ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

OUT OF AMMO EP 14 คัดเลือก

เริ่มโดย cd13579, กุมภาพันธ์ 11, 2017, 12:29:40 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cd13579

แวะตรงนี้แปป

ช่วงทั้งเรียนทั้งกิจกรรมทั้งงานที่บ้านหัวก็ตันอีก เรียกได้หัวปั้นไม่หยุดไม่หย่อน เรื่องเลยมาช้าเป็นหนอนกระดืบๆ  ::Orz:: เพราะฉะนั้นจงมอบคอมเมนต์ดีๆมาเติมน้ำมันให้ข้าซะดีๆ อิอิ
7 sin ก็รอแปปนะยังหาภาพนางเอกไม่ได้จินตนาการมันเลยไม่เดินเท่าที่ควร (ใครมีเด็ดเสนอได้ เอาวาปร์มาด้วยก็ดี) เอาหมดเวลาบ่นแล้ว แนะนำติชมได้เช่นเคย

Enjoy  ::Falling::
 
ตอนที่ 14 คัดเลือก

ภายในพื้นลับเฉพาะแห่งหนึ่งไม่ห่างจากกรุงเทพมากนัก
มันเป็นพื้นมี่สำหรับใช้ฝึกยุทธวิธีของภาครัฐ แต่วันนี้มันถูกดัดแปลงให้ใช้คัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถเข้ามาในหน่วยงานหน้าใหม่ของตำรวจ

พื้นปูนกลางแดดร้อนจัดของกรุงเทพมีร่างชายหลายสิบคนยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบตรงหน้าชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นคือสนามกีฬาเก่าทิ้งร้างที่ใช้ในการฝึกแค่วันนี้เป็นเหมือนที่ใช้สังเกตุการณ์ของเหล่าผู้ชมและกรรมการทั้งหลายที่ต่างนั่งรอชมการคัดเลือกอย่างใจจดใจจ่อ

เหล่าผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานส่วนความมั่นคงหลายท่านต่างสนใจในการคัดเลือกครั้งนี้ด้วยแลพหลังจากดำเนินเปิดการฝึกเรียบร้อยผู้การถวิลในฐานะผู้บัญชาการโดยตรงของหน่วยก็ขึ้นมากล่าวต้อนรับ

ผู้การถวิล: "สวัสดีผมผู้การถวิล ขอต้อนรับเหล่าผู้สมัครใจร่วมเกือบ 50 นายในวันนี้ที่สนใจหน่วยงานหน้าใหม่ๆ ของผมแน่นอนว่าท่านต้องป่านการคัดเลือกที่ทางเราจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งเราจะแบ่งไว้เป็น3ขั้นจะเริ่มที่นี้เป็นขั้นแรกและขั้นสุดท้ายรายละเอียดพวกท่านจะทราบเมื่อผ่านรอบแรก สุดท้ายนี้ผมอยากเห็นคนมร่ผ่านเข้ามาในหน่วยผม ให้ทำงานสนองคุณชาติให้ดีที่สุด หวังว่าเราจะเจอได้ในวันสุดท้ายของการฝึก"

หลังจากนั้นก็เป็นการทดสอบทั่วๆไป
ดนัยที่นั่งหลับระหว่างรอคิวทดสอบ แน่นอนว่าตำรวจหน้าใหม่แกะกล่องนั้นหัวเดียวกระเทียมลีบเพราะเพื่อนๆร่วมอบรมนายร้อยกับตนไม่มีใครมากับตนสักคนแม้กระทั่งที่สถานี แต่ต่างจากคนอื่นที่ต่างมีเพื่อนมีมิตรที่ร่วมกันมาสมัครคัดตัว ดนัยสะดุ้งขึ้นเมื่อได้ยินชื่อตนก็เดินอืดๆไปตามห้องที่ประกาศไว้
เขาเดินไปหาวและไปรับการคัดตัวท่ามกลางสายตาดูแคลนและดูถูกจากหลายๆคนไม่ว่าจะผู้คัดตัวด้วยกันหรือคนอื่นๆในบริเวณนั้น

แม้จะรับรู้ถึงความเหยียดหยามที่อยู่รอบตัวแต่ดนัยใน้วลานี้ก็คร้านที่จะใส่ใจ เสียงพวกนี้ไม่ได้มีผลกับคะแนนการฝึกซะหน่อยทำไมเขาต้องใส่ใจด้วยละ แต่เมื่อดนัยเดินเข้าไปในด่านแรกคือการสัมภาษ์ กลางสนามภายในมืดมิดที่เพียงโต๊ะไม้และเก้าอี้เท่านั้นที่มีแสงส่อง ดนัยทันทีที่ก้าวเข้ามาท่าทางอาดๆก็หายไปทันทีสายตาซึมๆง่วงเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบราวกับมันกลายเป็นคนละคน

"ผู้สมัครเชิญมานั่งที่เก้าอี้" เสียงทุ้มๆดังขึ้นจากในความมืดดนัยก้าวไปนั่งอย่างไม่ลังเล ตัวตรงนิ่งสนิทแววตาเรียบเฉยพร้อมรับการถามจากกรรมการ
เสียงในความมืด: "ผมคือคนที่กำหนดว่าคุณจะผ่านไปรอบต่อไปรึเปล่า เพราะฉะนั้นตอบคำถามมาดีๆซะ"
เมื่อดนัยนั่งนิ่งไม่ตอบอะไรกรรมการในความมืดก็เริ่มถามคำถาม

กรรมการ: "คุณมาเป็นตำรวจเพราะอะไร?"
ดนัย: "เพราะมันได้ใช้วิชาที่ต้องเรียนมาเพื่อประชาชนทุกระดับชั้น กฎหมายมันเป็นที่คนไทยเราละเลยและลืมไปทั้งๆที่เป็นสิ่งที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าๆกันแต่ก็ยังเสือกปล่อยให้โดนเอาเปรียบ จากเจ้าที่รัฐนิสัยเสีย จากคนที่เห็นแก่ได้"

กรรมการ: "ถ้ามีแค่นั้นเป็นทนายเป็นอาชีพอื่นก็มาทำงานส่วนนี้ได้ไม่ใช่เหรอ คุณผู้สมัคร"
ดนัย: "ก็เพราะอาชีพนี้มันมีปืนไว้ยิงแสกหน้าไอ้พวกระยำๆได้ไงละ"

เสียงในความมืดนิ่งงั่นไปครู่ก็จะเริ่มถามใหม่
กรรมการ: "แบบนี้มันเป็นการใช้อำนาจดุลยพินิจเกินเลยไปรึคุณตำรวจ ไม่กลัวคำหรหา ไม่กลัวการสืบสวนเอาผิดเพราะทำเกินเหตุบ้างเลย?"
ดนัย: "คำตอบแรกขึ้นอยู่ว่าคุณจะใช้ดุลยพินิจไปใช้ยังไง โจรควักปืนใส่เรา เราจะยืนบื้อๆเหรอ กลับกันคนกำลังจะฆ่าตัวตายมีปืนในมือเราจำเป็นต้องใช้อาวุธกับเขารึเปล่าละครับ ผมยินดีรับการตรวจสอบหากมีใครแคลงใจในการที่ผมวิสามัญใคร แต่สิ่งที่ผมระลึกเสมอทุกขณะที่ถือปืน ไม่ดิ ทุกขณะที่ถืออาวุธ ว่าผมถือมันเพราะอะไรและผมกำลังจะทำอะไรและผมโครตมั่นใจและยอมรับผลในการกระทำของผมเลยวะครับ ผมถูกสอนมาแบบนี้และเป็นโครตจะเชื่อมั่นด้วย"
ตำรวจหน้าใหม่ไฟแรงนั่งไขว่ห้างตอบคำถามอย่างมั่นใจ

กรรมการ: "เอาละคำถามต่อไป ทำไมถึงเลือกหน่วยงานใหม่เช่นหน่วยของเราละผู้สมัคร?"
ดนัย: "ก็เพราะมีคนรู้จักทำงานอยู่ในหน่วยนี้"
กรรมการ: "เลยคิดว่าคนรู้จักของคุณจะช่วยคุณให้ได้เข้ามาง่ายๆแบบนั้นเหรอ"
ดนัยส่ายหน้าไปมา

ดนัย: "เปล่าเลย ผมมาที่ในเพราะอยากทำงานกับพวกพี่เขาเพราะดูแล้วพี่ๆ ไว้ใจได้และคนดีๆควรเกาะกลุ่มรวมตัวกันไว้เพราะความชั่วมันทรงพลังมากกว่าคนดีๆจะจัดการมันได้ลำพัง ผมไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบคืนโลหิตมัจจุราชหรอก"

กรรมการ: "คุณรู้จักปฎิบัติการนั้นได้ไง! เรื่องราวมันนานกว่าเด็กยุคนี้จะรู้ถึงเรื่องนี้"
เสียงกรรมการฟังแล้วร้อนรนอยู่พอสมควร

ดนัยเอามือเคาะหัวตนเองเบาๆ
ดนัย: "พอดีทำการบ้านมานิดหน่อยครับ"
เค้าฉีกยิ้มไปในความมืด ราวกับบังเอิญหรือดนัยรู้เขาไปหันไปยิ้มในทิศที่กรรมการยื่นอยู่เล่นเอากรรมท่านนั้นสะดุ้ง


ดนัยมายืนบิดขี้เกียจหน้าห้องมืดเมื่อครู่ หลังจากเป็นฝ่ายไล่ถลุงกรรมการจนเละ
ดนัย: "จะมาไล่ต้อนตู ต้องทำการบ้านมาอีกเยอะ"
ก่อนหันไปยิ้มให้ประตูอย่างเยาะเย้ยและเดินออกมาอย่างสบายๆ

คนเป็นพนักงานสวบสวนวันๆก็อยู่กับสำนวนและพยานสอบปากคำบ้างนานๆที
แต่ทุกคดีที่เขาจับนั้นเขาไล่มันละเอียดยิบ ทั้งพยานเท็จพยานโกหกบอกไม่หมดหรือกรณีใดๆแทบจะไม่มีอะไรหลุดสายตาไปได้จนหลังๆ พี่ๆที่สน ยกให้เป็นคนสอบปากคำแทนด้วยซ้ำบางทีไล่จนคนร้ายยอมรับสารภาพดิ้นไม่หลุดกันเลยทีเดียว ไอ้คำถามเชิงจิตวิทยาระดับกลางๆข้างในก็ไร้ประโยชน์ต่อหน้าเขา

เป็นอันว่าด่านแรกเขาผ่านมันมาแบบสบายๆ และแน่นอนว่าระหว่างรอคิวทดสอบเขาก็นั่งหลับเช่นเคย

"หมายเลข20-30 กรุณามาเตรียมตัวที่สนามยิงปืน 4 ด้วย" เสียงประกาศปลุกดนัยขึ้นมาอีกครั้งก่อนเขาจะเดินเอื่อยเฉื่อยไปช้าๆ ระหว่างเดินไปก็พบผู้สมัครวัยเดียวกับตนเดินวนไปวนมาซึ่งเป็นอาการของคนหลงทางชัดๆ

"เฮ้ย นายจะไปสนามไหน"
ดนัยเดินไปจับไหล่ ตำรวจผู้หลงทางในสนามฝึก
"เอ๊ะ ว่าไงนะครับ ผมมัวแต่มองหาทาง"
ตำรวจผู้หลงทางสะดุ้งน้อยๆก่อนจะหันมาคุยด้วย

ดนัย: "ก็ถึงถามไงว่าไปสนามไหน หลงทางอยู่ใช่ปะละ"
ตำรวจผู้หลงทาง: "สนาม4 ผมหมายเลข22 เขาให้ไปสนาม4ครับ"
ดนัย: "เออเดินตามมาผมเลข27 สนามเดียวกัน"
ดนัยเลยมีคนเดินเป็นเพื่อนด้วยประการฉะนี้

"อา สนาม4 จริงๆด้วย"
ตำรวจผู้ที่สำเนียงเสียงดูแล้วว่าไม่ใช่คนกรุงเทพแน่ๆแต่ก็ไม่ได้สำเนียงเพื้อนจนน่าเกลียดอะไร ชี้ป้ายอย่างดีใจ

ดนัย: "เหมือนกับว่า เอ็งคิดว่าตูจะพาหลงเลยวะ"
ดนัยที่เดินตามมาพูดขึ้น
สมิงหรือหมู่นรสิงห์ ตำรวจภูธรบ้านนอกผู้ประจำอยู่ตชดใกล้ปืนเที่ยงหันมายิ้มให้

ดนัย: "แสรดดดด เอ็งคิดจริงๆด้วย น่าจะปล่อยหลงทางแต่แรก" ดนัยบ่นโวยวายขึ้นมา
สมิง: "โห่ ก็พี่ดนัยดูสภาพแล้วไม่น่าจะพึ่งได้นิครับ"
ดนัย: "นี่ถ้าไม่รู้ว่าเอ็งคนซื่อๆ นี้นึกว่ากวนตีนแล้วนะเนี่ย"
ตำรวจบ้านนอกเป็นชาวบ้านซื่อๆไม่มีพิษมีภัยใดๆ ซื่อจนดนัยแทบจะกุมขมับกับความคิดบ้านๆของมัน

แต่ขณะที่สองตำรวจยืนคุยกันก็มีตำรวจตัวใหญ่สองคนมาเดินชนดนัยจนเกือบล้ม

ดนัย: "พ่อง เอ็งป่วยเหรอรีบจังเลย" ดนัยที่เซพอตั้งหลักได้ก็หันไปแผดเสียงใส่มัน

พี่บึก1: "แล้วมึงจะทำไม รู้มั้ยว่ากูลูกน้องใคร"
ดนัย: "แล้วทำไมกูต้องรู้ด้วยวะ"

ขณะที่พี่บึ้กคนที่สองจะขยับมาเอาเรื่องดนัยและขณะที่สมิงกำลังจะไกล่เกลี่ยเสียงห้าวจากด้านหลังไอ้บ้ากล้ามสองตัว

???: "ปล่อยมันครับพี่บิ๊ก พี่เบิ้ม ผมไม่ถือเรารีบไปกันดีกว่าเสียเวลามาพอแล้ว คิดว่าทำบุญละกันพี่"

เสียงมาจากชายรูปหล่อ (ย้ำว่าหล่อ)ดูดีมีชาติตระกูล เนื้อตัวกำยำสมชายชาตรีผนวกกับมบหน้าทำให้ดูคล้ายนักรบโรมัน หล่อและสง่า น่าจะเป็นลูกท่านหลานเธอหรือผู้ลากมากดีซักคน ซึ่งท่าทางหยิ่งทรนงไว้ตัวราวกับเทวดา(แม้รูปร่างมันจะคล้ายๆ) ก็ไปสะกิดต่อมอารมณ์ดนัยเต็มๆ

แต่มือของสมิงที่สะกิดดึงดนัยออกมาทำให้ทั้งสองฝ่ายจากกันโดยสันติ(แค่ตอนนี้อะนะ)

ดนัย: "ถ้าเอ็งไม่ห้าม ตูกระโดดกัดหูมันแน่ โครตขี้เก็กเลย"
สมิง: "พี่จะวัดกับลูกกับคุณอินทรีเหรอครับ นั้นพ่อคุณเขาเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร นะครับอาเป็นรองฝ่ายกิจการภายใน กรรมการงานนี้เลยนะครับ"
ดนัยพยักหน้ารับรู้ ไม่น่าละถึงกร่างขนาดนั้น

ดนัย: "ว่าแต่เอ็งนี้ใจเย็นดีนะ เป็นคนดีจังวะ"
สมิง: "ผมชอบคุยกันก่อนค่อยลงมือครับ"
ดนัย: "แล้วถ้าคนร้ายไม่คุยหรือต่อรองงอแงไรงี้ละ"
สมิง: "ผมก็ก็จัดการ ง่ายๆครับ ฆ่ามันไปเลย"

สถานีแรกคือการยิงปืน
เชรดโด้ เป็นคำเดียวที่ดนัยนึกออกมือไอ้คุณชายเป็นคนทดสอบยิงปืนเป็นคนแรกของชุดนี้

ดนัยถือตัวว่าคนแม่นปืนมากแต่พอเจอการยิงของไอ้นกอินทรีย์ที่เรียกได้ว่าแม่นพอๆกับ ผู้กองเข้มขาโหดเลยด้วยซ้ำไปเล่นเอาดนัยแอบชื่นชมในฝีมือเลยทีเดียว

ส่วนเจ้าตำรวจบ้านนอกก็ถือว่ายิงปืนดีน่าประทับใจ แต่ถ้าเทียบเขาหรืออินทรีย์แล้วก็นับว่ายังห่างชั้นอยู่พอสมควร

ปังๆ ปังๆ
แก็กๆ ดนัยจะดการถอดแม็กปืนและวางลง
และดนัยฉีกยิ้มหลังจากยิงปืนเสร็จแล้ว

ฝีมือดนัยเรียกได้ว่าทิ้งห่างคนอื่นๆไปโดยปริยายจ่อตูดคะแนนของคุณชายอินทรีย์มาโดยติดๆ เล่นเอาอินทรีย์ตะลึงไปพอสมควรที่ตำรวจต็อกแต็กคนหนึ่งจะมีฝีมือในการยิงปืนเทียบชั้นตนได้ซึ่งนั้นมันจะทำให้ดนัยลำบากในแบบที่เขาคาดไม่ถึงในวันต่อๆไป

"เอิ๊กกกกกก สะใจวะสมิง เห็นหน้าไอ้คุณชายหน้าหยิ่งนั้นตอนมันเห็นคะแนนพี่ปะ ยิ้มนี้หายวับ"

ดนัยกอดคอกับตำรวจรุ่นน้อง เขาพึ่งทราบว่าสมิงมันอายุน้อยกว่าตนอยู่นิดหน่อยตอนนั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกัน น่าแปลกที่ดนัยรู้สึกสนิทใจกับไอ้ความน่ารักแบบลูกทุ่งของมันไม่ถึงกับโง่แต่แค่ซื่อมากๆเท่านั้น เรียกได้ว่าสมิงกลายเป็นน้องรักของดนัยไปแล้ว

สมิง: "พี่ก็สะใจเหมือนชนะเค้าได้ละครับ ยังพี่ พี่แพ้คุณอินทรีย์อยู่นิดหน่อยนะครับ"
ดนัย: "ช่างมันแค่นั้นก็คล้ายพอๆกับมีผีเกาะหลังมันมาติดๆแล้ว กูพอใจละ"

"ผู้สมัครหมายเลข 20-30 ให้ท่านมาร่วมตัวกันที่สนามเดิมด้วย"
เสียงประกาศเรียกตัวพวกเขาไปอีกครั้งเพื่อทดสอบต่อ
ร่างสหายคู่ดูโอ้ที่พึ่งเกิดกอดคอเดินไปยังสนาม

สถานสองทักษะค่อสู้มือเปล่า

"อึบ อ็อค" เสียงหนึ่งไอ้ยักษ์ลูกน้องอินทรีย์พยามยามต่อยอินทรีย์ในสนามทดสอบแต่เหมือนว่าจะทำอะไรเขาไม่ได้เลยแถมอินทรีย์ยังแทงเข่าสวนจนร่างใหญ่ลงไปนอนลุกไม่ไหว

"ฝ่ายแดงชนะ" เสียงกรรมการคุมการทดสอบขานผลการต่อสู้ มารอบนี้เป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัวของผู้สมัครแบบสุม แข่งสามครั้งอยากน้อยต้องชนะสองไม่งั้นหมดสิทธิ์ผ่านต้องออกจากการทดสอบซึ่งในนัดแรกอินทรีย์ที่ต้องสู้กับลูกน้องตัวเองก็ได้แล้ว1 คะแนน

สมิง: "ก็ถ้าพี่ตัวใหญ่ชนะก็บ้าแล้ว จะไปกล้าสู้อะไร"
สมิงที่นั่งดูเปรยขึ้นเบาๆ
ดนัย: "ไอ้สองคนคนนั้นต่างคนต่างกั๊กฝีมือ แต่เอาแค่เท่าที่เห็นฝีมือพวกมันไม่ได้แย่เลย"
ดนัยกล่าวเตือนแต่สายตาไม่ได้ละจากอินทรีย์แม้แต่น้อย ลางสังหรณ์มันร้องระงมเตือนเขาว่าควรระวังชายคนนี้ และควรระวังสุดๆด้วย

สมิงเดินออกมาจากสนามด้วยร่างที่เปียกไปด้วยเหงื่อ ในนัดแรกของเค้าแม้จะทุลักทุเลไปนิดแต่เขาก็ชนะได้
ดนัย: "ทางมวยแปลกตาดีวะ แต่มันดูมึนมั่วๆไปนิด แต่เอ็งชนะก็ดีละ"
สมิง: "คู่ผมมันก็ไม่เก่งมากพี่ ผมแค่โชคดีครับ"
ดนัยมองร่างที่นั่งหอบกับพื้นแล้วโยนขวดน้ำให้ก่อนสวมเครื่องป้องกันและเดินออกไป

ดนัยฉีกยิ้มเมื่อมองไปยังคู่ชกหน้าเขา ชายร่างใหญ่บึกบึนคนเดิมที่เดินชนเขาตอนเช้า กลายมาเป็นคู่ชกในนัดแรกเลยได้ว่าตรงใจดนัยที่สุด และก็ตรงใจมันเช่นกัน

อินทรีย์: "เอามันเลยพี่บิ๊ก มันฝากด้วยพี่สั่งสอนมันเลย"
ไอ้ลิ่วล้อพยักหน้าก็ย่างสามขุมเข้ามาเมื่อถึงระยะมันก็ยิงหมัดตรงใส่หน้าดนัยเป็นการเปิดการดวลกัน

แทนที่จะหลบเลี่ยงดนัยกลับแล่อยหมัดตรงเข้าปะทะตรงๆ แต่เป็นฝ่ายชายร่างใหญ่จะเป็นฝ่ายผงะถอย มันร้องฮิ่มๆในลำคอเมื่อหลังจากเสียหลักในการปะทะร่างของดนัยก็ลอยหมุนหวดแข้งใส่ลำคอมันอย่างดุดัน มันรีบยกมือขึ้นรับลูกแตะทันเวลาแต่แรงปะทะที่มันรับนั้นไม่ได้เบาอย่างที่มันคาดแรงเอาแขนมันชาแปล๊บ

ดนัยไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป เขาคาดไว้อยู่แล้วว่าหมัดแรงที่ลองเชิงมันต้องไม่ใส่แรงเต็มที่ เขาเลยฉวยจังหวะสวนไปด้วยหมัดที่ใส่เต็มเหนี่ยวเป็นสาเหตุที่มันต้องผงะไปในการปะทะแรก และทำให้มันต้องตั้งรับพายุหมัดของดนัย หมัดของดนัยมุดไปตามช่องว่างที่มันปิดป้องไม่มิด

ร่างเพรียวบางกว่าเป็นฝ่ายรุกไล่ชายฉกรรจ์ร่างโตเป็นภาพที่ทุกคนให้สนอกสนใจ บ้างรายเริ่มพนันว่าใครชนะแล้ว ฝั่งที่เชียร์ชายร่างใหญ่เริ่มกังวล ยกเว้นอินทรีย์ที่ยิ้มเหยียดออกมา

ดนัยี่กำลังไล่ถล่มไอ้บิ๊กอยู่ฝ่ายเดียว หมัดที่เงื้อง่าขึ้นพลันเปลี่ยนมาตั้งกันหมัดสวนที่สวนมาในจังหวะที่เขากำลังจะจู่โจม ต้องขอบคุณสัญชาตญาณไวปานนรกของมัน แต่แรงปะทะที่ส่งมาทำให้ดนัยต้องชะงักไปครู่หนึ่ง ซึ่งเป็นครู่ที่กระแสการต่อสู้จะพลิกกลับมาทางบิ้ก

"อุ้ก" เสียงร้องจากปากดนัยที่โดนแข้งขวาเต็มอกกระเด็นล้มกลิ้งไป
บิ๊ก: "อย่าพึ่งนอน กูยังไม่กระทืบมึงเลยตีนเมื่อกี๊เรียกน้ำจิ้ม"
ดนัยกัดฟันกรอดก่อนจะลุกขึ้นมาตั้งหลักอีกครั้ง
ก่อนจะพุ่งไปปะทะอีกครั้งหนึ่ง แต่หลังจากเข้าปะทะกันจังๆผ่านไปหลายนาทีแต่ฝ่ายที่มีมีร่องรอยบาจเจ็บกลับเป็นดนัย

ดนัยพลิกตัวหลบหมัดพร้อมฟันศอกสวนคืนที่ขมับดนัยมั่นใจว่าการที่เขาสวนมาต้องได้ผลหลังจากเสียเปรียบมานาน แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าพื้นที่ยืนนั้นหายไป ปลายตามองเห็นขาที่โดนมันแตะรวบจนเสียหลักล้ม
ดนัย: (ฉิบหายละ แบบนี้)

ก็จริงตามที่ดนัยคิด หลังจากที่ดนัยล้มไปนอน ไอ้บึ้กตรงหน้าก็ฟาดเท้าลงมาราวกับค้อนยักษ์
ดนัยขบฟันแน่นยกมือขึ้นกันบาทาที่ฟาดลงมาอย่างจนตรอก

โดยปกติแรงขาก็มากกว่าเดิมสามเท่าวันนี้ดนัยซึ้งแล้วว่าทฤษฎีนี้เป็นเรื่องจริง เหมือนแผงไม้บางๆกับเครนทุบตึก ไม่ต้องคำนึงว่าตนนอนอยู่เพราะวัดแค่พลังเขาทาบมันไม่ติดแน่ๆ ตีนมันบดอัดกลางตัวของดนัยไปพร่อมมือที่ยกขึ้นกัน

ดนัยไม่มีเวลาให้เจ็บนานเมื่อเห็นเท้ามันยกขึ้นกระทืบซ้ำลงมา เขารีบกลิ้งตัวหลบแต่เหมือนกับมันเดาทางออกเท้าอีกข้างหวดแตะตาม เสียงดังตูม ร่างดนัยกลิ้งตามแรงตีนกลิ้งเป็นลูกขนุน
บิ๊ก: "การเคลื่อนไหวของมึงกูจับจังหวะได้แล้ว"

มันดัดมือดังกร๊อบพร้อมขยำดนัยหากลุกขึ้นมาอีก
มันยอมโดนถล่มแต่แรกเพื่ออ่านและศึกษาวิธีต่อสู้ของดนัยมันรอจนศึกษาจนมั่นใจก่อนจะสวนกลับมา แต่มันต้องประหลาดใจเมื่อดนัยลุกขึ้นยืนและดัดคอเบาๆ โดนไปขนาดนั้นยังลุกยืนสบายๆ แทบไม่มีอาการเจ็บใดๆ แบบนี้มันประหลาดไปแล้ว

ดนัย: "จุกเอาเรื่องเลยวะ อาาา เป็นคนอื่นนี้นอนรอห่ามส่งโรงบาลแล้ว ตีนคนหรือตีนควาย น่าจะอย่างหลังเพราะชาวนายืนเก๊กอยู่นู้น"

ก่อนน้ำเสียงสบายๆของดนัยจะขรึมขึ้น แววตาหรี่เย็นชาลง
ดนัย: "ไหนบอกว่าอ่านวิชาตูขาดแล้ว มาลองอีกรอบดีกว่า เจ้าทุย"

ร่างดนัยพุ่งตรงหาราวกับลูกธนู เข้าไปฟัดกับไอ้ยักษ์ตรงหน้าอีกครั้ง

เร็วขึ้น มันคำนึงในใจหลังจากปะทะกันรอบนี้มันแอบตกใจกับความเร็วของดนัยที่สูงขึ้นแต่ถ้าจะล้มมันต้องมีมากกว่านี้ มันสะบัดมืดฟาดไปตรงที่ตำแหน่งที่ดนัยควรจะไปอยู่ มันอ่านการเคลื่อนไหวทะลุแล้วแม้จะมองตามไม่ทันแต่มันก็เดาทางได้ ไอ้หน้าจืดไม่มีทางชนะมันได้
แต่การโจมตีของมันกลับสัมผัสได้เพียงอากาศ

ดนัย: "เซอร์ไพรส์ เอาของขวัญไปแดก"
มันสะดุ้งขึ้นสุดตัวเมื่อดนัยไปอยู่ด้านหลัง มันพลาดแล้ว
แล้วผลของการผิดพลาดที่จ่ายไปคือ ความพ่ายแพ้

หมัดตรงเต็มพลังส่งตรงเต็มหลัง แรงมันเล่นเอาชายรูปร่างโตแทบล้มคว่ำ แต่มันก็ใช้เท้าพยุงตัวได้มันรีบหมุนตัวกลับไปแต่สิ่งมันหันมาเจอคือกำปันที่พุ่งมา

โครม เสียงราวกับใครทุบลังไม้แตก ใบหน้าของมันลอยไปตามแรงหมัด แต่ทุกครั้งก็มันเห็นดนัยมันจะต้องโดนอัดไปทีเป็นอย่างน้อย แต่มันเห็นดนัยไม่ทันชัดตาก็ต้องเจ็บตัวไป ครั้งมันจะเดาทิศทางดนัยที่มันอ่านก็คล้ายคว้าได้เพียงอากาศ
มันเริ่มหงุดหงิดที่หาดนัยไม่เจอได้แต่เพียงโดนไล่ต้อนอยู่ฝ่ายเดียวจนไม่นานมันหมดความอดทน

บิ้กร้องคำรามกวาดมือไปรอบตัว ฟาดไปมาหวังให้โดนดนัย แต่นั้นคือจังหวะที่ดนัยเฝ้ารอเอากระโดดถีบขาคู่ใส่แผ่นอกที่เปิดโล่งทั้งคู่กระเด็นออกจากกัน แต่ดนัยก็ลุกขึ้นมาก่อนกระโดดลอยทิ้งเข่าคู่ใสร่างที่กำลังนอนงง ร่างดนัยทิ้งน้ำหนักลงไปเต็มแรง
ดนัย: "หลับไปซะมึง"

ก่อนดนัยจะลุกขึ้นและกันเดินออกไป ทิ้งร่างไร้สติของบิ้กให้หมอสนามมาตรวจ

ดนัยมองร่างไอ้ยักษ์ลูกสมุนไอ้คุณชายโดนหิ้วไปปฐมพยาบาล หลังจากแน่ว่าลูกไล่ตนปลอดภัยมันก็ยืนจ้องดนัยอย่างอาฆาตแต่ก็ไม่อาจทำให้ดนัยหวาดผวาแต่อย่างใด แถมยังชูนิ้วกลางแถมไปอีกด้วย

ไม่นานนักนัดต่อไปของดนัย ก็วนมาถึง
ดนัยเพ่งมองร่างที่เดินลงสนามมา แววตาฉายแววจริงจังเป็นครั้งแรก ศัตรูรอบนี้ไม่ใช่ชายรูปร่างใหญ่โต ขนาดตัวไล่เลี่ยกันกับตน สูงกว่าเขาเพียงนิด ใบหน้าสะอาดเกลี้ยงเกลาราวลูกเต้าลูกพระยาใหญ่โต แต่แววตาที่จ้องตอบกลับมาเล่นเอาดนัยเหงื้อตก ทั้งแรงกดดันหรือจิตสังหารที่แผ่ออกมาทำให้ดนัยทราบว่าจะประมาทไม่ได้เลย ดีไม่ดีนี้จะเป็นคู่ต่อสู้จะเก่งที่สุดด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เขาไม่ทราบคือตอนนี้ตัวเองก็เป็นที่กังวลของอีกฝ่ายเช่นกัน

ดนัยและอินทรีย์ได้ยืนประจันหน้ากันในสนามแล้ว

ทั้งคู่ยืนจ้องกันนิ่งแม้กรรมการจะสั่งเริ่มนานแล้ว
ราวกับรูปปั้นหินสองตัวไปวางบนสนาม
ขณะที่ทุกคนเริ่มจะโวยวายดนัยก็รีบพุ่งถอยออกมาตั้งหลักทั้งที่อินทรีย์ยังไม่ได้ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย แต่ร่างที่ถอยนั้นแววตาเปลี่ยนไปฉายประกายแรงกล้าออกมาเขาฉีกยิ้มและก็พุ่งเข้าใส่อินทรีย์ทันที

ดนัยหายใจวาบรีบเปลี่ยนจากจู่โจมเป็นต้องรับเมื่ออินทรีย์สวนกลับในจังหวะก่อนที่ตนจะลงมือเพียงเสี้ยววิ โดยใช้เพียงหางตามอง
ดนัยคำรามในคอก่อนจะเร่งความเร็วจนเท่าระดับตอนที่เขาล้มบิ้กไป

อินทรีย์หรี่ตามองก่อนจะตั้งท่าออกมาตั้งรับอย่างไม่ประมาท
ราวกับหนึ่งภูติพราย ดนัยขยับย้ายตำแหน่งไปมาๆบ้างพุ่งโจทตีบ้างครั้งหลอกบ้างคนเริ่มดูแขนของดนัยไม่ทัน เขาวนไปรอบๆอินทรีย์ประเคนทุกอย่างใส่ชายที่ยืนอยู่ แม้คนอื่นจะคิดว่าเขากำลังรุกไล่แต่ความจริงเขากำลังโดนไล่ต้อน

หากดนัยเป็นภูติผีที่ยากจะจับ อินทรีย์ก็เป็นหมุดหินที่ตอกตรึงราวกับภูผา ทั้งๆที่ใส่เต็มสูบแล้วแต่ก็ไม่อาจเจาะการตั้งรับที่ดูเรียบง่ายแต่แข็งกร่าวไป แถมบ้างครั้งแขนขาดนัยสะท้านสั่นเมื่อปะทะกับการป้องกันตรงๆ ที่สำคัญที่สุดถือแววตาที่จ้องรอจังหวะ วินาทีที่เขาความเร็วตกหรือวินาทีที่เขาเผลอมีช่องว่างเขาเชื่อว่าชายตรงหน้าจะบดกระดูกเขาให้แหลกเหลวได้ไม่ยาก

ดนัยกัดฟัน เร่งความเร็วถ้าเขายังเจาะไม่ได้ในอีก5นาที เขาจะหมดแรงพ่ายแพ้แน่นอน
ดนัย: "เอาสิวะ มาดูกันว่าจะทนได้แค่ไหน"
หลังจากโดนกดดันจากชายตรงหน้าดนัยก็ตะโกนกึกก้องเขาตัดสินใจเทหมดหน้าตัก

อินทรีย์เริ่มมีสีหน้าเครียด การโจมตีเริ่มแหวกปราการเหล็กเข้ามาเรื่อยๆ จนบ้างจังหวะเขาต้องเคลื่อนตัวหลบและเริ่มโดนถากๆบ้างแล้ว

ดนัยฉีกยิ้มเริ่มมือไม้อินทรีย์ปั่นป่วน นี้ก็เป็นโอกาสคว้าชัยชนะชัดๆ

ดนัย: "ตาย!"
ดนัยคำรามก่อนจะพลิ้วร่างมาโผล่ตรงจุดที่การป้องกันเบาบางจนแทบไม่มี หมัดพุ่งใส่ใบหน้าโดยที่ไม่มีอะไรกัน

อินทรีย์: "เออ แต่คนตายคือมึง"
วินาทีต่อมาก่อนดนัยจะต่อยโดน แขนที่อยู่อีกด้านพลิ้วมาจับล็อคแขนดนัยบิดยึดอย่างแน่นหนา

นี้เขาถูกล่อมาติดกับ มันจงใจเปิดจุดอ่อน
วินาทีเดียวที่ดนัยรู้ว่าพลาดท่าขาที่กำลังจะดีดตัวหนีก็ถูกมันแตะข้อพับจนเข่าแตะพื้นหมดหนทางหลบหลีก

อินทรีย์: "จะรีบถอยไปไหน มาให้กูแทกหน้าก่อนสิ"
ก่อนมันจะกระชากตัวดนัยมาตีเข่า เพียงดอกเดียวร่างดนัยก็สะท้านเรี่ยวแรงหดหายเพราะความจุก
แน่นอนว่ามันไม่ใจร้ายให้ดนัยแค่ทีเดียวแน่นอน

ปึก ปึก ปึก ผลักกกก
มันตีเข่าสลับที่หน้าและอกและปล่อยร่างดนัยออกและแตะปลายคางส่งท้าย ดนัยสาบานกับตัวเองว่าเห็นดาวปลิวมาทั้งระบบสุริยะเลย ก่อนสติจะบินลับออกจากร่างไป

ขณะเดียวกันบนอัศจรรย์สูงใกล้ๆ

ผู้การถวิลเดินไปหาผู้กองเข้มที่ใช้กล้องส่องไปยังสนามที่ดนัยสู้อยู่

ผู้การ: "เป็นห่วงไอ้หนูนั้นเหรอ บ๊ะ กำลังแย่จริงๆด้วย" ผู้การใช้กล้องที่คล้องคอส่องดนัยที่กำลังโดนถลุงอยู่

ผู้กองเข้ม: "เปล่าครับสะกิดใจว่าสนามนั้นทำไมคนมันมามุ่งดูเยอะแปลกๆ ส่องไปก็เจอมันพอดี ส่วนมันจะแพ้มันจะชนะก็อยู่ที่ฝีมือ"
ผู้การ: "ผู้กองอย่ามาปิดบังกันเลย เธอสัมผัสได้ถึงได้พวกหน้าละอ่อนที่น่าสนใจ ก็เหมือนฉันนั้นแหละ"

ผู้กองก้มศรีษะให้เบาๆ ผู้การอ่านเขาขาดเสมอ แต่เขาไม่เคยอ่านชายชราเกือบเกษียณออกเลยแม้แต่น้อย
ผู้การ: "น่าเสียดายนะ ไอ้เจ้าดนัยไปเจอตอซะได้ จริงๆถ้ามันไปอยู่กลุ่มอื่นไม่มีใครต้านมันติดแน่แต่ดันไปเจอไอ้เด็กเจ้าปัญหานั้น"
เข้ม: "ไอ้แม้ไอ้ตระกูลนั้นน่าหมั่นไส้จริงๆ แต่เรื่องฝีมือที่ถ่ายทอดมาในตระกูลนี้เขาสุดยอดจริงๆครับ"
เขาทอดสายตามองสนามต่อสู้
เข้ม: (ฝ่ามาหาให้ได้นะไอ้หนู)

เฮๆ เสียงเชียร์จากรอบสนามดังกระชั้นขึ้น ก่อนดนัยจะปลิวกระเด็นออกมาอีกครั้ง ร่างที่สะบักสะบอม ค่อยๆลุกยืนขึ้นถ่มเลือดออกจากปากและหันไปหาร้างที่ยืนจังกาอวดหล่ออยู่ อินทรีย์แทบไม่มีร่องการบาดเจ็บเลยนอกจากรอยช้ำจางๆ แต่ฝ่ายดนัยนี้ใบหน้าแตกหลายแห่งรอยฟกช้ำอีกไม่ถ้วนแต่ก็ยังไม่ล้มลงสักที

อินทรีย์: "นอนลงไปได้แล้ว ระดับมึงนอนคลุกดินอะสมฐานะดีแล้ว อย่าคิดจะมาทามรัศมีเลย เสียเวลา"
ดนัย: "เก็บปากมึงไว้ให้ตีนตูเหอะ อ้าปากแต่ละทีน่ายัดตีนชิบหาย"
อินทรีย์: "มึงไม่มีปัญญาทำแบบนั้นหรอก ไอ้กระจอก"
ดนัย: "ก็เอาสิวะ"

ก่อนดนัยจะเคลื่อนร่างไปหามันอีกครั้ง แต่ประดุจเอารถปิกอัพไปชนรถไฟ แม้รถไฟตะมีรอยแต่ที่พังพินาศคือรถปิกอัพ

หนแล้วหนเล่าที่เป็นฝ่ายล้มลงแต่มันก็ลุกขึ้นตลอด
จนคุณชายผู้เย่อหยิ่งมีโทสะขึ้น

อินทรีย์: "รีบๆ แพ้ไปซักทีสิวะไอ้ตัวน่ารำคาญ"
หมัดมันปะทะกับลำตัวดนัยที่พึ่งยืนขึ้น เสียงปะทะราวกับโดนท่อนเหล็กฟาด ดนัยทรุดฮวบราวกับโดนถอดสายไฟกลายเป็นกระสอบทรายให้มันถลุงยับ มันจิกหัวกระชากมาต่อยซ้ำๆ

อินทรีย์: "สลบ ไป ได้ แล้ว ไอ้ แมลงสาป นอน ลง ไป" มันต่อยไปพูดไปทีละคำจนดนัยนิ่งสนิทก่อนจะทิ้งซากดนัยลงก่อนจะหายใจหอบหนัก
อินทรีย์: (จบซะที มันไปเอาแรงฮึดมาจากไหนวะ)

แต่พริบตาก่อนกรรมการจะประกาศผล

ดนัย: "ต่อยยับเลยนะมึง เล่นเอาสติลอยไปหาพระอินทร์เลย โชคดีท่านชี้ทางกลับมาให้ทันเวลา มึงน่าจะลองไปคุยกับท่านดูบ้างนะ"

อินทรีย์: "มึง ทำไม ทำไมมึงไม่ยอมแพ้วะ ฝีมือมันต่างกันขนาดนี้แล้ว จะดื้อด้านเจ็บตัวเพื่ออะไร?
มึงคิดว่าจะเอาชนะกูได้เหรอ กูแบกสิ่งที่ยิ่งใหญ่อยู่บนบ่า เพราะฉะนั้นกูจะไม่แพ้ใครทั้งสิ้น"
คุณชายตอนนี้สีหน้าไมได้เย็นชาอย่างที่ค่อยเป็น
ตอนนี้หน้าเขามันมีแต่ความประหลาดใจปนตะลึง

ดนัยที่ลุกมานั่งคุกเข่ายิ้มกวนๆ
ดนัย: "เหอะ ไม่กะชนะ กูแค่อยากเห็นสีหน้าของมึงตอนนี้แหละ เป็นไง อึ้ง อึ้งเลย ทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่คิดใช่มั้ยละ เห็นหน้าที่หยิ่งๆของมึงกลายมาเป็นหน้าตื่นๆแบบนี้ก็สะใจแล้ว อยากถ่ายเก็บไปติดผนังจริง
ฟังชัดๆนะกูจะแกล้งมึง แล้วกูก็ทำสำเร็จ"

ก่อนดนัยจะขำลั่นสนาม ซึ่งนั้นก็ไปจุดไฟโทสะของอินทรีย์ได้เป็นอย่างดี เขาพุ่งมาแตะอัดดนัยจนลอยทั้งตัว

ดนัยเองก็คาดไว้แล้วเช่นกัน
มือที่ลอยคว้าจับคอมันไว้มั่นเท้าที่ลอยตามแรงก็ลงมายืน เขาอาศัยแรงถีบยกตัวขึ้นมายืนก่อนจะโขกหัวเข้าไปที่ใบหน้าอินทรีย์

อินทรีย์ก็ไม่คิดว่าจะโดนสวนกลับแบบนี้ วินาทีที่มันผงะไป ดนัยก็งัดแรงเฮือกสุดท้ายออกมา
ดนัย: "ขอคืนบ้างละมึง ถอนทุนคืน"
ร่างโทรมๆ กลับระเบิดจิตสังหารเกรี้ยวกราดออกมา
หมัดเขาชกเปรี้ยงไปที่จมูกที่เลือดหยดออกมาเพราะหัวตน คราวนี้เลือดสดๆทะลักออกมาทางจมูกดาวพร่ามันเต็มหัวอินทรีย์

แน่นอนว่าดนัยไม่ปล่อยโอกาสกระแทกปากมันง่ายๆ  ฮุคซ้ายและขวาตามติดต่อคิวด้วยเข่าที่ท้องน้อยจนตัวงอ ปิดฉากด้วยสับศอกลงที่ก้านคอส่งคุณชายลงไปนอนจูบพื้น แถมเหนียบกระทืบที่หลังอีกที

ซึ่งดนัยก็อาศัยโอกาสนี้ถอยฉากออกมามองอินทรีย์ค่อยลุกขึ้น มันจ้องดนัยราวกับดนัยไปเผาบ้านมันก่อนพุ่งใส่ดนัยทันที

ดนัย: "กรรมการ ผมยอมแพ้ครับ"
ดนัยประกาศออกมาทำเอาทุกคนชะงักงันไป
ฮึดสู้แทบตายแต่อยู่ดียอมแพ้เฉยๆ

อินทรีย์มองดนัยก่อนจะตรงไปหมายจะล้างอายแต่ลูกน้องทั้งสองรีบมายั้งยึดตัวไว้
บิ้ก: "คุณอินทรีย์ครับ อย่าโดนปรับแพ้เหรอครับใจเย็นก่อนครับ"
แต่อินทรีย์ยังฮึดฮัดไม่หยุด
เบิ้ม: "ทำแบบนี้คุณพ่อท่านจะภูมิใจเหรอครับ ตั้งสติคิดถึงหน้าท่านด้วย"
เหมือนกับโดนน้ำเย็นสาดใส่อินทรีย์ได้สติเขาเอื้อมไปตบไหล่ลูกน้องเบาๆก่อนจะดันตัวออกและเดินไปทำแผล

ส่วนดนัยหมอสนามต้องเอาแปล้มาหิ้วไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มแล้วแม้จะแพ้แต่สะใจสุดๆ ร่างจะยับก็ยังถือว่าคุ้มอยู่ ที่เขาดันทุรังยืนชนหมัดมาต้องนานก็เพื่อแค่ยั่วโมโหให้เขาได้ตันหน้ามันเต็มๆ

เมื่ออารมณ์สั่นไหวช่วงว่างก็จะเกิดและพอได้ต่อยมันเต็มแล้วจะยืนให้มันกระซวกไส้เพื่ออะไรละ แถมยังได้กวนตีนส่งท้ายมันอีกนิด

แต่หลังจากนอนพักได้ไม่ถึงชั่วโมงข่าวร้ายได้มาเยือนอีกครั้ง เพราะมีคนสุ่มได้เลขเขา

เขาเลยต้องขึ้นไปทดสอบรอบสุดท้ายด้วยสภาพรุ่งริ่ง

แต่พอเห็นคู่ต่อสู้ดนัยก็ยิ้มออกเพราะมันมันคนที่เคยสู้กับสมิงซึ่งฝีมือมันก็ไม่ได้ครึ่ง ตอนเขาสมบูรณ์พร้อมแต่หากเป็นตอนนี้ก็น่าจะตึงมือ นิดหน่อย

แต่ทว่าดนัยก็คาดการผิดอีกครั้ง
แน่นอนว่าทันทีที่เริ่มกนัยก็เปิดฉากจัดชุดใหญ่ไฟไหม้ป่าไปให้มัน มันก็โดนครบทั้งหมัด เข่า ศอก แต่เวลายิ่งผ่านไปก็เห็นว่าจะไม่มีทีท่าว่าจะล้มมันได้ เรียกได้ว่ามันแทบไม่บาดเจ็บอะไรเลย
แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากเกินปกติ
ดนัยเหวี่ยงมันอัดเต็มปลายคาง เสียงกระแทกดังสนั่นสนามต่อให้ไม่ล้มก็ต้องได้ผลบ้าง
มันหันคอกลับมาช้าๆก่อนจะเหวี่ยงหมัดสวนกลับมา
ดนัยต้องเจอการสวนกลับแบบแลกหมัดซึ่งเขาทำอะไรมันไม่ได้แถมมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยอ่อนลงเลยซึ่งหากปกติคนต่อยกัน15-20นาทีก็เหงื่อไหลเป็นปี๊บแล้วแต่มันจะต่อสู้นานเท่ากันแต่แรงไม่ตกลงเลย ซึ่งน่าประหลาดใจสุดๆ

ต้องเจอคู่ต้องสู้ถึกไม่พอตัวดนัยก็ยังบอบช้ำมาจากศึกที่แล้วยิ่งสู้นานยิ่งเสียเปรียบจากเริ่มตนเป็นคนไล่ต้อนตอนนี้ต้องหลบและปัดป้องอย่างเดียว
ดนัยยกแขนกันแข้งขวาที่มันหวดมาแรงปะทะเล่นเอาแขนปวดแปล็บๆ อาการแย่กว่ารับหมัดไอ้อินทรีย์ในศึกที่แล้วซะอีก

ดนัย: (ไม่มีทางที่มันจะเก่งกว่าไอ้เวรนั่นแน่ หรือว่ามันจะ....)
แต่พอดนัยเสียสมาธิก็โดนมันถีบปลิวไปนอนจุก

มันรีบเดินมาหวดแตะซ้ำๆทันทีจนดนัยสลบไป

ท่ามกลางสายคนนับสิบดนัยถูกหามออกไป หลายคนเริ่มจับกลุ่มพูดคุยกันเพราะดูว่านัดที่ผ่านมาๆต่อให้จะบอบชำแค่ไหนก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่ดนัยจะแพ้

ไม่นานนักดนัยรู้สึกตัวที่ห้องพยาบาล
ร่างกายที่บอบช้ำรีบลุกขึ้นยืนและเดินลากขาไปยังที่หนึ่ง เขาต้องรีบไปหยุดพวกมันก่อนที่จะสายไป

ตอนนี้สนาม4แทบลุกเป็นไฟ
เพราะอยู่ๆก็มีม้ามืดไล่ถลุง คนที่น่าจะแข็งแกร่งที่สุดอย่างอินทรีย์ ทั้งที่นัดก่อนหน้าก็ไม่ได้แสดงฝีมืออกมาเท่านี้ ภาพคุณชายตระกูลดังอย่างทุลักทุเลเล่นเอาคนดูลุ้นแบบสนามแทบแตก

อินทรีย์หลบพลาดไป ทำให้โดนตุ้ยท้องทรุดลงไปมันรีบเงื้อหมัดจะซ้ำเพื่อปิดฉากไป

ดนัย: "หยุด ชนะแบบนี้มันภูมิใจเหรอวะ"
ดนัยถือเศษวัตถุที่เผาไม่หมดเดินลากสังขารเข้ามากลางสนาม

ดนัย: "เข้าใจเล่นดีแอบฉีดสารกระตุ้น แต่ฉลาดมากที่ไม่ฉีดแต่แรก ก็เลยยิ่งแนบเนียน"

คู่ชกของอินทรีย์รีบตะโกน
"เฮ้ยแบบนี้มันปรักปรำกันชัดๆ แพ้แล้วพาลชัดๆ"
ผู้สมัครอีก 3-4คนก็ลุกขึ้นมาโห่ร้องอย่างไม่พอใจ

ทันใดนั้นตำรวจกลุ่มหนึ่งก็เดินมาในสนาม
เป็นหมู่นากับดาบชัย
ดาบ: "มีคนนำหน้าเราไปก้าวหนึ่งแล้ววะ"
หมู่นา: "ก็ดีพี่เราจะได้ไม่ต้องพูดมาก"

ก่อนตำรวจในชุดเครื่องหลายคนจะเดินไปควบคุมตัวพวกที่ยืนโวยวายและผู้คุมการสมัครอีกหลายคนไปท่ามกลางความงุนงงของหลายๆคน

เสียงประกาศที่ดังขึ้นก็ช่วยตอบคำถามในใจทันที

"ผมผู้การถวิลจำต้องเรียนให้ทราบถึงเรื่องน่าเศร้า คือมีคนของเราร่วมมือกับผู้สมัครบ้างคนที่แอบนำสารกระตุ้นมาใช้ แต่นั้นก็ไม่พ้นหูตาของเรา บางท่านน่าจะเห็นแล้วว่าเราได้ส่งคนไปควบคุมตัวไอ้พวกนอกแถวนั้นแล้ว แล้วเราจะระงับการทดสอบทุกสนามและให้ทุกคนที่ไม่ถูกควบคุมตัวรอฟังคำสั่งต่อไป"

เหล่าผู้สมัครที่ไม่ได้รู้เห็นกับต่างตับกลุ่มคุยบ้างก็โวยวายการทดสอบสรรภาพเลยค้องยืดระยะเวลาต่อไป

"ผู้สมัครหมายเลข24"
ดนัยลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตามเสียงประกาศไปยังห้องที่ระบุไว้
ประตูเหล็กหนาถูกเขาผลักออกไปข้างในมีโต๊ะเก้าอี้พลาสติกถูกๆดนัยเดินไปนั่งรออยู่

ดนัยหันไปดูสภาพห้อง มันเป็นห้องที่ปิดทึบไม่มีแม้หน้าต่างแต่มีช่องของระบบระบายอากาศ

ดนัย: "ทำไมตูนึกถึงห้องรมยาในหนังโรคจิตเลยวะ นี้ถ้ามีใครล็อคประตู...."
อยู่ๆดนัยก็รู้สึกว่ากำลังจะเกิดเรื่องไม่ดีกับตนขึ้น

กึง แกรก
เสียงประตูเหล็กถูกลงกลอนล็อคอย่างแน่นหนา

ดนัย: "และปล่อยยาพิษ มาทางช่องอากาศ"
ก่อนจะเงยหน้ามามองช่องระบายอากาศที่มีควันกลิ่นแปลกๆลอยออกมาแล้ว

ดนัย: "เฮ้ นี้เอาแบบนี้จริงดิ"
เขาเสยผมอย่างเซ็งจิตในห้องปิดตายที่กำลังปล่อยควันยามาเพื่อรมยาตน

15นาทีต่อมา

ประตูเปิดแง้มออกเจ้าหน้าที่ชุดดำหลายคนนำถุงดำมาใส่ร่างดนัยแล้วเดินออกไปใส่ในรถกระบะก่อนรถจะเคลื่อนออกไปพร้อมถุงดำอีกหลายสิบใบ

เรื่องแถมท้ายเรื่อง

ผู้การถวิลยืนบนดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่งร่างชายวัยเก๋ายืนคล้ายรออะไรบ้างสิ่ง

วิทยุ: "ท่านครับทีมพงพนาแจ้งว่าทุกอย่างพร้อมสำหรับด่านสองแล้ว"
ผู้การ: "ขอบคุณมากบอกทางนั้นด้วยว่าผมกำลังไป"

พับๆๆๆๆๆๆ
เสียงใบเหล็กฉีกอากาศ พร้อมๆกับเจ้าแมลงปออากาศสัญชาติเมกาที่นำเข้ามาประจำในกองบินตำรวจจะลอยลำเข้ามาจอดข้างหลังผู้การ
ประตูเลื่อนออกพร้อมเสียงเร่งเร้า
"ลุง ได้เวลาไปแล้วครับ ทีมนกจะเป็นเพื่อนร่วมการกับลุงนะ"

ผู้การ: "เออๆ แต่เวลาในงานเรียกผู้การสิ่งไอ้หลานเวร จะทีมไหนก็ปวดหัวเหมือนกันหมดจริงๆไอ้พวกนี้"

ก่อนชายรุ่นเก๋าจะขึ้นไปบินเครื่อง
เจ้าคอปเปอร์ก็บินหายไปกับม่านหมองในยามเย็น


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

filmfilmna7

#1
ขอบคุณมากๆ ครับ ที่เขียนเรื่องสนุกๆ มาให้อ่านแบบนี้ ผมขอกลับไปอ่านตอนก่อน แปป นะครับ

declangombley

#2
อื้อหือออ ลองอ่านดูแล้วพบว่า ตำรวจเรื่องนี้บู๊เก่งมาก บรรยายฉากแอคชันได้เห็นภาพเลยครับ

อย่างนี้สงสัยต้องโอนคดีของนักสืบกาย ไปให้ดนัย อินทรีย์และพรรคพวกตำรวจตามจับนายปฐวีซะแล้วสิครับ 555555+

::HoHo::

kaithai

#3
แอบมาวางข้อสอบ
สำหรับการคัดเลือก
ตอนหลังเที่ยงคืน เลยนะ
กลัวข้อสอบรั่วเหรอ อิอิ


คำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................

ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry::
ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา
::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..
ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1 ปี. .


กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .

................................................................................................................

cd13579

อ้างจาก: declangombley เมื่อ กุมภาพันธ์ 11, 2017, 12:58:57 ก่อนเที่ยง
อื้อหือออ ลองอ่านดูแล้วพบว่า ตำรวจเรื่องนี้บู๊เก่งมาก บรรยายฉากแอคชันได้เห็นภาพเลยครับ

อย่างนี้สงสัยต้องโอนคดีของนักสืบกาย ไปให้ดนัย อินทรีย์และพรรคพวกตำรวจตามจับนายปฐวีซะแล้วสิครับ 555555+

::HoHo::

นางเอกเรื่องผมจะโดนจับไปขายซ่องเป็นแน่แท้ ยิ่งช่วงหลังค้ามนุษย์ข้ามชาติไปแล้วด้วย นี้ยังไม่นับกำไลเวรเทพอันนั้นอีก

สงสารพระเอกเรื่องผมเถอะมันยังไม่ได้กินกันเลย (อีกนานกว่าจะได้กินกัน)
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

siwa119421

ชอบเรื่องนี้ตรงฉากบู๊นี่แหละ

thisisbest

นึกว่าอ่านผิดเว็บ เขียนฉากต่อสู้ได้ดีมากเลยครับ

ตอนนี้เป็นการเปิดตัวทีมตำรวจหนุ่มๆทีมใหม่รึเปล่า (ดนัย อินทรี สมิง)

seatermite

สู้ๆนะครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะ

Louis Pangsri

มาแล้ววว มาแบบให้ลุ้นเช่นเคย และสนุกน่าติดตามมาก ดนัยจะเป็นไงบ้างผ่านการทดสอบไหมหนอ

gritkin

สุดยอดครับ ตำรวจเรื่องนี้เก่งมากๆ บู้เเหละได้ใจ ต่างจากโลกจริงจัง ถ้าได้แบบนี้จะดีสุดๆเลย

nbsrk

ท่าทางจะคัดเอาตัวจี๊ดมาทั้งนั้น แต่ละตัวอย่างแสบ
บรรยายการต่อสู้ได้มันมาก ขอบอก

taka95

สนุกมากเลยครับ บรรยายฉากต่อสู้ได้เห็นภาพมากๆ

thum2520

ติดตามและขอเป็นกำลังใจให้ครับ สนุกและมันส์ เวลาเรารอคอยอะไร มันจะดูนานเป็นพิเศษ

เรื่องนี้ก็เช่นกัน หวังว่าตอนต่อไปจะได้อ่านเร็ว ๆ นี้นะครับ

sniperteam

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ดนัยก็กวนดีจังยั่วโมโหเสร็จยอมแพ้ 555

tetete

ดนัยเจอกับลูกคนมีเส้นแถมฝีมือดีด้วยจะสอบติดมั้ยครับ ลุ้นๆ