ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_DRACULolitA

Wayfarer Guardian C5:ลูกไก่ในกำมือ

เริ่มโดย DRACULolitA, พฤษภาคม 01, 2025, 03:13:56 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

DRACULolitA

Wayfarer Guardian เพื่อนนักเดินทาง
Chapter 5: ลูกไก่ในกำมือ
By DRACULolitA


เช้าวันที่สองของการเดินทาง  อากาศช่างสดใส  ข้าเก็บที่นอนเป็นที่เรียบร้อย  มองเข้าไปในรถม้า ทั้ง 4 คนยังคงหลับสบาย  ข้าเห็นว่าไม่จำเป็นต้องรีบปลุก  จึงออกไปตักน้ำในลำธารมาให้ม้าดื่ม  จากนั้นจึงนั่งตกปลารอ  ในไม่ช้าก็มีเสียงเคลื่อนไหวในรถม้า  ข้ารอลุ้นในใจว่าใครจะเป็นคนที่ตื่นก่อน



"ท่านมาร์คัส"
ผิดไปจากที่คาดไปหน่อย  พ่อของเด็กสาวทั้งสองตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก  อาจเป็นเพราะเมื่อวานนี้เขาหลับไปนานมากแล้วก็เป็นได้  เมื่อเขามองเห็นข้านั่งอยู่ริมลำธารจึงเดินตรงมาหาข้า
"นี่มันเช้าของอีกวันแล้วใช่ไหม  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่"
ข้าเชิญพ่อของสองเด็กสาวนั่ง  ก่อนจะเริ่มอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้เขาฟัง  แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่ข้าได้ล่วงเกินลูกสาวทั้งสองของเขานั้น  ไม่มีทางที่เขาจะได้รับรู้

"อา...คราวหลังข้าจะต้องระวังให้มากกว่านี้  ขอบคุณท่านมาร์คัสจริง ๆ ที่ช่วยเหลือ  หากไม่มีท่าน  ป่านนี้ครอบครัวของข้าต้องแย่แน่ ๆ"
เมื่อเข้าใจสถานการณ์ดีแล้ว  พ่อของสองเด็กสาวจึงช่วยข้าจับปลาด้วยอีกแรงหนึ่ง ด้วยความเป็นนักล่า  เขาสามารถจับปลาตัวใหญ่ได้ไวกว่าข้าที่นั่งรออยู่นานสองนานเสียอีก เมื่อเห็นว่าได้ปลามาพอสมควรแล้ว  พวกเราจึงกลับไปที่รถม้า  และในตอนนั้นเองผู้เป็นแม่ก็ตื่นขึ้นมา นางมีอาการตกใจกว่าผู้เป็นสามี  แต่เมื่อเขาอธิบายสถานการณ์ตามที่ข้าเล่าให้ฟังแล้ว  นางก็สงบใจลงได้

"โชคดีจริง ๆ ที่ได้ท่านมาร์คัสนำทางให้  ไม่งั้นพวกเรามีหวังไม่รอดแน่ ๆ เลย"
สองสามีภรรยาชื่นชมข้าเป็นการใหญ่โต  ข้าไม่ได้ต้องการคำขอบคุณมากมาย  เพราะค่าตอบแทนที่ช่วยชีวิตพวกเขา  ข้าได้เก็บจากลูกสาวทบต้นทบดอกไปเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องนั้นพวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้หรอก  ในเมื่อผู้เป็นแม่ตื่นแล้ว  หน้าที่ทำอาหารจึงตกเป็นของนาง  ทำให้ข้ามีเวลากลับไปที่ลำธารอีกครั้งเพื่ออาบน้ำ  พ่อของเด็กสาวเห็นดีด้วยจึงขอตามมาอาบน้ำด้วยกัน  เราสองคนแช่น้ำและพูดคุยกันตามประสาผู้ชาย  จนรู้สึกสดชื่นดีแล้วจึงขึ้นฝั่งกลับไปหาภรรยาของเขา

ปรากฏว่าโดโรเธียร์เองก็ตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน  และกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ แม่ของนางรอนางทำอาหาร
ท่าทางของเด็กน้อยดูจะหิวกว่าพวกเราที่ตื่นขึ้นมาก่อนนานแล้วเสียอีก
"เอ้านี่...ปลาของเจ้า  ระวังร้อนนะลูก"
เด็กน้อยรับปลาไปกินอย่างระแวดระวัง  สีหน้าของเธอดูสดใสร่าเริงเหมือนเด็กธรรมดาทั่ว ๆ ไปใครจะไปนึกว่าเด็กน้อยวัย 9 ขวบนี้  จะมีอารมณ์ใคร่ที่รุนแรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

"โดโรธีทำไมตื่นสายจัง...ปกตินางจะตื่นเช้ายิ่งกว่าข้าเสียอีกนะ  โดนพิษไปขนาดไหนกันเนี่ย"
แม่ของเด็กสาวเปรยขึ้นมาด้วยความสงสัย  แต่ก็ได้น้องสาวของนางช่วยยืนยันให้กับข้า
"ท่านพี่ตื่นพร้อมกับข้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะท่านแม่"
"นางนอนไม่หลับ  อาจจะแปลกที่ก็เลยนั่งคุยกับข้าจนดึกน่ะ"

ข้าอธิบายเสริมให้แม่ของนางสบายใจขึ้น  หลังจากคุยเรื่องนี้ผ่านไปไม่นาน  นางเอกของเราก็ตื่นขึ้นมาเสียที  ผมรู้ได้จากเสียงโคลงเคลงบนรถม้า  แต่แทนที่นางจะรีบออกจากรถม้าในทันที  เด็กสาวนั่งคิดอะไรบางอย่างในรถอยู่กว่า 10 นาที ถึงได้โผล่หัวออกมา



"ท่านมาร์คัส!"
แทนที่จะร้องเรียกแม่หรือพ่อของนาง  แต่นางกลับเลือกเรียกข้า  นั่นทำให้แม้แต่แม่ของนางก็ดูประหลาดใจไม่น้อย  ข้ารีบลุกไปหานางที่รถม้า  ท่ามกลางความแปลกใจของคนทั้งครอบครัว รถม้าอยู่ห่างจากจุดทานข้าวพอสมควร  พวกเขาจึงไม่ได้ยินบทสนทนาของข้ากับโดโรธี

"กางเกงในของข้าล่ะ"
เด็กสาวกระซิบถามข้าด้วยใบหน้าเขินอายของเธอ  เมื่อคืนหลังจากส่งนางเข้านอนแล้ว ข้านำกางเกงในของนางไปซักเพื่อล้างคราบเลือดออกให้  จากนั้นก็ตากเอาไว้ข้างกองไฟจนมันแห้งสนิทดีจึงเก็บเอาไว้ให้นาง  ไม่นึกว่านางจะถามหาสิ่งนี้เป็นอย่างแรกทันทีที่ตื่นขึ้นมา

"ข้าเห็นมันเลอะ  ก็เลยเอาไปทิ้งแล้วน่ะ"
"หา! ท่านทำอย่างนั้นได้ไง  แล้วข้าจะใส่อะไรล่ะ   ข้ามีกางเกงในแค่ตัวเดียวนะ"

ข้าแกล้งหลอกนางนิดหน่อย  แต่ดูท่าทางนางจะเดือดร้อนมากทีเดียว  จนข้าต้องรีบเฉลยว่าข้าซักให้เรียบร้อยแล้ว  ล้วงกระเป๋าที่เหน็บอยู่ข้างกายข้า  กางเกงในสีขาวของเด็กสาวถูกส่งคืนให้เจ้าของ  นางรับไปพิจารณาดูว่าคราบเลือดหายไปหมดแล้วจริง ๆ จึงกล่าวขอบคุณข้า  ข้าจึงใช้จังหวะนั้นแกล้งแซวนาง

"เลือดล้างออกไม่ยากเท่าไหร่  แต่น้ำที่เจ้าปล่อยออกมาเมื่อคืนน่ะ  กลิ่นยังติดนิ้วข้าอยู่เลยนะ"
"ท่านมาร์คัสอะ..."

เด็กสาวเขินจนทำอะไรไม่ถูก  นางรีบรับกางเกงในไปใส่เข้าที่  ก่อนจะลุกหนีข้าออกจากรถม้าไป นางพยายามหันใบหน้าที่แอบยิ้มไว้ไม่ให้ข้าเห็น  ข้ารู้สึกมีความหวังขึ้นมานิด ๆ แล้ว  ว่านางไม่ได้รังเกียจสิ่งที่ข้าทำกับนางสักเท่าไหร่

นางรีบไปนั่งข้างแม่ของนาง  แทนที่จะกินอาหารด้วยความหิวโหย  โดโรธีแค่กินปลาที่แม่ของนางเตรียมให้แค่ครึ่งตัวเท่านั้น  เมื่อแม่ของนางถามว่าทำไมถึงตื่นสาย  นางก็ตอบไปว่าเมื่อคืนนอนดึก  ซึ่งก็ตรงกับคำอธิบายของข้าและโดโรเธียร์ก่อนหน้านี้ 

หลังจากทุกคนรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว  ยังพอมีเวลาเหลืออีกพอสมควร  แม่ของเด็กสาวจึงพาลูก ๆ ของนางไปอาบน้ำริมลำธารบ้าง  จังหวะแบบนี้  แม้ข้าจะอยากดูเรือนร่างของเด็กสาวให้หายคิดถึง  แต่ก็ต้องทนข่มใจเอาไว้  ข้าจึงขอตัวพาม้าไปกินหญ้าในทิศทางอื่น  ปล่อยให้ผู้เป็นพ่อคอยดูแลความปลอดภัยให้สามสาวเพียงลำพัง  แต่ถึงกระนั้นเสียงพูดคุยของสองสาวน้อยก็ชวนให้ข้าจินตนาการถึงเรือนร่างของพวกนางจนแทบทนอยู่เฉยไม่ไหว 
 
"อา...โดโรธี  เจ้าช่างยั่วยวนข้าได้เก่งจริง ๆ"
แม้ข้าเพิ่งจะทำให้นางขึ้นสวรรค์ไปเมื่อคืน  แต่ข้ากลับอดคิดถึงเรือนร่างอันอ่อนเยาว์และนุ่มนวลของนางไม่ได้  ข้าได้แต่อดกลั้นความรู้สึกของข้า  รอเวลาที่เหมาะสมที่จะระบายความรู้สึกนั้นในภายหลัง

ข้าให้เวลาสาว ๆ ได้อาบน้ำให้ชื่นใจได้อย่างเต็มที่  เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว  จึงได้เวลาออกเดินทางต่ออีกครั้ง  ทุกคนขึ้นประจำที่บนรถม้า   เดินทางผ่านทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่  ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงอีกพื้นที่ป่าแห่งหนึ่ง  แม้พื้นที่ป่านี้จะไม่กว้างใหญ่เท่าผืนป่าแรกที่ผ่านพ้นมา  แต่ก็มีอันตรายอยู่ไม่น้อย  มอนสเตอร์ขนาดเล็กอย่าง แรทบิทกระโจนเข้าใส่รถม้าหลายครั้ง  แต่พ่อของเด็กสาวก็จัดการพวกมันด้วยการตวัดดาบเพียงครั้งเดียว ข้าจึงสามารถขับรถม้าตามเส้นทางไปได้โดยไม่จำเป็นต้องหยุดพัก  จนกระทั่งใกล้ถึงทางออกจากป่า ข้าแนะนำผู้เป็นพ่อว่า  หลังจากออกจากป่านี้จะหาอาหารได้ยากแล้ว  เพราะจะเป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่  ตามด้วยหุบเขาที่ไม่ค่อยมีสัตว์อยู่อาศัย หากจะล่าสัตว์เพื่อหาอาหาร  คงต้องหาจากในป่าแห่งนี้เท่านั้น

"ถ้าเช่นนั้น  เราจอดพักที่นี่สักครู่  เพื่อให้ข้าออกล่าสัตว์สักหน่อยได้หรือไม่ ท่านมาร์คัส"
แม้อาจจะทำให้ไปถึงทุ่งดอกเรดวัลเวตช้าขึ้น  แต่รอบนี้โดโรธีสงบเสงี่ยมลงมาก  นางไม่มีปริปากบนเรื่องการพักเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงนางนั่งเงียบมาตั้งแต่ออกเดินทางแล้ว  นางเอ่ยปากเฉพาะเพียงช่วงที่แม่หรือน้องถามนางเท่านั้นเอง



"ถ้าเช่นนั้น ข้าขอฝากเด็ก ๆ ไว้กับท่านที่นี่ได้หรือไม่  ไปกันสองคนน่าจะล่าได้ไวขึ้นนะ"
แม่ของเด็กสาวคว้าคันธนูคู่ใจ เตรียมจะออกล่าสัตว์ขนาดนั้นแล้ว  ข้าจะปฏิเสธอย่างไรไหว  ข้าจอดรถม้าใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง  ปล่อยม้าให้เดินกินหญ้าในบริเวณนี้  ก่อนจะลงเดินสำรวจรอบ ๆ เพื่อความปลอดภัย  เมื่อเห็นว่าพื้นที่โดยรอบปลอดภัยดีแล้ว  สองสามีภรรยาก็ค่อย ๆ เดินออกห่างจากรถม้าไป  ตามสัญชาตญานนักล่าของพวกเขา

ในรถม้า  เหลือเพียงเด็กสาวสองคน  แม้จะเป็นช่วงเวลาที่น่ายินดี  แต่อาการของเด็กสาวคนพี่ก็ดูน่าเป็นกังวลอยู่เหมือนกัน  ข้าหันไปมองในรถม้า  โดโรเธียร์คนน้องนอนหลับบนตักของพี่สาว  ในขณะที่โดโรธียังคงนั่งนิ่งมองออกไปยังท้ายรถอย่างคนเหม่อลอย
"ต้องจอดรออยู่ที่นี่สักพัก  หวังว่าคงไม่ทำให้เจ้าหงุดหงิดนะ  โดโรธี"
ข้าลองทักนางเพื่อดูการตอบสนอง  ปรากฏว่าทันทีที่ได้ยินเสียงข้า  นางก็มีอาการสะดุ้งเล็กน้อย  แต่ก็เอ่ยตอบข้าแบบหลบหน้าหลบตา
"เอ่อ...มะ...ไม่เป็นไรค่ะ  ก็...มันจำเป็นนี่นา"
อาการของเด็กสาวดูลุกลี้ลุกลนผิดกับตอนที่นั่งร่วมกับแม่ของนางเลย  นี่ไม่ใช่อาการของเด็กสาวที่กำลังเขินอายข้าหรอกหรือ  ข้าอยากพิสูจน์ข้อเท็จจริงนั้น  จึงขยับเข้าไปใกล้นางให้มากขึ้น  แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ

"แผลของเจ้า...หายดีแล้วหรือ"
ทันทีที่พูดถึงแผลของนาง  ใบหน้าที่แดงอยู่แล้วก็ดูเหมือนจะแดงขึ้นได้อีก  นางลูบหัวน้องสาวตัวน้อยจนแน่ใจว่าหลับสนิทอยู่  จึงค่อยเอ่ยตอบแบบหลบตาข้า
"หะ...หายแล้วค่ะ  ขอบคุณท่านมาก..."
แม้จะยังดูเขินอายที่ต้องตอบคำถามข้า  แต่นางก็พยายามตอบทุกคำถามของข้าอย่างจริงใจ  จนข้าเห็นแล้วหมั่นไส้  อยากจะแกล้งนางยิ่งนัก

"แผลของเจ้ามันอยู่ภายใน  เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าหายดีแล้ว"
ข้าแกล้งหันไปลูบหัวน้องสาวของนางเล่นบ้าง  ก่อนที่สายตาของข้ากับนางหันมาเจอกันพอดี  โดโรธีรีบเลื่อนสายตาหลบข้าอย่างมีพิรุธ  แม้จะดูเอียงอาย  แต่นางก็ดูเหมือนคาดหวังอะไรบางอย่างจากข้าอยู่เห็นนางไม่ยอมตอบคำถามของข้า  ข้าจึงจำต้องเป็นฝ่ายออกปากเอง

"ขอข้าดูแผลหน่อยสิ  ข้าจะได้วางใจว่าเจ้าหายดีแล้ว"
ข้าพูดพลางช้อนหัวของโดโรเธียร์  ขยับนางออกไปนอนหนุนกระเป๋าเดินทางแทนตักของพี่สาว  ระหว่างนั้นนางไม่มีท่าทีจะปฏิเสธข้าเลยแม้แต่น้อย เมื่อกลับมาหาโดโรธี  ข้าวางมือลงบนขาอ่อนข้างหนึ่งของนาง  ก่อนจะเลื่อนมันขึ้นไปหาหน้าท้องของเด็กสาว  แล้วลูบวนบริเวณนั้นช้า ๆ  นั่นทำให้กางเกงในใต้กระโปรงของนางปรากฏขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
"อา...ท่านมาร์คัส"
น้ำเสียงนางเหมือนต้องการจะหยุดข้า  แต่หาได้มีคำพูดใด ๆ ที่แสดงอาการปฏิเสธต่อข้าไม่  ข้าจึงเพิกเฉยต่อเสียงร้องของนาง  สอดมือจากหน้าท้องของนางล้วงจากขอบบนของกางเกงในลงไปคว้าร่องเสียวของนางเอาไว้ในมือ  แต่แทนที่ข้าจะต้องเสียเวลาควานหาจุดเสียวของนาง  ดูเหมือนการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าของข้าจะได้ผลดีเกินคาด  ติ่งเสียวของเด็กสาวแข็งเป็นเม็ดแทงทะลุออกมานอกกลีบเสียวให้ข้าสัมผัสได้อย่างง่ายดาย  ข้าลูบไล้มันอย่างแผ่วเบา  สร้างกระแสแห่งความเสียวให้เด็กสาวได้จดจำอีกครั้ง

"ตรงนี้ใช่แผลของเจ้ารึเปล่านะ...อืม  รู้สึกเจ็บรึเปล่า...โดโรธี"
เด็กสาวไม่เอ่ยตอบคำถามข้าเป็นคำพูด  นางทำได้เพียงร้องครางในลำคอเบา ๆ เท่านั้น  ไม่แน่ใจว่านางกำลังเพลิดเพลินจนไม่ได้ยิน  หรือนางได้ยินแต่ไม่อยากตอบคำถามของข้ากันแน่  ข้าสังเกตเห็นอาการของนางขยับขาเบียดบดไปมาในเชิงระบายความรู้สึก  มากกว่าขัดขวางการทำงานของข้า  มือของนางกำชายเสื้อคลุมนักเวทย์ฝึกหัดจนยับยู่ยี่ไปหมด  และในไม่ช้าร่างกายของเด็กสาวก็หลั่งน้ำค้างแห่งความพึงพอใจออกมาจากร่องเสียวนาง

"เอ...ที่ไหลออกมานี่  ใช่เลือดรึเปล่านะ"
ข้าใช้เหตุผลนี้ค่อย ๆ รูดกางเกงในของนางออกเพื่อไม่ให้มันต้องเลอะอีกครั้ง  ไม่นึกว่านางจะยอมให้ข้าถอดมันได้โดยง่าย และเมื่อข้าหยิบมันขึ้นมาสำรวจ  ก็พบแต่คราบน้ำเมือกเหนียวลื่นที่นางกลั่นออกมาเองเท่านั้น  หลักฐานชิ้นนี้ทำให้ข้ายิ่งมั่นใจว่านางพึงพอใจในสัมผัสของข้าอย่างแน่นอน  โดโรธีในตอนนี้เหมือนลูกไก่ในกำมือข้า  ที่ข้าสามารถหยอกล้อนางเล่นได้ตามชอบใจ
"อา...น้ำเหนียว ๆ ลื่น ๆ นี่มาจากไหนกันนะ  มันเหมือนน้ำที่เจ้าปล่อยพุ่งออกมาเมื่อคืนนี้เลย"
ข้ากระซิบถามข้างหูเด็กสาวให้นางยิ่งรู้สึกเขินหนักขึ้นอีก  และเมื่อนางไม่ยอมตอบข้าจึงขยับตัวอ้อมไปด้านหลัง  แบบเดียวกับที่ข้าช่วยเหลือนางเมื่อคืน

"เห็นทีข้าคงต้องขอสำรวจภายในหน่อยแล้ว...เจ้าจะยินยอมหรือไม่"
เด็กสาวตัวสั่นในอ้อมกอดข้า  ขณะที่ข้าหยอกล้อกับติ่งเสียวนางไม่หยุด  แม้นางจะเอาแต่นิ่งเฉยไม่พูดอะไรเลย  แต่เมื่อเป็นคำถามแบบนี้  นางกลับรวบรวมสติเอ่ยตอบข้าออกมาจนได้
"อา...ท่านมาร์คัส  เชิญทำตามที่ท่านเห็นสมควรเถอะ...อา"
ลมหายใจโดโรธีถี่แรงขึ้นเรื่อย ๆ เรี่ยวแรงนางหดหายจนแทบจะละลายคาอ้อมอกข้า ข้าคว้าจับหน้าอกนางเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง  ออกแรงนวดเบา ๆ ให้นางรู้สึกผ่อนคลาย  ส่วนมืออีกข้างก็จัดให้ตามที่นางร้องขอ

"อาาา....อือ..."
นิ้วที่คุ้นเคยกลับไปเยือนโพรงสวาทของเด็กสาวอีกครั้ง  โดโรธียังคงขมิบตอดต้อนรับมันเป็นอย่างดีเช่นเคย  น้ำเสียวที่เด็กสาวกลั่นออกมาทำให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปหมด  นิ้วทั้งสองของข้าบุกรุกเข้าไปจนถึงจุดลับที่เด็กสาวซ่อนอยู่ภายในได้โดยง่าย
"อา...ท่าทางแผลของเจ้าคงหายดีแล้วแน่ ๆ หีของเจ้าตอดข้าแรงน่าดูเลย"
ข้าเอ่ยแซวเด็กสาวขณะที่ใช้ปลายนิ้วสะกิดจุดเสียวที่ซ่อนอยู่ในโพรงสวาทของนาง  โดโรธีกำลังอยู่ในจุดที่เสียวซ่านจนยากที่จะยับยั้งเสียแล้ว  นางขมิบตอดนิ้วของข้าพร้อมไปกับร่อนเอวระบายความรู้สึกอย่างได้อารมณ์



"อืม..."
ทันใดนั้นเองก็มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นกับโดโรเธียร์  เด็กน้อยพลิกตัวจนกระทั่งหัวตกกระเป๋า  และทำให้นางตื่นขึ้นมา  แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะน่าตกใจ แต่เนื่องจากเป็นสิ่งที่กระทันหัน  เด็กสาวคนพี่รีบคว้าเอาชายผ้าคลุมตัวนอกเข้ามาปิดจุดที่ข้ากำลังล้วงอยู่ในทันที
"ท่านพี่โดโรธี...แล้วท่านแม่ล่ะ"
เด็กน้อยหลับไปนานจึงยังคงสะลึมสะลืออยู่  และถามหาแม่ของนางด้วยความเคยชิน  ข้ากับโดโรธีอยู่ในท่านั่งซ้อนกันโดยมีข้าอยู่เบื้องหลัง  และโดโรธีนั่งอยู่บนตักของข้า  มือข้างที่ข้าล้วงหีนางอยู่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดด้วยผ้าคลุมสีฟ้าของนาง  ข้าจึงไม่มีความจำเป็นต้องหยุดสิ่งที่กำลังตั้งใจทำอยู่
"อา...เอ่อ...ท่านแม่...ออก...ออกไปล่าสัตว์กับท่านพ่อน่ะ...อา...โดโรเธียร์  นอนต่อเถอะ...ดะ...เดี๋ยวพวกท่านก็...ก็...กลับมาแล้วล่ะ...อา"
ข้าได้แต่ยิ้มให้กับวิธีการอธิบายแบบตะกุกตะกักและหายใจรวยรินราวกับจะขาดใจของเด็กสาว ทั้ง ๆ ที่ข้ายังคงควานนิ้วไปทั่วโพรงสวาทของนางไม่หยุด  แต่โดโรธีก็สามารถควบคุมสติชี้แจงน้องสาวของนางได้ดีสมกับเป็นพี่สาวที่เข้มแข็ง

"หือ...ท่านพี่ถอดกางเกงในออกเหรอ"
โดโรธีตกใจจนนิ้วที่ข้าแหย่โพรงสวาทของนางอยู่  โดนขมิบตอดจนแทบหักคารูหีนาง  กางเกงในของเด็กสาวถูกวางทิ้งไว้ตรงหน้าน้องสาวนางพอดี  และเนื่องจากเป็นตัวเดียวที่นางใส่มา  มันจึงเป็นที่สังเกตได้ง่ายสำหรับเด็กวัย 9 ขวบอย่างโดโรเธียร์
"เอ่อ...เอ่อ...คือ  อากาศมันร้อนน่ะ ข้าก็เลยถอดทิ้งไว้  อา...เจ้า...อย่าเอาเรื่องนี้ไปฟ้องท่านแม่นะ"
ข้าถูกใจคำแก้ตัวของโดโรธียิ่งนัก  จึงให้รางวัลนางด้วยการขยี้จุดเสียวเด็กสาวรัวยิก  ให้นางเสียวจนขนลุก  โดโรธีหน้าแดงก่ำและแอบเอาศอกกระทุ้งใส่เอวข้าเบา ๆ เพื่อแก้เขิน

"ไม่ฟ้องหรอก  แต่ข้าขอถอดด้วยนะ  ข้าเองก็รู้สึกร้อนเหมือนกัน"
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก  ยังไม่ทันที่พี่สาวจะคัดค้าน  เด็กน้อยวัย 9 ขวบก็รูดกางเกงในของนางออกจากขาทั้งสองข้างเรียบร้อยแล้ว  นางยังทำทะเล้นด้วยการนอนเตะขาเล่นจนกระโปรงของนางร่นลงมา  อวดขาขาว ๆ และโหนกเสียวของนางปรากฏออกมาแพลม ๆ
"ดะ...เดี๋ยวเถอะ...โดโรเธียร์...อา...  ท่านมาร์คัสก็นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยนะ...อา"
แทนที่พี่สาวจะห้ามข้าไม่ให้มองสิ่งที่น้องสาวทำ  นางกลับเลือกที่จะห้ามน้องไม่ให้ทำแบบนี้ต่อหน้าข้าแทน  แต่เสียงในช่วงท้ายของนางกลับแผ่วเบาจนเหมือนแค่กระซิบให้ข้าฟังเพียงคนเดียว  ข้าชอบการตัดสินใจของเด็กสาวยิ่งนัก

โดโรเธียร์ไม่ได้สนใจคำพูดของพี่สาวนางสักเท่าไหร่  นางหนุนหัวกับกระเป๋าเดินทางอีกครั้ง  แล้วนอนตะแคงข้างหันไปอีกทาง  ทำให้มองไม่ออกว่านางหลับไปแล้วหรือยัง  และนั่นทำให้สถานการณ์ดูน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น  และข้าก็ชอบสถานการณ์แบบนี้เอามาก ๆ

"อากาศร้อนจนอยากถอดกางเกงในเลยเหรอ... ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นคนแบบนี้"
ข้าเอ่ยแซวนางพลางล้วงร่องเสียวเด็กสาวต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น 
"ก็ใครใช้ให้ท่านถอดกางเกงในข้าล่ะ"
โดโรธีทำเสียงงอน ๆ ใส่ข้า แต่เสียงก็เบาเสียจนแทบไม่ได้ยิน  น่าเสียดายที่ข้าอยู่ด้านหลัง  จึงไม่ทันได้เห็นสีหน้าในตอนนั้นของนาง
"หากไม่ถอด...เดี๋ยวเจ้าก็ทำกางเกงในเปียกอีก  ข้าขี้เกียจซักให้เจ้าแล้วล่ะ"
ดูเหมือนคำพูดของข้าจะชวนให้นางระลึกถึงสิ่งที่น่าอายที่นางได้ทำไว้เมื่อคืน
"อา...ท่านมาร์คัส"
เด็กสาวอายม้วนต้วน  แต่กระนั้นก็ยังยอมให้ข้าล้วงหีของนางอย่างต่อเนื่อง  นางเริ่มกุมมือข้าที่จับหน้าอกของนางเอาไว้  ขาของนางเริ่มอยู่ไม่นิ่ง  ลมหายใจเริ่มถี่แรงขึ้นอีกครั้ง  เรือนร่างของนางขยับบดเบียดร่างกายข้าเป็นระยะ ๆ ข้ารู้จังหวะดีว่าต้องทำอย่างไร  เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วทั้งสองขยี้ไปที่จุดสำคัญของนาง  เท่านี้ก็ทำให้เด็กสาววัย 13 อ่อนระทวยคาอ้อมอกข้าแล้ว

"ฮือ...อ๊าาา!"
โดโรธีพยายามปิดปากของนางไม่ให้ร้องเสียงดัง  แต่ความอึดอัดนั้นยิ่งทำให้อารมณ์ของนางเพิ่มสูงขึ้น  ในไม่ช้าหยาดน้ำพุแห่งความสุขสันต์ก็พรั่งพรูออกมาจากรูสวาทของเด็กสาวอีกครั้ง  ในครานี้โดโรธีไหวตัวทัน  นางแอ่นสะโพกเอียงตัวไปด้านข้าง  เพื่อไม่ให้หยาดน้ำของนางกระเซ็นไปโดนน้องสาวที่นอนหลับอยู่ใกล้ ๆ  แต่กระนั้นก็ยังกระเด็นไปทั่วรถม้าของข้าอยู่ดี  แน่นอนว่าข้าไม่ได้รู้สึกโกรธนางเลย  หนำซ้ำข้ายังหอมแก้มนางเป็นรางวัลแห่งความน่ารักอีกด้วย
"ข้าดีใจนะ  ที่เห็นเจ้ามีความสุขเช่นนี้"

ข้าปล่อยให้โดโรธีนอนพักเอาแรงในรถม้า  ส่วนตัวข้าก็แต่งตัวแล้วออกมาสูดอากาศด้านนอก  มองดูลาดเลารอบรถม้า  เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างโดยรอบเป็นปกติดี  ก่อนจะเทน้ำดื่มให้ชื่นใจ  คิดทบทวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน  จากพฤติกรรมของเด็กสาวคนพี่  แม้อาจจะดูเป็นการคิดเข้าข้างตัวเองอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนโดโรธีจะติดใจสัมผัสรักที่ข้ามอบให้นางเรียบร้อยแล้ว น่าเสียดายที่เมื่อครู่นี้  เป็นเพียงการมอบความสุขให้นางฝ่ายเดียว  แต่ก็เป็นการมอบความสุขให้ฝ่ายหญิงโดยที่นางยังรู้สึกตัว ผิดกับที่ผ่านมา  ที่ข้าใช้วิธีลักหลับเหล่านักเดินทางที่ใช้บริการรถม้าของข้ามาโดยตลอด เหล่าเด็กสาวที่ข้าพิชิตมาทั้งหมดก่อนหน้านี้  ไม่มีใครทำให้ข้ารู้สึกสุขใจได้เท่าโดโรธีเลยสักคนเดียว   ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว  ข้าอยากจะรู้เหลือเกินว่า  ข้าจะมีวาสนาได้เย็ดกับนาง  โดยที่นางเต็มใจได้หรือไม่ จังหวะที่ข้ากำลังคิดเพลิน ๆ อยู่นั้น  สองสามีภรรยาก็กลับมาจากการล่าสัตว์พอดี



"อา...ท่านมาร์คัส  รอนานหรือไม่"
แม้จะตกใจ ที่ทั้งสองคนกลับมาเร็วกว่าที่คิด  จนข้าไม่มีเวลาไปจัดการหลักฐานที่อยู่ในรถม้า ทั้งโดโรธีที่เพิ่งโดนข้าล้วงไปจนเหนื่อยอ่อน  และน้องสาวที่หลับไปก่อนหน้านี้ ต่างก็ไม่ได้ใส่กางเกงใน รวมถึงรถม้าที่ชุ่มไปทั่วด้วยน้ำพุของเด็กสาว  ก็ยังไม่ทันได้เช็ดให้แห้ง  แต่กระนั้นข้าเลือกที่จะออกไปต้อนรับสองสามีภรรยาเสียก่อน

"สมกับที่เป็นนายพรานจริง ๆ ได้เนื้อมากขนาดนี้  มื้อกลางวันนี้คงได้ทานอาหารอร่อย ๆ อีกแล้ว"
ข้าลงจากรถม้า  พิจารณาเนื้อสัตว์ที่ทั้งสองล่ามา  มีทั้งกระต่ายป่า  ไก่ป่า  และมอนสเตอร์ที่กินได้อย่างจังเกิ้ลลิซาร์ดอีกด้วย  เนื้อสัตว์เท่าที่เห็นสามารถใช้กินต่อได้ถึงวันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว  เท่านี้การเดินทางก็ไม่มีปัญหาเรื่องเสบียงแล้ว
"เราจะทานอาหารกันที่นี่เลยดีไหมท่านมาร์คัส"
คำพูดผู้เป็นพ่อทำให้ข้านึกขึ้นได้  ตอนนี้เวลาก็คงราว ๆ สิบเอ็ดโมงแล้ว  จะว่าถึงเวลาทานข้าวก็เป็นไปได้  ข้าจึงเห็นด้วยกับความคิดนั้น  และช่วยสองสามีภรรยาเตรียมพื้นที่เพื่อทำอาหารกัน

"งั้นข้าไปหยิบหม้อมานะ"
แม่ของเด็กสาวทำเอาข้าตกใจเมื่อนางต้องการหม้อซึ่งข้าเก็บเอาไว้ภายในรถ  นางกำลังจะไปถึงรถม้าอยู่แล้ว  แต่เสียงจากภายในก็ทำให้ข้าโล่งใจขึ้น
"ใช่หม้ออันนี้หรือเปล่า ท่านแม่"

โดโรธีที่ข้าคิดว่ายังนอนหมดแรงอยู่  นางโผล่หัวออกมาจากรถม้า  พร้อมกับยื่นหม้อใบหนึ่งออกมา
"อ่อ...ใช่ ๆ ขอบใจนะลูก"
แม่ของเด็กสาวรับหม้อไป  นางมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยที่เด็กสาวยื่นหม้อมาให้นาง  ดูเหมือนจะเป็นเพราะโดยปกติแล้ว โดโรธีจะมีหน้าที่กินอย่างเดียวซะมากกว่าช่วยแม่ของนางทำกับข้าว

ข้าได้โอกาส ที่แม่ของเด็กสาวรับหม้อไปจัดการกับวัตถุดิบ  กลับไปที่รถม้าเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย  ปรากฏว่าในรถม้าทุกอย่างดูเรียบร้อยดี ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้  ข้าวของวางกลับไปในที่ของมันอย่างเป็นระเบียบ  คราบน้ำที่เปรอะเปื้อนไปทั่วรถม้าก็ถูกเช็ดออกจนเกลี้ยง โดโรเธียร์ยังคงหลับอยู่  ดังนั้นความเป็นระเบียบที่เกิดขึ้นนี้จึงมาจากโดโรธีอย่างไม่ต้องสงสัย

"เก็บกวาดเกลี้ยงเชียวนะ...เป็นเด็กดีเหมือนกันนะเราเนี่ย"
ข้าได้จังหวะเอ่ยแซวนาง 
"ขะ...ข้าก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว  ก็ท่านเล่นไม่ยอมช่วยเก็บนี่นา"
ข้าไม่ค่อยสนใจคำพูดที่แสดงอาการน้อยใจนั่นสักเท่าไหร่  ข้าตรงไปเปิดกระโปรงของโดโรเธียร์ดู  เพื่อให้แน่ใจว่านางใส่กางเกงในเรียบร้อยแล้ว  เมื่อเห็นว่ากางเกงในของเด็กน้อยกลับเข้าที่แล้วจริง ๆ ข้าจึงจัดกระโปรงของนางไว้ตามเดิม  ก่อนจะหันไปมองโดโรธีด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
"แล้วเจ้าล่ะ?"
"อะไร?"
"ใส่กางเกงในแล้วหรือยัง?"
"ข้าโตแล้วนะ...ไม่ลืมใส่หรอกน่า"
"แน่ใจนะ"
"ข้าใส่แล้วจริง ๆ"

"ขอข้าดูให้สบายใจหน่อยได้ไหม"

แทนที่ข้าจะใช้คำพูดที่แสดงความไม่เชื่อใจนาง  ข้าเลือกใช้คำพูดที่ดูสุภาพกว่านั้นมากกว่า  และนั่นทำให้เด็กสาวหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย  นางลังเลอยู่ครู่เดียวก่อนจะจับชายกระโปรงเปิดขึ้นมาให้ข้าดูว่า  นางใส่กางเกงในเรียบร้อยแล้วจริง ๆ  และที่นางทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ข้าสบายใจ  สีหน้าและแววตาที่นางส่งมาให้ข้าในช่วงเวลานั้น  มันช่างน่ารักและมีเสน่ห์มากจนข้าแทบอดใจไม่ไหว
"อืม...ใส่แล้วจริง ๆ ด้วย  น่ารักจัง"
ข้าแกล้งนางด้วยการถือวิสาสะจับขอบกางเกงในดึงขึ้น  จนรั้งให้เนินเสียวของนางปรากฏขึ้นเป็นเนินขนาดย่อม ๆ
"ท่านมาร์คัส...พอได้แล้วค่ะ"
นางไม่มีท่าทีต่อต้านข้าเลยแม้แต่น้อย  นางทำได้เพียงเอ่ยทักท้วงด้วยน้ำเสียงที่ไร้พลังเท่านั้น  นั่นทำให้ข้ามั่นใจยิ่งขึ้นว่านางตกอยู่กำมือข้าอย่างสมบูรณ์แล้ว
"สำหรับคนน่ารักอย่างเจ้า  เท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก"
ข้าหยอดคำหวานทิ้งท้ายก่อนจะกลับออกไปช่วยพ่อกับแม่ของนางเตรียมมื้อเที่ยง  จากนั้นเมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว  ทั้ง 5 คนก็รับประทานอาหารร่วมกันใต้ต้นไม้ใหญ่  บรรยากาศสนุกสนานครื้นเครงและเป็นกันเองราวกับข้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนาง  โดโรธีแอบมองข้าเป็นระยะ ๆ ข้าเองก็ส่งสายตาให้นางบ่อย ๆ เช่นกัน    ข้าไม่รู้ว่านางคิดอะไรอยู่ในตอนนี้  แต่ในหัวข้ามีเพียงความคิดที่ว่า  จะจัดการลูกไก่ในกำมือตัวนี้ต่อไปอย่างไรดีเท่านั้น








เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
DRACULolitA ชื่อนี้มีแต่ผลงานแนว Loli เท่านั้น กรุณาอ่านเพื่อความบันเทิง และอย่าคาดหวังแนวอื่น

ผลงานใหม่
Wayfarer Guardian[Loli/Fantasy/Mf/Mff]: C1 C2 C3 C4 C5 C6 C7 C8 C9 C10 C11 C12(ยังไม่จบ)
ผลงานดั้งเดิม (Angel's Item/Oh! My Angel/uBiB)

Wolfoxies


ryg123456

เด็กหรือจะสู้เล่ห์เหลี่ยมท่านมาตัสได้

tuktong21

ลีลาหมาจิ้งจอกค่อยๆตะล่อมกินลูกแกะน้อย,

kodzilla


banana222


nort

ถึงตอนที่มาร์คัสคงได้เอาแบบเด็กเต็มใจแล้วละ มันสุกงอมเต็มที่แล้ว

maitree_kongton

ค่อยๆตะล่อมไปเรื่อยๆไม่ต้องงรีบร้อน

Ke2l3e2oS


ball55


nakako


natt4556

เป็นแค่เด็กน้อย จะไปทันคนอย่างจิ้งจอกเฒ่าได้ยังไงละ

rinrin

คนน้องคงแอบดูตั้งแต่ข้างกองไฟละมั้ง รอบนี้กะแกล้งหลับอีก ไม่รอดแน่ๆ

Matsudaira777

ติดใจขนาดนี้ พาเล่นได้ทุกแบบแน่ๆ

laiga

เด็กน้อยไม่ว่ายังไงก็ตามเล่ห์เหลี่ยมเฒ่าหัวงูไม่ทันหรอก