ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 9 ] ตอนที่ 144( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มีนาคม 04, 2024, 12:43:00 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

เดินทางมาถึง Part9 แล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ยังติดตามครับ

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง




สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ







ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ






★★★★★★★★★★★

แนะนำสาวๆหน่อยครับ


แม่เสือดาว พี่ใหญ่ของบรรดาสาวๆ ตัวท็อปร้านเกะ



★★★★★★★★★★★

เจ้าหญิงน้ำแข็ง ก็น้ำแข็งสมชื่อ แต่ยิ้มทีบอกเลยละลายยย



★★★★★★★★★★★

แก้ม ยัยตัวแสบ นางมารตัวน้อย ซนๆป่วนๆ จนเราไม่เหงาเลย




★★★★★★★★★★★

ความเดิมตอนที่แล้ว

แม่ก็ชวนสามสาวนอนบ้านครับ

เพราะแก้มทำท่าเหมือนอยากจะใส่บาตรตอนเช้า

หลังจากที่ทำกิจกรรมประจำวันต่างๆไปมากมาย

แล้วก็ถึงเวลานอน


★★★★★★★★★★★


สามสาวนอนแล้ว ผมก็นอนบ้างดีกว่า แล้วคือนอนสบายเลยล่ะ อันนี้พูดแล้วอาจจจะดูไม่ดีสำหรับบ้านตัวเองนะ แต่ว่านี่อาจจะเป็นการนอนในบ้านที่สบายที่สุดแล้วล่ะ ไม่ใช่เพราะมี 3 สาวนอนด้วยนะ แต่ว่าเพราะอากาศเย็นๆจากแอร์นี่แหละ เพราะปกติแล้วถ้าวันไหนแดดแดงๆ บ้านไม้มันจะนอนยากสักหน่อย  สำหรับคุณผู้อ่านที่กังวลว่าจะนอนเบียดกันมั้ย 3 สาวจะนอนได้รึเปล่า ต้องบอกว่าไม่ต้องห่วงครับพื้นที่ที่นอน ห้องผมเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปกติก็นอนตามภาพครับ





พอ 3 สาวมา ก็ปรับมุมนอนหันหัวไปทางหน้าต่าง ทิศตะวันออก ก็นอน 4 คนได้สบายๆขยับตัวได้ พลิกได้กลิ้งได้ครับ





3 สาวหลับไปแล้ว ระหว่างที่ผมเริ่มหลับตานอน ความจังไรในใจผมก็ก่อตัวขึ้นมา... ผมลืมตาขึ้นมาแล้วยกตัวขึ้นมามองสามสาว อื้อหือมุมอย่างดี หนองโพ 3 คู่ เรียงกันเลย สวยงามมากๆ ปกติแล้วเวลานอนอยู่หอพัก ถ้าสามสาวมา ผมจะชอบปูฟูกนอนไง มุมนี้คงไม่ได้เห็นแน่ๆ


อืมม ถ้าผมขยับไป ถลกเสื้อทั้งสามสาวแล้วดูดจุกหนองโพของพวกเธอคนละจ๊วบ ไล่จนครบ 3 สาวคงได้อารมณ์เลยล่ะ แต่ว่า... อย่า ๆ ๆ  มันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะทำแบบนั้น นี่ชีวิตจริงไม่ใช่หนังโป๊ญี่ปุ่นที่ดูบ่อยๆ แล้ววันนี้ฝนไม่ตก เดี๋ยวเสียงจะลั่นเอา


ผมเอนตัวลงนอนแบบเดิม เฮ้อออ นี่ผมนอนก่อน 4 ทุ่ม ในรอบกี่เดือนกันนะ เสียงรอบๆบ้าน ก็จะมีแต่เสียงลม เสียงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ร้องหงีด หงีด ตามปกติของมัน ลมเย็นๆจากแอร์ก็เหมือนจะช่วยกล่อมให้ผมนอนหลับเร็วขึ้น


มารู้สึกตัวอีกที ดาวก็ขยับมากอดครับ อ่ะผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็ไม่ได้กอดกลับหรอกครับ เดี๋ยวดาวจะอึดอัด ผมก็เลยจับมือเธอมาจุบุแทน แล้วก็หลับต่อ แต่ว่าหลับได้แปปเดียว มีคนสะกิด ๆ ๆ    ผมก็หือ.. อือ.. งึมๆงำๆ ภายใต้ความมืดที่มีแสงส่องเข้ามานิดหน่อยผ่านขอบหน้าต่างที่แง้มไว้เพื่อเอาสายระบายลมแอร์ออก  ผมก็เห็นว่าเป็นแก้มครับ เธอเขย่าๆแล้วบอกพี่โทนๆ ๆ หนูปวดฉี่ พาไปห้องน้ำหน่อย ผมก็อื้อๆ ก็พาไป



แต่ตอนจะลุก มิ้นต์ก็ตื่นแล้วขอไปด้วย ผมก็ป่ะๆ อ่ะแล้วก็เช่นเดิม ผมลงไปก่อนและให้สองสาวค่อยๆลงมาลงมา ผมก็รอรับทีละคน แล้วพอเดินลงมาข้างล่างครบ ผมก็ให้สองสาวเกาะราวบันไดไปก่อน ผมเดินมาเปิดไฟ สองสาวก็ผลัดกันเข้าห้องน้ำ... ผมก็ถามตัวเองว่า มาถึงจุดนี้ได้ไงนิ ใครจะไปคิดล่ะว่าจะได้พาสาวเข้าบ้าน 3 คน  มิ้นต์เข้าห้องน้ำก่อน


ผมนั่งรอมิ้นต์อยู่กับแก้มที่โซฟาไม้ของแม่ แปปนึงมิ้นต์ออกมาเดินงัวเงียมาเลย แก้มก็เข้าไปห้องน้ำ แล้วจังหวะนั้นมิ้นต์มานั่งข้างๆและจุบุ ผมทีนึง ผมก็ ฮึ๊ อะไร มิ้นต์บอกละเมออยู่.... อื้อหืมมม ละเมอเหรออ ผมกอดเอวแล้วหอมเธออีกครั้ง มิ้นต์ก็กอดคอผมแล้วซุกนอนต่อ บอกง่วงจัง แล้วพอแก้มเสร็จออกมา ผมก็เขย่าเบาๆแล้วบอกป่ะมิ้นต์แก้มมาแล้ว แล้วก็จะพากันขึ้น แล้วจังหวะมันจะเป็นซีนหนังผีให้ได้เลยอ่ะ ไอ้จังหวะที่จะเดินไปปิดไฟ


คือให้นึกภาพตามครับ สวิตช์ไฟอยู่ตรงหน้า เหนือสวิตช์ขึ้นไป คือปฏิทินที่แขวนไว้กับตะปู แล้วสายตาผมก็มองไปพอดี ตัวหนังสือแดงๆ . .  วันพระ... วันจันทร์ อ้อ วันพระพรุ่งนี้ๆ วันนี้วันอาทิตย์ไม่ใช่วันพระ แต่.. เดี๋ยวก่อนนะ ผมหันไปมองนาฬิกาจำได้คาตาเลย

" สองนาฬิกา ห้านาที "

เท่ากับว่าวันนี้วันโกน แล้วโอยย อะไรจะลงล็อคขนาดนั้น อยู่ดีๆ หมานอกบ้านก็เริ่มหอน บร๋อวว บร๋อววว แล้วไล่มาเหมือนเล่นเวฟ  จังหวะนั้นผมพาสองสาวขึ้นบ้านตั้งแต่บร๋อวว แรกแล้วครับ


ตัวผมน่ะไม่ได้กลัวหรอก แต่แก้มน่ะพึ่งเจอกับตัวเองมา ผมก็ห่วงเธออ่ะดิ่ อ่ะ ผมส่งสองสาวขึ้นชั้นบน ผมก็ลงมาปิดไฟ แล้วขึ้นตาม สองสาวก็รอผมแหละ แต่สีหน้าคือไปแล้ว ร้องก็ไม่ได้พ่อแม่ผมนอนอยู่ ผมก็เดินขึ้นไป จังหวะนั้นหมามันก็หอนไล่มา จนสุดท้าย ไอ้มูชู บร๋อววววว จังหวะนั้นเข้ามาในห้องแล้ว คือเหมือนแข่งกับเวลายังไงก็ไม่รู้ โดยที่มีความรู้สึกของสางสาวเป็นเดิมพัน อารมณ์เหมือนวิ่งหนีซอมบี้เข้าประตูนิรภัย


เข้ามาในห้องผมเปิดมุ้งให้สองสาวเข้าไป สายตาผมปรับกับความมืดได้แล้ว เพราะเมื่อกี้ก่อนปิดไฟก็หลับตาไว้ข้างนึง เห็นสองสาวก็ไปนอนคลุมโปงเลย ดาวก็งัวเงียขึ้นมาครับถามมีไรกัน แก้มกับมิ้นต์ลงไปนอนกอดกันกลมเลย แล้วไปกอดดาวด้วย ดาวบอกอารายเนี่ย อ่ะมานอน ๆ ๆ จังหวะนั้นผมก็ปิดแอร์ แล้วเปิดพัดลมแทนแหละครับ พอจะลงไปนอนมิ้นต์ก็บอกนอนข้างมิ้นต์นะ ๆ ๆ ๆ อ่ะตอนนี้ก็เท่ากับผมกับดาวนอนเป็นกำแพง แล้วสองสาวนอนข้างใน


แล้วเจ้าหญิงน้ำแข็งก็หันมากอดผมแน่นเลย ไอ้มูชูก็ยังหอนรับตามสัญชาตญาณของสุนัขแหละครับ จะโทษอะไรมันก็ไม่ได้ ผมลูบหัว ลูบตัว สกินชิพกับเจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างแผ่วเบา เพื่อให้เธอรู้สึกดี จนเธอก็กอดผมแน่นขึ้นนิดนึง และเริ่มจูบผมเอง  หู๊ยยย แล้วเธอก็พูดเบาๆว่า อย่าบิ๊วดิ่


เดี๋ยวๆ ผมก็พูดเบาๆว่า ไม่ได้จะบิ๊ว ก็เห็นตัวสั่น มิ้นต์ก็ซุกลงที่หน้า อก ของผมเลย อ่ะ โรแมนติค ดีมั้ยล่ะครับ บรรยากาศนอนกอดพร้อมซาวด์หมาหอนประกอบหลัง จนแปปนึงผมรู้สึกได้ถึงแรงกระตุกที่แขนครับ... ก็แก้มนั่นแหละ แก้มบอกหนูนอนด้วย  ผมก็หืม นอนกับดาวก็ได้ แก้มบอกจะนอน ๆ ๆ 


ดาวก็พูดแบบงัวเงีย อืออ จะนอนแบบไหนล่ะ ยัยตัวแสบก็บอกว่าให้ผมกับมิ้นต์ขยับ ๆ ๆ ๆ มาแทนที่ไปๆมาๆเท่ากับว่าผมนอนกลางเลยครับ มีมิ้นต์กับแก้มขนาบข้างแล้วดาวก็ไปนอนประกบแก้มอีกที อบอุ่นแปลกๆแฮะ แล้วผมก็นอนต่ออีกรอบนั่นแหละครับ ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราก็รู้สึกได้ว่าหมาหยุดหอนแล้ว และภาพก็ตัดเลย



ผมรู้สึกตัวตื่นตอนไหนไม่รู้ แต่คงจะตี 5 - 6โมงนี่แหละ ยังมืดๆอยู่เลย สามสาวยังคงนอนหลับอยู่ ใจก็คิดจะปลุกดีมััยหรือปล่อยให้นอนต่อ ใจผมน่ะเอนเอียงไปทางอยากให้นอนต่อมากกว่าครับ แต่มันก็มีกังวลว่าถ้าผมลงไปโดยที่สามสาวยังไม่ตื่น พ่อกับแม่จะมองยังไงนะ


แต่ช่างเถอะ พ่อกับแม่คงไม่คิดมากหรอก ผมก็ขยับตัวลุกเบาๆ แหม่ แล้วนอนกลางซะด้วย แต่ก็โชคดีที่แก้มและมิ้นต์ไม่ได้กอดไว้เหมือนในละครที่นอนกอดกันจนเช้า เหน็บได้กินแขนพอดี ผมลงมาข้างล่าง ซึ่งไฟถูกเปิดไว้แล้ว มองนาฬิกา อื่อ... ตี5ครึ่ง...  ยิ่งลงมาข้างล่างกินฟืนที่ติดไฟก็ยิ่งชัดเจน ผมโคตรคิดถึงกลิ่นนี้เลยนะจะบอกให้ เวลาเข้าฤดูหนาว ผมก็จะนั่งผิงไฟ ก่อกองไฟแบบนี้แหละ


แต่ผมก็เลี้ยวเข้าห้องน้ำไปล้างหน้า แปรงฟันก่อน แล้ว เดินออกมานอกบ้าน ก็เห็นแม่กำลังเตรียมกับข้าวใส่บาตรอยู่ ผมก็ยืดเส้น ยืดสาย หัว ไหล่ เอว สะโพก ต้นขา ข้อเท้า ยืดมันหมดทุกส่วน เสียงนี่ลั่นกรึ่บกรั่บเลยล่ะ เสียงไก่ข้างๆบ้านก็เริ่มทำงานของมันตีปีก พั่บ  ๆ ๆ ๆ ๆ เอก อี้ เอ่ก เอ้กกกก ประกอบกับเสียงแมลงตัวเล็กๆที่ยังร้องหวึ่งๆๆๆ เพราะแสงมันยังไม่ออก


บ้านผมนี่ บรรยากาศบ้านนอกชัดๆอ่ะบอกเลย ซึ่งผมก็ชอบนะ เว้นแต่ว่า อากาศไม่ได้เย็นเท่าที่บ้านปู่ หรือ บ้านตา แค่นั่นเอง แต่ก็เย็นๆแหละ น้ำค้างบนยอดต้นไม่ก็ช่วยได้อยู่ ผมก็เข้าไปจับนู่นจับนี่ แยกเนื้อหมูกับผัก ถามทำไรแม่ะ ( แม่ ) ซึ่งพระมารดาก็ถาม อ้าวไม่นอนอีกหน่อยล่ะ ผมก็เลยบอกว่านอนอิ่มแล้วแม่ แม่บอกอื้ม เมื่อคืนนอนกันได้มั้ย มีปัญหาอะไรเปล่า ผมบอกไม่มีหรอกแม่ นอนได้สบายๆ ลืมดูเฉยๆว่าวันโกน ไอ้มูชูก็หอนซะลั่นบ้านเลย


ผมก็มองไปบนชั้นสอง แล้วถามแม่ให้ไปปลุกมาช่วยมั้ยแม่  แม่บอกไม่ต้องๆ ให้นอนไปอีกหน่อยนั่นแหละ ผมก็ถามจะดีเหรอแม่ แก้มงอแงอยากใส่บาตรแต่ไม่ลงมาช่วยอ่า แม่ก็หันมาถามผมว่า ให้นอนเยอะๆ ทำไมจะไม่ดีล่ะ ผมก็บอกนึกว่าจะเป็นแบบไม่ปลื้มเพราะตื่นสาย แม่ผมมองแล้วบอกว่า อย่าเอาเวลาบ้านเราไปเป็นบรรทัดฐานสิ่


คนตื่นสายก็ไม่ได้หมายความว่าจะแย่ไปทั้งหมดนี่ ถึงจะเสียโอกาสแบบที่พวกบ้านใหญ่ชอบพูดก็เถอะนะ ผมก็หาวไป นั่งแยกวัตถุดิบไป เอี้ยวตัวไปมองข้าวเหนียวที่แม่นึ่ง ถามว่านึ่งนานยังแม่ แม่บอกว่าไปดูหน่อยไป แปปนึงผมก็ลุกไปเปิดฝาดู เอาทัพพีแตะ ๆ โอเค พลิกได้ ก็พลิกข้าวเหนียวในหวด เอาทัพพีเขี่ยๆ ให้ไอน้ำระบายออกได้ดีๆ ข้าวจะได้ไม่แฉะ ปิดฝา แล้วมานั่งตัดใบตำลึง นั่งซอยใบมะกรูดต่อ... บ้านผมเวลานึ่งข้าวเหนียวจะใช้เตาอั้งโล่ครับก็ใช้ถ่านนั่นแหละ


จริงๆแล้ว เมนูอาหารบางอย่างถ้าใช้ถ่าน มันจะช่วยในการเพิ่มกลิ่นและความอร่อยนะ เพราะถ่านเองก็มีหลายชนิด ทำจากไม้หลากชนิด ถ่านกะลา ถ่านไม่ไผ่ หรือแล้วแต่ละภูมิภาคว่าจะใช้อะไร แต่ที่บ้านผมจะใช้เป็นถ่านไม้โกงกางครับ เพราะให้กำลังไฟสูง แต่ควันน้อยครับ เพราะงั้นแม่เลยเอามาใช้ย่างหมูด้วย


ส่วนกลิ่นฟืนไหม้ไฟ ก็เป็นฟืนที่ส่งตรงสุพรรณแหละครับ แม่ก็ก่อไว้ไล่ยุง ผมก็ถาม.. พ่อล่ะแม่ แม่บอกอาบน้ำ แล้วแปปนึงพ่อก็เดินออกมา จังหวะที่พระบิดาเจอผม เขาก็พูดอ้าวตื่นเช้าแบบนี้ แสดงว่าเมื่อคืนไม่ได้ทำอะไรบัดสีสิ่นะไอ้ลูกหมา ผมนี่สะดุ้งเลย แล้วถามอะไรล่ะนะพ่ออออออ พ่อบอกไม่รู้เว้ย ผมก็หันมองแม่ แม่ก็บอกอ่ะ ๆ ๆ เถียงกันแต่เช้าเลย ตอนนั้นพ่อขยับตัวยืดเส้น ยืดสายอื้ดดด อื้ดดด แบบที่ผมทำนั่นแหละ


แป๊ปนึงไอ้มูชูก็ตื่นมา หาววว แล้วยืดเส้น ยืดสาย เดินพันแข้งพันขาผม แล้วก็ไปทางพ่อ แล้วมาไหว้แม่ แบบก้มตัวยืดขาหน้าและโก่งตูดเหมือนไหว้แหละครับ ไม่ใช่นั่งแล้วยกมือสองข้างไหว้ ๆ ๆ ๆ แบบนั้นไม่ใช่ หมาบ้านผมไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น ผมก็เรียกมานี่ดิ๊ มันก็มาแหง่ง ๆ ๆ ๆ ใส่ผมแต่เช้าเลย


คือผมก็พูดกับมัน นั่งลงไปทำท่าเหมือนสั่งสอนแล้วบอกว่า เมื่อคืนหอนซะดังเลยนะเอ็ง มันก็เอียงคอ ก็อย่างว่ามันคงไม่ได้เข้าใจเราทุกคำพูดหรอก ถ้าหมามันฟังเรารู้เรื่องก็คงดีจะได้บอกจะได้สอนอะไรมันหลายๆอย่าง แล้วผมก็ลูบหัวมันเบาๆ แล้วลุกขึ้น จะไปทำกับข้าวต่อ แม่ก็บอกไปล้างมือก่อน เอ๊อะ... ลืม ก็ไปล้างมือครับแล้วมาทำต่อ ฟ้าก็ค่อยๆสว่างละตอนนั้น


แปปนึงก็มีจักรยานปั่นเข้ามา เป็นน้าแถวๆนั้นแหละครับ เป็นจักรยานทรงเก่าๆนะ ทรงที่แบบว่าเบาะหลังเป็นโครงเหล็กสี่เหลี่ยมใช้บรรทุกของได้ดี แล้วที่ล้อก็จะมีไอ้ตัวหมุนๆซึ่งเอาไว้ปั่นไฟหน้าจักรยาน เป็นทรงแบบที่สมัยก่อนจะมีคนปั่นจักรยานรับย้อมผ้าตามบ้านประมาณนั้นครับ



ก็คล้ายๆในภาพแหละ เขาปั่นเข้ามาบริเวณที่ผมยืน มองเห็นข้างหลังก็มีกล่องโฟมมัดอยู่ มาถึงก็ยกมือไหว้หวัดดีพี่ทศ หวัดดีพี่ทิพย์ เอาของที่สั่งมาให้ ผมก็ยกมือไหว้นะ เป็นคนแถวนี้แหละ เมียเขาขายดอกไม้ พวงมาลัยอยู่ตลาดตอนเช้า


ก็อย่างที่รู้ๆครับ พอถึงวันโกนแล้วพ่อผมก็ต้องไหว้ ต้องทำพิธีของเขานั่นแหละ ของที่เอามาให้ก็พวกดอกไม้ ธูปเทียน หมากพลู บุหรี่มวน พวงมาลัย แล้วก็มีปาท่องโก๋มาด้วยถุงนึง


เขาหันมามองผมแล้วบอก แหม ที่ตลาดคุยกันใหญ่เลยนะพี่ทศว่าโทนมันพาสาวไปตลาดน่ะ ผมก็กุมขมับเลย เขาก็จะพูดว่าลูกไม้ไม่ไกลต้นนั่นแหละ แต่พ่อผมกระแอมแล้วบอกว่า เงินจ่ายที่มาลัยไปแล้วนะ ( ชื่อสมมติ ) เขาก็บอกครับพี่ทศเมียผมบอกแล้ว เขาก็มองๆผมแล้วบอกว่า โทนมันหุ่นดีไม่เบาเลยนะเนี่ยพี่ทศ พ่อผมบอกยังอ่อนอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ เขาก็หัวเราะแล้วขอตัวไป


ผมก็เอาพวกของที่มาส่งไปไว้ในบ้านนั่นแหละ ดอกไม้ก็เอาไปแช่ตู้เย็นของที่ไม่ต้องแช่ก็เอามาเก็บไว้ข้างนอก ตอนนี้ฟ้าเริ่มสางเริ่มสว่างแล้ว ผมก็หาววอดๆ แม่ก็กลับเข้าไปเตรียมของในบ้านผมก็ยังอยู่ข้างนอกกับพ่อนะ

พ่อผมก็เหมือนเดิมนั่นแหละ หยิบไม้กวาด ไปกวาดลานหน้าบ้าน แล้วก็จะมีเหล็กแหลมอันนึง ยาวก็เมตรกว่าๆ จะได้ไม่ต้องก้ม ซึ่งเอาไว้จิ้มพวกเศษขยะที่อาจจะหลุดมาจากไหนก็ไม่รู้ จิ้มๆ ๆ  แล้วไปรูดใส่ถุง


พ่อก็บอกว่าให้ไปเอามอไซค์มาติดเครื่องไว้หน่อย ผมก็ครับๆ แล้วก็ไปบิดมอไซค์มาแล้ววอร์มเครื่องไว้ ซัก 1 นาที แล้วเอาไปเก็บ พ่อก็ถามว่ากลับกี่โมงวันนี้ ผมก็บอกว่าก็ซักเที่ยงๆแหละพ่อ พอกินข้าวแล้วกลับกันเลย พ่อบอกอืมดีแล้ว วันนี้วันโกนรู้ใช่มั้ย ผมบอกครับรู้แล้ว ไอ้มูชูหอนตั้งแต่เมื่อคืน


พ่อบอกอื้ม แล้วถามว่าหนูดาวนี่มาจากบนดอยใช่มั้ย ผมก็หันไปมองพ่อเลย แล้วถามว่านี่พ่อรู้ได้ไงเนี่ย พ่อผมก็มองหน้าแล้วบอกว่าถามอะไรก็ตอบอันนั้น ผมบอกครับเห็นบอกว่าบ้านอยู่บนดอย แต่มีรถผ่านเลยลงมาเรียนข้างล่าง พ่อผมก็อืม เขาก็กวาด ๆ ๆ แล้วพูดว่า คนที่อยู่ในป่าน่ะสัญชาตญาณจะดีกว่าคนทั่วๆไป อาจจะมีสัมผัสมองหรือมองเห็นแบบพวกเราก็ได้


พ่อไม่อยากให้หนูดาวอยู่บ้านเกินบ่าย 2 วันนี้นะ เพราะคงจะหนักเกินไปสำหรับหนูดาว ผมก็บอกได้ครับพ่อ ผมก็ถามพ่อว่าเอ่อ พ่อไม่ว่าเหรอที่สามคนยังไม่ตื่น พ่อก็มองแล้วบอกว่า จะว่าอะไร คนนอนจะให้ไปปลุกยังไง เขามาเป็นแขกบ้านเรา ไม่ได้มาอาศัยบ้านเรา ที่แม่เอ็งให้ช่วยทำนู่นทำนี่น่ะ เพราะไม่อยากให้เกร็งจนเกินไปแค่นั้นแหละ


ผมก็ . . ครับพ่อ พ่อบอกเอาน่ะให้พวกหนูๆนอนไปก่อน ผมก็กวาด ๆ ๆ ๆ แล้วก็เลยถามว่าพ่อแล้วพ่อรู้เรื่องงานของ . . . ผมก็หนักปากที่จะพูดไปนั่นแหละครับ แต่พ่อผมก็พูดสวนขึ้นมาว่า งานอะไรก็เหมือนกันนั่นแหละ ผมก็มองพ่อแล้วถามว่าพ่อไม่ว่าไรเหรอ พ่อบอกอะไรว่าอะไร ทำไมพ่อต้องว่าอะไร ผมก็บอกอ้าวนึกว่าจะหนักใจเรื่องงาน . . .


พ่อบอกว่าคนที่ต้องหนักใจมันคือเอ็งไอ้ลูกหมาไม่ใช่พ่อ ผมก็มองๆพ่อ แล้วพ่อก็บอกว่า เอ็งเลือกทางนี้เอง เอ็งก็ต้องคิดว่าจะทำไงต่อ พ่อพูดแล้วก็หยุดกวาด เขาเอาไม้กวาดยันพื้นมือสองข้างประกบและวางบนยอดด้ามไม้กวาดแล้วพูดว่า พ่อบอกแล้วไงว่า อะไรที่ทำขึ้นเองก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะผลของมัน หรือความรู้สึกที่ต้องเจอ


มันก็จริงแหละที่พวกหนูๆ เขาคงไม่ได้ทำงานแบบนั้นไปตลอดชีวิต แต่ระหว่างนั้นคนที่ต้องอยู่กับไอ้ความรู้สึกนั้น มันคือเอ็งไม่ใช่พ่อหรือแม่ของเอ็ง ผมก็ถอนหายใจ พ่อผมก็เตะป้าปป แล้วบอกว่า อย่ามาถอนหายใจ เลือกเองทั้งนั้น เพราะงั้นก็รับกับสิ่งที่เลือกให้ได้ ผมก็ได้แต่ครับพ่อ ไปแบบนั้น


พ่อก็บอกเดี๋ยวหลังใส่บาตรเสร็จเปลี่ยนชุดมาด้วย ผมก็เฮือก !!! เอาจริงดิ่พ่อวันอาทิตย์นะเนี่ย พ่อบอกเออน่ะไม่เหนื่อยหรอก . . . ผมคิดในใจว่า ไม่เหนื่อยมันไม่มีอยู่จริ๊งงงงงง อ่าาาาาา ผมก็เดินเข้าบ้านแหละครับตั้งใจจะไปปลุกสามสาว แต่ว่าพอเดินเข้ามาในตัวบ้าน 3 สาวก็ช่วยแม่ผมทำนู่น ทำนี่อยู่แล้ว

สามสาวมองผมแบบงอนๆนิดนึงครับ ผมก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก ผมก็เดินไปหาแม่ ซึ่งมีเสียงก๊องแก๊งๆองแก้วกระทบช้อน นี่ชัดเลย อ่าส์กลิ่นนี้ โอวัลตินเว้ยย ไม่ได้กินตอนเช้าๆมานานแล้ว อ้อเพราะว่าเมื่อกี้ของที่มาส่งมันมีปาท่องโก๋ด้วยครับ แต่สมัยเด็กๆนี่เรียก ปาตั้งโก๋ แฮะ คิดแล้วก็ขำ แล้วแก้วบ้านผมเป็นแบบเนี่ย แก้วไบเล่  หรือที่เรียกกันแก้มตูดเหลี่ยม


โคตรจะได้อารมณ์ร้านกาแฟแถวบ้าน นี่ถ้าได้ไข่ลวกนี่ใช่เลย แม่ก็บอกว่ายกไปหน้าบ้านหน่อยโทน ผมก็ใส่พวงแล้วยกไปหน้าบ้านให้พ่อ ก็มีทั้งกาแฟ มีทั้งน้ำชาที่แม่ชงไว้ให้ พ่อผมก็นั่งไขว่ห้างรอละ แม่ผมก็เดินมาด้วยแล้วก็นั่งจิบชาอยู่กับพ่อ ส่วนผมก็เดินเข้ามาในบ้าน มิ้นต์มองหน้าผมก่อนเลย แล้วถามทำไมไม่ปลุก


ผมบอกเดี๋ยวๆถ้าจะงอนเพราะเรื่องแค่นี้พี่น้อยใจนะ คนอยากให้นอนเยอะๆ เพราะเห็นว่านอนหลับสบายกัน จะโกรธพี่จริงๆอ่ะเหรอ มิ้นต์ก็หน้าถอดสีเลย แล้วบอกเปล่า... แต่กลัวแม่พี่ไม่ชอบ แก้มบอกงื้มมม มานอนบ้านพี่แต่ตื่นสายกว่าเจ้าของบ้านง้ะ ดาวเองยิ่งแล้วใหญ่เลย คงเพราะเธอเป็นพี่ใหญ่แหละมั้ง ผมก็เลยเดินไปวางมือปุ้ปๆ ๆ บนหัวทั้งสามสาวแล้วบอกว่า


พี่ก็จะปลุกแหละตอนแรก แต่แม่พี่บอกว่าปล่อยให้นอนกันไปก่อน ดาวก็ถามจริงมั้ยเนี่ย ผมบอกอื้มพี่ไม่เอาชื่อแม่มาช่วยโกหกหรอก แม่บอกให้นอนกันไปก่อนน่ะ เพราะมันก็ไม่ได้สายอะไรมาก แล้วตอนนั้นสามสาวถอนหายใจเลย ยัยตัวแสบก็พูดว่า เฮ้อนึกว่าคะแนนจะโดนตัดแล้ว ผมก็หืมอะไรนะ แก้มบอกไม่มีไรค่ะ ไม่มีอะไร มิ้นต์ก็มอง ผมก็ลูบหัวเบาๆแล้วบอกว่า แม่พี่พูดจริงๆว่าให้นอนกันไปก่อน ไม่งั้นพี่ไปปลุกแล้วล่ะ


แล้วเป็นไงนอนสบายกันมั้ย มิ้นต์บอกอื้อ แก้มบอกสบายม๊ากกก ดาวก็บอกว่าเหมือนได้นอนที่บ้านเลยพี่โทน บ้านดาวตื่นมาก็ได้มีกลิ่นกองไฟแบบนี้ประจำแหละ ผมก็ยิ้มแล้วบอกอื้มดีแล้ว ผมก็เดินไปหน้าบ้านต่อ สามสาวก็ตามมานะ ผมก็ไปดูพวกของที่จะใส่บาตร ก็มีแกงแค่1 อย่างก็แกงจืดตำลึงแหละครับไม่ต้องเตรียมอะไรมาก และก็มีลาบหมู กับข้าวเหนียวนั่นแหละ


อ่ะผมก็มาช่วยแม่ตักใส่ถุงนั่นแหละโดยที่มาดาวคอยช่วย ซึ่งพอมองดาวแล้วผมก็อึ้งแฮะ สกิลการตักแกงใส่ถุงของเธอนี่ไม่ธรรมดาแฮะ มีพับปากถุงเพื่อกันไม่ให้มือโดนน้ำแกงโดยตรง แล้วไหนจะสกิลการมัดหนังยางอีก. . . . แล้วการตักลาบหมูใส่ถุงอีก แต่ว่าอันนี้เหมือนดาวจะให้สองสาวช่วยมัดหนังยางนะ ซึ่งสองสาวก็ทำได้ดีระดับนึงเลยล่ะ ไม่เก้ๆกังๆเหมือนเมื่อวาน


ส่วนผมก็ตักข้าวเหนียวแยกใส่ถุงนั่นแหละ อัดไปแน่นๆเยอะๆ พระท่านจะได้อิ่ม แก้มก็ถามพี่โทนๆ หนูนึกว่าจะใส่บาตรทั้งแบบนั้นเลย ผมก็บอกไม่ได้หรอกแก้ม เดี๋ยวข้าวเหนียวไปปนกับข้าวจ้าวน่ะ อีกอย่างใส่ถุงแบบนี้พระท่านจะได้เลือกได้ง่าย ผมก็อัดเข้าเหนียวลงถุงเลย


แล้วก็มีพวกดอกไม้มาด้วย แม่ผมก็ถามใครช่วยป้าแยกดอกไม้ได้บ้าง มิ้นต์ก็อาสาไปครับ ซึ่งเธอก็ทำได้ดีนะ แก้มก็ยังช่วยมัดถุงแกงอยู่ แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวแกงจะจำนวนถุงเท่านี้ๆ ข้าวเหนียวจะเท่านี้ๆ ผมก็เดินเข้าบ้านไปหยิบตะกร้าหวายใบใหญ่ๆมาใส่แกงไว้

อ่ะพอได้เวลาแล้วแม่ก็บอกป่ะไปท่าน้ำ พ่อกับแม่ผมก็เดินนำไปก่อน สามสาวเองก็เดินเกาะหลังผมมา พ่อกับแม่ผมคือเดินตัวปลิวไปแล้ว แต่ว่าสามสาวพอมาถึงเขตต้นแสงจันทร์ก็ยกมือไหว้ก่อน ตอนแรกผมก็มองไป. . . . เอ่อปู่ไพรท่านมาแต่เช้าเลยแฮะ แต่ว่าพอสามสาวไหว้ขออนุญาต ปู่ท่านก็หายไปครับ


ผมก็เดินนำหน้าพาสามสาวไปท่าน้ำซึ่งเลยจากอาณาเขตศาลปู่ไพรมาอีก แล้ววันนี้สำหรับสามสาวเดินลึกกว่าเดิมไง แก้มกับมิ้นต์ก็ยิ่งเกาะแน่นเลย เสียงนกก็ร้องจิ๊บ ๆ ๆ ไอเย็นๆจากน้ำค้างนี่ก็ช่วยได้เยอะเลยเย็นจมูกมากๆ แก้มบอกเหมือนป่าเลยพี่โทนสวยร่มรื่น


ผมบอกอื้มก็ประมาณนี้แหละ จนพอเดินมาถึงศาลาริมน้ำแล้ว มันคงเป็นภาพใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆสำหรับสามสาวแหละครับ ยิ่งตอนเช้าบ้านผมนั้น การสัญจรทางน้ำก็มีให้เห็นทุกๆวัน พายเรือกันไปบ้าง เรือหางยาวแล่นผ่านบ้าง แต่บอกเลยว่า นายเรือหางยาวระแวกนี้มารยาทดีทุกคน


ถึงจะบิดมาเร็วแค่ไหน ถ้าข้างหน้ามีเรือพายเขาจะชะลอ โดยเฉพาะผ่านบ้านผมไม่รู้เพราะอะไร ถึงไม่มีใครกล้าบิดแรงๆเลย สามสาวก็ยืนมองตะลึงกันพักนึง มิ้นต์กอดแขนผมแน่นเลย แล้วมาซบหลังแขนแล้วบอกว่าไม่เคยเห็นแบบนี้ ผมก็ถามเหรอ มิ้นต์บอกงื้มๆ


คือสำหรับผม นี่ก็คือเรื่องปกติธรรมดาแหละครับ แต่อย่างว่าสำหรับสามสาว มันอาจจะเป็นภาพที่สวยงามก็ได้ ยิ่งสามสาวลงไปนั่งที่ท่าที่บ้านผมทำยื่นลงไปในคลองด้วยแล้ว ก็คงยิ่งรู้สึกว่าใกล้กับสายน้ำมากกว่าเดิม


คนที่พายเรือผ่านไปมาๆ ก็ทักทายพ่อกับแม่ รวมถึงผมด้วย แต่คงไม่พูดเรื่องลูกชายพาสาวกลับบ้านหรอก เพราะคงไม่รู้ว่าจะถามกับใคร


จนพระท่านพายเรือมาลำแรก พ่อก็นั่งอยู่หลังสุด ส่วนผมก็อยู่หน้าสุดเลย ถึงยังไงสามสาวก็คงกลัวตกน้ำกันบ้างแหละ ผมก็เลยอยู่หน้าเพื่อกันไว้เพื่อให้พวกเธออุ่นใจ จนใส่บาตรพระรูปแรกเสร็จ รูปต่อมาก็นั่งเรือมามีเด็กวัดพายเรือมาให้ ก็ใส่เหมือนเดิม รับพรเช่นเดิม


พระท่านก็ถามว่างานการเป็นยังไงบ้างล่ะโทนตอนนี้ ผมก็บอกว่าเรื่อยๆครับหลวงตา แต่ก็มีงานใหญ่ที่รออยู่ ท่านก็มองผมแล้วบอกว่าโทนเอ้ยยย จะคิดทำอะไรก็ให้ใจเย็นๆใช้สตินะ แล้วมันจะดีเอง คนเก่งมีเยอะแยะมากมาย แต่คนเก่งที่ใช้สติน่ะมีไม่มากนัก มีความเก่งติดตัวแล้วและต้องมีสติให้มาก อย่าหลงระเริงไปกับสิ่งที่ตนเองมีเหนือกว่าคนอื่น ไม่งั้นความเก่งที่มีมันจะเป็นโทษนะ


ผมก็ยกมือไหว้แล้วบอกครับหลวงตา แล้วท่านก็วางมือบนหัวปุ้ป ปุ้ป แล้วก็ลูบหัวผมเบาๆแล้วบอกโตขึ้นเยอะเลยนะอย่าลืมที่หลวงตาบอกล่ะ  ผมยกมือไว้แล้วบอกครับหลวงตา แล้วผมก็ช่วยดันตัวเรือให้ออกพ้นท่าน้ำนิดนึง แล้วเด็กวัดก็พายเรือออกไป
 













เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

namogt

บ้านโทนถ้าไม่สนิทจริงไปนอนไม่ได้นะระแวงทั้งคืนแน่นอน


only1A


natt4556


pond06931


ryg123456

หลวงพ่อก็มองออกนะ โทนใช้สติมากๆหน่อยแล้วทุกอย่างจะดีเอง

[email protected]


Channarong Saekow



LMnade



Wichana



Paul K

บรรยายฉากได้เป็นเลิศ ฟีลบ้านสวนแบบนี้ ตอนนี้ยังจะมีอยู่อีกมั้ยครับ ปล. ช่วยบิ๊วเจ้าหญิงเยอะๆ IPFC