้ว ขนาดแม่หญิงจันทร์วาด ท่านยังเอาชนะใจนางได้เลย ดังนั้นท่านก็ต้องเอาชนะใจคุณหญิงนิ่มแม่ของนางได้เช่นกัน ข้ารับรอง"
"เจ้าช่วยบอกวิธีเอาชนะใจคุณหญิงนิ่มให้กับข้าได้หรือไม่ แม่การะเกด"
"หืม...เรื่องอะไร ท่านต้องไปคิดเอาเองสิเจ้าคะ ท่านอยากจะเป็นลูกเขยของนาง ไม่ใช่ข้าซักหน่อย ข้าแนะนำท่านได้เพียงเท่านี้แหละเจ้าค่ะ ที่เหลือต้องเป็นหน้าที่ของขุนเรืองแล้วล่ะ"
ขุนเรืองฟังที่แม่การะเกดพูดจบแล้วก็ไม่อาจเซ้าซี้ต่อไป จึงขอตัวลากลับ พลางครุ่นคิดถึงวิธีที่จะเอาชนะใจคุณหญิงนิ่มจนหัวแทบแตกแต่ก็ยังคิดไม่ออกเสียที จนแม่การะเกดที่มองตามถึงกับส่ายหน้าในความซื่อบื้อของขุนเรือง นี่ถ้าหากหนก่อนนางไม่ช่วยจนถึงขนาดยอมเปลืองตัวร่วมวงโล้สำเภาด้วย ท่าทางขุนเรืองคงไม่มีปัญญาได้เจาะไข่แดงแม่หญิงจันทร์วาดด้วยตัวเองหรอกกระมัง

...

"แม่จันทร์วาด รู้หรือไม่ว่าตอนนี้ขุนเรืองเขากินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกังวลเรื่องที่เขาไม่สามารถทำให้คุณหญิงนิ่มยอมรับในตัวเขาได้ จนแทบจะตรอมใจตายอยู่แล้ว"
แม่การะเกดลงทุนมาหาแม่จันทร์วาดถึงเรือน เพราะอดยื่นมือเข้าช่วยไม่ได้จริงๆ
"เหตุใดออเจ้าต้องยื่นจมูกเข้ามาในเรื่องที่ไม่ใช่ของออเจ้า"
แม่การะเกดรู้สึกเหมือนโดนหาว่าเสือกเบาๆ วาจาของแม่หญิงจันทร์วาดนั้นช่างเชือดเฉือนนัก หลอกด่านางได้อย่างแนบเนียน แต่นางก็หาได้ใส่ใจไม่ เพราะต้องการช่วยเหลือขุนเรืองมากกว่า
"แม่จันทร์วาด ข้าขอถามตรงๆนะ ออเจ้ากับขุนเรือง โล้สำเภากันไปกี่ครั้งแล้ว"
"เหตุใดออเจ้าจึงถามในเรื่องที่ไม่สมควรเช่นนี้ ไม่มีแม่หญิงคนใดในอยุธยาเขาถามกันแบบออเจ้าหรอกหนา"
แม่จันทร์วาดตอบทั้งที่ใบหน้าเริ่มแดงซ่านขึ้นมาด้วยความเขินอายยิ่งนัก
"เอาเถอะน่า ในฐานะที่เราต่างก็เคยสนิทแนบแน่นกันแบบเนื้อถึงเนื้อมาแล้ว เจ้าก็ตอบข้ามาตรงๆเถอะ..นะๆ กี่ครั้งแล้ว"
แม่การะเกดยังเซ้าซี้ต่อไป เพราะนางกับแม่หญิงจันทร์วาดเปรียบเสมือนเพื่อนสนิทกันไปแล้ว สนิทถึงขนาดร่วมเตียงกับผู้ชายคนเดียวกันก็ยังเคยทำ นางเข้าใจดีว่าที่แม่จันทร์วาดพูดแบบนั้นก็เพราะต้องการวางท่าให้ดูเป็นหญิงเรียบร้อยต่างหาก
"ก็..บ่อยครั้งอยู่ แต่ใครเขาจะไปนั่งจำเรื่องนี้กันเล่าแม่การะเกด"
"แล้วบ่อยมากมั้ย"
"มาก"
ในที่สุดแม่หญิงจันทร์วาดก็ยอมรับออกมาตรงๆจนได้เพราะทนการเซ้าซี้จากแม่การะเกดไม่ไหวแล้ว
"แล้วออเจ้าไม่เสียดายหรือ หากออเจ้าไม่ได้แต่งงานกับขุนเรือง ทั้งที่โดนเขาโล้สำเภาไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว"
"แล้วจะให้ข้าทำกระไรเล่า เรื่องนี้แม่ข้าเป็นคนตัดสินใจ หากแม่ข้าไม่ยินดี ข้ากับขุนเรืองก็คง..."
แม่จันทร์วาดพูดไม่ทันจบก็พาลจะร้องไห้ออกมา น้ำตาใสๆเอ่อขึ้นมาคลอเบ้าแล้ว หากแต่แม่การะเกดฉวยจังหวะกระซิบบอกแผนการที่ข้างหูนางเสียก่อน จนแม่จันทร์วาดถึงกับนิ่งอึ้งไปแล้วหันกลับไปถามแม่การะเกด

"จะดีหรือแม่การะเกด ข้าไม่กล้าทำหรอกนะ ข้ากลัวบาป"
"ระหว่างบาปกับอดมีผัว ออเจ้าก็เลือกเอาก็แล้วกัน ข้าช่วยได้แค่นี้แหละนะ ข้าไปละนะ"
พูดจบแม่การะเกดก็ลากลับไปทันที ปล่อยให้แม่หญิงจันทร์วาดสับสนในใจอยู่อย่างนั้น

...

หลังจากนั้นสองวัน แม่หญิงจันทร์วาดก็แสร้งทำเป็นป่วยนอนซมไม่ยอมลุกออกจากเตียง พลางรำพึงรำพันแต่คำว่าอยากตายๆ จนคุณหญิงนิ่มอ่อนใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี นางรู้มาตลอดว่าลูกสาวนางมีใจให้กับขุนเรือง แต่นางไม่ชอบใจตรงที่เขาเป็นเพียงลูกขุนนางชั้นผู้น้อย มิได้มีหน้ามีตาเหมือนอย่างขุนศรีวิสารวาจา ที่เป็นถึงลูกของพระยาโหราธิบดี ราชครูของขุนหลวง อีกทั้งหากเขากลับมาจากไปเป็นทูตที่ฝรั่งเศสครานี้ คงได้อวยยศสูงขึ้นไปอีกเป็นแน่ แต่เมื่อมาเห็นลูกสาวต้องตรอมใจขนาดนี้ นางจึงจำใจต้องยอมเรียกขุนเรืองมาเจรจาด้วยในที่สุด

บ่ายวันต่อมาขุนเรืองก็มาเยี่ยมคุณหญิงนิ่มถึงเรือนพร้อมด้วยของกำนัลมากมาย แต่คุณหญิงนิ่มก็ยังปั้นหน้าไม่ยินดียินร้ายกับทรัพย์สินที่เขานำมาเอาใจ และพูดประดุจว่ามิอยากได้ของเหล่านั้น
"เอาข้าวของมาทำไมมากมายก่ายกอง ไม่มีที่จะเก็บ"
"ในเรือนไม่มีของเลย ไม่มีที่เก็บจริงหรือขอรับ"
ขุนเรืองพลั้งปากพูดตามที่เห็นออกไปโดยลืมคิดว่ามันยิ่งไปกระทบจิตใจคุณหญิงนิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะครอบครัวนางโดนริบทรัพย์กลับเข้าหลวงไปจนหมด คุณหญิงนิ่มชะงักไปนิดหนึ่งเพราะไม่คิดว่าจะโดนตอกกลับเช่นนี้ แต่ยังคงรักษากิริยาไว้ให้ปกติที่สุดก่อนจะกล่าวกับขุนเรืองต่อไป
"ตามข้ามาเถิดขุนเรือง ข้ามีธุระสำคัญจะต้องคุยด้วยกับออเจ้า"
แล้วคุณหญิงนิ่มก็เดินนำขุนเรืองเข้าไปยังห้องๆหนึ่ง ซึ่งดูคล้ายกับว่าจะเป็นห้องนอนของผู้ใดมาก่อน แต่ข้าวของภายในห้องถูกขนออกไปจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงเตียงกับเก้าอี้อย่างละตัวเท่านั้น จึงทำให้ห้องนั้นดูโล่งผิดหูผิดตา คุณหญิงนิ่มนั่งลงบนเตียงก่อนจะพูดกับขุนเรืองโดยที่ยังหันหลังให้เขา สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง

"ข้าขอพูดตามตรงนะ ข้ามิประสงค์จะได้เจ้ามาเป็นเขยของข้า ด้วยว่าออเจ้านั้นยศถาบรรดาศักดิ์ต่ำต้อยมิเทียมหน้าเทียมตาผู้อื่น อีกทั้งหน้าตาก็ดูเซ่อซ่าหาสติปัญญามิได้ รูปร่างก็เก้งก้างหาความสมชายชาตรีไม่เจอ ดูทีรึ..จะมีปัญญาทำหลานมาให้ข้าอุ้มหรือเปล่าก็ยังมิรู้ ข้าสงสัยนักว่าลูกสาวของข้าหลงเสน่ห์อะไรในตัวเจ้าจนหัวปักหัวปำเยี่ยงนี้"
โดนเหยียดหยามกันขนาดนี้ เป็นใครก็คงทนไม่ได้ ขุนเรืองเองก็ถึงกับเหลืออด ถูกตราหน้าว่าไม่หล่อแถมจนยังพอว่า นี่ถึงขนาดสบประมาทว่าไม่มีน้ำยาเรื่องบนเตียง เขาคงต้องแสดงให้ว่าที่แม่ยายเห็นเสียหน่อยแล้วว่า ไอ้สิ่งที่ทำให้ลูกสาวของนางหลงจนโงหัวไม่ขึ้นคืออะไร พลันนึกไปถึงสิ่งที่แม่การะเกดบอกกับเขาในวันนั้นก็ทำให้เขาเข้าใจความหมายในคำพูดของนางขึ้นมาทันที
'ท่านต้องแสดงให้คุณหญิงนิ่มเห็นว่ามีดีเพียงใดถึงคู่ควรกับลูกสาวนาง'
ใช่แล้ว..ของดีที่เขามีอยู่ใต้สะดือลงไปเพียงไม่กี่นิ้ว เจ้านี่เคยทำให้แม่หญิงจันทร์วาดกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆในกำมือเขามาแล้ว และมันจะต้องทำให้คุณหญิงนิ่มเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเขาได้เช่นกัน คิดได้ดังนั้นเขาก็ตัดสินใจทำบางอย่างทันที


 

ห้าเดือนหลังจากนั้น พ่อเดชกลับมาจากฝรั่งเศสแล้ว เพิ่งจะมีเวลาว่างจึงเดินทางไปเรือนของคุณอาขุนเหล็ก เพราะแม่การะเกดบอกว่าแม่หญิงจันทร์วาดป่วย อยากให้เขาไปเยี่ยม เขาจึงพาแม่การะเกดนั่งเรือไปพร้อมกัน เมื่อมาถึงเรือนแล้ว ก็ได้พบกับคนที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอ และสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น

คุณหญิงนิ่มเดินออกมาต้อนเขาเขาและแม่การะเกดที่หน้าเรือน ในสภาพท้องโย้เพราะมีครรภ์ ส่วนขุนเรืองเดินตามมาด้านหลังหน้าจ๋อยๆ
"คุณหญิงนิ่ม ข้าไหว้ขอรับ เอิ่ม...คุณหญิงนิ่มดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะขอรับ"
พ่อเดชเอ่ยทัก เขาไม่กล้าคิดไปว่าคุณหญิงตั้งครรภ์ เพราะคุณอาขุนเหล็กเสียชีวิตไปนานมากแล้ว ใครจะเป็นพ่อเด็กได้กันเล่า
"คุณพี่เจ้าขา คุณหญิงท่านไม่ได้อ้วนเจ้าค่ะ แต่ท่านท้อง"
แม่การะเกดพูดสอดขึ้นมา
"เงียบปากเสียแม่การะเกด มิมีผู้ใดถามความเห็นจากออเจ้า ว่าแต่ขุนเรือง เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่ได้"
พ่อเดชดุแม่การะเกดเสร็จก็เอ่ยทักขุนเรือง

"ข้า...อาศัยอยู่ที่เรือนนี้"
ขุนเรืองเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก แต่คุณหญิงนิ่มก็กล่าวสำทับขึ้นมา
"พ่อเดช บัดนี้พ่อเรืองเป็นเจ้าของเรือนนี้แล้ว เพราะข้าได้ยอมเป็นเมียของพ่อเรือง อีกทั้งบุตรในครรภ์ของข้า ก็เป็นฝีมือของพ่อเรืองเช่นกัน"
พ่อเดชถึงกับอึ้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ส่วนแม่การะเกดทราบเรื่องนี้มาจากแม่จันทร์วาดมาซักพักแล้วถึงได้ชวนพ่อเดชมาถึงที่นี่ แม่การะเกดฉุดเสื้อของคุณพี่เป็นสัญญาณให้เขาขอตัวไปเยี่ยมแม่หญิงจันทร์วาดที่หอนอนของนาง ทั้งคู่จึงปลีกตัวออกมา ส่วนขุนเรืองเดินตามคุณหญิงนิ่มไปทางอื่นต้อยๆเหมือนสุนัขที่ถูกเจ้าของลากจูง

...

แม่หญิงจันทร์วาดพอเห็นแม่การะเกดกับคุณพี่เดชมาหา ก็ร้องไห้โฮออกมา นัยน์ตามีรอยบวมช้ำจากการร้องไห้มาอย่างหนัก นางโผเข้ากอดแม่การะเกดพลางพูดทั้งน้ำตา
"แม่การะเกด ข้าอยากตาย...ฮือๆๆ...ข้าอยากตาย อยากตายจริงๆ ไม่ใช่คำลวงที่เจ้าให้ข้าพูด แต่ข้าอยากตายจริงๆ...ฮือๆๆ"

พ่อเดชส่งสายตาเหมือนจะถามแม่การะเกดว่า ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกัน แม่การะเกดเห็นแววตาคาดคั้นนั้นจึงตอบออกไป
"มิใช่ความผิดของข้านะคะคุณพี่ ข้าน่ะเป็นที่ปรึกษาให้ขุนเรืองมาขอแม่หญิงจันทร์วาดจากคุณหญิงนิ่ม ไม่คิดว่าอีตานั่นจะซื่อบื้อเอาคุณหญิงนิ่มมาเป็นเมียแทนเสียนี่"
พ่อเดชถึงกับส่ายหัวอย่างอ่อนใจ
"ออเจ้านี่ช่างสอดเรื่องของผู้อื่นเขาไปหมดทุกเรื่อง"

แม่การะเกดมองค้อนพ่อเดชไปหนึ่งดอก ก่อนจะหันกลับมาลูบหัวปลอบใจแม่จันทร์วาด ที่กำลังเสียใจเพราะเพิ่งเสียผัวให้กับแม่แท้ๆของตัวเอง
"ไม่ต้องร้องนะแม่จันทร์วาด...โอ๋ๆๆ เดี๋ยวข้าจะหาผัวใหม่ให้ออเจ้าแน่นอน รับรอง เอาให้เริ่ดกว่าขุนเรืองซักสิบเท่าไปเลยคอยดู"
พูดจบแม่การะเกดก็ส่งสายตามองมายังคุณพี่เดชอย่างมีลับลมคมในเป็นที่สุด จนคุณพี่เดชต้องถลึงตาใส่นางที่มีความคิดสัปดนขึ้นมาอีกแล้ว

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

hoiihoii

#1
 ::Glad:: ::Glad::

รอคอยด้วยความตั้งอกตั้งใจ อยากอ่านเรื่องคุณหญิงนิ่มมากกก เนื้อเรื่องสนุกมากคับ แล้วอ่านตอนต่อๆไปนะคับ





ขอฝากคำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry:: ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา ::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1ปี. .

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .
................................................................................................................

fabulous556

โถ่ขุนเรือง แม่การะเกดอุตส่าชงเรื่องแม่หญิงจันทร์วาด ดันไปได้คุณหญิงนิ่มซะงั้น 5555

Xet Undeath

จะหาผัวใหม่ให้แม่หญิงจันทร์วาดอีกหรอแม่การาเกด555 แต่อยากอ่านเรื่องของลูกๆด้วยคับ

ryg123456

ขุนเรืองจัดการเทครัวเสียเลยนะครับ
วินวินด้วยกันทั้งหมด

ผู้เฒ่าเซราะกราว

555.....ขุนเรืองกลายเป็นผัวคุณหญิงนิ่มเลยเหรอ แล้วแม่จันทร์วาดจะได้ใครเป็นผัวแทนล่ะ  หือ แม่การะเกด????


beetleman



betty2556


oat826


ponchan80

ขุนเรืองจัดการเทครัวเสียเลย พี่เดช ปลอบขวัญจันทร์วาดเขาหน่อย


wood007

มันช่างสับสนไปหมดเลย พ่อเรืองเล่นคุณหญิงแทนซะแล้ว

pimmy121

วุ่นวายวกวนอลเวงกันน่าดู แม่ลูกมีผัวคนเดียวกัน เรื่องแบบนี้มีมาแต่นานแล้วเนาะ