ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ.ร้านคาราโอเกะ Part5 ตอนที่ 52 ( ประสบการณ์ตรงของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, เมษายน 26, 2021, 01:30:14 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ ช่วงนี้อันตรายหนักเลย รู้ว่าหลายท่านจำเป็นต้องออกจากบ้าน

เพราะงั้นอย่าลืม Mask และ เจล แอลกอฮอลล์ นะครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณที่คอมเมนต์กันมาเยอะมาก

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา





★★★★★★★★★★★




ปล. อิมเมจตัวแทนพี่หมิวครับ






★★★★★★★★★★★



ปล.2 รุกะ








★★★★★★★★★★★



ปล.3 เหมียว เหมี๊ยว เหมียว ทีมทะเล








★★★★★★★★★★★



ปล.4 พี่เตย






★★★★★★★★★★★



ปล.5 ท่านสามารถอ่าน ซีรีย์นี้ย้อนหลังได้ทุกตอน




คลื๊กที่ภาพเลย จะมี Link ทุกตอนไว้่ให้ครับ ถ้าท่านมองไม่เห็นลิงค์

ท่านต้องแสดงความคิดเห็นในกระทู้นั้นก่อนครับ เพียง 1 คอมเมนต์

ท่านจะสามารถตามอ่านย้อนหลังได้ทุกตอนแบบง่ายๆ ไม่ต้องหาให้ยุ่งยาก




★★★★★★★★★★★


ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมเริ่มกลับมาทำงานครับ วันแรกงานก็เยอะเลย

แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ พอผ่านไปวันสองวัน

สปีดการทำงานของผมเริ่มกลับเข้าร่องเข้ารอย

ผมก็ทำงานปกติครับ แล้วตอนเช้าวันนึง

หัวหน้าก็บอกว่าวันนี้ลูกค้าจะมาดูบริษัทเรา

ไอ้พวกผมก็ไม่คิดอะไรหรอกก็แค่ทำงานตามปกติ

แต่คำที่ลูกค้าคนนั้นเอ่ยทักมานี่สิ่ ทำให้ผมเหงื่อแตกพลั่กๆๆ

เพราะเธอทักทายว่า.....




★★★★★★★★★★★




ไดอารี่นายโทน ตอนที่52




" อรุณสวัสดิ์ ซารุซัง "



เสียงคุ้นๆหูของผมดังขึ้นมาครับ แล้วด้วยความที่รู้ตัวว่าซารุอ่ะ ตูแน่นอน ตูแน่ๆ ผมเลยหันไปครับ อื้อหือ เอมิ ฟูคาดะ เฮ้ยๆ ผิดๆ รุกะต่างหาก



ผมคิดในใจว่าเฮ้ย รุกะตัวจริงเหรอนั่น ซึ่งระหว่างนั้นคือผมเงียบนะ ผมพยายามทำตัวเหมือนลีบๆ เงียบๆ และพยายามเฝดตัวหายไปในเงามืด


[ รุกะ ]  :  สวัสดีค่ะ คุณ ( ชื่อจริงของผม )



เนี่ยดูรุกะ โคตรแสบ พอเรียกซารุและผมไม่ตอบ เธอก็เรียกชื่อจริงผม จากที่เงียบๆและหันไปมองสาวสวยเป็นตาเดียว คราวนี้สายตาแทบทุกคู่ หันมามองที่ผมหมดเลย



ชิบหายแล้วแกล้งตายทันมั้ยวะเนี่ย ทำไมผมแม่งลืมคิดไปว๊าาา  ว่าลูกค้าที่พึ่งคุยธุรกิจไปด้วยคือคุณเคย์ แล้วตอนหัวหน้าบอกว่าลูกค้าจะมาเยี่ยมเยือน



ผมก็ไม่ทันนึกถึง ตอนนี้สายตาของคนในแผนกต่างมองเป็นสายตาเดียวกันหมด ผมทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากยอมจำนนฟ้าดิน และทักทายรุกะกลับไป



[ ผม ]  :  สวัสดีครับ เอ่อ... เอ่อ....


ผมนึกๆ ๆ ๆ แล้วก็นึก ตอนนี้ไม่ใช่ที่เชียงใหม่ เราจะทำตัวสนิทกันไม่ได้ การเรียกชื่อต้นมันเป็นการเสียมารยาท ผมกำลังจะทักว่า สวัสดีครับคุณ ( สกุลของเธอ ) แต่ว่าตอนนั้น


[ รุกะ ]  :  กรุณา ทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม ด้วยการเรียกชื่อดิฉันนะคะ ไม่ใช่นามสกุล



แม่จ้าว นี่ตกลงพวกผู้หญิงนี่เขามีสัมผัสที่หกกันหรือไงวะ ผมก็เอ่อะ เอ่อ... เอ่อ... แล้วตอนนั้นเว้ย ผมแม่งโคตรรักหัวหน้าเลย โคตรซุปเปอร์ซัพ



เขาเดินเข้าไปหากลุ่มรุกะ แล้วพูดทักทายและแนะนำตัวด้วยความนอบน้อม นั่นจึงทำให้คุณรุกะต้องหันไปคุยกับหังหน้าผมอย่างเลี่ยงไม่ได้




หัวหน้าผายมือเชิญรุกะไปอีกทาง ซึ่งเธอก็ไปทันทีไม่มีอิดอด และพอประตูปิดลงเท่านั้นแหละ ออร่าน่ากลัวก็พวยพุ่งออกมาเหมือนทันที



ผมนี่รีบชิ่งให้ไวเลยครับแต่ว่า พี่ตั้มมันก็พูด เฮ้ย ไอ้โทนมึงสารภาพบาปมาซะดีๆ คนเมื่อกี้ใครวะ พี่ตั้มแม่งเปิดประเด็นอีกแล้ว


อารมณ์ตอนนี้เหมือนพี่ตั้มมันเป็นความหวังของหมู่บ้านอ่ะในสถานการณ์ที่อึมครึม มีเขาคนเดียวที่กล้าพูด กล้าถาม



ผมถอนหายใจแล้วบอกลูกสาวคุณเคย์ ลูกค้ารายใหญ่คนใหม่ แล้วไอ้ชาติก็อุทานออกมาว่าเฮ้ย ( ชื่อจริง นามสกุลจริง ของรุกะ )  เหรอวะไอ้โทน ผมก็บอกเออ แล้วถามมันไปว่ามึงรู้จักเหรอ


มันบอกโหมึงไปทำงานยังไงวะ ถึงไม่รู้จักประวัติของเขา ผมก็บอกว่ากู ไปทำงาน กูไม่ได้ไปสืบประวัติใครไอ้ห่า แล้วกูก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเจอเขา



ผมพูดจริงๆนะเว้ย ภ้าท่านอ่านเชียงใหม่ไดอารี่ ท่านจะรู้เลยว่าผมแทบไม่รู้ห่าอะไรเลย เหมือนไปตายเอาดาบหน้าพูดกันตรงๆ



[ พี่อ้อม ]   :  แล้วไปทำอีท่าไหน ถึงเหมือนรู้จักกันเป็นการส่วนตัวอ่ะอีโทน คนญี่ปุ่นเขาถือเรื่องชื่นต้นมากเลยนะ ถ้าไม่สนิทกัน เขาจะไม่ให้เรียกกันเด็ดขาด


พี่ตั้มก็พูดว่า เฮ้ย แบบนี้ก็ดีดิ่ถ้าเป็นคนรู้จักก็จะได้ไม่ต้องเกร็งมาก เชื่อมั้ยว่าพอพี่ตั้มพูดแบบนั้น ผมหันมองหน้าพี่ตั้มเลยหน้าผมซีดเผือดและบอกว่า พี่ตั้มพี่อย่าไว้ใจรุกะเลยครับ ขานั้นได้เลือดพ่อมาเต็มๆโคตรเขี้ยวเลย



ถึงจะดูเป็นกันเองแต่เรื่องงานคือหย่อนไม่ได้เลยครับ พอผมพูดแบบนั้นทุกคนก็ดูเกร็งเลย ผมก็เลยพูดไปว่า ก็ทำอย่างหัวหน้าบอกเป็นตัวของตัวเอง ทำงานเหมือนปกติอย่าสร้างภาพเพราะเขาจะจับได้


ผมพูดอีกว่าอาจจะพูดแรงไป แต่ถ้าใครเหมือนพยายามตีสองหน้าว่าตั้งใจทำงานกว่าปกติ รุกะกับคุณเคย์จับได้แน่ๆ ทุกคนก็เออๆแล้วแยกกันไปทำงาน ส่วนตัวผมก็กลับไปที่ห้องทำงานส่วนตัว เอ่อเรียกว่าคอกดีกว่านะ



ผมกลับมานั่งทำงานเหมือนเดิมครับ ซึ่งรู้สึกว่าโชคดีกว่าคนอื่นๆ คือพี่ๆเขาก็มีคอกทำงานกันนะ สวยด้วยที่สำคัญ


หัวหน้าใส่ใจกับรายละเอียดเล็กๆพวกนี้ครับ ฉากกันในแต่ละโต๊ะจะเป็นอคิลิคใส หน้าประมาณ 6 มิล  สลักลวดลายเถาวัลย์


ดูแล้วสบายตาครับ ผมว่าแบบนี้อ่ะดี เวลาคิดอะไรไม่ออกก็มองนั่น มองนี่ได้ แต่ผมนี่สิ่ ห้องสี่เหลี่ยม แต่ถามว่าผมรู้สึกกดดันไหม


กับห้องขนาด 3 เมตร x 3 เมตร ก็ไม่นะครับ ผมติดว่ามันเป็นพื้นที่ส่วนตัวเลยล่ะ เคยมั้ยครับ อยู่ในห้องที่โคตรกว้าง แต่เรากลับไป นั่งเล่นในมุมเล็กๆ



อารมณ์ผมก็คงงั้นแหละ อ่ะกลับมาต่อ ผมนั่งทำงานไปเรื่อยตามประสส แล้ว  MSN ก็แจ้งเตือนเข้ามา ดูเหมือนว่าผมจะโดนดึงเข้ากลุ่ม MSN ครับ


[ พี่ตั้ม ]  :  มึงสารภาพบาปมาซะดีๆ ไอ้โทนว่าไปทำอะไรที่เชัยงใหม่กันแน่



[ พี่อ้อม  ]   :   น่าสงสัยอ่ะ ถ้าดาวแฟนแกรู้นะ โดนเจี๋ยนแน่ชๆ



ผมนั่งอ่านแล้วก็งง ว่านี่อะไรวะเนี่ย แล้วตอนนั้นก็มีข้อความนึงเด้งขึ้นมาครับ ดีเนอะทำงานมีแต่ผู้หญิงใหม่ๆมารู้จัก ผมว่าทุกท่านคงเดาได้ไม่อยาก


ว่าเจ้าของข้อความประชดนี้คือใคร ผมตอบไปว่า ผมไปทำงาน การที่จะต้องคุยกับว่าที่ลูกค้ามันผิดตรงไหนล่ะ


[ พี่อ้อม ]  :  แต่ขนาดยอมให้แก เรียกชื่อตรงๆแบบนี้ แปลว่าต้องสนิทกันนะ



ผมเงียบกริบ มือนิ่งสนิทเลย จะว่ายังไงดีล่ะนั่น สนิทมั้ยไม่รู้นะ แต่ก็เคยนั่งแนบ เกือบนาบ ในบ่อออนเซ็นกันมาแล้วด้วยสิ่ ตอบลำบากชิบ



แล้วผมดูรายชื่อแล้ว ในกลุ่มนี้จะมีแค่กลุ่มทีมทะเลครับ เพราะตั้งแต่กลับมาจากมะเลดูเหมือนว่าพวกเราจะสนิทกันขึ้นเยอะเลย


[ พี่ทีมงาน ]  :  เฮ้ย ทำงานๆๆ เดี๋ยวพ่อกริ้ว



พี่คนนึงพิมพ์มาใน   msn  ครับ เราก็สะดุ้งกันเลย เออว่ะทำงานๆ พวกผมนั่งทำงานต่อครับ แต่ถามว่าตั้งใจ 100% มั้ย ตอบอย่างภูมิใจว่าไม่เลย



พวกผมนั่งทำงานต่อนะ ผมก็คิดว่า การมาดูบริษัทที่หัวหน้าบอก คงจะเป็นการดูโดยรวม ไม่ได้เจาะจงอะไรหรอก อ่าส์สบายตัวไปกู



สิ่งที่ผิดสังเกตมาหลายนาทีแล้วคือทุกคนเงียบปกติ เงียบจนนึกว่านี่พักเที่ยง ผมฟยิบแฟ้มเอกสารออกมา เพื่อเอาไปให้พี่จักร



แต่พอเปิดประตูออกไป อื้อหือ มาเป็นหมู่คณะเลย มีแต่พวกที่อยู่บนบอร์ดบริหารทั้งนั้น ผมรีบปิดประตูกลับเข้าไปทำงานเลยครับ



ค่อยส่งก็ได้มั้งเอกสาร ผมก็กลับมานั่งตามปกติ แต่ป๊อปอัพแจ้ฃเตือนของ msn ก็เด้งขึ้นมาครับ แล้วเคยป่ะที่บางสิ่งบางอย่าง ไม่ต้องเปิด ไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องผ่านสายตา เราก็รู้ได้ว่ามันอันตราย


" เอกสารพี่ล่ะ เอามาด่วน "


นี่ไงบรรลัยของแท้ พี่จักรที่ไม่เคยทวงงานผมสักครั้ง ตอนนี้แกก็ทวงเฉยเลย ผมไม่ได้รู้สึกเคืองใจอะไรนะ แต่ผมคิดในใจ ทำไมต้องเวลานี้วะ ผมบอกพี่จักรว่าขอเวลาอีกนิดครับแก้อักษรนิดหน่อย แล้วผมก็ทำงานเพื่อซื้อเวลา จนกระทั่งคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว


ผมก็เดินไปส่งงานตามปกติ พี่จักรรับงานไปมอง ๆ ๆ ๆ แล้วก็บอกอื้ม ทำงานละเอียดขึ้นอีกนิดนึงแล้วนี่ดีมาก ไม่เสียทีที่ไปทำงานเชียงใหม่ ผมก็บอกว่าไม่ถึงขั้นนั้นหรอกพี่ ไปไม่ถึงครึ่งเดือนผม คงไม่เก่งขึ้นทันทีหรอก


คือไม่ได้ถ่อมตัวนะ แต่มันก็อย่างที่บอกแหละครับการไปทำงานที่นั่นแค่ไม่ถึงครึ่งเดือน ผมคงจะไม่ได้เก่งแบบก้าวกระโดดหรอก แต่พี่จักรก็บอกมั่นใจในตัวเองแล้วทำงานให้ดี นี่ก็แก้จุดบกพร่องได้หลายจุดแล้ว



ผมตอบครับๆ แล้วกลับมาที่คอกทำงานครับ ระหว่างนั่น เอี๊ยดดด ผมนี่เบรกเลย เพราะคณะคุณเคย์เดินมาพอดี ผมหลบเลยครับ เพราะว่าตอนนี้จอยไม่อยู่ไงล่ะครับ คือไม่ได้สำคัญตัวเองว่า คุณเคย์เขาจะหันมาคุยหรอกนะ



แต่มันก็ต้องเผื่อในสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดๆไว้ด้วยสิ่จริงมั้ย ผมหลบเข้ามุมข้างๆ พยายามกลืนตัวเองให้เข้าไปในมุม จนคุณเคย์และทีมงานเดินไปครับ คุณรุกะเองก็มีผู้บริหารคอยตามประกบเลย


ผมกล้าบอกเลยนะว่าถ้าเธอถูกใจ แล้วคบหากับใครคนนั้น มันยิ่งกว่าตกถังข้าวสารอีกครับ อาจจะเรียกว่าโกดังข้าวสารเลยก็ได้ครับ ผมเดินกลับมาทำงานตามเดิมครับ ไม่ได้สนใจอะไรงานของผมมันจบที่เชียงใหม่แล้ว



ผมกลับเข้ามาในห้องก็เจอเหมียวอยู่ ผมก็หืมเข้ามาทำไร เหมียวก็ถามว่าไรอ่ะแค่นี้ตกใจอะไรเนี่ย ผมก็บอกเปล่า ก็ไม่คิดว่าจะมีขโมยเข้ามา เหมียวมองผมตาขวางเลยแล้วบอกไร ใครขโมย เอางานมาให้เหอะ



ผมก็รู้อยู่แล้วล่ะ แค่หาเรื่องกวนตีนไปงั้น ผมบอกอ้ะ ๆ ๆ ล้อเล่นไหนล่ะงาน เหมียวก็ยื่นแฟ้มให้ 2 แฟ้มแล้วบอกว่า งานนี้หัวหน้าบอกว่าขอแบบละเอียดอ่ะ ผมฟังแล้วก็ประมวลผลต่างๆ ถ้าบอกขอละเอียด แต่ไม่ได้ระบุเวลามา



จากที่ผ่านๆมาก็คงจะให้เวลาผม 3 – 4 วัน โอเคได้ ผมบอกอื้มโอเคขอบใจนะ ผมนั่งลงเปิดคอมครับ แต่ตอนนั้นเหมียวก็ยังมองอยู่ ผมก็แอ้ะ !!!  ไป 1 ที เพื่อให้เธอรู้ว่าตอนนี้ผมจะเข้ารหัสคอมแล้วนะ


เหมียวรู้ตัวแล้วหันหนีเลยครับ พอผมเข้ารหัสเสร็จผมก็บอกไปว่า โอเคแล้ว เหมียวหันมาแล้วบอกว่า กลัวจะเห็นรหัสเหรอไงเนี่ย ผมก็บอกเหมียวนะว่า งานหลายอย่างมันเป็นความลับบริษัท ถ้ามันหลุดไปรับกลัวรับผิดชอบไม่ไหว เหมียวก็อาจจะซวยด้วยนะ


เพราะงั้นการที่เหมียวไม่เห็นรหัสน่ะ ดีกับตัวเหมียวอยู่แล้ว เหมียวก็บอกโห !!! นี่คิดจะซักทอดกันงั้นสิ่นะ ผมก็บอกไปว่าเปล่านี่นา เหมียวเดินมาตีแขนแล้วพูดว่า เดี๋ยวนี้กล้าพูดกล้าแกล้งนะนายหน้าบึ้ง



ผมก็ยักคิ้วกวนตีนแล้วบอกว่าคนเรามันก็ต้องพัฒนาบ้างสิ่ ผมพูดไปก็พิมพ์ไปนะ อ่าส์ สกิลการพิมพ์ที่ฝึกมาจากการเล่นเกมส์โคตรมีประโยชน์ แล้วรู้ป่ะความเฟี้ยวมันอยู่ตรงที่หันกลับมาคุยกับเหมียว


ตามองเหมียว แต่มือก็ยังพิมพ์ไป พอหันหน้ากลับไป โว้ว พิมพ์ไม่ผิดสักตัว เฮ้อ การเล่นเกมส์ที่ต้องใช้การพิมพ์ตอบโต้ไวๆ มันมีประโยชน์แบบนี้นี่เอง จนพิมพ์ได้แปปนึงผมก็พักนะ กระดูกลั่นไปทั้งตัวเลยกร๊อบ กร๊อบ


ผมก็หันไปถามเหมียวว่าไม่ไปทำงานล่ะ เหมียวก็บอกเบรกอยู่อ่ะ อีก 5 นาที  ผมมองนาฬิกาแล้ว เอ้อ นี่เวลาเบรกนี่เนอะ ผมก็ลุกบิดตัว กร๊อบ กร๊อบ แล้วผมก็หันไปหาเหมียวบอกเหมียวก๊าบ ชงกาแฟให้หน่อยจิ่ น๊า น๊า


คือต้องบอกก่อนเลยนะครับท่านผู้อ่านที่บ้ากาม เอ้ย  ๆ ๆ ที่น่ารักทั้งหลาย เหมียวชงกาแฟอร่อยมาก มากจนผมคิดว่าเธอจบ เอกการชงกาแฟมาอีก คือบอกไปเลยว่าอยากได้แบบไหนเหมียวจัดให้ได้หมด



ผมติดใจเหมียวตั้งแต่ที่ทะเลเลยล่ะ เฮ้ย ๆ ๆ ผมหมายถึงติดใจฝีมือการชงกาแฟ ฮู๊ววววววววว  เหมียวมองหน้าแล้วบอกไม่ คำเดียวเลยสั้นๆ เหมียวบอกชงเองสิ่ ผมก็บอกน๊า ๆ ๆ ๆ ชงให้หน่อยน๊า เหมียวบอกว่าไม่ !!!



ชงให้กินที่ทะเลก็พอแล้ว ผมก็บอกเชอะ งั้นไปหากินที่ทะเลก็ได้ แล้วผมก็เดินมาชงกาแฟกินเองครับ เฮ้อ ฝีมือการชงกาแฟของผมนี่ก็เข้าขั้นเหมือนกันนะ เข้าขั้นหายนะเลยครับ !!! ระหว่างที่ผมกินกาแฟ ไอ้ชาติหมาก็เดินมาเหมือนกันครับ



มันก็พูดว่าดีว่ะไปทำงานต่างจังหวัดแถมยังได้รู้จักคนใหญ่คนโตอีก เฮ้อ บุญแท้ๆ ผมก็ถามว่าแล้วทำไมไม่ไปล่ะเฮ้ย หัวหน้าเขาก็บอกว่าหาคนอาสาไปตั้งหลายรอบแล้ว ไอ้ชาติคนๆๆถ้วยกาแฟ เสียงช้อนกระทบแก้ว ก๊อง แก๊ง ก๊อง แก๊ง มันพูดกับผมว่า ไม่ไปอ่ะ มันไม่ใช่แนว



ฟังแล้วอยากจะฟาดหน้า ให้ขึ้นแนวสักสองสามแนวไอ้ชิบหาย  ไอ้ชาติหมาจริงๆแล้วมันเป็นคนที่มีศักยภาพที่พร้อมระเบิดมากเลยนะ แต่ติดไอ้ตรงความขี้เกียจของมันนี่แหละ จนบางทีผมก็คิดนะว่าถ้ามันขยันและตั้งใจมากกว่านี้


ผมอาจจะต้องเรียกมันว่าหัวหน้าเลยก็ได้ คนที่มีพรสวรรค์จะแบ่งเป็นคนสองประเภทครับ มีพรสวรรค์แต่ไม่หยุดพัฒนาไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม กับสอง พวกที่เชื่อมั่นในพรสวรรค์ของตัวเองมากเกินไปอย่างไอ้ชาติเป็นต้น


ก็อย่างว่าแหละครับ คนที่พี่พรสวรรค์ มักจะหลงเริงไปกับความเก่งของตัวเอง เพราะคิดว่าดีอยู่แล้ว เพราะคิดว่าเก่งอยู่แล้ว คนจำพวกไอ้ชาติหมาจึงไม่คิดจะยอมลำบากเพื่อพัฒนาตัวเองไปข้างหน้า คงเพราะคิดว่าแบบนี้ดีแล้ว เหนื่อยน้อยๆแบบนี้ดีแล้วล่ะมั้ง



แต่สำหรับผม ผมหิวทั้งการเติบโต หิวทั้งเงินเดือนที่จะเพิ่มขึ้น เพราะบอกตรงๆ ระยะเวลา 1 ปีที่ทำงานมา เงินเดือนที่เพิ่มมา ยังไม่พอค่าเช่าหอพักเลยครับ เศร้าใจจังโว๊ยยยยยย จริงๆจากใจผมก็เห็นแก่เงินนะ



แต่ถ้าไม่ทำงานให้ดี มันก็ไม่มีทางได้เงินเดือนเพิ่มจริงไหมล่ะ พี่แมนเขาเคยสอนผมไว้ครับว่าทำอะไรต้องทุ่มลงไปให้หมด การทำอะไรครึ่งๆกลางๆ ผลมันจะออกมาไม่ดี ยิ่งทำงานด้วยแล้ว คนที่มีประสบการณ์เขามองออก


ว่าอันไหนตั้งใจ อันไหนแค่ทำขอไปที่ เฮ้อออ ผมก็ทำตามอยู่นี่แหละคร๊าบบ หลังจากที่หมดเวลาทำงานช่วงเช้า ผมนี่เตรียมตัวลงไปกินข้าวเลย ดูเหมือนว่าเพราะคุณเคย์มาเยี่ยมชมบริษัทเลยทำให้ วันนี้งานเร่งๆด่วนๆ จะถูกพักไว้



เพราะหัวหน้าแทบทุกแผนกต้องไปรับหน้าคุณเคย์ และที่สำคัญ พวกบริหารที่ยังโสด ยังไม่มีเมีย ก็จะพยายามเข้าหารุกะตลอด ไอ้พวกห่านี่ล้างหน้าไม่ทั่วสิ่นะหูยังดำอยู่เลย แต่ก็ว่าไม่ได้หรอกเยอะ มันสิทธิ์ของเขาแหละ




ต่างคนก็คงอยากจะหาสิ่งที่คู่ควรให้กับตัวเองแหละเนอะ มันควรจะเป็นอย่างงั้นแหละมั้งนะ  ผมเดินลงมากับเพื่อนร่วมแผนกก็คุยกันเรื่อยๆเปื่อยๆครับ เรื่องงานเอาวางไว้ที่แผนกนั่นแหละ เอาเรื่องงานมาคุยตอนกินข้าว รสชาติจะเลี่ยนเอา



[ เพื่อนรุ่นพี่ ]   :    ไอ้โทน มึงนี่จะโดนนินทาว่าเด็กเส้นเอานา


[ ผมรุ่นพี่ ]  :  ทำไมคิดงั้นล่ะพี่


[ เพื่อนรุ่นพี่ ]  :   โห้ !!!  มึงเข้ามาทำงานแค่ปีเดียว แต่ดูดิ่ได้ทำงานเกรดดีๆ หลายอย่างเลย พวกอิจฉาจะเอาไปนินทาเอาดิ่


เพื่อนผมคนนี้เข้ามาทำงานได้ราวๆ 2 ปีแล้วครับ เรียกว่าเพื่อนรุ่นพี่ก็ได้ แต่ผมกับเขาสนิทกันเพราะต้องดีลงานไปๆมาๆ ตลอด จริงๆแล้วการหาเพื่อนดีๆในที่ทำงานนี่เป็นสิ่งสำคัญเลยนะ เพราะเอาจริงๆงานเราทำคนเดียวไม่ได้


เพราะงั้นการได้คนดีๆมาร่วมงานด้วย ถึงแม้จะเป็นงานเล็กๆนี่ก็ถือว่าโชคดีโคตรๆเลยนะ อ่ะกลับมาต่อครับ ผมก็ถามเขาว่าแล้วพี่คิดไงอ่ะ พี่เขาบอกไอ้ตัวพี่น่ะไม่เท่าไรหรอก สายงานเราไม่ได้ทับกันอีกอย่างพี่ก็เห็นว่าเอ็งทำงานจริงๆ



แต่ไอ้พวกที่มันจะนินทาเอ็งนี่สิ่น่ากลัว เพราะไม่รู้ว่าคนนินทามันจะมาแนวไหน ผมก็บอกไปนะว่าช่างแม่งเหอะพี่ ถ้ามันอยากได้ตำแหน่ง อยากได้งาน ก็ต้องขวนขวายมาเองดิ่ ไม่ใช่ว่ารอให้งานมาป้อนเหมือนมารอข้าวเย็น



แต่พี่เขาก็บอกว่ามึงอย่าคิดแบบนั้นด้านเดียว เขาบอกว่ายิ่งนานไป มันจะยิ่งบั่นทอนจิตใจของเอ็งนะเว้ย แล้วอีกอย่างพี่ก็ไม่รู้ว่าคนแบบหัวหน้าเราอ่ะ จะมีอีกสักกี่คนในบริษัท ผมก็หืมอะไรเหรอครับ


[ เพื่อนรุ่นพี่ ]  :  ก็คนที่ฟังลูกน้อง ลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเองไง แผนกเราไม่มีปัญหาเพราะพี่เขาบู๊แบบนี้แหละ ส่วนแผนกอื่น พี่ไม่รู้


มันเป็นอย่างที่เพื่อนรุ่นพี่ของผมบอกจริงๆครับ คนที่ตำแหน่งสูงๆ บางครั้งก็จะไม่สนใจ ไม่สนห่า สนเหว อะไรเลย ฟังอะไรมา ก็สั่งให้จัดการเอง หรือไม่ก็สั่งจัดการแบบส่งๆโดยที่ไม่ลงมาดูรายละเอียด ไม่ลงมาดูปัญหาด้วยตัวเอง


ผมก็บอกไปว่า คิดมากไปก็เท่านั้นแหละพี่ เราทำของเราเต็มที่แล้วนี่หว่าใครจะพูดไงก็ช่างมันแล้วกัน พี่เขาถอนหายใจแล้วบอก อืม คิดแบบนั้นมันก็จะดีกับตัวเองหล่ะนะ ทำงานเก็บประสบการณ์ไปอีกสัก 4 – 5  ปี



แล้วถ้าที่นี่มันไม่ใช่ หรือ ไม่ทำให้เอ็งโตในสายงานได้ก็หาที่ทำงานเถอะ ผมฮึ๊ แล้วถามพี่เขาเลยอะไรเหรอครับ พี่เขาก็บอกว่า พูดแบบจริงๆไม่โลกสวย องค์กรก็ไม่ได้รักเราแบบ 100 % นะไอ้โทน ผมนิ่งและฟัง พี่เขาก็พูดอีกว่า





ตอนนี้เก็บผลงานอะไรได้ก็รีบเก็บได้โอกาสมาก็ทำให้เต็มที่มันดีกับตัวเอ็งนะเว้ย ผมก็ถามว่าแล้วพี่ล่ะทำงาน พี่เขาก็บอกว่า โอ้ย ทำงานอีก 4 – 5 ปีเก็บเงินก็ออกแล้ว พี่เขาก็บอกว่าจริงๆแล้วไม่อยากจะเป็นลูกจ้างไปตลอดหรอก



แต่ตอนนี้ทางเลือกมันมีไม่มากนัก ก็ตั้งใจว่าจะเก็บเงินไปเปิดร้านอะไรสักอย่าง หรือ ไม่ก็ทำกิจการส่วนตัว พี่เขาบอกผมว่า ไม่ว่าจะกี่ปีต่อกี่ปี แต่ของกินก็ยังเป็นที่นิยมตลอดไม่มีลดลง เขาก็ตั้งใจว่าจะเปิดร้านอาหาร ผมก็ตั้งใจฟังนะ แต่พอกำลังจะพูด



พี่เขาก็บอกเฮ้ยๆ กินข้าวๆ พ่อมึงมานู่นแล้ว พอผมหันไปมอง โอ้โห หัวหน้าแม่งเดินมาเป็นบอยแบนด์เลย ผมก็หยุดเหมือนกันครับ เพราะเอาตรงๆ การคุยว่าจะย้ายออกนี่ มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ ไม่มีใครฟังแล้วชอบหรอก



[ หัวหน้า ]  :  เฮ้ย โทนมากินนี่เอง หาตั้งนาน


[ ผม ]  :   โทรบอกผมก็ได้นี่พี่


เผี๊ยะ !!!  แล้วผมก็โดนดีดหูเลย ผมก็อู้ยยยย ดีดหูผมไมเนี่ย พี่เขาบอกว่าโทนไม่ติดแบตมึงหมดหรือเปล่าดูดีๆดิ๊ ผมก็ล้วง ๆ ๆ หยิบ N72 มาดู . . . จอดำ... เออแบตหมดว่ะ เพราะจะว่าไปชาร์จแบตครั้งสุดท้ายก็คือ หลังจากกลับมาจากเชียงใหม่นี่หว่า



พี่เขาก็บอกไอ้ห่า แบตมือถือก็หมด BB ก็ไม่เอาติดตัวมันน่ามั้ยเนี่ย ผมนี่เลิ่กลั่กเลย หัวหน้าเขาท้าวเอวเหมือนกำลังหงุดหงิดนิดหน่อยแล้วบอกว่า เดี๋ยวพักเที่ยงจะมีประชุมเตรียมตัวกันด้วย


แล้วเขาก็หันมาพูดกับเพื่อนรุ่นพี่ของผมว่า เอ็งด้วยเตรียมแฟ้มอะไรมาให้พร้อมนะ เพื่อนรุ่นพี่ผมตอบครับทันที หัวหน้าพยักหน้าอื้มๆ แล้วก็เดินไป พอเดินไปผมก็ถูแนบหูเลย


[ ผม ]   :  อูยยยย เจ็บ


[ เพื่อนรุ่นพี่ ]  :   อย่าลืมแบบนี้อีกนะเว้ยไอ้โทน ถ้าเป็นหัวหน้าแผนกอื่นมึงโดนหนักเลยนะ


[ ผม ]  :  ครับพี่ รีบกินเหอะ เหมือนจะมีงานว่ะ เราสองคน


พี่เขาตอบเออ แล้วเราก็รีบกินข้าวครับ เวลาเหลืออีก 20 นาทีก่อนจะถึงเวลาทำงานช่วงบ่าย ผมก็เดินเข้าไปชาร์จแบตก่อนเลย คือจะบอกว่าลืมก็ได้ครับ แบตสมัยก่อนมันอึดมากๆ หรือ อาจจะเพราะยังไม่มี app ที่มันกินแบต


N72 ของผมก็แค่รับสายกับโทรออก หรือส่ง sms เท่านั้น N72 นี่ก็มือ 2 ครับ ผมซื้อมาจากร้านขายโทรศัพท์ที่ตลาด มันเป็นตู้ๆๆ วางเยอะๆอ่ะ สมัยก่อนนี่ร้านโทรศัพท์เยอะพอๆกับร้านอินเตอร์เนตครับ มันก็ถึกดีนะ


ขนาดขว้างแตกเป็นชิ้น ช่างซ่อมมันก็ยังซ่อมได้ พอตกน้ำหน่อยก็เอาไปทิ้งไว้ในถังข้าวสาร อ่ะกลับมาต่อ ผมชาร์จแบตมือถือ เปิดเครื่อง แล้วก็หันไปที่คอมพิวเตอร์ ตอนนี้ต้องทำงานแข่งกับเวลาครับ


เพราะไม่รู้ว่าอีก 20 นาทีจะเจออะไรบ้าง แต่ว่าตอนนั้นมือถือก็ดังขึ้นมา ผมมองเห็นว่าดาวโทรมาก็รับเลยล่ะ


[ ดาว ]  :  ฮัลโหล ปิดเครื่องทำไมอ่าพี่โทน


[ ผม ]  :  เปล่าๆ แบตมันหมดครับ


[ ดาว ]  :  อื้ม ดาวรบกวนไหมคะตอนนี้



ผมตอบไปว่าไม่ๆ ไม่ได้รบกวนหรอก พูดมาสิ่มาอะไรหืม ดาวเธอบอกว่า พี่จิ๋วกับเจ๊ เขาให้มาถามดูว่าตอนนี้ถ้าจะต้องงานงาน สเป็คนี้ นี้ นี้ๆ ๆ   พอจะทำได้ไหม ผมก็เลยบอกดาวไปว่า ต้องให้เจ๊หรือพี่จิ๋วติดต่อกับหัวหน้าพี่นะ



เพราะว่าถ้าติดต่อพี่โดยตรง มันจะกลายเป็นว่าข้ามหน้าข้ามตาเกินไป แล้วพอถ้าคุยกันหรืออะไรเรียบร้อย จะระบุคนรับทำงานก็ไม่ว่าอะไร ดาวก็บอกนะว่าเลือกพี่อะแหละ ผมก็พูดว่าหืมทำไมล่ะ แล้วแม่เสือสาวก็ตอบว่า


" ก็..... อยากนี่นา "


อูยยย เสียวสันหลังเลยก๊าบบบบ ผมพูดเดี๋ยวๆๆๆ อยากอะไรหืม ดาวก็บอกนะว่า อยากทำงานกับคนรู้ใจไง คิดไปไหนอ่ะพี่โทน ฮู่วววว โล่งอก แต่โล่งอกได้ไม่เท่าไรดาวก็บอกว่า รู้ไปหมดว่าชอบท่าไหน ชอบให้จุ๊ปตรงไหน เฮ้อถุงยางรอเจ้าของมาใช้อยู่นะคะ



น่านไง น่านไง นี่แหละแม่เสือดาว ผมมองนาฬิกาแล้วก็ต้องหาทางพูดตัดบทเพราะมันจะไม่ทันแล้ว แต่ดาวก็บอกว่า งั้นแค่นี้ก่อนนะคะพี่โทน เสียงพี่ดูรีบๆ คราวหลังถ้ามีธุระก็บอกดาวตรงๆสิ่ ผมถามหืมรู้ด้วยเหรอ



ดาวก็บอกว่าปกติพี่ไม่พูดแบบนี้นี่นา คราวหลังถ้าติดธุระบอกดาวตรงๆนะไม่ต้องเกรงใจหรอก โอเคนะคะ ผมก็ตอบจ้าๆๆ น่ารักจริงเลย ดาวก็บอกเปลี่ยนคำชมเป็นอย่างอื่นดีกว่าน๊อออออ แล้วก็วางไปเลย



นั่นไงวางยาแล้ว เพราะแค่คิดว่าจะได้เล่นฉากเสียวกับดาวหำผมก็ลุกแล้ว ผมรีบเก็บหลักฐานเอาแฟ้มมากดให้มันลง ลงไป ลงไป พยายามทำให้ใจสงบ แต่เหมียวก็เข้ามาพอดี ถามว่าแฟ้มงานพร้อมยังอ่ะ ผมก็บอกอื้มๆพร้อมแล้ว  แต่เหมียวก็เดินเข้ามา


ดึงแฟ้มออกไปแล้วบอกงั้นก็รีบไปสิ่ นี่แหละครับความบรรลัย เพราะว่าแท่งหรรษาของผมมันยังไม่สงบดี เหมียวเห็นครับ เห็นแท่งหรรษาของผม เธอเห็นว่ามันโด่จนดันเป้ากางเกงออกมานิดนึง



เหมียวมองไปที่หน้าจอคอมก่อนเลย แต่มันก็มีแต่งาน เธอถามว่านี่แอบดูเวปโป๊เหรอเนี่ย ผมก็บอกเปล๊าาาาา  เหมียวเดินมาหาผมแล้วบอกว่า เราไม่เชื่อหรอก หื่นแบบนั้นอ่ะ


หืม บริบทมันแปลกๆ หื่นแบบนั้น ใช่ครับเหมียวบอกว่าผมหื่นแบบนั้น แบบนั้นแบบไหน ผมก็ถามเหมียวนะว่า แบบนั้นแบบไหนอ่ะ เหมียวเม้มเธอปากตัวเองซ้ายที ขวาทีก่อนที่จะเดินไปล็อคประตูห้อง


เธอเดินมาอีก 2 – 3 ก้าวแล้วนั่งลงกับพื้น เพื่อนร่วมงานคนสวย จับที่ต้นขาของผมบีบเขาๆ มือของเธอเลื้อยมาที่เป้ากางเกงของผมแล้วพูดว่า ก็แบบนี้ไง




 


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ka55anova

ได้เม้นแรก ดีใจสุดๆเหมือนถูกหวยเลย
คดีพลิกแบบนี้ จะทำยังไงกัน ทั้งสามคนเลย
เอาจริงๆเจ๊หมิวนี่แหละ ปรมาณูตัวจริง



Mix_Xer



dodoza2

จะคืนดีกับพี่เตยได้ยังไงน้อขอบคุณมากครับ fc พี่หมิวครับ


jeditay


Slave


sunnies

ไหนเหมียวบอกจบที่ทะเลไงแล้วอะไรกันที่ที่ทำงาน..
เทพโทนโดน2กระทง กระทงเจ๊เตยฐานแอบมีไรกับเจ๊หมิว
กระทงที่2 เจ๊หมิวฐานแอบเป็นกิ๊กกับเจ๊เตย  อิหยังล่ะทีนี้

chapter11


[email protected]


civil2

หืม ไหนว่าจบแค่ที่ทะเลไงเหมียวว

โอ งานเข้าไม่หยุดหย่อนเลยนะครับ

ton29048

เจ๊เหมียว จะทำให้ถ่านไฟเก่ามันคุรึงัย
.
.
.
.
เวรละ คราวนี้ ต้องมาแก้ปัญหา ตัวโต กับ ตัวเล็ก อีก โทน เอ๊ยยยยยย