ก่อนอ่านครั้งหนึ่ง ณ ทะเล มาอ่าน ฉัน เธอ และ เขา ก่อนครับ
ความเดิมตอนที่แล้ว 3 คำ
ซวย แท้ โทน

.........................
ผมนั่งอึนอยู่ริมคลอง คิดถึงเหตุการณ์วันนี้ เฮ้อ !!! ซวยแท้ๆ ทำไมผมต้องมาเจ็บตัวฟรีๆก็ไม่รู้ แต่มันก็ดีนะ กว่าพี่หมิวเขาเป็นอะไรไป แต่ปัญหาคือ กูอาย
คือพี่เขาต้องเห็นสภาพผมกินขนมมูมมามแน่ๆ โอยยย อายตายห่า เฮ้อ แต่ก็ถือว่าเป็นโชคชะตาอ่ะเนอะ ไม่คิดเหมือนกันว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น การที่ไม่มีตังส์ทำก็ให้เจออะไรดีๆได้เหมือนกัน…..
ดีกะผีสิ่ไอ้ห่า เจอคนสวยๆแต่ซวยโดนต่อยมันคุ้มมั้ยเนี่ย เฮ้ออ จริงๆแล้วตอนนั้นไม่ใช่ผมไม่มีเงินนะ แต่ว่าเพราะใช้เงินไม่วางแผน ไม่เผื่อไว้ในยามฉุกเฉิน พอ server ปิดปรับปรุงขายเงิน M ไม่ได้ก็ฉิบหายตามนั้นแหละครับ คิดแล้วก็ตลกตัวเองนี่ต้องไปสำรวจตู้โทรศัพท์เพื่อหาเงินค่ารถกลับบ้าน
คือถามว่าเดินได้มั้ยกลับสวนผักน่ะ เดินได้ครับ วิ่งเป็น สิบๆโลก็วิ่งมาแล้ส แต่ไม่เอาไม่เดินเด็ดขาด คือมันไม่เหมือนการเดินจากอนุสาวรีย์ชัยมาถึงสวนดุสิตนะ คือแบบระหว่างทาง อ่ะคิดเล่นๆตามผมนะพี่น้อง
เดินจากอนุสาวรีย์ ผู้คนคับคั่ง รถวิ่งกันให้ควั่กมันยังมีอะไรให้มองนะ เอาง่ายๆเลย พอพ้นเขตอนุสาวรียชัยมาก็เจอ แยกตึกชัย พอพ้นทางรถไฟ พ้นแยกอุทัยฯ ก็จะเจอวังจิตรลดา โอยคนวิ่งเต็มไปหมด ไม่ว๊าเหว่ แล้วนักกีฬาแบบผม
พอเห็นคนวิ่งแล้วเอาตรงๆ รู้สึกฮึกเหิมสบายใจ อ่ะพอพ้นแยกนั้นมาก็เจอเขาดิน คนก็เยอะรู้สึกปลอดภัย อ่ะถัดไปก็เจอแยกการเรือน แยกนี่ก็ติดโคตรๆ ไฟแดง 5 นาที ไฟเขียว 5 วิอ่ะปลอดภัย
ถัดมาก็เจอสวนดุสิต สวนสุนันท์ อาหารตาเพียบ เนี่ยมันเดินได้ เผลอๆบางวัน เดินเท้าจากอนุสาวรีย์ชัยไปสวนดุสิต ยังไวกว่าขึ้นรถเมล์เลย
แต่พอพ้นแยกซังฮี้ไปนี่สิ่ครับ . . . . . . . มืด บอกเลย มืด สมัยนั้นไม่ได้เจริญแบบสมัยนี้นะ มันมืดๆ บอกเลยว่าต่อให้เป็นนักกีฬา แต่ผมก็ไม่ใช่ยอดมนุษย์อะไรที่เซฟตัวเองได้ ผมก็ต้องเซฟ
เพราะวิธีต่อสู้ที่ดีที่สุดคือการใช้ขา ไม่ใช่ใช้เตะนะครับ ใช้วิ่งหนีนี่แหละ การต่อสู้ที่ดีที่สุดคือการเลี่ยงการปะทะ เนี่ยลองเข้า GooGle Map ก็ได้ว่าหลังจากแยกซังฮี้ หลังจากแยกบางพลัดแล้วคือต้องเดินด้วยความระแวดระวังอ่ะบอกเลย
มีจุดที่ปลอดภัยหน่อยก็ตรงตั้งฮั่วเส็งอ่ะครับ แล้วกว่าจะถึงสวนผักบ้านผม โอ๊ยขาลากบอกเลย แล้วตอนนั้นผมก็เจ็บๆจุกๆด้วยครับ เพราะงั้นก็เลยต้องใช้วิธีหักดิบ ด้วยการตีหน้ามึน
เดินเข้าตู้โทรศัพท์แถวนั้นและหาเหรียญจากช่องทอนเงินนั่นแหละครับ ก็เนียนๆทำเป็นตู้เสียแล้วเปลี่ยนตู้แหละ โอยคิดแล้วโคตรอาย แต่มันก็ทำให้ผมกลับมากินข้าวที่บ้านได้ครับ
เพราะมอไซวินหน้าปากซอยเรารู้จักกัน พูดง่ายครับ ถ้าบ้านไม่มีคนอยู่ ผมก็แค่บอกว่าเดี๋ยวเอาเงินออกไปให้ แค่นั้นเอง อ่ะตัดมาอีกวัน หลังจากที่ตื่นแล้ว ผมขอยืมเงินแม่ร้อยนึง แล้วก็รีบไปร้านเกมส์ครับ
สมัยตอนเรียน ปี2 บ้านผมยังไม่มีคอมนะ ผมจึงต้องอาศัยร้านเกมส์ในการขายของ ก็กลัวนะว่าจะมีคนมามองรหัส เพราะร้านเกมส์แถวบ้าน มันไม่ได้ส่วนตัวเหมือนข้างๆหอพัก
เฮ้อไม่ปลอดภัยเด็กเล่นเกมส์นี้เยอะด้วย ผมเลยตัดสินใจไปเซ็นปิ่นแม่งเลย มันเป็นร้านเกมส์หยอดเหรียญครับ ตู้สีเงินๆหยอดเหรียญ 10 บาท แล้วที่แม่งเจ็บปวดคือ
ที่มหาวิทยาลัย 10 บาท ผมเล่นได้ 1 ชั่วโมง แต่นี่แม่งหยอด 10 บาท ได้มา 25 นาที ไอ้เยดเข้ เฮ้ออออ แต่ทำไงได้อ่ะครับมันจำเป็น
หลังจากขายเงิน M ได้เงินมาจำนวนนึง ก็คือขายไม่หมดหรอกครับ ขายได้ 3 ส่วน 4 ของที่มี ผมก็มีเงินมาและ รู้มั้ยอย่างแรกคืออะไร..... ให้รางวัลตัวเอง
ผมไปร้านยาโยอิครับ คัสสึโทจิ นี่แหละเด็ดสุดๆ หลังจากให้รางวัลตัวเองผมก็กลับมาที่บ้านเก็บข้าวเก็บของ และกลับหอวันนั้นเลยครับ เชื่อมั้ยว่าพอผ่านแยกซังฮี้ แล้วก็พาให้นึกถึงเรื่องเมื่อวาน
ผมกับตัวเล็ก หรือพี่เตยก็คงต้องจบกันแล้วจริงๆสิ่นะ เอาวะตัดใจ หลังจากวันนั้นผมก็ตัดสินใจนะที่จะไม่ติดต่อกับพี่เตย แต่แบบจนแล้วจนรอดก็อดใจ ห้ามใจตัวเองบ่ได้จั๊กเถื่อ บั๊กห่าขั่วมึงเอ้ย
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน