ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ของดี

เริ่มโดย joker socool, ตุลาคม 16, 2022, 12:27:19 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

joker socool

"ช่วงนี้ชั้นขายของไม่ดีเลยว่ะแก" ติ๊ก สาวอวบผิวขาวชาวปากน้ำโพบ่นกับเพื่อนสาวของเธออย่างสุดเซ็งที่ยอดขายของออนไลน์ตกหลังจากผ่านวิกฤตโรคระบาดมาหมาดๆ

"เอาน่ะ อีกหน่อยก็ดีแก ช่วงนี้ใครๆ ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ" แจงปลอบเพื่อนรักไม่ให้คิดมาก

"แล้วชั้นจะหาเงินที่ไหนจ่ายค่าเช่าบ้านกับค่ากินล่ะ ที่บ้านก็เพิ่งจะมาขอยืมเงินไปอีก เดือนนี้ตายแน่ แกมีให้ยืมหน่อยมั้ยอีแจง เดี๋ยวชั้นคืน"

"ไอ้มีน่ะมี แต่แกยืมชั้นไปจะร้อยรอบละนะ ไม่เห็นคืนชั้นเลย แบบนี้ถึงเพื่อนก็ไม่ให้ยืมต่อนะ"

"ก็ชั้นเห็นแกรวยเอาๆ นี่หว่า คิดไปแล้วก็อยากเป็นอย่างแกจริงๆ มีแต่คนวิ่งเอาเงินมาให้ใช้ รวยเละเลยสิท่า มีของดีอะไรก็บอกกันบ้างสิวะเพื่อนรัก"

"..." เมื่อเห็นเพื่อนเดือดร้อน แจงก็ลังเลที่จะช่วยเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่กำลังจะแนะนำนั้นมันเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลมากๆ "ถ้าชั้นจะแนะนำอะไรแก แล้วแกอย่าหาว่างมงายนะ"

"มีอะไรแนะนำชั้นล่ะ ตอนนี้ได้ทั้งนั้นแหละ ขอแค่ให้รอดเดือนนี้ไปก็พอ"


ณ ห้องแถวขนาดเล็กๆ ในย่านชานเมืองที่ถูกตกแต่งให้เป็นตำหนักย่อมๆ ของหมอผีชาวเขมร มีทั้งหิ้งบูชาเทพ มีทั้งกะโหลกผีทีถูกแช่ไว้ในขันน้ำมนต์และข้าวของที่ดูน่ากลัวอยู่เต็มหิ้ง แจงก็พาเพื่อนรักเข้ามากราบหมอผีเฒ่าด้วยความเลื่อมใส

"เออ ว่าไงล่ะ ของกูที่ได้ไปน่ะดีมั้ย" สำเนียงแปร่งๆ จากปากชายชราชาวเขมรที่มาใช้ชีวิตอยู่ในไทยได้ค่อนชีวิตทักขึ้น

"ดีค่ะท่านครู ขายดีไม่มีตกเลยค่ะ นี่ก็เลยว่าจะพาเพื่อนหนูมาให้ท่านครูช่วยอีกคน นึกว่าสงสารลูกนกลูกกานะคะ"

"เออ กูน่ะสงสารพวกมึงนั่นแหละถึงมาช่วยแบบนี้ ว่าแต่เพื่อนมึงน่ะจะยอมทำตามที่กูบอกเหรอวะ ไม่เชื่อไม่ใช่เหรอ"

"..." ติ๊กถึงกับหน้าชาเมื่อถูกทัก ซึ่งเธอก็ไม่ได้เชื่อเรื่องพวกนี้จริงๆ นั่นแหละแต่ที่มานี่ก็เพราะจนตรอก ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ

"ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะค่ะท่านครู เพื่อนหนูมันกำลังลำบากอย่างนี้ ยังไงท่านครูก็เมตตามันเถอะนะคะ" แจงรีบออกหน้าแทนเพื่อนสาวด้วยรู้ว่าหมอเขมรมีพรายกระซิบ รู้ทุกอย่างที่พวกเธอคิด

"เออๆ กูก็ไม่ได้จะไม่ช่วยหรอก แต่ต้องบอกก่อนนะ สิ่งที่มึงจะได้จากกูไปเป็นวิชาต่ำ วิชาใช้ผี ของมันแรงขนาดสามารถทำให้มึงเป็นเศรษฐีได้ในครึ่งปี แต่ถ้ามึงดูแลไม่ดี ปล่อยปละละเลยเรื่องของเซ่นไหว้บูชาหรือพิธีที่กูให้ทำเป็นประจำ ของจะเข้าตัวมึงแล้วจะไม่มีทางแก้ได้ ถ้ามึงตกลงจะรับ กูก็จะทำให้"

"รับค่ะท่านครู" ติ๊กแทบไม่ต้องคิดเมื่อได้ยินคำว่าเศรษฐี แค่เธอรวย ต่อให้ต้องทำอะไรก็ยอมทั้งนั้นแหละ

"งั้นมึงก็ถอดกางเกงออก"

"อะไรนะคะ" สาวอวบถึงกับสะดุ้งร้องถามด้วยความตกใจ แต่เพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ กลับพยักหน้าให้เหมือนคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ดีอยู่แล้ว

"กูบอกให้ถอดออก ถอดให้หมดนั่นแหละ กูไม่ทำอะไรมึงหรอก บอกแล้วว่าวิชากูเป็นวิชาต่ำ มันก็ต้องเซ่นผีด้วยของต่ำๆ"

เสียงเฒ่าชราเอ่ยอย่างดุดันเสียงแข็ง ทำเอาติ๊กถึงกับหน้าถอดสีและแอบคิดว่าเธอพลาดรึเปล่าที่ตามเพื่อนรักมาทำอะไรแบบนี้

"แต่ว่า..."

"ไม่ทำก็กลับไป กูอุตส่าห์ไม่ให้คนอื่นเข้ามาเพราะกลัวพวกมึงอายแล้ว เสียเวลาคนอื่นที่เขาจะมาหากูเปล่าๆ"

"อีติ๊ก! ทำตามที่ท่าครูบอกสิวะ! ไม่อยากรวยเหมือนกูรึไง เร็วๆ"

เมื่อถูกกดดันทั้งสองฝ่าย อีกทั้งติ๊กก็มั่นใจว่าหากหมอผีเฒ่ารุ่มร่ามขึ้นมาก็ยังมีเพื่อนเธอคอยช่วย จึงยอมลุกปลดกางเกงยีนตามด้วยเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆ ออกจนเหลือแต่ร่างเปลือยเปล่าอวบอัดของแม่พันธุ์วัวนมชั้นเลิศ

ชายชรามองสำรวจตั้งแต่เต้าทรวงขนาดใหญ่ลงมาถึงเนินอูมอลังการของหญิงสาวอย่างไม่ปิดบังก่อนจะหันไปหยิบอะไรบางอย่างส่งให้

มันเป็นแท่งไม้ที่ถูกแกะสลักเป็นทรงปลัดขิกหุ้มด้วยหนังอะไรบางอย่างที่ถูกเย็บติดเอาไว้อย่างดิบดีพร้อมทั้งมีอักษรขอมถูกสักติดกับแผ่นหนังนั้นไว้จนทั่วดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แต่เมื่อติ๊กยอมให้มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงเธอก็ต้องรับมันไปให้ได้

"ใช้มันใส่เข้าไปแล้วทำให้เสร็จซะ กูจะนั่งสวดอยู่ตรงนี้ ผูกผีเข้ากับมึง ให้มันช่วยมึงทุกอย่าง"

"..." ติ๊กหันมองเพื่อนสาวด้วยความลังเลทันทีเมื่อได้รู้ว่าพิธีกรรมนี้ทำอย่างไร แต่แจงก็ยังพยักหน้าให้พร้อมกับขยับปากเป็นคำว่าคราวก่อนกูก็ทำอย่างนี้ ซึ่งมันก็พอจะช่วยให้เธอใจชื้นขึ้นมาบ้าง หากจะได้รวยเหมือนเพื่อนรักล่ะก็ ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ เธอก็ยอมล่ะ

สาวอวบค่อยๆ นั่งลง ขยับขาหันไปทางอื่นก่อนจะสอดใส่ปลัดขิกหุ้มหนังเข้าไปในร่างช้าๆ

สวบบบ

เพียงสัมผัสแรกก็ทำให้หญิงสาวถึงกับเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจเพราะปลัดขิกไม้นั้นกลับอุ่นวาบราวกับมีเลือดมีเนื้อจริงๆ

"อ้าขาหันมาหากูสิวะนังหนู หันหนีแบบนั้นแล้วกูจะเรียกผีไปผูกกับมึงยังไงล่ะ"

มาถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าอายสำหรับติ๊กอีกแล้ว เธอยอมอ้าขาอวดโชว์หมอผีขณะใช้มือจับปลัดขิกบรรเลงเพลงรักให้มันรู้แล้วรู้รอด

ชายชราหลับตาท่องคาถาภาษาเขมรทันทีอย่างไม่ได้สนใจเนื้ออูมอลังการกลางหว่างขาเธอเลยสักนิด มันทำให้ติ๊กเริ่มจะมั่นใจขึ้นมาบ้างแล้วว่าหมอผีคนนี้ไม่ได้เป็นไอ้โรคจิตอย่างที่แอบคิดไว้ในตอนแรก

แต่ก็น่าแปลก เมื่อได้ยินสำเนียงอันดุดันกับภาษาเขมรที่เธอไม่เข้าใจมันก็พาให้ร่างกายเกิดอาการขนลุกเกรียว อีกทั้งปลัดขิกก็ดูเหมือนจะขยายตัวใหญ่คับร่อง ทวีความเสียวให้จนเธอเริ่มหลับตาพริ้ม เม้มปากกล้ำกลืนเสียงร้องเอาไว้สุดชีวิต ใบหน้าสวยขาวพลันแดงซ่านไปถึงใบหู

"ฮื่ออออออ อืออออ"

ติ๊กไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าแม้จะผ่านผู้ชายมาและได้สัมผัสท่อนเนื้อแท้ยามมุดสำรวจถ้ำมาแล้วแต่มันกลับสร้างความเสียวเคลิบเคลิ้มอย่างง่ายดายเช่นนี้ไม่ได้เลย ยิ่งเล่นกับมันก็ยิ่งเพลิดเพลินเกินจะห้ามใจ ยิ่งได้ลิ้มลองความเสียวก็ยิ่งหยุดมือไม่ได้

"อูยยยยย ซี๊ดดดดดดด อ๊ะ!" ติ๊กอุทานตกใจนิดๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าแท่งปลัดขิกเหมือนจะขยับเอง เธอคิดว่าหมอผีเฒ่าคงจะอยากมาเล่นสนุกกับความสาวความสวยของเธอด้วยแน่ๆ แต่เพราะไฟรักถูกจุดให้ลุกโชนแล้ว เธอจึงไม่คิดห้าม อีกทั้งยังปล่อยมือให้ใครคนนั้นจัดการใช้ของขลังเล่นกับเธอต่อทั้งยังหลับตาอยู่แบบนั้น

แต่สิ่งที่เธอคิดมันไม่ใช่เลยสักนิด ในขณะนี้หมอผีเฒ่าก็ยังนั่งเปล่งเสียงบริกรรมคาถาอย่างดุดันหนักแน่นอยู่บนพรมเช่นเดิม และแจงก็ยังนั่งพนมมือไว้เพียงแต่กลับถอยกรูดไปติดมุมห้องแล้วเพราะในตอนนี้ ร่างขาวอวบของเพื่อนสาวกำลังถูกร่างดำเมี่ยมของวิญญาณผีพรายทาบทับสมสู่อยู่อย่างเมามัน!

ปลัดขิกที่ติ๊กคิดว่ากำลังถูกพ่อหมอจับโยกเล่นจึงเสมือนตัวแทนอาวุธประจำกายผีพรายตนนั้นที่ไว้ใช้ร่วมสังวาสกับเธอ และมันก็ยิ่งกระหน่ำรัวบทรักอย่างสุดแสนหื่นกระหาย ขณะเดียวกันหมอผีเฒ่าก็เร่งบริกรรมคาถาด้วยน้ำเสียงดุดันหนักแน่นกระทั่งผีตนนั้นเสือกปลัดขิกเข้าไปทั้งลำในร่องอวบอูม ส่งผลให้หญิงสาวร่างกระตุกหงึกๆ ส่งเสียงครางอย่างสุขสมพร้อมกับหลั่งรดเมือกรักอาบของขลังให้กายเธอจนชุ่มโชก

ติ๊กค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความโล่งสบายสุดๆ ขณะเดียวกันวิญญาณผีตนนั้นก็สลายกลายเป็นควันถูกดูดเข้าไปในร่อง ตามปลัดขิกไป หญิงสาวจึงไม่ได้รับรู้เลยว่าเกิดเรื่องราวอันแสนน่ากลัวขึ้น

"แฮก!!! แฮก!!! แฮก!!! แฮก!!! ส-เสร็จรึยังคะท่านครู"

"เออ เสร็จแล้ว จากนี้มึงก็จะได้โชคลาภสมใจหวังทุกอย่าง แค่ขอกับปลัดขิกนี่ แต่มีข้อแม้นะ มึงจะต้องเสพสังวาสกับมันทุกวันเดือนดับให้น้ำของมึงรดให้ชุ่มแบบที่ทำวันนี้ ห้ามขาดแม้แต่ครั้งเดียวเพราะไอ้นี่มันแรง แรงกว่าที่เพื่อนมึงได้ไปซะอีก ถ้าละเลยไม่สนใจล่ะก็ ของจะเข้าตัวมึง"

"ค่ะท่านครู..." เธอเอ่ยรับคำอย่างเหนื่อยหอบ แอบนึกขำในใจกับคำของหมอผีเฒ่า

...ของเข้าตัวเหรอ ก็ต้องเข้าสิ เล่นดันมาซะมิดด้ามแบบนี้ หึๆๆ ...

หลังจากจบพิธี ติ๊กก็สวมเสื้อผ้ากลับดังเดิมก่อนจะเก็บปลัดขิกชุ่มน้ำใส่กล่องพลาสติกที่หมอผีเฒ่ามอบให้แล้วกราบลากลับบ้านอย่างแสนสบายอารมณ์


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากนั้นมาธุรกิจการค้าขายของติ๊กก็ฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ขนาดว่าลูกค้าเก่าที่หายหน้าไปนานแสนนานก็กลับมาติดต่อขอซื้อของล็อตใหญ่ ลูกค้าใหม่ก็ดาหน้าเขามาดูไลฟ์ของเธอและจับจ่ายโดยไม่มีอิดออดถามไถ่อะไรให้มากความเลยสักนิด จากที่ตั้งใจจะยืมเงินเพื่อนอีกครั้งจึงกลายเป็นว่าเธอได้ใช้หนี้ให้เพื่อนและในที่สุดก็หมดหนี้ในระยะเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งเดือน

หญิงสาวเชื่อสนิทใจในความศักดิ์สิทธิ์ของปลัดขิกนี้ เธอทั้งหาพวงมาลัยมาถวาย ทั้งเหล้ายาปลาปิ้งก็เอามาให้ไม่ขาด เพียงแต่ในทุกค่ำคืน เธอจะฝันว่าได้นอนกับชายหนุ่มกล้ามแน่นแสนหล่อเหลาเสมอ และตื่นมาก็จะพบว่าตัวเองเสร็จสมอารมณ์หมายจนชุดนอนเลอะเทอะคราบความงุ่นง่านทุกครั้ง ซึ่งเธอก็คิดว่าเป็นเพียงฝันแต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่ตนฝันซ้ำๆ ในเรื่องเดิมๆ

และแล้วเวลาก็ผ่านไปกระทั่งถึงช่วงเวลาของคืนเดือนดับ แม่ค้าสาวจัดแจงปิดร้านในออนไลน์ตั้งแต่หัวค่ำด้วยความตื่นเต้น เธออาบน้ำชำระร่างกายอย่างดีก่อนจะหยิบเอาปลัดขิกจากบนพานติดมือมาบนเตียงด้วย

ไม่มีอิดออดกับการทำพิธีบูชาในครั้งนี้เพราะเธอก็แอบติดใจความเสียวอยู่ไม่น้อย จึงปลุกอารมณ์ตนเองด้วยการใช้ปลัดขิกลูบไล้ไปตามร่างกายทุกส่วนโดยเฉพาะทรงอกใหญ่ราวกับจะยั่วมัน ก่อนที่จะลากลงไปเขี่ยปากร่องให้อ้าออกช้าๆ แล้วเริ่มกดเข้าไป

สวบ...

เพียงแท่งปลัดขิกหุ้มหนังล่วงพ้นปากทางเข้าเท่านั้น ติ๊กก็ต้องเม้มปากแน่นเมื่อมันกระตุกคล้ายกับอวัยวะเบื้องล่างของผู้ชายยามเกิดอารมณ์ถึงขีดสุด แต่ด้วยเพราะอำนาจเงินตราและราคะบดบัง เธอจึงเลือกจะสลัดความรู้สึกแปลกๆ นั้นออกไปและค่อยๆ ดันมันเข้ามาช้าๆ ทีละนิดกระทั่งส่วนโคนเกือบผลับเข้าไปในกาย

"อา..." เธอครางแผ่ว ระบายลมหายใจด้วยความอิ่มหนำกับความจุกแน่นก่อนจะดึงมันออกมาช้าๆ เพื่อเสพความสุขต่อ

ติ๊กไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน อันที่จริงเธอก็เคยใช้ของเทียมผู้ชายและก็ยังคงใช้อยู่ตลอดเพราะเลือดสาวมันร้อนรุ่มเกินจะต้านยามเปลี่ยวเหงา แต่น่าแปลกที่แม้มันจะใหญ่โตน่ากลัวหรือมีปุ่มปมเสริมอารมณ์แต่ก็ยังไม่รู้สึกดีเท่าปลัดขิกแท่งนี้

อันที่จริงมันดีกว่าลำเนื้อแท้จากของผู้ชายเลยด้วยซ้ำ ราวกับว่าปลัดขิกแท่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอเลยก็ว่าได้ ทั้งความยาวทั้งความใหญ่มันพอดิบพอดีไปหมด ไม่เพียงแค่นั้นมันยังให้ความรู้สึกอบอุ่นราวกับเป็นของจริงเลยก็ว่าได้

หญิงสาวค่อยๆ หลับตาลงและเพลิดเพลินไปกับของขลังที่ได้มาไม่ต่างจากใช้ของเล่นผู้ใหญ่ และในไม่ช้าเลือดสาวก็สูบฉีดทั่วร่างจนไม่อาจหยุดได้

ในตอนนั้นเองด้วยความที่เธอสนุกเกินจะยั้ง มือจึงไถลลื่นหมดแรงถือและปลัดขิกที่หลุดจากมือเธอก็ขยับโยกเองทั้งอย่างนั้น

ติ๊กถึงกับขนลุกซู่ ลืมตาขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจกับความพิศวงที่เกิดขึ้น และเมื่อเห็นว่าเธอกำลังถูกร่างเงาสีดำเมี่ยมขึ้นคร่อมโยกขย่มราวกับคนตายอดตายอยาก อีกทั้งในส่วนที่คล้ายใบหน้ายังเหมือนกำลังจ้องมองมานิ่ง เพียงเท่านั้นเธอก็หวาดกลัวจนตัวสั่น

แต่ด้วยอำนาจของราคะจากภูติผีที่สามารถสรรสร้างความรู้สึกที่คนธรรมดาไม่อาจทำได้ ติ๊กจึงยิ่งเสียวสะท้านจนทั้งมือทั้งเท้าเหยียดเกร็งและไม่อาจมีแรงลุกหนีไปไหนได้

ร่างของเธอโยกไหวไปตามจังหวะกระหน่ำของภูติพรายตัณหากลับก่อนจะถูกพาไปพบกับสรวงสวรรค์ที่เธอโหยหาจนตาเหลือกลอย ปลดปล่อยของเหลวใสให้ทะลักทลายอาบชุ่มแท่งปลัดขิกจนเป็นมันวาวแล้วถูกมันแอ่นเอวกดปลัดขิกผีเข้าไปข้างในตัวเธอทั้งหมด

ติ๊กทั้งจุกทั้งเสียวจนหมดเรี่ยวแรงจะถอยหนีแต่ก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่เกิดนั้นมันคืออะไร

เธอกำลังทำตัวฉันผัวเมียกับผีนั่นเอง และที่เธอสมหวังในทุกสิ่งที่ขอนั่นก็ไม่ใช่ว่าเป็นพรศักดิ์สิทธิ์อะไรแต่เพราะไอ้ผีพรายกำลังทำตัวเป็นผัวที่ดี บันดาลทุกสิ่งที่ปรารถนาให้แลกกับที่เธอจะต้องเป็นเมียมัน

เมื่อคิดได้ ติ๊กก็หวาดกลัวขนหัวลุกเลยทีเดียวที่ตนได้เป็นเมียของผี อีกทั้งยังนึกย้อนไปถึงแจง เพื่อนสนิทของเธอที่กำลังรวยเอาๆ แล้วอดขยะแขยงไม่ได้ที่มันยอมทนนอนกับผีเพื่อให้ได้ความร่ำรวยมานานขนาดนี้


เมื่อได้สติกลับมาในตอนเช้า หญิงสาวแทบจะกระโดดโหยงจากเตียงพยายามไปเอาปลัดขิกผีอันนั้นออกจากในโพรงเนื้ออย่างยากลำบาก และเมื่อมันหลุดออกมาได้ เธอก็รีบเอามันออกไปทิ้งถังขยะด้วยความหวาดกลัวปนรังเกียจก่อนจะรีบโทรไปหาเพื่อนสนิท

"อีแจง! แกพาชั้นไปเอาอะไรเข้าบ้านเนี่ย! เมื่อคืนชั้นเกือบหัวใจวายตายแล้วนะ!"

"โทรมาบ่นอะไรชั้นแต่เช้าเนี่ย โอ้ย! คนจะหลับจะนอน" แจงบ่นผ่านสายโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงงัวเงียราวกับคนยังไม่ตื่นเต็มที่

"อีแจง! มึงพากูไปเอาผีบ้าที่ไหนเข้าบ้าน!"

"...ก็มึงบอกว่าอยากรวยไม่ใช่เหรอ เรื่องแค่นี้ทำไมทนไม่ได้วะ"

"จริงๆ ด้วย มึงก็นอนกับไอ้ผีนั่นด้วยสินะ มึงกล้าทำไปได้ไงอีแจง นั่นผีนะเว่ย! ไม่ใช่ผู้ชาย มันคุ้มเหรอวะ ไปเป็นเมียผีเพราะแค่อยากรวยน่ะ"

"พูดเหมือนมึงไม่อยากรวยงั้นแหละ ใครวะที่จะมาขอยืมเงินกูอยู่เลยน่ะ"

"..." ติ๊กถึงกับจุกกับคำย้อนของเพื่อนรัก เธอเถียงไม่ออกจริงๆ ว่าต้องการเงิน แต่ด้วยคำพูดที่คล้ายกับกำลังโดนดูถูกก็ทำให้เธอเดือดไม่น้อย

"ถึงจะอยากรวยแต่กูก็ไม่มีทางคิดสั้นแบบมึงหรอก คนบ้าเท่านั้นแหละที่จะเอาผีเป็นผัว ขอให้มึงบ้าไวๆ แล้วกัน แค่นี้แหละอีเพื่อนเวร" เธอวางหูใส่เพื่อนรักด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเลือกที่จะลืมมันไปทั้งหมดแล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตาขายของดังเดิมอีกครั้ง

ลูกค้ายังคงเข้ามาอุดหนุนติ๊กอยู่เช่นเดิม เพียงแต่ในทุกค่ำคืน เธอไม่ต้องหวาดระแวงกับความฝันแสนวิปริตอีกแล้ว

เธอค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นที่ได้กำจัดของน่ากลัวนั่นออกไปจากบ้านและลองเปิดใจคบกับใครดูสักคนเพื่อให้ลืมความน่าขยะแขยงในความเสียวที่ผีตนนั้นมอบให้ ซึ่งด้วยความสาวความสวยกับหุ่นแม่พันธุ์แสนยั่วยวนก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะมีใครเข้ามาช่วยสนองความสุขบนเตียงให้แบบชั่วครั้งชั่วคราว ให้พอที่จะกินอิ่มนอนหลับไปได้ในแต่ละคืน

แต่ความสุขนั้นก็ช่างแสนสั้น เมื่อความปกติสุขผ่านไปเพียงเจ็ดวัน ติ๊กก็เริ่มจะเห็นอะไรแว๊บๆ อยู่ภายในบ้าน บางครั้งหลังเสร็จกิจกับชายที่พาขึ้นเตียงด้วยแล้วนอนหลับกันไป เธอจะรู้สึกเหมือนถูกใครบางคนลักหลับ ซึ่งเมื่อลืมตาตื่นมาในตอนเช้าแล้วกลับมาคิดทบทวนก็ช่างเป็นความสุขที่เหมือนกับครั้งเมื่อผีพรายตนนั้นมอบให้มากๆ

เธอเริ่มหวาดระแวงกับสิ่งลี้ลับเหล่านั้นจนไม่เป็นอันนอน อีกทั้งยอดขายก็ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วจนกระทั่งกลับไปยังจุดที่แทบจะไม่เหลืออะไรอีกครั้งเพียงระยะเวลาเดือนเดียวเท่านั้น แต่ทุกสิ่งที่เกิดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อวันเดือนดับวนกลับมาอีกครั้ง


"ฮัลโหล น้องตั้ม วันนี้พี่ขอไปค้างด้วยจะได้มั้ย"

"วันนี้แฟนผมมานะพี่ ไว้วันหลังเถอะ"

ติ๊กที่ไม่กล้าจะอยู่บ้านตัดสินใจจะโทรหาคู่ขาจากร้านกาแฟใกล้ๆ ในยามเย็นของวันเพื่อไปขอนอนค้างด้วย แต่ฟ้าเหมือนจะแกล้งไม่ให้เธอได้ดังหวัง

เธอไม่รู้จึงไปพึ่งใครอีก จะลองไปขอคืนดีกับอดีตเพื่อนรักก็คงไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าในวันนี้เป็นคืนเดือนดับ แจงมันคงจะอยู่กับผัวผีของมันแน่ๆ

เมื่อไม่มีที่ไป ติ๊กก็ตัดสินใจจะยอมเสี่ยงอยู่บ้านอีกครั้ง คิดซะว่าเป็นไงเป็นกัน ยังไงก็บ้านเธอ อีกทั้งไอ้ของอุบาทว์นั่นก็ไม่ได้อยู่ในบ้านแล้ว มันก็อาจจะไม่ได้มีอะไรก็ได้

แต่เพียงก้าวเข้าบ้าน ติ๊กก็รู้สึกขนหัวลุกแปลกๆ เธอมองไปรอบๆ คล้ายกำลังถูกสายตาจับจ้องอยู่จากที่ไหนสักแห่งในเงามืดของบ้านที่เงียบเชียบ

แสงอาทิตย์คล้อยต่ำลงจนลับขอบฟ้า หญิงสาวรีบเปิดไฟสว่างให้ทั่วบ้านพร้อมกับส่ายหัวสลัดความกลัวออกไป
 


คุยกันหน่อย :   เป็นเรื่องสั้นในชุด ของเขมร  ผมตั้งใจจะเขียนเล่นๆ  ไม่มีตอนต่อ  แค่ตอนเดียวจบ  อาจจะมีค้างคาบ้างก็ขออภัยก่อนเลยนะครับ หากสนใจเข้าไปอ่านเรื่องอื่นๆสามารถเข้าอ่านได้ทางช่องทาง read A write หรือ fictinlog ได้เลยครับ


หากสนใจเรื่องอื่นๆจิ้มที่รูปเลยจ้า














เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

stanislov

ชอบแนวหมอผีมากๆครับลงมาอีกเลยครับผม

Maiyamok



alohaseed

#4
ชอบเรื่องเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับมาก​ เนื้อเรื่องดีเยี่ยมเลยฮะ​ เคยไปตามอ่านเรื่องอื่นใน​ fictinlog อยู่

johnone


acropobia899

ของแรงกว่าของเพื่อนด้วย  โดนหนักแน่ๆเลย

1819

 จุดจบ จะเป็นบ้า หรือ ได้เป็นเมียผีของจริง  
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

ประดิษฐ์ ธรรมเวช

อ้างจาก: stanislov เมื่อ ตุลาคม 16, 2022, 12:36:49 ก่อนเที่ยง
ชอบแนวหมอผีมากๆครับลงมาอีกเลยครับผม
น่าสนใจ ถ้ามีจริงคงสนุกแน่ๆ

ttasster

ติ๊กจะรอดไหมเนี่ยได้ของแรง  แถมยังละเลยด้วย  แล้ววันนี้เดือนดับ  คนจะดับด้วยไหมเนี่ย

ryg123456


Titanจู่โจม


jirasakgolf7

เอาไปทิ้งแบบนี้ ของเข้าจบไม่สวยแหง ๆ

Sri Trang

น่าสนใจครับ ถ้าไม่คิดอะไรก็คิดว่าเป็นดิลโด้ก็น่าจะไม่มีปัญหา

DarkGearmour

ผีจ้องเอาเธออยู่แน่นอน
ฟันธง
แล้วจะจบอย่างไรละครับ
หักกับผีแล้วนี้