ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ว่าที่เจ้าสาว#7: วันวิวาห์ [ตอนจบ]

เริ่มโดย asdf4321, พฤศจิกายน 15, 2018, 10:29:59 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

asdf4321

คุยก่อนเริ่มเรื่อง
หากใครอ่านตอนนี้ก่อนตอน 6 [part-1(intro)] [part-2] แนะนำให้กลับไปอ่านก่อนครับ เพื่ออรรถรสจริงๆ ผมไม่ได้เน้นบทเสียวเท่าไหร่อยู่แล้ว

ตอนนี้จบแล้วครับ คาดว่าตอนที่แล้วคงสมใจใครหลายๆคน  ::HeyHey:: แต่อย่าหวังเลยว่าจะถลำลึกกว่านี้  ::HoHo:: พอโดนต้องรีบตัดจบทันที ขอจบแบบสาวโลกสวยก่อนนะ

ตอนนี้ขอดึงอารมณ์นุ่นกลับก่อนครับ การปรับอารมณ์นุ่นค่อนข้างนาน แถมผมอ่อนด้อยเรื่องปลอบคนซะด้วย หากใครใจร้อนก็เลื่อนลงไปล่างๆได้เลยครับ แล้วเอกสลายปมในใจนุ่นได้อย่างไร

ท่านผู้อ่านแสดงความเห็นตามอัธยาศรัยเลยครับแต่ให้คำนึงถึงกฏเว็บบอร์ดด้วยนะคับ ผมไม่ปิดแล้วแต่ผมยังหวังว่าจะมีเฉพาะความเห็นที่สร้างสรรค์ ซึ่งทุกความเห็นมันอาจจะมีผลต่อการตัดสินใจแต่งภาคต่อดีไหม(หากคนติดตามน้อยจะแต่งต่อไปทำไม เนอะ)  ภาคต่อไปอาจจะตามใจแฟนๆบ้าง เช่น นุ่นโดนคนอื่น กายพิชิตนุ่นน้อยได้ เป็นต้น แต่คาดว่าคงไม่ใช่เร็วๆนี้


เริ่มเรื่อง

แสงอรุญยามเช้าอาจจะสวยงามสำหรับใครหลายๆคน แต่สำหรับเรา เช้าของวันเตรียมแต่งงานวันสุดท้ายของเรามันช่างอึมครึม ไม่กระจ่างฟ้าครามเช่นทุกวันที่ผ่านมา คล้ายกับมันเสียใจที่เราสูญเสียบางสิ่งไป ป้าตุ้มนั่งกุมมือโอบไหล่ปลอบประโลมเราโดยไม่มีคำพูดใดๆระหว่างทางกลับบ้าน โดยมีพลขับและนายพลตุ้ยนั่งหน้า

"แม่กุ้ง วันนี้ขอยืมนุ่นไปช๊อปฯ เป็นเพื่อนหน่อยนะ ฝากเตรียมงานเผื่อนุ่นด้วยนะจ๊ะ" ป้าตุ้มโทรไปหาข้ออ้างให้เราอยู่ด้วย เพื่อให้ใจเราห่างๆจากเรื่องงานแต่งสักพัก เผื่อจะสามารถบรรเทาความเศร้าโศกลงไปบ้าง

"คุณสามีหล่อมาก ...." ชื่อที่ปรากฏบนโทรศัพท์ของเรา นี่น่าจะเป็นครั้งที่สิบแล้วที่ไม่ได้รับสาย จนป้าตุ้มต้องรับสายแทนเพราะสงสารเอกที่พยายามติดตามอาการของเรา
"สวัสดีจ้า หนูเอก" ป้าตุ้มทักทายปลายสาย
"สวัสดีครับ ป้าตุ้ม นุ่นเป็นยังไงบ้างครับ" เราส่ายหน้าไม่กล้าคุยกับเอกโดยไม่ต้องให้ป้าตุ้มถาม
"ดีขึ้นแล้วจ๊ะ แต่ป้าว่า หนูนุ่นยังไม่พร้อมจะคุยกับหนูเอกตอนนี้ ขอเวลาสักนิดนะ ให้หนูนุ่นดีขึ้นกว่านี้อีกหน่อย เดี๋ยวป้าจะโทรบอกทันทีเลย" แล้วทั้งคู่สนทนาสักพัก ก่อนจะวางสายไป

เรานั่งนิ่งที่ซุ้มการเวกในสวนหน้าบ้านตั้งแต่มาถึงจนกระทั่งตอนนี้แดดส่องจะส่องเข้ากลางกระหม่อมแล้วเราก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน เรายังนั่งคิดวกไปวนมา ว่าวันพรุ่งนี้เราจะแต่งงานกับเอกดีไหม เราเหมาะสมกับความรักที่เอกมอบให้ไหม เราทรยศความรักของเอกหรือเปล่า อะไรจะเกิดขึ้นหากเราแต่งงานกัน หากเมื่อวานเป็นวันไข่ตกอย่างที่นับไว้จริงจะเกิดอะไรขึ้น เราวาดฝันไว้ว่าจะเก็บสิ่งนี้ให้เอกในวันสำคัญของเราเพื่อเอกจะได้เป็นพ่อของลูกของเรา และคำถามอีกนับไม่ถ้วนแต่ยังไม่มีคำตอบให้สักคำถามเลย

เราเหลือบเห็นเอกแอบมองเราห่างๆแบบเป็นห่วงอยู่หน้าประตูรั้ว เขายังยืนเฝ้ามองคล้ายจะขอโอกาสเพื่อเข้ามาหา เขาคงอยากเข้ามาคุย แต่คล้ายๆว่าเขาเข้าใจดีว่าเรายังไม่พร้อม ซึ่งยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จึงจะพร้อม เราสัมผัสได้ถึงภาษากายที่แสดงออกมามันสื่อถึงความกังวลใจของเขา จนป้าตุ้มต้องออกไปคุยด้วยหลายครั้ง

ตกบ่ายเอกก็ยังคงมาเกาะประตูรั้วแอบดูสถานการณ์ของเราอยู่ ป้าตุ้มคงไม่เห็นสัญญาณในทางที่ดีขึ้นของเรา ป้าตุ้มคิดว่าคงหมดเวลาสำหรับการอยู่กับตัวเองเพื่อแกะปมในใจนี้เพียงลำพัง คงถึงเวลาสำหรับใครบางคนมาแกะปมนั้นแล้ว ป้าตุ้มจึงเดินเข้ามาตบไหล่และพูดคุย

"หนูนุ่น โอเคขึ้นรึยังจ๊ะ" ท่านคงไม่ต้องการคำตอบหรอกเพราะเท่าที่เห็นก็คงจะรู้ คงถามเพื่อเปิดบทสนทนาเฉยๆ
"ป้าพอจะรู้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน" พลางป้าตุ้มนั่งลงข้างๆของเรา
"มันยากจะทำใจ กับสิ่งที่สูญเสีย" ป้าตุ้มกุมมือเราเบาๆ
"ป้ารู้ดีว่าป้าไม่ใช่หนูนุ่น ไม่มีวันเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นหรอก"
"มันเอาของของเอกในตัวนุ่นไป" ประโยคแรกที่เราเอ่ยขึ้นในวันนี้ หลังจากนั่งนิ่งมาตั้งแต่เช้า พร้อมกับน้ำตาหยดรินลงพื้น
"หนูทำผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับเอก หนูรักษามันไว้ไม่ได้" ป้าตุ้มฟังสิ่งที่เราระบาย แล้วนิ่งคิดตามครู่หนึ่ง

"หนูนุ่นเสียคำสัญญาที่ให้กับหนูเอกน่ะ แต่เอกไม่ได้ทักท้วงสัญญานั้นไม่ใช่เหรอ" ป้าตุ้มเว้นคล้ายจะรอการตอบกลับของเรา แต่สิ่งที่ได้รับคือ  นิ่งและเสียงสะอื้น
"ป้าคิดว่า จริงอยู่ว่าหนูจะเสียบางอย่างไป"
"แต่นั่นมันผ่านไปแล้ว หนูนุ่นกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว"
"แก้ปัญหาเพื่อเดินหน้าต่อดีไหม วันพรุ่งนี้มันต้องมีอะไรดีขึ้นแน่นอน"
"แต่หนูเอกก็ยังอยู่ทั้งคน ป้าว่าหนูเลือกจะเดินต่อไปกับเอกดีไหม"
"ให้เอกรับรู้แล้วเดินไปชนกับปัญหานั้นด้วยกัน แก้มันด้วยกัน"
"บางทีปัญหามันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่นุ่นคิดก็ได้นะ"
เราคิดตาม แต่ก็เอ่ยแย้งขึ้นมาว่า
"มันยังจะยัดเยียดบางสิ่งที่นุ่นไม่อยากได้ บางสิ่งที่นุ่นรอรับจากเอกคนเดียว เพื่อวันพรุ่งนี้เท่านั้น"
ป้าตุ้มนิ่งเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ไม่อยากได้คืออะไร เราทิ้งช่วงพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
"หนูอยากเลื่อนงานแต่งก่อนได้ไหมคะ อย่างน้อยก็เพื่อจะรู้ว่ามันฝากอะไรไว้อย่างที่นุ่นคิดหรือเปล่า"

ป้าตุ้มรอจังหวะให้เราพูดจบแล้วพูดต่อ
"หนูนุ่น หากปัญหานี้มันใหญ่พอจะเลื่อนงานแต่ง หนูนุ่นคุยกับหนูเอกก่อนดีไหม"
"หนูนุ่นกับหนูเอกใช้ชีวิตคู่กันมาตั้งนาน คบกันมาตั้ง 15 ปีนะ"
"เมื่อมีปัญหาใหญ่ แล้วหนูนุ่นจะขอตัดสินใจคนเดียวเหรอ"
"หากมันเป็นปัญหาของคู่เรา เราจะอดทนเก็บไว้คนเดียว แก้ปัญหาคนเดียว"
"การทนเป็นเหมือนการต่อสู้ไปบนเส้นทางชีวิตคู่เพียงลำพังฝ่ายเดียว"
"คู่รักหน่ะ เขามีไว้ช่วยคิด ช่วยแก้ปัญหา และเดินไปข้างหน้าด้วยกัน"
"คู่ชีวิตหน่ะหาไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ เชื่อป้านะ หนูเอกคือคนนั้นสำหรับนุ่น"
"เอกไม่ปล่อยให้หนูนุ่นอยู่ลำพังแน่นอน เปิดอกคุยกับหนูเอกเถอะนะ"


"เชื่อป้าเถอะ หนูเอกคือคนคนนั้น คนแรกและคนเดียวของนุ่น ที่เพียงพอจะเป็นคู่ครอง"
"ลองต่อสู้กับบททดสอบแรกก่อนแต่งงาน... หากหนูนุ่นกับหนูเอกผ่านมันไปไม่ได้ ค่อยคิดหาทางออกอื่นนะ" ป้าตุ้มแนะ "คุยกับหนูเอกนะหนูนุ่น ให้หนูเอกช่วยแก้ปัญหานี้ ให้สมกับเป็นคู่ครอง"

เราพยักหน้ายอมรับในคำแนะนำ แต่แววตาของเรายังคงกังวลว่าเอกจะรับได้จริงหรือ ป้าตุ้มกดรีโมตเปิดประตูพร้อมพยักหน้าส่งสัญญาณให้เอก เอกวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรนทันทีที่ประตูเปิด เมื่อเข้ามาถึงแล้ว ป้าตุ้มตบไหล่เอกเบาๆ พลางยิ้มให้กำลังใจ ก่อนเดินออกไปเพื่อให้เราสองคนคุยกันตามลำพัง

"นุ่น... เอกขอโทษ" คำแรกที่เอกคุกเข่าตรงหน้าเราเอ่ยขึ้น เรายังคงเงียบและน้ำตาซึมไม่กล้าสู้หน้าเอก เรายังคงไม่เข้าใจว่าเอกผิดเรื่องอะไร และไม่รู้จะเริ่มต้นพูดว่าอะไร ทุกอย่างเอกก็คงรู้หมดแล้ว
"นุ่น... อภัยให้เอกได้ไหม" คำที่เขามักร้องขอ เวลาเราสองคนมีเรื่องทะเลาะกัน ไม่ว่าเรื่องอะไร หรือใครผิดก็ตาม เอกคุกเข่ากุมมือเราไว้ และพยายามส่งสายตาอ้อนวอน

"เอกรู้ใช่ไหมว่า นุ่นโดนอะไรเมื่อคืน" เราพูดพลางน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสอง จนไหลหยดไปโดนมือทั้งสอง
"นุ่น... นุ่นขอโทษ นุ่นรักษามันไว้ไม่ได้" แล้วโผซบลงที่ไหล่ของเอก เอกลูบหัวเราเบาๆ พลางพูดว่า "มันผ่านไปแล้ว...นุ่น เรื่องร้ายๆมันผ่านไปแล้ว" เราโอบกอดเอกอยู่นาน นานจนเสียงสะอื้นเราหมดไปจึงเริ่่มถามเอกต่อ

"เอกรับได้เหรอ!!??" เราถามย้ำความมั่นใจ
"รับได้ ทำไมเหรอ!?? " เอกตอบหน้าตาเฉย แต่ก็ไม่วายยักคิ้วถามกลับ หรือเขาปั้นหน้าไม่กังวลเพียงเพื่อให้เราผ่อนคลาย
"ก็มันของเอกนะ นุ่นปกป้องไว้เพื่อเอกคนเดียวก็ไม่ได้"
"มันไม่เคยเป็นของเอก มันเป็นของนุ่นตั้งแต่ต้น เอกต้องการแค่ใจของเจ้าของมันเท่านั้น เอกผิดเอง ไม่ใช่ความผิดของนุ่นเลยสักนิด" เอกตอบด้วยแววตาสื่อถึงสำนึกผิดในสิ่งที่ทำแต่ไม่ชี้แจงความผิด
"แล้วถ้าสิ่งที่อยู่ข้างในมันไม่ใช่ของเอกล่ะ" เอกเข้าใจว่าเราหมายถึงอะไร
"แต่เขาก็เป็นของนุ่นนะ ของนุ่นก็ของเอกแหละ" แล้วเอกก็ยิ้ม ลูบและเขย่าหัวเราเบาๆ
"ทำไม!??"
"ขอแค่เขาเรียกเอกว่า "พ่อ" เอกรับเป็นลูกหมดแหละ" เอกยิ้ม ด้วยแววตาที่อบอุ่น แต่ยังคงอมยิ้มแบบมีเลศนัย
"บ่อยครั้งที่เอกทำผิด แต่นุ่นจะไม่เคยทิ้งเอกไปไหน แม้จะมีปัญหาก็อยู่ร่วมแก้ไขกับเอกเสมอ ปัญหาเล็กน้อยแค่นี้มีรึเอกจะหวั่นไหว " เอกเสริิม
"ตราบใดที่นุ่นยังรักเอก อยู่เคียงข้างเอก ไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์ ยามป่วยหรือสุขสบาย และพร้อมจะเราแก่ไปพร้อมกัน เอกจะอยู่ข้างนุ่นตลอดไป"มันเหมือนเป็นสัญญาที่เอกให้ไว้

เราเริ่มยิ้มกลับอย่างผ่อนคลายขึ้น เมื่อทุกอย่างที่หวาดหวั่นนั้น มันชัดเจนว่าเอกไม่แคร์ แล้วซบอก เงยหน้าถามต่อ
"แล้วเรื่องน้องกายล่ะ เอกรู้แล้วใช่ไหม?" เอกพยักหน้า
"โกรธนุ่นไหม?" เอกส่ายหน้าพร้อมกับอมยิ้มเหมือนภูมิใจในตัวว่าที่เมียแต่งที่ไม่เคยเผลอใจให้น้องกาย
"เอก ซนกว่านุ่นเยอะ แกล้งนุ่นออกบ่อย นุ่นไม่เห็นว่าอะไรเอกเลย" เอกพูดพลางจับปลายจมูกเราเบาๆและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อย่างพ่อจอมวางแผน เรายิกเบาๆที่อก หอมแก้มเอกหนึ่งที แล้วโอบกอดแนบอกเพื่อฟังเสียงหัวใจของเอกมันยังเหมือนเดิมไหม ท่ามกลางดวงตาสองคู่ของคู่รักวัยเกษียณที่แอบดูในบ้านพลางอมยิ้มตามไปด้วย

"ป่ะ กลับบ้านกัน เมียหัวเถิกของเอก" เอกเอ่ยขึ้น พลางเปิดหน้าผากจูบเบาๆ หลังจากเห็นว่าเราค่อยสบายใจขึ้นมากแล้ว
"กลับไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เอกแต่งกับแพนด้า แย่เลย" เอกแซว หลังจากเราไม่ได้นอนมาทั้งคืนจนถึงบ่ายแล้ว
"ชิ..." เสียงแก้เขินจากปากเรา

เราไหว้ลาทั้งนายพลตุ้ยและป้าตุ้ม แล้วเราทั้ังสองก็ออกไป
ระหว่างทางกลับ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
"สวัสดีครับ" เอกกล่าวทักทายปลายสาย
"ไอ้เอก กูจับตัวไอ้สามตัวที่ก่อเหตุเมื่อคืนที่มึงฝากล่าได้แล้วนะ ส่วนหัวหน้าใหญ่มันยังตามตัวไม่เจอ เดี๋ยวติดตามให้"
"ขอบใจมากไอ้คิง" เอกกล่าวขอบคุณเพื่อนร่วมรุ่นที่ประจำอยู่โรงพักในพื้นที่
"เอ็งจะเข้ามาร่วมสอบปากคำมันไหม" ปลายสายถาม
"ไม่เป็นไรคิง กูไม่ค่อยว่าง ขอบใจมากเพื่อน พรุ่งนี้อย่าลืมไปแห่ ให้ทันหนึ่งโมงนะเว้ย"
"เออๆ แล้วเจอกัน" คำทักสุดท้าย แล้วเอกก็วางสายไป

เช้าวันแต่ง เราต้องตื่นแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ตีสี่เพื่อทำพิธีเช้าให้ทันในเวลาหนึ่งโมงเก้านาทีตามฤกษ์แห่ขันหมาก จนกระทั่งทำพิธีแต่งงานแบบไทยเสร็จเอาตอนเกือบสี่โมงครึ่ง เราจึงยังพอมีเวลาพักผ่อนบ้างเล็กน้อย จากนั้นตอนเย็นจึงมีงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในโรงแรมหรูกลางเมือง ออแกไนเซอร์ที่เราเลือก บริหารจัดการงานได้เป็นอย่างดี ทั้งสถานที่ พิธีการ การลอดซุ้มกระบี่ การแสดง การต้อนรับแขก มีเพียงเรื่องติดขัดเล็กๆน้อยๆบ้างแต่ก็พอรับได้

เราเดินขอบคุณแขกที่โต๊ะ และส่งแขกหน้างาน กว่าจะเสร็จสิ้นก็เกือบจะสี่ทุ่ม เหลือเพียงโต๊ะเพื่อนสนิทเอกที่บอกเอกว่า
"ไอ้เอกจัดเจ้าสาวให้สลบเลยนะ แล้วเอ็งหนีเที่ยวต่อกับพวกข้า ฮา ฮา ฮา" ไม่รู้เพื่อนของเอกพูดจริงหรือพูดเล่น"เอกคืนนี้เอาให้ได้เอกจูเนียร์นะเว้ย เดี๋ยวไม่ทันกู" เพื่อนอีกคนแซวเสริมขึ้นมา "ผมว่าอยากได้ลิตเติลนุ่นดีกว่า มาดองกะไอ้ตัวแสบในท้องเมียผมเนี้ยะ" พร้อมกับเสียงเฮฮากันใหญ่ เราได้แต่ยิ้มเขินๆตอบคำแซวไป

หลังจากอยู่ส่งแขกจนเกือบหมดเราทั้งสองก็ขอตัวขึ้นห้องนอนด้วยความเหนื่อยอ่อน
"นุ่น เหนื่อยไหม เดี๋ยวเอกนวดให้" มุกเดิมที่เอกใช้บ่อยๆทุกเย็นหลังจากไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งทุกครั้งก็เป็นกิจกรรมเข้าจังหวะยามค่ำตลอด ในขณะที่เรากำลังถอดชุดเจ้าสาว โดยเอกช่วยแกะกระดุมให้อยู่ข้างหลัง เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำหลังเหนื่อยมาทั้งวัน
"เอก นุ่นขอเวลาทำใจสักพักได้ไหม" แม้ว่าเอกจะไม่ว่าอะไรกับเรื่องเมื่อคืน แต่มันยังเหลือร่องรอยบาดลึกที่ทำให้เรายังเจ็บปวดอยู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก คำตอบเราทำให้เอกชะงัก และเงียบเหมือนคิดอะไรบางอย่าง
"เอกอาบน้ำด้วยได้ไหม" เอกยังคงลองตื้ออีกมุกที่ใช้สำเร็จตลอด
"นุ่นยังไม่พร้อมจริงๆ" เราเบี่ยงหน้าออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป เอกน่าจะสังเกตุเห็นปมในใจของเราที่ยังไม่หายไป
"ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวเอกขอลงไปฉลองกับเพื่อนต่อนะ"  เอกตะโกนบอกหน้าประตูห้องน้ำ เราอยากจะขอบคุณเอกที่ยังคงเข้าใจเราเสมอมา
"จ้า"เราตอบกลับไป ขณะอยู่ในห้องน้ำ แล้วก็ได้ยินเสียงเปิดประตูออกไป

เราอาบน้ำอยู่นาน ทั้งน้ำยาเซตผม ทั้งเครื่องสำอางค์ตามหน้าตามตัว ถ้ามีเอกช่วยขัดก็ดีไม่น้อย กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็เป็นชั่วโมง แต่แล้วเราก็ต้องแปลกใจว่าทำไมเอกถึงปิดไฟห้องทุกดวงด้วย เราเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเราก็โดนฉุดแขนรั้งไว้แล้วรั้งไปหาตัวใครบางคนในมุมมืด

"น้องคนสวย คิดถึงพี่ไหมจ๊ะ" เสียงแหลมแหบฟังดูตลกๆ มันดังมาจากข้างหลัง เสียงของปีศาจที่เราเพิ่งประสบมาเมื่อวานซืนของไอ้เสริม มันตามมาหลอกหลอนเราถึงที่นี่ได้อย่างไร
....















"ไม่น่ะ ไม่...  อย่านะ เอกชะ..." เราร้องขอความช่วยเหลือไม่ทันจบประโยค แต่ก็โดนล๊อกและปิดปากด้วยแขนล่ำเพียงข้างเดียว เราแปลกใจว่าโรงแรมหรูใจกลางเมืองระดับนี้ปล่อยให้ใครเข้า-ออกห้องที่เป็นประตูคีย์การ์ดได้อย่างไร ราวกับใครเป็นใจให้มันเข้ามา

"มันไม่มาหรอก ... หึๆๆ" ฟังดูคล้ายว่ามันมั่นใจมาก ส่วนเราก็พยายามแกะมือมันออกจากปาก ท่อนแขนของมันเต็มไปด้วยสะเก็ดแผลที่พึ่งลอกไม่นานราวกับผ่านศึกการต่อสู้อย่างโชกโชน เราดิ้นสุดกำลังแต่ร่างกายของมันแข็งแกร่งดุจหุ่นเหล็ก ไม่ไหวติงตามแรงดิ้นแม้แต่น้อย

"มาสนุกกับพี่ดีกว่า พี่ขอชิมอีกรอบนะวันก่อนยังไม่หนำใจเลย" มือที่ว่างของมันก็ปลดปมของผ้าเช็ดตัวที่เรากระโจมอกเอาไว้หลุดออก เรารู้สึกถึงผ้าที่ค่อยๆหลุดร่วงลงไปกองที่ปลายเท้า แล้วมือนั้นก็ซุกซนเวียนวนที่นมและนุ่นน้อย ส่วนหน้าของมันก็ซุกเข้าไปที่ซอกคอ

เราไม่มีกำลังมากพอที่จะต่อสู้ขัดขืนแขนอันแข็งแกร่งนั้น สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวตอนนี้คือยอมรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อไป แค่คิดเท่านั้นน้ำตาเราก็หยดแหมะลงไปบนท่อนแขนล่ำนั้น
...











แต่แล้วน้ำตาที่หยดแหม่ะลงบนแขนของมัน เป็นดั่งกรดที่ละลายเหล็กกล้าอันแข็งแกร่งของแขนมันลงได้ มันคลายการรัดแน่นเปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนโยน จากแขนที่รัดแน่นกลับกลายเป็นโอบกอดอย่างอ่อนละมุนอย่างที่เราคุ้นเคย ผ่านทุกผิวสัมผัสของเรือนกาย

"เอกขอโทษ" เสียงที่แหลมแหบที่ฟังตลกนั้นสารภาพ เราแปลกใจกับชื่อที่มันเรียกแทนตัวเอง
แล้วไฟหน้าโต๊ะเครื่องแป้งก็สว่างขึ้น ภาพที่ปรากฏที่กระจก ชายที่โอบกอดเราในสภาพเปลือยเปล่าคือเอก

"เอก!!!" คำเดียวที่หลุดออกจากปากเรา มันมาพร้อมกับความดีใจจนอธิบายไม่ถูก น้ำอัดลมกระป๋องสีแดง มีตัวอักษร He ที่มักจะเห็นอยู่ในรถของเอก วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง อย่างกับจงใจทิ้งหลักฐานบางอย่างให้ปรากฏ

"เอกขอโทษ เอกจำเป็น..." เราปิดปากเอกตอนพูดยังไม่จบ ประหนึ่งว่าเอกจะเผยความลับราชการให้เมียแต่งฟังอย่างไงอย่างนั้น เพียงรู้ว่าเอกมาช่วยเราเสมอแค่นั้่นก็เพียงพอแล้ว อย่างอื่นไม่จำเป็นแล้ว

"นุ่นไม่อยากรู้ล่ะ ไปสระผมให้นุ่นหน่อยซิ น้ำยามันยังเต็มผมอยู่เลย" เราเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดีหลังปมในใจมันละลายไปเมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงแหบแหลมแสนตลกนั้นคือใคร

"อ้าว!ไหนว่าไม่อยากให้อาบด้วยไง" เอกพูดด้วยเสียงแหบแหลมเอ่ยแซว

"นุ่นให้สระผมให้เฉยๆ ไม่ได้ให้อาบน้ำให้สักหน่อย ห้ามทะลึ่งนะ" เราย้อนกลับด้วยเสียงทะเล้น แล้วหอมแก้มเอกหนึ่งแสดงความขอบคุณที่อยู่เคียงข้างเสมอมา ไม่เคยปล่อยให้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก

"สระผมนุ่นน้อยด้วยได้ไหม " พลางมือของเอกก็ซุกซนไปจับนุ่นน้อย

"ไม่ นุ่นน้อยไม่มีผม...มันไปบวชชีหนีรักแล้ว ..." เราปฏิเสธไปอย่างนั้นแหละ แต่ความจริงเราก็ตามใจเอกเสมอ

หลังจากนั้นก็เหมือนทุกๆครั้ง ที่เราไม่ค่อยจะจำหรอกว่าเราทั้งสองทำอะไรกันบ้าง แบบไหนบ้าง ท่าไหนบ้าง เราสนใจที่จะจำเพียงว่าเราซึมซับ ความสุข ความอบอุ่น ความรัก ความอ่อนโยนและความห่วงใยจากเอกเหมือนทุกครั้ง เราสัมผัสได้ผ่านอวัยวะที่เราทั้งสองมีไม่เหมือนกัน มันเข้ากันได้พอดี มันเหมือนสิ่งเติมเต็มให้เราเป็นคู่กัน มีกันและกัน  คำสัญญาที่เอกมีให้ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เสมอต้นเสมอปลายและเรามั่นใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป  ... เราศรัทธาอย่างนั้น

...นุ่น 
15 กุมภาพันธ์ 2558


คุยกันท้ายเรื่อง

ตอนจบ หลายคนอาจจะมองว่าจบเอาดื้อๆ ผมไม่ค่อยอยากเล่าเรื่องเสียวที่ซ้ำๆไม่น่าจดจำ อย่างย่อหน้าสุดท้ายกล่าว ผมมองว่าผู้ที่อ่านตามมาถึงตอนนี้ไม่ได้อยากดูเรื่องเสียวแล้ว อยากรู้แค่ว่าจบลงอย่างไรมากกว่า กำลังจะบอกว่าจบ Happy ending อย่างที่สัญญาแล้วนะครับ แต่ดันเหลือประเด็นเล็กๆที่หลายๆคนคงสังเกตเห็น ว่างๆ วันหลังแวะมาอ่านอีกรอบก็ดีนะครับ ผมอาจจะปรับรายละเอียดเพิ่มลงไปจากคอมเมนต์ของหลายๆท่าน

[เพิ่มหลังจากเห็น 5คอมเมนต์แรก]สำหรับตอนที่แล้วผมไม่ได้เจตนาสื่อว่าเอกแกล้งนะครับ(เอกเป็นผู้ชายอบอุ่นที่ชอบเอาท์ดอร์เฉยๆ) หากแค่แกล้งเฉลยตั้งแต่เอกเข้าไปแล้วไม่มีใครแล้วครับ มันมีเหตุผลที่มากกว่าต้องการแกล้ง แผนแบบนี้ไม่มีใครกล้าเล่นแน่ๆ ซึ่งหากคิดดีๆ มันคือปมที่กระทบถึงภาคต่อไป(ถ้ามี) จะมาคลายกันว่าใช่เอกจริงเหรอ ถ้าเป็นเอกจริงแล้วทำไมเอกต้องทำ เด็กที่จะเกิดเป็นลูกใครกันแน่(แล้วแบบนี้เรียกว่าจบดีไหมเนี้ยะ - -" ) แต่ในมุมมองนุ่นเชื่อสนิทใจว่าใช่ แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับ Happy ending แล้ว หากอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมดูความเห็นที่ 9 ครับ ผมอธิบายความเป็นไปได้หนึ่งในหลายความเป็นไปได้

หลายท่านอ่านจะเห็นแนวทางของเรื่องของผมอย่างชัดเจนคือ  "เฉียดแต่ไม่โดน" เป็นการต่อสู้ของความกำหนัดกับความถูกต้อง นานๆมีมาที แนว NTR ในเว็บบอร์ดเรามีเยอะแล้วครับ แถมแต่ละท่านแต่งได้ดีซะด้วย ผมเลยหาแนวฉีกๆคนอื่นให้ผู้อ่านตามเสพดูคับ

สาเหตุหนึ่งที่ผมไม่อยากให้นางเอกโดนจริงๆตั้งแต่แรกๆ ผมเชื่อว่า (ความเชื่อส่วนบุคคลล้วนๆ ไม่มีอ้างอิง) สภาพจิตใจของคนที่ผิดพลาดให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนรักและเป็นคนที่ค่อนข้างหัวโบราณ มันน่าจะทำร้ายจิตใจเธอมากๆ ผมไม่อยากปลอบใจให้หายแล้วเอามาโดนเชือดต่อคับ ผมจึงพยายามลากยาวการเฉียดมาจนเกือบจบนี่แหละครับเพื่อให้มันเป็นประเด็นของเรื่อง อีกอย่างหากผมเลือกที่จะให้นุ่นโดนมิดด้ามตั้งนานแล้ว คงหมดเสน่ให้น่าติดตาม (แอบรู้นะ ว่าเชียร์ให้โดนสักทีเถอะ หึๆๆ ตอนจะโดนจริงๆก็บอกว่า ใจหนึ่งก็อยากให้โดน อีกใจก็เชียร์ให้รอด)

สุดท้าย ต้องกล่าวขอบคุณ Xonly ที่ให้เป็นแหล่งสิงอยู่มานานมาก และให้ลงผลงานขำๆ สองเรื่องนี้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคับ ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ขอบคุณทุกการเข้าอ่าน หากจะกล่าวขอบคุณเป็นพิเศษเป็นรายคนคงไม่พ้น คุณ kaithai (Global mod) ที่ให้กำลังใจและเสนอแนะในตอนแรกๆ ช่วยให้ตอนต่อๆมาค่อยดูดีขึ้น ขอบคุณคุณ phoowadol และคุณ peddoที่ให้คำแนะนำและมีส่วนร่วมกับนิยายตลอดแทบทุกตอนไม่ว่าจะซ่อนหรือไม่ จนบางครั้งผมแทบจะรออ่านคอมเมนต์กลับเลยทีเดียว รวมถึงท่านอื่นๆที่คอมเมนต์ให้กำลังใจแต่ผมไม่ได้สังเกตจึงไม่ได้เอ่ยนามและทุกท่านเข้าชมทำให้ผมมีแรงใจเขียนจนจบครับ หากผิดพลาดประการขอให้ท่านๆอภัยให้มือใหม่หัดเขียนด้วยนะครับ

สุดท้ายของสุดท้าย หากโอกาสอำนวย อาจจะมีผลงานเรื่องใหม่หรือภาคต่อมาลงครับ ผมเปล่าสัญญานะครับ ผมเอ่ยลอยๆ ผมไม่ใช่เอกที่รักษาสัญญากับนุ่นตลอด ::HoHo::

############################################################
ผลงานที่ผ่านมา
เรื่องสั้นคั่นรายการ
<1:ผัวโรคจิต>
<2:รสนิยมเดีียวกัน>
ว่าที่เจ้าสาว
<1:วันบริจาคทุนการศึกษา>  part-1
<2:ถ่ายพรีเว็ดดิ้ง>  [part-1(intro)]   [part-2]
<3:คอร์สเจ้าสาว> [part-1]  [part-2]  [part-3]
<4:วันลองชุด>  part-1
<5:วันรับแหวนแต่งงาน>  [part-1(intro)]  [part-2]  [part-3]
<6:ปาร์ตี้สละโสด>  [part-1(intro)] [part-2]
<7:วันวิวาห์>
แม้ว่าใครจะประเมินตัวเราให้ต่ำต้อย แต่คุณค่าของเราไม่ได้ด้อยตามไปด้วย

Joppi2U2

#1
ขอให้มีคนอ่านเยอะๆเถอะครับอยากอ่านภาคต่อ #จบได้ดีมากครับเนื้องเรื่องที่แต่งมาอ่านแล้วอินตามบางช่วงบางตอนถึงกับใจเต้น#  ขอบคุณครับที่แต่งเรื่องดีดีมากลงให้อ่าน///ถ้ามีถาคต่อก็คงจะให้ออกแนว NTR เยอะๆ มีปมต่างๆตัวร้ายพิชิตนางเอก 

ระทวย จริง

จบแล้วมีภาคต่อเลยนะครับนุ่นจะเกือบโดนใครอีก

retirenavy

ใจหายหมดนึกว่านุ่นน้อยโดนจริงๆสุดยอดมากชอบคุณมากๆครับที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่าน

ชำนาญ หาญสำรำ

เดาถูกแค่ว่าเป็นแผนของเอกแต่เดาผิดที่ว่าเป็นไอ้เสริมกระซวกนุ่นน้อยซะไม่ยั้งขนาดนั้นที่แท้เป็นเอกสวมรอยมานี่เอง.. มิน่าเอกถึงพยายามขอโทษนุ่นตลอดเลย... จบได้ดีจะรอชมผลงานชิ้นต่อไปนะครับ

sp502

ตอนแกนึกว่านุ่นจะโดนซะแล้ว ที่แท้เป็แผนของเอกนั่นเอง เกือบไปแล้วไหมละตาเอก เกือบไม่ได้แต่งงานซะแล้ว

ddefbm ddefbm

นุ่นรอดอีกแล้วจากตอนก่อน...ตอนนี้จะมีอะไรตื่นเต้นอีก

Phoowadol

เอาส่วนตัวก่อนนะครับ อันที่จริงผมเองต่างหากที่ต้องกล่าวคำขอบคุณ
ต่อท่าน ที่ปั้นแต่งนิยาย อีโรติค มาให้อ่านกัน. ขอบคุณมากจริงๆที่กล่าวถึงผม และยินดีเสมอสำหรับให้กำลังใจแก่ท่าน
    เข้าสู่เนื้อเรื่องกันต่อ.  อืม ไม่คาดคิดมาก่อนเลย ว่าไรท์ จะใช้วิธีนี้ มาจัดสรร เอาใจผู้อ่านที่นิยมความเสียวNTR ซึงมันได้ผลดีมากเลยนะกับตอนที่ผ่านมา นุ่นโดนจัดการไปเรียบร้อย คนอ่านเองก็เข้าใจว่าโดน
เจ้าเสริมล่อไปแล้วด้วย.
    แต่ที่จริงแล้วกลับกลายเป็น เอกเองนั่นแหละที่สวมรอย ได้อย่างเนียนๆเลย ถึงว่าสิว่าทำไม่พี่เอกถึงได้เฝ้าเพียรแต่กล่าวคำขอโทษ. ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง.  ไรท์ ท่านวางหมากได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว และการคลายปมในใจของนุ่นในครั้งนี้ เอกได้ สารภาพไปแล้วโดยไม่ต้องกล่าวคำอธิบายเลยด้วยให้เหตุการณ์ ที่จำลอง มันบอกแทน ว่าคืนนั้นที่โกดัง คือเอกเอง ที่ปล่อนในนุ่นน้อยไปแบบเต็มๆ อย่างนี้ ปล่อนให้ท้อวไปเลยครับ สบายใจละ. ว่าแต่ คืนนี้พี่เอกอย่าบืมต่อแข้งต่อขา ให้ ลูกที่กำลังก่อตัวในท้อง น้องนุ่นนะครับ จบดีจริงๆ ชอบมากครับ
  ปล.  อีกอย่างในช่วงตอนสุดท้ายนี้ ไรท์ ทำให้ผม รักและชื่นชม ป้าตุ้มมากเลยครับที่ให้คำปรึกษา กับนุ่นได้ดีทีเดียว หวังว่าอีกไม่นานจะมีเรื่องใหม่ มาให้ยลโฉมกันอีกนะครับ. ขอบคุณมากครับ ::Thankyou::

ข้าจะแทงเจ้า

เอาจริงๆนะครับ สำหรับผมถ้านุ่นจะโดนผมก็เสียใจเหมือนกัน แต่ก็ยังพอรับได้หรือว่าผมอ่านเรื่องอื่นจนชินรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถ้าไม่โดนจะดีซะกว่ายังไงผมก็คิดเหมือนคนเขียนละครับว่าผู้หญิงที่พลาดโดยไม่มีความเต็มใจอารมณ์มันอาจจะมีบาง แต่เมื่อหมดอารมณ์ตรงนั้นแล้วมันอาจจะเป็นตราบาปสำหรับเธอไปเลยก็ได้ หรือเอาจริงๆหลายๆคนจะยอมรับได้จริงๆไหมหากแฟนเรามีอะไรกับคนอื่นไปทั่ว ถึงจะเป็นเรื่องแต่งแต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงเราจะยอมรับได้ไหม แต่เรื่องนี้จบออกมาแบบนี้ผมก็ดีใจครับถึงไม่รู้ว่าเอกมาทันได้อย่างไร และมาสลับตัวกันตอนไหน แต่จบแบบนี้นุ่นมีความสุขผมเองก็มีความสุขไปด้วยครับ (อินไปรึเปล่าเนี่ย 555)

asdf4321

#9
อ้างจาก: ข้าจะแทงเจ้า เมื่อ พฤศจิกายน 15, 2018, 01:34:17 หลังเที่ยง
ขอบคุณที่ติดตามครับ

เอาจริงๆนะครับ สำหรับผมถ้านุ่นจะโดนผมก็เสียใจเหมือนกัน แต่ก็ยังพอรับได้หรือว่าผมอ่านเรื่องอื่นจนชินรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ถ้าไม่โดนจะดีซะกว่ายังไงผมก็คิดเหมือนคนเขียนละครับว่าผู้หญิงที่พลาดโดยไม่มีความเต็มใจอารมณ์มันอาจจะมีบาง แต่เมื่อหมดอารมณ์ตรงนั้นแล้วมันอาจจะเป็นตราบาปสำหรับเธอไปเลยก็ได้ หรือเอาจริงๆหลายๆคนจะยอมรับได้จริงๆไหมหากแฟนเรามีอะไรกับคนอื่นไปทั่ว ถึงจะเป็นเรื่องแต่งแต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงเราจะยอมรับได้ไหม แต่เรื่องนี้จบออกมาแบบนี้ผมก็ดีใจครับถึงไม่รู้ว่าเอกมาทันได้อย่างไร และมาสลับตัวกันตอนไหน แต่จบแบบนี้นุ่นมีความสุขผมเองก็มีความสุขไปด้วยครับ (อินไปรึเปล่าเนี่ย 555)
หากคุณเชื่ออย่างนุ่น ที่ละไว้ (แต่ไม่ได้หมายความว่ามันคือความจริงที่เป็น ขอบอกเหตุผลที่น่าจะเป็นก่อน)
บังเอิญว่า เอกอยู่ตรงนั้นพร้อมๆกับพวกนั้นแล้วเพราะเอกแทร็คมือถือนุ่นได้ตั้งแต่กายโดนซ้อมแล้ว เอกปลอมตัวเป็นเสริมผู้ค้ารายใหญ่ของแถบนั้นเพื่อหาเบาะแสเชิงลึกของเสี่ยย้ง พยายมหาทางแก้ปัญหาโดยไม่แสดงตัว จนกระทั่งจวนตัวจึงต้องออกมา

แทร็กได้ยังไง ให้ดูตอนห้าครับ สนามบินมีตั้งหลายประตู แต่เอกยืนรอถูกประตูด้วย เพราะเอกติดตามเครื่องหาย เอกเซตเครื่องให้นุ่นครับ(อันนี้ผมทิ้งเบาะแสไว้ตรงชื่อในบัญชีโทรศัพท์ของเอก สาวๆรักขนาดไหนก็ไม่เมมชื่อเลี่ยนขนาดนั้นหรอก จริงไหม) สาวๆระวังนะคนข้างๆอาจจะแสบอย่างหนุ่มเอกก็ได้

สุดท้ายถามว่าทำไมต้องเล่นใหญ่จัดเต็มด้วย เพราะว่าไม่อยากให้พวกเด็กเดินยาสงสัย หากแย่งมันทั้งที ปล่อยง่ายๆก็ไม่เนียน เพราะยังไงพวกนั้นก็แอบดูอยู่ แถมถ้าให้นุ่นรู้มันจะผิดสังเกตพยายามซื้อเวลาให้รถตัวเองจริงๆเข้ามาให้พวกลิ่วล้อมันตกใจหนี หากจัดเร็วเกินไปเกรงว่าจะโดนลูกน้องขอต่อ (หากรถยังไม่มาเอกคงไม่จัด) จะเห็นว่าสิ่งแรกที่เอกทำคือสำรวจก่อนว่ามีใครไหม

จริงๆสิ่งที่เห็นในตอนที่แล้ว ผมเล่าในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เท่าที่นุ่นรับข้อมูลมาเล่า รายละเอียดน้อยมากอยู่แล้ว การกระทำของใครสักคนมันอธิบายได้ร้อยแปดครับ

สุดท้ายผมขอทิ้งเหตุผลงงๆแบบนั้นไปก่อน อันนี้แค่มุมมองที่นุ่นเชื่อครับเพื่อให้จบอย่าง Happy ending ตามผลโหวต หากจะได้ความจริงต้องมุมมองจากปากคนทำครับถึงจะได้รายละเอียด หึๆๆ
แม้ว่าใครจะประเมินตัวเราให้ต่ำต้อย แต่คุณค่าของเราไม่ได้ด้อยตามไปด้วย

err

ขอบคุณครับ ที่ยังให้คนอ่านไม่ต้องทนทรมานเพราะนุ่นโดนข่มขืน  ที่จริงก็รับได้นะถ้านุ่นจะโดนของคนอื่นบ้าง  แต่ให้เธอยินยอมพร้อมใจ  หรือแอบนายเอกไปจ้ำจี้อะไรแบบนี้   แบบเมียเจ้านายก็ว่าไป  เพราะว่านุ่นเธอถูกปูทางมาเป็นนางเอกแล้วไง  จะโดนข่มขืนไม่ได้

akennya

แล้วนุ่นจะเก็บความคิดนี้ไว้ในส่วนลึกของจิตใจบ้างไหม

peddo

ขอบคุณ​มาก​ครับ​ที่เอ่ยถึง เอาเข้าจริงผมเม้นต์เอามันซะมากกว่านะครับ ชอบเรื่องนี้ทั้งการวางแนวให้เฉียด การใช้คำำ โดยเฉพาะนุ่นน้อยนี่โดนมาก ผมรู้สึกเหมือนท่านผู้แต่งจะคอยหลีกหาแนวทางที่ไม่ใช่ที่คอมเมนต์​ไว้ซะอีก บางทีก็ทึ่งว่า ฉีกออกไปได้ไง การเขียนแบบมุมมอง​บุคคลที่หนึ่งก็มีเสน่ห์​ครับ เพราะมันทำให้เรามั่นใจได้ไม่สุดว่าอะไรจริง แต่ผมคิดว่ามีไม่กี่ท่านที่เนียน ยอมซูฮกจริงๆ ขอบคุณ​ครับ​😍​

kriangbaac

ชอบครับจบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน บางที่มันดาร์คมากเกินก็เครียดมากกว่าเงี่ยน ขอบคุณมากครับ

mspeed

สนุกมากครับ​ เนื้อเรื่องกระชับ​ น่าติดตามและเอาใจช่วยนุ่นน้อย​ ขอเป็นกำลังใจให้​ และขอบคุณที่แบ่งปันผลงานดีๆให้พวกเราได้อ่านและติดตามครับ