ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

Swinging legacy | Cheerleader : Prologue

เริ่มโดย Basilisk, กันยายน 26, 2019, 08:38:17 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Basilisk

ขออนุญาติใช้พื้นที่ของบอร์ด แชร์ประสบการณ์ให้สมาชิกได้เสพเรื่องราวในบันทึกนี้กัน น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เสพผลงานในหลายๆ แง่มุม ทั้งผู้สนใจในเรื่องของ Swinging sex, Swinging social, Outdoor sex, Hardcore sex และมุมมองใหม่ๆ ของ sex ผ่านการเล่าเรื่องจากประสบการณ์จริง (Base on true story) อิงสถานการณ์ของบุคคลในบันทึกที่ต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่างๆที่เกิดขึ้นตามมา

เนื่องด้วยกฎของเว็บที่ผมพยายามอ่านทำความเข้าใจทั้งหมดแล้ว การเปิดเผยชื่อของสถานที่จริงในเรื่องอาจนำภัยมาสู่เว็บ เพราะฉะนั้นผมขอกล่าวแบบอ้อมๆ พอให้สมาชิกนึกกันเอง อาจจะเสียอรรถรสไปบ้างก็คงไม่ทำให้เสียเรื่องไปทั้งเรื่อง และในบทนำนี้ไม่มีรูปจากเหตุการณ์จริงอยู่เลย จึงขอนำรูปอื่นๆ มาประกอบเท่าที่จะทำได้ เนื้อเรื่องหรือการใช้ภาษาอาจจะไม่ค่อยสละสลวยเพราะอิงจากเหตุการณ์จริงเป็นส่วนมาก... ภาคนี้ผมไม่เคยเขียนลงเว็บใหนมาก่อน ที่นี่เป็นครั้งแรก... ถ้าผิดพลาดประการใด หรืออ่านยาก ไม่น่าติดตาม...ต้องขออภัย

รบกวน admin/mod พิจารณาด้วยครับว่าบันทึกของผมควรอยู่ห้องใหน เพราะตอนแรกๆภาพจะน้อย หรือบางภาพอาจเป็นภาพประกอบ ไม่ใช่ภาพจากเหตุการณ์จริง ข้อความจะเยอะ แต่ตอนต่อๆไปภาพจะเยอะ และเป็นภาพจากเหตุการณ์จริงทั้งหมด


บันทึกสวิงกิ้ง ภาคหลีดคณะ: บทนำ
(Swinging legacy | Cheerleader : prologue)




บันทึกทั้งหมดเริ่มขึ้นที่นี่...

BB ดินแดนที่ใครๆ ก็ต้องเคยได้มาสัมผัสสักครั้งในชีวิต... ภูเขาทอดยาวสลับสูงต่ำโอบล้อมแนวชายหาดสดใสด้วยน้ำทะเล แสงแดดส่องกระทบระยิบระยับ ต้นมะพร้าวยังเหลือให้เห็นประปรายสะท้อนภาพจากอดีตที่เคยเป็นแดนรกร้างดงมะพร้าวมาก่อน บัดนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีสิ่งปลูกสร้างบริเวณสุดชายหาดที่สวยงาม เรียกว่า LT มองจากตรงนั้นจะเห็นเขา SM ลูกเล็กๆ วางตัวเป็นง่อนแหลมยื่นไปในทะเล ตีนเขามีถนนวิ่งได้รอบให้ผู้มาเยือนเสพชมบรรยากาศและทัศนียภาพอีกด้านหนึ่งของหาด ไม่ใช่แค่ตอนตะวันยังไม่ลับขอบฟ้า... กลางคืน สถานที่นี้ยังคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว นิสิตนักศึกษา และคนท้องถิ่น มาชอปปิ้ง จับจ่ายใช้สอย ในถนนคนเดิน (walking street) ที่สวยงาม ประดับประดาด้วยไฟสีเหลืองส่องสว่างจากร้านค้า กลิ่นอาหารปรุงสดๆ เป็นเอกลักษณ์สลับกับแฟชั่นตามยุคสมัย อีกทั้งของลายคราม ของประดิษฐ์ ของฝาก มีให้เลือกชมเลือกซื้ออย่างเพลินตา ถัดจากหาดขึ้นมาเป็นถนนลงหาดที่คาคั่งไปด้วยร้านเหล้า ร้านของกินชื่อดังมากมาย และห้างสรรพสินค้าตั้งตระหง่านอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัย EU...




ขอบคุณรูปภาพจากwikipedia




แม้ในความเจริญเหล่านั้นก็ยังมีมุมมืดของเมืองนี้อยู่...เหล่าเด็กแว้นซิ่งกวนเมือง กลุ่มรถซิ่งเจ้าถิ่นที่แข่งกันทุกคืน อาชญากรรมที่เกิดกับนักศึกษาหญิง หรือแม้กระทั่งในผับบาร์ที่มีเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน และกลุ่มผู้มีอิทธิพล... ด้านมืดพวกนี้ก็ยังคงเติมเต็มให้กับเมืองนี้ได้ไม่แพ้ด้านที่เป็นสีขาว

ในความตื่นตระหนกกับที่เรียนใหม่... สถานที่ที่แปลกตา ตึกอาคารต่างๆ Landmark สำคัญๆ ที่ต้องจำให้ได้ เมื่อก้าวเข้ามาในมหาวิทยาลัยนี้วันแรก ด้วยความเป็นคนไม่ชอบเที่ยว และไม่ชอบเข้าเมือง ผมเลยโดนลงโทษทันทีที่เข้าสังคมในมหาวิทยาลัยนี้ ต้องคุยกับคนอื่นบ้างเพื่อมีเพื่อนให้เร็วที่สุด สามในสี่ตัวเลือกที่ผมเขียนลงไปในระบบ Admission กลางอยู่ที่นี่ ทำให้ผมมาโผล่ที่นี่แบบไม่ต้องสงสัย ช่วงปีหนึ่งเป็นช่วงที่เรียนหนักมาก โผล่ไปทำกิจกรรมบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่ด้วยอยากให้เกรดออกมาดี ปีที่เหลือจะได้สบายหน่อย ผมเลยใช้เวลาแทบทั้งหมดซุ่มอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ ...แล้วผมเจอกับเธอได้ยังไง... เรื่องนี้ต้องกรอเทปตัดไปถึงตอนปีสองเลย หนึ่งปีผ่านไปไวมาก ทั้งๆ ที่เจอเรื่องราวต่างๆมากมายบีบอัดเข้ามา... ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าทุกวินาทีจริงๆ ผมจำได้ว่าเห็นเธอบ้าง เพราะอยู่เอกเดียวกัน รู้ว่าเธอรูปร่างยังไง หน้าตาคร่าวๆ ของเธอ... แต่ไม่เคยหันไปสบตาจริงๆ จังๆ เลย จนวันนี้...วันที่ต้องจับคู่ทำงาน นั่นแหละ มาคู่กันได้แบบงงๆ ด้วยความที่เป็นผู้นำและอยากให้เพื่อนที่คู่กับเราได้เกรดดีๆ ผมก็พยายามเต็มที่และปฏิบัติกับเธอเหมือนเพื่อนที่ดีคนนึง...

ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เจอกัน นอกจากแววตาหวานๆ แบบโบราณคู่นั้นก็กลิ่นตัวเธอนี่แหละที่ฝังตัวในระบบประสาทรับสัมผัสของผมแบบแน่นหนา ไม่รู้ว่าเป็นแป้งหรือโลชั่นที่เธอใช้ประทินผิว แต่หอมสะกดมาก... จนวันนึงที่อาจารย์เรียกไปทุกคนให้ยกเก้าอี้ไปนั่งฟังหน้าห้องเพื่อรอ brief "หนึ่ง...มาเร็วๆ" ผมเรียกเธอแบบกระซิบ... เธอสาละวนเตรียมหนังสือ ผมเตรียมจะหันไปเรียกอีกครั้ง "หนึ่......ง..." แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเธอมานั่งอยู่ข้างหลังผมแล้ว สายตาของผมสะดุดอยู่ที่ขาอ่อนเรียวสวยสีน้ำผึ้งที่ถูกกระโปรงทรงเอรัดไว้แค่ครึ่งเดียว พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ นั่นอีกแล้ว เธอยิ้มให้ผมนิดนึง "มาแล้วๆ" ก่อนที่ผมจะเบนความสนใจกลับมาหาอาจารย์ สตั้นท์ไปสองสามวิ นี่ผมคิดอะไรอยู่...




ขอบคุณรูปภาพจากwikipedia




เวลาล่วงเลยไป... ความสัมพันธ์ของเรายังคงสถานะเพื่อนไม่เปลี่ยนแปลง ช่วงที่ขึ้นปีสอง ปีนี้เราต้องเป็นรุ่นพี่แล้ว ผมเบนความสนใจมาทำกิจกรรมมากขึ้น ก็เจอเธอบ้าง ใช่... เธอคือ cheerleader คณะ ก่อนที่ผมจะรู้จากรุ่นพี่ที่สอนท่าเต้นให้กับเธออีกทีว่าเธอมีพรสวรรค์และมีความสามารถที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับหลีดสาวคนอื่นๆในทีม... แม้หน้าตาของเธอจะออกแนวสาวไทยบ้านๆ มีแววตาโบราณที่หวานเป็นพิเศษ แต่ด้วยส่วนสูง 165 น้ำหนัก 40 ต้นๆ ทำให้เธอมีหุ่นที่เพรียวบาง สะโพกผาย เอวคอด ก้นงอนสวยรูปหัวใจคว่ำ เป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของนิสิตเพศตรงข้ามไม่น้อย... แต่นั่นแหละ ถึงจะทำกิจกรรมใหญ่ๆ ร่วมกันมา แต่ผมก็ไม่ยังไม่เคยไปยืนดูเธอเต้นหลีดจริงๆ จังๆ สักที จนกระทั่งผ่านไปเกือบจะมิดเทอม... มีข่าวลือว่า ภาควิชาของเราขาดหลีดชาย ผมก็ฟังผ่านๆ ไม่ได้คิดอะไร ยังไงก็คงไม่ใช่เราหรอกที่ต้องไปเต้นอะไรแบบนั้น

แต่แล้ว... ในคาบเรียนนึง ผมก็โดนจนได้

"นน...มาเต้นให้หน่อยสิ ตอนนี้ขาดผู้ชายอยู่" "ไม่ครบทีมลงแข่งไม่ได้..." เธอเดินมาบอกพร้อมรอยยิ้ม "นะ...นน นะ"  ผมไม่เคยเจอผู้หญิงเดินเข้าหาอะไรแบบนี้มาก่อน ก็ยังเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าจะทำได้มั้ย เพราะเรื่องเต้นหลีดอะไรนี่ไม่เคยมีในหัวเลย จะให้ผมเนี่ยนะ ไปเต้น... ผมยังไม่รับปาก แค่ยิ้มปฏิเสธเจื่อนๆ ไป "ไม่อ่ะ คงไม่ใหว..."




ขอบคุณรูปภาพจากwikipedia




ผ่านไปสองสามวัน ระหว่างนั้นถ้าเจอกับเธอในคาบเรียน เธอก็จะเข้ามาทาบทามทุกครั้ง ผมก็ปฏิเสธไปทุกครั้งตกเย็นวันหนึ่ง ผมกลับมาติวหนังสือที่หอกับเพื่อนต่อตามปกติ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น... "จะมามั้ยเนี่ย เนี่ยตอนนี้ไอแบงค์ก็มาแล้ว ลองลงมาดูก่อนดิ เค้าเริ่มซ้อมกันแล้ว..." ในใจผมก็คิด ขนาดไอแบงค์ยังมา... เอาว่ะ อย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมอาย ส่วนคนในทีมที่เหลือก็พอจะรู้ๆ กันอยู่ว่ามีเกย์ชายสองคน ผมลองไปดู ไปแบบโง่ๆ เลย...

เมื่อผมไปถึงลานหลังตึกคณะ ตอนนั้นเอง... ผมเห็นเธออยู่ในชุดเดรสสวยมาก ต่างจากชุดนิสิตที่เห็นจนชินตา ทั้งสายตา รอยยิ้ม และอิริยาบถ กำลังมองมาที่ผม นี่ผมหลงเสน่ห์เธอแล้วใช่มั้ย... แต่...ในใจผมก็ยังเผื่อเอาไว้ว่าเธออาจจะทำแบบนี้เพื่อหลอกล่อให้เรามาก็ได้ มันกลายเป็นเธอที่เข้ามาหาแบบไม่ทันตั้งตัวเลย จับข้อไม้ข้อมือเราให้ตั้งท่าแบบนั้นแบบนี้ "ยกมือขึ้นมาตั้งฉากแบบนี้นะ..." เธอยิ้มไปด้วย สอนไปด้วย น่ารักมาก เขินเลยเรา แต่ไม่ใช่มั้ง เธอเป็นกัปตันนี่... เธอต้องสอนแบบนี้กับทุกคนอยู่แล้ว... วันนั้นรุ่นพี่หลีดระดับคณะมาช่วยด้วย พี่เลยจับคู่ให้ ชาย 4 หญิง 4 ผลออกมาคู่กันอีกแล้ว เหมือนเธอล๊อคคู่ไว้ก่อน จริงๆ แล้วทุกคนได้คู่กันหมด ส่วนไอแบงค์คงเกรงใจไม่กล้าเข้ามาขวางคอ ชิงจับคู่ไปก่อน วินาทีนั้นเหมือนเด็ก 14-15 ตื่นเต้นบ้าบอไปเลย หันมามองตากัน อีกแล้วเหรอ คงคิดในใจทั้งคู่... ตั้งแต่วันนั้น เราก็สนิทกันมากขึ้น แต่ไม่ได้สนิทอะไรมากมาย วันเกิดผม ผมได้กระเช้าขนมเป็นของขวัญชิ้นเล็กๆ เธอเดินเอามาให้ เพื่อนๆ ก็แซวกันใหญ่ ผมเจียดเวลาอ่านหนังสือไปซ้อมหลีดทุกวัน ซ้อมมาได้อาทิตย์นึง ช่วงนั้นเหมือนแฟนเธอมาหา... มาจากระยอง เค้ามาอยู่กับเธอช่วงนึง เหมือนเธอเครียดและหงุดหงิดมากช่วงนั้น ผมเคยถามแสดงความเป็นห่วงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ความอะไรเท่าไหร่ ตอนซ้อมเสร็จแฟนเธอมักจะมารับกลับหอทุกครั้ง...

วันนึง...เธอหายไประหว่างซ้อมนานมาก กลับมาหงุดหงิดมาเลย พอซ้อมเสร็จ ผมก็บ่นลอยๆ ว่าอยากตัดผม จะไปตัดผมดีมั้ยนะ เธอบอกว่าเดี๋ยวตัดให้เอามั้ย เธอบอกให้ไปส่งที่หอหน่อย เดี๋ยวตัดผมให้ ผมก็งง เกิดไรขึ้นวะ... เพื่อนที่ซ้อมกันอยู่ ก็บอกว่าแฟนหนึ่งมาหา แล้วทะเลาะกัน แฟนเค้ากลับไปแล้ว ผมก็เออออ เอาวะ ไปส่งก็ไป เพื่อนเดือดร้อนนี่... อีกอย่าง แฟนหนึ่งกลับไปแล้วคงไม่มีปัญหาอะไร พอไปถึงหอ หอนี้อยู่เกือบถึงชายหาดเลย เธออยู่คนเดียว ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไป ผมดึงสติกลับมาได้ "เอาจริงเหรอ...ตัดเป็นแน่นะ" เพราะตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะให้ตัดจริงๆหรอก แค่อยากมาส่ง "ได้สิ...มาลองดู" เธอยิ้ม พาผมไปที่ระเบียงห้องเล็กๆ ด้านหลังเป็นป่า อากาศเย็นสบาย เอาเก้าอี้มานั่ง ผมนั่งคิดในใจ ..."เรามาทำอะไรที่นี่"... ตอนนั้นคิดแค่ว่าคงไม่มีอะไรหรอก ลองดู อย่างน้อยก็ได้อยู่ใกล้ๆ เธอ แหว่งก็แหว่ง นึกหัวเราะในใจ... เธอก้าวเข้ามาชิดมาก อยู่ข้างหลังเรา ในมือเธอมีอุปกรณ์แค่สองอย่างเท่านั้น คือหวีซอยกับกรรไกร ผมรู้สึกอบอุ่นมาก เหมือนตอนอยู่กับแม่เลย ได้กลิ่นตัวเธอจากใกล้ๆ นี่ก็ดีเหมือนกัน เธอค่อยๆใช้หวีซอย ซอยผมออก ทีละครั้งๆ...อย่างใจเย็น ใช้สองนิ้วคีบปลายผมไว้แล้วตัดด้วยกรรไกร ตอนนั้นผมไม่ได้ยินเสียงของกรรไกรแล้ว ได้ยินแค่เสียงลมหายใจของเธอที่อยู่เหนือหัวผมเท่านั้น บางทีเธอก็เปลี่ยนมายืนด้านหน้า ใช้สองมือจับกกหูทั้งสองข้างให้หน้าผมอยู่นิ่งๆ แล้วจ้องมองซ้ายขวา ว่าผมเท่ากันหรือยัง เธอน่ารักมาก ทำไมกัปตันหลีดต้องมาทำอะไรแบบนี้กับเราด้วย ผมคิดในใจ พอตัดเสร็จ... ผมก็หลบหน้าเธอขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ล้างผมออก ส่องกระจก เธอตัดได้ไม่เลวเลย พอเป็นทรงอยู่บ้าง แต่... กลอนห้องน้ำเธอเสีย ห่ะ... ผมเพิ่งรู้ทันทีที่ลงกลอนลูกบิดจากด้านในไปแล้ว ทำยังไงดี ในขณะที่ผมทุรนทุราย น้ำเสียงเธอด้านนอกเรียบเฉยมาก "เออ เราลืมบอกไปว่ามันเสีย..." เฮ้ออ ผมอยากกลับบ้านแล้วตอนนั้น ออกแรงทุกอย่างให้มันเปิด แต่จะรุนแรงมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวประตูพังขึ้นมาเธอต้องจ่ายค่าปรับอีก ออกแรงอยู่ร่วมสิบนาที ข้างนอกยังไม่มีสัญญาณอะไร "ได้มั้ย...นน" ผมได้ยินแค่นั้น นั่งพักสักครู่ ก็ลองตั้งสติค่อยๆบิดให้มันเข้าล็อคแบบช้าๆ เพราะคิดว่าถึงกลไกมันจะเสียแต่เราใช้น้ำหนักมือที่พอดีน่าจะช่วยได้ ปรากฏว่าเปิดได้ ผมเป็นอิสระแล้ว โคตรดีใจ เปิดออกมาเจอเธอยืนยิ้มอยู่ "โทดทีๆ เราลืมบอก..." อารมณ์เหมือนอยากให้เราติดอยู่ที่นี่นานๆ เลย "ขอบคุณนะที่ตัดผมให้เรา..." ผมขอบคุณเธอจากใจจริง "ให้เราทำอะไรให้มั้ย หิวมั้ย" ผมถามกะว่าจะเลี้ยงข้าว "ไม่เป็นไรเรามีมาม่าแล้ว" เธอพูดพลางชี้ไปตรงซองมาม่าสีเหลืองที่วางปะปนอยู่กับสิ่งของเครื่องใช้บนโต๊ะ "งั้นเราชงให้นะ" ผมอยากตอบแทนเธอ อะไรก็ได้...

ผมเสียบกาน้ำร้อน น้ำเดือด เทซอง ปิดฝา รอมันสุก ระหว่างนั้นไม่ค่อยมีบทสนทนาอะไรเลย มันเขินไปหมด พอมาม่าสุก ผมไม่รู้คิดอะไร เรานั่งบนพื้นห้องใกล้ๆกัน ผมป้อนมาม่าให้เธอเฉยเลย เธอก็กินไปยิ้มไป พอเธอบอกว่าอิ่มแล้ว ผมก็บอกลาเธอ ทั้งๆที่อยากอยู่ต่อ "ไปละนะ...ขอบคุณมากที่ตัดผมให้" ผมยิ้มให้เธอ "ไม่เป็นไรจ้า..." เธอเดินมาส่งผมที่ประตู พร้อมกับรอยยิ้มเขินๆ นั้น ผมยังจำได้ดี...




ขอบคุณรูปภาพจากwikipedia




การซ้อมยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น ชุดที่เธอใส่มาสวยขึ้นทุกวัน จนเพื่อนๆแซวว่า "มาเต็มเลยน้า..." "ใส่มาโชว์ใครรึเปล่า..." เธอเขินทุกครั้ง ทีมก็เริ่มเก่งขึ้นพร้อมเพรียงขึ้น ระดับของการฝึกก็ยากขึ้นไปอีก แต่ผมมีความสุขเวลาโดนเธอดุ เหมือนเธอใส่ใจ และอยากให้เก่งจริงๆ ตอนนั้นใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตาย  M-150 สองขวดต่อหนึ่งคืน เพื่อป้องกันการผลอยหลับ... ผมต้องอ่านหนังสือดึกขึ้น เพราะช่วงเย็นหมดเวลาไปกับการซ้อมหลีดถึงสามสี่ทุ่ม บางครั้งอ่านจนถึงเช้า รวมทั้งต้องติวให้เพื่อนๆ อีก แต่ในใจผมคิดแต่เรื่องที่จะติวให้เธอเป็นพิเศษ... เลยรีบอ่านหนังสือให้จบก่อนจะถึงเวลาสอบล่วงหน้าหลายวัน

แล้วคืนนั้น... คืนที่เธอบอกหลังจากซ้อมเสร็จว่าให้ไปติวให้ที่ห้อง... ผมรู้สึกหวิวๆ... รู้สึกว่าหลังจากวันนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปมากมาย ตอนนั้นเวลา 22:00 ถ้าไม่ไปเที่ยวผับ กินนม เชียร์บอล หรือนั่งเล่นที่หาด นิสิตส่วนใหญ่ก็คงเข้าหอนอนหลับกันหมดแล้ว ถนนลงหาดไม่พลุกพล่าน ผมขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาทันทีหลังจากที่วางสายจากเธอ ในกระเป๋าย่ามผ้ามีหนังสือมากมาย คิดว่าคงติวให้ไม่ได้มากหรอก เอาเท่าที่ได้ เพราะผมยังไม่ได้ติวให้ใครเลยสำหรับบทนี้ พอไปถึงหอเธอ SSM เธอลงมารับด้วยชุดสายเดี่ยวสีเข้มบางๆ กางเกงขาสั้นมากที่บางไม่แพ้กัน หุ่นเธอดีจริงๆ... เอวบางร่างน้อย กลิ่นหอมอ่อนๆนั่นอีก... พริบตานึง ผมก็มาอยู่ในลิฟต์กับเธอแล้ว ผมเดินตามเธอมาอย่างระวัง คงไม่เจอคนรู้จักที่นี่หรอก ผมคิดในใจ ป้ายห้องแสดงเลข 2310... พอเราทั้งสองก้าวเข้ามา เธอดูผ่อนคลายมากขึ้น ห้องขนาดกลาง มีเฟอนิเจอร์ที่จำเป็นครบ น่าสะดุดตาที่ทั้งหมดเป็นไม้เคลือบ งานค่อนข้างประณีต เตียงนอนมีหัวเตียงเป็นไม้โค้งมนแบบโบราณ ครั้งนี้มีเวลากวาดสายตามองรอบๆห้องเธอมากกว่าครั้งก่อนที่เข้ามา ผมไม่รู้จะนั่งตรงใหน เพราะมีแค่เก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง และที่นอน เธอนั่งลงบนที่นอนอย่างสบายใจ ผมนั่งลงข้างๆเตียง หยิบหนังสือเนื้อหาที่จะติวออกมา "เริ่มตรงนี้เลยนะ" ผมพูดพลางหยิบชีทแผ่นนึงออกมา "ไปข้างนอกมั้ย..." เธอเอ่ยขึ้น ...อ่าว... ใหนว่าจะให้ติวให้ไง "ไปก็ได้แต่เดี๋ยวกลับมาต้องอ่านหนังสือนะ..." "อื้มๆ" ผมก็รู้ว่าเธอรับปากไปยังงั้นเอง เธอลงมาทั้งชุดนั้นเลย ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าเธอไม่มีมอเตอร์ไซค์ใช้ ส่วนใหญ่อาศัยวินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยไปส่งที่มหาลัย "ไปขี่รถเล่นกัน...ไปที่ใหนก็ได้" เธอเอ่ยพร้อมสีหน้าสดใส ผมก็ไม่รู้จะพาเธอไปใหนดี เพราะมันดึกมากแล้ว ผมใช้เส้นทางเลียบหาดผ่านเขาที่สามารถทะลุไปตลาด ASL ได้ ระหว่างทางเธอเอาแขนมาวางบนตักผมเบาๆ โน้มตัวยื่นหน้ามาทางใหล่ผม กลิ่นหอมจางๆจากผมที่ยาวพอดีๆ ให้ความรู้สึกอยากรับรู้อะไรๆ ที่เกี่ยวกับตัวเธอมากขึ้น ตลอดทางเราคุยอะไรกันมากมาย เป็นเวลาที่เราสองคนได้เรียนรู้และมีเวลาส่วนตัวให้กันอย่างที่ไม่เคยมีก่อนหน้านี้... ลมพัดเย็น ใบมะพร้าวปลิวใหวๆ กับกลิ่นไอทะเล... ความรู้สึกของหนุ่มสาวยามมีความต้องการ ยามมีความรักแบบนี้ เป็นความทรงจำที่ลืมได้ยาก แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร...

...ถึงตลาด ASL... ผมลืมดูว่าน้ำมันใกล้จะหมด แต่ก็ได้ปั๊มหยอดเหรียญละแวกนั้นช่วยไว้ เราขี่รถกลับมากันในทันที เพราะดึกมากแล้ว




Photo by Lukas Robertson on Unsplash




กลับมาที่ห้อง... "พาไปขี่รถเล่นแล้วนะ...ได้เวลาอ่านหนังสือแล้ว" ผมเอ่ยขึ้น พร้อมหยิบหนังสือออกมาทันที เธอก็เชื่อฟังโดยดี เข้ามาอ่านและจดบันทึก แต่ก็ได้แค่แปปเดียว เธอบอกว่าเริ่มง่วงแล้ว... วันนั้นผมรู้สึกไม่อยากกลับห้อง... อยากอยู่กับเธอ ซึ่งเธอก็ต้องการอย่างนั้น "ดึกแล้ว นอนที่นี่แหละ...เช้าค่อยกลับ" ผมตัดสินใจนอนข้างล่างข้างๆเตียง เธอลุกขึ้นเอานิ้วกดสวิตซ์ แล้วไฟก็ดับลง มีเพียงแสงจากคืนพระจันททร์เต็มดวงส่องเข้ามาให้เห็นเงาของสิ่งต่างๆ ภายในห้องแค่ลางๆ... เธอเอ่ยขึ้นก่อน... เป็นสัญญาณว่าเธอยังไม่หลับในทันที เธอเริ่มชวนคุย ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องซ้อมหลีด เรื่องเพื่อน เรื่องกิจกรรม และเรื่องเรียน ผมก็ตอบสนองเธอเป็นระยะๆ ช่วงเวลานั้น ถึงผมที่นอนอยู่บนพื้นกระเบื้องเย็นๆ ด้านล่าง จะไม่เห็นเธอเลย แต่ก็เดาสีหน้าเธอออกแม้ในความมืด ว่าคงกำลังยิ้มจนตาหวานและเล่าเรื่องความเป็นไปต่างๆ อย่างมีความสุข ผมถึงรู้ได้ในทันทีว่าจริงๆ เธอไม่ได้ต้องการให้ผมมาติวให้หรอก คงอยากได้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่า แล้วแขนขวาของเธอก็พาดยื่นออกมานอกเตียง... "ความต้องการสัมผัส" แต่ผมไม่แน่ใจ นอนดูแขนท่อนนั้นแกว่งไปๆ มาๆ อย่างจดจ่อ ผมหลับตาลง หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นทีละนิดๆ บทสนทนาเริ่มเปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกที่มีต่อกัน ขณะนั้นทุกสิ่งดูเงียบมาก ไม่มีเสียงลม เสียงทะเล หรือเรไรจากระเบียง คำถามเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีให้กัน ที่เราต่างถามกันขณะนั้น ดังขึ้นและชัดเจนในทุกๆ ถ้อยคำท่ามกลางความสงัด



 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Zephyros

เล่าเรื่องได้ดีครับ อ่านแล้วคิดตามได้เห็นภาพเลย

Hungry

ชอบการเล่าเรื่องครับละเอียดดีแต่เหมือนจะขาดสัดส่วนหน้าอกไปน้ะครับ

Ryoma Kechi

เนื้อหาเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เดินเรื่องไหลรื่น 

ยมทูต

การเล่าของคุณดีมากเลยนะ ผมนึกภาพตามเป็นฉาก ๆได้เลยชอบ ๆ

sandletter

เล่าเรื่องได้น่าติดตามมากครับ

M_ne

โมเม้นท์แบบเพื่อนแอบรักเพื่อน  ค่อยๆซึมซับความรู้สึกที่ก่อขึ้นในใจ ชอบเนื้อหามากครับ

Cookiedent

ดำเนินเรื่องได้ชัด. เห็นภาพเลย. เพลินดีครับ

eakarat

เล่าได้ละเอียดดีครัย นึกภาพตามได้เลย

ผู้เฒ่าเซราะกราว

จากความสนิทสนมที่ทำรายงานด้วยกัน สงสัยว่าสาวเจ้าจะมีใจให้ ถึงได้ชวนไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เพื่อจะได้ใกล้ชิดกัน แล้วก็คงจะปันใจจากแฟนเก่าแล้วล่ะ ขนาดชวนไปขี่รถเล่นตอนดึกๆเพื่อให้อยู่ค้างคืนแบบนี้ ถ้าไม่ทำอะไรก็เสียเชิงชายแล้วล่ะ...อิอิ

Shine Muscat

ชอบแบบนี้ที่มีเกริ่มช่วงเวลาประทับใจ แบบ worth to do อะ

feedmillman

เล่าเรื่องเพลินมากครับรอลุ้นอยุ่ครับ

patrict


Phoowadol

เป็นการเล่าเรื่อง ที่มีความพัฒนาการ ที่ค่อยไปไต่ระดับ ความสัมพันธ์ และ ความเสียวได้ เห็นภาพอย่างชัดเจน  และดูเหมือนว่า หลังจากนี้ สถานะ ของทั้งสอง จะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเก่าละ  แต่ แฟนตัวจริง เธอก็ยังคบอยู่ใช่ปะ  อารมณ์นี้ คือ มันตื่นเต้นนะ แอบๆคบซ้อนเนี่ย
    ส่วน การจะจัด ผลงานของท่าน ให้อยู่ในห้องไหน  ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด ต้องขอดู ผลงานตอนต่อจากนี้อีกที  ตอนแรกนี้ ใช้ห้องนี้ไปก่อนละกันครับ
       จาก mod.

test1234

เนื้อเรื่องน่าติดตามครับ รอดูว่าหนุ่มสาวคู่นี้จะลงเอยยังไง