ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.12 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, มีนาคม 09, 2021, 02:27:11 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f


ผมรู้สึกเมาหมัดทั้งๆที่ไม่ได้โดนใครชก สมองผมมึนงงและเบลอราวกับคนไม่มีสติ ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมยังมีสติครบถ้วน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม มันเป็นความรู้สึกของความมึนงงในโชคชะตา ฟ้าลิขิต หรืออะไรก็ไม่รู้ เพียงแค่อาทิตย์เดียวหลังจากถูกบอกเลิก ผมกลายเป็นคนมีพลังพิเศษ ผมกลายเป็นคนรวย ผมมีรถสปอร์ตขับ ผมมีแฟนใหม่เป็นเน็ตไอดอล ผมมีสาวคนสนิทเป็นลูกครึ่งสุดเซ็กซี่และน่ารัก และที่สำคัญ ผมกำลังกลายเป็นคนที่ถูกแฟนเก่าง้อ

ผมยังคงเป็นผม หน้าตายังเหมือนเดิม จิตใจยังเหมือนเดิม ความคิดยัง.. เอ่อ.. ไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไหร่ ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยคิดหรอกว่าจะมีสาวๆมาให้เก็บกินเยอะขนาดนี้ ภายในอาทิตย์เดียว ผมมีอะไรกับอิง แทน เดียร์ นี่มันพ่อหนุ่มคาสโนว่าแบบที่อีฟพูดชัดๆ

และผมก็ยังคงเป็นผม ในเวลาแบบนี้ ผมกลับเลือกที่จะยืนนิ่งอึ้ง ทั้งๆที่ผมยังคงรักและรู้สึกดีกับอิง ทั้งๆที่ถ้าเป็นเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมคงรับคำขอโทษและกลับไปคบกับเธอ พร้อมกับใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุข แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกลับว่างเปล่า ผมไม่รู้จะตอบอิงว่ายังไง ใบหน้าน่ารักของสวยหมวยที่กำลังยืนรอฟังคำตอบของผมต่อหน้า พาลทำให้ภาพแห่งความทรงจำกว่า 3 ปีของเรามันผุดขึ้นมาราวกับเพิ่งขึ้นเมื่อวาน ผมยังจำจูบแรกของเราได้ ผมยังจำเดทแรกของเราได้ ผมยังจำหนังเรื่องแรกของเราได้ ผมยังจำได้แม้กระทั่งเซ็กส์แรกของเรา

แต่ตอนนี้ ผมกลับไม่มีคำตอบให้เธอ ผมทำได้เพียงแค่ก้มหน้ามองพื้น ทั้งๆที่ในใจก็ไม่ได้รู้สึกต่อต้านหรือปฏิเสธการกลับมาของอิง แต่เพราะอะไรไม่รู้ ผมกลับไม่ตอบรับออกไปในทันที

หรืออาจจะเป็นเพราะแทน อาจจะเป็นเพราะวันนี้ผมเพิ่งง้อเธอได้ อาจจะเป็นเพราะวันนี้ ผมเพิ่งคบเธอเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ

"... ต่อไม่โอเคเหรอ.." อิงเอ่ยปากถามผมเสียงเบา ย้ำทวงคำตอบในคำถามที่เธอได้เอ่ยมา

"เรา.. เรารักอิงมาก เรายังคิดถึงเธอมาก.." ผมมองหน้าเธอ สายตาสื่อความหมายในความจริงใจอย่างที่สุด

"แต่...?" เธอเอ่ย

"แต่เพราะอะไรไม่รู้ เราคงกลัวจะเสียเธอไปอีกถ้าเธอกลับมา.." ผมบอกเธอไป นี่อาจจะเป็นความกลัวที่แท้จริงของผมก็ได้

"อิงเข้าใจ.." เธอก้มหน้านิ่ง เราสองคนต่างคนต่างเงียบ

ในตอนที่เราสองคนคบกัน มีกฏข้อหนึ่งที่เราตกลงกันไว้ว่าจะใช้ในตอนที่เรามีปัญหากัน นั่นคือ ไม่ว่ายังไง ต้องพูดความในใจออกมา ห้ามปกปิดโดยเด็ดขาด และผมกำลังคิดว่า ผมจะใช้กฏข้อนี้อีกครั้ง อย่างน้อย ก็เพื่อให้ผมและเธอได้เข้าใจกันมากกว่านี้

"อิง.." ผมเงยหน้ามองเธอที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"คะ"

"จำกฏความจริงใจของเราได้มั้ย.." ชื่อกฏของเราคือ กฏความจริงใจ และผมดีใจที่เธอพยักหน้าตอบกลับ เธอยังจำมันได้

"อื้อ จำได้สิ" อิงตอบกลับมา

"เรา.. ใช้กฏนั้นกันมั้ย ตอนนี้.."

"อื้อ.." อิงตอบ

กฏข้อนี้มีง่ายๆ คนที่เสนอให้ใช้กฏนี้ในเวลานั้น จะต้องเป็นคนเริ่มพูดก่อน และต้องพูดความในใจทั้งหมดออกมาโดยห้ามปิดบัง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้อีกฝ่ายพูด พอพูดกันจบ ค่อยตกลงทำความเข้าใจกันอีกที

"งั้นเราขอเริ่มเลยนะ.. เรายังรักอิงมาก รักและเป็นห่วงอิงมากๆ เราอยากได้อิงกลับมา แต่.. เรารู้ว่าเร็วไป แต่ในระหว่างที่เธอไม่อยู่ เราก็มีคนใหม่แล้ว เราเพิ่งคบกับแฟนใหม่วันนี้ เราเป็นผู้ชายที่โลภมาก เห็นแก่ตัว เรารู้ ถ้าให้สารภาพตามตรง เรายอมรับว่าตอนนี้เราตัดใครไม่ได้เลย เราอยากได้เธอกลับมา เรายังอยากให้แฟนใหม่คบกับเราต่อ เราไม่อยากเสียใครไปเลย เราโลภมากเลยใช่มั้ย.." ผมพูดความในใจออกมาทั้งหมด

"จบหรือยัง.." อิงถามกลับมา ปกติเราจะรอให้อีกฝ่ายพูดออกมาให้หมดก่อน ถึงจะเริ่มพูดในพาร์ทของตัวเอง

"อื้อ" ผมพยักหน้ารับ ความในใจผมก็แค่นั้นแหละ ถ้าวันนี้ผมไม่มีแทน ผมคงตัดสินใจอะไรได้ง่ายกว่านี้

"งั้นตาเรานะ ต่อ.. เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา เรามันเหี้ยเองแหละที่นอกใจเธอ แต่เรายอมรับว่าเรารักเธอมาก รักมากกว่าอาร์ทอีก ที่จริง.. เราไม่ได้รู้สึกรักอาร์ทอะไรเท่าไหร่ซะด้วยซ้ำ สิ่งที่เราจะพูด มันคงดูไม่ดีในสายตาของผู้ใหญ่ เราถูกสอนให้เป็นกุลสตรีมาทั้งชีวิต บ้านเราคนจีน เธอก็รู้ แต่.. ต่อ เรารู้สึกดีที่ได้.. เอ่อ.. ทำตัวไม่ดีบ้างอ่ะ ต่ออาจจะรังเกียจเราก็ได้นะ.." ถึงตรงนี้ อิงเริ่มน้ำตาคลอ ผมรู้จักเธอมา 3 ปี ผมรู้ว่าเธอกำลังพูดด้วยความจริงใจที่สุด

"เรายอมรับว่าเราสนุก.. เราสนุกที่ได้มีอะไรกับอาร์ท เธอจะว่าเราเป็นผู้หญิงเลวก็ได้นะ เราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่มันเหมือนเราสนุกกับมัน เราได้ลองอะไรใหม่ๆ แค่อาทิตย์กว่าๆที่คบกับอาร์ทนั่นแหละ ถามว่ามันสนุกมั้ย เรายอมรับว่าสนุกมาก แต่ถ้าถามว่ามีความสุขมั้ย ไม่เลย เรามีความสุขตอนที่ได้อยู่กับเธอมากกว่า.. เรารู้ เรานั่งรอเธอตรงนี้นานแล้ว เราไม่กล้าขึ้นไปห้องเธอ กุญแจห้องเธอเราก็ไม่มีแล้ว อาร์ทเอาไปทิ้งแล้ว เรานั่งตรงนี้ เราเห็นเธอลงมาส่งแทน เราก็พอจะเข้าใจอะไรแล้ว แต่ทำไมไม่รู้ เรากลับยอมรับได้ เรากลับรู้สึกแค่ว่า จะอะไรยังไงก็ได้ ขอแค่เธอให้เรากลับไปหาเธอ แค่นั้นก็พอ ให้เราเป็นเบอร์สองเราก็ยอม..." อิงร่ายยาวออกมาจนผมแอบตกใจเล็กน้อย

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผมรู้จักอิง หรือแม้กระทั่งในสายตาคนอื่น อิงนั้นเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ครอบครัวคนจีนสอนมาดี เป็นสาวหวานขี้อาย แม้ว่าผมจะรับรู้ได้ถึงความร้อนแรงของเธอตอนอยู่บนเตียง แต่ผมก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ลึกๆแล้วเธอมีแรงปรารถนาในเรื่องแบบนี้มากกว่าปกติ นี่อาจจะเป็นช่องโหว่ที่สตีฟใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกผมก็ได้

ผมขอยอมรับตรงนี้เลยว่า ผมไม่ใช่คนดี ผมเป็นผู้ชายเหี้ยๆ แม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพื่อนๆหรือคนรู้จักจะมองว่าผมเป็นคนดี ตั้งใจเรียน ไม่เที่ยวเตร่ ขยันทำงาน แต่นั่นก็เพราะฐานะที่บีบบังคับให้ผมเป็น ถ้าไม่ทำงาน ผมจะเอาเงินที่ไหนกินล่ะ

และอย่างที่บอก เพราะผมเป็นผู้ชายเหี้ยๆ ผมเชื่อว่า ถ้าคุณเป็นผู้ชายเหี้ยๆแบบผม คุณจะเข้าใจดี ว่าคนเหี้ยๆอย่างพวกเรา ก็แค่ต้องการผู้หญิงที่ดูดี ควงไปอวดคนอื่นได้ทั้งรูปร่างหน้าตา ความเก่ง ฐานะ และเมื่อไหร่ที่อยู่บนเตียง พวกเราต้องการให้พวกเธอเป็นแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือร่านที่สุดเท่าที่จะร่านได้ เซ็กส์ที่ร้อนแรงที่สุดเท่าที่พวกเธอจะให้ได้

ผมยอมรับว่าที่ผ่านมา เซ็กส์ของผมกับอิงนั้นไม่ได้หวือหวาอะไรมาก จริงๆเซ็กส์ของผมกับอิงก่อนหน้านั้น เทียบกับแทนตอนนี้ไม่ติดเลยล่ะ แต่กลายเป็นว่า สิ่งที่ผมได้รู้ และกำลังจะได้รู้จากอิง มันทำให้ผมรู้สึกว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ร้อนแรงกว่าที่คิด บางที.. เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจจะปลดล็อกความร้อนแรงในตัวเธอก็ได้

"เอ่อ.. อิง.. ทำไมเธอถึงยอมได้ขนาดนั้น..?" ผมถามเธอไปด้วยความไม่แน่ใจที่เธอบอกว่า ยอมได้แม้กระทั่งเป็นเบอร์สอง

"อิงบอกแล้ว เรายังรักเธออยู่ รักมาก แต่ก็ยอมรับว่าอาร์ททำให้รู้เหมือนแบบ.. ตาสว่างขึ้นในบางเรื่อง.. เรารักเธอจริงๆ แต่เราก็รู้สึกดีกับเรื่อง.. เอ่อ.. เรื่องเซ็กส์มากๆ" อิงหรี่เสียงเบาตอนพูดคำว่าเซ็กส์ ก่อนจะพูดต่อ

"เรายอมรับได้นะ ถ้าเธอเคลียร์กับแทนได้ หรือถ้าไม่ได้ เราก็ยังรักเธออยู่ดี เราไม่รู้ว่าทำไม แต่เรารักเธอจริงๆ รักจนยอมได้ทุกอย่าง ถ้าคนที่ไม่เคยรักใครสักคนมากขนาดนี้ คงจะไม่เข้าใจหรอก." อิงพูด

"เราเข้าใจ.. เพราะเราก็รักเธอเหมือนกัน.." ผมตอบเธอกลับไป

"เรา.. เลิกกับอาร์ทแล้วนะ ไม่รู้ว่าเธอเห็นข่าวมั้ย แต่.. อาร์ทโดนจับเรื่องยาแล้ว โดนกับพ่อ จริงๆเราจะโดนด้วยเพราะอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เราไม่ได้ยุ่งอะไร ตำรวจตรวจแล้วไม่มีอะไร เราเลยรอด" อิงบอกผมโดยที่เธอไม่รู้เลยว่า ผมรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนั้น และอันที่จริง ผมอยู่หน้าห้องที่เธอกำลัง.. เอ่อ.. กำลังโดนรุมเอาด้วยนั่นแหละ

"แล้ว.. เบสท์ไม่บ่นเหรอ ที่เธอเลิกกับอาร์ท เราจำได้ว่าเบสท์อยากให้เธอคบคนรวยนี่" ผมจำเบสท์เพื่อนอิงได้ รายนั้นน่ารัก ดูแต่งตัวดี ถือของแบรนด์เนม วันๆเช็คอินแต่ที่กินที่เที่ยว ดูมีชีวิตหรูหรา ผมเข้าใจว่าเบสท์ยุให้อิงไปคบกับอาร์ท พอคิดถึงตรงนี้ ผมชักจะอยากแก้แค้นเบสท์ซะแล้วสิ

"เบสท์ยังไม่รู้ แต่ถึงรู้ก็ช่างเถอะ เราแคร์เธอมากกว่าเบสท์" อิงตอบกลับมาในสิ่งที่ทำให้ผมแอบยิ้ม

"เธอมีอะไรที่ปิดบังเราอยู่อีกมั้ย.." ผมถามเธออีกครั้ง ผมไม่อยากให้เราสองคนมีความลับอะไรต่อกันแล้ว เอ่อ.. ยกเว้นเรื่องพลังพิเศษอะนะ เพราะพูดไปเธอคงไม่เชื่อและอธิบายยากอยู่ดี

"เอ่อ.. ก็มีบ้าง.." อิงทำท่าเขินๆแล้วพูดเสียงเบา

"หือ? อะไรอ่ะ.." ผมขมวดคิ้วถามเธอ

"เราไม่รู้ถ้าพูดไปแล้วเธอจะรังเกียจเรามั้ย แต่กฏของเราคือพูดความจริง เราถือว่าเราจริงใจที่จะบอกเธอแล้วกัน.." อิงบอก ผมยังเดาไม่ออกว่าเธอจะพูดว่าอะไร..

"อืมม พูดมาเลย เราจริงใจกันอยู่นะตอนนี้" ผมให้ความมั่นใจกับเธอ

"เอ่อ.. คือ.. อาร์ทพาอิงลองอะไรเยอะมาก เอ่อ.. แบบ.. อิงเคย.. โดนรุม เอ่อะ.. หมายถึงโดนรุมเอาอ่ะ" อิงบอกในสิ่งที่ผมต้องอึ้ง นี่แค่เวลาอาทิตย์เดียวที่เธอเลิกกับผม แต่อาร์ทถึงขั้นพาเธอไปโดนรุมเลยเหรอ

"ห๊ะ อะไรยังไง.." ผมถามกลับไป จริงๆถามว่ารังเกียจมั้ย พอคิดได้ว่า มันน่าจะเป็นผลจากการที่เธอโดนคนของสตีฟโน้มน้าว ผมก็แทบจะไม่โกรธเธอเลย ไม่รังเกียจด้วย หนำซ้ำ.. ผมยังรู้สึกตื่นเต้นซะด้วยสิ

"เอ่อ.. อาร์ทมันพาเราไปปาร์ตี้อ่ะ คืออาร์ทมันอัพยา แต่เราไม่ได้ยุ่งอะไร แล้วไปๆมาๆ กลายเป็นมันกับเพื่อนอีกคนมาเอ่อ.. นั่นแหละ.. ตอนแรกเราก็ขัดขืนไม่ยอมนะ.." อิงพูดเสียงเบาด้วยความอายและสำนึกผิด

"แล้วตอนหลังล่ะ..?" ผมถามกลับไปพลางรู้คำตอบ

"ก็.. รู้สึกสนุกแหละ สงสัยเมามั้ง" ตอนนี้อิงหน้าแดงก้มหน้าหงุด ผมรู้เลยว่านี่คืออาการเวลาที่เธอเขินอย่างที่สุด แต่ให้ตายสิ ทำไมผมคิดภาพตามแล้วหื่นดีชะมัด

"ร้ายนักนะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงขำๆ

"อิงขอโทษ.." เธอยังคงก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาผม

ผมตัดสินใจเอื้อมมือข้ามโต๊ะไปจับมือเธอ อิงเงยหน้ามองผมด้วยแววตาลังเล คงกลัวว่าผมจะว่าเธอหรืออะไรทำนองนั้น แล้วผมก็บอกเธอว่า

"ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก เรารักเธอนะ แต่.. เธอรับได้จริงๆเหรอเรื่องแทน" ผมถามอิงย้ำกลับไป

"อื้อ ถ้า.. เอ่อ.. เธอเคลียร์ได้นะ"

"อิง.. เรา.. ขอบคุณนะ" ผมไม่รู้จะตอบว่าอะไร เพราะสิ่งที่เธอพูด มันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง โดยเฉพาะหากมองในมุมผมที่รู้ความจริงแล้ว จากที่คบกับผมอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นเครื่องมือของใครสักคน จนชีวิตพังไม่เป็นท่า ในมุมมองที่ผมเห็นอยู่ดี อิงน่าสงสารที่สุดแล้ว

แต่พอมองในมุมของผู้ชาย ที่จริงถ้าเลิกกับอิงไป ผมก็เสียดายนะ อิงทั้งน่ารัก หมวย ขาว เซ็กซี่ คิดไปคิดมา ผมก็อยากมีเธอไว้ข้างกายเหมือนที่อยากมีแทนไว้ข้างกายเหมือนกัน และผมยังจำคำที่อีฟบอกได้ ถ้าทุกคนวินวิน ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ปัญหาคือ แทนนี่สิ..



อิงกลับไปแล้ว ผมให้เธอกลับคอนโดเธอไปก่อน แม้ว่าเธอจะคะยั้นคะยอขอค้างด้วย แต่ด้วยความที่ผมยังรู้สึกผิดต่อแทนอยู่ ผมเลยอยากเคลียร์กับแทนให้ได้ก่อน เห้ออ ทำไมนะ ถ้าชีวิตผมคือนิยาย มันควรจะเป็นนิยายที่ผมไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรสิ แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกผิด ทั้งๆที่ปัญหาถูกแก้ได้ง่ายนิดเดียว ก็แค่โน้มน้าวจิตใจแทน.. แค่นั้นเอง

จิตใจผมกำลังต่อสู้กันอย่างหนัก ฝ่ายหนึ่งบอกให้ผมใช้ความสามารถพิเศษนั้น เพื่อให้ได้มาทั้งอิงและแทน แม้จะดูเป็นคนเห็นแก่ตัวก็เหอะ ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง กลับรู้สึกผิดหากจะต้องใช้ความสามารถนี้ในการโน้มน้าวจิตใจแทน เพราะมันคงเป็นการทรยศต่อความรู้สึกของผมกับเธอ

แต่แล้วอาจจะเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวที่เป็นเบื้องลึกของจิตใจผม ทำให้ความคิดฝ่ายร้ายเป็นฝ่ายชนะ โดยผมให้เหตุผลกับตัวเองว่า ตอนนี้ขอมีความสุขก่อน และถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม ค่อยหาทางบอกความจริงแทนไป แม้มันอาจจะไม่มีวันนั้นก็ตามที

ผมยังคงนอนตาแข็งค้างอยู่บนเตียงนอน แทนคงหลับไปแล้ว อิงก็เช่นกัน ผมตัดสินใจส่งไลน์หาสาวข้างห้อง

ต่อ : อีฟ หลับยัง
อีฟ : ยัง ดูหนังอยู่ มีไร
ต่อ : เครียดอ่ะ นอนไม่หลับ

เงียบ.. อีฟแค่อ่าน แต่ไม่มีสัญญาณใดๆตอบกลับมา จนกระทั่งผมได้ยินเสียงเคาะประตู

ก๊อกๆๆ~

ผมเดินไปเปิดประตูและพบว่า เป็นอีฟที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืด มัดผมเป็นก้อนกลมๆกองบนหัว คงเป็นชุดนอนเธอ ในมือขอบขนมอีก 2-3 ห่อ

"เอ่อ.. มีอะไรอ่ะ" ผมชะเง้อหน้าไปถาม

"ก็เครียดไม่ใช่เหรอ อีฟดูหนังอยู่ ขี้เกียจแชท เลยขนมาดูที่นี่" อีฟว่าพลางเอาไหล่ดันประตูให้เปิดแล้วเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟาและหยิบรีโมทเปิดทีวีท่ามกลางความงงของผม อีฟยังคงเป็นอีฟเหมือนเคย

"จะยืนตรงนั้นอีกนานมั้ย อีฟล็อกเอ้าท์ Netflix พี่นะ ไม่อยากใช้ของพี่ เดี๋ยวจำไม่ได้ว่าดูถึงตรงไหน" อีฟหยิบรีโมทชี้ไปทางทีวีพลางง่วนกับการกดเปลี่ยนแอคเค้าท์ Netflix

ผมปิดประตูแล้วเดินมานั่งโซฟาข้างๆเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืด แม้จะดูเซ็กซี่ แต่ผมก็ไม่มีกระจิตกระใจจะปั่นประสาทเธอหรือคิดในทางลามกซักเท่าไหร่นัก

"อีฟว่า ถ้าพี่ใช้ความสามารถพิเศษกับแทนอีก.. มันจะเป็นไรมั้ย.." ผมถามอีฟ ในขณะที่ตายังคงมองที่ทีวี

"อ่าว ไหนว่าจะไม่ใช้กับแทนแล้ว" สายตาอีฟก็ยังคงมองที่ทีวีพร้อมๆกับที่มือยังคงกดรีโมทเพื่อหาหนังที่เธอจะดูต่อ

"ตอนนั้นไม่ได้ใช้ หมายถึงง้อแล้ว โดยไม่ได้ใช้ความสามารถพิเศษอะไร.. แต่..." ผมเว้นวรรคพลางทำท่าคิด

"แต่อะไร.. อ่ะพี่ แกะให้อีฟหน่อย" เธอเปิดหนังใน Netflix ต่อจากที่เธอดูได้แล้ว พลางหยิบขนมที่ยังไม่แกะและโยนมาให้ผมแกะให้เธอ

"เอ่อ.. อิง.. เขาอยากกลับมาคบกับพี่อ่ะ.." ผมพูดเสียงเบา ทำเอาอีฟหันมามองหน้าผมทันที

"แล้วพี่ว่าไง..." อีฟมองหน้าผม

"ไม่รู้อ่ะ พี่ก็อยากให้อิงกลับมา และก็อยากให้แทนยังอยู่ด้วย"

"จ้า พ่อคาสโนว่า อยากได้ทั้งสองคนว่างั้น" อีฟเบ้มากบ่นผม แล้วก็หันไปดูหนังต่อพร้อมๆกับปากที่เคี้ยวขนม

"เอ้อ.. ก็อีฟ เอ่อ ก็เคยบอกว่าไม่ใช่เรื่องผิดไม่ใช่เหรอ" ผมทวงสิ่งที่เธอเคยบอก อารมณ์ผมตอนนี้เหมือนตัดสินใจไปแล้ว และไม่ได้ต้องการคำปรึกษาจากอีฟ แต่ต้องการให้อีฟสนับสนุนผม

"ก็ใช่ ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย บอกแล้วไง อีฟคอยหนุนหลังพี่อยู่แล้ว คนไทยมีเมียเยอะจะตาย เหมือนในมงกุฏดอกส้มเลย"

"ถามจริงเถอะ เป็นคนไทยแท้ๆ ไม่มีลูกครึ่งเลยป่ะเนี่ย บ้าละครไทยชะมัด" ผมแซวอย่างขำๆ เพราะบอกตามตรงว่า บุคลิกของอีฟที่ดูอินเตอร์นั้น ไม่เหมาะกับการเป็นแฟนละครไทยโดยสิ้นเชิง

"อีฟดูหมดแหละ โดยเฉพาะละครเก่าๆในยูทูปนะ เมียหลวง, สายโลหิต, นายขนมต้ม, สงครามนางฟ้า โอ้ย เยอะแยะ สนุกดีออก" ใครจะเชื่อล่ะครับ สาวสวยน่ารักเซ็กซี่ในลุคลูกครึ่ง ดูอินเตอร์แบบนี้ จะเป็นแฟนละครไทยตัวยง

"แต่ละชื่อที่เอ่ยมานี่ สมัยพี่เล่นจู๋ตัวเองอยู่เลย" ผมแซวเธอขำๆ

"อี๊~ ทะลึ่งตั้งแต่เด็ก" อีฟส่งสายตาทำหน้าประหลาดราวกับรังเกียจผมซะงั้น

"ว่าแต่.. งั้น.. เรื่องแทน พี่เอาจริงนะ" ผมวกกลับเข้าเรื่องเดิม

"อื้อ ตามใจเลยคุณพี่ขาา จะเก็บให้ครบ 5 เมียแบบเจ้าสัวในละครก็ตามใจคร้าาา" อีฟลากเสียงยาว แล้วก็หันกลับไปสนใจซีรีย์เกาหลีที่เธอกำลังดูในทีวี อ่า.. ถ้าเทียบอิงเป็นสาวหวานซ่อนเปรี้ยว ส่วนแทนเป็นสาวมั่นที่ซ่อนความเผ็ดไว้ อีฟก็คงจะเป็นสาวน่ารัก กวนประสาท แต่เมื่อไหร่ที่ผมต้องการคำปรึกษา เธอก็จะอยู่ตรงนั้นให้ผม อืมม.. ชักอยากจะได้อีฟอีกคนซะแล้วสิ กางเกงขาสั้นที่เธอใส่นี่มันสั้นมาก หรือเพราะเสื้อยืดตัวใหญ่มันยาวมาปิดกางเกงขาสั้นก็ไม่รู้ แต่ดูผ่านๆเหมือนเธอไม่ได้ใส่กางเกงเลย กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆโชยมาพร้อมกับกลิ่นสารพัดครีม ทำเอาร่างกายผมเริ่มรู้สึกวูบวาบ แก่นกายเริ่มพองตัวช้าๆ

"หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า คิดอะไรเนี่ย อีฟรู้นะ" อีฟหันมามองผมตาเขียวอีกแล้ว เห้ออ คิดอะไรก็รู้ทันหมดจริงๆ

"อะไรว๊าา ใครมันจะห้ามความคิดได้" ผมบ่น

"เยอะแยะไป คนอื่นไม่เห็นจะหื่นเหมือนพี่" อีฟหันไปสนใจทีวีต่อ

"ว่าแต่.. ถามหน่อยสิ สตีฟเขามีความสามารถอะไร" ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะผมสงสัยว่าคนอย่างสตีฟที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้านั้น จะมีความสามารถอะไรมากกว่าพวกเราหรือเปล่า

แต่อีฟไม่ตอบอะไร เธอแค่หันมามองหน้าผมแล้วส่งสายตาบางอย่างที่ผมแปลความหมายไม่ออก พลางส่ายหน้าราวกับไม่ให้ผมพูดเรื่องนี้ที่นี่ อ่า.. ตกลงคือผมโดนสอดแนมแม้กระทั่งในห้องนอนตัวเองเนี่ยนะ มีตรงไหนเป็นพื้นที่ส่วนตัวบ้างเนี่ย

ผมปล่อยให้อีฟนั่งดูซีรีย์ไปต่อ พลางเอนหลังพิงพนักโซฟาพลางคิดอะไรไปเรื่อย ผมว่าผมตัดสินใจแล้ว ช่างหัวจริยธรรมหรือศีลธรรมอะไรนั่น ผมจะทำตามคำที่ไอ้อ้นมันพูดว่า 'กูจะเย็ดแม่งให้หมดเลย'



ผมรู้ตัวตื่นอีกทีในเช้าวันต่อมาจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น อีฟกลับไปตอนไหนไม่รู้ ผมยังคงนอนอยู่บนโซฟา แถมมีผ้าห่มมาคลุมตัวด้วย ผมคงเผลอหลับไป และคงเป็นอีฟที่เอาผ้าห่มมาห่มให้ผมก่อนที่เธอจะกลับห้องของเธอ

"ฮัลโหล" ผมรับโทรศัพท์ด้วยความงัวเงีย

"โทรมาเช้าไปมั้ยคะ" เสียงผู้หญิงดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ ผมยังคงงัวเงียอยู่ และต้องใช้เวลาจูนอยู่พักใหญ่ ถึงนึกขึ้นได้ว่า นั่นคือเสียงของเดียร์

"อ่าว เดียร์เหรอ ไม่เช้า เราตื่นพอดี" ผมตอบ นับตั้งแต่ที่ห้องน้ำ.. เอ่อ.. ในงานนั้น ผมก็ยังไม่ได้คุยกับเธออีกเลย

"เดียร์โทรมาถามว่าจะเป็นไงบ้าง เห็นไม่มาทำงาน เมื่อคืนบอสเริ่มจะบ่นใหญ่แล้ว" เธอถามผม เออนั่นสิ ผมลืมเรื่องงานซะสนิทเลย ที่จริงก็ไม่ได้ลืมหรอก แต่ผมตั้งใจว่าจะไปลาออกแล้ว เพราะไหนๆก็มีเงินใช้แล้ว เอาเวลามาโฟกัสเรื่องเรียนน่าจะดีกว่า

"เออนั่นสิ ลืมเลย เดียร์.. เราว่าจะออกแล้วนะ" ผมตัดสินใจบอกเดียร์

"อ่าว ทำไมล่ะ" น้ำเสียงเธอดูแปลกใจ

"ก็.. ช่วงนี้ยุ่งๆเรื่องโปรเจ็คมากอ่ะ" ผมไม่รู้จะแก้ตัวว่าอะไร จะบอกว่า อ๋อ ตอนนี้รวยแล้ว ไม่อยากทำงานแล้ว มันก็ดูน่าหมั่นไส้นะ

"ใช่สิ ได้เดียร์แล้วก็ทิ้งเลยนะ" เสียงเดียร์ดูตัดพ้อ เอ่อ.. ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นซักหน่อย

"หาา ไม่ใช่แบบนั้น คือ เรางานยุ่งจริงๆอ่ะ แต่เรายัง เอ่อ.. อยากเจอเดียร์อยู่นะ ไว้เรานัดไปกินข้าวกันก็ได้" จริงๆผมก็อยากเจอเดียร์อยู่นะ เดียร์นี่คือลุคเซ็กซี่โดยธรรมชาติเลย แล้วเมื่อคืนผมเพิ่งตัดสินใจจะคบทั้งแทนและอิง เลยแอบคิดว่า เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆละ เอาแม่งให้หมด

"นัดกินข้าวอย่างเดียวเหรอ..." เสียงเดียร์ถามกลับมาอย่างเซ็กซี่

"เอ่อ.. จะให้กินอะไรอย่างอื่นอีกเหรอ.." ผมชักจะสนุกกับการคุยอะไรแบบนี้ซะแล้วสิ

"ไม่รู้สิ แต่กินข้าวอย่างเดียวเดียร์ก็ไม่ว่านะคะ"

"ก็เผื่อ เอ้อ.. อยากกินอย่างอื่นหลังกินข้าวไง.." ผมพูดเสียงเบา ในใจก็อายๆประมาณหนึ่งแหละ เวลาจะพูดอะไรเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ถือว่ามาไกลมาก

"อิอิ เอาไว้ว่างวันไหนแล้วนัดมาละกัน" เดียร์ตัดบท

"โอเคจ้ะ"

หลังวางสาย ผมมานั่งคิด ตอนแรกผมก็ลืมไปเลย แต่กลายเป็นว่า ถ้าได้ทั้งแทน อิง เดียร์ โอ้ยยยยย สุดยอดไปเลย ถ้าแถมอีฟไปด้วยนะ บอกเลยว่าผู้ชายทั้งโลกต้องอิจฉาผมแน่ๆ


..............



คาบเรียนแล็บวันนี้ เรายังคงนั่งกันเป็นกลุ่ม 3 คนเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว แตกต่างตรงที่ บรรยากาศในห้องเรียนนั้นเปลี่ยนไป แทนดูอารมณ์ดี ทั้งเล่นทั้งหัวเราะกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน แถมนั่งกับผมอย่างเปิดเผย จนไอ้อ้นถึงกับเซ็ง ผมว่ามันรู้แล้วแหละ ว่าเราคบกัน

"ตกลง.. มึงคบกันแล้วใช่มั้ย" ไอ้อ้นมันกระซิบถามผมตอนจังหวะที่แทนเดินไปคุยกับเพื่อนอีกโต๊ะ

"เอ่อ.. ก็ประมาณนั้น" ผมตอบมัน

"เชี่ยยย กูละอิจฉามึงจริงๆ แทนนะเว้ย แทนเลยนะเว้ยยยยย คนเป็นแสนๆอยากได้แทนเป็นแฟน แต่ไอ้หน้าจืดที่สุดในมหาลัยกลับกลายเป็นผู้ชนะ" ไอ้อ้นบ่นใหญ่เลย

"แหะๆ..." ผมไม่รู้จะตอบมันยังไง โดยเฉพาะเมื่อคิดว่า ถ้ามันรู้ว่าเดี๋ยวมีอิงกลับมาอีก แถมแทนก็คงจะรับได้ด้วยพลังการโน้มน้าวความคิดผม กลายเป็นควงสองแบบนี้ มีหวังไอ้อ้นอกแตกตายแน่ๆ

เออ.. ว่าแล้วผมคงต้องหาวิธีปิดปากมันซะหน่อย ถ้าไอ้อ้นมีความรัก มันคงจะไม่ยุ่งเรื่องของผมมากนักละมั้ง

แล้วผมก็คิดไอเดียได้ ถ้าผมทำให้จอยเปลี่ยนตัวเอง ให้มั่นใจขึ้น เปลี่ยนลุคตัวเองให้สวยขึ้น แล้วทำให้จอยกับอ้นคบกัน ไอ้อ้นคงเลิกยุ่งกับเรื่องของผมซักพักไปเลย ถือเป็นเรื่องดีนะ ผมจะทำให้เพื่อนมีความรักเนี่ย

อย่างไรก็ตาม กว่าเราจะได้เรียนกับจอยอีกทีก็อาทิตย์หน้าโน่นเลย ช่วงนี้คงต้องฟังมันบ่นไปซักพักก่อนละนะ

"แม่งเอ้ยยย เหมือนดอกฟ้ากับหมาวัดเลยว่ะ แทนโคตรน่ารัก มึงดูนี่ดิ ยังกับนางแบบ" อ้นมันยังคงบ่นไปเรื่อยพร้อมกับเปิดอินสตาแกรมของแทนแล้วเลื่อนดูรูปไปเรื่อย เป็นใครก็ต้องพูดแบบไอ้อ้นครับ เพราะแทนถ่ายรูปออกมาสวยมาก แถมรูปกับตัวจริงนั้นก็ไม่ต่างกันเลย

"คุยอะไรกันอยู่เหรอ" แทนเดินกลับมานั่งข้างๆผมพร้อมกับฉีกยิ้มถามพวกเรา โชคดีที่ไอ้อ้นนั่งฝั่งตรงข้าม แทนเลยไม่เห็นว่ามันกำลังดูอินสตาแกรมแทนอยู่

เห้อ.. ผมมองรอยยิ้มกว้างของแทนตอนนี้ บอกตรงๆว่าเหมือนผมขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นเลยแหละ ถ้าเทียบกับอิง อีฟ เดียร์แล้ว แทนเป็นคนที่ยิ้มแล้วโลกสดใสที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ ถ้าใครเห็นเธอยิ้ม ผมมั่นใจว่าคนนั้นต้องเผลอยิ้มตามเธอแน่ๆ ผมไม่รู้ว่าคนอื่นที่ชอบเธอนั้นจะชอบเธอตรงไหน แต่ผมชอบเธอที่รอยยิ้มนี่แหละ

"เอ้อ แทน เรียนเสร็จแล้วเราไปห้างกันมั้ย" ผมหันไปชวนแทน ท่ามกลางสายตาของไอ้อ้นที่ผมดูออกว่ามันยังคงเซ็งไม่เลิก

"เอาสิ แต่แทนเอารถมานะ" เธอบอกผม เธอรู้แล้วว่าผมมีรถอีกคัน แต่จะแยกกันขับไปก็ดูไม่โอเคเท่าไหร่

"เดี๋ยวไปกับเราก็ได้ แทนจอดรถไว้นี่ ขากลับเดี๋ยวเรามาส่งแทนที่รถเอง" ผมบอก รู้สึกว่าวิธีนี้น่าจะดีกว่า

เราเรียนวิชานั้นจบหมดคาบ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปห้างกับแทนเลย แต่แทนเปลี่ยนแผนกระทันหัน เพราะเธอต้องไปทำธุระกับเพื่อนอีกคนที่ตึกคณะก่อน เราเลยเปลี่ยนแผนเป็นเดี๋ยวไปเจอกันที่ห้างเลยสะดวกกว่า ผมเลยมีเวลาเตร็ดเตร่กับไอ้อ้นในช่วงพักเที่ยงในอีกเป็นชั่วโมง

"มึง น้องคนที่ยืนอยู่หน้าร้านป้าอ้วนโคตรเอ๊กเลยว่ะ กูให้ 8 เต็ม 10" ไอ้อ้นบอกผมพลางพยักหน้าชี้ไปทางหน้าร้านป้าอ้วน

"กูให้แค่ 7 เต็ม 10 ว่ะ" ผมหันไปดูแล้วตอบไอ้อ้น

"ใช่สิ ใครจะเหมือนน้องแทนของมึงล่ะ ระดับ 9 เต็ม 10 ของกูเลยนะ" ไอ้อ้นบ่น

ก็อย่างที่เคยบอกแหละครับ นี่คือหนึ่งในกิจกรรมของไอ้อ้นระหว่างมื้ออาหาร ราวกับว่า ถ้ามันไม่ให้คะแนนสาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมาพร้อมกับกินข้าวไปด้วยนั้น มันจะกินข้าวไม่อร่อย

แล้วสายตาผมก็พลันไปเห็นโต๊ะอีกฟากหนึ่งของโรงอาหาร อีฟกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนอีก 4 คน แต่ 2 คนนั้นเป็นผู้ชาย!

"อ้น เดี๋ยวกูมา" ผมตัดสินใจลุกขึ้นบอกอ้น แล้วเดินไปทางอีฟ

อีฟยังคงออร่าโดดเด่นที่สุดในโรงอาหาร ผมสังเกตุได้ว่า หลายคนที่เดินผ่านไปมา หรือโต๊ะรอบๆทั้งหญิงและชายนั้น ต่างก็แอบมองอีฟ เธอกลายเป็นจุดสนใจเดียวในโรงอาหาร ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก

อันที่จริง ถ้าแทนอยู่ด้วย ผมก็ไม่รู้จะเทียบกันยังไงด้วยซ้ำว่าใครสวยกว่ากัน แต่ถ้าพูดตรงๆแล้ว อีฟจะดูเซ็กซี่กว่า เพราะเธอแต่งตัวในแบบที่โชว์ความมั่นใจ ส่วนแทนนั้น แม้ว่าเธอจะสูงและหุ่นดีแค่ไหน แต่เธอมักจะแต่งไปในเชิงน่ารักซะมากกว่า ไม่ค่อยโชว์สัดส่วนอะไรมาก ผมเลยไม่แปลกใจที่ไอ้อ้นให้คะแนนแทนน้อยกว่าอีฟหน่อย

เพื่อนผู้หญิงสองคนที่นั่งข้างๆอีฟนั้นไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ไอ้สองหนุ่มที่นั่งตรงข้ามนี่สิ ผมดูออกว่ามันกำลังจีบอีฟ แต่อีฟก็ดูพูดคุยหัวเราะกันปกติ เหมือนทั้งหมดรู้จักกัน

"อีฟ เรียนเสร็จแล้วเหรอ" ผมเดินเข้าไปนั่งแทรกตรงกลางสองหนุ่มนั่น ซึ่งเป็นตำแหน่งตรงข้ามกับอีฟพอดี ท่ามกลางสายตางงๆของเพื่อนเธอทั้งโต๊ะ

"เอ่อ.. เสร็จแล้ว มีอะไร" อีฟถามผมแบบงงๆ คนทั้งโต๊ะมองผมเป็นจุดเดียว

"อ๋อ เปล่า แค่ถามดู เผื่อจะได้กลับพร้อมกัน" เป็นไง งงละสิ ไอ้สองหนุ่มนั่น อยากจะตะโกนบอกว่า กูอยู่คอนโดเดียวกันกับอีฟโว้ย

"อีฟมีเรียนบ่ายต่อ กว่าจะเลิกก็ห้าโมงเย็นโน่น" อีฟบอก

"อ๋อเหรอ อยากให้พี่รอหรือมารับมั้ย" ผมยิ้มทำหน้ายียวนถามเธอกลับไป

"อีฟเอารถมา กลับเองได้ย่ะ" เสียงอีฟเริ่มแข็ง ผมรู้ว่าเธอเริ่มรู้แล้วแหละว่าผมพยายามจะทำอะไร

"เอ่อ.. พี่เป็นใครคะ" เพื่อนอีฟที่นั่งอยู่ข้างๆถามผม

"อ๋อ พี่อยู่คอนโดเดียวกับอีฟครับ อีฟเป็น 'คนรู้ใจพี่'" ผมหันไปตอบเธอพลางเน้นคำว่า 'คนรู้ใจ' ซึ่งผมก็ไม่ได้พูดผิดตรงไหน

"ไอ้บ้า เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิด อีฟไปเป็นคนรู้ใจพี่ตอนไหน" อีฟโวยวายพลางปฏิเสธเสียงแข็ง

"ฮ่าๆๆ ดูสิเขินใหญ่เลย ว่าไงจ้ะแม่คนรู้ใจ" ผมขำเวลาอีฟเขินจริงๆ อย่างอื่นเธอเก่งนะ แต่บอกตรงๆว่า เธอแสดงท่าทางตอนเขินไม่เก่งเลย มันดูประเดิดประเด้อยังไงไม่รู้สิ แต่สำหรับผม ผมว่ามันน่ารักดีนะ

"อีฟกลับเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง!" อีฟพูดเสียงแข็ง

"งั้นถ้าจะกลับกับพี่ก็บอกนะ สำหรับคนรู้ใจแล้ว พี่พร้อมเสมอ" ผมเก๊กเสียงหล่ออย่างเต็มที่

"น็อตขาาา วันนี้เรียนมา อีฟไม่เข้าใจเลย น็อตไปติวให้อีฟหน่อยได้มั้ยคะ" แล้วอีฟก็หันไปทำเสียงหวานกับผู้ชายที่นั่งข้างๆผม ไอ้นี่มันชื่อน็อตเหรอ แล้วทำไมต้องทำเสียงหวานใส่ด้วยวะ

"เอ้อ.. ครับ ได้ครับ" น็อตทำเสียงขรึมๆตอบ ผมเอะใจเล็กน้อย ทำไมเสียงไม่เป็นธรรมชาติ

อีฟเหลือบมองผมพลางอมยิ้มเล็กๆ แล้วก็หันไปหาผู้ชายที่นั่งด้านขวาผมอีกคน

"ส่วนเต้คะ เดี๋ยววันนี้เต้ช่วยอีฟเลือกกระโปรงหน่อยได้มั้ยคะ พอดีอีฟอยากได้กระโปรงนักศึกษาใหม่ อยากได้ที่เซ็กซี่อ่ะค่ะ" อีฟหันไปยิ้มหวานใส่ไอ้คนทางขวาผม ไอ้นี่ชื่อเต้ หึ ทำไมต้องให้มันไปช่วยเลือกกระโปรงด้วยวะ

"อีบ้า เลือกไปเองคนเดียวเถอะ ชั้นมีนัดกับผัวย่ะ" ไอ้คนทางขวาผมตอบเสียงแหลม เดี๋ยวนะ ผัว? อ่าว คนที่ชื่อเต้นี่ไม่ใช่ชายแท้หรอกเหรอ

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"
"ฮ่าาาา"
"อิอิ"

ผมทำหน้างงๆแล้วหันไปมองหน้าอีฟที่กำลังหัวเราะพร้อมๆกับสองสาวเพื่อนเธอที่นั่งข้างๆและไอ้น็อตที่นั่งด้านซ้ายผม

"ฮ่าๆๆๆๆ อีอีฟ มึงก็ไปแกล้งพี่เขา" น็อตที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับเต้ เข้าใจละ สองคนนี้เป็นตุ๊ดกันนี่เอง แล้วอีฟและเพื่อนก็ขำกันจนผมเขิน กลายเป็นว่า ผมดันมาหวงอีฟจากเพื่อนตุ๊ดกันนี่เอง

"เอ้อ.. พี่ไม่รู้" ผมไม่รู้จะแก้ตัวยังไง

"สมน้ำหน้า หน้าแตกไปซะ" อีฟยังคงขำพร้อมกับบอกผม

"เออ งั้นไปแล้ว อย่าพลาดนะครั้งต่อไป" ผมอายจนไม่รู้จะพูดอะไร ดันไปทำเก๊กหึงหวงอีฟกับเพื่อนที่ไม่ใช่ชายแท้ซะได้ จริงๆมันก็ไม่ได้น่าอายอะไรหรอก แต่ตอนแรกผมตั้งใจจะไปแกล้งอีฟไง แต่พอกลายเป็นว่า อีฟได้แกล้งผมกลับ มันก็เลยดูเหวอๆนิดนึง หึ อย่าพลาดนะ พ่อจะจับกดให้ร้องลั่นเลย

"ไม่มีวัน ไอ้ลามก" เสียงอีฟไล่หลังผมมาในขณะที่ผมเดินกลับไปหาไอ้อ้น


..............



ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ว่าทำไมคนที่เป็นเน็ตไอดอล หรือคนที่เล่นอินสตาแกรมบ่อยๆนั้นจะมีรูปมาลงอะไรได้ทุกวัน แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว เพราะไม่ว่าเราจะเดินไปที่ไหน เมื่อไหร่ที่เจอมุมสวยๆ แทนมักจะขอให้ผมถ่ายรูปให้เธอทันที ด้วยไอโฟนธรรมดานี่แหละ

"เอามุมนี้ๆ เอาสวยๆนะ" แทนวิ่งไปที่มุมที่มีต้นไม้ในข้างๆร้านกาแฟ จริงๆถ้าเป็นผมเดินผ่าน ต้นไม้นั้นก็คงไม่อยู่ในสายตาผมซะด้วยซ้ำ แต่แทนกลับมองเห็นว่ามันเป็นมุมที่สวยและถ่ายรูปขึ้น ซึ่งนอกจากจะดึงดูดสายตาผมแล้ว มันยังดึงดูดสายตาคนที่เดินผ่านไปมาด้วย เอ.. ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่า เป็นเพราะมุมต้นไม้นี้สวยอยู่แล้ว แทนเลยมาถ่ายแล้วสวย หรือเป็นเพราะแทนสวยกันแน่ ทำให้มุมต้นไม้ที่ดูดจืดๆนั้นดูสวยไปเลย

เรายังคงเดินวนไปเวียนมาซื้อของนู่นนี่นั่น มีแวะถ่ายรูปบ้าง มีแวะกินอะไรเล็กๆน้อยๆบ้าง แต่ตลอดเวลาที่เดินด้วยกัน ผมสัมผัสได้ว่ามีแต่คนมองแทนตลอด คงเพราะนอกจากที่เธอสูง ขายาว หุ่นดี และสวยแล้ว ยังเป็นเพราะรอยยิ้มสดใสของเธอที่ฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าวันนี้จะเป็นวันที่เธอมีความสุขจริงๆ

"พี่คะๆ ใช่พี่แทนมั้ยคะ" แล้วมีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังในขณะที่เราสองคนเดินจับมือกัน

"คะ? ใช่ค่ะ" เราหยุดเดิน แล้วแทนหันกลับไปตอบเจ้าของเสียงที่ยืนกับเพื่อนอีกคน ทั้งคู่อยู่ในชุดนักเรียนม.ต้น

"หนูว่าแล้ว หนูตามไอจีพี่อยู่ หนูชอบพี่มากกกกกกก" เด็กหญิงคนนั้นหันไปกรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนข้างๆ

"อ๊าา ขอบคุณมากๆเลยนะคะ" แทนฉีกยิ้มกว้างตอบพวกเธอ

"มึงๆกูบอกแล้ว พี่แทนจริงๆด้วย" เพื่อนอีกคนของเด็กหญิงนั้นบอก

"พี่คะๆ หนูขอถ่ายรูปกับพี่ได้มั้ยคะ" เด็กหญิงคนเดิมถามแทน

"ได้สิ มาๆๆๆ เธอ ถ่ายรูปให้หน่อย" ประโยคหลังแทนหันมาบอกผม และคงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผมต้องรับหน้าที่เป็นช่างถ่ายภาพให้เธอกับแฟนคลับ

หลังถ่ายอยู่ 5-6 ช็อต เด็กนักเรียนทั้งคู่ขอบคุณแทนแล้วก็วิ่งไปด้วยความดีใจ แม้ว่าแทนจะยังไม่ใช่ดาราดังอะไร แต่สำหรับเด็กนักเรียนม.ต้นแล้ว การได้เจอไอดอลตัวเป็นๆที่มีคนตามเป็นแสน ก็คงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นแบบนี้แหละ

"ยิ้มอะไร" แทนขมวดคิ้วถามผม

"แฟนคลับเยอะนะเราอ่ะ" ผมแซวเธอยิ้มๆ

"แน่นอน" เธอยิ้มขำๆอย่างภูมิใจ

"ให้คนอื่นเป็นแฟนคลับไป แต่ขอผมเป็นแฟนครับนะครับ" เชี่ยยยย ผมไม่รู้ว่าคิดมุกนี้ได้ไง มันออกมาสดๆ หรือผมจะเกิดมาเพื่อเป็นคาสโนว่าจริงวะ? แน่นอน แทนได้ยินถึงกับอายม้วนไปเลย

"ไอ้บ้า" แทนว่าพลางเดินจ้ำหนีผมไปอย่างเขินอาย

.........

ตอนแรกนั้นผมตั้งใจว่าจะให้แทนมารถคันเดียวกับผม แล้วขากลับค่อยไปส่งเธอไปเอารถที่มหาลัย แต่ก็อย่างที่รู้ พอแผนเปลี่ยน กลายเป็นผมกับแทนต้องมาคนละคัน หลังจากซื้อของอะไรเสร็จ ผมเลยเดินมาส่งแทนที่รถของเธอ

"แทน" ผมเรียกเธอตอนใกล้จะถึงรถ

"คะ?"

"ขอบคุณนะ วันนี้มีความสุขมากๆเลย" ผมบอกเธอไป เอาจริงๆถ้าไม่นับเรื่องเซ็กส์ นับเรื่องความรักล้วนๆ วันนี้เป็นวันแรกนับตั้งแต่ที่โดนอิงทิ้ง ที่ผมมีความสุขที่สุด

"แทนก็มีความสุขเหมือนกัน" เธอตอบผม

"ขอบคุณนะ ที่เป็นความสุขให้เรา" ผมบอกเธอในขณะที่เราเดินมาถึงรถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ

แทนหันมามองผม และไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร เธอก็โผเข้ามากอดผม เล่นเอาซะผมเขินจนทำอะไรไม่ถูกเลย ดีนะที่ลานจอดรถไม่มีคน

"แทนก็ขอบคุณเหมือนกันนะ" เธอบอก

ที่จริงๆ.. ผมตั้งใจว่าวันนี้จะใช้พลังพิเศษผมโน้มน้าวจิตใจแทน ให้ยอมรับอิงให้ได้ ผมรู้ว่ามันดูเห็นแก่ตัว แต่ผมก็ตัดสินใจแล้ว ผมรักอิงมากๆ แต่ผมก็รักแทนเหมือนกัน ผมตัดใครไปไม่ได้ ด่าว่าผมโลภมาก เห็นแก่ตัวหรือเลวแค่ไหนก็ด่าไปเถอะ แต่ผมรักทั้งคู่จริงๆนะ

"แทน.." ผมเรียกเธอ พร้อมกับเริ่มต้นคิดในใจว่า 'แทนยอมรับได้ที่ผมจะคบหลายคน' ซ้ำไปซ้ำมา ผมยังคงไม่เข้าใจการทำงานของสมองส่วนที่ใช้โน้มน้าวจิตใจคนอื่นอย่างละเอียดนัก แต่ผมจำได้ว่า ตอนที่ใช้ความสามารถนี้กับเสี่ยอั๋น กับเดียร์ที่ร้าน กับแทนตอนแรก ผมก็ทำแบบนี้แหละ และหวังว่าครั้งนี้มันจะสำเร็จ

"คะ..?" แทนตอบ

ตอนนี้เธอยืนเผชิญหน้ากับผม ระยะห่างแค่ไม่ถึงก้าว เมื่อวานผมเพิ่งจะง้อเธอสำเร็จเรื่องที่เธอเข้าใจผิดว่าผมกับอีฟนั้นมีอะไรลึกซึ้งกัน ถึงผมจะแอบคิดจริงๆก็เถอะ แต่วันนี้ ที่ผมเริ่มต้นเป็นแฟนกับเธออย่างเป็นทางการ วันที่ผมมีความสุขที่สุดนับตั้งแต่ที่โดนอิงทิ้งมา วันที่แทนยิ้มสวยที่สุด วันที่แทนมีความสุขที่สุด ทั้งหมดนั้น อาจจะถูกผมทำลายทิ้งไปง่ายๆ ถ้าหากพลังความสามารถของผมไม่สามารถโน้มน้าวจิตใจเธอได้ อีฟเคยบอกผมว่า เราจะสามารถโน้มน้าวจิตใจเฉพาะคนที่มีแนวโน้มจะคิดแบบนั้นจริงๆเท่านั้น ความสามารถนี้ไม่ใช่พลังจิต แต่มันคือวิทยาศาสตร์ และนี่ก็เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของผม การเดิมพันที่มีความสุขของแทน ความสุขของผม เป็นรางวัล

ผมเริ่มต้นเดิมพันความสุขครั้งนี้ ด้วยการเอ่ยคำว่า

"แทน.. อิงกลับมาง้อเรา เราอยากมีทั้งแทนและอิงอยู่ด้วยทั้งคู่.. ได้มั้ย.."



###########################

สวัสดีครับคุณผู้อ่าน ตอนที่ 12 กลับมาแล้ว ถ้าใครอ่านถึงตอนนี้ ขอถามความเห็นผู้อ่านหน่อยครับ ถ้าเป็นคุณเอง สมมติว่าไม่มีพลังวิเศษอะไรนะ คุณจะเลือกอะไร

ระหว่างกลับไปคบกับอิงแฟนเก่าที่รักมาก ผูกพันธ์กันมาก
หรือเดินหน้าคบกับแทน ที่แม้ว่าจะสวย หุ่นดี มีแววในวงการ แต่ก็ยังไม่ได้เรียนรู้นิสัยกันจริงจังๆ

ลองแสดงความเห็นกันสนุกๆนะครับ

ปล.ผมแอบงงเล็กน้อย 'ตอนปวดตับ' อันนี้คืออะไรครับ เห็นหลายคนคอมเม้นท์ว่ารอตอนปวดตับบ้าง, เดี๋ยวปวดตับบ้าง

เหมือนเดิม คอมเม้นท์เพื่ออ่าน 'ความลับของอิง' ท้ายบทนะครับ แนะนำว่าใครอยากรักษาภาพในใจว่าอิงคือสาวเรียบร้อยอ่อนหวาน ไม่ควรอ่านครับ แหะๆ




 
 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

olemantu

คนรู้ใจคนอื่นแบบอีฟ บอกไว้แล้วไงว่า คนเราจะเป็นอย่างไรนั้นดูจากการกระทำจากใจแล้วคงพอตัดสินใจได้ว่า เป็นจริงตามที่เห็นหรือไม่

AssSin01

มันจะแค่ไหนกันเชียว ความลับหน่ะ  ::HoHo::

jeditay

ขอกันดื้อๆเลยหรอต่อ แทนคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้งเพราะก่อนหน้านี้ก้อคุยกันแล้วเรื่องอิง

Daxamoo

แค่2ไม่พอหรอก ต้อง3 4 5 6 7 กำลังดี
วนไปยาวๆ

nmiint

มาแบบตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อมเลย มั่นใจในพลังตัวเองมากจริงๆ

ดรีม ดรีม

จะมีเปิดคู่เลยหรือป่าวครับ รออยู่ครับ

wolfsburg7

แผนแบบบอกตรงๆ น่าจะพัง จนต้องใช้พลังช่วย

mint38-24-38

อยากรู้ความลับของอิงเลย สงสัยน่าจะเป็นแบบว่าชอบอยากทำพร้อมสาวคนอื่นป่าวเนี่ย
คนเขียนนิยายเสียว ชอบแนวดาร์ค ntr mindbreak เขียนนิยายเสียวร่วมได้ ใครสนใจหลังไมค์  ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ https://twitter.com/Mint383

yoyoman

คงต้องใช้พลังช่วยแหละมั้ง ไม่งั้นเสียแทนแย่เลย

[email protected]

อีฟนี้ละคือตัวแปรสำคัญเลยเรื่องของสาวๆนี้

Worakorn Pongrat

วันนี้ ได้ เคลีย ลงตัวไหม ควบ 2 เลย แต่ว่า แทนจะยอมรึ

artmanna

ขอตอบเลยว่า คบกับแทนแน่นอนครับ

Abarai Renji

ถ้าสำเร็จคงมี สองคนบนเตียง

asdw

แทนจะตอบว่างัยน้อ โนตบสักผัวะ