ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 7 ] ตอนที่ 109 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, พฤศจิกายน 25, 2022, 01:29:55 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ฝนมันมาตกอะไรหน้าหนาวโว้ยยย

แค่หน้าหนาวที่ไม่มีคำว่าหนาวก็แย่แล้ว ฝนยังมาตกอีกโว้ยย

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง


>>>อ่านย้อนหลังตอนที่ 108< < < CLICK !!!



สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ









★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ





★★★★★★★★★★★


แนะนำกันสักหน่อย


คุณรุกะเองครับ






★★★★★★★★★★★



ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมมาทำตามหน้าที่ครับส่งคุณรุกะที่สนามบิน

ตอนแรกก็เดินมา 3 คน

ผม ทาเคชิ และ คุณรุกะ แต่แว๊ปเดียวทาเคชิแม่งหายตัวเฉย

แล้วกลายเป็นว่าคุณรุกะดึงผมเข้ามุมลับตาและพูดว่า


" จับได้แล้ว "


★★★★★★★★★★★


นายโทนไดอารี่ 109



เดี๋ยวๆ !!! อะไรครับเนี่ย อยู่ดีๆ คุณรุกะก็กอดเอวผมไว้เลย คือรู้เลยทันทีว่าแม่มเอ๊ยย เสียเหลี่ยมแล้ว คุณรุกะเธอมองแล้วยิ๊มมม เหมือนเด็กน้อยที่ทำอะไรบางอย่างสำเร็จ


คือถามว่าผมดิ้นได้มั้ย บอกเลยมันสบายมากๆ แต่นั่นเท่ากับว่าผมต้องออกแรฝจนอาจทำให้คนในคุ้มครองต้องเจ็บ..  โอยยย อึดอัดจังโว้ยยย ผมบอก ปล่อยก่อนครับคุณรุกะ


แต่เธอก็บอกไม่เอาไม่ปล่อย ถ้าปล่อยแล้วเดี๋ยวจับไม่ได้อีก ผมก็บอกว่าคุณรุกะที่นี่สนามบินนะ ที่สาธารณะ อย่าทำอะไร ที่ทำให้ตัวเองเสียชื่อแบบนี้ เดี๋ยวจะแย่ไปด้วย


เธอก็บอก โถ่ที่จริงห่วงตัวเองนี่เอง ผมก็เลยบอกว่าระดับคุณน่ะยังไงก็มีคนแก้ต่าง มีทีมคอยดูแลอยู่ แต่ผมล่ะ ผมคนธรรมดานะ ถ้าเสียงานไปจะทำยังไงล่ะ


เธอไม่ได้มีท่าทางโกรธเลยนะ แต่กอดคอผมอีก เธอบอกว่าก็ไปทำงานกับชั้นไง เอาล่ะเธอพลาดละ พอเธอมากอดคอ ผมก็จับแขนออกได้ง่ายๆ ผมบอกว่าอย่าทำเป็นพูดง่ายๆคุณรุกะ ผมขี้เกียจมีเรื่องกับคู่หมั้นของคุณนะ


คุณรุกะเธอก็บอกแต่ซารุซังก็จัดการได้สบายๆนี่นา แล้วยังมีคุณพ่อทศอีก ฮึ๊ !!! คุณพ่อทศเหรอ เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ อะไรครับเนี่ย ผมเลิ่กลั่กเลยครับ เพราะยังไงซะที่นี่ก็สนามบิน มีกล้องวงจรปิด



ถึงจะอุ่นใจเรื่องที่องค์กรใหญ่ขนาดนี้ คงไม่เอากล้องวงจรปิดทาเผยแพร่ แต่มันก็ไม่สบายใจอยู่ดี ผมบอกว่ารีบไปกันเถอะครับ เดี๋ยวไม่ทันคนอื่นๆ แต่คุณรุกะก็ดึงแขนไว้แล้วถามว่าจะใจร้ายกับชั้นไปถึงไหนซารุซัง



อุ้ย... ผมก็หันมามองซึ่งสายตาคือ ออดอ้อนซึ่งพูดตามตรงว่าถ้าไม่รู้เรื่องที่เธอมีคู่หมั้นแล้ว เจอสายตาแบบนี้เข้าไปคือเรียบร้อยแน่ๆครับ แค่พอรู้แล้วใจมันก็แข็งขึ้นเป็นธรรมดา เพราะว่ามันคือคำขอข้อเดียว ที่พ่อผมขอไว้


คุณรุกะถามผมนะว่า แล้ว.... คุณฮยอน-อา ดูสนิทสนมกันจังเลยเนอะ ผมก็บอกว่าปกติของพี่น้องแหละครับ แต่ก็บอกไม่ปกติ นี่มันอาการซิสค่อนชัดๆเลย เดี๋ยวนี้เสน่ห์แรงจังเนอะซารุซัง



แรงจนชั้นเริ่มจะอิจฉาซะแล้วสิ่...  เธอบอกว่า... ทำไมน๊าาา เธอพูดแล้วเอามือมาวนๆที่หน้าอกของผมแล้วพูดว่า ตอนเชียงใหม่ก็ยังทำอะไรต่อมิอะไรได้เลย.. ทำไมกันน้าาาา เธอขยับหน้าใกล้ๆแล้วบอกตอนนี้หรือตอนไหนๆก็ยังอยากทำเหมือนที่เชียงใหม่นะ



ผมบอกว่า อย่าทำให้ผมลำบากใจเลยครับคุณรุกะ เธอนิ่งแปปนึง แล้วบอกก็ได้ ... เอ่อ พูดง่ายแปลกๆแฮะว่ามั้ยครับคุณผู้อ่าน แต่เธอก็ถามว่างั้นขอเดินจับมือได้มั้ย ผมก็บอกไม่ด้ายยยยย มันจะทำแบบนั้นได้ไงคุณรุกะ เธอบอก ตอนเชียงใหม่ยังทำได้เลย



ผมก็บอกว่าตอนนั้นผมยังไม่รู้นี่ว่าคุณรุกะมีคู่หมั้นแล้ว เธอก็ทำหน้านิ่งเลย แล้วบอกอื้ออ แล้วก็พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นออกมา นี่แหละปัญหาเกิดไม่รู้ด้วยว่ามันแปลว่าอะไร ผมก็บอกว่าไปเถอะครับ ทุกคนรออยู่


คุณรุกะเธอมองหน้าแล้วพยักอื้มๆ ซึ่งผมเองก็เดินออกมา แล้วเว้นระยะห่างจากเธอนิดนึง ให้เธอเดินนำไปนิดนึง พื้นที่ตรงนี้ไม่มีคนเลยจริงๆครับ จนเราเดินมาถึงพื้นที่ถัดไป คนก็เริ่มเยอะแล้วล่ะ คุณรุกะก็พูดว่า ซารุซังใจร้าย


ผมก็ได้แต่ฟังและเงียบนั่นแหละคร้บ อย่าคิดว่าผมจะใจหล่อแล้วบอกว่าที่ทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้คุณรุกะเสียหาย ไม่ ๆ ๆ ไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่ใช่คนที่ยิ่งใหญ่ใจใหญ่ขนาดนั้น ผมห่วงต่อจากนี้มากกว่า


ว่าชีวิตพนักงานบริษัทของผมมันจะหวิวขนาดไหน ถ้ามีคนเอาไปพูดว่าไอเนี่เป็นตัวการทำให้คุณชิบะกับคุณรุกะผิดใจกัน คุณผู้อ่านอาจจะคิดว่าเวอร์ไปเปล่าโทน ผมบอกตรงนี้ว่าไม่เลยครับ


ตอนแรกร้านเกะของนายโทนอาจจะแค่ ทำงานออฟฟิศ เย็นกลับบ้าน วันศุกร์กินเบียร์ นั่นมันตอนแรกๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วไง เพราะสเกลมันเพิ่มไปเป็นระดับภูมิภาคแล้ว แล้วไอ้ชิบะเนี่ย ผมก็ไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง


พนักงานต๊อกต๋อย ไม่มีเส้น ไม่มีสายแบบผมจะไปตอบโต้อะไรด้ายยยยยยยย เนอะ !!! เพราะงั้นแหละครับการที่พยายามอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ผมทำไปเพื่อเซฟจุดยืนและหน้าที่การงานของตัวเองจริงๆ ไม่ได้เป็นคนดีขนาดห่วงคุณรุกะจะเสียภาพลักษณ์หรอก



ยังไงซะระดับเธอก็ต้องมีทีมที่คอยแก้ไขให้อยู่แล้วล่ะ พอเดินมาถึงจุดนัดพบแล้ว คุณท่านทั้งสอง คุณเคย์ ทีมการ์ดญี่ปุ่นก็อยู่ครบ จอยเธอเองก็อยู่ด้วยแน่นอนไม่ต้องสงสัย


อื้อหือกำหมัดเลย ทาเคชิซางง มึงไวจังนะ นี่คุณมึงใช้ก้าวพริบตาป่ะเนี่ย นอกจากนั้นยังมีพี่แมน พี่เจมส์ เจ๊หมิว กับ เจ๊จ๋า ก็มาด้วย ก็นะหลายคนยังไม่ลืมใช่มั้ยครับ ว่าเจ๊จ๋าเองก็มีอำนาจในบริษัทผมเหมือนกัน


เพราะงั้นการที่จะมาส่งคุณเคย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเหนือคาดอะไร เจ๊หมิวเดินเข้ามาถามไปไหนกันมาเนี่ย... อ้าววมนี่เจ๊หมิวไม่รู้เรื่องเหรอ คุณรุกะตอบว่าหลงทางนิดหน่อยเองงง เจ๊หมิวมองมาที่ผมแล้วพูดว่า เชื่อตายล่ะ



เอ้า... ไหงงั้นอ่ะเจ๊ครับ เจ๊จ๋าก็เจ้ามาทักทายสวัสดีค่ะคุณรุกะ คุณรุกะมองยิ้มม ทักทายสวัสดีค่ะคุณจ๋า พี่จ๋าบอกว่าถ้สกสรต้อนรับไม่สะดวกยังไง คอมเมนต์ได้เลยนะครับ จ๋ากับทางบริษัทจะปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ


คุณรุกะบอกไม่เลยๆ ทุกอย่างดีมากๆ ยกเว้น..บางคน แน๊ะ !!! พูดแล้วหันมามองผมด้วย ดูดู๊ดู.... ไอ้ความสลดเมื่อวันก่อน หายไปไหนเนี่ย หน้าตาตอนที่ผมรู้เรื่องคู่หมั้น หน้าตาจ๋อยๆตอนนั้นหายไปไหนแล้ว



ผมบังยืนนิ่งอยู่ถึงแม้จะเหวอแค่ไหนก็ตาม แต่ทั้งเจ๊หมิว เจ๊จ๋าก็มองมาทางผม แล้วถาม เจ้าโทนคงไม่ได้ทำอะไรแปลกๆนะ ผมรับตีขรึมเลยครับ แล้วบอกว่า ผมก็ทำตามหน้าที่ครับ เจ๊จ๋ามองแล้วบอกอื้มๆ


ตอนนั้นพี่เจมส์เองก็ยืนคุยอยู่กับพี่แมน ซึ่งมีคุณท่าน กับคุณเคย์อยู่ในวงสนทนานั้นด้วยซึ่งแน่นอนครับ แม่สาวแว่นอยู่ในนั้นด้วย ผมกวาดสายตามองไปรอบๆนะ ทีมงานแต่ละคนก็ประจำจุดกันเรียบร้อยแล้ว


อืม... มองดูนาฬิกาแล้วก็...  จริงๆแล้ว เวลามันก็เหลือๆนั่นแหละ แต่เข้าไปรอในเกตจะไม่ดีกว่าเหรอ เจ๊หมิวถามว่าแล้วนี่กินข้าวมายัง กินแล้วครับผมตอบไปทันที แต่ว่าคุณรุกะก็ถามอีกว่า ทานกับอะไร ทานครบ 5 หมู่มั้ย อิ่มหรือเปล่า


ซึ่งอื้อหือ... เจ๊หมิวเหล่เลยครับ เธอบอกเป็นห่วงกันดีเนอะ... คุณรุกะเธอก็บอกปกตินี่นาาา เจ๊หมิวบอกโอเค๊ เอ้า !!!  เวรกรรม อะไรกันเนี่ย ผมนี่คือพยายามเก็บอาการสุดๆเลยนะ ผมบอกตัวเองว่าเฮ้ยๆๆ ทำงานอยู่ ต้องคี๊ปลุ๊คๆ ๆ แล้วแต่ละคนที่มาก็คือเบิ้มๆทั้งนั้น ผมหมายถึงตำแหน่งนะที่เบิ้มๆ ถึงจะไม่ได้มากันแบบครบถ้วนก็เถอะ แต่ว่าแค่คุณท่านทั้ง 2 นี่ก็อื้อหืมมม แล้วล่ะครับ





เจ๊จ๋า พี่เจมส์อีกล่ะ พี่แมนกับเจ๊หมิวนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยคราวนี้ ก็นะยังไงซะคุณพ่อตา... เอ้ย ไม่ช่ายๆ ยังไงซะคุณเคย์ก็เป็นเพื่อนของคุณท่านนั่นแหละครับ . . . . เอ... พ่อผมไม่มา แต่ก็เข้าใจได้แหละครับ เพราะถ้าคิดตามที่พี่รุจน์เคยบอกไว้ว่า... พ่อจะมาก็แค่งานที่เกี่ยวกับทีมรักษาความปลอดภัยเท่านั้น





ก็จริงอยู่ว่าคราวนี้ก็เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้คุณเคย์ แต่แค่การส่งกลับแค่นี้หลังจากที่ทุกอย่างมันเคลียร์หมด พ่อเองก็อาจจะไม่ต้องมาก็ได้ เอ... พี่พลอยก็มาแฮะ กลับวันนี้เหรอ เฮ้ออออ...  พอโตขึ้น งานเยอะขึ้น เหมือนว่าอะไรๆ มันก็ต้องวางแผนหมดเลยวุ๊ยยยยย






พี่พลอยมองมาทางผมแหละครับแล้วโบกมือให้เล็กๆแล้วเธอฉลาดจัดๆเลยอ่ะ แบบหลบมุมไม่ให้คุณรุกะเห็นด้วย ผมก็เม้มปากนิดนึง ภาวนาให้เธอเห็นว่าผมรู้แล้ว และพี่พลอยก็คุยกับคณะงานกันต่อแปป เราใช้เวลากันไม่นานหรอกครับ เพราะว่าทางคุณเคย์เองก็ต้องกลับแล้ว





คุณรุกะก็ทำเป็นเดินเฉี่ยว เดินชนผมตลอดๆ เหมือนตั้งใจ . . . ตั้งใจเลยแหละครับไม่ใช่แค่เหมือน เอ... ทำไมเธอดูไม่สลดเหมือนตอนวันแรกๆที่ผมจับได้ว่ามีคู่หมั้นเลยวะ เอ่อผมขออภัยคุณผู้อ่านครับ ขอเปลี่ยนเป็นคำว่ารู้ว่ามีคู่หมั้นดีกว่า ไปใช้คำว่าจับได้ว่ามีคู่หมั้น มันดูเหมือนเธอทำร้ายผมยังไงก็ไม่รู้





ทั้งๆที่จริงๆเธอก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เอาเป็นว่าคำนี้ครับ รู้ว่ามีคู่หมั้นแล้ว นั่นแหละครับวันนี้เธอดูร่าเริงแปลกๆ ผมเองก็จับตาดูเธออยู่ตลอดครับ เพราะมันยังอยู่ในหน้าที่ของผม คุณรุกะไปคุยกับทั้งจอยและพี่พลอยด้วยความเป็นกันเองมากๆ ก็นะทำงานมาด้วยกันตั้ง 10 กว่าวัน ไม่เป็นกันเองก็แปลก




แล้วตอนนั้นเจ๊หมิวก็เดินมาทางผมแล้วบอกว่า แหม ๆ ๆ มองตาไม่กระพริบเลยนะไอ้ลิงหัวหงอก ผมก็บอกว่าก็ผมทำงานอยู่นี่ครับ เจ๊จ๋าบอกว่าแหมๆ ไม่ต้องเป๊ะทุกกระเบียดนิ้วเหมือนวันงานสังสรรค์ก็ได้ ตอนนี้ก็กระจายคนรอบๆแล้วไม่ใช่เหรอ ผมก็บอกเดี๋ยวดิ่เจ๊จ๋าก็ด้วยเหรอเนี่ย



เจ๊จ๋าบอกเอ๊า !!!  ก็มีคนมาชอบน้องชายเจ๊ทั้งคนเจ๊ก็ต้องสแกนดิ่ แล้วเป็นสาวต่างแดนด้วยนะเนี่ย ผมก็เลยบอกว่าเจ๊เลิกพูดเรื่องชอบไม่ชอบเถอะครับ แค่เป็นคนที่มีพันธะผมก็ไม่ยุ่งด้วยแล้ว เพราะว่า.... แล้วเจ๊จ๋าก็พูดพร้อมๆผมว่า เพราะพ่อทศขอไว้ถูกมั้ยเจ้าโทน





ผมก็อึ้ก !!!  แล้วบอกว่าใช่ครับ เจ๊จ๋าบอกเฮ้อแต่ก็ดีนะที่น้องชายเจ๊ตัดใจอะไรแบบนี้ได้ไวมากๆ ดีแล้วล่ะดีแล้ว ไม่เหมือนใครบางคนเนอะหมิวเนอะ เจ๊จ๋าพูดแล้วก็หันไปหาเจ๊หมิว ผมก็งงว่าพูดไรกันหว่า เจ๊หมิวบอกเดี๋ยวเถอะจ๋า เดี๊ยะๆ จ๋าก็หัวเราะเบาๆนะ แล้วบอกโอเคๆไม่พูดแล้ว





เจ๊จ๋าถามว่าแล้วนี่เจ้าโทนได้ตามงานมั่งมั้ยหยุดงานไป 10 กว่าวัน ผมก็บอกว่าตามเรื่อยๆครับเจ๊จ๋า กลับไปก็คงงานกองเต็มโต๊ะเลย เจ๊หมิวก็บอกสมน้ำหน้า เอ้า !!! อะไรล่ะเนี่ย แปปนึงคุณรุกะก็เดินมาเกาะแขนหมิวแล้วบอกว่า หมิวไปทางนั้นกันเถอะ หมิวบอกเดี๋ยวสิ่แล้วนี่จะเข้าเกตตอนไหนเนี่ย




คุณรุกะบอกเอาน่าๆๆๆ แล้วมองมาที่ผมแบบเชิดๆแล้วพูดว่าปล่อยให้คนใจดำทำงานไปเถอะ... อ้าวอิหยังวะน่ะ แล้วคุณรุกะก็ดึงเจ๊จ๋าไปด้วย เอ้า !!! อะไรวะน่ะ แต่ผมก็เก็บอาการอยู่นะ พี่เจมส์เดินมาตบไหล่ปั้ปๆ ว่าไงสุดหล่อ ผมก็ยกมือไหว้แล้วถามว่าพี่เจมส์มากี่โมงเนี่ย



พี่เจมส์บอกก็มาพร้อมพี่แมนนั่นแหละ แล้วเป็นไงเอ็งงานราบรื่นดีมั้ย ผมก็บอกว่าวันนี้ดูไม่ค่อยเครียดเหมือนวันสังสรรค์ครับ พี่เจมส์บอกอื้มดีแล้ว พวกชิบะมันกลับไปก่อนหน้านั้นแล้วสบายๆน่ะ ผมก็มองๆ แล้วพูดว่า แล้วนี่พี่แท-โอ ไม่มาหรือไงหว่า คือผมพูดกับตัวเองนะ




แต่พี่เจมส์ก็บอกว่าเฮ้ยๆ ถ้ามานี่สนามบินแตกแน่ๆ แล้วอีกอย่างมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับทางนั้นด้วย คงไม่มาหรอก เอ็งก็รู้ว่าถ้าอะไรที่มันไม่มีประโยชน์มากพอคุณแท-โอ เขาไม่สนใจหรอกนะ ผมก็บอกอ่าครับๆ ก็นั่นแหละนิสัยพี่แกล่ะ พี่เจมส์บอกว่าแต่เอ็งเถอะ ไปสนิทกับคนระดับนั้นก็ต้องยกระดับตัวเองไว้ด้วยล่ะ




ให้คิดซะว่าไม่อยากทำให้เขาเสียหน้าแบบนี้ก็คงเข้าแก๊บของเอ็งใช่มะ ผมก็บอกคร๊าบ คร๊าบรู้แล้ว ผมก็ถามว่า แล้วพี่เจมส์กลับออสฯ วันไหนครับ พี่เจมส์บอกอีก 2 – 3 วันนั่นแหละ แล้วก็ไม่ต้องมาส่งด้วยทำงานไปนั่นแหละ รอมารับวันกลับบ้านก็พอ ผมก็ครับๆ พี่แมนเดินมาแล้วพูด ว่างายยยย พ่อคาคาชิ






ผมก็ครับพี่แมน พี่แมนบอกไงเอ็ง แล้วเขาก็มองไปที่คุณรุกะ แล้วพี่เจมส์กับพี่แมนเหมือนจะรู้กันครับ เขา 2 คนเข้ามากอดคอผม คนละข้าง ซ้าย ขวา แล้วพูดว่า เฮ้ย ๆ ๆ ๆ ๆ  นี่พวกพี่เขาเป็นโขนกันหรือไงเฮ้ยอยู่ด้วย ล้อเล่นครับมาต่อๆ พี่แมนบอกเฮ้ยๆ ยังไงเนี่ยรุกะดูร่าเริงจังเลยนะ พี่เจมส์บอกเออดิ่ยิ้มไม่หุบเลยนั่น



ผมก็บอกว่า ถ้าจะพูดเรื่องที่ว่าคุณรุกะชอบผมนี่พอเลยนะพี่ ผมไม่อยากคิดอะไรแล้วทำงานๆ พี่เจมส์เอาศอกกระทุ้งเบาๆแล้วบอกว่าเฮ้ยยย พูดเรื่องจริงดิ่น้องชาย ผมก็เลยบอกว่าพี่อย่าพูดเด้ ยิ่งเสียดายๆอยู่ญี่ปุ่นนะครับพี่ญี่ปุ่นนะนั่นแล้วเกิดมาก็พึ่งเคยมีคนมาชอบด้วยเนี่ย



พี่แมนบอกฮื้ยยยย ไม่ใช่หรอกเคยมีมาก่อนแล้วใช่มั้ยเจมส์ พี่เจมส์บอกช่ายยยย ชอบซะเก็บไปเพ้อเลย ผมก็ฮึ๊ !!! ใครวะ คนที่มหา'ลัยป่ะพี่เจมส์ พี่เจมส์บอกฮื้ยยยย ไกลไป๊ !!! แล้วพี่แมนก็หัวเราะแล้วบอกพอๆๆ ทำงานๆไอ้โทน ผมก็ตอบครับแล้วก็กลับมายืนสงบเหมือนเดิม



เวลาก็ผ่านไป นาที 2 นาที 3 นาที คุณเคย์กับคุณท่านก็คุยๆๆ  พวกผู้หญิงก็คุยกันแหละ พี่พลอย จอย และคุณรุกะก็คุยกันสนุกเลย ผมก็เฉยๆนะ เพราะตอนนี้งานที่ต้องโฟกัสคือการดูแลอยู่ตรงนี้ แต่จะว่าไปงานวันนี้เองก็ดูไม่ได้ตึงมาก ไม่รู้สิ่ครับพูดไปอย่าว่าโม๊เลย แต่เซ๊นส์รอบๆตัวมันบอกผมว่าวันนี้มันไม่ใช่งานยากอะไรเลย



อาจจะเพราะพวกชิบะมันกลับไปแล้วนั่นแหละครับ แล้วทาเคชิซังก็เดินมาครับ มาตบไหล่ปั้ปๆ อื้อหืมมม อยากจะตบคืนบ้างแต่ไม่เอา มันสวนทีผมอาจจะร่วงได้ ไวเชียวนะมึงเมื่อกี้น่ะ แล้วแปปนึงจอยก็เดินมาครับ ทาเคชิซังก็เริ่มพูดๆๆ  จอยก็แปลๆให้ฟัง ผมขออนุญาตพิมพ์คำแปลอย่างเดียวนะครับ



ทาเคชิซังบอกว่า ประทับใจกับการทำงานในวันก่อนมากๆ ขอชื่นชมในการตัดสินใจและขอขอบคุณที่ปกป้องเกียรติของเจ้านาย ซึ่งก็คือคุณเคย์นั่นแหละครับ ผมก็บอกไปว่าอย่าได้ใส่ใจไปเลยครับคุณทาเคชิ เพราะการปกป้องเกียรติของคุณเคย์ มันก็เท่ากับว่าผมปกป้องเกียรติของคุณท่านเช่นกัน


ผมก็ทำเท่าที่ผมทำได้แค่นั่นแหละครับ ทาเคชิซังตอบกลับมาว่าผมประทับใจในทักษะการต่อสู้ของคุณมากๆนะซารุซัง ทักษะการใช้กระบอง 3 ท่อนนั้นน่าทึ่งมาก ผมก็จะพูดนะว่ามันไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แต่เหมือนจอยเธอจะรู้อ่ะเธอขยับมือมาสะกิด ๆ ผมก็ต้องนิ่งเลย


ทาเคชิบอกว่าในข้อมูลของซารุซังไม่มีระบุไว้ว่ามีทักษะด้านอาวุธขนาดนี้เลย... เอ้า นี่ฝั่งนั้นมีข้อมูลผมด้วยเหรอ ผมก็บอกว่าแม่สอนมานิดหน่อยแหละครับ ทาเคชิซังทำตาโตแบบที่เห็นได้บ่อยๆในหนังญี่ปุ่นน่ะครับ เขาถามว่านอกจากทศซังแล้ว คุณแม่ของซารุซังก็มีความสามารถด้วยเหรอครับ



เอ่อ... ผมอยากจะบอกทาเคชิซังจังเลยว่า... แม่ผมยิ่งกว่าพ่อผมอีก แปปนึงทาเคชิซังก็บอกว่าแต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณซารุซังมากที่ช่วยตอกหน้าคุณชิบะกลับไปแบบนั้น เพราะถ้าผมเคลื่อนไหวหรือทำอะไรลงไป มันคงไม่ดีกับตัวท่านประธานแน่นอน ผมเข้าใจที่ทาเคชิซังพูดนะ



เพราะถ้าเป็นผมเอง ผมก็คงทำอะไรลำบากเหมือนกันแหละครับ แล้วทาเคชิก็บอกว่างั้นผมขอตัวก่อน แล้วเจอกันที่เกาหลี อ้อ พวกทาเคชิซังก็ได้ไปด้วยนี่นะ พอทาเคชิซังไปแล้วจอยก็บอกผมว่า เวลาเขาชมต้องรับคำชมนะ ไม่ใช่ทำแบบเป็นนอบน้อมเกินไป มันจะเสียมารยาทต่อคนที่อุตส่าห์มาชม



ผมก็บอกคร๊าบ คร๊าบ แปปนึงพี่พลอยเธอเดินมาหาผมครับ พี่พลอยถามว่าจะไม่คุยกับคุณรุกะหน่อยเหรอ เดี๋ยวจะกลับแล้วนะนั่น จอยบอกอื้มนั่นดิ่โทน ไม่คุยกันจะดีเหรอ ผมก็มองไปที่คุณรุกะที่ยืนอยู่นู่นแล้วบอกว่า


แบบนี้แหละดีแล้วพี่พลอย คุยกันเยอะก็เท่านั้นแหละ แต่จอยก็ถามนะว่านี่ โกรธคุณรุกะเรื่องปิดบังคู่หมั้นป่ะเนี่ย ผมบอกเปล่า ๆ ๆ  ผมแค่บอกว่าไม่ได้โกรธ แต่เพราะมีคู่หมั้นนั่นแหละ ผมถึงต้องอยู่ห่างไว้


จอยถามอ้าว... ทำไมล่ะ ถึงจะมีคู่หมั้นแล้ว แต่เรายังสามารถพูดคุยได้นะโทน เรายังส่งความปรารถนาดีให้กับเขาได้ เรายังพูดคุยเรื่องงานกับเขาได้ ไม่งั้นคนที่มีคู่หมั้นทั่วโลกก็ต้องโดนตัดเพื่อน ตัดมิตรอ่ะดิ่


พี่พลอยก็เสริมอีกว่า.. นั่นดิ่ ก่อนหน้านั้นพวกเรายังทำงานด้วยกัน คุยด้วยกันเป็นปกติเลยนะตอนนั้นเขาก็มีคู่หมั้นแล้วด้วย ผมก็บอกอ้าวตอนนั้นผมไม่รู้นี่ พี่พลอยกับจอยอ่ะทำไมไม่บอกผมบ้างล่ะ พี่พลอยบอกอ้าว ก็พวกเราไปทำงานนะ ไม่ได้ไปซักประวัติเขา


พี่พลอยบอกว่าแล้วอีกอย่าง ก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณรุกะแอบชอบโทนมาตั้งนานแบบนั้น ถ้าพี่รู้พี่ก็ต้องเตือนๆไว้แหละ ก็สวยซะขนาดนั้นโทนจะชอบก็ไม่แปลกจริงป่ะ ผมนี่กุมขมับเลยครับ จอยเธอบอกว่าถ้าไม่คุยอะไรเลย คุณรุกะน่าสงสารออกนะโทน โดนคนที่ตัวเองชอบทำแบบนี้น่ะ ผู้หญิงคงเสียใจแย่ ผมฮึ๊ !!! เลยครับ ไม่คิดว่าจอยจะมาไม้นี้


พี่พลอยก็บอกว่าช่ายยยย  นี่โทนทำคุณรุกะปวดใจอยู่นะเนี่ย ผมก็ถามเดี๋ยว ๆ ๆ สองคนนี้คืออะไรยังไง เขาข้างคุณรุกะเฉยเลย พี่พลอยบอกพี่ไม่ได้เข้าข้างนะ พี่แค่พูดให้ฟังเฉยๆเอง ผมก็บอกว่า พี่พลอยครับ แค่ไปทำงานด้วยกันชิบะมันยังหึง ยังหวงขนาดนั้น ขนาดผมทำงานคอยเดินตามดูแล มันยังไม่พอใจซะขนาดนั้น แล้วนี่จะให้คุยอะไรอีก จอยบอกโหโทนดื้ออ่ะ ผมก็เลยบอกว่าช่างเถอะน่าาาา ยังไงคุณรุกะกับพวกเราก็เดินคนละระดับอยู่แล้วล่ะ แบบนี้แหละดีแล้ว



จอยบอกเชอะ แต่เรื่องคนละระดับอันนี้เถียงไม่ออกเลย จอยถามพี่พลอยว่า ขนาดเราทำงานกันแค่นี้ยังเหนื่อยสายตัวแทบขาด คนระดับพวกนั้นต้องทำงานหนักกว่าเรากี่เท่านะพลอย พี่พลอยบอกว่าอย่าให้เดาเลยจอย ยังไงก็ไม่ถูกหรอก เอ่อ... ทำไมพวกเราถึงมีเวลามายืนคุยกันแบบนี้ผมคิดในใจ


ภารกิจนี้เหมือนไม่ใช่ภารกิจเลย เหมือนแค่มาส่งแบบชิลๆเฉยๆ แล้วพอมีเวลานิดนึงที่ได้อยู่กับตัวเอง คุณผู้อ่านเคยมั้ยครับ แบบอยู่ดีๆก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่เหมือนทุกๆอย่างมันเงียบเลยครับ เคยดูในหนังป่ะ แบบคนอื่นก็เดินไปมาตามปกติ แต่มีแค่เราที่ยืนนิ่งและไม่มีเสียงอะไรเลย ผมเองก็เป็นแบบนั้นในตอนนี้


แว๊ปนึงในหัวนะผมคิด.... มิ้นต์เป็นอะไรอยู่ดีๆถึงออกอาการแบบนั้น.. ผมตัดเรื่องที่จับได้ว่าดาวแอบมาหาผมไปเลย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ยัยตัวแสบคงจะง๊องแง๊ง งอแงใส่ก่อนแน่ๆ แต่นี่แก้มก็ไม่ได้มีอาการเลย แล้วคราวนี้ดูแก้มไม่ค่อยพอใจมิ้นต์นิดๆด้วย


ผมก็คิดถึงคำพูดดาวนะว่า ผมน่ะตามใจมิ้นต์มากเกินไป ไม่เคยว่าอะไรมิ้นต์เลย นั่นสิ่ทำไมผมถึงไม่เคยว่าอะไรมิ้นต์เลย และผมแทบไม่เคยเก็บคำเหน็บของมิ้นต์มาใส่ใจ


เป็นเพราะผมชินกับความเย็นชาหรือปล่า หรือว่าผมชินกับการมีคนเหน็บแบบนั้นกันนะ หรือเพราะว่ามีดาวอยู่ด้วยทุกครั้งที่มิ้นต์พูดแบบนี้ ดาวก็มักจะเบรกและทำให้บรรยากาศดีขึ้น หรือเป็นเพราะยัยตัวแสบ ที่คอย ออดอ้อนให้ผมชื่นใจกันนะ


แล้วอยู่ดีๆ เสียงพี่พลอยก็บอกจอย  !!! ทำงานนนน  ผมหยุดความคิดนั้นแบบดีดนิ้ว ป๊อกก !!! ภาพที่เห็นคือท่านอดีตผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทผมคือมากับภรรยาท่านครับ หอบช่อดอกไม้มาเลย ผมคิดในใจโว้ยยย อะไรของกูเนี่ยย เวลทำงานแท้ๆ มัวเหม่ออะไรเนี่ย


นี่ถ้ามันเป็นกรณีอื่นๆ อาจจะชิบหายได้เลยนะ แล้วพี่พลอยตาไวมากจริงๆครับ ส่วนจอยเองก็ไวมากเช่นกัน เธอใช้เวลา 1 วินาทีหยุดในการพูด 1 วินาที ปรับอารมณ์และเดินไปทางคุณเคย์อย่างรวดเร็ว ไวมาก สุดยอดเลย


ท่านอดีตฯเดินผ่านผมไปแว๊ปนึงแล้วหันกลับไปทักว่าไงโทน ผมก็ก้มหัวให้ทักทายตามปกติครับ ท่านยังทักว่าสบายดีนะคุณพลอย พี่พลอยตอบค่ะท่าน แล้วท่านก็เดินไปทางคุณเคย์ครับ พี่พลอยบอกแหม ๆ ๆ  มีแต่คนรู้จักนะ



ผมบอกพี่ก็เหมือนกันแหละครับ พี่พลอยบอกโห่... ไม่ ไม่ใกล้เคียงเลยซักกะนิดเดียว พี่พลอยบอกทำงานดีกว่าาา แล้วเธอก็มองๆ ๆ เหมือนมองว่าตรงไหนที่พอให้เธอทำงานได้บ้าง แล้วเธอก็เดินไป ส่วนผมก็ยืนนิ่งสังเกตรอบๆต่อไป


อยู่ๆคุณรุกะก็เดินตรงดิ่งมามาเลยนะ มายืนหยุดตรงหน้าผม เธอถามว่า เป็นไงซารุซังชั้นไม่อยู่ใกล้ๆแล้วคิดถึงกันมั้ย โอยถ้าเธอโสดนี่ผมจะเขินมากเลยนะ แต่นี่ไม่ใช่ไง แล้วความอึดอัดใจคือ.... เมื่อเชียงใหม่ เรานี่ทำแต่ละอย่างกันมันชวนกระชุ่มกระชวยหัวใจจริงๆ


แต่ตอนนี้มันรู้สึกแบบนั้นไม่ได้ไง การทำที่ใจตัวเองอยาก กับการต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องนี่มันลำบากใจจริงโว้ยย แต่ผมก็ต้องยึดคำขอของพระบิดาไว้ก่อนนั่นแหละครับ ถ้าคุณผู้อ่านจำได้


พ่อผมพูดชัดเจนเลย ตอนที่ผมพาคุณรุกะไปบ้านว่า เฮ้ยไอ้ลูกหมา แบบนี้มันไม่ควรนะ ซึ่งตอนนั้นผมก็นึกว่าเป็นเรื่องที่คุณรุกะมาที่บ้าน แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าที่พ่อผมเตือนนั้นมันไม่ใช่แค่การพาผู้หญิงมาบ้าน แต่มันคือการที่พาผู้หญิงที่มีคู่หมั้นมาบ้านต่างหาก




แต่ที่เมื่อกี้ที่พี่พลอยกับจอยพูดมันก็ทำให้ผมคิดนะว่า ถ้าผมบริสุทธิ์ใจที่จะคุย ผมก็คุยได้ตามปกตินี่ ไม่รู้ดิ่ครับคุณผู้อ่าน อาจจะเพราะว่าเราเคยทำแบบนั้นกันมา มันเลยทำให้ผมแบบว่าพอคิดถึงเรื่องนั้นทีไร มันก็คิดแบบบริสุทธิ์ใจไม่ได้เลยจริงๆ และที่สำคัญผมก็เกือบทำผิดกับพ่อไปแล้วด้วย บอกตรงๆถ้าวันนั้นที่พาคุณรุกะไปบ้าน แล้วพอไม่อยู่ ผมบอกเลยว่าบ้านสั่นหลายริกเตอร์แน่ๆ



คุณรุกะพูดขึ้นมาว่าชั้นอยากจะไปซื้อของจังเลย รบกวนซารุซังช่วยตามไปคุ้มกันด้วยได้มั้ย ตอนนั้นผมก็ตอบไปว่าได้ครับ แล้วก็จะหันไปเรียกทาเคชิซัง เจ๊หมิวเดินมาพอดี ถามว่ามีอะไรหรือเปล่ารุกะ คุณรุกะบอกว่าไม่มีอะไรหรอก แค่อยากไปซื้อของเอง เจ๊หมิวมอง แล้วบอกว่าอ๋อออ ซื้อของเหรอ ทำไมไม่เข้าไปใน Gate แล้วค่อยซื้อล่ะรุกะ



คุณรุกะบอกว่าก็ถ้าไปซื้อข้างในซารุซังก็ตามไปดูแลไม่ได้อ่ะสิ่ เจ๊หมิวบอกว่าเดี๋ยวๆนี่จะชัดเจนเกินไปหรือเปล่ารุกะ อาการออกเชียวนะ แล้วคุณรุกะก็หันไปหาเจ๊หมิวแล้วบอกว่า ก็คิดเหมือนกันใช่ป่ะล่ะ คุณรุกะลูบหัวเจ๊หมิวเหมือนจะแกล้งเจ๊หมิวเลยครับ เจ๊หมิวรีบจับมือมั่บแล้วบอกว่ารีบไปรีบมาเลย เหลี่ยมเยอะนักนะ



คุณรุกะก็หัวเราะแล้วบอกโอ๋ ๆ ๆ แล้วก็ยิ้มให้เบาๆ เจ๊หมิวบอกว่าให้แค่ 5 นาทีนะ คุณรุกะไม่ตอบแต่เดินมามองหน้าผมแต่ไม่พูดอะไรแล้วเธอก็เดินไปเลย ผมก็บอกเจ๊หมิวนะ เจ๊หมิวกอด.อก แล้วพูดว่ามองไรไอ้ลิงหงอก ตามไปดิ่ อย่าเกิน 5 นาที ผมก็เอ่อะครับเจ๊หมิว แล้วก็รีบเดินไปครับ



เอ้.... เจ๊หมิวเป็นอะไรหว่าทำไมยอมง่ายจัง คุณรุกะไปจับจุดอะไรของเจ๊หมิวได้หว่า พอเดินตามคุณรุกะมาผมก็เร่งฝีเท้าตามไป ผมเรียกคุณรุกะ คุณรุกะ เรียก 2-3 ครั้งก็ยังไม่หัน ผมก็รีบเดินไปดึงแขนเบาๆแล้วบอกว่าคุณรุกะครับ จะไปซื้อของก็ทางนั้นสิ่ครับ คุณรุกะยิ้มให้ผมแล้วถามกลับมาว่า ใครจะไปซื้อของเหรอ


ผมบอกก็คุณรุกะบอกจะมาซื้อของ อย่าทำเป็นเล่นสิ่ครับ เธอก็บอกผมว่า เหรอ... พูดไปแบบนั้นเหรอ เธอบอกหิวน้ำอยากกินน้ำจังเลย.... แล้วก็หันมาแบมือบอกซารุซังขอตังส์ 20 บาท เดี๋ยวๆ !!! อะไรเนี่ย ใจผมก็อยากจะถามว่าไม่มีเงินเหรอครับ แต่มันพูดไม่ได้ไง



คือผมไม่ได้พกเป๋าตังส์ไง ชุดสูทแบบนี้ถ้าใส่กระเป๋าตังส์มา ชุดสูทมันเสียทรงแน่ๆ ถ้ากางเกงมันปูด แต่ดีนะที่มันตงิดๆใจแต่เช้าว่าอาจจะได้ซื้อน้ำกินบ้าง ผมเลยเอาแบงค์ร้อย 3 ใบใส่แนบมาใส่กระเป๋าเสื้อสูท ผมก็ล้วงให้แล้วก็ยื่นให้ เธอรับมาแล้วบอกว่าทำหน้าเหมือนลิงจริงๆเลยซารุซัง


เอ๊า !!! อะไรวะนั่นน่ะ ผมก็บอกว่านี่บอกว่าเดินมาซื้อของทั้งๆที่ไม่ได้พกเงินมาเหรอครับคุณรุกะ เธอก็หันมาบอก โหยย ซารุซังขี้งกจังเลย เมื่อก่อนยังไม่เห็นใจร้ายแบบนี้เลย ผมก็บอกว่าเมื่อก่อนกับตอนนี้มันไม่เหมือนกันครับ เธอบอกเชอะแค่เพราะชั้นมีคู่หมั้นเหรอ ก็ชั้นไม่ได้อยากหมั้นซักหน่อย


แล้วเธอก็เดินนำหน้าไปเลย ไปเซเว่นแหละครับ แล้วก็ซื้อน้ำแร่มาดื่ม... ไปซะแล้วแบงค์ร้อยของผม เธอกระดกน้ำแล้วหันมาบอกผม ว่าเงินหมดแล้วบ๋อแบ๋ อื้อหืม ทำอะไรไม่ได้เลยกู คนก็มองเยอะนะเพราะคุณรุกะเธอสวยมากจริงๆครับ แล้วเธอก็เดินกลับ เดิน เดิน เดิน



เดินอ้อมซะด้วย ผมก็ต้องเดินตามนั่นแหละมันคืองาน เธอก็หันมาถามว่า เงียบทำไมอ่ะซารุซัง ผมก็บอกเปล่านี่ครับ เธอหันมามอง แล้วทำหน้าบุ่ยๆ แล้วเดินดุ่มๆไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ทางสนามบินตั้งไว้ให้นั่งแหละครับ คือคิดภาพตามผมนะ โซนนี้คนจะเดินมาไม่ค่อยเยอะมาก แล้วเก้าอี้ที่นั่งคือเป็นแบบเนี้ย







มันเรียงๆกัน 4-5 แถว แล้วคุณรุกะก็เดินเข้าไปนั่งโซนในสุด ซึ่งโซนนี้เพดานไม่สูงมากเลยครับ แสงไฟมันก็จะแบบแค่ตามทางเดิน พอไปนั่งแถวหน้ามันก็จะไม่สว่างนัก แล้วคนที่เดินผ่านก็คงไม่ได้สนใจมองเท่าไร เธอไปนั่งผมก็ต้องเดินตามไปครับ แล้วบอกว่ารีบกลับกันเถอะครับคุณรุกะ


เธอก็บอกไม่เอาจะดื่มน้ำก่อน แล้วเธอก็แหงนหน้ามอง พร้อมกับดึงแขนผมให้นั่งลงที่เก้าอี้ ตอนแรกผมก็ขืนๆนะ แต่ก็ต้องนั่งลง เธอยกน้ำขึ้นดื่มอีกอึกแล้วมองหน้าพร้อมกับบอกว่า พอรู้ว่าชั้นมีคู่หมั้นแล้วทำตัวห่างเหินจังเลยซารุซัง มีคู่หมั้นแล้วคุยกันไม่ได้เลยเหรอ ผมก็... เงียบดิ่ครับ



เธอพูดด้วยเสียงสบายๆไม่เครียดว่า ชั๊นก็ไม่ได้อยากจะหมั้นสักหน่อย ผมก็บอกว่าแต่ยังไงก็หมั้นแล้วนะครับ เธอก็หันมามองแล้วถามว่ากับชิบะน่ะเหรอ เฮ้อออ ฝันร้ายชัดๆ คุณพ่อนะคุณพ่อคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ผมก็เงียบนะตอนนั้น เธอตีแขนผมแล้วบอกว่าซารุซังอย่าเงียบสิ่ ชั้นคุยด้วยอยู่นะ



ผมก็...ครับ เธอก็ถามว่าทำไมไม่คุยกับชั้น ตอนที่เชียงใหม่เรายังคุยกันเหมือนเดิมเลยนะ นี่ใจร้ายมากเลยนะซารุซัง แล้วเธอก็จับที่แขนข้างที่ผมเคยเอ็นฉีก เธอลูบเบาๆแล้วถามว่า แขนข้างนี้หายดีหรือยัง ผมก็ตอบอื้มหายดีแล้วครับ เธอก็จับไว้แน่นแล้วถามว่า ถ้าตอนนี้ชั้นยังไม่ได้หมั้น . . . . .   เราจะยังคุยกันเหมือนเดิมมั้ย


ผมก็เงียบนะ แล้วตอบว่าคงงั้นมั้งครับ แต่เพราะคุณมีคู่หมั้นแล้ว เธอก็บอกว่าก็ยังคุยกันเหมือนเดิมได้นี่ เราบริสุทธิ์ใจที่จะคุยกันนะ ผมก็เงียบเลยเพราะในใจผมแม่งไม่บริสุทธิ์เลย แล้วเธอก็ถามว่าหรือคุณคิดอะไรที่มันไม่บริสุทธิ์อยู่เหรอ ผมนี่แทบเสียทรง แล้วก็บอกว่าช่างเถอะครับ ถึงชิบะจะเป็นคนยังไง



แต่คุณเคย์ก็เลือกเขามาเป็นลูกเขย เป็นคู่หมั้นของคุณแล้วล่ะครับ เธอก็บอกว่าช่างสิ่ คู่หมั้นแล้วไง ถึงจะเคยไปเดทสร้างภาพหลายครั้ง แต่ชั้นก็ยังไม่เคยจูบกับเขาเลย ที่สำคัญชั้นยังไม่เคยใช้ปากโม๊กให้เขาแบบที่ทำกับซารุซังเลย เฮือกก !!!  เฮ้ยยยย เดี๋ยวคุณรุก๊า !!!!!!  พูดอะไรเนี่ย พูดคำว่า " โม๊ก " มาชัดๆแบบนั้นได้ยังไง คร๊าบ !!!





 



เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

only1A

ช่วยเปิดประตูร้านเลยครับผม

น่าสงสารคุณรุกะนะ
แต่พี่พลอยแผนสูงมาก มาปาดซะ

txxt30

จิบอะไรเย็นๆ คลอเสียงเพลงก่อนนะ

เอ่อ...รุกะนางช่างเป็นคนพูดตรงมากๆ เลย  สงสัยจังว่าเจ๊หมิวไปสอนคำว่า "โม็ค" ให้กันตอนไหนเนี่ย  เจ๊หมิวกับรุกะช่างเป็นคู่ที่ทันกันซะจริง รู้ทันกันไปหมด ชิงไหวชิงพลิบกันเล็กๆ

เข้าใจความรู้สึกของโทนนะ ตรงที่ต้องพยายามรักษาคำมั่นที่ให้ไว้กับพ่อทศว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับหญิงที่มีพันธะแล้ว  ผมเองก็มีหลักการประจำใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับหญิงที่มีพันธะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแค่แฟน คู่หมั้น หรือถึงขั้นเป็นภรรยา ยิ่งไม่ยุ่งเกี่ยวเลย

ฮั่นแน่...เรียกคุณเคย์ว่า "พ่อตา" หลายครั้งแล้ว  เหมือนจะบอกเป็นนัยว่า จะได้รุกะมาร่วมแฟมิลี่ด้วยแน่เลย  ขอให้ได้จริงเถอะ สงสารนางจัง นางรักเทพโทนจริงๆ น้า

คนที่น่าจะร่ำลากันแบบแฮปปี้ คงจะมีพี่พลอยคนเดียวนี่แหละ ส่วนสาวจอยเสียท่าให้แก่พี่พลอยทุกทีสิน่า 5555




xtazy


veget

วันนี้ได้ดูบอลโลก เชียร์บราซิลในร้านเกะด้วย  555+  ว่าแต่รุกะนี่ก็รุกหนักดีนะ

JabaWoCK


102030

คุณรุกะจะกลับแล้วยังไงก็จากลากันให้สวยๆนะครับ เจอกันอีกที FC จะได้ไม่ต้องลุ้นมาก 555

seamasterza


wjoe44




deamondear

จับได้แล้ว วันนี้จะหม่นแบบที่เจ๊สปอยล์ไว้บ่น่อ หรือกลายเป็นคอมเมดี้นะ