ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ผีหลอกสายฟ้า ตอนที่ 1

เริ่มโดย twintower, ธันวาคม 05, 2019, 10:21:36 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

"ท่านไม่มีถุงยางเหรอคะ"

เสียงกระเส่าจากร่างที่นอนเปลือยกายขาวโพลนบนเตียง

"เป็นผีแล้วยังต้องใช้อีกหรือไง"

ผมตอบไปที่ร่างอันเปลือยเปล่านั้น ทำเอาเธอดูเขินอายก่อนจะตอบกลับ

"ลืมไป เห็นคนมาเอากันที่ห้องนี้บ่อยๆใช้ถุงยางกันเกือบทั้งนั้น"

ร่างอันขาวโพลนนั้นตอบผมด้วยสายที่หวานฉ่ำ และขยับตัวให้เมื่อผมจับขาเธอทั้ง 2 ข้างมาพาดไหล่

"เอาฉันท่านี้หรือ"

เธอมิวายมีคำถามผมพยักหน้าแทนคำพูดพร้อมจับควยที่แข็งตัวเต็มที่ไปจ่อที่ปากรูหีของเธอก่อนจะดันเข้าไป มันให้ความรู้สึกคับแคบไปทั้งหมด

"โอยเบาๆหน่อยสิท่าน ฉันเจ็บไปหมดแล้ว"

"อะไรเป็นผีแล้วยังเจ็บอีกหรือนี่"

ผมบอกเธอก่อนจะดันควยเข้าไปอีก เหมือนกับเธอที่ขยับตัวให้ผมเย็ดเธอถนัดขึ้น

"อูยยยย ตอนเป็นคนฉันไม่เคยนี่ ตอนเป็นผีก็เหมือนกับตอนเป็นคนนั่นแหละร่างของฉันตอนนี้ที่ถูกพลังท่านสร้างขึ้นมามันก็เหมือนกายหยาบตอนฉันเป็นคนอยู่ "

เธอตอบด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวพร้อมเสียงที่กระเส่า เพราะผมใช้จังหวะนั้นดันควยเข้าไปจนสุด ก่อนจะเริ่มกระเด้า มันให้ความรู้สึกเหมือนกับการที่ได้เย็ดคนจริงแถมเป็นการเปิดบริสุทธิ์ผีสาวอีกด้วย ใช่แล้วผมกำลังร่วมรักกับผีสาวที่เธอสิงสู่ในห้องพักของโรงแรมแห่งนี้มานาน ผมนั้นดีรู้ว่าพลังวิเศษที่ได้รับมานั้นนอกจากสื่อสารกับวิญญาณได้ มันยังสร้างร่างของวิญญาณหรือเรียกว่า"ผี" ทำให้มีกายหยาบขึ้นมาเหมือนตอนมีชีวิตอยู่ เหมือนกับร่างที่ผมกำลังสมสู่กับเธออยู่ในตอนนี้

"อูยยยย ซี๊ดดดดดดดดด พี่ฉันเสียวเบาหน่อยอย่าวนแบบนั้นสิ อูยๆๆๆๆ"

เสียงครวญครางของเธอนั้นดังเข้าสู่โสตประสาทส่วนลึกของผมไม่หยุดหย่อน ร่างกายที่เด้งรับมันเสียดสีกับผมเหมือนผู้หญิงจริงๆที่ผมผ่านมานับไม่ถ้วน และเธอเปลี่ยนไปเรียกผมจากท่านมาเป็นพี่ แต่ถ้านับอายุจริงๆเธอคงแก่กว่าผมหลายปี ผมประเคนบทรักให้เธออย่างไม่หยุด จนเธอนั้นเด้งรับตลอดจนในที่สุดเราไปถึงจุดหมายพร้อมๆกัน เธอร้องครางอย่างสุดเสียงพร้อมกับน้ำกามผมพุ่งเข้าสู่ตัวเธอ ก่อนที่จะโผไปซบบนตัวของผีสาว เธอกอดรัดผมพร้อมรับการจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้ง

"ไหนว่าไม่เคยไง เด้งรับตลอด"

เธอสบตาผมแล้วยิ้มอย่างอายๆก่อนจะตอบผม

"ก็แหมพี่  ฉันเห็นคนเอากันในห้องนี้มาหลายปีแล้วหลายคู่เอากันหลายท่า ฉันก็จำมาใช้บ้างสิ เมื่อกี้พี่ยังบอกเลยฉันใช้ปากเก่ง ฉันก็เรียนรู้จากหนังสดในห้องนี้แหละ"

เธอตอบผมก่อนจะบรรยายให้ฟังว่าในห้องนี้ที่วิญญาณเธอสิงสู่อยู่เธอเห็นมาเยอะ ทั้งบทรักของของชายหญิง,หญิงกับหญิง,ชายกับชายหรือเซ็กส์หมู่เธอก็เห็นมาหมดแล้ว ทั้งๆที่โรงแรมนี้ไม่ใช่โรงแรมม่านรูดมันเป็นโรงแรม 3ดาวในจังหวัดแห่งหนึ่งที่ผมมาตรวจงานก่อสร้างสาขาของบริษัทแทนเจ้าหน้าที่อีกคนที่ป่วยอย่างกะทันหัน และพอมาถึงที่ห้องพักมันทำให้รู้สึกบรรยากาศที่วังเวงแถมพนักงานโรงแรมที่พาผมมาที่ห้องนั้นรีบออกจากห้องทันที แต่บรรยากาศพวกนี้มันไม่ทำให้ผมกลัว เพราะผมชินกับเรื่องพวกนี้มาร่วม 10 กว่าปีแล้ว จนช่วงกลางคืนหลังจากที่กลับจากสาขา ผมแวะทานมื้อเย็นเรียบร้อยและกลับมานั่งตรวจแปลนก่อสร้างต่อที่ห้องพัก จนช่วงดึกหลังจากอาบน้ำเรียบร้อยผมกลับมาทำงานต่อแต่ระหว่างนั้นรู้สึกว่ามีคนมองตลอด จนทนไม่ไหวผมหันกลับไปที่เตียงแต่มันพบกับความว่างเปล่า แต่ความรู้สึกบอกว่าไม่ใช่แน่จึงสำรวมจิตตั้งมั่นก่อนจะเห็นว่าที่เตียงนอนนั้นมีร่างที่พอจะมองออกว่าเป็นคนผมยาวนั่งอยู่ปลายเตียงมองมาที่ผม ทำให้ผมยิ้มออกมาแล้วบอกว่า

"เอาละจะเป็นสัมภเวสีหรือใครมาขอส่วนบุญ ก็จะทำบุญอุทิศไปให้นะ อย่ามากวนเลยคนจะทำงาน"

ผมพูดแบบอ่อนโยน ไม่ได้ท้าทายอะไร แต่ร่างนั้นยังนิ่งเฉยแถมมีเสียงหัวเราะแบบดุๆออกมา ผมจึงเพ่งจิตมองไปอีกครั้งและเห็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นเป็นผู้หญิงสาวสวยที่ใส่ชุดเหมือนสาวออฟฟิตทั่วๆไปนั่งมองผมด้วยสายตาที่ดุๆ แต่เห็นร่างนั้นไม่ได้คุกคามอะไรผมจึงถามไป

"ชุดนั้นเค้าสวมให้เธอครั้งสุดท้ายหรือ"

ร่างนั้นยังนิ่งไม่ตอบอะไร แต่เริ่มคุกคามผมด้วยเสียงหัวเราะแบบหลอนๆ ผมถอนหายใจเบาๆแล้วยกเก้าอี้หันไปหาเธอแล้วบอกเธอไปด้วยท่าทีสงบ

"อย่ามาหลอกกันเลยผมไม่กลัวหลอกคุณยังไม่รู้หรอกว่าผมทำอะไรได้บ้าง เอาละผมพอจะรู้ว่า คุณตายในห้องนี้เมื่อหลายปีมาแล้ว วิญญาณคุณเลยผูกพันกับที่นี่ไม่ยอมไปไหน  คงเคยมีคนเห็นคุณบ้างแหละแต่ไม่มากเท่าไหร่ คงเพราะอะไรหลายๆอย่างรวมถึงคุณไม่คิดจะหลอกใคร แต่พวกที่เห็นคุณคงจะสื่อถึงกันได้เลยเห็นคุณ  ผมรู้เพราะเห็นอาการของพนักงานเลยไปถามคนแถวนี้เลยรู้เรื่องประวัติห้องนี้อยู่บ้าง เอาละอย่างที่บอกไปนะว่าจะอุทิศส่วนกุศลไปให้ ต่างคนต่างไป"

"ออกไปจากห้องนี้ ข้าไม่สนว่าแกเก่งขนาดไหน ข้าไม่ชอบหน้าเจ้าออกไป"

"อ้าวๆๆๆผมไปทำอะไรให้คุณละอยู่ดีๆมาไล่ ผมจ่ายเงินค่าห้องให้โรงแรมแล้วนะ จะมาไล่กันแบบนี้ไม่ได้"

เสียงกังวานที่ออกอาการเกรี้ยวกราดของเธอก้องในหัวผมผมเลยตอบไปด้วยเสียงหัวเราะแต่เธอไม่ยอมตอบ แต่ดวงตานั้นเริ่มลุกวาวแต่พอเห็นเธอขยับร่างผมจึงปรามเธอ

"นี่คุณบอกดีไม่เชื่อนะ ผมไม่อยากเสียเวลามีเรื่องคุณไม่คิดบ้างหรือว่าจู่ๆทำไมผมถึงเห็นคุณชัดขนาดนี้ ทั้งๆที่ตอนแรกไม่เห็นอะไรเลยแค่รู้สึก เอาละผมไม่ได้ลองดีนะ แค่อยากให้คุณรู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง คุณลองลุกขึ้นยืนหรือขยับร่างคุณสิ หรือจะหายตัวก็ได้"

ทันทีที่ผมพูดจบจิตผมสั่งไปยังมือที่3กับ4ให้ไปกดที่ร่างของเธอไว้ถึงจะเป็นแค่วิญญาณมือที่3กับ4 ก็ทำได้ คราวนี่ผีสาวสวยตนนั้นถึงกับตะลึงเพราะร่างของเธอนั้นไม่สามารถขยับตัวได้อย่างที่ผมบอก

"แกๆๆๆ จะทำอะไรข้า"

"ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ทำ แค่อยากให้รู้ว่าผมทำอะไรได้บ้างเท่านั้น  เอาละอย่างที่บอกนะ ทางใครทางมันผมจะทำบุญไปให้ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากนักอาจารย์ผมสอนไว้ เราอยู่กันคนละโลกแล้วต่างคนต่างอยู่แล้วกัน"

ผมบอกเธอพร้อมปล่อยร่างเธอให้เป็นอิสระจากพลังวิเศษของผม แต่เธอนั้นดูดื้อดึงมากไม่ยอมไป แถมยังทำตัวลอยจากเตียงนอนให้ผมเห็นอีก พร้อมเสียงหัวเราะที่ดังและดุขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะยกมือชี้หน้าผม

"แค่นี้ทำอะไรกูไม่ได้หรอก เตือนแล้วนะบอกให้ออกไปไม่อย่างนั้นเจอดี"

ผมส่ายหน้าก่อนจะให้มือพิเศษของผมไปจับที่ร่างเธออีกครั้ง แล้วลุกขึ้นเดินไปหา เพราะเห็นท่าจะต้องสั่งสอนสักเล็กน้อยกับผีสาวตนนี้ เธอท่าจะดื้อเอาการจากเรื่องแค่ไม่ชอบขี้หน้าผมก็จะมาหาเรื่องกันแบบนี้มันผีอันธพาล เพราะจากที่ไปคุยกับคนที่พอจะรู้เรื่องตอนช่วงเย็นว่าเธอนั้นฆ่ากินยาตายในห้องนี้เพราะผิดหวังจากความรัก คนที่เคยเห็นเธอนั้นอย่างมากก็มาปรากฏกายให้เห็นแต่ไม่เคยทำฤทธิ์หลอกใคร ทางโรงแรมนั้นก็ไม่เคยสนใจที่จะทำพิธีอะไร จนมาแจ๊คพอตที่ผมเมื่อเธอ แสดงฤทธิ์ออกมาให้เห็นแบบนี้จากที่จะไม่สนใจคงต้องกำราบกันเล็กน้อย มือพิเศษของผมจับเธอให้อยู่นิ่งอีกครั้งร่างที่ลอยนั้นถูกจับกดให้มานั่งที่เตียงผมเดินไปยืนตรงหน้าเธอ ก่อนจะรวมจิตกำหนดให้ร่างของเธอนั้นมีกายหยาบแบบที่มือธรรมดานั้นสัมผัสได้ เมื่อเห็นเธอหมดฤทธิ์อีกครั้ง ผมใช้มือธรรมดาเชยคางเธอขึ้นมา

"ไงผมบอกแล้วว่าอย่าฤทธิ์เยอะ ไม่ไหวเลยจริงๆคุณนี่พูดดีๆไม่เชื่อต้องสั่งสอนกันบ้างมั้ง"

ผีสาวนั้นไม่ตอบผมแต่ทำกิริยาฮึดฮัด เพราะร่างเธอนั้นขยับไม่ได้

"เห็นหรือยังว่าผมมีพลังทำให้สัมผัสคุณได้ ยังอยากจะลองดีอีกหรือเปล่าคุณ"

ดวงตาของเธอนั้นวาวโรจน์แต่ยังไม่ตอบอะไรผม แต่ด้วยความสวยของเธอทำเอานิสัยเดิมที่หายไปนั้นคืนกลับมาแม้คำสอนของท่านอาจารย์ยังก้องอยู่ในหัว แต่ในเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนมันก็เป็นข้อละเว้นได้ในเรื่องของศีลธรรมเรื่องประพฤติในกาม เพราะเธอไม่ใช่คน  พอคิดแบบนั้นมือวิเศษของผมเริ่มลูบคลำไปตามร่างของเธอจนมาหยุดที่หน้าอก มือวิเศษของผมขยำหน้าอกอันเต่งตึงชองเธอเบาๆแล้วเริ่มล้วงเข้าไปในเสื้อ

"แกๆๆๆ ไอ้ลามกจะทำอะไรกู หยุดเดี๋ยวนี้"

ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ ร่างที่ถูกตรึงของเธอนั้นขยับไม่ได้แต่เสียงของเธอนั้นเปลี่ยนเป็นตกใจแทน มือวิเศษของผมนั้นล้วงผ่านเสื้อและเสื้อในไปสัมผัสกับนมที่ขนาดของพอเหมาะของเธอทั้งสองเต้า เธอพยายามดิ้นแต่ไม่เป็นผล แถมส่งเสียงด่าผมไม่หยุด ผมเปลี่ยนไปใช้มือจริงในการจับนมเธอเธอ สัมผัสจากมือวิเศษของผมนั้นมันไม่แตกต่างกันในการรับรู้ของประสาทสัมผัสด้วยมือจริง ยิ่งเธอด่าผมยิ่งขยำให้มันมือขึ้นจนเสื้อที่สวมนั้นถูกปลดพร้อมเสื้อชั้นในหน้าอกอันขาวพร้อมหัวนมสีน้ำตาลอ่อนนั้นปรากฏในสายตาของผม และพลังวิเศษนั้นมันสื่อมาให้ผมรู้ว่าผีสาวตนนี้เริ่มมีอารมณ์ทางเพศเหมือนคนทั่วๆไป ยิ่งทำให้ผมเคล้นคลึงนมเธอไม่หยุดยิ่งมาบี้ที่หัวนมจนมันบานขยายรองรับนิ้ว  ตรงกันข้ามกับเจ้าของเต้าที่ด่าผมไม่หยุดแต่เสียงเริ่มสั่นๆ

"ไหนขอกินนมผีผู้หญิงหน่อยสิ จะอร่อยเหมือนนมของมนุษย์สาวๆบ้างไหม"

ผมคุกเข่าลงไปที่พื้นแล้วยื่นหน้าเข้าไปหาเต้าที่อวบอิ่มได้ขนาด

"ไอ้ๆๆๆลามก อย่าทำอะไรกูนะ มึงจะทำผิดมหันต์ข้ามเส้นแบ่งคนกับผี"

"อ้าวก็ผีอยากมาหลอก มาลองดีก่อนทำไมละ"

ผมตอบเสียงที่สั่นด้วยความกลัวของผีสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆแล้วยื่นปากไปที่เต้านมของเธอก่อนจะใช้ริมฝีปากเม้มไปที่หัวนมของเธอ มือข้างขวาโอบสะโพกของเธอและลูบไปมา ส่วนมือข้างซ้ายลูบคลำนมอีกเต้าแต่มือพิเศษนั้นยังตรึงร่างเธออยู่  เสียงด่าของเธอนั้นขาดหายมีแต่เสียงหายใจถี่ๆเข้ามาแทน ผมเงยหน้าขึ้นไป ดวงตาที่เคยแดงกล่ำของเธอนั้นหายไปกลับเป็นดวงตาที่ฉ่ำ มองมาที่ผม เห็นแบบนี้ผมจึงดูดดื่มเต้านมที่ยังแข็งของเธอสลับไปมา จนเธอเริ่มมีเสียงครางออกมาพอเห็นว่าผีสาวเริ่มมีอารมณ์  ส่วนล่างของเธอนั้นถูกปลดออกอย่างง่ายดาย ทุกอย่างของเธอนั้นเหมือนคนเป็นๆอยู่ หมอยนั้นดกพอประมาณ เธอพยามบีบขาให้แน่นหลังจากที่ชั้นในของเธอหลุดออก พอเห็นผมทำท่าจะก้มหน้าไปที่โคกหีของเธอ

"ท่านๆๆ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ขอร้องละ ฉันแค่มาหยอกท่านเล่นเท่านั้นอย่าทำฉันเลย ท่านทำแบบนี้อาจล้ำเส้นที่กั้นระหว่างโลกของท่านกับโลกของฉันนะ"

เสียงเธออ่อนลงพร้อมกับวิงวอนผม แต่ผมทำไม่สนใจ เพราะความเงี่ยนมันครอบงำสติผมไปหมดแล้ว ที่ผ่านมาเคยแต่เย็ดกับคนแท้ๆคราวนี้อยากลองเย็ดผีบ้าง ผมจับขาเธอที่บีบแน่นให้อ้าออกแล้วฝังหน้าไปที่โคกหีที่สมตัวของเธอ ผมใช้ปากไปสัมผัสซึ่งมันมีความชื้นแฉะเหมือนผู้หญิงทั่วๆไปแล้วปากทางรูหีของเธอนั้นปิดสนิท เท่ากับว่าตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่นั้น เธอยังไม่เคยถูกทะลวงมาก่อน ผมใช้ลิ้นกวาดเข้าไป ซึ่งผีสาวนั้นเผลอตัวครางออกมา ผมเหลือบตาขึ้นไปมองเห็นใบหน้าของเธอนั้นเกร็งด้วยความเสียว ผมเลยเลิกสะกดตรึงเธอปล่อยให้ร่างเธอเป็นอิสระ ซึ่งทันทีที่ร่างของเธอเป็นอิสระมือของเธอนั้นจับมาที่หัวผมพร้อมกดให้แน่นกับโคกหีเธอ

"โอ้วซี้ดดดดดดดดดด ท่านคะดีคะแบบนั้นละคะฉันเสียว"

เมื่อเห็นว่าเธอมีอารมณ์ร่วมผมจึงเลียไม่หยุด ก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นมาแล้วประกบปากกับเธอ ซึ่งเธอรับการจูบของผมอย่างเต็มใจเราแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม มือทั้งสองเธอโอบกอดตัวผม จนผมจัดการกับเสื้อผ้าให้หลุดพ้นจากร่างกาย ผมลุกขึ้นยืนแล้วเอาควยที่แข็งตัวนั้นไปจ่อที่ปากเธอ

"ช่วยอมให้หน่อย"

"ฉันไม่เคยนะท่าน"

เธอตอบผมแต่มือของเธอนั้นมาจับลูบคลำควยผมไปมา

"ลองหน่อย"

ผมตอบสั้นๆแล้วแอ่นกาย เธอนั้นสนองตอบใช้ลิ้นเลียที่ปลายหัวไปมาก่อนจะเอาปากครอบ

"อูยยยยยยยยย ไหนบอกว่าไม่เคยละคุณ ดีๆแบบนั้นแหละซี้ดดดด"

คราวนี้ผมเป็นฝ่ายคราง จนผมแทบจะทนไม่ไหวจึงถอนควยจากปากผีสาวแล้วดันร่างเธอให้นอนหงาย เธอนั้นไม่ขัดขืน ก่อนที่เรื่องจะเหมือนที่ผมเล่าให้ฟังไปแล้วคือผมได้เอากับเธอ และตอนนี้ร่างของเรานอนกอดกันเหมือนคู่รักทั่วๆไปผมฟังเธอเล่าเรื่องที่เธอเห็นในห้องนี้มาตลอดจนจบ ก่อนที่ผมจะถามเรื่องของเธอซึ่งได้ความว่าเธอชื่อกรรณิการ์ เธอนั้นเหมือนเด็กสาวทั่วไป พึ่งเรียนจบไม่นานและได้ทำงานด้วยความเป็นหน้าตาดีทำให้มีคนมาติดพัน และด้วยความอ่อนต่อโลกทำให้รับเป็นแฟนกับรุ่นพี่ที่ทำงาน ตลอดเวลาที่คบหากันรุ่นพี่คนนั้นพยายามจะหลอกฟันเธอแต่เธอไม่เคยยอมเธอรอให้แต่งงานก่อนเท่านั้น แต่พอมารู้ทีหลังว่ารุ่นพี่คนนั้นมีครอบครัวอยู่แล้วที่กรุงเทพ ทำให้เธอเสียใจจนคิดสั้นตัดสินใจมากินยาตายที่ห้องนี้ พอได้ยินแบบนี้ทำเอาผมสะดุดใจเล็กน้อย เพราะเรื่องพวกนี้มันคาใจผมมานานแล้ว

"เอ๊ะแล้วไม่เคยมีใครมารับวิญญาณของเธอหรือไง"

หน้าของเธอที่หนุนหัวไหล่ผมส่ายหน้า

"ไม่นะพี่ ฉันก็อยู่ห้องนี้มาตลอด ไม่ได้ไปไหน  จะกลับไปอยู่ที่บ้านหรือวัดก็ไม่ได้เหมือนมีอะไรกั้นอยู่ และเวลายิ่งผ่านไปมันก็ทำให้ฉันไม่มีความผูกพันกับอดีต"

"แล้ววิญญาณอื่นๆละไม่ได้เคยเจอกันหรือ"

"ไม่นะพี่ บางครั้งฉันก็สงสัยเหมือนกันแต่เดาว่าโลกของฉันมันต่างจากโลกมนุษย์คือถ้ามันไม่มีอะไรสื่อถึงกันก็ทำให้ไม่ได้พบเจอกันเหมือนกับคนทั่วๆไป แต่บางครั้งที่เคยมีคนเห็นฉันอาจจะมีอะไรบางอย่างที่สื่อให้เห็นกันไม่ก็เป็นบางครั้งที่ฉันรู้สึกมีพลังงานในตัว จนทำให้ปรากฏร่างให้คนเห็นแต่ก็จะเป็นรางๆไม่เหมือนกับที่พี่เห็น"

"แล้วคิดยังไงที่มาหลอกฉัน"

เธอยิ้มแบบเขินอายก่อนจะตอบผม

"จริงๆแล้ว ฉันเห็นพี่ดูแปลกกว่าคนอื่นเหมือนมีพลังงานอะไรที่เหนือกว่าคนทั่วไป กายของพี่มันดูเป็นประกายเห็นชัดเจน ตั้งแต่พี่เข้ามาในโรงแรมฉันรับรู้ได้ถึงพลังงาน เลยอยากลองแหย่พี่เล่นๆ แต่ที่ไหนได้"

น้ำเสียงของเธอดูเขินอายก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาบนตัวผม

"แถมตอนเป็นคนไม่เคยผ่านมือผู้ชายแต่ที่ไหนได้กลับมาเสียสาวตอนเป็นผี"

พูดจบปากเธอมาทาบกับผมอีกครั้ง ครั้งผีสาวเป็นฝ่ายเริ่ม ก่อนที่หน้าเธอจะเลื้อยลงไปด้านล่างเธอบอกกับผม

"ฉันชักชอบเรื่องแบบนี้แล้วสิ พึ่งรู้ว่าพอโดนแล้วมันจะสนุกได้ขนาดนี้เห็นมามากแล้ว พอเจอกับตัวมันเสียวเกินว่าที่จะคิด"

ปากของเธอเริ่มโลมเล้าที่หัวนมของผมสลับไปมาทั้งสองข้างก่อนจะเลื่อนลงไปที่ควยเธอจับควยที่ยังอ่อนตัว ประคองเข้าไปในปากของเธอไม่นานนักควยผมที่ถูกปากกับลิ้นของผีสาวกรรณิการ์โลมเลียได้แข็งตัวอีกครั้ง เธออมควยผมจนพอใจก่อนจะเลื่อนตัวมาคร่อมพร้อมบอกผม

"คราวนี้ฉันขอลองอยู่ข้างบนบ้างนะ"

เธอจัดการทุกอย่างจนพร้อมก่อนจะหย่อนตัวเอาหีครอบไปที่ควยผมจนสุดแล้วโยกตัวไปมาอย่างช้า มิหนำซ้ำเธอจับมือผมทั้งสองให้ไปจับที่นมของเธอด้วย

"บีบเลยคะพี่ ฉันเสียว"

เสียงครวญครางของเธอบอกผม  ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอเป็นคนเธอคงเซ็กส์จัดน่าดูนี่ขนาดครั้งแรกของเธอ เธอยังจัดได้ถึงขนาดนี้หรือว่าเพราะเธอเห็นมาเยอะทำให้เธอมีความอยาก ผมปล่อยให้เธอโยกตัวตามสบาย จนเธอเป็นฝ่ายเร่งจังหวะ เสียงเนื้อกระทบกันเหมือนคนจริงๆดังในโสตประสาทผมตลอด ก่อนที่ผมจะปล่อยน้ำกามเข้าไปในรูหีของเธอพร้อมการบิดเกร็งและเสียงร้องอันดังของเธอ เป็นอันว่าคืนนั้นผมกับผีสาวได้เสพสมกันตลอดจนเรียกได้ว่าเต็มอิ่มกันทั้งคนทั้งผี ดีที่ผมนั้นมีประสบการณ์ในเรื่องเซ็กส์มาอย่างโชกโชนทำให้รับมือเธอได้อย่างสบายๆ แถมตอนเช้าก่อนที่จะออกจากห้องผมยังได้ยินเสียงเธอที่บอกมาว่า

"รีบๆกลับมานะพี่ฉันรออยู่"

พร้อมกับการรู้สึกถูกหอมที่แก้มและระหว่างทางที่ผมขับรถของบริษัทไปที่ทำงานนั้นผมเห็นพระภิกษุเดินบิณฑบาต ผมรีบจอดรถและแวะซื้อของจากร้านขายอาหารแถวๆนั้นเพื่อใส่บาตรและพร้อมตั้งจิตอุทิศส่วนกุศลไปให้กรรณิการ์ ซึ่งผมมีความรู้สึกอบอุ่นในร่างกายเหมือนกับเธอจะขอบคุณผม จนถึงที่ทำงานมีช่วงที่ผมอดนึกย้อนไปถึงว่าทำไมผมถึงได้มีพลังวิเศษแบบนี้ ตอนนั้นผมอายุ 10 ขวบพอดี ซึ่งในวันนั้นเรื่องที่เกิดกับผมมันเปลี่ยนชีวิตของผมไปทุกอย่าง มันเกิดขึ้นในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนผมกำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน บ้านของผมนั้นอยู่ต่างจังหวัด ระหว่างทางช่วงที่ผ่านทุ่งนาทั้งสองข้างทาง ผมรู้สึกอากาศที่กำลังสบายๆของช่วงเดือนมกรานั้นจู่ๆก็มืดเหมือนจะมีพายุฝนและลมนั้นแรงขึ้น มองไปรอบๆฟ้านั้นมืดครึ้มไปหมดและฝนเริ่มที่จะตกหนาเม็ด ทำให้ผมรีบปั่นจักรยานไปยังศาลาริมทางที่อยู่ไม่ห่างมากนักเพื่อจะหลบฝน ผมเห็นคนในศาลาอยู่3-4 คน ต่างมองมาที่ผมบางคนกวักมือเร่งผมให้ปั่นจักรยานให้เร็วขึ้น แต่ทันใดนั้นผมรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัวพร้อมได้ยินเสียงดังและความสว่างวาบ ก่อนที่ความรู้สึกผมจะดับไป

ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ผมได้ยินเสียงคนคุยกันด้วยเสียงเบาๆ ผมพยายามลืมตาขึ้นและพยายามจะขยับตัวแต่ขยับไม่ได้แต่ทันทีที่ผมลืมตาขึ้นบรรยากาศรอบข้างมันดูแปลกเพราะเหมือนจะสว่างไปหมดแต่ผมนั้นรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ผมเหลือบไปยังต้นเสียงที่พูดคุย พอเห็นภาพที่ปรากฏทำเอานั้นแทบจะร้องออกมาด้วยความตกใจแต่ผมไม่มีเสียง  เพราะเห็นผู้ชาย 2 คนยืนคุยกันที่ปลายเท้าผมด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดแต่นั่นมันไม่เท่าไหร่ เพราะการแต่งกายของคนทั้งคู่นั้นประหลาดนักไม่เหมือนคนทั่วไปแถมมีรัศมีออกจากร่างด้วยความรู้สึกที่ยังตกใจทำเอาผมคิดอะไรไม่ออก จะขยับตัวก็ไม่ได้ ได้แต่ฟังอย่างเดียว

"เสด็จพี่เล่นคะนองหนักไปนะ"

เสียงจากร่างของชายทางซ้ายมือดังขึ้น

"ใช่แล้วข้ายอมรับว่าข้าคะนองฤทธิ์เกินไป ก็ข้าลืมไปนี่ว่าเค้าไม่ได้เป็นเหมือนเราแล้ว"

เสียงจากชายอีกคนตอบด้วยสีหน้าที่วิตกแล้วพูดต่อไปว่า

"นี่ถ้าท่านพ่อรู้เข้าข้าโดนลงโทษหนักแน่"

"ใช่ถ้าท่านเสด็จลุงรู้เรื่องข้ากับเสด็จพี่เจอโทษหนักแน่  เราจะทำยังไงกันดี"

เสียงอีกฝ่ายที่วิตกพอๆกันพูดพร้อมกับมองมาที่ผม แต่ก่อนที่ใครจะพูดอะไร ผมรู้สึกถึงความเย็นนั้นทวีมากขึ้นอีกแถมครอบคลุมไปทั่วและเห็นร่างชายกำยำผิวที่คล้ำนุ่งโจงกระเบนสีแดง 3 คน เดินเข้ามาด้านหลังของชายทั้ง 2 คน ทันทีที่ชายทั้ง2 หันไป ทั้ง3 คนนั้นนั่งคุกเข่าพร้อมถวายความเคารพเหมือนในหนังจักรๆวงศ์ๆที่ผมเคยดู

"ท่านมัจจุราช ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน เด็กคนนี้ยังไม่ถึงคราว"

เป็นคำพูดจากชายที่ทางด้านขวาของผมบอกไปยังชายทั้ง 3 คน

"แต่เด็กผู้นี้หาชีวิตไม่แล้วนะพระเจ้าข้า พวกข้าพระพุทธเจ้าต้องทำตามหน้าที่"

คำตอบจากคนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้า

"ก็ข้าบอกท่านแล้วว่าเด็กคนนี้ยังไม่ถึงคราว ถึงท่านพาวิญญาณไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้นดีไม่ดีท่านก็โดนท้าวกุเวรดุอีก และข้าก็รู้ว่าพวกท่านนั้นมักจะพาวิญญาณที่ไม่ถึงฆาตมาคืนร่างล่าช้าทุกเกือบทุกครั้ง จนวิญาณเหล่านั้นคืนร่างไม่ได้เพราะร่างถูกเผาไปแล้ว ทำให้กลายวิญาณเร่ร่อน พวกท่านก็ไม่สนใจรับผิดชอบอะไร "

"แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกิดจากใต้ฝ่าละอองพระบาททั้งสองคะนองฤทธิ์กันเกิดเหตุนะพระเจ้าข้า จนทำให้ชีวิตของเด็กคนนี้ดับสูญ"

"ก็นั่นแหละข้ากำลังหาวิธีแก้ไขอยู่ท่านกลับไปซะเถอะ และอีกอย่างท่านคงไม่รู้ว่าต่อให้เด็กคนนี้ถึงฆาตจริงๆท่านก็นำวิญญาณเค้าไปยังยมโลกไม่ได้อยู่ดี"

"แต่...."

เสียงอึกอักจากอีกฝ่ายแต่ทุกอย่างนั้นยุติลงเมื่อชายด้านซ้ายมือผมที่เงียบมาตลอดได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มีอำนาจว่า

"ก็เสด็จพี่ข้าบอกแล้วไงว่าให้พวกเจ้ากลับไปก่อน ยังไม่ฟังกันอีก ถ้ากลัวมีปัญหาก็ให้ท่านท้าวกุเวรไปคุยกับเสด็จลุงหรือเสด็จพ่อของข้าก็ได้ ส่วนเรื่องที่เสด็จพี่ข้าบอก บางเรื่องเจ้าไม่มีสิทธิ์รู้แต่นายเจ้าทั้งท่านท้าวและท่านพระยายมรู้ดี หรือจะให้ข้าพาพวกเจ้าไปถามต่อหน้านายพวกเจ้า"

น้ำเสียงที่เฉียบขาดทำเอาทั้งสามคนนั้นต่างรีบหมอบกราบถวายความเคารพก่อนจะลุกเดินหายกลับไปทางเดียวกับที่มาพอร่างทั้งสามหายไปเสียงของชายที่ถูกเรียกว่าเสด็จพี่ได้บอกกับอีกฝ่าย

"เอาละข้ารู้แล้วจะทำยังไง แต่มันอาจกระทบกับชีวิตของเขาบ้าง"

"เสด็จพี่จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ ข้ากลัวไอ้พวกนั้นปากโป้ง เรื่องนายของมันนะไม่ปัญหาแต่เรื่องนี้ไปถึงเสด็จลุงละก้อข้าไม่อยากคิด"

อีกฝ่ายพยักหน้าก่อนจะเดินมาหาผมและก้มลงนั่งคุกเข่าข้างๆผมก่อนจะพูดกับผมที่นอนลืมตาอยู่

"เอาละน้องเราพี่ขอโทษเพราะพี่คะนองฤทธิ์ไปหน่อยนะ พี่ลืมไปว่าตอนนี้เจ้าไม่เหมือนเมื่อก่อน พี่จะคืนชีวิตให้เจ้าพร้อมกับพลังวิเศษ แต่อย่าไปใช้พลังวิเศษนี้ไปรังแกใครละ เอาไว้ช่วยคนหรือปกป้องตัวเจ้า พี่จะให้มีสิ่งที่เตือนใจเป็นสัญลักษณ์บางอย่างบนตัวเจ้าเพื่อบอกว่าเจ้านั้นมีพลังอะไร แต่เสด็จพ่อก็เหลือเกินนะให้เจ้ามาเกิดทั้งทีแต่ไม่มีใครคอยมาดูแล"

ประโยคหลังเหมือนจะพูดกับตัวเองโดยที่ผมไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร แล้วผู้ชายคนนั้นยิ้มให้ผมก่อนจะเอามือมาวางที่หน้าผาก ทำเอาร่างผมนั้นรู้สึกอุ่นไปทั่วทั้งร่างแทนความหนาวเย็น แล้วชายทั้งสองต่างยิ้มให้ผมก่อนที่คนที่ดูจะเป็นน้องนั้นบอกกับผม

"เอาละน้องเราพี่ขอให้โชคดีนะแล้วอย่าลืมทำตามที่เสด็จพี่บอก แล้วเราจะเจอกันอีกเมื่อถึงเวลา"

สิ้นเสียง ผมรู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดไปทั่วร่างและได้ยินเสียงร้องไห้ระงมไปทั่ว

"ฟื้นแล้วแล้วแม่ลูกเราฟื้นแล้ว หมอครับหมอลูกผมฟื้นแล้วครับ"

นั่นเป็นเสียงของพ่อผมที่ยืนอยู่ปลายเตียงร้องอย่างดีใจ ก่อนที่ผมจะรู้ว่าตัวผมนั้นมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด รอบเตียงนั้นมีทั้งหมอพยาบาลและพ่อกับแม่กับบรรดาญาติพี่น้องนั้นต่างยืนร้องไห้กันระงม เพราะนึกว่าผมตายไปแล้ว  หลังจากนั้นผมมารู้ว่าผมโดนฟ้าผ่า และคนที่อยู่ในศาลานั้นช่วยกันพาผมไปส่งโรงพยาบาลเมื่อพ่อกับแม่มาถึงโรงพยาบาลอาการผมนั้นโคม่าหัวใจหยุดเต้นทั้งๆที่หมอพยายามปั้มหัวใจอยู่นาน จนหมอเกือบจะบอกว่าผมไม่รอดจู่ๆผมก็ฟื้นขึ้นมา แถมร่างผมนั้นไหม้เกรียมไปเกือบทั้งตัว ตอนแรกทุกคนต่างคิดว่าผมพิการแน่นอนแต่มันเหมือนมีปาฏิหาริย์ ว่าสภาพร่างกายผมนั้นหายเป็นปกติร่างกายตรงที่ไหม้นั้นคืนสภาพอย่างเร็วเหมือนไม่เคยว่าเป็นอะไรมาก่อน ทุกอย่างดูปกติยกเว้นตรงท้องแขนด้านขวามีรอยปานเป็นรูปคล้ายๆสายฟ้าขนาดไม่ใหญ่

หมอนั้นไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ทุกอย่างนั้นต่างเป็นปกติอย่างรวดเร็วผมนอนโรงพยาบาลไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นแถมเรื่องที่ผมเห็นนั้นในตอนนั้นผมคิดว่าฝันไปผมจึงไม่สนใจที่จะเล่าให้ใครฟัง แต่ไม่นานนักพ่อกับแม่พาผมไปวัดไปพบกับพระภิกษุรูปหนึ่งที่คนในหมู่บ้านนั้นต่างนับถือและเรียกกันว่าหลวงตาทั้งๆที่วัยของท่านนั้นยังไม่เข้าสู่วัยชราเพื่อรดน้ำมนต์ตามความเชื่อ ซึ่งตอนไปกราบท่าน ท่านมองมาที่ผมสักพักก่อนจะบอกพ่อกับแม่ผมว่า ผมควรจะเปลี่ยนชื่อจะได้เป็นมงคลแก่ตัว และท่านก้มไปจดอะไรบนสมุดของท่านก่อนจะบอกให้ผมเปลี่ยนชื่อจาก"พิภพ"เป็น"อสนี" พ่อกับแม่รับคำ ระหว่างที่กราบลาท่าน ท่านได้บอกกับผมว่า

"ไอ้หนูต่อไปจะทำอะไรก็ขอให้ทำแต่เรื่องดีๆนะ อย่าเกเรจนเสียผู้เสียคนละ เจ้านะเป็นคนมีบุญอย่างมหาศาล"

ท่านพูดแค่นี้พร้อมกับมองมาที่ผมเหมือนจะกำชับผมได้แต่รับคำ หลังจากที่ผมเปลี่ยนชื่อทุกอย่างมันดีขึ้นพ่อแม่ผมที่เป็นชาวนาและมีร้านขายของชำเล็กๆทำให้พอเลี้ยงครอบครัวได้แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร กลับเป็นทำมาค้าขึ้นขายข้าวได้ราคาจนมีเงินสร้างโรงสีเป็นของตัวเอง แถมร้านขายของนั้นทำกำไรขึ้นจากร้านขายของเล็กๆกลายเป็นร้านค้าส่งจุดรวมของทั้งอำเภอ ทำให้ฐานะเข้าขั้นมหาเศรษฐีในเวลาไม่กี่ปีแถมผมนั้นจากเด็กที่เรียนได้ปานกลางกลับเป็นเด็กที่เรียนเก่ง สอบเข้าโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดได้ แต่หลังจากที่ผมฟื้นตัวและเปลี่ยนชื่อไปแล้วนั้นผมรู้สึกว่าร่างกายผมนั้นมีอะไรแปลก เช่นจู่ๆวันหนึ่งผมโดนเพื่อนต่างห้องแกล้งระหว่างเข้าแถวรวม มันเขกหัวผมเพราะมันยืนแถวด้านหลัง

"ไงได้ตัวประหลาด เจ็บเป็นหรือ คนห่าอะไรวะโดนฟ้าผ่าแล้วไม่ตายฟื้นมาได้"

มันพูดพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆจากเพื่อนมัน แต่ผมนั้นทำอะไรมันไม่ได้ ยิ่งตอนนั้นผมไม่สู้คนผมได้แต่นึกอยากตบหัวมันคืน ยิ่งผมมองหน้ามัน มันยิ่งท้าทายเพราะรู้ว่าผมไม่กล้าทำอะไรมัน ผมโกรธมากอยากตบหัวมันคืน ทันใดนั้นผมรู้สึกมีอะไรในตัวผมยื่นไปตบหัวมันทันทีทำเอามันหัวคะมำ แต่ก่อนที่มันจะโวยวายครูก็เดินเข้ามาซะก่อนทำมันไม่กล้าโวยทั้งๆที่มันไม่รู้และเห็นว่าใครตบมัน หลัวจากนั้นผมเริ่มรู้ว่าตัวผมมีอะไรแปลก ผมเลยลองนึกว่าอยากลูบหัวหมาที่เลี้ยงไว้โดยตอนนั้นผมนั่งอยู่ตรงประตูบ้านและหมานอนอยู่กลางลานบ้าน มันทำท่าแปลกใจมองไปรอบๆว่าใครลูบหัวมันแต่ผมรู้สึกได้ว่าผมนั้นลูบหัวหมา จากนั้นผมทดลองหลายอย่าง  มันทำให้รู้ผมสามารถสัมผัสสิ่งของต่างๆโดยไม่ต้องใช้มือหรือเท้าแต่ไม่สามารถหยิบของเหล่ามาได้ ทำให้ผมประหลาดใจมากแต่ตอนนั้นยังไม่กล้าลองอะไรมากนัก แม้บางครั้งจะมีความคิดแผลงตามประสาเด็กว่าผมสามารถแกล้งหรือรังแกใครก็ได้ตามใจชอบ แต่เหมือนจะมีอะไรคอยเตือนอยู่ว่าอย่าทำ และมือกับเท้าวิเศษของผมนั้นมันสามารถไปจับต้องของได้ในระยะที่สายตาที่ผมกำหนดจุดที่จะจับต้องได้ ถ้าผมกำหนดจุดที่จะจับไม่ได้ก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้น ทำให้ช่วงนั้นจนถึงช่วงเรียน ม.ต้นผมไม่ได้ใช้พลังวิเศษอะไรมากนัก

จนเริ่มเข้าสู่ม.ปลายทั้งความคะนองความอยากลองทำให้ผมเริ่มใช้พลังวิเศษนั้นกับบรรดาพวกผู้หญิงโดยการลูบคลำไปตามเรือนร่างของเธอ ทั้งหน้าอกทั้งโคกหีของบรรดาสาวๆที่โรงเรียนนั้นถูกผมลูบคลำมาเกือบทั้งหมดโดยเฉพาะพวกที่หน้าตาสวยๆนมใหญ่ๆ ถูกผมจับต้องของสงวนมาหมดทุกคน มันทำเอาพวกเธอตกใจมากเพราะรู้ตัวว่าโดนจับแต่พอมองไปรอบๆแล้วไม่มีใครบางครั้งเดินอยู่คนเดียวกลางสนามผมนั่งอยู่ห่างๆผมยังใช้มือวิเศษไปจับนมได้ทำเอาเจ้าตัวมองไปรอบๆด้วยความตกใจมันสร้างความหรรษาให้กับผมอย่างมาก แต่กับบรรดาครูบาอาจารย์นั้นผมไม่กล้าเหมือนจะมีอะไรบอกกับอนุสติผมว่าอย่าทำกับคนที่ประสาทวิชาให้กับเราเหมือนแม่คนที่ 2 ทำให้ผมไม่กล้า

เรื่องพวกนี้มันสร้างความประหลาดใจให้ผมอย่างมากแม้ว่าผมจะทำอนาจารกับใคร ความรู้สึกหรืออนุสติไม่เคยห้ามปราม แต่มีวันหนึ่งช่วงเรียนอยู่ ม.5 ในโรงอาหารช่วงเย็นระหว่างที่ผมนั่งทำรายงานอยู่กับเพื่อนๆ  ในโต๊ะอาหารที่ไม่ห่างออกไปมีอยู่อีกกลุ่มหนึ่งนั้นจับกลุ่มส่งเสียงโวยวาย จนพวกผมรำคาญแล้วมองไปทำให้รู้ไอ้ตัวหัวหน้ากลุ่มนั้นมันเรียนอยู่ ม.6 เป็นเด็กที่เกเร มันกับผมไม่ถูกชะตากันมาตั้งนานแล้ว ผมพอจะดูออกว่ามันอิจฉาผมในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องผลการเรียนที่ผมเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันทางด้านวิทยาศาสตร์แล้วชนะเลิศกลับมาทุกครั้ง แถมหน้าตาของนั้นจัดว่าดีทำให้สาวๆหลายคนสนใจ มันคงยิ่งหมั่นไส้ผมทวีคูณ และครั้งนี้พอผมสบตากับมัน มันเลยตวาดมาที่ผม

"มองหน้าหาเรื่องหรือไงวะ"

ทำเอาพวกเพื่อนมันหันมาทางผมแต่ก่อนที่ผมจะตอบอะไร มันก็ย้ำคำเดิมมาที่ผมพร้อมเดินเข้ามาเหมือนจะหาเรื่อง แต่มันก้าวไปเพียง 2 ก้าว ร่างของมันคะมำเหมือนโดนตบหัวอย่างแรง

"เฮ้ยใครตบหัวกูวะ"

มันหันไปทางเพื่อนซึ่งทุกปฏิเสธกันหมด มันด่าเพื่อนของมันซึ่งดูงงๆ แต่พอมันจะก้าวหน้าของมันทิ่มไปที่โต๊ะอาหารเหมือนถูกจับกดหัวทำเอามันร้องด้วยความกลัวเพราะมันไม่เห็นว่ามีใครทำอะไรมัน ผมใช้มือวิเศษตบหัวสั่งสอนมันไปอีก2-3 ที ก่อน จะปล่อยมันทำเอาหน้าซีดแล้ววิ่งร้องด้วยความกลัวออกไปจากโรงอาหาร ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของคนที่เห็น ว่าทำไมจู่ๆมันมีอาการแบบนั้นผมบอกไปที่เพื่อนๆว่า

"อย่าไปสนใจมันเลย มันบ้าไปแล้วนะ"

 











เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Matsudaira777

เรื่องนี้น่าสนใจแฮะ
มีมือวิเศษแถมเสกร่างให้ผีได้ด้วย
กำลังตามหาเรื่องแนวนี้อยู่เลย
รอติดตามอยู่นะครับ

whiteshark

เนื้อเรื่องชวนติดตามมาก  ปูเสื่อรออ่านเลยครับ  ::WooWoo::

game smith

น่าสนใจครับ พลังใหม่
แบบนี้ฉากต่อสู้ รวมถึงฉากถึงพริกถึงขิงนี่ต้องดีมากๆแน่

Daneal Kung

ตอนแรกก็สนุกแล้ว
แนวนี้น่าติดตามมาก

jumpman

พอร์ตเรื่องน่าติดตามมากครับ

marcut

พระเอกน่าจะทำอะไรผิดจึงถูกลงโทษให้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ น่าสนใจว่าต่อไปพระเอกจะใช้พลังไปทำอะไรกับผีหรืออะไรอย่างอื่นหรือเปล่า

mrbirddum

 ::JubuJubu::เริ่มบทมาก็ชวนติดตาม อารัมภบทได้สวย

ผู้เฒ่าเซราะกราว

นี่ก็แสดงว่าเป็นเทพบุตรลงมาเกิดสินะ แล้วโดนเทพบุตรที่เป็นพี่ชายมาหยอกล้อทำเอาถึงตาย เพราะลืมไปว่าน้องชายมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว เลยต้องชุบชีวิตให้พร้อมมอบพลังวิเศษให้ด้วย ว่าแต่ได้อาจารย์ที่ไหนนะมาสอนวิชาให้ คงต้องติดตามกันต่อไป.....

Asujimaster


teenee4you

เริ่มจากผี เป็นเรื่องที่แปลกเรื่องหนึ่ง น่าสนใจครึบ อ่านเรื่องเกี่ยวกับคนมามากแล้วลองเปลี่ยนไปเป็นผีบ้าง

beerrescue

ชอบ วิจารณ์มากครับ ไม่แชร์ต่อ

Thekopoz

เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก แปลกแหวกแนวดีครับ อ่านสนุกมากๆเลย

tip251226

เร่ิมเรื่องมาก็ชวนให้ติดตาม

jukjik

แนวเรื่อง รักยม ที่ชื่นชอบครับ มีแนวนี้บ้างดีครับ