ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

บทเรียนที่ไม่คาดฝัน บทที่ 73 (incest)

เริ่มโดย anatomy051, มิถุนายน 26, 2025, 07:41:25 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

anatomy051

คลื่นใต้น้ำ

....ร่างของรินดากลับมายังห้องนอนของเธอด้วยหัวใจที่เต้นระรัวและร่างกายที่ร้อนรุ่มจากเปลวไฟแห่งความอิจฉาที่ลุกโชนอยู่ในอก ภาพของนัท มายด์ และกิ๊กที่กำลังดื่มด่ำกับบทรักอันเร่าร้อนยังคงติดตา ไม่ยอมเลือนหายไปจากห้วงความคิด เธอทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรง ปล่อยให้ความรู้สึกหลากหลายเข้าถาโถม

ในตอนแรก รินดารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรง เธอเป็นพี่สาวคนโต เป็นคนที่มีเหตุผลเสมอมา แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้ทุกอย่างที่เธอเคยเชื่อมั่นสั่นคลอนไปหมด เธออิจฉามายด์ที่ได้รับสัมผัสจากนัทอย่างเต็มที่ อิจฉากิ๊กที่กล้าแสดงออกถึงความต้องการของตัวเองอย่างไม่ปิดบัง และอิจฉาที่ทั้งสองคนดูมีความสุขกับการแบ่งปันความลับและประสบการณ์ร่วมกัน

แต่ท่ามกลางความรู้สึกเหล่านั้น ความปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าจากการเฝ้ามองก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กลีบเนื้อของเธอเองก็ยังคงเต้นระริกและชุ่มฉ่ำอย่างต่อเนื่อง เสียงครางและแรงกระแทกจากห้องข้างๆ ยังคงดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ราวกับบทเพลงเชิญชวนให้เธอเข้าร่วม

รินดาพยายามจะปฏิเสธความรู้สึกนี้ เธอควรจะรู้สึกรังเกียจ เธอควรจะโกรธ แต่ทำไม... ทำไมร่างกายของเธอถึงตอบสนองแบบนี้? ทำไมหัวใจของเธอถึงเต้นแรงด้วยความคาดหวัง? เธอเม้มปากแน่น พลางยกมือขึ้นกุมหน้าอกที่กำลังเต้นระรัว ความร้อนรุ่มภายในไม่ได้มาจากไข้หวัด แต่เป็นไฟราคะที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในกายของเธอเอง

เธอหลับตาลง พยายามขับไล่ภาพเหล่านั้นออกไป แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ภาพของนัทที่โหมกระหน่ำอยู่บนร่างของมายด์ และกิ๊กที่ดูดดึงปานนมของพี่สาวก็ยิ่งชัดเจนขึ้นในความคิด รินดาเริ่มนึกย้อนไปถึงความสัมพันธ์ของเธอกับนัทที่ผ่านมา... สัมผัสที่เขาเคยมีให้เธอ... คำพูดที่เขาเคยกระซิบ... ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาได้ใกล้ชิดกัน

...ในความมืดมิดของห้องนอน รินดาค่อยๆ ยื่นมือที่สั่นเทาออกไปสัมผัสกับร่างกายของตัวเอง ปลายนิ้วของเธอไล้ไปตามผิวเนื้อที่กำลังร้อนผ่าว เธอเริ่มลูบไล้ไปตามต้นขา เคลื่อนขึ้นไปที่กลีบเนื้อที่บวมเป่งและชุ่มฉ่ำ ความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นปราดไปทั่วร่าง ทำให้เธอสะท้านเฮือก เธอครางออกมาเบาๆ อย่างไม่รู้ตัว
"อื้อ... นัท..." เธอพึมพำชื่อเขาซ้ำๆ ราวกับจะเชื้อเชิญให้เขามาร่วมแบ่งปันความสุขสมนี้กับเธอ

รินดาพลิกตัวนอนหงาย เธอปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกายอย่างเชื่องช้า ดวงตาจับจ้องไปยังเพดานห้อง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยมีเริ่มเลือนหายไป ถูกแทนที่ด้วยความปรารถนาอันรุนแรงที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป แต่ในห้วงเวลานี้... ความต้องการในกายมันรุนแรงเกินกว่าจะต้านทานไหว

....เธอเริ่มขยับสะโพกเบาๆ ราวกับจะเลียนแบบท่าทางที่มายด์เคยทำกับนัท ความคิดที่ว่าเธอเองก็อยากถูกเติมเต็มเช่นนั้นแล่นเข้ามาในหัวอย่างแรง รินดาสูดหายใจเข้าลึกๆ ความร้อนรุ่มภายในกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอเปิดรับความรู้สึกนั้นอย่างเต็มที่ ยอมจำนนต่อแรงปรารถนาที่ถาโถมเข้าใส่ เธอต้องการรู้ว่าความสุขสมที่นัทมอบให้มายด์และกิ๊กนั้นมันรุนแรงและเร่าร้อนเพียงใด และเธอเองก็ต้องการสัมผัสความรู้สึกนั้นด้วยตัวเธอเอง

...เช้าวันต่อมา... บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความเงียบงันที่แปลกประหลาด มันไม่ใช่ความเงียบที่สงบ แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความอึดอัดและความลับที่มองไม่เห็น รินดานั่งอยู่ตรงข้ามกับนัท ดวงตาของเธอพยายามสอดส่องไปทั่วโต๊ะ สังเกตปฏิกิริยาของทุกคน มายด์และกิ๊กนั่งอยู่ข้างๆ กัน พวกเธอพูดคุยกันเล็กน้อยด้วยท่าทีปกติ ราวกับค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ลุงไก่และป้านวลนั่งหัวโต๊ะและท้ายโต๊ะอย่างเคย พวกเขายังคงพูดคุยกันถึงเรื่องทั่วๆ ไปในแต่ละวันอย่างร่าเริง แต่สำหรับรินดาแล้ว ทุกคำพูดและทุกรอยยิ้มของพวกเขามันช่างดูจอมปลอมและน่าอึดอัดเหลือเกิน


"เช้านี้อากาศดีจังเลยนะ" ป้านวลเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบที่ปกคลุมอยู่ "เมื่อวานช่วงบ่าย... มีคนมาหาถึงบ้านด้วย"

รินดาเงยหน้าขึ้นมองนัททันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น เธอจำได้ดีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนบ่าย นั่นคือช่วงเวลาที่เธอได้เห็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่สุดในชีวิต

ป้านวลพูดต่อด้วยรอยยิ้ม "ภรรยาคุณศักดิ์ แล้วก็ลูกสาวเขาน้องสายป่านด้วย"

รินดาเม้มปากแน่น เธอรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้ง หัวใจของเธอเต้นระรัวในอกด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันไปหมด จากนั้นบทสนทนาก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องที่คุณสายฝนและลูกสาวของเธอจะมาทานข้าวเย็นด้วย

รินดายังคงเก็บสีหน้าเรียบเฉยเอาไว้ แต่ในใจของเธอตอนนี้กำลังตีกันยุ่งไปหมด เธอพยายามสังเกตนัทกับกิ๊กและมายด์ตลอดเวลา แต่พวกเขากลับทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่การเหลือบมองกันอย่างผิดสังเกต หรือการพูดคุยกันด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างปกติเหมือนที่เคยเป็นมา

ยิ่งเห็นภาพตรงหน้าเท่าไหร่ รินดาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นตัวประหลาดเพียงคนเดียวที่รู้ความลับอันดำมืดนี้ เธอต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร และไม่แน่ใจว่าถ้าเธอพูดออกไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

หลังจากทานอาหารเช้าที่แสนยาวนานจบลง มายด์ก็เอ่ยปากขึ้น "กิ๊กจะกลับเลยไหม เดี๋ยวฉันไปส่ง" กิ๊กพยักหน้าอย่างว่าง่าย "ได้เลย"

รินดาเองก็รีบหาข้ออ้างที่จะปลีกตัวออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ "หนูจะออกไปเที่ยวร้านหนังสือค่ะ"

ลุงไก่เองก็ลุกขึ้นยืน "ดีๆ ระวังตัวด้วยนะ แล้วเจอกันตอนเย็น" ก่อนที่เขาจะเดินออกไปทำงาน

นัทเองก็เช่นกัน "ผมก็ขอไปหาเพื่อนสักแปป..นะครับป้า"

ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง เหลือเพียงป้านวลที่นั่งอยู่เพียงลำพัง

หลังจากแยกย้ายกับทุกคนบนโต๊ะอาหาร นัทก็ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกมาจากบ้าน โดยบอกกับป้านวลว่าจะไปหาเพื่อน แต่ปลายทางของเขากลับเป็นบ้านของม่อน เพื่อนสนิทที่สนิทกันมากจนเขาเข้าออกบ้านหลังนี้ได้แทบจะเหมือนบ้านของตัวเอง


...ขณะที่กำลังจะเดินขึ้นไปที่ห้องของม่อนชั้นสอง เสียงน้ำไหลจากห้องน้ำที่อยู่ชั้นบนก็ดังแว่วมาเข้าหู นัทชะงักฝีเท้าทันที เขานึกขึ้นได้ว่าม่อนบอกเขาว่าวันนี้จะไม่อยู่บ้าน แต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนอยู่ในห้องน้ำที่ชั้นสอง ความสงสัยบวกกับความอยากรู้อยากเห็นทำให้นัทค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปอย่างเงียบเชียบ ทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวังราวกับนักล่าผู้เงียบงันที่กำลังย่องเข้าหาเหยื่อ เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสอง เขาก็เดินตรงไปที่หน้าห้องน้ำอย่างแผ่วเบา ประตูห้องน้ำที่ปิดไม่สนิทเหลือช่องว่างเพียงเล็กน้อย ทำให้เขามองเห็นบางส่วนของคนที่อยู่ด้านในได้

...ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของนัททำให้ลมหายใจของเขาสะดุดไปชั่วขณะ! นั่นคือแม่แหม่ม แม่ของม่อนนั่นเอง! เธออยู่ในสภาพเปลือยกายกำลังอาบน้ำอยู่ ร่างกายของเธอสะท้อนกับแสงไฟที่ส่องสว่างในห้องน้ำ ผิวขาวผ่องราวกับน้ำนมที่ถูกเจียระไนอย่างพิถีพิถัน เรือนร่างของเธอที่ดูอวบอิ่มสมส่วนกว่าที่เขาเคยเห็นในตอนที่เธอแต่งตัวมิดชิด ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง

นัทใช้สายตาสำรวจทุกสัดส่วนของเธออย่างไม่วางตา ดวงตาของเขาไล่ไปตั้งแต่แผ่นหลังที่เนียนเรียบลงมาจนถึงสะโพกที่ผายกว้างได้รูป น้ำที่ไหลรินลงมาจากฝักบัวอาบน้ำ ทำให้ผิวของเธอเป็นประกายระยิบระยับราวกับเพชรในความมืด หน้าอกคู่สวยที่อวบอิ่มและกระเพื่อมเล็กน้อยตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเธอ มันดูเต่งตึงและมีน้ำมีนวลเกินกว่าผู้หญิงในวัยเดียวกัน หน้าท้องที่แบนราบแต่มีส่วนโค้งเว้าอย่างมีเสน่ห์ สะโพกที่ผายกว้างได้รูป และเรียวขาที่ยาวและมีน้ำมีนวลชวนมอง... ทุกส่วนของเธอช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกินในสายตาของเขา

เมื่อสายตาของเขาเลื่อนต่ำลงไปอีก ก็ต้องหยุดชะงักที่บริเวณหว่างขาของเธอ นัทเห็น ไรขนสีดำเข้มที่ขึ้นดกดำอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับป่าทึบที่เชื้อเชิญให้เข้าไปสำรวจ 

ภาพของไรขนที่ตัดกับผิวขาวผ่องของแม่แหม่มทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง มันดูเป็นธรรมชาติและเซ็กซี่อย่างที่สุดในสายตาของเขา

นัทนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่กิ๊กและพี่มายด์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มันเป็นความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนและบ้าคลั่ง แต่สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้ามันแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง นี่ไม่ใช่ความเร่าร้อนแบบวัยรุ่น แต่เป็นความปรารถนาที่ลุ่มลึกและเย้ายวนจากผู้หญิงที่โตเต็มวัย

ผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชน และดูเหมือนจะพร้อมมอบบทเรียนใหม่ๆ ให้เขาได้อย่างเหนือชั้นกว่าที่เขาเคยเจอ นัทอยากได้บทเรียนใหม่ๆ เพิ่มจากคนมีประสบการณ์
 

แม่แหม่มหลุบตาลงเล็กน้อยเพื่อหลบสายตาของเขา เธอใช้มือข้างหนึ่งจัดผ้าเช็ดตัวที่พันรอบกายให้แน่นขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่านัทยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ขยับไปไหน และลำเอ็นของเขาก็ยังคงผงาดอยู่เหมือนเดิม

"แม่ว่า...นัทกลับบ้านไปก่อนเถอะนะลูก" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย "ม่อนคงยังไม่กลับมาหรอก"


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


sakornsaeng

อ้างจาก: anatomy051 เมื่อ มิถุนายน 26, 2025, 07:41:25 หลังเที่ยงคลื่นใต้น้ำ

....ร่างของรินดากลับมายังห้องนอนของเธอด้วยหัวใจที่เต้นระรัวและร่างกายที่ร้อนรุ่มจากเปลวไฟแห่งความอิจฉาที่ลุกโชนอยู่ในอก ภาพของนัท มายด์ และกิ๊กที่กำลังดื่มด่ำกับบทรักอันเร่าร้อนยังคงติดตา ไม่ยอมเลือนหายไปจากห้วงความคิด เธอทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรง ปล่อยให้ความรู้สึกหลากหลายเข้าถาโถม

ในตอนแรก รินดารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรง เธอเป็นพี่สาวคนโต เป็นคนที่มีเหตุผลเสมอมา แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้ทุกอย่างที่เธอเคยเชื่อมั่นสั่นคลอนไปหมด เธออิจฉามายด์ที่ได้รับสัมผัสจากนัทอย่างเต็มที่ อิจฉากิ๊กที่กล้าแสดงออกถึงความต้องการของตัวเองอย่างไม่ปิดบัง และอิจฉาที่ทั้งสองคนดูมีความสุขกับการแบ่งปันความลับและประสบการณ์ร่วมกัน

แต่ท่ามกลางความรู้สึกเหล่านั้น ความปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าจากการเฝ้ามองก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กลีบเนื้อของเธอเองก็ยังคงเต้นระริกและชุ่มฉ่ำอย่างต่อเนื่อง เสียงครางและแรงกระแทกจากห้องข้างๆ ยังคงดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ราวกับบทเพลงเชิญชวนให้เธอเข้าร่วม

รินดาพยายามจะปฏิเสธความรู้สึกนี้ เธอควรจะรู้สึกรังเกียจ เธอควรจะโกรธ แต่ทำไม... ทำไมร่างกายของเธอถึงตอบสนองแบบนี้? ทำไมหัวใจของเธอถึงเต้นแรงด้วยความคาดหวัง? เธอเม้มปากแน่น พลางยกมือขึ้นกุมหน้าอกที่กำลังเต้นระรัว ความร้อนรุ่มภายในไม่ได้มาจากไข้หวัด แต่เป็นไฟราคะที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในกายของเธอเอง

เธอหลับตาลง พยายามขับไล่ภาพเหล่านั้นออกไป แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ภาพของนัทที่โหมกระหน่ำอยู่บนร่างของมายด์ และกิ๊กที่ดูดดึงปานนมของพี่สาวก็ยิ่งชัดเจนขึ้นในความคิด รินดาเริ่มนึกย้อนไปถึงความสัมพันธ์ของเธอกับนัทที่ผ่านมา... สัมผัสที่เขาเคยมีให้เธอ... คำพูดที่เขาเคยกระซิบ... ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาได้ใกล้ชิดกัน

...ในความมืดมิดของห้องนอน รินดาค่อยๆ ยื่นมือที่สั่นเทาออกไปสัมผัสกับร่างกายของตัวเอง ปลายนิ้วของเธอไล้ไปตามผิวเนื้อที่กำลังร้อนผ่าว เธอเริ่มลูบไล้ไปตามต้นขา เคลื่อนขึ้นไปที่กลีบเนื้อที่บวมเป่งและชุ่มฉ่ำ ความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นปราดไปทั่วร่าง ทำให้เธอสะท้านเฮือก เธอครางออกมาเบาๆ อย่างไม่รู้ตัว
"อื้อ... นัท..." เธอพึมพำชื่อเขาซ้ำๆ ราวกับจะเชื้อเชิญให้เขามาร่วมแบ่งปันความสุขสมนี้กับเธอ

รินดาพลิกตัวนอนหงาย เธอปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกายอย่างเชื่องช้า ดวงตาจับจ้องไปยังเพดานห้อง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยมีเริ่มเลือนหายไป ถูกแทนที่ด้วยความปรารถนาอันรุนแรงที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป แต่ในห้วงเวลานี้... ความต้องการในกายมันรุนแรงเกินกว่าจะต้านทานไหว

....เธอเริ่มขยับสะโพกเบาๆ ราวกับจะเลียนแบบท่าทางที่มายด์เคยทำกับนัท ความคิดที่ว่าเธอเองก็อยากถูกเติมเต็มเช่นนั้นแล่นเข้ามาในหัวอย่างแรง รินดาสูดหายใจเข้าลึกๆ ความร้อนรุ่มภายในกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอเปิดรับความรู้สึกนั้นอย่างเต็มที่ ยอมจำนนต่อแรงปรารถนาที่ถาโถมเข้าใส่ เธอต้องการรู้ว่าความสุขสมที่นัทมอบให้มายด์และกิ๊กนั้นมันรุนแรงและเร่าร้อนเพียงใด และเธอเองก็ต้องการสัมผัสความรู้สึกนั้นด้วยตัวเธอเอง

...เช้าวันต่อมา... บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความเงียบงันที่แปลกประหลาด มันไม่ใช่ความเงียบที่สงบ แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความอึดอัดและความลับที่มองไม่เห็น รินดานั่งอยู่ตรงข้ามกับนัท ดวงตาของเธอพยายามสอดส่องไปทั่วโต๊ะ สังเกตปฏิกิริยาของทุกคน มายด์และกิ๊กนั่งอยู่ข้างๆ กัน พวกเธอพูดคุยกันเล็กน้อยด้วยท่าทีปกติ ราวกับค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ลุงไก่และป้านวลนั่งหัวโต๊ะและท้ายโต๊ะอย่างเคย พวกเขายังคงพูดคุยกันถึงเรื่องทั่วๆ ไปในแต่ละวันอย่างร่าเริง แต่สำหรับรินดาแล้ว ทุกคำพูดและทุกรอยยิ้มของพวกเขามันช่างดูจอมปลอมและน่าอึดอัดเหลือเกิน


"เช้านี้อากาศดีจังเลยนะ" ป้านวลเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบที่ปกคลุมอยู่ "เมื่อวานช่วงบ่าย... มีคนมาหาถึงบ้านด้วย"

รินดาเงยหน้าขึ้นมองนัททันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น เธอจำได้ดีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนบ่าย นั่นคือช่วงเวลาที่เธอได้เห็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่สุดในชีวิต

ป้านวลพูดต่อด้วยรอยยิ้ม "ภรรยาคุณศักดิ์ แล้วก็ลูกสาวเขาน้องสายป่านด้วย"

รินดาเม้มปากแน่น เธอรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้ง หัวใจของเธอเต้นระรัวในอกด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันไปหมด จากนั้นบทสนทนาก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องที่คุณสายฝนและลูกสาวของเธอจะมาทานข้าวเย็นด้วย

รินดายังคงเก็บสีหน้าเรียบเฉยเอาไว้ แต่ในใจของเธอตอนนี้กำลังตีกันยุ่งไปหมด เธอพยายามสังเกตนัทกับกิ๊กและมายด์ตลอดเวลา แต่พวกเขากลับทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่การเหลือบมองกันอย่างผิดสังเกต หรือการพูดคุยกันด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างปกติเหมือนที่เคยเป็นมา

ยิ่งเห็นภาพตรงหน้าเท่าไหร่ รินดาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นตัวประหลาดเพียงคนเดียวที่รู้ความลับอันดำมืดนี้ เธอต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร และไม่แน่ใจว่าถ้าเธอพูดออกไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

หลังจากทานอาหารเช้าที่แสนยาวนานจบลง มายด์ก็เอ่ยปากขึ้น "กิ๊กจะกลับเลยไหม เดี๋ยวฉันไปส่ง" กิ๊กพยักหน้าอย่างว่าง่าย "ได้เลย"

รินดาเองก็รีบหาข้ออ้างที่จะปลีกตัวออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ "หนูจะออกไปเที่ยวร้านหนังสือค่ะ"

ลุงไก่เองก็ลุกขึ้นยืน "ดีๆ ระวังตัวด้วยนะ แล้วเจอกันตอนเย็น" ก่อนที่เขาจะเดินออกไปทำงาน

นัทเองก็เช่นกัน "ผมก็ขอไปหาเพื่อนสักแปป..นะครับป้า"

ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง เหลือเพียงป้านวลที่นั่งอยู่เพียงลำพัง

หลังจากแยกย้ายกับทุกคนบนโต๊ะอาหาร นัทก็ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกมาจากบ้าน โดยบอกกับป้านวลว่าจะไปหาเพื่อน แต่ปลายทางของเขากลับเป็นบ้านของม่อน เพื่อนสนิทที่สนิทกันมากจนเขาเข้าออกบ้านหลังนี้ได้แทบจะเหมือนบ้านของตัวเอง


...ขณะที่กำลังจะเดินขึ้นไปที่ห้องของม่อนชั้นสอง เสียงน้ำไหลจากห้องน้ำที่อยู่ชั้นบนก็ดังแว่วมาเข้าหู นัทชะงักฝีเท้าทันที เขานึกขึ้นได้ว่าม่อนบอกเขาว่าวันนี้จะไม่อยู่บ้าน แต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนอยู่ในห้องน้ำที่ชั้นสอง ความสงสัยบวกกับความอยากรู้อยากเห็นทำให้นัทค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปอย่างเงียบเชียบ ทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวังราวกับนักล่าผู้เงียบงันที่กำลังย่องเข้าหาเหยื่อ เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสอง เขาก็เดินตรงไปที่หน้าห้องน้ำอย่างแผ่วเบา ประตูห้องน้ำที่ปิดไม่สนิทเหลือช่องว่างเพียงเล็กน้อย ทำให้เขามองเห็นบางส่วนของคนที่อยู่ด้านในได้

...ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของนัททำให้ลมหายใจของเขาสะดุดไปชั่วขณะ! นั่นคือแม่แหม่ม แม่ของม่อนนั่นเอง! เธออยู่ในสภาพเปลือยกายกำลังอาบน้ำอยู่ ร่างกายของเธอสะท้อนกับแสงไฟที่ส่องสว่างในห้องน้ำ ผิวขาวผ่องราวกับน้ำนมที่ถูกเจียระไนอย่างพิถีพิถัน เรือนร่างของเธอที่ดูอวบอิ่มสมส่วนกว่าที่เขาเคยเห็นในตอนที่เธอแต่งตัวมิดชิด ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง

นัทใช้สายตาสำรวจทุกสัดส่วนของเธออย่างไม่วางตา ดวงตาของเขาไล่ไปตั้งแต่แผ่นหลังที่เนียนเรียบลงมาจนถึงสะโพกที่ผายกว้างได้รูป น้ำที่ไหลรินลงมาจากฝักบัวอาบน้ำ ทำให้ผิวของเธอเป็นประกายระยิบระยับราวกับเพชรในความมืด หน้าอกคู่สวยที่อวบอิ่มและกระเพื่อมเล็กน้อยตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเธอ มันดูเต่งตึงและมีน้ำมีนวลเกินกว่าผู้หญิงในวัยเดียวกัน หน้าท้องที่แบนราบแต่มีส่วนโค้งเว้าอย่างมีเสน่ห์ สะโพกที่ผายกว้างได้รูป และเรียวขาที่ยาวและมีน้ำมีนวลชวนมอง... ทุกส่วนของเธอช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกินในสายตาของเขา

เมื่อสายตาของเขาเลื่อนต่ำลงไปอีก ก็ต้องหยุดชะงักที่บริเวณหว่างขาของเธอ นัทเห็น ไรขนสีดำเข้มที่ขึ้นดกดำอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับป่าทึบที่เชื้อเชิญให้เข้าไปสำรวจ 

ภาพของไรขนที่ตัดกับผิวขาวผ่องของแม่แหม่มทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง มันดูเป็นธรรมชาติและเซ็กซี่อย่างที่สุดในสายตาของเขา

นัทนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่กิ๊กและพี่มายด์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มันเป็นความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนและบ้าคลั่ง แต่สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้ามันแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง นี่ไม่ใช่ความเร่าร้อนแบบวัยรุ่น แต่เป็นความปรารถนาที่ลุ่มลึกและเย้ายวนจากผู้หญิงที่โตเต็มวัย

ผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชน และดูเหมือนจะพร้อมมอบบทเรียนใหม่ๆ ให้เขาได้อย่างเหนือชั้นกว่าที่เขาเคยเจอ นัทอยากได้บทเรียนใหม่ๆ เพิ่มจากคนมีประสบการณ์


แม่แหม่มหลุบตาลงเล็กน้อยเพื่อหลบสายตาของเขา เธอใช้มือข้างหนึ่งจัดผ้าเช็ดตัวที่พันรอบกายให้แน่นขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่านัทยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ขยับไปไหน และลำเอ็นของเขาก็ยังคงผงาดอยู่เหมือนเดิม

"แม่ว่า...นัทกลับบ้านไปก่อนเถอะนะลูก" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย "ม่อนคงยังไม่กลับมาหรอก"


::HeyHey::

vigoblack


wjoe44


dick1050

นายนัท แม่เพื่อนม่อนและพี่เมย์ นายก็จะไม่ละเว้นเชียวรึ
Make love Not War

Bbba

อ้างจาก: anatomy051 เมื่อ มิถุนายน 26, 2025, 07:41:25 หลังเที่ยงคลื่นใต้น้ำ

....ร่างของรินดากลับมายังห้องนอนของเธอด้วยหัวใจที่เต้นระรัวและร่างกายที่ร้อนรุ่มจากเปลวไฟแห่งความอิจฉาที่ลุกโชนอยู่ในอก ภาพของนัท มายด์ และกิ๊กที่กำลังดื่มด่ำกับบทรักอันเร่าร้อนยังคงติดตา ไม่ยอมเลือนหายไปจากห้วงความคิด เธอทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างอ่อนแรง ปล่อยให้ความรู้สึกหลากหลายเข้าถาโถม

ในตอนแรก รินดารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่รุนแรง เธอเป็นพี่สาวคนโต เป็นคนที่มีเหตุผลเสมอมา แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้ทุกอย่างที่เธอเคยเชื่อมั่นสั่นคลอนไปหมด เธออิจฉามายด์ที่ได้รับสัมผัสจากนัทอย่างเต็มที่ อิจฉากิ๊กที่กล้าแสดงออกถึงความต้องการของตัวเองอย่างไม่ปิดบัง และอิจฉาที่ทั้งสองคนดูมีความสุขกับการแบ่งปันความลับและประสบการณ์ร่วมกัน

แต่ท่ามกลางความรู้สึกเหล่านั้น ความปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าจากการเฝ้ามองก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กลีบเนื้อของเธอเองก็ยังคงเต้นระริกและชุ่มฉ่ำอย่างต่อเนื่อง เสียงครางและแรงกระแทกจากห้องข้างๆ ยังคงดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ราวกับบทเพลงเชิญชวนให้เธอเข้าร่วม

รินดาพยายามจะปฏิเสธความรู้สึกนี้ เธอควรจะรู้สึกรังเกียจ เธอควรจะโกรธ แต่ทำไม... ทำไมร่างกายของเธอถึงตอบสนองแบบนี้? ทำไมหัวใจของเธอถึงเต้นแรงด้วยความคาดหวัง? เธอเม้มปากแน่น พลางยกมือขึ้นกุมหน้าอกที่กำลังเต้นระรัว ความร้อนรุ่มภายในไม่ได้มาจากไข้หวัด แต่เป็นไฟราคะที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในกายของเธอเอง

เธอหลับตาลง พยายามขับไล่ภาพเหล่านั้นออกไป แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ภาพของนัทที่โหมกระหน่ำอยู่บนร่างของมายด์ และกิ๊กที่ดูดดึงปานนมของพี่สาวก็ยิ่งชัดเจนขึ้นในความคิด รินดาเริ่มนึกย้อนไปถึงความสัมพันธ์ของเธอกับนัทที่ผ่านมา... สัมผัสที่เขาเคยมีให้เธอ... คำพูดที่เขาเคยกระซิบ... ความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาได้ใกล้ชิดกัน

...ในความมืดมิดของห้องนอน รินดาค่อยๆ ยื่นมือที่สั่นเทาออกไปสัมผัสกับร่างกายของตัวเอง ปลายนิ้วของเธอไล้ไปตามผิวเนื้อที่กำลังร้อนผ่าว เธอเริ่มลูบไล้ไปตามต้นขา เคลื่อนขึ้นไปที่กลีบเนื้อที่บวมเป่งและชุ่มฉ่ำ ความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นปราดไปทั่วร่าง ทำให้เธอสะท้านเฮือก เธอครางออกมาเบาๆ อย่างไม่รู้ตัว
"อื้อ... นัท..." เธอพึมพำชื่อเขาซ้ำๆ ราวกับจะเชื้อเชิญให้เขามาร่วมแบ่งปันความสุขสมนี้กับเธอ

รินดาพลิกตัวนอนหงาย เธอปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกายอย่างเชื่องช้า ดวงตาจับจ้องไปยังเพดานห้อง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยมีเริ่มเลือนหายไป ถูกแทนที่ด้วยความปรารถนาอันรุนแรงที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป แต่ในห้วงเวลานี้... ความต้องการในกายมันรุนแรงเกินกว่าจะต้านทานไหว

....เธอเริ่มขยับสะโพกเบาๆ ราวกับจะเลียนแบบท่าทางที่มายด์เคยทำกับนัท ความคิดที่ว่าเธอเองก็อยากถูกเติมเต็มเช่นนั้นแล่นเข้ามาในหัวอย่างแรง รินดาสูดหายใจเข้าลึกๆ ความร้อนรุ่มภายในกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอเปิดรับความรู้สึกนั้นอย่างเต็มที่ ยอมจำนนต่อแรงปรารถนาที่ถาโถมเข้าใส่ เธอต้องการรู้ว่าความสุขสมที่นัทมอบให้มายด์และกิ๊กนั้นมันรุนแรงและเร่าร้อนเพียงใด และเธอเองก็ต้องการสัมผัสความรู้สึกนั้นด้วยตัวเธอเอง

...เช้าวันต่อมา... บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความเงียบงันที่แปลกประหลาด มันไม่ใช่ความเงียบที่สงบ แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความอึดอัดและความลับที่มองไม่เห็น รินดานั่งอยู่ตรงข้ามกับนัท ดวงตาของเธอพยายามสอดส่องไปทั่วโต๊ะ สังเกตปฏิกิริยาของทุกคน มายด์และกิ๊กนั่งอยู่ข้างๆ กัน พวกเธอพูดคุยกันเล็กน้อยด้วยท่าทีปกติ ราวกับค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ลุงไก่และป้านวลนั่งหัวโต๊ะและท้ายโต๊ะอย่างเคย พวกเขายังคงพูดคุยกันถึงเรื่องทั่วๆ ไปในแต่ละวันอย่างร่าเริง แต่สำหรับรินดาแล้ว ทุกคำพูดและทุกรอยยิ้มของพวกเขามันช่างดูจอมปลอมและน่าอึดอัดเหลือเกิน


"เช้านี้อากาศดีจังเลยนะ" ป้านวลเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบที่ปกคลุมอยู่ "เมื่อวานช่วงบ่าย... มีคนมาหาถึงบ้านด้วย"

รินดาเงยหน้าขึ้นมองนัททันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น เธอจำได้ดีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนบ่าย นั่นคือช่วงเวลาที่เธอได้เห็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่สุดในชีวิต

ป้านวลพูดต่อด้วยรอยยิ้ม "ภรรยาคุณศักดิ์ แล้วก็ลูกสาวเขาน้องสายป่านด้วย"

รินดาเม้มปากแน่น เธอรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานอีกครั้ง หัวใจของเธอเต้นระรัวในอกด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันไปหมด จากนั้นบทสนทนาก็เปลี่ยนมาเป็นเรื่องที่คุณสายฝนและลูกสาวของเธอจะมาทานข้าวเย็นด้วย

รินดายังคงเก็บสีหน้าเรียบเฉยเอาไว้ แต่ในใจของเธอตอนนี้กำลังตีกันยุ่งไปหมด เธอพยายามสังเกตนัทกับกิ๊กและมายด์ตลอดเวลา แต่พวกเขากลับทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่การเหลือบมองกันอย่างผิดสังเกต หรือการพูดคุยกันด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างปกติเหมือนที่เคยเป็นมา

ยิ่งเห็นภาพตรงหน้าเท่าไหร่ รินดาก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเป็นตัวประหลาดเพียงคนเดียวที่รู้ความลับอันดำมืดนี้ เธอต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไร และไม่แน่ใจว่าถ้าเธอพูดออกไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

หลังจากทานอาหารเช้าที่แสนยาวนานจบลง มายด์ก็เอ่ยปากขึ้น "กิ๊กจะกลับเลยไหม เดี๋ยวฉันไปส่ง" กิ๊กพยักหน้าอย่างว่าง่าย "ได้เลย"

รินดาเองก็รีบหาข้ออ้างที่จะปลีกตัวออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ "หนูจะออกไปเที่ยวร้านหนังสือค่ะ"

ลุงไก่เองก็ลุกขึ้นยืน "ดีๆ ระวังตัวด้วยนะ แล้วเจอกันตอนเย็น" ก่อนที่เขาจะเดินออกไปทำงาน

นัทเองก็เช่นกัน "ผมก็ขอไปหาเพื่อนสักแปป..นะครับป้า"

ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง เหลือเพียงป้านวลที่นั่งอยู่เพียงลำพัง

หลังจากแยกย้ายกับทุกคนบนโต๊ะอาหาร นัทก็ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกมาจากบ้าน โดยบอกกับป้านวลว่าจะไปหาเพื่อน แต่ปลายทางของเขากลับเป็นบ้านของม่อน เพื่อนสนิทที่สนิทกันมากจนเขาเข้าออกบ้านหลังนี้ได้แทบจะเหมือนบ้านของตัวเอง


...ขณะที่กำลังจะเดินขึ้นไปที่ห้องของม่อนชั้นสอง เสียงน้ำไหลจากห้องน้ำที่อยู่ชั้นบนก็ดังแว่วมาเข้าหู นัทชะงักฝีเท้าทันที เขานึกขึ้นได้ว่าม่อนบอกเขาว่าวันนี้จะไม่อยู่บ้าน แต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนอยู่ในห้องน้ำที่ชั้นสอง ความสงสัยบวกกับความอยากรู้อยากเห็นทำให้นัทค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปอย่างเงียบเชียบ ทุกย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวังราวกับนักล่าผู้เงียบงันที่กำลังย่องเข้าหาเหยื่อ เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสอง เขาก็เดินตรงไปที่หน้าห้องน้ำอย่างแผ่วเบา ประตูห้องน้ำที่ปิดไม่สนิทเหลือช่องว่างเพียงเล็กน้อย ทำให้เขามองเห็นบางส่วนของคนที่อยู่ด้านในได้

...ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของนัททำให้ลมหายใจของเขาสะดุดไปชั่วขณะ! นั่นคือแม่แหม่ม แม่ของม่อนนั่นเอง! เธออยู่ในสภาพเปลือยกายกำลังอาบน้ำอยู่ ร่างกายของเธอสะท้อนกับแสงไฟที่ส่องสว่างในห้องน้ำ ผิวขาวผ่องราวกับน้ำนมที่ถูกเจียระไนอย่างพิถีพิถัน เรือนร่างของเธอที่ดูอวบอิ่มสมส่วนกว่าที่เขาเคยเห็นในตอนที่เธอแต่งตัวมิดชิด ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง

นัทใช้สายตาสำรวจทุกสัดส่วนของเธออย่างไม่วางตา ดวงตาของเขาไล่ไปตั้งแต่แผ่นหลังที่เนียนเรียบลงมาจนถึงสะโพกที่ผายกว้างได้รูป น้ำที่ไหลรินลงมาจากฝักบัวอาบน้ำ ทำให้ผิวของเธอเป็นประกายระยิบระยับราวกับเพชรในความมืด หน้าอกคู่สวยที่อวบอิ่มและกระเพื่อมเล็กน้อยตามจังหวะการเคลื่อนไหวของเธอ มันดูเต่งตึงและมีน้ำมีนวลเกินกว่าผู้หญิงในวัยเดียวกัน หน้าท้องที่แบนราบแต่มีส่วนโค้งเว้าอย่างมีเสน่ห์ สะโพกที่ผายกว้างได้รูป และเรียวขาที่ยาวและมีน้ำมีนวลชวนมอง... ทุกส่วนของเธอช่างสมบูรณ์แบบเหลือเกินในสายตาของเขา

เมื่อสายตาของเขาเลื่อนต่ำลงไปอีก ก็ต้องหยุดชะงักที่บริเวณหว่างขาของเธอ นัทเห็น ไรขนสีดำเข้มที่ขึ้นดกดำอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับป่าทึบที่เชื้อเชิญให้เข้าไปสำรวจ 

ภาพของไรขนที่ตัดกับผิวขาวผ่องของแม่แหม่มทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง มันดูเป็นธรรมชาติและเซ็กซี่อย่างที่สุดในสายตาของเขา

นัทนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่กิ๊กและพี่มายด์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มันเป็นความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนและบ้าคลั่ง แต่สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้ามันแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง นี่ไม่ใช่ความเร่าร้อนแบบวัยรุ่น แต่เป็นความปรารถนาที่ลุ่มลึกและเย้ายวนจากผู้หญิงที่โตเต็มวัย

ผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชน และดูเหมือนจะพร้อมมอบบทเรียนใหม่ๆ ให้เขาได้อย่างเหนือชั้นกว่าที่เขาเคยเจอ นัทอยากได้บทเรียนใหม่ๆ เพิ่มจากคนมีประสบการณ์


แม่แหม่มหลุบตาลงเล็กน้อยเพื่อหลบสายตาของเขา เธอใช้มือข้างหนึ่งจัดผ้าเช็ดตัวที่พันรอบกายให้แน่นขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นว่านัทยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ขยับไปไหน และลำเอ็นของเขาก็ยังคงผงาดอยู่เหมือนเดิม

"แม่ว่า...นัทกลับบ้านไปก่อนเถอะนะลูก" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย "ม่อนคงยังไม่กลับมาหรอก"


ดีมากครับ



pankea

นัทตั้งใจจะเย็ดแม่แหม่มอีกคนแล้วแน่ๆแต่ระหว่างรินดาเข้าร่วมเย็ดกับมายด์กับได้เย็ดแม่แหม่มอันไหนจะสำเร็จก่อนอยากรู้จัง

fivestar555



bangsan


Kompaphat

รินน่าเห็นใจจัง ถ้ารู้หมด รินจะทำยังไง