ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 8 ] ตอนที่ 118 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มีนาคม 19, 2023, 04:55:34 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง




สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ




★★★★★★★★★★★


ปล.3 เนื้อหาการประชุมผมสกรีนแล้วครับอันไหนเกี่ยวกับตัวบริษัทโดยตรงผมตัดออก เนื้อหาในตอนนี้อ่านได้สบายๆ


★★★★★★★★★★★


ความเดิมตอนที่แล้ว


ที่บริษัทผมมีประชุมครับ เนื่องด้วยวาระต่างๆ

ที่สำคัญเรื่องการทำงานร่วมกันของ 2 บริษัทด้วย

ตอนแรกผมก็ไม่อะไรหรอกครับ แต่ว่าผมต้องเข้าประชุมด้วยนี่ดิ่

ผมก็สงสัยตั้งแต่เห็นชื่อตัวแทนฝ่าย HR แล้วล่ะ

แล้วพอถึงเวลา มันก็มาบอกผมนะว่ายังไม่จบ

ผมก็หนักใจนะว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นอีก แต่หัวหน้าผมก็บอกว่า

เอ็งทำให้เต็มที่ก็พอ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็นั่งเรียนรู้ไปเฉยๆ

ถ้าแม่งทำอะไรโง่ๆ เดี๋ยวพี่เล่นแม่งเอง....

แล้วถ้าเอ็งต้องพรีเซ๊นท์ก็ทำให้เต็มที่ ก้าวข้ามตัวเองไปเลย

เขาหัวเราะ แล้วบอกปลดปล่อยบังไคเลย 5 5 5 5



★★★★★★★★★★★

นายโทนไดอารี่ 118


เอางั้นเลยเหรอวะพี่ ปลดปล่อยบังไคเลยเหรอ 5 5 5 5 .... ผมคิดในใจนะ แต่พี่เขาพูดกลับมาว่า ตราบใดที่มึงยังเป็นลูกน้องกู แล้วมึงไม่ได้ทำอะไรผิด มึงไม่ต้องกลัว อื้อหืมใจชื้น

คุณผู้อ่านไม่ต้องสงสัยครับว่าทำไมอยู่ดีๆพี่เขาก็ใช้คำว่ากู คือพูดง่ายๆ มันเป็นเหมือนการย้ำ ย้ำว่างานนี้เอาจริง เรียกว่าเป็นการเลือกใช้คำดีกว่า ถ้าพูดปกติก็จะใช้คำแทนตัวเองว่า พี่


แต่ถ้าตอนไหนเขาต้องการย้ำให้จริงจังกับสิ่งที่กำลังจะทำ คำว่า " กู " จะถูกพูดออกมา แล้วเขาจะพูดกับผมคนเดียวด้วย ก็ด้วยความที่เป็นผู้ชายด้วยกัน แล้วผมก็ถือว่าเป็นรุ่นน้อง รุ่นหลานจากสถานบันเดียวกันคณะเดียวกัน


พี่เขาก็คงแสดงออกมาได้เต็มที่ ก็นี่แหละครับลูกพี่ผม เราเดินเข้ามาในห้องประชุม เชื่อมั้ยครับว่า แค่ระยะ วงกบ ประตู ความกดดันแม่งคนละเรื่องเลย อยู่ดีๆก็กดดัน ด้วยเพราะสายตาทุกคนกำลังจับจ้องมาทางนี้อยู่


ซึ่งโอเค การเดินเข้ามาในห้องประชุมมันจะถูกมองจากคนที่อยู่ข้างในอยู่แล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ แต่ยังไงซะมันก็กดดันอยู่ดีสำหรับเด็กอ่อนด๋อยอย่างผม แล้วอีกอย่างที่รู้สึกกดดันก็... สีผมนี่แหละครับ


คือโอเคแหละว่าการทำสีผม มันได้รับการอนุญาตจากพี่แมน และคุณท่าน ซึ่งนั่นเป็นเหตุการณ์หลังจากที่คุณท่านเข้ามาเป็นหุ่นส่วนใหญ่แล้ว เพราะงั้น มันจึงเป็นลักษณะการเห็นชอบจากผู้หลักผู้ใหญ่


แต่ว่า... หลายคนที่ยังไม่รู้เขาจะมองยังไงนะ แล้วเอาซะขาวสลับเงินแบบนี้ ถ้าพูดถึงระเบียบของบริษัท มันก็เกินไปจริงๆนั่นแหละครับ ผมเดินมาที่เก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ โดยที่หัวหน้าให้ผมนั่งต่อจากพี่จักร แล้วให้พี่สามนั่งรั้งท้ายกลุ่ม


ก็แบบแถวยาวหันหน้าเข้าโต๊ะนั่นแหละครับ เฮ้อตอนแรกผมนึกว่าจะต้องนั่งคนสุดท้ายของกลุ่มซะแล้ว อย่างน้อยตอนนี้หันซ้ายก็เจอพี่จักร แบบนี้ค่อยอุ่นใจครับ แล้วพี่สามก็แจกเอกสาร วาระต่างๆ


ผมก็อ่าน ๆ ๆ ๆ วาระต่างๆ มันเกี่ยวกับการรับมือกับไตรมาสที่เหลือของปี เพราะการที่บริษัทของคุณท่านเขามาเทคหุ้นไปนั้น มันจะส่งผลแน่นอน ทั้งคู่ค้าเดิมของบริษัทนี้ที่อาจจะยังไม่ไม่มั่นใจกับการบริหารของคุณท่าน


หรือคู่ค้าเดิมจากบริษัทของคุณท่านที่มีความมั่นใจและพร้อมจะเข้ามาร่วมธุรกิจเพิ่ม และไหนจะว่าที่คู่ค้าใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเพิ่ม เพราะอย่าลืมครับคุณผู้อ่าน ว่าการที่พี่แท-โอ โผล่มาที่งานเลี้ยงสังสรรค์จนเป็นข่าวนั้น


มันทำให้หุ้นของบริษัทพุ่งปรี๊ดดดด จนผมเองก็ตกใจ การขยับตัวของพี่แท-โอนั้น ถ้าจะให้อ้างอิงแบบไทยๆ ก็คงเหมือนการขยับตัวของปลาอานนท์ แค่เพียงครั้งเดียวก็ก่อให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์ แผ่นดินสั่นไหวได้แล้ว


นั่นแหละครับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่พี่แท-โอ กับพี่ฮยอน-อา มาที่งาน ตอนนั้นผมกุมขมับให้พวกลูกพี่ผมเห็นเลย เพราะคนที่เชิญพี่แท-โอ มางานสังสรรค์ก็คือพ่อของผมเอง สิ่งที่ยังสงสัยในใจคือ พ่อผมเขามีอำนาจขนาดไหนกัน ไหนบอกเป็นแค่ที่ปรึกษา แต่ไปพูดอีท่าไหน พี่แท-โอ ถึงยอมมากันนะ


แค่พ่อผมพูดภาษาอังกฤษได้ ผมก็อึ้งแล้วครับ นี่จะยังเรื่องติดต่อกับพี่แท-โออีก.... นี่ตกลงพ่อผมเป็นใครกันเนี่ยยยยยย ไหนตั้งแต่เด็กๆบอกผมว่า ข้าก็ชาวสวนไง ชาวสวนที่ไหนมีลูกน้องเป็นเจ้าพ่อกันเนี่ย



หลายๆคนก็เริ่มทยอยกันเข้ามาครับ เนื่องจากเป็นการประชุมที่ค่อนข้างใหญ่และวาระแน่นๆเลย จึงต้องมีคนมาคอยกำกับเวลาครับ เขาก็มาแจกแจงนะ ว่าวาระไหนก่อน วาระไหนหลัง แผนกไหนก่อน ฝ่ายไหนที่หลัง ใช้เวลาได้คนละเท่าไร ขอเวลาเพิ่มได้เท่าไร ถ้าเกิดมีข้อสงสัยจะสามารถถามได้ด้วยวิธีอะไร



จนเขาพูดเสร็จ คุณท่าน พี่แมน และ ท่านอดีตฯ ก็เข้ามาพร้อมๆกันเลยล่ะ ทุกคนในที่ประชุมก็ลุกขึ้นทำความเคารพ ผมนี่ลุกท้ายสุดเลยมั้ง เพราะไม่เคยประชุมอะไรแบบนี้ ตอนที่ประชุมสรุปผลหลังสัมมนามันก็ไม่ได้เป็นทางการแบบนี้ด้วย


ก็ตามปกติครับ ถึงคุณท่านจะไม่ใช่คนที่เน้นพิธีการเท่าไร แต่อะไรแบบนี้มันก็ต้องมีหย่อนๆกันบ้าง พี่แมน คุณท่าน และ ท่านอดีต นั่งด้วยกันและหันมาทางพวกเราครับ โต๊ะตัวยาวก็ดูหรูหราสมกับฐานะ และตำแหน่งแหละครับ


คุณท่านพูดเปิดงานสั้นๆว่า เอาล่ะขอบใจทุกคนที่มาและส่งตัวแทนมานะ ระเบียบวาระการประชุมทุกคนคงทราบกันดีแล้ว งั้นเรารีบรันตามแพลนเลยนะ หลังจากคุณท่านพูดจบ การประชุมก็เริ่มขึ้น


กดดันอิ๊บอ๋ายเลยครับ เพราะนี่เป็นการประชุมโดยมีตัวแทนจากทั้งบริษัทดั้งเดิมของคุณท่าน และบริษัทที่ผมทำงานอยู่ ถึงผมจะรู้จักฝ่ายของทางบริษัทดั้งเดิมแทบจะทุกคน แต่นั่นมันก็ไม่ทำให้ความกดดันลดลงเลย


เพราะว่ารู้จักนั่นแหละครับถึงน่ากลัว เพราะทุกคนจะไม่ใจดีกับผม การที่คุณท่านเรียกผมว่าลูกชาย สำหรับคนอื่นอาจจะคิดว่า เอ้อ ค่อยดีหน่อย แบบนี้คงจะมีเกรงใจกันบ้าง...  ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นเลย ชะตากรรมของผมจะเหมือนกับพี่แมนก็ตรงที่ว่า


เป็นลูกท่านประธานใช่มั้ย งั้นก็ต้องทำให้ได้เหมือนท่านประธาน ถ้าทำไม่ดีก็โดนดุ โดนติ โดนกดดัน แต่อย่างพี่แมนน่ะ เขาผ่านด่านแรกเรียบร้อยตั้งแต่การเข้ามาช่วยทำให้บริษัทกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง พี่แมนเองก็พูดว่าตัวเขายังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ


แต่ตอนนี้ผมก็ว่าเขาโคตรเก่ง และอีกอย่างบารมีที่แผ่ออกมา ถึงจะยังเทียบคุณท่านไม่ได้ แต่มันก็ทำให้พวกในบริษัทไม่กล้าหือได้หลายคน ต่างจากผมที่เป็นลูกนอกใส้ ยังต้องพิสูจน์อะไรอีกเย๊ออออ


จะมีก็เมียพี่เท่ส์นี่แหละครับ มาทำไม.... แล้วหัวหน้า HR ติดภาระกิจอะไรถึงไม่มาล่ะเนี่ย การประชุมดำเนินต่อไปครับ ส่วนมากก็เป็นการว่าด้วยวาระในภายภาคหน้าจะ เมิร์จ หรือ หรือบริหารแบบเดิม


แบบไหนจะสัมฤทธิ์ผลมากกว่า ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเมิร์จมันจะควบคุมได้ง่าย แต่คุณท่านจะต้องโหลดงานบริหารเยอะกว่าเดิมแน่ๆ แต่ถ้าบริหารแบบเดิมมันอาจจะดูแลยากหน่อย แต่ระบบเดิมๆก็แข็งแรงอยู่แล้ว ไม่ต้องโหลดงานมาก


พูดไงดี เอาเป็นว่ามีข้อดี ข้อเสีย นั่นแหละสำหรับสองแผนการจัดการ แผนงานต่อมาก็ถูกนำมาชี้แจงครับ อันนี้เป็นฝ่าย.. อุ้ย.. ชิปปิ้ง แล้วไม่ต้องสืบครับว่าใครมาเป็นตัวแทน ก็ต้องเป็นคุณป้าผู้ที่เสมือนอาจารย์ของผมอีกคนนึง แล้วพอเสียงของคุณป้าเริ่มดังขึ้น


อยู่ดีๆผมก็นั่งหลังตรงแหน่วเลยล่ะครับ ร่างกายมันเป็นไปเอง เพราะโดนพูดอยู่ตลอดตอนฝึกงานว่า เธอเป็นนักกีฬา เธอฝึกงานในบริษัทใหญ่โต เธอต้องมีบุคลิกภาพที่ดี อย่าให้ชั้นเห็นว่านั่งหลังค่อมเชียวนะ ลูกท่านประธานชั้นก็ไม่สน


ก็นั่นแหละครับที่ผมโดนเคี่ยวมา คุณป้าอธิบายจุดต่างๆ แจกแจงมันออกมาได้อย่างดี เรียกว่าไม่มีที่ติเลย ทั้งการจัดการสินค้าระหว่างที่ติดกงศุลฯ กรณีเอกสารผิดพลาดเล็กน้อย เรื่องตัวบทกฎหมาย การดูแลลูกค้ากรณีสินค้าล่าช้า การยกระดับการจัดส่ง ดูแลเรื่องความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทคู่ค้าขนส่ง และยกระดับ AEO


ฟังเพลินครับบอกตรงๆ แต่พี่จักรก็สะกิดผมแล้วทำท่าเขียนๆบนอากาศ โอเคให้ผมจดตรงนี้ไว้ ผมก็แกะเอาแต่ใจความสำคัญมาครับ ต้องไม่ใช้คำเฉพาะตัวมากเกินไป ไม่งั้นคนอื่นจะทำงานต่อลำบาก ผมก็แกะจด จด จด


มันโชคดีที่ว่าแพทเทิร์นในการพรีเซ๊นต์และการนำเสนอที่เข้าขั้นระดับเทพของป้าเขานั้น ผมจำได้หมด เพราะงั้นผมก็พอจะคาดเดาได้ว่าสิ่งที่ป้าเขาจะบอกคือตรงไหน และจุดไหนต้องขยายความเพิ่ม ผมก็จะมาร์คเอาไว้


ผมไม่ใช่คนเก่งนะ แต่ผมโดนป้าเขาเคี่ยวมาหนักเลยล่ะครับ ตอนที่ทำงานพิเศษอยู่ที่บริษัท ก็ไม่รู้เพราะอะไร แต่ผมโดนหนักเลบ พวกพี่ๆฝึกงานจากสถาบันอื่นก็ยังมาถามผมเลย ว่าผมไปทำอะไรให้ป้าแกไม่ชอบหน้ารึเปล่า ถึงเน้นผมจังเลย


ซึ่งผมก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็ต้องขอบคุณความเข้มงวดของป้าเขาแหละครับ ถึงผลมันจะยังไงไม่ชัดเจน แต่ว่าตอนนี้ผมก็เข้าใจรูปแบบการทำงานของป้าเขาได้ดีเลยล่ะครับ


มันก็ปฏิเสธไม่ได้แหละครับว่าความลำบากในวันนั้น มันทำให้ผมในวันนี้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น พอคุณป้าจบการแจกแจงเพียงเท่านี้ ก็ต่อด้วยคอมโบกับทีมกฎหมายของบริษัท แต่คราวนี้เป็นของทั้ง 2 บริษัทครับ ออกมาแชร์เรื่องหลักและแนวการทำงาน ทางใดบ้างที่จะสามารถช่วยซัพพอร์ตบริษัทได้


เพราะการทำงานขนส่งข้ามประเทศทางเรือบางทีก็จะมีปัญหากับกงศุลฯ บ้างเป็นธรรมดา แต่ถ้ามันช้าทางสินค้ามันก็จะถึงมือที่หมายช้า นั่นหมายถึงเครดิตจะเสียได้ง่ายๆ เพราะว่าคงไม่ทุกคนที่จะรับฟังคำอธิบายที่ว่าติดปัญหานู่น นี่ นั่นบลาๆได้ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องจริงๆ เพราะงั้นหน้าที่ของฝ่ายนี้คือการ ซัพพอร์ตชิปปิ้ง และลิขสิทธิ์ หรือ ทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทด้วย



คุณท่านกับพี่แมน นั่งมองไปที่หน้าหน้าจอที่ฉายภาพข้อมูลต่างๆครับ ผมเองก็มองๆไปด้วย ในส่วนนี้ผมจะขอข้ามไปแล้วกันนะครับ จนจบลงไป ผู้ที่คอยดูแลลำดับการประชุมก็ตัดบทจบไป ตอนนั้นท่านอดีตก็บอกว่า ได้มุมมองใหม่ๆเยอะเลยนะครับคุณท่านก็พยักหน้าอื้มๆ แต่ว่าคงต้องพึ่งคุณอีกหลายอย่างเลยล่ะครับ ท่านอดีตก็บอกว่าแน่นอนครับ แล้วพี่แมนล่ะ ผมนั่งมองนะ พี่แมนก็ยังทำท่าทางแบบสบายๆ


เผื่อใครนึกภาพไม่ออกให้ลองทำตามนี้นะ นั่งพิงเก้าอี้มือกุมหลวมๆไว้ที่หน้าอก แหงนหน้าที่แผนภาพที่ยกมาแสดง ท่าทางพี่แมนดูชิลด์ครับ แต่ผมบอกได้อย่างนึงเลยว่า ยิ่งแกดูชิลด์มากเท่าไร นั่นแหละครับหมายความว่าแกเอาจริงๆ ท่าทางของพี่แมนดูผ่อนคลายก็จริง แต่เขาจะคิดตามในทุกๆอย่างที่ฟัง แยกออก และรวมกันใหม่ในสมองนั่นแหละ


ผู้กำกับเวลาการประชุมหรือพิธีกรก็เชิญให้บุคคลต่อไปเริ่มอภิปรายต่อ แล้วก็เริ่มรันต่อไปจากฝั่งของคุณท่าน จนกระทั่งมันก็วนมาถึง คราวของรองHR ครับ ก็ต้องชมครับ ว่าแม่ง... เอ้ย.. ต้องชมว่าเขาก็มีประสบการณ์ในการประชุมระดับนี้มาไม่น้อย ก็นะทั้งตำแหน่งด้วย ไหนจะข่าวคาวๆ เรื่องที่แม่ง... วู๊ว ใช้คำผิดบ่อยจังผม


ไหนจะเรื่องข่าวคาวๆ ที่เขาเต๊าะกันกับหัวหน้าฝ่ายล่ะ ส่วนนึงอาจจะซัมติงที่เกิดขึ้นนั่นแหละ แต่ก็ต้องยอมรับเรื่องทำงานเก่ง ไม่งั้นคงไม่อยู่มาได้หลายปีหรอก แล้วแม่ง... เอ้ยย วู๊วว เป็นไรวะผมเนี่ย


แล้วเขาก็แนะนำตัว บลา ๆ ๆ ตัวแทนบลา ๆ ๆ แล้วก็เริ่มพูดถึง ระเบียบ วาระ นู่น นี่นั่นต่างๆ นาๆ แน๊ะ มีเอาภาพตัวเองที่ไปดูงานด้าน HR ที่ต่างประเทศด้วย จากตอนแรกที่ชมๆ . . . ขอเปลี่ยนคำพูดทันมั้ยวะเนี่ย เพราะบริบทมันเริ่มจะเป็นการอวยตัวเองแล้วล่ะ


จนกระทั่งก็เริ่มเข้าเรื่องครับ เขาใช้คำกับบทนี้ว่า คุณภาพของบุคลากร . . . รู้เลยว่าไม่นานต้อง วก มาเรื่องที่เกี่ยวกับผมแน่ๆ มันก็บ่นไปเรื่อย ถามว่ามีสาระมั้ย ก็มีครับ เพราะมาประชุมระดับนี้ถ้าไม่ทำการบ้านมาเลย มันนั่นแหละจะซวย


แผนพัฒนาศักยภาพของบุคลากร แผนดึงศักยภาพ มันก็มีเรื่องเกี่ยวกับพวกสัมมนาครับ แน๊ะ !!! ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มีเรื่องพัฒนาบุคลิกภาพ  IQ EQ  ของทางบริษัทนั้น รวมถึงยกระดับของทางบริษัท ( ชื่อบริษัทผม ) แล้วตอนนั้นไฟสีแดงก็ติดขึ้นแล้วมีการยกมือ ทำให้การพูดชะงักไป


คนที่ขอสัญญาณคือคุณป้าชิปครับ ท่านบอกว่าตรงจุดๆนี้เป็นหน้าที่ของทาง ( ชื่อบริษัทผม ) ต้องเป็นฝ่ายเสนอเพื่อช่องทางในการบริหารที่ชัดเจนทั้งสองฝ่าย เราควรเน้นทางบริษัททางนี้ก่อน ก่อนที่จะไปถึงอีกบริษัท


เข้ !!! ยังไงล่ะนี่แหละ จารย์โผม แต่ดูรอง HR ยังนิ่งอยู่ครับ พี่จักรก็บอกว่าคุณ ( ชื่อป้า ) แน่นอนว่ะ ผมบอกระดับนั้นโน พอมแพมเลยพี่   ระหว่างนั้นรอง HR ก็พูดขึ้นมาอีกว่า สิ่งสำคัญคือคุณภาพของบุคลากร เพราะนั่นคือหน้าของบริษัท


ผมก็นั่งฟังมันพูดไปต่อครับ เริ่มมีการแย๊ปๆ เข้ามาเรื่องการแต่งกายแล้วครับ อีกไม่นานเดี๋ยวก็วก เข้าเรื่องผม แต่ว่าตอนนั้นผู้กำกับเวลาการประชุมก็แจ้งว่าหมดเวลา เขาก็จะพูดต่อนะ อันนี้เริ่มไม่มืออาชีพละ


แต่แปปเดียวก็เหมือนจะสงบลงครับ คราวนี้มาทางหัวหน้า เอาล่ะคราวนี้มาทางบริษัทผมบ้างแล้วล่ะครับ แผนการงานจากทุกแผนกถูกพรีเซ๊นท์ออกมา อย่างมืออาชีพ บริษัทผมอาจจะดูเป็นพระรองถ้าเทียบกับบริษัทคุณท่าน แต่ฝีมือแน่ละคนก็ระดับพระกาฬไม่ต่างกัน


ประสบการณ์ วาทะ ทัศนคติ สกิลการทำงาน ทุกคนก็มือมีเหมือนกัน ก็จริงอยู่ว่าบริษัทนี้ถ้าทางด้านชื่อเสียงและอันดับที่ถูกจัดจากสื่อบางสื่อ อาจจะด้อยกว่าทางบริษัทคุณท่าน แต่ก็ใช่ว่าบุคลากรทางนี้จะด้อยกว่าทั้งหมดนะครับ มันก็เหมือนกับเกมส์ออนไลน์สักเกมส์ มันมีทั้งกิลด์ ทั้งแคลน ทั้งแก๊งต่างๆ นาๆ มีการจัดอันดับในเกมส์ว่าได้อันดับนี้ๆ ๆ ๆ


ไม่ว่าจะเป็นอันดับไหนๆ ก็มักจะมีคนเก่งที่โดดเด่นเสมอแม้คนๆนั้นจะไม่ได้ไปอยู่ในกิลด์ใหญ่ๆก็ตาม เอาง่ายๆเลยยกตัวอย่างฟุตบอลนี่แหละ นักฟุตบอลที่โดดเด่นอาจจะไม่ได้อยู่ใน 5 ลีคใหญ่ หรืออยู่ทีมระดับท็อป แต่เขาก็มีศักยภาพมากพอที่จะทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักและพาทีมประสบความสำเร็จไม่มากก็ได้


นั่นแหละครับบริษัทผม ถ้าบุคลากรของบริษัทผมไม่โหดจริง ไม่เทพจริง คุณท่านคงไม่สนใจใช่ไหมล่ะครับ และที่สำคัญท่านอดีตฯ ที่บริหารให้บริษัทมาได้ไกลขนาดนี้นั่นแหละครับ ตัวโหดเลย มาต่อกันเลยครับ จน วนมาถึง HR ของฝ่ายผมครับ ท่านคนนี้ด้วยอายุ 40 ต้นๆ เลยทำให้เป็นบุคคลที่อยู่กลางๆ ที่รับฟังทุกเจเนอร์เรชั่น รุ่นใหญ่ที่อายุมากกว่า รุ่นเดียวกันที่อายุพอๆกัน และรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่า


เอาตรงๆ ถึงจะอาจจะผิดกับ หัวหน้า HR ของบริษัทคุณท่านที่เป็นเหมือนอาจารย์ของผมอีกคนนึง แต่ถ้าให้พูดกันตรงๆ ผมว่า HR ของทางบริษัทนี้ยังดูมีภาษีดีกว่า และที่สำคัญไม่ล่อลูกน้องตัวเองด้วย เขาก็เริ่มพูดเกี่ยวกับแผนงานการพัฒนาบุคลากรในด้านต่างๆ บุคลิกภาพ ทักษะการทำงาน และใช้แผนภาพในการพรีเซ๊นท์เรื่องการสัมมนา ซึ่งดีขนาดไหนก็คิดเอาสิ่ครับว่า


คุณท่าน ท่านอดีต และ พี่แมนถึงกับปรบมือให้กับการนำเสนออ่ะหายากนะบอกตรงๆ แต่ว่ามันก็มักจะมีตัวเสือก ที่ชอบสอดเวลาชื่นมื่น เพราะว่ารอง HR มันเปิดไฟสัญญาณยกมือครับ ตามมารยาทครับก็ต้องให้พูดก่อน แล้วมันก็เข้าประเด็นตรงๆเลยครับว่า


ไม่ทราบว่าโครงงานสัมมนาที่ระยองใช้ทีมงานจากไหน เนี่ยพอฟังแล้วเหมือนรู้ว่าตั้งใจหาเรื่องกันครับ ฝ่ายบุคคลก็บอกรายชื่อไปทั้งหมดครับ บอกโดยที่ไม่ต้องดูโพยเลย ผมมองตลอด เขาก็มองหน้ารอง HR แล้วก็เรียงรายชื่อพูดออกมาเลย แล้วคือด้วยท่าทาง ความมั่นใจ และที่สำคัญบารมีของคำว่าหัวหน้า ที่รอง HR ไม่มี


สิ่งนี้แหละทำให้ตัวมันนั่นแหละที่เริ่มหลบตาไม่กล้าปากดีอีก แต่แล้วพอหัวหน้า HR เอ่ยชื่อผมไปนี่คือเหตุการณ์ในตอนนั้นครับ ทุกคนที่เป็นผู้บริหารภายใต้บริษัทของคุณท่านทุกคน หันมามองทางผมเลยล่ะครับ แบบพอเป็นชื่อผมน่ะ เขาหันมามองเลย จนพี่จักรกับพี่สาวที่นั่งประกบผมไว้ ก็ยังเสียอาการเลยครับ ครู่เดียวพวกเขาก็หันกลับไป พี่สามก็เอียงตัวมาถามผมมา โทน แกสร้างโจทก์ไว้เยอะเลยนี่ พอได้ยินชื่อแก ทำไมพวกเขาหันมามองกันหมดเลยล่ะ


ผมก็เลยตอบไปเบาๆว่า พวกเขาสอนงานผมมาน่ะครับ คงแปลกใจว่าผมมีรายชื่อเป็นทีมงานจัดสัมมนาด้วย คือระหว่างที่ผมพูดกับพี่สาว หัวหน้า HR ฝั่งผมก็พูดไปต่อ แต่ป้าชิปปิ้งก็ยกมือขอสัญญาณ พอได้จังหวะป้าเขาก็พูดว่า มันไม่ประมาทไปหน่อยเหรอคะคุณ ( ชื่อหัวหน้า HR )  ที่เลือกใช้พนักงานที่อายุงานแค่ปีเดียวให้รับผิดชอบงานที่ใช้งบประมาณพอสมควรแบบนี้ คราวนี้ผลงานออกมาดีมันก็เลยไม่มีปัญหาอะไร


แต่ถ้ามันเกิดล่มหรือไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ล่ะจำทำยังไง เขาจะรับแรงกดดันได้เหรอ เวรกรรมโดนป้าพูดใส่ซะงั้นเลยอ่ะ แต่ก็ต้องฟังต่อไปครับ ตอนนั้นผมก็แอบเคืองป้านิดๆนะ แต่พี่จักรก็เอียงตัวมาบอกว่านั่นเขากำลังช่วยเอ็งนะ ผมก็มองพี่จักรโดยที่ไม่ถามอะไรครับ พี่จักรบอกว่า


ที่เขาพูดน่ะ เขาพยายามเรียกร้องความรับผิดชอบจากหัวหน้า HR ว่าถ้าคราวต่อไปๆเอ็งทำผิดพลาดจนมีแรงกระแทกกลับมา เขาที่ระดับหัวหน้าและผู้บริหารก็ต้องรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่ยอมให้เอ็งรับผิดชอบอยู่ฝ่ายเดียว ฮุ๊ยย รักป้าคร๊าบ แล้วตอนนั้นหัวหน้าผมก็พูดขึ้นมาว่า ทำไมอยู่ดีๆก็เสียวสันหลังวะ แน๊ะ !!!  พึ่งรู้ตัวครับลูกพี่


กลับมาที่ป้าชิปต่อ เชื่อป่ะครับคำที่ป้าเขาพูดมาน่ะ ทั้งบริบทต่างๆมันต่างจากรอง HR ที่แย้ง ๆ ๆ ๆ มาตลอดเลยครับ ป้าเขายกตัวอย่างมาพูด หยิบยกเรื่องต่างๆมาพูดได้เพลินมาก หัวหน้าฝ่ายบุคคลของผมก็รับฟังแล้วบอกว่า ผมจะนำเรื่องนี้ไปคิดทบทวนใหม่อีกครั้ง ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แล้วเขาก็ไหว้กลับ


ป้าชิปก็ยกมือรับไหว้แล้วบอกว่าไหนๆพวกเราก็อยู่ในเครือเดียวกันแล้ว ชั้นก็อยากให้ทุกอย่างมันออกมาดี ที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ เพราะงั้นอย่าได้เกรงใจเลย เนี่ยยย ป้าชิปปิ้งสุดยอดดด แต่ว่าท่านอดีตฯก็พูดขึ้นมาว่า อื้มม แต่ผมชอบงานสัมมนาครั้งนี้นะ มันได้ทั้งพลังบวก ได้ทั้งกิจกรรมที่สดใหม่ ไม่ใช่คร่ำครึ เหมือนยุคพวกผม อีกทั้งการจัดสรรงบประมาณก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว


ยังไงผมก็ขอชื่นชมทั้ง (  ชื่อหัวหน้าฝ่ายบุคคล ) และ คุณ ( ชื่อหัวหน้าผม ) นะ ที่คัดเลือกบุคลากรและทีมงานได้ดีมาก พูดแบบนี้ก็เป็นธรรมเนียมที่หัวหน้าผมจะต้องยืนขึ้นแล้วโค้ง เพื่อทำการขอบคุณครับ แล้วพอหัวหน้าผมยืนขึ้นสายตาก็จับจ้องมาที่เขาและต้องเห็นผมด้วยแน่ๆล่ะ พี่แมนด้วย คุณท่านด้วย ท่านอดีตด้วย


แล้วไหนๆหัวหน้าผมก็ได้ยืนแล้ว เขาก็เลยได้รับมอบหมายให้พูดถึงแผนงานต่อเลย หัวหน้าผมก็แนะนำตัว่า ชื่อนี่ ๆ ๆ หัวหน้าฝ่ายบริ. . . . เขาก็เริ่มพูดโดยที่ไม่ต้องพึ่งสคลิปเลยล่ะครับไหลลื่นมากๆ ส่วนพี่สามก็ทำการบันทึกการประชุมเฉพาะกิจทันที ส่วนพี่จักรเขาก็คอยดูเอกสาร ข้อมูลต่างๆที่หัวหน้าพูดไป


เหมือนพี่จักรเขาก็เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ส่วนผมก็ทำเหมือนกำลังเรียนรู้นั่นแหละครับ จนอีกแล้วครับอีกแล้ว รอง HR เอาอีกแล้วครับ



คืออะไรของมันเนี่ยขอสัญญาณไฟบ่อยจริง มันถามว่าแผนกทางฝั่งนั้นใช้หลักการอะไรในการคัดเลือกคนเข้าทำงานหรือคะ อยากทราบเป็นแนวทางหน่อยหัวหน้าผมก็อธิบายเป็นปกติไป ว่าต้องตรงกับแนวการทำงานของเขาบลา ๆ ๆ ๆ จนมีคำถามนึงรอง HR มันถามว่า ถึงแม้หลักการเลือกคนที่ตรงกับการทำงานนั้น จะทำให้ได้คนที่อาจจะสร้างภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสียให้บริษัทงั้นเหรอคะ


แล้วผมเป็นไรไม่รู้นะอยู่ๆฟิวส์ขาดเฉยตอนนั้นกำหมัดเลย แต่พี่จักรแตะไหล่แล้วบอกว่าแค่นี้สบาย ผมก็หายใจลึกๆ หายใจลึกๆ รอง HR ก็พูดขึ้นมาอีกว่า ภาพลักษณ์ของบริษัทเป็นเรื่องสำคัญนะคะ ต่อให้ได้บุคคลที่สามารถทำงานได้ แต่มันทำให้บริษัทดูเสื่อมเสียนั้น ดิฉันเห็นว่าไม่ควรค่ะ เพราะว่าโลกปัจจุบันใส่ใจกับภาพความสวยงามขององค์กรอยู่แล้ว


ถ้าการที่มีพนักงานทำงานได้ดีสักคน แต่ภาพลักษณ์ต่างๆขององค์กรกลับเสียลงไปล่ะก็ เราควรแก้ไขปัญหาให้ถูกจุดไม่ดีกว่าเหรอคะ ยกตัวอย่างเช่น ( ชื่อผม )  อ้าวเจาะมาตรงๆเลยว่ะ มันพูดอีกว่า ขออนุญาตค่ะ พี่แมนก็บอกเชิ๊ญตามสบาย ผมเองก็อยากฟังเหมือนกัน เดี๋ยวพรี่ชายทำไมทำงั้น


แล้วคราวนี้ประเด็นเปลี่ยนเลยครับ รองหัวหน้าผมก็นั่งลงเลยคราวนี้ รองHR ดูมั่นใจครับ มันบอกว่าด้วยอายุงานในตอนนี้ 1 ปี ของคุณ ( ชื่อผม )  น่าจะทราบดีแล้วว่าระเบียบของบริษัทเป็นเช่นไร การแต่งการ เสื้อผ้า และสิ่งที่จะทำให้บุคคลภายนอกเห็น ทุกอย่างควรอยู่ในระเบียบ แต่สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ดิฉันคิดว่าทางบริษัทไม่ควรนิ่งเฉยค่ะ



ทั้งเรื่องการพักผ่อนระหว่างชั่วโมงการทำงาน ดิฉันว่ามันไม่สมควรเพราะทุกนาทีในการทำงานนั้นหมายถึง กำไรและผลประกอบการของบริษัท ทั้งสีผมที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นพนักงานของทางบริษัทพวกเรา แน๊ะ !!!  มึงใช้คำว่าพวกเรา มึงตั้งใจจะหาพวกว่างั้นเถอะ มันพูดอีกว่าแค่ภาพลักษณ์นี้ก็อาจจะทำให้บริษัทของพวกเราถูกมองในแง่ลบแล้วค่ะ แล้วยังมีนี่อีก มันพูดแล้วโชว์เอกสารต่างๆแล้วพูดว่า ยังมีเรื่องการถูกพักงานเพราะไม่รู้จักควบคุมและระงับอารมณ์ในที่ทำงาน และยังใช้คำไม่สุภาพนอกสถานที่ทั้งๆที่อยู่ในบทบาทของพนักงาน อาจจะทำให้เสื่อมเสียมาถึงบริษัทของเราได้ แหม่ ย้ำจริงๆของเรา ของเรา ของมึงหรือเปล่า แล้วแม่งยังพูดต่อว่า


มันทำให้ดิฉันสงสัยว่ามาตรฐานการพิจารณาโทษของที่นี่มีปัญหาหรือเปล่า ทั้งปล่อยปละละเลยเรื่องระเบียบ อีกทั้งยังเรื่องบทลงโทษที่เหมาะสมด้วยแค่พักงานอาจจะดูน้อยไปหรือเปล่า อยากให้มีบทลงโทษที่เหมาะสมมากกว่านี้ อย่างเช่นพิจารณาให้พ้นสภาพพนักงาน ผมคิดในใจเลยว่าหน่ายใจจริงๆเว้ยยยยย


แล้วมันก็หันมาถามหัวหน้าผมว่า คุณทราบหรือไม่คะว่าพนักงานใต้การปกครองทำการโกรกผมด้วยสีที่มันเกินระเบียบไป หัวหน้าผมก็มองแล้วบอก อ๋อเรื่องนี้ทราบครับ เจอหน้ากันทุกวันยังไงก็ต้องเห็นอยู่ดี สีมันเด่นซะขนาดนี้ มันถามอีกว่าแล้วทำไมถึงยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คุณละเว้นหรือปล่อยปละละเลยให้มันเกิดขึ้นแบบนี้ กฎระเบียบมันจะศักดิ์สิทธิ์ได้หรือคะ หัวหน้าผมก็เอียงคอมองมาที่ผมเลยล่ะครับแบบชิลด์ๆ แล้วพูดว่า


ถ้างั้นถ้าผมจะขอพูดอะไรยาวๆหน่อย คงไม่เป็นการเสียเวลาใช่มั้ยครับ ทุกท่าน ผมขออนุญาตท่านใดที่อนุญาตผมขอรบกวนให้ยกมือขึ้นด้วยครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ แล้วตอนนั้น 90 % ก็ยกมือขึ้นหมดเลย จะมีก็คุณท่านกับท่านอดีต ที่ต้องวางตัวให้นิ่งๆเข้าไว้ ยกเว้นแต่พี่แมนนี่แหละ ที่ยกมือเด่นเชียว แล้วที่ตลกนิดๆคือ หัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัทผม ท่านยกมือสองข้างเลยนะ ก็คงเริ่มหมั่นใส้รอง HR แหละครับ มันข้ามหัวกันเกินไป



แล้วหัวหน้าผมก็พูดขอบคุณทุกท่านครับ  เอ... ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี่คุณไม่ทราบข่าวเรื่องงานเลี้ยงขอบคุณกับทางบริษัท ( ชื่อบริษัทคุณเคย์ ) เลยเหรอครับ รอง HR ก็ตอบว่า ดิฉันได้รับความไว้วางใจ มอบหมายเป็นตัวแทนแผนกให้ไปเข้าศึกษาที่บาหลีค่ะ เลยไม่ทราบค่ะดิฉันโฟกัสแค่หน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายค่ะ หัวหน้าผมบอกอื้มครับ บาหลีคงไม่มีอินเตอร์เนตสิ่นะครับ ถึงไม่ได้ตามข่าวสารอะไรเลย ตอนนั้นรอง HR ชักสีหน้าเลยเว้ย มันคงไม่คิดว่าหัวหน้าผมจะพูดแบบนี้ ลูกพี่ผมพูดอีกว่าพอดีลูกน้องผมต้องไปทำงานที่สำคัญน่ะครับ เลยต้องโกรกสีผมแบบนี้



มันก็ถามอีกว่างานอะไรคะ ที่ต้องย้อมผมสีนี้ แบบนี้มันจะไม่ปกป้องคนใต้ปกครองแบบไร้เหตุผลไปหน่อยเหรอคะ หัวหน้าผมก็รอให้มันเงียบก่อน แล้วค่อยพูดว่าใช่ครับ หน้าที่ของคนที่เป็นหัวหน้าอย่างแรกเลยคือต้องปกป้องลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาตัวเอง จะผิดหรือถูกอย่างแรกที่คนที่ได้ชื่อว่าห้วหน้าแบบพวกเราควรทำคือออกหน้าปกป้องพวกเขา



ถ้าสอบสวนแล้วเขาผิดจริง เขาก็สมควรได้รับบทลงโทษที่เหมาะสม ไม่ใช่พอเกิดเรื่องขึ้นก็คิดไปก่อนว่าต้องลงโทษ หรือผลักภาระรับผิดชอบให้พ้นตัว เพราะถ้าทำแบบนั้นนั่นเท่ากับเชื่อไปแล้วว่าเขาทำผิดจริง แบบนั้นต่อให้เมื่อสอบสวนภายหลังแล้วเขาเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วมันจะได้อะไรถ้าเราไม่ปกป้องเขาตั้งแต่แรก สภาพจิตใจ ความเชื่อมัน ที่เขามีมันคงถูกทำลายไปแล้ว.... พูดขอโทษเหรอ พูดขอโทษทีหลังแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา  เพราะแผลที่เกิดขึ้นมันไม่ได้หายง่ายๆเพียงเพราะคำว่าขอโทษจากคนที่เป็นหัวหน้าหรอกนะครับ


อ้อผมต้องขออภัยอย่างสูงด้วย เพราะพูดถึงบทบาทของหัวหน้าไปคุณก็คงไม่เข้าใจหรอก ตอนนั้นทุกคนไม่พูดอะไรเลยครับ รอง HR ถามว่าพูดแบบนี้คุณจะสื่อถึงอะไร หัวหน้าผมบอกว่าก็อย่างที่คุณเข้าใจดีนั่นแหละครับ หัวหน้าผมพูดอีกว่า ส่วนเรื่องการพักผ่อนระหว่างการทำงาน ผมคิดว่ามันไม่ได้เสียหายอะไร กับบริษัท ( ชื่อบริษัทของคุณท่าน ) เลยแม้แต่น้อย อย่าลืมสิ่ครับว่าบทสรุปที่จะทำการควบรวมบริษัทมันยังไม่ถูกเกิดขึ้น


ผมและหัวหน้าฝ่ายทุกคนมองเห็นพ้องต้องกันว่า เราควรมีเวลาให้พนักงานของพวกเราได้พักผ่อนบ้าง ไม่ใช่เข้าทำงาน 8 โมงเข้าจะได้พักอีกครั้งก็คือกินข้าว ไม่ใช่ครับไม่ใช่แบบนั้น บุคลากรของเราไม่ใช่เครื่องจักร พวกเขามีความล้า พวกเขามีความเครียด การที่พักผ่อนสักเล็กน้อยเพื่อให้ผ่อนคลายระหว่างการทำงานผมว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร และที่สำคัญจากเอกสารนี้ หัวหน้าผมหยิบปึกกระดาษออกมา


เขาถือไว้และพูดแบบนั้นว่า ค่าเฉลี่ยการพักผ่อนของพนักงานในแผนกนั้นจะอยู่ที่ 8 นาทีต่อครั้ง และเฉลี่ยแล้วคนๆนึงจะเดินมาพักผ่อนที่ห้องพักไม่เกิน 3 ครั้งต่อวัน ถ้าเทียบกับผลประกอบการก่อนที่จะเริ่มมีโครงการนี้ มันดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมอยากให้พนักงานของผมทุกคน ทำงานอย่างมีความสุขไม่มากก็น้อย แต่ขอให้มี ถ้าการพักผ่อนเล็กๆน้อยๆมันจะช่วยประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหน


ผมอยากให้ลูกน้อง ทำงานทุกวันอย่างมีความสุขและผ่อนคลาย ไม่ใช่มีความสุขแค่วันที่เงินเดือนถูกโอนเข้าบัญชี อ้ออ แล้วเรื่องโกรกผมสีขาว พอดีผมได้รับหนังสือทำเรื่องขอมาแล้วน่ะครับ มันก็ถามเลยว่า หนังสือ ? จากใครคะ เป็นบุคคลที่มีตัวตนหรือเปล่า ตอนนั้นบรรยากาศเงียบเลย ผมสังเกตสีหน้าของรอง HR นะ ถึงจะแค่นิดเดียว แต่ผมก็เห็นยิ้มที่มุมปาก 



แล้วตอนนั้นก็มีเสียงหาวววว ขึ้นมาครับเป็นเสียงของพี่แมนแล้ว  เขาพูดขึ้นมาว่า พูดวนไปวนมาเรื่องหาบทลงโทษจนผมง่วงนอนแล้วนะคุณ ( ชื่อรอง HR ) ผมไม่เห็นว่าจะมีอะไรอื่นๆเลย ผมก็รอฟังความคิดเห็นดีๆจากคุณ ( ชื่อหัวหน้าผม ) เกี่ยวกับ SWOT และ KASH อยู่ด้วยสิ่ อ้อ ผมเป็นคนทำหนังสือขออนุญาตไปเองนั่นแหละ คุณสงสัยตรงไหนอีกหรือเปล่า



 


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

only1A

มาแล้วๆ เจิมก่อน เดี๋ยวมาแก้

ผ่านการประชุมแสนเครียดมาได้ชิลๆ

ตบท้ายแบบค้างๆด้วยคุณรุกะอีก


ศุภกร นอนน้อย

มาร้านเกะคนที่สาม เย้ๆๆๆๆ
นี่เราเข้าผิดร้านป่าววะทำไมวันนี้ดูร้านเครียดๆจัง 555

lnw007

ชอค แน่เจอคุณแมนเปิดมางี้

สมชื่อเส้นก๋วยจั๋บ คืนนี้จะได้รำลึกทะเลไหมนี่ ขอบคุณครับ



yoyoman

พี่แมนบอสmvpแล้ว 1 รอให้ป้าแกพูดออกมาให้จบแล้ว counter กลับไปทีเดียวให้หงายเงิบไปเล้ยยย


zeebraa

ตอนนี้มันมากยิ่งถ้าบรรดามหาเทพต่างๆโผล่มา งานนี้ป้าแกช็อคแน่ๆ

yuta279

พี่แมนรอเปิดตัวเชือดรอง HR กลางวงแบบเนียนๆ เลย แอบสะใจจริงๆ นะครับ


First10

ตอนนี้ได้แนวคิดในการบริหารงานอีกทางนึงแฮะ ขอบคุณเจ๊หมิวมากที่จัดให้เทพมาลงตอนให้ได้ เชื่อแล้วว่าโทนเป็นของเจ๊จริงๆ
เจ๊มหาภัยคงเข็ดขี้แก่ขี้อ่อนไปเลยแล้วล่ะ ผ่านเรื่องเครียดๆ ไปแล้วคงได้จัดเหมียวแบบโนคอนดอมชุดใหญ่แน่ๆ  เสียงหวานจากแดนซากุระคงทำให้เทพ ละลายได้เลยละมั้ง