ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ตำนานเทพวายุ [ season2 ] ตอนที่ 28 : กำแพงที่พังทลาย

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มีนาคม 02, 2020, 02:07:34 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดีขอโทษทีที่เลทไปร่วม 20 นาที ตามสัญญาครับ ตอนที่แล้วผมโพสต์ไว้ว่า  ถ้าคอมเมนต์ถึง 9 หน้าผมจะลงตอนใหม่ งั้นก็จงเสพตอนใหม่กันเถอะครับตอนนี้


ตอนนี้มีอักษรทั้งหมด 81,816 ตัวอักษร จัดไปให้จุก ขอให้อิ่มเอมกันครับ


แน่นอนว่าตอนนี้ มีการซ่อนข้อความเหมือนเดิม ต้องแสดงความคิดเห็นกันก่อนนะครับ


1. คิดเห็นอย่างไรกับเนื้อเรื่องช่วงแรก

2. หลังจากที่อ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดแล้วมีความคิดเห็นโดยรวมอย่างไรคับ อยากให้กลับมา Edit  และ คอมเมนต์เพิ่มเติมครับ

ปล. เนื่องเรื่องมีการคาบเกี่ยวกับระหว่าง Reply 1 และ 2 เนื้อเรื่องที่ซ่อนไว้จะอยู่ Reply ที่ 2 ครับ


ปล 2. ตอนนี้มีภาพ20+  โปรดระมัดระวังเวลาอ่านในที่สาธารณะครับ


........

ความเดิมตอนที่แล้ว


ริวกะได้พาอั้มไป เที่ยวที่เอเชียทรี๊ค  และได้ดินเนอร์บนเรือครู๊ซสุดหรู
ซึ่งนั่นเป็นการวางแผนของนายอเวจี ที่อยากให้เพื่อนรักมีช่วงเวลาดีๆนั่นเอง


หลังจากที่ลงเรือแล้ว ริวกะและอั้มก็ได้มาพบกับส้ม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วม Sec ของอั้ม ส้มนั้นได้เปิดร้ายขายอาหาร ประเภท ตรีทฟู๊ด อยู่ที่เอเชียทรี๊ค ซึ่งหุ้นส่วนของส้มนั้น ก็คือกระแต สาวสวยหัวหน้าวิศวกรของ พิทักษ์เทวานั่นเอง


และในขณะเวลากระชั้นชิดเข้ามา ลูกค้าก็ยังไม่เข้าร้าน อั้มจึงปิ๊งไอเดีย ให้นายริวร้องเพลงเรียกแขก และมันก็ดีเกินคาด เพราะนายริวสามารถถ่ายทอดบทเพลง Butterfly ออกมา
จนทำให้ผู้คนบริเวณนั้นตกอยู่ในชั่วโมงต้องมนต์จริงๆ


และแน่นอนว่าร้านของส้มนั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลย หลังจากนั้นสองพี่น้องก็ได้ขอตัวกลับทันที แต่ว่าระหว่างนั้นอั้มก็ได้พูดขึ้นมาว่าอยากไปเที่ยว สวิซฯ
แต่มันก็คงเป็นแค่ความฝันเพราะเธอแทบจะไม่มีเวลาไปเลย



แต่ว่า..... หลังจากที่เธอตื่นนอนขึ้นมา
กลับกลายเป็นว่าเธออยู่ที่ปางอุ๋ง สวิซเซอร์แลนด์เมืองไทยซะงั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยยย !!!!


..............



ตอนที่ 27 กำแพงที่พังทลาย





[ อั้ม ]  :  หะ หา !!! ปางอุ๋ง บ้า บ้าาา นายริว นี่เราจะอยู่ปางอุ๋งได้ยังไง เมื่อคืนเรายังอยู่ที่บ้านอยู่เลยนะ


ตอนนี้อั้มสับสนไปหมดแล้ว สีหน้าของเธอมันบ่งบอกถึงความรู้สึกต่างๆ ตื่นเต้น แปลกใจ สับสน ตกใจ ดีใจ ซึ่งตอนนี้ความรู้สึกสึกต่างๆกำลังพุ่งใส่ริวกะผ่านคำพูดที่สุดแสนจะสั่นเครือของพี่อั้ม



[ ริวกะ ]  :  จริงๆครับ เราอยู่ปางอุ๋ง กันจริงๆ โอ๊ยยยย


ิอยู่ดีๆอั้มก็จับมือนายริวขึ้นมาและ งั่ม !!! เธอกัดเข้าจังๆ แม้จะไม่แรงมาก แต่มันก็เจ็บอยู่ดี พี่มังกรกูนี่เอ๋อเลย อยู่ดีๆคุณว่าที่เมียทำอะไรเนี่ย


[ ริวกะ ]  :  พี่อั้มทำอะไรครับเนี่ย อูยยย


[ อั้ม ]  :  แค่อยากรู้ว่าไม่ได้ฝันไป ก็เลยต้องทดลองนี่นา


[ ริวกะ ]  :  ห๊าาาา !!! ??? ทำไมไม่หยิกตัวเองล่ะครับพี่ มากัดผมทำไมเนี่ย  โอย


[ อั้ม ]  :  ทะ ทะ ทำไมต้องเป็นปางอุ๋งล่ะ ( เสียงสั่น )


[ ริวกะ ]  :  ก็พี่บอกว่าอยากไปสวิซเซอร์แลนด์นี่ครับ แต่ว่าตอนนี้พวกเราต้องเรียนหนังสืออีกนานก็กว่าจะปิดเทอม ตอนนี้สวิซเซอร์แลนด์ผมคงยังไม่มีเวลาพาพี่ไป แต่ว่าถ้าเป็นสวิซเซอร์แลนด์เมืองไทยล่ะก็ ผมพาพี่มาได้ตลอดเวลานะ เหวอออออ


อยู่ดีๆอั้มก็กระโดดเข้ากอดริวกะซะดื้อๆเลย แม้จะยังประติดประต่อเรื่องราวไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่ปางอุ๋งแห่งนี้ได้ แต่เธอก็ดีใจและประทับใจมากๆ ภาพที่เธอเห็นตรงหน้ายามแรกตื่นนี่มันเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ ริวกะนั้นแข็งเลยตัวนี่แข็งเลย เพราะพี่อั้มกอดเขาแน่นมากๆ ประสบการณ์ที่ผ่านมากับการที่เขากอดทั้งพี่มิไร คิราระ และรุ้งพลอย มันแทบไม่ช่วยอะไรเลย


ตอนนี้ความรู้สึกของริวกะนั้นเหมือนชายหนุ่มวัยละอ่อนที่ถูกกอดจากพี่สาวสุดสวยเสียมากกว่า เขาทำตัวไม่ถูกไปหมดแล้วตอนนี้ และพี่อั้มก็เหมือนจะรู้ตัวว่า กอดขายริวแน่นไปแล้ว เธอจึงรีบคลายอ้อมกอดออกทันที และเริ่มการไต่สวนน้องชายสุดหล่อทันที


[ อั้ม ]  :  แล้วพี่มาที่ปางอุ๋งนี้ได้ยังไง กว่าจะมาถึงทีนี่เป็นไปไม่ได้ที่พี่จะไม่รู้สึกตัว


[ ริวกะ ]  :  เอ่อ....



•• ย้อนกลับไปเมื่อคืน ••


หลังจากที่อั้มได้แยกตัวไปนอนแล้ว ตัวริวกะนั้นนอนไม่หลับจริงๆ ผั๊วะ !!!  ผั๊วะ !!! ผั๊วะ !!! ผั๊วะ !!! ผั๊วะ !!! ริวกะถึงกับต้องซ้อมชกหมัดตรงเพื่อขับไล่ความขุ่นมัวในใจเลยทีเดียว คำว่า อยากไปสวิซฯจังเลย ยังคงดังก้องอยู่ในหัวเขา


ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่พี่อั้มพูด เรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางและท่องเที่ยวสำหรับเขาแล้วไม่เป็นปัญหาเลย เพราะแค่เงินของตัวเองที่ได้จากการปันผลบริษัทและการเล่นหุ้น มันก็มากพอที่จะอยู่สวิซฯเป็นปีๆ แต่ปัญหาคือเรื่องเวลานี่สิ่ จะเอาเวลาไหนไปเที่ยว เพราะถ้าให้หยุดเรียนพี่อั้มก็คงไม่ยอม แต่สายตากับน้ำเสียงของพี่อั้มที่บอกว่าอยากไปนั้น มันออกมาจากความรู้สึกของเธอจริงๆ


แล้วแบบนี้จะให้เขาเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้ไงกัน ผั๊วะ ผั๊วะ ผั๊วะ ผั๊วะ ริวกะยังคงฝึกหมัดเซเค็นอย่างต่อเนื่อง เขาต่อยหมัดตรงใส่มากิวาระโดยไม่หยุดมาเกือบจะ 15 นาทีแล้ว เรียกได้ว่าท่าเดียวเสียวยันใส้ติ่งจริงๆ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ริวกะบิดเอว ปล่อยหมัดไปเรื่อยๆ จนเหงื่อเริ่มออก ฟุ่บ ผัวะ ฟุ่บ ผัวะ ฟุ่บ ผัวะ


เซเค็น สึกิ ยังคงถูกต่อยออกไปอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง ตามแบบฉบับดั้งเดิม ฟู่ววว 20 นาทีที่ริวกะชกมากิวาระ ตอนนี้อุณหภูมิตัวของเขาและห้องซ้อมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาจากล้อนกล้ามที่เป็นมัดๆของเขา บอกเลยว่าหญิงสาวคนใดได้เห็นตอนนี้ คงได้เคลิ้มกันบ้างล่ะ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ  หลังจากที่ฝึกการปล่อยหมัดตรงแล้ว ริวกะจึงฝึกความแข็งแกร่งของนิ้วมือด้วยการฝึกแบบดั้งเดิมของคาราเต้ สายโกจูริว นั่นก็คือ ไหใส่หิน


ริวกะให้นิ้วทั้ง 5 จิกไปที่ปากไห ซึ่งข้างในใส่หินกรวดไว้ ซึ่งแต่ละไหมีน้ำหนักถึง 50 กิโลกรัม ซื่บบบบ ซื่บบบบ ซื่บบบบ ริวกะก้าวเดินด้วยสมาธิที่มุ่งมั่น เขากำหนดลมหานใจตามที่ปู่ได้สั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก หลักของคาราเต้คือ รวบรวมพลังและโจมตีในหมัดเดียว หรือ อิคเค็นฮิทซัสสึ เพราะฉะนั้นในการฝึกทุกๆอย่าง ต้องมุ่งเน้นที่การกำหนดลมหายใจเสมอ


[ ริวกะ ]  :  ฟู่วววว ฮ่าววววววว ซื๊ดดดดด ฟู่วววววว


ริวกะหนดลมหายเพื่อดึงพลังคิ ( ในจีนเรียกว่า ชี่ ) จากรอบตัวให้มารวมที่ตัวของเขา แน่นอนว่าริวกะนั้นทำมันได้อย่างถูกต้องตามตำราเป๊ะๆ ซึ่งผลมันก็จากสั่งสอนที่เข้มงวดของ ชิน นั่นเอง ชินจะเข้มงวดมากๆเรื่องการกำหนดลมหายใจที่ถูกต้องเพื่อที่จะดึงพลังคิได้ดั่งใจนึก เชื่อหรือไม่ว่าตั้งแต่ริวกะอายุ 5 ขวบจนถึง 8 ขวบ เป็นเวลาสามปี  ชินไม่เคยให้ริวกะฝึกท่าอื่นๆเลยนอกจาก หมัดตรงและการกำหนดลมหายใจ



นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมริวกะจึงสามารถกำหนดลมหายใจได้อย่างถูกต้อง ตอนนี้เรียกได้เลยว่าจากที่แค่เหงื่อผุด กลับกลายเป็นเหงื่อแตกพลั่กๆๆๆๆ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ก้าวย่างอย่างสุขุม จรดท่าด้วยความนิ่งสงบ ออกหมัดอย่างรวด และหยุดมันที่จะโดนเป้าหมาย ริวกะร่ายรำ 26 ท่ากาต้าของคาราเต้สายโชโตกันได้อย่างงดงามและทรงพลังมากๆ


[ ริวกะ ]  :  ซึ้ย ย่าาาา


ริวกะบิดเอวและชกหมัดสุดท้ายอย่างรุนแรงเพื่อจบท่ารำกาต้า ทั้ง 26 ท่า เหงื่อจากการรำและการกำหนดลมหายใจเปียกชุ่มตังเขาไปหมด


[ ริวกะ ]  :  ฟู่ววววว


ริวกะกำหนดจิต สมาธิ และสูดลมอีกครั้งเพื่อทำให้คิ ที่ไหลเวียนอยู่รอบตัวเขาสงบลง


[ ริวกะ ]  :  ฮ่อวววววว


เขาห่อปากและสูดลมหายใจผ่านเข้าทางปากและเคลื่อนตัวช้าๆ เพื่อเป็นการคูลล์ดาวน์หรือวอร์มดาวน์นั่นเอง เขากำหนดลมหายใจและถ่ายเทไปยังส่วนอื่นๆ ไหล่ เอว สะโพก ขา แขน ลำตัว ศรีษะ ข้อต่อทุกส่วน กล้ามเนื้อทุกมัด ริวกะสามารถรับรู้ได้ถึงทุกๆส่งนวน บอกได้คำเดียวว่าสมาธิของเขานั้นสุดยอดจริงๆ


[ ริวกะ ]  :  ฟู่ววววววว


พรึ่บ !!! หลังจากคูลล์ดาวน์เสร็จ ริวกะก็โค้งหัวเพื่อเคารพทันที แม้ตอนนี้จะไม่มีคู่ซ้อมอยู่ตรงหน้า แต่ริวกะก็ยังคงทำแบบนี้เสมอ มันคือขนบธรรมเนียนปฏิบัติที่นักคาราเต้ รวมถึงนักศิลปะการต่อสู้ทุกคนพึงกระทำ


[ ริวกะ ]  :  เฮ้อ ทำไงดีนะ


ริวกะยังงง คิดไม่ตกเรื่องสวิซเซอร์แลนด์ ตอนนี้เขายืนมึนเกาหัวแกรกๆเลยทีเดียว ริวกะยืนอยู่แบบนั้นอยู่เกือบ 5 นาที ที่จริงนั้นริวกะจงใจยืนเพื่อให้อุณหภูมิในตัวค่อยๆลดลง เพราะถ้าไปอาบน้ำทันทีคงมีสิทธิ์ไข้ขึ้นแน่ๆ 20 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก ริวกะอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็แต่งตัวและเดินออกมาข้างนอกอีกครั้ง ซึ่งในระหว่างนั้นเอง ริวกะที่กำลังเดินผ่านห้องพี่อั้มก็หยุดที่หน้าห้องของเธอ


เขาหยุดมองสักครู่ และคิดในใจว่าจะทำยังไงดีนะที่จะทำให้พี่อั้มได้ไปสวิซเซอร์แลนด์ ในเมื่อคิดไม่ออกก็คงต้องพึ่งคนที่มีประสบการณ์


[ ริวกะ ]  :  เวตาล อยู่มั้ย


วิ๊ววววว ทันทีที่ริวกะเอ่ยขึ้นเท่า เวตาลก็มาทันที เขาปรากฏตัวในร่างของ เวโรจน์ พิทักษ์เทวา ต่อหน้าริงกะด้วนท่าทางที่อ่อนน้อมเช่นเคย


[ เวตาล ]  :  ท่านริวกะมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ


[ ริวกะ ]  :  อื้ม มีนิดหน่อย ว่าแต่รบกวนเวลานายรึเปล่า


[ เวตาล ]  :  ไม่แม้แต่น้อยครับ


[ ริวกะ ]  :   อื้ม ชั้นมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย


จากนั้นริวกะก็เริ่มคุยกับเวตาล ซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้เขาแทนยามิ  โดยส่วนมากริวกะจะพยายามสอบถามถึงเรื่องเวลาการเดินทางนู่นนี่นั่น จนเวตาลจับใจความได้ เขาจึงเสนอบางอย่างขึ้นมา


[ เวตาล ]  :  ทำไม ท่านริวกะไม่พาท่านอั้ม ไปเที่ยวที่ปางอุ๋งล่ะครับ


[ ริวกะ ]  :  หืม ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอนเหรอ


[ เวตาล ]  :  ใช่ครับ ปางอุ๋งนั้นมีอีกชื่อว่า สวิซเซอร์แลนด์เมืองไทย ครับท่านริวกะ


[ ริวกะ ]  :  เฮ้ย !!! จริงเหรอ



ริวกะนั้นตั้งใจฟังมากๆเลยทีเดียว เพราะคำที่เวตาลพูดมานั้นเหมือนเป็นสิ่งที่เขากำลังต้องการพอดีเลย และเพราะกลัวว่าจะไม่เห็นภาพ ริวกะจึงได้บอกให้เวตาลตามเขามาที่ห้องประชุม เพื่อใช้จอโปรเจคเตอร์ความละเอียดสูงในการฉายภาพปางอุ๋งให้เขาเห็น ซึ่งหลังจากเปิดเครื่องเรียบร้อยเวตาลก็เริ่มอธิบายทันที โดยที่ริวกะนั่งจ้องตาไม่กระพริบเลย



[ เวตาล ]  :  ปางอุ๋งถูกเรียกว่า สวิซเซอร์แลนด์เมืองไทยครับท่านริวกะ  ดูอย่างภาพนี้


[ ริวกะ ]  :  โห สวยจริง


[ เวตาล ]  :  ใช่ครับ ที่นี่สวยมากๆ  ซึ่งปางอุ๋งนั้นจริงแล้ว มีชื่อว่า โครงการพระราชดำริปางตอง 2 ซึ่งถ้าเป็นภาษาเหนือผมว่าท่านริวกะคงจะรู้อยู่แล้วครับ


[ ริวกะ ]  :  อื้ม ปาง เป็นภาษาเหนือที่ใช้เรียกที่พักของคนงาน  ส่วนอุ๋งแปลว่าที่ลุ่มต่ำคล้ายกระทะ



[ เวตาล ]  :  ใช่ครับ ส่วนหนึ่งเพราะว่าที่นี่เป็นอ่างเก็บน้ำด้วยครับ จึงทำให้อากาศเย็นสบาย รวมถึงทิวต้นสนที่เรียงรายนับร้อยต้นพันต้น รวมถึงสวนดอกไม้ จึงทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า สวิซเซอร์แลนด์เมืองไทย



[ ริวกะ ]  :  ไปๆๆๆ ไปที่นี่แหละ ไว้สักอาทิตย์หน้าค่อยไป ขอวางแผนการเดินทางก่อน



ริวกะนั้นตัดสินใจได้ทันทีว่าจะไปที่นี่ แน่นอนว่าตอนนี้ริวกะกำลังวางแพลนเลยว่าจะพาพี่อั้มไปที่ปางอุ๋งในอาทิตย์หน้า และถ้าคิราระกับพลอยขอตามไปด้วยเขาก็คงต้องยอมให้ไป แต่ว่า......



[ เวตาล ]  :  ไปวันนี้ ตอนนี้ก็ได้ครับท่านริวกะ


[ ริวกะ ]  :  ( หันควั่บ )  หะ หา !!! ไปยังไงเวตาล ชั้นยังไม่ได้วางแผน ยังไม่ได้เตรียมตัว ยังไม่ได้หารถที่จะเดินทางเลย


[ เวตาล ]  :  ที่ใกล้ๆปางอุ๋ง มีรีสอร์ตที่อยู่ในเครือของพิทักษ์เทวาครับ ผมสามารถเตรียมห้องพักให้ท่านริวกะได้ทันทีครับ


[ ริวกะ ]  :  เอ่อ ถึงจะแบบนั้นก็เถอะ แต่กว่าจะเดินทางไปอีกล่ะ หรือว่านายสามารถขยายร่าง และพาชั้นไปที่นั่นได้



[ เวตาล ]  : ครับ กระผมสามารถขยายร่าง พาท่านริวกะและท่านอั้มไปยังปางอุ๋งได้ในทันทีครับ



[ ริวกะ ]  :  เอ่อ ( เหงื่อตกนิดๆ ) ยังไงดีล่ะ คือชั้นก็ไม่ได้กลัวความสูงหรอกนะเพราะปกติก็นั่งบนหัวของเฮบิซันบินไปมาบ่อยๆ แต่ว่านายไม่ได้มีพรวิเศษจากปู่ไดเทนงูเหมือนเฮบิซันได้รับน่ะสิ่  ชั้นกลัวพอนายเริ่มบิน ตัวชั้นจะปลิวตกจากตัวนายน่ะสิ่เวตาล ชั้นน่ะไม่เท่าไรแต่พี่อั้มนี่สิ่ ชั้นกลัวว่าพี่เขาจะทนแรง G ไม่ไหวจนหมดสติไปน่ะสิ่



[ เวตาล ]  :  เรื่องนั้นท่านริวกะไม่ต้องกังวลไปครับ กระผมจะใช้ความเร็วที่ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของท่านอั้มแน่นอนครับ



[ ริวกะ ]  :  เอ่อ ว่าแต่เวตาล ถ้ามีสัญญาณเรด้าห์จับสัญญาณของนายได้จะทำไง นายไม่สามารถพรางตัวแบบ เฮบิซันได้ด้วย ถ้าโดนจับได้นี่ประเทศไทยปั่นป่วนแน่ๆนะ



[ เวตาล ]  :  ท่าานริวกะลืมแล้วเหรอครับ ว่าตัวกระผมนั้นก็คือ ปีศาจค้างคาว นะครับ


ริวกะได้ฟังดังนั้น ก็พยายามครุ่นคิดต่างๆนาๆ จะว่าไปวันนี้ ก็มีเรื่องที่เขาสงสัยอยู่ ตอนนี้ภูชิตสั่งให้ลูกน้องโจมตีเวตาลนั้น เวตาลพูดแค่ว่า " นั่งลง "  ไอ้สี่ตัวนั้นก็ทรุดลงทันที ตอนนั้นริวกะยังคงจดจ่อกับการปกป้องพี่อั้ม จึงไม่ได้สนใจอะไร แต่เมื่อมาคิดดูดีๆมันก็น่าสงสัยเอามากๆ ว่าเวตาลทำยังไงพวกมันถึงทรุดลงแบบนั้น  แต่จะว่าไปเมื่อกี้เวตาลพูดว่าค้างคาว หรือว่าจะเป็นสิ่งนั้น



[ ริวกะ ]  :   ( บ่นพึมพัม ) ค้างคาว ค้างคาง คลื่นอัลตร้าโซนิค    หืม  หรือว่า แอคโคโลเคชั่น



[ เวตาล ]  :  สมแล้วครับที่เป็นท่านริวกะ  เป็นอย่างที่ท่านสันนิษฐานครับ กระผมสามารถใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค เพื่อแทรกแซงและระบุคลื่นสัญญาณทุกประเภท และสามารถใช้เพื่อนำทางในการหลบหลีกคลื่นตรวจจับต่างๆได้ครับ



นั่นไงล่ะ เป็นไปอย่างที่ริวกะเดาไว้จริงๆด้วย ต่อให้เป็นภูติผีปีศาจแต่ยังไงซะ เวตาลก็คือค้างคาว  ค้างคาวนั้นจะมีคลื่นชนิดพิเศษ ซึ่งเหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างจำกัดคำนิยามว่า คลื่นอัลตร้าโซนิค นั่นเอง และยังมีผลวิจับหลายฉบับระบุไว้ว่า


ค้างคาวนั้นสามารถปล่อยคลื่นเสียงความถี่ที่แตกต่างกัน นี่ล่ะมั้งเหตุผลที่ไอ้สี่ตัวนั้นถึงกับทรุด คงเพราะเวตาลปล่อยคลื่นความถี่บางชนิดเพื่อทำให้สมองส่วนที่ควบคุมการทรงตัวของพวกมันผิดปกติ จนไม่สามารถยืนได้ชั่วขณะนั่นเอง


เวตาลอธิบายนู่นนั่นจนริวกะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเลยทีเดียว ตอนนี้ริวกะเริ่มตื่นเต้นซะแล้วสิ่ เขาอยากจะพาพี่ไปที่ปางอู๋งเสียแล้วตอนนี้



[ ริวกะ ]  :  แล้วทำไงกับพี่อั้มดีล่ะ ใจจริงตอนนี้ชั้นอยากให้พี่อั้มเซอร์ไพรส์นะ ถ้าพี่อั้มตื่นมาและพบว่าตรงหน้าคือต้นไม้และสายหมอก เธอคงจะดีใจมากแน่ๆ



[ เวตาล ]  :  แบบนั้นสบายมากครับ กระผมจะใช้คลื่นที่มีความถี่มากขึ้น คลื่นตัวนี้ทางการแพทย์ใช้ในการบำบัดอาการนอนไม่หลับครับ  ซึ่งมันจะส่งผลทำให้ท่านอั้มหลับลึกกว่าเดิม



[ ริวกะ ]  :  โห เยี่ยมเลย  ถ้าไม่มีนายนี่ชั้นคงนั่งเอ๋อทั้งคืนแน่เลย   เดี๋ยวชั้นไปเก็บของที่จำเป็นก่อนนะ ฝากนายจองที่พักด้วย



[ เวตาล ]  :  ด้วยความยินดีครับ



ในขณะที่ริวกะเดินไปเก็บข้าวของที่จำเป็นนั้น เวตาลก็ได้ต่อสายหาใครบางคนทันที เพื่อตระเตรียมห้องพักให้ริวกะทันที เมื่อพูดถึงเวตาลก็.อดไม่ได้ที่จะพูดถึงลูกสาวคนสวยของเขา


หลังจากที่ริวกะและอั้มพากันกลับบ้านแล้ว ลูกค้าก็ยังคงเข้ามาอีกไม่ขาดสาย กระแตจึงต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่จนไม่มีเวลามองริวกะเลย


30 นาทีผ่านไป


[ ส้ม ]  :  เย้ !!!  วันแรกขายได้ขนาดนี้ ดีใจจังเล๊ยยย


[ กระแต ]  :  ฟู่ววว เหนื่อยเลยเนี่ย พี่ตั้มเป็นไงบ้าง


[ เชฟตั้ม ]  :  มันส์มาก  สนุกมาก รู้สึกดีมากๆ เวลาเห็นคนกินของที่พี่ทำและยิ้มออกมา



สามหัวเรือใหญ่ของร้าน Magic Hour พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทุกอย่างเกินคาดจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าอั้มและน้องชายจะสามารถเรียกคนได้มากขนาดนี้ ซึ่งในขณะนั้นเองเพื่อนเชฟตั้มก็ได้เอ่ยขึ้นมาด้วยความสงสัย


[ เพื่อน - มือกลอง ]  :  จะว่าไป ไอ้น้องรูปหล่อคนนั้น หน้าตาคุ้นๆหว่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน


[ เพื่อน - มือเบส ]  :   เออกูว่างั้นแหละ ยิ่งเสียงดีๆแบบนั้นด้วยยิ่งคุ้นเข้าไปใหญ่


[ เชฟตั้ม ]  :  เออใช่ ส้ม น้องชายเพื่อนคนนั้นเป็นใครเหรอ ฝีมือโคตรดีเลย เสียงก็ดีมากๆ ไทย ญี่ปุ่น อังกฤษ  สำเนียงไม่ผิดเพี้ยนเลย



[ ส้ม ]  :  น้องเขาเป็นลูกครึ่งน่ะพี่ตั้ม น้องเขาชื่อ อิซานางิ ริวกะ น่ะ ลูกชายของประธานบริษัท อิซานางิ กรุ๊ป


[ มือกลอง - มือเบส ]  :  นั่นไง กูว่าแล้ว


[ เชฟตั้ม ]  :  เฮ้ย !!! พวกมึงรู้อะไรกันวะ


หลังจากที่ส้มได้บอกชื่อไป เพื่อนมือกลองและมือเบส ถึงกับตบเข่าฉาดพร้อมกับอุทานออกมาทันที มิน่าล่ะฝีมือถึงได้ดีขนาดนั้น เชฟตั้มพอเห็นอาการของเพื่อนทั้งสอง ก็ตกใจดิ่ เพราะปกติไม่เคยเห็นเพื่อนชาวร็อคของเขาตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน


[ มือกลอง ]  :  ก็เมื่อสองปีก่อนก่อน พวกกูไปงาน สตรีท แฟชั่นที่ ฮาราจุกุ แล้วมันมีเวที J Rock  ไง  แปปนึงมีพิธีกรมันประกาศว่าขอเชิญ อิซานางิ ริวกะ ให้เกียรติขึ้นมาเล่นดนตรีหน่อย แม่งเอ๊ยยยย


[ เชฟตั้ม ]  :  หะ อะไรวะเกิดไรขึ้น


[ มือเบส ]  :   ตอนแรกกูยืนมอง เห็นหน้าหล่อๆนึกว่าจะเป็นพวกขี้เก๊กหัดตีคอร์ดกีต้าร์  แต่ว่าขอหยาบหน่อยนะครับ  เยสแม่โคตรเดือด แม่งกด พาวเวอร์คอร์ดเล่น ไซโคโซเชียล ของ Slipknot แม่งเดือดสัดอ่ะ


[ เชฟตั้ม ]  :  เฮ้ย สลิปน็อตเลยเหรอ


[ มือกลอง ]  :  เออดิ่ ขอหยาบอีกหน่อยเหอะ แม่งว๊ากสุดตีนชิบหาย เดือดสัดๆ แต่ไอ้ที่แม่งเดือดกว่าคือ พอเพลงจบไอ้น้องรูปหล่อนั่นมันเล่น ชาลา เฮด ชาล่า ต่อเลย แม่งเดือดชิบหาย กูนี่เรียกหาเมฆสีทองเลยสัดเอ๊ย โคตรมันส์



สองเพื่อนนักดนตรีนั้นพากันพูดถึงริวกะไม่หยุดปากเลยทีเดียว มันเป็นความร็อค ความเดือดในสายเลือดนักดนตรีที่ลืมไม่ลงจริงๆ เชฟตั้มได้ยินแบบนั้นใจนี่เต้นไม่หยุดเลย นี่น้องชายของเพื่อนส้ม ฝีมือดีขนาดนี้เลยเหรอ



[ ส้ม ]  :  ส้มรู้มาแค่ว่า ริวถนัดพวกเครื่องดีดเครื่องสาย อย่างพวก บิวะ พิณ และ ซามิเซ็น ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเล่นกีต้าร์เก่งแบบนี้ แถมยังเสียงดีมากๆอีก



[ มือเบส ]  :  โถ่เว๊ยยย รู้งี้หยิบกีต้ารืไฟฟ้ามาด้วยก็ดี อยากเห็นเล่น ชาลา เฮด ชาล่า ใกล้ๆ  กูจะปล่อยพลังคลื่นเต่าโชว์เลย แม่งง !!!!


[ เชฟตั้ม ]  :  พอเหอะพวกมึง โตๆกันแล้ว พลังคลื่นเต่าอะไรกัน .....  มันต้องบอลเกงกิสิ่วะ



[ มือกลอง ]  :  ย๊ากกกกก หมัดเจ้าพิโภ๊พพพพพพพ ( หมัดเจ้าพิภพ )


เสียงหัวเราะดังลั่นเลยทีเดียว ทั้งสามสี่คนจับเข่าคุยเรื่องของริวกันราวกับเป็นเรื่องระดับชาติเลย ใครมีข้อมูลอะไรก็พูดให้ฟัง เพื่อให้คนที่ไม่รู้นั้นหายสงสัย ทั้งหมดช่วยกันเก็บร้านไปคุยไปและไม่นานก็แยกกันกลับบ้าน โดยที่ทุกคนไม่มีทางลืมแน่ๆว่าวันนี้พวกเขาได้พบกับอะไรที่สุดยอดมากๆ แม้จะไม่กี่ชั่วโมง แต่มันก็คือ ชั่วโมงต้องมนต์จริงๆ



หลังจากที่โบกมือบ๊ายบายกับทุกๆคนแล้ว กระแตนั้นเดินเงียบๆออกมายังลานจอดรถที่เธอจอดไว้ โดยที่มีมิกเดินตามมาด้วย รู้สึกว่ามิกจะหน้าตึงตั้งแต่กระแตมองริวกะแล้วล่ะ


[ กระแต ]  :  วันนี้จะนอนค้างด้วยกันมั้ย


[ มิก ]  :  อื้ม ไปสิ่


กระแตสาวน้อยมองไปที่มิกเพื่อนชายของเธออีกครั้ง มิกก็มองที่กระแตมาเช่นกัน แม้จะมีคำพูดมากมายแต่ พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อกัน ประตูรถปิดลงและแล่นออกไปทันทีจุดหมายก็คือห้องพักของกระแตนั่นเอง เพราะยังไงซะกระแตก็ออกปากชวนนอนค้างด้วยตัวเองไปแล้ว ด้านริวกะเองหลังจากที่เก็บของเล็กๆน้อย อาทิเช่น ที่ชาร์จโทรศัพท์ อแดปเตอร์ Powerbank เขาก็รีบเดินมายังห้องรับแขกทันทีซึ่งเวตาลก็รออยู่แล้ว


[ ริวกะ ]  :   รอแปปนะ เวตาล ชั้นต้องไปอุ้มเก็บของให้พี่อั้มก่อน งืม เอาไงดีกับพวกของใช้ส่วนตัวหว่า


[ เวตาล ]  :   พวกเสื้อผ้าส่วนตัว ท่านริวกะไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะที่รีสอร์ตมีพวกชุดของกระแตอยู่


[ ริวกะ ]  :   หืม เสื้อผ้าของกระแตเหรอ


[ เวตาล ]  :   ใช่ครับ กระแตมักจะไปพักผ่อนที่นั่นบ่อยๆ เลยมีเสื้อผ้าทิ้งไว้หลายชุดครับ


[ ริวกะ ]  :  อ๋อ โชคดีจัง งั้นชั้นเข้าไปเก็บพวกโทรศัพท์มือถือก่อนนะ


จากนั้นริวกะก็ย่อง ย่อง ย่อง ไปที่ห้องพี่อั้มและแอบไขกุญแจเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ตอนนี้เขาจำเป็นต้องใช้เนตรยมฑูตเสียแล้ว เหตุผลคือริวกะไม่อยากจะเปิดไฟเพราะกลัวพี่อั้มตื่น ซึ่งความสามารถขั้นพื้นฐานของเนตรยมฑูตนั้นก็คือสามารถทำให้ริวกะสามารถมองได้ในที่มืดโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาปรับสายตานั่นเอง ริวกะรีบเก็บนู่นนี่นั่น กระเป๋าตังส์ โทรศัพท์ และกระเป๋าสะพายใบโปรดของพี่อั้มอย่างรวดเร็ว และจากนั้น


[ ริวกะ ]  :  เวตาล รบกวนที


ริวกะเรียกเวตาลอีกครั้ง เวตาลจึงเดินมาข้างหน้าที่อั้มนอนและแตะเบาๆไปที่ศรีษะของเธอ เพื่อปล่อยคลื่นบางอย่างออกมา สีหน้าของอั้มนั้นเปลี่ยนไปเลยจริงๆตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอกำลังผ่อนคลายมากๆ ริวกะฟังเสียงลมหายใจ ฟังเสียงหัวใจเต้น และก็สัมผัสได้ทันทีว่าตอนนี้ทุกอย่างมันดูโฟลว์ มันดูไหลลื่นไปหมด ทั้งระบบเลือด ทั้งจังหวะการหายใจ และหลังจากที่สำรวจจนแน่ใจแล้ว


แว่บ !!! ริวกะหลับตาและตั้งสมาธิเพื่อยกเลิกการใช้งานเนตรยมทูตทันที จากนั้นเขาจึงค่อยปล่อยให้ดวงตาค่อยๆปรับเข้ากับความมืดจนพอที่จะมองเห็นแล้ว ริวกะจึงจัดการช้อนตัวอั้มขึ้นมาอุ้มราวกับเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวทันที คลื่นนนนน !!!  เวตาลที่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป จึงได้รับไปที่ระเบียงทันที เขาลอยตัวออกไปนอกระเบียงและกลายร่างเป็นค้างคาวพร้อมกับขยายร่างให้ใหญ่พอที่ทั้งสองจะสามารถขึ้นไปได้ และเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว


[ ริวกะ ]  :    ฝากดูแลบ้านด้วยนะพวกเจ้าทั้ง 2


ริวกะพูดกับบางสิ่งบางอย่างที่นั่งชันเข่ารับฟังคำสั่งในเงามืด เมื่อสิ้นสุดคำสั่งแล้วเงามืดทั้งสอง ก็แทรกลงพื้นบ้านไปทันทีราวกับว่ารับฟังคำสั่งเรียบร้อย


[ ริวกะ ]  :  เอาล่ะไปกันเถอะเวตาล


ฟู่วววว  ริวกะเหยียบระเบียงห้องและอุ้มพี่อั้มกระโดดลงไปทันที ตึ้ก !!! ริวกะกระโดดลงกลางหลังเวตาลได้อย่างแม่นยำ และเวตาลเองก็กระพือปีกเพื่อรับน้ำหนักของทั้งสองไว้อย่างนุ่มนวล และไม่สะเทือนเลยสักนิด ตอนนี้อั้มนั้นหลับอยู่ในอ้อมกอดของริวกะแล้ว ส่วนตัวเขาก็นั่งย่อตัวอยู่บนหลังของเวตาลเป็นที่เรียบร้อย พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ เวตาลยังคงไม่ไปไหน เขายังคงขยับปีกเล็กน้อยเพื่อพยุงตัวไว้ให้ลอยไว้เฉยๆ เพราะเขารู้สึกได้ว่าริวกะมีบางอย่างจะพูดกับเขา



[ ริวกะ ]  :   เวตาล นายไม่โกรธ ไม่เคืองชั้นบ้างเหรอ ที่ตอนนี้กำลังจะพาผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่รุ้งพลอยไปเที่ยว แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นพี่สาวก็เถอะ



[ เวตาล ]  :  ไม่ครับ กระผมไม่รู้สึกขุ่นเคืองใจแม้แต่นิดเดียว กระผมรับรู้ได้ว่าคุณหนูรุ้งพลอยก็พอใจกับสิ่งที่ท่านริวกะกำลังจะทำ เฉกเช่นเดียวกับที่เธอรู้สึกเช่นเดียว กับท่านคิราระ และ ท่านมิไรครับ


[ ริวกะ ]  :   เหรอ อื้ม ชั้นมีว่าที่ภรรยาที่ประเสริฐจังเลยนะ ( มึงได้กันแล้ว )   งั้นไปกันเถอะเวตาล ฝากด้วยล่ะ


[ เวตาล ]  :   ครับ !!!


กรี๊ซ !!! เวตาลปล่อยคลื่นอัลตร้าโซนิค ครอบคลุมพื้นที่เพื่อสร้างแอคโคโลเคชั่นทันที และเพียงไม่ถึง 5 วินาที เวตาลก็บินออกไปอย่างรวดเร็ว จริงอยู่ว่าอาจจะมีเลี้ยวบ้าง เหินบ้าง ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับริวกะเท่าไร เขาอุ้มพี่อั้มไว้ในอ้อมกอดและยังทรงตัวบนพื้นที่ที่ไม่มั่นคงได้อย่างไม่น่าเชื่อ บาลานซ์ร่างกายพี่แกดีมากๆ


ซึ่งแน่นอนมันเป็นผลจากการฝึกที่เข้มงวดของทั้งจากปู่และพ่อนั่นเอง การฝึกนั้นคือการดั้งเดิมที่จะให้ใส่รองเท้าเกี๊ยะ ซึ่งปกติรองเท้าเกี๊ยะแบบปกติก็ว่ายากแล้ว แต่ตระกูลอิซานางินั้นธรรมดาที่ไหน เพราะตั้งแต่รุ่นย่าทวด ( แม่ของชิน ) ท่านจะให้ใส่รองเท้าเกี๊ยะ เทนงู ฝึกคาราเต้ นั่นจึงไม่แปลกว่าทำไม พื้นฐานการย่างก้าว และบาลานซ์ของคนในอิซานางิ ถึงได้ดีมากขนาดนี้


เพียงไม่ถึง 30 นาทีที่เวตาลออกบิน เขาก็พาริวกะออกมา นอกตัวเมืองแล้ว ตอนนี้พื้นที่รอบๆเริ่มมืดและไร้แสงไฟ ทำให้การบินของเวตาลนั้นสมูธมากขึ้นเพราะไม่ต้องคอยหลบคลื่นต่างๆนาๆ เหมือนในเมือง


[ ริวกะ ]  :  ปกติถ้านั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปแม่ฮ่องสอนจะใช้เวลาราวๆ 1ชั่วโมง 50 นาที เวตาล นายบินโดยกะว่าใช้เวลาสัก 3 ช.ม. ได้ไหม ชั้นไม่อยากให้นายใช้ความเร็วมากน่ะ นายไหวไหม


[ เวตาล ]  :  สบายมากครับท่านริวกะ


[ ริวกะ ]  :   ฝากด้วยล่ะ


เวตาลลดระดับการบินให้ต่ำลง เพราะว่ายิ่งสูง oxygen จะยิ่งเบาบาง แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องบินสูง เขากะบอกริวกะทันที ซึ่งริวกะก็จะสร้างโดมอากาศคุมตัวเขากับพี่อั้มไว้ ทำให้พี่อั้มสามารถหายใจได้ปกติ และเที่ยวบินสุดพิเศษจากสายการบินเวตาลก็ดำเนินต่อไป โดยอีก 3 ช.ม. จะถึงปางอุ๋งซึ่งที่นั่นกำลังจะกลายเป็นเรือนหอของทั้งคู่นั่นเอง



เวตาลบินผ่าน แม้น้ำ ภูเขามากมาย ซึ่งริวกะเองก็รู้สึกสดชื่นมากๆ มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก ตัวเขาเองรู้สึกผูกพันกับป่า แม่น้ำ และ ภูเขา อย่างบอกไม่ถูกจริงๆ เหมือนกับว่าเขาเกิดและเติบโตท่ามกลางธรรมชาติอย่างนั้นแหละ และแล้วเวลาก็ผ่านไปราวโกหกอีกครั้งเวตาลก็ได้บินมาถึงที่พักแล้ว


[ เวตาล ]  :  ท่านริวกะครับพวกเราจะถึงที่พักแล้วครับ


เวตาลแจ้งเตือนริวกะอีกครั้งและตรงหน้านั้นก็คือภูเขาลูกใหญ่ และอ่างเก็บน้ำที่กว้างสุดลูกหูลูกตา สมชื่อปางอุ๋งจริงๆ เวตาลบินโฉบเข้าด้านหลังของบ้านพักทันที ฟุ่บ !!! ริวกะอุ้มพี่อั้มกระโดดลงมาทันที และแลนดิ้งอย่างนุ่นนวล ซู่ววว พรึ่บบ  เวตาลก็เช่นกันเขาคืนร่างมนุษย์กลางอากาศและค่อยๆลอยลงมาเช่นกัน


[ เวตาล ]   :   ท่านริวกะครับ บ้านหลังนี้อยู่ติดริวอ่างเก็บน้ำมากที่สุดครับ



[ ริวกะ ]  :  โห คลาสสิค สวยมากเลยเวตาล


[ เวตาล ]  :  แต่กระผมขอแนะนำ ว่าคืนนี้ให้ท่านริวกะและท่านอั้มย้ายไปพักที่รีสอร์อีกที่ครับ อยู่ห่างจากที่นี่ไป 10 กิโลเมตร เป็นรีสอร์ตท่ามกลางไร่ชา


[ ริวกะ ]  :  อื้ม ขอบใจนะ ตอนนี้ให้พี่อั้มนอนพักที่นี่ก่อน ชั้นอยากให้พี่อั้มได้ตื่นมา และเซอร์ไพรส์น่ะ ชั้นเองก็ขอนอนพักสักแปปดีกว่า



[ เวตาล ]  :  ครับ ท่านริวกะ



•••  ปัจจุบัน •••


อั้มนั้นจ้องหน้าริวกะ ราวกับว่าต้องการคำตอบให้ได้ ริวกะเองก็ลำบากใจไม่ใช่น้อย เพราะถ้าเขาบอกว่าขี่หลังค้างคาวมา เรื่องราวของเวตาลก็ตะถูกเปิดเผย ซึ่งอาจจะลามไปถึงความจริง ที่รุ้งพลอยมีสายเลือดคนทรงอีกด้วย แต่ว่า....


[ อั้ม ]  :  พาพี่ไปที่ริมอ่างน้ำหน่อยนายริว พี่อยากไปดูใกล้ๆ


[ ริวกะ ]  :   ได้เลยครับ แต่พี่อั้มเปลี้ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ


[ อั้ม ]  :  นะ นะ นายริวลามก แอบหยิบเสื้อผ้า ชุดชั้นในพี่มาเหรอ นี่แหนะนายริวลามก ต้องโดนสกัดจุด จะสกัดจุดให้เจ็บๆเลย นี่แน่ะ นี่แน่ะ


[ ริวกะ ]   :   จ๊ากกก ผมเปล่านะคร๊าบบบบบ



อั้มนั้นแก้เขินด้วยการจะสกัดจุดนายริว ซึ่งมันทำให้พี่มังกรนั้นขนลุกซู่เลย เพราะตัวเขารู้ซึ้งถึงความร้ายกาจของการสกัดจุดจากพี่อั้ม นั่นจึงทำให้เขานั้นวิ่งหนีและร้องเสียงหลงเลย


หลังจากที่วิ่งไปวิ่งมาจนเหนื่อย อั้มก็ได้หยุดพักสิ่งที่เธอเห็นคือวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสมชื่อสวิซเซอร์แลนด์เมืองไทย แสงแดดสีส้มกำลังส่องแสงฉาบบนผิวน้ำที่มีหมอกลอยปกคลุมอยู่ มันสวยจนไม่อาจละสายตาได้เลย ต้นสนนับร้อยก็เรียงรายอย่างสวยงามตามธรรมชาติ สายลมเย็นอ่อนๆก็พัดมากระทบผิวกายราวกับต้องการยอกกับเธอว่ามันคือความจริว ถึงจะไม่ได้อยู่สวิซฯจริงๆ แต่หัวใจของเธอก็พองโตไม่ใช่น้อย



เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ถามนายริวว่าพาเธอมาที่นี่โดยที่เธอไม่รู้ตัวได้ยังไง เพราะยังไงซะตอนนี้เธอกำลังดีใจที่ได้อยู่กับชายคนที่รักสองต่อสองในสถานที่ที่สวยงามขนาดนี้ยังไงล่ะ เพียงไม่นานนักแม่บ้านส่วนตัวก็เข้ามาหาอั้มและนำเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนทันที เธอชี้แจงกับอั้มว่า ที่นี่เป็นรีสอร์ทย่อยในเครือพิทักษ์เทวา และเสื้อผ้าก็เป็นของกระแตลูกสาวของคุณเวโรจน์



หลังจากที่ได้ฟังแบบนั้นอั้มก็เข้าใจได้ไม่ยาก และตามแม่บ้านไปเปลี่ยนชุดทันที โชคดีที่อั้มและกระแตใส่เสื้อผ้าด้วยกันได้พอดีเป๊ะเลย จะมีที่แตกต่างกันนิดหน่อยก็คืออั้มจะสูงกว่ากระแต และนมใหญ่กว่านิดนึงเท่านั้นเอง หลังจากนั้น อั้มก็เดินมาหานายริวที่กำลังนั่งรออยู่



เพียงแรกพบสบตากับนวลนางในชุดนี้ พี่มังกรถึงกับตาค้างเลยเดียว เพราะพูดกันตามตรงอั้มจะชอบแต่งตัวแนวๆที่มองแล้วดูกึ่งทางการนิดๆ เพราะเธอเติบโตมาในครอบครัวหมอ ดังนั้นการแต่งตัวของเธอจึงออกแนวภูมิฐานนิดๆ แต่ตอนนี้ชุดที่เธอใส่นั้นมันแหวกแนวออกไปเลย


สาวสวยตรงหน้ามาด้วยเสื้อสายเดี่ยวยืดสีฟ้า กางเกงขาสั้น นั่นยิ่งทำให้อั้มได้โชว์เรียวขาสวยๆของเธอต่อหน้าริวกะจังๆเลย แถมยังมีหมวกสีขาวที่อั้มใส่มาอีก บอกเลยพี่มังกรงี้ควยแข็ง ตื่นตาตื่นใจสุดๆ


[ อั้ม ]  :   นี่นายริวมองอะไรเนี่ย พี่แต่งตัวแบบนี้แปลกมากเหรอ โหยยย


[ ริวกะ ]  :  เอ่อ นิดหน่อยครับ ปกติพี่จะแต่งตัวเป็นทางการมากเลย แต่ตอนนี้พี่ดูรีแลค ดูสดใสมากเลยครับ


[ อั้ม ]  :  ( หน้าแดง )  ไป ไปกันเถอะ พี่อยากเดินเล่นแล้ว


[ ริวกะ ]  :  ครับ ค่อยๆเดินนะครับพี่ พื้นดินต่างระดับ มีเยอะมากเลย


มั่บ !!! ทันทีที่พูดจบอั้มก็คล้องแขนนายริวทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ พี่มังกรก็เหวอดิ่อยู่ดีๆพี่อั้มทำอะไรเนี่ย ถึงเขาจะชอบก็เถอะ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย


[ อั้ม ]  :  ก็ ก็ ก็พี่กลัวล้มนายต้องคอยพยุงพี่สิ่


[ ริวกะ  ]  :  ค่ะ ครับๆ ได้ครับ


ยิ้มดิ่แบบนี้พี่มังกร ไหนๆก็ไหนๆแล้ว นายริวเลยถือโอกาสจับมือพี่อั้มซะเลย ซึ่งพี่อั้มก็แอบเขินหนักเลย เพราะแค่การรุกด้วยการคล้องแขนนายริวก็ว่าเขินแล้ว มาเจอจับมือแบบนี้อีกบอกเลยว่า ใจบ่าดี


ทั้งคู่พากันเดินเข้าไป ผ่านจุดกางเตนท์ ผ่านจุดชมวิว ผ่านทิวต้นสน และสวนดอกไม้ อั้มนั้นยิ้มไม่หุบเลยเธอตกหลุมรักที่นี่ซะแล้วสิ่ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนมันก็ดูสดชื่นไปหมด



[ ริวกะ ]  :  พี่อั้ม หนาวมั้ยครับ


[ อั้ม ]  :  ไม่เลยเย็นสบายๆพอดีเลย แต่ถ้ามาช่วงธันวาคม สงสัยได้หนาวแน่ๆเลย


[ ริวกะ ]  :  เอ่ออ ... ถ้าพี่อยากมา ผมพามาอีกก็ได้นะครับ


อั้มนั้นถึงกับยิ้มเลย แต่ว่าต้องไว้เชิงซักหน่อย เธอจับมือของขายหนุ่มไว้และทำเป็นเหล่มองเพื่อจะแกล้งให้เขาเขินมและมันก็ได้ผลเพราะริวนั้นเสียอาการเลยตอนนี้


[ อั้ม ]  :  อื้ออ สัญญาแล้วนะว่าจะพาพี่มาอีก อยากพาพี่มิไร พาคิราระ พาพลอยมาด้วยจังเลย ทุกคนต้องมีความสุขแบบพี่ตอนนี้แน่ๆ


อ่าาาซ์ แม่พระของผัว ริวกะนั้นถึงกับใจชื้นเลยทีเดียว ที่พี่อั้มนั้นนึกถึงเมียคนอื่นด้วย จริงอยู่ว่าเขาอยากมากับเธอสองคน แต่ว่าไม่เป็นอะไรเพราะยังไงทุกคนก็คือคนที่เขารักเหมือนกัน


[ อั้ม ]  :  เง้ออออออ  หมอก หมอกสวยจังเลย


อั้มนั้นสตั้นเลย เพราะตอนนี้ตรงหน้าของเธอคือจุดที่ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปกัน ยามนี้ผืนน้ำถูกฉายไปด้วยไอหมอกสีขาวสลัว ตัดกับแสงอาทิตย์ที่กำลังทอแสงลงมา ความปลื้มปลิ่มนี้มันถูกแสดงออกมาผ่านสีหน้าของเธอหมดแล้ว


[ ริวกะ ]  :  ผมถ่ายรูปให้นะครับพี่อั้ม


[ อั้ม ]  :  ไม่เอาๆมาถ่ายด้วยกันสิ่


พูดได้เท่านั้นแหละอั้มก็ได้จัดการถือกล้องด้วยตัวเองเลย แน่นอนว่าเธอต้องการเซล์ฟฟี่ ริวนั้นก็ยืนตัวแข็งเลยทีเดียว แต่ว่าไม่ได้ ไม่ได้เดี๋ยวเสียทรง ริวกะจึงสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ผ่อนคลายทุกสิ่งทุกอย่าง และยิ้ม แชะ แชะ แชะ อั้มนั้นกดถ่ายภาพรัวๆเลยทีเดียว ผ่านไปเกือบ 10 ภาพจนเธอพอใจ แต่ว่า....


[ อั้ม ]  :  งืม อยากได้ภาพสวยๆ มุมกว้างๆจัง งืมมม หมอกกำลังจะหายไปแล้ว   อ๊าาา คุณน้าคะ คุณน้าคะ


ในระหว่างที่อั้มกำลังว้าวุ่นอยู่นั้น ก็มีขายคนนึงเดินมาพอดี เขาเป็นขายวัยกลางคน อายุน่าจะ 30 ปลายๆ ผิวสองสี รูปร่างสันทัดสมส่วน แต่งตัวราวกับหัวหน้าคนงาน อั้มได้เรียกเขาเพื่อขอให้ช่วยถ่ายรูปคู่ให้


[ อั้ม ]  :  รบกวนคุณน้าถ่ายรูปให้หน่อนได้ไหมคะ


[ ???? ]  :  ได้ครับ


น้าคนนั้นรับโทรศัพท์ของอั้มและเดินถอยหลังเพื่อจะถ่ายรูปทันที ส่วนอั้มก็ยังบ่นๆว่าอยากให้หมอกเยอะกว่านี้ ตอนแรกริวกะนั้นคิดจะใช้พลังเพลิงและวายุทำให้เกิดปฏิกิริยาทางธรรมชาติ แต่แล้วเขาก็ต้องล้มเลิกความคิด เพราะว่าถ้าทำแบบนั้นมันจะเหมือนการลบหลู่สถานที่และแทรกแทรงธรรมชาติ


[ อั้ม ]  :  อ๊าา


[ ริวกะ ]  :  พี่อั้มระวังครับ


แชะ แชะ ในระหว่างที่อั้มเสียหลักจนริวต้องจับมือประคองไว้ น้าคนนั้นก็กดถ่ายภาพเรียบร้อย อั้มนั้นตั้งใจจะให้ถ่ายใหม่ แต่ว่าเมื่อรีบวิ่งมาขอโทรศัพท์นั้น ภาพที่เธอเห็นกลับสวยงามและลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็นภาพที่ริวกะจับมือเธอไว้ และทั้งสองก็มองตากัน อั้มนั้นยิ้มด้วยความเขินและขอบคุณน้าคนนั้น ส่วนริวน่ะเหรออดดู เพราะยังไงซะอั้มก็จะไม่ยอมให้ดูเด็ดขาด


หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พอกันเดินเล่นต่อไปเรื่อยๆ แวะนู่นดูนี่ เหนื่อยก็นั่งพักและเดินต่อ เชื่อเลยว่าตอนนี้ในมือถือของอั้มต้องมีภาพที่ถ่ายไว้ไม่ต่ำกว่า 200 ภาพแน่ๆ อั้มทั้งสุข ทั้งสนุกมากๆ ทุกก้าวที่เดินไปเธอจะมีนายริวจับมือเดินไปด้วยเสมอ มันยิ่งทำให้ความรู้สึกที่ก่อตัวมานั่นชัดเจนมากๆว่าเธอรักนายริว


หลายชั่วโมงผ่านไป ตอนนี้ได้เวลาที่ทั้งคู่จะต้องย้ายขึ้นไปบนรีสอร์ทหลักแล้ว รถของทางรีสอร์ทนั้นมารับอั้มและริวกะราวๆ บ่าย 2 กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็บ่าย 3 ครึ่ง บรรยากาศของรีสอร์ทไร่ชานี้ดีมากๆ ตัวบ้านถูกปลูกบนเนินเขา ซึ่งรายล้อมไปด้วยไร่ชานับร้อยๆไร่ แถมยังคงดำรงวิถีชีวิตแบบเดิมๆอีกด้วย


แต่เรื่องความสะดวกสบายก็ไม่ธรรม ด้านหลังเขาอีกฟากจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกหลายๆอย่างมีสนามเทนนิสไว้ออกกำลังกาย แถมยังมีกำแพงสควอชอีกด้วย เรียกได้ว่าลูกค้าคนไหนเบื่อๆก็พากันมาเล่นได้เลย


ริวกะนั้นเก็บของที่จำเป็นเข้าขั้นอย่างเรียบร้อยทแต่พี่อั้มนี่สิ่หายไปไหน แต่เพียงแปปเดียวเท่านั้นเธอก็กลับมาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม


[ อั้ม ]  :  นายริว วันนี้พี่จะทำมื้อเย็นให้กินนะ


[ ริวกะ ]  :  เอ๋ ไม่ต้องก็ได้ครับพี่อั้ม เรามาพักผ่อนกันทั้งที


[ อั้ม ]  :  ก็เพราะพักผ่อนนี่แหละ พี่ถึงอยากทำให้กิน ไปเลยๆๆๆ ไปเดินเล่นเลย พี่จะเซอร์ไพรส ซักหน่อย


[ ริวกะ ]  :  ผมอยากช่วยนี่นา


[ อั้ม ]  :  ไม่เอา นะนะนายริว พี่อยากทำมื้อเย็นสุดพิเศษให้นายนะ


โดยอ้อนแบบนี้พี่มังกรก็แย่สิ่ครับ ริวกะเดินออกมาทันทีที่เมียขอ และเขาก็ได้ตรงดิ่งไปยังหลังภูเขาซึ่งที่นั่นมีลานออกกำลังกายอยู่ เมื่อมาถึงริวกะเองก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าพิทักษ์เทวาจะทำลานออกกำลังกายมาได้ดีขนาดนี้
สนามทุกอย่างถูกต้องตามหลักมาตรฐานหมดเลย


[ ริวกะ ]  :  ( มองแสงแดด และเมฆ ) อืมม 4 โมงครึ่งสิ่นะ นั่งสมาธิดีกว่า


ริวกะนั้นตรงไปยังลานกว้างที่มีต้นไม้ใหญ่และนั่งลงเพื่อทำสมาธิ ฟู่ววว ทันทีที่หลับตาสายลมก็พากันพัดพาจนตนไม้นั้นสั่นไหวไปมา แต่นั่นกลับทำให้ริวกะมีสมาธิมากขึ้นกว่าเดิม จนเวลาผ่านไป 1 ช.ม. ริวกะก็ลืมตาตื่นขึ้นมา แสงอาทิตย์ก็ค่อยหายไป แสงไฟจากหลอดนีออนก็เข้ามาแทนที่ แต่ริวกะก็ยังไม่ไปไหน ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ริวกะตั้งท่าอีกครั้ง และเขากำลังเริ่มรำกาต้า


[ ริวกะ ]  :  ฟู่ววววววว ฮ่อวววววว


ริวกะกำหนดลมหายใจด้วยสมาธิที่แน่วแน่ ตัวเขานั้นรู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าตั้งแต่เข้ามาในพื้นที่ป่า เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลัง " คิ "  ได้ดีขึ้นและเหมือนตอนนี้เขาสามารถดึงพลังจากธรรมชาติมาใช้ได้อย่างไร้จำกัดอีกด้วย


ในขณะที่ริวกะกำลังร่ายรำ เท็น โนะ กาต้า อยู่นั้น ก็ได้มีชายฉกรรจ์ 5 คนดักซุ่มอยู่ ราวกับว่าพวกเขาวางแผนอะไรไม่ดีอยู่นั่นเอง


[ ลูกพี่ ]  :  เหอะ ๆ  ร่ายรำสบายใจเชียวนะ อีกเดี๋ยวล่ะรู้เลย


[ ลูกน้อง ]  :  พี่มันจะดีเหรอ ผมรู้สึกว่าพวกเราอาจจะเจ็บตัวได้นะพี่ ดูกล้ามแขนดิ่ ต่อยควายตายได้เลยมั้งน่ะ


[ ลูกพี่ ]  :  เฮ้ย มา 5 คนอย่าไปกลัวสิ่


[ ลูกน้อง 2 ]  :  พี่ ถ้าคุณเวโรจน์รู้ว่าพวกเราทำแบบนี้ เขาจะโกรธเอานา



[ ลูกพี่ ]  :  ถ้าแค่นี้ยังรับมือไม่ได้ แล้วจะปกป้องคุณหนูรุ้งพลอยได้ยังไงกัน



บึ้ม !!!  ในขณะที่พวกมัน 5 คนกำลังเถียงกันอยู่นั้น ริวกะก็ได้ซัดตู้ม !!! ใส่กำแพงปูนตรงหน้า ควั่บ !!! ควั่บ !!! พวกมัน 5 คนถึงสะดุ้งและหันไปมองเลยทีเดียว ภาพตรงหน้าที่พวกมันเห็น คือ ฝ่ามือของริวกะนั้นกำลังประทะเข้าผิวกำแพง แต่ที่น่าตกใจคือ รอบๆตัวของริวกะปรากฏเปลวไฟสีส้มอยู่รอบตัวราวกับรัศมีของพระอาทิตย์อยู่แว๊บนึง ก่อนที่จะค่อยๆสลายไป  ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ  ริวกะร่ายรำอีกครั้งก่อนที่จะจบท่ากาต้าอย่างสงบและสง่างาม 


[ ริวกะ ]  :  เอ่อ ซัดแรงไปไม่หว่า  อืมมม ...ค่อยขอโทษเวตาลที่หลังแล้วกัน   เฮ้ออ หิวข้าวจัง  พี่อั้มจะทำอะไรให้กินนะ


ริวกะพูดเหมือนว่าเรื่องที่อยู่นั้น มันชิลล์ ชิลล์ และปกติมาก มิหนำซ้ำยังตีหน้ามึนพูดถึงเรื่องข้าวเย็นอีก และพอพูดถึงเรื่องข้าวริวกะก็เดินกลับขึ้นไปที่ห้องพักทันที โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า มี 5 คนที่กำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่ ทันทีที่แน่ใจว่าไอ้รูปหล่อตรงหน้าได้เดินไปไกลแล้ว พวกเขา 5 คนจึงรีบวิ่งไปที่กำแพงสควอช ภาพตรงหน้าคือ กำแพงปูนบริเวณที่ริวกะซัดฝ่ามือใส่นั้นถึงกับแตกร้าวเลยทีเดียว


[ ลูกน้อง ]   :  เห้ย !!!  ปูนแตกเลยเหรอ  บ้าไปแล้ว กำแพงสควอชนี้พึ่งก่อมาไม่ถึงปีเลยนะพี่ เป็นไปไม่ได้ที่จะเปราะแบบนี้ พวกเราใช้วัสดุอย่างดี แถมวางแปลนตามแบบทุกอย่างด้วย


[ ลูกน้องสอง ]  :  เฮ้ย !!! พวกมึงมานี่เร็ว


เสียงของลูกน้องอีกคนร้องลั่นด้วยเสียงที่สั่นเครือ ราวกับว่าเจอสิ่งที่น่ากลัวเข้าให้แล้ว ชายที่เป็นลูกพี่และลูกน้องอีกสามคนรีบเดินอ้อมไปดูด้านหลังทันที


[ ลูกน้องอีกสามคน ]  :  เฮ้ย !!!!


ทั้งสามคนที่รีบเดินมาดูก็ถึงกับตะลึงหัวใจตกลงปลายตีน บางคนนี่ถึงกับทรุด เพราะภาพที่เห็นตรงหน้านั้นมันชวนให้ขนลุกจริงๆ กำแพงปูนที่หนาถึง 30 เซนติเมตรนั้นแตกร้าวไปทั่ว อีกทั้งยังมีรอยไหม้เป็นรอยเปลวไฟวงกลมอีกด้วย


[ ลูกน้องที่เจอคนแรก ]  :  ผะ ผะ ผะ ผมเห็นว่าข้างหน้ามันแตกแค่นิดเดียวเลยไม่เอะใจอะไร แต่พอได้กลิ่นไหม้ ผมเลยวิ่งมาดู ก็เจอแบบนี้แหละ นี่มันอะไรกันครับพี่


[ ลูกน้องอีกคน ]  :  พะ พะ พะ พี่ พี่จะกระทืบผมก็ได้นะ แต่ผมไม่ขอไปมีเรื่องกับไอ้รูปหล่อนั่นเด็ดขาด


[ ลูกพี่ ]  :  รวบรวมพลัง " คิ " จากร่างกาย ผสานการเคลื่อนไหวที่ถูกขัดเกลามาจนชำนาญและสังหารในหมัดเดียว ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่ขนาดไม่ได้ใช้พลังเวทย์นะ ตัวชั้นยังสั่นเทาขนาดนี้  ฮ่าาาา ฮ่าาาาา ฮ่าาาาา


ลูกพี่นั้นหัวเราะราวกับถูกใจสิ่งนี้มากๆ เขาหัวเราะชนิดที่ว่าลูกน้องทั้ง 4 ต้องแปลกใจ เพราะนี่มันก็เกือบ 10 ปีแล้ว ที่พวกเขาไม่เคยเห็นลูกพี่ของพวกเขาหัวเราะลั่นแบบนี้


[ ลูกพี่ ]  :  พวกเอ็ง เตรียมทุบและก่อกำแพงใหม่เลย


[ ลูกน้อง ]  :  อ้าว ทำไมล่ะครับพี่ แค่รอยร้าวเอง โอ๊ยยย


[ ลูกพี่ ]  :  เผี๊ยะ ( ดีดหู )  ทำอะไรอย่ามักง่ายเดี๋ยวเสียชื่อรีสอร์ทหมด และอีกอย่าง


จึ้ก !!!  โพล๊ะ !!! ลูกพี่ใช้นิ้วจิ้มกำแพงที่ร้าวอยู่แล้ว จนทะลุเป็นรูโบ๋ ทำให้ลูกน้องทั้งสี่คนเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน ซึ่งมันยิ่งทำให้พวกเขาตกตะลึงหนักกว่าเก่า เพราะว่าโครงเหล็กข้างในได้หลอมละลายไปหมดแล้วนั่นเอง


[ เสือ ]  :  โครงเหล็กข้างในละลายหมดแล้ว ถึงบอกทุบทำใหม่ไง ไว้รอท่านริวกะกลับไปก่อน ค่อยเริ่มซ่อม ตอนนี้แยกย้ายกันไปพักซะ วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว


[ ลูกน้อง ]  :  ครับพี่


เขาสั่งลูกน้องอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินออกไปทันที ซึ่งลูกน้องทั้งสี่ก็รับคำสั่งและแยกย้ายกันไปพักผ่อนเช่นกันซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่ทั้งหมดต่างก็แยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก ด้านลูกพี่นั้นก็เดินมายังสถานที่แห่งหนึ่งมันคือป่าด้านหลังรีสอร์ตนั่นเอง และที่นั่นก็มีร่างในเงามืดสองร่างยืนรอเขาอยู่ นั่นก็รือ เวตาล กับ เจ้านางการะเกด นั่นเอง


[ เวตาล ]  :  เป็นไงบ้างล่ะ ได้ทดสอบฝีมือไหม


[ ลูกพี่ ]  :  ไม่ต้องทดสอบอะไรแล้ว แค่นี้วิญญาณของข้าก็สั่นเทาไปหมดแล้ว เวตาล


[ การะเกด ]  :  ฮ่า ฮ่า ฮ่า  เป็นไงล่ะ ลูกชายของข้า เก่งไหมล่ะ


[ ลูกพี่ ]  :  อายุเพียง 20 แต่สามารถทำได้ถึงขั้นนี้ กระผมหมดข้อสงสัยแล้วครับ


อ้าวไหงงั้น ทำไมชายคนนี้ถึงได้เรียก เวโรจน์ว่าเวตาล อีกทั้งยังมองเห็นเจ้านางการะเกดด้วย เอ้ !!! มันยังไงกันนะ


[ การะเกด ]  :  ยื่นมือมานี่มา


[ ลูกพี่ ]  :  ครับ


ซู่ววววว !!!  อยู่ดีๆเจ้านางการะเกดก็บอกให้ลูกพี่ยื่นมือขวาออกไป ซึ่งเขาก็ทำตามแต่โดยดีจากนั้นเจ้านางจึงยืนมือออกมาวางเหนือแขนของเขา และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ละอองแสงสีเขียวขจีกำลังห่อหุ้มที่แขนของเขาเอาไว้ และเมื่อแสงดับลง อาการสั่นเท่าของลูกพี่ก็สงบลงด้วย


[ ลูกพี่ ]  :  ของพระคุณครับ เจ้านาง


[ การะเกด ]  :  ริว คงเผลอปล่อยพลังเวทย์ออกมานิดหน่อย เจ้าถึงตัวสั่นแบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ข้าใช้พลังของข้าคุ้มครองเจ้าอยู่ คราวนี้เจ้าก็สามารถเข้าใกล้ริวและรุ้งพลอยได้แล้ว ถึงจะแค่ชั่วคราวก็เถอะ


[ เวตาล ]  :  เจ้ายังดีที่แค่ตัวสั่น ข้านี่วิญญาณเกือบสลาย เฮ้อ สายเลือดเจ้านางนี่น่ากลัวแท้ๆ


[การะเกด ]  :  ว๊ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ไงล่ะลูกชายข้า นี่ขนาดเขายังไม่ได้เรียนรู้การใช้พลังของข้า เขายังเก่งกาจเพียงนี้ พวกเจ้าสบายใจได้เลย ว่าริวต้องปกป้องรุ้งพลอยได้แน่ ว่าแต่เจ้าสามีบ้านั่น ไม่คิดจะสอนลูกใช้พลังของข้าบ้างเลยเหรอ เจอกันครั้งหน้าข้าจะบ่นให้หูชาเลย



เจ้านางการะเกดหัวเราะลั่นราวกับภูมิใจในตัวลูกชายมากๆ จะว่าไปแล้วริวกะอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ ว่านอกจากพ่อของเขาที่กวนประสาทมากๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นิสัยของผู้เป็นแม่ก็คงจะแสบไม่แพ้กันเลยจริงๆ


[ เวตาล ]  :  ว่าแต่ เจ้ามาอยู่ที่นี่ ได้ติดต่อเจ้ามอมบ้างรึเปล่า


[ ลูกพี่ ]  :  มีบ้าง แต่นานๆทีนะ บางครั้งก็เงียบหายไปเป็นปีๆ  เจ้านั่นติดต่อกับข้าล่าสุด เมื่อ ครึ่งปีที่แล้วด้วยซ้ำ



[ การะเกด ]  :  เมื่อเดือนก่อนที่เจ้ารินไปเชียงใหม่ เจ้ามอมก็ไม่ยอมออกมาพบ ทั้งที่ตอนสกุณายังมีชีวิตอยู่ เจ้ามอมกับเจ้ารินสนิทกันมากแท้ๆ เฮ้ออ


[ ลูกพี่ ]  :  เจ้ามอมนั้น อาจจะเป็นผู้ที่โศกเศร้ามากที่สุดก็ได้ครับเจ้านาง  เพราะในบรรดาภูติอารักษ์ทั้ง 5 ตน เจ้านั่นใกล้ชิดกับคุณหนูรุ้งพลอยที่สุดและเคารพรักนายหญิงสกุณาเหนือสิ่งอื่นใดครับ



[ เวตาล ]  :  ที่เจ้านั่นไม่ยอม ออกมา เพราะยังคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองสิ่นะ



[ ลูกพี่ ]  :  ใช่ เจ้านั่นเอาแต่โทษตัวเอง ว่าทั้งๆที่ใกล้ชิดคุณหนูรุ้งพลอยที่สุด แต่กลับไม่มีปัญญาตามหาให้พบ ตอนนี้ก็คงไม่มีหน้าออกมาพบคุณหนูรุ้งพลอยนั่นแหละ



[ การะเกด ]  :  กรรมน่ะมันฝืนกันไม่ได้ ต่อให้พวกเจ้าเหล่าภูติอารักษ์จะมีมนตรากล้าแข็งเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถก้าวก่ายวิบากรรมของคนอื่นได้หรอก ทุกอย่างล้วนเกิดเพราะกรรม ที่สกุณาจากไปก็เพราะกรรมที่เคยทำเอาไว้ พวกเจ้าจงเข้าใจด้วยเถอะ



ตกลงว่าลูกพี่คนนี้เป็นใครกันแต่ เชื่อได้เลยว่าคงไม่ใช่คนแน่ๆ เพราะเขาเรียกเวโรจน์ว่าเวตาล  เขาสามารถพูดคุยกับเจ้านางการะเกด เขารู้จักมอม และ เขาเรียกรุ้งพลอยว่าคุณหนู


[ การะเกด ]  :  ข้าต้องกลับแล้วล่ะ ออกมาบ่อยๆเดี๋ยวท่านพ่อเอ็ดเอา  เฮ้อ อยากให้ท่านพ่อเห็นหน้าหลานจริงจริ๊ง จะได้หายโกรธและถอนคำสาบให้ริวเสียที


แว่บ !!! เจ้านางพูดแค่นั้นก็หายวับไปทันที โดยที่ลูกพี่และเวตาล ก็ก้มหัวทำความเคารพอย่างนอบน้อมด้วยความภักดี แม้เจ้านางจะไม่เห็นก็ตาม


[ ลูกพี่ ]  :  แล้วเจ้าจะทำเช่นไรต่อเวตาล


[ เวตาล ]  :   ข้าจะไปที่ทะเลแดนใต้สักหน่อย


[ ลูกพี่ ]  :  ทะเลแดนใต้ อืม... จะไปพบ " นาง "  งั้นสิ่นะ ถ้างั้นจะพูดอะไรก็ระวังด้วยล่ะ ถ้าพูดไม่เข้าหูนางล่ะก็ เจ้าอาจตายได้เลยนะ


[ เวตาล ]  :  เฮ้ออ  การจะไปพบภูติอารักษ์ที่กล้าแกร่งที่สุดในถิ่นของนางนี่ ทำใจลำบากจริงๆ



[ ลูกพี่ ]  :  เจ้าไปเถอะ ทางนี้ข้าดูแลเอง



[ เวตาล ]  :  อืม  ฝากทางนี้ด้วยล่ะ  " สมิง "


••••••••••



ด้านริวกะหลังจากที่ซัดตูมใส่กำแพงสควอช เขาก็รีบกลับมาที่ห้องพักทันที เพราะพี่อั้มได้บอกว่าจะทำอาหารไว้รอ ซึ่งทันทีที่กับมา ศรีภรรยา อุ้ย ไม่ใช่ ทันทีที่ริวกะกลับมาพี่อั้มก็เรียกให้เขามานั่งที่โต๊ะอาหารทันที


[ ริวกะ ]  :  โห หม้อไฟนาเบะน่ากินจังเลยครับ อากาศเย็นๆแบบนี้ต้องหม้อไฟนี่แหละ


[ อั้ม ]  :  อื้มมม ดีใจจังที่นายชอบ กินกันเถอะ  ( เดี๋ยวโดนทั้งตัว แน่แม่คุณ )


[ ริวกะ ]  :  โห มีแกงฮังเล ไข่ป่าม หูย มีแค๊ปหมูน้ำพริกหนุ่มด้วย  พี่อั้มทำเองเหรอครับ


[  อั้ม ]  :  พี่ทำแค่หม้อไฟนาเบะน่ะ ส่วนอาหารเหนือพวกนี้ ทางรีสอร์ทเขาบอกว่าเป็นอภินันทนาการพิเศษน่ะ ว่าแต่นายกินได้มััย


[ ริวกะ ]  :  กินครับ กิน กิน กิน หิวจะแย่อยู่แล้ว พี่สาวผมน่ารักที่สุดเลย


อั้มนั้นสะดุ้งเลยจะดีใจก็ไม่สุด จะเศร้าก็ไม่สุด เธอเศร้าเพราะนายริวย้ำอีกครั้งว่าเธอเป็นพี่สาว เธอดีใจเพราะนายริวชมว่าเธอน่ารัก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดมากแล้ว เพราะตอนนี้มันคือช่วงเวลาแห่งความสุขต่างหาก เธอเห็นสายตาที่ริวกะมองอาหารที่เธอทำให้แค่นี้เธอก็มีความสุขแล้ว เรียกว่าอั้มนั้นจัดหนักจัดเต็มเลยก็ว่าได้ นาเบะหม้อนี้มีอย่างจริงๆ


ทั้งเห็ดออรินจิหอมๆ



เห็ดเข็มทอง



เห็ดมัสสึทาเกะ



เห็ดหอม


ผักกาดขาว


ผักกวางตุ้ง



หมูสันคอสไลด์



เบคอน




ลูกชิ้นนารูโตะ




ลูกชิ้นปลา




เต้าหู้


และสารพัดผักมากมายตามสไตล์ไทยๆ น้ำซุปปลาหอมๆ ส่งกลิ่นโชยเตะจมูกจนนายริวน้ำลายไหล ทันทีที่เขารับถ้วยจากอั้ม เขาก็ลงมือทันที คีปนั่น ตักนี่ เคี้ยว งั่มๆๆๆ ด้วยความอร่อยๆ แถมยังชมอั้มไม่ขาดปากอีกด้วยว่าเธอเก่งที่สุด  อั้มเองก็คีบไปเขินไป เพราะจะว่าไปตอนนี้มีแค่เธอกับนายริวสองคนนี่นา แล้วไหนคืนนี้ที่จะต้องนอนห้องติดกันอีกล่ะ  อร๊ายยยยย


นอกจากหม้อไฟนาเบะแล้ว อาหารเหนือที่สมิงจัดมาให้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ไข่ป่ามที่ถูกใส่ในใบตองสีเขียวอ่อนก็ส่งกลิ่นหอมเหลือเกิน อีกทั้งแกงฮัลเลก็รสชาติเข้มข้นตามฉบับอาหารเหนือแต้ๆ และที่ไม่แพ้กันคือแค๊ปหมูน้ำพริกหนุ่ม รสชาตินัวๆ เผ็ดเล็กๆนี่แหละต้นตำหรับของแท้ อีกทั้งความกรอบของแค๊ปหมูนี่ก็ไม่ธรรมดามากๆ เรียกได้ว่าเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจจริงๆ


สำหรับอั้มแล้วเวลานี้เธอมีความสุขมากๆ การที่ได้ทานข้าวกับนายริวสองต่อสอง การที่ได้มาเที่ยวต่างจังหวัดแบบสองต่อสองแบบนี้ มันเป็นอะไรที่เกินคาดมากๆ เธอทานข้าวไปคุยไปอย่างอิ่มเอม จริงอยู่ว่ามันอาจจะดูไม่ดีที่กินข้าวไปคุยไป แต่ว่ายังไงก็ขอหน่อยเถอะ ตอนนี้เธอห้ามใจตัวเองไม่ได้จริงๆ



30 นาทีผ่านไปอาหารก็ร่อยหรอลงเรื่อยๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่รู้ว่ากระเพาะหรือหลุมดำริวกะตักนู่นคีปนี่เรื่อยๆ ส่วนอั้มก็เช่นกัน เธอไม่มีปัญหากับการทานข้าวมือเย็นอยู่แล้ว เพราะยังไงซะเธอก็เลือกทานแต่ของที่มีประโยชน์อยู่แล้วนั่นเอง


[ ริวกะ ]  : ฮ๊าาาาาาาาา  อิ่มจังเลย


[ อั้ม ]  :  อื้ม อร่อยมั้ยนายริว


[ ริวกะ ]  :  อาหารเหนือนี่อร่อยมากๆเลยครับ  หม้อไฟนาเบะของพี่อั้มก็อร่อยม๊ากกกกกเลย



อั้มได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับอมยิ้มหน้าแดงเลย เธออยากที่จะมีความสุขแบบนี้ไปตลอดจริงๆ อยากได้ความรักใากกว่านี้ อยากจะเป็นมากกว่าพี่น้อง อยากจะข้ามกำแพงนี้ไปจริงๆ ส่วนริวกะเองก็ไม่ต่างกัน แม้ตอนนี้เขาจะทำเป็นยิ้มกลบเกลื่อน แต่หัวใจของเขากลับเต้นรัวราวกับกระเดื่องกลองเลย พี่อั้มในตอนนี้น่ารักมาก น่ารักจนเขสแทบจะอดใจไม่ไหว เขาไปกอดเข้าไปหอมเข้าไปจูบ แต่ก็ต้องข่มใจไว้เพราะถ้าทำมันลงไป เขากับพี่อั้มอาจจะมองหน้ากันไม่ติดเลยก็ได้


[ อั้ม ]  :  อื้อออ พี่เก็บจานดีกว่า


[ ริวกะ ]  :  ผมช่วยครับ


[ อั้ม ]  :  ไม่เป็นไรนาย พักเถอะ


[ ริวกะ ]  :  ก็กินด้วยกันก็ต้องช่วยกันสิ่ครับ พี่อั้มอย่าดื้อสิ่


โอยยยย พอโดนดุแบบนี้ใจบ่าดีเลย อั้มหน้าแดงแปร๊ดเลยก็ว่าได้ แดงชนิดที่นายริวตกใจ รีบเข้ามาดูอาการ แต่ไอ้การที่เขาเข้ามาแบบนี้ มันยิ่งทำให้เธออาการหนักกว่าเดิม ก็เพราะพี่พุ่งเข้ามาจนหน้านี่แนบกัน จนเกือบจะจูบกันอยู่แล้ว  อีกนิด อีกนิด ขออีกนิด อั้มนั้นพยายามเคลื่อนหน้าเข้าไปทีละนิดทีละนิด  อยาก อยากสัมผัสแบบที่คิราระเคยทำบ้าง


[ ริวกะ ]  :  พี่อั้ม เป็นไรไหมครับ หน้าแดงแจ๋เลย


ฟรายเอ๊ย จะได้จูบแล้วแท้ๆไอ้มังกร  พี่อั้มนั้นตื่นจากภวังค์ทันทีที่นายริวเรียก ตอนนี้หน้าของทั้งสองใกล้กันมากๆ ใกล้จนอั้มตาค้าง


[ อั้ม ]  :  ป่ะ เปล่าพี่ไม่เป็นอะไร สงสัยนั่งหน้าหม้อไฟนานน่ะ หน้าเลยแดงๆ พี่ไปล้างหน้าแปปนะเดี๋ยวมาช่วยเก็บต่อ


หลังจากพูดเสร็จอั้มก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้นายริวนั่งอยู่คนเดียว


[ ริวกะ ]  :  เฮ้อออ เกือบไปแล้วสิ่เรา เกือบจูบพี่อั้มแล้วไหมล่ะ



อ้าว อ้าว อ้าว ไม่ใช่แค่พี่อั้มที่เกือบจะจูบนายริว ตัวริวกะเองก็เกือบห้ามใจไว้ไม่ได้เหมือนกัน แต่ถึงจะห้ามใจยังไงดูเหมือนร่างกายมันจะไม่ฟัง เพราะตอนนี้บ้องข้าวหลามของริวกะนั้นโด่ชนิดที่ว่าดันจนกางเก่งโป่งไปหมดเลย


[ อั้ม ]  :  นายริว พี่มาแล้วอ้าว ทำอะไรน่ะ


[ ริวกะ ]  : เดี๋ยวผมเอาจานไปไว้ตรงล๊อบบี้เองครับ


[ อั้ม ]  :  อ้าวไหงงั้นล่ะ


[ ริวกะ ]  :   ให้ผมบริการพี่นะครับ พี่อั้มอาบน้ำได้แล้วนะ ทำมื้อเย็นให้ผมตั้งนาน แบบนี้ควันคงลงเส้นผมแย่เลย


ฟิ้วววว ริวกะรีบยกหม้อไหกาละมังวิ่งออกไปทันที เหตุผลคือตอนนี้ลำโคยของเขามันยังโด่อยู่ ถ้าอั้มมาเห็นล่ะก็แย่แน่ๆ
ส่วนอั้มนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังหัวเราะในความ โก๊ะๆของริวกะอีกด้วย หลังจากนั้นอั้มก็เดินไปอาบน้ำจัดการธุระส่วนตัวทันที
ทางด้านริวกะเองก็เช่นกัน หลังจากเอาจานมาวางไว้แล้ว เขาก็๋รีบขึ้นไปอาบน้ำ และ พยายามทำจิตใจให้สงบเช่นกัน


30 นาทีผ่านไป ไวเหมือนโกหกสาวสวยในชุดนอนตัวบาง ได้เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ
ยามที่เส้นผมของเธอนั้นเปียกชุ่มนั้นมันน่ามองโดยแท้ 48 ช.ม. ที่ผ่านมันมีอะไรเกิดขึ้นมากมายจริงๆ
เธอต้องพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันต่างๆมากมาย และสุดท้ายคนที่อยู่กับเธอในยามทุกข์ก็คือนายริว ทำไมกันนะ ทำไมไม่ยอมบอก ทำไมกันนะถึงไม่ยอมพูด แค่คำว่ารักมันยากตรงไหน ทั้งที่โอกาสก็มาแล้วแท้ๆ


[ อั้ม ]  :  จะบอกยังไงดีนะ ฮืออ อ๊ะ พี่มิไร


ทันใดนั้นหน้าจอโทรศัพท์ของเธอก็ดันสว่างว่าบ ว่าบ และแจ้งเตือนว่า พี่สาวนามว่ามิไร ได้โทรเข้ามาราวกับว่ารู้เธอกำลังลำบากใจไม่ใช่น้อย


[ อั้ม ]  :  สวัสดีค่ะพี่มิไร


[ มิไร ]  :  จ้าๆ ทำอะไรอยู่ยัยอั้ม


[ อั้ม ]  :  งืมม  งืมม คิดอะไรนิดหน่อยค่ะ พี่มิไรยังไม่นอนเหรอคะ ที่นี่ 3 ทุ่ม ที่ญี่ปุ่นก็ 5 ทุ่มแล้วนี่นา


[ มิไร ]  :  พี่กำลังจะไปข้างนอกน่ะ แต่ว่ารู้สึกอยากโทรอั้มน่ะ  ว่าแต่คิราระไม่อยู่เหรอ


[ อั้ม ]  :   เปล่าค่ะ คิราระไปเที่ยวบ้านพลอยค่ะ  ส่วนอั้ม  เอ่อ.... เอ่อ.... อยู่ปางอุ๋งค่ะ คือ... คือ... อยู่กับนายริวสองคนค่ะ


[ มิไร ]  : อร๊ายยย ได้กันยังล่ะ


[ อั้ม ]  :  พะ พะ พี่มิไร ฮืออออ พูดอะไรเนี่ย


ทันทีที่อั้มบอกไปว่าอยู่ต่างจังหวัดกับริวกะสองคน มิไรก็วี๊ดว๊ายทันทีจนอั้มถึงกับหน้าแดงแจ๋เลย แต่สิ่งที่มิไรกำลังทำนั้นยิ่งย้ำให้อั้มนั้นเขินหนักกว่าเดิม เพราะมิไรได้เปลี่ยนจากการโทรศัพท์เป็นการเปิดวีดีโอคอลฯ และไม่ใช่การคอลฯเพียงลำพัง แต่ภรรยาคนโตของริวกะดันประชุมสายคิราระและรุ้งพลอยเข้ามาด้วย


[ คิราระ ]  :  สวัสดีค่ะ พี่มิไร ยังไม่นอนเหรอคะ


[ พลอย ]  :  สวัสดีค่ะ พี่มิไร


[ มิไร ]  :  นี่ๆพลอย นี่ๆคิราระ ตอนนี้มีคนกำลังเขินล่ะ


[ พลอย ]  :  เกิดอะไรขึ้นคะพี่มิไร ใครเขินอะไรเหรอคะ


[ มิไร ]  :  ก็ยัยอั้มน่ะสิ่  ตอนนี้ยัยอั้มอยู่ที่ปางอุ๋งกับนายริวสองต่อสองด้วยล่ะ


[ คิราระ ]  :  โหยยย นี่คิราระไม่อยู่บ้านแค่วันเดียว พี่อั้มกล้าไปกับริวกะสองคนเลยเหรอคะ กรี๊ดดดดดด


[ พลอย ]  :  กรี๊ดดด พี่อั้มรุกแล้วว อร๊ายยยย


[ อั้ม ]  :  ฮืออออ อย่าแกล้งกันสิ่ สามคน ฮือออ แค่นี้ก็อายจะตายอยู่แล้วนะ


เมียทั้งสามคนแซวอั้มอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว ส่วนอั้มนี่ก็แบบหน้าแดงออกสื่อเลยอ่ะ คร๊อบบ


[ คิราระ ]  :  พี่อั้มถึงเวลาที่พี่ต้องยอมรับหัวใจตัวเอง ปละเปิดปากพูดความจริงแล้วนะคะ  ความจริงที่พี่รักริวกะน่ะค่ะ


อั้มนั้นตกใจเป็นอย่างมาก อยู่ดีๆคิราระก็พูดออกมาต่อหน้าพลอยซะงั้น ถ้าพลอยไม่พอใจล่ะจะทำยังไง


[ คิราระ ]  :  พี่อั้ม พี่เลิกสร้างกำแพงได้แล้วค่ะ พี่ไม่ใช่คนนอก พี่ใช่คนอื่น ทุกคนในอิซานางิ ไม่เคยคิดว่าพี่เป็นคนนอกเลยนะคะ พี่คือคนในครอบครัวของเรา


[ มิไร ]  :  ตั้งแต่วันที่คุณพ่อบอกกับพี่ว่าจะรับอั้มมาเป็นลูกบุญธรรม  อั้มก็คือ อิซานางิ แล้วนะ


สองสาวสวยแห่งอิซานางิทพูดเตือนสติอั้มอีกครั้ง ว่าที่ผ่านมา ไม่ว่าเธอจะคิดเช่นไรยังไงซะเธอก็คือ อิซานางิ ตอนนี้อั้มมั่นใจแล้วว่าเธอนั้น ก็มีสิทธิ์ที่จะรักนายริวเหมือนพี่มิไร คิราระ และรุ้งพลอย


[ อั้ม ]  :  พลอย พี่รักนายริว


[ พลอย ]  :  แล้วไงคะ ?


อ้าวงานกร่อย อั้มที่ตั้งใจว่าจะสารภาพรักนั้นทได้บอกกับพลอยว่าเธอก็รักนายริวเช่นกัน แต่พลอยนั้นได้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเรียบเชียบพร้อมสีหน้าที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร แต่อั้มก็ยังไม่ยอมแพ้เธอได้พูดออกไปอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเธอรักนายริวจริงๆและอยากให้พลอยรับรู้เอาไว้


[ อั้ม ]  :  พี่รัก นายริวจริงๆนะ พลอย


[ พลอย ]  :  บอกพลอยทำไมเหรอคะพี่อั้ม ( ทำหน้าเอ๋อ ) คนที่พี่ต้องบอกไม่ใช่พลอยค่ะ  พี่ต้องไปบอกริวเองค่ะ


[ อั้ม ]  :  งั้น งั้น งั้นหมายความพลอย อนุญาตให้พี่รักนายริวได้เหรอ


[ พลอย ]  :  ฮ๊าวววว ง่วงนอนจังเล๊ยยย พี่คิราระเราไปนอนกันดีกว่าเนอะ  ( ขยิบตาไป 1 ที )


[ คิราระ ]  :  หะ หา !!!  อ๋อ ใช่ๆๆๆ พี่อั้ม พี่มิไร พวกเราสองคนขอตัวไปนอนก่อนนะคะ ฝันดีค่ะพี่อั้มพี่มิไร


[ พลอย ]  :  ฝันดีคร่าาาา


คิราระกดสายวางทันที ปล่อยให้อั้มยังคง งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ มิไรนั้นถึงกับหัวเราะลั่นเลยเพราะรู้ว่าที่พลอยทำนั้นมันหมายความว่าไง


••• ฝั่งพลอยหลังจากกดวางสาย •••


[ คิราระ ]  :  ที่ชิงวางสายมาแบบนี้ เพราะอยากให้พี่อั้มไปสารภาพกับริวกะด้วยตัวเองใช่มั้ยพลอย


[ พลอย ]  :  ใช่ค่ะ ตอนนี้พี่อั้มยอมรับหัวใจตัวเองแล้ว ที่เหลือต้องให้พี่อั้มใช้ความกล้าค่ะ ยังไงซะพลอยก็รักพี่อั้ม พลอยงี้ลุ้นใจจะขาดเลยเนี่ย แต่ไม่คิดว่าสองคนนั้นจะไปถึงปางอุ๋งเลย โหยย โรแมนติกจริงจริ๊ง


คิราระนั้นเงียบเลยพอพลอยพูดแบบนี้ ตอนนี้ในใจของเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง ตอนนี้เธอทั้งดีใตที่พี่อั้มได้ไปในสถานที่ที่โรแมนติก แต่ใจหนึ่งเธอก็กลัวพลอยจะน้อยใจเช่นกัน


[ คิราระ ]  :  พลอยพี่ถามอะไรหน่อยสิ่ พลอยไม่รู้สึกน้อยใจเหรอ


[ พลอย ]  :  น้อยใจ น้อยใจอะไรเหรอคะ


[ คิราระ ]  :  พี่เป็นห่วงความรู้สึกพลอยนะ เมื่อตอนกลางวันที่พี่จี๋เอวและให้พลอยบอกเรื่องพลอยกับริวกะน่ะ พลอยบอกว่าพลอยกับริวเป็นของกันและกันที่บ้านนี้ใช่มั้ย


[ พลอย ]  :  ง๊อยยยย ฮือออออ อย่าแซวพลอยสิ่คะพี่คิราระ



[ คิราระ ]  :  ไม่ใช่แบบนั้น พี่แค่รู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรมกับพลอยน่ะ ( พลอยตีหน้าเอ๋อ )  พี่มิไรกับริวกะได้กันที่แคมป์กลางป่า  ส่วนตัวพี่ ริวกะก็พาไปเที่ยวทะเล ตอนนี้พี่อั้มก็อยู่ที่ปางอุ๋ง ( เยดเข้ นี่มันนักเย็ดนอกสถานที่นี่หว่า ) พี่พูดยังไงดีล่ะ คือริวกะพาพวกพี่ไปในที่ที่อยากไปมากๆ พี่เลยคิดว่าไม่ยุติธรรมกับพลอยเลย ที่พวกพี่สามคนมีความทรงจำดีๆที่กับสถานที่อยากจะไปทุกคน แต่ริวกะไม่พาพลอยไปไหนเลย 



[ พลอย ]  :  ไม่ซักนิ๊ดเลยค่ะ


ที่แท้คิราระก็เป็นห่วงความรู้สึกของพลอยนั่นเอง พูดตรงๆก็คือ ริวกะพาเธอทั้งสามไปโล้สำเภาในสถานที่ที่พวกเธอชอบและใฝ่ฝันอยากจะไป แต่พลอยนั้นกลับโดนกินตับอยู่ที่บ้าน คิราระกลัวว่าพลอยจะรู้สึกน้อยใจจึงได้พยายามพูดปลอบ แต่ว่าในระหว่างที่คิราระกำลังระบายความหนักใจออกมานั้น พลอยก็ได้พูดบางอย่างออหมาซึ่งทำให้คิราระถึงกับน้ำตาคลอ


[ พลอย ]  :  ต่อให้จะเป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในโลกก็สู้ที่บ้านหลังนี้ไม่ได้ค่ะ บ้านหลังนี้มีความทรงจำ มีความสุข มีคนที่พลอยรักอยู่  พลอยดีใจที่คุณลุง ( ริน ) และริว ทำทุกอย่างเพื่อรักษาบ้านหลังนี้ไว้ พี่คิราระรู้มั้ย ตอนที่ริวพาพลอยกลับมาบ้านหลังนี้ ทุกสถานที่บนโลกนี้ก็ไม่มีความหมายแล้วค่ะ ที่นี่คือที่ที่สวยที่สุด ที่นี่คือความสุขของพลอยค่ะ พลอยรู้สึกดีแบะมีความสุขที่ริวพาพลอยมาที่นี่และ งืม..... และ และเป็นของกันและกันค่ะ ( กลั้นใจพูดด้วยความเขิน )


พลอยนั้นอธิบายความในใจให้คิราระฟัง คำพูดทีใสซื่อที่ออกมาจากหัวใจ มันทำให้เมดสาวคนเก่งถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเลย ได้ฟังแบบนี้เธอก็โล่งใจเลยล่ะ ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวพี่อั้มแล้วว่าจะสารภาพด้วยวิธีไหน


[ พิกุล ]  :  คิราระ  พลอย   มากินของว่างกัน แม่ซื้อขนมหนวดมังกรเจ้าอร่อยมาให้กินกัน มาเร็วลูก


[ พลอย ]  :  เย้ จะได้กินขนมหนวดมังกรอีกแล้ว พี่คิราระไปกันเถอะ ขนมหนวดมังกร อร่อยมากๆเลยนะคะ


[ คิราระ ]  :  อื้ม ๆ


พลอยจูงมือคิราระเดินไปด้วยกันอย่างมีความสุข ในที่สุดพี่อั้มก็จะเปิดปากบอกรักริวแล้ว กลับมาด้านพี่มิไรเมียคนโต เธอยังคงขำไม่หยุดเพราะพลอยชิงตัดสายไปดื้อๆจนอั้มทำตัวไม่ถูกเลย


[ มิไร ]  :  เฮ้อออ พลอยนะพลอย ร้ายจริงๆ


[ อั้ม ]  :  ทำไงต่อดีล่ะค่ะพี่มิไร ฮือออ


[ มิไร ]  :  ทำตามหัวใจตัวเองสิ่อั้ม พูดออกไปเลย แต่น่าเสียดายนะ ที่ไม่ได้อยู่บ้าน


[ อั้ม ]  :  อ้าว ทำไมล่ะคะพี่มิไร


[ มิไร ]  :   ก็ถุงยางที่พี่ซื้อไว้ใช้กับนายริว อยู่ที่ห้องพี่น่ะสิ่ เลยคิกว่าจะแบ่งให้ใช้สักกล่อง


[ อั้ม ]  :  พะ พะ พะ พะ พี่มิไร๊


อั้มนี่กรี๊ดเลย กรี๊ดเสียอาการเลย ถึงแม้เธอจะรู้ดีว่าพี่สาวบุญธรรมของเธอนั้นเวลาอยู่กับน้องๆแล้วจะมีนิสัยที่ทะเล้นมากเพียงใด แต่เธอก็ไม่คิดว่าพี่มิไรจะพูดเรื่องใต้สะดือตรงๆแบบนี้


[ มิไร ]  :  ฮ่า ฮ่า ฮ่า เฮ้อ น่ารักจริงๆเล๊ยน้องสาวชั้น


[ อั้ม ]  :  ฮือออ พี่มิไรพูดอะไรก็ไม่รู้  งั้นแสดงว่าพี่แอบชิงตัดหน้าอั้มไปก่อนเหรอ ขี้โกง ขี้โกง


[ มิไร ]  :  ช่วยไม่ได้ยัยอั้ม มัวแต่เขิลเองนะเธอน่ะ แล้วอีกอย่างตอนนั้นพี่ก็ต้องกลับญี่ปุ่นแล้ว เลยจัดการรวบหัวรวบหางนายริวซะเลย



[ อั้ม ]  :  ขี้โกง ขี้โกง พี่มิไรขี้โกง ทำแบบนั้นกับนายริวกี่รอบแล้วเนี่ย ฮือออ



[ มิไร ]  :  อืมมม ไม่ได้นับหรอกตอนนั้น  มันส์อย่างเดียว


อั้มนี่กรี๊ดแตกเลยทีเดียว ยิ่งพูดพี่มิไรก็ยิ่งพูดจี้ใจดำให้เธอเขินหนักขึ้นหนักขึ้น จนตอนนี้ผิวหน้าขาวๆของเธอแดงแจ๋เลยทีเดียว หลังจากที่แกล้งน้องสาวจนพอใจแล้ว พี่อั้มจึงได้กลับเข้าสู่โหมดจริงจังอีกครั้ง


[ มิไร ]  :  ฟังพี่นะ ความรู้สึกที่อั้มมี อั้มต้องพูดมันออกมา ยิ่งรักมากก็ยิ่งต้องบอก พี่เชื่อว่าความรักที่อั้มมีให้นายริว อั้มไม่ได้มีน้อยไปกว่าพวกพี่เลย เลิกโกหกหัวใจตัวเองสักทีนะอั้ม





ΜoNoTΩИ∑ ★★★

#1
มิไรได้บอกกับน้องสาวบุญธรรมไปอย่างจริงใจ แปลกนะ มันแปลกจริงๆ ปกติแล้วผู้หญิงคนอื่นๆคงรู้สึกไม่ดี ที่จะมีผู้หญิงอีกคนมาบอกรักชายที่ตนเองรัก แต่ตอนนี้มิไรกลับโล่งใจมากๆ ที่อั้มจะสารภาพรักกับนายริว เธอจะได้โล่งใจได้อีกเปราะ



เพราะอย่างน้อยนายริวก็ยังกลัวยังเกรงอั้ม ปกติในฐานะพี่สาวบุญธรรม ริวกะก็เกรงก็กลัวอั้มอยู่แล้ว และถ้ายิ่งเปลี่ยนสถานะมาเป็น " เมีย " ล่ะก็ นายริวคงไม่กล้าหือแน่ๆ แบบนี้สิ่ที่มิไรต้องการ


[ อั้ม ]  :  ค่ะ อั้มจะไม่โกหกตัวเอง อั้มจะไม่ปิดกั้นตัวเองอีกแล้วค่ะ


[ มิไร ]  :  ให้มันได้แบบนี้สิ่ อิซานางิ ไอโกะ ที่คุณปู่ตั้งชื่อให้อั้มว่าไอโกะ เพื่อจะให้อั้มนั้นระลึกได้เสมอ ว่าอั้มนั้นเป็นที่รักของทุกคน เข้าใจมั้ย


[ อั้ม ]  :  ค่ะ อั้มเข้าใจแล้วค่ะพี่มิไร


[ มิไร ]   :  อื้มงั้นไปซะ ไปพูดความในใจของอั้มซะ แต่ว่า พี่มีเรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับนายริวต้องบอกให้อั้มรู้นะ


[ อั้ม ]  :  ( ตกใจ )  อะไร อะไรคะพี่มิไร นายริวทำไมค่ะ


[ มิไร ]  :  นายริวน่ะ.. ดุมากนะเวลาอยู่บนเตียง ระวังๆด้วยล่ะ ในป่าในเขาเสียงมันกังวาลนะ


[ อั้ม ]  :  ห๊า  !!!  พะ พะ พะ พี่มิไรพูดอะไรเนี่ย ฮือออออ


มิไรทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ใส่อั้มเลย แน่นอนว่าเธอขู่อั้มว่านายริวนั้น " เยดุ "  มาก นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ถึงกับเขินจนพูดอะไรไม่ออก และพี่มิไรก็วางสายไปทันที


.. ด้านพี่มิไร ..


[ มิไร ]  :  เฮ้อ ยัยอั้มน้อ ยัยอั้ม ( ส่ายหัว )


มิไรนั้นทั้งหัวเราะทั้งขำจนลั่นห้องเลยทีเดียว แต่ในระหว่างนั้นพี่คิสสึเนะก็ลอยมาที่หน้าต่างพอดี เพราะนี่ก็ได้เวลาแล้ว


[ คิสสึเนะ ]  :  แหม ๆ ๆ  ยิ้มอะไรมิทราบ นังหนูมิไร


[ มิไร ]  :  ฮี่ๆ ตอนนี้ยัยอั้มอยู่ต่างจังหวัด 2 คนกับนายริวค่ะพี่คิสสึเนะ


[ คิสสึเนะ ]  :  ต๊ายยยย  ร้ายกาจจริงๆเชียวนังหนูไอโกะของข้า  ว่าแต่ไปกันได้แล้วล่ะ คิเคียวคงกำลังรอพวกเราอยู่


[ มิไร ]  :   ค่ะ ว่าแต่มีภูติตนใดไปบ้างคะคิสสึเนะ


[ คิสสึเนะ ]  :  ทานูกิ กับ เนโกะมาตะ ไปรอที่ป่าแล้ว ข้า เจ้า และ โรคุโรคุบิ และ จูโรคุโมะ ต้องตามไปสมทบที่ป่า พวกเราต้องอาศัยเจ้าหนูเฮบิซัน ให้พาไปหมู่บ้านสายหมอก  เจ้าล่ะเก็บของเรียบร้อยยัง


[ มิไร ]  :  เรียบร้อยแล้วค่ะ


[ คิสสึเนะ ]  :   อื้มดี งั้นตามมาเร็วๆล่ะ ถ้าช้าข้าพวกข้าไม่รอด้วยนะ ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าต้องคงต้องนั่งเครื่องบินไปเอง และถ้าเจ้าไปถึงหมู่บ้านสายหมอกล่าช้าล่ะก็ คิเคียวคงไม่ชอบแน่ๆ


[ มิไร ]  :  กึ๋ยยย !!!  ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ เวลาคุณย่าคิเคียวดุขึ้นมา ขนาดคุณปู่ยังต้องถอยเลย น่ากลัว


[ คิสสึเนะ ]  :  ฮ่า ฮ่า ฮ่า ถ้าไม่ดุแบบนั้นจะได้ชื่อว่านายหญิงผู้ควบคุม อิซนางิจากสายหมอกเหรอ ถ้างั้นก็ตามมาให้ไวๆล่ะ


[ มิไร ]  :   ค่ะ


นี่สิ่นะที่มิไรบอกว่าจะไปข้างนอก เพราะตอนนี้เธอและบรรดาภูติกำลังจะเดินทางไปที่หมู่บ้านสายหมอก บ้านเกิดของชินนั่นเอง ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นคิเคียวเองที่เรียกตัวพวกมิไรไป ซึ่งทำให้รินผู้เป็นลูกชายไม่กล้าขัดคำสั่งนั่นเอง

....................................................


กลับมาด้านอั้ม หลังจากที่จบการประชุมสายจากกรุ๊ปเมียนายมังกรแล้ว เธอก็ตั้งใจที่จะไปหานายริวของเธอและพูดความในใจให้จงได้ ความในใจที่เก็บไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเมื่อ 4 ปีก่อน  ความในใจที่เธอนั้นได้ตกหลุมรักเด็กชาย อายุ 16 ที่เข้ามาช่วยเธอในวันที่เธอถูกรังแก ความในใจที่เก็บมานานวันนี้ต้องบอกออกไปให้ได้


ตึ้กๆ ตึ้กๆ ตึ้กๆ เสียงหัวใจของอั้มนั้นเต้นไม่หยุดเลยทีเดียว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะสารภาพรักกับนายริวให้ได้ แต่พอเดินไปที่ห้องก็ไม่พบใคร อั้มกังวลใจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีกเธอจะทำเช่นไร แต่ว่าในขณะนั้นสายตาของหญิงสาวก็ได้เหลือบไปเห็นริวกะที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ เขายืนอยู่ที่นะเบียงที่ยืนลงไปที่หุบเขาลึกด้วยท่าทางที่สง่างามและร่ายรำกระบวนท่าต่างๆอย่างสวยงาม



รอบๆตัวของเขานั้นเหมือนจะมีละอองสีเขียวๆหอมล้อม ราวกับเป็นอณูพลังอะไรสักอย่าง และสิ่งอั้มเห็นนั้นก็ทำให้เธอตกตะลึงเมื่อนายริวที่เธอเห็นนั้นไม่ใช่นายริวคนเดิม เขามีเส้นผมสีเงินและเมื่อแสงจันทร์สีนวลผ่องสาดแสงลงมา ก็ยิ่งสวยงามยิ่งนัก เปรี๊ยะ !!! เสียงคลื่นสายฟ้าดังคำรามขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับสายลมที่พัดผ่าน และหมุนขึ้นราวกับกำลังเต้นระบำและสลายหายไป


เมื่อมองมายังริวกะอีกครั้งเธอก็พบว่าเส้นผมของริวกะนั้นได้กลับ มาเป็นสีดำขลับอีกครั้ง  เขาจบการรำกาต้าและกลับมาอยู่ในท่าเตรียมพร้อมอีกครั้ง และโค้งหัวเคารพเพื่อจบการรำ


[ ริวกะ ]  :  อ้าว พี่อั้ม มาเมื่อไรครับเนี่ย


[ อั้ม ]  :  อ่อ อ้อๆๆ อื้อ มาเมื่อกี้ เห็นนายรำกาต้าอยู่ เลยไม่อยากรบกวน


[ ริวกะ ]  :  ไม่รบกวนเลยครับพี่อั้ม พี่สาวทั้งคนใครจะกล้าว่าล่ะ


ฉึ้ก !!! ดอกแรกผ่านไป คำพูดที่ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ทำไมมันเจ็บแบบนี้ นี่สิ่นะความรู้สึกตอนที่ถูกคนที่รักวางให้อยู่ในตำแหน่งอื่น


[ อั้ม ]  :  เอิ่มม พรุ่งนี้เราจะไปไหนกันเหรอนายริว


[ ริวกะ ]  :  ตามใจพี่เลย เวตาล เอ้ย !!! คุณพิทักษ์เตรียมรถไว้ให้แล้วครับ อยากไปไหนบอกเลย น้องชายคนนี้จะเป็นสารถีให้พี่สาวคนสวยเอง


ฉึ้ก !!! ฉึ้ก !!! เอกสองดอกสามค่อยๆผ่านไป คำก็พี่ สองคำก็น้อง ไม่เอาแล้วไม่อยากเป็นแล้ว อยากเป็นมากกว่านั้นเข้าใจมั้ย อั้มนั้นบอกตัวเองว่าพอแล้วพอที ไม่อยากจะเก็บความรู้สึกไว้แล้ว เธอเดินเข้ากอดริวกะทันที จนชายหนุ่มตกใจ อั้มกอดแน่นขึ้น แน่นขึ้น แน่นขึ้น ราวกับว่าไม่อยากปล่อย ไม่อยากให้ไปไหนอีกเลย


[ อั้ม ]  :  ไม่


[ ริวกะ ]  :  เอาะ อ๋อครับๆ แต่น่าเสียดายนะพี่ มาเที่ยวทั้งทีพี่น่าจะไปพักผ่อนบ้าง


[ อั้ม ]  :  เรา... เป็นมากกว่าพี่น้องได้มั้ย ไม่อยากเป็นแค่พี่น้อง ไม่อยากห่างกันมากว่านี้อีกแล้ว


[ ริวกะ ]  :  หา !!?  พี่อั้มใจเย็นๆ ผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจหรือเปล่าครับ


[ อั้ม ]  :  ไม่เอา ไม่เป็นพี่น้องไม่ได้เหรอ นายริว


[ ริวกะ ]  :  เอ่อ ผมทำอะไรให้ไม่พอใจรึเปล่าครับพี่อั้ม ถึงขั้นจะมาบอกว่าไม่อยากเป็นพี่น้องกันเนี่ย


[ อั้ม ]  :   ใช่ นายผิด นายทำผิด นายทำให้พี่ไม่เป็นตัวของตัวเอง นายทำให้พี่คิดถึงนายทุกวัน นายทำให้หัวใจพี่มันอยู่ไม่สุข นายทำทุกๆอย่างเลย


อั้มพูดออกไปแล้ว ถึงแม้จะไม่พูดตรงๆว่ารัก แต่คำพูดของอั้มมันก็ทำให้ริวกะนั้นหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลย
ซึ่งในตอนนั้นเองริวกะก็เหมือนจะก้าวถอยหลังไป เพราะเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าอั้มจะคิดแบบเดียวกับที่เขาคิดกับเธอ
มั่บ !!!  อั้มที่คิดว่าริวกะจะหนีจึงได้กระโดดกอดนายริวไว้อย่างแน่นหนาราวกับว่าจะไม่ยอมให้ห่างไปมากกว่านี้แล้ว


[ อั้ม ]  :   พี่รักนายนะนายริว รักแบบที่ผู้หญิงคนนึงรักผู้ชายที่เธอรัก พี่รักนายมานานมากแล้ว นาย นาย นายช่วยรับรักพี่หน่อยได้มั้ย


[ ริวกะ ]  :  ไม่ได้ครับ


[ อั้ม ]  :  ( ใจเสีย ) ทำ ทำไมล่ะ ทำไมถึงรับรักพี่ไม่ได้ล่ะ


ริวกะสูดอากาศเข้าเต็มปอกอีกครั้ง ในเมื่อพี่อั้มกล้าพูดอกมาแบบนี้ เขาเองก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกตัวเองเช่นกัน


[ ริวกะ ]  :   เพราะผมก็รักพี่ครับ รักในแบบที่ผู้ชายคนนึงรักผู้หญิงคนนึง ไม่ใช่แบบที่น้องชายรักพี่สาว


เท่านั้นแหละ เพียงนายริวสารภาพออกมา อั้มก็น้ำตาคลอเลย นี่เธอคิดมากไปเองมารตลอดเลยเหรอ คิดว่านายริวไม่ได้รักเธอ
คิดว่าตัวเองเป็นคนนอก คำตอบของนายริวตอนนี้มันได้ทำให้เธอรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอคิดผิดทั้งสิ้น


[ อั้ม ]  :  จริงนะ นายริว นายริวก็รักพี่จริงๆนะ


[ ริวกะ ]  :  ครับผมรักพี่ครับ จะให้ทำยังไงถึงจะเชื่อ อุ๊ปป



โอยยยยย อั้มรุกแล้วคร๊าบ อั้มเขย่งขาขึ้นจุ๊ปปากนายริวแทบจะทันทีเลย เพราะนี่คือสิ่งที่เธอยากทำมานานแล้ว
อยากทำมาตลอด ส่วนริวกะก็จะยอมไม่ได้เดี๋ยวเสียเชิงชายเปล่าๆ เขาจ๊วบที่ริมฝีปผากจนอั้มสะท้าน และในตอนนั้นเอง
เขาก็ได้สอดลิ้ยเข้ามาและจัดการบอกรักด้วยลิ้นทันที และเพียงเวลาผ่านไปไม่ถึง 1 นาทีเท่านั้น




[ อั้ม ]  :  อ๋อยย ตาลายไปหมดเลย


เจอชิวหาพาเพลินเข้าไป อั้มถึงกับแทบจะเป็นลมเลยทีเดียว นายริวนั้นจึงรีบอุ้มพี่อั้มมาที่ห้องและให้พักผ่อนทันที ซึ่งในขณะที่ริวกะกำลังจะเดินออกไปนั่น มั่บ !!!  อั้มที่กำลังเคลิ้มๆอยู่ก็รีบดึงสติกลับมาและคว้าแขนของนายริวไว้ก่อนที่เขาจะเดินออกไป เพราะถ้าปล่อยให้นายริวออกไปล่ะก็ เธอคงไม่มีความกล้าที่จะทำแบบนี้อีกแล้ว


[ อั้ม ]  :   โอยยย ยังมึนหัวอยู่เลย นายจะปล่อยให้พี่นอนคนเดียวจริงเหรอ โอย โอย โอย นายจูบพี่จนพี่ตาลายไปหมดแล้ว รับผิดชอบเลย โอ๊ยยย มึนหัว


[ ริวกะ ]  :   เอ่อ ( จิตใจว้าวุ่นเลยทีเดียว ) ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปเอาพวกเครื่องนอนแปปนะครับ


แว่บ !!!  ริวกะพูดเสร็จก็เดินออกไปทันที จริงเหรอเนี่ย มันจริงเหรอเหรอเนี่ย ที่พี่อั้มพูดมานั้นมันจริงเหรอเนี่ย พี่อั้มสารภาพว่ารักเขาในฐานะผู้หญิงคนนึง ไม่ใช่พี่สาวรักและเอ็นดูน้องชายเหรอ ตึ้กๆ ตึ้กๆ ตึ้กๆ ริวกะจับที่หัวใจของตัวเองที่มันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ขนาดเจอปีศาจเพลิงในขุมนรก หัวใจยังไม่เต้นแรงขนาดนี้เลย เป็นครั้งแรกเลยเนี่ยที่หัวใจเต้นแรงขนาดนี้


ริวกะนั้นทั้งยิ้ม ทั้งเขิน ทั้งสับสน ไปหมดสิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือ ต้องรีบขน หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูพื้นเสียก่อน ไม่งั้นพี่อั้มคงรอนานแน่ๆ


[ ริวกะ ]  :   มาแล้วครับ อ้าว !!!


ริวกะรีบมาที่ห้องทันที และก็พบว่าพี่อั้มไม่อยู่แล้ว พรึ่บ เขาวางพวกเครื่องนอนไว้กับพื้นและกำลังมองหาพี่อั้ม และในจังหวะที่เขาหันกลับมานั้น อั้มก็ได้เดินเขามาหาเขาทันที แต่ว่าตอนนี้ พะ พะ พะ พะ พี่อั้มไม่ได้ใส่เสื้อใน



ร่างของพี่อั้มตอนนี้เรียกได้ว่า ยั่วเย เหลือเกิน เธอใส่เสื้อเชิร์ตสีขาวตัวใหญ่ๆ ปลดกระดุมซึ่งเผยให้เห็นว่าเธอไม่ได้ใส่เสื้อใน อีกทั้งช่วงล่างยังมีแค่กางเกงในสีดำลายลูกไม้เท่านั้น นี่มันอะไรก๊านน


พี่อั้ม เวอร์ชั่นเปิดใจ




[ ริวกะ ]  :   เหวอออ พี่อั้ม


[ อั้ม ]  :  ตกใจอะไรเหรอนายริว


พี่อั้มไม่พูดเปล่า แต่เธอค่อยๆเดินเข้าไป เดินเข้าไป ตอนนี้บอกเลยว่าพี่มังกรกูนี่ใจตกลงปลายตีนเลย พี่อั้มที่แสนงดงาม พี่อั้มที่เขาแอบรักมาตลอด ตอนนี้กลับกลายเป็นแม่เสือสาวที่พร้อมจะขย้ำเข้าแล้ว ปุ้ก พรึ่บบบ  อั้มเดินใส่เรื่อยๆ จนนายริวนั้นถอยไปจนติดกับที่นอนและล้มลง พี่อั้มก็ไม่รอช้ารีบเลื้อยตามขึ้นไปทันที ตอนนี้เธอขึ้นคร่อมนายริวเอาไว้เรียบร้อย เต้านม ไซส์ 34 ลอยเด่นอยู่ต่อหน้าของเขาเลยตอนนี้


[ ริวกะ ]  :  พะ พะ พี่อั้มทำอะไรครับเนี่ย


[ อั้ม ]  :  นายใจร้าย  นายทำแบบนี้กับทุกคน แล้วทำไมถึงปล่อยให้พี่เหงาอยู่คนเดียว


[ ริวกะ ]  :  เอ่อ... เอ่อ ( พี่มังกรกู ติดอ่างแล้ว )   ก็ ก็ ก็ผมไม่กล้านี่ครับ ผมไม่รู้ว่าพี่อั้มก็คิดแบบเดียวกับที่ผมคิด


[ อั้ม ]  :  นายริวใจร้ายมากเลย รู้ไหมพี่ต้องอดทนแค่ไหน ที่ได้ยินเสียงนายกับคิราระทำกันน่ะ


[ ริวกะ ]  :  อุ้ก !!!


ตอนนี้พี่มังกรกูเอ๋อหนักเลย อยู่ดีๆมันเกิดอิหยังขึ้นวะเมื่อกี้ยังเหมือนจะเป็นลมอยู่เลย ไหงตอนนี้กลายเป็นฝ่ายรุกวะ แล้วไอ้การแต่งตัวเหมือนว่าพร้อมจะโดนทิ่มนี่มันอะไร ซึ่งเรื่องจริงก็คือในระหว่างที่ริวกะไปเอาเครื่องนอนนั้น ได้มีข้อความจากพี่มิไรส่งมาว่า


" อั้มต้องกล้ารุกนายริวนะ พี่พนันได้เลยต่อให้อั้มบอกรักไปแล้ว นายริวก็จะไม่กล้าทำอะไรแน่ๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด อั้มต้องมั่นใจนะว่าอั้มรักนายริวจริงๆ พี่ไม่อยากให้น้องสาวของพี่เอาร่างกายไปแลกกับความรัก นายริวน่ะรักอั้มมากๆ พี่ยืนยันได้ และถ้าอั้มรักนายริว แบบที่พี่พวกพี่รัก ก็ทำมันให้เต็มที่ สู้ๆน้องสาวของพี่ Ps. ระวังนะกลางป่าเสียงมันกังวาน รักน้องนะ "


ก็นี่หล่ะข้อความที่พี่มิไรส่งมาให้ แปลกที่พออั้มอ่านแล้วไม่รู้สึกเขินเลย และจากที่อั้มคิดไตร่ตรองแล้วก็เห็นด้วยกับที่พี่มิไรส่งมา วันนี้เธอจะไม่ทน วันนี้เธอจะไม่กลั้น วันนี้เธอจะก้าวข้ามคำว่าพี่น้องและกลายเป็นผู้หญิงของอิซานางิ ริวกะ


ซึ่งตอนนี้อั้มก็กำลังทำมัน เธอกำลังก้มจูบนายริวด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจปิดกั้นได้ จริงอยู่ว่าลีลาการจูบและใช้ลิ้นของเธอจะไม่ชำนาญแบบคิราระ แต่เธอก็อยากทำมันกับคนที่เธอรักจริงๆ


[ อั้ม ]  :  พี่รักนาย พี่รักนาย พี่รักนายนะนายริว


อั้มถอนปากขึ้นมาและพูดระบายความในใจออกมาไม่หยุด ตอนนี้สีหน้าของเธอแดงซ่านไปหมด นายริวเองก็รับรู้ได้ว่าตอนนี้ เธอกำลังเก็บอาการเขินสุดๆเลยก็ว่า และตอนนี้บางอย่างในร่างกายของเขาก็กำลังเกิดขึ้นตามธรรมชาติของเพศชายเสียแล้ว


[ ริวกะ ]  :   ผมก็รักพี่ครับพี่อั้ม


[ อั้ม ]  :   ฮิฮิ ( ยิ้ม ) นายต้องรับผิดชอบรู้มั้ย ดูสิ่นายให้พี่อด กลั้นมาตั้งหลายปี แถมตอนนี้นายก็ทำให้พี่แฉะไปหมดแล้ว


เอาละเว๊ยยยย  แม่หมอกูของขึ้นแล้ว อั้มนั้นจับมือนายริวและดึงมันไปสัมผัสกับเนินสวาทของตน ซึ้งตอนนี้หน้าถ้ำแห่งความสุขนั้นกำลังเจิ่งนองไปด้วยน้ำใสๆลื่นๆปริมาณมากๆ เรียกได้ว่าเปียกเลยทีเดียว ริวกะเองนั้นก็ถูกความอุ่นความเปียกนั้นดึงดูดอย่างห้ามใจไม่ได้ เขาแซะนิ้วไปที่ร่องนั้นช้าๆ เนิบๆ จนอั้มถึงกับครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้


[ อั้ม ]  :  อื๊ยยย ซื๊ดดดด อ๋อยนายริว เสียวจัง


[ ริวกะ ]  :  เปียกไปหมดแล้วครับ


แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ นายริวใช้นิ้ววายุโซโล่ที่เนินโยนีสีชมพูของอั้มอย่างชำนาญ จนคริสตอริสนั้นแข็งเป็นเม็ดเลยล่ะ อั้มนั้นถึงกับหมดแรงที่จะยันตัว เธอทิ้งตัวทับนายริวทันที อร๊างงง ซื๊ดดด นายริวยังคงไม่หยุดแม้ตัวพี่อั้มจะทับมืออยู่ แต่เขาก็สามารถแซะร่องหอยได้ อั้มนั้นครางระงมเลย ♀ อื๊ออออ  ในขณะที่เธอกำลังเสียวช่วงล่างอยู่นั้น



ริมฝีปากเรียวบางของเธอก็ถูกนายริวใช้อีกมือช้อนคางขึ้นมาและจูบอีกครั้ง คราวนี้ริวกะคว้านเลยล่ะ ลิ้นของเขาเกี่ยวนัวพัวพันกับลิ้นของอั้มราวกับงูที่กำลังเกี่ยวรัดกัน แต่คราวนี้อั้มไม่เป็นลมแล้ว แม้จะเป็นมือใหม่หัดจูบ แต่อั้มก็รับการรุกของนายริวและตอบรับความเสียวนี้อย่างเต็มที่


[ ริวกะ ]  : ขอผมถอดเสื้อก่อนนะครับ ผมอดใจไม่ไหวล่ะพี่อั้ม


[ อั้ม ]  :  งื้ม


ริวกะนั้นบอกให้อั้มลุกซึ่งเธอก็ทำตามแต่โดยดี ด้วยการเลื้อยลงจากตัวเขา พ่อหนุ่มมังกรเพลิงนั้นแทบอยากจะฉีกเสื้ออกทันที แต่ก็ต้องนุ่มนวลไว้ก่อน แต่ว่าเขาก็พบกับการเซอร์ไพรส์อีกแล้ว ในขณะที่เขากำลังยืนถอดเสื้อนั้นอั้มก็ได้ย่อตัวนั่งลงและช่วยเขาถอดกางเกง ผึงง !!!  ขอบยางกางเกงถูกดึงออกอย่างรวดเร็ว


และสิ่งที่ตามมาคือพญามังกรตาเดียวที่ตอนนี้กำลังผงาดเต็มที่เลย อั้มนั้นไม่รอช้าคว้ามั่บทันที ไอ้สิ่งนี่เหรอที่มันทำให้ทั้งพลอยและคิราระครางกันลั่นบ้าน และอีกเดี๋ยวมันคงจะเข้าไปอาละวาดในร่องหอยของเธอเป็นแน่ๆ


[ อั้ม ]  :  ใหญ่จังเกือบเท่าข้อแขนพี่น่ะ  อืมม จะอมไหวไหมนะ

[ ริวกะ ]  :  ไม่ต้องฝืนก็ได้ครับ


[ อั้ม ]  :  น่าน่า ให้พี่อมเถอะ พี่อยากทำกับนายมานานแล้วนะ


อูย พี่มังกรน้ำแทบแตกเจอคำพูดนี้เข้าไป อั้มค่อยๆพลักริวกะที่เปลือยกายเรียบร้อยลงบนที่นอนคิงไซส์ ที่กำลังจะกลายเป็นสังเวียนรักแล้ว ริวกะเองก็ค่อยๆเลื่อนตัวขึ้นไป อั้มก็เลื้อยขึ้นตามมาทันที มั่บ !!!  จั๊บ จั๊บ จั๊บ อั้มนั้นชักควยของริวกะจนสีหน้าพี่แกเริ่มเบี้ยวเพราะความเสียว อั้มนั้นจ้องมองไม่กระพริบเลย



เพราะลำโคยของริวกะนั้นใหญ่จริงๆ หัวเห็ดสีม่วงก็บานเบ้อเร้อ แถมเส้นเลือดที่มันปูดโปนก็ชวนให้เสียวจริงๆ  ♀ แผล่บบ จุ๊บบ  ♂ อึ๊กก ซื๊ดดด อั้มนั้นเลียเปิดก่อนเลย และบรรจงจุบไปที่หัวโคยของชายหนุ่มและค่อยๆ งับลงทันที


[ ริวกะ ]  :   ซื๊ดดดดด ระวังฟันนะครับพี่


[ อั้ม ]  :  ซรู๊บบบ งืมม ก็กำลังจะฟันพี่ไม่ใช่เหรอ ต้องระวังทำไม


อ๊ากกก คำพูดแบบนี้มันฆ่ากันชัดๆ พี่ริวกูนี่โค๊กแข็งปวยเลยครับ ♀ แผล่บบ ซรู๊บบบบ อั้มนั้นโลมเลียที่รอบๆหัวอีกครั้ง ลิ้นของเธอนั้นถึงจะชำนาญนักแต่มันก็ยอดเยี่ยมไม่ใช่น้อย ♀ ง่วบบบ ง่วบบบ ปากเรียวงามของสาวสวยวัย 21 อ้าออกแล้วงับเข้าที่ลำโคยอันเขื่อง จริงอยู่ว่าเธอไม่เคยทำกับใคร แต่ระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เธอเห็นสาวเมดประจำบ้านทำให้นายริวไม่รู้กี่ครั้งต่อครั้ง แค่นี้มีเหรอจะทำตามไม่ได้


[ ริวกะ ]  :  อึ้กกก ซื๊ดดด อูวววว


ริวกะก็ริวกะเถอะ เจอลิ้นวนรอบหัวโคยเข้าไปก็ตัวสั่นเช่นกัน สาวน้อยมือใหม่หัดโม๊กนั้นตั้งหน้าตั้งตาทำเต็มที่ เอาจริงๆน้ำกามมันก็คาว แถมรสชาติมันก็ไม่ได้อร่อยแบบที่ใครๆพูดกัน แต่ว่าตอนนี้อารมณ์เงี่ยนที่พุ่งพล่านมันทำให้เธอไม่สามารถหยุดการโม๊กได้จริงๆ ♀ อ้อก อ้อก อ้อก อั้มยังคงกดหัวลงเรื่อยๆ จริงอยู่ว่าเธออมมิดด้ามแบบคิราระไม่ได้ แต่แค่นี้นายริวก็อยู่ไม่สุขแล้ว

[ ริวกะ ]  :   ซื๊ดดดด พี่อั้มครับ พอก่อน ซื๊ดดด ผมจะแตกแล้ว ซื๊ดดด


ไม่หยุดอั้มไม่หยุด ยิ่งพอได้ยินว่าใกล้จะแตก เธอยิ่งเร่งผงกหัวแถมยังใช้มือชักลำควยที่เธออมไม่มิดอีก ♀ อุ้ก อุ้ก อุ้ก  ♂ ซื๊ดดดด อู๊ววววว พรวดด !!! น้ำแรกมาแล้ว ริวกะที่ไม่สามารถต้านปากนุ่มๆของอั้มได้ก็ถึงกับน้ำแตกเลย มิหนำซ้ำอั้มยังไม่ยอมถอนปากออกด้วย เธอยังคงก้มหน้าก้มตาดูดโคยต่อไปเรื่อยๆ ราวกับว่าอยากให้น้ำทุกหยดไหลเข้าปากเธอ


[ อั้ม ]  :  งื๊อออ บุแวะ

อั้มนั้นเหมือนจะสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะน้ำของมันพุ่งออกมานั้นมากมายจริงๆ เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาและแบมือลองตรงปาก และคายน้ำกามของริวกะออกมาเต็มมือเลย ภาพตรงหน้ามันยิ่งทำให้ริวกะเงี่ยนมากกว่าเดิมอีก ใครจะไปคิดว่าสาวที่ตนแอบรักจะมาโม็กให้แบบนี้ แถมยังได้แตกคาปากด้วย


[ อั้ม ]  :  งืออ นายริวพี่กลืนไม่ไหว มันคาวจังเลย แถมยังเยอะด้วยง่ะ  ( เทลง ข้างๆเตียงและเช็ดมือกับผ้าผ้าปูที่นอน )


[ ริวกะ ]  :   ซื๊ดดด ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วที่นางฟ้าแสนสวย มาอมควยให้แบบนี้


[ อั้ม ]  :  ง่า อย่าพูดคำว่า ควย ตรงๆแบบนี้สิ่ งืออออ


ถึงจะทำเป็นอาย แต่อั้มก็ยังก้มลงไปจุ๊บที่หัวรบสีม่วงอยู่ดี นายริวที่นั่งมองก็ถึงกับของขึ้นเลยทีเดียว เขาจับอั้มพลิกตัวลงนอนหงายซึ่งเธอก็ยอมทำตามแต่โดยดี นายริวถอดเสื้อเธอก็พลิกตัวอย่างว่างาย นายริวเอื้อมมือลงไปถอดกางเกงใน เธอก็ยกเอวให้เป็นอย่างดี ราวกับว่าพร้อมที่ได้รับบทเรียนรักจากเขาแล้ว


[ ริวกะ ]  :  ตาผัวบ้างแล้วนะเมียจ๋า


[ อั้ม ]  :  จะทำอะไรนายริว อย่านะมันเปียกไปหมดแล้ว มันสกปรก อร๊างงงงงง


ริวกะพูดแค่นั้นและลงไปละเลงลิ้นทันที ซรู๊บบบ แผล่บบ ริวกะบรรเลงเพลงลิ้นใส่พูหีสีเนื้อของอั้มทันทีจนเธอเสียงหลง ♂ จั๊บบ ซรู๊บบบ ♀ อร๊างงง อ๊อยยย  อั้มนั้นร้องลั่นเลยทีรเดียว นายริวนั้นละเลงลิ้นไปทั่วจุดเสียวของเธอ ทั้งขาอ่อน ขาหนีบ ไล่มายันแคมสีชมพู ♂ ซรู๊บบบบบ  แผล่บบ


[ อั้ม ]  :   อร๊างงงง สะ สะ เสียวจัง อ๊อยยย นายริว อ๊ายยยยย


ริวกะเล่นอั้มเสียแล้ว ตอนนี้เขาทั้งเลียทั้งบี้โยนีของสาวสวยอย่างไม่ปราณี เม็ดละมุดหรือคริสตอริสของสาวสวยถูกโจมตีไม่หยุดจนมันแข็งเป็นไต อร๊างงงง  ว่ากันว่าลิ้นนั้นยกเอวได้ ซึ่งมันจริงมากๆ เพราะตอนนี้ริวกะใช้ลิ้นเลียไปที่โพรงสวาทจนเอวของอั้มนั้นไม่ติดที่นอนเลย ♂ ซรู๊บบบ จ๊วบบบ  ♀ อร๊างงงงง ปากก็ดูดเลีย มือก็บี้คลึง อั้มนั้นต้องกับสวรรค์ชั้น 7 ทั้งๆที่ยังไม่ถูกสอดใส่เหรอเนี่ย


[ อั้ม ]  : อร๊างงงง  อ๊า เสร็จ เสร็จแล้ว งื๊อออออ  แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก


ร่างงามของสาวสวยนามกุลธิดา นอนหอบหายใจรวยริน แม้จะดูร้อนร่านไปด้วยราคาและกามรมณ์ แต่รูปร่างของเธอก็สวยงามจนมิอาจละสายตาได้จริงๆ นายริวยันตัวขึ้นมามองผลงานชิ้นเอกของตนอย่างภูมิใจและมองไปที่ร่องหอย ที่ตอนนี้มันกำลังกระตุก ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ และเปียกแฉะ เพราะฝีลิ้นของเขา อั้มนั้นถึงกับเพ้อเลยทีเดียวตอนนี้


[ อั้ม ]   :   ซื๊ดดด ฝันนี่เป็นฝันอีกแล้วสิ่นะ แต่ถ้าฝันแล้วรู้สึกดีแบบนี้ ก็อยากฝันไปตลอดเลย


หรือว่านี่จะเป็นความฝันเหมือนตอนบนรถ Taxi อีกแล้ว เพราะอย่างนายริวน่ะเหรอจะมาบอกว่ารักเธอ แต่ว่ามีบางอย่างที่กำลังจะบอกเธอว่าทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน ♀ อ๊ะ อั้มนั้นรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่กำลังวางพาดบนร่องหอยของเธอ เพียงแค่นั้นก็ทำให้สติที่กำลังเพ้อต้องหยุดลงและมาพบกับความเป็นจริง ความจริงที่ว่าตอนนี้เธอกำลังเปลือยกายอยู่กับชายหนุ่มที่เธอรัก


[ ริวกะ ]  :  พี่อั้ม ผมขอยัดเข้าไปนะครับ


[ อั้ม ]  :  อร๊างง นายริว ซื๊ดดด นิ นี่ไม่ได้ฝันเหรอ อร๊างงง


ริวกะพูดเป็นเชิงขออนุญาตและจับปลายลำโคยนั้นปาดไปปากมาที่รูเสียวของอั้ม เขากดหัวชำแรกแหวกนิดๆ ไม่กดเข้าไปทีเดียว และส่งสายตาที่เงี่ยนสุดๆไปให้พี่สาวของตนที่กำลังนอนมองเขาด้วยสายตาที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน เธอไม่ตอบอะไรเพียงแต่เม้มปากและพยักหน้าให้คำตอบว่า " อื้ม เสียบมาเถอะ "  เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็จัดไปเลยสิ่ครับ แต่ว่า.....

[ ริวกะ ]  :   อุ๊ก !!!  แน่นจังยัดไม่เข้า


[ อั้ม ]   :  งื๊อออ เจ็บจังนายริว อ๊อยย ซื๊ดดเสียว


อย่างว่าละน่ะครั้งแรกนี่นา ร่องสวาทที่ไม่เคยผ่านมือชายใดมาเลย มันก็ต้องฟิตเป็นธรรมดาอีกทั้งยังออกกำลังกายประจำด้วย ตอนนี้ริวกะทำได้แค่ปาดไปปาดมาเพื่อเรียกน้ำเงี่ยนเท่านั้น ฟิตขนาดที่ว่าเสียบหัวโคยเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนโดดบีบด้วยมือเลยล่ะ ริวกะนั้นไม่รีบเขาค่อยๆแซะๆๆๆ ค่อยๆซอยๆๆๆ สั้นๆ เนิบๆทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด ♂ จุ๊บบ ชายหนุ่มเอี้ยวตัวลงไปจูบสาวสวยอีกครั้ง ซึ่งเธอก็ตอบรับอย่างเต็มใจ อั้มนั้นคล้องคอนายริวไว้และจูบชนิดว่าไม่ปล่อยเลย เธอยากทำ อยากทำมานานแล้ว


[ ริวกะ ]  :   พี่อั้มครับ แหกขาอีกนิดนะ จะมิดลำแล้ว


[ อั้ม ]  :   อร๊างง ยังไม่สุดอีกเหรอ ยาวจัง อื๊อยยย


กรึ้บ !!!   ริวกะกดควยเข้ามิดลำจนได้





อั้มนั้นตาเหลือกเลยล่ะ ริวกะยังคงกดโคยแช่ไว้แบบนั้น เพราะตอนนี้เขารู้สึกได้เลย ว่าพื้นที่สวงนของอั้มกำลังตอดรัดเขาถี่ๆรัวๆเลย งั้นก็แสดงว่าอั้มแตกอีกน้ำแล้ว ซ่วบ ซ่วบ ซ่วบ ริวกะดึงบั้นเด้าสั้นๆและซอยเนิบๆ ช้าๆ ไม่เร่ง เขาอยากให้พี่สาวสุดที่รักคุ้นชินกับลำโคยไซส์บิ๊กของเขาและอยากให้มีความสุข ความเสียว มากกว่าความเจ็บนั่นเอง


[ อั้ม ]  :   อร๊าง เสียวจัง ซื๊ดดด


[ ริวกะ ]  :   ซื๊ดดดด หีพี่อั้มฟิตถูกใจผมจังครับ  อึ้ก !!!


นายริวนั้นพูดขณะที่ยันตัวขึ้นมานั่งชันเข่าและซอยเบาๆ แต่ในขณะที่เขาก้มมองลำควยกำลังทะลวงถ้ำของอั้มนั้น เขาก็ต้องใจเสีย เพราะว่าอั้มไม่มีเลือดออกมา หรือว่าอั้มจะเสร็จไอ้เพียวไปตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้ว แต่ไม่เป็นไรมันผ่านมาแล้วยังไงซะพี่อั้มก็คือคนที่เขารัก ซึ่งดูเหมือนว่าอั้มจะรู้ว่านายริวคิดอะไรอยู่ เธอจึงเอื้อมมือมาจับที่หน้าจองเขาและจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของเขาและพูดว่า


[ อั้ม ]  :  งืมมมม คือพี่เคยใช้ดิลโด้ช่วยตัวเอง งืมมม เยื่อมันก็เลยขาดไปแล้ว งืมมม นายเป็นคนแรกของพี่นะ อร๊างง ทำไมของนายอยู่ดีมันขยายล่ะ อ๊อย หอยพี่แน่นไปหมดแล้ว


โอ้ววว  คำพูดของอั้มนั้นกระตุ้นต่อมเงี่ยนของริวกะจังๆเลย ตอนนี้ริวกะไม่มีอะไรค้างคาใจอีกแล้ว เขายิ้มและก้มลงไปจูบปากพี่อั้มอย่างหวานซึ้งอีกครั้ง เขารั้งแขนของเธอขึ้นเหนือหัว จนเต้านมอวบๆถูกรั้งขึ้นไปจนตอนนี้มันตั้งเด่นตรงหน้า ริวกะดูดเลียทั้งสองเต้าพร้อมๆกันเพื่่อปลุกอารมณ์ของอั้มอีกครั้ง และได้พูดกับเธอว่า



[ ริวกะ ]  :   จะเย็ดแล้วนะ เมียจ๋า




 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

#2
ฝากตอนเก่าๆด้วยครับ



• • • • •   รวม Link ในแต่ละตอน • • • • •



→→→เนื้อเรื่องหลัก←←←



ตอนที่ 1  ตอนที่ 2 ตอนที่ 3

ตอนที่ 4 ตอนที่ 5 ตอนที่ 6

ตอนที่ 7 ตอนที่ 8 ตอนที่ 9

ตอนที่ 10 ตอนที่ 11 ตอนที่ 12

ตอนที่ 13 ตอนที่ 14 ตอนที่ 15

ตอนที่ 16



➸ ➸ ➸ ➸ จบ Season 1 ➸ ➸ ➸ ➸




Season2


ตอนที่ 17 ตอนที่ 18 ตอนที่ 19

ตอนที่ 20 ตอนที่ 21 ตอนที่ 22

ตอนที่ 23 ตอนที่ 24 ตอนที่ 25

ตอนที่ 26 ตอนที่ 27




_ _ _ _ _ _ _ _ _ _


เนื้อเรื่องของ น้องเมดคิราระ [ ยังไม่จบ ]

แววตาที่เปลี่ยนไปของสาวแกล


ตอนที่ 1 :  โนโซมิ คิราระ

ตอนที่ 2 :  การพบกันอีกครั้ง

ตอนที่ 3 : ความรู้สึกที่กำลังก่อตัว

ตอนที่ 4 : ในนามของอิซานางิ

ตอนที่ 5 : อย่าห้ามชั้นเลยนะ ริวกะ

ตอนที่ 6 : ให้ชั้นดูแลนายนะ

ตอนที่ 7 :  ค่ำคืนของหนุ่มสาว

ตอนที่ 8 : เมดข้า ใครอย่าแตะ

ตอนที่ 9 : ถล่มถ้ำเสือ

ตอนที่10 : องเมียวจิวัยเยาว์

ตอนที่ 11 : จักรพรรดิเพลิง

ตอนที่ 12 : ของขวัญที่ดีที่สุด




•••••••••••


เนื้อเรื่องของรุ้งพลอย [ จบแล้ว ]



การเดินทางของสายรุ้ง


ตอนที่ 1 : มรสุม

ตอนที่ 2 : โหมกระหน่ำ

ตอนที่ 3 : เมฆสลาย

ตอนที่ 4 : วันฝนซา [ แนะนำ อ่าน 4-7 ]

ตอนที่ 5 : ฟ้าหลังฝน

ตอนพิเศษที่ 6 :  แม่ อาจารย์ เจ้านาย

ตอนพิเศษที่ 7 :  ฉันรักเธอ




• • • • • •


กระทู้พิเศษ

ข้อมูลตัวละครและประวัติโดยย่อ


••••••

OVA ไม่เกี่ยวกับ Time Line ใดๆ


เยือนถ้ำแมงมุม

ริวกะ ประทะ จิ้งจอกเก้าหาง

ตอนพิเศษ : พาทัวร์เขตอาคม


. . . . . . . . . . .



Homunculus Serie




สุมไฟรัก

พิศวาสซ่อนเร้น

มนต์คล้องใจ

ได้ค่ะที่รัก






. . . . . . . . . . .  .

eltas007

#3
เจิมก่อนนะครับ

---------------------------------

ได้สมหัวังดั่งที่ตั้งใจสะทีอ้อนๆแบบนี้ริวคงไม่ตัวแห้งก่อนนะเพราะดูทรงแล้วจัดกันทุกวันแน่นอน

เอาแล้วไงงานจะเข้าอีกรอบแล้วไหมนิ นานะ คงไม่ได้ไปค่ายอาสาด้วยนะ

ปล.ใครเป็นคนพรากซิงพี่มิไรไปหรอ

dodoza2

โอ้ยรอฉากพี่อั้มมานานมากรอต้งแต่ตอนที่ 1 คุ้มแล้วกับที่รอมานานขอบคุณมากครับ

sompornl

ได้ไปพักผ่อนกับคนที่พิเศษ บรรยากาศดีๆ โอกาสดีๆแบบนี้มีไม่บ่อย พี่อั้มของนายริวคงมีความสุขมากจริงๆ

gritkin

กว่าจะยอมสารภาพลุ้นกันทั้งบ้านแล้ว ดีใจด้วยนะครับ

neimuchan

#7
กะแล้วต้องโดยสารอะไรซักอย่างที่บินได้แต่ไม่ใช่เครื่องบินมา

แต่จริงๆผิดคาดนะตอนแรกผมนึกว่าจะใช้ คาราสุ แอร์ไลน์ กลายเป็น แอร์ เวตาลซะงั้น
จริงๆแล้วมี ID เก่า แต่ดันจำ password mail เก่าไม่ได้เลยต้องสมัครใหม่ -*-

Run2020

สุดยอดเลยครับอั้มบทจะร้ายก็เป็นเสือสาวเลยนะชอบสุดๆ

Sitthikirn

#9
 ::DayDream::ในที่สุดก็ได้มีความสุขกันสักทีนะ ว่าแต่ side story ของพี่มิไรนี่จะคลอดตอนไหนหรอครับ

bunchucherd


toshiies

ในที่สุดนายริวก็จะครบสี่จตุรเมียสักที ส่วนภูติทางฝั่งไทยก็เริ่มโผล่ออกมาเรื่อยๆ น่าจะเด็ดๆไม่แพ้ฝั่งภูติญี่ปุ่น

au2000

ลุ้นตั้งนานกว่าจะได้กัน
มีความสุขนะ
ได้ครบ4สุดยอดแล้ว
จะมีคนที่5อีกมั้ย

solid17

สมหวังสะทีนายริว และอัมด้วยมัวแต่ลีลากันไปมากว่าจะลงตัวต่อไปมีแต่สนุกแล้วละครับ

Run2020

คุ้มสมกับที่รอกับอั้มมานาน. อ่านเเล้วอยากได้มั่งเลยละ