ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Monchai-S

มลทินดอกไม้-ตอนที่32

เริ่มโดย Monchai-S, พฤศจิกายน 20, 2021, 11:50:02 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Monchai-S




มลทินดอกไม้-ตอนที่32


   แม้จะเป็นเวลาสายจัดแต่อากาศก็เย็น สบายเพราะฤดูหนาวกําลังจะกรายเข้ามา
ตอนนั้นเทคโนโลยียังไม่ได้เข้ามายึดครอง เท่าไร ความร้อนไม่ถูกพ่นออกมาจากเครื่องจักรกล
ผู้คนยังไม่หลั่งไหลกันเข้ามาในกรุง มากมายเหมือนปัจจุบันนี้ อากาศหนาวจึง
แทรกตัวไปทุกหย่อมหญ้าโดยไม่มีอะไรเป็นเครื่องกีดขวางหอมดอกไม้จึงมีอยู่แทบทุก ย่านชานเรือน


ป้านุ่นกําลังสาละวนอยู่กับแกงหม้อใหญ่บนเตาถ่าน เป็นแกงที่แม้แต่น้ำพริกก็ยังโขลกด้วยมือของแกเอง
มันจึงอร่อยถูกปากของคนทั้งบ้านมาแต่ไหนแต่ไร แกชิมด้วยการใช้กระจ่าตักน้ำขึ้นมาซด
เห็นได้ที่แต่ ไม่ทันจะยกลง ลายตองก็หน้าตื่นเข้ามาหา
"เรื่องมันจะไปกันใหญ่แล้วละป่า" ลายตองพูด เกือบจะเป็นเสียงกระซิบ
สายตามองซ้ายมองขวา สํารวจดูให้เกิดความแน่ใจว่าไม่มีใครอื่นอยู่แถวๆ นี้ อีก
ป้านุ่นเห็นหน้าตาของลายตองกับคําพูดของมัน ก็รู้ว่าต้องเป็นเรื่องไอ้อิ่มหลานสาวของแกแน่
"เป็นไง เรื่องมันเป็นไง"
"คุณกองทุนน่ะซี เขาโทรไปหาหมออรุณเพื่อน ของเขา"
"โทรไปทําไม"
"เขาจะให้หมอมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของไอ้อิ่ม ว่ามันโดนเขาข่มขืนจริงหรือเปล่า"
"ฮ้า..." ป้านุ่นอุทานมือถือกระจ่าห้อยลงข้างตัว โดยไม่รู้ว่าน้ำแกงจากกระจ่าหกลงพื้น
"จริงๆ นะป้า เขาไม่เชื่อว่าเขาได้ข่มขืนไอ้อิ่ม"
"แล้วหมอเขาว่าไง"
"โธ่ป้า เขาพูดกันทางโทรศัพท์ ฉันได้ยินเสียง หมอซะเมื่อไหร่ล่ะ"
"เออจริงซีนะ แต่เอ็งฟังคุณกองทุนเขาพูดเอ็ง ไม่พอจะรู้เรื่องบ้างเหรอ"
"รู้สิ รู้แต่เพียงว่า พรุ่งนี้หมอเขาจะมาตรวจไอ้ อิ่มแต่เช้า คุณกองทุนเขานัดหมายให้มา"
"ฉิบหาย"
ป้านุ่นเผลอตัวอุทานขวัญกระเจิงมือไม้พลอยอ่อนไปหมด นึกไม่ถึงว่าจะกลายเป็นอย่างนี้
เสียแรง วางแผนเอาไว้อย่างดิบดี ถ้าคุณกองทุนไม่เลี้ยงไอ้อิ่ม ไว้เป็นน้อยก็ต้องจ่ายเงินมาก้อนงามๆ
แกคิดสะระตะ ตัวเลขเอาไว้ในใจ ต้องเรียกเอาชนิดที่ตั้งตัวได้กันเลย แต่ถ้าเป็นน้อยก็ยิ่งดี
เพราะเชื่อว่าจะต้องกินไปได้นาน และต้องหาทางกําจัดแววรัตน์ออกไปให้ได้ไม่ทางใด ก็ทางหนึ่ง
ซึ่งลายดองคู่คิดเจ้าอุบายมันก็บอกเป็น นัยๆ อยู่เหมือนกันว่าเรื่องคุณแววรัตน์ไม่ใช่ของยาก
ที่จะเขี่ยไปให้พ้นจากนายกองทุน แต่ไม่นึกว่า คุณกองทุนจะเดินหมากออกมาในแต้มนี้
ถ้าเอาหมอ มาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็เสร็จกันเท่านั้นเอง เพราะ ไอ้อิ่มมันโดนกองทุนข่มขืนเสียเมื่อไร่
เพียงแต่ลูบคลํา ฉีกเสื้อไอ้อิมสลัดตัวผละออกเบาๆ ก็หมดสติล้มแผ่ ไปเสียแล้ว
ความสาวของมันยังใหม่เอี่ยมไม่โดนแกะกล่อง เหมือนดอกไม้กลีบตูมยังไม่สยายกลีบ
ไม่โดน แมลงผึ้งตัวไหนเข้าไปชอนไชดูดกินเกสรหวาน มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทํากันอย่างไร
นอกจากแกคอย อบรมสั่งสอนและวางแผนให้มันเดินเพื่อก้าว ไปสู่ความเป็นคุณนายเท่านั้นเอง
และมันก็เชื่อแกทุกประการ แต่ตอนนี้ หากหมอพิสูจน์หมอก็ต้องรู้และ ยืนยันได้แน่นอนว่า
ไอ้อิ่มมันบริสุทธิ์ ไม่ได้โดนข่มขืน
"คุณกองทุนแกเอาจริงๆ หากพิสูจน์ได้ว่าไอ้อิ่ม ไม่โดนข่มขืน แกเล่นงานป้าแหลกแน่ๆ"
"แน่ละซี ข้ามีหวังโดนถอนหงอกและโดนเฉด กะลาหัวออกไปจากบ้านอย่างไม่มีปัญหา"
"แล้วคุณกองทุนก็ไม่ได้ทําอะไรไอ้อิ่มไม่ใช่รึ"
"ทําอะไรล่ะ นอกจากฉีกเสื้อ จับนม อิ่มมัน ผลักเบาๆ ก็ล้มลงไปแล้ว เสื้อก็ขาดนิดเดียว
ข้าต้องมาช่วยฉีกให้มันขาดมากขึ้นไปอีกจะได้สมเหตุสมผล
"งั้นพรุ่งนี้เช้าเป็นอันว่าป้าเตรียมข้าวของออกไปจากบ้านได้"
ลายตองพูดตามความจริงจากการคาดคะเนทําให้ ป้านุ่นรู้สึกกลัวจับใจ
แม้สันดานเดิมแกจะเป็นคนไม่ กลัวใคร แต่คราวนี้หลักฐานมันยืนยันอยู่โทนโท่ว่าตัว ผิดเต็มประตู
"ดีไม่ดีเขาอาจจะแจ้งความหาว่าป้าแบล็คเมล์เขา"
"แบล็คเมล์แปลว่าอะไรวะ"
"ขู่เข็ญ กรรโชกเพื่อเอาเงินเขาน่ะซี ติดคุกกันหมดทั้งป้าทั้งไอ้อิ่ม
และถ้าป้าใจไม่กว้างพอก็จะพลอยซัดมาถึงฉันเข้าไปอยู่ในคุกด้วยกัน"
"ไม่ ข้าไม่ให้เดือดร้อนถึงเอ็งหรอกน่า เพราะ ถึงยังไงเอ็งก็หวังดีต่อข้า"
ป้านุ่นรู้ว่าควรจะพูดอย่างไรกับลายตอง ถึงอย่างไรแกก็เชื่อว่าคุณกองทุนคงไม่เอาถึงเข้าคุกเข้า
ตะรางกันหรอก แต่มันเป็นเรื่องอับอายขายหน้า และไม่สมหวังอย่างคิดเอาไว้
หนําซ้ำกลับมาโดนถอนหงอกเอาอีกนี่สิมันน่าเจ็บ
"แล้วจะทํายังไงกันดีล่ะ"   ป้านุ่นมองหน้าลายตอง ขอความเห็น ลําพังตนเองตอนนี้คิดอะไรไม่ออก
แกเป็นคนประเภทใจถึง เสียงดังฟังชัดก็จริง แต่คนแบบนี้เป็นพวกรับจ้างละก็เหมาะที่สุด
เพราะสติปัญญาความคิดไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าหางอึ่ง และดูเหมือนแกจะเชื่อว่าลายตองจะต้องมีอะไรที่พอ
จะช่วยเหลือแกกับหลานสาวได้
ลายตองลงนั่งกับพื้นใช้สองมือกอดเข่า ที่ชันขึ้น แววตาและใบหน้าบอกการครุ่นคิด

ป้านุ่นก็พลอยนั่งตามไปด้วยโดยไม่รู้ว่า นั่งทับลงไปบนน้ำแกงที่หกจากกระจ่าเมื่อครู่นี้
สายตาแกไม่คลาดจากใบหน้าของลายตองราวกับจะให้มันเร่งออกความคิด
แกงในหม้อบนเตาจะเป็นอย่างไรแกไม่สนใจมันอีกแล้ว มันจะเดือดปุดๆ จนน้ำข้นคลั่กก็ช่างมัน
อากาศที่รู้สึกเริ่มหนาวกลายเป็นร้อน ร้อนทั้งอากาศ ร้อนทั้งไฟในเตา แต่ดูจะไม่เท่าความร้อนใจของแก
ลายตองก็ไม่นึกว่าคุณกองทุนจะออกมาในรูปนี้ ลองเอาหมอมาตรวจก็เสร็จกันเท่านั้นเอง
ที่แรกที่วางแผนให้กับป้านุ่นก็ไม่ได้หาทางแก้เอาไว้เสียด้วย เพราะดูไปแล้วก็ไม่เห็นว่า
จะต้องแก้อะไร เหมือนที่ส่งกําบังขึ้นไปซัดคุณ แววรัตน์ ซัดลูกเนียง มันเป็นแผนง่ายๆ และก็
สําเร็จสมดังใจ ไม่มีปฏิกิริยาโต้กลับแต่ประการใด ตนเป็นฝ่ายกําชัย มีไพ่ตายอยู่ในมือ
แต่พอ มาถึงกองทุนกลับโดนโต้กลับอย่างนึกไม่ถึง

สัญชาตญาณของลายตองมีอยู่อย่างหนึ่ง คือ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ต้องหาโอกาสแก้แค้นตอบ แทนเสมอ
เหมือนอย่างที่นายกองทุนข่มขืนตนก็ ตอบแทนกลับไปแล้วอย่างสาสม เพราะเช่นนั้น
หนนี้ก็จะยอมไม่ได้อีกเหมือนกัน ต้องแก้ให้ทัน ไม่อย่างนั้นเสร็จแน่ แต่จะแก้อย่างไร
มีเวลาคืนนี้เพียงคืนเดียว เหมือนนักเลงหมากรุกที่ถนัดในการเดินม้า ความคิดอยู่ที่ม้าเป็นส่วนมาก
ลายตองก็เหมือนเช่นนั้น..ความคิดจับอยู่ที่สิ่งเดียว..ทางเดียวคือใช้ม้าแก้เกม
เปลี่ยนจากการรับ มาเป็นรุก..คิดอยู่ครู่หนึ่ง..ในสมองที่เริ่มคิดก็เป็นภาพ เบลอร์ๆ
ขึ้นมาทีละน้อยๆ จนกระทั่งแจ่มชัด...
ลายตองยิ้มเครียดให้กับความคิดอันแยบคาย
ที่แสนจะฉ้อฉลของตน
"อย่างที่ฉันเคยบอกกับป้าน่ะแหละ เราเป็นฝ่ายรุก เมื่อรุกแล้วเราต้องรุกให้ตลอด"
"ข้าก็รุกอย่างที่เอ็งบอก"
"ไม่พอ ต้องรุกให้มันหนักเข้าไปอีก"
"รุกยังไงวะ"
"เรามีเวลาเพียงคืนเดียว"
"แน่ละซี พรุ่งนี้หมอมาแต่เช้าไม่ใช้รึ"
"อาจจะก่อนสว่างด้วยซ้ำ"
"แล้วจะเอายังไงเอ็งก็บอกมาเลย ลําฟังข้าน่ะ จนปัญญา"  ป้านุ่นยอมรับออกมาตรงๆ
"ถ้าเราสู้ในวันนี้ พรุ่งนี้เราต้องชนะ
"ใครมันก็อยากเป็นผู้ชนะทั้งนั้นแหละวะ"
"งั้นป้าต้องเชื่อฉัน"
"ข้าก็เชื้อเองมาแล้ว และก็ต้องเชื่อเอ็งอีกต่อไป"
"พรุ่งนี้ตอนเช้าหมอจะมาตรวจร่องรอยว่าไอ้อิ่ม มันโดนข่มขืนหรือเปล่า"
ลายตองหยุดพูดเหลียวมอง ซ้ายขวา ทําให้ป้านุ่นต้องมองตามมันไปด้วย
"เอ็งมีอะไรก็พูดมาเถอะ ไม่มีใครเข้ามาในนี้หรอก ลองข้าไม่อนุญาตเสียแล้วไม่มีใครกล้า"
ป้านุ่นดูจะใจร้อนยิ่งกว่าแกงที่กําลังเดือดคลักๆ จนข้นอยู่ในหม้อบนเตา
"ไอ้ร่องรอยการข่มขืนนี่แหละมันจะเป็นหลักฐานอย่างดี เพราะเช่นนั้น เราต้องจัดการให้ไอ้อิ่มมันโดน ข่มขืนเสียเลย"
"หา..เอ็งพูดยังไงข้าไม่เข้าใจ" ป้านุ่นตกใจ มากกว่าคําพูดว่าไม่เข้าใจ
"ก็ให้ไอ้อิ่มมันถูกข่มขืนน่ะซี มันจะได้มีรอยแผล เป็นหลักฐานยืนยันกับ หมอในวันพรุ่งนี้
ป้านุ่นรู้สึกเสียววูบราวกับตนเองโดนอีก ขาดออกไปด้วย แกมองดูหน้าของลายตองเหมือนกับจะออกสีคล้ำเข้ม
ดวงตาของมันวาวเป็นประกายดูน่ากลัว ยิ้มที่ริมฝีปากของมันเบี้ยวเล็กน้อย
"เอากันถึงอย่างงั้นเชียวเรอะ" ป้านุ่นพูดออกมาเหมือนบ่นพึมพํา
"ถ้าไม่ทําอย่างฉันว่า ป้าก็เตรียมตัวเป็นฝ่ายรับได้แล้ว ฉันว่ารับหนักเสียด้วยซี
แต่ถ้าป้ายังเป็นฝ่าย รุกคืบหน้าไปเรื่อยๆ ป้าก็จะเป็นฝ่ายรับเหมือนกัน รับผลประโยชน์
อย่างที่ป้าได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ เพราะเช่นนั้นมันจึงสําคัญอยู่ตรงที่ฉันว่าเท่านั้นเอง
หากอิ่มมันมีหลักฐานว่าโดนข่มขืนจริงๆ ป้าก็เป็นฝ่ายชนะ เราแพ้พวกเขามามากแล้วไม่ใช่เรอะ
อย่างป้า แพ้มาตั้งแต่เป็นสาวๆ ทําไมเราจะเป็นฝ่ายชนะบ้าง ไม่ได้ล่ะ ให้เราเป็นฝ่ายชนะบ้างซี่"
ลายตองเน้นเสียง หนักๆ
ป่านุ่นสบตากับลายตอง ตวงตาของมันมีแวว ขู่เข็ญ บังคับชอบกล
คนอย่างป้านุ่นแกมีสันดานเอาไงเอากันอยู่แล้ว แก่ตัวเข้ามันก็ละพยศลงไปตามวัย แต่มันไม่ได้หายไปไหน
มันหลบลงไปซ่อนอยู่ในจิตใต้สํานึกฝังลึก เป็นสันดาน มันไม่ได้ถูกลืม พอมันถูกกระทบเข้าตามจังหวะ
มันก็พรวดพราดออกมาจากที่ซ่อน ไม่ผิดอะไร กับสัตว์ได้กลิ่นเหยื่อโดยไม่รู้ว่าเหยื่อนั้นจะเป็นของจริงหรือของที่พรานวางล่อไว้
พอออกจากที่ซ่อนอยู่ได้มันก็กระโดดเข้างับทันที
"เอาวะ เอาไงก็เอากัน ไหนๆ ก็มาถึงแค่นี้แล้วนี่หว่า"  ป้านุ่นพูดโผงผางเสียงดังด้วยความลืมตัว
จนลายตองต้องเอานิ้วชี้แตะปากตัวเองเป็นเชิงห้าม ปรามให้เบาๆ หน่อย
"ถึงว่าน่ะซี" ลายตองคล้อยตาม "ไอ้อิ่มมัน โชคดีที่มีป้าคอยลุ้นอยู่ทั้งคน"
"เรามันเป็นคนใช้เขา ถ้าไม่คิดทําอะไรให้มันดีกว่านี้ เราก็ต้องเป็นขี้ข้าเขาตลอดไป แต่ว่า...."
ป้านุ่นดูเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้
"เอ็งบอกว่าให้ไอ้อิ่มมันโดนข่มขืนเสียเลยจะได้มีพยานหลักฐาน"
"ก็งั้นน่ะซี"
"แล้ว..แล้วใครล่ะวะ จะมาข่มขืนไอ้อิม" พูดถึง ตอนนี้น้ำเสียงของป้านุ่นคลายความดุดันจริงจังลงไปมาก
ถายตองนิ่งเหมือนใช้ความคิด ให้ดูสมเหตุสมผล แต่ความจริงไม่ต้องคิด ถ้าเป็นเรื่อง
เกี่ยวกับความคิดพินาศหายนะของนายกองทุน มันมีสูตรอยู่แล้วในสมอง ดังนั้น
เมื่อสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมันเลยเข้าล็อคอย่างง่ายดาย
"ผู้ชายในบ้านเรานอกจากคุณกองทุนแล้วจะมี ใครอีกล่ะ"
"ไอ้บังเหรอ" ป้านุ่นขมวดคิ้วย่น
"มีใครที่ไหนอีกล่ะ หรือป้าจะไปหาคนอื่นมาได้ทัน"
"แต่..แต่ถ้าไอ้บังมันปากโป้ง"
"ฉันรับรอง" ลายตองพูดเสียงเครียด "เป็นคนอื่นฉันไม่แน่ใจ แต่ถ้าเป็นกําบัง ฉันรับรองได้
เขาจะไม่เอาเรื่องไปพูดให้คนอื่นรู้เป็นอันขาด นอกจากเรา สามสี่คนแล้ว จะไม่มีใครรู้"
"เอาเป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอวะ" ป้านุ่นออกความคิดบ้าง
"อะไร"
"อย่าง..อย่าง..พวกมะเขือยาว"
"ป้านึกหรือว่าหมอเขาจะไม่รู้"
"ไอ้บัง" ป่านุ่นครางเหมือนหมดอาลัยตายอยาก ยิ่งนึกไปถึงการฉีกขาดแล้วยิ่ง
เสียวสยองแทนหลานสาว แต่คิดหาทางออกยังไงก็ไม่มี ก็อาจมีอยู่บ้างคือเก็บข้าวเก็บของ
หนีออกไปจากบ้านนี้เสียทั้งป้าและหลาน แต่ถ้าทําอย่างงั้นก็เท่ากับยอมแพ้อย่างราบคาบ
ไม่มีโอกาสได้เงยหน้าอ้าปาก จะว่ากันไปแล้วนี่เป็นโอกาสอันดีเยี่ยม
เมื่อมันจะต้องเสียหายกันถึงขนาดนี้ก็ต้องยอมมันละป้านุ่นเกิด อึดสู้ขึ้นมาทันที..


"กําบัง"
อิ่มเอ่ยออกมาด้วยความตกใจหลังจากฟังป้า นุ่นพูดอยู่นานหว่านล้อมด้วยเหตุผลต่างๆ นานา
ตลอดไปจนอนาคตอันสดใสซึ่งแกถ่ายทอดมาจาก ความคิดและคําพูดของลายตองอีกที
เรื่องอันร้ายแรงที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้ถ้าแก้เกมไม่ทันจะจบเห่กัน
แกหว่านล้อมเสียจนอิ่มราวกับจะเหลวไปด้วยคําพูดของแก ยอมทําตามแกทุกอย่าง
ต่อจากนั้นแกจึงเอ่ย ชื่อของกําบังเป็นประโยคสุดท้ายที่จะเข้ามาข่มขืนตน
มือแรกของผู้ชายที่ไขว่คว้าตามหน้าอก สะโพกและเนื้อที่ไม่เคยโดนแดด
เป็นมือของ นายกองทุน แม้มันจะสัมผัสเพียงภายนอกมีเนื้อผ้า เป็นสิ่งขวางกั้น
แต่มันก็ผ่านเข้ามาลึกในความรู้สึก เพราะเป็นสัมผัสของผู้ชายที่ตนใฝ่ฝันตามเรื่องราวที่
ป้านุ่นครอบงําความคิดของตนมาแต่แรก ป้านุ่นเป็น คนหมายมั่นปั้นมือเอาไว้
จนถึงกับวางอุบายให้ตนขึ้นไปหา เข้าไปช่วยเช็ดตัวให้ในขณะที่นายกองทุนเมาหลับไม่ได้สติ
แต่เขาก็ทําได้เพียงแค่สัมผัสภายนอก เขาหมดสติไปเสียก่อน แต่รสสัมผัสมันกลับเข้ามา
เคลือบติดแน่นอยู่ในอารมณ์ของเด็กสาวๆ อย่างอิ่ม
ครั้นป้านุ่นเอาเรื่องอันน่ากลัวมาเล่าให้ฟังเป็นขั้นตอน จนถึงการพิสูจน์ความเป็นสาวของตน
โดยมือหมอในวันพรุ่งนี้ ดังนั้น คืนนี้ ไอ้ที่มันอิ่มด้วยเนื้อสาว ขนาดของมัน แน่นขนัด
อิ่มด้วยความฉ่ำชุ่มปลายช่อ จะต้องจัดการทําลายมันเสีย
และคนที่จะทํากับมันได้ก็มีคนเดียวสําหรับคืนวันนี้คือกําบัง...
กําบังคนนี้ แค่เห็นหน้าก็นึกไม่ถูกชะตา มาแต่ไหนแต่ไร เพราะมันทําท่าเจ้าชู้กรุ้มกริม
พูดจาหยอกเอินอย่างมีความหมาย บางคําซ้ำซากหยาบคาย อิ่มเกลียดมันนัก
มันไม่เจียม ตัว รูปร่าง หน้าตา ฐานะของมันต่ำต้อย เป้าหมายของอิ่ม
มันโดนป้านุ่นหล่อหลอมให้เห็น ฐานะของนายกองทุน ถ้าตนหลุดเข้าไปได้
แม้จะเป็นน้อยก็มีหวังสบายไปตลอดชาติ สมบัติที่ตนติดตัวอยู่ก็มีเพียงแค่เนื้อสาวๆ
ความรู้อะไร ก็ไม่มี เมื่อจะเสียความเป็นสาวทั้งทีก็ควรให้ มันได้ผลตอบแทนคุ้มค่า
อิ่มจึงฝันที่จะเป็น คุณนายน้อยๆ ของนายกองทุน และเรื่องมันก็ ทําท่าจะเป็นจริงอย่างใฝ่ฝัน
เมื่อคืนนี้ตนได้ เดินตามแผนการของป้านุ่น ตอนเช้าป่านุ่นก็ เข้าไปเล่นบทเหี้ยมโวยวาย
ตัวเองก็ต้องเล่นบท ทําเป็นนอนซมเพราะระบมไปด้วยรอยแผล และพิษไข้
รอตําแหน่งคุณนายน้อยตามสติปัญญาระดับของคนอย่างตนที่มีอยู่ แต่แล้วไอ้ที่คาดฝันเอาไว้
ก็ไม่เป็นไปตามนั้น มันก็ทําท่าจะเป็นเหมือนกันแต่ต้อง...
นึกไปถึงรูปร่างหน้าตาของเจ้ากําบัง ความไม่พอใจเป็นทุนอยู่แล้ว
ยิ่งเกิดสะอิดสะเอียนมากขึ้นไปอีกอิ่มเคยรู้มาแต่เพียงเลาๆ การร่วมเพศฝ่ายตน
จะต้องเป็นผู้สนองคอยรองรับ เคยได้ยินส้มเช้ามันพูดเป็นนัยๆ
ถึงความกํายําแข็งแกร่งของกําบัง และบ่อยหนที่เหมือนกับจะเจตนา
เจ้าตัวกําบังเองนุ่งผ้าขาวม้าเพียงผืนเดียวเดินฉุยฉายไปมาอยู่แถวๆ หน้าห้องพัก
ซึ่งมองออกไปจากหน้าต่างห้องครัวจะเห็นได้ถนัด อาทิตย์ที่เป็นแบ็คกราวน์ดส่องจากด้านหลัง
ทําให้เห็นรูปร่างของหน่อเนื้อซ่อนตัวอยู่ในใต้ผ้าขาวม้าค่อนข้างบางอยู่อย่างสงบเสงี่ยม
ขนาดอยู่เฉยๆ ยังเห็นความหนาของมันรางๆ อยู่ใต้พุงที่ยื่นออกมาพลุ้ย
เกิดมาก็ไม่เคยได้เห็นเจ้าสิ่งนี้ของเพศตรงข้ามอย่างถนัด
เห็นก็แต่เฉพาะของเด็กๆ ตัวเล็กๆ ซึ่งเรียกกันว่าเจ้าจําปีบ้างพริกขี้หนูบ้าง
ขนาดจัมโบ้ยังไม่เคยเห็น แต่มันก็เหมือนจะค้นๆ หน้าเรียกว่าพอเห็น ก็คงจําได้
เหมือนเคยได้พบกันมาแล้วแต่ปางก่อน .
บางครั้งต้องสะบัดหน้าหนีเมื่อเจ้ากําบังมันหัน มามองยึดอก
แอ่นหน้าออกมาน้อยๆ นึกเจ็บใจตัวเองขึ้นมาทันทีที่เผลอแอบจ้องมองมันอยู่ได้
ทั้งๆ ที่เกลียดมันชังมัน...แล้วนี่มันเรื่องอะไรเล่า..อยู่ๆ
ป้ามาบอกให้เตรียมตัว เตรียมใจเอาไว้ให้พร้อม เพื่อเปิดตูดกันให้มันเข้ามาข่มขืน
ป้าบอกเราไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้แล้ว นอกจากกําบังแล้วจะหาใครที่ไหวเล่า
มีเวลาเหลือเพียงคืนนี้คืนเดียว เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ต้องเข้าชน
แก้ปัญหาด้วยการแก้ผ้าให้กําบังมันข่มขืน...
ป้านุ่นก็ทั้งปลอบ ชักแม่น้ำทั้งห้าเข้ามาสาธยาย อิ่มมันโดนรุกเข้ามาขนาดนี้ก็ไม่รู้จะทําอย่างไร
ไม่มีคําตอบว่าจะยอมหรือไม่ยอมนอกจากก้มหน้าร้องให้กระซิกๆ


"เฮ้ย นี่มันเป็นช่วงอะไรของมันกันวะ ลาภ สัตว์สองเท้าถึงได้มีมาให้เขมือบโดยไม่ขาดสาย"

กําบังมันนึกอยู่ในใจเมื่อลายตองเอาเรื่อง มาบอกให้รู้เหมือนเล่าเรื่องย่อๆ
ให้นักแสดงรู้ตัวก่อนออกเวทีอย่างกะทันหัน แต่มันเป็นบทที่ตนถนัดชํานาญอยู่แล้ว
แต่ก็ให้อดกังขาไม่ได้ไฉนถึงได้มีบท มีเพศตรงข้ามมาให้ประกบถี่นัก
จากลูกเนียง เด็กสาวผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ถูกตนหลอกกรีดเอาเลือดออกแล้วถ่ายเอาเลือดเข้า
ช่างไร้เดียงสาราวกับเด็กทารกโดนเอาปืนจ่อ ปากยังยิ้มเพราะไม่รู้พิษสง
ต่อจากลูกเนียงก็มาเป็นแววรัตน์ เมียของเจ้านายที่ลายตอง เป็นคนเปิดทางให้ขึ้นไปลักหลับ
แต่จากการเดินบท อับชํานิชํานาญของตนสามารถทําให้แววรัตน์ปล่อยกายปล่อยใจ
ออกมาจนหมดเก๊ะ หน้าตักมีเท่าไร เทออกมาให้จนหมด

เพิ่งเมื่อคืนนี้หยกๆ มาคืนนี้กลายเป็นเปลี่ยนบทมาพบ ไอ้อิ่มเด็กสาวที่ตนเคยหมายตาเอาไว้
แต่ดูท่าทางมัน จะคว้าความว่างเปล่าเพราะไอ้อิ่มมันไว้ตัวเหลือหลาย แล้วอยู่ๆ
ลายตองก็มาส่งข่าวให้ตนเตรียมพร้อม เพื่อสร้างหลักฐานให้หมอรู้ในวันพรุ่งนี้ว่าไอ้อิ่มมัน
โดนนายกองทุนข่มขืน แต่คนที่ข่มขืนจริงๆ นั้น คือตนเอง

ดาวอะไรต่อดาวอะไรมันโคจรมาสัมผัสกันเข้าหนอ ถึงได้มีผู้หญิงทยอยเข้ามาหาไม่ขาดสาย
แต่ละรายก็ล้วนแล้วแต่ของดีๆ ทั้งนั้น

นึกไปถึงไอ้อิ่มเด็กสาวคนนี้ ฟอร์มของมันสดจริงๆ สดๆ ซิงๆ เหมือนลูกเนียง
แต่มันอยู่ในวัยที่  รู้เรื่องราวอะไรของเพศตรงข้ามดีกว่าลูกเนียง
ผิวของมันอิ่มมีเค้าว่าต่อไปจะต้องอ้วน แต่ตอนนี้ยังสาว เนื้อที่จะอ้วนในวันหน้าจึงเป็นเนื้อเต็มเบ้า
โดยปกติ แล้วอิ่มไม่ใช้ยกทรงเพราะไม่ถนัดในการช่วยงานครัวของป้านุ่น
มันสวมเสื้อชั้นในคอลูกไม้ ขอบบนและขอบล่างเป็นเส้นตรง
มีเพียงสายระโยงเล็กๆ ห้อยไว้กับบ่า จึงเปิดเผยให้เห็นตั้งแต่ช่วงต้นคอ
สองบ่า เนินอกเนื้อขาวสะอาดในเนื้อผ้า เสื้อชั้น ในคอกระเช้าแบบนี้ผิดกับยกทรง
มันเปิดเผยให้เห็นฐานส่วนบนไม่เห็นเนื้อเต้าส่วนมากก็จริง แต่มันไม่บีบรัดเนื้อเต้าเอาไว้
ไม่เก็บกดเนินเนื้อรัดกุม เหมือนยกทรง มันปกปิดตูมเต้าเอาไว้มิดชิดก็จริง
แต่มันก็ให้อิสระ ปล่อยให้เนื้อสองเต้าของเด็กสาว ดันดิ้นเนื้อผ้าออกมาได้อย่างเต็มที่
แม้จะซ่อนอยู่ในเนื้อผ้า แต่เนื้อสาวมันก็ดีดดันตัวเองออกมาเป็นรูปร่าง
อล่างฉ่างยองใยไปทั้งพวง ผ้าลินินสีขาวมีส่วนช่วย จับสองเต้าออกมารางๆ
ถ้ามีเหงื่อชุ่มหรือโดนน้ำโชกเพียงเล็กน้อยก็จะรัดรูปบีบกระชับเนื้อผ้า
แนบเนื้อนวลในขาวละไม เหมือนบัวงามปริ่มน้ำเห็นรางไรในสายหมอกหนายามอรุณ

อิ่มไม่ค่อยได้นุ่งกางเกงหรือกระโปรงเพราะไม่ค่อยจะได้ออกจากบ้านไปไหน
มันนุ่งแต่ผ้าถุงเป็นผ้าพื้นเสียส่วนมาก ความชํานาญทําให้มันไม่ต้องใช้เข็มขัด
เพียงแค่ขมวดปลายเอาไว้ก็แน่นติดอยู่กับ เอว แต่ก็มีการเผลอขยับให้เข้าที่บ่อยๆ
เหมือนอีก ฝ่ายจ้องขโมยแม้อีกฝ่ายจะระวังอย่างไรก็ต้องมีทีเผลอจนได้
กําบังจึงเห็นเนื้อขาวๆ แถวช่วงเอว ชะเวิกชะวาก็ยามอิ่มมันขยับชายผ้าถุง
เพื่อขมวดให้แน่นบ่อยครั้ง ยิ่งอีตอนซักผ้าต้องถลกผ้าขึ้นมาเหนือเข่า
ความขาวเหนือเข่าขาวกว่าแถวๆ เนื้อน่องเป็นไหนๆ  ตอนอาบน้ำที่ก็อก ยิ่งชัดใหญ่
ผ้ากระโจมอก โชกชุ่มน้ำรีดเนื้อหน้าอก เนื้อสะโพกออกมาอร่ามผ้า
เปียกน้ำมันรัดเนื้อลึกเข้าไปในหัวใจของกําบังผู้แอบเห็น ครั้นอาบน้ำเสร็จ
รวบชายผ้าถุงข้างล่างขึ้นมาสูง เพื่อบิดให้แห้ง แล้วเอาผ้าถุงผืนใหม่สวมทับเข้า
ไปทางศีรษะ ขยับเนื้อขยับตัวเอาผ้าเปียกออกจากตัว สลัดผ้าผืนใหม่กระโจมอก
ให้เข้าที่ ตอนนี้อิ่มมักไม่ค่อยจะระวัง เนินเต้า ขาลึกขาว
พลอมแพลมพลั้งออกมาเสมอ

การแอบดูหญิงสาวที่นุ่งผ้าถุงกระโจมอกอาบน้ำ กระมิดกระเมี้ยน
กับการทําความสะอาดตามเนื้อตัวและซอกเนื้อที่ซ่อนเร้น
มันเป็นรสชาติอีกแบบหนึ่ง ต่างกับผู้หญิงที่แก้ผ้าโทงๆ ขัดเนื้อตัวอยู่ในห้องน้ำ

แม้อิ่มมันจะดูดีไปหมดทั้งตัว แต่กิริยาท่าทางที่มันแสดงออกมากับกําบัง
มันเป็นความยโส เกลียดชังจนออกนอกหน้า คล้ายกับจะบอกว่า
คนอย่างแกไม่มีวันเสียล่ะ จึงกลายเป็นความเคียดแค้นทําให้กําบัง
เคยคิดว่าไม่เป็นโอกาสของกูบ้างก็แล้วไป บังเอิญตนเองมีของดีๆ กิน
อย่างลูกเนียง แววรัตน์ ลายตองที่ แอบมาส่งส่วยเป็นประจํา
แถมยังมีส้มเช้าอีกประปราย ทําให้กําบังไม่ได้คิดถึงเรื่องของอิ่มจนเกือบจะลืม

มาคืนนี้.. ถูกใช้ไหว้วานให้ช่วยไปข่มขืน..ไอ้อิ่มทีเถอะ ความคิดแค้นลึกๆ
ที่อยาก จะหาโอกาสระบายมาแต่ก่อนทําให้กระดึง ส่งสัญญาณขึ้นมาทันควัน

ครั้งแรก ลายตองมาเสนอให้เล่นงานลูกเนียง มันเป็นความรู้สึกดีใจที่ได้เสพสมกับเด็กสาว
เป็นคนแรกและครั้งแรกในชีวิต

ครั้งสอง ลายตองเปิดโอกาสให้ขึ้น ไปสยบคุณแววรัตน์บนตึก ในห้องนอนส่วนตัว
มันรู้สึกสาแก่ใจที่ได้เล่นงานเมียของนาย

ครั้งนี้ ลายตองมาขอให้ไปช่วยเหลือข่มขืน ไอ้อิ่มเด็กสาวซึ่งตนเคยโดนมันวางท่ายโส
เข้าใส่มันเป็นความรู้สึกเหมือนมีโอกาส ได้แก้แค้นตอบแทนกันอย่างสาแก่ใจ

แววรัตน์เคยมีทีท่าไว้ตัว แต่เลือดเนื้อฐานะของเธอมันเป็นสิ่งที่มีจริงๆ สมควร
แล้วที่เธอต้องแสดงกิริยากับตนเช่นนั้น
แต่กับอิ่ม เลือดเนื้อ ฐานะ มันก็ไอ้ขี้ข้าเหมือนกัน แต่มันกลับวางท่าทําเป็นว่าเหนือชั้น
กว่าตนมากมาย กลายเป็นชวนให้น่าหมั่นไส้ บัดนี้มีโอกาสแล้ว
กําบังขบกราม เมื่อใกล้เวลาปล่อยแค้นระอุ

สัตว์ร้ายในตัวมนุษย์นั้นสันดานของมัน เหี้ยมโหด เล่ห์กระเท่ห์แพรวพราว
สารพัดสุดที่จะร้าย กฎหมาย ศีลธรรม ความดี ความละอายต่อบาป
หรือแม้แต่พระเจ้าต่างก็พยายาม จะกําราบเจ้าสัตว์โหดตัวนี้
แต่ก็หยุดมันเอาไว้ได้เพียงชั่วคราว ตราบใดที่ยังไม่ถึงพระอรหันต์
ไม่เข้ากระแสนิพพาน ตราบนั้นก็ไม่แน่ว่ามันจะโผล่ขึ้นมาอาละวาดเมื่อไหร่

กําบังหื่นกระหายอยากให้ถึงเวลาค่ำเสียเร็วๆ โชคชะตาดูจะหันหลังให้คนทั้งโลก
พากันมารุมอํานวยอวยพรให้กับตนเพียงคน เดียว


isocPPP

ขอบคุณท่านMonchai-S มาก ๆ จร้า
เรื่องมลทินดอกไม้ นี้ คนรุ่นเรา รอคอยมานานมากจริง ๆ
::Thankyou:: ::Thankyou:: ::Thankyou::
sex is my life

peddo

กำบังกวาดซะหมดครัว แล้ว ถ้าจะเหลือป้าอิ่มคนเดียวที่ยังไม่โดน อิ่มอาจอิ่มอกอิ่มใจกับกำบังก็ได้ครับ

1819

 ป้าก็ชั่วเกิน หลานตัวเองแท้ๆก็จะให้โดนข่มขืนจากไอ้บัง    หน้ามืดตามั่ว เพราะความโลภแท้ ไม่คิดว่าหลานจะเจ็บปวดไหม  เอาจริงๆ ไม่ต้อง ไปบอก อิ่ม ให้รู้ตัวหรอก  ให้บังมันข่มขืนเลย มันจะได้ มีร่องเลยเยอะแยะ    แล้วค่อยมาปลอบมาอธิบายที่หลัง      
 แต่ พูดก็พูดเหอะ ถ้าหมอจะตรวจ ก็ต้องตรวจ ร่องรอย ของ  ช/ ญ ด้วย   ถ้าหมอ ไม่สะเพร่า เกินไป  และ กองทุนมันจะมีรอยถลอกไหมล่ะตัวเองก็ไม่ได้ข่มขืน   กองทุนต้องให้หมแตรวจให้ละเอียด   ลายตองนี่แผนชัว แต่ คนที่ โชคดีสุดต้อนนี้ คือ กำบัง แต่ถ้าวันใด คว่ามแตก ว่า เนียงกับแวว โดนไกำบังทำแล้ว  ตายแน่ๆ
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

sofee

กำบังโชคดีอีกแล้วครับ
กรรมของหลานมีป้าแบบนี้

::Crying::

sunnie06


swss2511


cdx

ความจริงผมรอลุ้นตอน คุณหนูลูกเนียนอีกสักรอบ