ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

คนที่รักกับคนที่ใช่ (1)

เริ่มโดย twintower, เมษายน 06, 2021, 04:54:07 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

twintower

"หอมกุ้งทอดกระเทียมจัง แล้วมีอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าครับป้านิ่ม"

เสียงทักจากลูกชายคนโตของบ้านที่ประตูห้องครัว ทำให้แม่ครัวกับลูกมือที่กำลังวุ่นอยู่หน้าเตาแก็ส หันมาทางประตูแล้วยิ้มรับก่อนจะตอบ

"มีแกงเนื้อคะ ป้าเพิ่มขนมจีนเข้ามาด้วย เผื่อคุณกลอยอยากกินตอนกลับมา"

ชายหนุ่มย่นหน้าทันทีเมื่อได้ยินชื่อน้องสาว แม่ครัวนั้นพูดต่อเมื่อเห็นสีหน้าของชายหนุ่ม

"แต่พรุ่งนี้ป้า จะทอดเนื้อให้นะคะจะหุงข้าวเหนียวให้ด้วย คุณกั้งจะได้หายอยาก วันนี้เอาแบบนี้ตามที่คุณผู้หญิงท่านสั่งก่อนนะคะ แล้วก็มีกุ้งทอดแล้วด้วย"

ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆเพราะรู้ดีว่าก่อนหน้านี้ตนเองอยากกินเนื้อทอดแต่น้องสาวอยากทานแกงเนื้อ จนทะเลาะกันทำให้แม่ต้องลงมาห้ามก่อนจะตัดสินใจสั่งแม่ครัวให้ทำแกงเนื้อก่อนและค่อยทำเนื้อทอดทีหลัง

"มันจะกินทำไมก็ไม่รู้ไปงานเลี้ยงก็กินแล้วกลับมาก็จะกินอีก คนอื่นเค้าเตรียมหุ่นให้ดีก่อนรับปริญญาก่อนแต่งงาน นี่มันกินไม่หยุด"

กั้งพูดพร้อมเดินไปเปิดตู้เย็น และก้มหาของกินทำให้แม่ครัวที่มองอยู่ตลอดถามขึ้นมา

"คุณกั้งหิวหรือคะ"

"นิดหน่อยครับป้านิ่ม แต่ไม่ต้องเร่งนะครับเดี๋ยวไม่อร่อย กั้งหาอะไรรองท้องก่อนก็ได้ครับ มีขนมอยู่เยอะเลย"

"รองท้องจริงๆนะคะอย่าให้เหมือนตอนเด็กๆ ทานขนมรองท้องจนอิ่มแล้วไม่ยอมทานข้าวทุกที"

กั้งได้แต่ยิ้มๆไม่ตอบอะไร ก่อนจะปฏิเสธเมื่อได้ยินแม่ครัวสั่งลูกมือให้มาเตรียมของว่างให้ตนเอง ขณะนั้นเสียงของสุนัขที่เลี้ยงอยู่5-6 ตัวได้ส่งเสียงเห่าแสดงความดีใจ กั้งถอนหายใจเหมือนจะรู้ว่าใครมาแต่แม่ครัวได้พึมพำออกมา

"เอ๊ะใครมา คุณท่านน่าจะยังไม่กลับ"

กั้งไม่พูดอะไรแต่หยิบน้ำดื่มออกมาเทใส่แก้ว ไม่นานนักผู้หญิงสูงวัยที่เป็นแม่บ้านได้เดินมาตรงประตูครัว ก่อนจะบอกกับชายหนุ่ม

"คุณกั้งคะ คุณตองกับคุณโอมานะคะ"

กั้งถอนหายใจอีกครั้งแล้วพยักหน้า

"อยู่ที่ห้องรับแขกแล้วหรือครับป้าใจ"

"คะ คุณตองแกเล่นกับปิ่นโตอยู่พักใหญ่ ซื้อของมาให้เจ้าพวกนี้เพียบเลยคะ"

"เค้ารักของเค้านี่ครับ"

กั้งพูดพร้อมทำท่าจะเดินออกไปแต่แม่บ้านได้ทักขึ้นมา

"กั้งไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะดีกว่านะลูก หน้ามันมากเลย"

กั้งพยักหน้า แต่ก่อนจะเดินออกไปแม่ครัวไปบอกกับเจ้าตัว

"คุณกั้งป้าทำข้าวคลุกน้ำมันก้นกระทะให้ด้วยนะคะ"

"ดีครับ ขอบคุณครับ"

กั้งหันมายิ้มให้ก่อนจะเดินออกไป ซึ่งถ้าสังเกตดีๆกั้งจะเดินตัวไม่ตรงเท่าไหร่นัก และผู้สูงวัยของบ้านทั้งคู่ต่างมองหน้ากันแต่ไม่พูดอะไรออกมาเพราะรู้กันดีว่าคือเรื่องอะไร ก่อนที่ป้าใจจะหันไปสั่งเด็กรับใช้ที่เดินตามมาให้ไปนำของว่างกับน้ำไปให้แขกที่ห้องรับแขก ในห้องรับแขกอันหรูหรา หญิงสาว 2 คน ที่ท้องแก่ทั้งคู่ต่างนั่งกันบนเก้าอี้คนละตัว และ 1ใน 2 กำลังเล่นกับสุนัขพันธ์โกลเด้นที่นั่งอยู่ใกล้ๆ  ไม่นานนักกั้งเดินเข้ามา ทำให้สุนัขมีกิริยาดีใจ ส่วนแขกทั้งสองต่างยิ้มให้และคนที่เล่นกับสุนัขได้กล่าวทัก

"กั้งเป็นไงบ้าง หายดีหรือยัง"

กั้งยิ้มๆให้แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่อยู่ไม่ห่างจากหญิงสาวที่ถาม โดยสุนัขโกลเด้นตัวนั้นรีบวิ่งมาหากั้งทันที

"ก็ปกติดี"

เป็นคำตอบสั้นๆ ก่อนจะจุ๊ย์ปากและสั่งให้สุนัขที่วิ่งมาหานอนลง

"จุ๊ๆๆๆๆ ปิ่นโตไม่ซน  นอนลง"

ทันทีที่สิ้นเสียงปิ่นโตทำตามคำสั่งทันที ทำให้แขกทั้งคู่ต่างยิ้มออกมา

"นับวันยิ่งแสนรู้มากขึ้น เห็นคลิปวันที่กั้งกลับแล้ว ตองสงสารมากเลยดูปิ่นโตดีใจมากกลัวจะช็อก สงสัยตามไม่ห่างไม่เจอกั้งตั้งปีกว่า"

กั้งไม่ตอบคำถามนี้ได้แต่ยิ้มๆ

"แล้วเรื่องรถคว่ำกั้งไม่เป็นไรแล้วนะ หายดีหรือยัง"

เป็นน้ำเสียงที่ถามด้วยความเป็นห่วงจากใจจริงของตอง กั้งตอบสั้นๆ

"ดีขึ้นแล้วละ"

ตองมองไปที่ใบหน้าและเห็นรอยแผลเป็นเล็กๆตรงหางตาด้านซ้ายที่ถ้าไม่สังเกตดีๆ จะมองผ่านเพราะมองแทบไม่เห็น ไม่รวมตรงหน้าผากที่พอจะมองออก  เธอเลื่อนสายตาไปตามแขนที่ผิวขาวละเอียดเป็นผิวที่เธอเคยแอบอิจฉา ขนาดเธอที่ดูแลผิวอย่างดีเสียเงินในการบำรุงไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ก็ยังสู้ผิวของกั้งไม่ได้ขนาดที่เจ้าตัวนั้นไม่เคยสนใจดูแลถึงตอนนี้กั้งจะอายุ 35 กว่าๆแต่ผิวพรรณยังดูดีเหมือนเดิม และสายตาเธอมาสะดุดที่นาฬิกาข้อมือของกั้ง ก่อนจะเห็นแผลเป็นนูนที่บริเวณเหนือข้อมือทั้ง 2ข้าง ทำเอาตองอดใจไม่ไหวโน้มตัวเอื้อมมือไปจับที่แขนของฝ่ายชาย

"โดนกระจกบาดใช่ไหมนี่แล้วเย็บกี่เข็ม"

"ที่แขนสองข้างร่วมๆ 20 เข็ม ที่หน้าก็ 10 กว่าเข็ม"

กั้งพูดจบตองเลื่อนสายตาไปที่ใบหน้าถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงเอามือไปจับตรงใบหน้าแต่ตอนนี้มันไม่ควรจะทำแบบนั้นยิ่งมีสายตาของคนอื่นถึงจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอก็ตาม แต่โอเพื่อนเธอที่มาด้วยได้ถามกั้งทำให้เธอรีบปล่อยมือจากฝ่ายชาย

"แขวนพระอะไรหรือกั้ง ถึงแทบจะไม่เป็นอะไรเลย"

ตองหันไปมองหน้าเพื่อนทันทีแต่ทำให้กั้งยิ้มแบบเหยียดๆออกมา

"พระอะไรโอ หลวงพ่อองค์ไหนก็ช่วยไม่ได้หรอก รถยี่ห้อวอลโล่นะ โครงสร้างมันแข็งแรงจะตายถ้าเป็นรถญี่ปุ่นในนี้ละก้อ อาจจะไม่รอด"

ทำเอาอีกฝ่ายรู้ตัวก่อนจะเปลี่ยนเรื่องถาม

"แล้วมันเกิดอะไรขึ้นละ"

"อีกฝ่ายขับรถเร็วและคุมรถไม่อยู่จนเสียหลักมาตัดหน้านะ เลยต้องหักหลบ"

"แล้วคันที่ตัดหน้าละว่าไง"

"ก็ยอมรับผิดเพราะมีทั้งกล้องวงจนปิดกล้องหน้ารถ เห็นเหตุการณ์ชัดเจน"

ทั้งตองกับโอต่างพยักหน้ารับรู้

"หมอที่เย็บแผลที่หน้าเก่งมากเลยนะแทบจะไม่เห็นแผลเลยต้องเพ่งดีๆ แล้วตอนนั้นรู้สึกตัวหรือเปล่า"

คำถามนี้ตองถามไปทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

"ไม่รู้หรอกมารู้อีกทีตอนอยู่ห้อง ไอ ซี ยู แล้ว สายอะไรต่ออะไรเต็มตัวไปหมด"

"โชคดีมากเลยนะกั้งที่ไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้"

คำตอบนี้มีเพียงแต่รอยยิ้มตอบกลับทำให้ตองกับโอก่อนจะถามเรื่องอื่นๆ กั้งตอบเฉพาะเรื่องที่ถามบางเรื่องยิ้มแทนคำตอบ  เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ตองเห็นการสนทนาไม่คืบหน้าเท่าที่ควรเลยส่งสัญญาณกับเพื่อนก่อนจะขอตัวกลับ กั้งไม่พูดอะไรออกมา แต่ตองหยิบถุงบนโต๊ะที่มีอยู่ 2ถุงส่งให้กั้ง

"คุยกันจนลืมว่าตองมีของมาฝากให้ด้วย ถุงนี้ฝากให้คุณพ่อกับคุณแม่และกลอยนะ ส่วนถุงนี้ของกั้งมีขนมที่กั้งชอบทานทั้งนั้น อยู่ที่สวีเดนคงหาทานลำบาก ของป้านิ่มป้าใจกับเด็กๆในบ้านตองให้ไปแล้วนะ รวมของพวกปิ่นโตด้วยตองซื้อไก่อบกับสติ๊กมาให้พวกเค้า"

"ขอบคุณมากครับ"

เป็นจังหวะพอดีที่แม่บ้านเดินเข้ามา แต่พอเห็นแขกลุกขึ้นยืนทำให้เธอต้องเปลี่ยนคำถามจากที่ตั้งใจไว้ว่าจะให้อยู่ทานอาหารมื้อเย็น

"จะกลับกันแล้วหรือคะคุณตอง"

"คะป้า"

กั้งนั้นนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมา ทำให้แขกทั้งสองกล่าวลากั้งเพียงแต่ยิ้มออกมา ทำให้แม่บ้านต้องเป็นฝ่ายเดินไปส่งแขก ตองหันมาลูบหัวปิ่นโตที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

"พี่ไปก่อนนะอย่าซนละ"

กั้งก้มลงมองแล้วบอกไปที่ปิ่นโต

"ปิ่นโตไปส่งพี่ตองเค้าหน่อยไป"

สุนัขแสนรู้เห่ารับก่อนจะเดินนำไปที่ประตู ทำเอาโอหัวเราะออกมา ตองกับกั้งสบตากันก่อนที่เธอจะบอกกับกั้งอีกครั้ง

"ไปก่อนนะกั้ง ดูแลสุขภาพด้วย"

สิ่งที่เธอเห็นคือฝ่ายชายแค่ผงกหัวรับเธอจึงตัดใจไม่พูดอะไรต่อและเดินตามเพื่อนออกไป จนไปถึงรถเธอพยายามก้มตัวลงไปลูบหัวปิ่นโตเบาๆพร้อมย้ำคำเดิม

"พี่ไปก่อนนะ อย่าดื้ออย่าซนละ รู้ไหม ไหนหอมก่อน"

สุนัขแสนรู้ยื่นจมูกไปหาเธอที่ตอนนี้พยายามย่อตัวลงไปอีก ป้าใจมองด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูกเพราะเมื่อก่อนปิ่นโตจะทำแบบนี้กับตองประจำ

"พี่กั้งกลับมาคงพาเรากับตัวอื่นๆว่ายน้ำกันทุกวันละสิ"

พอได้ยินแบบนี้แม่บ้านได้ตอบไปที่หญิงสาว

"ไม่เลยคะ มีแต่ปล่อยให้ลงไปกันเอง"

"อ้าวทำไมละคะป้า ปกติ กั้งพาพวกนี้ว่ายน้ำด้วยตลอด"

ตองถามด้วยความสงสัย ทำให้แม่บ้านนั้นเหมือนจะคิดอะไรอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะถามกลับ

"คุณกั้งไม่ได้บอกอะไรหรือคะเกี่ยวกับอาการเจ็บ"

"ไม่ได้คะ ตองถามไปเขาก็ตอบว่าดีขึ้น"

ป้าใจถอนหายใจเบาๆก่อนจะตัดสินใจบอก

"คุณกั้งยังเจ็บหลังอยู่คะ รวมไปถึงชายโครงด้านซ้ายและขาข้างซ้ายด้วย เธอเดินไกลๆหรือนั่งนานๆไม่ได้ พอเผลอยืดตัวก็จะเจ็บคะ"

"อันตรายมากหรือเปล่าคะ"

ตองถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม่มากเท่าไหร่หรอกคะ เมื่อ2-3วันก่อนคุณผู้หญิงก็พาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลของเพื่อนคุณผู้หญิง หมอทางนี้ก็บอกตรงกันกับหมอที่สวีเดนนะคะ กล้ามเนื้อกับเส้นประสาทยังอักเสบกับช้ำจากที่รถคว่ำนะคะ มันต้องใช้เวลา ป้าเห็นภาพที่คุณกลอยส่งมาให้ดูตอนคุณกั้งอยู่โรงพยาบาลที่สวีเดนยังตกใจ เพราะมันช้ำมาก ตอนนี้จางไปเยอะแล้ว คุณกั้งเลยไม่กล้าออกกำลังกายเพราะยังเจ็บอยู่ กลับมานี้ห้องฟิตเนส เธอไม่เข้าไปเลยคะ มีแต่เล่นเปียโนเท่านั้น แถมเรื่องตีกอล์ฟ เธอก็ไม่เล่นตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล กลับมานี่เวลาไปไหนมาเจ้าสิทธิ์ก็ขับรถให้ไม่ได้ขับเอง ตอนนี้เธอก็กินน้อยลงคะไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนเพราะออกกำลังไม่ได้"

แม่บ้านเว้นระยะไปชั่วครู่แต่ตองฟังอย่างสนใจและรู้ดีว่าคนที่ชื่อสิทธิ์คือคนขับรถประจำบ้านนี้ ก่อนที่ป้าใจจะเล่าต่อ

"เธอบอกกับป้าถ้าไม่มาเครื่องบินส่วนตัวของบริษัท เธอก็ยังไม่กลับคะ นั่งเครื่องนานๆแล้วมันระบม มาเครื่องส่วนตัวยังเดินเหินไปมาได้ ตอนแรกเธอตั้งใจจะกลับตอนงานรับปริญญากับงานแต่งของคุณกลอยนะคะ ก็อีก 3 เดือน  แต่ครั้งนี้มาทำงานด้วยเธอเลยจำใจมา ดีที่ทางบริษัทให้เธอนั่งเครื่องบินส่วนตัวมา เวลาจูงเจ้าพวกนี้ไปเดินเล่นคุณกลอยกับคุณท่านก็ช่วยพากันไปด้วยคะ คุณกั้งจูงตัวเดียวก็แย่แล้ว "

สีหน้าของตองแสดงความห่วงใยอย่างมากเธอหันไปมองที่ตัวบ้าน บ้านหลังนี้เป็นบ้าน 2 ชั้น ที่ตอนแรกมีลักษณะเป็นตัวแอลแต่ภายหลังมีการต่อเติมอาคารชั้นเดียวขึ้นมาอีก เพื่อใช้เป็นห้องออกกำลังและห้องพักผ่อนร้องคาราโอเกะและเล่นเปียโน เลยกลายเป็นอาคารรูปตัวยูนอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง ริมสระนอกจากจะมีเก้าอี้ไว้นั่งหรือนอนเล่น ยังมีศาลาเล็กๆที่กั้งชอบมานั่งทานของว่างหรือไม่ก็อ่านหนังสือ  เธอหันมาที่แม่บ้านก่อนจะถามต่อไป

"แล้วทานยาหรือเปล่าคะ กั้งยิ่งทานยายากอยู่ด้วย"

"ก็ทานนะคะ แต่เธอจะบ่นๆว่ายาพวกนี้แรงมันกลัวจะไปมีผลต่อไตในอนาคต แต่ถ้าไม่ทานตามที่หมอสั่งมันก็จะไม่หายนะคะ"

ตองถอนหายใจเบาๆ เม้มริมฝีปากแน่นพร้อมรู้สึกอุ่นๆตรงขอบตา เธอพยายามสะกดอารมณ์ก่อนจะถามต่อ

"เขาจะกลับสวีเดนเมื่อไหร่คะ"

"อีก 3-4 วันนะคะ พอดีประธานบริษัทไปเที่ยวภูเก็ตต่อ คุณกั้งเลยรอกลับด้วยดีเหมือนกันจะได้พัก เพราะกลับมานี่ก็ทำงานตลอด พอหยุด2-3วันนี้ ก็แทบไม่อยู่บ้านไปไหนมาไหนตลอด"

"คะป้า ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเป็นธุระให้ ถ้าป้าไม่บอกตองคงไม่รู้อะไรมาก"

"ไม่เป็นไรคะ ป้าช่วยได้เท่าที่ช่วยนะคะ"

แต่ก่อนที่ตองจะขึ้นรถสายตาเธอสะดุดกับรถที่จอดอยู่ในโรงรถ ซึ่งมีรถป้ายแดงเพิ่มมาอีก 2คัน เธอจึงบอกไปที่แม่บ้าน

"ป้าใจคะช่วยเรียนไปที่คุณพ่อหรือคุณแม่ก็ได้นะคะ ว่าถ้าอยากได้ทะเบียนสวยๆ สำหรับ 2 คันนี้ บอกมาที่ตองได้เลยนะคะตองจะได้หาให้"

"อ้อคะ แต่ 2 คันนี้คุณกั้งเธอซื้อมานะคะสั่งตั้งแต่ตอนอยู่สวีเดน นำเข้าทั้งคู่ คันสีขาวเป็นรุ่นเดียวกับที่คว่ำนะคะ เธอเห็นมันแข็งแรงเลยสั่งมาให้คุณท่าน"

แต่หญิงสาวเหมือนจะนึกอะไรเลยพูดต่อจากแม่บ้าน

"โอ๊ยตองลืมตัว ถ้าจะหาจริงๆพ่อก็หาได้สบายๆแค่ยกหูโทรศัพท์ งั้นก็ไม่เป็นไรคะเพราะยังไงเจ้าตัวเขาไม่ชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว "

แม่บ้านยิ้มๆให้ก่อนที่หญิงสาวจะพูดต่อ

"ยังไงตองขอบคุณอีกครั้งนะคะ"

"จ๊ะลูกแล้ว คุณโอคลอดเดือนหน้าใช่ไหม ส่วนคุณตองอีก 2เดือน อย่าลืมโทรมาบอกนะ ป้าจะไปเยี่ยม"

"คะป้า"

ทั้งคู่รับคำด้วยใบหน้าที่ยิ้ม ก่อนจะขึ้นตองหันมาลาปิ่นโตอีกครั้ง

"ตอนพี่เขากลับไปทำงานอย่าซึมนะ เดี๋ยวพี่กั้งก็กลับมา"

ป้าใจถอนหายใจเบาๆเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวหมายถึงอะไรแต่ก็ถามขึ้น

"เสียดายตอนซะแล้วถ้ามีลูกจะได้แบ่งไปให้คุณตองเลี้ยง"

"แฟนตองเค้าไม่ชอบพวกนี้คะ ไม่เหมือนตอง เอ่อป้าใจคะตองรบกวนอีกเรื่อง ตองซื้อข้าวเหนียวสังขยามาให้กั้งด้วยรบกวนป้าช่วยจัดเลยนะคะ ถ้าค้างคืนแล้วตองกลัวจะเสียนะคะ"

เป็นคำกล่าวสุดท้ายก่อนที่จะลาแล้วพากันขึ้นรถโดยตองเป็นคนขับ  โดยป้าใจมองจนรถพ้นประตูรั้วออกไป แม่บ้านถอนหายใจเบาๆอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ฝ่ายแขกที่พึ่งเลี้ยวรถออกไป โอเป็นคนเปรยขึ้นมาก่อน

"คนเรา ใจดำจริงๆ แค่ถามว่าสบายดีไหมก็ไม่ถามเลย ฉันนั่งฟังมาตลอดไม่ถามสักคำแกจะคลอดเมื่อไหร่"

"นั่นนะสิ แต่กั้งก็เป็นแบบนี้บทจะคุยก็คุยไม่หยุด บทจะไม่พูดก็ไม่พูดเลย แต่อย่าไปว่าเลยเพราะดูเจ้าตัวสิเจ็บขนาดนี้ยังไม่ยอมบอกเราเลย มิน่า นั่งตัวเฉียงๆ ไม่นั่งตรงๆ"

"แต่ก็นั่นแหละ เรามาเยี่ยมแต่ไม่ยอมถามไถ่เลยแปลกคนจริงๆ  ฉันถึงย้ำกับแกตลอดว่าคิดดีแล้วหรือมาหาเค้านะ ยังไงต่างคนต่างไปตามทางแล้ว"

ตองเงียบแล้วนึกย้อนไปเมื่อ อาทิตย์ที่แล้ว เธอเห็นเฟซของกั้งที่เงียบมาปีเศษๆ ได้โพสต์คลิป ภาพปิ่นโตที่กำลังนั่งเชยคางอยู่บนขากั้งและภาพเลื่อนไปเห็นอาหารวางโต๊ะ พร้อมเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่สุนัขโกลเด้นอีก 4 ตัวนั่งเบียดและจ้องมาที่กั้ง ซึ่งกั้งโพสต์ข้อความประกอบ

"ไม่ใช่คิดถึงนะ แต่อยากกินของบนโต๊ะมากกว่า"

ซึ่งในคลิปจะมีเสียงกั้งบอกกับบรรดาสุนัข

"กินไม่ได้ มันเป็นโจ๊กกินได้ที่ไหนละ"

ทำให้บรรดาเพื่อนๆและญาติของกั้งหลายคนโพสต์ถามกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะถามว่ากั้งมาถึงเมื่อไหร่ กั้งได้ตอบสั้นๆ

"มาถึงเมื่อเช้า ป้าใจซื้อโจ๊กให้ พวกนี้เลยร่วมแจมอยากกินปาท่องโก๋มั้ง"

เธอเห็นคลิปก็รู้ว่าเป็นศาลาริมสระน้ำและกลอยได้โพสต์คลิปต่อเป็นตอนที่กั้งลงจากรถ จะเห็นว่าบรรดาสุนัขต่างดีใจมากโดยเฉพาะปิ่นโตที่ตะกายกั้งไม่หยุดจนกั้งต้องลงมานั่งกอด แต่เธอรู้อยู่แล้วว่ากั้งจะกลับมาในวันนั้น เพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 3เดือนเศษ เธอได้มาที่บ้านหลังนี้ เพื่อมาหาพ่อกับแม่ของกั้งหลังจากที่รู้ข่าวว่ากั้งประสบอุบัติเหตุรถคว่ำที่สวีเดน  ที่เธอรู้เพราะกลอยเป็นคนโพสต์ในเฟซ เพื่อบอกพวกญาติๆว่าไม่ต้องเป็นห่วงกั้ง กั้งไม่เป็นอะไรมากและโพสต์ภาพของกั้งที่อยู่บนเตียงด้วยใบหน้าที่บอบช้ำ ทำให้ตองรู้ว่ากั้งประสบอุบัติรถคว่ำระหว่างขับรถไปทำงาน  เธอจึงร้อนใจจึงโทรมาสอบถามกับป้าใจแต่ก็ไม่ทราบอะไรมากนัก ตองจึงอดใจรอและขอร้องให้ป้าใจช่วยโทรบอกด้วยถ้าพ่อกับแม่ของกั้งกลับจากสวีเดน จนป้าใจโทรมาบอกเธอว่ากั้งออกจากโรงพยาบาลแล้วทำให้ตองตัดสินใจส่งข้อความไปทางอินบ๊อกใน  เฟซของกั้งเพื่อสอบถาม เพราะเธอไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ของกั้งที่สวีเดน เบอร์ที่ใช้ในไทยนั้นถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ทุกอย่างเงียบหายเหมือนที่ผ่านๆมา เธอเคยส่งข้อความไปทางไลน์ก็ไม่มีการอ่านหรือข้อความทางเฟซบุ๊กรวมทั้งการโทรผ่านไลน์กับเฟซแต่ทุกอย่างมันเงียบหายไม่สามารถติดต่อกั้งได้

จนเธอท้อใจพอผ่านไปอาทิตย์เศษๆมีเบอร์โทรแปลกๆเข้ามาที่โทรศัพท์เธอ แต่พอเห็นรหัสเธอรู้ว่าเป็นโทรจากต่างประเทศ เป็นกั้งนั่นเองที่ได้โทรมาหาเธอ แต่พูดคุยกันสั้นๆ กั้งบอกเธอว่าไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะวางสายไปแต่ตองตัดสินใจโทรกลับไปที่เบอร์ที่กั้งใช้โทรหาเธอแต่ติดต่อไม่ได้ เธอลองโทรไปอีก2-3 ครั้ง ก็ติดต่อไม่ได้ จนพ่อกับแม่ของกั้งพร้อมน้องสาวกลับมาเธอจึงมาที่บ้านหลังนี้เพื่อมาสอบถามเรื่องของกั้งและคำตอบที่ได้รับ กั้งไม่เป็นอะไรมากแต่นอนโรงพยาบาลเกือบอาทิตย์ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่แม่ของกั้งจะบินกลับไปดูแลสักพัก และก่อนจะกลับเธอได้ขอร้องป้าใจให้ช่วยส่งข่าวให้เธอด้วยถ้ารู้ว่ากั้งจะกลับมาเมืองไทย ป้าใจนั้นรับคำเธอ จนกั้งโทรมาบอกที่บ้านว่าจะกลับมาเมืองไทยเพราะทางบริษัทมีงานที่จะนำเสนอกับทางกองทัพของประเทศไทย ตองจึงตั้งตารอและรอเวลาที่กั้งว่าง เธอไม่เจอกั้งมาปีกว่า เจอกันครั้งสุดท้าย งานพระราชทานเพลิงศพปู่ของกั้งที่เคยเป็นอดีตรองนายกฯและรัฐมนตรีหลายกระทรวง วันนั้นเธอไม่ได้คุยอะไรกับกั้งเลยนอกจากพูดแสดงความเสียใจกั้งได้แต่พยักหน้า แต่เธอเข้าใจเพราะกั้งรักปู่มากยังเสียใจอยู่ และต้องต้อนรับแขกที่มามาร่วมงานจำนวนมาก

หลังจากที่ทำบุญครบ 100 วันปู่ซึ่งเธอมาทราบภายหลังเพราะน้องสาวกั้งโพสต์ในเฟซบุ๊กและแท็กมาที่พี่ชาย ซึ่งเป็นงานของคนในครอบครัวเท่านั้น หลังจากนั้นไม่กี่วันเพื่อนของกั้งที่ทำงานอยู่สถานทูตไทยในสวีเดนได้โพสต์รูปกั้งกับเพื่อนและครอบครัวในร้านอาหารแห่งหนึ่งพร้อมด้วยข้อความที่แท็กมาในเฟซบุ๊กของกั้ง

"มันมาทำงานที่นี่ทั้งทีต้องต้อนรับและฝากเนื้อฝากตัวกับผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ ต้องดูแลมันอย่างดีเผื่ออนาคตเราต้องพึ่งพามัน"

ตอนแรกเธอเห็นภาพก็งงๆ แต่หลังจากดูข้อความที่หลายๆคนโพสต์ทำให้รู้ว่ากั้งได้ไปทำงานที่สวีเดนในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผลิตอาวุธชื่อดัง กั้งดูแลในส่วนของการพัฒนาระบบซอฟแวร์ ตองอดจะยินดีไม่ได้ เพราะงานนี้เหมาะกับกั้งจริงๆ ก่อนหน้านี้เธอมาบ้านหลังนี้อีกครั้งเมื่อประมาณ 5เดือนที่แล้วเพื่อแจกการ์ดแต่งาน ซึ่งเธอก็คิดอยู่นานแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมาเพราะพ่อกับแม่ของกั้งย้ำกับเธอมาตลอดว่าถึงจะไม่ได้เป็นแฟนกับกั้ง ทั้งคู่ต่างก็รักเธอเหมือนลูกคนหนึ่ง ตองได้รับการต้อนรับอย่างดี ถึงแม้กลอยจะมีท่าทีกับเธอเปลี่ยนไป แม่ของกั้งเล่าเรื่องที่กั้งได้ไปทำงานที่สวีเดนให้เธอฟัง ว่าทางสวีเดนติดต่อกั้งมานานพอๆกับบริษัทที่สหรัฐที่เคยทาบทามตั้งแต่กั้งจบปริญญาโทแต่สุดท้ายกั้งเลือกที่สวีเดนเพราะมีข้อเสนอที่ดีกว่าแถมยังมีทุนให้กั้งเรียนปริญญาเอก กั้งจึงเลือกบริษัทที่สวีเดนแต่เวลามันก้ำกึ่งกับตอนที่ปู่เสีย ทางสวีเดนนั้นรอได้ ยอมให้กั้งจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนจะไปเริ่มงาน เธอทำได้แต่บอกพ่อกับแม่ของกั้งว่าเธอฝากแสดงความดีใจด้วย

ในงานแต่งของตองพ่อกับแม่ของกั้งไปร่วมงาน แต่หลังจากงานแต่งเธอผ่านไป 1อาทิตย์ กั้งประสบอุบัติเหตุแต่ตองมารู้เรื่องหลังจากผ่านไป 2อาทิตย์ ทำให้เธอวิตกมาก แต่พอรู้ว่ากั้งไม่เป็นอะไรมากจากปากพ่อกับแม่ของกั้งทำให้เบาใจ แต่ยังอยากเจอตัวกั้งอยู่เธอจึงขอร้องป้าใจ และวันนี้เธอได้เจอสมใจอยาก เธอชวนโอมาด้วยเพราะกั้งก็คุ้นเคยกับโออยู่พอสมควร  ทั้งคู่มาถึงตั้งแต่ช่วงบ่าย ตองรู้ดีว่ากั้งไปที่ไหนเธอเลือกมาวันนี้เพราะรู้ว่าพ่อกับแม่กั้งและกลอยไม่อยู่ไปงานวันเกิดของรัฐมนตรีคนหนึ่ง เธอไม่อยากพบคนอื่นโดยเฉพาะกลอยที่ท่าทีนั้นดูจะเหยียดเธออย่างมาก แต่ตองนั้นเข้าใจว่าเพราะอะไร เธอกับโอนั่งรอที่ร้านกาแฟที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านกั้งเท่าไหร่ จนเห็นรถที่กั้งนั่งเลี้ยวเข้าบ้านเธอจึงตามเข้าไป


ฝ่ายกั้งหลังจากที่แขกทั้งคู่กลับไปแล้วป้าใจได้เดินเข้าบ้านและเห็นเด็กรับใช้กับเก็บแก้วน้ำในห้องรับแขกจึงสอบถามถึงกั้งได้ความว่ากั้งอยู่ในห้องอาหารหลังจากสั่งให้ตั้งอาหารเย็น ภายในห้องอาหารกั้งนั่งตักข้าวเข้าปากอย่างช้าๆเหมือนจะครุ่นคิดอะไรไปด้วย จนป้าใจเดินเข้ามา

"อาหารไม่ถูกปากหรือคะ อ้าวข้าวเหนียวสังขยา"

เธอถามเพราะอาหารบนโต๊ะเป็นของชอบของกั้งทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวผัดน้ำมันกุ้งก้นกระทะ กุ้งทอดกระเทียมตัวโตๆ แกงเนื้อ ผัดข้าวโพดอ่อนน้ำมันหอย และแอปเปิลแช่เย็นที่ปอกมาพร้อมข้าวเหนียวสังขยาที่อยู่บนจาน

"อ้าวป้าใจ 2 คนนั้นกลับไปแล้วหรือครับ"

"คะกลับไปแล้ว ล่ำลากับปิ่นโตตั้งนาน ถ้าคุณตองเลี้ยงได้คงเอาไปแล้วมั้งคะ"

กั้งยิ้มๆแต่พอป้าใจถามย้ำมาอีกครั้งถึงเรื่องอาหาร

"ฝีมือป้านิ่มไม่เคยตกครับ อร่อยยังไงก็อย่างนั้นกั้งกินตั้งแต่เด็กๆแล้ว ส่วนข้าวเหนียวสังขยากั้งบอกให้ใส่จานเลยครับ คงเป็นร้านที่ตองชอบทาน แต่กั้งกำลังคิดว่า ทั้งสองคนนั่นคงว่ากั้งใจดำน่าดู"

พอได้ยินประโยคนี้ทำเอาแม่บ้านนั้นเดินมานั่งตรงข้ามชายหนุ่มทันที พร้อมคิ้วที่ขมวด

"ทำไมหรือคะ"

กั้งถอนหายใจแล้วถึงตอบ

"กั้งไม่ถามตองสักคำว่าสบายดีหรือเปล่า เรื่องที่โอหรือตองจะคลอดเมื่อไหร่กั้งก็ไม่ถาม"

"ทำไมทำอย่างนั้นละลูก โธ่แล้วกั้งน่าจะรู้ดีว่าตองเขาห่วงกั้งขนาดไหน พยายามโทรมาถามอาการตลอด กั้งซะอีกที่ไม่สนใจจะตอบอะไรตองเลยจนวันนี้เขาต้องลำบากมาเยี่ยม แล้วก็ท้องแก่ทั้งคู่"

กั้งนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบไปแม่บ้านที่ตนรักและเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง

"กั้งอยากจะให้เรื่องของเรามันจบๆไปนะครับ กั้งรู้ว่าเขาเป็นห่วง แต่ตองมีครอบครัวแล้วอีกไม่นานก็จะคลอดลูกแล้ว ในเมื่อทางเดินนี้เขาเลือกเองแล้ว เราพูดคุยกันได้ แต่ควรจะเป็นแบบคนรู้จักมากกว่าครับ กั้งไม่อยากให้มันเป็นปัญหา ที่ผ่านๆมาตองก็พยายามหาทางติดต่อกั้งตลอด แต่กั้งนิ่งเฉยกั้งรู้ว่าเขาอยากจะขอเบอร์โทรศัพท์กั้งที่สวีเดนจากป้าแต่เขาเกรงใจไม่อยากให้ป้าลำบากใจเขาเลยไม่ขอ"

คำตอบจากปากของกั้งทำให้ป้าใจถึงกับถอนหายใจ ทำไมเธอจะไม่รู้นิสัยของกั้งดี เธอเลี้ยงกั้งมาตั้งแต่เล็กๆ บางครั้งกั้งทำอะไรที่ดูแปลกๆในสายตาคนอื่นครั้งนี้ก็เหมือนกัน  แค่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ฝ่ายหญิงทั้งๆที่แต่งงานมีครอบครัวแถมท้องแก่ยังดูห่วงใยกั้งเกินเหตุ ถ้ายังรักอยู่แล้วทำถึงเลิกรากันไป เธอรู้ดีว่ามันเป็นเหตุผลใหญ่ที่ทำให้ลูกชายคนโตของบ้านนี้ตัดสินใจไปทำงานที่ต่างประเทศเพื่อจะได้ห่างจากฝ่ายหญิง และไม่ยอมติดต่อกันอีกเลยจนมาพบหน้ากันวันนี้ แต่กั้งดูจะทำท่าไม่ใส่ใจเท่าไหร่ตั้งแต่เธอบอกว่าตองจะมาหาวันนี้ กั้งออกไปดูรถที่งานมอเตอร์โชว์เกือบทั้งวันทั้งๆที่ร่างกายยังไม่แข็งแรง และพอเจอกลับใช้เวลาคุยกันไม่นาน แม่บ้านผู้สูงวัยนั่งฟังชายหนุ่มพูดต่อ

"อย่างนาฬิกานี่ก็เหมือนกัน เขาก็มองแต่คงไม่กล้าพูดอะไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนตองคงบ่นไม่เลิกขนาดกั้งซื้อเรือนละ3หมื่นตองยังบ่นแต่นี่เขามองๆมา "

"ก็นั่นละคะ ขนาดคุณผู้หญิงพอรู้เข้าก็โวยวายไม่เลิก ป้าก็เห็นด้วยมันแพงเกินไป นาฬิกาอะไรเรือนละ14-15ล้าน และนี่กั้งก็ซื้อรถเพิ่มอีก ป้าไม่เข้าใจเลย"

กั้งยิ้มเนือยๆแล้วถึงตอบแม่บ้าน

"ถ้าเป็นเมื่อก่อนกั้งคงเสียดายนะครับไม่กล้าซื้อแน่นอนและเข้าใจที่แม่บ่น แต่พอเกิดเรื่องขึ้นกั้งรู้ว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน วันนี้คุยๆกันอยู่วันต่อมาเราก็อาจตายได้ ถ้าเราตายไปแล้วเอาอะไรไปไม่ได้เลย ตอนเราอยู่เราควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่าถ้ามีเงินพอที่จะซื้ออะไรที่เราอยากได้ก็ซื้อไปเถอะครับ กั้งคิดแบบนี้เลยตัดสินใจซื้อใครจะว่าเว่อร์ว่าอะไรกั้งก็เฉยๆไม่ตอบโต้ เพราะเป็นเงินของกั้งไม่ได้ไปขอเขามาซื้อ"

กั้งบอกป้าใจไม่หมดว่ามันมีอีกเหตุผลที่หลังที่ตนเองออกจากโรงพยาบาลแล้วเพราะอะไรถึงใช้เงินเยอะขนาดนี้ ลึกๆมันมีเหตุผลที่มากกว่านี้ และเรื่องนาฬิกามันเป็นหัวข้อที่ตองกับโอคุยกันอยู่

"แกเห็นนาฬิกาใช่ไหมตอง"

ตองพยักหน้าทำไมจะไม่เห็นตองสังเกตเห็นตั้งแต่ในคลิปของกั้งตอนที่กลอยโพสต์ระหว่างที่กั้งกอดปิ่นโตเธอเห็นนาฬิกาแม้เธอจะไม่ชำนาญในเรื่องนี้แต่เธอรู้ว่ากั้งนั้นชอบสะสมนาฬิกา ยิ่งมีบรรดาญาติของกั้งได้มาแซวเรื่องนาฬิกาด้วยทำให้เธอไปหาข้อมูลทำให้รู้ว่านาฬิกาที่กั้งสวมนั้นเรือนละ 14 ล้านบาท ที่ผ่านมาเธอรู้ดีว่ากั้งใช้เงินเก่งแต่ก็ประมาณหลักหมื่น แต่เธอไม่รู้ว่าเพราะอะไรกั้งถึงตัดสินใจซื้อของราคาแพงมหาศาลแบบนี้ เธอจึงตอบเพื่อนไปแบบทำเป็นไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก

"ก็เป็นระดับถึงผู้บริหาร คงต้องใส่นาฬิกาหรูๆมั้ง เพราะเราก็รู้ว่ากั้งมีเงินขนาดไหนยิ่งขายที่มรดกที่ได้จากลุงตรงสุขุมวิท ก็เหลือกินเหลือใช้แล้วไม่รวมทรัพย์สินอื่นๆอีก ไหนจะมรดกของปู่ อีกอย่างเขาชอบสะสมนาฬิกาอยู่แล้ว"

ตองพูดไม่หมดแต่ในใจคิดว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงห้ามไม่ให้ซื้อแน่นอน แต่ตอนนี้เธอไม่มีสิทธิแล้ว เธอนั่งฟังเพื่อนเธอบ่นต่อไปอีก

"แต่ก็แปลกจริงๆนะที่แกถามไปเรื่องไลน์เรื่องเฟซนะ"

ตองนิ่งคิดไปถึงตอนที่ถามเรื่องที่เธอส่งข้อความไปหาทั้งไลน์ทั้งเฟซบุ๊กไปหากั้งแล้วเงียบหายไม่มีการอ่านแต่เจ้าตัวตอบมาว่า

"ที่นั่นไม่ค่อยใช้ไลน์กันเลยไม่โหลดแอฟ ส่วนเฟซก็ไม่ค่อยได้เข้า ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยล็อคอินนะ เพราะทางบริษัทไม่อยากให้ใช้พวกนี้มากนักมันเกี่ยวกับเรื่องการรักษาความลับของบริษัทนะ เลยทำตามที่ทางนั้นแนะนำ"

เมื่อได้คำตอบแบบนี้เธอจึงไม่ถามต่อ เพราะรู้นิสัยดีว่า กั้งนั้นบทจะพูดก็พูด พออารมณ์ไม่อยากพูดก็ไม่พูดเลยมันเคยมีมาแล้ว เธอจึงไม่อยากจะไปเซ้าซี้

"ปกติกั้งก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องไลน์อยู่แล้ว ส่วนเฟซก็แล้วแต่อารมณ์เขา"

เธอบอกเพื่อนไปแบบนี้แต่อีกฝ่าย นึกไปอีกแบบว่าตองยังปกป้องกั้งเหมือนเดิมแต่พูดออกไปว่า

"ฉันยัง งงอยู่แล้วว่าทำไมแกถึงอยากเจอเขานักทั้งๆที่ตอนนั้นแกเป็นฝ่ายขอเลิกตองแกก็รู้ว่ามันไม่มีทางเหมือนเดิน อีกไม่เท่าไหร่แกก็จะคลอดแล้วนะตอง"

ตองนั่งฟังเพื่อนพร้อมครุ่นคิด เช่นเดียวกับกั้งที่คิดย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อนทั้งคู่รู้จักกันเพราะหน้าที่การงาน ตองนั้นเปิดบริษัทจัดหานางแบบ,พริตตี้ ให้กับบริษัทต่างๆที่จะจัดงานอีเว้นท์เพราะเธอเคยคลุกคลีกับพวกนี้มาตลอดเธอเคยเป็นออแกนไนซ์ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง จึงทำให้เธอกว้างขวางในวงการถึงเธอจะหน้าตาสวยรูปร่างดีแต่เธอไม่สนใจที่จะเป็นพริตตี้ทั้งๆที่มีคนมาทาบทามหลายคน ก่อนจะมาเปิดบริษัทนายหน้าเอง ส่วนกั้งนั้นเป็นรองผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระบบซอฟแวร์ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง  บริษัทที่กั้งทำงานอยู่นั้นตองรู้จักกับผู้จัดการฝ่ายการตลาดเป็นอย่างดีจนบริษัทมีโครงการที่จะเปิดตัวระบบซอฟแวร์ตัวใหม่ในงานแสดงสินค้าประเภทซอฟแวร์ จึงอยากได้พริตตี้มาร่วมงานแต่เงื่อนไขค่อนข้างสูงสมกับค่าจ้างคือต้องการพริตตี้ที่มีความรู้และสื่อสารกับคนที่มาร่วมงานให้เข้าใจในเรื่องซอฟแวร์ตัวใหม่ จึงต้องมีการคัดตัว ทางบริษัทต้องการพริตตี้ 4 คนแต่ทางบริษัทมีอยู่แล้ว 1 คน ตองจึงส่งพริตตี้หลายคนไปคัดตัว ซึ่งค่อนข้างยากจนได้มา3 คนตามที่ต้องการหนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทของตองมากเธอชื่อมิว และทั้ง 4คนนั้นต้องเข้ารับการอบรมเรื่องระบบของซอฟแวร์ตัวนี้ก่อน ทำให้วันอบรมวันแรกตองขอเข้ามาฟังด้วย เพราะกลัวว่าถ้ามีพริตตี้ถอนตัวเธอจะได้รีบหามาทดแทนและตองต้องการข้อมูลเผื่อไว้ในการหาพริตตี้ทดแทน

นั่นเป็นครั้งแรกในการเจอกันของทั้งคู่ เพราะหลังจากที่มีการพูดคุยกันแล้วได้มีการแนะนำตัวคนที่จะอบรม ซึ่งในตอนแรกนั้นบรรดาพริตตี้ทั้ง 3 คน รวมทั้งตองด้วยต่างแอบชำเลืองมองไปยังผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาดีรวมถึงการแต่งตัวดูดีที่นั่งฟังอย่างเงียบๆมาตลอด จนได้รับการแนะนำจาก ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระบบซอฟแวร์ว่าผู้ชายคนนี้จะมาเป็นคนอบรมให้ ก่อนที่กั้งจะแนะนำตัว พอได้ยินนามสกุลทำเอาทุกคนต่างฮือฮา เพราะนามสกุลนี้เป็นนามสกุลของอดีตรองนายกรัฐมนตรีรวมถึงอดีตนายทหารชั้นนายพลรวมถึงปลัดกระทรวงที่เป็นกระทรวงที่สำคัญแต่กั้งทำเฉยๆก่อนจะเริ่มพูด

"เอาละครับ ผมขอเริ่มเลย ทุกคนคงได้รับคู่มือไปอ่านแล้วใช่ไหมครับ"

บรรดาพริตตี้ทั้ง4คนต่างพยักหน้าเพราะหลังจากคัดเลือกตัวผ่านแล้วได้มีการแจกคู่มือฉบับย่อไปให้อ่านกันก่อนที่จะมาอบรม กั้งจึงพูดต่อ

"ใครอ่านแล้วเข้าใจมั่งครับ แต่ผมไม่ต้องการคำตอบ เพราะถ้าใครไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้อ่านแล้วต้อง งงแน่นอนและคงบ่นชัวร์ว่าใครเขียนวะ ซึ่งผมบอกได้เลยผมเขียนเองครับ"

ทำเอาทุกคนหัวเราะก่อนที่กั้งจะพูดต่อ

"แต่คงจะเข้าใจในตรงที่ผมทำตรงสรุปไว้กันนะบ้างนะครับ เอาละถึงตรงนี้ผมขอใช้เวลาประมาณ 5 นาที ในการบอกถึงคุณสมบัติของซอฟแวร์ตัวนี้นอกเหนือจากคู่มือที่ให้ไปอ่าน ของให้ตั้งใจฟังนะครับอย่าพึ่งถามอะไร"

สายตาทุกคนจับไปที่หน้าห้อง กั้งนั้นบรรยายโดยใช้ศัพท์เทคนิคอย่างเดียว จนจบและใช้เวลาตามที่บอกจริงๆ กั้งจึงถามขึ้น

"ใครเข้าใจบ้างครับ"

ทุกคนต่างนิ่งเงียบ กั้งยิ้มๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา

"ก็ตามนี้ละครับ คนที่เข้าใจคือคนที่เรียนมาทางด้านเขียนโปรแกรม มันคือศัพท์เฉพาะทางจริงๆ คนที่ไม่เรียนมาจะ งงแน่นอน แต่ทีนี้ผมขอใช้เวลาประมาณ 7 นาที พูดเกี่ยวกับซอฟแวร์ตัวนี้อีกครั้ง"

และครั้งนี้ทุกคนต่างเข้าใจได้อย่างดี เพราะกั้งใช้ศัพท์หรือคำพูดง่ายๆมาอธิบาย ทำให้ทุกคนเข้าใจและหายเครียดไปทันทีและกั้งได้แจกคู่มืออีกฉบับไปให้พอทุกคนได้อ่านแล้วต่างยอมรับว่ามันทำความเข้าใจได้อย่างดี เพราะกั้งใช้ภาษาง่ายๆในการเขียนต่างจากคู่มือฉบับแรกแล้วกั้งเริ่มที่จะอบรมซึ่งระหว่างอบรม ตองยอมรับว่าผู้ชายคนนี้เก่งพูดชัดถ้อยชัดคำ รวมถึงภาษอังกฤษนั้นสำเนียงดีจริงจนหมดเวลาก่อนที่กั้งจะปิดท้ายว่า

"นี่แหละครับคืองานของพริตตี้และเอ็มซีในงานที่จะบรรยายซอฟแวร์ตัวนี้ให้ลูกค้า ส่วนรายละเอียดลึกๆทางเทคนิคก็เป็นหน้าที่ของทางเราครับ อย่าลืมไปอ่านทำความเข้าใจครับ พรุ่งนี้พบกันใหม่ครับ และนี่นามบัตรผม ถ้าสงสัยตรงไหนโทรมาถามได้ในเวลางานนะครับ ส่วนไลน์นั้นไม่ต้องส่งมานะครับผมไม่ค่อยอ่าน"

ตอนแรกทุกคนนึกว่ากั้งพูดเล่นแต่หัวหน้าของกั้งพูดย้ำอีกครั้ง

"เรื่องไลน์กั้งพูดจริงครับ ปกติก็ไม่ค่อยอ่านอยู่แล้วผมเจอมาแล้วต้องโทรถามไม่ก็อีเมล"


ทำเอาทุกคนหัวเราะหลังการอบรมตองเห็นว่าพริตตี้อีกคนที่ทางบริษัทเลือกมานั้นดูจะสนิทกับกั้งมาก ซึ่งตองพอจะรู้จักอยู่บ้างเธอชื่อไข่มุก แต่ไม่คุ้นเคยกันเท่าไหร่นัก หลังอบรมเสร็จตองได้พบผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่คุ้นเคยกันมาก่อนเพราะเรียนปริญญาโทมาด้วยกัน เธอจึงชมว่ากั้งเก่งอธิบายเรื่องยากๆให้เป็นเรื่องง่ายได้ ทำให้ตองจึงรู้เรื่องของกั้งมากขึ้น เพราะผู้จัดการฝ่ายการตลาดได้บอกว่า

"ไม่เก่งได้ยังไง จบโททั้ง เอ็มไอทีกับจอห์นฮ็อปกิน ไม่เก่งอย่างเดียวแถมรวยด้วยและได้ข่าวว่าตอนเรียนจบโทบริษัทยักษ์ใหญ่ทางนั้นรุมจีบกันน่าดูแต่ยังไงก็ไม่รู้ตัดสินใจมาทำงานที่เมืองไทย อีกอย่างกั้งจัดอยู่ในพวกลูกท่านหลานเธอเป็นลูกปลัดกระทรวงคนดังแม่เป็นถึงอธิบดีผู้พิพากษาเป็นหลานอดีตนายทหารระดับบิ๊ก ปู่เคยเป็นรองนายก แถมหน้าตาดีด้วยสาวๆในบริษัทนี้เพ้อกันไปทั่วแต่ดูไม่ค่อยสนใจใคร ทำแต่งาน มือโปรของจริง ขนาดหัวหน้างานยังยอมรับว่าเก่งกว่า ผู้ใหญ่ก็พูดกันว่าได้เพชรมาไม่ต้องมาเจียระไน "

ทำให้เธอพอรู้เรื่องของกั้ง ยิ่งมิวเพื่อนรุ่นน้องมาเล่าให้ฟังถึงความเก่งของกั้งที่ได้เห็นจากตอนอบรม ทำให้ตองเริ่มแอบสนใจกั้งขึ้นมา จนถึงวันงาน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี  ช่วงเวลาบ่ายตองมาเจอกั้งที่ศูนย์อาหารของสถานที่จัดงาน เธอจึงขอมานั่งกับกั้งด้วยเพราะโต๊ะอื่นๆเต็ม

"ขอนั่งด้วยคนนะคะคุณกั้ง"

"อ้อเชิญครับคุณตอง"

หญิงสาวบอกขอบคุณ ก่อนที่ทั้งคู่จะสนทนาในเรื่องทั่วๆไปจนเธอได้ถามไปที่กั้ง

"ตองได้ข่าวว่าคุณกั้งจบยูชื่อดังถึง 2ยู ตอนเรียนโทที่สหรัฐจนบริษัทที่นั่นทาบทามให้ทำงานที่นั่นแต่ทำไม ถึงกลับมาทำงานที่เมืองไทยละคะ "

กั้งยิ้มออกมาก่อนจะตอบ

"จริงๆก็น่าสนใจนะครับ ได้ทำงานบริษัทอาวุธชื่อดังรายได้ดี แต่ปู่กับลุงขอให้กลับมาทำงานที่เมืองไทยครับ เพราะปู่บอกว่าปู่อายุมากแล้ว ส่วนลุงก็สุขภาพไม่ค่อยดีครับ"

มันเป็นเรื่องจริงเพราะลุงของกั้งนั้นทั้งดื่มเหล้าสูบบุหรี่จัด ตอนที่คบกัน กั้งไม่ดื่มเหล้ากับสูบบุหรี่เลยนอกจากนานๆทีถึง   จะดื่มไวน์สักแก้วหรือเบียร์สักกระป๋องผิดกับเธอที่ช่วงนั้นเป็นนักดื่มตัวยง หลังจากวันนั้นทำให้ทั้งคู่ต่างสนิทกันมากขึ้น จากที่เธอเข้าใจในตอนแรกว่ากั้งกับไช่มุกนั้นแอบคบหากัน แต่ในที่สุดเธอก็รู้ว่าทั้งคู่นั้นต่างรู้จักกันมาก่อนและต่างฝ่ายต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกันไม่มีอะไรเกินเลย ตองยังเคยเห็นกั้งคุยกับแฟนของไข่มุกอย่างคุ้นเคย ในงานนี้กั้งจึงเลือกไข่มุกมาก่อนพริตตี้คนอื่นเพราะความสนิทกันและไข่มุกนั้นมีคุณสมบัติตามที่ทางบริษัทต้องการ และหลังจากงานจบ ความสัมพันธ์ของเธอกับกั้งนั้นก้าวหน้าไปอย่างมาก จากคนที่ดูเหมือนจะปิดกั้นตัวเองและมีกำแพงที่แข็งแรงแต่ตองสามารถทลายกำแพงนั้นได้  ตองเองก็ไม่มีใครหลังจากเลิกรากับแฟนเก่าได้ปีเศษๆ จนมาเจอกับกั้ง  ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต่างคืบหน้าไปด้วยดี มีนัดไปดูหนังทานข้าวด้วยกันหลายครั้งจนกั้งพาเธอมาทานอาหารมื้อเย็นที่ห้องพักในคอนโดสุดหรูที่อยู่ไม่ห่างจากที่ทำงานกั้งเท่าไหร่นัก  เธอประหลาดใจมากจากตอนแรกที่นึกว่าห้องพักที่กว้างใหญ่ มีห้องรับแขก มีโซนทำอาหาร พร้อมห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 2 ห้องจะตกแต่งอย่างหรูหราแต่มันกลับดูเรียบๆธรรมดา แต่ห้องนั้นสะอาดมากแถมมีอาหารที่อุ่นๆที่อยู่ในตู้เก็บอาหาร พอเธอถามด้วยความสงสัย กั้งนั้นตอบมาว่า

"ทุกวันช่วงบ่ายๆก่อนที่กั้งจะเลิกงานที่บ้านจะมีแม่บ้านพาเด็กรับใช้ที่บ้านมาดูแลทำความสะอาดแล้วเอาเสื้อผ้าไปซักรีดให้ครับ แล้วเอากับข้าวมาให้ด้วยแต่ถ้าวันไหนไม่ทานก็โทรไปบอก จะมาทำความสะอาดอย่างเดียว"

"แล้วกั้งนึกยังไงมาอยู่คอนโดละ"

"ก็มันใกล้ที่ทำงานไม่ต้องขับรถไกล และอีกอย่างลุงของกั้งซื้อทิ้งไว้ไม่ยอมขายหรือปล่อยให้เช่าเลยมาอยู่เองจะดีกว่า วันหยุดก็ค่อยกลับบ้าน"

นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่กั้งมาอยู่คอนโดแต่ตองรู้เพิ่มภายหลังว่ามาจากนิสัยและความเคยชินของกั้ง ที่อยู่โรงเรียนประจำชายล้วนมาตั้งแต่เด็กๆจนถึงมัธยม มีแต่ช่วงเรียนปริญญาตรีเท่านั้นที่มาพักอยู่ที่บ้าน และพอกลับจากเมืองนอกกั้งก็มาพักที่คอนโด หลังจากนั้นตองมักจะแวะหากั้งที่คอนโดเป็นประจำ มีบางครั้งจะไปทานข้าวจะไปที่บ้านของเธอ ตองนั้นพักอยู่บ้านหรูเพียงคนเดียวกับเด็กรับใช้อีก 2 คน ส่วนพ่อกับแม่เธอและน้องสาวอยู่ต่างจังหวัดไม่ยอมมาอยู่กรุงเทพด้วย จนคืนหนึ่งหลังจากไปงานแต่งงานของเพื่อนตองและตองพากั้งไปด้วยเหมือนจะเปิดตัวว่านี่คือแฟนคนใหม่ของเธอ ในงานนั้นมิวกับโอได้ไปร่วมงานด้วย ในงานตองนั้นรู้ดีว่ายังไงก็ต้องมีเสียงนินทาทั้งเรื่องแฟนบรรดาแฟนเก่าของเธอ หรือไม่ก็เรื่องในทำนองที่เธอคบกั้งเพราะนามสกุลใหญ่แต่ตองไม่ใส่ใจ แถมงานนั้นกั้งยอมอยู่ร่วมงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ด้วยทั้งๆที่กั้งจะเลี่ยงงานพวกนี้มาตลอด ตองรู้ดีว่ากั้งยอมอยู่เพื่อเธอ ยิ่งความที่กั้งเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีทำให้เข้ากับเพื่อนๆของเธอได้และเธอรู้ว่าเพื่อนผู้หญิงของเธอหลายคนนั้นปลื้มกั้งอย่างมาก

พองานเลิกตองได้แวะมาที่คอนโดกั้งก่อน ภายในห้องบนโซฟาร์ตัวยาวตองที่อยู่ในชุดเดรสสีทองสั้นเปิดโชว์แผ่นหลัง เป็นชุดที่เธอเปลี่ยนเพื่อใส่ในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เธอรู้ดีว่าเธอดื่มไวน์ไปหลายแก้ว ผิดกับผู้ชายที่นั่งข้างๆดื่มแต่น้ำเปล่าไม่ก็น้ำอัดลมเท่านั้น  ก่อนที่เธอจะเอนหัวไปซบที่ไหล่ของกั้ง  ตอนนี้ทั้งคู่ต่างได้สัมผัสกันภายนอกกันมาบ้างแล้ว กั้งก้มลงไปหอมบนเรือนผมของตอง จนเธอเงยหน้าขึ้นมา ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่นั้นแทบจะชิดกัน กั้งนั้นอดใจไมไหวก้มหน้าลงไปเหมือนกับตองที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ริมฝีปากของทั้งคู่นั้นประกบกันสนิท เป็นการจูบที่เกิดจากความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย มือของหญิงสาวทั้งสองข้างโอบไปรอบคอของฝ่ายชาย ทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่มจนพอใจ กั้งถอนหน้าออกมาส่วนหญิงสาวเอาหน้าไปซบที่ทรวงอกของฝ่ายชาย จนกั้งใช้มือเชยคางเธอขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะกลายเป็นการจูบที่เร่าร้อน

ครั้งแรกมันเป็นความจูบด้วยความรักแต่ครั้งนี้มันคือตัณหาของทั้งคู่ จนตัวของตองมานั่งอยู่บนตักกั้ง มือของกั้งโอบรอบเอวหญิงสาว ใบหน้าซุกไซร้ไปตามติ่งหูไล่ลงมาถึง ซอกคอ จนถึงแผ่นหลังที่ขาวโพลน ตองหลับตาพริ้มพร้อมเสียงครางแผ่วเบา จนมือของกั้งเอื้อมขึ้นมาที่ไหล่ก่อนจะปลดเดรสท่อนบนลงโดยที่เจ้าของยกแขนอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มใจ จนท่อนบนของเดรสมากองที่เอว ทรวงอกอันสล้างอวบอิ่มนั้นชูชันโดยมีบราปีกนกห่อหุ้มอยู่ มือของกั้งเลื่อนไปกุมบน บราทั้งสองข้างและขยำเบาๆบนหน้าอกอันแน่นเต่งตึงและพอทำท่าจะล้วงเข้าไปด้านในเพื่อสัมผัสเนื้อแท้ ตองจัดการปลดตะขอด้านหน้าออกแล้วโยนบราออกไปตรงหน้า กั้งกุมไปบนหน้าอกที่เต่งตึงแล้วขยำเบาๆทั้งสองเต้าก่อนจะบี้ที่หัวนม เสียงครางของตองนั้นปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างดีและตองรับรู้ได้ว่ามีอะไรแข็งๆกำลังดันก้นเธออยู่ จนกั้งเลื่อนมือข้างหนึ่งลงด้านล่างแล้วถลกชายกระโปรงขึ้นมากองบนเอวเหมือนท่อนบน ตามด้วยกางเกงในที่ถูกรูดปลิวออกจากร่างอย่างง่ายดายโดยเจ้าของไม่ขัดขืน แถมยกตัวให้ถอดอย่างง่ายดายก่อนจะเตะออกไปให้พ้นตัว


พร้อมกับที่กั้งจัดการท่อนล่างของตนเอง จนเรียบร้อยกั้งดึงร่างหญิงสาวมานั่งบนตักเอง หัวนมทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกคลึงไปมา จนตองที่ทนไม่ไหวเพราะควยของกั้งนั้นถูไถตรงร่องก้นของเธอ หญิงเธอนั้นยกตัวขึ้นแล้วจับควยของฝ่ายชายมาจ่อที่รูหีแล้วนั่งทับลง กั้งหายใจแรงๆ เพราะภายในของตองนั้นยังฟิตอยู่ ถ้าเปรียบกับรถคือรถป้ายแดงที่ผ่านการใช้งานมาแล้วไม่ถึง 100 กิโล ร่างกายทุกส่วนของเธอยังเต่งตึงอยู่ถึงจะผ่านมาแล้วแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ ซึ่งกั้งเข้าใจถูกตองนั้นผ่านมาแค่แฟนเก่าที่พึ่งเลิกรากันไปคนเดียวเท่านั้น ส่วนแฟนที่เคยคบกันก่อนหน้านั้นไม่เคยได้สัมผัสลึกซึ้งกับเธอเลย แต่เธอก็เรียนรู้มาหลายอย่าง ตองเริ่มขย่มตัวขึ้นๆลงๆอย่างช้า ปล่อยให้นมทั้งสองเต้าถูกกั้งเคล้าคลึงอยู่  เธอโยกตัวในท่านั้นอยู่พอสมควรก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันหน้ามาที่กั้งพร้อมนั่งบนตักเหมือนเดิม ปากทั้งคู่ประกบกันอีกครั้งก่อนที่หน้าของกั้งจะเลื่อนลงไปที่ทรวงอกคู่งาม หัวนมสีทับทิมถูกดูดดื่มสลับไปมาทันที

เช่นเดียวกับตองที่เอื้อมมือลงไปจับควยของฝ่ายชายแล้วทำเหมือนเดิมก่อนจะโยกตัวไปมามือทั้งคู่ของเธอโอบรอบคอกั้งส่วนกั้งใช้มือสองโอบรอบเอวของเธอครั้งนี้ตองโยกตัวแรงขึ้น กั้งพิงตัวไปที่พนักพิง ตามองใบหน้าของหญิงสาวที่หลับตาพร้อมร้องครวญคราง และนมที่กระเพื่อมขึ้นลงมันช่างเร้าอารมณ์ยิ่งนัก บางครั้งกั้งมีเด้งตัวสวนขึ้นทำเอาหญิงสาวครางออกมาด้วยความสุขสันต์ จนตองเร่งจังหวะถี่ขึ้นเหมือนส่งสัญญาณว่าจะถึงจุดหมายแล้ว เธอขย่มอีก 2-3ครั้งก่อนที่จะเกร็งพร้อมภายในรูหีตอดรัด เหมือนกับกั้งที่ปล่อยน้ำกามเข้าในรูหีของตอง หญิงสาวหายใจด้วยเหนื่อยแล้วซบลงมาบนบ่าของฝ่ายชาย กั้งกอดเธอแน่นขึ้นแล้วหอมไปที่แก้มตองเบาๆ


ทั้งสองไม่พูดอะไรกัน จนตองเริ่มขยับตัวกั้งใช้มือลูบไปมาตามแผ่นหลังของเธอก่อนจะถาม

"คืนนี้ตองค้างที่นี่ไหม"

เธอพยักหน้าอย่างอายๆ ก่อนที่กั้งจะจูบเธออย่างแผ่วเบาตองรับการจูบอย่างเต็มใจพอกั้งจะอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอน เธอจึงพูดออกมา

"เดี๋ยวตองหยิบกระเป๋าก่อน"

เธอหันไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วหันมาสบตาเป็นความหมายกับกั้ง ร่างของเธอถูกอุ้มในวงแขนของฝ่ายชายเข้าไปในห้องนอน  กั้งบรรจงว่างรางหญิงสาวลงเตียงก่อนจะจัดการถอดเสื้อตนเองพร้อมถอดเดรสที่กองอยู่กลางลำตัวของเธอออก ร่างกายที่ขาวโพลนปรากฏอยู่ตรงหน้า ตองนั้นหุ่นดีจริงเธอจัดอยู่ในประเภทเนื้อนมไข่ เต้านมอันอวบอิ่ม ไล่ลงไปที่เอวอันคอดกิ่วรองรับกับสะโพกอันพาย ส่วนเนินตรงกลางนั้นหมอยที่รกครึ้มกับโคกหีที่สมตัวที่ตอนนี้มีคาบน้ำกามติดอยู่ หญิงสาวบิดกายอย่างขวยเขิน ก่อนจะดึงผ้าคลุมเตียงมาปิดกาย กั้งก้มลงไปหอมแก้มเธอพร้อมถามว่า

"จะอาบน้ำก่อนไหมครับ"

ตองเพียงแต่พยักหน้าแล้วมองกั้งที่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาส่งให้ หญิงสาวยื่นมือมารับพร้อมบอกไปยังกั้ง

"กั้งไปอาบก่อนเถอะคะ ตองขอโทรไปบอกเด็กที่บ้านก่อนว่าไม่กลับทางนั้นจะได้ไม่ต้องรอเปิดประตูให้"

กั้งพยักหน้าพร้อมบอกกลับมา

"งั้นตองอาบในห้องน้ำนี้ก็ได้เดี๋ยวกั้งจะไปอาบที่ห้องข้างนอก"

กั้งบอกเธอแล้วเดินไปที่ห้องน้ำด้านนอกปล่อยให้หญิงสาวโทรศัพท์ หลังโทรศัพท์ไปบอกสาวใช้ที่บ้านเรียบร้อยหญิงสาวนั้นยิ้มออกมาอย่างพอใจกับสิ่งทีเกิดขึ้น เพราะเธอมั่นใจว่ากั้งนั้นทำด้วยความรักเช่นเดียวกับเธอ หลังจากที่เธอชำระอาบน้ำเรียบร้อย พอเธอออกจากห้องน้ำกั้งนั้นมา อยู่บนเตียงเรียบร้อย ตองที่นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวเดินอย่างประหม่าเล็กน้อยไปที่เตียง กั้งยื่นมือมาหาเธอตองส่งมือไปให้ ร่างอันงดงามถูกดึงลงมาบนเตียงและอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าของห้อง ตองซบไปที่อกของกั้ง จนกั้งหอมมาที่เรือนผมเธอ ตองจึงใช้มือไปลูบที่หน้าแล้วบอกไปยังกั้ง

"รักกั้งนะคะ"

 





















เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

MAC

ลุงสงสัยว่าคืนนี้น้องกั้งกับน้องตองคงสนุกทั้งคืนนะครับ ::Shy:: ::Me?:: ::Thankyou::

วีรการณ์ นาคชุ่มนุม


intanianoi

กั้งได้ตองแล้ว อาจจะไม่ใส่ใจดูแลรึป่าวนะ

ชายชรา

เนื้อเรื่องน่าติดตามอยากรู้เรื่องระหว่างกั้งกับตองครับ

rongler


bbkja555


Channarong Saekow

แล้วทำไมถึงเลิกกันน่ะ  ยิ่งเป็นฝ่ายหญิงที่เป็นคนบอกเลิกเองด้วย

phurin84

แลดูมีอะไรซับซ้อน ต้องจับใจความสักหน่อย

ถึงเวลา ต้องพูดความจริง

ตัดบัวยังเหลือใยตัดใจเหลือรัก สงสารกั้งจัง

hunterkung

คนไม่ใช่รักแค่ไหนก็ไม่ใช่  คนจะใช่ยังไงมันก็ใช่  พบเจอมากับตัว

Ttum1188

บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรน่าติดตามนะครับ

เสพสม

พยายามนึกว่าเรื่องนี้เป็นตอนเชื่อมต่อจากเรื่องไหน?  เพราะว่ารู้สึกคุ้นๆนะครับ

kodzilla

มีเรื่องน่าติดตามอ่านมาอีกแล้ว จะมีบทเซ็กส์น้อยหรือไม่มี ก็ไม่ว่ากัน

ryg123456