ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

LUST จิตราคะ | ตอนที่ 2 : หลง [แนวนิยายแต่ง / Sci-fi ]

เริ่มโดย countrypoet, มิถุนายน 10, 2020, 11:49:00 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

countrypoet

LUST
จิตราคะ

[ ตอนที่ 2 : หลง ]

ตอนก่อนหน้า

แนว : นิยายประสบกามเสียว / sci-fi นิดๆ / 20+
มีภาษาหยาบ / รุนแรงบ้างตามบริบท

ถ้าไม่ชอบแนวนิยาย ข้ามได้เลยนะครับ ผมก็แต่งไปเรื่อย
แสดงความคิดเห็นกันติชมได้เลยนะครับ :D



###########################################################



   เกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผมได้มาอยู่ในโรงพยาบาล นี่เป็นพยาบาลคนที่ 4 ที่ผมสามารถ 'ปลุก' ให้เธอมีอารมณ์ทางเพศสูงขึ้นอย่างฉับพลัน จนพวกเธอไม่สามารถควบคุมร่างกายและสติตัวเองได้ เหลือเพียงแค่ความต้องการที่จะมีเซ็กส์เท่านั้น อันที่จริงผมไม่ได้ต้องการระบายอารมณ์ที่พุ่งพล่านกับแค่คุณพยาบาล แต่ป้าแม่บ้านที่มาทำความสะอาดไม่สามารถทำให้ผมมีความคิดอย่างว่าได้จริงๆ

   "เสร็จรึยังคะ? อูยยยยย พี่เสียวไปหมดแล้วนะ~" พยาบาลสาวหันมาถาม ตอนนี้เธอยืนก้มตัวเกาะกระจกใส ที่มองเห็นได้จากภายนอกตึกโรงพยาบาล โดยมีผมยืนซอยบั้นท้ายกลมกลึงของเธออยู่

   "อย่าเพิ่งรีบสิจ๊ะ นี่เพิ่งจะเริ่มเอง" ผมตอบโดยที่ยังไม่หยุดกระเด้าเธอ

   "เดี๋ยวคนข้างนอกเขาเห็นนน อ๋าาา~❤ ซี๊ดดดดด" เธอว่า แต่ก็ยืนถ่างขาแอ่นสะโพก เด้งรับการกระเด้าของผมอยู่ดี

   "เราอยู่ตั้งชั้น 5 ไม่มีใครเขาส่องมาบนนี้หรอก อ่าห์" ผมเอื้อมมือไปเค้นคลึงสองเต้าที่เด้งตามจังหวะกระแทก นมขาวเนียนหัวสีน้ำตาลอ่อนๆแข็งชูชัน ยิ่งเขี่ยมัน สาวเจ้ายิ่งครวญครางด้วยเสียว เธอเป็นรองหัวหน้าพยาบาลของโซนนี้ ด้วยวัย 30 ปลายๆ และมีลูกแล้ว ถือว่ายังรักษาหุ่นได้ดีมาก

   "อื้มมห์ ติณ พี่จะแตกอีกแล้วนะ เธอจะฆ่าพี่ใช่ไหม อ๊า! อื้อๆๆๆ" พยาบาลร่างเปลือยเปล่าส่งเสียงเล็กๆ ออดอ้อนเหมือนสาวแรกรุ่นตามจังหวะที่ผมโยกเอว

   "หึหึ ร้องออกมาดังๆเลยครับ พี่กิ่ง ผมคาดว่าสามีพี่คงไม่เคยพาพี่มาเย็ดชมวิวสวยๆแบบนี้ใช่ไหมล่ะครับ" ผมเร่งซอยบั้นท้ายเธอถี่ขึ้น ถี่ขึ้น ใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้ว

   เธอไม่ตอบ ได้แต่เม้มปากแน่น ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมงเราสองคนยังพูดคุยกันแบบคนไข้-พยาบาลปกติ จริงๆแล้วผมแค่ถามเรื่องทั่วไปของเธอ ซึ่งน่าแปลก ที่ดูเหมือนว่าเธอจะเล่าเรื่องส่วนตัวออกมา แม้กระทั่งเรื่องที่บ้าน แม้กระทั่งความในใจ เธอบอกผมว่าเป็นพยาบาลมันเหนื่อยมาก และด้วยความที่ตำแหน่งเธอสูง ความเครียดก็ยิ่งมากตาม พอจะเลิกงานก็ดึก ถึงบ้านก็หมดแรงจะทำอะไรต่อแล้ว ยิ่งเรื่องเซ็กส์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เธอแทบไม่เคยมีเวลาว่างตรงกับสามีเลย ด้วยจุดนั้นเองที่ความคิดนั้นก็ผุดขึ้นมาอีกจนได้ ความคิดที่จะเติมเต็มความใคร่ให้กับคุณพยาบาลคนนี้

   "อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ!" พี่กิ่งหันมองหน้าผม "นี่เพียงเพราะแค่ชั้น อื้ออห์~ ชั้นคุมความต้องการ...ไม่ไหวก็แค่นั้นเอง ชั้นไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณ!" ผมได้แต่ยิ้ม แล้วก็จับตัวเธอหันหน้ามา ยกขึ้นดันกับกระจกอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง พี่กิ่งใช้ขาเกี่ยวสะโพกผมไว้แบบชำนาญ ดูท่าเธอคงจะเคยทำท่านี้กับสามีมาก่อน ผมจุมพิตพยาบาลสาวอย่างดูดดื่ม พลางใช้ลิ้นโลมเลียไปตามใบหูและซอกคอขาวเนียน จากนั้นจึงเร่งจังหวะการขยับเอวถี่ขึ้น

   "อ๊าาาาห์~❤ ไม่ไหวแล้วๆๆ เสียวเหลือเกิน" เธอกอดรัดแผ่นหลังผมแน่น เล็บจิกเกร็ง

   แล้วสุดท้ายผมก็กลั้นต่อไปไม่ไหว ระเบิดน้ำรักอุ่นๆเข้าไปเต็มร่องหีของหญิงสาว มันดูดรัดท่อนเอ็นจนกระดกเกร็งเป็นจังหวะๆเพราะความเสียวซ่าน เธอเกี่ยวขาล๊อคเอวผมไว้แน่นมาก ราวกับว่าอยากจะรีดน้ำกามผมไม่ให้พลาดแม้แต่สักหยดเดียว

   "อุ่นจังเลย..." เธอยิ้มหยาดเยิ้ม ตาเลื่อนลอย "พ่นมันเข้ามาให้หมดเลยนะ..."

   ผมแช่ควยค้างอยู่แบบนั้นสักครู่ ก่อนจะชักมันออกมาจากบั้นท้ายของเธอ เราทั้งคู่ หอบเหนื่อย ผมรีบคว้าพยาบาลสาวไว้ทันก่อนที่เธอจะทรุดตัวลงบนพื้น อุ้มเธอไปนอนแผ่อ้าซ่าบนโซฟา

   ทุกครั้งก็จะจบลงแบบนี้ และมันจะต่อด้วยการที่พวกเธอจะตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกผิด ไม่ก็ละอายต่อสิ่งที่เกิดขึ้นตามปกติ แต่ก็ไม่มีคนไหนที่ปริปากพูดเรื่องนี้ หรือมาเอาเรื่องผมสักคน เพราะเธอทุกคน
ล้วนเป็นฝ่ายเริ่มการมีเซ็กส์กับผมก่อนตลอด ทางที่ดีผมควรหยุดมันได้แล้ว

   ตอนนี้ผมเริ่มอยากจะหยุดที่จะทำอะไรกับเหล่าพยาบาล หรือใครก็ตามที่เข้ามาดูแลผม แต่ทุกครั้งที่ผมเห็นเพศตรงข้าม มันก็ดูเหมือนว่าผมจะเสียความรู้สึกนึกคิดของตัวเองไปเสียทุกที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ใช่คนหื่นกระหายจนอยากจะมีเซ็กส์ไม่เลือกหน้าแบบนี้มาก่อนก็ตาม

   ผมอนุมานเอาว่า สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่คล้ายกับ ความสามารถ นี้มันต้องเกี่ยวข้องกับโรคที่ผมเป็นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่ๆ วันต่อมาเมื่อหมอเจ้าของไข้ผมเข้ามาตรวจรอบเช้า ผมจึงไม่รอช้าที่จะหาคำตอบให้ตัวเอง

   "อรุณสวัสดิ์ครับคุณติณ ผมมีข่าวดีจะมาบอกก็คือ คุณสามารถออกจากโรงพยาบาล เพื่อไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เลยนะครับ" หมอกล่าว "แต่คุณต้องกินยาคุมฮอร์โมน และมาตรวจเช็คระดับฮอร์โมนตามกำหนดให้สม่ำเสมอด้วยนะ"
   
   "โอ้ จริงเหรอครับเนี่ย ขอบคุณมากครับหมอ" ผมดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น เพราะไม่งั้นผมได้ฟาดพยาบาลทั้งตึกแน่ๆ

   "เอ่อ...หมอครับ ผมอยากถามอะไรเป็นความรู้หน่อยได้ไหมครับ?" ผมเริ่มประเด็น

   "ยินดีครับ"

   "มีความเป็นไปได้ไหมที่ผมจะมีความต้องการ...เรื่องอย่างว่า มากขึ้นเพราะโรคนี้" ผมเลือกใช้คำแบบเซฟๆ

   "มีครับ สมองส่วนที่เราพบความผิดปกติคือส่วนที่ควบคุมหลายอย่างในร่างกาย หนึ่งในนั้นคือความต้องการทางเพศ" หมอตอบ "แต่อย่างที่ว่าไป ค่าทางผลแลปก็ไม่ได้ผิดปกตินะครับ ถ้าเกิดมันมีอาการแบบนั้นขึ้นมา คุณติณอาจจะต้องหาทาง...ระบายดูนะครับ" หมอละไว้ในฐานที่เข้าใจ

   "ฮ่าๆๆ ครับหมอ แค่นิดหน่อยน่ะครับ" ผมขำแห้งๆ "แล้ว...มันมีทางไหมครับ...ที่เราจะส่งต่อ...ฮอร์โมนที่ว่านี้ให้กับ...คนอื่น แบบ คนที่อยู่ใกล้ๆอะไรแบบนี้อ่ะครับ" ผมถามต่ออย่างช้าทีละคำ

   หมอหันหน้ามามองผมด้วยความฉงน "คุณหมายถึง ฮอร์โมนมันส่งต่อข้ามคนได้ไหมน่ะเหรอ?" หมอยิ้ม "ไม่ครับ ฮอร์โมนใครฮอร์โมนมัน อาจจะมีการกระตุ้นโดยอ้อมๆได้ผ่านมางการกระทำ เช่น สิ่งแวดล้อม การพูดคุย การโอบกอด หรือเซ็กส์ ฯลฯ แต่ถ้าคุณหมายถึงการส่งฮอร์โมนให้กับอีกคนตรงๆแล้วล่ะก็ ผมว่านั้นไม่ต่างกับการที่เราสามารถควบคุมสติ อารมณ์ ความรู้สึก หรือแม้แต่ระบบร่างกายของเขาได้เลยนะครับ และมันคงบ้ามากๆ ถ้ามีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น" ชายในชุดขาวหัวเราะ

   ผมอึ้งกับคำตอบของหมอไปชั่วครู่ "อ้อ นั่นสินะครับ ฮ่าๆๆ"

   "ไม่ต้องกังวลไปนะครับคุณติณ ถ้าคุณสงสัยอาการของคุณถามหมอได้เลยนะครับ ผมกลัวว่าคุณจะไปหาอ่านข้อมูลในเน็ต แล้วจะวิตกกังวลอะไรไปใหญ่" หมอเขียนอะไรสักอย่างลงบนชาร์ตคนไข้ "เอาล่ะ ผมจะไม่รบกวนการพักผ่อนคุณแล้ว" เขากล่าวลา ก่อนจะเดินออกจากห้องผมไป

   ใช่แล้ว มันต้องใช่แน่ๆ สิ่งที่หมอพูดมันค่อนข้างใกล้เคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมเลย แล้วถ้ามันเป็นจริงดังว่า ผมจะใช้มันทำอะไรได้มากมายแค่ไหนกันนะ? ผมเริ่มตื่นเต้นและมีความคิดมากมายเกิดขึ้นในหัว วันนั้นทั้งวัน เวลาทั้งหมดถูกใช้ไปกับการศึกษาอ่านเรื่องเกี่ยวกับฮอร์โมนและพวกความรู้พื้นฐานทางการแพทย์ในอินเตอร์เน็ต จนเผลอหลับยาวถึงเช้าอีกวัน


   
###########################################################


   หญิงสาวตัวเล็กเดินแบบรีบๆเข้ามาในห้อง เธออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อน และกระโปรงทรงเอสีดำที่กระชับรูปบั้นท้ายให้ดูโดดเด่น เธอยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นผมผ่านแว่นตาหนาเตอะของเธอ

   "พี่ติณ!" มิ้มก้าวมาประชิดตัวผม เธอดูดีใจมากที่ผมยังไม่ตาย "ขอโทษที่หนูไม่ได้มาเยี่ยมพี่เลยเป็นอาทิตย์เลยนะ ที่แผนกหนูกำลังเร่งวิจัยยาตัวใหม่ เลยโดนบังคับให้ต้องทำโอทีทุกวันเลยเนี่ย" เธอบ่น

   "ไม่เป็นไรๆ มิ้มก็แชทมาถามอาการพี่ตลอดทุกวันอยู่แล้วนี่ รู้แล้วน่ะว่าเป็นห่วง นี่ไง พี่หายแล้ว" ผมยิ้มทักทาย และก้มเก็บของต่อ "อ้อ ขอบคุณสำหรับของฝากนะ"

   "หนูรีบเครียร์งานมารับเลยนะ พอรู้ว่าพี่จะออกจากโรงบาลวันนี้" เธอช่วยลงมือเก็บของให้ผม "พี่จะกลับไปบ้านเลยใช่ไหม จะแวะกินอะไรก่อนรึเปล่า?"

   ผมส่ายหัว "ม่ายยยล่ะ ขอไปจัดแจงตัวเองที่บ้านก่อนเลยล่ะกัน พรุ่งนี้พี่อยากไปทำงานแล้ว ก่อนที่เขาจะไล่ออก ฮ่าๆๆ"

   "แหม ขยันเหมือนเดิมเลยนะคะพี่ติณ" มิ้มกล่าว "หนูล่ะชอ..."

   เธอหยุดพูดกลางคัน และก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ ผมเลิกคิ้วสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรต่อกับประโยคนั้น

   หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากเครียร์เรื่องทางโรงพยาบาลและการนัดรักษาเสร็จ เราสองคนก็มาอยู่ในรถของมิ้ม เธอดูค่อนข้างจะเป็นห่วง และเอาอกเอาใจผมมากกว่าปกติ นั่นทำให้ผมเกร็งๆเล็กน้อย เธอออกรถวิ่งฉิวไปบนทางด่วนด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง

   "ใจเย็นๆมิ้ม พี่ไม่รีบกลับบ้านขนาดนั้น" ผมเตือนๆเธอ

   "อ่อ ขอโทษค่ะๆๆ" เธอผ่อนความเร็วลง "พอดีมิ้มอยากให้พี่กลับไปพักที่บ้านเร็วๆ..."

   "นี่ พี่หายแล้วนะ แผลผ่าตัดก็ดูดีแล้วด้วย อาจจะแค่ไม่ชินกับหัวโล้นๆนี่นิดหน่อย" ผมว่าพลางเอามือลูบๆหัวตัวเอง

   มิ้มขำเบาๆ หันมามองทางผมเล็กน้อย "แล้ว....พี่ติณ...มีคนดูแลรึยังคะ?" อยู่ๆเธอก็ยิงคำถาม

   "หื้ม จะไปมีได้ไงล่ะ เธอนี่ถามแปลกๆ"

   "งั้น...วันนี้ให้มิ้ม เอ่อ...ไปอยู่ดูแลด้วยที่บ้าน...ดีไหมคะ?" เธอถามแบบตะกุกตะกัก "พอดีวันนี้มิ้มลาช่วงบ่ายมาแล้วด้วย เผื่อพี่ต้องการคนช่วยเหลืออะไรช่วงนี้"

   ผมหันไปมองหน้าสาวนักวิจัยยา เธอยิ้มแบบเม้มปาก หน้ามองตรงไปบนถนน ดูเขินๆที่ตัวเองถามแบบนั้นกับผม ไม่ค่อยได้เห็นมุมน่ารักแบบนี้ของเธอบ่อยๆ

   "พี่ไม่ได้พิการนะมิ้ม ฮ่าๆๆ แต่อยากจะมานั่งเล่นบ้านพี่ก็ได้เลย ตามสบาย" ผมตอบ ซึ่งดูเธอจะพอใจมากๆกับคำตอบนั้น จากใบหูที่แดงระเรื่อขึ้นมา

   "อะ..โอเคค่ะ!" มิ้มยิ้มกว้าง ไม่หันมาตบตาผม และดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นอีกแล้ว...

   

   
###########################################################


   ผมทิ้งตัวนั่งบนโซฟา ดีจริงๆที่ได้กลับมาบ้านตัวเองสักที เป็นสัปดาห์ที่มีหลายเรื่องเกิดขึ้นมากมาย และหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องที่ผมเองยังนึกว่าตัวเองฝันไป แค่คิดถึงพรุ่งนี้ที่จะได้ไปเจอหน้าคุณไอรินคนสวยอีกครั้ง ก็ทำให้เลือดในร่างสูบฉีด ในตอนนี้คงมีแต่เธอเท่านั้นที่ผมอยากจะลองปลุกความหื่นกระหายออกมา อยากจะรู้นักว่าคุณเลขาคนสวยจะเย็ดได้ถึงพริกถึงขิงขนาดไหน ขนาดแค่นึกภาพว่าผมได้เอาควยตัวเองไปถูไถที่ร่องนมขนาดมหึมานั่นก็ทำให้แทบจะแตกคากางเกงแล้ว

   "อีกนานเลยกว่าจะได้เวลาข้าวเย็น" มิ้มเดินเข้ามาที่โซฟาและทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม "พี่ติณมีหนังดูไหมคะ?"

   "เราชอบดูหนังเหรอ?" ผมถามพลางกดรีโมททีวี

   "อื้อ! ชอบดูทุกแนวเลย" เธอพยักหน้า มองผมตาแป๋ว

   "งั้น...นี่ล่ะกัน" ผมเปิด Netflix ขึ้นมา "พี่อดดูตอนมันฉายในโรง หวังว่ามิ้มยังไม่เคยดูนะ"

   หน้าจอแสดงตัวอย่างหนังขึ้นมา มันเป็นหนังสยองขวัญที่เป็นกระแสมากๆ เมื่อสามสี่เดือนก่อน มิ้มเห็นดังนั้นก็ยกหมอนขึ้นปิดตา แล้วหันมาทางผม

   "มิ้มชอบดูทุกแนว..ยกเว้นแนวนี้ค่ะ!" เธอพูดพร้อมหันมามองผมด้วยสายตาอ้อนวอน "ไม่เอาน้า~"

   แน่นอน ด้วยความเป็นพี่ชายที่ดี ผมยิ้มมุมปาก ลุกขึ้นเดินไปปิดไฟห้อง พร้อมกดเล่นอย่างไม่รอช้า...

   หนังนั้นสยดสยองและน่ากลัวสมคำร่ำลือ มีฉากให้สะดุ้งตกใจเป็นช่วงๆ ตลอดเวลาที่หนังฉายไป สาวร่างเล็กค่อยๆ เขยิบมาชิดตัวผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ตัวอีกทีไหล่ของเราแนบชิดกัน มิ้มเอามือคล้องแขนผมไว้โดยที่เธออาจจะไม่รู้ตัว

   "อ๊าาา‼!" มิ้มสะดุ้งกรี๊ดสุดเสียง เธอเอาหน้ามาซุกไหล่ผม กลิ่นแชมพูและน้ำหอมอ่อนเข้าปะทะจมูก หัวของเธอห่างจากหน้าผมแค่นิดเดียว

   "ใจเย็นๆๆ ฮ่าๆๆ ดูดีๆสิ พี่ว่าผีมันเมคอัพไม่เนียนไปหน่อยนะ เนี่ยๆๆๆ" ผมพยายามพูดให้เธอหายกลัว ชี้ไปที่จอทีวี แต่เธอยังกอดแขนผมแน่น เขยิบประชิดตัวเข้ามาอีก

   "ไม่เนียนก็บ้าแล้วพี่ ภาพยังติดตาอยู่เลย ฮือออออ" เธอเสียงสั่นเครือ สภาพตอนนี้เหมือนเด็กสาวที่โดนผู้ใหญ่หลอกให้เข้าไปดูหนังผี "หมดแล้วใช่ไหม?"

   "หมดแล้วๆ ลืมตาได้"

   มิ้มค่อยๆ ลดมือลง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่หนังมีการ Jump scare ของหน้าผีเละๆอีกรอบพอดี

   "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด‼‼‼" มิ้มสะดุ้งตัวโยน พร้อมกับพุ่งตัวโถมมากอดผมจนเสียหลักหงายตัวนอนบนโซฟา พร้อมกับตัวของหญิงสาวที่สั่นกลัว หน้าเธอซุกที่ซอกคอผม ร่างกายของเราแนบแน่นจนผมสัมผัสได้ถึงหน้าอกหน้าใจขนาดน้อยๆที่บดทับตัวผมอยู่

   "พี่ติณ แกล้งหนูอ่ะๆ โคตรใจร้ายเลย ฮือออออ" เธอโวยวายพร้อมกับดิ้นตัวไปมา ลมหายใจตอนที่หญิงสาวพูดรดใส่ที่คอมันทำให้ขนผมลุกเกลียว

   "พี่ขอโทษๆๆ พี่ก็ไม่รู้ว่ามันจะโผล่มานี่ พี่เพิ่งเคยดูเหมือนนะ" ผมแก้ตัว พร้อมกับค่อยๆเอามือลูบหัวเธอ

   "ไม่เชื่อหรอก‼!" เธอยังคงไม่หยุดดิ้น ถึงผมจะมองเธอเป็นเหมือนน้องสาวก็เถอะ แต่การที่ถูกหน้าอกนิ่มๆมาถูไปมาบนตัวแบบนี้เป็นใครจะไม่แข็ง

   "มิ้ม....พี่ขอโทษ ใจเย็นๆก่อนนะ...ลุกขึ้นก่อน พี่เริ่มจะ...."ผมพยายามตั้งสติไม่ให้เกิดอารมณ์กับเธอ

   "อะไร⁈ จะว่ามิ้มตัวหนักเหรอ?" เธอหยุดดิ้น แต่ยังคงไม่ลุกออกจากตัวผม

   "เปล่าาาา พี่ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น แต่..." ผมพยายามเลี่ยงที่จะบอกเธอตรงๆ ว่าไอ้นั่นของผมมันจะผงาดแล้ว

   "พี่ติณ...ไม่ชอบให้มิ้มอยู่ใกล้ๆแบบนี้เหรอ?" อยู่ๆเธอก็ถามคำถามที่ทำเอาผมคาดไม่ถึง บรรยากาศในห้องตอนนี้เปลี่ยนไปทันที

   "ห้ะ...มิ้มว่ายังไงนะ..." ผมทวนคำถามอีกครั้ง

   เธอนิ่งเงียบไปสักพัก กอดผมไว้แนบแน่นอยู่เหมือนเดิม ก่อนที่ทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิด มิ้มเริ่มจูบเบาๆที่ซอกคอของผมไล่ขึ้นถึงใบหู เธองับมันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกระซิบเบาๆ

   "นี่พี่ยังไม่รู้จริงๆเหรอ?" ลมจากริมฝีปากเธอนั้นพ่นใส่หูผม ประกอบกับน้ำเสียงกระเซ่านั้น ทำผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว "ว่ามิ้มรู้สึกอย่างไงกับพี่..."

   "มิ้ม...." ผมเรียกชื่อเธอ "มิ้มใจเย็นๆก่อน..." ความเสียวเริ่มเล่นงานผมอย่างหนัก

   "ไม่ชอบเหรอคะ?" เธอขยับหน้าของเธอมาใกล้ผม "ปกติผู้ชายเขาชอบเรื่องแบบนี้กันไม่ใช่เหรอ?..."

   "ใช่...แต่ว่า......อือ‼‼‼" ผมยังพูดไม่ทันจบ ริมฝีปากของเราทั้งสองก็ประกบกันอย่างดูดดื่ม มิ้มจูบผมอย่างหื่นกระหาย ลิ้นเธอตวัดล้วงเข้ามา พร้อมกับบดเน้นริมฝีปากผมอย่างรุนแรง มือเธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างร้อนรน เผยให้เห็นบราสีขาว กับเนินอกน้อยๆ ขนาดพอๆกับสาววัยแรกแย้ม เธอยันตัวขึ้นในสภาพนั่งคร่อมผมอยู่ และกำลังพยายามเอื้อมไปปลดเสื้อในตัวเอง

   "รู้ไหมว่าหนูรอเวลาแบบนี้มานานแค่ไหน..." เธอพูดพร้อมนัยตาที่หยาดเยิ้ม รูดเสื้อในตัวนั้นทิ้งไป เผยให้เห็นหน้าอกของเจ้าตัวแบบเต็มๆตา มันไม่ใหญ่เซ็กซี่ก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหัวนมสีชมพูสองข้างนั้นดูเชื้อเชิญให้ไปดูดชิมรสยิ่งนัก

   "มิ้ม พี่จะไม่ไหวแล้วนะ..." ผมเตือนเธอครั้งสุดท้าย

   "แล้วใครให้พี่ทนละคะ~ ❤️" มิ้มหัวเราะคิคิ เธอจับมือผมสองข้าง ไปสัมผัสกับสองเต้าขาวๆของเธอ ผมเริ่มปล่อยตัวเองไปตามน้ำ มือที่โดนนมก็เริ่มเค้นคลึงโดยอัตโนมัติ มันไม่เต็มไม้เต็มมือก็จริง แต่ร่างเล็กๆ ที่บิดพริ้วครวญครางทุกครั้งที่ผมเขี่ยหัวนม มันก็เริ่มเพิ่มระดับความเงี่ยนในตัวผมขึ้นเรื่อยๆ

   "อ่าาาห์ พี่ติณ~❤" สาวแว่นร้องออกมาด้วยความพึงใจ ยิ่งนวดขยำหน้าอกนานเท่าไหร่ เอวของเธอก็เริ่มจะร่อนถูไถบนท่อนเอ็นผมงมากขึ้นเท่านั้น แม้มันจะอยู่ใต้กางเกง แต่ผมก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความเปียกที่ซึมผ่านลงมา

   "ชอบจังเลย~ อยากอยู่กับพี่แบบนี้ทุกวันเลย...อื้อออ!~" เธอเริ่มหอบถี่ ก้มมองลงที่เป้ากางเกงของผม เดาไม่ยากว่าตอนนี้เธออยากเอามันเข้าไปในตัวเธอแล้ว

   "อยากจะทำมันจริงๆเหรอมิ้ม..." ผมถามเธอเพื่อความแน่ใจ เพราะใจนึงผมก็ไม่อยากเสียความสัมพันธ์เพื่อนสาวคนนี้ไปเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเท่าไหร่ แต่ดูท่าแล้วเธอไม่ได้ฟังที่ผมถามเลย มิ้มจัดแจงรูดซิปกางเกงผมแล้วถกกางเกงในลง แท่งเอ็นก็เด้งชูขึ้นมาพร้อมที่จะออกศึก เธอดูหวาดๆ เกร็งๆ เหมือนไม่ค่อยกล้าที่จะจับมันเท่าไหร่

   "มัน...แข็งจังเลย" เธอค่อยๆใช้นิ้วแตะที่ส่วนหัว ทำให้มันกระตุกเบาๆ "อุ้ย! มันกระตุกสู้มือมิ้มด้วยล่ะ~❤" เธอมองมันแบบหลงใหล

   "นี่มิ้ม...ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ใช่ไหม?" ผมถามเธอจากท่าทาง

   "อือ...พี่เป็นคนแรกเลยนะ ที่ทำให้มิ้มหยุดคิดถึงไม่ได้ ทำให้มิ้มมีความรู้สึก...และทำให้มิ้มกล้าจะทำอะไรแบบนี้..." เธอตอบ พร้อมกับค่อยๆถกกระโปรงเธอขึ้น โคกเนินโหนกนูนนั้นขาวสะอาด ไร้ขนสักเส้นให้รำคาญสายตา มันอวบอูมจนผมประหลาดใจ "เขาว่ามันจะเจ็บใช่ไหม?"

   "ก็...ไม่ใช่ทุกคน.." ผมบอกเธอ "นี่ปกติมิ้มไม่ได้ใส่กางเกงในเหรอ?"

   "เฉพาะแค่วันนี้น่ะ..." เธอยิ้ม "เฉพาะพี่เลย..." เธอคว้าท่อนเอ็นของผมไปจ่อปากแคมที่ปิดสนิทของเธอ แค่ส่วนหัวของมันสัมผัสกับทางปากที่ชุ่มฉ่ำก็ทำให้หน้าเธอเสียวซ่านแล้ว

   เดี๋ยวนะ...นี่หมายความว่าเธอมีความต้องการกับผม มาตั้งแต่ยังไม่ได้ไปหาผมที่โรงพยาบาลเลยด้วยซ้ำ หนำซ้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ผมก็ไม่ได้เป็นคนเริ่มคิดอยากจะทำอะไรเธอด้วย ทุกอย่างเกิดจากตัวของเธอเอง ไม่ใช่เพราะความสามารถของผม หรือนั่นก็คือ...มิ้มรักผมจากใจเธอจริงๆ....

   นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ เพราะตลอดมาผมคิดกับเธอแค่เพื่อน แค่น้องสาวที่สนิทเท่านั้นเอง ในใจของผมมีแค่คุณไอรินเท่านั้น ถ้าไม่นับการทดลองใช้ความสามารถกับคุณพยาบาล และผมยังมีสติครบอยู่ละก็ ผมก็ไม่ได้อยากจะมีเซ็กส์ไปมั่ว โดยเฉพาะกับมิ้ม ผมกลัวว่าถ้าวันนึงความสัมพันธ์แบบนี้มันจะจบลงไม่สวย และผมจะเสียเธอไป

   ผมตัดสินใจ พยายามรวบรวมสมาธิ ควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้นิ่งลง นึกถึงระดับอะดรีนาลีนที่ปลุกเร้าความตื่นเต้น ฮอร์โมนเพศที่สร้างความกระสันทั้งหมดนั้นกำลังค่อยๆลดลง และอย่างที่ผมคาด มิ้มดูเหมือนจะได้รับผลจากการความคิดผมด้วยเช่นกัน เธอเริ่มสงบลง หายใจช้าลง และมีเริ่มมีสีหน้าสับสน ผมยันตัวลุกขึ้น และหยุดการร่วมรักของเราไว้แค่ตรงนั้น

   "พี่ติณเป็นอะไร?...หนูทำอะไรผิดหรือเปล่า? ทำไมหนู...ทำไมจู่ๆ...ความรู้สึกมัน..." เธอถามด้วยความสับสนปนตกใจ

   ผมเงียบ เลือกที่จะไม่บอกความจริงเธอ ก่อนจะค่อยๆประคองร่างกายเธอขึ้น "มิ้ม...พี่ว่าเราอย่าเพิ่งไปกันไกลกว่านี้เลยนะ...." ผมตอบเบาๆ "ถ้าเลยจุดนี้ไป พี่กลัวว่าพี่จะมองหน้ามิ้มไม่ติด...พี่ยังมีบางอย่างที่ค้างคาในใจน่ะ..."

   มิ้มขมวดคิ้ว เธอนิ่งไปสักพัก ก่อนจะค่อยๆสวมใส่เสื้อผ้า สีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นความโกรธ

   "คุณไอรินใช่ไหม?..." เธอถาม น้ำตาเริ่มเอ่อ "แม้เรามาถึงขั้นนี้แล้ว แล้วพี่รู้ว่าหนูรู้สึกยังไงกับพี่แล้ว พี่ก็ยังเลือกเขาเหรอคะ?"

   หญิงสาวเริ่มร้องไห้ เธอนั่งลงสะอื้นเบาๆ ผมได้แต่ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงหน้าเธอ

   "ทำไมมันไม่ได้ผลล่ะ?...ทำไมกัน..." เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ ผมไม่เข้าใจความหมายของมันนัก

   "พี่ก็ไม่ได้ไม่รู้สึกอะไรกับมิ้มนะ เพียงแต่พี่จะรู้สึกผิดมากๆเลยถ้าพี่มีอะไรกับมิ้มทั้งๆที่ในใจพี่ยังลืมอีกคนไม่ได้..." ผมอธิบาย "พี่กลัวว่าถ้ามิ้มรู้เรื่องนี้ แล้วมิ้มจะเกลียดพี่"

   "คิดว่าทุกวันนี้มิ้มไม่รู้เหรอ?" เธอมองหน้าผม ตาแดงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา "มิ้มรู้มาตลอด แต่มิ้มก็ยังเลือกที่จะทำแบบนี้กับพี่...แล้วพี่รู้ป่ะ...การโดนปฏิเสธทั้งที่หนูมอบให้พี่ขนาดนี้ แม่งโคตรเจ็บเลยพี่..."

   ผมเหมือนโดนตบด้วยคำตอบนั้น ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาในใจจนอยากจะเข้าไปกอดขอโทษเธอ แต่สุดท้าย...ผมก็ทำได้แค่ยืนมองเธออยู่ที่เดิม

   "พี่ขอโทษ..." ผมไม่กล้าสบตาเธอ "พี่หวังว่าสักวัน เราอาจจะเริ่มต้นกันได้...แบบคนรัก..."

   หญิงสาวไม่ตอบอะไร เธอนั่งนิ่งสักพัก ก่อนจะค่อยๆ ยืนขึ้นเก็บของเธอ แล้วทำท่าจะเดินออกจากบ้านผมไป

   "หนูจะบอกอะไรพี่นิดนึงนะ..." เธอหยุดตรงประตู หันมาพูดกับผม "ระหว่างที่พี่นอนรักษาตัว คุณไอรินที่พี่รักนักรักหนาน่ะ ถูกขอแต่งงานโดยรองประธานบริษัทไปแล้ว..."

   ผมอ้าปากค้าง แทบไม่เชื่อหูตัวเอง

   "แล้วใช่...เธอตอบตกลง" มิ้มยิ้มเบาๆ บนใบหน้า "ใครๆเขาก็รู้ ว่าที่เธอทำดีกับผู้ชายหลายๆคน ก็เพื่อแค่เรียกใช้งานตามที่เธอต้องการเท่านั้นแหละ นั่นก็รวมถึงพี่ด้วย..."

   "ได้ยังไงกัน?" ผมถาม "คุณไอรินกับรองประธาน ทั้งสองนั่น...ตอนไหนกัน?...."

   มิ้มหลับตา ถอนหายใจเบาๆ ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาของเธอเอง "หนูชอบพี่ในทุกๆเรื่อง ทุกๆอย่างที่เป็นพี่เลยนะ...ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว ที่มันทำให้พี่ดูโง่..." ว่าหญิงสาวก็เดินออกจากบ้านไป โดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

   ผมนั่งลงบนโซฟา รู้สึกสับสนอยู่ภายในใจ ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตตัวเองต่อไปดี เมื่อผมรู้สึกเสียคนที่ผมรักไปทั้งสองคนพร้อมๆกัน คนนึงผมรู้สึกผิดต่อเธอ แต่สำหรับอีกคน ไอริน...ผมย้อนนึกไปถึงช่วงพักหลังๆที่ไอรินได้เข้ามาตีสนิทชิดเชื้อกับผม ช่วงนั้นเป็นช่วงที่บริษัทเริ่มโครงการพัฒนายาตัวใหม่ มีการติดต่อจัดซื้อและเปิดให้บริษัทต่างๆมาเสนอราคา ตอนนั้นเองที่ไอรินได้เข้ามาติดต่อและขอดูเอกสารโครงการเหล่านี้กับผมหลายครั้งหลายครา และเธอเองที่พยายามพูดหว่านล้อมให้ผมทำเอกสารนำเสนอประธานที่ข้อมูลไม่ตรงความเป็นจริง เพื่อที่จะให้ตัวแทนบริษัทหนึ่งได้ชนะการเสนอราคา ผมได้มารู้ภายหลังว่าเจ้าของบริษัทนั้นคือพ่อของรองประธานบริษัทที่ผมอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนกระทั่งวันนี้ ทุกอย่างทำให้ผมเข้าใจว่าไอรินหลอกใช้ผมเพื่อที่จะให้แฟนของเธอได้รายได้มหาศาล ใช่แล้ว...ตลอดมาที่ไอรินเข้ามาในชีวิตผมล้วนแต่เพื่อผลประโยชน์ตัวเองทั้งนั้น กว่าผมเพิ่งจะมารู้ความจริงชัดเจนก็วันนี้ วันที่ผมไม่เหลือใครแล้ว...

   ในห้องอันว่างเปล่า ความคิดชั่วๆ เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวผม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเจ็บใจ ความผิดหวัง ความแค้น หรือเพราะฮอร์โมนอันผิดปกติในร่างกายของผม มันเหมือนกำลังกระซิบบอกผมในหัวว่า ในวันพรุ่งนี้ที่ผมไปทำงานที่บริษัท ผมควรต้องไปแสดงความยินดีแบบส่วนตัวกับเธอเสียหน่อยแล้ว...



ติดตามตอนต่อไป....


devilzoa


saranchai

ชอบแนวนี้มากครับ จัดการไอรินหนักๆเลยครับ แต่น้องมิ้มคงจะมีความลับบางอย่างเกี่ยวกับสาเหตุนี้แน่ๆเลย

peddo

ถ้าถึงขนาดคุณป้าที่ทำความสะอาดเกิดพิสวาทกับเขาด้วยนี่ สงสัยจะเป็นพรนรกซะมากกว่านะครับ
น้องมิ้มโชคดีที่รอดคืนนี้ไปได้ แต่ที่จริงแล้ว เธอเป็นคนวางยาให้พระเอกของเราเป็นอย่างนี้รึเปล่า
และตอนต่อไป ไอริณต้องระบมแน่จากพลังและอาวุธพิเศษ
ขอบคุณครับ

NNGGOO

อ่อยเพื่อผลประโยชน์มหาศาล  ติณอาจเป็นหนูทดลองยาจากงานวิจัยของบริษัท

ถึงคราวค้นหาความจริงและคิดดอกเบี้ยให้คุ้ม

aunsoiton


po3821

พลังใหม่มาถูกเวลาจริงๆ งานนี้ได้มีการเอาคืนอย่างสาสมแน่ๆ แล้วน่าจะต่อยอดไปได้อีกยาวๆ ลุ้นสนุกเลย ขอบคุณครับ

Mylove1234

ชอบเรื่องเลย เนื้อเรื่องแบบนี้ได้แก้แค้นกันมันๆ

Jikkig16

น่าติดตามครับ เรื่องดีๆอย่างนี้ควรต้องดันครับ  ::Fighto::

psm_mach

สงสารมิ้มจัง อุตส่าพยายามขนาดนี้ยังไม่ได้ผลอีก ไอรีนเก็บเอาไว้แก้แค้น

moohyai



D4rthvader


countrypoet

โห ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านมากๆเลยนะครับ ดีใจมากๆ
ตอนต่อๆไปอ่านจะล่าช้าเล็กน้อย เพราะช่วงนี้ทำงานหนักทุกวันเลยครับ ขออภัยจริงๆครับ  ::Thankyou::

633sqd